เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

พระนาคปรก
รับพระสัดส่วน 1:2 = ส่ง 1 ชิ้น :รับ 2 เหรียญ

ต่อมามีเหตุต้องเปลี่ยนจากพระนาคปรก เป็นพระพิมพ์รัศมีของหลวงปู่ศุข
ตามข้อความข้างต้น

พระพิมพ์รัศมีของหลวงปู่ศุข
รับ....เหรียญหลวงปู่โทน กับเหรียญรัศมี

รายชื่อผู้ส่งชนวนจัดสร้าง

จาก 21/08/2013 #8250
ถึง 15/09/2013 #8446

1 rave22 # 2
เหรียญของ หลวงปู่บุญตา วิสุทธสีโล วัดคลองเกตุ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี จำนวน 2 เหรียญ ครับ 8250/413

2 sylvenus # 1
เหรียญของหลวงพ่อเกษม เขมโก

3 sanya # 1
พระปิดตาสาริกาท้องอุเนื้อตะกั่วของเจ้าคุณพระมงคลสุทธิคุณ และ ชนวนล้นเบ้า

4 hanada #9
หลวงพ่อปุย วัดเกาะ สุพรรณบุรี

5 kwapoo #1
เหรียญหลวงปู่พิมพา วัดหนองตางู นครสวรรค์

6 helium #1
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

7 คุณอ๊อด ( มากมาย ) เช่น
หลวงพ่อม่น
หลวงพ่อเอีย
หลวงปู่ทอง วัดก้อนแก้ว
ท่านเจ้าคุณนร
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
ตะกรุดหลวงพ่อเตียง
ตะกรุดหลวงพ่อทบ
ตะกรุดอาจารย์หมออภิชาต
หลวงพ่อคูณ
ตะกรุดหลวงปู่ภู่ วัดท่าฬ่อ
หลวงพ่อแช่ม
หลวงพ่อพรหม
หลวงพ่อสวัสดิ์ สำนักสงฆ์เม้าสุขา

8 ท่านวต #2
1ลพ.จรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
2เหรียญ ลป.ขันธ์ วัดมงคลโสภิต ฉะเชิงเทรา

9 seekerpunch #3
1เหรียญหลวงปู่เร็ว ฉนฺทโก
2 ลอยองค์พระอุปคุต หลวงปู่เก่ง ธนวโร
3เหรียญ หลวงปู่จันทร์หอม สุภาทโร วัดบุ่งขี้เหล็ก (#8427 เพิ่ม)

10มรรคเวทย์ #3
1.เหรียญนั่งพานหลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ ปี2539 วัดใหม่ศรีสุทธาวาส(คณะศิษย์ิองค์การเภสัชฯสร้างถวาย ผมเป็นกรรมการร่วมสร้างด้วย)
2.เหรียญรุ่น2หลวงปู่เมฆ กิตติสัทโธ วัดป่าขวางพระสถิตย์ สงขลา หลังเหรียญพระอริย4พระองค์ หลวงปู่ทวด,หลวงปู่โต,หลวงปู่โลกอุดร,ครูบาศรีวิชัย
3.เหรียญหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก อยุธยา เหรียญบาตรน้ำมนต์กฐินปี2553

11spharm #2
1หลวงพ่อเกษม เขมโก
2หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง

12 charoen.b (ส่งไปสิบกว่าเหรียญ ไม่ได้จดรายละเอียดไว้เลย ขออภัยด้วยครับผม)

13 ธรรมจักร #3
1 เหรียญหลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์ฯ
2ตะกรุดอาจารย์สงวน เอี่ยวสวัดิ์
3ตะกรุดหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง

14api_suphot #2 ( ลืมจดครับ เท่าที่จำได้มี )
1เหรียญพระพุทธบาท
2เหรียญหลวงพ่อจ้อย

15rung847 #1
เหรียญพระพุทธชยันตี วัดศรีภูเรือ จ.เลย อธิษฐานจิตโดย ลป.ท่อน ลป.ขันตี

16 totto99 #3
1เหรียญ หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ
2เหรียญหลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
3เหรียญหลวงพ่อบ้านแหลม

17 rang551 # 7
1ตะกรุดในบาตรหลวงพ่อตัด วัดชายนา เพชรบุรี
2ตะกรุดตรีนิสิงเหหลวงพ่อตัด วัดชายนา เพชรบุรี
3ตะกรุดพุทธทำนาย คุณอำพล เจน ครับ
4ตะกรุดหลวงพ่อหวัน วัดคลองคูณ พิจิตร
5ลูกอมหลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง อยุธยา
6เสือตะกั่ว หลวงพ่อสมชาย วัดปริวาส กรุงเทพ
7เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุรินทร์

18 เติบโต #2
แผ่นตะกั่ว 1เจ้าคุณเสงี่ยม และ 2เจ้าคุณทอง

19Lee_bangkok #5
1. เหรียญ ลพ เกษม กับ เหรียญ ร 5 แห่งสุสานไตรลักษณ์
2. เหรียญ ลป คำอ้าย วัดโป่งเหนือ
3. เหรียญ ลป บรรยงค์ วัดสว่างวารี
4. เหรียญ พระสีวลี วัดบ่อพุทธาราม จังหวัด สุราษ์ธานี
5. เหรียญ ลป ปาน วัดโพธิสุทธิวาส

20 ศนิวาร #99
ภาคอีสาน
๑.เหรียญหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ บ้านโคกมน อ.วังสะพุง จ.เลย รุ่นพิเศษ ๒ ปี ๒๕๓๗
๒. เหรียญหลวงปู่ชอบ – หลวงปุ่ศรีจนทร์ ออกวัดถ้ำผาหมากฮ่อ อ.วังสะพุง จ. เลย รุ่นกู้ภัยให้ลาภ ปี ๒๕๓๗ จำนวน ๒ เหรียญ
๓. เหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดบ้านนาโป่ง บ้านนาโป่ง อ.เมือง จ.เลย รุ่นถิ่นกำเนิด
๔. เหรียญพระราชญาณวิสุทธิโสภณ (หลวงปู่ท่อน ญาณธโร) วัดศรีอภัยวัน บ้านนาอ้อ อ.เมือง จ. เลย รุ่นฉลองอายุ ๘๔ ปี
๕. เหรียญหลวงพ่อขันตี ญาณวโร วัดป่าม่วงไข่ อ.ภูเรือ จ.เลย รุ่นฉลองอายุมงคล ๗๐ ปี ๑๒ ต.ค. ๒๕๕๕
๖. เหรียญพระครูวิจารณ์สังฆกิจ (คำภา) วัดศรีจันทร์ บ้านนาอ้อ อ.เมือง จ.เลย รุ่นครบรอบ ๑๐๐ ปี บูรณะสิม
๗. เหรียญหลวงพ่อลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี รุ่นแรก ออกวัดป่าท่าสวย จ.เลย
๘. เหรียญพระราชศีลสังวร วัดศรีโพนแท่น อ.เชียงคาน จ.เลย รุ่น ๑๐๐ ปี เชียงคาน ปี ๒๕๕๒
๙. เหรียญพระอาจาย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร รุ่นร่มโพธิ์ทอง ปี ๒๕๑๙
๑๐. เหรียญหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ วัดพระธาตุมหาชัย อ.ปาบาก จ.นครพนม รุ่น ทร. ปี ๒๕๓๑
๑๑. เหรียญหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ วัดพระธาตุมหาชัย อ.ปาบาก จ.นครพนม รุ่นเมตตาบารมี ๘๐ ปี
๑๒. เหรียญพระเทพรัตนโมลี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม จ. นครพนม รุ่นฉลองอายุครบ ๗๒ ปี พ.ศ. ๒๕๒๒
๑๓. เหรียญหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสวนหินบ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี รุ่นฉลองอายุครบ ๙๓ ปี บริษัทกรุงไทยแทร็กเตอร์สร้างถวาย
๑๔. เหรียญพระอาจารย์ตา ขันติโก วัดไตรภูมิ อ.ท่าอุเทน จ. นครพนม รุ่นแรก ปี ๒๕๒๐
๑๕. เหรียญหลวงพ่อทิพย์ ธัมมนิยโก วัดโพธิ์ทองพระครู ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรีมย์ รุ่น ๑
๑๖. เหรียญพระครูโกศลศิริธรรม (โกสโล) วัดศรีบุญเรือง อ.เพ็ญ จ. อุดรธานี รุ่นที่ระลึกผูกพัทธสีมา
๑๗. เหรียญพระครูสิทธิบริหาร (หลวงปู่ขุน โชติโก) วัดสิทธาราม อ.คง จ.นครราชสีมา รุจงทำดี
๑๘. เหรียญหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รุ่น สหกรณ์ด่านขุนทด ปี ๒๕๓๐
๑๙. เหรียญหลวงพ่อผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น รุ่นรวมพลังจิต วัดป่าแสงอรุณสร้าง ปี ๒๕๑๙
๒๐. เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดบ้านกระทอน อ.เมือง จ.นครราชสีมา รุ่น ๑ ออกในงานผูกพัทธสีมา ๒๕ เม.ย. ๒๕๑๗
๒๑. เหรียญพระครูวิเศษสารนิติ (เขียว) วัดศรีนวล อ.เมือง จ.ขอนแก่น รุ่นแรก ปี ๒๕๐๕
๒๒. เหรียญหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย รุ่นฉลองกุฏิ ปี ๒๕๔๔
๒๓. เหรียญสองหน้า หลวงพ่อด่อน อินทสาโร วัดโพธิ์ศรีสร้อย(ถ้ำเกีย) – หลวงพ่อบัว ปริปัญโญ วัดบ้านใหม่ อ.ปากคาด จ.หนองคาย รุ่นแรก ปี ๒๕๑๘
๒๔. เหรียญหลวงพ่อนก วัดเขาบังเหย อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ รุ่นมังกรคู่ ๒ แจกฟรีห้ามขาย ๑๐ ก.พ. ๓๗
๒๕. เหรียญหลวงพ่อส. สิริสาโร วัดเทพาวราราม อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี รุ่นแรก
๒๖. เหรียญหลวงพ่อพิบูลย์ วัดพระแท่น(บ้านแดง) อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี รุ่นตั้งอำเภอพิบูลย์รักษ์
๒๗. เหรียญพระครูวิทิตธรรมาภรณ์(หลวงพ่อเจียม วิธิตธัมโม) วัดเทพวิสุทธาราม อ.กุดบาก จ.สกลนคร ปี ๒๕๓๒
๒๘. เหรียญหลวงพ่อสิงห์ วัดหนองบัวไชยวาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เกจิ รุ่นแรก ปี ๒๕๓๗
๒๙. เหรียญพระครูสมณกิจโกศล (หลวงพ่อทอง) วัดบรบือสราราม อ.บรบือ จ.มหาสารคาม รุ่นงานผูกพัทธสีมา ปี ๒๕๑๙
๓๐. เหรียญพระครูประสาทสมณกิจ (หลวงปู่ประมวล ญาณวโร) วัดศีลาวุฒาราม อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี รุ่นที่ ๑ ปี ๒๕๒๓
๓๑. เหรียญหัวแหวน หลวงพ่อธรรมรังษี วัดพระบาทพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ รุ่นยกฉัตร ปี ๒๕๔๘
๓๒. เหรียญหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี รุ่นที่ระลึกในงานสมโภชน์เจดีย์ ปี ๒๕๑๑
๓๓. เหรียญพระครูพิมพ์ ตานังกโร วัดหนองกระเบียน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี รุ่นผูกพัทธสีมาวัดหนองกระเบียน ปี ๒๕๒๐

ภาคเหนือ
๓๔. เหรียญครูบาศรีวิชัย วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ปี ๒๕๑๔
๓๕. เหรียญครูบาศรีวิชัย ออกที่วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ ปี ๒๕๑๓
๓๖. เหรียญครูบาขาวปี วัดพระบาทผาหนาม อ.ลี้ จ.ลำพูน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๕
๓๗. เหรียญพระครูดวงจันทร์ จันทวโร วัดป่าเส้า อ.เมือง จ.ลำพูน รุ่นพิเศษ ปี ๒๕๒๓
๓๘. เหรียญพระอาจารย์เจ้าธรรมวิชัย ขันติพโล หลังพระลอ วัดพระธาตุสมแวน อ.เชียงคำ จ.พะเยา
๓๙. เหรียญครูบาชยากโร วัดทุ่งข้าวตอก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ รุ่นพิเศษ ปี ๒๕๒๐
๔๐. เหรียญใบโพธิ์จิ๋วหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ รุ่นครบรอบ ๙๗ ปี ๑๕๒๗
๔๑. เหรียญหลวงพ่อบุญเย็น ฐานธัมโม หลังพระเจ้าพรหมมหาราช สำนักพระเจ้าพรหมมหาราช อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ รุ่นมหาราช ปี ๒๕๑๙
๔๒. เหรียญพระอาจารย์ฉลอม กุลสจิตโต วัดโป่งถืบจารุธรรม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ รุ่นเพิ่มพูนทรัพย์สร้าง

ภาคกลาง
๔๓. เหรียญหลวงพ่อเฒ่า(ปั้น) วัดคังคาว อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท รุ่นที่ระลึกสร้างศาลาการเปรียญ (เท้าแหลม) ปี ๒๕๑๙
๔๔. เหรียญหลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ปี ๒๕๓๙
๔๕. เหรียญหลวงพ่อพวง หลัง หลวงพ่อแก้ว วัดหนองบอน จ.นครสวรรค์ ปี ๒๕๒๐
๔๖. เหรียญพระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข) วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท (ล้อพิมพ์รุ่นแรก)ไม่ทราบปี
๔๗. เหรียญหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลังพระเจ้าพรหมมหาราช วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี รุ่นกูผู้ชนะ ไพรีพินาศ
๔๘. เหรียญเสมาหลวงพ่อทองหยิบ ปัชโชโต วัดบ้านกลาง จ.อ่างทอง ปี ๒๕๕๒
๔๙. เหรียญหลวงพ่อดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี รุ่นโชคดี ปี ๒๕๓๘ จำนวน ๕ เหรียญ
๕๐. เหรียญพระครูโสภณบุญญาทร วัดอนุกุญชราราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา รุ่น ๑ นะเมตตามหานิยม
๕๑. เหรียญหลวงพ่อทองดำ วัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ รุ่น ๘ รอบศิษย์สร้างถวาย ปี ๒๕๓๗
๕๒. เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี ๒๕๓๖
๕๓. เหรียญหลวงปู่กี๋ วัดแพรกษา อ.เมือง จ. สมุทรปราการ รุ่นผูกพัทธสีมาวัดแพรกษา ๔ ก.พ. ๒๕๒๑
๕๔. เหรียญพระครูสังวรสมณกิจ(หลวงปู่ทิม อัตตสันโต) วัดพระขาว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา รุ่นที่ระลึกงานกฐินวัดโลห์สุทธาวาส จ.อ่างทอง ปี ๒๕๔๐
๕๕. เหรียญสมเด็จพระสังฆราช(วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จ.กรุงเทพมหานคร รุ่นผูกพัทธสีมาวัดธรรมหรรษาราม (วัดยางระหง) อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
๕๖. เหรียญสมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น ปุณณสิริมหาเถระ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคราราม จ.กรุงเทพมหานคร รุ่นสมโภชน์พระสังฆราช ชาวสุพรรณสร้างถวาย ปี ๒๕๑๕
๕๗. เหรียญใบสาเกหันข้าง ราชปวิธารามสฺส วสฺสสตํ ๒๔๑๒ – ๒๕๑๓ จ. กรุงเทพมหานคร (ครบรอบ ๑๐๐ ปี)
๕๘. เหรียญดอกพิกุล เนื้อทองแดง หลวงพ่อเชา วัดนงสมอ จ.สิงห์บุรี ปี ๒๕๑๑
๕๙. เหรียญหลวงพ่อคำแสน วัดบ้านปลวกง่าม อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก รุ่น ๑ ปี ๒๕๑๑
๖๐. เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม นิตยสารสายสิญจน์สร้าง หลวงพ่อเนื่องเสก ปี ๒๕๒๙
๖๑. เหรียญหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร รุ่นพิเศษ ฉลอง ๒๐๐ ปี หลวงพ่ออุตตมะเสก ปี ๒๕๒๕
๖๒. เหรียญหลวงพ่อจันทร์ จันทภาส หลังสมเด็จกรมหลวงชุมพร ฯ วัดป่าข่อย อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ปี ๒๕๔๐
๖๓. เหรียญแหนบสกรีนลงยาพระครูบุญรอด สุทธิกาโร วัดวังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รุ่นผูกพัทธสีมา ปี ๒๕๒๐
๖๔. เหรียญพระครูพิมพ์ ตานังกโร วัดหนองกระเบียน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี รุ่นผูกพัทธสีมาวัดหนองกระเบียน ปี ๒๕๒๐

ภาคตะวันออก
๖๕. เหรียญกลมเล็กหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง ปี ๒๕๓๒
๖๖. หลวงพ่อหมอก วัดบ้านโนนวัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว อายุ ๑๐๔ ปี รุ่น ๑
๖๗. เหรียญพระวิสุทธิญาณเถระ (สมชาย ฐิตวิริโย) วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี รุ่นสมเด็จพระเทพฯเสด็จตัดลูกนิมิต ๑๔ เม.ย. ๒๕๓๕
๖๘. เหรียญหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ออกที่วัดโพธิสัมพันธ์ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลวงปู่แหวนเสก ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๐
๖๙. เหรียญหลวงพ่อพระครูเปิ้น พุทธสรเถระ วัดบ้านแก่า อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี รุ่น ๑ ปี ๒๔๙๒
๗๐. เหรียญพระครูวิมลสีลาภรณ์ (หลวงพ่อพูลทรัพย์) วัดอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี รุ่นกตัญญู ปี ๒๕๓๗


ภาคตะวันตก
๗๑. เหรียญพระพุทธวิริยากร (จิต) วัดสัตตนาทร จ.ราชบุรี ออกที่วัดอมรินทราราม รุ่นที่ระลึกพระอุโบสถจัตุรมุข ปี ๒๕๑๘
๗๒. เหรียญพระครูวราโภคาพินิต (หลวงปู่นนท์) วัดเหนือวน อ.เมือง จ.ราชบุรี รุ่นสมปรารถนามหาบารมี ๒๒ มี.ค. ๒๕๔๕
๗๓.เหรียญหลวงพ่อนาค ปุญญนาโค วัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รุ่นฉลองพัดยศตราตั้งเจ้าคณะอำเภอหัวหิน พระครูพิทักษ์วรการ ปี ๒๕๓๘
๗๔. เหรียญย้อนยุคพระครูสุเมธีวรคุณ (หลวงพ่อเปี่ยม จันทโชโต) วัดเกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปี ๒๕๓๖

ภาคใต้
๗๕. เหรียญห้าเหลี่ยมเล็กหลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร ปี ๒๕๒๖
๗๖. เหรียญพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (หลวงพ่อแช่ม) วัดไชยวราราม(วัดฉลอง) อ.เมือง จ. ภูเก็ต รุ่นฉลอง ๕๐ ปีกาญจนาภิเษก ปี ๒๕๓๙
๗๗. เหรียญเสมาหัวโตหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี รุ่นสร้างมณฑปวัดคูหาสวรรค์ จ.พัทลุง ปี ๒๕๓๗
๗๘. เหรียญเสมาหลวงปู่ทวด หลังหลวงพ่อทิม วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี ปี ๒๕๕๔


เหรียญบรรพชน - เหรียญกษาปณ์
๗๙. เหรียญสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หลังพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม จ.กรุงเทพมหานคร รุ่นแรก ปี ๒๕๐๘
๘๐. เหรียญกษาปณ์ เหรียญสตางค์แดง จำนวน ๒ เหรียญ ปี ๒๔๖๑ และ ปี ๒๔๖๒
๘๑. เหรียญกษาปณ์ เหรียญ ๕๐ สตางค์ หลังตราแผ่นดิน ปี ๒๕๐๐ จำนวน ๒ เหรียญ
๘๒. เหรียญกษาปณ์ เหรียญ ๑ บาท หลังตราแผ่นดิน ปี ๒๕๐๕ จำนวน ๓ เหรียญ
๘๓. เหรียญกษาปณ์ เหรียญ ๑ บาท หลังพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ปี ๒๕๑๕ จำนวน ๑ เหรียญ
๘๔. เหรียญกษาปณ์ เหรียญ ๑ บาท หลังตราครุฑ ปี ๒๕๑๗ จำนวน ๓ เหรียญ
๘๕. เหรียญกษาปณ์ เหรียญ ๑ บาท หลังเรือสุพรรณหงส์ ปี ๒๕๒๐ จำนวน ๓ เหรียญ
รวมทั้งสิ้น ๘๕ รายการ จำนวนเหรียญ ๙๙ เหรียญ


รายชื่อเพิ่มเติม

21 pichedv #12
1. หลวงพ่อซำปอกง "ที่ระลึกบูรณะปฏิสังขรณ์วัดอุภัยภาติการราม จ.ฉะเชิงเทรา" ปี 2544
2. หลวงพ่อสมภพ พุทธอุทยานธรรมโกศล จ.ปทุมธานี "นารายณ์ปราบยุค" ปี 2551
3. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร "เสาร์ 5" ปี 2521
4. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม "พิเศษ 85" ปี 2535
5. หลวงพ่อยวง วัดโพธิ์ศรี จ.ราชบุรี "เลื่อนสมณศักดิ์"
6. หลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม "รุ่นแรก" ปี 2553
7. หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม จ.อยุธยา "ครบ 5 รอบ" ปี 2539
8. หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง "5 รอบพรรษา มหาเมตตาบารมี" ปี 2536
9. หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา "มหาเศรษฐีมีมากมาย" ปี 2541
10. หลวงปู่ดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี "โชคดี" ปี 2538
11. หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี "ครบ 77 ปี" ปี 2545
12. หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร จ.นครสวรรค์ "ปลอดภัย" ปี2545

22 nopsena #1
เหรียญ ครูบาอุ่น วัดดงขี้เหล็ก อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

23 พระชุมพล (โดยประมาณ) # 5 ( #8446 )
1แป้งเสก พลวงพ่อเจือ วัดโคกหิรัญ บางบาล อยุธยา
2ตะกรุดโทนไตรมาส หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา
3สังฆาฏิ หลวงปู่สรวง ศีรสะเกษ
4พระผงเกสร หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย สุโขทัย
5เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม

24 gyser * อ้างอิงเพิ่มเติมจาก ตารางของ sylvenus #8430
พระนเรศ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ

ดูแบบชัด ๆ

 

อยากให้สื่อต่างๆ ลงข่าวในเชิงสร้างสรรค์ คนที่ทำกิจกรรมดีๆมีมากมาย เยาวชนที่ทำตัวเป็นเเบบอย่างที่ดีก็เยอะ เเต่มีข่าวนิดเดียว ผมชอบเข้าไปดูเว็ปชื่อดังที่ให้ upload คลิปต่างๆ เห็นช่วงนี้มีการลงสิ่งที่ไม่เหมาะสมมากมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บ้านเมือง เเต่คงไม่สามารถจัดการอะไรได้เพราะเป็นเว็ปของต่างประเทศ ถ้าเป็นที่ประเทศพี่ใหญ่ คงสั่งดำเนินการได้ ได้เเต่หวังว่า คำว่า "ธรรมะย่อมชนะอธรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ยังคงศักดิ์สิทธิ์ (ถ้าสิ่งที่ลงนี้ไม่สมควรเเจ้งได้ครับ) ขอบคุณครับ

 

-------------------------------------------------------
นิยายโหร บทที่สี่ หัวอกแม่

กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊งๆ ผมเอื้อมมือมากดนาฬิกาปลุก
วันนี้ไม่มีงานทัวร์ เลยนอนตื่นสายซะเลย
แต่ก็ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนแปดโมงเช้า
กะว่าสายหน่อยจะไปซื้อของมาตุนไว้ในตู้เย็น
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ออกไปปากซอย
ไปร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ ของเจ้ดาเจ้าประจำ
ใหญ่แห้ง เล็กน้ำ เหมือนเดิม เจ้ ผมสั่งก๋วยเตี๋ยวไป
เฮียหนา มาก็ดีแล้ว วันนี้จะให้ดูดวงให้หน่อยนะ เจ้ดากล่าวออกมา
ผมสังเกตุสีหน้า เจ้ดา ดูหมองคล้ำ คิ้วขมวดมีแววกังวลมาก
จะให้ดูดวงลูกชาย ให้หน่อย เฮียหนา เจ้ดาเอาก๋วยเตี๋ยวที่ผมสั่งมาให้
พร้อมกับนั่งลงที่โต๊ะ อย่างคนหมดเรี่ยวแรงเลย
ผมรีบยกข้อมือ มาดูเวลาหลังจาก เจ้ดา กล่าวจบ
เป็นวันศุกร์ ที่ 8 เมย 2554 เวลา 9.06 น.
จึงผูกดวงยาม สิงห์นภดล ขึ้นในใจ ได้รูปดวงดังนี้ครับ
2..3..4..5..6..7..1
3..4..5..6..7..1..2
6..7..1..2..3..4..5
11.14.10.13.16.12.8
2..4..6..3..5..7..1
1..4..6..3..5..7..2
ลัคนา เมษ
ดาว 6 เมษ
ดาว 4 8 พฤษภ
ดาว 2 เมถุน
ดาว 5 สิงห์
ดาว 7 ธนู
ดาว 3 กุมภ์
ดาว 1 มีน
ผมว่าลูกเจ้ ไปทำสิ่งผิดกฏหมายมานะ เป็นเรื่องคดีความนะ
เรื่องคุกเรื่องตะรางเสียด้วยซิ ว่าแต่ลูกคนโตหรือลูกคนเล็กหละ
เจ้ดา ได้ฟังผมทายดังนั้น จึงเล่าให้ฟังว่า
ลูกชายทั้งสองคน แอบไปขายยาบ้า เลยถูกตำรวจจับ
ทนายบอกว่า ต้องหาเงินสักสองแสนไปวิ่งเต้นคดีความ
ผมถึงกับ อึ่ง ไปเลย ที่ลูกชายทั้งสองคนถูกจับคดีค้ายาบ้า
สงสาร เจ้ดา มิน่า หน้าตาหมองคล้ำเชียว
เราคุยกันต่อ อีกยึดยาว จนผมต้องขอตัวไปซื้อของเข้าบ้าน
ลองดูรูปดวงยามสิงห์นภดล กันนะครับ เจ้ดาถามเรื่องลูกชาย
เราจับที่ภพปุตตะ ซึ่งแปลว่า บุตร กัน
ดาว 1 ปุตตะ+วินาศน์+ปุตตะ
ก็แปลว่า บุตรจะวิบัติ เดือดร้อน
ดาว 1 อยู่ในเรือนดาว 5 เป็นคู่มิตร
ดาว 5 นอกจากเป็นเจ้าเรือน วินาศน์แล้ว ยังเป็นเจ้าเรือน ศุภะ อีกด้วย
วินาศน์+ศุภะ แปลว่า คดีความ สิ่งผิดกฏหมาย
ก็แปลขยายไปว่า บุตรจะวิบัติ ด้วยเรื่อง คดีความ
ในเรือนดาว 5 มีดาว 7 สถิตอยู่
ดาว 7 เป็นเจ้าเรือน กัมมะ ซึ่งแปลว่า งานหรือการกระทำ
ก็แปลรวมไปว่า บุตรจะวิบัติ ด้วยเรื่องคดีความ จากงานหรือการกระทำ
สิ่งผิดกฏหมาย
ดวงของเจ้ดา เธอเกิดวันที่ 13 มีค 2495 เวลา 16.00 น.
ลูกชายทั้งสองคนของเธอถูกตำรวจจับวันที่ 22 มีค 2540 ครับ

 

มาส่งกำลังใจครับ

 

credit จาก Facebook (สำหรับท่านที่ไม่เล่นเฟส)
นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ไอ้สัง...เสือร้ายจอมทมิฬ
ถ้าเอ๋ยชื่อ''ไอ้เสือสังข์''ตั้งเเต่จังหวัดตรังไปยันพัทลุงไม่มีใครไม่รู้จักนามนี้!
เพราะคนคนนี้ไม่ผิดอะไรจากสัตว์นรกอเวจีมาเกิดมันเพียบพร้อมสมบูรณ์ด้วยความเหี้ยมโหดอำมหิตชนิดหาที่ติไม่ได้ไอ้สังเริ่มออกลายชั่วมาตั้งแต่หนุ่มรุ่น อันใดที่เป็นความเลวร้าย สิ่งนั้นแหละที่ไอ้เสือสังยินดีรับไว้ด้วยความเต็มอกเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง
มันเริ่มต้นด้วยการลักเล็กขโมยน้อยเป็นปฐมแห่งวิถีดาวโจร ก่อนที่จะเลื่อนขึ้นมาลักขโมยวัวควายชาวบ้าน สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว พร้อมกับปิติยินดีในการที่ได้คบคนชั่วเป็นมิตร ทำให้มันเข้าไปอยู่ในชุมโจรเสือปล้นอย่างสะดวก
ครั้นได้ลงมือฆ่าคนเป็นศพแรกด้วยมือตนเอง กลับไม่มีความสะดุ้งสะเทือนต่อบาปเวรใดๆ... ใจมันเหี้ยมหินผิดมนุษย์เหตุนี้ไอ้สังจึงเพิ่มจำนวนศพให้กับสถิติการฆ่าของมันสูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่การเป็นบริวารเสือใหญ่ ได้ส่วนแบ่งจากการปล้นเพียงน้อยนิด ไอ้สังคิดเเล้วเป็นการไม่ยุติธรรม ดังนั้นจึงออกจากชุมโจรมารวบรวมสมัครพรรคพวกแล้วสถาปนาตนเป็นเสือปล้นเสียเอง
คราวนี้ ''ไอ้สัง'' ธรรมดาๆ ก็กลายเป็น ''ไอ้เสือสัง''เต็มขั้น!
ไม่ว่าจะเข้าปล้นชิงทรัพย์ที่ไหน ไอ้เรื่องที่ไม่ฆ่าเจ้าทรัพย์เป็นไม่มีด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของไอ้เสือสัง จึงระบือลือสนั้นเมืองในเวลารวดเร็ว
ยามใดไม่มีจังหวะโอกาสเข้าปล้น เสือสังจะเข้าไปลักขโมยวัวควายไปขายบ้าง ฆ่ากินในหมู่พวกบ้าง ถือว่าเป็นอดิเรกลาภ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ
เอกลักษณ์ในการลักขโมยควายและเสือสังเป็นแบบเฉพาะตัวจริงๆ คือต้อนวัวควายออกจากคอกไปเเล้ว มันจะตัดกิ่งไม้ขนาดเขื่องขวางทางเอาไว้ให้รู้ว่าเป็นฝีมือมันล่ะ
ถ้าเจ้าของวัวควายติดตามไป ก็ต้องเสี่ยงเอาเองว่าอยากตายตามวัวควายไปด้วยหรือไม่ เพราะไอ้สังจะตั้งขบวนต้อนรับด้วยห่ากระสุนปืนอย่างไม่มีเสียดงเสียดาย
เหตุนี้ กำนันผู้ใหญ่บ้านซึ่งได้รับเเจ้งให้ล่าเสือสังพากันแหยงๆ ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตน?!
เอาเป็นว่าจะให้ยกขบวนตามล่าก็ทำได้ แต่อย่าให้รู้ว่าเป็นเสือสังก็เเล้วกัน เคยมีอยู่เหมือนกัน ออกตามล่าอยู่ดีๆพอชักไปชักมารู้ว่าโจรที่ตามล่าอยู่เป็นเสือสัง กำนันเเละผู้ใหญ่บ้านหลายคนออกคำสั่งถอยกลับทันทีมาเเล้ว
ชื่อไอ้เสือสัง ยิ่งดังมากเท่าไหร่ ตำรวจก็ยิ่งระดมกำลังตามเด็ดหัวมันมากขึ้นเท่านั้น แต่การจะเข้าถึงตัวไอ้เสือกับพวกเป็นเรื่องยากลำบากเหลือกำลัง เพราะมันอาศัยภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาหลบซ่อนกบดาน จะย่างกรายออกมาปรากฏโฉมตามหมู่บ้านชุมชนมีเหตุผลเพียง 3 ประการเท่านั้น
หนึ่ง...หาเสบียงอาหาร
สอง...ไปหลับนอนกับเมีย
สาม...เข้าปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ผู้มีอันจะกิน
การตามล่าเสือปล้นรายนี้หากไม่มี ''สาย''แอบรายงานความเคลื่อนไหว หรือชี้ช่องเบาะเเสว่ามันพำนักอยู่ที่ใด ก็ยากที่จะได้ตัวคนร้าย
มีตำรวจพยายามเกลี่ยกล่อมให้ชาวบ้านเป็นสายให้หลายคน และบุคคลเหล่านั้นก็แอบส่งข่าวการเคลื่อนไหวของเสือร้ายให้แก่ตำรวจเท่าที่จะทำได้เสือสังเกือบพลาดท่าถูกตำรวจล้อมจับตัวได้หลายครั้ง
ไอ้เสือสังเริ่มระเเวงว่ามันคงถูกดัดหลังเเน่ๆ!
จึงส่งลูกน้องออกสืบหาว่าไอ้หน้าไหนกล้าบังอาจทรยศมันทันทีที่รู้ว่าใครเป็นสายให้ตำรวจ มันจะไปหาพร้อมไฟโทสะที่โชติช่วง และคนผู้นั้นจะได้รับโทษทัณฑ์อย่างสุดสยอง
เสือสังเคยลากคอ''สาย'' มาสับปากด้วยพร้าอันคมกริบหรือไม่ก็ผ่าปากจนถึงกราม แล้วมันจะเฆี่ยนด้วยหวายด้วยหนาม
''สาย'' บางคนตายคามือมันมาเเล้ว เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว แต่บางรายหาโอกาสจับมาทรมานไม่ได้ มันก็จะซุ่มยิงทิ้งเสียเลย
แล้วอย่างนี้ใครจะกล้าเป็นสาย ''สาย''ให้ตำรวจอีก!
ความหฤโหดของเสือปล้นผู้นี้ ทำให้ชาวบ้านพากันปิดปากเงียบสนิท แต่ตำรวจเมือตรังไม่ย่อท้อ คงระดมกำลังออกตามล่าเสือสังไม่หยุดยั้ง
แต่ทุกครั้งมันหลบรอดเงื้อมมือกฏหมายไปได้ตลอดเวลาด้วยอิทธิพลอันชั่วร้ายและโหดหิน ไม่มีชาวบ้านช่วยเหลือตำรวจให้มันหลุดหนีไปได้นั้นเอง
พอตำรวจเมืองตรงวางกำลังกวาดล้าง มันก็เผ่นมากบดานอยู่ในเขตพัทลุง และเช่นกัน หากตำรวจพัทลุงเข้ากวาดล้าง มันก็หนีไปจังหวัดตรัง เป็นเช่นนี้ประจำ
ยิ่งไปกว่านั้นไอ้เสือสังมันมีเมียที่พัทลุงถึงสองคน เมียหลวงชื่อ ''มิก''เมียน้อยชื่อ''ขลิบ'' นางทั้งสองอยู่ที่บ้านห้วยกราดตำบลป่าพยอม อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งบ้านไม่ได้อยู่ห่างกันมากนัก
เสือสังหลบฉากจากเมืองตรังมาอยู่กับเมียทั้งสองที่บ้านห้ายกราดอย่างเงียบเชียบ เสือร้ายมิได้หวาดหวั่นพรั่นพรึงตำรวจพัทลุงแม้เเต่น้อย เพราะเชื่อมั่นจะไม่มีชาวบ้านคนใดกล้าไปบอกตำรวจว่า มันอยู่ที่ห้วยกรวดเด็ดขาด
ตราบใดที่ตำรวจไม่รู้เบาะเเส...ตราบนั้นมันย่อมนอนกอดเมียทั้งสองอย่างสุขสำราญ..จะนานแค่ไหนก็ได้!
แต่มันหารู้ไม่ว่า ขณะนั้นว่าที่ ร้อยตรีบุตร์ พันธรักษ์ ได้รับคำสั่งให้มาฝึกราชการที่โรงพัก อ.เมืองพัทลุง ก่อนหน้าที่มันจะลงมากบดาน
ที่สำคัญมันไม่มีทางรู้เลยว่า นายร้อยหนุ่มร่างสันทัดผู้ซึ่งจบจากโรงเรียนนายร้อยหัวจระเข้ พระปฐมมาหมาดๆ คนนี้เป็นคนจริงขนาดไหน มีสายเลือดผู้พิทักษ์สันติราษฏร์เข้มข้นสักเพียงใด
โดยเฉพาะหัวใจแกร่งกล้ายิ่งกว่าเหล็กเสียอีก!
แม้ว่าไอ้เสือสังจะซ่อนเร้นอำพรางร่องรอยของมันสักปานใดข่าวที่มันหนีมากบดานก็แว่วเข้าหูว่าที่ ร.ต.ต.บุตร์จนได้
นายร้อยหนุ่มเปิดแฟ้มประวัติอาชญากรรมของเสือสังอ่านแล้ว ปรากฏความชั่วในคดีปล้นฆ่าแทบนับไม่ถ้วน เป็นไอ้ตัวร้ายที่สร้างความพินาศวอดวายให้กับสุจริตชน ทั้งทรัพย์สินและชีวิตอย่างเหลือคณานับ
ว่าที่นายร้อยหนุ่มตัดสินใจในบัดนั้นทันที ไอ้เสือสังสมควรถูกลากคอเข้าหลักประหารเพียงสถานเดียวเท่านั้น!
ดังนั้น...นายร้อยบุตร์จึงออกสืบหาแหล่งกบดานของไอ้เสือร้ายด้วยตัวเอง โดยมีนายขี้คร่ง เหรียญขำ นักเลงเจ้าถิ่นซึ่งยอมมาเป็นลูกน้อง เพราะนับถือน้ำใจ และเป็นคนชำนาญท้องที่เป็นผู้นำทางให้
วิสัยผู้ร้ายจะเหี้ยมเกรียมเก่งกาจสักปานใดก็ตาม ในที่สุดมักหนีไม่พ้นเรื่องอิสตรี คือต้องกลับมาหาเมีย จุดอ่อนตรงนี้ทำให้นายร้อยบุตร์ และนายขี้ครั่งแอบแฝงเข้าไปหาข่าวที่บ้านห้วยกราด กระทั้งรู้ว่าไอ้สังมันเข้ามาซบ อกเมียทั้งสองจริงๆ
วันที่ 31 กรกฏาคม 2473 ประมาณ 4นาฬิกา..
ร.ต.ต.บุตร์ พันธรักษ์ พลฯ เผือก ด้วงชู และนายขี้ครั่งเดินทางไปถึงบ้าน นายอินทร์เเก้ว ช่างเหล็ก ซึ่งมีเขตบ้านติดต่อเขตบ้านไอ้เสือสัง นายร้อยหนุ่มกับพลฯ เผือกเเต่งกายนอกเครื่องแบบ โดยเฉพาะนายร้อยบุตร์ ใส่โสร่งเหมือนชาวบ้านทั่วไป
นายอินทร์แก้วเมื่อเห็นหน้านายร้อยหนุ่มถึงกับถลาเข้ามารายงาน ปากคอสั่นว่า ไอ้เสือสังมันบุกเข้ามาจับตัว นายทองบุตรของตนไป เพราะสงสัยว่านายทองเป็น''สาย''ให้ตำรวจเนื่องจากไอ้เสือร้ายเห็นนายร้อยบุตร์ และนายขี้ครั่งเเวะมาพูดคุยกับนายทอง
ขณะนั้นไอ้เสือสังนำตัวนายทองไปล่ามโซ่ไว้ที่บ้านนางขลิบเมียน้อย และเช้ามืดวันนี้เสือสังจะนำนายทองไปยิงทิ้ง แล้วทิ้งศพไว้ในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช
เพื่ออำพรางคดี 4นาฬิกาเศษ ความมืดยังครอบคลุมรัติกาลสนิท นายร้อยบุตร์ จึงให้นายอินทร์แก้ว นำทางไปยังบ้านเมียน้อยของไอ้เสือสังเพื่อช่วยนายทอง โดยมี นายเจียม หลานชายนายอินทร์แก้วนำทางรว่มไปด้วยอีกคน
นายเจียมกลัวเสือสังจนตัวสั่น แต่ก็ยอมนำทางด้วยความจำใจ ทั้งที่กลัวจนหัวหด ทั้งหมดเดินฝ่าความมืดไปถึงบ้านนางมิก นายเจียมบอกว่า ปวดท้องขึ้นมาดื้อๆเเล้วขอเข้าไปถ่ายทุกข์ข้างทางแต่กลับเผ่นหนี นายอินทร์แก้ว จึงต้องรับหน้าที่นำทางต่อ
ครั้นเดินต่อไปถึงบ้านนางขลิบ นายอินทร์แก้วขอเเยกทางไปซ่อนตัวห่างๆ เพราะเกรงว่า หากตำรวจทำงานไม่เสร็จเกิดไอ้เสือสังหนีไปได้ แล้วรู้ว่าตนเป็นผู้นำทางให้ตำรวจมาจับไอ้สังย่อมไม่ไว้ชีวิตแน่
คราวนี้เหลือเพียงสามคน คือนายร้อยบุตร์ พลฯเผือก และนายขี้ครั่ง ปืนที่ใช้ก็มีปืนเมาเซอร์ต่อด้าม ปืนยาวมัลลิเคอร์นายขี้ครั้งใช้ปืนคาบศิลา บรรจุดินปืนเต็มอัตราศึกและยัดลูกโดดเข้าไปถึง 9 ลูก
คนทั้งหมดซุ่มคอยไอ้เสือสังออกมานอกบ้าน แต่มันยังไม่ออกมาสักที จนเวลา 5 นาฬิกาเศษ นายร้อยหนุ่มจึงสั่งให้ทุกคนย้ายที่ซุ่มใหม่ โดยไปหลบตรงปากทางลงห้วย เพราะคาดว่า ไอ้เสือสังมันต้องคุมตัวเชลยลัดเลาะดงไม้ข้ามห้วยออกท้องนาพาตัวไปยิงทิ้งด้านนี้เเน่
นายร้อยบุตร์ลงไปหลบอยู่หลังตลิ่งที่ขนาบอยู่สองฝากทาง พลฯ เผือก และนายขี้ครั่งอาศัยตะแบกใหญ่ริมทางลงห้าวยเป็นที่กำบัง รอคอยการปรากฏตัวของไอ้เสือสังอย่างเงียบ
เวลาผ่านไปถึงตี 5ครึ่ง...
ไอ้เสือสังเผยโฉมให้เห็นมันลากนายทองซึ่งถูกมัดมือไพล่หลัง มีเชือกคล้องคออีกต่างหากเพื่อลากจูงตามหลังเหมือนกับวัวควายเสือสังจูงนายทองมาถึงลำห้วยถึงจุดที่นายขี้ครั่งและพลฯเผือกซุ่มอยู่ ทั้งสองได้ยินไอ้เสือพูดเปรยๆ กับนายทองด้วยความเจ็บใจว่า...
''ทีนี้กูไม่เชื่อใครเเล้ว''
นายขี้ครั่งเห็นดังนั้นกลัวนายร้อยหนุ่มที่ซุ่มเยื้องออกไปไม่เห็น จึงจุ๊ปากเป็นสัญญาณ นับเป็นความผิดอย่างมหันต์
ไอ้เสือชะงักกึกทันที เมื่อได้ยินเสียงแปลกหู!!
นายร้อยบุตร์รีบถลันขึ้นมาจากตลิ่ง ไอ้เสือรีบกระตุกปืนจากซอกเอวสับไกระเบิดกระสุนใส่นายร้อนหนุ่มทันที
ปัง!!
พลาด! กระสุนนั้นเลยข้ามหัวมือปราบหนุ่มไปอย่างหวุดหวิด
นายขี้ครั่งเผ่นออกหลังต้นตะแบก กดไกปืนคาบศิลาที่ประทับบ่า ''ตูม'' ออกไป หมายกลางอกเสือสังที่ยืนจังงังเป็นเงาตะคุ่ม ทว่าลูกโดด 9เม็ด เเคล้วคลาดไปจากร่างไอ้เสือ ส่วนพลฯ เผือกยิงด้วยปืนมัลลิเคอร์ไปยังร่างไอ้เสืออีกหลายนัด แต่ก็พลาดอีก ไอ้เสือสังไม่รีรอหันหลังวิ่ง หนีเต็มเหยียดไปเพราะกลัวโดนยิง ''ผมไม่ใช่คนร้าย อย่ายิง! อย่ายิง!''
นายร้อยบุตร์ขึ้นมาสมทบกับลูกน้องทั้งสอง ''ทำไมไม่ไล่ตามมันไปล่ะนาย นายขี้ครั่งถาม''
''ไล่คนไหนล่ะ'' นายร้อยบุตร์ชักงง เพราะนายทองวิ่งไปทางเดียวกับเสือสัง นายขี้ครั่งรีบบอก
''ไอ้คนวิ่งนำหน้านั้นแหละไอ้สัง!!''
นายร้อยบุตร์รีบวิ่งนำหน้าพรรคพวกตามไอ้สังทันที วิ่งไล่มาถึงสวนหมากเป็นที่ราบโล่ง เห็นหลังไอ้เสือสังหลบเข้าไปในป่ารกด้านขวามือ นายร้อยบุตร์กับพลฯ เผือกหยุดที่ใกล้จอมปลวกใหญ่
ส่วนนายขี้ครั่งวิ่งเลยเข้าไปในเขตบ้านนางมิก เมียหลวงเสือสัง พลางตะโกนลั่นว่า ''ถ้ากูฆ่าผัวมันตายเเล้ว กูจะเอาเมียมันทั้งสองคน''
เมื่อได้ยินการยั่วยุ..นายร้อยบุตร์โดดขึ้นไปบนจอมปลวกพลฯ เผือกยืนจังก้าอยู่กับพื้นข้างล่างด้านหน้าจอมปลวก คนทั้งสองส่ายปืนมาหาเป้า
วินาทีนั้น!! เสียงปืนจากเสือสังแผดกัมปนาทขึ้น
ปัง!!
กระสุนนัดนี้วิ่งผ่านลอดใต้รักแร้ พลฯ เผือกจนเสื้อขาดเเล้วเลยไปทะลุโสร่งที่นายร้อยบุตร์นุ่งเป็นรูใหญ่ พลฯเผือกจึงกระหน่ำมัลลิเคอร์สวนเข้าใส่ 4นัดนายร้อยบุตร์สักไกเมาเซอร์ไปอีก 2นัด ตรงจุดที่เสือสังซุ่มอยู่
คราวนี้ไอ้เสือไม่ซุ่มอีกเเล้ว มันวิ่งอ้อมเลาะสวนหมากไปทางทิศตะวันตก นายร้อยบุตร์สั้งให้พลฯ เผือกวิ่งไปสกัดด้านหน้า ส่วนตนเองวิ่งตามหลังไอ้เสือสังไปติดๆ
ขณะนั้นฟ้ายังไม่สางอีกทั้งยังมีหมอกลงมองไม่เห็นกันเลยการติดตามเสือปล้นใจฉกาจอาศัยจากเสียงวิ่งแหวกพงหญ้านำทางไปเท่านั้น มือปราบหนุ่มวิ่งพลางยิงไปพลาง
เสียงสวบสาบวิ่งเตลิดของเสือสังหยุดลง!! นายร้อยบุตร์ก็หยุดบ้าง ถ้าบุ่มบ่ามเข้าไปอาจจะเข้าทางปืนไอ้เสือสังได้ ต่างฝ่ายต่างหยุดดูเชิงกันครู่หนึ่งคราวนี้ไอ้เสือเผ่นต่อ มันวิ่งวกไปทางทิศเหนือ นายร้อยบุตร์จับทิศทางได้จึงวิ่งตัดทางไปดักมันตรงแนวทิศที่มันกำลังพยายามหนีในที่สุดเห็นตัวไอ้เสือ นายร้อยบุตร์ ทะยานเข้าใส่ทันทีเพื่อจับเป็น ไอ้เสือสังก็ฉับไวหันขวับมาประจันหน้า มันถอยหลังพร้อมเหนี่ยวไกปืนในมือหมายระเบิดกระสุนถล่ม แต่ได้ยินเสียงนกสับถูกเป็นชนวน ''ดังแชะ!!''
กระสุนด้าน!! นายร้อยบุตร์ เข้าประชิดปากกระบอกปืนแบนออกไป พร้อมยกเท้าขึ้นถีบกลางอก ไอ้เสือถึงกับหงายหลังผลึ่งลงกับพื้น นายตำรวจกระโจนเข้าคร่อมร่างมันทันที ปักศอกคู่หมายกระแทกสองหัวไหล่ตามแม่ไม้มวยไทย
แต่พลาด!!
ไอ้เสือหันขวับอ้าปากขย้ำกัดกลางท่อนเเขนซ้ายนายร้อยหนุ่มเต็มเหนี่ยว นายร้อยบุตร์ ชกหน้ามันด้วยกำปั้นขวา แต่ไอ้โจรมันกัดไม่ปล่อย หันมาบีบเค้นคอก็เเล้ว ควักลูกตาก็เเล้ว ไอ้เสือสังยังเฉย จึงคิดขึ้นได้...
เอาละวะ!! มันต้องใช้หนามบ่งหนามกันล่ะ '''เอ็งกัดข้าได้ข้าก็กัดเอ็งได้' คิดเช่นนี้เเล้วนายร้อยหนุ่มจึงก้มลงกัดหัวไหล่เหวอะหวะ เลือดทะลักเต็มปาก!!
เสียงแหกปากร้องลั่น เพราะทนเจ็บไม่ไหว ขณะเดียวกันมันกระชากมีดออกจากฝักที่เหน็บเอวมา นายร้อยบุตร์ เอาเท้าถีบและเหยียบข้อมือขวาที่มันกำด้ามมีดเอาไว้เเน่น เเล้วกระชากมือหลุดออกมาได้ คมมีดบาดฝ่าเท้านายตำรวจจนได้เลือด
ไอ้เสือตวัดมีดหมายปาดคอนายตำรวจ แต่นายร้อยบุตร์ คว้ามือมันไว้ได้และกอดรัดไม่ยอมปล่อย ทั้งสองกลิ้งกันไปกลิ้งกันมา ผลัดกันลงล่างขึ้นบน จนป่าหนามแถบนั้นราบเป็นทาง
ระหว่างทางที่กอดปล้ำแย่งมีดกันอยู่นั้น หากปล้ำนานไปกว่านี้คงหมดแรงเสียท่ามันเเน่ จึงส่งเสียงร้องบอกพรรคพวกให้มาช่วย
พลฯเผือกวิ่งตะลุยเข้าไปถึงก่อน โดยมีนายขี้ครั่งวิ่งตามมาติดๆ ขณะนั้นนายร้อยบุตร์ ขึ้นคร่อมอยู่บน พลฯ เผือกจึงกระเเทกพานท้ายปืนเข้าที่หน้าผากไอ้เสือเต็มเหนี่ยว ไอ้เสือตัวอ่อนยวบทันที
พอดีนายขี้ครั่งเข้ามาถึงตัว ก็หวดด้วยสันพร้าซ้ำที่เดิมอีก ไอ้สังถึงกับแน่นิ่งไป นายร้อยบุตร์ บอกให้พลฯ เผือกแกะเอามีดออกจากมือที่กำแน่นแล้วให้ใส่กุญแจมือไว้
ไอ้เสือสังก็ทรหดเกินคาด มันหมดสติไปชั่ววูบเดียวก็ฟื้นขึ้นมา พอได้สติก็ร้องด่านายขี้ครั่ง เพราะคิดว่านายขี้ครั่งพาพวกมารุมทำร้าย นายร้อยบุตร์ จึงแสดงตัวคือตำรวจ ไอ้เสือสังเลยสารภาพว่าไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ ถ้ารู้คงไม่ต่อสู้
เสือร้ายนอนทุรนทุรายประมาณ 30นาที ก็สิ้นใจตาย ขณะนั้นท้องฟ้าเริ่มสว่างมากเเล้ว ชาวบ้านเริ่มทยอยมามุงดูเกือบ 20คน นายร้อยบุตร์ เองก็ลุกไม่ขึ้นเพราะหมดเเรง พลฯ เผือกกับนายขี้ครั่งเข้ามาช่วยประคองให้ลุกขึ้น กลับได้กลิ่นอุจจาระเหม็นคลุ้ง
นายร้อยบุตร์ เองก็ได้กลิ่นเช่นนั้น จึงเอามือป้ายโสร่งตามก้น คิดว่าอุจจาระไหลไม่รู้ตัว แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเมื่อเข้าไปพิสูจน์ศพของเสือสังโดยละเอียดพบว่า เสือสังถูกกระสุนเมาเซอร์ของนายร้อยบุตร์ 2นัด นักเเรกที่คอ อีกนัดที่สะดือทะลุสะโพก อุจจาระของเสือสังไหลออกมาทางแผลสะดือนี่เอง
พวกชาวบ้านต้องช่วยกันหามนายร้อยบุตร์ ลงไปที่ลำห้วยเพื่อชำระล้างร่างกาย เอาสบู่กรดฟอกตัวเสร็จแล้วใส่เสื้อผ้าใหม่มือปราบหนุ่มขอเเรงชาวบ้าน 15 คน ช่วยหามศพเสือสังไปยังอำเภอควนขนุน โดย ผลัดเปลี่ยนกันเพราะต้องใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมง
คณะแบกศพเสือสังเดินทางมาถึงตำบลป่าพยอม นายร้อยหนุ่มเข้าไปหากำนัน ขอร้องให้ช่วยหาคนมาเปลี่ยนหามศพต่อ เพราะชาวบ้านชุดแรกจากห้วยกรวดจำเป็นต้องกลับบ้านแต่กำนันปฏิเสธไม่ยอมช่วยเหลือ
นายร้อยบุตร์ ขุ่นใจที่กำนันไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ จึงสั่งให้คนหามศพเสือสังไปวางบนเรือนของกำนันพร้อมกับบอกว่า
''อั๊ว..จะทิ้งไว้ตรงนี้ให้ศพมันขึ้นอืดไปเลย''
เจอไม้นี้เข้า ไม่ต้องขอร้องเป็นครั้งที่สอง กำนันรีบหาคนหามศพให้อย่างรวดเร็ว คณะมือปราบจึงได้เดินทางต่อ ระหว่างทางใกล้จะถึงอำเภอควนขนุนเป็นเวลามืดค่ำแล้วได้เกิดเหตุอกสั่นขวัญหาย เพราะจู่ๆ มีช้างป่าเชือกหนึ่งหลุดมาจากไหนไม่รู้โผล่ออกมาไล่กวด คณะหามศพต่างทิ้งศพไอ้เสือสังวิ่งหนีเอาตัวรอด เกิดชุลมุนอยู่พักหนึ่ง จึงได้นำศพไอ้เสือสังถึงอำเภอจนได้
เช้าวันรุ่งขึ้น พระยาศรีฯ จเรตำรวจกับลูกสาวมาตรวจราชการที่อำเภอควนขนุน ได้ร่วมการชันสูตรพลิกศพเสือสังด้วยได้แสดงความพอใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างองอาจกล้าหาญของนายร้อยบุตร์ ทั้งรับรองจะเสนอความดีความชอบต่อผู้บังคับบัญชาให้
ขณะที่ว่าที่นายร้อยบุตร์ ได้โชว์การปราบปรามที่เหนือชั้นทำให้มีผู้อิจฉาได้ทำบัตรสนเท่ห์ถึงกรมตำรวจ กล่าวหานายร้อยบุตร์ว่า การจับกุมเสือสังไม่มีการต่อสู่เเต่อย่างใด นายร้อยบุตร์ กับพวกจับเสือสังได้โดยละม่อม จากนั้นได้รุมยิงและตีเสือสังจนตาย
สำหรับรอยแผลบนร่างนายร้อยบุตร์ นั้นเเสร้งทำขึ้นมาเอง!!
ผลจากบัตรสนเท่ห์ทำให้ว่าที่ ร.ต.ต.บุตร์ พันธรักษ์ ไม่ได้รับความดีความชอบอะไรเลย แต่พลฯ เผือกกลับได้เลื่อนยศเป็นสิบตำรวจตรี ส่วนนายขี้ตรั่งได้รางวัล 200บาท ซึ่งออกจะชอบกลอยู่
นายร้อยบุตร์ สะเทือนใจเป็นอย่างมาก จึงได้สักเป็นรูปรอยฟันตรงที่เสือสังเคยกัดเอาไว้ตรงท่อนแขนซ้ายเพื่อเตือนใจตัวเอง!!
สำหรับตอนนี้ก็เป็นคดีเเรกของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชซึ่งกำลังเริ่มเข้าสู่วงการคนหนังเหนียวครับอ่านเเล้วสนุกอย่างไรฝากไลค์เเละติดตามด้วยนะครับขอบพระคุณครับ
ในตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถานกยูงทอง◎
''นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา''
ภาวนาเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูหรือก่อนออกจากบ้านเป็นพระคาถาแห่งสุดยอดเเคล้วคลาด
**********************************
*สำหรับผู้ที่ต้องการสำเนาหนังสือชุดของอาจารย์ไพฑูรย์ซึ่งมีเรื่องราวและตอนต่างๆมากมายโดยละเอียดๆพร้อมกับเปิดเผยชื่อจริงของบุคคลที่อ่านเอ๋ยถึงทางเพจมีจำหน่ายเล่มละ250ครับชุดก็1500หากส่งEMSเพิ่ม200ใครสนใจอยากได้ยังไงติดต่อทางเพจINBOX หรือโทร.0958949906ขอบพระคุณครับ
และรับซื้อหนังสือจอมอาชญากรหมายเลข1เล่ม3,6,7ฉบับจริงเเบบสมบูรในราคาเล่มละ1000บาทครับสำหรับสำเนา400ครับ
ขอขอบคุณ Facebook นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

 

วันนี้ผมโดดงาน เอาเจ้าแม่กวนอิมที่เพื่อนสมาชิกช่วยกันทำบุญพระขุนแผนฯ ไปมอบให้พี่นิ่ม
ได้พี่ไพรัชช่วยอำนวยความสะดวก
ไปถึงบ้านก็หาเจ้าของบ้านไม่เจอ คนงานก็พยายามจะตามหาให้ แต่ผมห้ามไว้ เพราะได้ยินเสียงสวดมนต์ดังมาจากในบ้าน

รอซักพักเจ้าบ้านก็ออกมาต้อนรับ
พี่นิ่มเห็นท่านแม่ฯ ก็รีบเข้าไปทำพิธีอัญเชิญเข้าบ้าน
ดูแกดีใจมาก....เราก็มีความสุขไปด้วย

..............

ก่อนผมนัดเจอพี่นิ่ม ก็โทรฯไปนัดแกก่อน พี่นิ่มรับสายแล้วบอกให้รีบมา มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง
เมื่อถึงบ้านแล้วจึงถามว่าเรื่องอันใด
พี่นิ่มก็เล่าว่าวันนี้ ลูกชายชื่อเฟตมาสารภาพ ว่าเมื่อ10ปีก่อนแอบเอาปืนลูกซองมาเล่นแล้วยิงใส่กัน โดยไม่รู้ว่ามีลูกปืนอยูในลำกล้อง

เมื่อ10ปีก่อน พี่นิ่มได้ยินว่ามีผู้เสียผลประโยชน์ท้องถิ่นจะลอบทำร้าย ปืนทุกกระบอกในบ้านจึงบรรจุลูกปืนพร้อมยิงทุกนัด

เฟตเอาปืนมาเล่นเพราะคิดว่าไม่มีลูกปืน พอเห็นแฝด(พี่น้องฝาแฝด)เดินมาใกล้ๆก็เอาปืนส่องแล้วเหนี่ยวไกเล่น ดังแชะ ยิงอีกก็ดังแชะ แฝดเห็นเข้าก็แย่งปืนไปดู เห็นว่ามีลูกปืนอยู่ก็ตกใจ เลยลองเอาไปยิงมะพร้าวหน้าบ้าน ลูกมะพร้าวแตกกระจุย!

เรื่องนี้เก็บเงียบมา10ปี ไม่กล้าปริปาก เพิ่งจะเอามาเล่าสารภาพให้พ่อนิ่มฟัง...

...............

สมัยที่ป่าแดงมีแต่เจ้าพ่อ ยิงกันไปยิงกันมาจนไม่มีใครกล้ามาเป็นผู้ใหญ่บ้าน
พี่นิ่มได้รับการร้องขอให้รักษาการณ์ตั้งแต่อายุ27ปี
ช่วงรักษาการณ์ก็ทำให้หมู่บ้านสงบเรียบร้อย และเรียบร้อยต่อเนื่องตลอด7ปีที่ยังหาใครมาแทนไม่ได้
แต่ในความเรียบร้อยนั้น พี่นิ่มได้ข่าวจากกลุ่มมือปืนตลอดว่าตัวเองโดยหมายหัว ทำให้ต้องแสวงหาครูอาจารย์ที่คุ้มตัวได้....

.............

พี่นิ่มได้รับทราบจากหลวงพ่อสงัด ว่ามีพระเก่งรูปหนึ่งอยู่ไม่ไกล ให้พี่นิ่มไปขอบารมีซะ...
พรุ่งนี้พี่นิ่มจะนำพระฯทั้งหมดรวมทั้งประภามณฑลชุดนี้ด้วยไปขอบารมี
ส่วนเรื่องกล่องพระฯผมก็ลืมคุย ไว้จะเร่งรีบทำให้เสร็จ จะได้มีมาคืนเพื่อนสมาชิกเสียที โปรดรอ

....................

ช่วงที่พี่นิ่มเริ่มเข้าวงการขลัง จะค่อยๆทยอยลง ก็สนุกและพิสดารไม่แพ้เรื่องของ อ.ไพฑูรย์ จะชอบไม่ชอบก็จะบันทึกเอาไว้ เพราะนอกจากผมแล้วคงไม่มีใครเข้าไปคุยกับพี่นิ่มด้วยความวางใจเท่า

ฝากรูปไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาเล่าใหม่

 

หลังจากพี่นิ่มได้พบเจอครูอาจารย์ที่เคารพนับถือแล้ว ก็ฝากเนื้อฝากตัวเรียนวิชาและตามอุปฐากจนสนิทสนมกันดี แม้หลวงปู่หมุนผู้เรืองเวทย์พี่นิ่มก็ติดตามท่านอยู่3ปี มายุติก็เมื่อท่านฯมาที่วัดสุทัศน์

แต่ที่ไปมาหาสู่กันประจำ ก็คงเป็นแทบชลบุรีถิ่นตัวเอง

เมื่อหนุ่มนิ่มแต่งงานใหม่ๆ ก็อธิฐานว่าหากตนเองมีบุญบารมีก็ขอให้ได้ลูกแฝด
ไม่นานก็ฝันว่าตัวเองได้แก้วสารพันนึกลองใส่มือขวา ได้ดอกบัวลอยใส่มือซ้าย ถือเป็นนิมิตที่ดี

พอรู้ว่าแฟนตั้งท้อง ก็พาแฟนไปกราบหลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว ขอฝากเด็กในท้องให้หลวงปู้จ้อยดูแลคุ้มครอง

หลวงปู่จ้อยก็เสกกล้วยให้กินตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง
เมื่อคลอดแล้วได้ลูกชายแฝดสมดังใจ ก็เร่งไปปรึกษากับหลวงปู่จ้อย ว่าจะทำอย่างไรให้เด็กเจริญในวิชา
หลวงปู่ฯก็บอกให้เอาสายสะดือไปเสกกับพระเก่งๆให้ได้7องค์ แล้วเอาให้เด็กกิน เด็กจะเจริญในวิชาดังหวัง "แต่เอาสายสะดือมาก่อน พ่อฯจะทำให้เป็นองค์แรก" หลวงปู่ฯบอก

หลวงจากหลวงปู่จ้อยเสกให้เป็นปฐมแล้ว
ลป.โทน วัดเขาน้อยคีรีวัน ชลบุรี
ลพ.ยิด วัดหนองจอก ประจวบ
ลพ.สร้อย วัดมงคลคีรีเขตร์ ตาก
ลพ.ผาด วัดบ้านกรวด บุรีรัมย์
ลป.หงษ์ สุสานทุ่งม่น สุรินทร์
ครูบาผัด วัดสารภี เชียงใหม่
เสกให้ทุกรูป...
นอกจากจะเจริญในวิชาแล้ว ยังจะไม่ทะเลาะกันเองด้วย เพราะสายสะดือเดียวกัน...นี่เป็นเคล็ดวิชาที่หลวงปู่จ้อยเมตตาให้พี่นิ่ม

พอเด็กอายุได้4ขวบ พี่นิ่มที่สนิทกับหลวงพ่อคูณก็กราบไปขอบารมีท่านฯ ว่าจะเอาลูกชายมาฝังตะกรุด หลวงพ่อฯจะเมตตาได้ไหม หลวงพ่อคูณท่านฯเตรียมตะกรุดให้เป็นพิเศษรออยู่2วัน พี่นิ่มก็เอาของเล่นไปล่อลูกชาย

จากนั้นใช้ของเล่นล่อลูกชายได้อีก
หลวงปู่ละมัย สวนป่าสมุนไพร ฝังปรอท
หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย ฝังเข็ม
หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดหุบมะกล่ำ ฝังเข็ม
ฯลฯ (ผมบันทึกเท่าที่จำได้)

นี่อาจเป็นสาเหตุที่เมื่อ10ปีก่อน ปืนลูกซองในมือเฟตไม่ทำงาน....

............

ถ้าชอบก็จะเอามาเล่าอีก....

 

หลายเดือนก่อน พี่นิ่มพยายามจะให้ผมติดต่อพี่ไพรัชให้ใด้
จะฝากเตือนเรื่องสุขภาพ...

ผมรู้ว่าพี่ไพรัชยุ่งกับเรื่องที่บ้านพิษณุโลก ไม่อยู่กรุงเทพฯ แต่พอติดต่อได้ ก็ได้แต่แจ้งเตือนตามคำพี่นิ่ม
พี่ไพรัชก็รับปากจะดูแลสุขภาพตัวเอง

ผ่านไปไม่นาน พี่ไพรัชก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เริ่มจากเป็นน้อยๆจนกระทั่งต้องแยกห้องกับแฟน
ยาที่ได้รับจากโรงพยาบาลเริ่มเอาไม่อยู่ และต้องใช้ยาที่แรงขึ้น...
ป่วยอยู่หลายวัน ไม่มีกระจิตกระใจจะติดต่อใคร ผมเองก็ยุ่งกับการศึกษาฯ ไม่ได้ไต่ถามทุกข์สุขกัน ก็นึกเป็นห่วง

วันนี้ติดต่อกันได้ ถึงรู้ว่าพี่ไพรัชไปได้หมอจีนกับยาต้ม เอาอยู่! สุขภาพฟื้นแล้วพร้อมลุยเหมือนเดิม

และก่อนหน้านี้พี่นิ่มก็ฝากผมถามไถ่ทนายเอกพล(พี่หนู) ผมเองก็ยุ่งก็ลืม พอมาวันนี้พี่นิ่มก็ยุให้โทรฯหา
พอติดต่อกันได้ ถึงทราบว่าพี่หนูมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตอนนี้ยังไม่หายดี ไม่สามารถมาเยี่ยมเยียนกันได้ ก็ขอพักฟื้นก่อน....

ใครอยากให้พี่นิ่มทักถามถึงบ้างแบบนี้?

เมื่อเดือนก่อน พี่นิ่มทักผมว่าอีกไม่กี่ปีจะเสียสิ่งรัก!
ผมก็พอเดาได้ว่าเป็นอะไร แต่แกล้งไม่เข้าใจ
พี่นิ่มก็ถามว่า แล้วตอนนี้สิ่งรักของหนุ่มทิพย์คืออะไร
ผมตอบไม่คิดเลย...."เมีย"
พี่นิ่มกับคุณชนะหัวเราะแทบหงายหลัง...........

......ไม่มีอะไรเป็นของเรา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
สิ่งที่จะอยู่กับเรา คือการได้ทำสิ่งที่ดี การได้เห็นสิ่งที่ดี และรับความรู้สึกที่ดีนั้นไว้

กระทู้นี้ ทำให้ผมภูมิใจมากแล้ว คงไม่ทิ้งไปไหน ก็ขอฝากคำขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ

...................

วันนี้พี่นิ่มเล่าให้ฟังหลายเรื่อง ผมบันทึกได้ไม่หมด ไว้คงต้องตามไปบันทึกใหม่ อาจจะเป็นเดือนละ2หน เพราะเป็นเรื่องน่าสนใจมาก

ในชีวิตของพี่นิ่ม เห็นเกจิที่สุดยอดหลายองค์ และที่สนิทมากและสามารถเชื่อถือในวิชาเวทย์ที่พี่นิ่มพูดถึงบ่อยๆคือ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด

พี่นิ่มบอกว่าหาก3องค์นี้ ได้เสกของร่วมกันจะสุดยอดมาก

แต่นั้นอดีต ผมถามว่าปัจจุบันนี้ใครบ้างที่พี่นิ่มมั่นใจขนาดนั้น
พี่นิ่มบอกมาเพียง1รูป

รูปนี้ผมกับคุณอ๊อดจะขึ้นไปกราบพร้อมกับพี่นิ่ม เป็นรูปเดียวที่เสกของให้ใครได้ยากมาก
เป็นพระกรรมฐาน เป็นเกจิอาจารย์ที่ท่านฯสุวิระ ชวนพี่นิ่มขึ้นไปกราบนมัสการ

...............

ใครที่ไม่ทันได้หนุมาน รุ่นแรกของพี่นิ่ม ให้รอไปอีก1ปี
มีพระปิดตาที่พี่นิ่มทำไว้ไม่กี่องค์ (เคยเอาลงโชว์แล้ว) ผมจะเอามาแบ่งให้สมาชิกได้เก็บไว้ใช้

เก็บตังค์นะครับ ให้จองชั่วโมงเดียว(ดีไหม) เพราะของน้อยมาก
บอกแล้วนะ!

.......................

วันนี้พี่นิ่มเล่าให้ฟังเรื่องผงพรายกุมาร
ว่าครูน้อย(ชื่อจริงผมลงไว้แล้ว ไปค้นเองนะครับ ผมจำไม่ได้) วัดระหารไร่ มอบให้ตามพินัยกรรมของหลวงปู่ทิม

ที่เรียกว่าพินัยกรรม เพราะมีจดหมายลายมือหลวงปู่ทิมเป็นหลักฐาน
ว่าอีก30ปี "จะมีคนมาขอผงฯไปทำพระปิดตากับหนุมาน ให้กับวัดที่ยังไม่ฝังลูกนิมิต ให้เก็บไว้ให้ทั้งหมด"

ผงชุดนี้ มีส่วนผสมของเกศาหลวงปู่ทิม และเถ้าอังคารของหลวงปู่ฯ ครูน้อยก็เก็บไว้ตามคำสั่งเสีย แม้มีเซียนพระฯสายหลวงปู่ทิมเพียรมาขอก็มิได้ให้ไป หรือแม้กับหลวงพ่อสาคร ครูน้อยก็ไม่กล้าแบ่งให้

เมื่อพี่นิ่มไปถึง จะนิมนต์เจ้าอาวาสวัดป่าแดงไปเป็นพยาน ว่ามิได้ทำขายเอาตังค์เข้ากระเป๋า ครูน้อยท่านฯก็ว่าอย่าได้ลำบากพระลำบากเจ้าเลย หลวงปู่ทิมท่านฯสั่งให้มอบกับฆราวาส ไม่ได้สั่งมอบให้กับพระวัดไหน!

หนังสือฉบับนี้ ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าแดงเก็บรักษาไว้รึเปล่ามิทราบได้ พี่นิ่มเองยังนึกเสียดายไม่แพ้ผม แต่ครูน้อยยังมีชีวิตอยู่ สามารถเป็นพยานให้ได้....

 

หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด

ต้องขอบคุณพี่หนุ่มทิพย์จากกระทู้นี้ ที่แนะนำให้ผมได้รู้จักหลวงปู่
ทั้งๆที่บ้านผมห่างจากวัดท่านเพียง 40 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น คนละอำเภอ
ได้ไปกราบท่าน 2 หน ก่อนที่ท่านจะมรณะภาพ คนน้อยเข้าถึงง่าย
ได้วัตถุมงคลของท่านมาไว้ติดตัวเล็กน้อย

ขอบคุณจริงๆครับ

 

ในยูทูปมีคนเอาพระฯของท่านทดสอบด้วยM16

เรื่องการทดสอบถ้าไม่เห็นกะตาก็ฟังหูไว้หู ขึ้นกับว่าฟังจากใคร
แต่ถ้าพี่นิ่มบอกว่าเก่ง ต้องเชื่อ

พี่นิ่มบอกแอบดูตอนท่านเสกพระฯให้ (จับสายสิญตอนท่านอธิฐานจิต ทำยังกะมิเตอร์วัดพลังงาน)

ในรุ่นอายุเท่ากัน หลวงปู่ผาดไม่แพ้ใคร แขวนเดี่ยวได้ คุณโชคดีแล้ว พระฯของท่านเป็นพระฯมีราคาในอนาคต

พระฯของพี่นิ่มจะมีราคาเมื่อแกไม่อยู่แล้วละกระมั๊ง.....

...............

ผู้ใหญ่อั๋นยิงพระฯมาเป็นเข่ง มาเลิกยิงก็เพราะพี่นิ่ม
คุณพ่อของผู้ใหญ่อั๋นเสียชีวิตก็เพราะลูกปืน
พี่ชายเสียชีวิตก็เพราะลูกปืน
ผู้ใหญ่อั๋นมีตังค์เช่าพระฯทีเป็นแสน
ตอนนี้เช่าแต่ของวัดป่าแดง แขวนพระฯวัดป่าแดงทั้งตระกูล...

พระฯของพี่นิ่มทุกรุ่น ต้องได้กระแสจิตจากหลวงปู่ผาด
และหลวงปู่ผาด เสกพระฯให้พี่นิ่มมากกว่า1รอบเสมอ ถ้าไม่ใช่รุ่นไตรมาสของทางวัดบ้านกรวดแล้ว พระฯของพี่นิ่มได้กระแสจากหลวงปู่ผาดมากกว่าทุกรุ่นที่ออกจากสำนักอื่น

เก็บไว้ให้ดีนะครับ...............

 

คุณทิพย์เอามาลงอีกนะครับ ประวัติพี่นิ่มสนุกไม่แพ้อาจารย์ไพฑูรย์เลย

 

ตอนผมชวนคุณหนุ่มทิพย์ให้ไปเรียนวิชาสายสมร(ทักษาสมเด็จ)กะท่านสายน้ำ
เห็นคุณหนุ่มดูเฉยๆไม่ค่อยสนใจ ยังนึกเสียดายอยู่
คนที่เป็นวิชาโหราศาสตร์และเก่งจริง
และยังเป็นคนที่ผมนับถือมีไม่กี่คนเอง
ท่านสายน้ำเป็นหนึ่งในนั้น
ยินดีด้วยที่ท่านมี วาสนา นิ

 

credit จาก Facebook (สำหรับท่านที่ไม่เล่นเฟส)
นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ตำนานเสือหัวขาด
เรื่องทั้งหมดต้องขอย้อนหลัง สมัยที่ยังเป็นทหารอยู่ เมื่อปี พ.ศ. 2527 อาตมามาเป็นทหารอยู่ที่กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ ที่กรมได้จัดผ้าป่าไปถวายที่วัดเขานางนม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี (ชื่อในสมัยนั้น) และที่วัดนี้เองทำให้อาตมาได้รู้จักเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่า ด.ช.ไพรัช นาสา เด็กคนนี้รักอาตมาเหมือนพี่ชาย จึงพาอาตมาไปเที่ยวบ้านและแนะนำให้อาตมาได้รู้จักเตี่ยกับแม่ และพี่น้องของเขา จากนั้นมาเราจึงมีความสัมพันธ์ดุจพี่น้องแท้ ๆ และเมื่ออาตมาได้ปลดประจำการจากทหาร เมื่อได้บวชเป็นพระแล้ว อาตมาก็ยังไปเยี่ยมเยียนที่บ้านนี้อยู่เป็นประจำ และมีความสนิทกับชาวบ้านแถวนี้ด้วย เตี่ยจะพูดถึงเจ้าอาวาสให้ฟังว่าท่านมีอะไรดี มีวิชาต่าง ๆ ที่ชาวบ้านยอมรับท่านว่าท่านมีวิชาที่น่ากลัวคือวิชาเสือคอขาด โดยมีชาวบ้านแถวนั้นยืนยันเป็นเสียงเดียว เตี่ยพูดว่า เมื่อสมัยก่อนนี้ ที่ชลบุรีจะมีเสืออยู่กลุ่มหนึ่ง ชอบปล้นแล้วก็ฆ่า ตำรวจไม่เคยจับได้สักที เพราะโจรกลุ่มนี้มันมีดีอยู่ที่ตัวมัน ตำรวจจึงทำอะไรมันไม่ได้จึงมีคำสั่งให้จับตาย แล้ววันหนึ่งระหว่างตำรวจกับโจรกลุ่มนี้เกิดการดวลขึ้นกลางเมือง กลุ่มโจรเกิดพลาดถูกตำรวจจับได้ทั้งหมด ตำรวจจึงวิสามัญ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ยิงไม่เข้าเลยแม้แต่นัดเดียว นายจึงสั่งให้เหลาไม้แหลมเพื่อสวนทวาร จึงเป็นการปิดตำนานเสือชลบุรี เมื่อทำการสวนทวารจนเสียชีวิตแล้ว ตำรวจก็เปิดเสื้อดูเห็นมีรอยสักเป็นรูปเสือคอขาดนี่เอง ที่เป็นต้นเหตุทำให้ตำรวจไม่สามารถทำอะไรโจรกลุ่มนี้ได้ ตำรวจจึงหาที่มาของรอยสัก จึงได้ทราบว่ามีพระที่ วัดเขานางนม อ.พนัสนิคม เป็นผู้สักให้ ตำรวจจึงขอร้องให้หลวงพ่อท่านเลิกสักเพราะลูกศิษย์ของท่านเป็นโจรเสียส่วนมาก ถ้าจะสักให้สักรูปอื่นยกเว้นรูปเสือคอขาดอย่าไปสักใคร ท่านจึงรับปากตำรวจตั้งแต่วันนั้นมา ท่านจึงไม่สักรูปเสือคอขาดให้กับใครอีกเลย นี่เป็นเรื่องเล่าของเตี่ยและชาวบ้านที่ยืนยันกับคำพูดทุกคำว่าเป็นเรื่องจริง แล้วก็หันมาที่อาตมาถามว่า ท่านไม่คิดจะเรียนวิชาอย่างนี้บ้างหรือ ไหน ๆ ก็มาถึงนี่แล้ว ทำไมไม่ลองไปหาท่าน ฝากเนื้อฝากตัวกับท่าน เผื่อท่านจะให้ (แม้ทุกวันนี้อาตมายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย) ด้วยการที่ญาติโยมแนะนำกันหลายคน อาตมาจึงเข้าไปในวัดเพื่อที่จะเข้าไปขอเรียนกับท่าน เมื่อเข้าไปในวัดอาตมาจึงเดินไปที่กุฎีท่าน กุฎีของท่านเป็นไม้มีสองชั้น ชั้นล่างโปร่งชั้นบนเป็นที่อยู่ของท่าน มีสามห้อง แต่เปิดฝากลางออก จึงกลายเป็นห้องโล่ง ๆ เมื่อเดินถึงกุฎีมีเด็กวัดเดินลงมาพอดี อาตมาจึงถามว่า “หลวงพ่ออยู่หรือป่าว” เด็กบอกว่า “อยู่ ท่านอยู่ข้างบน” อาตมาจึงเดินขึ้นไป แต่เมื่อขึ้นถึงข้างบนปรากฏว่าไม่มีใครอยู่ อาตมามองหาไปทั่วก็ไม่มี คิดว่าท่านคงอยู่ในกุฎีจึงพูดในใจว่า ขออภัยนะครับ แล้วเดินไปที่ประตูห้องท่าน เคาะประตู ก๊อก ๆ ๆ หลวงพ่อครับ ๆ ๆ เงียบสนิทไม่มีเสียงตอบ อาตมาจึงเดินกลับลงมาข้างล่างและถามเด็กวัดคนเดิมที่นั่งเล่นอยู่ใต้ถุนนั้นว่า หนุ่ม ๆ หลวงพ่อไปไหนไม่เห็นมี เด็กคนนั้นบอกว่า หลวงพ่อท่านอยู่ข้างบนนั้นละครับ รองเท้าท่านยังอยู่เลย อาตมาจึงเดินขึ้นไปอีกครั้งอาตมาตกใจมาก เมื่อเห็นท่านนั่งอยู่หน้าห้อง ตรงที่อาตมาไปยืนเรียกท่านอยู่ ท่านยิ้มให้ อาตมาจึงเดินเข้าไปกราบท่านใกล้ ๆ ท่านยิ้มแย้มแจ่มใส ตาท่านมีแววที่เมตตามาก ผิวพรรณสะอาด ดูน่าเลื่อมใส ท่านถามอาตมาว่า มีธุระอะไรท่าน อาตมาจึงพูดขึ้นว่า ผมมาเที่ยวที่บ้านน้องชายครับ ที่ชื่อ ไพรัช นาสา และเมื่อครั้งที่ผมเป็นทหาร ผมเคยมาทอดผ้าป่าเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถวัดนี้ และหลวงพ่อก็เคยสักยันต์ที่แขนให้ผม นี่ไงครับ ยันต์อะระหัง อาตมาจึงยื่นแขนให้ท่านดู ท่านว่า อ๋อ ท่านจำได้แล้ว ในคณะผ้าป่าของทหาร มีทหารอยู่ 5 คน ที่ผมสักให้ แล้ววันนี้ท่านมามีอะไรหรือป่าว
อาตมา “ผมเคยได้ยินกิตติศัพท์ในเรื่องวิชาอาคมของหลวงพ่อเกี่ยวกับวิชาเสือคอขาดครับ ผมอยากจะศึกษาในทางนี้ เพราะเป็นวิชาที่หายากครูบาอาจารย์มักจะไม่สอน จนวิชาเหล่านี้ตายไปกับครูบาอาจารย์จนจะหมดแล้ว”
หลวงพ่อ “ อย่าเรียนเลยท่าน มันไม่ดีหรอก ส่วนมากมันจะเลวหมด เอาดีไม่ได้ ผมจะสักให้ไปเพื่อคุ้มครองจากสิ่งไม่ดี มันกลับไปประพฤติไม่ดีเสียเอง ทั้งปล้นเขา ฆ่าเขา ทำความเดือดร้อนให้กับสังคม”
อาตมา “แต่หลวงพ่อครับ วิชาเหล่านี้ถ้าเรารู้จักใช้มันก็เป็นคุณไม่ใช่หรือ ทำไมเราไม่ให้เขาสาบานก่อน หรือไม่ก็ครูบาอาจารย์สาปแช่งไว้เขาก็คงไม่กล้าละเมิดคำครู”
หลวงพ่อ “ต่อหน้าเรามันก็สาบานดี แต่พอลับหลังเรามันก็ชั่วอยู่ดี ท่านอย่าเอาไปเลย ผมให้ไม่ได้หรอก เอาอย่างอื่นไปดีกว่าไม่ทุกข์ใจ”
อาตมา “หลวงพ่อครับ ผมก็เคยศึกษาวิชาของหลวงปู่ศุข มาบ้างกับอาจารย์มานิตย์ เป็นวิชาตรึงหลัก หมายถึงสิ่งใดที่เอาไม่อยู่ด้วยแรง ต้องใช้วิชาตรึงหลัก วิชานี้แม้แต่เปรตก็ยังต้องหยุดเดิน หยุดร้องได้ ผมว่าเอามาใช้กับเสือก็ได้นะครับ คือมีหลักแล้วล่ามโซ่ เท่ากับเราไม่ทำใคร แต่ใครอย่าเข้ามาในระยะโซ่เรานะ เราเอาท่านแน่”
หลวงพ่อ “ ถึงท่านจะมีวิชาดี ที่จะล่ามเขาไว้ด้วยโซ่อาคม แต่ผมก็ให้ไม่ได้ ให้วิชามันตายไปกับผมดีกว่า”
อาตมา “ผมเชื่อว่าครูบาอาจารย์ คงจะเสียใจที่วิชาของท่านจะสูญสิ้นอย่างน้อยน่าจะมีการสืบทอดไว้ ถึงแม้ลูกศิษย์ จะใช้หรือไม่ใช้ก็ถือว่ายังอยู่กับโลกและอยู่ที่บุญวาสนาของใครที่จะได้และใช้เป็น”
อยู่ ๆ ท่านก็พูดขึ้นว่า
หลวงพ่อ “ เสือนะมีทั้งหมด 19 ตัว ล้วนแต่หัวขาดทั้งสิ้นจะฆ่ามันอย่างไรก็ไม่ตาย เพราะมันตายไปแล้วหัวใจของมันคือ........เอาจากจมูกถึงหาง จากหางถึงกลางหลัง จากกลางหลังถึงจมูก มันคือสูตรหัวใจของแต่ละตัว เสือท่าไปก็ได้ ขอให้หัวขาดเป็นใช้ได้ สำคัญอยู่ที่หัวใจที่จะใส่ลงไปในเสือ 19 ตัว จะมีความต่างกันในด้านฤทธิ์”
ทั้งหมดที่ท่านเล่าให้ฟังต้องรู้จักใช้แต่ละอย่าง กวนธาตุทั้งสี่ และนำธาตุทั้งสี่มาหนุนรวมกันไว้เสมอ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ล้วนแล้วแต่ต้องมีธาตุทั้งสี่เป็นตัวหนุน และธาตุที่สำคัญอีกธาตุคือวิญญาณธาตุที่มีอยู่แล้วตามปกติของมนุษย์ สัตว์ เปรต ภูติ ผี ปิศาจ แต่เราพลังพุทธาคมกำกับไว้ จึงไปในส่วนดีได้”
อาตมาเมื่อได้ฟังดังนั้น อาตมาจึงจำทุกคำพูดและขั้นตอนต่าง ๆ ไว้ สรุปว่าสิ่งที่หลวงพ่อท่านพูดให้ฟัง ท่านบอกว่าท่านไม่ได้ให้โดยตรงหมายถึงให้ตำรา แต่ท่านให้โดยอ้อม จากนั้นมาอาตมาก็ไม่ได้นำมาสักให้ใครทั้งสิ้น อาตมาจะทบทวนวิชาเหล่านี้อยู่เป็นประจำจนบางครั้ง บางสถานที่อาตมาไปอยู่ยามคำคืนชาวบ้านจะได้ยินเสียงเสือคำราม จนในปีพ.ศ.2540 อาตมาได้ถูกส่งมาเป็นเจ้าอาวาสวัดซับสวอง ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา อาตมาจึงเปิดสักในสายของหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า การสักในช่วงนั้นมีตำหนักสักมากมายเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ต่างมุ่งหวังจะทำลายกันเอง อาตมาก็โดนแกล้งต่าง ๆ นานา จนในที่สุดอาตมาจึงตัดสินใจเปิดสักเสือหัวขาดขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นที่ฮือฮาในขณะนั้น และก็ยังโดนตำหนิอีกว่า สักไปได้อย่างไร ลายนี้ไม่มีใครกล้าสักหรอกเดี๋ยวลูกศิษย์ก็บ้าหมด ถ้าไม่บ้าก็หาดีไม่ได้เลวหมด พวกเขาเหล่านั้นไม่รู้ว่าอาตมาได้มาอย่างไรจึงต่อว่า จากวันที่เริ่มสักเสือหัวขาดตัวแรกในปีพ.ศ.2540 จนถึงทุกวันนี้เสือ 5 ตัวแล้ว อยู่ที่วัด 4 ตัว อยู่กับอาจารย์แจ๊ค(ลูกศิษย์ของอาตมา) 1 ตัว รวมเป็น 5 ตัวแล้วทั้งหมดมี 19 ตัว ท่านจะได้เป็นในแต่ละตัวต่อไป หัวใจที่ลงในเสือถึงใครจะรู้แต่ก็เรียกไม่ได้หมุนธาตุไม่เป็น (ขอกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าของวิชา ถึงแม้กระผมเองจะไม่ทราบนามของหลวงพ่อ แต่กระผมก็จะระลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา)
ขอขอบคุณ Facebook นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

 

ประวัติพี่นิ่มไม่น่าจะมีชื่อเรื่อง แต่นึกชื่อไม่ออก
ใครเก่งก็ช่วยตั้งชื่อให้หน่อย เวลาผมสืบค้น จะได้ค้นหาได้ง่าย

............

พี่นิ่มชอบทางธรรม ชอบอ่านหนังสือพระ อยากเก่งอยากพจญภัยแบบพระเกจิ
ก็เดินทางท่องเที่ยวกราบไหว้พระไปทั่วประเทศ ตั้งแต่อยู่มัธยมศึกษาปีที่4
ด้วยที่ว่าเป็นคนพอมีฐานะ เลยไปไหนไกลบ้านได้
นั่งรถเมล์ นั่งบขส.ไปเรื่อย

ครูอาจารย์รูปแรกที่พี่นิ่มขึ้นไปกราบ คือหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง แต่ท่านอายุมากแล้วจึงได้แต่ไปไหว้สาเพื่อความเป็นมงคลแก่ตัว เมื่อลงมาจากเชียงใหม่ ก็แวะกราบหลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดท่าแขก จ.เลย

ตอนนั้นหลวงปู่ฯท่านนั่งรถเข็นแล้ว แต่ก็แนะนำพี่นิ่มด้วยเมตตา ให้ไปขึ้นกรรมฐานกับพ่อธรรมฝั้น ที่บ้านนาดอกไม้ ในจังหวัดเลยนี่แหละ จะเจริญในธรรมเป็นมงคลแก่ตัวเอง

พี่นิ่มก็ไม่รอช้า เร่งรีบเดินทางไปทันที ได้พบปะกับพ่อธรรมฝั้น และบรรดาลูกศิษย์ของพ่อธรรมฯที่มาขึ้นกรรมฐาน มีระดับนายร้อยนายพันอยู่หลายนาย บางคนมาเป็นปี บางคนก็หลายปีต่อเนื่องกัน

พ่อธรรมฝั้น เอ็นดูพี่นิ่มมาก และขึ้นกรรมฐานให้พี่นิ่มเหมือนศิษย์คนอื่นๆที่มาก่อนหน้านี้
พี่นิ่มใช้เวลา2ชั่วโมง ก็สำเร็จในวิชาที่พ่อธรรมฯถ่ายทอด สร้างความอัศจรรย์แก่พ่อธรรมฯเป็นอย่างมาก ท่านฯกล่าวว่าในบรรดาศิษย์ทั้งหมด บางคนมาเรียนขึ้นกรรมฐานหลายปีถึงจะทำได้ แต่ไม่เคยมีใครทำได้ไวเท่านี้มาก่อน...เหตุการณ์นี้ เป็นช่วงเวลาประมาณ พ.ศ.2523 และเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนวิชาทั้งปวง...

.................

ประมาณปี พ.ศ.2538
พี่นิ่มเมื่อได้ลูกชาย(ฝาแฝด)ใหม่ๆก็เห่อ อยากให้หนังเหนีึยวเหมือนตัวเอง ก็เอาสายสะดือไปตระเวนเสก จะเอาให้ครบทั้ง7รูป ตามตำหรับหลวงปู่จ้อย วัดหนองน้ำเขียว จึงติดตามเฮียฮก ขึ้นไปที่ จังหวัดตาก เพื่อกราบ ครูบาสร้อย ขันติสาโร หรือ พระครูนิมมานการโสภณ วัดมงคลคีรีเขตร์ อ.ท่าสองยาง

ระหว่างทางก็สวนกับรถถัง ทหารบนรถถังก็โบกให้จอด ถามว่าเข้ามาทำอะไรและเข้ามาได้อย่างไร

พี่นิ่มก็พาซื่อ บอกจะไปกราบครูบาสร้อย เจ้าหน้าที่ก็บอกให้ฟังเสียงดีๆ... พี่นิ่มก็เงียบแล้วได้ยินเสียงปืนดังตลอดเวลา

เจ้าหน้าที่ทหารบอกว่า เสียงปืนที่ได้ยินเป็นเสียงของทหารว้า ที่ปล้นฆ่าคนไทยเพราะอดอยาก อยู่ๆจะเข้ามาเองแบบนี้เสี่ยงมากไป

พี่นิ่มมาแล้วก็ไม่อยากเสียโอกาส เร่งรีบเดินทางไปให้ทันก่อนมืด เมื่อไปถึงวัดฯแล้วก็ไม่เจอครูบาฯ เพราะท่านฯไปภารกิจที่อื่น แต่จะกลับมาสรงน้ำฉลองอายุในวันรุ่งขึ้น จึงได้พักค้างคืนที่ศาลาใหญ่ของวัดฯ ร่วมกับพราหมณ์ท่านหนึ่งที่ปักกลดอยู่ก่อนแล้ว

ประมาณตีหนึ่ง พี่นิ่มก็รู้สึกตัวเพราะพราหมณ์ท่านนี้มาเขย่าขา ถามว่า "พ่อหนุ่มมีอะไรดี...ฉันนั่งกรรมฐานเห็นตัวพ่อหนุ่มมีไฟอาคมลุกท่วมตัว"

พี่นิ่มก็ไม่เข้าใจ แต่ง่วงแล้วขอนอนก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยคุยกัน

ไม่ทันสว่างพราหมณ์ก็มาปลุกแล้วชวนคุย ความว่าท่านเป็นสหมิกธรรมกับครูบาสร้อย เป็นข้าราชการเกษียณแล้ว แต่ชอบในวิชาอาคมและกรรมฐาน จะขึ้นมาสรงน้ำครูบาสร้อยปีละครั้ง จากนั้นก็เดินธุดงค์ไปทั่ว มีแวะไปกราบหลวงปู่หงษ์ ที่วัดเพชรบุรีบ้าง เพราะหลวงปู่หงษ์กับครูบาสร้อง เป็นศิษย์ร่วมสำนักกัน คือหลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง

แต่ที่เมื่อคืนต้องปลุกพี่นิ่มนั้นเพราะผิดวิสัย ไม่เคยเห็นฆราวาสมีวิชาจะเหมือนพี่นิ่ม

หลังจากสนทนาพอสมควรจนฟ้าสว่าง พราหมณ์ท่านนี้ก็กลับไปเอาล็อตเตอร์รี่มาปึกใหญ่ พร้อมใบตรวจสลาก มีประมาณ30ใบ ต่างเดือนต่างงวดกันทั้งหมด แต่เหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือถูกสลากทุกงวด!

พราหมณ์ท่านนี้บอกว่า ได้วิชามาจากหลวงปู่เพชร พระธุดงค์จากเขมร พบเจอท่านฯที่กำแพงเพชร

หลวงปู่เพชร ท่านสอนวิธีดูหวย วิชานี้ไม่ยุ่งยากแค่ใช้ธูปดอกเดียวแล้วเข้ากรรมฐานก็สามารถมองหวยได้ วิชานี้สืบวิชาถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น ซึ่งหลวงปู่เพชรบอกเราไว้ว่า อนาคตเราจะเจอผู้สืบทอดวิชาที่ชายแดน และเมื่อคืนนี้ท่านก็รู้ว่า "เราจะต้องถ่ายทอดให้เธอ... และเมื่อเธออายุมากขึ้นแล้ว หากบวชได้จะเป็นการดี แต่หากไม่บวชแล้วจงใช้วิชานี้เถิด จะทำให้แคล่วคล่องในกรรมฐานได้มาก"

(ขอไปรับเมียก่อน เดี๋ยวกลับมาเขียนใหม่)

 

ต่อ...

พี่นิ่มรับล็อตเตอร์รี่มาตรวจกับใบสลาก ก็พบว่าถูกรางวัลทุกใบร่วม30งวด แต่พราหมณ์ไม่เอาไปขึ้นเงินเลยซักฉบับเดียว เพียงแต่ทดสอบวิชาว่ายังไม่เสื่อม

วิชานี้พี่นิ่มยังขึ้นใจอยู่ แต่ไม่เคยใช้ เพียงแต่เข้าใจเคล็ดวิชาแล้วเพราะมีพื้นฐานกรรมฐานมาจากพ่อธรรมฝั้นก่อนหน้า

.............

โดนเมียขัดจังหวะการเขียน อารมณ์ในการเขียนก็หมดไป... ไว้จะเอามาเล่าใหม่
แต่จะลงชื่อครูอาจารย์ที่พี่นิ่มไปเรียนวิชามาลงไว้กันลืม

หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส เรียนวิชาสัก และการหนุนธาตุ
จากนั้นหลวงพ่อคง แนะนำให้ไปเรียนวิชาจากสหมิกธรรมเพิ่มเติมกับหลวงปู่บุญตา วัดคลองเกตุ

หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า เรียนวิชาน้ำมันแม่ทัพ
หลวงพ่อแล วัดพระทรง เรียนวิชาสัก และหนุมาน
หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ วิชาสัก
หลวงพ่อไสว วัดยายส้ม(ปรีดาราม) วิชายันต์หน้าพระ
หลวงพ่อคล้อย วัดถ้ำเขาเงิน ลงทอง
ญาท่านสวน วัดนาอุดม ฝังเข็มดำ
หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดถ้ำแฝด
หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดหุบมะกล่ำ
หลวงปู่พรหมา สำนักสวนหินผานางคอย
ฯลฯ
องค์ที่ไม่กล่าวถึงวิชา คือไปฝังของวิเศษ....

..................

พี่นิ่มอยากได้พระบูชาหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ แต่ไม่กล้าของพี่ไพรัช จะฝากให้ผมไปอุ้มมาซักองค์
พี่ไพรัชไม่หวง แต่ผมยังไม่ว่าง แต่รับปากไปแล้วว่าจะดำเนินการให้ ใครอยากเห็นพี่นิ่มยิ้มแก้มปริ ก็นัดกัน จะอุ้มหลวงพ่อพรหมไปฝากพี่นิ่มกันในวันดี...

กลับจากนำเจ้าแม่กวนอิมไปฝากพี่นิ่ม แฟนก็มาถามจะเอาหวย แต่งวดนี้ไม่มีสมาธิ แล้วแต่เธอเถอะ.....

เธอถูกได้ไปหลายบาท อดรนทนไม่ไหวรีบโทรฯมาให้ผมร่วมยินดี
ผมทำงานอยู่ก็เออออห่อหมกไป ถามว่าถูกเยอะหรือไร ปรกติไม่เคยดีใจขนาดนี้
เธอก็ว่าซื้อไปเยอะ ก็ถามว่าเยอะแค่ไหน เธอว่าซื้อไป500บาท... ใจก็ว่าเยอะ ซื้อหวยตัวเดียวยังตั้ง500บาท แล้วซื้อไปกี่ตัวก็ไม่รู้ แต่ผมไม่สะดวกจะต่อว่าในเวลาทำงาน ไว้กลับบ้านก่อนค่อยเรียกมาคุย

การพนันไม่ทำให้ใครร่ำรวย การถูกหวยแบบนี้ไม่น่ายินดี
เพราะถูกเพียงไม่กี่บาท ไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ทั้งชีวิต หน้าที่การงานที่ดีเท่านั้นที่จะเป็นหลักประกันชีวิตในอนาคต

ผมขับรถกลับยังไม่ทันถึงบ้าน เธอก็โทรฯมาอีกด้วยอาการร้อนรน ว่าดีใจมาก ผมก็ประหลาดใจ ถามจริงๆเถอะ..เธอถูกไปกี่บาท

"ซื้อไป2พันบาท"...

ผมได้ยินก็พูดไม่ออก พอถึงบ้านก็ต้องดุกันหน่อย ดุได้รอบเดียวเธอรีบโทรฯหาแม่ผัว ฟ้องว่าลูกชายแม่มาดุหนู...."ถ้าหนูไม่ซื้อแบบสิ้นคิด หนูจะถูกเป็นแสนหรือ"

...เออ..สิ้นคิดนะจริง!

.................

ผมถามพี่นิ่ม ว่ารู้จัก "เสือหัวขาดไหม"
"ทำไมพี่จะไม่รู้จัก...เดี๋ยวนี้ก็ยังมีคนสักได้ อยู่แถบอีสาน"
"เสือไม่มีหัว มันจะดุได้อย่างไร"
"ดุมากหนุ่มฯ สักแล้วร้อน... หลวงพ่อยิดก็ทำได้ หลวงพ่อผุยวัดหน้าพระธาตุ จะเสือหัวขาด เสือเชิญธง...สักได้หมด"

......................

ไว้ผมว่างจะเข้ามาเขียนให้ใหม่ครับ.... อย่าลืมไปนึกชื่อเรื่องให้ด้วย (แล้วอย่าลืมชื่อกล่องหรือชื่อรุ่นประภามณฑลด้วยนะครับ)

 

มีข้อสงสัยถามว่า ท่านที่ฝังตะกรุด ฝังเข็มทอง หรือฝังของวิเศษอื่นๆ เข้าตัว เวลาผ่านเครื่องสแกนที่สนามบินจะมีปฎิกิริยาใดบ้างครับ

 

ขอบคุณครับ แต่ผมตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว
สมองถดถอย ความจำก็แย่ การพิมพ์การเขียนมีผิดพลาดตกหล่นตลอด ต้องกลับมาแก้ไขใหม่

จะลองกินข้าววันละมื้อ น่าจะทำให้ฉลาดขึ้น
ถ้าชอบก็จะถือเป็นกำลังใจให้เขียนต่อครับ

 

เข็มทอง ตะกรุดทอง ก็เหมือนตะกั่วครับ ไม่มีผลต่อเครื่องตรวจโลหะ

แต่ถ้าเป็นโลหะ ก็ให้นึกถึงคนที่ผ่าตัดดามเหล็กนั้นแหละครับ... ถามเอาฮาใช่ไหม? 555

 

เนื่องด้วยพระเดชพระคุณพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เป็นประธานจัดหาทุนก่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนวัดโพธิผักไห่วิทยาคาร ขนาด 3 ชั้น 12 ห้องเรียน จึงขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษา และงานทำบุญโรงเรียนวัดโพธิ์(ผักไห่วิทยาคาร)
วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฏาคม 2558
กำหนดการ
เวลา 09.00 น. ตั้งองค์ผ้าป่าสามัคคี
เวลา 10.19 น.พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์
เวลา 12.00 น. ถวายผ้าป่าสามัคคี เสร็จพิธีขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร
ขออานิสงส์ผลบุญที่ท่านมีเมตตาจิตร่วมบุญนี้จงส่งผลให้ท่านและครอบครัวเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร บริวาร สมบัติ มีความสุขในผลบุญทุกชาติตลอดกาลนานเทอญ
ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมบุญมหากุศล
คณะศิษย์พระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ
สอบถามรายละเอียด 080-4229353 ชวลิต

 

ประชาสัมพันธ์............

เคยเอาพระฯที่เสธ.หน่อง จัดสร้าง(แจกทหารที่ปฏิบัติภารกิจเสี่ยงภัย) มาแจกเพื่อนสมาชิกครั้งหนึ่ง แต่ได้ไปไม่กี่ท่าน ก็นึกเสียดายอยู่ว่าได้น้อยไปหน่อย

ยังไม่เคยเอาภาพพิธีกรรมมาอวด เพราะไม่มีข้อมูล
ตอนนี้เสธฯ (พ.อ. อเนก สุขสยามธนเดช ) เอาข้อมูลมวลสารและภาพพิธีกรรมมาอวด ก็จะคัดลอกให้ชมเป็นความภูมิใจของผู้ที่ได้ไป



เสธฯ ตั้งใจทำแจกทหารและหาทุนบูรณะวัดวาอาราม เรื่องรายละเอียดจะติดตามมาให้คนใกล้ได้ไปทำบุญ

รายนามพระเกจิฯที่ร่วมพิธีอธิษฐานจิตวัตถุมงคลเหรียญ, พระผง,สมเด็จพระพนรัตรุ่นอาจาริยบูชา พระกริ่งและเหรียญแม่ทัพแสงวัดพิชัยสงคราม จ. พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันเสาร์ที่ ๓๐ ก.ค.๒๕๕๔ โดยมีรายนามดังนี้
1.หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา เป็นประธานจุดและดับเทียนชัย
2.หลวงพ่อรวย วัดตะโก จ. อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศเหนือ
3.หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
4.หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้
5.หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้
6.หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
7.หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศใต้
8.หลวงพ่อพิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ อยุธยา นั่งอธิษฐานด้านทิศใต้
9.พระครูพุทธบาล(พีระ จิตตวีโร) วัดป่าแก้ว จ.เชียงใหม่ นั่งอธิษฐานด้านทิศเหนือ

รายนามพระและวัดที่ได้นำพระไปอธิษฐานจิตภายหลังพิธีของ วัดพิชัยสงคราม จ. พระนครศรีอยุธยาวันเสาร์ที่ ๓๐ ก.ค ๒๕๕๔ ๑.เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ นำไปขอความเมตตาจาก พระอุดมวัฒนมงคล วัดถ้ำวัฒนมงคล อ.วังจันทร์ จ.ระยอง อธิษฐานจิต
โดยในพิธีท่านได้อธิษฐานอัญเชิญพลังบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ บารมีครูบาอาจารย์ ที่ท่านเคารพศรัทธา อันได้แก่หลวงปู่โลกอุดร หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หลวงปู่ใหญ่(พระสิทธิสารโสภณ วัดอาวุธวิกสิตาราม) และ บารมีคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม โดยท่านได้กล่าวว่าพระรุ่นนี้ สมเด็จพระพนรัต ได้มาอธิษฐานพลังบารมีอย่างแน่นอนโดยตัวท่านเองได้สัมผ้สกับพลังงานที่ผ่านท่าน ทั้งนี้ในการอธิษฐานจิตทุกครั้ง ท่านจะบอกกล่าว อัญเชิญเทวดาและกล่าวอาราธนาบารมีครูบาอาจารย์ของท่านได้เมตตามาช่วยประสิทธ์ประสาทพลังบารมีทุกครั้ง

วัดที่๒.เมื่อวันศุกร์ที่ ๕ สิงหาคม ๕๔ นำไปขอ ความเมตตาจากหลวงพ่อปรีชาวัดเขาอิติสุคโต อ.หัวหิน จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ หลวงพ่อท่านได้เมตตานิมนต์พระที่ไม่ติดนิมนต์ของวัดใหญ่คลายคีรี(วัดเขาอิติสุคโตวัดใน)ร่วมสวดมนต์และอธิษฐานจิตโดยท่านได้ขอให้พระทั้งวัด ที่มา ร่วมสวดมนต์ได้ร่วมอธิษฐานจิต ให้ผู้ ที่บูชาและแขวนพระรุ่นนี้โดยเฉพาะทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัด ให้แคล้ว คลาด ปลอดภัยจาก อันตรายทั้งปวง

วัดที่ ๓.เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ ส.ค.๕๔ หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ ต.เมืองนะอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้เมตตานำอธิษฐานจิตพร้อมร่วมสวดมนต์บทมหาจักรพรรดิ์และอัญเชิญบารมีพระพุทธเจ้าตั้งแต่องค์ปฐมบรมจักรพรรดิ์จนถึงบารมีพระพทธเจ้าองค์ปัจจุบันลงในองค์พระและวัตถุมงคลทุกองค์โดยการครอบวิมานแก้วลงในวัตถุมงคลทั้งหมดที่นำมาขอให้ท่านอธิษฐานจิตเมื่อ โดยในพิธีท่านได้เป็นผู้นำในการสวดบทมหาจักรพรรดิตามกำลังวัน สวดบทสัพพเพฯซึ่งเป็นการอัญเชิญพลังบุญและบารมีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้สถิตติดอยู่ในองค์พระในตัวพร้อมกับครอบวิมานแก้ว ล้อมรอบครอบตัวเพื่อป้องกันอันตราย ตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก

รายละเอียด https://www.facebook.com/anake.suksiam จะให้ข้อมูลได้ละเอียดกว่า เสธ.หน่องน่ารักครับ ขอฟรีก็ให้ แต่ไปร่วมบุญกันจะดีกว่า