ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



3. 4 บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ
คราวนี้ ลองมาดูรายชื่อผู้ถือหุ้นของGoldman Sachs:
"The big four," Wellington, Capital World Investors, AXA, Massachusetts Financial Service and T. Rowe.
รายชื่อผู้ถือหุ้นของMorgan Stanley:
"The big four," Mitsubishi UFJ, Franklin Resources, AXA, T. Rowe, Bank of NY Mellon e Jennison Associates. Rowe, Bank of NY Mellon and Jennison Associates.
　
รายชื่อผู้ถือหุ้นของBank of NY Mellon:
Davis Selected, Massachusetts Financial Services, Capital Research Global Investor, Dodge, Cox, Southeatern Asset Mgmt. and ... "The big four."
รายชื่อผู้ถือหุ้นของState Street Corporation (one of the "big four"):
Massachusetts Financial Services, Capital Research Global Investor, Barrow Hanley, GE, Putnam Investment and ... The "big four" (shareholders themselves!).
รายชื่อผู้ถือหุ้นของBlackRock (another of the "big four"):
PNC, Barclays e CIC.
แบงค์ที่ใหญ่ที่สุด8แห่งของสหรัฐ คือJP Morgan, Wells Fargo, Bank of America, Citigroup, Goldman Sachs, U.S. Bancorp, Bank of New York Mellon and Morgan Stanley ถือหุ้นเกือบ 100% โดยผู้ถือหุ้น10เจ้า
โดยมี BlackRock, State Street, Vanguard and Fidelity อยู่ด้วย
4บุรุษอาชาจะปรากฎกายเพื่อกินรวบหมด
ธนาคารกลางสหรัฐUS Federal Reserve ถือหุ้นโดย แบงค์ยักษ์เหล่านี้ และโดยเบื้องลึกแล้วคือ 4บุรุษอาชา หรือBig Four คุมนโยบายการเงินของสหรัฐอย่างเบ็ดเสร็จ โดยไม่ผ่านการตรวจสอบหรือขบวนการประชาธิปไตย
4บุรุษอาชาสร้างวิกฤติการเงิน วิกฤติการเมือง วิกฤติเศรษฐกิจ และสงครามทั่วโลกเพื่อทำลาย และเพื่อเพิ่มความร่ำรวยและอำนาจการคอนโทรลของตัวเองเพิ่มยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
รายชื่อบริษัทที่4บุรุษอาชาเป็นเจ้าของแค่ตัวอย่างเบาะๆ:
Alcoa Inc.
Altria Group Inc.
American International Group Inc.
AT&T Inc.
Boeing Co.
Caterpillar Inc.
Coca-Cola Co.
DuPont & Co.
Exxon Mobil Corp.
General Electric Co.
General Motors Corporation
Hewlett-Packard Co.
Home Depot Inc.
Honeywell International Inc.
Intel Corp.
International Business Machines Corp
Johnson & Johnson
JP Morgan Chase & Co.
McDonald's Corp.
Merck & Co. Inc.
Microsoft Corp.
3M Co.
Pfizer Inc.
Procter & Gamble Co.
United Technologies Corp.
Verizon Communications Inc.
Wal-Mart Stores Inc.
เรียกได้ว่า4บุรุษอาชาผูกขาดระบบทุนนิยมโลกอย่างเบ็ดเสร้จภายใต้การโฆษณาชวนเชื่อ หรือการสร้างภาพลวงตาลองการแข่งขันเสรี กลไกตลาดเสรี ทุนนิยม เสรีนิยมประชาธิปไตย
thanong
3/7/2015

 

Thanong Fanclub



4. 4 บุรุษอาชามหาโลกาวินาศ
จีนควบมังกรออกมาเผชิญหน้ากับ4บุรุษอาชา ผู้บงการให้เจ้าหนี้และไอเอ็มเอฟรุมทึ้งกรีซให้เหลือแต่กระดูก
สถานการณ์กรีซล่าสุดกำลังเข้มข้น เพราะว่าล่าสุดคือ:
1. แบงค์กรีซจะไม่มีเงินเหลือให้ถอนATMอีกแล้วภายในไม่กี่วันข้างหน้า
2. ฝ่ายวิจัยIMFบอกว่าแก้ปัญหาวิกฤติหนี้กรีซไม่ได้ ถ้าหากว่าเจ้าหนี้ไม่ยอมลดหนี้กรีซก่อน มิเช่นนั้นกรีซจะเจอโคม่าทางการเงินไปเรื่อยๆอีก40-50ปี แต่ผู้บริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศไม่ทำตามคำแนะนำของฝ่ายวิจัยเพราะมัวปกป้องผลประโยชน์เจ้าหนี้ หรือทำตามคำสั่งของดีซี
3. เยอรมันไม่ยอมลดหนี้ให้กรีซ เพราะกลัวเวลาหมูตัวอื่นๆ (PIIG คือโปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลีและกรีซ)จะขอลดหนี้ด้วย จะทำให้เจ้าหนี้ฉิบหายกันหมด
4. Standard & Poor's บอกว่าถ้ากรีซออกจากยูโร จีดีพีจะตกทันที20%ปีนี้
5. ศรีธนญชัย Varoufakisสารภาพว่า ตัดแขนผมทิ้งดีกว่าที่จะให้ผมเซ็นแผนฟื้นฟูการเงินกรีซฉบับเจ้าหนี้IMF
6. ศรีปราชญ์ Tsiprasรอวัดดวงว่า ประชามติโหวตโน หรือเยสวันอาทิตย์ที่5กรกฎาคม โพลชี้ว่าคนกรีกจะโหวตเยดดดดดดดดด ขอเอาเจ้าหนี้
7. เจ้าหน้าที่คลังสมองจีน Fan Mingtao, ผู้อำนวยการแห่ง Quantitative Finance Department ของ China's Institute of Quantitative and Technical Economicsออกมาเผยว่า จีนพร้อมอุ้มกรีซ เพราะว่ากรีซเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสายไหมใหม่ของจีน
จีนควบมังกรออกมาพร้อมกับเงินหยวนในกระเป๋าเต็มกระบุงเพื่อเผชิญหน้ากับ4บุรุษอาชาแล้ว เพื่อส่งสัญญานว่าเรายืนอยู่กันคนละฝ่ายนะ
thanong
3/7/2015
China May Aid Greece Directly - Think Tank Expert / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฮะ! Mikheil Saakashvili ผู้ว่ารับจ้างภูมิภาค Odessa ในยูเครนโวยวายสหรัฐฯเบี้ยวจ่ายเงินเดือน



--------------
ตึงๆๆ... มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโลกนี้ด้วยหรือ? เทร็นด์ใหม่? No Sir! เหล้าเก่าในขวดใหม่ต่างหาก ยังไงรึ? สมัยก่อนนี้ ยุคล่าอาณานิคม พอพวกชาติตะวันตกเขาส่งเรือรบไปรุกรานประเทศอื่นและยึดเป็นเมืองขึ้นได้แล้ว ก็จะส่งข้าหลวงใหญ่หรือผู้สำเร็จราชการไปปกครองเมืองหรือประเทศนั้นๆเป็นหูเป็นตาแทนกษัตริย์หรือราชนินีของพวกเขา แม้ว่าจักรวรรดิอังกฤษจะค่อยๆเสื่อมสลายลงไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังเห็นปรากฏได้ชัดและหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันนี้อย่างเช่นในประเทศที่เป็นเครือจักรภพสหราชอาณาจักรของอังกฤษ



ระบบนี้คล้ายกับการบริหารงานของบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีบริษัทในเครือเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทแม่ก็จะส่งผู้บริหารระดับสูงของตนไปคุมกิจการหรือดูแลบริหารกลุ่มบริษัทลูกเหล่านั้นแทน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน เหมือนกับบริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทยหรือเป็นบริษัทร่วมทุนในไทยหรือในประเทศอื่นๆ บริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศเขาก็จะส่งคนของเขาเข้ามาบริหารในตำแหน่งสำคัญๆ เริ่มตั้งแต่ระดับผู้จัดการ ไปจนถึงเป็นรองประธานหรือเป็นประธานบริษัท



ที่ยูเครนก็เช่นกัน สหรัฐฯเอาโมเดลนี้มาใช้บ้าง หลังจากที่สหรัฐฯยึดอำนาจรัฐบาลเก่าของยูเครนได้แล้วก็แต่งตั้งนักการเมืองภายในของยูเครนซึ่งอยู่ในความควบคุมของสหรัฐฯขึ้นมาเป็นรัฐบาลของยูเครนชุดปัจจุบันแทนรัฐบาลชุดเก่าผ่านการเลือกตั้งหลอกๆ ตอนนี้ยูเครนจึงเป็นเหมือนเมืองขึ้นกรายๆของสหรัฐฯอีกแห่งหนึ่ง ภาพนี้อาจจะยังไม่ชัดเท่าไร แต่ที่เมือง Odessa นี้เริ่มปรากฎหลักฐานชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าผู้ว่าฯคนใหม่ของเมือง Odessa แท้ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงตัวแทนหรือลูกจ้างคนหนึ่งของสหรัฐฯที่ถูกส่งไปเป็นหูเป็นตาของสหรัฐฯนั่นเอง
เคยเล่าประวัติของนาย Mikheil Saakashvili อดีตปธน.ของจอร์เจียให้ฟังมาบ้างแล้วในโพสต์ก่อนๆ คงจะพอจำกันได้ว่าแกหนีความผิดกฎหมายอาญาของประเทศหลายข้อหาเกี่ยวกับการคอรัปชั่นและละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนต้องข้อลี้ภัยไปอยู่อเมริกาและมาอยู่ที่ยูเครนจนได้สัญชาติเป็นพลเมืองยูเครน และได้รับการแต่งตั้งจากนายเปโตร โปโรเชนโก้ ปธน.ของยูเครนคนปัจจุบันให้ไปเป็นผู้ว่าเมือง Odessa ตามที่สหรัฐฯต้องการหรือวางแผนบางอย่างไว้
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา เห็น Sputnik news ลงข่าวนี้น่าสนใจ ตั้งใจว่าจะเล่าให้ฟังนานๆแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสวันนี้พอจะมีเวลาบ้างจึงขอเล่าให้ฟังดังนี้ สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Cash-Strapped Saakashvili Misses His Days Collecting Money From US" แปลว่า "เงินขาดมือ สหรัฐฯไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้นาย Saakashvili" พออ่านพาดหัวข่าวถึงกับอุทานเลยว่า "อื้ย! เป็นได้ไง? มันจะเป็นไปได้รึ? มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ?" อยากรู้อ่ะ ก็เลยอ่านต่อว่า...
Sputnik news พาดหัวข่าวรองว่า "ดูเหมือนว่านาย Mikheil Saakashvili ผู้ว่าการภูมิภาค (จังหวัด) Odessa Region คงจะกินแห้วหลังจากที่เขาทำงานให้กับสหรัฐฯ และไม่เหมือนกับที่เขาเคยใช้ชีวิตมาก่อน โดยนาย Mikheil Saakashvili ได้โพสต์เอกสารฉบับหนึ่งลงในเฟซบุคส่วนตัวของเขาเพื่อพิสูจน์หลักฐานการรับเงินเดือนอย่างเป็นทางการของเขา"
รายงานข่าวบอกว่า ดูเหมือนว่านาย Mikheil Saakashvili จะไม่พึงพอใจเป็นอย่างมากกับอัตราเงินเดือนอันน้อยนิดที่เขาได้รับในฐานเป็นข้าราชการพลเรือนของยูเครน (Ukrainian civil servant) แม้จะยืนยันว่าเขาไม่ได้เข้ามาทำงานในภาคสาธารณะเพื่อแลกกับเงินเดือน ที่ว่า "งานบริการสังคมเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าเงินใดๆ" ก็ตาม
เรื่องนี้ทำให้รู้สึกน่าประหลาดใจมากที่นักการเมืองคนนี้ได้ตัดสินใจเปิดเผยว่าเขาเคยได้รับเงินเดือนจากการเป็นลูกจ้างของสหรัฐฯในอดีตมากเท่าไร ในเฟซบุคของเขาบอกว่า "สำหรับท่านที่มีความสนใจทั้งหลาย เงินเดือนจากอเมริกาของผมมีจำนวนราว $200,000 [ต่อปี] ก่อนที่ผมจะได้รับแต่งตั้งให้มาประจำการอยู่ที่เมือง Odessa และยังมีรายได้อื่นๆอีกเช่นจากการบรรยาย และการปรากฎในที่สาธารณะต่างๆ" (ว้าว! มีค่าตัวในการบรรยายยังกับพวกนักวิชาการและค่าตัวในการออกงานอีเวนต์ยังกะดาราเลยแฮะ! แน่ใจนะว่าเป็นนักการเมือง?)
คำกล่าวอ้างนี้ได้รับการสนับสนุนยืนยันโดยใบประกาศนียบัตรที่ออกให้โดยกรุงวอชิงตัน ดีซี และลงนามโดยนาย Temuri Yakobashvili เอกอัครราชทูตจอร์เจียประจำสหรัฐฯ ซึ่งให้การรับรองว่า นาย Mikheil Saakashvili ได้รับการว่าจ้างโดยสถาบันผู้นำระหว่างประเทศแห่งใหม่ (New International Leadership Institute) ออกให้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 (May 1, 2015) ซึ่งจะได้รับเงินเดือนปีจำนวน $198,000 ต่อปี (ประมาณ 6,692,400 บาท /12 เดือน = 557,700 บาท) สถาบันแห่งนี้มีอยู่จริงๆ มีเว็บไซต์ด้วย New International Leadership Institute - About โดยมีนาย Temuri Yakobashvili เป็นประธาน
คำถามที่น่าสนใจก็คือแล้วนาย Temuri Yakobashvili เอาเงินที่ไหนมาจ่ายเงินเดือนให้นาย Mikheil Saakashvili ซึ่งไม่ได้เป็นปธน.ของจอร์เจีย ซึ่งไม่มีตำแหน่งใดๆในจอร์เจียอีกต่อไปแล้ว แถมยังหนีความผิดไปอยู่ประเทศอื่นและยังได้รับเงินเดือนจากสถาบันแห่งนี้อยู่อีก? นาย Temuri Yakobashvili เป็นเอกอัครราชทูตของจอร์เจียประจำอยู่สหรัฐฯ ย่อมกินเงินเดือนจากประเทศจอร์เจีย และเขาเป็นพวกเดียวกันกับนาย Mikheil Saakashvili ทั้งสองคนเป็นสมุนของสหรัฐฯ จะแปลกอะไรหากนาย Temuri Yakobashvili จะหาทางดึงเงินจากจอร์เจียโดยใช้เทคนิคบางอย่างไปจ่ายเงินเดือนให้นาย Mikheil Saakashvili แม้จะไม่มีงานหรือตำแหน่งใดในนามของรัฐบาลจอร์เจียอีกต่อไป แต่ก็ยังได้รับเงินเดือนอยู่อีก อย่าคิดว่าสหรัฐฯจะโง่ยอมควักกระเป๋าตัวเองจ่ายให้นะ แต่ผู้ที่ได้หน้าก็คือสหรัฐฯเห็นๆ สุดยอดของเกมโกงชาติระดับประโลกอีกตัวอย่างหนึ่ง
รายงานข่าวบอกต่ออีกว่า น่าสนใจพอหรือยัง? Saakashvili ได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้ว่าเมือง Odessa Region เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2558 และในวันที่ 31 พฤษภาคม เขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติของยูเครน (Ukrainian National Council of Reforms) (เหมือนตำแหน่งประธาน สปช.บ้านเราในขณะนี้แหละ) แม่เจ้าโว้ยยยย อะไรจะขนาดนั้น ยูเครนเอายอมเอาอดีตนักการเมืองจอร์เจียลี้ภัยหนีความผิดกฎหมายอาญามาปฏิรูปประเทศตัวเอง เจริญหละยูเครนเอ๋ย สำนักข่าวกล่าวต่ออีกว่า ดังนั้นจึงน่าจับตาดูว่าเขาจะยังมีโอกาสได้รับเงินเดือนอย่างน้อย 1 เดือนจากสถาบันของสหรัฐฯอยู่หรือไม่?
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะผู้บริหารภูมิภาค Odessa ได้เปิดเผยว่าเงินเดือนประจำตำแหน่งของนาย Saakashvili ในฐานะผู้ว่าการภูมิภาค Odessa ในปัจจุบันมีจำนวนเพียง $267 (9,024 บาท) เท่านั้น (เชื่อก็บ้าหละ! หรือเงินพิเศษอย่างอื่นที่ไม่ได้เปิดเผยมีมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว การสร้างภาพแหกตาแบบนี้เป็นปรกติของนักการเมืองพวกนี้) ซึ่งน้อยกว่ารายได้อย่างเป็นทางการของรองประธานสภา Verkhovna Rada (สภาสูงของยูเครน Supreme Council of Ukraine) ซะอีก
สุดท้ายนาย Saakashvili ผู้ว่าฯรับจ้าง กล่าวว่า "ผมและเพื่อนๆของผมเข้ามาทำงานบริการสังคมไม่ใช่เพื่อเงิน (ไม่เชื่อโว้ย!) อย่างไรก็ตาม.... มันยากที่จะอธิบายในสังคมที่ประชาชนประสบกับความยากลำบากว่าข้าราชการพลเรือนควรจะได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก แต่ความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของผมก็คือเราควรจะจ้างคนใหม่ที่ยอมเยี่ยม และเมื่อรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น (นั่นไง!) กล่าวคือ เมื่อเม็ดเงินไหลตรงไปที่งบประมาณและไม่เข้าไปสู่กระเป๋าของเจ้าหน้าที่คอรัปชั่น พวกเราจะให้เงินเดือนที่ดีกับพวกเขา (มันไม่ได้มากินคนเดียว มากันเป็นก๊วนเลยนิ) ในขณะเดียวกันพวกเราก็จะเพิ่มเงินบำนาญ สร้างถนนติดตั้งอาวุธที่ดีกว่าให้กับกองทัพของพวกเรา"
เป็นผู้ว่ามันเกี่ยวอะไรกับกองทัพด้วย? สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องขึ้นภาษี และซื้ออาวุธ โวหารขายฝันหลอกแดร็กสไตล์นักการเมืองของแท้ สหรัฐฯชอบนะนักการเมืองแบบนี้อ่ะ มันซื้อได้ มิน่าเขาถึงไม่สามารถอยู่ในแผ่นดินเกิดที่จอร์เจียได้อีกต่อไป
The Eyes
03/07/2558
----------
Cash-Strapped Saakashvili Misses His Days Collecting Money From US / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
ทร.ยืนยัน ไทยเลือกเรือดำน้ำจีน 3 ลำ งบ 3.6 หมื่นล้านบาท เตรียมเสนอครม.อนุมัติ (พิจารณาแล้วว่าคุ้มกว่าของประเทศอื่นในวงเงินและคุณภาพระดับเดียวันนี้)



------------------
วันนี้(2 กรกฎาคม) พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ว่า กองทัพเรือมีมติเป็นเอกฉันท์ในการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนจำนวน 3 ลำ โดยใช้งบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อในครั้งนี้เป็นแบบแพ็คเกจ ถ้าหากว่าศักยภาพลำต่อลำจะตอบโจทย์อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งบางครั้งได้มาลำเดียวแต่เรื่องไม่มีอะไรเลย ขณะที่งบประมาณของกองทัพเรือก็หมดแล้ว มีแต่เรืออย่างเดียวทำอะไรไม่ได้ ซึ่งการจัดซื้อเรือดำนำของประเทศจีนเพราะมีคณะกรรมการของกองทัพเรือพิจารณา 17 คน ซึ่งเป็นคนที่อยู่บนเรือ เอาทหารเรือที่อยู่ในกองเรือดำน้ำ ที่จะต้องเป็นผู้ไปอยู่บนเรือดำน้ำ เป็นผู้ให้คะแนนเองทั้งหมด ซึ่งการจัดซื้อเรือของประเทศจีนเพราะมีอาวุธครบ โดยงบประมาณที่จะใช้ 7 ปี หรือ 10 ปี ขึ้นอยู่กับรัฐบาล จะซื้อในลักษณะจีทูจี



พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวอีกว่า เรามีคณะกรรมการอำนวยการคัดเลือกแบบเดินทางไปดูเรือดำน้ำ 6ประเทศที่เราสนใจ โดยจัดคณะกรรมการที่เป็นคนรุ่นใหม่ จำนวน 17 คน จากกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ และให้คะแนน 14 คนเลือกเรือดำน้ำของประเทศจีน ประเทศเยอรมัน 2 คน และประเทศสวีเดน 1คน ยืนยันไม่มีใครไปชักนำเรื่องการลงคะแนน เลือกด้วยตัวเอง เพราะเป็นเรือในอนาคต การคัดเลือกจึงต้องให้เด็กรุ่นใหม่เลือก นอกจากนี้ประเทศจีนให้การดูแลเป็นอย่างดี ทั้งการฝึกอบรม อะไหล่เรือดำน้ำจำนวน 8 ปี อย่างไรก็ตามที่ผ่านมากองทัพเรือมีประสบการณ์เรื่องการซื้ออาวุธ เมื่อไม่มีเงินเราก็ไม่สามารถจัดซื้อได้ ดังนั้นการจัดซื้อเรือดำน้ำของประเทศจีนครั้งนี้ถือเป็นความฉลาดและคุ้มค่ามากที่สุด
“การซื้อเรือดำน้ำของประเทศจีน 3 ลำเป็นเรือใหม่ทั้งหมด ใช้เวลาต่อเรือ 5-6 ปี กว่าที่จะส่งมาให้ และในระหว่างการต่อเรือเราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูในรายละเอียด 2ปี ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่ กำลังพลจึงต้องไปศึกษาพอสมควร การจัดเลือกเรือของประเทศจีนเป็นการตอบโจทย์ เพราะสามารถซื้อได้ถึง 3ลำ แต่ถ้าเป็นของประเทศอื่นจะได้เพียง 2 ลำ ทั้งนี้ จะต้องมีการบริหารงบประมาณที่มีจำกัด และที่สำคัญประเทศจีนเป็นเพียงชาติเดียวที่ให้ระบบ เอไอพี Air-Independent Propulsion system เป็นระบบที่ทำให้เรืออยู่ใต้น้ำนานถึง 21 วัน โดยไม่ต้องโผล่ ขณะที่เรือของประเทศเกาหลีใต้และเยอรมัน ไม่มีระบบเอไอพี อยู่ใต้น้ำได้ 5-6วันก็ต้องโผล่ขึ้นมา ซึ่งเรือดำน้ำต้องเงียบ พรางตัวอย่างเดียว ถ้า 4-5 วันแล้วต้องโผล่ขึ้นผิวน้ำ ดาวเทียมสามารถจับได้หมด บางคนบอกว่าซื้อของประเทศจีนแล้ว ส่ายหัว ความจริงแล้วไม่ใช่ ผมยังไม่อยากอธิบาย เพราะรัฐบาลยังไม่ได้อนุมัติ รอให้อนุมัติก่อนจึงสามารถตอบได้ เพราะผมเดินทางไปดูด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้พูดไม่ได้ เพราะสื่อก็โจมตี ไม่มีประโยชน์ที่มานั่งทะเลาะกัน” ผู้บัญชาการทหารเรือกล่าว
พล.ร.อ.ไกรสรณ์ กล่าวอีกว่า ได้นำข้อสรุปของกองทัพเรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ส่วนจะนำเรื่องนี้เข้า ครม.เมื่อใดนั้นตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า กองทัพเรือจะทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา ทั้งนี้ ครม.จะอนุมัติให้ก็ได้ ไม่อนุมัติให้ก็ไม่เป็นไร เราไม่มีอะไรซุกอยู่ใต้พรหม ทุกอย่างเปิดเผย ยืนยันว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำของประเทศจีนไม่มีการล็อบบี้จากฝ่ายการเมือง และการจัดซื้อเป็นระบบจีทูจี จ่ายเงินโดยภาครัฐ กองทัพเรือไม่เกี่ยว เพราะกองทัพเรือพิจารณาตาม ครม. ได้สั่งการ
พล.ร.อ.ไกรสรณ์ กล่าวว่า ส่วนความจำเป็นในการซื้อเรือดำน้ำยามที่ไม่มีสงคราม เรื่องนี้ตอบยาก เพราะเวลาจะใช้ มันไม่มีจะใช้ เราไม่มีเรือดำน้ำมา 50 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยสงครามโลก แต่เมื่อซื้อก็เหมือนคนเริ่มขับเรือใหม่ แต่การขับเรือกับกับรถต่างกัน เพราะเรือดำน้ำต้องใช้คน 50 คน การทำงานต้องเป็นทีม และเทคโนโลยีเมื่อเราซื้อมาแล้วก็สามารถเดินเรือได้ แต่ด้านเทคนิคการใช้อาวุธต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ต้องใช้เวลา ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ได้เลย ต้องใช้เวลาเรียนรู้อย่างน้อย 3 ปี ที่สำคัญเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ในการป้องปราม บางประเทศเล็กๆมีเรือดำน้ำ 5 ลำ ยังไปต่อเพิ่มอีก 3ลำ และพื้นที่ก็ไม่มี ซึ่งการซื้อมาเป็นอำนาจต่อรองกับประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือดำน้ำที่กองทัพเรือจะเสนอซื้อจากจีนั้น น่าจะเป็น S26T Yuan Class ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกองทัพเรือไทย ทั้งนี้ปัจจุบันกองทัพเรือกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 4 นับจากเรือดำน้ำลำสุดท้ายของกองทัพเรือถูกปลดประจำการไปเมื่อกว่า 60 ปีก่อน โดยมีแผนที่จะขออนุมัติจัดหาภายในปีงบประมาณนี้.
ป.ล.ข่าวนี้แอ็ดมินก็อปมาจากไทยโพสต์ล้วนๆ ไม่เติมมีการเติมสีตีไข่ใส่โจ๊กใดๆ ณ ตอนนี้นี้จึงบอกได้เลยว่า ไทยเลือกของจีนแน่นอน และเลือกโดยคนของทร.เอง คนที่จะไปประจำการอยู่ในเรือดำน้ำเหล่านั้นด้วย เพราะฉะนั้นอย่าได้เที่ยวพูดพล่อยๆอีกนะว่า "คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ" หนะ และที่สำคัญ ทร. เลือกเอาคนรุ่นใหม่ไปดูงานและตัดสินใจด้วย ผลการลงคะแนนเป็น 14-2-1 (จีน-เยอรมันนี-สวีเดน) ตามลำดับ เอาหละคราวนี้ก็คุยกันได้เต็มที่เลยครับท่านที่ชอบเรื่องอาวุธเรื่องเรือดำน้ำทั้งหลาย วันก่อนแอ็ดมินได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของเรือดำน้ำจีน (Yuan-Class) ว่าพัฒนามาจากเทคโนโลยีรุ่น Kilo-Class ของรัสเซียบ้างแล้ว ว่าของจีนทุกวันนี้ก็ไม่ใช่กระจอกแล้วนะ แต่สเป็กของ S26T Yuan Class ที่ว่าไทยจะซื้อและจัดทำพิเศษขึ้นมาสำหรับไทยเป็นการเฉพาะนั้น ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดใดๆ ออกมามากนัก จึงยังบอกอะไรได้ไม่มาก ดังนั้นจึงเปิดให้คุยกันในเรื่องนี้ได้ตามสบายเลยครับ แต่อย่าพาดพิงหรือให้ร้ายกองทัพไทยหรือพูดในทางที่เสียหายไม่เป็นผลดีต่อทั้งกองทัพและประเทศชาตินะครับ
The Eyes
02/07/2558
---------------
กองทัพเรือเลือกซื้อเรือดำน้ำจีน3ลำ-งบประมาณ3.6หมื่นล้าน!

 

เครือข่ายรักษ์ปลา-รักษ์ทะเล



เรือประมงพานิช วิ่งเข้าจอดท่าทุกจังหวัด.....
วิเคราะห์ให้ชัด อ่านเกมส์ให้ออก และสวนกลับ... แบบจัดเต็ม

1. การที่เรือประมงพานิชย์วิ่งเข้ามาเทียบท่ากันอย่างอุดหนาฝาคั่งในวันนี้เป็นเพราะ รัฐ หรือ ศปมผ. ขีดเส้นตายเส้นสุดท้ายของมาตรการหนึ่งในหลาย ๆ มาตรการคือ ให้เรือ 30 ตันกรอสขึ้นไปต้องติด VMS ภายในวันที่ 3 กค. นี้ เป็นวันสุดท้าย ดังนั้นเรือเหล่านี้จึงต้องวิ่งกลับฝั่งอยู่แล้ว เพราะต้องกลับมาดำเนินการให้ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งถ้าติดแล้วเรือที่มีทะเบียนเรือ และอาชญาบัตรทำประมง และลูกเรือประมงที่ถูกต้องตามกฏหมายก็กลับออกไปทำการประมงได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร

2. เรือที่เข้ามาทั้งหมด มีเรือที่ผิดกฏหมายคือใช้เครื่องมือประมงไม่ตรงกับอาชญาบัตรที่ได้รับ ประมาณ 4,000 ลำ (เป็นพวกเรือประมงทำลายล้างทรัพยากรได้แก่ เรือลาก รุน ล้อมปั่นไฟ และล้อมกลางวัน แต่ถืออาชญาบัตร ทำประมงไดหมึก หรืออวนลอย เพราะรัฐมีกฏหมายควบคุมอาชญาบัตรเครื่องมือ 4 ชนิดแรก ซึ่งไม่สามารถออกเพิ่มให้ได้) เพราะฉะนั้นเรือ 4,000 กว่าลำนี้เข้ามาแล้วจะสามารถออกไปทำประมงอีกได้ก็ต่อเมื่อได้ปรับเปลี่ยนเครื่องมือให้ตรงกับอาชญาบัตรที่มี แต่พวกเขาไม่ยอมทำ ดื้อแพ่ง พูดเอาแต่ได้ว่าจะยังคงทำเครื่องมือที่ทำลายล้าง โดยให้รัฐแก้กฏหมาย

3. เมื่อเรือทุกลำที่อยู่ในทะเลวิ่งกลับเข้าฝั่ง ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ แพปลา โรงน้ำแข็ง หรืออุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่น ๆ ต้องหยุดชะงัก ไปไม่มีเรือใหญ่จับปลาในช่วงนี้ แต่ไม่นานหรอกค่ะ พวกเรือที่ติด VMS เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กลับไปทำประมงเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วงว่าคนไทยจะไม่มีปลากิน หรือไม่มีส่งออก สถานการณ์จะกลับมาสู่สภาวะปกติค่ะ เพราะไม่มีใครเอาด้วยกับเรือผิดกฏหมายในข้อที่ 2 นานหรอกค่ะ ธุรกิจต่อเนื่องก็จะกลับมาดำเนินงานเหมือนเดิม

4. การที่บอกว่าอาหารทะเลจะขาดแคลน และแพงขึ้นจริงไหม คนไทยต้องเข้าใจให้ได้นะคะ ว่าเครื่องมือทำลายล้างทั้ง 4 ชนิดนั้น ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ เป็นอาหารสัตว์ หรือถ้าเป็นอาหารคนก็ไม่มีคุณภาพ เสี่ยงต่อการถนอมอาหารด้วยสารเคมี และเป็นลูกปลาวัยอ่อน ยังมีพี่น้องประมงชายฝั่งอีก 22 จังหวัด กว่า 50000 ครัวเรือนยังทำการประมงอยู่ คนไทยยังได้กินปลาอย่างแน่นอน ส่วนราคาแพงหรือไม่ ขึ้นกับฝีมือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบแล้วล่ะค่ะ ว่าจะมีคนฉวยโอกาสนี้มากน้อยแค่ไหน เพราะก็เชื่อว่าพี่น้องเรือประมงเล็กก็ได้ราคาปลาเท่าเดิมค่ะ

5. การที่เจ้าของเรือเถื่อนใช้วิธีการนี้(เรือทั้งหลายกลับเข้ามาติด VMS เพื่อทำตัวเองให้ถูกกฏหมาย) มาตีข่าวคลุมเคลือ หลอกลวงประชาชนนั้น ทำให้เห็นวิธีคิด และระดับของจรรยาบรรในการทำธุรกิจของตนเอง ไม่ควรให้พื้นข่าวกับคนเหล่านี้มาหลอกลวงประชาชนค่ะ

สถานการณ์ประมงไทยตอนนี้ ก็เหมือนคนเป็นมะเร็ง.....เมื่อคนเจ็บก็ต้องนอนโรงพยาบาล หยุดพักรักษา เสียรายได้ไปบ้าง เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย เพื่อจะกลับมาแข็งแรงดังเดิม ดีกว่าให้มะเร็งร้ายเกาะกิน ร่างกายไปทุกส่วน เมื่อถึงเวลาจะเยียวยากันไม่ทันก็จะตายกันหมด

ถ้าร่วมรักษาทะลวันนี้ ธุรกิจอุตสาหกรรมประมงไทย จะเปลี่ยนโฉมหน้าจากการส่งปลาป่นออกนอก จะส่งปลาตัวโต ๆ ออกนอกแทนค่ะ และที่สำคัญอาหารทะเลจะเป็นแหล่งโปรตีนใหญ่ที่สุดของคนไทย ไม่ใช่หมู ไก่ แน่นอนค่ะ

 

Jeerachart Jongsomchai



... "ภราดรภาพมุสลิม : ต่อสู้กับอเมริกา ยิว อย่างหนัก ในอียิปต์"
... ขณะที่อีกฝั่งเหนือ อเมริกากับยุโรปกำลังจะเสีย "กรีซ" จุดยุทธศาสตร์ไปให้กับอำนาจใหม่อย่างรัสเซียหรือบริกส์ ทาง "อียิปต์" ก็กำลังต่อสู้กับกลุ่มอเมริกา ยิว อยู่ เพราะรัฐบาลอับเดล ซีซี่นั้นเป็นแค่ "หุ่นกระบอกรูปทหาร" ให้อเมริกากับยิวชักเล่นตามใจแค่นั้นเอง ไม่มีจิตวิญญาณ
... กรีซ ไซปรัส ซีเรีย จะเป็น "ฐานทัพเรือ" ของรัสเซียได้
... อีกฝั่งหนึ่ง"ภราดรภาพมุสลิม" ของ "อียิปต์" ที่เคยส่งคนของกลุ่มอย่าง "โมฮัมเหม็ด มอร์ซี่" ลงเลือกตั้งและได้เป็นประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งคนแรก แต่ถูก อเมริกาและอิสราเอลจ้างทหารของมอร์ซี่เอง คือ "อับเดล ซีซี่" รัฐประหารแบบเสียเลือดเนื้อและมีการบาดเจ็บล้มตายมากที่สุดในรอบ แปดสิบปีของอียิปต์ เมื่อ กรกฎาคม ปี 2013
... เพราะอะไร ก็เพราะว่า "ภราดรภาพมุสลิม" นั้นมีการให้การอุดหนุนกลุ่ม "ฮามาส" ในปาเลสไตน์ที่ติดกับแหลมไซนายของอียิปต์คอยส่งอาหาร อาวุธไปให้ ซึ่งกระทบกับความมั่นคงทางการเมืองและการค้าของอเมริกาและอิสราเอล งานนี้อเมริกาหนุนรัฐประหารเต็มๆ แต่ชอบว่าไทย และ พม่า สองมาตรฐาน
... โดย"อียิปต์" ที่มีปีศาจอเมริกาสิงอยู่ กำลังจะออก "กฏหมายต่อต้านการก่อการร้าย" โดยเป้าหลักคือต้องการสร้างภาพป้ายสีให้กลุ่ม "ภราดรภาพมุสลิม" เป็น "ผู้ก่อการร้าย" ในสายตาชาวโลกให้ได้ ทั้งที่เขาเป็นพระเอกแท้ๆ ไม่กี่เดือนก่อนศาลอียิปต์ที่ไร้ศีลธรรมก็ประกาศว่า กลุ่มนี้เป็นผู้ก่อการร้ายไปแล้ว และจะออกกฏหมายตามมาอีก ( กฏหมายเป็นเครื่องมือหนึ่งของคนเลวได้ )
... "ภราดรภาพมุสลิม" นั้นเป็นศัตรูตัวหลักในสายตาของปีศาจอิสราเอลและอเมริกา เพราะเป็นอิสลามซุนหนี่ที่มีเครือข่ายทั่วโลก และมีจุดหมายหลักคือการเปลี่ยนประเทศอิสลามมาปกตรองแบบ "ชาริอะห์" ภายใต้กฏหมายศาสนาอิสลาม เมกากลัวมากพอๆกับ "อิหร่าน" ที่เป็นนิกายชีอะห์ แต่อเมริกาดีใจที่ทั้งสองกลุ่มนี้ไม่ถูกกันทางแนวคิด และประสานกันรุมตีตัวเองกับยิวไม่ได้จริงๆเสียที
... ตอนนี้ที่แหลมซีนายทหารหุ่นกระบอกอียิปต์ก็ปะทะกับกลุ่มอิสลาม ( ที่อาจจะเป็นฝ่ายของ "ภราดรภาพมุสลิม" หรือไม่ก็ได้ ) ครั้งใหญ่ มีคนตายบาดเจ็บมากมาย และมีการทำสงครามจีฮัดต้านซีซี่มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะยังมีสมาชิกกลุ่มอีกหลายพันติดอยู่ในคุกทหาร
... เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อัยการรัฐ ที่ดูแลเรื่องผู้ก่อการ Hisham Barakat ก็ถูกสังหารที่ไคโร ยิ่งทำให้สถานการณ์ในอียิปต์กลับมารุนแรงอีกครั้ง
... โดยข่าวที่ออกมาทางการอียิปต์พยายามบอกว่าผู้ก่อการเป็นเครือข่ายของ ISIL ซึ่งจริงๆน่าสงสัยมาก จากการเคลื่อนไหว น่าจะเป็นความต้องการของอียิปต์ อิสราเอล และอเมริกาต้องการป้ายสีและใส่ร้ายกลุ่ม "ภราดรภาพมุสลิม" ให้เป็นผู้ก่อการร้ายแบบ ISIL ตามด้วยออกกฏหมายการก่อการร้าย เพื่อจะได้กำจัดโดยชอบด้วยกฏหมาย ( แต่ไม่ชอบธรรม ) ในสายตาชาวโลก
...เพราะเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว 2014 นาย Ansar Beit al-Maqdis กลุ่มจีฮัสต่อต้านรัฐบาลซีซี่ได้ประกาศเองว่าได้รับการสนุบสนุนจาก ISIL แต่น่าจะเป็นข่าวลวง ป้ายสีกลุ่ม "ภราดรภาพมุสลิม" เพราะลึกๆแล้ว ทั้งสองกลุ่มคนละแนวทาง Ansar Beit al-Maqdis น่าจะเป็นแค่ตัวละครสับขาหลอกแค่นั้นเอง หรือถ้าเป็นจริงก็เพื่อจะทำให้การออกกฏหมายในการปราบปรามกลุ่ม "ภราดรภาพมุสลิม" มีน้ำหนักมากขึ้น
... และตอนนี้ก็มีกระแสว่ากองกำลัง ISIL กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
... สรุปตอนนี้ กรีซ กำลังจะเอียงข้างไปรัสเซีย อียิปต์ก็สั่นครอนส่อโดนอิสลามเอาคืนมา และล่าสุด "คิวบา"
... ตอนนี้อเมริกากำลังจะจีบ "คิวบา" โดยตั้งเป้าจะกลับมาเปิดสถานทูตในคิวบาอีกครั้ง ทั้งๆที่คิวบาไม่ใช่ประชาธิปไตยเสียหน่อย เพราะอะไร "คิวบา" เป็นเหมือนเมืองหน้าด่านของอเมริกา เหมือนยูเครนของรัสเซีย ถ้าเสียไปตอนนีจะแย่ แต่งานนี้รัสเซียคงไม่ยอม ใครได้คิวบาไปคนนั้นมีสิทธิ์ชนะถ้าเกิดสงครามขึ้น
... ยุทธการล่าและรักษาเมืองหน้าด่านระหว่างอเมริกากับอีกฝ่ายกำลังเข้มข้น
.
Egypt's rising jihadist insurgency challenges Sisi in the Sinai - Al-Monitor: the Pulse of the Middle East

 

รัฐมนตรีกลาโหมของซาอุฯ ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองทัพเยเมน
Category: News & Event Published on Thursday, 02 July 2015 23:14 Written by Islamicstudiesth Team.



แหล่งข่าวอาหรับรายงานเกี่ยวกับการได้บาดเจ็บของ "มุฮัมมัด บินซัลมาน" ในการโจมตีโดยขีปนาวุธของกองทัพเยเมน
Young Journalist Club (YJC) รายงาน โดยอ้างแหล่งที่มาจากเว็บไซต์ข่าว "Middle East Panorama" ว่า แหล่งข่าวอาหรับได้รายงานเกี่ยวการได้รับบาดเจ็บของ "มุฮัมมัด บินซัลมาน บินอับดุลอะซีซ อาลิซะอูด" รองมกุฎราชกุมารและรัฐมนตรีกลาโหมของซาอุดิอาระเบีย จากการโจมตีโดยขีปนาวุธของกองทัพเยเมนไปยังฐานทัพอากาศ "อัซซะลีล"

มุฮัมมัด บินซัลมาน ซึ่งได้ปรากฏตัวอยู่ในฐานทัพทหารอัซซะลีล พร้อมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝรั่งเศสและบุคคลสำคัญทางทหารจากกลุ่มประเทศอาหรับและประเทศอื่นๆ และผลจากที่ขีปนาวุธสกั๊ดของกองทัพเยเมนได้ถูกยิงไปยังฐานทัพนี้ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

หนังสือพิมพ์ไซออนิสต์ฉบับหนึ่งได้ก็ได้กล่าวย้ำเช่นกันว่า การโจมตีโดยขีปนาวุธของกองทัพเยเมนไปยังฐานทัพอากาศ "อัซซะลีล" ครั้งนี้ ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายและความเสียหายอื่นๆ อย่างหนักหน่วง และซาอุดิอาระเบีย พยายามที่จะปกปิดข่าวนี้

ที่มา : yjc.ir

รัฐมนตรีกลาโหมของซาอุฯ ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของกองทัพเยเมน

 

การจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านใหม่ในจังหวัดนัจญ์รอนของซาอุฯ
Category: News & Event Published on Friday, 03 July 2015 01:30 Written by Islamicstudiesth Team.



เพียง 10 วันหลังจากที่กลุ่มต่อต้านในจังหวัดนัจญ์รอนของซาอุดีอาระเบียได้ประกาศจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้าน "เสรีชนแห่งนัจญ์รอน" มาวันนี้พวกเขาได้รายงานเกี่ยวกับขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการทหารกลุ่มใหม่ขึ้นในนามกลุ่ม "เยาวชนแห่งนัจญ์รอน"

ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวฟาร์สในกรุงซานารายงานว่า : ประชาชนนักปฏิวัติที่ต่อต้านระบอบการปกครองของราชวงศ์ซะอูดในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดนัจญ์รอนในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุดีอาระเบียได้จัดตั้งกลุ่มต่อต้านใหม่ซึ่งมีชื่อว่า "เยาวชนแห่งนัจญ์รอน" เพื่อทำการต่อสู้กับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

"อบูซะมีอ์" นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งในจังหวัดนัจญ์รอนได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวฟาร์สในกรุงซานาว่า : ขบวนการเคลื่อนไหวของเยาวชนในต่อต้านการกดขี่และความอธรรมของระบอบการปกครองของราชวงศ์ซะอูดได้ยืนหยัดขึ้นแล้ว และขบวนการเคลื่อนไหวนี้กำลังดำเนินเป้าหมายเดียวกันกับขบวนการเคลื่อนไหว "เสรีชนแห่งนัจญ์รอน" ซึ่งนั่นก็คือ การแยกตัวเป็นอิสระจากประเทศซาอุดิอารเบีย

ในวันพุธ(1/7/58) กองกำลังของกลุ่ม "เสรีชนแห่งนัจญ์รอน" ได้บุกโจมตีสนามบินในเขตพื้นที่ของจังหวัดนัจญ์รอนทางภาคใต้ของซาอุดิอาระเบีย ภายหลังจากการปะทะกับกองกำลังรัฐบาลของราชวงศ์ซะอูด กองกำลังกลุ่ม "เสรีชนแห่งนัจญ์รอน" ได้เข้ายึดสนามบินไว้ในครอบครองของตนได้อย่างสมบูรณ์

ตามรายงานต่างๆ ที่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปนั้น ในเหตุการณ์ปะทะกันครั้งนี้ ทหารของซาอุดิอาระเบียอย่างน้อย 30 นายได้เสียชีวิต ในวันอังคารก็เช่นเดียวกันกองกำลังของกลุ่ม "เสรีชนแห่งนัจญ์รอน" โดยการช่วยเหลือของชนเผ่าต่างๆ ในพื้นที่ได้ยิงเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพซาอุดีอาระเบียตกหนึ่งลำในพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดนัจญ์รอน

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมากองกำลังของรัฐบาลซาอุฯ ได้ยิงจรวดมากกว่า 20 ลูกถล่มหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดนัจญ์รอน ผลการยิงถล่มครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน

ก่อนหน้านี้ บรรดานักเคลื่อนไหวชาวซาอุดีอาระเบียในพื้นที่จังหวัดนัจญ์รอนได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวติดอาวุธที่มีชื่อว่า "ขบวนการต่อสู้เสรีชนแห่งนัจญ์รอน" และได้ประกาศความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของตนกับประชาชนผู้ถูกกดขี่แห่งเยเมนในการต่อต้านระบอบการปกครองของราชวงศ์ซะอูด

ประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ชนเผาต่างๆ ในพื้นที่ของจังหวัดนัจญ์รอนได้ประกาศสงครามกับรัฐบาลซาอุฯ และได้ประณามว่าระบอบการปกครองนี้ทรยศและบิดพลิ้วสนธิสัญญาทั้งมวล และเรียกร้องการแยกตัวออกจากรัฐบาลกลางซาอุดีอาระเบีย

ขบวนการเคลื่อนไหวนี้ได้เรียกร้องชาวมุสลิมและบรรดานักนักวิชาการศาสนาให้ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งในการเผชิญหน้ากับการสร้างวิกฤตต่างๆ ที่เลวร้ายของซาอุดีอาระเบีย และการใช้มาตรการต่างๆ ที่เหมาะสมเพื่อจัดการกับราชวงศ์ซะอูด



นัจญ์รอนพร้อมด้วยจังหวัดอะซีรและญีซาน คือพื้นที่ของเยเมนที่ถูกยึดครองโดยซาอุดิอาระเบียในปี 1934 หลังจากการก่อตั้งประเทศซาอุดีอาระเบียและการปลุกปั่นโดยตรงของประเทศอังกฤษและการโจมตียังดินแดนเหล่านี้ในปี 1932 นัจญ์รอนได้ถูกประกาศเป็นเมืองใหม่โดยรัฐบาลซาอุดิอาระเบียในปี 1965 และปัจจุบันเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่สำคัญที่สุดทางการเกษตรและการพาณิชย์ของซาอุดีอาระเบีย และมีสนามบินภายในประเทศ พื้นที่ของเมืองนัจญ์รอนประมาณ 119,000 ตารางเมตร

ที่มา : farsnews

การจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านใหม่ในจังหวัดนัจญ์รอนของซาอุฯ

 

แผ่นดินไหว 6.4 เขย่า “ซินเจียง” ชาวบ้านดับอย่างน้อย 3 ราย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 11:03 น. (แก้ไขล่าสุด 3 กรกฎาคม 2558 11:05 น.)



เอเจนซีส์ – เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.4 ตามมาตราแมกนิจูด บริเวณเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ทางภาคตะวันตกของจีนวันนี้ (3 ก.ค.) ล่าสุดทางการจีนได้รับรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย


สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แรงสั่นสะเทือนครั้งนี้เกิดที่ความลึก 20 กิโลเมตร โดยมีศูนย์กลางอยู่ในอำเภอปีชาน (Pishan County) ห่างจากเมืองเหอเถียน (Hotan) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 164 กิโลเมตร

ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับชายขอบของทะเลทรายทากลามากัน แต่ศูนย์จัดการแผ่นดินไหวจีนได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต 3 รายในอำเภอปีชาน ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่มีประชากรอยู่อาศัยราว 258,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์

“ถ้าขณะเกิดแผ่นดินไหวมีคนมารวมตัวกันมากๆ ในที่ใดที่หนึ่ง ก็อาจเกิดความสูญเสียร้ายแรง แต่ที่นี่มีประชากรค่อนข้างน้อย จึงคิดว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะเลวร้ายมากนัก” ซุน สื่อหง นักวิจัยจากศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวจีนให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ CCTV

หลังจากแผ่นดินไหวระลอกแรกยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมาอีกหลายครั้ง วัดความรุนแรงได้สูงสุด 4.8

ชาวจีนคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าอยู่ในจุดที่เกิดแผ่นดินไหวเขียนบรรยายเหตุการณ์ไว้ในไมโครบล็อกเวยปั๋วว่า “อาคารบ้านเรือนสั่นไปหมด และมีคนวิ่งแตกตื่นอยู่ด้านนอก”

จีนเคยเผชิญเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงมาแล้วหลายระลอก โดยเฉพาะในมณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้อย่างเสฉวนและยูนนาน

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075184

 

ผู้นำญี่ปุ่นหลุดปาก “พร้อมเปิดศึกกับจีน”!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 09:49 น.


@กฎหมายความมั่นคงที่รัฐบาลนายอะเบะกำลังผลักดันถูกคัดค้านจากประชาชนจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรีชินโสะ อะเบะ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในงานเลี้ยงสังสรรค์ว่า พร้อมทำสงครามกับประเทศจีน โดยการแก้ไขกฎหมายความมั่นคงมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับการขยายอิทธิพลของแดนมังกร

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในการสนทนาส่วนตัวกับคณะสื่อมวลชนอาวุโส ที่ร่วมงานเลี้ยงประจำเดือนของทำเนียบรัฐบาลว่า “ตนเองได้วางแผน หากต้องทำสงครามกับประเทศจีนไว้แล้ว”

ผู้นำญี่ปุ่นยังระบุว่า กฎหมายความมั่นคงที่รัฐบาลกำลังเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาขณะนี้ มีจุดประสงค์เพื่อรับมือกับการขยายอิทธิพลในทะเลของประเทศจีนโดยตรง ซึ่งรัฐบาลต้องผลักดันกฎหมายนี้ให้สำเร็จให้ได้ เพราะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นสามารถทำการรบร่วมกับประเทศพันธมิตร อย่างสหรัฐอเมริกาได้

สื่อมวลชนของญี่ปุ่น ระบุว่า ในงานเลี้ยงผู้นำญี่ปุ่นได้ดื่มสุราพร้อมสนทนาแบบส่วนตัวกับผู้สื่อข่าวอาวุโส แต่ไม่แน่ใจว่านายอะเบะมีอาการเมามายหรือไม่?


นอกจากประเด็นร้อนเรื่องความสัมพันธ์กับแดนมังกรแล้ว นายอะเบะยังได้พาดพิงเรื่องที่อ่อนไหวอีกหลายเรื่อง เช่น ระบุว่า ปัญหาหญิงสาวชาวเกาหลีที่ถูกบังคับให้มาเป็นนางบำเรอในกองทัพญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกนั้น “เพียงชดใช้เงิน 300ล้านเยนก็จบปัญหาได้”

ผู้นำญี่ปุ่นยังกล่าวถึง การเจรจาข้อตกลงการค้าแปซิฟิก หรือทีพีพี ซึ่งประเทศเจ้าภาพอย่าง สหรัฐฯ ไม่ยอมผ่อนปรนเงื่อนไขให้กับญี่ปุ่นว่า “ไม่รู้ว่าสหรัฐฯคิดอย่างไร ไม่รู้ว่าโอบาม่าคิดอะไรอยู่” ทั้งๆที่ข้อตกลงทีพีพีเป็นเครื่องมือสำคัญในการต้านทานการขยายอิทธิพลทางการค้าของประเทศจีน

อย่างไรก็ตาม หลังงานเลี้ยงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบได้รัฐบาล ได้ขอให้ผู้สื่อข่าวงดนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดที่ได้สนทนากับนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าเป็นการพูดคุยส่วนตัว ไม่ใช่การแถลงข่าว จึงไม่เหมาะที่จะนำเสนอออกไป ทำให้สื่อมวลชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นไม่ได้นำเสนอข่าวดังกล่าว แต่ใช้วิธีให้ข่าวกับนิตยสารข่าวรายสัปดาห์และสื่ออินเตอร์เน็ตแทน โดยข้อมูลดังกล่าวยังถูกสื่อมวลชนของรัฐบาลจีน อย่างหนังสือพิมพ์ “โกลเบิล ไทม์” นำไปเผยแพร่ต่อ.


http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074828

 

แกนนำไอเอสเจ้าของฉายา “เอมีร์แห่งมือระเบิดฆ่าตัวตาย” ถูกปลิดชีพในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเหนือซีเรีย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 08:05 น.



เอเอฟพี – แกนนำคนสำคัญของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับมือระเบิดฆ่าตัวตาย ระดมเงินทุน และจัดหานักรบรุ่นใหม่ๆ ถูกปลิดชีพในซีเรียด้วยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกลุ่มพันธมิตรสหรัฐฯ กระทรวงกลาโหมอเมริกันแถลงเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.)

น.อ. เจฟฟ์ เดวิส โฆษกเพนตากอน แถลงว่า ตอริก บิน ตอฮาร์ อัล-เอานี อัล-ฮาร์ซี ถูกสังหารที่เมืองชัดดาดี (Shaddadi) ทางภาคเหนือของซีเรีย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ส่วน อาลี พี่ชายของเขาซึ่งอยู่ฝ่ายหาแนวร่วม และอาจเป็นตัวการอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเบงกาซีของลิเบียเมื่อปี 2012 เสียชีวิตไป 1 วันก่อนหน้านั้นด้วยภารกิจทิ้งระเบิดในอิรัก

ฮาร์ซี ซึ่งเป็นชาวตูนิเซียวัย 33 ปี ถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งค่าหัวเอาไว้สูงถึง 3 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้ฉายาเขาว่า “เอมีร์แห่งมือระเบิดฆ่าตัวตาย”

ช่วงปลายปี 2013 ฮาร์ซี ถือเป็นแกนนำคนสำคัญที่คอยวางแผนคาร์บอมบ์และระเบิดฆ่าตัวตายในอิรัก ซึ่งการตายของเขานับว่าสร้างความสูญเสียต่อไอเอสอย่างร้ายแรง

“ความตายของเขาจะบั่นทอนศักยภาพของไอเอสในการดึงดูดผู้ก่อการร้ายต่างชาติ รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายอาวุธและกองกำลังข้ามไปมาระหว่างอิรักและซีเรีย” เดวิส กล่าว

หน้าที่หลักๆ ของ ฮาร์ซี คือการระดมเงินทุนจากผู้บริจาคในกลุ่มรัฐอ่าวอาหรับ (รวมถึงเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากผู้อำนวยความสะดวกรายหนึ่งในกาตาร์) จัดหานักรบ เตรียมการเดินทาง และยังคอยส่งอาวุธจากลิเบียมาป้อนกองกำลังไอเอสในซีเรีย

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075140

 

วิกฤตทีวี!!'BBC'ปลดพนักงานเป็นพัน ผู้ชมหันเสพสื่อออนไลน์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 03:30 น.


@สำนักงานใหญ่ของบีบีซีในกรงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

เอเอฟพี/บีบีซี - บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษหรือ "บีบีซี" สถานีโทรทัศน์ชื่อดัง เผยเมื่อวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) ว่าจะปรับลดพนักงานมากกว่า 1,000 ตำแหน่ง ส่วนหนึ่งในแผนขับเคลื่อนระยะยาวในการลดค่าใช้จ่ายที่พอกพูนจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ชม ด้วยผู้ชมทางโทรทัศน์หลายล้านคน หันไปเสพรายการต่างๆบนแท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือมากขึ้น

บีบีซีเป็นสำนักข่าวของอังกฤษที่มีอายุเกือบ 100 ปี และได้รับการสนับสนุนจากเงินภาษีของประชาชน โดยทุกครัวเรือนที่มีการรับชมรายการทางโทรทัศน์ จะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมรับชมโทรทัศน์ประจำปีเป็นจำนวนเงิน 145.50 ปอนด์ (227 ดอลลาร์)

แต่ด้วยประชาชนหันไปรับชมรายการต่างๆทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีจำนวนครัวเรือนที่ควักกระเป๋าจ่ายค่ายบริการเพื่อรับชมรายการต่างๆของบีบีซีทางโทรทัศน์ลดลงมากกว่าคาด จึงประมาณการณ์ว่าจะมีรายได้เพียง 150 ล้านปอนด์จากการเก็บค่าธรรมเนียมในปีงบการเงิน 2016/2017 น้อยกว่าจากที่คาดหมายไว้เมื่อ 4 ปีก่อน

ด้วยเหตุนี้ ทางบีบีซีจึงเสนอรวมแผนกต่างๆ ปรับลดพนักงาน ส่วนใหญ่เป็นด้านผู้เชี่ยวชาญและสนับสนุนปฏิบัติการ ขณะเดียวกันก็จะมีการปรับปรุงโครงสร้างด้านบริการจัดการให้คล่องตัวขึ้น "จะมีการปรับลดพนักงาน 1,000 ตำแหน่ง ผลก็คือจะช่วยประหยัดงบประมาณ 50 ล้านปอนด์ต่อปี" โทนี ฮอล์ ผู้อำนวยการของบีบีซีระบุ

ในรายงานประจำปี เมื่อเดือนกรกฎาคม 2014 ระบุว่าบีบีซีมีพนักงานทั้งหมด 16,672 คน เพิ่มขึ้นจากหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ซึ่งอยู่ที่ 16,534 คน แต่ก็ดลลงจากเมื่อปี 2012 ที่มีพนักงานอยู่ 17,242 คน ขณะที่รายได้จากเงินค่าธรรมเนียมประจำปี 2013/14 อยู่ที่ 3,720 ล้านปอนด์ มากกว่าหนึ่งปีก่อนหน้านั้น ที่มีรายได้จากค่าธรรมเนียม 3,710 ล้านปอนด์

โฆษกของบีบีซีไม่ได้บอกว่าตำแหน่งที่ปรับลดใดที่มีความซ้ำซ้อนกันบ้าง หรือแผนกไหนที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุด หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน ในส่วนของบีบีซีนิวส์ ก็เพิ่งประกาศปรับลดพนักงานในแผนกใหม่ 415 ตำแหน่ง ส่วนหนึ่งในแผนปฏิรูปโครงสร้าง

ก่อนหน้านี้ บีบีซี เคยแถลงปรับลดพนักงานมาแล้ว 2,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน 2011 แม้ต่อมาได้มีการพิจารณาใหม่และปรับลดพนักงานแค่ 580 ตำแหน่ง

"ง่ายๆเลย บีบีซี มีสิ่งเหมาะสมที่ต้องทำและมันจะช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายทางการเงินที่เราเผชิญ" ฮอล์กล่าว "เราได้ตัดลดค่าใช้จ่ายในการบริหารงานบีบีซีลงไปอย่างมากแล้ว แต่ในช่วงเวลาแห่งการตัดสินใจอันแสนยากลำบากนี้ เราจำเป็นต้องเพ่งเล็งไปว่าอะไรคือประเด็นที่แท้จริง นั่นคือนำเสนอรายการและเนื้อหาที่ดีเลิศแก่ผู้ชมทุกท่าน"

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075117

 

น้ำมันทรงตัว สถานการณ์หนี้กรีซฉุดหุ้นสหรัฐฯ-ทองคำปิดลบ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 04:24 น. (แก้ไขล่าสุด 3 กรกฎาคม 2558 04:33 น.)



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันทรงตัวเมื่อวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) หลังปิดลบหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ นักลงทุนกลับมากังวลอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ หลังไอเอ็มเอฟเตือนกรีซต้องการเงินช่วยเหลืออีกมหาศาลหากต้องการอยู่รอด ท่ามกลางทางตันของการเจรจาหนี้ อย่างไรก็ตามด้วยบางส่วนเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วปัญหานี้จะพบทางออก ก็ผลักให้นักลงทุนเมินสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและฉุดทองคำขยับลง

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 56.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แกว่งตัวในระดับต่ำสุดรอบกว่า 2 เดือน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เมื่อวันพุธ(ก.ค.) ราคาน้ำมันเวสต์เทกซัส ร่วงลงราว 2.50 ดอลลาร์ หลังกระทรวงพลังงานอเมริการายงานพบคลังน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้นเกินคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว

แต่ในวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) ตลาดปิดในกรอบแคบๆ จากข้อมูลของเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการแหล่งน้ำมันรายใหญ่ ที่ระบุว่าในสัปดาห์นี้ มีแท่นขุดเจาะน้ำมันของเหล่าผู้ผลิตต่างๆที่ยังปฏิบัติการขุดเจาะเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ จำนวน 640 แท่น เพิ่มขึ้นจาก 628 แท่นของสัปดาห์ก่อน ก่อความกังวลว่าจะซ้ำเติมภาวะอุปทานล้นตลาด

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) ยังปิดลบต่อเนื่องนับตั้งแต่กรีซผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เตือนเอเธนส์จำเป็นต้องตัดลดหนี้จำนวนมากและต้องการเงินช่วยเหลืออีกมหาศาลเพื่อความอยู่รอด

ดาวโจนส์ ลดลง 27.80 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,730.11 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.64 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,076.78 จุด แนสแดค ลดลง 3.91 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,009.21 จุด

ไอเอ็มเอฟส่งเสียงเตือนในวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) ว่ากรีซกำลังเผชิญรูโหว่ทางการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อความอยู่รอด ก่อนหน้านี้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเตรียมลงประชามติตัดสินอนาคตของพวกเขาในยูโรโซนช่วงสุดสัปดาห์นี้

ไม่กี่วันหลังจากกรีซผิดนัดชำระหนี้ในส่วนที่เป็นของไอเอ็มเอฟ กองทุนแห่งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ "ทรอยก้า" เตือนว่ากรีซ ต้องการเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 50,000 ยูโรช่วง 3 ปีข้างหน้า ในนั้นรวมถึง 36,000 ล้านยูโรจากพันธมิตรสหภาพยุโรป เพื่อความอยู่รอด และยังจำเป็นต้องได้รับการผ่อนปรนหนี้มหาศาลด้วย

วอลล์สตรีทยังถูกเหนี่ยงรั้งเพิ่มเติมจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ที่บอกว่าเศรษฐกิจของประเทศ มีการจ้างงานเพิ่มเติม 223,000 อัตราในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามรายได้ต่อชั่วโมงทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม และยังปรับลดประมาณการณ์การเติบโตด้านการจ้างงานในเดือนเมษายนและพฤษภาคมลง

ในส่วนของราคาทองคำปิดลบ 3 วันติดต่อกันเมื่อวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ด้วยนักลงทุนบางส่วนหวังว่าท้ายที่สุดแล้วกรีซจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ ซึ่งทำให้วิกฤตดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบเลวร้ายยาวนานต่อตลาดการเงินโลก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,163.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ขู่รายวัน!IMFเตือนกรีซต้องการเงินมหาศาลเพื่ออยู่รอด ซีปราสเมินเดินหน้าโหวต'No' โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 05:30 น.



@ชาวกรีซที่ฝักใฝ่ยุโรปออกมารวมตัวกันที่เมืองเทซาโลนิกิเมื่อวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) แสดงพลังสนับสนุนโหวต "เยส" ประชามติมาตรการช่วยเหลือที่เสนอโดยเหล่าเจ้าหนี้

รอยเตอร์ - ไอเอ็มเอฟส่งเสียงเตือนในวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) ว่ากรีซกำลังเผชิญรูโหว่ทางการเงินขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อความอยู่รอด ก่อนหน้านี้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเตรียมลงประชามติตัดสินอนาคตในยูโรโซนช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ทางนายกรัฐมนตรีซีปราสยักไหล่ เชื่อเอเธนส์จะสามารถเจรจาบรรลุเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม รวมถึงผ่อนปรนหนี้ หากประชาชนโหวต "โน" ต่อข้อเสนอกู้ยืมของเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ

ไม่กี่วันหลังจากกรีซผิดนัดชำระหนี้ในส่วนที่เป็นของไอเอ็มเอฟ กองทุนแห่งนี้ซึ่งเป็นหนึ่งในเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ "ทรอยก้า" เตือนว่ากรีซ ต้องการเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 50,000 ยูโรช่วง 3 ปีข้างหน้า ในนั้นรวมถึง 36,000 ล้านยูโรจากพันธมิตรสหภาพยุโรป เพื่อความอยู่รอด และยังจำเป็นต้องได้รับการผ่อนปรนหนี้มหาศาลด้วย

คำประเมินดังกล่าวย้ำถึงขอบเขตปัญหาที่กรีซกำลังเผชิญ ไม่ว่าผลประชามติในวันอาทิตย์(5ก.ค.) ต่อข้อตกลงช่วยเหลือที่เสนอโดยเหล่าเจ้าหนี้เมื่อเดือนก่อนจะออกมาอย่างไรก็ตาม หลังจากก่อนหน้านี้คำปฏิเสธเงื่อนไขตัดลดการใช้จ่ายและขึ้นภาษีของอียูและไอเอ็มเอฟของนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ที่กล่าวหาว่ามันคือการ "ขู่กรรโชก" ได้กระพือความขุ่นเคืองแก่เหล่าเจ้าหนี้ ที่หมดหวังต่อความเป็นไปได้ที่จะประนีประนอมก่อนถึงวันอาทิตย์นี้

ด้วยที่ธนาคารต่างๆปิดทำงานเป็นวันที่ 4 และบังคับใช้มาตรการควบคุมเงินทุน อนาคตของรัฐบาลฝ่ายซ้ายจึงแขวนอยู่กับผลการลงประชามติ ที่มอบโอกาสให้ชาวกรีซซึ่งกำลังอยู่ในอารมณ์เดือดดาล ได้เลือกระหว่างแสดงออกความขุ่นเคืองไปที่เหล่าเจ้าหนี้หรือโยนความผิดให้พวกนักการเมืองของพวกเขาเอง

"เราขอให้พวกเขาลงคะแนนโหวตด้วยสายตาที่เปิดกว้างและคิดให้หนักถึงผลสืบเนื่องทั้งหมดของการโหวตโน ซึ่งอาจทำให้กรีซ ต้องออกจากยูโรโซน" นายมานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวนอกรอบการประชุมซัมมิทเศรษฐกิจในลียง

ความเห็นดังกล่าวสะท้อนความกังวลของหลายฝ่ายในยูโรโซนว่าการหลุดพ้นจากเป็นสมาชิกของกรีซจะเปลี่ยนแปลงลักษณะของสหภาพสกุลเงินเดียวที่มีอายุ 15 ปีนี้ ขณะที่ในส่วนของนายซีปราส หากประชาชนลงคะแนนสนับสนุนแผนช่วยเหลือของเจ้าหนี้ ก็ดูเหมือนว่ารัฐบาลของเขาคงต้องพังครืนและนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ในเดือนกันยายน

อย่างไรก็ตามนายซีปราสและนายยานิส วารูฟาคิส รัฐมนตรีคลังของกรีซ ยังเชื่อว่าเอเธนส์จะสามารถเจราจนได้เงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม ในนั้นรวมถึงการผ่อนปรนหนี้ หากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงโหวตโน ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณว่าจะลาออกหากประชาชนเลือกโหวตเยส

"ผมเชื่อว่าปัญหานี้จะไม่ยืดยาว" นายซีปราสกล่าวถึงประเด็นปิดธนาคาร "ธนาคารจะเปิดทำการเมื่อได้ข้อตกลง" เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง พร้อมคาดหมายว่ามันจะเกิดขึ้น 48 ชั่วโมงหลังการลงประชามติ ทั้งนี้ผลสำรวจเดียวที่เผยแพร่ออกมานับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรายนี้ประกาศทำประชามติ พบว่าโหวตโน มีคะแนนนำหน้าอยู่ แต่เสียงสนับสนุนลดลงเรื่อยๆตามหลังคำประกาศปิดธนาคาร

สำหรับชาวกรีกแล้ว เหตุปิดธนาคารและภาพกลุ่มผู้เกษียณอายุเข้าแถวที่เบียดเสียดกันยาวเหยียดตามธนาคารที่เปิดบริการอย่างจำกัดเพียงไม่กี่แห่งสำหรับจ่ายเงินบำนาญ ก่อความรู้สึกช็อคและเป็นเสมือนคำเตือนถึงความเจ็บปวดที่ต้องชดใช้หากต้องออกจากยูโรโซน

รัฐบาลของนายซีปราสก้าวขึ้นสู่อำนาจในเดือนมกราคม ด้วยนโยบายหาเสียงปกป้องผู้เกษียณอายุ และประเด็นโต้เถียงกับเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ มีต้นตอจากที่เขาปฏิเสธยอมรับข้อเสนอตัดเงินบำนาญตามที่เจ้าหนี้เรียกร้อง

ด้วยอัตราคนว่างงานพุ่งสูงถึงร้อยละ 25 และในนั้นร้อยละ 50 เป็นคนหนุ่มสาว ชะตากรรมของผู้เกษียณอายุจึงเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่ง เนื่องจากพวกเขาอาจเป็นแหล่งรายได้เดียวของครอบครัว

ในความพยายามสร้างความอุ่นใจแก่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง นิโคลัส ปัปปาส รัฐมนตรีกิจการแห่งรัฐของกรีซ หนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของซีปราส ปฏิเสธข่าวลือที่ว่ารัฐบาลจะประกาศจัดเก็บภาษีบัญชีเงินฝากธนาคาร

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075124

 

เกาหลีใต้ยันพบผู้ติดเชื้อ'เมอร์ส'รายใหม่2คนหลังเว้นช่วงมา4วันติด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 02:17 น.



@ประชาชนบางส่วนในกรุงโซล ยังสวมหน้ากากอนามัยไม่ไว้ใจต่อไวรัสเมอร์ ด้วยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2 คนหลังเว้นช่วงมา4วัน

เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ - เกาหลีใต้ พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลุ่มทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) เพิ่ม 2 คนในวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) หลังจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่หยุดนิ่งเป็น “ศูนย์” มา 4 วัน ขณะที่โซลพยายามอย่างยิ่งยวดในการกอบกู้ภาคการท่องเที่ยวได้ที่รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ด้วยงดเก็บค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากจีนและประเทศย่านอาเซียน

กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่าเหยื่อทั้ง 2 รายล่าสุดเป็นพยาบาลของศูนย์การแพทย์ซัมซุงในกรุงโซล ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเมอร์สในดินแดนโสมขาวเพิ่มเป็น 184 ราย ถือเป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุด รองจากซาอุดีอาระเบีย

สถานพยาบาลแห่งนี้เป็นจุดที่พบว่ามีการแพร่กระจายของไวรัส MERS รุนแรงที่สุด โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดในเกาหลีใต้ได้รับเชื้อจากที่นี่ เป็นเหตุให้ทางโรงพยาบาลต้องประกาศปิดให้บริการเป็นเวลา 10 วันเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส และด้วยที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลแห่งนี้จึงขยายเวลาปิดบริการออกไปโดยไม่มีกำหนด

ในบรรดาผู้ติดเชื้อ 184 คน มีอยู่ 33 คนเสียชีวิต 102 หายจากอาการป่วยและได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนอีก 48 คนยังอยู่ระหว่างการรักษา โดยในนั้นมี 12 คนที่อาการสาหัส

คำยืนยันดังกล่าวมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากเมื่อวันพุธ(1ก.ค.) รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สรายใหม่มา 4 วันติด ซึ่งนับเป็นสัญญาณดีในความพยายามต่อสู้วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะที่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศ

จากสภาวการณ์ดังกล่าว ให้ในวันพุธ(1ก.ค.) เกาหลีใต้ประกาศยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจากจีนและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อดึงดูดกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ

กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ แถลงว่า วีซ่าที่ออกไปแล้วก่อนหน้านี้จะถูกต่ออายุให้อีก 3 เดือน เพื่อต้อนรับฤดูท่องเที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

“มาตรการทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไวรัส MERS” กระทรวงฯ ระบุในคำแถลง

ตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกาะเจจูซึ่งเป็นสถานตากอากาศชื่อดังของเกาหลีใต้มีนักท่องเที่ยวจีนไปเยือนลดลงจากปีที่แล้วถึง 46%

คิม ชอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เคยเตือนว่าเกาหลีใต้อาจสูญเสียรายได้ถึง 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 50%

เกาหลีใต้จะยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. - 30 ก.ย. สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกลุ่ม โดยประเทศที่อยู่ในข่ายได้รับการยกเว้น ได้แก่ จีน กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

วีซ่าที่ออกไปแล้วระหว่างวันที่ 1 มี.ค. - 30 มิ.ย. จะถูกต่ออายุอัตโนมัติให้อีก 3 เดือน รวมเป็น 6 เดือน และสำหรับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเดินทางมาเป็นกลุ่มโดยถือวีซ่าญี่ปุ่นจะสามารถพำนักอยู่ในเกาหลีใต้ได้สูงสุด 15 วัน


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075113

 

ผวา!รถไฟบรรทุุกสารเคมีอันตรายตกรางในสหรัฐฯ อพยพครึ่งหมื่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2558 06:37 น.





@รถไฟเคมีขบวนหนึ่งซึ่งบรรทุกสารเคมีอันตรายประสบอุบัติเหตุตกรางและไฟลุกท่วมในเทนเนสซี

เอเอฟพี - ทางการต้องอพยพประชาชนกว่า 5,000 คนออกจากที่พักอาศัย หลังรถไฟเคมีขบวนหนึ่งซึ่งบรรทุกสารเคมีอันตรายประสบอุบัติเหตุตกรางและไฟลุกท่วมในเทนเนสซีเมื่อคืนที่ผ่านมา หน่วยดับเพลิงและเจ้าหน้าที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี(2ก.ค.) ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีชาวบ้านหลายสิบคนถูกนำตัวโรงพยาบาล หลังสัมผัสกับสารเคมีดังกล่าว

เคอร์มิต อีสเตอร์ลิง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเผยว่าเหตุรถไฟตกรางครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้ๆเมืองแมรีวิลล์ ก่อนเที่ยงคืนวันพุธ(1ก.ค.)ไม่นาน ตามเวลาท้องถิ่น โดยม้าเหล็กขบวนดังกล่าวบรรทุกอะคริโลไนไตรล์ อันเป็นสารเคมีอันตรายและติดไฟง่าย ซึ่งก่อความเสี่ยงเกี่ยวกับการหายใจ


ด้านสื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีประชาชน 25 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังสัมผัสกับสารเคมีดังกล่าว แต่ไม่มีใครมีอาการป่วยขั้นฉุกเฉินใดๆ

อีสเตอร์ลิง เผยว่าหน่วยดับเพลิงสวมอุปกรณ์ช่วยหายใจ เข้าไปเคาะประตูบ้านของประชาชนแบบหลังต่อหลัง เพื่อพาผู้คนออกห่างจากละแวกที่เกิดเหตุ พร้อมระบุว่าได้มีคำสั่งอพยพพลเรือนที่พำนักอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตร โดยทีทางกาชาดได้จัดโรงเรียนท้องถิ่นแห่งหนึ่งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว

CSX ผู้ปฏิบัติการรถไฟขบวนดังกล่าว ระบุว่าทางบริษัทกำลังให้ความช่วยเหลือความพยายามบรรเทาภัยและได้ลงมือตรวจสอบหาข้อเท็จจริงของอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว "CSX กำลังทำงานร่วมกับทีมตอบสนองชุดแรกๆ องค์กรบรรเทาภัย ในนั้นรวมถึงกาชาด เช่นเดียวกับเหล่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมในแมรีวิลล์ หลังจากรถไฟตกรางและไฟลุกท่วม"

"เบื้องต้น ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจุดที่รถไฟตกราง ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่าไม่ควรดื่มน้ำจากแหล่งน้ำแถวนั้น จนกว่าจะมีการประเมินเพิ่มเติม และตอนนี้ก็ได้ดำเนินการเฝ้าระวังทางอากาศและน้ำแล้ว" CSX ระบุในถ้อยแถลง

อุบัติเหตุคราวนี้เกิดขึ้นในขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าวกำลังแล่นจากซินซินเนติ มลรัฐโอไฮโอ มุ่งสู่เวย์ครอส มลรัฐจอร์เจีย "ทีมตอบสนองชุดแรก สั่งอพยพในรัศมี 3 กิโลเมตร และมันยังมีผลอยู่" บริษัทระบุ "สินค้าในถังบรรทุกสารเคมียังคงลุกไหม้อยู่ ส่งผลให้มันไม่มีความปลอดภัยสำหรับปฏิบัติการขนส่งใดๆ ส่วนต้นตอของการตกรางอยู่ระหว่างการสืบสืวนของบริษัทและเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรถไฟของรัฐบาลกลาง(FRA)"

รถไฟขบวนนี้มี 2 หัวจักรและ 57 โบอี้ ในนั้นบรรทุกสินค้า 45 โบกี้และว่างเปล่า 12 โบกี้ โดยสินค้าอื่นๆบนรถไฟก็มีกระดาษแข็ง ข้าวโพด ไม้แปรรูปและเศษกระดาษ

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075130

 

ประเทศตัวไปสร้างภัยคุกคามเค้าก่อน ยังไปกล่าวหาเขาอีก

ยุทธศาสตร์ทหารของUSระบุ 'จีน-รัสเซีย'ภัยความมั่นคง พร้อมวิตกสูญความได้เปรียบด้านไฮเทค โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 22:18 น.




พลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ(ขวา) เผยแพร่เอกสาร “ยุทธศาสตร์ทางทหารแห่งชาติประจำปี 2015” ของอเมริกา

เอเจนซีส์ - เอกสารยุทธศาสตร์การทหารฉบับใหม่ล่าสุดของสหรัฐฯระบุ จีนและรัสเซียเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของแดนอินทรี ขณะเดียวกันก็เตือนถึงเรื่องความท้าทายด้านเทคโนโลยี และเสถียรภาพโลกที่สั่นคลอนลงทุกที

เอกสาร “ยุทธศาสตร์ทางทหารแห่งชาติประจำปี 2015” ของอเมริกา ที่พลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐฯ นำออกเปิดตัวเมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) เตือนถึง ความน่าจะเป็น “ที่อยู่ในระดับต่ำแต่กำลังเพิ่มสูงขึ้น” ที่อเมริกาจะต้องรบรากับมหาอำนาจอื่นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่อง “อย่างใหญ่หลวง”

รัสเซีย “แสดงออกซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าไม่เคารพอธิปไตยของเพื่อนบ้าน และยินดีใช้กำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเอง” เอกสารฉบับนี้ระบุ และสำทับว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียและกองกำลังที่เป็นตัวแทนของมอสโก บ่อนทำลายความมั่นคงของภูมิภาคโดยตรง ซึ่งเป็นการพาดพิงถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครน ที่มอสโกปฏิเสธว่า ไม่ได้ส่งทหารเข้าไปหรือสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกตามที่ถูกตะวันตกกล่าวหา

นอกจากนี้ เอกสารฉบับนี้ยังระบุถึงการปฏิบัติการของจีนในเอเชีย-แปซิฟิก ว่าทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการอ้างอิงถึงโครงการถมทะเลในทะเลจีนใต้เพื่อเพิ่มการประจำการทางทหารและพลเรือน

เอกสารยุทธศาสตร์การทหารฉบับนี้ ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่รัฐต่างๆ กำลังพัฒนาสมรรถนะทางเทคโนโลยีการทหารขั้นสูง ที่กำลังทำให้กองทัพสหรัฐฯสูญเสียความเป็นผู้นำในสมรรถนะด้านนั้นๆ

เมื่อนำเอาสภาวการณ์เช่นนี้ มาพิจารณากับระบบทางทหารต่างๆ แล้ว “การกระจายตัวของเทคโนโลยีเช่นนี้ก็กำลังท้าทายความได้เปรียบในการแข่งขันซึ่งสหรัฐฯรักษาเอาไว้ได้มาเป็นเวลานาน เป็นต้นว่า ในเรื่องของการเตือนภัยล่วงหน้า และในเรื่องการโจมตีใส่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ” เอกสารฉบับนี้ระบุ

ทั้งนี้ นอกเหนือจากจีนและรัสเซีย เอกสารบอกว่า สมรรถนะทางด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธนำวิถีของอิหร่านและเกาหลีเหนือก็เข้าข่าย “ข้อกังวลด้านความมั่นคงร้ายแรง” ของอเมริกาและพันธมิตร

เดมป์ซีย์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่การเปิดตัวเอกสารยุทธศาสตร์การทหารแห่งชาติฉบับก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีที่แล้วเป็นต้นมา ความไร้ระเบียบของโลกถือว่ารุนแรงขึ้น ขณะที่ความได้เปรียบในการแข่งขันของสหรัฐฯ เริ่มลดทอนลง

ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของอเมริกายังเตือนว่า สงครามที่ยืดเยื้อและซับซ้อนกำลังรออยู่ ซึ่งพาดพิงถึงการเผชิญหน้ากับศัตรูที่มิได้เป็นรัฐ อย่างกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075091

 

โป๊ปฟรานซิสสนับสนุนกรีซในวิกฤตยูโร ชี้ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ควรอยู่บนโต๊ะเจรจา” – นายกฯกรีซฟันธง “ประเทศไม่แตกเป็นเสี่ยงหลังลงประชามติ”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 20:49 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 20:55 น.)



เอเอฟพี – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสแถลงสนับสนุนประชาชนกรีกในวันพุธ(1) หลังจากกรีซโดนมรสุมพิษวิกฤตหนี้ และทำให้เอเธนส์ต้องผิดนัดชำระหนี้ IMF โดยพระองค์ทรงวอนขอให้ประเด็น “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ในการเจรจาอนาคตของกรีซในยูโรโซน ในขณะที่นายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส ให้สัมภาษณ์ในวันนี้(2)ถึงอนาคตของแดนเฮเลนิสติก ว่า มีความมั่นใจว่า ประเทศกรีซยังคงมีความเป็นหนึ่งเดียวหลังจากผ่านพ้นการทำประชามติในวันอาทิตย์(5)ที่จะถึงนี้ไปแล้ว ด้านธนาคารกลางกรีซระบุ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ใช้มาตรการควบคุมเงินทุน แต่ทว่าตู้ ATM ทั่วประเทศกรีซยังคงสามารถรับฝากสกุลเงินยูโรอยู่

เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(1)ว่า วาติกันออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยถึงสถานการณ์วิกฤตหนี้สินกรีซล่าสุดว่า “ข่าวเกี่ยวกับกรีซด้านปัญหาทางเศรษฐกิจ และสภาพการณ์ในประเทศนั้นน่าเป็นห่วง” บาทหลวง เฟเดริโก ลอมบาร์ดี (Federico Lombardi) โฆษกสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสแห่งวาติกันแถลง

และบาทหลวงลอมบาดีแถลงต่อว่า “สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงมีพระประสงค์แสดงความห่วงใยอย่างใกล้ชิดไปยังประชาชนกรีกทั้งหลาย โดยเฉพาะบรรดาครอบครัวที่ต้องประสบปัญหาจากผลกระทบที่ซับซ้อนทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจในครั้งนี้”

นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตาม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นั้นเห็นควรต้องถูกวางไว้เป็นหลักไว้บนโต๊ะเจรจาการเมืองและเชิงเทคนิกต่างๆ และรวมไปถึงการตัดสินใจอย่างรับผิดชอบ ซึ่งพระองค์ได้ทรงเชิญชวนทุกคนที่มีความศรัทธาเพื่อร่วมสวดให้กับชาวกรีกอันเป็นที่รัก”

การก้าวเข้ามาของประมุขโรมันคาทอลิกหลังจากความพยายามในวินาทีสุดท้ายที่จะหาข้อตกลงร่วมระหว่างเอเธนส์และกลุ่มเจ้าหนี้กรีซต้องมีอันสิ้นสุดไปก่อนที่จะถึงกำหนดการจัดประชามติตัดสินอนาคตกรีซที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์(5) ซึ่งจะชี้ว่ากรีซจะยังคงใช้สกุลเงินยูโรต่อไปหรือไม่

ด้านในวันนี้(2)นายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบหลังจากเสร็จสิ้นการทำประชามติที่มีการเกรงว่า ผลจากการลงประชามติจะทำให้กรีซแตกออกเป็น 2 ส่วนว่า “วันหลังจากสิ้นสุดการลงประชามติไปแล้ว เราจะยังคงเป็นหนึ่งเดียว เพื่อที่จะชนะต่ออุปสรรคชั่วคราวที่ขวางกรีซอยู่ซึ่งหน้า”

และขณะเดียวกันในวันพฤหัสบดี(2) ธนาคารกลางกรีซได้ออกแถลงการณ์ไปยังประชาชนกรีกชี้แจง ในช่วงระยะเวลาที่ระบบธนาคารกรีซได้ปิดชั่วคราวนั้น อย่างไรก็ตามยังทางธนาคารยังสามารถเปิดให้รับฝากเงินสดสกุลยูโร

โดยกล่าวว่า ใครก็ตามที่มีความประสงต้องการฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง สามารถทำได้ผ่าน 289 สาขาทั่วประเทศที่เน้นให้ทำธุรกรรมเงินฝาก และสำหรับผู้เกษียณอายุที่ต้องการถอนโดยไม่มีบัตร ATM ที่จำกัดการถอนได้สัปดาห์ละ 120 ยูโรเท่านั้น

และในแถลงการณ์ยังระบุต่อว่า ระบบตู้ ATM ยังสามารถรับฝากเงินสดยูโรได้ตามปกติเช่นกัน


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075063

 

นายกฯกรีซวอนประชาชนโหวต'โน'ฉุนถูก'ยูโรโซน'ดัดหลังยังไม่เจรจา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 21:41 น.


@พวกผู้ประท้วงฝ่ายซ้ายในกรีซ ช่วยกันฉีกและเผาธงของสหภาพยุโรป ที่บริเวณด้านหน้าของสำนักงานสาขากรุงเอเธนส์ของคณะกรรมาธิการยุโรป อันเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ก.ค.)ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ชีปราส ของกรีซ ประณามอียูว่าข่มขู่แบล็กเมล์กรีซ แต่ก็บอกว่าต้องการอยู่ในอียูและยูโรโซนต่อไป

เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ออกมาปราศรัยในวันพุธ (1 ก.ค.) วอนชาวกรีกแสดงพลังต่อต้านข้อเสนอเงินกู้ของเจ้าหนี้วันอาทิตย์นี้ (5) หลังถูก “ยูโรกรุ๊ป” ดัดหลัง งดเคลื่อนไหวให้ความช่วยเหลือจนกว่าจะรู้ผลการลงประชามติ ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกไม่ตกอกตกใจกับการผิดนัดชำระหนี้ของเอเธนส์ เข้าทางสมาชิกสายเหยี่ยวในยูโรโซนที่ไม่ต้องการให้กรีซอ้างความเสี่ยงวิกฤตลุกลาม มากดดันให้ยุโรปต้องยอมอ่อนข้อในการเจรจา

เพียง 1 วันหลังจากที่กรีซเป็นประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้วแห่งแรกที่ผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ได้ปราศรัยสดทางทีวียืนกรานเรียกร้องให้ชาวกรีกโหวต “ไม่เอา” ข้อเรียกร้องล่าสุดของเจ้าหนี้ในการไปลงประชามติวันอาทิตย์ที่จะถึง แม้เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) มองว่า การกระทำดังกล่าวอาจนำพาเอเธนส์ออกไปจากยูโรโซนก็ตาม

ซีปราสที่ดึงดันต่อต้านเจ้าหนี้นับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม ยืนยันว่า การลงมติคัดค้านไม่ได้เป็นการแตกหักกับยุโรป แต่จะทำให้เอเธนส์มีอำนาจต่อรองมากขึ้นในการเจรจาหนี้ครั้งต่อไป ภายใต้เงื่อนไขที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนกรีซมากขึ้น

คำปราศรัยดังกล่าวมีขึ้นหลังจากข้อเสนอในนาทีสุดท้ายของกรีซเมื่อวันอังคารในการขอแพ็คเกจความช่วยเหลือก้อนที่สามจำนวนเกือบ 30,000 ล้านยูโร ถูกปฏิเสธจากบรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) ที่เห็นพ้องกันว่า จะรอให้กรีซทำประชามติเสร็จสิ้นก่อนจึงค่อยกลับมาเจรจาใหม่


ทั้งนี้ การที่ตลาดการเงินทั่วโลกตอบสนองต่อการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซอย่างค่อนข้างสงบ สืบเนื่องจากมีการคาดการณ์เตรียมรับมือกันมาระยะหนึ่งแล้วนั้น กำลังเข้าทางพวกชาติสมาชิกยูโรโซนสายเหยี่ยวนำโดยเยอรมนี ที่ยืนกรานว่า เอเธนส์ไม่สามารถใช้ความเสี่ยงที่วิกฤตหนี้ของตนจะลุกลาม มาขู่เข็ญให้ยุโรปยอมอ่อนข้อในการเจรจาข้อตกลงหนี้

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในประเทศกรีซเองเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่านอีกครั้งในวันพุธ (1) เมื่อสาขาของธนาคารเกือบ 1,000 แห่งเปิดให้บริการถอนเงิน เฉพาะผู้สูงวัยที่ปลดเกษียณแล้ว โดยจำกัดให้ถอนได้คนละ 120 ยูโร หลังจากที่รัฐบาลประกาศมาตรการควบคุมเงินทุนและสั่งปิดแบงก์ 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันจันทร์ (29 มิ.ย.)

วันเดียวกันนั้น มีการเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นที่ระบุว่า ชาวกรีก 46% เตรียมโหวตคัดค้านข้อเสนอของเจ้าหนี้ในวันอาทิตย์ ส่วนพวกที่ต้องการสนับสนุนอยู่ที่ 37% และยังไม่ได้ตัดสินใจ 17% แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคัดค้านมีจำนวนลดลงอย่างชัดเจนหลังจากรัฐบาลประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน

ขณะเดียวกัน การผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟมูลค่า 1,500 ล้านยูโรในวันเดียวกับที่แพกเกจความช่วยเหลือจากยุโรปหมดอายุลง ทำให้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่กรีซอยู่โดยไม่มีเงินช่วยเหลือจากภายนอก ส่งผลให้สถานการณ์ไร้ความแน่นอนยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ มูดี้ส์จึงประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้กรีซอยู่ที่ Caa3 หรือสถานะขยะต่ำสุด นับเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งสุดท้ายในกลุ่มบิ๊กทรีที่หั่นเรทติ้งเอเธนส์

มูดี้ส์ยังเตือนว่า มีแนวโน้มน้อยลงที่เจ้าหนี้จะให้การสนับสนุนกรีซ ไม่ว่าผลการลงประชามติจะออกมาแบบไหนก็ตาม

เอเธนส์นั้นต้องการขยายเวลาในการชำระหนี้ แต่ไอเอ็มเอฟตอบชัดเจนเมื่อวันพุธว่า การยอมให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ล่าช้าไม่ใช่วิธีที่ดีในการช่วยให้ประเทศนั้นต่อสู้กับวิกฤต

คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟยังกล่าวอย่างเหลืออดว่า การเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้จะสัมฤทธิ์ผลมากขึ้น หากเอเธนส์ “แสดงความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่ผ่านมา”

อย่างไรก็ดี สัญญาณความแตกแยกในยุโรปปรากฏชัดเจนขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส เรียกร้องในวันพุธให้มีการทำข้อตกลงกับกรีซทันที หลังการเจรจาติดขัดมาถึง 6 เดือน

ทว่า เจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปย้ำชัดว่า ไม่มีเหตุผลที่จะเจรจา ณ ขณะนี้ เนื่องจากกรีซปฏิเสธที่จะยกเลิกการทำประชามติ

ยูโรกรุ๊ปยังเห็นพ้องในการ “บันทึก” สารที่ซีปราสส่งมาถึงเมื่อวันพุธเพื่อแจ้งเจ้าหนี้ว่า กรีซพร้อมยอมรับเงื่อนไขที่เจ้าหนี้เสนอให้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตราบที่ข้อเสนอดังกล่าวครอบคลุมการลดภาษีมูลค่าเพิ่มและเลื่อนการปฏิรูประบบบำนาญออกไป

วันเดียวกันนั้น ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจคงกองทุนฉุกเฉินที่ 89,000 ล้านยูโร แต่ยังไม่อนุญาตให้ธนาคารกรีซเข้าไปใช้ได้ในขณะนี้

ทั้งนี้ อีซีบีประกาศเมื่อวันอาทิตย์ ปฏิเสธการเพิ่มเงินกู้ฉุกเฉินให้แบงก์กรีซ กดดันให้เอเธนส์ต้องสั่งปิดทำการแบงก์เอกชนหนึ่งสัปดาห์และประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน

ทางด้านยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลังกรีซ มองโลกแง่ดีว่า ข้อจำกัดดังกล่าวจะถูกยกเลิกทันทีที่กรีซตกลงกับเจ้าหนี้ได้ พร้อมยืนยันว่า กรีซจะคงอยู่ในยูโรโซนต่อไป


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000075074

 

ภาพผู้หญิงคนหนึ่งปิดประกาศรณรงค์โหวตโน ประชามติแพ็คเกจข้อเสนอช่วยเหลือของเหล่าเจ้าหนี้ ในกรุงเอเธนส์ ก่อนที่ประชาชนชาวกรีซมีกำหนดออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงตัดสินชะตากรรมของตนเองในวันที่ 5 กรกฎาคม จาก