ติดตามสถานะการณ์

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/kyhCOPh48ew" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ปอกเปลือก ทรราช

เก็บตกวันชาติอเมริกา... ประชาชนชาวอเมริกันบางคนไม่รู้ว่าพวกเขาฉลองวันชาติ (Independence Day) เพื่ออะไร และทำไม หรือมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อย่างไร แต่ก็ยังจะร่วมฉลองต่อไป ฮี่ๆๆ นั่นแหละผลิตผลของระบบการศึกษาในภาควิชาประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ อ้อ… คลิปนี้มียอดผู้เข้าชม 1 ล้านกว่าคนแล้วนะ
เฉลย วันชาติ (Independence Day) ของสหรัฐอเมริกาตรงกับวันที่ 4 ก.ค.ของทุกปี จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 4 July 1776 โดยมีการเสนอต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2 July 1776 และวันที่ 4 สภาคองเกรสอนุมัติ เพื่อประกาศเป็นเอกชาติ (อิสรภาพ) จากการเป็นเมืองขึ้นและส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอังกฤษ (สหราชอาณาจักร)
--------------
Some People Do Not Know What They Celebrate on July 4, but Still Celebrate / Sputnik International
https://www.youtube.com/watch?v=kyhCOPh48ew

 

ปอกเปลือก ทรราช
ไชโย! อิหร่านได้ทองคำ 13 เมตริกตันคืนหลังจากถูกสหรัฐฯล็อกไว้ในแอฟริกาใต้



--------------
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.58 ที่ผ่านสำนักข่าว Sputnik news รายงานว่า อิหร่านได้รับทองคำจำนวน 13 เมตริกตันคืนซึ่งเป็นผลจากการเจรจาเรื่องปัญหานิวเคลียร์กับมหาอำนาจ P5+1 (สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซ๊ย จีน และเยอรมันนี) ที่กรุงเวียนนา (เมืองหลวงของออสเตรีย) ตามคำแถลงการณ์ของผู้ว่าธนาคารกลางของอิหร่าน รายงานบอกว่าประเทศอิหร่านไม่สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ของตนเอง (ทองคำ) หลังจากที่ถูกนานาชาตินำโดยสหรัฐฯแซงชั่นเมื่อสองปีที่ผ่านมา
ผู้ว่าธนาคารกลางของอิหร่านกล่าวว่า คณะทำงานของอิหร่านในกรุงเวียนนาได้หาทางนำทองคำของตนเองจำนวน 13 ตันกลับเข้าไปยังประเทศของตน กล่าวโดยสรุปว่า ทองคำจำนวนดังกล่าวไม่ได้ถูกนำเข้าไปยังกรุงเตหะราน เนื่องจากปัญหาที่ไร้เหตุผล (illogical problems) ซึ่งสร้างภายใต้ข้ออ้างการแซงชั่น (ตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา)
หลังจากที่มีการเจรจากันอย่างหนักและนาน 1 เดือนรัฐบาลอิหร่านก็ได้ทองคำจำนวน 13 ตันคืน ซึ่งอิหร่านได้นำไปฝากไว้ที่แอฟริกาใต้เป็นระยะเวลา 2 ปี
ส่วนการเจรจาปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านนั้น เดิมทีมีกำหนดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ เพื่อที่จะยกเลิกการแซงชั่นอิหร่าน จึงมีการขยายเวลาออกไปถึงวันที่ 7 ก.ค.58 และเมื่อวันที่ 4 ก.ค.58 ที่ผ่านมาทางอิหร่านบอกว่า หากการเจรจาล้มเหลวอีก คราวนี้อิหร่านก็จะนำเรื่องที่พูดคุยบนโต๊ะเจรจาต่อรองในที่ประชุมขชองมหาอำนาจ P5+1 ออกมาเปิดเผยและเผยแพร่แฉให้โลกรู้ซะเลยว่าใครพูดอะไร และต้องการอะไร ต่อรองอะไรกันบ้าง
ซวยแล้วไหมหละสหัฐฯกับอียู แม้ว่าจะเป็น P5+1 แต่ฝ่ายยุโรปเล่นไพ่สองมือคือเพิ่ม EU เข้าไปด้วยหนึ่งเสียง ดังนั้นในที่ประชุมจึงมีทั้งหมด 8 เสียง 8 ฝ่ายซึ่งรวมทั้งอิหร่านและอียูด้วย ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าสหรัฐฯจะจองผูกขาดการเป็นผู้ส่งออกเครื่องหมุนเหวี่ยงยูเรเนียมไปให้อิหร่านแต่เพียงผู้เดียวซะด้วย (อ่านเจอข่าวนี้เมื่อเร็วๆนี้แหละ แต่พอจะอ้างอิงให้กลับหาไม่เจอซะนี่ขออภัยด้วยครับ)
เพราะอะไรสหรัฐฯถึงเลือกที่จะผูกขาดแต่เพียงฝ่ายเดียวไม่ให้ประเทศอื่นขายให้อิหร่านด้วย? ก็จะอะไรอีกหละ ก็เหมือนกับที่สหรัฐฯขายเฮลิค็อปเตอร์ให้อียิปต์วันดีคืนดีก็บอกว่าไม่จัดส่งให้อียิปต์นั่นแหละ และก็คล้ายกับกรณีของอีรัคด้วย วันดีคืนดีสหรัฐฯก็หยุดส่งอาวุธให้กองทัพอิรัคเฉยเลย เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการกดดันให้รัฐบาลของอียิปต์และอิรัคทำตามคำสั่งของสหรัฐฯ ดังนั้นทั้งสองประเทศจึงหันมาคบกับรัสเซียมากขึ้น พี่ใหญ่นักเลงโตอันธพาลของโลกไม่พอใจ หาว่ารัสเซียตัดหน้า แล้วการก่อการร้ายในอียิปต์จึงเริ่มรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งรวมที่พวกไอซิสในอิรัคก็ขยายอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นด้วย งานนี้ก็เหมือนกัน ลูกไม้ตื้นๆ คิดว่าอิหร่านและรัสเซียรวมทั้งจีนคงจะไม่ยอมง่ายๆแน่
สรุป อิหร่านเกือบถูกสหรัฐฯแฮ็ปทองคำจำนวน 13 ตันไปกินอย่างหน้าตาเฉยแล้วไหมหละ ถ้านานกว่านี้รับรองว่าไม่ได้คืนแน่ ดีนะที่เอาไปฝากไว้ที่แอฟริกาใต้ ถ้าเอาไปฝากไว้ที่สหรัฐฯหรือในตะวันตก ฝันเหอะว่าจะได้คืน อิหร่านบอกว่าการเอาทองคำไปฝากไว้ต่างประเทศไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง สู้เอากลับมาไว้ในประเทศตัวเองดีกว่า ฮี่ๆ ฝันค้างอีกแล้วสหรัฐฯเอ๋ย
The Eyes
05/07/2558
---------------
Unfrozen Bullion: 13 Metric Tons of Gold Returned to Iran From South Africa / Sputnik International
Iran to Declassify Information on Nuclear Talks In Case of Failure / Sputnik International

 

Thanong Fanclub



7. 4 บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ
หลังวิกฤติการเงิน2008 มีกลุ่มเคลื่อนไหวที่เรียกตัวเองว่าOccupy Wall Streetเกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในสังคม เพราะว่านโยบายของโอบามารวมทั้งธนาคารกลางของสหรัฐแก้ไขปัญหาวิกฤติด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องทำให้คนรวย1% โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกนักการเงินWall Streetยิ่งจะรวยขึ้นไปอีก ส่วนจนอเมริกันทั่วไป99%ไม่ได้ประโยชน์อะไร แถมมีแต่จะจนลง
พวกแบงค์เก้อร์Wall Streetสร้างปัญหาการเงินให้สหรัฐ แต่ท้ายที่สุดได้ประโยชน์มากที่สุดในนโยบายbail outหรือการอุ้มระบบการเงินทั้งกระบิ
พวกOccupy Wall Streetสร้างกระแสได้ระยะหนึ่ง แต่เมื่อสื่อกระแสหลักไม่เอาด้วย หาว่าพวกนี้เป็นพวกขี้แพ้ ไม่ยอมหางานทำ บ่นหรือประท้วงไปก็ไม่ก่อประโยชน์อันใด แถมยังโดนเจ้าหน้าที่ของรัฐอุ้มขัดขวางการประท้วง ทำให้กระแสOccupy Wall Streetที่จุดติดขึ้นมาแล้วลามไปทั่วสหรัฐ และตามศูนย์กลางการเงินต่างๆของโลกต้องแผ่วลงไป จนทุกวันนี้ไม่อยู่ในหน้าข่าวอีกต่อไป ยกเว้นอยู่ในสื่อกระแสรองหรือตามบล๊อค
สิ่งที่นักเคลื่อนไหวOccupy Wall Streetเรียกร้องสมเหตุสมผลหรือไม่?
ปรากฎว่ารายงานวิจัยของSwiss Federal Institute of Technologyที่ซูริคที่ได้เผยแพร่ออกมาในปี2011 ยืนยันสิ่งที่พวกOccupy Wall Streetเรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตลอดว่า ระบบเศรษฐกิจและการเงินของโลก ถูกครอบงำโดยกลุ่มเล็กๆที่เป็นเจ้าของและมีอิทธิพลมากมายเหลือคณา
รายงานการวิจัยสุ่มตัวอย่าง43,000บริษัทข้ามชาติ (multinational corporations)ทั่วโลก และพบว่ามีกลุ่มการเงินและบริษัทกลุ่มเล็กๆถือหุ้นไขว้กันไป ไขว้กันมาในโครงสร้างความเป็นเจ้าของที่สลับซับซ้อนเพื่ออำพรางตัวเอง และกลุ่มนี้มีอิทธิพลเหนือบริษัทข้ามชาติ และแบงค์ยักษ์ต่างๆ ทำให้สามารถครอบงำเหนือระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกโดยปริยาย
จาก43,000บริษัทข้ามชาติ พวกนักวิจัยสร้างโมเดลขึ้นมาเพื่อศึกษาโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่ไขว้กันสลับไปมา และพบว่าจาก43,000บริษัทข้ามช่ตินี้มี1,318บริษัทที่เป็นผู้ถือหุ้นหลักที่เกี่ยวพันกันและเป็นเจ้าของเศรษฐกิจโลกที่แท้จริง เพราะว่ามีรายได้รวมกัน60%ของรายได้ทั้งหมดของโลก
จาก1,318บริษัทนี้ พวกนักวิจัยสวิสศึกษาลงลึกต่อไปถึงความเชื่อมโยงระหว่างกัน และพบว่ามี147บริษัทที่ถือหุ้นไขว้กันหรือมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง กลุ่ม147บริษัทนี้คอนโทรลรายได้40%ของเครือข่ายบริษัทข้ามชาติทั้งหมด
กล่าวโดยสรุปกลุ่ม147บริษัทที่เทียบเท่า1%ของบริษัทข้ามชาติทั้งหมดเป็นเจ้าของ40%ของรายได้โลกทั้งหมด
และใน147 บริษัทนี้ มี50บริษัทที่เป็นเจ้าของที่อยู่ชั้นในลึกสุดจริงๆคือ
The top 50 of the 147 superconnected companies
1. Barclays plc
2. Capital Group Companies Inc
3. FMR Corporation
4. AXA
5. State Street Corporation
6. JP Morgan Chase & Co
7. Legal & General Group plc
8. Vanguard Group Inc
9. UBS AG
10. Merrill Lynch & Co Inc
11. Wellington Management Co LLP
12. Deutsche Bank AG
13. Franklin Resources Inc
14. Credit Suisse Group
15. Walton Enterprises LLC
16. Bank of New York Mellon Corp
17. Natixis
18. Goldman Sachs Group Inc
19. T Rowe Price Group Inc
20. Legg Mason Inc
21. Morgan Stanley
22. Mitsubishi UFJ Financial Group Inc
23. Northern Trust Corporation
24. Société Générale
25. Bank of America Corporation
26. Lloyds TSB Group plc
27. Invesco plc
28. Allianz SE 29. TIAA
30. Old Mutual Public Limited Company
31. Aviva plc
32. Schroders plc
33. Dodge & Cox
34. Lehman Brothers Holdings Inc*
35. Sun Life Financial Inc
36. Standard Life plc
37. CNCE
38. Nomura Holdings Inc
39. The Depository Trust Company
40. Massachusetts Mutual Life Insurance
41. ING Groep NV
42. Brandes Investment Partners LP
43. Unicredito Italiano SPA
44. Deposit Insurance Corporation of Japan
45. Vereniging Aegon
46. BNP Paribas
47. Affiliated Managers Group Inc
48. Resona Holdings Inc
49. Capital Group International Inc
50. China Petrochemical Group Company
ในรายการนี้มีเพียงVanguard Group และState Street Corporation หรือ2ใน4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ อีก2บุรุษตกสำรวจไป
อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าพวกอำมาร์ตโลกกลุ่มเล็กๆสามารถสร้างฐานะและระบบขึ้นมาจนสามารถครอบงำบริษัทข้ามชาติและสถาบันการเงินของโลกได้อย่างเบ็ดเสร็จ เกือบจะสมบูรณ์หมด
ระบบเศรษฐกิจ การค้าและการเงินโลกคือระบบผูกขาดนั้นเอง ไม่มีการค้าเสรี มีแต่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ไทยเรายิ่งเปิดประเทศ ยิ่งจะโดนปลาใหญ่พวกนี้กินหมดจนเราจะไม่เหลืออะไร
thanong
5/7/2015
Revealed – the capitalist network that runs the world - physics-math - 19 October 2011 - New Scientist

 

Thanong Fanclub



8. 4 บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ
ในปี1983 90%ของสื่อในสหรัฐอยู่ใต้การคอนโทรลของ 50บริษัท แต่ในปี2011 90%ของสื่อสหรัฐตกอยู่ภายใต้การควบคุมของ 6บริษัทเท่านั้น
หมายความว่าสื่อสหรัฐตกอยู่ภายใต้การผูกขาดทั้งทางธุรกิจและที่สำคัญกว่านั้นทางความคิดก็ถูกผูกขาดด้วย
โดยปกติแล้วสื่อมีอิทธิพลมากในการเสนอข่าวให้เป็นไปตามความเป็นจริง วิเคราะห์ข่าวให้ตรงกับความเป็นจริง และเสนอทางออกให้ตรงกับผลประโยชน์ของประชาชน
แต่เมื่อสื่อถูกผูกขาดทางธุรกิจและความเป็นเจ้าของ การรายงานข่าวของสื่อสหรัฐจะสะท้อนผลประโยชน์ของบริษัทหรือเจ้าของสื่อที่ต้องการให้การรายงานข่าวไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนต่อไป
1. GE ซึ่งเป็นเจ้าของ Comcast, NBC, Universal Pictures, Focus Features
2. News Corp ซึ่งเป็นเจ้าของ Fox, Wall Street Journal, New York Post
3. Disney ซึ่งเป็นเจ้าของABC, ESPN, Pixa, Miramax, Marvel Studios
4. Viacom ซึ่งเป็นเจ้าของ MTV, Nick Jr, BET, CMT, Paramount Pictures
5. Time Warner ซึ่งเป็นเจ้าของ CNN, HBO, Time และWarner Brothers
6. CBS ซึ่งเป็นเจ้าของรายการ Showtime, Smithsonian Channel, NFL.com, Jeopardy และ60 Minutes
เราทราบกันดีแล้วว่า 4บุรษอาชามหาโลกาวินาศเป็นผู้ถือหุ้นหลัก หรือเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์เหล่านี้ เพราะฉะนั้นจึงควบคุมสื่อของสหรัฐโดยปริยาย
ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นจุดยืน หรือการรายงานข่าวของสื่อสหรัฐไม่ว่าCNN, New York Times, Washington Post, CBS, CNBCต่างไปในทิศทางเดียวกัน คือกระหายสงคราม ต้องการให้สหรัฐเป็นตำรวจโลกไปทุกที่ ต้องการให้มีการเผชิญหน้ากับรัสเซียและจีน
สื่อสหรัฐยุคนี้อาจรายงานข่าวหรือเขียนบทวิเคราะห์แตกต่างกันไปบ้างแต่พอเป็นพิธี แต่โดยเนื้อหาสาระหลักแล้ว ต่างก็มุ่งเน้นที่จะสนับสนุนและสะท้อนนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ ที่ทำงานรับใช้ผลประโยชน์ของ4บุรษอาชามหาโลกาวินาศอีกต่อหนึ่งอย่างเต็มที่
ประชาชนอเมริกันส่วนมากจึงไม่เห็นความจริงอีกด้าน เพราะว่าโดนปิดหูปิดตาหมดให้รับข้อมูลข่าวสารแต่ด้านเดียว ที่พอจะพึ่งพาได้ก็คือสื่อออนไลน์ทางเลือก แต่สื่อออนไลน์ทางเลือกก็ถูกเข้าไปแทรกแซงทำให้ข้อมูลสับสน เรื่องจริงกลายเป็นทฤษฎีสมคบคิด เรื่องโกหกกลายเป็นเรื่องจริง
สถานการณ์สื่อกระแสหลักของสหรัฐเป็นไปในทางที่เป็นปฏิปักษ์กับผลประโยชน์ของคนอเมริกันและชาวโลกจริงๆ
thanong
5/7/2015

 

Thanong Fanclub



9. 4 บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ
ดังกล่าวมาแล้วว่า4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศสันตะโร หรือVanguard Group, BlackRock, State Street Corpและ Fidelityเป็นกลุ่มโฮลดิ้งที่ถือหุ้นในแบงค์และบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ทำให้อำนาจเหนือระบบการเงินและภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
4บุรษอาชามหาโลกาวินาศนี้มีหลายร่างทรง อีกร่างทรงหนึ่งคือธนาคารกลางที่สำคัญของโลกตะวันตก คือUS Federal Reserve, Bank of England, European Central Bank และSwiss National Bank โดยมีBank of Japanเป็นตัวโจ๊กเก้อร์
ธนาคารกลางเหล่านี้ไม่ได้ดูแลเงินเฟ้อหรือค่าเงินตามบทบัญญัติ แต่ต่างดำเนินนโยบายทำลายค่าเงินเพื่อเกื้อหนุนการขยายตัวของเครดิต และช่วยสร้างฟองสบู่การเงิน โดยที่ผู้ที่เข้าถึงเม็ดเงินที่สร้างขึ้นมาโดยธนาคารกลางก่อนเพื่อนหรือพวกแบงค์จะได้ประโยชน์สูงสุด รองลงมาคือบริษัทในเครือที่ได้กู้ยืมเงินดอกเบี้ยเกือบจะเป็นการให้เปล่าๆ
พวกที่รวย0.001%ยิ่งรวยหรือมีอำนาจมากยิ่งขึ้น พวกคนทั่วไป99%ที่ไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนจะจนลง
จะเห็นได้ว่าร่างทรงของ4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสุดๆ จนดอกเบี้ยทะลุจาก0%ไปติดลบในกรณีของSwiss National Bank และEuropean Central Bank
นโยบายขยายผ่อนคลายการเงินแบบสุดโต่งของร่างทรงของ4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศทำให้งบดุลในบัญชีขยายโตเป็นฟองสบู่ จนไม่รู้ว่าจะหาทางลงหรือดูดเงินกลับอย่างไรให้ภาวะตลาดกลับคืนสู่สภาวะปกติ เพราะว่าถ้าจะดูดเงินกลับ ดอกเบี้ยจะทะยานสูงในขณะที่คุณภาพทรัพย์สินของสหรัฐ ยุโรปลและญี่ปุ่นอ่อนแอ จะทำให้ระบบเศรษฐกิจล่มสลาย
ในระหว่างเดือนมกราคม2007 ถึงมกราคม 2014 งบดุลของธนาคารกลางอังกฤษขยายตัวถึง471% เทียบกับ470%สำหรับธนาคารกลางของสหรัฐ 443%สำหรับธนาคารกลางสวิส 199%สำหรับธนาคารกลางของสหภาพยุโรป 193%สำหรับธนาคารกลางของญีปุ่่น
เรียกได้ว่าแข่งกันปั๊มเงินเพื่อดันฟองสบู่ตลาดหุ้น และตลาดบอนด์เพื่อรักษาความมั่งคั่งของ4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ โดยไม่สนใจเศรษฐกิจพื้นฐานที่ไม่ได้เติบโตจากนโยบายการเงินที่บ้าคลั่งแบบนี้ และโดยที่ประชาชนเดินดินกินเงินเดือนไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่โดนเงินเฟ้อทำลายอำนาจซื้อของเงิน
เมื่อสร้างฟองสบู่ สักวันฟองสบู่ต้องแตก และเกมล่าสุดนี้ รอบของมันผ่านมาครบ7ปีแล้ว ต้องดูเกมต่อไปว่า4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศจะบริหารระบบการเงินในช่วงฟองสบู่แตกอย่างไรเพื่อที่จะรักษาอำนาจและความร่ำรวยของตัวเองต่อไป
thanong
5/7/2015

 

Thanong Fanclub



10. 4 บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ
ในสงครามเมืองทรอย พวกกรีกโบราณใช้อุบายม้าไม้เพื่อเอาชนะพวกทรอยหลังจากทำสงครามมานาน และไม่สามารถเอาชนะได้ จึงใช้เล่ห์ทิ้งม้าไม้ไว้หน้าประตูเมืองทรอยแล้วล่าทัพกลับไป ทั้งๆที่ไม่ได้กลับไปจริงๆ ในม้าไม้มีทหารกรีกผู้กล้าซ่อนตัวอยู่ พวกทรอยไม่เฉลียวใจในอุบายนี้ พากันชักม้าไม้เข้าไปในเมือง และดื่มฉลองชัยชนะต่อพวกกรีกอย่างเอิกเกริกจนเมามายไร้สติ ตกดึกทหารกรีกออกมาจากท้องม้าและฆ่าพวกทรอยล้มตายจนเกลื่อนเมือง
ในวิกฤติการหนี้กรีซปัจจุบันที่กรีซมีปัญหากับเจ้าหนี้ทรอยก้ายุโรป มีการใช้อุบายม้าไม้ด้วยเหมือนกัน แต่ผู้ที่ใช้กลับเป็นพวกทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วยสหภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และกรีซกลับเป็นฝ่ายหลงกลในอุบายม้าไม้เสียเอง
นักวิจัยเศรษฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมัน F. William Engdahlตั้งข้อสังเกตุว่า Yanis Varoufakisน่าจะเป็นม้าไม้ของพวกทรอยก้าที่ส่งเข้ามาเพื่อทำลายกรีซ และพวกอิลิทของกรีก โดยผลกระทบนี้จะเป็นการทำลายประเทศในยูโรโซนไปด้วย
Engdahl อ้างPaul Craig Roberts อดีตผู้ช่วยรมวคลังของสหรัฐสมัยรัฐบาลเรแกนว่า เป้าหมายหลักของพวกอิลิทของยุโรปคือการรวมตัวยุโรปให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นสหรัฐแห่งยุโรปเหมือนสหรัฐอเมริกา
ในที่สุดแล้วประเทศที่อยู่ในเขตยูโรทั้งหลายจะเจอผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินคล้ายกับกรีซที่เป็นตัวจุดปะทุ จนกระทั่งทางออกทางเดียวคือประเทศในเขตยูโรโซนต้องยกอำนาจอธิปไตยในการเก็บภาษีและงบประมาณการคลังให้กับอิลิทยุโรปที่บรัสเซลล์ ที่คุมการพิมพ์เงินยูโรของธนาคารกลางยุโรป ซึ่งจะพิมพ์เงินให้ประเทศใดประเทศนั้นหรือระบบแบงค์ของประเทศนั้นก็รอด จะแกล้งเล่นงานไม่พิมพ์เงินให้ประเทศใด ประเทศนั้นหรือระบบแบงค์ของประเทศนั้นก็จะล่มสลาย
อียูและธนาคารกลางยุโรปกำลังสร้างกลไกเพื่อให้เกิดมีการปล่อยกู้อย่างเลยเถิดให้ประเทศในยุโรป หลังจากมีปัญหาหนี้ ประเทศนั้นจำต้องขายทรัพย์สินของแผ่นดินออกมา ต้องตัดเงินบำนาญและสวัสดิการสังคมต่างๆ สูตรการสร้างวิกฤติการหนี้ประเทศนี้จะนำมาใช้กับทุกประเทศ โดยมีกรีซเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้ว
ในที่สุดประเทศในอียูจะสูญเสียอำนาจอธิปไตย และบรัสเซลล์จะเข้าไปยึดอำนาจอธิปไตยของทุกประเทศมารวมศูนย์
Engdahlบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่Varoufakisทำงานให้พวกอิลิทของยุโรป เพราะว่าเขามีความคิดที่เห็นด้วยกับนโยบายรัดเข็มขัด ที่ผ่านมาเขาเป็นที่ปรึกษาให้นายกรัฐมนตรีกรีกคนที่แล้วคือ George Papandreouที่ดำเนินนโยบายรัดเข็มขัด จนกรีซล้มลุกคลุกคลาน แต่ธนาคารของอิตาลีและฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าหนี้ได้รับการอุ้มจากอียู
ก่อนหน้านี้Varoufakis เอ่ยปากชมMario Draghi ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป และแนวทางที่จะทำให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป จนทำให้กรีซติดกับดักกับแผนรัดเข็มรัดของทรอยก้าในเวลานี้
Engdahl ให้ความเห็นต่อไปอีกว่า ถ้าหากVaroufakisเป็นตัวแทนของประเทศกรีซจริงๆ เขาต้องวางยุทธศาสตร์ให้กรีซออกจากเขตยุโร เหมือนกับที่ประเทศไอซ์แลนด์ได้ทำก่อนหน้านี้ โดยการประกาศการหยุดพักชำระหนี้ งดจ่ายหนี้ให้ทรอยก้า แล้วให้กรีซกลับไปพิมพ์เงินสกุลเดิมของตัวเอง ดำเนินมาตรการควบคุมเงินไหลออกจากแบงค์ และหันไปเสริมสร้างสัมพันธ์กับรัสเซีย จีนและกลุ่มประเทศBRICS
แต่Varoufakisยังคงยืนยันที่จะให้กรีซอยู่ในเขตยูโรต่อไป โดยเดินหนีออกจากทางออกที่จะช่วยให้กรีซพ้นจากความหายนะทางเศรษฐกิจด้วยการไปขอความช่วยเหลือจากรัสเซียหรือกลุ่มBRICS
ณ จุดนี้ ดูเหมือนว่าบทบาทของVaroufakisคือทำตัวเป็นม้าไม้ให้กับพวกนายแบงค์ของโลกตะวันตกโดยฝังตัวอยู่ในรัฐบาลกรีซ
และเรารู้แล้วว่าพวกนายแบงค์ของโลกตะวันตกนั้นก็คือ4บุรุษอาชามหาโลกาวินาศนั่นเอง จับเรื่องอะไรไปถึงไหน จะเจอพวกนี้ทั้งนั้น
ในยุคโบราณ กรีกใช้อุบายม้าไม้กับทรอย แต่ในยุคปัจจุบันทรอยก้า -- หรือว่าเป็นทรอยที่กลับมาเกิดใหม่ --กลับมาล้างแค้นด้วยการใช้อุบายม้าไม้กับกรีซในวงจรของการล้างแค้นที่ไม่มีวันจบสิ้น?
thanong
5/7/2015
Is Varoufakis Eurozone's Trojan Horse in Greece's Government? / Sputnik International

 

Thanong Fanclub



โหวตโน61%; โหวตเยส39%
ประชาชนชาวกรีกส่วนใหญ่แสดงพลังออกมาแล้วว่า ไม่เอาแผนฟื้นฟูการเงินกรีซที่เสนอโดยเจ้าหนี้ยุโรปที่ให้บีบรัดเข็มขัดในการลงประชามติในวันอาทิตย์ที่5กรกฎาคมที่ผ่านมา
ผลโหวตประชามติคือ 61%ไม่เอาแผนเจ้าหนี้ และ39%เอาแผนเจ้าหนี้
นายกรัฐมนตรีศรีปราชญ์โล่งอกไป เพราะว่าเขาเป็นคนจัดให้มีการลงคะแนนประชามติหลังจากที่ใช้ไม้ตายไม่รับแผนฟื้นฟูการเงินแบบรัดเข็มขัดอย่างรุนแรงของเจ้าหนี้ทรอยก้าที่ไม่ยอมลดหนี้ให้เลย
ศรีปราชญ์ยอมผิดนัดชำระหนี้ในวันที่1กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วที่ผิดนัดชำระหนี้ในประวัติศาสตร์การเงินสมัยใหม่ เขาประกาศใช้มาตรการคุมเงินไม่ให้ไหลออกจากแบงค์ และปิดการให้บริการของแบงค์เพราะว่ากลัวประชาชนจะแห่ไปถอนเงินจนแบงค์ไม่มีเงินจ่าย ให้ประชาชนถอนเงินจากATMได้วันละไม่เกิน60ยูโร เสร็จแล้วศรีปราชญ์เรียกร้องให้ประชาชนกรีกโหวตโนในประชามติ
ยังคงมีความสับสนในการตีความผลประชามติของกรีก บางคนบอกว่าผลโหวตโนถือว่าชาวกรีกปฎิเสธการอยู่ร่วมในเขตยูโรโซน แล้วอย่างนี้จะมาเจรจาประนอมหนี้ หรือหาทางแก้ไขปัญหาหนี้เพื่ออยู่ร่วมกับประเทศยูโรอื่นๆอีก18ประเทศทำไม
แต่ทั้งศรีปราชญ์และรัฐมนตรีคลังคู่หูนายศรีธนญชัยYanis Varoufakisได้แสดงจุดยืนแล้วว่าไม่เคยคิดจะเอากรีซออกจากยูโร แต่ต้องการที่จะเจรจาให้ได้เงื่อนไขที่ดีกว่ากับเจ้าหนี้ทรอยก้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการรัดเข็มขัดและการลดหนี้
ศรีธนญชัยรีบคุยกับแบงค์เก้อที่ล้มบละลายแล้วในคืนวันอาทิตย์ เพื่อถกมาตรการเปิดแบงค์ใหม่ในวันอังคาร เพราะว่าวันจันทร์หรือวันนี้ไม่น่าจะเปิดได้ เนื่องจากแบงค์ไม่มีเงินยูโรให้ประชาชนถอน และธนาคารกลางแห่งยุโรปได้ปิดก๊อกไม่ให้ความช่วยเหลือเงินกู้สภาพคล่องฉุกเฉินแก่ธนาคารของกรีซหลังจากศรีปราชญ์ล้มโต๊ะการเจรจากับเจ้าหนี้จนประเทศกรีซผิดชำระหนี้
ศรีธนญชัยบอกว่าหลังจากการลงประชามติแล้ว จะสามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ภายใน24ชั่วโมง
จะตกลงกันได้จริงหรือ เพราะว่านางAngela Merkelผู้นำเยอรมันในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่มีกำหนดที่จะพบกับนายFrancois Hollandeประธานาธิบดีของฝรั่งเศสในกรุงปารีสวันนี้เพื่อถกปัญหาหนี้กรีซ
ทางเยอรมันไม่พอใจกรีซมากที่เบี้ยวหนี้ ทำให้ยูโรระส่ำและเยอรมันอาจจะล่มจมตามไปด้วย ยิ่งผลโหวตโนออกมาอย่างนี้ เหมือนเป็นการตบหน้าเจ้าหนี้
รองนายกรัฐมนตรีเยอรมัน นายSigmar Gabrielยอกว่ามันยากที่จะจินตนาการการเจรจากับกรีซรอบใหม่ เพราะว่าศรีปราชญ์ได้นำพาประเทศของเขาไปสู่หาทางแห่งการละทิ้งอย่างขมขื่นและความสิ้นหวัง
แต่รมวต่างประเทศของอิตาลีนายPaolo Gentiloniบอกว่า ตอนนี้ได้เวลาที่จะพยายามหาข้อตกลงกันอีกครั้่ง ไม่มีทางที่จะหนีออกจากเขาวงกตของกรีซไปได้ เนื่องจากยุโรปกำลังอ่อนแอและไม่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเลย
รมวคลังของเบลเยี่ยมบอกว่าประตูยังเปิดเสมอสำหรับการเริ่มเจรจาใหม่กับกรีซภายในไม่กี่ชั่วโมง
ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศพลิกตัว หลังจากที่ไล่บี้กรีซมาตลอดในการเจรจา ไม่ยอมลดหนี้แต่จะให้รัดเข็มขัดอย่างรุนแรงอย่างเดียว มีรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศที่เปิดทางเอาไว้แล้วสำหรับการประนีประนอมยกหนี้ให้กรีซประมาณ30% จะให้กรีซกู้ปีนี้10,000ล้านยูโร และอีก50,000ล้านยูโรในระยะ3ปีข้างหน้า แต่กรีซยังคงต้องดำเนินมาตรการรัดเข็มขัด โดยเฉพาะการตัดลดงบประมาณบำนาญและการขึ้นภาษีVAT
นี้คือสิ่งที่ศรีปราชญ์และศรีธนญชัยต้องการคือได้ดีลที่ดีขึ้นสำหรับกรีซคือการลดหนี้ และการผ่อนคลายเงื่อนไขการรัดเข็มขัด ทั้งคู่ไม่เคยเอ่ยปากว่าจะเอากรีซออกจากเขตยูโรเลย
ต้องรอดูผลการเจรจากับเจ้าหนี้อีกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมันที่ไม่ต้องการลดหนี้ให้กรีซและไม่พอใจอย่างมากที่ศรีปราชญ์เล่นการเมืองจัดประชามติเพื่อตบหน้าเยอรมัน โดยบีบให้เยอรมันฟังเสียงประชาธิปไตยของแม่แบบกรีซ เพราะว่าความเสียหายจากการลดหนี้ของกรีซ และประเทศในยูโรอื่นที่จะตามมาไม่ว่าจะเป็นเสปน อิตาลี โปรตุเกส หรือแม้กระทั่งฝรั่งเศสจะทำให้เยอรมันไม่มีงบประมาณเพียงพอมาค้ำ
นายเยนส์ ไวด์มันน์ ผู้ว่าการธนาคารกลางของเยอรมนี ( บุนเดสบังก์) ออกโรงเตือนรัฐบาลเมืองเบียร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิง อังเกลา แมร์เคิล ถึง “ความเสียหายใหญ่หลวง” ต่อภาวะทางด้านงบประมาณของเยอรมนี หากว่ากรีซต้องก้าวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่ม 19 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรร่วมกัน
ความจริงแล้ว แม้จะได้ลดหนี้30%และได้เงินกู้ก้อนใหม่มาจากเจ้าหนี้ ก็ไม่แน่ว่าหนทางนี้จะทำให้กรีซรอดจากวิกฤติการเงินที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี2009 เพราะว่ากรีซมีหนี้320,000ล้านยูโร เทียบเท่า185%ของจีดีพี ซึ่งสูงมากเกินไป และการอยู่ในเขตยูโรต่อไปหมายความว่ากรีซจะไม่มีความยืดหยุ่นในนโยบายการเงิน เพราะว่าต้องพึ่งพาการพิมพ์เงินจากธนาคารกลางยุโรป
วิธีที่ดีที่สุดสำหรับกรีซ หลังจากผลโหวตโนประชามติไม่เอาเจ้าหนี้ หรือไม่เอายูโรแล้วถ้าจะตีความต่อไปคือกรีซควรจะ
1. ออกจากยูโร กลับไปพิมพ์เงินของตัวเองคือDrachma จะทำให้มีความยืดหยุ่นในการบิรหารนโยบายการเงิน
2. หยุดพักชำระหนี้ต่อไป ขอลดหนี้ระหว่าง50-60%กับเจ้าหนี้
3. ยึดแบงค์เป็นของรัฐ (Nationalization of the banking system)
4. ขอกู้เงินจากจีน รัสเซียหรือกลุ่มBRICSที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับอยู่แล้ว
5. หลีกเลี่ยงการขายทรัพย์สินของชาติให้ต่างชาติ
6. เงินDrachmaที่อ่อนในระยะแรกจะสร้างปัญหาหนักหน่วงให้กรีซ แต่ระยะต่อไปจะช่วยในการส่งออกด้านการเกษตรและการท่องเที่ยว
7. การลงทุนท่อก๊าซจากรัสเซียและจากธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียของจีนจะช่วยให้กรีซมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในประเทศ
ต้องดูว่าศรีปราชญ์และศรีธนญชัยจะเลือกเดินในแนวทางใดที่จะทำให้กรีซออกจากวิกฤติได้ระหว่างอยู่กับยูโรต่อไปแล้วเป็นทาสของบรัสเซลล์ที่จะเลี้ยงไข้วิกฤติกรีซ หรือว่าจะยอมเจ็บครั้งเดียว ออกจากยูโรโดยมีกลุ่มBRICSรองรับอยู่แล้ว และมีโอกาสฟื้นในระยะยาว
ไม่ว่าจะเลือกเดินทางใหนในทางสองแพร่งนี้ คนกรีกเจนเนอเรชั่นนี้ต้องลำบากอย่างมากในเศรษฐกิจจากผลกรรมในการก่อหนี้ที่เกินตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยถูกเจ้าหนี้หลอกให้กู้เกินตัว เพื้อให้ล้มละลายทีหลัง
ประเทศไทยต้องระวัง เพราะว่าเจ้าหนี้หรือแบงค์มีแต่จะเพิ่มเครดิต และรัฐมีแต่จะสร้างหนี้ ถึงจุดหนึ่งรายได้จะไม่พอจ่ายหนี้เหมือนกรีซ
thanong
6/7/2015
Greece debt crisis: Greek voters reject bailout offer - BBC News

 

Thanong Fanclub



มีโอกาสสูงที่กรีซจะออกจากยูโร
นักวิเคราะห์จากJP Morganและ Barclays Bankมีความเห็นว่า กรีซมีโอกาสออกจากเขตยูโรมากกว่าที่จะอยู่ต่อ หลังการลงประชามติ
การปฎิเสธแผนของเจ้าหนี้อีซีบี ไอเอ็มเอฟและอียูโดยผลของประชามติจะทำให้รัฐบาลกรีซเจรจากับเจ้าหนี้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเจรจาไปแล้วสภาหรือประชาชนอาจจะไม่เอาด้วย
ด้วยเหตุนี้มีความเป็นไปได้สูงกว่าที่กรีซจะออกจากยูโร มากกว่าที่จะอยู่ในยูโรต่อ
แต่เวลาเป็นสิ่งที่รัฐบาลกรีซไม่มี เพราะว่าเงินคงคลังร่อยหรอและแบงค์แทบจะไม่มีเงินให้ประชาชนถอนเงินฝากได้
ถึงแม้ว่ารัฐบาลกรีซปฏิเสธว่าไม่มีแผนพิมพ์เงิน Drachmaเคียงคู่ขนานการใช้เงินยูโร แต่เรื่องนี้มีความเป็นไปได้ ถ้าหากว่าการเจรจารอบใหม่กับเจ้าหนี้ไม่ราบรื่น และปัญหาการเงินรุมเร้าหนักมากยิ่งขึ้น
Teneo Intelligence ของอังกฤษบอกว่ากรีซมีโอกาสออกจากยูโร75% ใน
Evercore ISIในกรุงดีซีบอกว่ากรีซมีโอกาสออกจากยูโร67%ภายใน6ถึง12เดือนข้างหน้า
Oxford Economics Ltdประเมินความเป็นไปได้สูงสุดที่ 85ที่กรีซจะออกจากยูโร
ถ้ากรีซออกจากยูโร ยุโรปจะป่วนหนักแน่ เพราะว่าเสปน โปรตุเกส หรืออิตาลีอาจจะเดินออกตาม เพื่อเบี้ยวหนี้ และกลับมารักษาอำนาจอธิปไตยในการพิมพ์เงินและการดำเนินนโยบายการเงินที่เป็นอิสระมากยิ่งขึ้น แทนที่จะถูกบรัสเซลล์บงการ
thanong
6/7/2015
http://www.bloomberg.com/news/artic...reece-exit-from-euro-now-more-likely-than-not

 

Thanong Fanclub



กรีซเตรียมแผนพิมพ์เงินยูโรเป็นคูปอง หรือไม่ก็พิมพ์ธนบัตรยูโรเองไปเลย
ศรีปราชญ์TsiprasและศรีธนญชัยVaroufakisเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว โดยใช้สงครามกองโจรสู้กับพวกทรอยก้าที่กำลังระส่ำหนัก หลังจากผลประชามติของกรีซที่คะแนนท่วมท้น ส่งสัญญานให้ทรอยก้ารู้ว่า "กูไม่เอามึง"
ศรีธนญชัยให้สัมภาษณ์กับThe Telegraphบอกว่า ถ้าจำเป็นกรีซจะพิมพ์เงินยูโรในรูปคูปองหรือไอโอยูออกมาเคียงคู่ขนานเงินยูโรของอีซีบี เหมือนกับที่รัฐแคลิฟอร์เนียเคยทำมาตอนที่งบประมาณถังแตกไม่มีเงินดอลล่าร์จ่ายบำนาญเงินเดือนพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟ จำต้องออกคูปองดอลล่าร์ไปพลางๆก่อน ผู้ที่รับคูปองดอลล่าร์รับไปโดยเชื่อว่าจะมาแลกเป็นดอลล่าร์จริงได้ทีหลัง แต่สามารถใช้จ่ายได้เหมือนดอลล่าร์จริงภายในรัฐแคลิฟอร์เนีย
ศรีธนญชัยบอกว่าเงินยูโรไอโอยู (ขอติดหนี้ก่อนนะจ๊ะ) จะออกในรูปอีเลคโทรนิค ความจริงควรจะออกเงินอีเลคโทรนิคยูโรไอโอยูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ศรีธนญชัยยืนยันว่ามาตรการนี้ไม่ได้หมายความว่ากรีซจะออกจากยูโร แต่เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของกรีซที่จะออกเงินยูโรเองภายใต้ร่มเงาของการรวมตัวกันทางการเงินของยุโรป
สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะว่ากรีซแทบที่จะไม่มีสภาพคล่องยูโรเหลืออยู่เลย หลังจากเงินฝากโดนแห่ถอน และทางธนาคารกลางยุโรปปิดก๊อกไม่ให้เงินช่วยเหลือสภาพคล่องฉุกเฉินให้ระบบธนาคารกรีซ โดยหยุดเอาไว้ที่85,000ล้่านยูโร หลังจากที่มีการล้มโต๊ะเจรจาหนี้และเกิดการเบี้ยวหนี้ของกรีซขึ้นมาในวันที่1กรกฎาคมที่ผ่านมา
ถ้าจำเป็นจริงๆ กรีซสามารถพิมพ์ธนบัตรยูโรฉบับ20ยูโรเพื่อช่วยในการหมุนเวียนได้ โดยอ้างอำนาจฉุกเฉิน และจะไปยื่นอุทธรณ์กับศาลยุโรป (European Court)ว่า สามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอีซีบี เนื่องจากอีซีบีปิดก๊อกไม่ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่องแกล้งกรีซ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและขัดกับหลักการรวมตัวทางการเงินของยุโรป
เล่นสงครามกองโจรแบบนี้ พวกทรอยก้าฟังแล้วคงต้องอ้าปากหวอ
เพราะว่าศรีปราชญ์และศรีธนญชัยกำลังจะบอกว่า ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ออกจากยูโร แต่พิมพ์เงินคูปองยูโรในรูปอีเลคโทรนิคใช้เอง ถ้าขัดสนจริงๆจะพิมพ์เงินยูโรฉบับละ20ยูโรออกมา โดยไม่ง้อธนาคารกลางยุโรป
ระหว่างGrexit (เกร๊กซิท หรือกรีซออกจากยูโร) กับGeksim (เก๊กซิมหรือปวดหัวโว้ย ) ไม่รู้ว่าพวกทรอยก้าจะเลือกอะไร เพราะว่าโดนลูกหนี้กบฎใช้สงครามกองโจรซัดกลับจนตั้งตัวไม่ติดแล้ว
thanong
6/7/2015
Defiant Greeks reject EU demands as Syriza readies IOU currency - Telegraph

 

Thanong Fanclub



แดรกคิวล่าคืนชีพ
ถ้ากรีซพิมพ์เงินยูโรเอง เพื่อใช้เคียงคู่ขนานเงินยูโรของอีซีบี เท่ากับว่า กรีซกำลังปลุกเงินดร๊ากม่า (Drachma)ของตัวเองให้คืนชีพในรูปแบบหนึ่ง
ดร๊ากม่าที่คืนชีพคือการกลับมาของผีดิบแดรกคิวล่านั้นเอง
ระวังให้ดี แดรกคิวล่ากำลังมา
thanong
6/7/2015

 

Thanong Fanclub



ม้าไม้แจกแกงฟักของกรีซ
การ์ตูนนี้ฮามาก เป็นการบรรยายสรุปสงครามม้าไม้หนี้สูญ ซึ่งเป็นการเผชิญหน้าระหว่างกองทัพลูกหนี้ของกรีซภายใต้การนำของนายพลศรีปราชญ์ และกองทัพเจ้าหนี้ของอียูภายใต้ราชินีแอนเจลล่า จอมขี้เหนียวที่ขับเคี่ยวกันมานานกว่า5เดือน
ในสงครามม้าไม้หนี้สูญนี้ ลูกหนี้กรีซขอกู้เจ้าหนี้อียูต่อเพื่อเอาเงินกู้มาจ่ายหนี้ มิเช่นนั้นจะล้อมกำแพงเมืองอียูจนรำคาญดิ้นแด๋วๆตายไปเอง แต่เจ้าหนี้ยอมทนหน้าด้านไม่ยอมให้กู้ต่อ แต่ต่อรองให้ทหารกรีกรัดเข็มขัดอดอาหาร แลกกับกระดาษกงเต๊กยูโรที่จะพิมพ์ออกมาให้
พวกกรีกบอกว่าอดอาหารจนเหลือแต่กระดูกแล้ว ยังจะให้อดอีก จะให้ตายหรือไง
สงครามหนี้สูญยื้อกันไปมาจนกระทั่งเหนื่อยล้ากันทั้งสองฝ่าย
แม่ทัพศรีธนญชัย มือขวาของนายพลศรีปราชย์ออกอุบายว่า ให้กองทัพกรีกแสร้งทำเป็นเบื่อหน่ายกับการตื้อขอกู้หนี้ต่อไปไม่ไหว ขอล่าทัพกลับไป โอกาสหน้าจะกลับมาทวงเงินกู้ต่อ
แต่ก่อนจะล่าทัพกลับ จะส่งของขวัญม้าไม้เป็นที่ระลึกให้เจ้าหนี้อียูดูเล่น ภายในม้าไม้จะมีผู้ประท้วงดาวดินหัวรุนแรง พวกนี้กินบำนาญแต่ไม่ได้เงินจากรัฐกรีซจะแอบซุกซ่อนตัวอยู่ในม้าไม้เพื่อรอจังหวะออกมาชูป้ายประท้วงเจ้าหนี้
พอพวกทหารอียูหลงกล จะลากม้าไม้เข้าไปในเมืองอียู เพราะคิดว่าทหารกรีกถอยทัพยอมแพ้ไปแล้ว เนื่องจากรู้ตัวว่าไม่มีวันจะได้เงินกู้ก้อนใหม่ ทหารอียูจะฉลองด้วยการเต้นรำ มั่วเซ็กซ์ และดื่มไวน์กันอย่างเอิกเกริก เพราะว่าสามารถขับไล่ลูกหนี้ออกไป และป้องกันไม่ต้องสูญเสียเงินกู้ก้อนใหม่ได้
แม่ทัพศรีธนญชัยรู้จุดอ่อนราชินีแอนเจลล่าที่ชอบของขวัญ ให้คนเอาอกเอาใจตามภาษาผู้หญิงนิสัยเสียที่เป็นใหญ่ ต้องชอบม้าไม้่ รูปร่างเซ็กซี่ที่เป็นของขวัญมาก
พอตกดึกมา พวกนักประท้วงกรีกที่กินบำนาญไม่มีงานทำจะออกมาจากท้องม้าไม้ แล้วชูป้ายแจกแกงฟักให้อียู ขอเงินกู้ก้อนใหม่ ถ้าไม่ได้เงินกู้ จะปักหลักประท้วงต่อไปเป็นดาวดิน
พวกทหารอียูที่กำลังเมามายไร้สติ เพราะดื่มฉลองไปมากตื่นขึ้นมาจะตกใจช๊อค ไม่มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับการประท้วงแจกแกงฟักของพวกดาวดินกรีซต่อไป
พอแม่ทัพศรีธนญชัยเล่าอุบายม้าไม้ให้ฟังเสร็จ นายพลศรีปราชญ์เห็นดีเห็นงามไปด้วยทันที จึงสั่งให้ต่อม้าไม้ แล้วทำตามที่นายพลศรีธนญชัยแนะนำทุกประการ
รูปร่างม้าไม้หนี้สูญออกมาเป็นรูปที่เราได้เห็นกันในภาพการ์ตูนนี้ คือเป็นรูปนิ้วกลางชี้โด๋
พอราชินีจอมขี้เหนียวแองเจลล่าเห็นม้าไม้เท่านั้นก็อุทานขึ้นมาอย่างทันทีว่า "โอ้ๆๆๆๆๆๆ พระเจ้าช่วย!!!"
thanong
6/7/2015

 

ชาวกรีกเร่งกักตุนข้าว-น้ำตาลหวั่นเศรษฐกิจทรุด
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/07/05 9:39 AM



เอเธนส์ 5 ก.ค. – ประชาชนในกรีซต่างเก็บเงินสดไว้และกักตุนอาหารในวันเสาร์ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจจะล่มสลาย โดยยอมจ่ายเงินเพื่อสำรองสิ่งจำเป็นเท่านั้นและกวาดซื้อสินค้าเกลี้ยงซูเปอร์มาร์เก็ต
สถานการณ์ในกรีซ โดยเฉพาะที่กรุงเอเธนส์ จะพบเห็นบรรดาแม่บ้าน ชายสูงอายุและนักศึกษาต่างพากันเข็นรถกว้านซื้ออาหาร รวมทั้งสินค้าพื้นฐาน เช่น น้ำตาล แป้ง พาสต้า และแม้แต่กระดาษชำระ ส่วนใหญ่เป็นการกักตุนสิ่งของจำเป็นและสินค้าอาหารที่สามารถเก็บไว้ได้ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ของกรีซเรียกร้องให้ประชาชนออกเสียงไม่ยอมรับในการลงประชามติในวันนี้ว่า จะยอมรับเงื่อนไขเงินกู้จากกลุ่มเจ้าหนี้ที่ต้องแลกกับการเข้มงวดทางการเงินในกรีซหรือไม่ ด้านนายยานิส วารูฟาคิส รัฐมนตรีคลังกรีซให้สัญญาว่าธนาคารจะเปิดทำการภายหลังการลงประชามติในวันอาทิตย์ ท่ามกลางอนาคตของกรีซที่ยังไม่แน่นอน .-สำนักข่าวไทย

http://www.tnamcot.com/content/225290

 

Kaokala Fc
5 ก.ค. ย้อนวิกฤติกรีซ!สาเหตุหนึ่งเกิดจากทุ่มงบทหารเกินตัว-ใช้เงินแสนล้านซื้อเรือดำน้ำ



กรีซ หนึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วแต่ ณ ปัจจุบันกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างหนักเหมือนดังเช่นที่ทุกคนทราบ ลองมองย้อนกลับไปจะพบว่ากรีซเริ่มเผชิญปัญหาความไม่มั่นคงทางการเงินมาตั้งแต่ช่วงปี 2010 แม้ว่าภาครัฐจะรู้ (หรือไม่รู้) ในเรื่องนี้ แต่ยังคงทุ่มงบจำนวนมากในการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับกองทัพ ทั้งที่กรีซเป็นประเทศขนาดเล็กมีประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่กลับเป็นประเทศที่นำเข้าอาวุธสงครามสูงที่สุดในแถบยุโรปหรือคิดเป็นอันดับ 5 ของโลก หากคิดเป็นสัดส่วน GDP จะพบว่ากรีซมีการใช้งบประมาณทางทหารเกือบสูงที่สุดในยุโรป



ขณะที่เมื่อปี 2010 กรีซซื้อเรือดำน้ำใหม่ 2 ลำจากเยอรมนีมูลค่า 1.3 พันล้านยูโร เรือรบขนาดใหญ่ 6 ลำและเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัยอีก 15 ลำจากฝรั่งเศส รวมถึงเครื่องบินรบ F-16 อีกกว่า 20 ลำจากสหรัฐ ที่คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1.5 พันล้านยูโร ซึ่งพูดได้ว่ากรีซเป็นประเทศที่มีรถถังมากถึง 1,300 คัน มากกว่าประเทศอังกฤษถึงสองเท่า
ด้านสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า ในปีที่ผ่านมานั้นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของกรีซทุ่มเงินกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.2แสนล้านบาท) ในการซื้อเรือดำน้ำที่ยังต่อไม่เสร็จ ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ในกรุงเอเธนส์

โดยสำนักข่าวบิซิเนสอินไซด์เดอร์เผยว่า สาเหตุที่รัฐบาลกรีซทุ่มงบประมาณมหาศาลให้กับกองทัพมากที่สุดแม้ประชาชนกำลังเผชิญกับความยากแค้น มาจากเหตุผล 3 ประการ 1. งบประมาณเหล่านั้นเป็นเงินเดือนให้กับบุคลากรกองทัพ 2. การเมืองระดับภูมิภาค 3. ความกดดันจากการเมืองภายในประเทศ ทั้งนี้ งบประมาณสำหรับกองทัพนั้นเป็นโครงการที่ถูกกล่าวหาว่ามีการคอร์รัปชั่นมากที่สุด

ย้อนวิกฤติกรีซ!สาเหตุหนึ่งเกิดจากทุ่มงบทหารเกินตัว-ใช้เงินแสนล้านซื้อเรือดำน้ำ : มติชน

 

บีบีซีไทย - BBC Thai
เอช. จี. เวลส์ เป็นเจ้าของแนวคิดเรื่องระเบิดปรมาณูใช่หรือไม่



ระเบิดปรมาณูนับเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นของศตวรรษที่ 20 แต่เหตุใดเอช. จี. เวลส์ นักเขียนนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษจึงสามารถทำนายการถือกำเนิดของระเบิดปรมาณูได้ล่วงหน้า 30 ปีก่อนที่จะมันจะถูกจุดชนวนให้ระเบิดเป็นครั้งแรกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ซามีรา อาห์เหม็ด นักเขียนและผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่าเวลส์เริ่มจิตนาการถึงระเบิดมือจากแร่ยูเรเนียมซึ่งจะระเบิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในนวนิยายของเขาที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2457 เรื่อง The World Set Free ซึ่งในนวนิยายเรื่องนี้เขายังทำนายว่าระเบิดดังกล่าวจะถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบิน แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดไว้ก็คือเพื่อน 2 คนของเขาคือวินสตัน เชอร์ชิลล์ ผู้นำอังกฤษ และลีโอ ซีลาร์ด นักฟิสิกส์ผู้โด่งดัง จะนำแนวคิดจากจินตนาการของเขามาทำให้กลายเป็นเรื่องจริง จนทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ใจจากอานุภาพทำลายล้างมหาศาลที่ระเบิดปรมาณูปล่อยออกมา

อาห์เหม็ด บอกว่าที่จริงแล้วเรื่องราวของระเบิดปรมาณู เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยเอ็ดเวิร์ดของอังกฤษ ในช่วงปี 2444-2453 ซึ่งบรรดานักวิทยาศาสตร์ในยุคนั้น อาทิ เออร์เนสต์ รัทเธอร์ฟอร์ดพยายามหาแนวคิดใหม่เพื่อทำความเข้าใจโลกในทางกายภาพ และมีแนวคิดว่าสสารที่มีสถานะเป็นของแข็งอาจประกอบไปด้วยอนุภาคเล็ก ๆ ของอะตอม เวลส์หลงไหลกับการค้นพบใหม่เหล่านี้เป็นอย่างมาก และได้ทำนายนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย ซึ่งเชอร์ชิลล์ได้ยกความดีให้เวลส์ จากการที่เขาเสนอแนวคิดเรื่องการใช้เครื่องบินและรถถังในการรบก่อนหน้าที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยสหายสองคนนี้มักพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดต่าง ๆ กันเรื่อยมาเป็นเวลาหลายสิบปี

เมื่อปี 2475 ซีลาร์ด นักฟิสิกส์ชาวฮังการีซึ่งเป็นเพื่อนอีกคนของเวลส์ ได้อ่านนวนิยายเรื่อง The World Set Free และเชื่อว่าการแยกอะตอมอาจทำให้เกิดพลังงานมหาศาล ซึ่งซีลาร์ดได้เผยในภายหลังว่า เวลส์แสดงให้เขาเห็นว่าการปลดปล่อยพลังงานอะตอมออกมาในปริมาณมากนั้นหมายความว่าอย่างไร และทำให้ในปีต่อมาซีลาร์ดได้ให้กำเนิดแนวคิดเรื่องปฏิกิริยาลูกโซ่นิวเคลียร์

ในเวลานั้นเป็นช่วงเดียวกับที่กองทัพนาซีเริ่มแผ่ขยายอำนาจ ซีลาร์ดจึงเป็นห่วงว่าอาจมีนักวิทยาศาสตร์คนอื่นศึกษาทฤษฎีปฏิกิริยาลูกโซ่และระเบิดปรมาณูเช่นกัน ต่อมาเมื่อปี 2479 นวนิยายของเวลส์เรื่อง The Shape of Things To Come ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Things to Come และมีเนื้อหาที่ทำนายเกี่ยวกับการโจมตีด้วยระเบิดที่มีอานุภาพร้ายแรง และสงครามโลกที่กำลังจะปะทุขึ้น ด้วยเหตุนี้ซีลาร์ดจึงร่างจดหมายให้อัลเบิร์ต ไอน์ไสตน์นำไปส่งให้ประธานาธิบดีแฟรงคลิน รูสเวลต์ เพื่อเตือนอเมริกาว่าเยอรมนีกำลังสะสมแร่ยูเรเนียม นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดโครงการพัฒนาระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ

เวลส์ เสียชีวิตเมื่อปี 2489 ซึ่งก่อนจะเสียชีวิตเขาพยายามผลักดันโครงการสร้างหนังภาคต่อของเรื่อง Things To Come ที่มีเนื้อหาแสดงความกังวลของเขาเกี่ยวกับภัยจากระเบิดปรมาณูที่เขาได้เคยจิตนาการไว้ แต่ไม่เคยมีการสร้างหนังเรื่องดังกล่าว ขณะที่มิตรภาพในช่วงท้าย ๆ ระหว่างเขากับเชอร์ชิลล์ก็เริ่มเย็นชาลง

ท้ายที่สุดแล้ว เวลส์มีความเชื่อว่านักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการทำให้โลกมีสันติสุขเหมือนในนวนิยายของเขา ขณะที่เชอร์ชิลล์ ก็มีความเชื่อว่ามนุษย์จะได้เรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ และคิดว่าการทูตเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะช่วยปกป้องมวลมนุษย์จากการทำลายล้างตัวเองในยุคของระเบิดปรมาณู ส่วนซีลาร์ดซึ่งลงหลักปักฐานในอเมริกาได้อุทิศตนในการรณรงค์ให้พลเรือนเข้าไปควบคุมการใช้พลังงานปรมาณู และยังทำนายว่าต่อไประเบิดโคบอลต์จะทำลายสรรพชีวิตบนโลกใบนี้

ภาพประกอบ- ภาพแรกเมืองฮิโรชิมา หลังจากถูกระเบิดปรมาณูเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2488; ภาพสอง เวลส์เมื่อปี 2487; ภาพ 3 ภาพวาดเชอร์ชิลล์

 

ตรวจสอบบ้านกลางกรุงทรุดตัว Written by: newmedia2015/07/02 8:16 PM

กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – นายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบหมู่บ้านจัดสรรย่านรัชวิภา ที่ลานจอดรถทรุดตัวร่วม 200 หลัง พบการทรุดของดินผิดปกติอย่างมาก และไม่มีการลงเสาเข็มในส่วนลานจอดรถหน้าบ้าน



กล้องวัดระดับและเครื่องวัดความแข็งแรงของคอนกรีต ถูกนำมาใช้เพื่อหาสาเหตุเบื้องต้นของการทรุดตัวในหมู่บ้านจัดสรรย่านรัชวิภา ในจำนวนบ้าน 330 หลังของโครงการฯ มีบ้าน 200 หลัง ที่ลานจอดรถ ซึ่งอยู่หน้าบ้าน ทรุดตัวมากกว่า 1 เมตร



นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ สำรวจพบโครงสร้างของตัวบ้านยังมีความแข็งแรงและไม่ทรุดตัวตาม ส่วนสาเหตุของดินทรุดจะต้องขุดชั้นดินนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ คาดว่าจะรู้ผลในอีก 2 สัปดาห์ เพราะที่ผ่านมามีการสร้างถนนกลางหมู่บ้าน แต่ระดับความสูงของบ้าน 2 ฝั่งถนนไม่เท่ากัน ทำให้น้ำมีโอกาสไหลลงสู่ที่ต่ำกว่า การแก้ไขที่ดีที่สุด เสนอว่า ควรต้องลงเสาเข็มบริเวณลานจอดรถให้มีความลึกเท่ากับตัวบ้าน เพื่อให้เกิดความแข็งแรงมากขึ้น

เจ้าของบ้านส่วนใหญ่บอกว่า ไม่ต้องการเงินชดเชย แต่เรียกร้องให้โครงการฯ รับผิดชอบด้วยการสร้างพื้นคอนกรีตลานจอดรถให้แข็งแรง ตามคำแนะนำของวิศวกรรมสถานฯ และไม่ยอมย้ายไปอาศัยที่อื่น เพราะเป็นบ้านที่ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรง



ขณะที่ตัวแทนโครงการหมู่บ้านจัดสรร เสนอแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการบดอัดดินบริเวณพื้นที่ทรุดตัว และเทคอนกรีตทับ ตามแบบการก่อสร้างเดิม แต่ไม่รับปากว่าจะลงเสาเข็มให้บ้านทุกหลังที่ลานจอดรถทรุดตัวหรือไม่ เนื่องจากการลงเสาเข็มบ้านแต่ละหลังเพิ่ม ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกหลายแสนบาท

มีรายงานพื้นดินใน กทม.ทรุดตัวเฉลี่ย 2 ซม./ปี แต่สำหรับพื้นที่ที่มีการถมดิน เช่น หมู่บ้านจัดสรร ไม่ควรทรุดมากกว่าร้อยละ 10 ของความสูงที่มีการถมดิน ซึ่งนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาดว่า การทรุดตัวของดินในหมู่บ้านแห่งนี้มีความผิดปกติ เพราะทรุดตัวมากเกินเกณฑ์ ขณะที่ปัญหาบ้านทรุดตัวจากโครงสร้างของดินและการสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน มีการร้องเรียนไปยัง สคบ.มากกว่า 1,000 เรื่อง/ปี. – สำนักข่าวไทย

http://www.tnamcot.com/content/223094

 

เตือนภัย พิบัติโลก



5/7/2015 สระบุรีก็ทรุดหนัก
ถนนทรุดตัวลงกว่า2เมตร กินพื้นที่ยาว150เมตร
อ.หนองแค จ.สระบุรี ถนนคันคลองระพีพัฒน์หนองแค-ตู้ยามปากท่อ ห่างจากวัดลำบัวประมาณ 500 เมตร ถนนทรุดตัวระยะประมาณ 150เมตร รถไม่สามารถผ่านได้ เดินทางจะไป วิทยาลัยการอาชีพหนองแค ให้เลี้ยวขาวข้ามสะพานหน้าวัดลำบัว โดยมีกรวยยางและแผงกั้นถนนทั้ง 2 ฝั่ง
cr.เคเค การ์ด

 

อีน เดียวไวละ
เข้าบอกให้ช่วยกดแชที่..ต.สามเมือง.อ.ลาดบัวหลวง.จ.อยุธยา.ขอให้ผู้เกียวข่องรีบเข้ามาดูหน่อยคับเพราะตอนนี่รถยนต์ไม่สามารถวิ้งได้แล้วแล้วมันกำลังจะพังเข้าไปในที่ของมัสยิด..(สุเหร่าใหม่)

 

เยรูซาเล็มโพสต์รายงาน ; การเดินครั้งประวัติการณ์ของเจ้าชายซาอุฯ ไปยังอิสราเอล Category: News & Event Published on Sunday, 05 July 2015 15:02 Written by Islamicstudiesth Team.



"กษัตริย์ซัลมาน นายของฉัน ได้บัญชาให้ฉันเปิดทางสำหรับการเจรจาโดยตรงกับบรรดาผู้นำของอิสราเอลและเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรและด้วยความจริงใจกับอิสราเอลผู้เป็นเพื่อนบ้าน"

ญอมนิวส์รายงานว่า หนังสือพิมพ์เยรูซาเล็มโพสต์ (JPost) ของอิสราเอลได้กล่าวในรายงานหนึ่งว่า : "ในการดำเนินการอันเป็นประวัติการณ์ วะลีด บินฏอลาล เจ้าชายของซาอุดิอาระเบีย จะเดินทางไปยังอิสราเอล"

วะลีด บินฏอลาล เจ้าชายของซาอุดิอาระเบีย และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านสื่อของซาอุดีอาระเบียได้กล่าวว่า เขาจะมีการเดินทางไปยังอิสราเอลโดยใช้ระยะเวลาเจ็ดวัน และได้เรียกร้องบรรดาประเทศอาหรับในภูมิภาคว่า จงใช้ความพยายามเพื่อ "ตะวันออกกลางที่มีสันติภาพมากขึ้น เจริญรุ่งเรืองมากขึ้นและเป็นปึกแผ่นมากขึ้น"

วะลีด บินฏอลาลได้กล่าวต่อไปอีกว่า : "พี่น้องมุสลิมทั้งชายและหญิงทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจว่า การละวางจากความเป็นปรปักษ์ที่ไร้สาระและไร้ความหมายของบรรดาผู้อยู่อาศัยทั้งหมดในตะวันออกกลางที่กำลังเผชิญกับสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การละวางความเป็นปรปักษ์ของชาวอาหรับที่มีต่อชาวยิวนั้นเป็นความจำเป็นทางศีลธรรม"

เขายังได้กล่าวอีกว่า : "กษัตริย์ซัลมาน นายของฉันได้บัญชาให้ฉันเปิดทางสำหรับการเจรจาโดยตรงกับบรรดาผู้นำของอิสราเอลและเสริมสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรและด้วยความจริงใจกับอิสราเอลผู้เป็นเพื่อนบ้าน"

วะลีด บินฏอลาลผู้ซึ่งได้ถูกขนานนามว่าเป็นชายอาหรับที่ร่ำรวยที่สุดนั้น ในคำพูดของเขายังได้แสดงความหวังว่า เรื่องนี้จะทำเครื่องแสดงถึงจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับ "สันติภาพและความเป็นพี่น้อง" ระหว่างอิสราเอลและบรรดาประเทศอาหรับเพื่อนบ้านของมัน นอกจากนี้เขายังย้ำถึงความจำเป็นของการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทางด้านการทหารและหน่วยข่าวกรองของทั้งสองฝ่าย

เจ้าชายซาอุฯ ผู้นี้ได้ประกาศว่าการทำนมาซในมัสยิดอัลอักซอเป็นหนึ่งในแผนการเดินทางของตน



ที่มา : jamnews

เยรูซาเล็มโพสต์รายงาน ; การเดินครั้งประวัติการณ์ของเจ้าชายซาอุฯ ไปยังอิสราเอล

 

ปากท้องน่าห่วงกว่าดาวดินแดง !!โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
5 กรกฎาคม 2558 23:51 น.



เกาะกระแส

00 นาทีนี้แม้ว่าจะพยายามออกแรงเขย่าขย่มกันอย่างไร อย่างมากก็ทำได้แค่มีการพูดถึงกันมาขึ้นเท่านั้น สำหรับการเคลื่อนไหวของ กลุ่มนักศึกษาที่เรียกว่า "ดาวดิน" หรือพวกประชาธิปไตยใหม่ อะไรนั่นก็ตาม พยายาม "จุดไฟ" กันมาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่วันครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร คสช. เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อเนื่องจนถึง "ทีเด็ด"วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง" 24 มิ.ย. ก็ทำใด้แค่ปรากฏเป็นข่าวบ้างเท่านั้น แต่ถ้าบอกว่า "เป็นกระแส" นั้นถือว่า "ยังจุดไม่ติด"

00 แม้ว่าจะใช้ท่าไม้ตาย "ติดคุก" แบบ "ไม่ขอประกันตัว" หวังกระพือผ่านแนวร่วมข้างนอก แต่ในเมื่อไม่อยากประกัน อยากอยู่ในคุกก็ต้อง "จัดให้" ตามคำขอ ซึ่งแน่นอนว่าเด็กๆ พวกนี้เป็นคนหนุ่มสาวไฟแรง การเคลื่อนไหวแบบนี้เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม มีความตื่นตัวทางการเมืองต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพนับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ยังดีกว่าพวกนักศึกษาส่วนใหญ่ที่ในเวลานี้วันๆ เอาแต่บ้าแฟชั่น ความคิดเรื่องสังคมแบบในอดีตที่ลดน้อยถอยลง ดังนั้นการที่มีบรรดาน้องนักศึกษารุ่นใหม่ ที่มีจิตสำนึกทางการเมืองก็นับว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ แต่ก็อย่างว่าแหละ อีกด้านหนึ่งแม้จะชื่นชมเด็กๆ นักศึกษาที่ออกมาต่อต้านเผด็จการ แต่คำถามก็คือ คราวนี้มันมีพิรุธ มีเบื้องหลังที่ถูกพวกหัวหงอกหัวดำ "ที่ขี้ขลาด" ใช้เป็นเครื่องมือเป็นคนจุดไฟสนองตัญหาของตัวเองเท่านั้น

00 ขณะเดียวกันยังมีพวกเครือข่าย "ระบอบทักษิณ" ที่คอยแอบอยู่ข้างหลัง ที่เวลานี้ต่างออกมาในแบบ "ให้กำลังใจ" ซึ่งความหมายก็คือ "ยุอยู่ข้างหลัง" นั่นแหละ วันก่อนเราเห็นพวก ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จตุพร พรหมพันธุ์ วัฒนา เมืองสุข ที่สลอนกันออกมา วันนี้ก็มี พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย ทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาร่วมด้วยช่วยขย่มอีกแรง แต่ก็นั่นแหละ อย่างมากมันก็แค่ถูกพูดถึงมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรมันก็จุดเป็นกระแสไม่ติด ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่บ้าจี้ ไม่บ้าอำนาจ รู้จักยืดหยุ่นไม่ตึงไม่หย่อนเกินไปแบบที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้ ขณะเดียวกัน ฝ่ายความมั่นคงของ คสช. ที่เป็นผู้อำนวยการผู้นำในทางปฏิบัติเวลานี้น่าจะนำโดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. และเลขาฯคสช. ก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว เมื่อทางโน้นพยายามลากให้ยาว ทางฝ่ายอำนาจรัฐ ก็ต้องรู้จักลากยาวเหมือนกัน นั่นคือเมื่อตึงเครียดก็ "ผ่อน" อย่าไปยั่วยุ เหยียดหยาม พูดจาให้เกียรติ ให้ความสำคัญแบบที่ทำมาแล้ว เมื่ออยากติดคุกไม่ขอประกัน ก็ต้องบอกว่า "เสียดาย" ไม่รู้จะทำอย่างไร

00 ต้องไม่ลืมว่า กระแสถ้าคึกคักจะเกิดขึ้นในช่วงสองสามสัปดาห์แรกเท่านั้น แต่เมื่อผ่านไปสักสามสี่สัปดาห์ หากยังจุดไม่ติด สร้างกระแสไม่ได้ เมื่อมันถึงจุดที่พีคสุดไปแล้ว จากนั้นก็จะค่อยๆ ฝ่อลงเรื่อยๆ คนที่เคยอยากติดคุกต่อไป ก็อยากจะออกจากคุกแล้ว ดังนั้นก็ได้แต่หวังว่าจบลงด้วยดี ฝ่ายความมั่นคง ก็อย่าสร้างอารมณ์โกรธเพิ่ม ขณะที่กลุ่มนักศึกษาเมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องออกมาใช้ชีวิตตามปกติ และถือว่าได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว แต่คนที่ต้องประณามก็คือพวก "หัวหงอกหัวดำ" นี่ต่างหากที่ขี้ขลาด แอบอยู่ข้างหลังเด็กๆ ทุเรศจริงๆ ทุด !!

00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากลัวกว่าและจะกลายเป็นว่าสิ่งที่พวกเด็กๆ นักศึกษาพวกนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ก็คือ "ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง" จะผสมโรง ทำให้เป็นจริงขึ้นมาได้ เนื่องจากเวลานี้มองไปทางไหนรอบตัวทุกคนเริ่มมีปัญหาหน้าเครียดขึ้นมามากขึ้นทุกวัน ข้าวของแพง สินค้าเกษตรขายไม่ได้ราคา มีแต่ขาดทุน การส่งออกติดลบ อัตราการขยายตัวลดลงเรื่อยๆ จนอีกไม่กี่วันหน่วยงานด้านเศรษฐกิจสำคัญก็จะปรับลดตัวเลขการเติบโตลงมาอีก นี่แหละเรื่องใหญ่ หลายคนฟันธงว่า "ทีมเศรษฐกิจ" ของ "บิ๊กตู่" ที่นำโดย "หม่อมอุ๋ย" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ล้มเหลว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าที่จะปรับเปลี่ยน บางทีมันก็วังเวง และนี่คือจุดอ่อนยิ่งกว่าเรื่องเสรีภาพเสียอีก

00 เชื่อหรือไม่ว่า กระแสที่ทำลายความศรัทธาต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจนี่แหละ และขอร้องอย่าไปโทษรัฐบาลอื่นๆให้มากนัก แม้จะรู้อยู่แล้ว แต่บางครั้งพูดมากไปมันก็น่าหมั่นไส้เหมือนกัน และที่สำคัญเวลาก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ยิ่งพูดบางทีมันก็เหมือนประจานตัวเองเหมือนกัน ที่สำคัญสิ่งที่ชาวบ้านเข้าใจก็คือ อำนาจพิเศษที่มีอยู่ในมือมันก็น่าจะทำลายอุปสรรค ทำลายความล้าหลังของระบบราชการได้บ้าง แต่ทำไมเหมือนกับว่ามันไม่ขยับเลยฟะ !!

 

ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร



ดาวพลูโตเพ็ญ+ดาวอังคารถึงจุดคราส กรกฎาคม ๒๕๕๘
ในเดือน กค.นี้ มีปรากฎการณ์ทางดวงดาวที่น่าสนใจหลายประการ เช่นดาวพฤหัสบดียก ดาวมฤตยูวิกลคติพักร (ยังไม่ได้ย้ายราศีไปไหน) ฯลฯ โดยจะขออธิบายประการดังกล่าวให้ทราบในภายหลัง
ในวันที่ ๖ กค. ๕๘ นี้ ดาวอาทิตย์จะโคจรมาทำมุม ๑๘๐ องศากับดาวพลูโต เกิดปรากฎการณ์ "ดาวพลูโตเพ็ญ" ในราศีธนู ๒๐ องศาเศษ โดยดาวพลูโตเป็นดาวดวงเดียวที่โคจรออกไปจากจักรราศีได้ แต่ตอนนี้ได้โคจรกลับเข้ามาแล้ว ซึ่งถ้ามีโอกาสจะขยายความเรื่องนี้ให้เราท่านได้ฟังกัน
ดวงเมืองของบ้านเราไม่ได้มีดาวใดๆในตำแหน่งเพ็ญนี้ ซึ่งก็น่าจะไม่มีผลใดๆเช่นกัน โดยการทำนายสาย อ.เทพย์ ที่แท้จริงนั้นจะไม่ใช้การเหวี่ยงแห จำชนแกะกันไปเรื่อย สิ่งที่ครูบาอาจารย์เน้นย้ำก็คือ "ตำแหน่งของดาวจรกับตำแหน่งของดาวและจุดสำคัญในดวงเดิม "
ตามดวงแบบภวจักร "จุดศูนย์กลางภพที่ ๙ (ภพศุภะ แทนกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ศาสนา การต่างประเทศ ฯลฯ) จะอยู่ที่ราศีธนูประมาณ ๑๘ องศา ซึ่งจะอยู่ในขอบข่ายที่จะได้รับผลของพลูโตเพ็ญ แต่ผลร้ายอาจจะไม่เต็มที่เพราะองศายังไม่สนิทพอดีและอยู่คนละนวางค์กัน
ประกอบกับในช่วงกลางเดือน ดาวอังคารจะโคจรมาทำมุมโยคร้าย ๑๘๐ องศากับดาวพลูโต ในขณะเดียวกันก็จะส่งแสงไปที่ตำแหน่งคราสที่เกิดในราศีกันย์เมื่อต้นเดือน เมษ. ที่ผ่านมาด้วย (ท่านที่เพิ่งเข้ามาในเพจฯ ลองค้นอ่านเรื่องคราสตอนเดือน เมษ. กันดู) ดังนั้นผลร้ายต่างๆ ก็อาจจะบังเกิดได้
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวบ้านเมืองจะมีความวุ่นวายและปัญหาตามความหมายของภพศุภะ ผู้มีอำนาจของบ้านเมืองจะกระทำการใดๆ ให้พึงพินิจพิจารณาให้จงดี
ทั้งพลูโตและอังคารยังแทนได้กับการทหาร การก่อวินาศกรรม การลอบโจมตี ฯลฯ รวมไปถึงภัยธรรมชาติ ซึ่งบ้านเมืองมีโอกาสได้รับผลร้ายในเรื่องดังกล่าวด้วย
พี่น้องทหารหาญและเจ้าหน้าที่ในจังหวัดภาคใต้ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
ผู้ที่มีลัคนาในราศีธนู ,ราศีกันย์ ,ราศีเมถุน เน้นย้ำว่าลัคนา (ที่คำณวณอย่างถูกต้อง) ไม่ใช่คนที่เกิดในเดือนธันวาคม กันยายนหรือมิถุนายน และผู้ที่มีดาวหรือจุดศูนย์กลางภพประมาณ ๒๐ องศาในราศีดังกล่าว ถ้าไม่มีดาวศุภเคราะห์มาช่วยแล้ว ขอให้พึงระมัดระวังอุปัทวันตรายให้มาก จะกระทำการใดๆ ก็อย่าประมาท
ตำแหน่งที่อังคารโคจรมาถึงจุดคราสนี้ ท่านผู้นำก็จะได้รับผลร้ายดังกล่าวด้วยเพราะว่าดาวจันทร์เดิมท่านอยู่ที่ตำแหน่งคราส ประกอบกับดาวที่คุ้มโทษภัยให้ท่านในตอนนี้กำลังจะยกออกในวันที่ ๑๔ กค. ๕๘ โดยดาวจันทร์เดิมท่านเป็นเจ้าเรือนปัตนิ (แทนคู่ครอง หุ้นส่วน สัญญา ฯลฯ) และสถิตย์ในเรือนที่ ๙ ศุภะ ดังนั้น ท่านอาจจะพบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ โดยจะขออธิบายในภาพรวมอีกครั้งตอนดาวพฤหัสบดียก
ดวงดาวเปรียบเสมือนแผนที่กรรมของทุกผู้ทุกคน ตามหลักสถิติที่บุราณาจารย์ได้รจนามาจะบอกได้ว่า กรรมดีหรือกรรมชั่วจะมาเมื่อไหร่โดยนำเอาดวงดาวมาพิจารณา
ถ้าเรารู้แผนที่กรรมของเราแล้ว เมื่อเราเห็นว่าหนทางข้างหน้ามีอุปสรรคขวากหนาม สิ่งที่เราทำได้ก็คือหลีกเลียงที่จะเดินทางไปในทางนั้นๆ ซึ่งถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ให้พึงมีสติ ให้ก้าวย่างอย่างสุขุมรอบครอบ
เมื่อเรามีสติ ประกอบกับได้ทำคุณงามความดีเอาไว้มากพอแล้ว ดวงดาวหรือกรรมชั่วต่างๆ ก็อาจจะไม่เกิดหรือบรรเทาโทษ์ให้หนักเป็นเบาได้
admin ดิลก แสงอุทัย