เมืองบาดาลสวรรค์ & เรื่องดีดี..มีไว้แบ่งปัน

ดวงตานี้ได้มาตอนที่ไปทอดกฐินที่บึงกาฬค่ะ
...คืนนี้จะลองดู ว่าหวานใจจะอยู่ชาติไหน อิอิ (kiss)

 

รออ่านจากคุณนันทะชัยดี ดีกว่านะคะ

 

สวยดีค่ะ คุณสิริเทวี ก้อยก็เคยมีเหมือนกันแต่ว่าให้คนอื่นไปแล้ว ไม่ทราบว่าสามารถใช้ทำอะไรได้บ้างคะ

 

ตอบเท่าที่เห็นนะคะ ว่าเค้าใช้ทำอะไรกันได้บ้างค่ะ
บางคนก็ทำแหวน ทำกำไล ทำจี้ เครื่องประดับทั้งหลาย
บางคนก็นำไปประดับพญานาค หรือประดับพระพุทธรูปค่ะ
บางคนก็อาจจะวางไว้เฉยๆ หรือบางทีก็อยากรู้อยากเห็นตามประสา
ว่าเกี่ยวกับพญานาคไหมหนอออ เกี่ยวอย่างไรหนออออ
บางคนมีจิตศรัทธา เชื่อถือ ก็คงได้รับได้รู้ อะไรแปลกๆ มั้ง
และสุดท้าย ก็ส่งต่อมอบให้คนอื่นค่ะ

 

ขออภัยค่ะ ที่เข้าใจผิดค่ะ
ก็เห็นคุณก้อยแก้วมาช่วยเล่า มาช่วยลงรูปให้คุณนันทะชัยดีค่ะ
ถ้าว่างๆ คุณก้อยแก้ว มาเล่าเรื่องให้อ่านกันก็ได้นะคะ
ไม่ต้องรอคุณนันทะชัยดีก็ได้ค่ะ.. อิอิ

 

โม้ๆๆ เรื่องฝันเมื่อคืนดีก่า อิอิ
ฝันที่ ๑ ตอนไปไม่รู้แฮะ ไปทำอะไรก็ม่ายยลู้
ฝันเห็นแต่ตอนกลับซะงั้น คือฝันว่าอยู่บนที่สูง
บนเนิน บนดอย สูงๆๆ แล้วก็จะกระโดดลงมาสิ
ก่อนจะกระโดดลง มีการขว้างรองเท้าลงมาก่อน (ก๊ากกกกกกก)
คล้ายๆ เมื่อตอนเป็นเด็กเลยนิ ขึ้นต้นไม้ก็ทำแบบนี้ หุหุ
ตอนที่ขว้างรองเท้าลงมา ในฝันก็นึกว่า อ๊ะ เคยฝันอย่างนี้ครั้งหนึ่งแล้ว
ว่า ลงจากที่สูงแล้วขว้างรองเท้าลงมาก่อนที่ตัวจะกระโดดตามลงมา
...แห่ะ แห่ะ จบฝันที่ ๑ มีฝันในฝันอีกแฮะ สงสัยจะใกล้เพี้ยนๆๆ แล้วเรา :'(

 

ฝันที่ ๒ (ก๊ากกกกกกกกกกก) เหมือนจะเพี้ยนๆ กว่า :boo:
หลังจากฝันแรกแล้วตื่น ก็ยังไม่เช้านี่นา เลยหลับต่อค่ะ
คราวนี้นั่งรถเหมือนรถบัสแต่คันเล็กๆ ค่ะ
ประมาณว่าเป็นรถโดยสารประจำทางค่ะ
เรานั่งหน้าสุดแถบซ้ายกับหญิงผมม้าคนหนึ่ง
ด้านขวาก็มีหญิงคนนึง นั่งอยู่ค่ะ
ส่วนคนขับไม่เห็นแฮะ

 

นั่งไปสักพัก ไม่รู้น้ำมาจากไหนค่ะ
เข้ามาในรถ ก็ท่วมในรถแหล่ะ
ถึงเบาะนั่ง เท่าเอวเราหล่ะ
ก๊ากกก คล้ายๆ กับเราเดินทางในน้ำค่ะ
ตอนนี้น้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ เราเผลอล้างมือ
แล้วน้ำก็กระเด็นไปถูกหญิงที่นั่งฝั่งขวา
เค้ามองหน้า ประมาณว่าตำหนิเรา ที่ซุ่มซ่าม
เราเลยบอก ขอโทษค่ะ..(มารยาทงาม หุหุ)
ต่อมาน้ำก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
สูงถึงคางของหญิงผมหน้าม้าแระ
ที่นั่งข้างๆ เรา ส่วนตัวเราในฝันเราไม่เห็นแฮะ
มีแต่รู้สึก.

 

ต่อมา หญิงที่นั่งฝั่งขวาลงจากรถค่ะ
แปลกๆๆ พอเค้าลงรถไป ก็เหมือนผู้โดยสารทั่วไปค่ะ
นุ่งกระโปรงชุดทำงาน สะพายกระเป๋า มัดผมด้านหลัง
หญิงผมม้าข้างเราก็โวยวายสิ ว่าหญิงคนนั้นลงรถไปแล้ว
แล้วจะติดต่อได้งัย ตอนนี้คนดูแลรถก็บอกว่า ให้ใช้โทรศัพท์ค่ะ
บอกเสร็จคนดูแลรถสองคนก็ปรึกษากันว่า จะขับรถไปตามร่องน้ำ
เจ้าพระยาเลยดีไหม แล้วไปโผล่มโนรมย์ (ชัยนาท)
อีกคนบอกว่า เด๋วผู้โดยสารจะกลัว ไปตามถนนดีกว่า
อั๊ยยยหย่ะ..นี่ก็งงๆ แล้วเรา คือในฝันมีแต่น้ำ
มองนอกรถก็มีน้ำ บนถนนหนทางก็มีน้ำ ในรถก็มีน้ำ
พอหญิงคนนั้นลงรถ ก็เดินขึ้นถนนไม่มีน้ำซะงั๊น
แง๊ๆๆๆ นู๋จะไปตามหาหวานใจอ่ะ หงัยเป็นงี๊ :'(

 

หญิงผมม้า ท่าทางขี้โวยวายนิ อิอิ

 

บรรยากาศตอนยืนอยู่ชั้นห้า ก็สวยดีครับ เห็นปุยเมฆหมอกลอยกระทบเขาแล้วก็ค่อยๆลอยตั้งฉากขึ้นไปข้างบนครับ

 

ภูทอกเหมาะสำหรับไปเยี่ยมชมหน้าฝนกับหน้าหนาวครับ เพราะต้องเดินขึ้นเขาด้วยบันไดไม้หลายร้อยขั้นครับ ส่วนรอบๆทางเดินรอบเขานั้นทางด้านหลังถ้ามองลงพื้นล่างเหมือนยืนอยู่บนสะพานที่ลอยตัวเหนือพื้นข้างล่างที่สูงมาก ใครที่กลัวความสูงไม่น่าจะเดิน เพราะมองลงไปอาจจะใจหวิวๆเป็นลมได้ครับ

 

เรื่องเล่าต่อไปนี้เป็นสิ่งที่สัมผัสได้จากการนั่งสมาธิทำใจให้สงบในชั้นต่างๆ ฉะนั้นขอให้ฟังสบายๆ็แล้วกันครับไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่นครับ ก็เป็นแค่เรื่องเล่าจากการสัมผัสได้ ผิดถูกคงไม่ส่ากันนะครับ

 

เวลาเดินขึ้นนันทะชัยดีก็ภาวนา พุทโธ ไปเรื่อยๆแต่ก็ไม่สงบเพราะ ร่างกายเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้นเขาครับ แต่พอถึงชั้นที่สองที่มีพักเลย นั่งพักภาวนาดูปรากฏว่า เมื่อจิตสงบสิ่งที่สัมผัสได้คือที่นี้ มีพวกกายทิพย์อาศัยอยู่ค่อนข้างหลากหลายครับ

 

ที่นี้เป็นเหมือนแดนหิมพานต์แดนสองครับ คือมีบรรดาพวกโลกทิพย์ปะปนกับเหล่าเทพ เทวาสายต่างๆและมีเทพ เทวาบางองค์มาจากสายพระโพธิ์สัตว์ ณ ที่แห่งนี้ด้วยครับ ลูกแก้วสีเขียวขุ่นเป็นลูกแก้วที่มีลักษณะพิเศษบางประการครับ

 

กล่าวถึงหิมพานต์แดนสองสักเล็กน้อยจะได้พอเข้าใจนะครับ หิมพานต์มีสั่แดน แดนที่สองเป็นแดนของการทดสอบความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง และความกลัวครับ เป็นดินแดนที่เทพ เทวาบางองค์ชอบมาทดสอบความรู้สึกของการเอาชนะสิ่งที่กล่าวมาครับ ฉะนั้นในหิมพานต์แดนสองจะประกอบด้วย นางมารต่างๆ เช่น มารกิเลส มารความหลงเป็นต้น

 

เมื่อนันทะชัยดีนั่งสมาธิ นิมิตแรกที่สัมผัสได้นั่นคือ ชาวเมืองบังบดครับ มีลักษณะนุ่งน้อยห่มน้อย คงเป็นการทดสอบของผู้ทั่จะมาเจริญกรรมฐาน ณ สถานที่แห่งนี้ว่า จะสามารถเิาชนะมวลกิเลสคือ ความหลงในรูปได้หรือไม่ครับ

 

พอเดินจากชั้นสองไปชั้นห้า นันทะชัยดีสัมผัสถึงยักษ์ตนหนึ่ง มีลักษณะพิเศษคือ มีกายทิพย์ที่สว่างไสว ดั่งเสมือนว่า ยักษ์ตนนั้นเคยเป็นอดีตเทพ เทวาจากชั้นสูงๆมาก่อนครับ แล้วอาจจะมีเหตุอะไรบางอย่างถึงมามีทิพย์วิมาน ณ สถานที่แห่งนี้ครับ

 

ไม่มีใครว่าหรอกค่ะ
ขอบคุณแทนสมาชิกค่ะ
สำหรับเรื่องเล่าของคุณนันทะชัยดี
และภาพประกอบสวยๆจากคุณก้อยแก้ว
รอๆอ่านต่อค่ะ ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ

 

ส่วนรูปที่มีน้ำไหลตกลงมาจากภูหินผาแล้วมีลักษณะเหมือนรูปากถ้ำนั้น จากการเข้าฌาน นิมิตเห็นเป็นทิพย์วิมานของคนธรรพ์ที่รายล้อมด้วยของบรรดาชาวเมืองหิมพานต์ที่แตกต่างกันมีทั้ง กินรี กินนร นาคา นาคีและสิงขร สถานที่แห่งนี้มหัศจรรย์ดีครับ