ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ม้าไม้ตัวจริง
    สีปาดเปิดหน้ากากตอนจบ กลายเป็นม้าไม้เมืองทรอย
    เขาหลอกมวลมหาประชาชนชาวกรีกผู้ไร้เดียงสาเสียสนิทใจ เพราะว่าเขาเป็นตัวแทนของแบงค์เก้อ เจ้าหนี้และนายทุนทีคุมกรีซอีกต่อหนึ่ง
    นายYanis Varoufakis รมวคลังที่ถูกบีบออกไป เพราะว่าเขาขวางการยอมรับสัญญาทาสจากเจ้าหนี้
    สส ทั้งสภากรีซเป็นเพียงทาสที่รับใช้พวกแบงค์เก้อร์ยิว โดยโหวต229เห็นชอบให้กฎหมายทาสเจ้าหนี้ผ่านสภา มีเพียง66สส ที่ยังสติดีไม่เห็นชอบสวนทางกับผลโหวตประชามติ61%ในวันที่5กค. ที่ไม่เอาแผนเจ้าหนี้
    ให้สังเกตุดูดีๆ พวกม้าไม้มักจะเป็นพวกฝ่ายซ้าย หัวรุนแรง หรือฝักใฝ่ลัทธิคอมฯ พวกอิลิทหรือแบงค์เก้อฝรั่งจะใช้พวกเอียงซ้าย หรือคอมฯเพื่อทำงานใหญ่ในการล้มระบบ คือล้มโครงสร้างเดิมของพวกอิลิทย่อยในประเทศนั้นผ่านการปฏิวัติหรือปฏิรูปแล้วแต่จะพูดสวยไ ก่อนทืี่แบงค์เก้อฝรั่งจะเข้ามาครอบงำหรือยึดหมดอีกต่อ
    เวลาพวกหัวเอียงซ้ายพูดจะน่าฟัง เช่นอำมาร์ตรวย ประชาชนจน คนรวบยิ่งรวย คนจนถูกทอดทิ้ง ต้องปฏิวัติล้มล้างระบบ ประชาชนเท่านั้นต้องเป็นใหญ่ในแผนดิน
    เข้าทางอิลิทแบงค์เก้อร์ฝรั่งที่คอยตีกินจากข้างนอก
    ดูพวกหัวเอียงซ้ายในไทยที่ฝังตัวในมหาวิทยาลัย คลังสอง สถาบันต่าง ระบบการเมือง เอ็นจีโอ ธุรกิจเป็นตัวอย่าง ปากอ้างประชาธิปไตย สิทธิของประชาชน แต่แท้ที่จริงทำงานรับใช้นายทุน แบงค์เก้อร์ทั้งนั้น และพวกนายทุนและแบงค์เก้อร์ไทยนี้ก็โดนนายทุนฝรั่งและแบงค์เก้อร์ฝรั่งตีนกินอีกต่อ
    ไม่เห็นหรือว่าพวกนี้ทำเลวในประเทศแล้วไปต่างประเทศได้พาสพอร์ตเล่มใหม่ เป็นการส่งสัญญานจากพวกอิลิทว่า ทำเลวในประเทศของเอ็ง แล้วเอ็งจะได้อยู่ดีกินดี เป็นฮีโร่
    ประเทศที่สิ้นชาติก็เพราะพวกซ้ายจอมปลอมก็มีมากที่เป็นม้าไม้ปลอมเข้ามาหลอกประชาชน แต่รับใช้นายทุนจากทั้งข้างในและข้างนอก โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
    นายสีปาดเป็นตัวอย่างของซ้ายจอมปลอม หรือม้าไม้ของเจ้าหนี้ที่จับต้องได้
    thanong
    16/7/2015
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูนิเซฟเตือน ชาวยูเครน 1.3 ล้านคนในเขตสู้รบ จ่อเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำรุนแรง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2558 22:36 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – องค์การยูนิเซฟ หรือกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ เผย ผู้ใหญ่และเด็กกว่า 1.3 ล้านคนในพื้นที่สู้รบทางภาคตะวันออกของยูเครน กำลังเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรง

    รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของจิโอวานนา บาร์เบริส ผู้แทนของยูนิเซฟประจำยูเครนระบุว่า พื้นที่ที่กำลังเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำที่รุนแรงที่สุด คือ เขตลูกานส์ก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ต้องซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำ หรือไม่ก็ต้องเสี่ยงชีวิตฝ่าห่ากระสุนและดงกับระเบิดเพื่อไปนำน้ำจากแหล่งธรรมชาติมาใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือน

    อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าภาวะคลื่นความร้อนที่กำลังแผ่ปกคลุมยูเครนอยู่ในเวลานี้ รวมถึงภาวะภัยแล้งกำลังกลายเป็นปัจจัยเชิงลบที่ซ้ำเติมภาวะขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออกของยูเครนให้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

    ก่อนหน้านี้เมื่อ 11 กรกฏาคมที่ผ่านมา ทางสำนักงานสหประชาชาติเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมออกมาเปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดที่ระบุ ชาวยูเครนราว 5 ล้านคนกำลังเผชิญวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้าย

    ขณะที่ยอดเงินบริจาคของนานาชาติต่อวิกฤตในยูเครนยังคงมีปริมาณที่ต่ำเตี้ยคิดเป็นสัดส่วนเพียง 19 เปอร์เซ็นต์ ของยอดเงินที่คาดว่าจำเป็นต้องใช้ช่วยเหลือยูเครน

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    รัฐบาลซาอุดิอาระเบียเริ่มกู้ยืมเงินหลังจากราคาน้ำมันดิ่งลง (ใกล้แล้วสินะซาอุดิฯเอ๋ย... ฮี่ๆๆ)

    [​IMG]

    -------------
    วันนี้ (16 ก.ค.58) Sputnik news พาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจว่า "Saudi Government Starts Borrowing Money After Oil Prices Slide" แล้วก็พาดหัวข่าวรองอีกว่า "ซาอุดิอาระเบียได้กู้เงินจากธนาคารท้องถิ่นในประเทศจำนวน $4 billion (ประมาณ 1.36 แสนล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา โดยการขายพันธบัตรเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณที่มีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันตกต่ำ"
    ตามรายงานข่าว Fahad al-Mubarak ผู้ว่าธนาคารกลางSaudi Arabian Monetary Agency (SAMA) ของซาอุดิฯกล่าวว่า "รัฐบาลจะใช้ทั้งการออกพันธบัตรและเงินทุนสำรองเพื่อรักษาค่าใช้จ่ายและดูแลการขาดดุลที่จะขยายตัวไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประมาณ $130 billion (ประมาณ 4.42 ล้านล้านบาท) ภายในปีนี้ เราคาดว่าจะมีการกู้ยืมเงินเพิ่มมากขึ้น" อ้างโดยหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจรายวัน Al-Eqtisadiah เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    รายงานข่าวบอกว่า Saudi Arabia ต้องการให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ $105 ต่อบาร์เรล (แต่คนไทยไม่ต้องการแบบนั้นนะครับซาอุดิฯจ๋า) เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการใช้จ่ายที่ได้วางแผนเอาไว้แล้ว แต่ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ $58 ต่อบาร์เรล (ลดลงอีกหน่อยก็ดีนะ ช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกกำลังลดลง บางสัปดาห์เดี่ยวก็ขึ้นเดี๋ยวก็ลง แต่แนวโน้มและทิศทางเป็นไปในทางดิ่งลงเรื่อยๆมากกว่า sweeeet!)
    รายงานข่าวบอกว่า เพื่อสนับสนุนการใช้จ่าย (ให้เพิ่มขึ้น) รัฐบาลซาอุดิฯ ได้ลดปริมาณทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ (foreign reserves) ลง โดยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาลดลงมาอยู่ที่ $672 billion จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วกำหนดไว้ที่ $737 billion (ลดลง $65 billion)
    John Sfakianakis กรรมการผู้จัดการของ Ashmore Group (ของอังกฤษ) ประจำภูมิภาคอ่าวอาหรับ (ผู้จัดการกองทุน) กล่าวกับ Financial Times ของอังกฤษว่า "ความจริงกำลังตีอัดมาที่บ้าน (ซาอุดิฯ) และความจำเป็นก็กำลังโจมตีที่บ้าน (ของตัวเองด้วย)" (Reality is hitting home, and necessity is also hitting home) (หมายความว่าไง? ไม่รู้ดิ ฮ่าๆๆ พูดอะไรที่ชาวบ้านชาวช่องเขาเข้าใจได้ง่ายๆกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง?)
    Sfakianakis กล่าวเพิ่มเติมว่า "หากรัฐบาลยังคงดำเนินธุรกิจตามปรกติและดึงลงอยู่แบบนี้ ก็จะทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศหมดสิ้นลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ (อาจจะ) ภายในสิ้นปี 2018 หรือต้นปี 2019 (ก็ได้)" (กรรม! หละสิซาอุดิฯเอ๋ย)
    การขายพันธบัตรภายในประเทศอาจจะช่วยบรรเทาอัตราการลดลงของสินทรัพย์ในต่างประเทศของธนาคารกลางของซาอุดิฯ (SAMA) ก็ได้ Sfakianakis กล่าวว่า "การออกพันธบัตรในขั้นตอนนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายสองอย่างคือ: การสร้างแหล่งรายได้ทางเลือก และประคับประคองตลาดตราสารหนี้" (จบข่าว)
    แล้วยังไง?... นั่นสิ ก็สร้างสงครามต่อไปเรื่อยๆสิ เอาเงินไปเผาเล่นที่เยเมนต่อไง เผาไปเรื่อยๆทุกวันๆ วันละหลายร้อยล้านบาททั้งค่าเชื้อเพลิงเครื่องบินรบ ทั้งค่าระเบิดที่ทิ้งใส่เยเมนอยู่ทุกวี่ทุกวัน ส่วนอเมริกากับอิสราเอลและยุโรปก็นั่งนับเงินจากการขายอาวุธให้ซาอุดิฯกันเพลิน ราคามน้ำมันดิบทั่วโลกจะตกก็ช่างมัน แต่จักรวรรดิเฮเกยังสามารถนำเอารายได้จากการขายอาวุธสงครามให้ซาอุดิฯและประเทศต่างๆที่ทำสงครามรวมทั้งยูเครนด้วยมาชดเชยได้สบาย
    อ้อเกือบลืมเลย... ภาพที่สองคือ อัตราการเติบโตจีดีพีของซาอุดิฯตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้วอยู่ที่ 6.4% ไตรมาสที่ 3 ปี 2014 อยู่ที่ 3.7% ไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 2.4% ไตรมาสที่ 1 ปี 2015 อยู่ที่ 2.0% ถือว่าต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
    The Eyes
    16/07/2558
    ----------
    Saudi Government Starts Borrowing Money After Oil Prices Slide / Sputnik International
    Saudi Arabia GDP Growth Rate | 1969-2015 | Data | Chart | Calendar
    https://en.wikipedia.org/wiki/Saudi_Arabian_Monetary_Agency
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภูเขาไฟพ่นเถ้าถ่านไม่หยุด อินโดฯขยายปิดสนามบินเป็น6แห่ง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2558 23:37 น.

    [​IMG]
    @นักเดินทางที่อยู่ในอารมณ์เบื่อหน่ายแออัดต่อแถวยาวเหยียดหน้าเคาน์เตอร์ในอาคารสนามบินสุราบายา หลังเถ้าถ่านภูเขาไฟที่ปลิวว่อนแผ่ลามไปในวงกว้าง ทำให้อินโดนีเซียต้องขยายขอบเขตการปิดสนามบินเป็น 6 แห่งทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.) ในนั้นรวมถึงท่าอากาศยานในเมืองใหญ่สุดอันดับ 2 แห่งนี้

    เอเอฟพี - เถ้าถ่านภูเขาไฟที่ปลิวว่อนแผ่ลามไปในวงกว้าง ทำให้อินโดนีเซียต้องขยายขอบเขตการปิดสนามบินเป็น 6 แห่งทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.) ในนั้นรวมถึงท่าอากาศยานในเมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ส่งผลให้มีนักเดินทางตกค้างเป็นจำนวนมากก่อนวันหยุดอีฎิ้ลฟิตริของชาวมุสลิม

    สนามบินนานาชาติในสุราบายา เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของอินโดนีเซีย รองจากกรุงจาการ์ตา และท่าอากาศเล็กๆอีก 4 แห่งต้องปิดบริการผลจากการปะทุของภูเขาไฟราอุงบนเกาะชวา กระทรวงคมนาคมระบุ ส่วนสนามบินอีกแห่งบนเกาะเตอร์นาตี ถูกปิดเพราะเถ้าถ่านที่ล่องลอยมาจากภูเขาไฟกามาลามา ที่กำลังปะทุเช่นกัน

    การปิดสนามบินสุราบายา หนึ่งในท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดของประเทศ เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนในประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดของโลกแห่งนี้ ต่างแห่แหนออกนอกเมือง ทั้งโดยสารเครื่องบิน เรือและรถยนต์ กลับไปยังบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อใช้เวลาช่วงวันฮารีรายออยู่กับครอบครัว ซึ่งตรงกับวันศุกร์(17ก.ค.)

    [​IMG]
    @เถ้าถ่านภูเขาไฟราอุงที่ปลิวว่อนแผ่ลามไปในวงกว้าง ทำให้อินโดนีเซียต้องขยายขอบเขตการปิดสนามบินเป็น 6 แห่งทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.) ในนั้นรวมถึงท่าอากาศยานในสุราบายา เมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของประเทศ

    นักเดินทางที่อยู่ในอารมณ์เบื่อหน่ายแออัดกันในอาคารสนามบิน ด้วยพบเห็นแถวยาวเหยียดบริเวณเคาน์เตอร์ แต่บางคนเลือกที่จะนั่งรอหรือไม่ก็นอนหลับบนพื้น ขณะที่ การูดา สายการบินแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยว่าทางบริษัทต้องยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและออกจากสุราบายา 48 เที่ยว แต่ไม่ชัดเจนว่ารวมทั้งหมดแล้วมีการยกเลิกเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นจำนวนเท่าไหร่ "การปิดสนามบินจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่สัมพันธ์กับการแผ่ลามของเถ้าถ่านภูเขาไฟราอุง และจะมีการอัพเดทเป็นระยะๆ" ถ้อยแถลงของกระทรวงคมนาคมระบุ

    การปิดสนามบินนานาชาติแห่งดังกล่าวในเมืองสุราบายาบนเกาะชวา มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่สนามบินบนเกาะตากอากาศบาหลีที่ยู่ใกล้เคียงถูกปิดเนื่องจากเถ้าถ่านจากภูเขาไฟลูกเดียวกัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหลายพันคนติดค้าง อย่างไรก็ตามสนามบินบาหลี กลับมาเปิดและปฏิบัติการต่างๆได้ตามปกติในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.)

    [​IMG]
    @ภาพการปะทุของภูเขาไฟราอุงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่เถ้าถ่านที่ปลิวว่อนแผ่ลามไปในวงกว้าง ทำให้อินโดนีเซียต้องขยายขอบเขตการปิดสนามบินเป็น 6 แห่งทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.) ในนั้นรวมถึงท่าอากาศยานในสุราบายา เมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของประเทศ

    สุโตโพ พูร์โว นูโกรโฮ โฆษกของสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่าภูเขาไฟราอุงปล่อยควันหนาขึ้นสู่อากาศสูงถึง 2,000 เมตรและลอยไปทางตะวันตกในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.) อย่างไรก็ตามเขากล่าวเสริมว่ายังไม่จำเป็นต้องทำการอพยพชาวบ้านละแวกใกล้เคียง

    การจราจรทางอากาศมักถูกรบกวนจากการปะทุของภูเขาไฟในอินโดนีเซีย ประเทศซึ่งมีภูเขาไฟมีพลังอยู่ถึง 130 ลูก

    ข้อกังวลหลักๆ สำหรับบรรดาสายการบินเกี่ยวกับเถ้าถ่านของภูเขาไฟนั้นไม่ใช่ว่ามันอาจส่งผลต่อทัศนวิสัย แต่ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามันอาจสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินมากกว่า เนื่องจากมันจะกลายเป็นแก้วเหลว เมื่อถูกดูดเข้าไปในเครื่องยนต์ของเครื่องบิน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ECBตบรางวัลอัดฉีดเพิ่ม-ยูโรกรุ๊ปอนุมัติเจรจา หลังสภากรีซผ่านกม.ปฏิรูป โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2558 01:02 น.

    [​IMG]
    @นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวในแฟรงค์เฟิร์ต ว่าจะมีการอัดฉีดเงินค้ำจุนชีพอันสำคัญแก่ธนาคารต่างๆของกรีซเพิ่มเติม และยังสนับสนุนเสียงเรียกร้องของกองทุนระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ที่หวังเห็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้เอเธนส์

    เอเอฟพี - เหล่ารัฐมนตรียูโรโซนอนุมัติเจรจามอบเงินช่วยเหลือแก่กรีซและอีซีบี ก็อัดฉีดเงินสดเพิ่มเติมพยุงประเทศที่ประสบวิกฤตหนี้สินแห่งนี้ในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.) ถือเป็นก้าวแรกที่จะปูทางให้แบงก์กรีซกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังปิดทำการมาเกือบสามสัปดาห์ ตามหลังรัฐสภาเอเธนส์ลงมติผ่านแพ็คเก็จปฏิรูปตามคำเรียกร้องของเหล่าเจ้าหนี้ แม้ไม่สู้เต็มใจนักก็ตาม

    "ยูโรกรุ๊ป ยินดีที่รัฐสภากรีซปฏิบัติตามทุกคำสัญญาที่เคยให้ไว้ในถ้อยแถลงซัมมิตยูโร ที่เห็นพ้องต้องกันตามหลังการเจรจาอย่างมาราธอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว" รัฐมนตรีคลัง 19 ชาติยูโรโซนระบุ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรัฐสภากรีซผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปอย่างกว้างขวางทั้งด้านภาษี บำนาญและกฎระเบียบแรงงาน

    ในการให้รางวัลตอบแทนแก่เอเธนส์แทบจะทันที นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวในแฟรงค์เฟิร์ต ว่าจะมีการอัดฉีดเงินค้ำจุนชีพอันสำคัญแก่ธนาคารต่างๆของกรีซเพิ่มเติม และยังสนับสนุนเสียงเรียกร้องของกองทุนระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ที่หวังเห็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้เอเธนส์

    เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) ซึ่งช่วยพยุงธนาคารต่างๆของกรีซให้ยังอยู่รอด ถูกกำหนดไว้ตายตัวราวๆ 89,000 ล้านยูโร นับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามล่าสุดนายดรากี บอกว่าจะมีการอัดฉีดเพิ่มเติมอีก 900 ล้านยูโร

    นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซเมื่อวันพุธ(15ก.ค.) ต้องเผชิญหน้ากับการก่อขบถครั้งใหญ่ในพรรคไซรีซาของเขาและการประท้วงรุนแรงบนท้องถนนในกรุงเอเธนส์ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้รับชัยชนะ หลังรัฐสภาลงมติเห็นของแผนปฏิรูปอันเข้มงวดตามเงื่อนไขของแพ็คเก็จช่วยเหลือ

    คำแถลงของยูโรกรุ๊ปไม่ได้พาดพิงว่าเหล่ารัฐมนตรีได้หารือเกี่ยวกับแผนการปล่อยเงินกู้ระยะสั้น 7,000 ล้านยูโรผ่านกองทุนฉุกเฉินของอียู เพื่อให้กรีซนำไปชำระหนี้ที่ติดค้างอีซีบีซึ่งถึงกำหนดจ่ายในวันจันทร์หน้า (20) รวมถึงให้เอเธนส์อยู่รอดจนกว่าจะได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือก้อนใหม่หรือไม่

    อังกฤษและสาธารณรัฐเช็ก ที่ไม่ใช้เงินยูโร คัดค้านการนำเงินของกองทุนนี้ไปใช้ แต่เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปบอกกับเอเอฟพีว่ากำลังมีการเจรจาประนีประนอมและอาจจะได้ข้อสรุปในวันศุกร์(17ก.ค.)

    เอเธนส์ พลาดชำระหนี้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศไปแล้ว และเส้นตายหนี้นัดถัดไปคือการจ่ายเงิน 4,200 ล้านยูโรแก่อีบีซีในวันที่ 20 กรกฎาคม แต่นายดรากี ยืนกรานว่ากรีซจะจ่ายหนี้แก่ทั้งอีซีบีและไอเอ็มเอฟ ด้วยประกาศอย่างมั่นใจว่า "ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เราจะได้รับชำระเงินคืน"

    นายดรากี ยืนกรานว่ามาตรการควบคุมเงินทุนที่เอเธนส์บังคับใช้เป็นการปกป้องผู้ฝากเงิน แม้มันอาจจะเหนี่ยวรั้งการฟื้นตัวอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงชั่วคราว อย่างไรก็ตามเขายอมรับว่ายังมีความสงสัยต่อความตั้งใจและความสามารถของรัฐบาลกรีซในการผลักดันมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจตามความต้องการของเจ้าหนี้

    แต่ถึงแม้รัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการปฏิรูปทันเส้นตายที่เจ้าหนี้กำหนดเช่นนี้ เอเธนส์ก็ยังต้องรอวัดใจฝ่ายนิติบัญญัติของหลายชาติสมาชิกยูโรโซน ซึ่งจะพิจารณาว่าจะรับรองข้อตกลงล่าสุดกับกรีซนี้หรือไม่ โดยเฉพาะรัฐสภาเยอรมนีที่คาดว่าจะมีการโหวตในวันศุกร์ (17) ขณะที่รัฐสภาฝรั่งเศสและฟินแลนด์ ให้ไฟเขียวสำหรับแผนเงินกู้และการเจรจาต่อข้อตกลงช่วยเหลือรอบ 3 แก่กรีซ เรียบร้อยแล้วในวันพฤหัสบดี(16ก.ค.)

    ECB
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อยึดติดต่อสิ่งใดก็ย่อมทำให้อัตราของตนเพิ่มพูน และอัตราก็จะเกาะกุมตนเอง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ยั่งยืน

    คาถา “กษิติครรภมหาโพธิสัตวสลายบาปสัจพจน”

    [​IMG]

    [​IMG]
    เป็นคาถาที่สําคัญมากที่สุดคาถาหนึ่งของพุทธศาสนา มหายาน เนื่องจากเป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มากคาถาหนึ่ง จึง เป็นที่รูจักกันเป็นที่แพรหลาย คาถา “กษิติครรภมหา โพธิสัตวสลายบาปสัจพจน” ออกเสียงตามสําเนียงจีนกลาง ดังนี้
    “อม ปอลอมิลิงทอนิง ซอพอเฮอ”
    ซึ่งมาจากภาษาสันสกฤตดังนี้ “อม ปรามารตะเน สวาหา”
    พระคาถานี้มีอานุภาพมหาศาล เมื่อเจริญพระคาถาให้กระทํากษิติครรภมหา โพธิสัตวสลายบาปมุทราแลวจินตภาพวา กษิติ ครรภมหาโพธิสัตวปรากฏพระองคอยูบน นภากาศพระรัศมีแหงพระองคสาดสองไปทั่ว สรรพโลกธาตุอนันตมหาจักรวาลสาดสองไป ยังสรรพชีวิตทุกคนทุกตนทุกภพภูมิ พระรัศมี พาดรางกายแห่งสรรพชีวิตยังบาปกรรมที่รัศมี สีดําให้สลายไปจากทุกอณูแหงร่างของสรรพ ชีวิตเหลือไว้แตรัศมีอันเรืองรองสุกใส อันเป็น รัศมีแหงปัญญา และมหากรุณาเมื่อจินตภาพ ดังนี้และภาวนาเนิ่นนานไปบาปกรรมแห่งผู้ ภาวนาจะค่อยๆเบาบางและสลายไปในที่สุด
    คนจํานวนไม่น้อยสําคัญผิดคิดว่าจะ ภาวนาคาถานี้ดวยความโลภ เพื่อลบล้างบาป ตนที่ได้กระทํามาให้ตนมีชีวิตและความเป็นอยู่ ที่ดีขึ้น ซึ่งการสวดสาธยายมนตและธารณีในพุทธ ศาสนามหายานเพื่อตนจะได้ผลน้อยและเนิ่น ช้า ทั้งยังขัดต่อหลักคําสอนของพระพุทธ ศาสนามหายาน
    หรือ กดฟังเสียงสวด บทสลาย ลดทอนแรงกรรมสําเนียง ธิเบตขางลางนี้ พรอมกับทํามุทรา
    Om Pra Ma Ni Da Ni So Ha
    http://www.ompramanidanisoha.com/audio/dizang_mdy3.mp3
    หมายเหตุ .....มีสามสําเนียงคือจีนกลาง, สันสกฤต, ทิเบต เลือกสวดตามความพอใจ ถาใจเราศรัทธา แมภาษาตางกัน จิตเราและจิตพระ โพธิสัตว ก็ถึงกัน
    ภาพจาก
    http://www.saimahayana.com/Default.aspx…
    ข้อมูลจาก
    ทำบุญทำทาน - Powered by Discuz!
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “บัวแก้ว” เผยผลถกทวิภาคี “ไทย-รัสเซีย” จี้ผ่อนคลายนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย-เปิดทางรัสเซียลงทุนระบบราง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2558 12:15 น. (แก้ไขล่าสุด 17 กรกฎาคม 2558 12:32 น.)

    [​IMG]

    @คณะ ได้พบหารือทวิภาคีกับนายเดนิส แมนทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ถึงแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย (JC Thai-Russia) ครั้งที่ ๖ (ภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)


    “บัวแก้ว” เผยผลถกทวิภาคี “ไทย-รัสเซีย” เสนอผ่อนคลายกฎระเบียบขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย เสนอ “รัสเซีย” ลงทุน Rubber Cities - ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง และจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจด้านความร่วมมือระหว่างธนาคารและการเงิน

    วันนี้ (17 ก.ค.) เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ภารกิจของ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างเดินทางเยือนกรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 6 ตามคำเชิญของนายเดนิส แมนทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมรัสเซีย ระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคม 2558 โดยคณะได้พบหารือทวิภาคีกับนายเดนิส แมนทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ถึงแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนระหว่างกัน เพื่อต่อยอดผลการหารือจากการเยือนไทยของนายแมนทูรอฟฯ ในเดือนมกราคม 2558 และการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีรัสเซียในเดือนเมษายน 2558

    จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-รัสเซีย (JC Thai-Russia) ครั้งที่ 6 สรุปผลได้ดังนี้

    1. ด้านสินค้าเกษตร ฝ่ายไทยได้เสนอให้ฝ่ายรัสเซียพิจารณาผ่อนคลายกฎระเบียบและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการเกษตรและขยายการลงทุนด้านการเกษตรระหว่างกัน

    2. การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน โดยฝ่ายไทยได้เชิญชวนให้ฝ่ายรัสเซียให้ลงทุนในโครงการ Rubber Cities ในไทย และเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางซึ่งบริษัทรัสเซียมีขีดความสามารถสูง โดยจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ โดยในระหว่างนี้ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นหน่วยงานประสาน รวมถึงร่วมลงทุนในสาขาที่รัสเซียมีความชำนาญในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย Thailand+1 ของรัฐบาล

    นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะหาแนวทางอำนวยความสะดวกด้านธุรกิจการเงินเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยได้ตกลงที่จะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจด้านความร่วมมือระหว่างธนาคารและการเงิน เพื่อให้กลุ่มธุรกิจรายย่อยมีโอกาสมากยิ่งขึ้น โดยฝ่ายไทยขอเชิญชวนฝ่ายรัสเซียให้ไปจัดตั้ง International Headquarter และ International trading center ในประเทศไทย นอกจากนั้น ขอให้สภาธุรกิจไทย-รัสเซีย และสภาธุรกิจรัสเซีย-ไทยได้เพิ่มการประสานงานระหว่างกัน เพื่อให้คณะกรรมาธิการร่วมฯ ทำงานได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ รัสเซียจะจัดงาน “Thailand Industrial Fair” ที่ประเทศไทย ในปี 2560 เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันด้วย

    3. เน้นย้ำความพร้อมของกระทรวงการต่างประเทศที่จะขับเคลื่อนประเด็นที่ยังอยู่ระหว่างการหารือ อาทิ ความตกลงต่างๆ ให้มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองฝ่ายร่วมกันดำเนินการเพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และเน้นย้ำความพร้อมของไทยที่จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือไทย-รัสเซีย ครั้งที่ 7 ในปี 2559 และครั้งที่ 8 ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 120 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-รัสเซีย เพื่อเป็นการยืนยันความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองฝ่าย

    4. นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือแนวทางความร่วมมือในทุกมิติ อาทิ การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ การส่งเสริมวัฒนธรรม และการขยายการท่องเที่ยว และได้เน้นย้ำให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อส่งเสริมความร่วมมือให้เป็นรูปธรรม

    5. ฝ่ายรัสเซียตระหนักถึงความสำคัญของไทยในภูมิภาคและในเวทีระหว่างประเทศ และปรารถนาที่จะเสริมสร้างความร่วมมือกับไทยอย่างสร้างสรรค์ ทั้งในกรอบความร่วมมืออาเซียน และองค์การสหประชาชาติ ให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

    รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ขอบคุณรัฐบาลรัสเซีย โดยเฉพาะนายเดนิส แมนทูรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และเจ้าหน้าที่อาวุโสของสองฝ่าย ที่ทำให้การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย และเป็นโอกาสให้สองฝ่ายสามารถหารือถึงแนวทางที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ ตามเจตนารมณ์ของผู้นำทั้งสองประเทศที่ได้ตกลงกันไว้ในระหว่างการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีรัสเซียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมีความมุ่งมั่นที่จะขยายความร่วมมือให้เป็นระดับหุ้นส่วนในอนาคต

    ทั้งนี้ ทางการรัสเซียยังได้ให้เกียรติเชิญรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและคณะเข้าเยี่ยมชมพระราชวังเครมลิน (Kremlin) ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จประพาสและเยี่ยมชมเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2440 ในระหว่างเสด็จประพาสรัสเซียเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับรัสเซีย และมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ได้เสด็จประพาสเครมลิน เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2550 จึงนับได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-รัสเซีย

    - Politics - Manager Online
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยิ่งลักษณ ชินวัตร" อาจเขาขายถูกตัดสิทธิ สมัคร ส.ส. ตลอดชีวิต! วันที่ 18กรกฎาคมพ.ศ.2558เวลา10:57:51น.

    [​IMG]

    ยังมียุบพรรคถ้าล้มการปกครอง
    วันที่ 17 ก.ค. ที่โรงแรมเอเชีย พัทยา จังหวัดชลบุรี มีการประชุม คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกรางรัฐธรรมนูญนอกสถานที่วันที่ 5 โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ เป็น ประธาน
    ต่อมา พล.อ.เลิศรัตน รัตนวานิช โฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมว่าพิจารณาจบมาตราที่เกี่ยวกับการแก้ไข รัฐธรรมนูญแล้ว เว้นในสวนองค์กรปฏิรูปและส้รางความ ปรองดองและบทเฉพาะกาลที่ยังไม่พิจารณา โดยได้ทบทวน มาตราสําคัญที่แขวนไว้ 7 ประเด็น คือ มาตรา 33/1 ว่าด้วยการ ให้อํานาจฟ้องร้องพรรคการเมืองที่ดําเนินการในลักษณะล้มลาง การปกครอง หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาการกระทําเขาข่าย ให้สั่งเลิกการกระทําและอาจมีคําสั่งยุบพรรคนั้นได้
    พล.อ.เลิศรัตนกล่าววา ส่วนมาตราจริยธรรม หมวดที่ 2 มาตรา 73 กําหนดให้บัญญัติกฎหมายประมวลจริยธรรม ให้มีกลไกเป็น ตามมาตราฐาน เพิ่มมาตรา 74/1 ดําเนินการตรวจสอบแบบ ฟอร์มการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง 5 ปี สําหรับการเข้าสูตําแหน่ง ที่สําคัญ อย่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งตรวจสอบการใช้อํานาจรัฐ นอกจากให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสําหรับผู้ที่ได้รับเลือกอีกครั้ง
    ผิดโกง-ห้ามสมัครส.ส.ตลอดชีวิต
    พล.อ.เลิศรัตนกล่าวว่า ส่วนคุณสมบัติต้องห้ามของผู้สมัคร ส.ส.ในมาตรา 111 (8) ให้คงไว้ตามเดิมคือ เคยต้องคําพิพากษา หรือคําสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายว่าการกระทําการทุจริต หรือ ประพฤติมิชอบ หรือกระทําการอันทําให้การเลือกตั้งไม่สุจริต หรือไมเที่ยงธรรม แต่เพิ่มข้อความ (14) อยู่ระหว่างห้ามดํารง ตําแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา 247 ว่าดวยเรื่องการยื่นแสดง รายการบัญชีทรัพย์ หรือถูกถอดถอนเหตุมาจากการจงใจใช้ อํานาจขัดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และการประพฤติผิด จริยธรรมร้ายแรง ส่วน (15) เคยถูกถอดถอนออกจากตําแหน่ง เพราะเหตุที่ว่ามีพฤติการณรํ่ารวยผิดปกติ ส่อทุจริตในหน้าที่ ส่อ กระทําผิดต่อตําแหน่งราชการ ส่อกระทําผิดต่อตําแหนงหน้าที่ใน การยุติธรรม
    "ผู้ที่เขาข่ายในมาตรา 111 (8) และ (15) นั้น จะถูกตัดสิทธิใน การสมัครเป็น ส.ส.ตลอดชีวิต ส่วนใน มาตรา 111 (14) จะถูก ตัดสิทธิเพียง 5 ปี" พล.อ.เลิศรัตนกล่าว และว่า การปรับเปลี่ยนใน ส่วนนี้เพื่อให้สอดคลองกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มาตรา 35 (4) และให้มีกลไกดําเนินการกับผู้ที่ทุจริตประพฤติมิชอบในการ เข้าสู่ตําแหน่งทางการเมืองต่อไป และให้สอดคล้องกับมาตรา 254 ว่าด้วยการถอดถอน ซึ่งแบ่งความผิดไว้ 2 กลุ่ม คือ ฐาน ความผิดขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายกับกระทําผิดต่อ จริยธรรมร้ายแรง และมีผลพวงคือ ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตจากฐานความผิดที่บัญญัติ ไว้ในมาตรา 111 (15) ตนจะไม่ยกตัวอยางบุคคลที่เข้าข่าย ลักษณะดังกล่าว แต่หากบุคคลที่จะสมัครเป็น ส.ส.เข้าข่าย ลักษณะนี้และสงสัยก็สามารถร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
    คาด"ปู"เข้าข่ายถูกห้ามลงชิงส.ส.
    เมื่อถามว่าเรื่องการล้มล้างการปกครองต้องมีพฤติการณอยางไร พล.อ.เลิศรัตนกล่าวว่า ตรงนี้ต้องใหศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตีความ อย่างไรก็ตามไม่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็น หน้าที่ของ ส.ส. เมื่อถามว่า เมื่อมีการกําหนดคุณสมบัติต้องห้าม ของผู้สมัคร ส.ส.เอาไว้เชนนี้ จะมีผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ตลอดชีวิตหรือไม พล.อ.เลิศรัตนกล่าวว่า "อย่าให้ผมยกตัวอย่าง บางอย่างต้องไป ตีความโดยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ที่พูดไปนี้มีความชัดเจนวาเป็นไป ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ไีม่มีอะไรนอกเหนือไป จากนั้น"
    รายงานขาวแจ้งว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติถอดถอน อาจจะเขาข่ายมาตรา 111 (15) คือเคย ถูกถอดถอนออกจากตําแหน่ง เพราะเหตุที่ว่ามีพฤติการณรํารวย ผิดปกติ ส่อทุจริตในหน้าที่ ส่ิกระทําผิดต่อตําแหน่งราชการ ส่อ กระทําผิดต่อตําแหนงหน้าที่ในการยุติธรรม ซึ่งจะถูกตัดสิทธิใน การสมัครเป็น ส.ส.ตลอดชีวิต
    "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อาจเข้าข่ายถูกตัดสิทธิ สมัคร ส.ส. ตลอดชีวิต! : มติชนออนไลน์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ผลกระทบต่อราคามันดิบทั่วโลกหลังยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน ใครได้/เสียประโยชน์จากการยกเลิกแซงชั่นอิหร่านบ้าง?

    [​IMG]

    -------------
    ข่าวใหญ่ข่าวโตระดับโลกขนาดนี้ ถ้าไม่ได้เขียนบ้างก็ยังไงอยู่นะ ว่าป๊ะ ฮ่าๆๆ... เอามุมมองแบบที่ไม่ค่อยเจอในสื่อฯทั่วไปละกันนะครับ เกี่ยวกับเรื่องอะไรหรือ? จะเรื่องอะไรซะอีกหละครับ ก็เรื่องการยกเลิกแซงชั่นอิหร่านเนื่องจากปัญหานิวเคลียร์นี่แหละ ว่ามีผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบต่อทั่วโลกอย่างไรบ้าง มีผลกระทบต่อตาสี ตาสา ยายมี ยายมา คนธรรมดาสามัญทั่วไปอย่างพวกเราในประเทศไทยและประเทศอื่นๆทั่วโลกอย่างไรบ้างหรือไม่? อย่าคิดว่าปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านแม้จะดูว่าอยู่ห่างไกลจากไทย อย่าได้คิดว่าจะไม่กระทบกับไทยนะครับ มีผลแน่ๆ (ขึ้นอยู่กับว่าบวกหรือลบเท่านั้นเอง) ขนาดสหรัฐฯจับมือกับอียูแซงชั่นรัสเซียยังกระทบกับไทยบางส่วนเลย เป็นไปไม่ได้ที่การแซงชั่นและยกเลิกแซงชั่นจะไม่สะเทือนถึงไทย ด้านไหน? ที่กำลังจะเห็นได้ชัดเจนก็เรื่องราคาน้ำมันนี่แหละ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ขอเล่าการแซงชั่นอิหร่านที่นำโดยสหรัฐฯคร่าวๆให้ทราบก่อนนะครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    + แซงชั่นอิหร่าน (โดยย่อ)
    --------------
    การแซงชั่นอิหร่านโดยสหรัฐฯพักพรรคพวกในยุโรปนี่มีมานานและหลายรอบแล้ว ตั้งแต่ปี 1967 โน่น ข้ออ้างหลักที่สหรัฐฯใช้กล่าวหาอิหร่านเพื่อหาเหตุแซงชั่นและกดดันอิหร่านก็คือ "อิหร่านไม่ปฏิบัติตามสนธิสัญญาการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์" (Nonproliferation Treaty - NPT) และนับตั้งแต่ยูเอ็นก่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพลังงานปรมาณูสากล (International Atomic Energy Association - IAEA) ขึ้นมาในปี 2005 สหรัฐฯ อียู และยูเอ็นก็รวมหัวกันเล่นงานอิหร่านอย่างหนักด้วยการออกมาตรการแซงชั่นอิหร่านสารพัดอย่างซึ่งประกอบด้วย เรื่องห้ามประเทศต่างๆทำธุรกรรมด้านการเงินและการธนาคารกับอิหร่าน, ห้ามอิหร่านส่งออกน้ำมันดิบ, ห้ามทำการค้า (บางอย่าง) กับอิหร่าน, อายัดทรัพย์สินในต่างแดนของอิหร่าน, แบนการท่องเที่ยวจากต่างชาติไม่ให้เข้าไปเที่ยวในอิหร่าน, ห้ามการพัฒนาอาวุธ (แต่อิหร่านก็ยังพัฒนาของตนเองอยู่เรื่อยๆ ก็ห้ามไปดินี่คือแผ่นดินอิหร่านจะพัฒนาซะอย่าง คริๆ), รวมทั้งห้ามการซื้อขายอาวุธจากประเทศต่างๆให้กับอิหร่านด้วย
    ผลที่ตามมาเป็นอย่างไรบ้าง? ที่เห็นได้ชัดก็คือเศรษฐกิจของอิหร่านทรุดหนัก แต่ก็ไม่ถึงกับตาย เพราะว่าอิหร่านยังคบกับรัสเซียและจีนได้ต่อไป แต่ทั้งจีนและรัสเซียก็ยังคงปฏิบัติตามมาตรการแซงชั่นของยูเอ็นจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาได้ว่าละเมิดมาตรการแซงชั่นจากนานาชาติที่ควบคุมโดยสหรัฐฯนั่นแหละ ส่วนผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกก็คือ ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกพุ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถลงคู่แข่งในการส่งออกน้ำมันลงไปได้ พวกสมาชิกโอเปกชาติอื่นๆ (ยกเว้นอิหร่าน) รวมทั้งสหรัฐฯและยุโรปต่างก็พากันกอบโกยทำกำไรกันอู้ฟู่กระเป๋าตุงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนราคาน้ำมันดิบทั่วโลกพุ่งสูงถึง 140 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรลในปลายปี 2008 แล้วก็ตกฮวบลงมาที่ 40 กว่าเหรียญในต้นปี 2009 ต่อจากนั้นก็ไต่ระดับสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ จนถึง 120 กว่าเหรียญเมื่อปี 2011-2012 พึ่งจะลงมาที่ 70 กว่าเหรียญเมื่อปลายปี 2014 นี่เอง ที่ว่ามานี้เป็นราคาน้ำมันดิบ Brent ของอังกฤษ ส่วน WTI ของสหรัฐฯต่ำสุดเมื่อต้นปีนี้อยู่ที่ 48 เหรียญกว่าๆ ของดูไบ (DME) ก็ใกล้เคียงกับ WTI เมื่อวันที่ 17 ก.ค.58 ราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้าของ DME อยู่ที่ 55.99 เพิ่มขึ้นมานิดนึงจากวันที่ 16 ก.ค.58 อยู่ที่ 55.92 แต่เมื่อวันที่ 15 ก.ค.อยู่ที่ 56.85 ถามว่าทำไมต้องเน้นที่ DME ด้วย? ก็เพราะว่าประเทศไทยเราอ้างอิงราคาซื้อขายล่วงหน้าที่ตลาดสิงคโปร์และสิงคโปร์ก็อ้างอิงราคาน้ำมันดิบดูไบนะสิครับ
    การที่ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นมีหลายสาเหตุมาก เช่นสงคราม การแข่งขันดัมพ์ราคากันเองระหว่างสหรัฐฯกับกลุ่มโอเปกเช่นการที่ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกลดลงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาเพื่อหวังจะถล่มรัสเศรษฐกิจของรัสเซียให้ย่อยยับ หรือการที่มีปริมาณน้ำมันดิบออกสู่ตลาดมากกว่าความต้องการก็ได้ พออิหร่านถูกปลดปล่อยจากพันธนาการปุ๊บ อิหร่านมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการพัฒนาเศรษฐกิจของตน และทรัพยากรหลักของอิหร่านที่มีอยู่เหลือเฟือไม่น้อยหน้าสมาชิกโอเปกอื่นๆก็คือน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่อิหร่านจะต้องหารายได้หลักจากการขายน้ำมันดิบของตน ส่วนจะยังไงนั้นค่อยว่ากันในตอนต่อไปนะ
    อุ๊ย!… เกือบลืมเลยอ่ะ ขอกลับมาที่เรื่องแซงชั่นต่อนะ เมื่ออิหร่านถูกบีบหักขึ้นเรื่อยๆก็ต้องหาที่พึ่ง หันหาใครดีหว่าที่พอจะงัดกับจักรวรรดิเฮเกได้ อ้อ… มีนี่นาก็รัสเซียกับจีนไง ได้การหละ เพราะคบกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รวมทั้งตุรกีก็เป็นพวกของจักรวรรดิเฮเกซะนี่ พวกนี้ไม่มีอำนาจพอที่จะไปงัดกับจักรวรรดิเฮเกและอียูได้แน่ หันไปเป็นมิตรกับรัสเซียและจีนเพิ่มมากขึ้นจะดีกว่า ด้วยผลประโยชน์บางอย่างที่แลกเปลี่ยนกันอย่างลงตัว เพราะว่าจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของอิหร่าน การแซงชั่นอิหร่านย่อมกระทบไปถึงจีนด้วย ดังนั้นอิหร่านจึงขอให้รัสเซียช่วยคุยและออกหน้าฉะกับสหรัฐฯและมหาอำนาจในยุโรบนเวที P5+1 (มหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และเยอรมันนี) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 อิหร่านและ P5+1 จึงตกลงกันที่จะหันหน้าเจราจาในการยกเลิกมาตรการแซงชั่นอิหร่านและไม่ให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ภายใต้ข้อตกลง Joint Plan of Action (JPOA/JPA) การต่อสู้ในเวทีการเจรจานี่ยาวนานมาก จนบรรลุข้อตกลงกันในที่สุดเมื่อวันที่ 14 ก.ค.58 ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งทำให้อิหร่านรอดพ้นจากการถูกแซงชั่นไปบางส่วน แต่บางส่วนยังคงอยู่จนกว่าคณะผู้แทนตรวจสอบด้านอาวุธนิวเคลียร์ IAEA จะเข้าไปตรวจสอบสถานที่สงสัยว่าเป็นแหล่งผลิตนิวเคลียร์ทั้งหมดของอิหร่านซะก่อน และยืนยันว่าอิหร่านไม่ได้ผลิตหรือระงับการผลิตอาวุธนิวเคลียร์แล้ว มีแต่พัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าและอื่นๆที่ไม่ใช่อาวุธเท่านั้น
    + จีนได้อะไรเป็นรางวัลจากการสนับสนุนให้ยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน?
    --------------
    เมื่อวันที่ 15 ก.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่ากรุงเตหะรานได้ลงนามสัญญาหลายฉบับกับผู้ซื้อน้ำมันดิบรายเก่า (traditional crude buyers) ของตน สำหรับการส่งมอบภายในปี 2015 นี้ โดยอ้างแถลงการณ์จากรมว.ปิโตรเลี่ยมของอิหร่าน ใครบ้างหละคือ traditional crude buyers ของอิหร่าน รายงานข่าวบอกว่า จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี และญี่ปุ่น ได้เพิ่มปริมาณการสั่งซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน
    ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าในปี 2011 อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยส่งออกไปที่สหภาพยุโรปมากที่สุด (เฉพาะปี 2011 นะ) รองลงมาก็คือจีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี และประเทศอื่นๆตามลำดับ แต่ในปี 2013 หลังจากมีการลงนามร่วมกันในข้อตกลง JPOA แล้วปรากฎว่าอิหร่านไม่ได้ส่งออกน้ำมันดิบไปยุโรป มีแต่ส่งออกไปที่จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ตุรกี และอื่นๆ (ตลาดสิงคโปร์) เท่านั้นซึ่งมีปริมาณอยู่ที่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านมากที่สุด (ดูภาพที่ 2 ประกอบ)
    และในวันเดียวกันนี้ Sputnik news ก็พาดหัวข่าวว่า "China May Rise as Major Exporter of Iranian Oil After Nuke Deal" แปลว่า "จีนอาจจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของอิหร่านหละข้อตกลงนิวเคลียร์" โดย Jin Canrong รองผู้อำนวยการใหญ่สถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัย People's University ของจีนให้สัมภาษณ์กับ Sputnik news ว่า "จากนี้ไปจีนซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบรายใหญ่ของอิหร่าน จะสร้างความร่วมมือกับอิหร่านในด้านนิวเคลียร์เป็นครั้งแรก ตามความคิดเห็นของพวกตะวันตก นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมจีนถึงได้ให้การสนับสนุนในการยกเลิกแซงชั่นอิหร่านอย่างกระตือรือร้น"
    นักวิเคราะห์ชาวจีนมองว่า "จีนได้ลงทุนในอิหร่านด้วยการเข้าไปซื้อแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ของอิหร่านจากญี่ปุ่น (นั่นไง อิหร่านดึงกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วยกให้จีนแทนซะเลย ก็ญี่ปุ่นไปหลงคำยุของสหรัฐฯแล้วไปงัดกับจีน งานนี้ (ปัญหานิวเคลียร์) ญี่ปุ่นช่วยอะไรอิหร่านไม่ได้ มีแต่จีนและรัสเซียเท่านั้นที่ช่วยได้ เรื่องอะไรจะยกให้ผลประโยชน์ให้ญี่ปุ่น ขายให้ญี่ปุ่นได้เงินอย่างเดียว ส่วนขายให้จีนได้ทั้งเงินและถูกยกเลิกแซงชั่นด้วย กำไรเห็นๆ) อย่างไรก็ตามเนื่องจากการแซงชั่นอิหร่านที่นำโดยสหรัฐฯทำให้ต้องพบกับความจริงที่ว่าจีนก็ไม่สามารถทำการลงทุนในอิหร่านไปได้มากกว่านี้ และจีนก็ไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ด้วย" (นี่ไงคืออีกเหตุผลหนึ่งที่จักรวรรดิเฮเกพยายามคงการแซงชั่นอิหร่านไว้นานๆ เพื่อตัดกำลังจีนและอิหร่านนี่เอง คงคิดว่าจะเก็บเอาไว้ฮุบกินเองในภายหลังอย่างอิรัคหละสิ งานนี้ทั้งรัสเซียและจีนไม่ยอมปล่อยให้จักรวรรดิเฮเกอันธพาลโลกทำได้ง่ายๆอย่างนั้นแน่)
    หลังจากที่มีการยกเลิกแซงชั่นเมื่อวันที่ 14 ก.ค.58 ที่ผ่านมา รายงานข่าวบอกว่าคราวนี้จีนก็จะกลายเป็นผู้นำเข้าน้ำมันอิหร่านรายใหญ่ที่สุดและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อหลายประเทศด้วย (ตรงนี้สำคัญ...) การที่อิหร่าน (กลับ) เข้าสู่ (ผู้ค้าน้ำมันดิบ) ในตลาดน้ำมันโลก (อีกครั้ง) นั้นสามารถที่จะทำให้ราคาพลังงานลดลงอย่างชัดเจน (Iran’s entrance into the global oil market can lead to a certain decrease in energy prices) (สาธุ! ขอให้เป็นอย่างนั้นจริงๆเหอะเจ้าประคู้ณ... ลาภลอยอีกแล้วครับลุงตู่ ยินดีด้วยครับ แต่ว่าท่านรมว.พลังงานของไทยจะรับมุกนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ ก่อนหน้านี้พวก IMF และสหรัฐฯมองว่าจะดันราคามน้ำมันดิบในตลาดโลกให้สูงขึ้นกว่านี้ ซึ่งพวกเขาเรียกว่าระดับราคามาตรฐานใหม่ ประมาณนี้แหละ นั่นคือตอนที่สหรัฐฯพูดในช่วงที่ยังไม่บรรลุข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่าน พวกนั้นยังพากันสร้างวิมานในอากาศให้กับพวกนักเล่นหุ้น แต่จีนกับรัสเซียบอกว่า ไม่ได้ จะปล่อยให้ปัญหานี้ยืดเยื้อต่อไปอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว ต้องคุยกันให้รู้เรื่องภายในปีนี้ ชาวบ้านชาวช่องเขาจะได้ทำมาหากินได้สะดวกกันซะที ไม่ใช่วันๆเอาแต่คิดเรื่องจะแซงชั่นประเทศไหนต่อไปและจะเพิ่มการแซงชั่นให้หนักเข้าไปอีกหากอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามคำสั่งจักรวรรดิเฮเกอยู่อย่างนี้)
    ต่ออีกหน่อยนะ... สื่อฯรัสเซียมองว่า เมื่ออิหร่านหลุดพ้นจากการแซงชั่นจากสหรัฐฯแล้ว ปากีสถาน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญประเทศหนึ่งของจีน ก็จะหันมากระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกับอัฟกานิสถานด้วย ทั้งปากีสถานและอิหร่านก็จะสนับสนุนโครงการ "สายพานลำเลียงเศรษฐกิจบนเส้นทางสายไหม" (Economic Belt of the Silk Road) ที่ริเริ่มโดยจีนในภูมิภาคนั้นด้วย งานนี้พันธมิตรของจีนมีแต่ได้กับได้ จีนก็ได้เช่นกันเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน แล้วจักรวรรดิเฮเกหละได้อะไรจากเส้นทางสายไหมด้วยหรือเปล่า? ได้… "ความอิจฉา" ไง คริๆ อ้อ… รู้สึกว่าพี่แกจะจองผูกขาดเป็นผู้ส่งออกเครื่องเครื่องหมุนเวี่ยงยูเรเนียมเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตนิวเคลียร์นะ อ้างว่าเพื่อควบคุมปริมาณการผลิตยูเรเนียมและพลูโตเนียมของอิหร่าน เกรงว่าอิหร่านจะนำไปใช้ผลิตอาวุธนิวเคลียร์นอกจากจะนำไปผลิตพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์เท่านั้น
    + รัสเซียจะได้อะไรเป็นรางวัลจากการสนับสนุนให้ยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน? และผลกระทบต่อรัสเซียในระยะยาว
    --------------
    หันมาดูฝั่งรัสเซียบ้างครับ ในส่วนของรัสเซียนั้นนักวิเคราะห์มองว่ามีทั้งผลบวกและลบ (ทั้งข้อดีและข้อเสีย) แต่เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วข้อดีมีมากกว่า และข้อเสียบางอย่างอาจจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเกิด
    วันที่ 15 ก.ค.58 สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียลงบทความเรื่องหนึ่งเป็นบทวิเคราะห์ชื่อ "Experts: Russia more likely to gain from lifting sanctions on Iran" แปลว่า "ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า: ดูเหมือนว่ารัสเซียจะได้รับประโยชน์ (ข้อดี) มากกว่าจากการยกเลิกแซงชั่นอิหร่าน" โดยในบทวิเคราะห์นี้พูดถึงเรื่องราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่อาจจะลดลงและแก๊สด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อรัสเซีย แต่ในภาพรวมแล้วรัสเซียได้มากกว่าเสีย เขาว่าอย่างนั้นนะ เป็นบทความที่ค่อนข้างยาว ถ้าจะแปลมาทั้งต้นฉบับก็เกรงว่าผู้อ่านจะอ่านจนเมื่อยสายตา เหนื่อยผู้พิมพ์ด้วยหละ (ฮ่าๆๆ) ดังนั้นจะขอหยิบมาเป็นบางส่วนนะครับ
    นักวิเคราะห์กล่าวว่า การยกเลิกแซงชั่นอิหร่านจะเป็นการเปิดโอกาสความเป็นไปได้ในการพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจให้กับรัสเซีย อิหร่านอาจจะกลายมาเป็นคู่แข่ง (rival) ของรัสเซียในการค้าไฮโดรคาบอน (hydrocarbon) (แก๊สกับน้ำมันดิบ) แต่ว่าสิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้แน่นอน (เพราะยังมีเวลาให้รัสเซียได้เตรียมการกำหราบอิหร่านได้อีกนาน กำหราบยังไง อ้าวจีนก็คุมเรื่องน้ำมันของอิหร่านไปแล้ว ส่วนเรื่องแก๊สนั้นรัสเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก ระบบท่อในประเทศกลุ่มยุโรปส่วนมากก็มีรัสเซียเป็นเจ้าของและถือหุ้นร่วมอยู่ด้วย ถ้าอิหร่านจะเปิดตลาดในยุโรปตามลำพังหรือสมคบคิดกับอียูหักหลังรัสเซียในภายหลัง มีหรือที่รัสเซียจะปล่อยให้แก๊สอิหร่านผ่านท่อของรัสเซียไปได้ เพราะการลงทุนในระบบท่อใหม่ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องง่ายและถูกๆซะเมื่อไร ไหนจะเรื่องอาวุธที่อิหร่านยังต้องพึ่งพาจากรัสเซียเป็นจำนวนมากอีกด้วย)
    Fyodor Lukyanov ประธานกรรมการบริหารสภานโยบายต่างประเทศและด้านความมั่นคง (Presidium Chairman of the Council on Foreign and Defense Policy) มองว่า "ผลที่ตามมาจากการบรรลุข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านในระดับภูมิรัฐศาสตร์นั้นก็คือ ตำแหน่งของอิหร่านในฐานะเป็นประเทศหนึ่งในตะวันออกกลางก็จะเข้มแข็งมั่นคงขึ้น และอิหร่านก็จะขยายทรัพยากรต่างๆออกไปเพื่อการพัฒนา และทำให้ตัวเองหลุดจากการถูกโดดเดี่ยว"
    Fyodor Lukyanov กล่าวอีกว่า "… มีทั้งผลลัพธ์ที่เป็นบวกและลบในกระบวนการนี้ต่อรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันโลกอาจจะลดลง อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับรัสเซียเห็นการพัฒนาของยูเรเซีย (Eurasia) และการดำเนินนโยบายใหม่ๆในยูเรเซีย ซึ่งจะกลายเป็นเป้าหมายหลักในการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ในบริบทนี้ อิหร่านจะมีบทบาทที่สำคัญมาก เรา (รัสเซีย) จำเป็นต้องเสนอความเป็นไปได้ใหม่ๆหลายอย่างให้กับอิหร่านในฐานะที่จะเป็นพลังที่สำคัญอีกประเทศหนึ่งในยูเรเซีย"
    โน่น… รัสเซียเขาคิดไปไกลถึงโน่นเลย ไม่คิดเล็กคิดน้อยว่าราคามน้ำมันดิบในตลาดโลกจะลดลงมากนัก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อรายได้ของรัสเซียโดยไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่าถ้าราคามตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปรกติ คือมีเสถียรภาพมาก ราคานิ่ง ไม่แกว่งมาก ทุกประเทศก็จะปรับตัวได้เอง หนักกว่านี้รัสเซียยังเคยเจอมาแล้ว แค่นี้เองจิ๊บๆ แต่ข้อดีก็คือรัสเซียจะได้อิหร่านมาร่วมในยูเรเซียด้วย นั่นหมายถึงความเข้มแข็งของกลุ่ม EEU, BRICS และ SCO ก็จะมีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แล้วคราวนี้จักรวรรดิเฮเกจะทำอย่างไรหละ? ฮี่ๆๆ เพราะว่าอิหร่านก็อยู่ในฐานะ Observer States (รัฐ/ประเทศผู้สังเกตการณ์) ในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ด้วย (Shanghai Cooperation Organisation - SCO) ที่นำโดยจีน อิหร่านอยากจะเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนหรือสมาชิกของ SCO มากๆ EEU และ BRICS เน้นความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจ ส่วน SCO มีทั้งเศรษฐกิจและกองทัพด้วย การที่อิหร่านจะอยู่รอดในตะวันออกลางได้จะต้องมี SCO หนุนด้วย ไม่งั้นจะโดนพวกชาติอาหรับอื่นๆที่อยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิเฮเกและมหาอำนาจในยุโรปรวมทั้งอิสราเอลรุมกินโต๊ะเอาได้ เกราะป้องกันภัยที่ดีที่สุดของอิหร่านในยามนี้และในอนาคตก็คือ SCO นี่แหละ (ดูเยเมนและซีเรียเป็นตัวอย่างโดนอัดซะเละ พอรัสเซียและอิหร่านจะเข้าไปช่วย จักรวรรดิเฮเกก็บอกว่าเฮ้ย... อย่านะเฟ้ย นี่สงครามของข้า ข้าจะถล่มให้หนำใจ คนอื่นอย่างยุ่ง กรรม! รัสเซียก็เลยบอกกับเยเมนและซีเรียว่าอดทนต่ออีกซักหน่อยนะน้อง พี่กำลังหาทางช่วยอยู่)
    ผู้เชี่ยวชาญมองว่า "(แม้ว่าการยกเลิกแซงชั่นจะเปิดโอกาสให้อิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันดิบของตนเพิ่มมากขึ้นได้) แต่อิหร่านยังจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อที่จะก้าวให้ถึงระดับราคาน้ำมันก่อนถูกแซงชั่น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ราคาน้ำมันถึงจะ (ยัง) ไม่ดิ่งลงในทันที แน่นอนว่าอิหร่านอาจจะกลายเป็นคู่แข่งของรัสเซียในการขายน้ำมันให้ยุโรป และอาจจะรวมไปถึงเรื่องแก๊สด้วย แต่เรื่องแก๊สนั้นยังถือว่าเป็นเรื่องในระยะยาว (อนาคต/ยังอีกไกล) ซึ่งจะยังไม่เกิดขึ้นภายใน 10 ปีนี้"
    นอกจากเรื่องน้ำมันและแก๊สแล้ว รัสเซียกับอิหร่ายยังจะมีความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานความร้อน และการขนส่งระบบราง การสร้างเครื่องจักรกล ซึ่งรัสเซียมีความพร้อมในการสร้างและสนับสนุนการสร้างโรงงานเกี่ยวอะไหล่รถบรรทุกขนาดใหญ่ด้วย รวมทั้งด้านเกษตรกรรมและการสำรวจอวกาศด้วย
    ส่วนในด้านกองทัพนั้น อิหร่านยังถูกห้ามเรื่องอาวุธหนักภายใน 5 ปี แต่ก็ไม่ได้ห้ามเรื่องอาวุธหนักที่ใช้สำหรับป้องกันประเทศ เช่นระบบป้องกันภัยทางอากาศ ดังนั้น S-300 ของรัสเซียก็จะเข้าไปประจำการในอิหร่านได้ มีการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว รอแต่ให้รัสเซียส่งมอบไปให้เท่านั้น (อ่านกันเหนื่อยหรือยังครับ?... ยังไม่จบเลยอ่ะ เหนื่อยแล้วนะนี่ แต่ก็มันส์อ่ะ ทำไงดี ขอพักยกแป๊ะนึงครับ ยังเหลืออีกหัวข้อหนึ่ง)
    อ้ออีกนิดหนึ่ง... สื่อฯรัสเซียรายงานว่า ตอนนี้รัสเซียกำลังคุยเรื่องราคามน้ำมันกับกลุ่มโอเปกรวมถึงเทคโนโลยี่ใหม่ในการขุดเจาะน้ำมันและระบบตรวจสอบภาษีในประเทศผู้ผลิตน้ำมันด้วย (ซวยแล้วอเมริกา... ไปซุกอะไรไว้ใต้พรมหรือเปล่างานนี้หนุกแน่่ๆ เจอระบบใหม่ของรัสเซียเข้าไปจะเป็นอย่างไรบ้างนะ พวกที่ชอบหลบเลี่ยงภาษีน้ำมันทั้งหลายคงจะกระเป๋าแห้งหมดทางทำมาหากินหละคราวนี้)
    + ความเคลื่อนไหวของอิหร่านหลังได้รับการยกเลิกแซงชั่น และเรื่องอื่นๆ
    --------------
    อ่ะมาลุยกันต่อนะ... สำหรับความเคลื่อนไหวของอิหร่านหลังยกเลิกแซงชั่น (บางส่วน) ไปแล้วนั้น ตามที่ได้เล่าให้ฟังในตอนต้นบ้างว่าอิหร่านได้ลงนามซื้อขายน้ำมันกับบางประเทศไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รอช้าที่จะทำมาหากิน รู้ผลปุ๊บเซ็นต์สัญญาทำธุรกิจกันทันทีเลย
    และมีอีกข่าวหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องน้ำมันนี่แหละ วันที่ 17 ก.ค.58 Sputnik รายงานว่ารายเรือบรรทุกน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรลลำแรกของอิหร่านกำลังมุ่งหน้าสู่เอเซีย (นั่นไง! บ้านเราชัดๆเลยนี่ มันจะไม่มีผลกระทบกับตลาดน้ำมันในย่านนี้ได้อย่างไรหละ? เขามุ่งหน้าไปไหน? อ่านต่อนะ)
    รายงานข่าวบอกว่าเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านชื่อ Starla ซึ่งดำเนินการโดย National Iranian Tanker Company (NITC) ได้เดินทางออกจากอ่าวเปอร์เซีย (Persian Gulf) มุ่งหน้าไปยังประเทศสิงคโปร์ (รายงานข่าวโดยรอยเตอร์ส)
    รายงานข่าวจากรอยเตอร์สบอกว่า "นี่เป็นเรือบรรทุกน้ำมัน (tanker) ลำแรกที่ออกมาลอยลำ (อยู่ในทะเล)" รอยเตอร์สอ้างแหล่งข่าวจากการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวโดยกล่าวว่า "หนึ่งในสถานการณ์ที่อาจจะกระทำโดยปฏิบัติการ STS (ship-to-ship หมายถึงการส่งสัญญาณแบบ เรือ-สู่-เรือ ระหว่างเรือบรรทุกน้ำมันสองลำในทะเล) แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรในขณะนั้น" รายงานบอกอีกว่าเรือลำดังกล่าวออกจาอ่าวโอมานมุ่งหน้าไปที่สิงคโปร์
    แต่รอยเตอร์สก็ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าน้ำมันดิบ 2 ล้านบาร์เรลได้ขายออกไปแล้วหรือยัง หากขายออกไปแล้วพวกฝรั่งขี้สงสัยจอมหาเรื่องก็ตั้งข้อสังเกตอีกว่าการขายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงกันในสัปดาห์นี้หรือไม่? (จะหาเรื่องแกล้งอิหร่านอีกรอบ เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ และจะได้แซงชั่นอิหร่านต่อไปเนื่องจากละเมิดการแซงชั่นว่างั้นเถอะ นั่นแหละมหามิตรของบางคน ถ้าว่ามากก็ไปคอยจับผิดจักรวรรดิเฮเกดีกว่าไป น่าจะมีหลายเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย เช่นเรื่่องเหยียดผิว การใช้ความรุนแรงของตัวรวจ การที่เด็กผิวสีได้รับมาตรฐานการศึกษาที่ต่ำกว่าคนผิวขาวในจักรวรรดิเฮเกเป็นต้น อ้อ… ที่อังกฤษก็มีการประท้วงกันทุกสัปดาห์ไม่เห็นรอยเตอร์สและบีบีซีเอามาลงพาดหัวข่าวอย่างที่ประจานประเทศอื่นเลยนิ แต่สื่อฯรัสเซียไม่พลาด มีให้อ่านทุกวัน ฮ่าๆๆ นี่เห็นว่านำเสนอข่าวจากสื่อฯรัสเซียเป็นส่วนมากนี่ไม่ใช่ว่าไม่อ่านข่าวจากสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกนะ อ่านเหมือนกันแต่ไม่เอามาลงให้ เพราะมันชอบด่าและบ่อนทำลายประเทศไทย จึงไม่ช่วยโปรโมทให้ เหตุผลพอฟังขึ้นไหมครับ? ฮี่ๆๆ)
    กลับมาต่อที่ข่าวนะ... รายงานข่าวบอกว่าอิหร่านได้เตรียมการหมายถึงขนน้ำมันดิบลงเรือไว้เป็นเดือนแล้ว (เหมือนรู้ว่างานนี้จะต้องจบให้ได้ และฝ่ายที่หนุนอิหร่านจะต้องชนะ ชนะในการเจรจานะ และแล้วก็เป็นจริง) ข้อมูลจากการติดตามเรือซึ่งรวบรวมโดยบลูมเบิร์กแสดงให้เห็นว่า เรือลำดังกล่าวส่งสัญญาว่าจะเดินทางไปถึงสิงคโปรในวันที่ 28 ก.ค.นี้
    Starla เป็น 1 ในเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 24 ลำของอิหร่าน รายงานข่าวจากบลูมเบิร์กบอกอีกว่าปริมาณน้ำมันดิบของอิหร่านที่เก็บสำรองไว้ในแท้งค์ต่างๆมีอยู่ราว 51 ล้านบาร์เรล ซึ่งนั่นก็คือน้ำมันที่ไหลทะลักเข้าสู่ตลาดน้ำมัน Bijan Zanganeh รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านต้องการที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตให้ได้ 500,000 บาร์เรลต่อวันภายในสองเดือนนี้หลังจากที่ตะวันตกยกเลิกแซงชั่น และจะเพิ่มเป็น 1 ล้านบาร์เรลต่อวันใน 6 ถึง 7 เดือนนี้
    ชัดเลยคราวนี้ ล่วง! แน่ๆ หมายถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนะ ใครจะซวยหนักกว่าเก่าหละคราวนี้? รายแรกเลยก็คือ สหรัฐฯ ต่อมาก็จะเป็นซาอุดิอาระเบีย แล้วรัสเซีย (จิ๊บๆ) ไทยเราก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วย
    มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกแซงชั่นอิหร่านและการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ในครั้งนี้ด้วยหรือไม่? มีครับ... ขาประจำที่บ่นและต่อต้านการเจรจาในครั้งนี้ก็คืออิสราเอลไง โดยทางอิสราเอลนั้นมักจะออกมากล่าวหาว่าอิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ถือว่าเป็นภัยคุกคามในตะวันออกกลาง แต่ตัวเองกลับไม่เคยถูกตรวจสอบซักที สหรัฐฯก็เลยโยนเงินไปเป็นค่าปิดปากให้อิสราเอลเลิกบ่นอีก $1.5 billion (ประมาณ 5.1 หมื่นล้านเหรียญ) ต่อปีอ้างว่าเพื่อเป็นเงินช่วยเหลือทางกองทัพให้อิสราเอล (ไปถล่มกาซ่า ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้หญิงคนชราชาวบ้านทั่วไปเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยมีองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นหรือของสหรัฐฯออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชน อย่างที่เรียกร้องเรื่องไทยส่งตัวชาวอุยกูร์สัญชาติจีนลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายกลับไปดำเนินคดีที่จีนบ้างเลย)
    รายงานข่าวบอกว่า ปัจจุบันนี้อิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯปีละ $3 billion โดยส่วนมากแล้วเงินจำนวนนี้จะถูกนำกลับไปซื้ออาวุธหนักจากสหรัฐฯอีกครั้งหนึ่ง (อัฐยาย ซื้อขนมยาย) เช่นเครื่องบินรบและระบบป้องกันขีปนาวุธ ตอนนี้อิสราเอลและสหรัฐฯกับเจรจากันที่จะเพิ่มเงินให้อิสราเอลขึ้นอีกเป็น 4.2-4.5 ล้านเหรียญต่อปี (อ้างรายงานจาก New York Times) อิสราเอลซะอย่าง อยากได้อะไรมีหรือที่อเมริกาจะกล้าปฏิเสธ ทำไมสหรัฐฯต้องจ่ายให้อิสราเอลด้วย? อ้าวก็คนที่คิดและพัฒนาอาวุธ ระบบป้องกันขีปนาวุธ ให้กับสหรัฐฯก็คืออิสราเอลไง มีหรือจะกล้าปฏิเสธ
    ป.ล.ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร ขออภัยในคำผิด เดี๋ยวจะตามแก้ไขให้ในภายหลังนะครับ
    The Eyes
    18/07/2558
    ----------
    China May Rise as Major Exporter of Iranian Oil After Nuke Deal / Sputnik International
    Iran Signs Oil Contracts for 2015 Ahead of Sanctions Lifting / Sputnik International
    http://sputniknews.com/…/irans_nuclear_program_amid_wester…/
    Iran Nuclear Deal to Trigger Global Oil Prices Decrease - Think Tank / Sputnik International
    TASS Experts opinions: Experts: Russia more likely to gain from lifting sanctions on Iran
    First Iranian Tanker Sets Sail for Asia With 2 Mln Barrels of Oil / Sputnik International
    US ‘to boost’ military aid to Israel after Iran nuclear deal — RT USA
    OPEC : OPEC Share of World Crude Oil Reserves
    Moscow, Riyadh Share View on Oil Prices Following Lifting of Iran Sanctions / Sputnik International
    WTI Crude Oil Spot Price
    http://www.cityam.com/…/iran-nuclear-deal-from-oil-prices-t…
    https://www.congress.gov/bill/113th-congress/house-bill/850
    Backgrounder: The International Sanctions Regime on Iran - Council on Foreign Relations
    http://www.armscontrol.org/Implementation-of-the-Joint-Plan…
    Iran Sanctions
    http://www.treasury.gov/…/sanctions/Programs/Pages/iran.aspx
    http://www.treasury.gov/…/…/Programs/Pages/jpoa_archive.aspx
    http://www.treasury.gov/…/sanct…/Programs/Documents/iran.pdf
    https://en.wikipedia.org/wiki/Sanctions_against_Iran
    https://en.wikipedia.org/wiki/Price_of_oil
    DME
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    อุยส์.... ข่าวร้าย (สำหรับสหรัฐฯและติ่งอเมริกานะ คริๆ) แต่เป็น "ข่าวดี" สำหรับคนไทยหัวใจรักชาติและชาวรัสเซียทั้งหลาย ลุงลาฟ รมว.ต่างประเทศของรัสเซียจับมือกับพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รมว.ต่างประเทศของไทยลงนามความร่วมมือระหว่างไทยกับรัสเซียและแถลงข่าวร่วมกันบรรยากาศชื่นมื่น
    -------------
    ข่าวนี้ไม่เล่าไม่ได้ซะแล้ว!... เมื่อวานนี้ (16 ก.ค.58 หวยออก ฮ่าๆๆ (เซ็ง! สำหรับบางคนที่โดนหวยรับประทาน) แต่แอ็ดมินไม่เซ็ง เพราะไม่เคยเล่นหวย คริๆ) สำนักข่าวทาสส์และ RT news (RT ลงคลิป) ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Russia appreciates Thailand’s role in Asia-Pacific regional integration processes — Lavrov" แปลว่า "รัสเซียประทับใจและขอบคุณในบทบาทของไทยในกระบวนการบูรณาการในภาคพื้นเอเซีย-แปซิฟิก - ลาฟรอฟ (รมว.ต่างประเทศของรัสเซีย)"
    สำนักข่าว Tass รายงานว่า "ระหว่างการประชุมร่วมกันกับนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ท่านพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รมว.ต่างประเทศของไทย ได้กล่าวว่าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับรัสเซียอยู่ในระดับที่ดี"
    ในการแถลงข่าวร่วมมกันต่อสื่อฯมวลชลที่กรุงมอสโคว์ประเทศรัสเซียเมื่อวันที่ 16 ก.ค.58 ที่ผ่านมา Sergey Lavrov กล่าวว่า "พวกเรา (ไทย-รัสเซีย) มีประเพณีในการเป็นหุ้นส่วนและความสัมพันธ์ในมิตรภาพร่วมกันมายาวนาน ในอีก 2 ปีจากนี้ไป ไทยกับรัสเซียจะฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 120 ปี พวกเราจำเป็นต้องมีการเตรียมการให้ดีสำหรับเหตุการณ์นี้" (ว้าว! "ต้องเตรียมการให้ดี" จักรวรรดิเฮเกได้ยินคำนี้แล้วตาลุกโพรงแน่ๆ)
    รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวต่ออีกว่า "(ไทยและรัสเซีย) มีความสนใจในการสร้างความร่วมมือในบรรยากาศต่างๆ (various spheres) ต่อกันและกัน ข้อตกลงร่วมกันฉบับใหม่ที่สำคัญนี้ได้บรรลุผลเมื่อนายกรัฐมนตรีดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) ของรัสเซียได้เดินทางไปเยือนกรุงเทพฯในเดือนเมษายนปีนี้"
    ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย ใครอยากจะถอยห่างจากไทยก็ตามใจ ใครอยากจะเป็นเพื่อนกับไทยก็เชิญเข้ามาค้าขายร่วมกันแบบแฟร์ๆไม่เอารัดเอาเปรียบไม่กดหัวไทย ไม่หวังที่จะยึดเกาะภูเก็ตของไทย ไม่หาเรื่องกีดกันสินค้าไทยเหมือนบางประเทศ ที่เมื่อไม่สามารถควบคุมและเอารัดเอาเปรียบไทยได้โดยใช้ข้ออ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องประชาธิปไตยจอมปลอมมาขู่บ่อยๆ เนื่องจากประเทศตัวเองไปแซงชั่นรัสเซียก่อนก็เลยถูกรัสเซียแซงชั่นกลับ ด้วยการห้ามไม่ให้นำเข้าอาหารและสินค้าการเกษตรจากอียูเข้าไปขายในรัสเซีย เมื่อสินค้าการเกษตรและประมงของอียูส่งออกไปรัสเซียซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของอียูไม่ได้ สินค้าก็ล้นตลาดในประเทศของตัวเอง จากเดิมที่มีสินค้าไทยเข้าไปขายในยุโรป ก็ยิ่งทำให้เศรษฐกิจของยุโรปทรุดหนักลงไปอีก เพื่อที่จะเปิดทางให้สินค้าในประเทศของตนขายได้ จึงต้องหาข้ออ้างกีดกันสินค้าของไทยแทนไงหละ
    แต่รัสเซียไม่ทำอย่างนั้น รัสเซียบอกไทยว่า ก็เอามาขายที่รัสเซียแทนสิ อุตส่าห์ดีดสินค้าบางอย่างของพวกอียูและจักรวรรดิเฮเกออกไปให้แล้ว นี่เห็นบ่นว่าขายสินค้าการเกษตรหลักอย่างยางพาราและข้าวไม่ค่อยออกใช่ไหม? เอามาขายที่รัสเซียนี่ รัสเซียจะรับซื้อให้ในราคาที่เป็นธรรม แลกกับอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียนะ แบบนี้เกษตรกรไทยก็ยิ้มได้สิครับ เพราะรัฐบาลนี้ช่วยเปิดตลาดใหม่ๆให้ไทยเพิ่มมากขึ้น แทนที่จะถูกผูกขาดด้วยผู้ค้าไม่กี่ราย ซึ่งวันดีคืนดีถ้าขัดใจเขาขึ้นมาก็ออกมาประกาศว่าจะตัดสัมพันธ์บ้าง จะลดระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศลงบ้าง จะแบนสินค้าไทยบ้าง แล้วแต่จะหามาตรการมากดดันไทย อีกหน่อยก็จะอ้างว่างั้นแซงชั่นไทยซะเลย โทษฐานที่ไม่ยอมเป็นทาสหรือขี้ข้าของจักรวรรดิเฮเก ถ้าไม่ยกแผ่นดินบางส่วนหรือสนามบินให้จักรวรรดิเฮเก นี่พวกที่ชอบแทรกแซงกิจการภายในของไทยเป็นอย่างนี้แหละ ส่วนรัสเซียกับจีนบอกชัดเจนเลยว่า จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของไทย ให้เป็นเรื่องภายในของไทยเอง แต่ก็ยินดีคบค้าสมาคมด้วย มันต่างกันไหมหละ? (การหาตลาดใหม่เพิ่มให้กับสินค้าไทยถูกบางคนมองว่าเป็นเรื่องการเมือง เป็นการเลือกข้าง ซะงั้น? จึงไม่สนับสนุนและไม่เห็นด้วยที่ไทยจะเปิดตลาดใหม่ในรัสเซีย อยากให้คบแต่กับจักรวรรดิเฮเกและอียูเท่านั้น ถึงจะไม่เรียกว่า "เลือกข้าง" เฮ้อ… น่าเห็นใจเกษตรกรไทยจริงๆ)
    อ่านข่าวต่อนะครับ... ลุงลาฟกล่าวต่ออีกว่า "การพูดคุยกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการแลกเปลี่ยนมุมมองในหลายด้าน รวมทั้งการสนทนาด้านการเมืองและประเด็นปัญหาระดับนานาชาติด้วย รัสเซียรู้สึกประทับใจและขอบคุณไทย (appreciates) เกี่ยวกับบทบาทของไทยในกระบวนการบูรณาการที่ลึกซึ้งในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก (Russia appreciates Thailand’s noticeable role in the process of deepening integration in the Asia-Pacific region)" อันที่จริงแล้ว... ในคลิปที่ RT news ของรัสเซียลงไว้นั้นท่านพูดเยอะกว่านี้นะ แต่เป็นภาษารัสเซียอ่ะ (แอ็ดมินไม่ได้เข้าใจภาษารัสเซียจึงถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทยให้แฟนเพจอ่านไม่ได้)
    มาฟังรมว.ต่างประเทศของไทยพูดบ้าง รายงานข่าวบอกว่าในส่วนของไทยนั้นรมว.ต่างประเทศของไทยได้กล่าวถึงระดับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับรัสเซียอยู่ในระดับที่ดี (good level of bilateral relations between Russia and Thailand ต่อไปก็จะเป็น very good และ excellent คริๆ อันนี้แอ็ดมินเสริมให้) โดยท่าน พล.อ.ธนศักดิ์ ปฏิมาประกร กล่าวว่า "ผมได้เชิญท่าน (ลุงลาฟ) ให้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง หากท่านมีโอกาส ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่าน ประเทศของพวกเรามีความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ซึ่งกำลังมีความก้าวหน้า (Our countries have long-standing relations, which are progressing) ประเทศไทยเป็นประเทศที่เล็กกว่ารัสเซีย แต่พวกเรา (ชาวไทย) ก็มีความมุ่งมั่นที่เข้มแข็งในการสนับสนุนความร่วมมือ"
    ว้าว! ฟังดิ... เป็นไงเล่า เมื่อทหารทำการทูตระหว่างประเทศ? สุดยอด! จริงๆแล้วในคลิปท่านพูดเยอะกว่านี้ บอกไว้ด้วยว่าประมาณปีหน้าสมเด็จพระเทพฯจะเสด็จเยือนรัสเซียด้วย และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ไทยกำลังจีบให้ท่านปธน.ปูตินเดินทางมาเยือนไทยด้วย นี่ท่านรมว.ต่างประเทศของไทยไปยื่นเทียบเชิญถึงที่เลยนะนี่ เพื่อขอคำยืนยันจากทางรัสเซียอีกครั้ง โดยทางรัสเซียก็บอกว่ามาแน่ๆ ปูตินจะมาเยี่ยมเมืองไทยแน่ๆ แต่ยังไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่ชัด การเมืองระดับประเทศก็จะเป็นอย่างนี้แหละ ช่วงแรกก็จะส่งระดับรัฐมนตรีและนายกฯไปคุยและเจรจาข้อตกลงกันโดยคร่าวๆก่อน พอเจรจากันได้ที่แล้วก็จะส่งระดับผู้นำประเทศลงมาเซ็นต์ข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการเลย (หลังจากผ่านกระบวนการต่างๆตามกฎหมายของแต่ละประเทศแล้ว เช่นผ่านความเห็นชอบของครม. ผ่านรัฐสภาฯ หรือหากเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ที่จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในอนาคตก็อาจจะมีการเปิดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ เช่นกรณีของอังกฤษ ไครเมียและกรีซเป็นต้น)
    The Eyes
    17/07/2558
    ----------
    TASS: Russia - Russia appreciates Thailand’s role in Asia-Pacific regional integration processes — Lavrov
    https://www.youtube.com/watch?v=Sp94Ta6MyBE
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรุงเทพโพลล์ ปชช.มีแผนรับมือภัยแล้ง ห่วงกระทบรายได้ ชาว กทม.ไม่กลัวประปาหยุดไหล โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กรกฎาคม 2558 13:17 น. (แก้ไขล่าสุด 18 กรกฎาคม 2558 13:32 น.)

    [​IMG]

    กรุงเทพโพลล์ ประชาชน 67.4% รับภัยแล้งรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเจอมา 68.4% ชี้ปัญหาภัยธรรมชาติ 72.5% ห่วงกระทบรายได้ 88.2% ป้องกันรับมือแล้ว 49% บอกเป็นไปไม่ได้ไทยขาดน้ำถึงสิ้นปี 49.5% บี้รัฐบาลควรจริงจังแก้มากกว่านี้ 56.9% เชื่อมั่นมากรัฐบาลหน้าจะจัดการปัญหาได้ ขณะที่ชาวกรุง 50.4% ไม่กลัวน้ำไม่ไหล

    วันนี้ (18 ก.ค.) กรุงเทพโพลล์ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศไทย โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ 1,133 คน ถามถึงความเห็นต่อสถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบันเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 67.4 รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ร้อยละ 27.7 ไม่ค่อยรุนแรงมากนัก ร้อยละ 3 ไม่รุนแรงเลย และร้อยละ 1.9 ไม่แน่ใจ

    เมื่อถามถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาภัยแล้งในปีนี้ ร้อยละ 68.4 ปัญหาจากภัยธรรมชาติ ร้อยละ 68 การตัดไม้ทำลายป่า ร้อยละ 28.3 การบริหารจัดการน้ำไม่ดี และร้อยละ 23.9 การใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง เมื่อถามถึงสถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบันมีผลกระทบทำให้กังวลในเรื่องใดมากที่สุด ร้อยละ 72.5 กระทบรายได้ การทำเกษตร พืชผลเสียหาย ร้อยละ 49.5 ข้าวของราคาแพงขึ้น ราคาสินค้าเกษตรแพงขึ้น ร้อยละ 49 ไม่มีน้ำใช้อุปโภคบริโภค ร้อยละ 39.5 ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และร้อยละ 23 การกักตุนสินค้า สินค้าขาดแคลน

    เมื่อถามถึงการเตรียมป้องกัน และรับมือต่อสถานการณ์ภัยแล้ง ร้อยละ 88.2 มีการเตรียมป้องกันและรับมือโดยใช้น้ำอย่างประหยัดขึ้น ซื้อถังไว้กักเก็บน้ำ และกักตุนน้ำไว้อุปโภคบริโภค และ ร้อยละ 11.8 ไม่มีการเตรียมป้องกันรับมือ คิดว่าไม่น่าจะขาดน้ำ เมื่อถามว่า คิดว่ากรุงเทพฯ มีโอกาสจะเจอปัญหาน้ำประปาไม่ไหลจากสถานการณ์ภัยแล้งครั้งนี้หรือไม่ ร้อยละ 58.1 น่าจะมีโอกาส ร้อยละ 34 ไม่น่าจะมีโอกาส และร้อยละ 7.9 ไม่แน่ใจ โดยชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 50.4 เห็นว่า ไม่น่าจะมีโอกาส ร้อยละ 45.0 น่าจะมีโอกาส และร้อยละ 4.6 ไม่แน่ใจ

    เมื่อถามว่าคิดอย่างไรจากข่าวที่นักวิชาการเตือนภัยแล้ง จะทำให้คนไทยขาดน้ำกินถึงสิ้นปี ร้อยละ 49.0 คิดว่าไม่น่ากังวลเลยเพราะเป็นไปไม่ได้ ร้อยละ 46.1 คิดว่าน่ากังวลเพราะอาจจะเกิดขึ้นจริง และร้อยละ 4.9 ไม่แน่ใจ เมื่อถามความเห็นต่อการแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 49.5 เห็นว่ารัฐบาลควรจริงจังในการแก้ปัญหามากกว่านี้ ร้อยละ 43.2 เห็นว่ารัฐบาลจริงจังและพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มความสามารถแล้ว และร้อยละ 7.3 ไม่แน่ใจ และเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อการจัดการต่อสถานการณ์ภัยแล้ง รวมถึงปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลในอนาคต ร้อยละ 56.9 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 30.4 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ร้อยละ 12.7 ไม่แน่ใจ

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000081325
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics & Clips : ระทึก! ไฟป่าแคลิฟอร์เนียลามถึงทางหลวง “เผารถวอด 20 คัน” คนขับต้องทิ้งรถหนีตาย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กรกฎาคม 2558 11:25 น. (แก้ไขล่าสุด 18 กรกฎาคม 2558 15:49 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – ไฟป่าจากเนินเขาทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียลุกลามถึงทางหลวงบนภูเขาในขณะที่การจราจรกำลังหนาแน่นเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) ส่งผลให้อาคาร 4 หลังถูกเพลิงไหม้ และมีรถยนต์ที่จอดติดอยู่บนถนนถูกไฟเผาวอด 20 คัน ขณะที่คนขับรถต่างพากันสละยวดยานเพื่อหนีเอาชีวิตรอด

    [​IMG]

    สำนักงานป่าไม้สหรัฐฯ แถลงว่า ไฟป่าเริ่มปะทุขึ้นเมื่อบ่ายวันศุกร์(17) บริเวณเชิงเขาในเทศมณฑลซานเบอร์นาดิโน และขยายวงกว้างออกไปจาก 500 เอเคอร์ ( 2 ตารางกิโลเมตร) จนกินพื้นที่ 3,500 เอเคอร์ (14 ตารางกิโลเมตร) ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

    [​IMG]

    ไฟได้ลุกลามถึงทางหลวงระหว่างรัฐหมายเลข 15 ซึ่งเชื่อมระหว่างตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียกับนครลาสเวกัส จนทำให้ผู้ที่สัญจรผ่านช่องเขา Cajon Pass ประมาณ 60 คนต้องตัดสินใจทิ้งรถ

    สำนักงานป่าไม้สหรัฐฯ ระบุว่า เหตุไม่คาดฝันครั้งนี้ทำให้มีรถยนต์ถูกไฟเผาวอด 20 คัน เสียหายบางส่วน 10 คัน ทว่าไม่มีผู้บาดเจ็บ

    อาคารที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง 4 หลังถูกเพลิงไหม้ ส่วนประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บนภูเขาหลายชุมชนอาจต้องถูกอพยพ ระหว่างที่หน่วยดับเพลิงเข้าไปควบคุมสถานการณ์

    สถานีโทรทัศน์หลายแห่งได้เผยแพร่ภาพเครื่องบินดับเพลิงนำน้ำไปเทราดลงบนรถยนต์ที่ถูกเพลิงโหมกระหน่ำ โดยมีรถยนต์อีกหลายคัน รวมถึงรถเทรลเลอร์ที่บรรทุกรถยนต์ใหม่ ถูกไฟป่าเผาวอดด้วย


    In Pics & Clips :
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผยไอเอสใช้ “อาวุธเคมี” กับกองกำลังเคิร์ดในซีเรีย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    18 กรกฎาคม 2558 13:41 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ใช้ก๊าซพิษในการโจมตีพื้นที่ของชาวเคิร์ดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน กองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียและกลุ่มสังเกตการณ์ความขัดแย้งในซีเรีย เผยในวันนี้ (18)

    องค์กร 2 กลุ่มที่สืบสวนการโจมตีดังกล่าวโดยมีฐานอยู่ที่อังกฤษระบุว่า พวกเขายืนยันว่ากลุ่มไอเอสใช้อาวุธเคมีกับกองกำลังและพลเรือนชาวเคิร์ดในซีเรียและอิรัก ประเทศซึ่งพวกเขาระบุว่า มีการนำสารเคมีก็มาใช้เช่นกันในการโจมตีที่มั่นของกลุ่มเพชเมอร์กาของชาวเคิร์ดในอิรักเมื่อวันที่ 21 หรือ 22 มิถุนายน

    กองกำลังชาวเคิร์ดกำลังมีบทบาทสำคัญในการสู้รบกับกลุ่มไอเอสทั้งในซีเรียและอิรัก กลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งกลุ่มนี้เข้ายึดพื้นที่ของทั้งสองประเทศได้อย่างกว้างขวาง พร้อมกับประกาศสถาปนาดินแดน “คอลิฟะห์” คร่อมพรมแดนของประเทศทั้งสองโดยอ้างว่าเพื่อปกครองชาวมุสลิมทั้งมวล

    กองกำลังวายพีจีของชาวเคิร์ดในซีเรียระบุว่า เมื่อวันที่ 28 เดือนมิถุนายนกลุ่มไอเอสยิง “ขีปนาวุธเคมีทำเอง” ใส่พื้นที่ของกลุ่มวายพีจีในเมืองฮาซากา และเขตเทลบรัค ที่มั่นของพวกเขาที่อยู่ทางตอนใต้ของเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้

    เรดูร์ เซลิล โฆษกของกลุ่มวายพีจี กล่าวว่า นั่นเป็นครั้งแรกที่กลุ่มไอเอสใช้อาวุธเคมีโจมตีใส่กลุ่มของพวกเขา


    เขากล่าวว่า ประเภทของสารเคมีที่ถูกใช้ยังไม่ได้รับการระบุแน่ชัด ไม่มีนักรบกลุ่มวายพีจีคนใดเสียชีวิตหลังจากสัมผัสก๊าซดังกล่าว เนื่องจากพวกเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

    ทำเนียบขาวระบุว่า พวกเขาได้รับทราบรายงานการใช้อาวุธเคมีดังกล่าวแล้ว และกำลังเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติม

    กลุ่มวายพีจีเป็นที่รู้จักในฐานะหุ้นส่วนรายสำคัญเพียงหนึ่งเดียวของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งกำลังเดินหน้าปราบปรามกลุ่มไอเอส กลุ่มวายพีจียึดพื้นที่ในภาคเหนือของซีเรียจากกลุ่มไอเอสได้อย่างกว้างขวางในปีนี้

    กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ซึ่งมีฐานอยู่ที่อังกฤษและรายงานความเคลื่อนไหวของสงครามนี้โดยอาศัยเครือข่ายนักเคลื่อนไหวภาคพื้น ระบุว่า พวกเขาก็มีหลักฐานยืนยันเช่นกันว่ากลุ่มไอเอสใช้ก๊าซพิษในการโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้เขตเทลบรัคเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน

    กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ระบุว่า มีนักรบกลุ่มวายพีจีสัมผัสแก๊สดังกล่าว 12 ราย และบอกด้วยว่า พวกเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตีด้วยก๊าซพิษในเมืองฮาซากา แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

    ในถ้อยแถลง กลุ่มวายพีจีระบุว่า กองกำลังของพวกเขายึดหน้ากากป้องกันก๊าซพิษเกรดอุตสาหกรรมได้จากพวกนักรบกลุ่มไอเอสในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ “ยืนยันว่าพวกเขาเตรียมพร้อมและมีอุปกรณ์สำหรับทำสงครามเคมีตามแนวหน้าด้านนี้แล้ว”


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000081331
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวใต้ทะเล 7.0 เขย่า “หมู่เกาะโซโลมอน” ยกเลิกคำเตือนสึนามิแล้ว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กรกฎาคม 2558 11:49 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 7.0 ตามมาตราแมกนิจูดใกล้หมู่เกาะโซโลมอนในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ส่งผลให้มีประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ ทว่าคำเตือนถูกยกเลิกในอีก 30 นาทีต่อมา

    สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แรงสั่นสะเทือนซึ่งวัดความแรงเบื้องต้นได้ถึง 7.5 เกิดที่ความลึก 10 กิโลเมตรใกล้หมู่เกาะซานตาครูซ เมื่อเวลาประมาณ 9.27 น. ตามเวลาในประเทศไทย

    ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกได้ประกาศเตือนความเสี่ยงเกิด “คลื่นสึนามิซัดชายฝั่งหมู่เกาะโซโลมอน ในรัศมี 300 กิโลเมตรจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว” ทว่าทางศูนย์ได้ยกเลิกคำเตือนในอีก 30 นาทีถัดมา แต่ระบุว่าระดับน้ำทะเลอาจขึ้น-ลงผิดปกติเล็กน้อยเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]
    · ·
    นาโต้เตรียมรบรัสเซีย
    นาโตเตรียมซ้อมรบครั้งใหญ่ ระดมกำลังพล 36,000 นาย จาก 30 ประเทศ ซ้อมรบทั้งบนบกและในทะเล ช่วง 3 ต.ค.-6 พ.ย. นี้ เพื่อฝึกซ้อมกำลังพลและทดสอบการตอบโต้เร็ว เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ท้าทายความมั่นคงทั้งในปัจจุบันและอนาคต
    16 กรกฎาคม 2558 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียม รายงานอ้างเว็บไซต์ 7sur7 ของเบลเยียมว่า องค์กรสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ได้แถลงเมื่อวันพุธว่า นาโตกำลังเตรียมจัดการซ้อมรบครั้งใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะมาถึงนี้ โดยมีกองกำลังพลเข้าร่วมซ้อมรบจำนวนกว่า 36,000 คนจาก 30 ประเทศ คือทั้ง ประเทศพันธมิตร ประเทศคู่สัญญา องค์การระหว่างประเทศและเอ็นจีโอ โดยการซ้อมรบในครั้งนี้จะจัดขึ้นในอิตาลี โปรตุเกส สเปน มหาสมุทรแอตแลนติก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมทั้งแคนาดา นอร์เวย์ เยอรมนี เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ จนถือเป็นการซ้อมรบที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2545
    นายพลฮันส์ โลเธอร์ ดอมโรส ผู้อำนวยการการซ้อมรบจากกองทัพเยอรมนีได้ระบุในการแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่นาโต ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า การซ้อมรบของนาโตครั้งนี้ใช้ชื่อว่า “Trident Juncture 2015” มีเป้าหมายหลักเพื่อฝึกซ้อมกำลังพลและทดสอบการตอบโต้อย่างรวดเร็วขององค์กรนาโต ขณะที่ จะมีการจัดตั้ง "กองกำลังตอบโต้นาโต” (NATO Response Force - NRF) ที่จะเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยจะมีกองกำลังหลักชื่อว่า “หอกเหล็ก” (fer de lance) ที่สามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว
    16/7/2015
    นาโต เตรียมซ้อมรบครั้งใหญ่ ระดมกำลังพลกว่า 36,000 คน จาก 30 ประเทศ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    ขมวดปมสุดท้ายม้าไม้ของพวกแบงค์เก้อร์
    ลองไล่เหตุการณ์ตามลำดับ แล้วจะเห็นว่าสีปาดเป็นม้าไม้ของพวกแบงค์เก้อร์
    1. เศรษฐกิจกรีซล่มมาตั้งแต่ปี2009 จำต้องขอความช่วยเหลือจากยุโรปและไอเอ็มเอฟมา2สัญญา วงเงินกู้ยืม240,000ล้านยูโร เพื่อแก้ปัญหาหนี้320,000ล้านยูโร กรีซติดหนี้มากพวกพวกแบงค์เก้อร์เอาเงินมาล่อ เข้ายูโรสามารถกู้ได้ดอกเบี้ยถูกๆ นักการเมืองใช้จ่ายประชานิยมมาก จนสุดท้ายเจ้งไม่มีเงินใช้หนี้
    2. นายสีปาดผู้นำฝ่ายซ้าย เดินเกมการเมืองไม่เอาด้วยกับแผนกอบกู้กรีซของเจ้าหนี้เพราะว่ายิ่งแก้ กรีซยิ่งเละ จีดีพีตกไป26%ตั้งแต่เข้าคลีนิกไอเอ็มเอฟ ตัวลขว่างงานสูงสุดในยุโรป26%
    3. สีปาดได้รับชัยชนะการเลือกตั้ง เข้ามาเป็นรัฐบาลเดือนมกราคมปี2015นี้ โดยนโยบายหลักคือ1. โจมตีรัฐบาลก่อนที่ไปตกลงกับเจ้าหนี้ทำให้กรีซยิ่งเจ้งหนัก 2. แอนตี้ยูโร และบรัสเซลล์ 3. ไม่เอาแผนฟื้นฟูกรีซของเจ้าหนี้ 4.ไม่รัดเข็มทางเศรษฐกิจ 5. หยุดการขายทรัพย์สมบัติของแผ่นดินให้ต่างชาติ
    4. สีปาดชวนYanis Varoufakisมาเป็นขุนคลังคู่ใจ เพราะว่าสิงห์มอเตอร์ไบค์คนนี้เป็นอาจารย์เศรษฐศาสตร์ที่ไม่เอาอียู ต้องการลดหนี้ haircut และมีมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่รัดเข็มขัดอย่างเดียว ประชาชนกรีกมีความหวังว่าสีปาดจะเจรจาต่อรองให้ได้มาตรการช่วยเหลือกรีซที่ดีขึ้น ไม่ต้องรัดเข็มขัดมาก ถ้าจะอยู่ต่อในยูโร ก็โอเค ขอให้ได้พอมีเงินหายใจคล่องตัวหน่อย
    5. การเจรจาเงินกู้รอบที่3เป็นไปอย่างทุกลักทุเลเป็นเวลาเกือบครึ่งปีระหว่างสีปาด ยานิส และพวกเจ้าหนี้ยุโรป นำโดยAngela Merkelนายกรัฐมนตรีเยอรมัน และWolfgang Schaeubleขุนคลังเยอรมัน เพราะว่าเยอรมันเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของกรีซ มีอำนาจหรือเสียงดังที่สุดในบรัสเซลล์ แต่ตกลงกันไม่ได้ เพราะว่าจุดยืนอยู่คนละขั้ว
    6. ยานิสต้องการให้เจ้าหนี้ลดหนี้ลงในระดับที่กรีซสามารถเดินหน้าได้ เจ้าหนี้ไม่ยอมลดหนี้ ในขณะที่เวลาผ่านไปเศรษฐกิจกรีซยิ่งแย่หนัก ประชาชนแห่ถอนเงินจากแบงค์จนแบงค์แทบล้ม เพราะว่าไม่รู้ว่ากรีซจะอยู่หรือจะออกจากยูโร สีปาดสนับสนุนยานิสเต็มที่เล่นบทenfant terrible หรือเด็กดื้อของยุโรป
    7. ในระหว่างที่เจรจาแก้ปัญหาหนี้กรีซกันไม่ได้เรื่อง ธนาคารกลางยุโรปอัดเงินฉุกเฉินสภาพคล่องช่วยแบงค์กรีซ $86,000ล้านยูโรที่โดนถอนเงินฝากอย่างหนักหน่วง Goldman Sachsบอกว่าตัวเลขที่อีซีบีปล่อยให้ธนาคารกรีซน่าจะถึง120,000ล้านยูโร เงินฝากกรีซทั้งระบบเคยอยู่สูง240,000ล้านยูโร โดนคนกรีกถอนเหลือแค่150,000 ล้านยูโร เพื่อเอาไปฝากต่างประเทศ หรือเก็บในตุ่มหมด
    8. วิกฤติกรีซดิ่งเหวไปเรื่อยๆ อียูไม่ต้องคุยเรื่องอะไรกันทั้งปี มัวแต่แก้ปัญหากรีซอย่างเดียว เงินฝากกรีซโดนถอนเรื่อยๆ เจ้าหนี้ลูกหนี้บลัฟกันไปมา แต่ท้ายที่สุดไม่มีข้อตกลงอะไรเมื่อเส้นตายของโปรแกรมช่วยเหลือกรีซจบลงในวันที่30มิถุนายน ถ้าไม่ได้เงินก้อนใหม่เข้ามา7,200ล้านยูโรจากเจ้าหนี้ กรีซจะผิดนัดชำระหนี้1,600ล้านยูโรวันที่1กรกฎาคม
    9. เจ้าหนี้ของกรีซที่แท้จริงคือแบงค์เก้่อร์เยอรมัน ฝรั่งเศสและชาติอียูอื่นๆ ถ้าปล่อยไปตามกลไกธรรมชาติ กรีซจะต้องเจรจาแบงค์เก้อร์เพื่อขอลดหนี้50-60%เพราะว่าเศรษฐกิจมีวิกฤติจริงๆ แบงค์เก้อร์จะเจ็บตัว แต่กรีซจะมีโอกาสฟื้นตามธรรมชาติหลังจากนั้น
    10. แต่นักการเมืองยุโรปทำงานให้แบงค์เก้อร์ กลับรวบเอาความเป็นเจ้าหนี้มาอยู่ที่ไอเอ็มเอฟ ธนาคารกลางยุโรปและอียูแทนโดยวิธีการพิศดาร แทนที่กรีซจะคุยแก้ปัญหาหนี้กับพวกแบงค์เก้อร์ที่กรีดดี้ ที่พลาดแล้วแต่ไม่ยอมเจ็บตัว กลับมาต้องมาเจรจากับรมวคลังเยอรมัน นางแมร์เกิ้ล นายMario Draghi ผู้ว่าธนาคารกลางยุโรป รวมทั้งนายJean Claude Junckerผู้อำนวยการสหภาพยุโรปแทน พวกนักการเมืองหรือพวกบูโรแครทของยุโรปนี้สวมบททำงานสกปรกให้แบงค์เก้อร์ด้วยการโอนหนี้ของพวกแบงค์เก้อร์มาอยู่ในกระเป๋าภาษีของประชาชน แล้วก็กลับไปรีดเลือดทุกหยดจากกรีซที่ติดหนี้ ไม่มีการยกหนี้ หรือลดหนี้เป็นอันขาดทั้งๆที่กรีซล้มละลายแล้ว เพื่อเอาเงินนั้นมาคืนแบงค์เก้อร์
    11. แล้วก็ถึงจุดแตกหักระหว่างลูกหนี้และเจ้าคือในวันที่30มิถุนายนก็ตกลงกันเรื่องแผนฟื้นฟูการเงินและเศรษฐกิจกรีซไม่ ยานิสประกาศว่ากรีซจะเบี้ยวหนี้ในวันรุ่งขึ้น โดยหวังว่าการเบี้ยวหนี้นี้จำทำให้เจ้าหนี้ยุโรปสั่นสะเทือน เพราะว่าหนี้กรีซ320,000ล้าน ถ้าไม่จ่ายจะทำให้เกิดแบงค์รันลามไปทั่วยุโรปได้ มีการปิดแบงค์ ให้ถอนเงินได้จากเอทีเอ็มวันละ60ยูโร ส่วนมากคาดว่าสีปาดและยานิสมีแผนสำรอง ในกรณีืที่คุยกับเจ้าหนี้ไม่รู้เรื่อง เอากรีซออกจากยูโรไปเลย กลับไปพิมพ์เงินDrachma แล้วไปขอกู้เงินจากBRICSแทน หยุดการชำระหนี้ทั้งหมด แล้วค่อยเจรจาเรื่องหนี้ทีหลัง หลังจากกรีซตั้งหลักได้แล้ว
    12. อีซีบีปิดก๊อกไม่ให้สภาพคล่องฉุกเฉินให้่ธนาคารกรีซ อ้างว่ากรีซไม่ทำตามสัญญาโปรแกรมการช่วยเหลือของยุโรป จึงต้องหยุดการช่วยเหลือ ยานิสบอกว่าอีซีบีทำผิดกฎ เพราะว่ากรีซอยู่ในยูโร และเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป อีซีบีต้องให้เงินกุ้สภาพคล่องแก่แบงค์ของกรีซตราบเท่าที่ขอ เพราะว่ากรีซได้มอบอำนาจอธิปไตยทางการเงินให้อีซีบีแล้ว ยานิสเตรียมฟ้องอีซีบีที่ศาลของอียู
    13. สีปาดรับลูกจัดประชามติในวันที่5กรกฎาคมเพื่อขอฉันทมติในการแก้ปัญหาหนี้กับเจ้าหนี้ โดยเขาเรียกร้องให้ประชาชนโหวตไม่เอาแผนเจ้าหนี้ที่ไม่ลดหนี้ ที่บีบรัดเอวชาวกรีกเหลือเกิน
    14. ลายม้าไม้ของสีปาดออกมาช่วงจังหวะนี้ เพราะว่าประชาชนกรีกยังไม่ทันได้หย่อนบัตรประชามติ แต่เขากลับเขียนจดหมายหาเจ้านี้อียูขอรับเงื่อนไขทุกประการเพื่อให้กรีซได้เงินกู้ก้อนใหม่ต่ออายุไปอีก3ปี และขออยู่ในเขตยูโรโซนต่อ เจ้าหนี้รีบปล่อยข่าวนี้ออกมาให้เห็นว่าเห็นไหมกรีซไม่ต้องการออกจากยูโร ต้องยอมทำตามเงื่อนไขทุกอย่างแล้วไม่ว่ากดลดบำนาญ การเพิ่มภาษีVAT การขยายอายุคนเกษียณ การขายสมบัติของชาติมาใช้หนี้
    15. ประชาชนกรีกโหวตประชามติไม่เอาแผนเจ้าหนี้ เท่ากับเป็นการปฏิเสธแนวทางของบรัสเซลล์ และกรีซเตรียมใจออกจากเขตยูโรแล้ว พวกนักวิเคราะห์มองว่ากรีซมีโอกาสออกจากยูโร75%แล้ว
    16. วันที่5กรกฎาคมถือว่าเป็นวันIndependence Dayของกรีซที่กล้าปฏิเสธยูโรและเนวทางของพวกมาเฟียที่บรัสเซลล์ ประชาธิปไตยของกรีซเวิร์คจริงๆ ทุกคนคาดว่าสีปาดต้องเอาผลประชามตินี้กลับไปเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ และเจ้าหนี้ต้องรับฟัง ปลดล๊อคเงื่อนไชโหดๆ ช่วยลดหนี้บ้าง
    17. แต่ที่ไหนได้ สีปาดบีบให้ยานิสลาออกจากขุนคลัง อ้างว่าอยู่ต่อก็คุยกับเจ้าหนี้ไม่รู้เรื่อง เพราะว่าเขาหัวแข็งเกินไป แล้วเอาผู้ช่วยยานิส ผู้มีลายเซ็นต์จ้าวโลกขึ้นมาแทน สีปาดกลับคำทุกอย่าง หันไปเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อให้กรีซอยู่ในยูโรต่อไป โดยยอมรับเงื่อนไขเจ้าหนี้ที่โหดกว่าเดิม โหดกว่ารัฐบาลเก่าที่เขาโจมตีเสียอีก โดยอ้างว่าเขาไม่อยากจะทำตามเจ้าหนี้ แต่เขาเกรงว่าชาวกรีกจะถอนเงินฝากไม่ได้ถ้าไม่ตกลงกับเจ้าหนี้เพื่อได้เงินกู้ก้อนใหม่มา
    18. สีปาดไปตกลงทุกอย่างกับเจ้าหนี้ที่บรัสเซลล์ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ยอมแม้กระทั้งขายสมบัติของชาติ50,000ล้านเพื่อมาใช้หนี้ และแลกกับเงินกู้ก้อนใหม่86,000ล้านยูโรโดยไม่เรียกร้องให้มีการลดหนี้
    19. ไอเอ็มเอฟบอกว่า ถ้ากรีซไม่ได้ลดหนี้อย่างน้อย30% ภาระหนี้ของกรีซในระดับ185%ต่อจีดีพีในปัจจุบัน จะพุ่งเป็น200%ต่อไป และทำให้กรีซจะอยู่ในภาวะหนี้สินล้นพ้นพะรุงพะรังตลอดไป
    20. สีปาดกลับมาถึงกรุงเอเธนส์ ต้องรีบแจ้นให้สภาโหวตกฎหมาย4ฉบับในวันที่15 กรกฎาคมให้ทันเวลา ในการยอมรับเงื่อนไขรัดคอหอยของของเจ้าหนี้ โดยอ้างว่าถ้าไม่โหวตให้ผ่าน ระบบการเงินกรีซจะล้มละลาย
    21. สสกรีซสร้างเรื่องอัปยศด้วยการผ่านกฎหมายที่ทำให้กรีซเป็นทาศเจ้าหนี้อีกเป็นเวลายาวนานโดยไม่มีโอกาสฟื้น ทำเหมือนเหมือนสส และสวประเทศอะไรก็ไม่รู้อยู่แถวๆอาเซี่ยนที่โหวตกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผ่านช่วงลักหลับ
    22. ถ้าวันโหวตประชามติในวันที่5กรกฎาคมเป็นวันประกาศอิสระภาพของกรีซ วันที่15 กรกฎาคมที่สส กรีกโหวตผ่านกฎหมายรัดคอหอยถือว่าเป็นวันทาสของกรีซ เพราะว่าสสกรีกโหวตมติสวนประชามติ โดยสีปาดเป็นหัวเรือที่พลิกลิ้น
    สรุป:
    สีปาดเป็นม้าไม้กรุงเอเธนส์ของเจ้าหนี้ที่ส่งเข้ามาเชือดกรีซให้เป็นตัวอย่าง ประเทศอื่นๆจะได้ไม่กล้าแตกแถว เพราะว่าอำนาจการเงินอยู่ที่อีซีบีแล้ว เพราะว่าอีซีบีให้สภาพคล่องก็รอด ไม่ให้สภาพคล่องแบงค์ก็เจ้ง แล้วนักการเมืองจะอยู่ไม่ได้ จะเกิดกลียุคตามมา สีปาดสร้างดราม่าลากเรื่องเจรจาหนี้ให้ยาวจนผิดนัดชำระหนี้ แล้วสั่งปิดแบงค์ คนกรีกเลยใจฝ่อ กลัวถอนเงินไม่ได้ แล้วเขาก็กลับลำไปยอมเจ้าหนี้ โดยบอกกับประชาชนว่า ถ้าอยากได้เงินฝากในแบงค์ต้องยอมเจ้าหนี้นะ
    ท้ายที่สุดนายแบงค์เก้อร์หัวเราะชอบใจ เจ้าหนี้แฮปปี้กันใหญ่ แต่ประชาชนกรีกน้ำตาเช็ดหัวเข่าจากการทรวศของนักการเมืองหัวเอียงซ้ายและเอียงขวาที่โดนแบงค์เก้อร์เอาเงินยูโรฟาดหัวหมด และใช่ว่ากรีซจะไม่ล่มสลายในกาลข้างหน้า เพราะว่าได้เงินกู้มามีแต่ต้องจ่ายหนี้หมด แถมต้องขายทรัพย์สินของแผ่นดินใช้หนี้ และมาตรการรัดคอหอยต่างๆ ไม่สามารถทำให้กรีซฟื้นตัวทางการเงินและเศรษฐกิจได้
    เรื่องมันก็มีแค่นี้เอง
    thanong
    16/7/2015
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    เฉลยQuiz
    เกาะอะไรที่กรีซที่น่าอยู่ที่สุด?
    หลายคนตอบว่าเกาซานโตรีนี่ (Khoh Santorini) หรือเกาะกรีท (Koh Crete) แต่ที่จริงแล้วในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้คนกรีกอยากจะกลับไปอยู่เกาะแดรกม่า (Khoh Drachma)มากกว่าเพราะว่าคุ้นเคยดี บังเอิญมีผู้นำเฮงซวยคือนายสีป๊าดที่ต้องการให้คนกรีซย้ายไปอยู่เกาะยูโร (Koh Euro)เป็นทาสกันหมด คนกรีกหลายคนก็หลงผิดอยากจะอยู่เกาะยูโรกัน
    มีแต่นายยานิส วารูฟากิสเท่านั้นที่เห็นแสงสว่างความจริง เขาได้เป็นถึงขุนคลัง แต่เกาะเก้าอี้คลังไม่ได้ ต้องกระเด็นหลุดไป ไปอยู่เกาะซานโตรินี่ เกาะกรีท หรือเกาะแดรกม่า หรือเกาะยูโรก็งั้นๆ มีหรือจะสู้กลับไปเกาะเมีย (Khoh Mia)
    ให้ดูรูปประกอบว่านายยานิสมีความสุขแค่ไหนเวลาอยู่เกาะเมีย
    แต่มีข้อแม้เวลาเกาะเมียต้องท่องคาถาว่า เกาะแน่นๆ อย่าปล่อยให้หลุด ไม่งั้นตายยยยยยยย
    ขอแสดงความยินดีกับพี่ตู่วรวรรณและบูรพาที่ตอบถูกว่า Koh Miaน่าอยู่ที่สุด
    วรวรรณ ธาราภูมิ: เกาะเมียกินค่า
    บูรพา ไม่เเพ้: เกาะเมียกิน
    thanong
    16/7/2015
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    สื่อเผยรัสเซียพร้อมซื้อยาง-ผลไม้ของไทยแลกอาวุธ หวังกระชับสัมพันธ์คานอเมริกา
    มอสโกไทม์ส - สื่อมวลชนแดนหมีขาวรายงาน รัสเซียเตรียมค้าขายยุทโธปกรณ์ทางทหารแลกกับการซื้อยาง ผลไม้และผักจากไทย ขณะที่มอสโกแสวงหาทางกระชับความสัมพันธ์กับอาเซียนท่ามกลางความสัมพันธ์ที่กำลังเลวร้ายลงเรื่อยๆกับชาติตะวันตกเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
    สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ รายงานนายเดนิส มันตูรอฟ รัฐมนตรีพาณิชย์ของรัสเซียเผยเมื่อวันพุธ(15ก.ค.) ว่ามอสโก มีความตั้งใจขายอาวุธมูลค่ามากกว่า 160 ล้านดอลลาร์(ราว5,400ล้านบาท) แก่ไทย แลกกับการซื้อยางในมูลค่าที่พอๆกัน
    อาร์ไอเอ โนวอสติ อ้างคำสัมภาษณ์ของนายมันตูรอฟ กล่าวต่อว่าสัญญาการซื้อยางอย่างน้อย 80,000 ตันจะมีการลงนามในเดือนกันยายนและจะมีการส่งมอบในเดือนหน้า พร้อมระบุว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ใช่การแลกเปลี่ยนโดยตรง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ ไทย จะซื้ออาวุธในมูลค่ามากกว่าที่ มอสโกจะซื้อยางจากกรุงเทพฯ
    นอกจากนี้แล้วทางอาร์ไอเอ โนวอสติ รายงานต่อว่านาย โอเลก ซิเยนโก ซีอีโอของอูราลวากอนซาวอด ผู้ผลิตรถถังและรถไฟสัญชาติรัสเซีย บอกว่าบริษัทของพวกเขาพร้อมขายอุปกรณ์พลเรือนและยุทโธปกรณ์ทางทหารแก่ไทย แลกกับผักและผลไม้เช่นกัน
    ข้อตกลงแลกเปลี่ยนนี้มีขึ้นในขณะที่รัสเซีย กำลังแสวงหาทางกระชับสัมพันธ์กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่สหรัฐฯและอียู ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อมอสโก กรณีที่พวกเขาเข้าไปพัวพันในวิกฤตยูเครน ซึ่งตัดเส้นทางการลงทุนจากตะวันตก
    รายงานของอาร์ไอเอ โนวอสติ ระบุต่อว่า นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย ได้เดินทางมาเยือนไทยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กลายเป็นนายกรัฐมนตรีแดนหมีขาวคนแรกที่เดินทางเยือนไทยในรอบ 25 ปี โดยระหว่างการเยี่ยมเยือนนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย บอกว่าทั้งสองประเทศมีความตั้งใจเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันจากปัจจุบัน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2016
    นอกจากนี้แล้วนายมันตูรอฟ ยังบอกด้วยว่าในส่วนของไทยเองก็แสดงความสนใจในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีกับกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Union: EEU) พันธมิตรเศรษฐกิจของเหล่าอดีตสหภาพโซเวียตที่นำโดยรัสเซีย ตามรายงานของอาร์ไอเอ โนวอสติ หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคม เวียดนามชาติเพื่อนบ้านของไทย ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับ EEU ไปแล้ว
    thanong
    17/7/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000080796
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    มินิซีรี่ส์
    19. สงครามการเงินสหรัฐ vsจีนเต็มรูปแบบ
    Benjamin Fulford นักเขียนทฤษฎีมืด เพิ่งจะออกมายืนยันว่า พวกยิวคาซาร์ที่มีอำนาจบงการธนาคารกลางสหรัฐ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีตลาดหุ้นจีนในช่วงที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าวจากเพนตากอน การโจมตีตลาดหุ้นจีนทำให้หุ้นตกเกือบ40% ก่อนที่รัฐบาลจีนจะเข้าไปแทรกแซงพยุงหุ้นและให้หยุดทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนส่วนมาก
    แม้ว่าFulfordจะไม่ได้เอ่ยชื่อGeorge Sorosว่าอยู่ในกลุ่มยิวคาซาร์ที่โจมตีหุ้นจีน แต่ชื่อของSorosอยู่ในริมฝีปากของเจ้าหน้าที่จีน ว่าเป็นตัวการในการสั่งถล่มหุ้นจีน
    จีนโจมตีตอบโต้ด้วยถล่มระบบคอมฯจนตลาดนิวยอร์คต้องปิดทำการลงเป็นเวลาหลายชั่วโมง แหล่งข่าวเพนตากอนกล่าวเพิ่มเติมว่า สหรัฐรุกกลับด้วยการก่อสงครามอากาศ ด้วยการสร้างพายุไต้ฝุ่นเที่ยมเข้าไปถล่มเซี่ยงไฮ้ทำให้คนจีนหลายล้านคนต้องอพยพหนี
    สหรัฐและจีนล่อกันทั้งสงครามการเงิน สงครามไซเบอร์ และสงครามอากาศกันนัวเนียไปหมด
    thanong
    17/7/2015
    Full scale cyber war erupts in wake of Greek default, Pentagon takes on Khazarian mafia
    Posted by benjamin, July 13, 2015
    The Khazarian controllers of the Federal Reserve Board, angered by the BRICS bank, were the instigators of the attack on the Chinese stock markets, pentagon sources say. This burst a bubble, leading to a 40% decline in Chinese stocks before the government intervened and suspended most stock trading. The Chinese counter-attack shut down the New York Stock Exchange etc. This was then, according to pentagon sources, followed by weather warfare as a major typhoon was sent crashing directly into Shanghai, forcing the evacuation of a million people.
    อ้างอิง
    1. https://kauilapele.wordpress.com/…/full-article-benjamin-f…/
    2. http://edition.cnn.com/…/asia-weather-typhoons-linfa-chan-…/
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    มินิซีรี่ส์
    20. สงครามการเงินสหรัฐ vsจีนเต็มรูปแบบ
    จีนกำลังเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพทางทหาร เพื่อที่จะรองรับความเป็นมหาอำนาจโลกใหม่ จะลอยค่าเงินหยวนให้เป็นเงินสกุลหลักของโลก โดยไม่มีแสนยานุภาพทางทหารมาหนุนหลังจะไม่สามารถทำได้ เพราะว่าเงินดอลล่าร์สหรัฐหนุนโดยน้ำมันของตะวันออกกลางและสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด
    แม้ว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร แต่จีนยังคงตามหลังรัสเซีย ตุรกี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เยอรมัน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และสหรัฐในแง่การใช้จ่ายทางทหารต่อหัวประชากร
    ตอนนี้จีนมีการใช้จ่ายทางทหาร $216,000ล้าน แม้ว่าจะนวนนี้จะมาก แต่ยังคงเทียบเท่าแค่1ใน 3ของที่สหรัฐ
    ในแง่จีดีพี จีนใช้จ่ายงบประมาณทางทหารเทียบได้เท่ากับ2.1% เปรียบเทียบกับ3.8%สำหรับสหรัฐ
    สหรัฐเป็นจักวรรดินิยมทางทหารที่ยิ่งใหญ่สุด เพราะว่ามีฐานทัพประจำอยู่133ประเทศทั่วโลก เรียกได้ว่าแทบทุกประเทศบนโลกนี้เป็นอาณานิคมทางทหารของสหรัฐ
    ส่วนจีนยังไม่ได้มีฐานทัพอยู่นอกประเทศเลยแม้แต่ประเทศเดียว ทำให้ต้องตกอยู่ในสภาพตั้งรับอยู่ในเวลานี้ เพราะว่าสหรัฐมีฐานทัพอยู่ในประเทศที่รายล้อมจีนไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ กีร์จีสถาน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ กวม อัฟกานิสถาน และดีโก การ์เซีย
    สหรัฐกำลังเปิดศึก2ด้าน ทั้งฝั่งรัสเซียและจีน เพราะรู้ดีว่าอำนาจของทั้ง2ประเทศนี้เมื่อรวมกันแล้วผ่านเขตเศรษฐกิจยุเรเซีย และเส้นทางสายไหมใหม่จะเป็นผู้กำหนดอนาคตความเจริญทางเศรษฐกิจของโลก รวมทั้งเงินสกุลหลักของโลก
    thanong
    17/7/2015
    INFOGRAPHIC: Balance of superpowers -- Comparing the armed forces of US and China | South China Morning Post
     

แชร์หน้านี้

Loading...