ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "จีน ปล่อยเงินกู้ให้ไนจีเรีย ข้ามหัวธนาคารโลก = อีโบล่า โบโกฮารัม"
    .
    ... ได้อ่านส่วนหนึ่งของหนังสือ "เมื่อโลกไม่ได้หมุนรอบอเมริกา" ของ Fareed Zakaria ( ที่แกพยายามเขียนกลางๆ แต่อ่านแล้วรู้สึกเลยว่าเอียงอเมริกาอยู่เยอะ ) แต่ก็ได้ข้อมูลที่ทำให้เห็นความสัมพันธ์บางอย่างระหว่าง จีน ไนจีเรีย อีโบล่า โบโกฮารัม ที่อาจจะเป็นคำตอบ
    ... หน้า 155 "นิตยสารฟอเรน โพลิซี่ เคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับรัฐบาลไนจีเรียซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาขอกู้เงิน (แค่) 5 ล้านดอลล่าร์ จากธนาคารโลก เพื่อพัฒนาระบบทางรถไฟ ในปี 2007 แต่ธนาคารโลกยืนกรานว่า รัฐบาลไนจีเรียต้องจัดการเกี่ยวกับการรถไฟที่ขั้นชื่อเรื่องทุจริตเสียก่อน ข้อตกลงดังกล่าวเกือบจะบรรลุผลอยู่แล้ว หากรัฐบาลจีนไม่ก้าวเข้ามาเสนอเงินกู้ 9,000 ( เก้าพันล้านดอลล่าร์) แก่ไนจีเรีย เพื่อสร้างระบบรถไฟใหม่ทั้งระบบ โดยไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีข้อแม้ และไม่จำเป็นต้องปฎิรูปอะไรทั้งนั้น ... เจ้าหน้าที่ธนาคารโลกจึงต้องตีตั๋วกลับบ้านไป"
    ... คือ "จีน" นั้นตั้งแต่ฟื้นเศรษฐกิจขั้นมามีเงินเก็บเยอะ เลยพยายามจะดึงประเทศในอาฟริกาที่เมื่อก่อนถูก "ไต้หวัน" ซื้อเก็บเสียงเอาไว้โหวตในสหประชาชาติเยอะ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับจีนในเวทีการเมืองโลก จีนเลยมีนโยบายจะซื้อเสียงกวาดเก็บกลับคืนมา และหนึ่งในนั้นคือไนจีเรีย ที่มีทั้งเหมืองแร่ยูเรเนียมทำนิวเคลียร์ "เหมืองทอง" เอาไว้หนุนเงินหยวน ทั้งเหล็กมากมาย ทั้ง "น้ำมันดิบ" จีนจึงสนใจประเทศไนจีเรียมากเป็นพิเศษ
    .. แต่เดชะบาป ธนาคารโลกนั้นเป็นอาวุธเลเซอร์ทางการเงินของอเมริกา ที่มีมา ตั้งแต่หลังก่อตั้งที่ Brentton woods เมื่อปี 1944 ไม่นาน เมื่ออาวุธเมกาถูกจีนลูบคม เราจึงเห็นเรื่องราวร้ายแรงมากมายเกิดกับไนจีเรีย แบบบังเอิญเสียเหลือเกิน
    ... ทั้งโรคอีโบล่า กลุ่มโบโกฮารัม ( ISIL แห่งอาฟริกา ที่หลายคนทั้งภาครัฐและนักข่าวบอกตรงกันว่า ซีไอเอหนุนหลัง เอาคนคุกมาตั้งขึ้น ส่งมาป่วน ) ทำให้เหมืองหลายแห่งปิดตัวไป คนหนีโจรโบโกฮารัมที่ทั้งฆ่าและข่มขืน อพยพหนีโรค หนีโจร ไม่มีใครกล้าทำงานในเหมืองขาดแรงงาน "ไนจีเรีย" และ "จีน" เลยเกิดการสะดุดทางการเติบโต
    ... บางอย่างเป็นสมการสองสามตัวแปรต้องลองแทนค่าบางอย่างเข้าไป ก็จะเห็นเลยว่าสมการนั้นแทนที่กันได้พอดี เพราะกลยุทธ์แบบนี้มีมาในอดีตมากมายที่ได้บอกเล่าให้เรารู้ ...
    .
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "ไข้หวัดกรีซ น่ากลัวว่าเมอร์ส :การโหวตจะรับหรือไม่รับการกู้เงินโหด ของกรีซ = คือคำตอบ"
    .
    ... ตอนนี้ตามท้องถนนกรีซมีพวกที่ "นิยมการกู้เงินยุโรป" ออกมาแสดงจุดยืนว่า เราควรจะกู้ยืมมเงินต่อไป โดยบอกว่า "ถ้ายุโรปไม่มีกรีซก็เหมือนปาร์ตี้ ไม่มียาเสพติด" ( น่าภูมิใจเลยไหมเนี่ย นี่มันด่าประเทศตัวเองชัดๆเลย อีโมติคอน smile ) หรือบอกว่า "เราไม่ใช่ผู้ทรยศชาติ" ที่ไปยอมเขาเสียขนาดนั้น ( ถ้างั้นนักการเมืองไทยที่ เล่นแบบสมยอมในการเอาเงินสำรองระหว่างประเทศรักษาค่าเงินบาทแบบน่าสงสัย จนหมดคลัง จนพระวัดป่าอย่างหลวงตามหาบัวต้องยอมออกจากป่า มาบริจาคทองเข้าคลังคงไม่ต้องเหนื่อยหรอก ก็คงไม่ผิด ... หรือนักการเมืองที่ยอมแก้ไขกฏหมายขายชาติ 11 ฉบับ หรือ กู้เงิน ไอเอ็มเอฟ ของไทย ก็คงเป็นเทวดาลอยบนเมฆเหมือนกัน )
    ... หลังจากที่กรีซอาจจะปิดธนาคารประมาณถึงวันที่ 7 กรกฎาคม ( ตอนแรกแกว่าอาจจะไม่เปิดตลาดหุ้นด้วย ) ก็ทำให้ประเทศอื่นๆ เช่น สเปน อิตาลี โปรตุเกศ มีแววโดนติดหลังแหไปด้วยเพราะนักลงทุนเริ่มไม่ไว้ใจอาจจะโดน "กักเงิน กักทุน" ไว้แบบกรีซหรือเปล่า ( Capital Control ) เพราะรัฐเงินขาดมาหมุนจ่ายเงินเดือนชาวบ้าน ข้าราชการ เลยต้องทำแบบมาเลเซียในปี 1997 ... นักลงทุนอาจจะถอนเงิน ถอนทุน ออกจากทั้ง "ธนาคารและตลาดหุ้น" กันหมด
    ... ซึ่งตอนนี่ก็ทำตลาดหุ้นร่วงกันทั่วโลกแล้ว เพราะนักลงทุนไม่ไว้ใจ ถอนเงินเก็บใส่กระเป๋าออกจากประเทศในกลุ่มยุโรปโดยเฉพาะที่มีปัญหาเช่น สเปน อิตาลี โปรตุเกศแล้ว ตลาดเลยไม่มีคน ไม่มีเงิน ร่วงเป็นใบไม้ก่อนหน้าหนาว ( นึกถึงไทยตอนปี 1997 เหลือเกิน ) ยุโรปจะเจอสภาวะ "เงินฝืด" อย่างหนัก เพราะเงินไหลออกไปหมด
    ... ไม่แค่นั้น เหมือนปี 2008 ที่ดอลล่าร์ถูกขายทิ้งจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ จนคนแห่ไปซื้อเงินยูโรและ "ฟรังค์สวิส" จนแข็งโป๊ก จนสวิส ขายนาฬิกาไม่ได้ ตอนนี้ก็ถึงคราวเงิน "ยูโร" บ้าง ที่จะต้องโดนเทขายทิ้งแน่นอน จนกว่านักลงทุนจะมั่นใจในสภาวะการเงิน การเศรษฐกิจของอียู ทางผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายจึงต้องสร้างภาพกันใหญ่ เพื่อไม่ให้นักลงทุนหนีไปจากยุโรป
    ... ทั้งในเกมและนอกเกม เช่นหนุนให้มีการประท้วงโจมตีนายกและรัฐมนตรีคลังขอกรีซ ว่าเป็นตัวป่วน ทำให้เกิดปัญหาในประเทศ และ ในยุโรป ( แสดงว่าคนกรีซก็ถูกลากจูงได้ง่ายๆเหมือนกัน ที่ไม่ได้ดูต้นเหตุของปัญหาเหมือนๆคนในบ้านเรา ที่รัฐบาลก่อนขยันกู้ไปทำระบบรถไฟฟ้า สนามบิน โอลิมปิก 2004 เอาเงินอนาคตมาโกงกิน เพื่ออ้างว่าเตรียมตัวเข้าสู่ยุโรป จนหนี้บานเบอะ จ่ายดอกเบี้ยยังไงก็ไม่หมด ... เหมือนไทยอ้างว่าจะกู้มาสร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อต้อนรับการเปิดอาเซียน )
    ... "ทางแก้ไข" คืออะไร ?
    ... ตอนนี้ Balance Sheet ของเจ้าหนี้ติดลบแน่ๆ แล้วใครจะจ่ายหนี้สีแดงในบัญชีให้ธนาคารจากเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี หล่ะคราวนี้ การแก้ไขตอนนี้มีความน่าจะเป็นหลายแนว ถ้าบีบให้กรีซกลับมาจ่ายหรือมากู้ไม่ได้จริงๆ ก็คือการออก " QE " คือต้องพิมพ์เงินยูโร ออกมาซื้อพันธบัตรของประเทศเจ้าหนี้ใหญ่อย่างเช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี หรือประเทศอื่นๆ โดย ECB ก็พิมพ์เงินจากอากาศเหมือนที่ FED อเมริกาเคยทำเมื่อปี 2008 เพราะพวกเขาอีลิท ไม่ยอมให้ธนาคารล้มแน่นอน ไม่เหมือน 56 สถาบันการเงินของหมูสยามที่บอกว่าต้องปล่อยให้ล้มเลยในปี 1997 ... สองมาตรฐานชัดๆ
    ... แต่การแก้ไขแบบนั้นอาจจะช่วยให้ "ธนาคารเจ้าหนี้ไม่ให้ล้ม" ใด้เฉพาะหน้า หรือ "อัดเงินเข้าระบบ" เพื่อจะไม่ให้เกิดสภาวะ "เงินฝืด" ในยุโรปเท่านั้น แต่การทำ QE ก็ยังไม่สามารถแก้ไขเรื่องค่าเงินที่ตกลงของ "ยูโร" ได้อยู่ดี นักลงทุนต้องเทขายเงินยูโรออกไปจากมือแน่นอน เงินสกุลอื่นๆก็เลยเป็นหลุมหลบภัยแทน หรืออาจจะทองสูงขึ้นอีก ... และเงินยูโรก็ต้องเจียดเงินส่วนหนึ่งไปหนุนตลาด "ตราสารอนุพันธ์" เพื่อไม่ให้ล้มอีก เพราะไม่งั้นจะลามไปอเมริกา และพาอเมริกาพังไปด้วย ซึ่งตรงนี้อเมริกากลัวมาก ยิ่งออก QE มาก เงินยูโร ก็ยิ่งตกมาก
    ... แต่คนที่เชียร์โหวต "ไม่รับการกู้เงินจากยุโรป" ตามนายกรัฐมนตรีกรีก ที่ออกตัวว่า ไม่ควรรับนั้น ก็หวังลึกๆว่าจะได้กู้เงินจากกลุ่มบริกส์ จาก ธนาคาร NDB ที่อาจจะไม่มีมาตรการรัดเข็มขัด ที่จะไม่ตัดเงินบำนาญของข้าราชการแก่เฒ่าในแต่ละเดือนลงเป็นบาปกกรรม ( ตายไปคงได้ตกนรก ทำร้ายคนเฒ่า ) เพราะเงื่อนไขคงสบายกว่า
    ... แถมอาจจะได้ "เงินค่าผ่านท่อแก๊ส" ที่รัสเซียจะเดินผ่าน "ตุรกี" ไป "กรีซ" ยาวไปขายต่อที่ยุโรป พอได้ค่าผ่านท่อแก๊ส ก็เอามาซื้อน้ำมันจาก "รัสเซีย" ได้อีก ซึ่งต้องได้ราคาถูกแน่นอน เหมือนที่ รัสเซียให้ข้อเสนอกับ ตุรกี ยิ่งกว่านั้นราคาจะถูกกว่ามากอีก ถ้า "ไม่ซื้อขายผ่านดอลล่าร์" ที่ตอนนี้ยิ่งสูงขึ้นไปอีก จากการที่เงินยูโรตกต่ำ
    ... ตรงนี้คือข้อดีมหาศาล ที่กรีซจะได้จากการออกจากเงินยูโร เพราะน้ำมันคือปัจจัยหลักในการฟื้นจากวิกฤติเร็ว
    ... ตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายทั้ง "รับ" หรือ "ไม่รับ" แผนกู้เงินของยุโรปต่างกำลังทั้งหาเสียงและใส่ร้ายฝ่ายตรงข้ามกันอย่างสนุก ทั้งในเกมและนอกเกม อีกไม่กี่วันรู้ผลโหวตและชะตากรรมของกรีซ ของยุโรป และของโลก ( นักท่องเที่ยวยุโรป จะหายตามรัสเซียที่โดนเล่นราคาน้ำมันแน่ๆ นอนมา อาหารทะเลสินค้าการเกษตรจากเอเชียและไทย เตรียมตัวกดบัตรคิวจองนิมนต์พระจากวัดละแวกบ้านได้เลย โรงแรมได้ตบยุงแทนการรับนักท่องเที่ยวยุโรป โรงแรมอาจจะเจ๊งหนักการเดิม ร้านอาหาร ทัวร์อาจจะต้องไปขายอาหารเจแทน เศร้าจัง )
    Quantitative easing and the euro zone: The sad consequences of the fear of QE | The Economist
    What the crisis in Greece means for the U.S. and global economies - The Washington Post
    World stock markets tumble as Greece crisis deepens | World news | The Guardian
    .
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิสราเอลยึดเรือ “บรรเทาทุกข์ช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน” ที่พยายามฝ่าการปิดล้อมฉนวนกาซา โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ค. 1, 2015

    [​IMG]

    bbc – เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน กองทัพเรืออิสราเอลเข้ายึดเรือนักเคลื่อนไหวลำหนึ่งที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษย์ชน ที่พยายามฝ่าการปิดล้อมฉนวนกาซา

    กองทัพเรืออิสราเอล เผยว่า การยึดเรือนักเคลื่อนไหว “บรรเทาทุกข์” ที่พยายามฝ่าการปิดล้อมฉนวนกาซาครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาล

    ตามรายงานระบุว่า อิสราเอลได้นำเรือดังกล่าวไปที่ท่าเรือหนึ่งของอิสราเอลโดยไม่ได้มีการใช้กำลังแต่อย่างใด

    เรือ 4 ลำพร้อมด้วยนักเคลื่อนไหวสนับสนุนปาเลสไตน์พยายามหาทางเข้าไปยังฉนวนกาซาที่ถูกอิสราเอลปิดล้อม ต่อมาเรือ 3 ลำถอยกลับออกไปแต่เรือลำที่ 4 ถูกทหารเรืออิสราเอลบุกขึ้นไปและนำเรือไปยังท่าเรือของอิสราเอล

    ด้านนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลชื่นชมปฏิบัติการดังกล่าว โดยยืนยันว่ารัฐบาลอิสราเอลมีสิทธิที่จะดำเนินการต่อกลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา

    กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางกองทัพได้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยพยายามแจ้งหลายครั้งให้เรือดังกล่าวเปลี่ยนเส้นทาง แต่เรือเหล่านั้นไม่ยอมปฏิบัติตาม

    ทางกองทัพเรืออิสราเอลจึงได้ขึ้นไปบนเรือในเขตน่านน้ำสากลเพื่อขัดขวางไม่เรือดังกล่าวละเมิดการปิดล้อมฉนวนกาซา

    อิสราเอลปิดล้อมฉนวนกาซาเมื่อปี 2549 หลังจากกลุ่มฮามาสจับทหารอิสราเอลนายหนึ่ง และเข้มงวดมากขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสเข้าควบคุมดินแดนดังกล่าวในปีต่อมา

    นักเคลื่อนไหวสนับสนุนปาเลสไตน์บนเรือดังกล่าว มีจำนวน 20 คน อาทิเช่น มุนศิฟ มัรซูกี อดีตประธานาธิบดีตูนิเซีย

    اسرائیل یک کشتی حامل کمک‌های بشردوستانه به غزه را توقیف کرد - BBC Persian

    อิสราเอลยึดเรือ “บรรเทาทุกข์ช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชน” ที่พยายามฝ่าการปิดล้อมฉนวนกาซ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คาร์บอมบ์ในเมืองหลวงเยเมน – เฮาซีย์ ยิง “จรวดสกั๊ด” ใส่กองกำลังซาอุฯ
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ค. 1, 2015

    [​IMG]

    bbc – เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เกิดเหตุคาร์บอมบ์บริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลทหารในกรุงซานาในวันจันทร์(29) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 28 คนด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงผู้หญิง 12 คน

    เกิดคาร์บอมบ์ขึ้นใกล้โรงพยาบาลกองทัพเยเมนในกรุงซานา แต่ทว่าเป้าหมายโจมตีนั้นยังเป็นที่สับสน ซึ่งเอพีออกมารายงานว่า เป้าหมายโจมตีไปที่บ้านเรือนของบรรดาแกนนำกลุ่มเฮาซีย์ 

ทั้งนี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเยเมนที่ใกล้ชิดกับกลุ่มเฮาซีย์ให้สัมภาษณ์กับเอพีว่า การเกิดเหตุระเบิดในกรุงซานานั้นมีเป้าหมายไปที่บ้านของบรรดาแกนนำเฮาซีย์

    เฮาซีย์ ยิง “จรวดสกั๊ด” ใส่กองกำลังซาอุฯ

    และในวันเดียวกัน (29 มิ.ย.) ทางเฮาซีย์ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ว่าได้ยิงจรวดสกั๊ดเข้าใส่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายเริ่มการสู้รบในช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นมา

เอพีระบุว่า กลุ่มที่โยงใยกับก่อการร้าย IS ในกรุงซานา ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบเหตุระเบิดล่าสุด โดยกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้จุดระเบิดรถคาร์บอมบ์ที่จอดไว้ใกล้กับโรงพยาบาลของกองทัพเยเมนในกรุงซานา รายงานจากกลุ่ม SITE Intelligence Group monitoring service
ซึ่งบีบีซีชี้ว่า เหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในเมืองหลวงของเยเมนนั้น รอยเตอร์รายงานว่า จากการให้ตัวเลขของหน่วยกู้ภัยพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 28 คนด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงผู้หญิง 12 คนที่อยู่ภายในตึกที่เหยื่อชุดแรกอาศัยอยู่”

นอกจากนี้ในวันจันทร์(29) การสู้รบในเมืองต่างๆทั่วเยเมนยังดำเนินต่อไป ในขณะที่กองทัพซาอุฯ ประเทศแกนนำฝ่ายพันธมิตรยังคงออกโจมตีทางอากาศบริเวณฐานที่มั่นของกลุ่มเฮาซีย์ในซาดา เอเดน และ ชาบวา และโดยเฉพาะในเอเดน และทาอิซ การสู้รบบนท้องถนนด้วยอาวุธหนัก



    بمبگذاری تازه در پایتخت یمن؛ 'پرتاب اسکاد به سوی عربستان' - BBC Persian

    คาร์บอมบ์ในเมืองหลวงเยเมน – เฮาซีย์ ยิง “จรวดสกั๊ด” ใส่กองกำลังซาอุฯ | abnewstoday
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    งานสร้างของอิสราเอล “กบฏโดยตรง” ต่อพระเจ้า : รับไบจากสหรัฐฯ
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ก.ค. 1, 2015

    [​IMG]

    อิสลามไทมส์ – ผลงานสร้างของอิสราเอลโดยยิวไซออนิสต์ในปี 1948 ก็คือ “การกบฏโดยตรง” ต่อพระเจ้า และสิ่งตรงข้ามกับคำสอนของคัมภีร์โตราห์(เตารอต) รับไบออร์โธดอกซ์อเมริกันผู้หนึ่งกล่าว

    “แนวคิดที่จะสร้าง ‘รัฐ’ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 60 ปีที่แล้วนี้เป็นการกบฏโดยตรงต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกรุณา” รับไบ Yisroel Dovid Weiss กล่าว เขาเป็นนักเคลื่นอนไหวและโฆษกของนิกาย Neturei Karta ยิวฮารีดีที่รวมกลุ่มกันต่อต้านไซออนิสต์

    รับไบ Weiss ซึ่งอยู่ในเมืองมอนซีย์ รัฐนิวยอร์ค เชื่อว่า ชาวยิวที่ยึดมั่นในศาสนาควรจะต่อต้านการมีอยู่ของอิสราเอล เขามักจะพูดในที่ชุมนุมและที่ประชุมในสหรัฐฯ และในเวทีระหว่างประเทศ โดยวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลและไซอนิสต์
    “พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวไว้ในคัมภีร์โตราห์ของพระองค์ว่า… ชาวยิวคือผู้ที่ยอมจำนนต่อพระองค์ และนั่นคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับศาสนายิว” Weiss กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Prss TV เมื่อวันจันทร์

    อุดมการณ์ทางการเมืองของอิสราเอลคือลัทธิไซออนิสต์ และ “โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาให้พระเจ้าอยู่นอกสมการ พวกเขาโยนพระผู้เป็นเจ้าออกไป พระเจ้าทรงห้าม นี่คือทั้งหมดเกี่ยวกับพวกเขา” เขากล่าวเสริม

    สถาบันแห่งหนึ่งของยิวได้เสนอให้ “ปลด” อาจารย์ที่ต่อต้านอิสราเอลออกจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐฯ เพื่อลดกิจกรรมการต่อต้านอิสราเอลในรั้วมหาวิทยาลัยของอเมริกา

    สถาบันนโยบายชาวยิว (Jewish People Policy Institute) กล่าวในการประเมินผลงานประจำปี 2014-2015 ของตนว่า มีกลุ่มต่อต้านอิสราเอลในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของอเมริกามากกว่า 300 กลุ่ม ซึ่งมีส่วนรับผิดชอบต่อการผ่านมติต่างๆ ของขบวนการคว่ำบาตร, ถอนการลงทุน และลงโทษ (Boycott, Divestment and Sanctions – BDS)

    Weiss ประณามคำแนะนำของสถาบันดังกล่าวที่ให้ปลดอาจารย์ที่ต่อต้านอิสราเอลออกจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ของสหรัฐฯ ว่าเป็นการกระทำที่ “หยาบคาย” และ “โจ่งแจ้ง”

    Weiss เป็นโฆษกของนิกาย Neturei Karta กลุ่มศาสนายิวกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านลัทธิไซออนิสต์ และเรียกร้องให้ถอดถอนอิสราเอล ด้วยความเชื่อว่า ชาวยิวถูกต้องห้ามไม่ให้มีรัฐเป็นของตัวเอง

    “ยิวคนใดก็ตามที่ศรัทธาต่อศาสนาของเขาจะไม่ยอมรับการเข้าครอบครองปาเลสไตน์ จะต่อต้านการยึดครองทั้งหมด” เขากล่าว

    ในเดือนธันวาคม 2006 Weiss ได้พูดในที่ประชุมระหว่างประเทศแห่งหนึ่งที่จัดขึ้นในเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยเขาได้กล่าวว่า ชาวอิสราเอลได้ใช้เรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว (ฮอโลคอสต์) เพื่อเรียกความสงสารและหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง

    ในที่ประชุมนั้น เขากล่าวว่า “มีชาวยิวหลายแสนคนทั่วโลกที่แสดงตัวร่วมต่อต้านอุดมการณ์ไซออนิสต์เหมือนกับกับเรา ที่รู้สึกว่าลัทธิไซออนิสต์ไม่ใช่วาระของยิว แต่เป็นวาระทางการเมืองเท่านั้น”

    งานสร้างของอิสราเอล “กบฏโดยตรง” ต่อพระเจ้า : รับไบจากสหรัฐฯ | abnewstoday
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อียิปต์กำลังเผชิญกับสงครามที่แท้จริง
    Category: News & Event Published on Thursday, 02 July 2015 06:55 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    หลังจากเกิดเหตุการณ์การโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายในวันนี้ (วันพุธ 1/7/58) ในภาคเหนือของทะเลทรายซีนาย นายกรัฐมนตรีของอียิปต์ได้ย้ำถึงความจำเป็นและเอาจริงเอาจังในการต่อสู้กับการก่อการร้ายในประเทศ

    Young Journalist Club (YJC) รายงานโดยอ้างจาก "The Times of Israel" ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์การโจมตีทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลทรายซีนาย และการลอบสังหารอัยการสูงสุดของอียิปต์ "อิบรอฮีม มะห์ลับ" นายกรัฐมนตรีของอียิปต์ได้กล่าวในที่ประชุมประจำสัปดาห์ของรัฐบาลในกรุงไคโรว่า : อียิปต์กำลังเผชิญกับสงครามที่แท้จริงแล้ว

    เขายังได้กล่าวอีกว่า : รัฐบาลอียิปต์จะเพิ่มงบประมาณในการต่อสู้กับการก่อการร้าย "ฮิชาม บะรากาต" อัยการสูงสุดของอียิปต์ได้ถูกลอบสังหารในสัปดาห์นี้ และหลังจากนั้นอีกสองวันได้เกิดการโจมตีทางทหารในซีนาย ทำให้ทหารถูกฆ่าตายจำนวน 65 คน

    ที่มา : yjc.ir

    อียิปต์กำลังเผชิญกับสงครามที่แท้จริง
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น่ากลุ้ม! เกาหลีใต้พบผู้ป่วย MERS เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย หลังยอดเป็น “ศูนย์” มา 4 วัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 09:19 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสกลุ่มทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) เพิ่มขึ้นอีก 1 รายวันนี้ (2 ก.ค.) หลังจากยอดผู้ติดเชื้อใหม่หยุดนิ่งเป็น “ศูนย์” มา 4 วัน

    พยาบาลคนหนึ่งในศูนย์การแพทย์ซัมซุงกลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ถูกไวรัสมรณะเล่นงาน ทำให้สถิติผู้ติดเชื้อไวรัส MERS ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 183 คน ซึ่งนับเป็นการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุด รองจากในซาอุดีอาระเบีย

    สถานพยาบาลแห่งนี้เป็นจุดที่พบว่ามีการแพร่กระจายของไวรัส MERS รุนแรงที่สุด โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยทั้งหมดในเกาหลีใต้ได้รับเชื้อจากที่นี่ เป็นเหตุให้ทางโรงพยาบาลต้องประกาศปิดให้บริการเป็นเวลา 10 วันเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อสกัดโรค

    ทั้งนี้ เนื่องจากยังมีการพบผู้ติดเชื้อใหม่อยู่ จึงคาดว่าศูนย์การแพทย์ซัมซุงจะต้องปิดตัวต่อไปอย่างไม่มีกำหนด

    ในจำนวนผู้ป่วยทั้ง 183 รายแบ่งออกเป็น 33 รายที่เสียชีวิต, 102 รายได้รับการรักษาเยียวยาจนหายขาดและออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนอีก 48 รายยังนอนโรงพยาบาล ซึ่งในจำนวนนี้อาการเข้าขั้นวิกฤต 12 ราย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074645
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันร่วง$2ต่ำสุดรอบ2เดือน หวังวิกฤตกรีซคลี่ลายดันหุ้นมะกันขึ้น-ทองลง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 04:29 น.

    [​IMG]

    @นักลงทุนในตลาดหุ้นของสเปนจับตาข่าววิกฤตหนี้กรีซ ขณะที่วอลล์สตรีทปิดบวกจากความหวังว่าท้ายที่สุดแล้วปัญหาจะมีทางออก

    เอเอฟพี - ราคาน้ำมันร่วงหนักกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อวันพุธ(1ก.ค.) หลังพบเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นและทองคำปิดลบ นักลงทุนหวังว่ากรีซและเจ้าหนี้จะบรรลุข้อตกลงเงินกู้ แม้ผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟไปแล้ว

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสขยับลงกว่า 1 ดอลลาร์ตั้งแต่เปิดตลาด และร่วงหนักขึ้นไปอีก หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่เพิ่มขึ้นผิดความคาดหมาย

    จากข้อมูลพบว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 มิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล เป็น 465.4 ล้านบาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของช่วงเวลานี้นับตั้งแต่จดบันทึกมา หลังจากก่อนหน้านี้ขยับลงมา 8 สัปดาห์ติด

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(1ก.ค.) ปิดบวกตามตลาดทุนอื่นๆของยุโรป จากความหวังต่อข้อตกลงกับกรีซ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาเผยให้เห็นว่ามีการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 138.40 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,757.91 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 14.31 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,077.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 26.26 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,013.12 จุด

    ตลาดทุนยุโรปพุ่งขึ้น หลังนักลงทุนขานรับในด้านบวกต่อข่าวคราวข้อเสนอของกรีซต่อเงินช่วยเหลือใหม่ แม้ทางยูโรโซนบอกว่าจะไม่มีเจรจาจนกว่าจะทราบผลประชามติข้อตกลงปฏิรูปแลกเงินของเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติในกรีซ วันอาทิตย์นี้(5ก.ค.)

    ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า นายซิปราสได้ยื่นข้อเสนอครั้งใหม่ต่อเจ้าหนี้ของกรีซ โดยระบุว่า กรีซพร้อมที่จะยอมรับเงื่อนไขเพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือทางการเงิน โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเล็กๆน้อยๆจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 62 เป็น 67 ปี ภายในปี 2022

    นอกจากนี้ รัฐบาลกรีซยังต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้วยการคงมาตรการลดหย่อนภาษี 30% เป็นพิเศษแก่หมู่เกาะของกรีซ ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและกันดาร

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยุโรปได้ปฏิเสธข้อเสนอครั้งใหม่ของกรีซ โดยระบุว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่ตรงกับสิ่งที่ทางเจ้าหนี้ต้องการ และยังคงไม่เพียงพอที่จะทำให้มีการเจรจาครั้งใหม่เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ

    กระนั้นแม้ยุโรปได้บอกปัดข้อเสนอครั้งใหม่จากนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราส แต่นักลงทุนมองว่า ข่าวการยื่นข้อเสนอของกรีซ ถือเป็นความคืบหน้าครั้งใหม่ของการแก้ไขวิกฤตหนี้

    นอกจากนี้แล้ววอลล์สตรีท ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังสถาบัน ADP ระบุว่าเมื่อเดือนมิถุนายน ธุรกิจของประเทศมีการจ้างงานเพิ่มเติม 237,000 อัตรา เพิ่มขึ้นจาก 203,000 อัตราในเดือนพฤษภาคม ถือเป็นระดับที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพุธ(1ก.ค.) ขยับลงแรง แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนเชื่อมั่นต่อความคืบหน้าในความพยายามแก้ไขวิกฤตหนี้กรีซ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,169.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์



    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074611
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดีของประเทศไทยครับ เราเป็นกลางขายของได้ทั้งจีน และอินเดีย และทุกๆ ประเทศ

    “นเรนทรา โมดี” นายกฯ อินเดียประกาศเร่งสร้างทางหลวง ศก.ยาว 3,200 กิโลเมตรเชื่อมถึง "แม่สอด” หนุนค้าข้ามชายแดนโตอีก 60% โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 09:02 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 09:09 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดีย สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ในวันพุธ (1 ก.ค.) ด้วยการประกาศเดินหน้าโครงการสร้างถนนความยาว 3,200 กิโลเมตร เชื่อมเมืองโมเรห์ในรัฐมณีปุระของอินเดีย เข้ากับ “อำเภอแม่สอด”ในจังหวัดตากของไทย ชี้หากสร้างเสร็จจะมีผลให้การค้าขายข้ามพรมแดนขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์จากระดับปัจจุบัน

    รายงานข่าวซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันพุธ ( 1) โดยหนังสือพิมพ์ “อินเดียน เอ็กซ์เพรสส์” ของอินเดีย ตลอดจนสื่อออนไลน์ชื่อดังของบังกลาเทศอย่าง “บีดีนิวส์24” ระบุว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีแห่งอินเดียในวัย 64 ปีซึ่งเข้ารับตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลแดนภารตะคนที่ 15 ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ประกาศเร่งเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจคต์ก่อสร้างทางหลวงความยาวถึง 3,200 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมโยงเมืองโมเรห์ในรัฐมณีปุระทางภาคตะวันออกของอินเดียเข้ากับอำเภอแม่สอดในจังหวัดตากของไทย โดยตัดผ่านเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นอดีตเมืองหลวงของเมียนมาร์และปัจจุบันเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สามของประเทศรองจากนครย่างกุ้งและกรุงเนปิดอว์

    ในความเป็นจริงแล้ว โครงการก่อสร้างทางหลวงซึ่งเปรียบเสมือน “สะพานเศรษฐกิจ” ซึ่งเชื่อมอินเดียเข้ากับ “ภูมิภาคอาเซียน” สายนี้ได้เริ่มต้นก่อสร้างมาบ้างแล้วบางส่วน แต่แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงนิวเดลีของอินเดีย เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีโมดีต้องการผลักดันให้การก่อสร้างเส้นทางคมนาคมสายนี้มีความคืบหน้ามากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของเส้นทางส่วนที่ต้องตัดผ่านประเทศเมียนมาร์

    รายงานข่าวระบุว่า การเดินหน้าโครงการสร้างถนนความยาว 3,200 กิโลเมตร ( ซึ่งเท่ากับความยาวของแนวชายฝั่งทะเลทั้งหมดของเวียดนาม) ถือเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายต่างประเทศ “Act East policy” ของรัฐบาลโมดี ที่พัฒนาต่อยอดมาจากนโยบาย “Look East” ที่เน้นการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองกับประเทศในเอเชียเป็นสำคัญ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็น “สมาชิกกลุ่มอาเซียน”

    ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่า บางส่วนของทางหลวงเศรษฐกิจสายนี้ จะเริ่มเปิดใช้ได้บางส่วนตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 แต่หากการก่อสร้างแล้วเสร็จครบทั้ง 3,200 กิโลเมตร คาดว่าจะช่วยให้การค้าขายข้ามชายแดนระหว่างไทย เมียนมาร์และอินเดียจะขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์ และจะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางและขนส่งสินค้าลงได้อย่างสำคัญ

    รายงานข่าวระบุว่า ในปัจจุบันการเดินทางจากรัฐมณีปุระของอินเดีย มายังเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาร์ อาจต้องใช้เวลากว่า 48 ชั่วโมงหรือ 2 วัน แต่หากถนนสายนี้แล้วเสร็จจะใช้เวลาเหลือเพียง “14 ชั่วโมง” เท่านั้น

    ในอีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในกระทรวงถนน การขนส่งและทางหลวง (MoRTH) ของอินเดียเปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ต้องการใช้ทางหลวงเศรษฐกิจสายนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งลาว เวียดนามและกัมพูชาด้วยเช่นกัน ซึ่งหากนโยบายนี้ประสบความสำเร็จ จะส่งผลให้อินเดียมีทางออกสู่ทะเลเพิ่มขึ้นอีกแห่ง นั่นคือ ทางออกสู่ “ทะเลจีนใต้” ที่ถือเป็นเขตอิทธิพลดั้งเดิมของจีน

    [​IMG]

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074640
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บอสใหญ่ IMF “คริสติน ลาการ์ด” เหน็บกรีซต้องรู้จัก “เป็นผู้ใหญ่” มากกว่านี้ถ้าจะแก้ปัญหาหนี้สิน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 08:19 น.

    [​IMG]
    @คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

    เอเจนซีส์ – คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกมาให้สัมภาษณ์วานนี้ (1 ก.ค.) ระบุการเจรจาระหว่างกรีซกับองค์กรเจ้าหนี้จะได้ผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น หากรัฐบาลเอเธนส์มี “ความเป็นผู้ใหญ่” มากกว่านี้

    ลาการ์ด ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า การที่กรีซผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟเมื่อวันอังคาร(30 มิ.ย.) “ไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด” เพราะทำให้ไอเอ็มเอฟไม่สามารถอนุมัติเงินช่วยเหลือให้แก่เอเธนส์ได้อีก

    ทั้งนี้ หากกรีซต้องการก้าวไปข้างหน้าโดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเจ้าหนี้ที่เป็นทางการต่อไป ก็จะต้องยอมรับแผนปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ตามเงื่อนไขแพ็กเกจช่วยเหลือที่สหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟให้กรีซมาตลอด 5 ปี

    “การปฏิรูปเชิงโครงสร้างและปรับแผนงบประมาณรายจ่ายจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า วิกฤตหนี้สินของกรีซจะได้รับการแก้ไขอย่างยั่งยืน” ซึ่งบรรดาชาติสมาชิกไอเอ็มเอฟ “ก็หวังที่จะเห็นสถานการณ์ในกรีซคลี่คลาย และความไม่แน่นอนทั้งหลายหมดไป”

    “พวกเขายังต้องการเห็นปัญหาหนี้สินกรีซได้รับการแก้ไขอย่างยุติธรรม เพราะไม่มีเหตุผลอันควรที่จะต้องทำให้เป็นกรณีพิเศษ หรือเลือกปฏิบัติเป็นพิเศษ”

    “หากคุณลองนึกถึงกรณีของไอร์แลนด์หรือโปรตุเกสซึ่งก็เป็นสมาชิกยูโรโซน หรือแม้แต่ในภูมิภาคอื่นๆ ก็ตาม ปัญหาหนี้สินลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และรัฐบาลก็ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดด้วยกันทั้งนั้น”

    ลาการ์ด ระบุว่า เธอเข้าใจความต้องการของประชาชนชาวกรีซ และหากเจ้าหนี้จะบีบให้รัฐบาลกรีซเก็บภาษีเพิ่ม “ก็ต้องให้กลุ่มคนร่ำรวยที่สุดจ่ายมากเป็นพิเศษ”

    “ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีมาตรการคุ้มครองทางสังคมแก่ประชาชนที่อ่อนแอที่สุดด้วย”

    บอสใหญ่ไอเอ็มเอฟชี้ว่า แม้กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ แต่ไอเอ็มเอฟจะยังคงเข้าไปมีส่วนช่วยเหลือ “เพราะเป็นภารกิจของกองทุน” อย่างไรก็ตาม “เนื่องจากสถานการณ์ยังคงสับสนและไม่แน่นอนอยู่ ดิฉันคิดกว่า (กรีซ) จะต้องมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้” ในการเจรจา

    นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส แห่งพรรคฝ่ายซ้ายไซรีซา ซึ่งประกาศจุดยืนต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้นำกรีซเมื่อเดือนมกราคม ยืนยันว่าผลประชามติ “โน” ไม่ได้หมายความว่าเอเธนส์จะแยกตัวจากยุโรป ขณะที่บรรดาผู้นำอียูมองว่า ผลประชามติในวันอาทิตย์นี้ (5 ก.ค.) จะเป็นตัวตัดสินกลายๆ ว่ากรีซจะยังมีที่ยืนในยูโรโซนต่อไปหรือไม่

    รัฐบาลกรีซได้ยื่นข้อเสนอในนาทีสุดท้ายต่อเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเมื่อวันอังคาร (30) ระบุเอเธนส์จะยอมรับข้อเสนอสุดท้ายซึ่งพวกเจ้าหนี้ยื่นให้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หากจะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการ แต่เจ้าหนี้จะต้องอนุมัติแพ็กเกจช่วยเหลืองวดที่ 3 มูลค่าเกือบ 30,000 ล้านยูโร ซึ่งเพียงพอสำหรับให้กรีซนำไปจ่ายเงินกู้และดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระในช่วง 2 ปีข้างหน้า นอกจากนั้นยังจะขอให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เดิมด้วย

    อย่างไรก็ตาม บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนระบุว่า จะรอดูผลประชามติกรีซในวันอาทิตย์นี้เสียก่อนจึงจะยอมเจรจาเรื่องข้อตกลงเงินกู้งวดใหม่

    มาตรการควบคุมเงินทุนที่เอเธนส์ประกาศใช้ในสัปดาห์นี้ส่งผลให้ชาวกรีซสามารถถอนเงินจากธนาคารได้ไม่เกินคนละ 60 ยูโรต่อวัน แต่เมื่อวานนี้ (1) สถาบันเงินการเงินเกือบ 1,000 แห่งได้เปิดให้บริการแก่ผู้เกษียณอายุที่ต้องการเบิกเงินสดไปใช้บรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งก็ได้กันคนละไม่เกิน 120 ยูโรเท่านั้น

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074632
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ภาพ ผู้สูงอายุชาวกรีซพยายามจะเข้าไปในธนาคารเพื่อถอนเงินบำนาญ

    [​IMG]

    และภาพผู้สูงอายุชาวกรีซต่างมายืนออกันที่หน้าธนาคารระดับชาติแห่งหนึ่งเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) หลังจากที่มีการเปิดให้ผู้เกษียณอายุถอนเงินได้คนละไม่เกิน 120 ยูโร จาก http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074632
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูโรโซนกดดัน'กรีซ'ขอดูผลประชามติก่อนถึงยอมเจรจา-มูดีส์หั่นเรตติ้งจ่อระดับต่ำสุด โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 06:00 น.

    [​IMG]
    @ นายกรัฐมตรีอเล็กซิส ซีปราส ของกรีซ ออกถ้อยแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ ประะกาศเดินหน้าจัดประชามติ

    รอยเตอร์/เอเอฟพี - รัฐมนตรีคลังยูโรโซน ถาโถมแรงกดดันใส่เหล่ามีผู้สิทธิ์ออกเสียงชาวกรีกและรัฐบาลของพวกเขาในวันพุธ(1ก.ค.) ด้วยเตือนว่าจะยอมเจรจาคำร้องขอเงินกู้ยืมใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลประชามติข้อตกลงช่วยเหลือตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศในวันอาทิตย์(5ก.ค.) ขณะที่ มูดีส์ หั่นอันดับความน่าเชื่อถือของเอเธนส์สู่ "Caa3" เฉียดใกล้ไร้ศักยภาพในการชำระหนี้สินอย่างสิ้นเชิง หลังผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ

    "เราจะกลับมาพิจารณาคำร้องขอความสนับสนุนด้านเสถียรภาพทางการเงินจาก ESM (กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป) ของคุณ ก็ต่อเมื่อหลังจากและบนพื้นฐานของผลลัพธ์ประชามติ" เจอโรน นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป เขียนถึงนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีซ้ายจัดของกรีซ ที่เรียกร้องของประชาชนร่วมกันโหวต "โน"

    คงเป็นเรื่องสาหัสยิ่งขึ้นที่คำร้องขอเงินกู้รอบยืมใหม่จะผ่านการพิจารณาในกรณีที่ประชาชาชาวกรีซโหวต "โน" ต่อข้อตกลงช่วยเหลือตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ในการลงคะแนนประชามติที่ทางเหล่าผู้นำอียูบางคนมองว่า ในความเป็นจริงก็เหมือนเป็นการตัดสินอนาคตของกรีซในยูโรโซน แต่หากชาวกรีกโหวต "เยส" รัฐบาลชาติต่างๆในสหภาพยุโรป ก็เชื่อว่าจะเป็นการสิ้นสุดอำนาจของนายซีปราส ที่อยู่ในตำแหน่งมา 5 เดือนและเปิดทางให้พวกเขาเจรจาต่อรองง่ายกว่าเดิม

    หนังสือยาว 1 หน้ากระดาษของนายดิจเซลโบลม ที่เผยแพร่โดยเจ้าหน้าที่ยูโรโซน เป็นการตอบกลับคำร้องจากนายซีปราส ที่ขอเงินกู้รอบใหม่ ซึ่งถูกหยิบยกเข้าหารือสั้นๆในหมู่ยูโรกรุ๊ประหว่างการประชุมทางไกลเมื่อช่วงเย็นวันพุธ(1ก.ค.) อย่างไรก็ตามเหล่าคณะรัฐมนตรีเห็นพ้องว่าจะไม่มีการพูดคุยในประเด็นนี้เพิ่มเติมจนถึงว่ากรีซจะเสร็จสิ้นการลงประชามติในวันอาทิตย์(5ก.ค.)

    คำยืนยันจากเหล่ารัฐมนตรียูโรโซน มีขึ้นหลังจากนายซีปราส ออกถ้อยแถลงประณามเหล่าเจ้าหนี้ว่าพยายามขู่กรรโชกและเรียกร้องอีกครั้งให้ชาวกรีซโหวต "โน" ต่อการขยายข้อตกลงช่วยเหลือที่หมดอายุไปเมื่อวันอังคาร(30มิ.ย.)

    ท่าทีสิ้นหวังดังกล่าวของเหล่าผู้นำยุโรป ยังมีขึ้นตามหลังเอเธนส์ผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) พร้อมๆกับที่แพ็กเกจช่วยเหลือเดิมหมดอายุลงพอดี ทั้งนี้ ซีปราส บอกว่าจะทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนไม่ว่าผลประชามติจะออกมารูปแบบใดก็ตาม แต่หลายฝ่ายก็ตั้งคำถามว่าเขาจะทนอยู่ในตำแหน่งได้อย่างไร หากชาวกรีกเลือกที่จะเทคะแนนให้โหวต "เยส" ตามแนวโน้มของโพลต่างๆในปัจจุบัน

    ในวันอังคาร(30มิ.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากโครงการช่วยเหลือปัจจุบันหมดอายุลง นายซีปราส ส่งหนังสือถึงเจ้าหนี้ระหว่างประเทศว่าจะยอมรับข้อเสนอสุดท้ายซึ่งพวกเจ้าหนี้ยื่นให้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หากจะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการและโอนอ่อนในประเด็นสำคัญๆ

    ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า นายซีปราสได้ยื่นข้อเสนอครั้งใหม่ต่อเจ้าหนี้ของกรีซ โดยระบุว่า กรีซพร้อมที่จะยอมรับเงื่อนไขเพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือทางการเงิน โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเล็กๆน้อยๆจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 62 เป็น 67 ปี ภายในปี 2022

    นอกจากนี้ รัฐบาลกรีซยังต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้วยการคงมาตรการลดหย่อนภาษี 30% เป็นพิเศษแก่หมู่เกาะของกรีซ ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและกันดาร

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยุโรปได้ปฏิเสธข้อเสนอครั้งใหม่ของกรีซ ด้วยบอกว่ามันมาช้าเกินไปสำหรับการขยายเงินกู้ และบอกด้วยว่าข้อเสนอดังกล่าวไม่ตรงกับสิ่งที่ทางเจ้าหนี้ต้องการ สำหรับมาตรการต่างๆในการควบคุมงบประมาณเพื่อแลกกับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

    จากภาวะทางตันที่ยังไร้วี่แววคลี่คลาย ส่งผลให้ในวันพุธ(1ก.ค.) มูดีส์ ปรับลดอันดับความน่าชื่อถือของกรีซ เหลือ "Caa3" หรือ deep-junk และเตือนว่าตอนนี้มีความเป็นไปได้น้อยมากที่เหล่าเจ้าหนี้จะสนับสนุนประเทศแห่งนี้ ไม่ว่าผลประชามติจะออกมาแบบไหนก็ตาม

    ด้วยถูกปรับลดลงมา 1 ขั้น ทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ อยู่เหนือกว่าระดับต่ำสุด "default"หรือไร้ศักยภาพในการชำระหนี้สินอย่างสิ้นเชิงแค่ 2 ขั้น โดยความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากโครงการช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปของประเทศหมดอายุลงโดยไม่มีมาตรการใหม่มาทดแทนเมื่อวันอังคาร(30มิ.ย.) และเอเธนส์ ผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟในวันเดียวกัน

    มูดีส์ บอกว่าในขณะที่กรีซและเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศกำลังเฝ้ารอผลลัพธ์ของประชามติที่กำลังมาถึงว่าจะยอมรับแผนช่วยเหลือของอียูหรือไม่ แต่ขณะเดียวกันประชามติก็ก่อความเสี่ยงแก่เหล่าเจ้าหนี้เอกชนมากขึ้น

    "มูดีส์ เชื่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนจากเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ที่ถือครองโดยเอกชน" บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือแห่งนี้บอก พร้อมระบุว่าพวกเขาจะทบทวนผลลัพธ์ของประชามติในความเป็นไปได้ว่าอาจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มเติม ซึ่งลำดับถัดไปคือ Ca
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอเธนส์แบะท่ารับข้อเสนอเจ้าหนี้ แต่เยอรมนีค้านไม่เจรจาหากยังลงประชามติ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 22:24 น. (แก้ไขล่าสุด 1 กรกฎาคม 2558 22:27 น.)

    [​IMG]
    @ผู้สูงอายุวัยเกษียณชาวกรีกพากันเข้าแถวอย่างแออัดที่ด้านนอกของสาขาธนาคาระดับชาติแห่งหนึ่งของประเทศในกรุงเอเธนส์เมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) หลังจากทางการประกาศเปิดสาขาแบงก์บางแห่งให้บริการเฉพาะผู้เกษียณอายุ โดยสามารถเบิกเงินสดได้ 120 ยูโร เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของคนเหล่านี้ซึ่งจำนวนมากไม่มีบัตรใช้เบิกเงินจากเครื่องเอทีเอ็มได้

    เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ของกรีซ ส่งสารถึงเจ้าหนี้ระหว่างประเทศในคืนวันอังคาร (30 มิ.ย.) ระบุเอเธนส์จะยอมรับข้อเสนอสุดท้ายซึ่งพวกเจ้าหนี้ยื่นให้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หากจะมีการเปลี่ยนเงื่อนไขบางประการ อย่างไรก็ตาม ท่าทีอ่อนข้อลงหลังจากที่กรีซกลายเป็นชาติพัฒนาแล้วชาติแรกซึ่งผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟไปแล้วนี้ ได้รับการต้อนรับในเชิงลบ โดยที่เยอรมนีซึ่งเป็นถุงเงินใหญ่ของยุโรป บอกว่าไม่สามารถที่จะเจรจาต่อรองด้วยได้ ในขณะที่กรีซยังคงเดินหน้าจัดการประชามติจะยอมรับข้อเสนอของเจ้าหนี้หรือไม่ ในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ที่จะถึงนี้

    ในสารของผู้นำที่เป็นฝ่ายซ้ายจัดของกรีซผู้นี้บอกว่า เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยอมรับข้อเสนออย่างมีเงื่อนไขดังกล่าว จะขอให้ฝ่ายเจ้าหนี้อนุมัติเงินกู้ก้อนใหม่ 29,100 ล้านยูโร ซึ่งเพียงพอสำหรับให้กรีซนำไปจ่ายเงินกู้และดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระในช่วง 2 ปีข้างหน้า นอกจากนั้นยังจะขอให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เดิมด้วย ทั้งนี้ท่าทีเช่นนี้ของซีปราส เท่ากับเปลี่ยนพลิกไปจากที่เขาได้เรียกร้องให้ชาวกรีกโหวต “ไม่เอา” ในการลงประชามติข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจแลกเงินกู้ของฝ่ายเจ้าหนี้

    ถึงแม้สารของซีปราสลงวันที่ 30 มิ.ย. แต่ก็ส่งมาถึงหลังจากที่พวกรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือที่เรียกกันว่า “ยูโรกรุ๊ป” ได้ยุติการประชุมทางโทรศัพท์ในคืนวันนั้นของพวกเขาไปแล้ว เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) ผู้หนึ่งบอกว่า ได้รับสารฉบับนี้ในเวลาประมาณเที่ยงคืน อันเป็นเวลาหลังจากกรีซมีฐานะกลายเป็นชาติพัฒนาแล้วชาติแรกของโลกซึ่งผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รวมทั้งแพกเกจเงินกู้ฉบับท้ายสุดที่เจ้าหนี้ระหว่างประเทศได้อนุมัติให้แก่กรีซซึ่งยังเหลือเงินงวดสุดท้ายค้างคาอยู่อีก 1 งวด ก็เป็นอันหมดอายุลงด้วย

    อย่างไรก็ตาม ยูโรกรุ๊ปได้ตกลงที่จะหารือกันอีกครั้งในวันพุธ (1) เวลา 15.30 น. ตามเวลาจีเอ็มที (ตรงกับ 22.30 น. ของไทย) โดยที่มีรายงานว่า ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) เป็นตัวตั้งตัวตีผลักดัน โดยถือเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อให้เกิดข้อตกลงระหว่างฝ่ายเจ้าหนี้กับรัฐบาลกรีซ เป็นการป้องกันไม่ให้ระบบเศรษฐกิจกรีซล่มจมและต้องออกจากยูโรโซน

    เช่นเดียวกับ มิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่แสดงความเห็นอกเห็นใจเอเธนส์มากที่สุด โดยเขาบอกว่า เป้าหมายขณะนี้คือการบรรลุข้อตกลงก่อนการทำประชามติในวันอาทิตย์

    ทว่าปฏิกิริยาจากเยอรมนี ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปนั้น กลับออกมาในทางลบ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล กล่าวในวันพุธ (1) ว่า กรีซไม่ได้ทำตามพันธะข้อผูกพันของตน ถึงแม้เธอไม่คัดค้านว่าไม่ควรทำการเจรจาต่อไป แต่ก็ระบุว่าคงเริ่มการพูดคุยในเรื่องแผนการช่วยเหลือเอเธนส์ต่อไปไม่ได้ ในขณะที่กรีซยังคงเดินหน้าจัดการลงประชามติเช่นนี้

    ขณะที่ รัฐมนตรีคลัง โวล์ฟกัง ชอยเบิล ของแดนดอยซ์ ก็พูดแบบดับความหวังใดๆ ที่จะมีการผ่าทางตันกันได้โดยรวดเร็ว โดยเขากล่าวว่า สารของซีปราสนั้นมาถึงช้าเกินไป แถมยังไม่เป็นที่กระจ่างชัดเจนว่ากรีซจะเอาอย่างไรกันแน่ ทั้งนี้เขาย้ำว่า สารฉบับนี้ไม่ได้ทำให้มองเห็นจุดยืนของเอเธนส์ชัดเจนขึ้นเลย และดังนั้นจึง “ไม่มีพื้นฐานใดๆ” ที่จะดำเนินการเจรจาอย่างจริงจังกับกรีซในขณะนี้

    ในอีกด้านหนึ่ง คณะมนตรีบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็นัดประชุมที่แฟรงก์เฟิร์ตในวันพุธเช่นเดียวกัน เพื่อตัดสินใจว่า จะคง เพิ่ม หรือระงับการปล่อยกู้ฉุกเฉิน ที่ก่อนหน้าช่วยต่อลมหายใจให้ธนาคารพาณิชย์กรีซท่ามกลางกระแสผู้ฝากแห่ถอนเงิน

    ปัจจุบัน แบงก์กรีซอยู่ระหว่างการปิดให้บริการนาน 1 สัปดาห์ รวมทั้งจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มได้เพียงวันละ 60 ยูโร หลังจากอีซีบีปฏิเสธคำขอเพิ่มสภาพคล่องเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    นอกจากบุนเดสแบงก์ หรือธนาคารกลางเยอรมนี ที่ออกมาประกาศว่า อีซีบีไม่สามารถอัดฉีดเงินให้กรีซต่อได้แล้ว รัฐมนตรีคลังชอยเบิล ยังแจ้งกับรัฐสภาเยอรมนีว่า จะแนะนำอีซีบีไม่ให้เพิ่มสภาพคล่องแก่พวกธนาคารกรีซเช่นกัน

    ในด้านอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนชาวกรีกนั้น ตอนค่ำวันอังคาร(30) ชาวกรีกราว 20,000 คน ออกมาชุมนุมที่จัตุรัสซินแท็กมาหน้ารัฐสภา เรียกร้องให้ลงมติสนับสนุนข้อตกลงหนี้ในวันอาทิตย์ โดยก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน กลุ่มเชิญชวนโหวตคัดค้านเพิ่งออกมาแสดงพลังในจำนวนใกล้เคียงกัน

    ขณะเดียวกัน ผลสำรวจจากสถาบัน “โปรราตา” ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (1) พบว่า ชาวกรีก 54% ที่มีแผนออกไปลงประชามติในวันอาทิตย์จะลงคะแนนคัดค้านข้อตกลงหนี้ และ 33% จะกาว่าสนับสนุน

    อย่างไรก็ดี ส่วนต่างของผู้ที่เห็นด้วยและคัดค้านข้อตกลงนี้ลดแคบลงอย่างชัดเจน กล่าวคือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังมีคนถึง 57% บอกว่า จะโหวตคัดค้าน ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนมีเพียง 30% แต่หลังจากกรีซประกาศปิดแบงก์หนึ่งสัปดาห์ ผู้ที่โหวตคัดค้านลดลง และผู้ที่โหวตสนับสนุนเพิ่มขึ้น

    ทางด้านอเมริกากล่าวว่า กำลังจับตาสถานการณ์ของกรีซอย่างใกล้ชิด และเรียกร้องให้มีการเปิดเจรจาใหม่ภายใต้เงื่อนไขของหนี้ที่สามารถชำระได้ ซึ่งบ่งชี้ว่า วอชิงตันสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ให้เอเธนส์

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074574
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ภาพผู้สูงอายุวัยเกษียณชาวกรีกพากันเข้าแถวอย่างแออัดที่ด้านนอกของสาขาธนาคาระดับชาติแห่งหนึ่งของประเทศในกรุงเอเธนส์เมื่อวันพุธ (1 ก.ค.) หลังจากทางการประกาศเปิดสาขาแบงก์บางแห่งให้บริการเฉพาะผู้เกษียณอายุ โดยสามารถเบิกเงินสดได้ 120 ยูโร เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของคนเหล่านี้ซึ่งจำนวนมากไม่มีบัตรใช้เบิกเงินจากเครื่องเอทีเอ็มได้ จาก
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซีปราสย้ำโหวต'โน'แต่จะขอเจรจาเจ้าหนี้ต่อ-คณะมนตรียุโรปเตือนประชามติกรีซไม่ได้มาตรฐาน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 23:29 น.

    [​IMG]
    @เจ้าหน้าที่กรีซจัดเตรียมความพร้อมก่อนถึงวันลงประชามติตัดสินข้อเสนอช่วยเหลือของเจ้าหนี้นานาชาติในวันที่ 5 กรกฎาคม

    [​IMG]
    @ป้ายข้อความสนับสนุนโหวตโน ประชามติข้อตกลงกู้ยืมที่เสนอโดยเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ

    รอยเตอร์/เอเอฟพี - ประชามติของกรีซ เพื่อตัดสินชะตากรรมข้อเสนอของเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศในวันที่ 5 กรกฎาคม ดำเนินการอย่างเร่งรีบเกินไปและไม่เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป คณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปบอกในวันพุธ(1ก.ค.) แต่ผู้นำเอเธนส์กร้าวเดินหน้าจัดตามเดิมและหวังเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่ดีกว่าเดิม

    ในขณะที่ไม่มีผลลัพธ์ทางกฎหมายโดยอัตโนมัติ มุมมองของทางคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปตอกย้ำถึงความรู้สึกสับสนของชาวกรีซจำนวนมากต่อการจัดลงประชามติอย่างฉุกละหุก ว่าจะรับหรือปฏิเสธข้อตกลงปฏิรูปแลกเงินที่เสนอโดยเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศหรือไม่ "เราไม่ขอวินิจฉัยล่วงหน้าต่อผลของประชามติ" ดาเนียล โฮลต์เกน โฆษกของคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปกล่าว

    โฆษกของนายธอร์บจอร์น แจกแลนด์ เลขาธิการใหญ่คณะมนตรีสหภาพยุโรป บอกต่อว่า "แน่นอนว่ากำหนดเวลานั้นสั้นเกินไปหากพิจารณาตามมาตรฐานของเรา มีอย่างน้อยๆ 3 กฎเกณฑ์ที่ทางคณะมนตรีสหภาพยุโรปรู้สึกเป็นกังวลต่อความถูกต้องของประชามติ"

    "ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงควรทราบคำถามของประชามติอย่างต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนจัดให้ลงคะแนน" เขากล่าว พร้อมบอกว่าด้วยระยะเวลาเตรียมการที่สั้นมาก จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งคณะผู้แทนเข้าไปสังเกตการณ์การลงประชามติ ส่วนคำถามก็ไม่ชัดเจนเพียงพอ

    อย่างไรก็ตามนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐในวันพุธ(1ก.ค.) ว่าประเทศของเขาจะยังเดินหน้าจัดประชามติต่อไป และเรียกร้องประชาชนโหวต "โน" เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงที่ดีกว่านี้ โดยบอกว่าจะยังเดินหน้าเจรจากับเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ และยืนยันว่าเอเธนส์ยังต้องการอยู่ในยูโรโซนต่อไป

    "การโหวตโน ไม่ได้หมายความว่าเราแตกออกจากยุโรป แต่มันคือการคืนสู่คุณค่าแห่งยุโรป" เขากล่าว โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาจากเหล่าผู้นำอียูว่าประชามติครั้งนี้ ในความเป็นจริงก็เหมือนเป็นการตัดสินอนาคตของกรีซในยูโรโซน

    การขัดขืนเหล่าเจ้าหนี้ด้วยการจัดประชามติ จะทำให้สองฝ่ายตกอยู่ภายใต้แรงกดดันใหญ่หลวงให้ต้องเดินหน้าเจรจากันต่อไป และด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นมาตรการเด็ดเดี่ยวของเอเธนส์เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อตกลงที่ดีกว่าเดิม

    กรีซยื่นข้อเสนอปฏิรูปครั้งใหม่ต่อเหล่าเจ้าหนี้ หลังจากผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอ) ไปก่อนหน้าในวันเดียวกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยเยอรมนี ที่บอกปัดข้อตกลงใดๆก่อนการลงประชามติในวันอาทิตย์(5ก.ค.)

    นายซีปราส สร้างความตกตะลึงแก่ยุโรปในช่วงกลางดึกวันศุกร์ (26 มิ.ย.) ด้วยประกาศจัดลงประชามติในวันที่ 5 กรกฎาคม ให้ชาวกรีซเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะสนับสนุนข้อตกลงช่วยเหลือตามข้อเสนอของเจ้าหนี้หรือไม่ หลังล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงของเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ซึ่งเหล่าผู้นำอียูบางคนมองว่าการโหวตครั้งนี้ ในความเป็นจริงก็เหมือนเป็นการตัดสินอนาคตของกรีซในยูโรโซน


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074587
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics: อากาศยุโรปสาหัส คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมถึงอังกฤษ-ฝรั่งเศสแล้ว
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 01:06 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 01:24 น.)


    [​IMG]

    ผู้คนพากันออกมาเล่นน้ำบริเวณลานน้ำพุของเมืองบอร์กโดซ์ ฝรั่งเศส ท่ามกลางสภาพอากาศอันร้อนระอุจากผลกระทบของคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมทั่วยุโรป
    บีบีซี - หลายพื้นที่ของยุโรปต้องเผชิญกับอุณหภูมิร้อนระอุเหนือ 40 องศาเซลเซียส หลังจากคลื่นความร้อนเคลื่อนขึ้นเหนือมาถึงฝรั่งเศสและอังกฤษแล้ว นำมาซึ่งความกังวลต่อสุขภาพของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นคนชราและกลุ่มผู้อ่อนแอ หรือแม้กระทั่งคนหนุ่มสาว
    สเปนและโปตุเกส ต้องยกระดับเตือนภัยหลังจากอุณหภูมิพุ่งเหนือ 40 องศาเซลเซียสเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยเฉพาะในเมืองคอร์โดบา ของแดนกระทิงดุ ที่อากาศร้อนระอุถึง 44 องศาเซลเซียส และในวันพุธ(1ก.ค.) สำนักงานพยากรณ์แห่งชาติสเปนเตือนว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าสู่คลื่นความร้อนระลอกสองที่จะปกคลุมทั่วประเทศนับตั้งแต่วันศุกร์(3ก.ค.) เป็นต้นไป และคราวนี้จะกินเวลานานอย่างน้อย 9 วัน ขณะที่มันจะแผ่ปกคลุมไปทัวยุโรปด้วย
    ในวันพุธ(1ก.ค.) สภาพอากาศร้อนจัดระลอกแรกได้แผ่ปกคลุมมาถึงฝรั่งเศส อิตาลี เบลเยียมและเนเธอร์แลนด์แล้ว ส่วนอังกฤษ ก็เผชิญวันที่ร้อนระอุนับตั้งแต่ปี 2006 เป็นไปตามคำเตือนก่อนหน้านี้ที่ว่าคลื่นความร้อนจะเคลื่อนไปทางเหนือสู่ฝรั่งเศสและอังกฤษในช่วงกลางสัปดาห์ ขณะเดียวกันก็พยากรณ์กันว่าอุณหภูมิจะยังคงสูงลิ่วต่อไปแบบนี้อีกหลายวัน
    สำหรับกรุงปารีส อุณหภูมิพุ่งแตะ 40 องศาเซลเซียส รื้อฟื้นความทรงจำอันเจ็บปวดของภัยคลื่นความร้อนในปี 2003 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 15,000 ราย อย่างไรก็ตามมาคราวนี้เจ้าหน้าที่ในเมืองหลวงของฝรั่งเศส ได้เตรียมพร้อมรับมือด้วยการเปิดห้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศพิเศษแก่สาธารณะและดำเนินการตรวจสุขภาพคนชรา
    ในอังกฤษ วัดอุณหภูมิได้ 34 องศาเซลเซียส ถือว่าร้อนที่สุดในรอบ 9 ปี ถึงขั้นที่ฝ่ายการจัดแข่งขันเทนนิสแกรนด์ สแลม วิมเบิลดัน ต้องปิดหลังคาของเซ็นเตอร์คอร์ต เพื่อปกป้องนักกีฬาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และออกคำแนะนำแก่ผู้ชมให้สวมหมวก
    เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสเปนประกาศเตือนภัยมากกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ และยกระดับเตือนภัยในแคว้นกอร์โดบนสู่สีแดง ถือเป็นขั้นสูงสุด ส่วนในโปรตุเกส ก็เผชิญกับอากาศร้อนระอุเช่นกัน ด้วยบางพื้นที่อุณหภูมิพุ่งแตะ 41 องศาเซลเซียส จนทางการต้องยกระดับเตือนภัยใน 4 แคว้นสู่สีส้ม อันเป็นขั้นสูงสุดลำดับ 2
    ชายหาดต่างๆตามแถบชายฝั่งทางใต้ของสเปนแออัดไปด้วยผู้คน เนื่องจากคลื่นความร้อนดันมาพร้อมๆกับช่วงเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งในสเปนและโปรตุเกส ออกคำเตือนคล้ายกันว่าด้วยอุณหภูมิที่ร้อนระอุ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟป่า
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียปลอบชาติทะเลบอลติกสหายเก่า “ไม่ต้องคิดมาก” ก่อนหน้าเล็งรื้อข้อกฎหมาย “ให้เอกราชของอดีตโซเวียตอาจไม่ชอบ” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    2 กรกฎาคม 2558 14:01 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 15:42 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - เมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) รัสเซียได้แถลงปลอบประโลม 3 อดีตประเทศภายใต้สหภาพโซเวียต ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย ไม่ต้องกังวลถึงแนวคิดการพิจารณาข้อกฎหมายการประกาศให้เอกราชของทั้งสามชาติในยุคภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ว่าผิดกฎหมายหรือไม่

    รอยเตอร์รายงานในวันพุธ (2) ว่า ทั้งสามชาติทะเลบอลติก ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย ประกาศเอกราชขาดจากอดีตสหภาพโซเวียตในปี 1990-1991 ซึ่งมีนักเคลื่อนไหวในลิทัวเนีย และลัตเวียถูกกองกำลังโซเวียตสังหารในช่วงนั้นเพื่อกำราบกลุ่มกบฏ

    เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญสำหรับทั้งสามชาติเป็นอย่างยิ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ผนวกไครเมียของรัสเซีย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของยูเครนอดีตประเทศภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต

    ในวันอังคาร (30 มิ.ย.) สำนักอัยการสูงสุดรัสเซียได้แถลงถึงแนวคิดการรื้อฟื้นการพิจารณามติของรัฐสภาแห่งสหภาพโซเวียต (State Council of the Soviet Union) ที่ได้ประกาศให้เอกราชแก่บรรดาประเทศบอลติกแห่งนี้ ซึ่งองค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 1991 ไปจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 1991 ถือเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดในขณะนั้นในช่วยยุคท้ายๆ ก่อนการล่มสลายของอดีตสหภาพโซเวียต

    แต่ทว่า ทางเครมลินไม่ได้แสดงจุดยืนเห็นชอบในการแถลงของสำนักอัยการสูงสุดรัสเซีย ซึ่งรอยเตอร์รายงานว่า มีคำร้องจากสมาชิกจำนวน 2 คนของพรรค United Russia party ซึ่งจงรักภักดีกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ยื่นไปยังสำนักอัยการสูงสุดรัสเซียให้พิจารณา และทางหน่วยงานสำนักอัยการสูงสุดรัสเซียได้ดำเนินการพิจารณาไปตามปกติ

    “ทางเรามีหน้าที่ตามกฎหมายในการพิจารณาข้อร้องเรียนทุกประเภทที่ได้ส่งเข้ามา ซึ่งแน่นอนว่ามีข้อร้องเรียนบางส่วนที่ไม่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง” มารินา กริดเนวา (Marina Gridneva) โฆษกสำนักอัยการสูงสุดรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อหมีขาว

    และมีความชัดเจนว่า ในการรื้อฟื้นพิจารณาข้อร้องเรียนนี้จะไม่มีเงื่อนกฎหมายมาเกี่ยวข้อง กริดเนวากล่าว และเสริมว่า “เพราะในกรณีนี้เป็นที่แน่ชัดว่าจะไม่มีการพิจารณาในตามข้อกฎหมายอย่างแน่นอน”

    ในขณะที่โฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ (Dmitry Peskov) แถลงว่า “เครมลินไม่รับทราบการยื่นขอให้สอบสวนในเรื่องนี้ และทางเราไม่อาจเข้าใจได้ถึงความจำเป็นในข้อเสนอคำร้องนี้”

    ในขณะเดียวกัน ประเทศอดีตสหภาพโซเวียตที่เกี่ยวข้องต่างเดือดดาลเมื่อรับทราบ “ประเด็นที่ยกมานี้ไม่มีความเป็นไปได้แม้แต่น้อยตามข้อกฎหมาย” คีธ เพนตัส-โรซิมานนัส (Keit Pentus-Rosimannus) รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนียให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ และกล่าวต่อว่า “ช่างเป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ที่ต้องถูกยกเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงอารมณ์ “แบบจักรวรรดิ” เกิดขึ้นพลุกพล่านอีกครั้งในรัสเซีย”

    ด้านประธานาธิบดีลิทัวเนีย ดาเลีย กรีเบาสไกเต (Dalia Grybauskaite) แถลงว่า “เอกราชของลิธัวเนียได้มาจากการหลั่งเลือดและซากศพประชาชนลิธัวเนีย ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถใช้สิทธิมาขู่กรรโชกได้”

    รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ชาติทะเลบอลติกที่ได้เคยถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียภายใต้กติกาสัญญานาซี-โซเวียตปี 1939 ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งความสัมพันธ์นั้นตึงเครียดกับรัสเซียมาโดยตลอด และยิ่งทวีคูณมากขึ้นเมื่อมีความไม่สงบในเขตยูเครนตะวันออก

    ทั้งนี้ ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย มีชนกลุ่มน้อยพูภาษารัสเซียอาศัยอยู่ภายในประเทศ และต่างรู้สึกกดดันเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งปูตินได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัสเซียมีสิทธิใช้กำลังทหารแทรกแซงเพื่อปกป้องกลุ่มคนที่พูดภาษารัสเซียในต่างประเทศ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074799
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพถ่ายดาวเทียมเผยจีนสร้าง “ทางวิ่งเครื่องบิน” บนเกาะเทียมในทะเลจีนใต้ใกล้เสร็จแล้ว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 กรกฎาคม 2558 13:38 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 15:40 น.)

    [​IMG]

    [​IMG]

    @ภาพถ่ายเมื่อเดือนพ.ค. ของกองทัพสหรัฐฯ เผยให้เห็นเรือขุดทรายร่วมสิบลำของจีนกำลังทำงานอยู่รอบแนวปะการังไฟเออรีครอสบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ (ภาพ รอยเตอร์ส)

    รอยเตอร์ - ภาพถ่ายดาวเทียมของเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเผยให้เห็นว่า จีนสร้างทางวิ่งเครื่องบินความยาว 3,000 เมตรบนหนึ่งในเกาะเทียมบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ของทะเลจีนใต้ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

    กองบัญชาการทหารสหรัฐฯ บอกกับรอยเตอร์ในเดือนพฤษภาคมว่า ทางวิ่งเครื่องบินดังกล่าวบนแนวปะการังไฟเออรีครอสอาจเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นปีนี้ แต่ภาพถ่ายดาวเทียมของเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนบ่งชี้ว่ามันอาจจะเร็วกว่านั้น

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ทางวิ่งดังกล่าวจะมีความยาวเพียงพอที่จะรองรับอากาศยานของกองทัพจีนเกือบทั้งหมด และทำให้ปักกิ่งสามารถเข้าถึงศูนย์กลางทางทะเลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ได้มากยิ่งขึ้น

    เมื่อวันอังคาร (28) จีนระบุว่า การปรับสภาพที่ดินในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งพวกกำลังสร้างเกาะ 7 เกาะบนแนวปะการังต่างๆ ได้ลุล่วงไปบางส่วนแล้ว แต่พวกเขาแทบไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

    ภายถ่ายล่าสุดนี้ถ่ายโดยบริษัท ดิจิทัลโกลบ (DigitalGlobe) ผู้ให้บริการภาพถ่ายดาวเทียม และถูกเผยแพร่โดยโครงการริเริ่มความโปร่งใสทางทะเลในเอเชีย (AMTI) ที่ศูนย์ศึกษาด้านยุทธศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศ (CSIS) ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.


    AMTI ระบุว่า ทางวิ่งเครื่องบินดังกล่าวมีการปูพื้นและทำเครื่องหมายแล้ว ขณะที่ในส่วนของรันเวย์ก็มีลานจอดเครื่องบินและทางขับ (taxiway) เพิ่มขึ้นมาข้างๆ แล้วด้วยเช่นกัน

    AMTI ระบุว่า ลานขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ 2 จุด, จานติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียมสูงสุด 10 จาน และสิ่งที่อาจะเป็นหอเรดาร์ 1 แห่งสามารถมองเห็นได้บนแนวปะการังไฟเออรีครอส ชุดภาพดังกล่าวยังเผยให้เห็นเรือของกองทัพเรือจีนลำหนึ่งจอดอยู่ที่ท่าเรือ

    ชุดภาพถ่ายของแนวปะการังเซาท์จอห์นสันเมื่อเร็วๆ นี้ยังเผยให้เห็นสิ่งก่อสร้างทางทหารขนาดใหญ่ที่จุดศูนย์กลางของแนวปะการังแห่งนี้พร้อมกับสิ่งที่อาจจะเป็นหอเรดาห์ 2 แห่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และยังสามารถมองเห็นลานขึ้นลงของเฮลิคอปเตอร์ 2 จุดและจานติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียมสูงสุด 3 จาน AMTI กล่าวเสริม

    จีนอ้างสิทธิเหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งทางเรือมูลค่ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ขณะที่ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, บรูไน และไต้หวัน ก็อ้างสิทธิทับซ้อนอยู่เช่นกัน

    จีนเร่งการสร้างเกาะเทียมเมื่อปีที่แล้ว ทำให้หลายประเทศในเอเชียเกิดความตื่นกลัวและนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากวอชิงตัน ปักกิ่งระบุว่า เกาะด่านหน้าดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร แต่ไม่ได้อธิบายขยายความ และบอกว่ามันจะมีส่วนช่วยในการค้นหาและกู้ภัยทางทะเล, การบรรเทาภัยพิบัติ และการเดินเรือ

    เมื่อวันอังคาร (30) กระทรวงการต่างประเทศจีนไม่ได้ระบุชัดว่าการแปรสภาพที่ดินบริเวณใดในหมู่เกาะสแปรตลีย์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วบ้าง ภาพถ่ายเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ว่ายังมีการแปรสภาพที่ดินอีกมากที่ยังดำเนินอยู่ที่แนวปะการังมิสชีพและแนวปะการังซูบิ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074784
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แม้วสะดุ้ง! นิการากัวขู่ “เพิกถอนพาสปอร์ต-สถานะพลเมืองกิตติมศักดิ์” หากไม่เร่งทำประโยชน์ให้แผ่นดิน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 20:46 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 11:54 น.)

    [​IMG]
    พ.ต.ท.ทักษิณได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดราให้ทำหน้าที่ “ทูตพิเศษด้านการลงทุน” ของรัฐบาลนิการากัวมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงการต่างประเทศนิการากัวออกระเบียบใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ระบุพลเมืองต่างชาติซึ่งได้สิทธิพิเศษในการถือครอง “หนังสือเดินทางนิการากัว” จะต้องเร่งทำประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนต่อแผ่นดินนิการากัวภายในระยะเวลา 1 ปีจากนี้ หากพบพลเมืองกิตติศักดิ์รายใดไม่ทำตัวเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ อาจถูก “เพิกถอนพาสปอร์ต”

    รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงมานากัว เมืองหลวงของสาธารณรัฐนิการากัวที่ถูกเผยแพร่ในวันอังคาร (30 มิ.ย.) ที่ผ่านมาระบุว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศของนิการากัวได้ออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ซึ่งมีเนื้อหากำหนดให้บรรดาพลเมืองชาวต่างชาติที่ได้สิทธิ์ในการถือครอง “หนังสือเดินทางนิการากัว” ทุกประเภทรวมถึงหนังสือเดินทางทูต หรือได้สถานะเป็น “พลเมืองกิตติมศักดิ์” ของนิการากัวไปก่อนหน้านี้จะต้องเร่ง “ทำตัวให้เป็นประโยชน์” กับประเทศและประชาชนชาวนิการากัว โดยต้องมีผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ภายในระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2015 เป็นต้นไป

    รายงานข่าวระบุว่า ทางการนิการากัวเตรียมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดด้วยการเพิกถอนพาสปอร์ต และยกเลิกสถานะของการเป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์แก่ชาวต่างชาติทุกรายที่ไม่สร้างประโยชน์ให้กับแผ่นดินนิการากัวภายในกำหนด 1 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 ก.ค. 2016

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการนิการากัวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้รับเรื่องร้องเรียนมากมายเกี่ยวกับการประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสมของบรรดาพลเมืองกิตติมศักดิ์ที่ใช้สิทธิพิเศษดังกล่าวแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนเอง โดยแทบไม่เคยสร้างประโยชน์ตอบแทนแก่นิการากัวเลย

    ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชาวต่างชาติที่เป็นผู้ถือครองพาสปอร์ตนิการากัว สามารถใช้เดินทางเข้าออกประเทศต่างๆ ได้ถึง 110 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอ “วีซ่า” แต่ที่ผ่านมาพบหลักฐานว่ามีชาวต่างชาติบางรายที่นำพาสปอร์ตนิการากัวไปใช้เป็นเครื่องมือในการเดินทางไปปลุกปั่นหรือสร้างความวุ่นวายทางการเมืองยังประเทศต่างๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศและชาวนิการากัวโดยรวม

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2012 กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐนิการากัว ตัดชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีทุจริตในต่างแดนออกจากรายชื่อนักลงทุนในโครงการ “เมกะโปรเจกต์” ขุด “คลองนิการากัว” มูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 950,395 ล้านบาท) ถือเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลนิการากัวไม่ปลื้ม และอาจมีการยกเลิกหนังสือเดินทางที่มอบให้อดีตผู้นำรัฐบาลไทยรายนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงปี 2009

    รายงานข่าวจากกรุงมานากัว เมืองหลวงของนิการากัวในเวลานั้นระบุว่า นายมานูเอล โกโรเนล เคาต์ซ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐนิการากัวขณะนั้น ออกมาเปิดเผยรายชื่อนักลงทุนต่างประเทศที่เตรียมเข้ามาร่วมลงทุนกับทางรัฐบาลเพื่อสร้างเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศสายใหม่ คือ คลองนิการากัวความยาว 200 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกเข้าด้วยกัน หวังเป็นคู่แข่งกับ “คลองปานามา” ที่อยู่ในประเทศปานามา เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอเมริกากลาง

    โดยทางกระทรวงต่างประเทศนิการากัวไม่ใส่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยเข้าไปด้วย ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ซาเบดราให้ทำหน้าที่ “ทูตพิเศษด้านการลงทุน” ของรัฐบาลนิการากัวมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2009 หลังจากมีการออกหนังสือเดินทางนิการากัวให้ในเดือนมกราคมปีเดียวกัน

    ท่าทีดังกล่าวของกระทรวงต่างประเทศนิการากัวทำให้หลายฝ่ายรวมถึงเปโดร โฆอากิง ชามอร์โร สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณอาจกระทำการบางอย่างซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ประธานาธิบดีออร์เตกา เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้เป็น “ชาวต่างชาติ”ที่ออร์เตกาไว้วางใจมากที่สุดถึงขั้นมอบตำแหน่งเอกอัครราชทูตด้านการลงทุน ให้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ

    ทั้งนี้ รัฐบาลนิการากัวคาดหวังว่าหากโครงการขุดคลองนิการากัวแล้วเสร็จ และสามารถเปิดใช้บริการได้นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 เป็นต้นไป จะช่วยนำเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเข้าประเทศ และจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนิการากัวกว่า 5.9 ล้านคนทั่วประเทศดีขึ้นกว่าในขณะนี้ ซึ่งราวครึ่งหนึ่งมีฐานะยากจน ขณะที่สมาชิกรัฐสภานิการากัวซึ่งมีกลุ่มการเมือง “ซานดินิสตา” ของออร์เตกาครองเสียงข้างมาก ก็ได้ให้ความเห็นชอบต่อโครงการขุดคลองดังกล่าวด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย

    [​IMG]

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074552
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้ยูเครน หลังตกลงราคากันไม่ได้
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 19:09 น. (แก้ไขล่าสุด 2 กรกฎาคม 2558 11:47 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ธุรกิจก๊าซยักษ์ใหญ่ “ก๊าซพรอม” ระบุในวันพุธ (1 ก.ค.) ว่าได้หยุดส่งจ่ายก๊าซธรรมชาติให้กับยูเครน หลังการเจรจาเรื่องค่าใช้จ่ายรอบล่าสุดระหว่างรัสเซียกับยูเครนล้มไม่เป็นท่า

    ก๊าซพรอมระบุในคำแถลงว่า ยูเครนไม่ยอมจ่ายค่าก๊าซสำหรับเดือนกรกฎาคม จึงได้ทำการหยุดส่งจ่ายก๊าซธรรมชาติให้กับยูเครนตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันที่ 1 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยเน้นย้ำด้วยว่าจะไม่มีการส่งจ่ายก๊าซให้กับยูเครนอีกแล้ว หากไม่ยอมจ่ายเงินล่วงหน้า

    เมื่อวันอังคาร ยูเครนได้ประกาศหยุดซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย หลังการเจรจาเรื่องก๊าซในกรุงเวียนนาที่มีอียูเป็นคนกลาง ล้มไม่เป็นท่า

    นาฟโตก๊าซ ธุรกิจพลังงานของยูเครน ระบุว่าการจัดส่งก๊าซไปยังยุโรปนั้นจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยบอกว่าจะยังคงมีการจัดส่งก๊าซของรัสเซียไปฝั่งตะวันตกให้แก่ลูกค้าที่เป็นชาติยุโรปรายอื่นตามปกติ

    ช่วงที่ผ่านมา รัสเซียได้ขึ้นราคาก๊าซกับทางยูเครนมากขึ้น หลังจากที่มีการโค่นประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ที่ดินแดนหมีขาวให้การหนุนหลัง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ขณะที่ทางยูเครน ตอนนี้หันไปพึ่งพาพลังงานจากชาติยุโรปมากขึ้น รวมถึงประเทศที่อุดมพลังงานอย่างนอร์เวย์

    รัสเซียเคยเสนอจะคงราคาก๊าซที่ขายให้ยูเครนไว้ที่ตัวเลข 247 ดอลลาร์ต่อก๊าซ 1,000 ลูกบาศก์เมตร จนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ซึ่งนั่นเป็นราคาที่ถูกกว่าเดิม 40 ดอลลาร์ จากราคาที่รัสเซียเคยตั้งไว้ในข้อตกลงก่อนหน้านี้ แต่ทางยูเครนนั้นต้องการให้ลดราคาลงไปอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์

    การต่อรองราคาก๊าซระหว่างรัสเซียกับยูเครนในช่วงสิ้นปีนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งที่ผ่านมารัสเซียเคยหยุดส่งก๊าซธรรมชาติให้กับยูเครนและกระทบต่อการส่งก๊าซให้กับทางยุโรปมาแล้ว

    อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่ายูเครนที่ต้องการจะเติมเชื้อเพลิงให้เต็มโรงเก็บใต้ดินก่อนถึงฤดูหนาว อาจจะกลับมาต่อสัญญาซื้อก๊าซจากรัสเซียได้อีก ซึ่งราคาคงจะไม่ถูกลงกว่าที่เป็นอยู่นี้อีกแล้ว

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000074515
     

แชร์หน้านี้

Loading...