ติดตามสถานะการณ์

In Pics : ชาวกรีซ2หมื่นชุมนุมหนุนข้อตกลงเจ้าหนี้ แต่เอเธนส์ผิดนัดแน่แล้วหลังยุโรปปัดข้อเสนอนาทีท้าย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 03:24 น.



ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนในเอเธนส์วันอังคาร(30มิ.ย.) เพื่อแสดงพลังสนับสนุนข้อตกลงช่วยเหลือตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้นานาชาติ

เอเอฟพี - ประชาชนหลายพันคนเดินขบวนในเอเธนส์วันอังคาร(30มิ.ย.) เพื่อแสดงพลังสนับสนุนข้อตกลงช่วยเหลือตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้นานาชาติที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ปฏิเสธ ขณะที่กรีซน่าจะเข้าสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิคแน่นอนแล้ว หลังที่ประชุมทางไกลฉุกเฉินของรัฐมนตรีคลังยูโรโซน บอกปัดข้อเสนอใหม่ที่เอเธนส์ยื่นมาในนาทีสุดท้าย

มีประชาชนอย่างน้อย 20,000 คนโบกธงสหภาพยุโรป ธงชาติกรีซและเป่านกหวีด รวมตัวกันหน้ารัฐสภาในจัตุรัสซีนทักมาในวันอังคาร(30มิ.ย.) หรือ 5 วันก่อนการลงประชามติตัดสินชะตาว่าจะยอมรับข้อตกลงกู้ยืมหรือไม่

เสียงตะโกน "ออกไป ออกไป!" ดังขึ้นจากฝูงชนซ้ำๆ ขณะที่กลุ่มคนที่มารวมตัวกันในวันนี้ มีทั้งนักธุรกิจและคนเกษียณอายุ หรือยกขบวนกันมาทั้งครอบครัว เพื่อแสดงความไม่พอใจนายซีปราสและพรรคไซรีซา พรรคการเมืองซ้ายจัดของเขา

โต๊ะเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้พังครืนลง หลังนายซีปราส สร้างความตกตะลึงด้วยการประกาศจัดลงประชามติข้อตกลงช่วยเหลือ ขณะที่นายซีปราสต้องประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน หลังจากข่าวดังกล่าวกระพือความตื่นตระหนกแก่ชาวกรีซที่แห่แหนกันไปถอนเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ เพื่อปกป้องเงินฝากของตนเองเผื่อในกรณีที่กรีซต้องออกจากยูโรโซน

วาซซิลิกี ซาลากา ทนายความรายหนึ่งที่เข้าร่วมการชุมนุมบอกว่าตอนนี้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในกรีซไร้ซึ่งความสามารถ ขาดความเป็นกลุ่มก้อนและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองต้องการอะไร

การเดินขบวนในวันอังคาร(30มิ.ย.) เกิดขึ้น 1 วันหลังจากมีประชาชนราว 17,000 คนรวมตัวกันบนท้องถนนในเอเธนส์และเทสซาโลนิกิ เพื่อสนับสนุนนายซีปราส โดยบอกว่าจะทำตามเสียงเรียกร้องของผู้นำรายนี้ที่ขอให้โหวตต่อต้านข้อตกลงล่าสุดในการลงประชามติวันอาทิตย์นี้(5ก.ค.) แม้เสี่ยงผลักให้ประเทศต้องออกจากยูโรโซนก็ตาม

เหตุชุมนุมในวันอังคาร(30มิ.ย.) ยังเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามแก้วิกฤตจนถึงวินาทีสุดท้าย โดยเหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้ประชุมทางไกลฉุกเฉินในวันอังคาร(30มิ.ย.) เพื่อพิจารณาข้อเสนอที่เอเธนส์ยื่นมา ไม่กี่ชั่วโมงก่อนโครงการช่วยเหลือปัจจุบันที่มีต่อกรีซจะหมดอายุลง

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อว่า เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเหล่ารัฐมนตรีคลังยูโรโซน ปฏิเสธข้อเสนอขอขยายโครงการช่วยเหลือออกไป จึงเป็นไปได้อย่างสูงที่กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) กระนั้นก็ตามการเจรจาจะดำเนินต่อไปในวันพุธ(1ก.ค.)

นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ร้องขอข้อตกลงช่วยเหลือ 2 ปีกับสหภาพยุโรปเพื่อปกป้องประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตของเขา ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าโปรแกรมแพกเกจเงินกู้ปัจจุบัน ที่ยังเหลือเงินงวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโร จะหมดอายุลงตอนเวลา 22.00 จีเอ็มที(ตรงกับเมืองไทย 05.00น.)

นายกรัฐมนตรีซีปราส ยังร้องขอขยายโครงการช่วยเหลือปัจจุบันออกไปในระยะสั้น เพื่อหลีกเลี่ยง "ผิดนัดชำระหนี้ทางเทคนิค" หลังมีกำหนดต้องใช้หนี้คืนแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอ) จำนวน 1,500 ล้านยูโร ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

อย่างไรก็ตามหลังจากหารือทางไกลเพื่อพิจารณาข้อเสนอนาทีสุดท้ายจากกรีซ เหล่านักการเมืองอียูยืนยันว่าพวกเขาไม่ตอบตกลงด้วย "เส้นตายสุดท้ายสำหรับขยายโครงการช่วยเหลือกรีซคือเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว สืบเนื่องจากกระบวนการในรัฐสภา จึงไม่สามารถขยายโครงการไปไกลกว่าวันนี้ได้" ปีเตอร์ คาซิมีร์ รัฐมนตรีคลังสโลวาเกียระบุบนทวิตเตอร์

ในถ้อยแถลงก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(30มิ.ย.) รัฐบาลซ้ายจัดกรีซบอกว่าพวกเขายังอยู่บนโต๊ะเจรจาและร้องขอโปรแกรมช่วยเหลือใหม่ 2 ปีจากกองทุนช่วยเหลือของอียู หรือก็คือกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) แม้แนะนำให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงโหวต "โน" ต่อข้อเรียกร้องปฏิรูปของเหล่าเจ้าหนี้อียู-ไอเอ็มเอฟ


In Pics :

 

ภูเขาไฟปะทุใกล้แหล่งน้ำพุร้อนดังญี่ปุ่น สั่งอพยพผู้คน-จำกัดการเข้าพื้นที่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 00:30 น.



รอยเตอร์ - ภูเขาไฟลูกหนึ่งในเมืองฮาโกเนะ แหล่งน้ำพุร้อน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงโตเกียว เกิดปะทุเล็กๆในวันอังคาร(30มิ.ย.) ส่งผลให้ทางการต้องจำกัดการเข้าพื้นที่และเรียกร้องประชาชนจำนวนหนึ่งอพยพออกมา ท่ามกลางคำเตือนมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปะทุเพิ่มเติม

ญี่ปุ่น ประสบเหตุภูเขาไฟปะทุหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ หนึ่งในนั้นทำให้ต้องอพยพผู้คนจากเกาะแห่งหนึ่งทางใต้ของประเทศ และในเดือนกันยายน มีผู้เสียชีวิต 63 ราย จากเหตุภูเขาไฟออนตาเกะที่แออัดไปด้วยนักปีนเขาเกิดระเบิดครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน


@เถ้าถ่าน ก๊าซและควันถูกพ่นออกมาจากแอ่งแห่งหนึ่งบนภูเขาไฟฮาโกเนะ อันเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ห่างจากกรุงโตเกียว ประมาณ 80 กิโลเมตร

เถ้าถ่านภูเขาไฟถูกพ่นออกมาจากแอ่งแห่งหนึ่งบนภูเขาฮาโกเนะ ซึ่งพ่นกลุ่มก๊าซและควันออกมาเป็นจำนวนมากผิดปกติในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดสถานตากอากาศบางส่วนในช่วงเริ่มต้นของฤดูกาลท่องเที่ยวน้ำพุร้อนธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆ และมีประชาชนแค่ราวๆ 40 คนเท่านั้นที่ถูกร้องขอให้อพยพออกมา

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟดังกล่าวจากขั้น 2 สู่ระดับ 3 สั่งปิดพื้นที่ๆหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งของหน่วยงานแห่งนี้บอกว่าความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียว ไปทางตะวันตกราว 80 กิโลเมตร ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับใหม่ "มันเป็นการปะทุระดับเล็กๆ แต่ก็มีโอกาสเกิดการปะทุครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง" เขาแถลงกับผู้สื่อข่าว

เมืองฮาโกเนะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้านแหล่งน้ำพุร้อนและมีทัศนียภาพมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ จนดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนถึง 21 ล้านคนปี 2014 ในนั้นรวมเป็นชาวต่างชาติถึง 217,000 คน

โทชิสึกุ ฟูจิ นักภูเขาไฟวิทยาจากมหาวิทยาลัยโตเกียวกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะพยากรณ์ระดับของการปะทุ เนื่องจากภูเขาไฟลูกนี้ปะทุครั้งสุดท้ายเมื่อ 800 ปีก่อน "หากเริ่มมีแม็กมาเข้ามาเกี่ยวข้อง การระเบิดอาจทวีความรุนแรงขึ้น และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีสัญญาณเตือนแค่เล็กน้อย หลายอย่างตอนนี้เกิดขึ้นในระดับที่ลึก บางทีมันอาจไม่รุนแรงไปกว่านี้ แต่คุณก็ไม่สามารถบอกได้หรอกว่ามันจะเปลี่ยนไปหรือไม่"

 

เจรจานิวเคลียร์พลาดเส้นตาย แต่อิหร่าน-มหาอำนาจเห็นพ้องขยายเวลาคุยต่อ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 01:30 น.


@โต๊ะเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจ

รอยเตอร์/เอเอฟพี - อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจขยายเวลาแก่ตนเองอีก 1 สัปดาห์ เพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ หลังชัดเจนแล้วว่าคงพลาดเส้นตายในวันอังคาร(30มิ.ย.) ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและเตหะรานต่างมองในแง่ดีแม้อุปสรรคต่างๆยังคงมีอยู่

ด้วยที่ทุกฝ่ายยอมรับว่าเส้นตายเดิมในวันอังคาร(30มิ.ย.) คงผ่านพ้นไปโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ อิหร่านและเหล่าชาติมหาอำนาจจึงเห็นพ้องขยายข้อตกลงชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม เพื่อจะได้มีเวลาเพิ่มเติมในการเจรจาให้ได้ข้อตกลงที่ครอบคลุม

ภายใต้ข้อตกลงชั่วคราวที่เห็นพ้องกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 และเป็นที่รู้จักกันในชื่อแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Plan of Action) อิหร่านยินยอมที่จะใช้มาตรการบางอย่างเพื่อจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขาแลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ก่อนเดินหน้าเจรจาหาข้อตกลงสุดท้าย

ความสำเร็จของการเจรจาใดๆจะช่วยบรรเทาความเป็นปกปักษ์หลายทศวรรษระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ แต่หลายชาติพันธมิตรของสหรัฐฯในภูมิภาคดังกล่าว รวมถึงอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย แสดงความเคลือบแคลงกับข้อตกลงนี้ เช่นเดียวกับพวกหัวแข็งกร้าวในวอชิงตันและเตหะราน

แมรี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่า "P5+1 และอิหร่าน ตัดสินใจขยยมาตรการต่างๆภายใต้แผนปฏบัติการร่วมไปจนถึงวันที่ 7 กรกฎาคม สำหรับให้เวลาเพิ่มเติมแก่โต๊ะเจรจาที่หวังบรรลุทางออกระยะยาวในประเด็นนิวเคลียร์อิหร่าน" ทั้งนี้ P5+1 ได้แก่ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ประกอบด้วย อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซียและสหรัฐฯ และบวกหนึ่งคือเยอรมนี

เหล่าคณะทูตบอกว่าการเจรจาในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จะดำเนินต่อไปตราบที่จำเป็นเพื่อบรรลุข้อตกลงที่ครอบคลุม ซึ่งมุ่งหมายสัญญายุติมาตรการคว่ำบาตรแลกกับอิหร่านจำกัดกิจกรรมทางนิวเคลียร์ต่างๆที่อ่อนไหวเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ทศวรรษ

นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ยังต้องใช้ไม้ค้ำเนื่องจากประสบอุบัติเหตุขาหัก คืนสู่โต๊ะเจรจาในวันอังคาร(30มิ.ย.) เช่นเดียวกับนายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ที่มาถึงในตอนเช้า หลังบินกลับประเทศเพื่อไปปรึกษาหารือกับเหล่าผู้นำอิหร่านในเตหะราน

"ผมมาที่นี่เพื่อให้ได้ข้อตกลงสุดท้าย และผมคิดว่าเราสามารถทำได้" ซารีฟ บอกกับผู้สื่อข่าว ก่อนที่มีกำหนดหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีกับรัสเซียในวันอังคาร(30มิ.ย.) ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนหมีขาว เสริมว่าข้อตกลงระยะยาวสำหรับจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อยู่ใกล้แค่เอื้อม

นานกว่า 1 สัปดาห์แล้วที่เหล่าชาติมหาอำนาจและอิหร่านทำงานกันดึกดื่นเพื่อหาทางฝ่าทางตันในการเจรจาที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะขยับเข้าใกล้บทสรุปทางในบวกเช่นนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามยังมีอุปสรรคขวางทางอยู่ ด้วยสองฝ่ายยังคงเห็นต่างเกี่ยวกับขอบเขตและกำหนดเวลาของการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน รวมถึงลักษณะของกลไกลการตรวจสอบเพื่อรับประกันว่าเตหะรานจะทำตามข้อตกลง

โดยอุปสรรคใหญ่คือข้อเรียกร้องของชาติตะวันตกที่ต้องการให้คณะผู้ตรวจสอบจากสหประชาชาติเข้าถึงที่ตั้งทางทหารและศูนย์วิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยแม้ว่าเหล่าทูตตะวันตกจะอ้างว่าใกล้ได้ทางออกแล้ว แต่เจ้าหน้าที่เตหะรานยืนกรานว่าการเข้าถึงที่ตั้งทางทหารนั้น ถือว่าเป็นการข้ามเส้นที่ขีดไว้โดย อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของพวกเขา

 

ฉลุย! MOI “ไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น” ทวายโปรเจกต์ - เซ็น 4 ก.ค.“บิ๊กตู่” สักขีพยาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2558 18:24 น. (แก้ไขล่าสุด 30 มิถุนายน 2558 20:08 น.)



@ร่างบันทึกแสดงเจตจำนงสามฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และญี่ปุ่น เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ผ่านเป็นมติ ครม. เตรียมให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้ลงนาม ในวันที่ 4 ก.ค.นี้

ครม. ไฟเขียวร่าง MOI 3 ฝ่าย “ไทย - เมียนมา - ญี่ปุ่น” พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย คาด “เลขาฯ สภาพัฒน์” บินเซ็น 4 ก.ค. นี้ โดยมี “บิ๊กตู่ - นายกฯ ญี่ปุ่น - นายกฯ เมียนมา” ร่วมเป็นสักขีพยานระหว่างการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง “3 - 4 ก.ค. นี้” เผย “นายกฯ” เตรียมร่วมลงนามร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว

วันนี้ (30 มิ.ย.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างบันทึกแสดงเจตจำนงสามฝ่าย ระหว่างไทย เมียนมา และ ญี่ปุ่น เกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย

2. อนุมัติให้เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกแสดงเจตจำนง ทั้งนี้ เชื่อว่า จะขอลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง จะมีการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง ในวันที่ 4 ก.ค. ที่ญี่ปุ่น ร่าง MOI แสดงความตั้งใจให้ญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมเข้ามาลงทุนกับไทยและพม่ามากขึ้น

3. หากมีความจำเป็นที่ต้องแก้ไขปรับปรุงบันทึกแสดงเจตจำนง ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญก่อนมีการลงนาม ให้ สศช. ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พิจารณาดำเนินการได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

สำหรับสาระสำคัญของร่างบันทึกแสดงเจตจำนงฯ ประกอบด้วย 1. ด้านการลงทุนในนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) 2. ด้านความร่วมมือทางเทคนิคในการพัฒนาโครงการระยะสมบูรณ์ 3. ด้านการก่อสร้างทางหลวงในโครงการระยะสมบูรณ์ 4. ด้านการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม และ 5. ด้านอื่นๆ

ทั้งนี้ บันทึกแสดงเจตจำนงมีผลเป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนาม และหลังจากนั้นจะต่ออายุอีกครั้งละ 5 ปี เว้นแต่ประเทศหนึ่งประเทศใดในสามประเทศแจ้งยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรแก่อีกสองประเทศหกเดือนล่วงหน้า

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 7 (7 th Mekong - Japan Summit) ในวันที่ 3 - 4 กรกฎาคม 2558 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมลงนามในร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2015 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น

โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2015 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ตามที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เสนอ

สำหรับร่างยุทธศาสตร์กรุงโตเกียว ค.ศ. 2015 เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น จะระบุวิสัยทัศน์การพัฒนาลุ่มน้ำโขงระหว่าง พ.ศ. 2559 - 2561 (ค.ศ. 2016 - 2019) ซึ่งมีใจความสำคัญคือ การพัฒนาอย่างมีคุณภาพ (quality growth) กล่าวคือ การพัฒนาที่ยั่งยืน มั่นคง และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนการพัฒนาภาคการผลิตเพื่อให้เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง โดยสาขาความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฉบับดังกล่าวแบ่งออกเป็น 4 เสาหลัก ได้แก่ 1. ความพยายามด้านกายภาพ : การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านอุตสาหกรรมในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านกายภาพ 2. ความพยายามด้านกฎระเบียบ : การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ด้านอุตสาหกรรมและการเสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบ 3. การพัฒนาที่ยั่งยืนสู่ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสีเขียว และ 4. การประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ

ร่างยุทธศาสตร์ฯ เป็นเอกสารที่มีสาระสำคัญเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ความร่วมมือและความพยายามผลักดันให้เกิดความร่วมมือเพิ่มเติมในด้านต่างๆ ระหว่างประเทศในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและญี่ปุ่น ซึ่งไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบกับเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของไทยในการมีบทบาทในฐานะหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของประเทศลุ่มน้ำโขงอีกด้วย

สำหรับความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Mekong-Japan Cooperation) ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2551 ประกอบด้วยสมาชิก 6 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา ไทย เวียดนาม และ ญี่ปุ่น โดยไทยมีบทบาทในการเป็นหุ้นส่วนของญี่ปุ่นในการพัฒนาลุ่มน้ำโขง เพื่อการพัฒนาอนุภูมิภาคอย่างยั่งยืน ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประเทศสมาชิก ลดช่องว่างความเจริญระหว่างประเทศสมาชิกและภายในภูมิภาคอาเซียน.

 

ไอเอสขู่โค่น “ฮามาส” ยึดฉนวนกาซาเป็น “รัฐอิสลาม” อีกแห่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 09:10 น.



@กลุ่มมุสลิมซาลาฟิสต์ในฉนวนกาซาชูธงสัญลักษณ์ไอเอส ระหว่างออกมาประท้วงนิตยสารเสียดสี ชาร์ลี เอ็บโด ของฝรั่งเศส (แฟ้มภาพ)

รอยเตอร์ – กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ออกคลิปวีดีโอข่มขู่วานนี้ (30 มิ.ย.) ว่าจะยึดฉนวนกาซาเพื่อแปรเป็นเขตอิทธิพลอีกแห่งในตะวันออกกลาง โดยอ้างว่ากลุ่มฮามาสซึ่งปกครองดินแดนปาเลสไตน์ไม่ได้บังคับใช้บทบัญญัติศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัดพอ

คลิปวีดีโอที่ไอเอสเผยแพร่มาจากฐานที่มั่นของพวกเขาในซีเรีย ถือเป็นการท้าทายอย่างโจ่งแจ้งต่อกลุ่มฮามาส ซึ่งพยายามปราบปรามนักรบญิฮาดในกาซาที่ขัดขวางข้อตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล รวมถึงการปรองดองกับกลุ่มฟาตาห์ของประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส ซึ่งมีสหรัฐฯหนุนหลังอยู่

“เราจะขุดรากถอนโคนรัฐยิวให้หมด พวกท่าน กลุ่มฟาตาห์ ตลอดจนพวกนิยมทางโลกทั้งหลายล้วนไม่มีค่าอะไรเลย และจะต้องถูกบดขยี้ด้วยกองกำลังอันมหาศาลของเรา” สมาชิกไอเอสซึ่งปกปิดใบหน้ากล่าวในคลิปวีดีโอที่ส่งถึง “พวกทรราชฮามาส”

“กฎหมายชารีอะห์จะถูกนำมาใช้ในฉนวนกาซา เราขอสาบานว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเลแวนต์ทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ค่ายยามูค จะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งในกาซา” เขากล่าว โดยหมายถึงการรุกคืบของไอเอสสู่ดินแดนต่างๆ ในซีเรีย รวมถึงเขตหนึ่งในกรุงดามัสกัสที่มีผู้อพยพชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่

ไอเอสซึ่งเป็นกลุ่มนักรบนิกายสุหนี่ยังสามารถยึดดินแดนในอิรักไว้ได้อย่างกว้างขวาง และอวดอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีหลายครั้งทั้งในอียิปต์ ลิเบีย ตูนิเซีย และเยเมน

แม้ฮามาสจะเป็นขบวนการอิสลามิสต์ที่เกลียดชังอิสราเอลเช่นเดียวกับนักรบญิฮาดอื่นๆ แต่ก็มีเป้าหมายหลักอยู่ในกรอบความเป็นชาตินิยมปาเลสไตน์เท่านั้น ไม่ได้คิดก่อสงครามศาสนาระดับโลก

ความพยายามของฮามาสที่จะต่อต้านนักรบไอเอสไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากนานาชาติเท่าใดนัก เพราะถูกตราหน้าเป็น “กลุ่มก่อการร้าย” โดยรัฐบาลสหรัฐฯ อิสราเอล และสหภาพยุโรป

อิสราเอล กัตซ์ รัฐมนตรีข่าวกรองของรัฐยิว ออกมากล่าวหาวานนี้ (30) ว่าฮามาสสมคบคิดกับเครือข่ายไอเอสบนคาบสมุทรซีนายของอียิปต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮามาสปฏิเสธเสียงแข็งมาโดยตลอด

“พวกเขาให้ความช่วยเหลือกันทั้งในด้านการลักลอบขนอาวุธและการโจมตีแบบก่อการร้าย รัฐบาลอียิปต์และซาอุดีอาระเบียต่างรู้ดี” กัตซ์ กล่าวในงานเสวนาที่กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งจัดขึ้นโดยวารสารด้านกลาโหมในอิสราเอล

“ขณะเดียวกัน พวกไอเอสก็เข้ามาหยามหน้าฮามาสถึงในฉนวนกาซา แต่พวกเขายังคงมีเป้าหมายในการมุ่งทำลายชาวยิวเหมือนกัน ไม่ว่าจะในอิสราเอลหรือในต่างประเทศ”

 

ข้อมูลชี้ บริษัทแดนปลาดิบ มีแนวโน้มฮุบกิจการในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 09:19 น.



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – ข้อมูลล่าสุดชี้ บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น มีแนวโน้มทุ่มเงินเข้า “ซื้อกิจการ” ของบริษัทในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

ข้อมูลจากการสำรวจโดย “ธอมสัน รอยเตอร์” ที่มีการเผยแพร่ในวันอังคาร ( 30 มิ.ย.) ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2015 นี้ พบบริษัทเอกชนของญี่ปุ่นเข้าซื้อกิจการบริษัทในต่างประเทศสูงถึง 324 แห่ง โดยวงเงินที่บริษัทจากแดนปลาดิบใช้ในการเทคโอเวอร์บริษัทต่างชาติทั้งหมดระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายนปีนี้คิดเป็นวงเงินสูงถึง 5.6 ล้านล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยราว 1.53 ล้านล้านบาท)

 

ช็อก! “พรชัย ยวนยี” 1 ใน 14 นักศึกษาชุมนุมต้านรัฐประหาร ต้องคดีบ่อนไฮโซย่านทองหล่อ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 12:26 น. (แก้ไขล่าสุด 1 กรกฎาคม 2558 13:02 น.)



ASTVผู้จัดการ - แฉข้อมูล “แซม-พรชัย ยวนยี” 1 ใน 14 นักศึกษาต้านรัฐประหารที่ถูกจับกุมและคุมขัง เป็น 1 ใน 26 ผู้ต้องหาที่เพิ่งถูกจับคดีการพนันในบ่อนหรูภายในคอนโดฯ ซอยสุขุมวิท 24 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. และถูกศาลตัดสินจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ภรรยาเผยมีแผนจะไปเรียนต่อด้วยกัน แต่ต้องล้มเลิกเพราะถูกจับ

วานนี้ (1 ก.ค.) เว็บไซต์ไทยอินโฟเน็ต ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ 1 ใน 14 นักศึกษาที่ถูกจับกุมและคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หัวข้อว่า “หลักฐาน 1 ใน 14 นักศึกษา เพิ่งโดนจับคาบ่อนย่านสุขุมวิท” โดยบุคคลดังกล่าวคือ นายพรชัย ยวนยี หรือ “แซม” โดยเป็น 1 ใน 26 ผู้ต้องหาที่ถูกจับคาบ่อนหรูในคอนโดมิเนียมภายในซอยสุขุมวิท 24 เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2558 ที่ผ่านมา

“พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ และ พ.ต.ต.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเข้าตรวจค้นห้องเลขที่ 52/14 (8A) ชั้นที่ 8 ของอาคารเลอ รัฟฟิเน่ คอนโดมิเนียม ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. หลังได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีการลักลอบเปิดบ่อนพนันไพ่โป๊กเกอร์

ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดฯ หรูสูง 29 ชั้น ห้องที่รับแจ้งเป็นลักษณะห้อง 2 ชั้น ภายในห้องแบ่งเป็นห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง และห้องโถงรับแขก มีสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณด้านหน้าห้อง ขณะที่นักพนันเปิดประตูออกมาจากห้อง จึงได้แสดงขอเข้าตรวจค้นพบนักพนันกำลังนั่งเล่นไพ่โป๊กเกอร์ อยู่บริเวณห้องโถง และสามารถทำการควบคุมตัวนักพนันไว้ได้ โดยจุดนี้ยังพบห้องดัดแปลงไว้แลกชิปให้กับนักพนันอยู่ตรงกลางห้อง ขณะเดียวกัน กำลังอีกชุดหนึ่งได้เข้าตรวจสอบบริเวณห้องนอนบนชั้น 2 พบนักพนันอีกกลุ่มหนี่งกำลังนักเล่นไพ่โป๊กเกอร์ จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมนักพนันทั้งหมดเป็นชาวไทย และ ต่างชาติ รวม 26 คน เป็นชาย 22 คน หญิง 4 คน พร้อมด้วยของกลางโต๊ะสำหรับเล่นพนันไพ่ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว ไพ่จำนวนกว่า 25 สำรับ ชิปแลกเงิน จำนวนกว่า 5,500 ชิ้น (คิดเป็นเงินมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท) เงินสด 23,000 บาท สมุดจดบัญชีรายรับรายจ่าย และสมุดบัญชีสมาชิกมีวงเงินนับล้านบาท จำนวน 3 เล่ม โดยมีนายจตุพล วิสุทธิแสง อายุ 36 ปี รับเป็นผู้ดูแลสถานที่ และ น.ส.ปรียนันท์ ประเสริฐสม อายุ 30 ปี เป็นพนักงานควบคุมบัญชีและทำหน้าที่แลกชิป” ข่าวจาก ASTV ผู้จัดการ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ระบุ (อ่าน : ตร.บุกจับนักพนันคาคอนโดหรูใน ซ.สุขุมวิท 24 เผยเช่าคอนโดทำบ่อนเดือนละแสน)

ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ยังระบุรายชื่อของผู้ต้องหาคดีทั้ง 26 คนที่ต้องคดีบ่อนพนันหรูด้วยโดยระบุว่า

“ส่วนกรณีชุดสืบสวน สน.ทองหล่อ จับบ่อนพนันไพ่โป๊กเกอร์คอนโดหรูภายในซอยสุขุมวิท 24 ความคืบหน้าจาก สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.ท.ศิริพงศ์ กิติภิวัฒน์ พงส.สน.ทองหล่อ พร้อมกำลังคุมตัวผู้ต้องหา 26 คน ส่งฟ้องที่ศาลแขวงพระนครใต้เวลา 13.00 น. ประกอบด้วย น.ส.ปรียนันท์ ประเสริฐสม อายุ 30 ปี คนแลกชิป น.ส.เชือน รวย อายุ 31 ปี ชาวกัมพูชา คนแจกไพ่ น.ส.เลือง เชาทิน อายุ 29 ปี ชาวกัมพูชาคนแจกไพ่ นายจตุพล วิสุทธิแสง อายุ 36 ปี นายภัทร ฉัตรชัยสุขา อายุ 30 ปี นายวิศน โอฬารสกุลวงศ์ อายุ 33 ปี มือกีตาร์เจ้าของรางวัลโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม ปี 49 อัลบั้ม In my room นายแดนนี่ เสตรน อายุ 26 ปี นักร้องดังหนุ่มหล่ออินดี้ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ นายพรชัย ยวนยี อายุ 25 ปี อดีตเลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นายชานนท์ ชิวปรีชา อายุ 24 ปี ญาตินายตำรวจยศ พล.ต.อ.ชื่อดัง นายธนภูมิ ปริสุทธิกุล อายุ 25 ปี นายธันยา พันธศุภร อายุ 23 ปี นายสุพิชญ์กรณย์ ศรีประเสริฐ อายุ 24 ปี นายนรนิฐ ศรีตันตนานนท์ อายุ 24 ปี นายเสน่ห์ ปานซิงห์ อายุ 57 ปี นายบัณณวิช ทองวิจิตร อายุ 33 ปี นายวิศิษฏ์ แสงอำนาจ อายุ 49 ปี

นายอัครัตน์ สละรักษ์ อายุ 38 ปี นายอนันต์ หอมชิต อายุ 41 ปี นายพิชิตพงษ์ สีลภูสิทธิ์ อายุ 41 ปี นายจีรพงศ์ มงคลสมบัติศิริ อายุ 26 ปี นายวินเซนต์ ลิม เติง อายุ 32 ปี ชาวมาเลเซีย นายเลือง เฉิน ซิง อายุ 33 ปี ชาวสิงคโปร์ นาย โอเมียร์ อารีฟ ชีคห์ อายุ 41 ปี ชาวปากีสถาน นายเหม็งโท เฮง อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา นายเหยิน เยน เชม อายุ 35 ปี ชาวมาเลเซีย และ น.ส.เชือน บัน อายุ 40 ปีชาวกัมพูชา พร้อมของกลาง โต๊ะสำหรับเล่นโป๊กเกอร์ 1 ตัว เก้าอี้ 10 ตัว ชิปกลม (แทนเงินสด 270 อัน) เงินสด 23,400 บาท ห้องเล่นพนันชั้นบน ไพ่ 1 สำรับ ชิปกลม 190 อัน โต๊ะเล่นโป๊กเกอร์ 1 ตัว เก้าอี้ 6 ตัว และห้องแลกชิปชั้นล่าง ชิปกลม 5,300 อัน ชิปเหลี่ยม 20 อัน ไพ่ 23 สำรับ โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง สติกเกอร์แปะชิป 60 แผ่น สมุดบันทึกรายรับรายจ่าย 3 เล่ม และแฟ้มรายการแลกชิป 1 แฟ้ม” ไทยรัฐระบุ (อ่านข่าว : จับเข่าคุย‘สมยศ’ กลุ่มสปช.รักชาติไม่สนผลโพลคนปฏิเสธบ่อน)

นอกจากนี้ ร.ต.ท.ศิริพงศ์ กิติภิวัฒน์ พนักงานสืบสวน สน.ทองหล่อ เจ้าของคดีบ่อนพนันไพ่โป๊กเกอร์ที่คอนโดหรูภายในซอยสุขุมวิท 24 ยังเปิดเผยกับสื่อด้วยว่า สำหรับ นายพรชัย หรือแซม คือ 1 ในผู้ต้องหา 26 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวขณะเข้าจับกุมบ่อนการพนันไพ่โป๊กเกอร์ภายในซอยสุขุมวิทเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. โดยถูกศาลตัวสินจำคุก 3 เดือน ปรับ 1,500 บาท โดยโทษจำคุกนั้นให้รอลงอาญา 2 ปี แต่ผู้ต้องหากลับไปกระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองโดยหากศาลพิพากษาอย่างไรก็จะต้องนำโทษจำคุก 3 เดือนนี้ไปรวมด้วย

สำหรับนายพรชัย เป็นอดีตนิสิตนักศึกษาที่จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นอดีตเลขาฯ สนนท. โดยมีด้วยรายงานว่า น.ส.ธีรพิมล เสรีรังสรรค์ หรือ “เอ” ภรรยาของนายพรชัย ได้เข้าเยี่ยมสามีที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ น.ส.ธีรพิมลยังให้สัมภาษณ์สื่อด้วยว่า ก่อนถูกจับตนและนายพรชัยมีแผนจะไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อฝึกทักษะด้านภาษาด้วยกันแต่ก็ต้องมาล้มเลิกไป

"แซมถูกจับ โดนตอนแรกมีแผนว่าจะไปเรียนต่อด้วยกันเพื่อฝึกทักษะด้านภาษา เพื่อนำกลับมาใช้พัฒนาประเทศ" น.ส.ธีรพิมลระบุ

 

ชาวเยเมนที่เสียชีวิตที่ถูกกบฎฮุตียิงจรวดถล่ม อาจเป็นกองกำลังซึ่งภักดีต่อประธานาธิบดีอับเบดรับโบ มานซูร์ ฮาดี ซึ่งยังคงสู้รบเพื่อปกป้องเมืองนี้ ภายใต้การสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุฯ หรือประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

กบฏฮูตียิงจรวดถล่มย่านที่อยู่อาศัยในเอเดน ชาวเยเมนดับ 20 ราย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 13:42 น.



เอเอฟพี - แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์ เปิดเผยว่า กบฏฮูตียิงจรวดถล่มย่านที่อยู่อาศัยของผู้คนในเมืองเอเดนเมื่อช่วงรุ่งสางของวันพุธ (1 ก.ค.) ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บอีก 41 ราย

อาลี อัล-อาห์มาดี โฆษกของกองกำลังที่ภักดีต่อผู้นำเยเมน ระบุว่า กบฏฮูตีและพรรคพวกได้ถล่มเขตอัล-มานซูรา ของเมืองเอเดน ด้วยจรวด Katyusha 15 ลูก โดยยิงจากที่มั่นของพวกเขาในย่านดาร์ซาดที่อยู่ใกล้กัน

อาห์มาดีและผู้อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า จรวดเหล่านั้นเริ่มถูกยิงตอนก่อนรุ่งสาง ช่วงที่ท้องถนนกำลังวุ่นวายก่อนถึงเวลาถือศีลตอนกลางวันของชาวมุสลิมในเดือนรอมฎอน หลังจากนั้นมีการระดมยิงอีกรอบในช่วงเช้า ขณะที่ผู้คนกำลังฝังผู้เสียชีวิตจากการยิงรอบแรก

"ผู้บาดเจ็บจำนวนมาก มีอาการสาหัส" แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์บอกเอเอฟพี

เอเดนเป็นเมืองที่ประธานาธิบดีอับเบดรับโบ มานซูร์ ฮาดี เข้าไปพักพิงก่อนที่จะลี้ภัยไปยังซาอุดีอาระเบียในเดือนมีนาคม โดยที่กองกำลังซึ่งภักดีต่อเขานั้นยังคงสู้รบเพื่อปกป้องเมืองนี้ ภายใต้การสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุฯ

 

สู้วิกฤต MERS! เกาหลีใต้ประกาศ “ยกเว้นวีซ่า” ให้นักท่องเที่ยวจีน-อาเซียนบางประเทศ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2558 13:42 น.



เอเอฟพี – เกาหลีใต้ประกาศยกเว้นวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวจากจีนและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อดึงดูดกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ วันนี้ (1 ก.ค.) ภายหลังวิกฤตการระบาดของไวรัสกลุ่มทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง (MERS) ส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก

ประกาศจากรัฐบาลโซลมีขึ้น ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อ MERS ใหม่ในเกาหลีใต้ยังคงเป็น “ศูนย์” ต่อเนื่องเข้าวันที่ 4

จนถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะในเกาหลีใต้รวมทั้งสิ้น 182 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 33 ราย

กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ แถลงว่า วีซ่าที่ออกไปแล้วก่อนหน้านี้จะถูกต่ออายุให้อีก 3 เดือน เพื่อต้อนรับฤดูท่องเที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม

“มาตรการทั้งหมดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาไวรัส MERS” กระทรวงฯ ระบุในคำแถลง

ตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกาะเจจูซึ่งเป็นสถานตากอากาศชื่อดังของเกาหลีใต้มีนักท่องเที่ยวจีนไปเยือนลดลงจากปีที่แล้วถึง 46%

คิม ชอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เคยเตือนว่าเกาหลีใต้อาจสูญเสียรายได้ถึง 2,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง 50%

เกาหลีใต้จะยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. – 30 ก.ย. สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นกลุ่ม โดยประเทศที่อยู่ในข่ายได้รับการยกเว้น ได้แก่ จีน กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

วีซ่าที่ออกไปแล้วระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. จะถูกต่ออายุอัตโนมัติให้อีก 3 เดือน รวมเป็น 6 เดือน และสำหรับนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเดินทางมาเป็นกลุ่มโดยถือวีซ่าญี่ปุ่นจะสามารถพำนักอยู่ในเกาหลีใต้ได้สูงสุด 15 วัน

 

"พล.อ.ประยุทธ์" เคืองกรมชลฯ หมายหัว "กรมเจ้าท่า-กรมประมง"
เรื่องโดย Nation TV | ภาพโดย Nation TV วันที่ 1 กรกฎาคม 2558 10:56 น.

--เชียงใหม่--30 มิ.ย. 58--รายงานข่าวจากที่ประชุมครม.สัญจร จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 58 เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างจะมีความเคร่งเครียด แต่ไม่ได้เครียดเพราะกรมชลประทานแต่อย่างใด เพราะในส่วนของกรมชลประทานนั้นนายกรัฐมนตรีโกรธมาตั้งแต่การประชุมครม.เศรษฐกิจครั้งที่ผ่านมาแล้ว ในเรื่องของการระบายน้ำ ดังนั้นนายกฯจะไม่โกรธซ้ำอีก


พล.อ.ประยุทธ์ เคืองกรมชลฯ หมายหัว กรมเจ้าท่า-กรมประมง

เหตุผลที่นายกฯโกรธครั้งที่เเล้วเพราะกรมชลประทานตกลงปล่อยน้ำ 33 ล้านลบ.ม.ต่อวัน เเบบไม่หารือฝ่ายอื่นๆเลย เพราะความจริงต้องขอความเห็นชอบจากผู้เกี่ยวข้องก่อน เพราะหากปล่อยน้ำปริมาณขนาดนั้นทำให้น้ำที่มีอยู่มันไม่พอ เพราะน้ำเหลือเพียง 1,067 ล้านลบ.ม.เท่านั้น ที่จะต้องใช้ได้ถึงปลายเดือนสิงหาคมเพื่อรอฝนให้ตกตามฤดูจึงต้องลดการปล่อยน้ำลงเหลือวันละ 28 ล้านลบ.ม. ที่ต้องแบ่งไปช่วยภาคการเกษตร การอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ
แต่วันนี้นายกฯกลับเครียดกรมประมงและกรมเจ้าท่า และหมายหัว 2 กรมนี้ เพราะว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงไม่หาข้อยุติและทำความเข้าใจกับชาวประมงให้ชัดเจน และยังอ้างเหตุผลว่าไม่พร้อมเพราะไม่มีคน ทั้งๆที่ให้เวลาแล้ว หรือต้องนำประชาชนมาเป็นเครือข่ายในการแก้ปัญหา และขอแต่งบประมาณ เช่นกรณีมีข่าวว่าจะมีการปิดอ่าวไม่ให้ออกไปหาปลา

ซึ่งนายกฯก็ดูข่าวก็รู้สึกว่าในส่วนของกรมนี้ยังไม่มีความชัดเจนตรงนี้ เพราะถ้าชี้แจงก็จะมีข้อมูลแล้วว่าที่ผ่านมามีการยืดอายุเวลาของการปฏิบัติตามข้อกฎหมายมาให้โดยตลอด จนขณะนี้จะยืดถึงวันที่ 15 ก.ค.นี้ และจะให้ผ่อนผันไปเรื่อยๆรัฐบาลก็ไม่สามารถดำเนินการให้ได้เพราะมีสหภาพยุโรปและไอยูยูกดดันไทยอยู่ จึงต้องอธิบายให้ชาวประมงเข้าใจว่าจะทำการประมงแบบเดิมไม่ได้แล้ว และทุกประเทศจะต้องปรับตัวตามอียู
ทำประมงทำได้ แต่เอาไปขายใครไม่ได้ ประเทศอื่นเขาไม่ซื้อดังนั้นเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจประชาชนว่ามันผ่อนผันไม่ได้ เมื่อผ่อนผันไม่ได้ปัญหามันก็เกิดขึ้นทุกคนต้องปรับตัวและยอมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก ถ้าปิดอ่าวแล้วยังออกก็จับกุมได้เลยเพราะถ้าออกไปแล้วหาปลามาได้เขาไม่รับซื้อใครจะรับผิดชอบอีก อย่างนี้แหล่งข่าว กล่าว

"พล.อ.ประยุทธ์" เคืองกรมชลฯ หมายหัว "กรมเจ้าท่า-กรมประมง" - Nation TV

 

Varangkana Chandanabhumma ได้แชร์รูปภาพของ Unseen Tour Thailand



ผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ชมภาพแกะสลักนูนต่ำอายุกว่า 1,500 ปี ศิลปะเขมรคล้ายนางอัปสรา 3 องค์ และช่วงนี้เริ่มมีทะเลหมอกแล้ว ควรมาก่อนเวลา 05.30 น. เพื่อทันชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก
UNSEEN,

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัฐเซาท์แคโรไลน่าสหรัฐฯเผาโบสถ์คนดำอีกแห่ง เสรีภาพและประชาธิปไตยส่งออกแบบสหรัฐฯ ต้องเผา! เท่านั้นครับพี่น้อง



------------
สหรัฐฯอีกแล้วครับท่าน! เผาโบสถ์คนดำรายสัปดาห์ วันนี้ (1 ก.ค.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่ามีเหตุการณ์เผาโบสถ์คนผิวดำ Mt. Zion AME Church ในเมือง Williamsburg County รัฐ South Carolina ของสหรัฐอเมริกา เหลือแต่กำแพงอิฐโดยรอบ ทางการสหรัฐฯบอกว่ายังไม่รู้ว่าเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมาได้อย่างไร (ไม่รู้จริงๆอ่ะ?) และยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นการลอบวางเพลิงเพื่อเอาประกันหรือเป็นเพราะการเหยียดผิวสีขั้นรุนแรงกันแน่ (แต่แอ็ดมินฟันธงเลยว่ามันเป็นการเหยียดผิว)
เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พึ่งจะเผาโบสถ์คนดำที่เมือง Charlotte รัฐ North Carolina เผาแคโรไลน่าเหนือแล้วก็ต้องเผาแคโรไลน่าใต้ด้วยสินะอเมริกา? (ข่าวเผาโบสถ์คนดำที่ Charlotte https://www.facebook.com/fisont/posts/1686203818266418) รายงานไม่ได้บอกว่ามีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หรือไม่
และรายงานข่าวบอกว่า นี่นับว่าเป็นการเผาโบสถ์แห่งนี้เป็นครั้งที่สอง ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1995 ถูกเผาโดยสมาชิกของกลุ่ม KKK (Ku Klux Klan) ส่วนนาย Mark Keel จากฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของรัฐ (State Law Enforcement Division) บอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้อาจจะเกิดจากฟ้าผ่าเนื่องจากพายุก็เป็นได้ (ไปหลอกเด็กเหอะ!)
รายงานข่าวบอกอีกว่า โบสถ์ Mt. Zion AME นับเป็นโบสถ์แห่งที่ 7 ที่ถูกไฟเผานับตั้งแต่ Dylann Roof ชายผิวขาววัย 21 บุกเข้าไปกราดยิงชาวคริสเตียนผิวดำในโบสถ์ Emanuel AME Church ที่เมือง Charleston รัฐ South Carolina ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ราย (7 ครั้ง! แต่เป็นข่าวแค่ 2 ครั้งนี่นะ? ว้าว! สุดยอดในการปิดข่าวปิดหูปิดตาสื่อฯของสหรัฐฯเลยนะนี่)
และในวันเดียวกันนี้ (1 ก.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซีย (เจ้าประจำ) ก็รายงานอีกว่า พวกสมาชิกอัศวินขาวผู้ภักดี (Loyal White Knights ภักชั่วสิไม่ว่า!) ซึ่งมีฐานบัญชาการอยู่ที่รัฐ North Carolina แก๊งนักบวช Ku Klux Klan ได้รับอนุญาตให้จัดขบวนแรลลี่ไปยังที่ว่าการรัฐ South Carolina ซึ่งอ้างว่าเพื่อถกเถียงกันเรื่องปลดธง Confederate ทั่วสหรัฐในวันที่ 18 ก.ค.นี้ (แต่มีคลิปโผล่มาตามอินเตอร์เน็ทแล้วว่ามีขบวนรถปิ๊กอัพยาวเหยียดของแก๊ง KKK ปั่นเมืองอยู่ใน South Carolina ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และต่อมาก็เกิดเหตุไฟไหม้ที่โบสถ์ Mt. Zion AME บังเอิญแท้!)
ส่วนอีกข่าวหนึ่ง (จาก Sputnik news เช่นกัน) บอกว่าขบวนแรลลี่เผาธงชาติสหรัฐฯมีกำหนดจะจัดขึ้นในเมืองนิวยอร์ก Disarm NYPD [New York Police Department] กล่าวในเฟซบุคว่า "พวกเราจะเผาธงชาติของอเมริกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกดขี่และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และในการกระทำที่มีลักษณะคล้ายกันนี้..." (We will burn the American flag, a symbol of oppression and genocide, and in the same action…)
ตามรายงานข่าวบอกว่าขบวนแรลลี่นี้เพื่อปลุกให้มีความตื่นรู้ที่มีโบสถ์เป็นจำนวนมากซึ่งชาวอเมริกันแอฟริกันใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาถูกเผาทั่วสหรัฐฯ (อ้างโดย Disarm NYPD)
และในวันเดียวกันอีกนี่แหละ Sputnik news ก็ลงข่าวว่าว่า "Oklahoma Supreme Court: Ten Commandments Don't Belong at State Capitol" แปลว่า "ศาลฎีกาในรัฐโอ๊คลาโฮมามีคำวินิจฉัยว่า: อนุสรณ์ศิลาจารึกบัญญัติ 10 ประการจะต้องไม่อยู่ในเมืองหลวงของรัฐ" สำนักข่าวบางแห่งพาดหัวข่าวว่า "10 Commandments statue must be removed from state Capitol, Oklahoma Supreme Court rules" แปลว่า "ศาลฎีกาสหรัฐฯมีคำสั่งให้เคลื่อนย้ายแท่งศิลาสลักบัญญัติ 10 ประการออกจากเมืองหลวงของรัฐ"
บัญญัติ 10 ประการนี้รู้ใช่ไหมว่าเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาทั้งของคริสต์และยูดาย แต่จู่ๆสหรัฐฯกำลังให้มีการกำจัดศาสนาดั้งเดิมและปัจจุบันออกไป เพื่ออะไร? ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนแก๊งลัทธิใหม่ KKK นิยมความรุนแรงขึ้นมาแทน หรือว่าสหรัฐฯจะประกาศศาสนาใหม่ขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติของตัวเองซะเลย หลังจากที่ถูกต่างชาติเหน็บแนมเอาว่าเป็นประเทศที่ไม่มีความเป็นมาในรากฐานทางวัฒนธรรมประเพณีเป็นของตนเองที่ชัดเจน
เอาเข้าไปสหรัฐฯ! ไม่แปลกใจที่ช่วงนี้สหรัฐฯเที่ยวออกมาด่ากราดประเทศต่างๆว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างนั้นอย่างนี้ ขนาดการประท้วงขึ้นค่าไฟฟ้าที่อาร์เมเนียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการปะทะกันบ้างเล็กน้อยระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง จนตำรวจคุมฝูงชนต้องฉีดน้ำสกัดกลุ่มผู้ประท้วง แล้วทางสหรัฐฯรีบแจ้นออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเป็นธรรมและมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษชน แต่ตอนที่เกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในเฟอร์กูสัน และประกาศเคอร์ฟิวเหยียดผิวอย่างหนักเผาอีกรอบในบัลติมอร์ภายในสหรัฐฯเอง ทางการสหรัฐฯหุบปากเงียบกริ๊บไม่กล้าออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนอย่างที่ทำกับประเทศอื่นเลย
ล่าสุดทั้งอียูและสหรัฐฯแท็กทีมกันหาเรื่องเล่นงานไทยต่อโดยยกประเด็นการจับกุมกลุ่มอดีตนักศึกษาเด้าดินผลไม้พิษรับจ้างป่วนบ้านป่วนเมืองเพื่อหาตังค์กินเหล้าไปวันๆนั้น ออกมาโจมตีไทยให้รีบปล่อยพวกเด้าดินเหล่านั้นโดยยกเรื่องสิทธิมนุษยชนมาอ้างสูตรเดิม และอ้างรายงานที่พวกเขานั่นแหละเขียนขึ้นมาเองว่ามีการจับกุมฝ่ายตรงข้าม หมายถึงสมุน ngo ทุนต่างชาติที่รับจ้างมาบ่อนทำลายประเทศไทยโดยเห็นแก่ประโยชน์ค่าจ้างเล็กน้อย ซึ่งอาชีพหลักของพวกนี้ก็คือรับเจ้าต่างชาติบ่อนทำลายประเทศไทย ว่ามีการทรมานผู้ที่ถูกจับกุมไปด้วย ถ้าเชื่อสหรัฐฯและสื่อฯสหรัฐฯทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทานข้าวกับอี้แทนเหอะ
แต่พอเกิดเหตุการณ์เผาโบสถ์คนผิวดำรายวันแบบนี้ ทำไมสื่อฯกระแสหลักของทั้งสหรัฐฯและตะวันตก รวมทั้งสื่อฯขี้ข้าอเมริกาในเมืองไทยถึงไม่กล้าลงข่าวบ้างนะ กลัวอะไรรึ? แต่พอข่าวที่อเมริกากล่าวหาไทยนี่ชอบประโคมกันจัง ดิ้นเร่าๆจะเป็นจะตายให้ได้ว่าสหรัฐฯและต่างชาติเขาว่ามาอย่างนี้นะ ต้องรีบทำตามคำสั่งเขาโดยเร็ว ไม่งั้นเขาจะไม่คบค้าสมาคมด้วย นั่นแหละสื่อฯขี้ข้าอเมริกาในเมืองไทยสังเกตได้ง่ายๆ จะไม่ค่อยกล้าลงข่าวชั่วๆ เลวๆ หรือที่เป็นลบของสหรัฐฯ แต่ขยันลงข่าวบ่อนทำลายประเทศตัวเอง พวกนี้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ แต่เราไม่ใช่ เราจะแฉ เราจะประจานมันต่อไป ไม่ใช่ใส่ร้าย แต่เป็นการนำเอาความจริงมาเปิดเผยให้โลกรู้ตะหาก คริๆ
The Eyes
01/07/2558
-----------
http://rt.com/usa/270865-ame-church-fire-south-carolina/
Oklahoma Supreme Court: Ten Commandments Don't Belong at State Capitol / Sputnik International
KKK Gets ‘OK’ for Cross Burning, Confederate Flag Rally in South Carolina / Sputnik International
Activists to Protest Black Church Arson by Holding Burn-US Flag Rally in NY / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช

สำหรับผู้ที่ต้องการจะติดตามสถานการณ์ระหว่างกรีซ-ทรอยก้า ทาง RT news ได้ทำ Live Update เกาะติดสถานการณ์ตลอดเวลาได้ที่นี่นะครับ แต่ถ้าอยากได้ความมันส์ในการเสพข่าว ก็รอแอ็ดมินเม้าท์ให้ฟังในโอกาสต่อไปนะ อดใจรออีกนิด มีข่าวอีกเยอะที่ยังไม่ได้เล่าให้ฟัง คริๆ
-------------
กดไปที่นี่น่ะครับ -> Debt crisis: Will Greece exit euro? LIVE UPDATES — RT News

 

ปอกเปลือก ทรราช
จีนจัดหนักสั่งสอนอเมริกาเรื่องสิทธิมนุษชน จีนออกรายงานเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ตบหน้าอเมริกาอย่างจัง!



------------
แปะโป้งแฟนเพจไว้วันก่อนว่าจะเล่าเรื่องที่จีนให้บทเรียนสหรัฐฯเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในประเทศของตนเองในต่างประเทศที่นักค้าประชาธิปตายเบอร์หนึ่งของโลกชอบเข้าไปสร้างความวุ่นวายและก่อสงคราม วันนี้ได้นำเสนอข่าวการเหยียดผิวขั้นรุนแรงโดยใช้ศาสนาบังหน้ามีการเที่ยวเผาโบสถ์คนดำในประเทศสหรัฐฯหลายแห่งตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไหนๆก็พูดถึงเรื่องของสหรัฐฯแล้ว คิดว่าน่าจะเป็นโอกาสเหมาะที่จะนำเสนออีกข่าวเกี่ยวกับสหรัฐฯซึ่งได้ตั้งใจว่าจะเล่าให้ฟังตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว งั้นก็ขอจัดให้ต่อจากโพสต์ที่แล้วซะเลยนะครับ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา สำนักข่าว China Daily ของจีน (อ้างจากสำนักข่าว Xinhua) พาดหัวข่าวว่า "Report criticizes US human rights violations in other countries" (รายงานวิพากวิจารณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯในต่างประเทศ) และสำนักข่าว People's Daily Online ของจีนอีกนั่นแหละก็พาดหัวข่าวว่า "China issues report on U.S. human rights" (จีนออกรายงานเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ - หมายถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนนะ ไม่ใช่สหรัฐฯส่งเสริมสิทธิมนุษยชน) ในวันต่อมา (27 มิ.ย.58) สำนักข่าว China Daily ลงรายงานฉบับเต็มเลยโดยพาดหัวข่าวว่า "Human Rights Record of the United States in 2014" แปลว่า "บันทึกว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนของประเทศสหรัฐฯในปี 2014"
จะเอาฉบับเต็ม (ยาวสุด) หรือฉบับปานกลาง หรือฉบับสรุปสั้นๆดี? ติ๊กต็อกๆๆ... ถ้าแบบสั้นสุดก็ต้องของ China Daily ลิงค์ที่1 ถ้าปานกลางก็ต้อง People's Daily Online ลิงค์ที่สอง ถ้าฉบับเต็มก็ต้องลิ้งค์ที่ 3 ของ China Daily เลือกอ่านได้ตามสบายเลยครับ อ้าว! แอ็ดมินจะไม่แปลให้ผู้ที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษฟังเหมือนเดิมแล้วรึ? คริๆ เอ… เอาไงดีอ่ะ? งั้นขอเล่นลูกผสมทั้ง 2 ฉบับเลยละกันน้อ (กลาง+สั้น) มันจะยาวไปไหมนี่? เฉพาะคำนำของรายงานฉบับเต็มก็ไม่ใช่น้อยๆนะท่านนะ อ๊ะแปลก็แปลครับ เพื่อแฟนเพจและเพื่อเปิดหูเปิดตาให้กับสังคมไทยที่ถูกปิดหูปิดตาโดยสื่อฯตะวันตกและสื่อฯในสังกัดของพวกเขามานาน
กรุงปักกิ่ง - รายงานว่าด้วยสถานการสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯได้กล่าวหากรณีที่สหรัฐฯได้ทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ โดยอ้างถึงวิธีการทรมานแบบบิดท้อง โครงการสอดแนมในต่างประเทศที่ฉาวโฉ่ และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) สังหารผู้คนตามอำเภอใจ ในรายงานข่าวฉบับกลางของ People's Daily Online ระบุการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯไว้ 5 หัวข้อ: การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทรมาน (VIOLENCE & TORTURE), การเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด (DISCRIMINATION & ABUSE), นโยบายด้านการเงิน (MONEY POLITICS), ความไม่เท่าเทียมกัน (INEQUALITY) และการประทุษร้ายในที่อื่นๆ (VIOLATIONS ELSEWHERE) นี่ไงหลักฐานที่จีนรวบรวมไว้ว่าสหรัฐฯที่ชอบกล่าวหาประเทศอื่นว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่บ่อยๆ จีนก็เลยนำออกมาประจานสหรัฐฯให้ชาวโลกได้รับรู้ซะเลย
ก่อนหน้านี้พวกนักการเมืองและคอลัมนิสต์ของไทยโปรอเมริกา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าจีนไม่ถนัดที่จะพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะตนเอง (จีน) ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยเพราะจีนเป็นคอมมิวนิสต์ แล้วก็อ้างเหตุการณ์ในกรณีที่จีนปราบปรามพวกแบ่งแยกดินแดนเที่ยวเอาอาวุธเข้าทำร้ายผู้คนในที่สาธารณในมณฑลอุยกูและการประท้วงที่ฮ่องกง (ปฏิวัติร่มซึ่งล้มไม่เป็นท่า) มาโจมตีจีน โดยที่นักวิจารณ์ลูกกระเป๋งอเมริกาเหล่านี้ไม่กล้าที่จะเอ่ยถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯเลยแม้แต่น้อย (หุย!) ดังนั้น วันนี้จีนเอาหลักฐานต่างๆมาตบปากพวกโปรอเมริกาและรัฐบาลสหรัฐฯซะเลย
อ่านต่อนะ... ตามรายงานชื่อ "Human Rights Record of the United States in 2014" ของสำนักข่าวข้อมูลแห่งรัฐสภาจีน (China's State Council Information Office) กล่าวว่า "เพื่อให้ได้ข้อมูลจากผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและนิยมความรุนแรงสุดโต่ง สำนักข่าวกรองรัฐบาลกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐฯ ใช้วิธีการที่โหดร้าย เช่นการทำให้อดนอน (sleep deprivation) การกรอกน้ำ (waterboarding) การขังเดี่ยวระยะยาว ( long-term solitary confinement) การกระแทรกศรีษะนักโทษเข้ากับกำแพง (slamming prisoners' head against the wall) การเฆี่ยนโบย (lashing) การข่มขู่ด้วยความตาย (death threat) และแม้กระทั่งการสวนทวารหนักที่น่ากลัว (rectal rehydration)"
ในเดือนเมษายนปี 2014 สหรัฐฯลงโทษประหารชีวิตนาย Ramiro Hernandez Llanas ซึ่งเป็นพลเมืองชาวเม็กซิกัน ไม่อนุญาตให้เขาได้รับความช่วยเหลือด้านกงสุล รายงานกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวได้ละเมิดสนธิสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์สถานกงสุล (Consular Relations) (ใครละเมิดสนธิสัญญา? ก็สหรัฐฯนั่นแหละเจ้าประจำ)
โปรแกรมการสอดแนมต่างๆจากทางการสหรัฐฯนั้นได้ถูกเปิดเผยออกมา (ต่อสาธารณชน) นับตั้งแต่ Edward Snowden ออกมาแฉโปรแกรม PRISM data mining ของสำนักข่าวกรองของสหรัฐฯ (NSA) เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2013 ซึ่งเป็นการเปิดเผยถึงรายชื่อของผู้นำประเทศทั้ง 35 ประเทศทั่วโลกที่มีการสนทนากันทางโทรศัพท์ การขโมยข้อมูลที่มีการเข้ารหัสลับไว้ของหน่วยงานรัฐบาลในต่างประเทศ และการรวมรวมข้อมูลจากโปรแกรม (ซอฟท์แวร์/แอ็พพลิเคชั่น) ในโทรศัพท์มือถือที่มีการส่งข้อความให้กันทั่วโลก
สหรัฐฯใช้โดรนกราดโจมตีกลุ่มติดอาวุธซึ่งเป็นเป้าหมายและพลเมืองผู้บริสุทธิ์ได้ตามอำเภอใจตัวเอง รายงานได้อ้างตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯใช้โดรนโจมตีประชาชนที่ยังมีชีวิตอยู่ถึง 1,147 คนในการโจมตีคนเพียง 41 คน (ผู้ก่อการร้าย) เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2557
รายงานยังกล่าวอีกว่า กองทัพสหรัฐฯยังได้กระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งอีกด้วย ทหารของสหรัฐฯจำนวน 2 นายซึ่งประจำการอยู่ในฐานทัพในอิตาลีถูกกล่าวหาว่าข่มขืนและทำรายร่างกายหญิงชาวโรมาเนียที่ตั้งท้องได้ 6 เดือน ในขณะที่นาวิกโยธินของสหรัฐฯที่ถูกส่งไปประจำการอยู่ในฟิลิปปินส์ถูกกล่าวหาว่ากระทำฆาตกรรมบุคคลซึ่งเป็นเพศที่สาม (transgender)
รายงานดังกล่าวของจีนได้วิพากษ์วิจารณ์ สหรัฐฯในการ "ใช้วิธีการของตนเองเกี่ยวกับกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ" ในขณะเดียวกันสหรัฐฯก็ปฏิเสธว่าสิทธิในการพัฒนาเป็นสิทธิมนุษยชนอย่างหนึ่ง และได้ปฏิเสธมายาวนานที่จะปรับปรุงการกฎกติการ่วมว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ และได้โหวตคัดค้านแนวทางแก้ไขด้านสิทธิมนุษยชนบางอย่างที่สำคัญของยูเอ็นด้วย
ฉบับกลางจาก People's Daily Online ก็น่าสนใจมากๆ เพราะแสดงออกมาตั้ง 5 อย่างค่อนข้างละเอียดกว่าฉบับย่อตามที่แปลให้อ่านในครั้งนี้ด้วย และนั่นแหละคือ พฤติกรรมแบบหน้าไว้หลังหลอกของรัฐบาลสหรัฐฯที่เที่ยวออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศอื่นเพื่อกลบข่าวและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศของตน และที่สำคัญก็คือพวกตัวแทน HRW และ NGOs ในต่างประเทศที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสหรัฐฯและกลุ่มทุนสามานย์ตะวันตกจะไม่กล้าแตะต้องเรื่องเหล่านี้ของสหรัฐฯเลยนะ สังเกตุง่ายๆเคยเห็นแก๊งประชาไม่ใช่ไทยและแก๊งสาระแนไซเบอร์หรือแม้กระทั่งสุนัขฮิวแมนไรท์เมืองไทยเคยวิพากษ์วิจารณ์นายจ้างผู้โยนเศษกระดูกให้พวกนี้บ้างหรือเปล่า? No Sir! Never! ถ้าทำอย่างนั้นพวกนี้จะเอาอะไรไปหารับประทานต่อไปหละครับ?
The Eyes
02/07/2558
-----------
Report criticizes US human rights violations in other countries - World - Chinadaily.com.cn
China issues report on U.S. human rights - People's Daily Online
Human Rights Record of the United States in 2014 - Chinadaily.com.cn

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวสุขภาพ: ผลจากการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มรสหวานผสมน้ำตาลทำให้เสียชีวิตมาแล้วทั่วโลกถึง 184,000 รายต่อปี!



------------
ว้าวๆๆ! ทำเป็นเล่นไป นี่แอ็ดมินไม่ได้ขู่หรือใส่ร้ายบริษัทเครื่องดื่มน้ำอัดลม หรือพูดเวอร์จนเกินเหตุนะขอรับ เมื่อวานนี้สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งทั่วโลกลงข่าวนี้โดยอ้างผลการวิจัยของที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Circulation ของสมาคมสุขภาพอเมริกัน (American Heart Association)
- Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Killer-Cola: Sugary Drinks Linked to 184,000 Deaths a Year"
- RT news : "Suicide by soda: Sugary drinks kill 184,000 people a year, study says"
- AFP : "Sugary drinks may cause 184,000 global deaths a year: study"
- The Washington Post : "Sugary drinks linked to 180,000 deaths a year, study says"
เป็นต้น



สรุปโดยรวมบอกว่า "เครื่องดื่มผสมน้ำตาลประเภทน้ำอัดลมฆ่าคนปีละ 184,000 ราย" รายงานดังกล่าวเป็นการศึกษาวิจัยร่วมกันระหว่าง Harvard, Tufts และ Washington universities ในสหรัฐฯ และ Imperial College ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ โดยบอกว่าสถิติการเสียชีวิตของประชาชนทั่วโลกในแต่ละปีนี้ มีจำนวน 184,000 คนโดยเฉลี่ยที่เสียชีวิตเนื่องจากโรค "เบาหวาน" (diabetes) เนื่องจากบริโภคเครื่องดื่มรสหวานผสมน้ำตาล (sugar-sweetened beverages - SSBs) และยังก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ด้วย (ในรายงานไม่ได้บอกเอาไว้ด้วยว่าต่อจากมะเร็งแล้วจะเป็น มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม… ด้วยหรือไม่ คริๆ Seriously!? อยู่กับเพจนี้ ต้องทำใจนิดนึง)
นักวิจัย Dariush Mozaffarian จาก Tufts University ใน Boston กล่าวว่า "หลายประเทศทั่วโลกมีตัวเลขการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นจากปัจจัยเดียวคือ เครื่องดื่มรสหวานผสมน้ำตาลอย่างมีนัยสำคัญ" ในขณะที่มีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดทั่วโลกจำนวนถึง 45,000 คน (ต่อปี) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการบริโภคเครื่องดื่มผสมน้ำตาล และอีก 6,450 คนเสียชีวิตจากโรคมะเร็งซึ่งเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลอีกนั่นแหละ
Mozaffarian กล่าวว่า "ควรจะมีการกำหนดให้เป็นวาระสำคัญระดับโลก (a global priority) เพื่อลดหรือขนัดเครื่องดื่มรสหวานผสมน้ำตาลออกจากอาหาร" (อ้าว! แล้ว Coca-Cola และ Pepsi เป็นต้นจะอยู่ยังไงหละนี่?)
งานวิจัยได้ทำการตรวจสอบการบริโภคอาหารจำนวน 62 ชุด จากประชาชนทั้งหมดจำนวน 611,000 คน ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างปี 1980-2010 ใน 51 ประเทศ (ทั่วโลก) โดยผู้ที่เข้าร่วม (โครงการ) เกือบทั้งหมด 2 ใน 3 เป็นผู้ใหญ่ (adult population) ผลที่ออกมาปรากฎว่า ประเทศเม็กซิโกมีอัตราการเสียชีวิตของผู้ใหญ่อยู่ที่ 404.5 คนต่อประชากร 1 ล้านคน อัตราเฉลี่ยของผู้ที่เสียชีวิตอยู่ระหว่าง 20-44 ปีกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ถ้าคิดเป็นอัตราเฉลี่ยแบบนี้ต่อไป ประเทศที่ได้อันดับสองก็คือแอฟริกาใต้ (153.3) ที่สามคือโมร็อคโค (137.8) และที่สี่คือ "สหรัฐอเมริกา" (124.4) พี่ไทยเราไม่ต้องเสียใจติดอันดับด้วยอยู่ที่ 14 (67.2) ตามมาด้วยรัสเซียเป็นอันดับที่ 15 (66.2) จีนอยู่อันดับที่ 34 (16.0) น่าแปลกใจมากอินเดียอยู่อันที่ 35 (15.7) ญี่ปุ่นอยู่ที่ 36 (15.7) และเวียตนามอันดับที่ 37 (6.2) ตามด้วยเอธิโอเบียอันดับที่ 38 (5.6) และสุดท้ายอันดับที่ 39 คือบังคลาเทศ
ตัวเลขนี้ไม่ใช่ว่ายิ่งสูงยิ่งดีนะ เพราะนั้นคืออัตราการเสียชีวิตต่อประชากร 1 ล้านคน สำนักข่าวอื่นๆไม่เห็นลงจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นตัวเลขจริงๆ แต่ Sputnik news ลงให้เลยและบอกว่าจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจริงจากการดื่มเครื่องดื่มรสหวานผสมน้ำตาลนี้ก็คือ "สหรัฐฯ" (อีกแล้วครับท่าน) ซึ่งมียอดถึง 25,347 คนต่อปี สาธารณะสุขของไทยจะว่ายังไงครับ? ท่านอยากจะให้ตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้นหรือว่าลดลงครับ ถ้ามันสูงขึ้น ต่อไปสหรัฐฯและอียูก็จะบอกว่า ต้องแซงชั่นประเทศไทย กีดกันเรื่องการค้า เพราะละเมิดสิทธิมนุษชน เนื่องจากไม่หาทางป้องกันไม่ให้ประชาชนของตัวเองดื่มเครื่องดื่มรสหวานผสมน้ำตาลจนเป็นเหตุให้มียอดผู้เสียชีวิตต่อปีเพิ่มมากขึ้น มันหาเรื่องเราได้ทุกอย่างนั่นแหละ คริๆ รู้สึกว่าเมื่อปีที่แล้วแอ็ดมินได้ลงข่าวหนึ่งไปนะว่า ที่รัสเซียก็มีสาธารณรัฐแห่งหนึ่งออกกฎหมายควบคุมการขายน้ำอัดลมให้กับเด็กนักเรียน เพราะเขาห่วงใยในเยาวชนของเขา อันนี้ต้องยกย่องนโยบายของเขา ก็คล้ายๆกับกฎหมายบ้านเราที่ไม่อนุญาตให้ขายบุหรี่ให้กับเยาวชนนั่นแหละ
The Eyes
02/07/2558
-----------
Killer-Cola: Sugary Drinks Linked to 184,000 Deaths a Year / Sputnik International
Suicide by soda: Sugary drinks kill 184,000 people a year, study says — RT News
Sugary drinks linked to 180,000 deaths a year, study says - The Washington Post
Selected Abstracts
AFP.com
http://cdn1.sph.harvard.edu/wp-cont...fact-sheet-june-2012-the-nutrition-source.pdf

 

ปอกเปลือก ทรราช
นั่น! ซัดกันอีกแห่งหนึ่งแล้ว... ตำรวจตระเวนชายแดนอัฟกานิสถานปะทะกับทหารปากีสถานเสียชีวิตหนึ่งบาดเจ็บ2



------------
วันนี้ (2 ก.ค.58) Sputnik news รายงานว่าเกิดการยิงต่อสู้กันบริเวณชายแดนระหว่างอัฟกานิสถานและปากีสถาน ใกล้หมู่บ้าน Angoor Adda ของปากีสถาน รายงานเบื้องต้นอ้างคำพูดของโฆษก รมว.มหาดไทยของอัฟกานิสถานบอกว่า การปะทะกันของกองกำลังทั้งสองฝ่ายในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกองทัพปากีสถานพยายามที่จะสร้างโครงสร้างที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ตำรวจตระเวนชายแดนของอัฟกานิสถานเข้าขัดขวางและมีการยิงตอบโต้กัน ผลปรากฎว่าตำรวจตระเวนชายแดนของอัฟกานิสถาน 1 เสียชีวิตจากการสู้รบกันในครั้งนี้ 1 นาย
ส่วนปากีสถานออกแถลงการณ์ว่า มีการยิงจรวด RPG-7 และอาวุธเล็กจำนวนหนึ่งมาที่ด่าน Angoor Adda ของปากีสถานจากฝั่งอัฟกานิสถาน และส่งผลให้บุคคลากรด้านการรักษาความปลอดภัยของปากีสถานได้รับบาดเจ็บ 2 นาย - จบข่าว
การปะทะกันตามแนวชายแดนระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศนี้ ไม่ใช่พึ่งมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก มีมาเรื่อยๆ เกือบทุกปี โดยเริ่มต้นในปี 2007 ที่บ่อยครั้งสุดซึ่งทำให้สถานการณ์ของทั้งสองประเทศมีความตึงเครียดมากก็ในปี 2011 ซึ่งมีการปะทะกันประมาณ 9 ครั้ง จากนั้นก็มีมาเรื่อยๆ ปีละครั้งสองครั้ง ซัดกันไปซัดกันมา เดี๋ยวก็กลับมาเจรจากัน หยุดยิง โทษกันไปโทษกันมา เดี๋ยวก็กลับไปยิงกันอีก แต่ยังไม่ถึงขั้นรุนแรงมากเหมือนกับที่เกิดขึ้นในยูเครนตะวันออก



จำได้ว่าเคยดูคลิปในยูทูป (?) อยู่ครั้งหนึ่งเห็นทหารทั้งสองฝ่ายพยายามย้ายกำแพงก้อนหินล้ำเข้าไปในดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่ง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็มาประท้วงและพังกำแพงก้อนหินที่ก่อขึ้นมาใหม่นั้นลง (เอามาวางซ้อนกันไว้) ทั้งสองฝ่ายก็โวยวายเล็งปืนใส่กัน (หลายคน) ดังนั้นไอ้โครงสร้างที่ว่านั้นก็น่าจะหมายถึงการก่อกำแพงก้อนหินนี้หละมั๊ง แต่จำไม่ได้ว่าในคลิปนั้นเป็นกรณีของอัฟกานิสถานกับปากีสถานหรือไม่
The Eyes
02/07/2558
-----------
Afghan, Pakistani Forces Engage in Firefight, Killing at Least One / Sputnik International
https://en.wikipedia.org/…/Afghanistan–Pakistan_ski…

 

Thanong Fanclub



หนี้นรกของกรีซในอีก42ปีข้างหน้า จ่ายไงไหว
ดูตัวเลขตามตารางก็ช๊อคแล้วว่ากรีซตกอยู่ภายใต้หนี้นรกอย่างไร แม้ว่าจะตกลงกับเจ้าหนี้ได้ปีนี้ แต่ระหว่างปี2016ถึง2057 หรือในระยะ42ปีข้างหน้า กรีซมีภาระที่จะต้องจ่ายหนี้เป็นจำนวนมากเฉลี่ยปีละ7,000-8,000ล้่านยูโร
กรีซไม่มีทางจะจ่ายหนี้ได้เลย เจ้าหนี้ก็รู้แต่ยังเล่นเกมบี้กรีซ ถ้าศรีปราชญ์ยอมเจ้าหนี้ ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ท่านก็สมควรถูกตัดคอตายได้แล้ว
ทางเดียวเท่านั้นที่จะแก้ปัญหากรีซได้ คือเจ้าหนี้ต้องยอมลดหนี้ให้อย่างน้อย60% ศรีปราชญ์ต้องสู้เรื่องนี้ให้ได้ มิเช่นนั้นเบี้ยวหนี้ให้หมดไปเลย
แต่ข่าวออกมาว่าศรีปราชญ์กำลังจะยอมเจ้าหนี้ นี่มันอะไรกัน
thanong
1/7/2015

ธรณีนี่นี้เป็นพยาน ศรีปราชญ์ยอมคลานหาเจ้าหนี้แล้วหรือ
@nytimesworld: BREAKING: Alexis Tsipras said in a letter that Greece was “prepared to accept” a deal offered by its creditors.

 

Thanong Fanclub
กราบเรียนท่านเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช:
นายศรีปราชญ์ยอมรับเงื่อนไขเจ้าหนี้เกือบทุกอย่าง เพื่อขออยู่ในยูโรโซนต่อ เขาเขียนจดหมายถึงไอเอ็มเอฟ สหภาพยุโรปและอีซีบีเพื่อแสดงความยินยอมจะทำตามเงื่อนไขเจ้าหนี้ ยกเว้นการปรับรายละเอียดเพียงเล็กน้อย โดยที่กรีซจะยังคงอยู่ในหนี้นรกต่อไป
ท่านเจ้าเมืองนครศรีฯจะประหารชีวิตศรีปราชญ์ก็เชิญออกคำสั่งตามแต่จะเห็นสมควร
ด้วยความเคารพอย่างสูง





thanong
1/7/2015

 

Thanong Fanclub



ให้โหวตโน
ศรีปราชญ์แถลงกับประชาชนว่าให้โหวตประชามติไม่เอาแผนของเจ้าหนี้ในวันที่5กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นเขาจะกลับไปเจรจากับเจ้าหนี้อีกครั้งในวันจันทร์ที่6 กรกฎาคม ด้วยเงื่อนไขที่ดีกว่าสำหรับชาวกรีก
ศรีปราชญ์เขียนข้อความในทวิทเตอร์ว่า "ในวันจันทร์ รัฐบาลกรีกจะไปอยู่ที่โต๊ะเจรจาหลังการโหวตประชามติ เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีกว่าสำหรับประชาชนชาวกรีก"
จะเอาไงกันแน่ศรีปราชญ์ จะยอมหรือไม่ยอมเจ้าหนี้ จดหมายที่ศรีปราชญ์เขียนให้เจ้าหนี้ทรอยก้าก่อนหน้านี้ว่าจะยอมทำตามเงื่อนไขทุกอย่างเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่
thanong
1/7/2015

 

Thanong Fanclub



รอผลประชามติอย่างเดียว
เจ้าหนี้จะไม่เจรจาใดๆกับศรีปราชญ์ในช่วงนี้ จนกว่าผลประชามติของกรีซจะออกมาว่าจะเอาข้อเสนอแผนการฟื้นฟูทางการเงินของเจ้าหนี้หรือไม่
นายศรีปราชญ์เรียกร้องให้ประชาชนโหวตNo จะได้เป็นข้ออ้างในการเจรจาแก้ปัญหาทางการเงินกับกรีซรอบใหม่ เพราะว่ากรีซต้องการเงินกู้จากเจ้าหนี้29,100ล้านยูโร เพื่อให้อยู่รอดไปอีก2ปี และเพื่อให้เกิดความมั่นใจในฐานะการเงินของประเทศ ประชาชนจะได้ไม่ต้องแห่ไปถอนเงิน
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าศรีปราชญ์เขียนจดหมายถึงเจ้าหนีร้ทรอยก้า โดยระบุว่าขอยอมทำตามเงื่อนไขทุกอย่าง เพื่อแลกกับเงินกู้รอบใหม่ แต่อาจขอปรับเงื่อนไขเล็กๆน้อยๆ
แต่Angel Merkelตอบกลับว่าจะไม่เจรจาใดๆ ทั้งสิ้นจนกว่าผลประชามติจะออกมา
ชาวกรีกแห่ไปถอนเงินในตู้ATM แต่ก็ได้เงินมาน้อยนิด เพราะว่ามีการจำกัดการถอนวันละ60ยูโรต่อคน แบงค์กรีซจะปิดทำการจนกระทั่งวันจันทร์หน้า
เกมระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ยังคงคาราคาซังอยู่
thanong
2/7/2015
Greece crisis: Eurozone rules out talks until after referendum - BBC News