ติดตามสถานะการณ์

ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร



ดาวพฤหัสบดีเกาะนวางค์ขาด ๒๖ มิย.- ๑๔ กค. ๒๕๕๘
ความสำคัญของดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ (ดาวพฤหัสบดี) และความหมายของนวางค์ขาดนั้น admin ได้เคยอธิบายขยายความไปหลายครั้งแล้ว ดังนั้นจะไม่ขอกล่าวซ้ำอีก
ดาวพฤหัสบดีในดวงเมืองนั้นให้โทษ ซึ่งได้เคยกล่าวไว้ในบทความทางโหรเรื่อง "ดาวพฤหัสบดีเสื่อม ความยุติธรรมเสื่อม" แล้วเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่ดาวดวงนี้โคจรมาในตำแหน่งที่เสียหาย บ้านเมืองมักจะเกิดความวุ่นวายเสมอ
เราท่านลองจับตาในช่วงที่ดาวดวงนี้โคจรเข้าเกาะนวางค์ขาดกันดูว่าจะเป็นไปตามที่ได้กล่าวไว้หรือไม่
ท่านที่มี "ลัคนาราศีธนู" ขอย้ำว่า "ลัคนา" ไม่ใช่คนที่เกิดในเดือนธันวาคม ขอให้พึงระมัดระวังอุปัทวันตรายของตนเองและญาติผู้ใหญ่ให้จงหนัก ขอให้มีสติในการทำการใดๆให้มากกว่าปกติ
ให้หมั่นเจริญภาวนาสมาธิ ทำบุญสุนทานอุทิศให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยกุศลผลบุญดังกล่าวอาจจะช่วยบรรเทาทุกข์โทษให้ท่านได้
admin ดิลก แสงอุทัย

 

เรื่องเล่าเช้านี้
ปริมาณน้ำใช้การได้ใน 4 เขื่อนหลักของประเทศ ‪#‎เรื่องเล่าเช้านี้‬

 

จีนเคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลับเข้าไปใกล้ชายฝั่งเวียดนาม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 15:58 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2558 16:15 น.)



ภาพที่เผยแพร่โดยสำนักข่าวซินหวา เผยให้เห็นแท่นขุดเจาะน้ำมันไห่หยางฉือโหยว 981 ที่จีนเคลื่อนเข้ามาตั้งไว้ในทะเลจีนใต้ใกล้หมู่เกาะพาราเซลเมื่อต้นเดือนพ.ค. 2557 และถูกย้ายออกก่อนกำหนดโดยอ้างว่าเสร็จสิ้นภารกิจหลังเกิดเหตุพิพาทกับเวียดนาม และเมื่อไม่นานนี้ ทางการจีนรายงานว่าได้เคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันนี้ไปตั้งในจุดที่ห่างจากเมืองซานย่า ของเกาะไหหลำ ไปทางใต้ 75 ไมล์ทะเล และห่างจากชายฝั่งเวียดนามประมาณ 167 กิโลเมตร.--Associated Press/Xinhua/Jin Liangkuai/File.


รอยเตอร์ - จีนได้เคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เป็นศูนย์กลางของเหตุพิพาทรุนแรงเมื่อปีก่อนกับเวียดนาม เข้าไปใกล้ชายฝั่งเวียดนามในทะเลจีนใต้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน

ความเคลื่อนไหวที่ประกาศออกมาโดยหน่วยงานความปลอดภัยทางทะเลของจีนมีขึ้นไม่นานหลังจีนระบุว่า ใกล้จะตั้งด่านแห่งใหม่ในทะเลที่เป็นหัวใจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่โครงการถมทะเลสร้างเกาะเทียมของจีนในทะเลจีนใต้ใกล้เสร็จสิ้น

จีนอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ซึ่งฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ต่างก็อ้างสิทธิอธิปไตยทับซ้อนเหนือพื้นที่ดังกล่าว

การตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนเมื่อปีก่อน ที่เวียดนามระบุว่า เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ และบนไหล่ทวีปของเวียดนามซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเวียดนามประมาณ 120 ไมล์ทะเล ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามชายแดนในปี 2522

ประชาชนชาวเวียดนามยังคงเคืองแค้นต่อการรุกราน และอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ของจีน แม้ว่าจีนจะระบุในเวลานั้นว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันดำเนินการอยู่ภายในน่านน้ำของจีนก็ตาม

แท่นขุดเจาะน้ำมันในเวลานี้ดูเหมือนจะอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม และจีนที่ทับซ้อนกันอยู่ แต่ไกลออกไปกว่าปีก่อน ซึ่งในคำแถลงที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสบดี (25)

สำนักงานกิจการทางทะเลของจีนระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันไห่หยางฉือโหยว 981 (Haiyang Shiyou 981) จะดำเนินการขุดเจาะมหาสมุทรห่างจากเมืองซานย่า ของเกาะไหหลำ ไปทางใต้ 75 ไมล์ทะเล

ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า จุดขุดเจาะอยู่ทางตะวันออกของชายฝั่งเวียดนามประมาณ 167 กิโลเมตร ซึ่งแท่นขุดเจาะมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ จะยังคงอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. ไปจนถึงวันที่ 20 ก.ค. ตามคำแถลงของจีน ที่ยังประกาศให้เรือต่างๆ อยู่ห่างจากพื้นที่ประมาณ 2,000 เมตร เพื่อความปลอดภัย

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์เตื่อยแจ๋ของทางการเวียดนามรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทางทะเลของเวียดนามกำลังตรวจสอบสถานที่ตั้งแท่นขุดเจาะดังกล่าว

ความเคลื่อนไหวของแท่นขุดเจาะมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนผู้นำระดับสูงของเวียดนาม นายเหวียน ฝู จ่อง จะเดินทางเยือนสหรัฐฯ ที่นับเป็นการเยือนครั้งแรกของเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ภารกิจนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ระหว่างวอชิงตัน และฮานอยให้อบอุ่นขึ้น ความสัมพันธ์ที่ปักกิ่งเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง

และความเคลื่อนไหวนี้ยังมีขึ้นท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการสร้างเกาะเทียมอย่างรวดเร็วของจีนบนแนวปะการังในทะเลจีนใต้ การก่อสร้างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ และถูกประท้วงจากเวียดนาม.

 

ปอกเปลือก ทรราช
บราซิลสั่งซื้อ Pantsir-S1 ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางจากรัสเซีย
------------

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/bQZmNd5HREM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ขอนำเสนอข่าวเกี่ยวกับอาวุธของรัสเซียอีกซักข่าวก่อนนะครับ จากนั้นค่อยไปพูดถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับข่าวด้านเศรษฐกิจ เช่น AIIB, โครงการ Internet Plus ของจีน ถ้ามีเวลาอาจจะพูดถึงเรื่องจีนกำลังโจมตีสหรัฐฯด้านสิทธิมนุษยชนบ้าง (เป็นไปได้ไง? เป็นไปแล้ว น่าสนใจมาก สหรัฐฯตัวแสบชอบเอาเรื่องสิทธิมนุษยชนไปขู่ประเทศนั้นประเทศนี้ดีนักวันนี้จีนเล่นเรื่องนี้ เรื่องเน่าๆภายในบ้านของสหรัฐฯเองประจานต่อชาวโลกเลย สม! ฮี่ๆๆ)

กลับมาที่ข่าวนี้ก่อนนะ เปิดหูเปิดตารับรู้เทคโนโลยีใหม่บ้างก็ดี (ค่ายรัสเซีย เพราะชอบปูติน ไม่ชอบโอบามา ไม่ชอบเผด็จการจักรวรรดินิยมของอเมริกา คริๆ) วันนี้ (29 มิ.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวเรื่องหนึ่งว่า "Brazil to Buy Russian Pantsir Air Defense Systems in First Half of 2016" แปลว่า "บราซิลซื้อระบบป้องภัยทางอากาศรุ่น Pantsir จากรัสเซีย จะส่งมอบได้ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า"

เรื่องการที่บราซิลพยายามซื้อ Pantsir-S1 จากรัสเซียนี้มีการเจรจากันมาตั้งแต่ปี 2012 แล้ว รายงานจาก Sputnik news ไม่ได้บอกไว้ว่าบราซิลซื้อไปเท่าไร แต่ใน wiki บอกว่าสั่งไป 3 กองร้อย (three batteries - 18 เครื่องยิง) มูลค่า 1 พันล้านดอลล่าสหรัฐฯ

มีหลายประเทศที่สั่งซื้อขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่น Pantsir-S1 นี้ของรัสเซียไปใช้งานป้องกันประเทศเช่น Algeria ลงนามซื้อไป 38 ชุดเมื่อปี 2006 มูลค่า 8 ล้านเหรียญฯ อิหร่านสั่งเพิ่มอีก 10 ชุดในปี 2012 (อิสราเอลกับซาอุดิฯคิดให้ดีก่อนนะที่จะบินเข้าไปบอมอิหร่านตามที่คุยโวไว้หนะ เครื่องบินรบของตัวเองจะได้ร่วงผลอยๆสิไม่ว่า) อิรัคเคยสั่งซื้อไว้ราว 42-50 ชุด แต่สื่อฯตะวันตกบอกว่ายกเลิกในเวลาต่อมาเนื่องจากปัญหาการคอรัปชั่นในโครงการนี้ (อาจจะมีบางส่วนถูกต้อง แต่ที่แน่ๆอเมริกาไม่ต้องการให้อิรัคใช้ของรัสเซียต่างหากหละ) ต่อมามีการยืนยันว่าโครงการนี้ได้ก็ถูกนำมาปัดฝุ่นอีกครั้งและรัสเซียได้ส่งมอบให้อิรัคไปชุดแรกในปีนี้เอง (ไม่บอกจำนวน)

เมื่อปี 2007 มีรายงานว่าจอร์แดนก็สั่งซื้อ Pantsir-S1 จากรัสเซียเช่นกันจำนวน 50-75 คัน (ซวยแล้วอิสราเอล) และโอมานสั่งเพิ่มเป็น 12 คันในปี 2012 ส่วนรัสเซียเองนั้นรายงานบอกว่ามีประจำการในปี 2015 จำนวน 62 หน่วยซึ่งทางกองทัพของรัสเซียจะนำไปแทน Tunguska-M1 ซึ่งใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยได้เริ่มนำเข้าประจำการในกองทัพตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2014

รายนี้สำคัญ ซีเรียสั่งซื้อไว้ 36-50 ชุดตั้งแต่ปี 2006 เริ่มส่งมอบในปี 2007 มิน่าสหรัฐฯถึงไม่กล้าเข้าตีเมืองใหญ่ของซีเรียได้แต่เล่นอยู่รอบนอกที่พวกไอซิสยึดไว้ ส่วนสหรัฐอาหรับอิมิเรตนั้นสั่งซื้อไป 50 ชุดตั้งแต่ปี 2000 ครึ่งหนึ่งเป็นตีนตะขาบ อีกครึ่งหนึ่งเป็นแบบรถบรรทุก สุดท้ายมีข่าวจากสื่อฯจีนบอกว่าเวียตนามก็มีระบบ Pantsir-S1 ไว้ปฏิบัติการในกองทัพด้วย (อัยย๊ะ! ซุ่มเงียบอ่ะ) แต่ทั้งรัสเซียและเวียตนามไม่พูดอะไรเลยเงียบ

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบนี้มีดังนี้ Pantsir-S1 นี้นาโต้เรียกว่า "SA-22 Greyhound" (ชื่อเหมือนสุนัขโย่งเลยอ่ะ แล้วทำไมนาโต้จะต้องไปต้องชื่อแปลกๆให้เขาแบบนั้นด้วยนะ?) เป็นระบบปืนและขีปนาวุธระยะใกล้และกลาง มีเรด้าร์ควบคุมการยิงและมีระบบเซนเซอร์แบบ electro-optical ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 30 mm สองกระบอก เอาไว้สอยในระยะเผาขน และติดตั้งขีปนาวุธพิสัยใกล้ (short-range) นำวิถีสั่งงานโดยวิทยุ 57E6 จำนวน 12 ลูก ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อยิงอากาศยานและจรวดของขีปนาวุธอื่นๆที่บินได้หลากหลายรูปแบบที่ความสูงตั้งแต่ 5 เมตรถึง 10 กม. และระยะไกลที่ 200 เมตรถึง 20 กม. ลองดูในคลิปนะจะรู้ว่ามันแม่นยำขนาดไหน เข้าเป้าโป๊ะเชะ! บึ้ม! แหล่มเลย

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อฯรัสเซียก็ลงข่าวว่ารัสเซียพึ่งจะเปิดเผย จรวดแบบพกพา (MANPAD Verba) ซึ่งเป็น Stinger and Igla-S เวอร์ชั่นใหม่ บอกว่า "สอยทุกอย่างที่บินได้" (Hitting Everything That Flies ว้าว! ชอบอ่ะ) เป้าหมายหลักคือเอาไว้สอยเฮลิค็อปเตอร์และเครื่องบิน และยังสามารถโจมตีขีปนาวุธประเภท cruise missiles และโดรน (UAVs) ด้วย ภายในรัศมี 6 กม. และความสูงระหว่าง 10 เมตร ถึง 4.5 กม. (หมายถึง Igla-S) ฉะนั้นถ้านาโต้และสหรัฐฯจะเอาโดรนของตัวเองเข้าไปบินเรียบๆเคียงๆใกล้ชายแดนรัสเซียในรัสมี 2 กม.นั้น ก็ระวังจะถูกสอยเอาได้ง่ายๆถ้าเผลอรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของรัสเซียเมื่อไรมีเจอดีแน่ๆ แล้วก็อย่ามาโวยวายในภายหลังละกัน

ป.ล.แทนที่จะลงภาพนี้ขอลงคลิปการทดสอบ Pantsir-S1 ให้ดูเลยละกัน คริๆ ข่าวต้นฉบับเขาก็ไม่เยอะเท่าไรนะ อ่ะแล้วทำไมแอ็ดมินเขียนไปได้ไงเป็นคุ้งเป็นแควขนาดนี้นี่ ฮ่าๆๆ

The Eyes
29/06/2558
----------

https://www.youtube.com/watch?v=bQZmNd5HREM
https://en.wikipedia.org/wiki/Pantsir-S1
Brazil to Buy Russian Pantsir Air Defense Systems in First Half of 2016 / Sputnik International
Hitting Everything That Flies: New Russian MANPAD Verba Knows No Equals / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
Oopzzz! จรวด Falcon 9 ของสหรัฐฯสำหรับส่งกระสวยอวกาศ Dragon และเสบียงไปยังสถานีอวกาศระเบิดกลางอากาศขณะปล่อยจากฐานยิงที่ฟลอริด้า

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/PuNymhcTtSQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

------------

อยากเล่าข่าวนี้อ่ะ ขอเล่าหน่อยนะ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งพากันลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์จรวด Falcon 9 ของสหรัฐฯที่กำลังส่งกระสวยอวกาศชื่อ Dragon และเครื่องกรองน้ำรวมทั้งเสบียงอาหาร และข้อมูลเพื่อการวิจัยอื่นๆขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ ISS (International Space Station) เกิดระเบิดขึ้นในกลางอากาศหลังจากที่ถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้าจากสถานีปล่อยยานอวกาศ Canaveral Air Force Station รัฐฟลอริดาได้ประมาณ 3 นาที (อ้าว! ก็ไหนโปรอเมริกาบอกว่าสหรัฐฯเลิศและเป็นผู้นำทุกด้านไง? ทำ ไม มัน เป็น อย่าง นี้ หละ นี่? คริๆ โทษปูตินอีกหละสิ นิสัย!)

ก่อนหน้านี้นักการเมือง (วุฒิสมาชิก) ผู้ฝักใฝ่การค้าอาวุธสงครามของสหรัฐฯปากดีแต่ไม่เจียมตัวออกมาบอกประมาณว่า สหรัฐฯจะต้องใช้เครื่องยนต์จรวดที่ผลิตขึ้นมาเอง ไม่ต้องใช้ของรัสเซียอีกต่อไป ในขณะที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการบินอวกาศบอกว่าตอนนี้ของสหรัฐฯไม่ติดฝุ่นรัสเซียเลยครับท่าน หากจะต้องทำอย่างท่านว่าสหรัฐฯก็คงต้องใช้เวลาอีกสิบกว่าปีถึงจะตามทันรัสเซียนะท่านนะ (และพอถึงเวลานั้นรัสเซียก็คงจะทิ้งห่างอีกหละครับท่าน)

และที่สำคัญก็คือจรวด Falcon 9 ลำนี้ผลิตโดยบริษัท SpaceX ของสหรัฐฯก็ใช้เครื่องยนต์จรวด Merlin ที่ผลิตโดย SpaceX ของสหรัฐฯนั่นแหละ พอปล่อยขึ้นฟ้า (ฝนก็เทลงมา ม่ายช่ายยย คริๆ ที่นั่นเขาไม่ได้แห่นางแมวหรือตุ๊กตาโดราเอมอนเหมือนที่บ้านเรา เพราะกลัวจะผิดกฎหมายทารุณกรรมสัตว์จึงไม่ใช้แมว) ต่อนะ... พอปล่อยขึ้นฟ้า ก็บิ๊กกะบึ้ม!เลยสิท่าน เตือนแล้วว่าให้ใช้ของเฮียปูตินก็ไม่เชื่อ รั้นนักก็เป็นซะอย่างนี้แหละ ของดีมีคุณภาพมีให้ใช้ไม่เอา

สื่อฯรัสเซียได้ทีรีบซ้ำทันทีโดยไม่ปล่อยให้สหรัฐฯมีโอกาสนับถึง8 (โหดอ่ะ!) ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯกำลังมึนๆกับเหตุการณ์และการหาข้อแก้ตัวให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ สื่อฯรัสเซียรีบลงข่าวเลยว่า "Russian Dominance in Space Continues After SpaceX Explosion" (แปลว่ารัสเซียยังนำโด่งในโครงการอวกาศและยังคงดำเนินการต่อไปหลังเหตุการณ์จรวดอวกาศของบริษัท SpaceX ระเบิด) อ้อ… นี่สื่อฯรัสเซียไม่ได้พูดเองนะ เอาข่าวนี้มาจากสื่อฯสหรัฐฯอีกต่อหนึ่ง เห็นได้ชัดเลยว่า แม้กระทั่งสื่อฯสหรัฐฯ (บางราย) ก็ยังยอมรับแล้วว่างานนี้สหรัฐฯกินรัสเซียไม่ลงครับ คริๆ แบบนี้ต้องฉลอง ไม่ใช่ฉลองที่สหรัฐฯล้มเหลวนะ เดี๋ยวจะหาว่าเราใจร้ายชอบซ้ำเติมผู้อื่น ไม่ใช่ ไม่ใช่ ฉลองที่รัสเซียยังครองแชมป์ตะหากเล่า เสียใจด้วยนะโปรอเมริกาจ๋า

อ้อสำหรับสาเหตุที่เกิดระเบิดนั้น เพราะมันห่วยไง! Oopz! สหรัฐฯบอกว่าแรงดันในแท็งค์อ็อกซิเจนเหลวมีสุดเกินไป ส่วนนาย Charles Bolden ผู้บริการของนาซ่าออกมากล่าวว่า "การระเบิดของจรวดในครั้งนี้ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้อย่างมีนัยสำคัญ (significant setback) ต่อโปรแกรมการจัดส่งเสบียง" (ชัดนะ!)

ป.ล. แล้วนักบินอวกาศที่อยู่ในสถานีอวกาศจะไม่ขาดน้ำขาดอาหารเหมือนในหนังหรือ? รายงานบอกว่าด้วยเสบียงอาหารที่มีอยู่ข้างบนนั้นยังสามารถอยู่ได้อีกหลายเดือน และการส่งจรวดและเสบียงขึ้นไปสู่อวกาศเพื่อไปส่งให้กับสถานีอวกาศ ISS ในครั้งต่อไปก็คือโดยรัสเซีย ซึ่งจะปล่อยที่สถานี Baikanur ประเทศคาซัคสถานในวันศุกร์นี้ หลังจากที่รัสเซียร่นระยะเวลาจากวันที่ 3 สิงหาคมมาเป็นวันที่ 3 กรกฎาคม สั้นเข้ามาอีก 1 เดือน

The Eyes
30/06/2558
----------

Russian Dominance in Space Continues After SpaceX Explosion – US Media / Sputnik International
SpaceX Dragon Cargo Ship Explodes 3 Minutes After Launch / Sputnik International
Program for ISS Mission Remains Unchanged Despite SpaceX Crash - Roscosmos / Sputnik International
https://www.youtube.com/watch?v=PuNymhcTtSQ

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฝันร้ายของกองทัพเรือสหรัฐฯ รัสเซียกำลังอัพเกรทเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้า Kilo class ตระกูล Varshavyanka ภายใต้ Project 636.3 และ Project 677 Lada Class



------------
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องอาวุธของรัสเซียแล้วขอต่ออีกซักโพสต์นะครับ (ติดลม) ในหลายๆโครงการเกี่ยวกับการอัพเกรทอาวุธในกองทัพให้ทันสมัยของรัสเซียนั้นก็คือเรือดำน้ำสเตลท์ G.4 ภายใต้โครงการ Project 636.3 และ Project 677 Lada Class นี่แหละ (เฉพาะรุ่นเล็กนะ ไม่รวมเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหญ่เช่น Borei class และ Yasen class ที่จะใช้ยิงขีปนาวุธแบบ ballistic missile พิสัยทำการ 8,000 กม.) วันนี้ขอพูดเฉพาะเจ้าตัวเล็กแต่แสบทรวงพิษสงอันตรายเหลือร้ายนี่ก่อน
เรือดำน้ำสเตลท์รุ่นใหม่ ภายใต้โครงการ Project 636.3 และ Project 677 Lada Class ถือว่าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันใช้สำหรับเปิดน่านน้ำเลย มีความจำเป็นมาก ไปแบบเงียบๆ นิ่มๆ รวดเร็ว ใช้สำหรับจู่โจมเรือดำน้ำข้าศึกและเรือปราบเรือดำน้ำจากฝ่ายข้าศึกโดยเฉพาะ ไปมาไร้ร่องรอย



เฉพาะ Project 636.3 (Varshavyanka-class diesel-electric subs) มีการนำมาปรับปรุงขยายความสามารถต่างๆมากมายทั้งรัสมีทำการ และความสามารถในการโจมตีภาคพื้นดิน ทั้งเหนือผิวน้ำและใต้น้ำ ซึ่งทางกองทัพเรือของสหรัฐฯบอกว่า "หลุมดำในมหาสมุทร" (black holes in the ocean) เพราะจำไม่สามารถตรวจจับได้จากหน้าจอเรด้าร์เมื่อมันดำน้ำ รุ่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อประจำการในกองเรือทะเลดำโดยเฉพาะ เพราะว่าสหรัฐฯชอบเอาเรือรบมายั่วยุอยู่แถวนั้นบ่อยๆ ถ้ารุกล้ำเข้าน่านน้ำรัสเซียเมื่อไรคงได้เจอดีแน่
รายงานบอกว่ารัสเซียพัฒนาเรือดำน้ำตระกูล Varshavyanka-class นี้ขึ้นมา 6 ลำส่งไปประจำการแล้วทั้งสิ้น 4 ลำตังแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ยังเหลืออีกสอง 2 ลำซึ่งจะเสร็จสิ้นและประจำการได้ในปี 2016
สำหรับ Project 636.3 นี้มีความเร็วเหนือผิวน้ำ 17 น็อท ใต้ผิวน้ำ 20 น็อต (แต่ Project 677 Lada Class มีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย จึงทำความเร็วได้มากกว่าโดยอยู่ใต้น้ำที่ 21 น็อต) มีลูกเรือ 52 นาย ท่อยิงตอร์ปิโดขนาด 533mm จำนวน 6 ท่อ มีตอร์ปิโด 18 ลูกระวางขับน้ำที่ 3100 ตัน ระยะเวลาในการออกปฏิบัติการ 45 วัน ดำน้ำลึกที่ 300 เมตร ยาว 73.8 เมตร
[Project 636M (อัลจีเลีย) และ Project 636.1 (เวียตนาม) สำหรับส่งออก จีนมีทั้ง 636 และ 636M ไม่มีระบบ AIP รัสเซียขายให้จีนราว US$200–250 ต่อลำ ภายใต้โครงการ 636 (kilo class) นี้จีนซื้อของรัสเซียไปทั้งหมด 8 ลำ และจีนนำไปสร้างขึ้นมาใหม่และอัพเกรทอีกเป็น Type 039A (Yuan class) โดยใส่ระบบ AIP เข้าไปด้วยสำหรับใช้ในประเทศ แต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นส่งออกจีนมี option ให้เลือกว่าจะเอา AIP ด้วยหรือไม่ โดยเวอร์ชั่นส่งออกนั้นจะมีขนาดเล็กกว่า Yuan class (Kilo) ลูกผสมสัญชาติรัสเซีย-จีนและจะถูกดาวน์เกรทลงมาด้วย (แต่คิดว่าก็ขึ้นอยู่กับลูกค้ารายนั้นๆว่ามีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์กับจีนมากขนาดได้ด้วย หากเป็นลูกค้าวีไอพีจีนก็อาจจะจัดเต็มให้ได้ตามที่ต้องการซึ่งก็ขึ้นอยู่กับงบด้วยเช่นกัน) ส่วน Project 677 นั้นมีการเพิ่มระบบ AIP เข้าไปด้วย รัสเซียใช้ 677 Lada และประจำการไปแล้ว 1 ลำในปี 2010 และจะเข้าประจำการอีก 2 ลำในปี 2017 และปี 2018 ในขณะที่เวอร์ชั่นส่งออกจะเป็น Amur-class 950 และ Amur 1650 ราคาของ Amur-class ก็จะอยู่ที่ราว 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อลำ เล็กว่า 636.3 สรุปที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็นของรัสเซียหรือจีนเป็น Kilo class ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่ขีดคลาส หรือกรัมคลาสนะ คริๆ]
ป.ล. ช่วงนี้ไม่ขอพูดถึงโครงการเรือดำน้ำของไทยนะครับ จนกว่าจะมีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการเท่านั้น ส่วนที่เอาเรื่องเรือดำน้ำรัสเซียมาเล่าให้ฟังนี้ก็เพื่ออัพเดทยุทโธปกรณ์ฝั่งรัสเซียให้แฟนเพจทราบ เหมือนกับข่าวอื่นๆทั่วไป
The Eyes
30/06/2558
----------
TASS Infographics: New submarines for Russia's Black Sea Fleet
TASS: Russia - Construction of Russia's third Lada-class submarine to resume Mar 19 — source
TASS: Archive - Russia’s Project 677 tests to continue in northern seas in 2012
New Stealth Submarine to Join Russian Navy by End of Year: Defense Ministry / Sputnik International
Russia’s 5 Most Deadly Naval Weapons as Seen by US Media / Sputnik International
https://en.wikipedia.org/wiki/Kilo-class_submarine
https://en.wikipedia.org/wiki/Lada-class_submarine
https://en.wikipedia.org/wiki/Amur-class_submarine
https://en.wikipedia.org/wiki/Type_039A_submarine
Another super quiet sub for Russia’s Black Sea fleet — RT News
Russia Submarine Import and Export Behavior | Articles | NTI Analysis | NTI
http://www.nti.org/media/pdfs/russian_submarine_exports.pdf?_=1341877885

 

Thanong Fanclub



quiz
รัสเซียก็เล่นเกมม้าไม้เหมือนกัน ม้าไม้ของปูตินคืออะไร?

เฉลยquiz
รัสเซียก็เล่นเกมม้าไม้เหมือนกัน ม้าไม้ของปูตินคืออะไร?
ท่อแก๊ซรัสเซียที่วางในยุโรปเป็นม้าไม้ของปูติน ยุโรปต้องพึ่งพาแก๊ชจากรัสเซียถึง1ใน 3 ของความต้องการ ถ้าปูตินปิดท่อแก๊ซ ยุโรปจะเจอวิกฤติพลังงาน เพราะว่าจะหาพลังงานแหล่งอื่นมาทดแทนไม่ทัน
แต่กฎของม้าไม้คือ ต้องให้ม้าไม้นอนนิ่งๆ จะไม่ใช้พร่ำเพรื่อ แต่เมื่อใดที่ปลุกม้าไม้ให้ลุกขึ้นมาแล้ว คือการรุกฆาตนั้นเอง เพื่อกินเมือง
thanong
29/6/2015

 

Thanong Fanclub



55. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
ระหว่างYanis Varoufakis หรือศรีธนญชัย รมว. คลังของกรีซ และMario Draghi ผู้ว่าการธนาคารกลางของยุโรปใครฉลาดกว่ากัน?
จะเห็นได้ว่าศรีธนญชัยช่วยนายกศรีปราชญ์เจรจากับเจ้าหนี้ทรอยก้าแบบเตะถ่วงเวลามา5 เดือนกว่าแล้ว สำหรับแผนฟื้นฟูการเงินของกรีซ เพื่อแลกกับการเบิกจ่ายเงินกู้ก้อนใหม่7,200ล้านยูโร
นายศรีธนญชัยรู้ดีว่าธนาคารกลางยุโรปคือม้าไม้ที่ถูกเอามาตั้งอยู่ในกลางหัวใจของระบบการเงินของกรีซเพื่อบี้กรีซให้จนมุม จะเล่นกลับม้าไม้ตัวนี้ก็ต้องขอดูดนมม้าไม้จนเต้าแห้งไปทั้งสองข้าง
เพราะว่าในระหว่างการเจรจาแผนฟื้นฟูกรีซ แบงค์กรีซที่มีหนี้เสียบานเบอะโดนถอนเงินไปเรื่อยๆ ไม่มีเงินให้ถอน แต่เนื่องจากนายศรีธนญชัยเล่นเตะถ่วงเวลาว่าการเจรจายังอยู่ในกรอบและเงื่อนไข เพียงแต่รายละเอียดยังตกลงกันไม่ได้กับเจ้าหนี้ ทำให้นายDraghi (ออกเสียงว่าแดรกขี้)จำต้องเซ็นอนุมัติให้อีซีบีให้สภาพคล่องยูโรฉุกเฉินกับแบงค์กรีกที่โดนถอนเงิน
ไปๆมาๆ อีซีบีให้สภาคล่องฉุกเฉินกับแบงค์กรีกไปแล้ว125,000ล้านยูโร ตามตัวเลขของGoldman Sachs หมายความว่าอีซีบีกลายเป็นตู้เอทีเอ็มขนาดยักษ์ให้กับผู้ฝากเงินกรีกนั้นเอง เพราะว่าแบงค์กรีกมีหนี้เสียมาก โดนปู้ยี่ปู้ยำจนไม่เหลืออะไร
เวลาแบงค์กรีกโดนถอนเงิน ไม่มียูโรจะให้ นายแบงค์กรีกจะโทรศัพท์ หรือส่งไลน์ให้กับผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซนายจ๋าเงินหมดตู้เชฟแล้วจ๊ะ ขอกเบิกเงินหน่อย เนื่องจากธนาคารกลางกรีซพิมพ์ยูโรไม่ได้ เพราะว่ายกอำนาจอธิปไตยการเงินให้อีซีบีแล้ว ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซจึงส่งไลน์หานายแดรกขี้ว่าที่บ้านไอมีแบงค์รัน ขอให้ยูตะแล๊บแก๊บส่งเงินช่วยเหลือสภาพคล่องฉุกเฉินหน่อย
นายแดรกขี้จะไม่ให้ก็ไม่ได้ เพราะว่ากรีซเป็นสมาชิกในเขตยูโร และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาแผนการเงินกับเจ้าหนี้ทรอยก้าอยู่
นายแดรกขี้ปล่อยกู้ฉุกเฉินให้แบงค์กรีกจนเพลินจนตัวเลขปูดไปถึง125,000ล้านยูโร หรือเกินครึ่งของเงินฝากของระบบธนาคารกรีกที่เคยมีอยู่240,000ล้่านยูโร และโดนถอนไปครึ่งหนึ่งโดยพวกเศรษฐีกรีกที่เอาเงินไปฝากสวิสหรือเกาะสวรรค์การเงินที่อื่น
พอดูดนมจากเต้าม้าไม้อีซีพีจนเต้าเหี่ยวแห้งแล้ว นายศรีธนญชัยพยักหน้าให้นายกศรีปราชญ์ประกาศการทำประชามติว่า ชาวกรีกจะเอาแผนฟื้นฟูการเงินที่หน้่าเลือดของเจ้าหนี้หรือไม่
ใครจะบ้าทำประชามติในขณะที่เกิดแบงค์รัน ยกเว้นว่า
1. ใช้ผลของประชามติเพื่อคุ้มกะลาของศรีปราชญ์ เสร็จแล้วเบี้ยวหนี้แล้วหนี จะไปซบอกหมีขาวก็ได้
2. ดูดนมม้าไม้ เอาสภาพคล่องยูโรมาให้ผู้ฝากเงินกรีซให้มากที่สุด แล้วค่อยบอกว่าเกมโอเวอร์
พวกกรีกรู้ดีว่าไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ พวกเจ้าหนี้ก็ไม่ยอมลดหนี้ให้ แถมยังบี้ตะบันให้รัดเข็มขัด วิธีเดียวที่จะดัดหลังเจ้าหนี้ คือหลอกเอายุโรจากนายแดรกขี้ให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะบอกว่าบ๊ายบาย เพราะว่าเสียงของประชาชนผ่านประชามติประชาธิปไตยคือเสียงของสวรรค์
ใครฉลาดกว่ากันระหว่างลูกหนี้นายศรีธนญชัยและเจ้าหนี้แดรกขี้
thanong
29/5/2015
Read more at
AS AN ARGENTINIAN BANK ANALYST, LET ME TELL YOU what the GREEKS are doing NOW

 

Thanong Fanclub



56. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
เมื่อไม่นานมานี้ นายมารีโอ แดรกขี้โต๊กกะใจหมกเลย เมื่อเจอสาวเอ็จจีโอป่วนในระหว่างการแถลงข่าวของอีซีบีที่แฟรงเฟิร์ต เพราะว่าเธอเล่นกระโจนขึ้นไปบนโต๊ะในระหว่างที่นายแดรกขี้กำลังแถลงข่าวอยู่ ทำให้นายแดรกขี้เกือบจะเป็นลมสลบเพราะเป็นคนขวัญอ่อนอยู่แล้ว
เดชะบุญที่ผู้ช่วยเอายาหม่องมาให้ดมทัน ไม่งั้นสงสัยต้องหามส่งโรงพยาบาล เพราะว่าเป็นลมตกใจ
แต่ถ้ากรีซเบี้ยวหนี้ออกจากเขตยุโรโซน คราวนี้นายแดรกขี้คงจะสลบจริง เพราะว่าเงินช่วยเหลือฉุกเฉินที่นายแดรกขี้ให้แบงค์กรีซมีจำนวน125,000ล้านยูโร คงจะต้องตีเป็นหนี้สูญ
ปล่อยกู้แบงค์กรีกเพลินจนหนี้สูญ125,000ล้่าน โอ้ละหนอจริงๆ
หันกลับมาดูเงินกองทุนของอีซีบี ปรากฎว่ามีแค่98,500ล้่านยูโร แค่ลูกหนี้กรีซเบี้ยวหนี้เจ้าเดียว ก็กินทุนของอีซีบีหมดแล้ว ทำให้อีซีบีล้มละลายตามกรีซไปด้วยได้
แล้วจะให้นายแดรกขี้กินอะไรต่อไป?
thanong
29/6/2015

 

Thanong Fanclub



57. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
กรีซจะผิดชำระหนี้กับ IMF พรุ่งนี้, เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อการซัดกันไปมาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้มากขึ้น, นายกรัฐมนตรี ของเอสโทเนีย นายTaavi Roivas ให้สัมภาษณ์ว่ากับสถานีโทรทัศน์สาธารณะ Eesti Rahvusringhaalingว่า มีความเป็นไปได้ว่ากรีซจะออกจากยูโรโซน แต่นั้นไม่ได้ทำให้ท่าทีของประเทศอื่นๆในอียูอ่อนลงเลย และหนี้ของกรีซยังคงค้างชำระเหมือนเดิมและเจ้าหนี้ก็ยังคาดหวังจะได้เงินคืน.
ถ้ากรีซออกจากยูโร, ค่าสกุลเงินใหม่ของประเทศจะลดลงอย่างรวดเร็วมาก, ดังนั้นความสามารถในการชำระหนี้ของพวกเขาจะเลวร้ายเพิ่มมากขึ้นอีก พวกเขาต้องตัดค่าใช้จ่ายหรือปรับปรุงรายได้จากภาษีของพวกเขา ไม่มีทางเลือกอื่นใด
ดังนั้นการต่อสู้ครั้งล่าสุดนี้เปลี่ยนความคิดของกรีซหรือไม่ ? ตามข่าวพาดหัวสดจาก WSJ ที่ปล่อยออกมาเมื่อสักครู่นี้คือ ไม่แน่นอน.
ในความเป็นจริง กรีซพึ่งจะประกาศอย่างเป็นทางการว่ากรีซจะผิดชำระหนี้กับ IMF ในเวลาที่เหลืออีกแค่ 24 ชั่วโมง.
กรีซจะไม่ชำระหนี้คืนให้กับ IMF ในวันอังคาร, เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลกรีซกล่าวในวันจันทร์
เดือนก่อนหน้านี้, กรีซได้แจ้งให้ IMF ทราบถึงแผนที่จะรวมโอนชำระหนี้ในเดือนนี้เป็นการจ่ายครั้งเดียวประมาณ 1.6 พันล้านยูโร ( 1.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ) ซึ่งจะครบกำหนดในวันอังคาร
IMF กล่าวว่ากรีซจะผิดชำระหนี้ทันทีถ้ากรีซไม่สามารถชำระหนี้คืนได้
ศรีปราชญ์กำลังเดิมพันกรีซด้วยการเทหมดหน้าตัก ไปตายเอาดาบหน้า
วิกฤติกรีซช๊อคตลาดสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก......
1.
เรทติ้งกรีซร่วงเฉียด"D" คือDefualtเป็นประเทศผิดนัดชำระหนี้ เหลือขเพียง2ขั้นเท่านั้นหลังถูกStnadard&Poors ลดระดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าจังค์ที่ CCC-
2.....
วิกฤติกรีซยังสั่นสะเทือนตลาดทั่วโลกร่วงลงหนัก จากความหวั่นไหวจนมีการเทขายหุ้น-บอนด์ โดยดาวโจนส์-350.33จุด หรือ-1.95% สู่17,596 S&P500 -43.85จุด หรือ -2.09%สู่2,058 และ nasdaq -122.04 จุดหรือ -2.4% สู่ 4,,958 ส่วนยุโรปหุ่นอังกฤษร่วง 1.97% เยอรมันและฝรั่งเศสดิ่งลงอ3.6% และ 3.7% ตามลำดับ ขณะที่น้ำมันดิ่งลง 2.4%
3...,
ราคาบอนด์ทั่วโลกร่วงลงตามความเสี่ยงค่าเงินที่อ่อนค่าลง สวนทางผลตอบแทน (yields) ที่พุ่งขึ้น เนื่องจากความเสีี่ยงดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
thanong
30/6/2015
หมายเหตุ: คุณLove Thailandช่วยเรียบเรียง
http://www.zerohedge.com/.../greece-will-default-imf...

 

Thanong Fanclub


·
จะอยู่เยี่ยงทาส หรือจะไปเยี่ยงยาจก
ในที่สุดรัฐบาลของอเลกซี ซีปราส นายกรัฐมมนตรีกรีซ ก็ออกรณรงค์ให้ประชาชนกรีซ"Vote No"ไม่รับการช่วยเหลือแผนการอุ้มกรัซของเจ้าหนี้ต่างประเทศในการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค.นี้เพื่อขอฉันทามติในการเจรจากับเจ้าหนี้ แม้จะไม่บอกชัดว่า การ vote no จะนำไปสู่การออกจากยูโรโซนของกรีซด้วยหรือไม่ แต่ถ้า vote yes รัฐบาลของเขาก็หมดหนน้าที่ และจะเป็นเรื่องที่จประชาชนต้องเลือกเส้นทางในอนาคต
ขณะที่นักการเมืองในฟากยุโรปต้างส่งเสียงกดดันมาแล้วทั้งฌอง คล็อด จุงเกอร์ ผู้อำนยการของอียูระบุ vote no เท่ากับการออกจากยูโรกรุ๊ป เช่นเดียวกับรองนายกรัฐมนตรีเยอรมันกพูดในทำนองเดียวกัน
30/6/2015

 

อิมามโคมัยนี ผู้ประกาศ “วันอัลกุดส์สากล”
โดย อิบรอฮีม อาแว - มิ.ย. 29, 2015



หลังจากการปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่านภายใต้การนำของ ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ)ประสบความสำเร็จ ท่านได้การประกาศให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรติ เป็น “วันกุดส์สากล” หรือวันแห่งการปลดปล่อย “อัลกุดส์” กิบลัตแรกของมวลมุสลิมจากการยึดครองของยิวไซออนิสต์

ซึ่งนับแต่นั้นมา ทุกวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนในทุกๆ ปี มวลมุสลิมทั่วทั้งโลกจะขานรับ คำประกาศของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) โดยการออกมาชุมนุมประท้วง และจัดงานรำลึกถึงอัลกุดส์อย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี
การประกาศให้วันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนเป็น “วันกุดส์สากล” คือสิ่งจำเป็นประการแรกในทัศนะของท่านผู้นำการปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ เป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมที่จะต้องปลดปล่อยอัลกุดส์ให้ออกจากการยึดครองของยิวไซออนิสต์

สาส์นการประกาศวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน เป็นวันอัลกุดส์สากล

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตาปราณีและกรุณายิ่งเสมอ

“ข้าพเจ้า ได้รับทราบถึงอันตรายของพวกอิสราเอลที่มีต่อมวลมุสลิมมาช้านาน ซึ่งในวันนี้พวกมันได้บุกโจมตีพี่น้องชาวปาเลสไตน์ของเราอย่างหนัก โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศเลบานอน เพื่อทำลายขบวนการนักต่อสู้แห่งปาเลสไตน์ มีการเข่นฆ่า และระเบิดทำลายอาคารบ้านเรือนที่พักอาศัยของพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อน

ข้าพเจ้าขอเชิญชวนมวลมุสลิม และประเทศมุสลิมทั่วทั้งโลก รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรติ เพื่อต่อต้านและหยุดยั้งการทำลายล้างของพวกอิสราเอล ซึ่งวันต่างๆ ในเดือนรอมฎอนคือวันแห่งพลังอำนาจ วันแห่งรัตติการแห่งอานุภาพที่สามารถจะกำหนดและชี้ชะตากรรมของพี่น้องชาวปาเลสไตน์ได้ ข้าพเจ้าขอประกาศให้วันดังกล่าวเป็น “วันอัลกุดส์สากล” และขอให้ทุกคนช่วยกันผลักดันวันอันยิ่งใหญ่นี้ไปสู่นานาประเทศ ให้เป็นวันสำคัญหนึ่งเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรมของประชาชาติมุสลิมแห่งปาเลสไตน์ ขอพระองค์ทรงทำให้มวลมุสลิมมีชัยชนะเหนือผู้ปฏิเสธทั้งมวลด้วยเทอญ

วัสลามุอาลัยกุม วาเราะห์มะตุ้ลลอฮ์ ฮิวะบารอกาตุฮ์

(รูฮุลลอฮ์ มูซาวี โคมัยนี)

นอกจากสาส์นประกาศวันอัลกุดส์สากลโดยท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) แล้วตลอดการบรรยายของท่าน ท่านยังได้ชี้และเรียกร้องให้ประชาชาติอิสลามทั้งมวลให้ความสำคัญต่ออัลกุดส์ ซึ่งจะขอนำเสนอเนื้อหาคำบรรยายบางส่วนของท่านดังนี้

วันอัลกุดส์ คือวันแห่งอิสลาม วันแห่งเสรีภาพของปาเลสไตน์

วันอัลกุดส์คือวันสากล มิใช่วันสำหรับกุดส์เป็นการเฉพาะเท่านั้น มันเป็นวันแห่งการเผชิญหน้าระหว่างผู้ด้อยโอกาสกับผู้อหังการ มันเป็นวันแห่งการเผชิญหน้าของประชาชาติซึ่งอยู่ภายใต้การรีดนาทาเร้นขออเมริกาและชาติมหาอำนาจอื่นๆ มันเป็นวันแห่งการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจทั้งหลาย มันเป็นวันที่ผู้ด้อยโอกาสทั้งหลายต้องเตรียมพร้อมที่จะต่อกรกับพวกอหังการให้หน้าของพวกมันคะมำลงไปกับพื้น มันเป็นวันซึ่งแยกความหน้าไหว้หลังหลอกออกจากพวกที่แน่วแน่ทั้งหลาย พวกที่แน่วแน่มั่นคงรู้ว่าวันนี้คืออัลกุดส์ วันแห่งการปฏิบัติในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

วันอัลกุดส์ คือวันที่จะต้องท้วงติงไปยังมหาอำนาจว่าพวกเขาต้องวางมือจากบรรดาผู้ด้อยโอกาสและกลับไปอยู่ในที่ๆของตนเองได้แล้ว

วันอัลกุดส์ มิใช่เป็นวันของชาวปาเลสไตน์เท่านั้น แต่เป็นวันแห่งอิสลาม วันแห่งรัฐบาลอิสลาม ต้องเป็นวันที่ธงแห่งรัฐอิสลามถูกชักขึ้นสู่ยอดเสา เป็นวันที่ต้องทำให้พวกมหาอำนาจเข้าใจว่าพวกเขาไม่อาจเสนอหน้าอยู่ในประเทศอิสลามอีกต่อไป

ข้าพเจ้าเชื่อว่า วันแห่งอัลกุดส์ คือวันแห่งอิสลาม วันแห่งท่านรอซูลุลลอฮ์ เป็นวันที่เราจะต้องเตรียมพร้อมสรรพกำลังทั้งหมดของเรา

ในวันอัลกุดส์ ประชาชนทั้งหลายจักต้องส่งสัญญาณเตือนไปยังรัฐบาลของพวกเขาซึ่งเป็นผู้ทรยศ วันอัลกุดส์ คือวันที่เราจะเข้าใจว่าบุคคลใดหรือรัฐบาลใดที่เห็นด้วยการแผนการชั่วสากลและขัดแย้งกับอิสลาม คนที่ไม่ได้เข้าร่วมก็เท่ากับขัดแย้งกับอิสลาม เห็นด้วยกับอิสราเอล คนที่เข้าร่วมก็คือพวกที่หนักแน่นมั่นคงและเห็นดีเห็นงามกับอิสลม และปฏิเสธศัตรูอิสลาม ซึ่งหัวหน้าของคนพวกนี้คืออเมริกา และอิสราเอล มันคือวันแห่งการจำแนกสัจธรรมและโมฆะธรรม

ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่ออัลลอฮ์ ขอพระองค์ทรงประทานชัยชนะให้กับอิสลามแก่ชนทุกชั้นในโลกนี้ ให้บรรดาผู้ด้อยโอกาสมีชัยเหนือผู้อหังการทั้งหลาย ขอดุอาอ์ให้พี่น้องในปาเลสไตน์ ตอนใต้ของเลบานอน และทุกที่ที่พวกเขาอยู่ปลอดภัยจากเงื้อมมือของพวกอหังการและเงื้อมมือของพวกสวาปามด้วยเทอญ

การนิ่งเฉยและการอ่อนข้อต่ออิสราเอล

น่าประหลาดเสียแน่แท้ ยิ่งนานวันโศกนาฏกรรมเลือดของการรุกรานปาเลสไตน์ผ่านพ้นไปนานเท่าใด การนิ่งเฉย การอ่อนข้อของผู้ปกครองประเทศอิสลาม และการผูกมิตรกับอิสราเอลผู้รุกรานกลับเพิ่มมากขึ้น…. แม้กระทั่งการประกาศเชิญชวนและสโลแกนที่เกี่ยวข้องกับ บัยตุล มุก็อดดัส ไม่ได้เข้ามาในโสตประสาทเลย หากไม่มีประเทศและประชาชนของประเทศหนึ่งซึ่งเหมือนกับอิหร่านที่ได้ลุกขึ้นมาสนับสนุนประชาชนปาเลสไตน์และกู่ก้องร้องตะโกน ทั้งๆที่ตนเองก็กำลังเผชิญหน้ากับการรุกราน สงคราม และการคว่ำบาตรอยู่ก็ตาม คนพวกนั้นกลับหันมารุมประณามและเป็นเดือดเป็นร้อน เมื่อมีการประกาศจัดงานวันหนึ่งขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “วันแห่ง อัลกุดส์”

อิสราเอล คือมะเร็งร้ายของตะวันออกกลาง

ทุกวันนี้ กิบละฮ์แรกของมุสลิมยังตกอยู่ในอาณัติของอิสราเอล มะเร็งร้ายของตะวันออกกลาง ทุกวันนี้พวกมันยังคงกดขี่บีฑาพี่น้องปาเลสไตน์ และเลบานอนของพวกเราอยู่ ทำให้พวกเขาต้องนอนจมเลือดอยู่ทุกวี่วัน ทุกวันนี้อิสราเอลยังคงสร้างความร้าวฉานด้วยสื่อแห่งมารทุกรูปแบบ จึงเป็นหน้าที่ของมวลมุสลิมทุกคนที่พวกเขาจักต้องตระเตรียมตัวเองให้พร้อมต่อกรกับอิสราเอล

ชัยชนะของพวกด้อยโอกาสเหนือพวกอหังการ

وَنُرِيدُ أَن نَّمُنَّ عَلَى الَّذِينَ اسْتُضْعِفُوا فِي الْأَرْضِ وَنَجْعَلَهُمْ أَئِمَّةً وَنَجْعَلَهُمُ الْوَارِثِينَ

ความว่า เราปรารถนาที่จะประทานความโปรดปรานเป็นพิเศษแก่บุคคลผู้ด้อยโอกาสในแผ่นดินนี้ และจะดลบันดาลให้พวกเขาเป็นผู้นำ และจะดลบันดาลให้พวกเขาเป็นทายา (อัลกอศ่อศ โองการที่ ๕)

เจตนารมณ์ของอัลลอฮ์ ก็คือ พระองค์ทรงฝากฝังบรรดาผู้ด้อยโอกาสไว้กับการนำอันเปี่ยมไปด้วยวิทยปัญญาของบรรดาศาสดาและทายาทของท่านเหล่านั้น ให้ช่วยพวกเขาเป็นอิสระจากรัฐบาลทรราช และให้ชะตาชีวิตขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง ตามพระบัญชานี้

หวังว่า คำสัญญาของพระเจ้าที่จะประทานความโปรดปรานพิเศษให้แก่บรรดาผู้ด้อยโอกาสจะเป็นจริงขึ้นมาในเร็ววัน……. พระหัตถ์อันทรงพลังขององค์ผู้ทรงสัจจะ จะทรงดึงมือของประชาชาติผู้ถูกกดขี่ และการเปลี่ยนแปลงในนามของพระเจ้าที่ได้บังเกิดขึ้นประชาชาติอิหร่านนั้น ขอให้บังเกิดขึ้นกับประชาชาติและกลุ่มชนอื่นๆด้วย ตามพระประสงค์ของพระองค์ มือของผู้กดขี่ที่สร้างความเลวร้ายเอาไว้กับบรรดาผู้ด้อยโอกาสในโลกจะถูกตัดขาด และบรรดาผู้ถูกกดขี่ก็จะได้รับสิทธิ์ที่ถูกแย่งชิงไปกลับคืนมา…….

อ้างอิง หนังสือ ศอฮีฟะห์ อิมาม เล่ม ๙ หน้า ๒๖๗

อิมามโคมัยนี ผู้ประกาศ “วันอัลกุดส์สากล” | abnewstoday

 

In Pics : โลกวิปริต!!คลื่นความร้อนปกคลุมยุโรป อุณหภูมิระอุเหนือ40องศา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2558 04:48 น. (แก้ไขล่าสุด 30 มิถุนายน 2558 05:30 น.)


@ในเซบีญา เมืองเอกของแคว้นอันดาลูซีอา อุณหภูมิพุ่งทะยานถึง 42 องซาเซลเซียส ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องหาทางคลายร้อนด้วยการลงเล่นน้ำที่น้ำพลุของเมือง ขณะที่บางส่วนก็เลือกไปกระโดดจากสะพานลงแม่น้ำกวาดัลกีบีร์

เอเอฟพี - อุณหภูมิในสเปนและโปรตุเกสพุ่งเหนือ 40 องศาเซลเซียสเมื่อวันจันทร์(29มิ.ย.) กระพือความกังวลทางสุขภาพ ท่ามกลางความเตือนว่าสภาพอากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้จะเคลื่อนไปทางเหนือสู่ฝรั่งเศสและอังกฤษในช่วงกลางสัปดาห์

ด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสเปนยกระดับเตือนภัยในแคว้นกอร์โดบนสู่สีแดง ถือเป็นขั้นสูงสุด ซึ่งหมายถึงสภาพอากาศก่อความเสี่ยงอย่างสูงแก่สุขภาพ ท่ามกลางความคาดหมายว่าในแถบชนบทของแคว้นแห่งนี้ จะพุ่งแตะ 44 องศาเซลเซียส

ชาวสเปนต่างหลั่งไหลกันไปยังชายหาด โดยเจ้าหน้าที่เรียกร้องพวกเขาหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และขอให้ดื่มน้ำมากๆ ขณะคลื่นความร้อนยังเป็นผลให้ต้องมีการประกาศเตือนภัยสีส้ม ขั้นสูงสุดอันดับ 2 ใน 43 จังหวัดจากทั้งหมด 50 จังหวัดของประเทศ

หญิงสาวคนหนึ่งเล่นน้ำพลุคลายร้อนในเมืองเซบีญาของสเปน หลังดินแดนแถบนี้ต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน จนอุณหภูมิพุ่งเกิน 40 องศาเซลเซียส

คาสเตโล บรังโกและปอร์ตาเลเกร 2 เมืองของโปรตุเกส ก็เผชิญกับอากาศร้อนระอุเช่นกัน ด้วยอุณหภูมิพุ่งแตะ 41 องศาเซลเซียส ขณะที่ฝรั่งเศส ก็ต้องเตรียมรับมือกับอุณหภูมิระดับ 39 องศาเซลเซียสในช่วงกลางสัปดาห์ ส่วนอังกฤษ ดีกว่าหน่อยเพราะคาดหมายว่าอากาศน่าจะอยู่ราวๆ 35 องศาเซลเซียส

"มันเป็นปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยาที่ไม่ปกติ มันมีความสาหัสเป็นพิเศษและมีความเสี่ยงต่อพลเรือนในระดับที่สูงลิ่ว" โฆษกของสำนักงานพยากรณ์อากาศสเปนกล่าว

ในเซบีญา เมืองเอกของแคว้นอันดาลูซีอา อุณหภูมิพุ่งทะยานถึง 42 องซาเซลเซียส ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องหาทางคลายร้อนด้วยการลงเล่นน้ำที่น้ำพลุของเมือง ขณะที่บางส่วนก็เลือกไปกระโดดจากสะพานลงแม่น้ำกวาดัลกีบีร์ ส่วนศาลากลางกรุงมาดริด ออกคำเตือนถึงประชาชนให้เติมน้ำแก่ร่างกายตลอดทั้งวัน ด้วยการดื่มน้ำอย่างน้อยๆ 3 ลิตรต่อวันและหลีกเลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์

ร้านค้าแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด นำพัดลมไอน้ำมาเปิดบริการลูกค้า หลังสเปนต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน จนอุณหภูมิพุ่งเกิน 40 องศาเซลเซียส

ชายหาดต่างๆตามแถบชายฝั่งทางใต้ของสเปนแออัดไปด้วยผู้คน เนื่องจากคลื่นความร้อนดันมาพร้อมๆกับช่วงเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งในสเปนและโปรตุเกส ออกคำเตือนคล้ายกันว่าด้วยอุณหภูมิที่ร้อนระอุ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟป่า

ท่ามกลางความคาดหมายว่าคลื่นความร้อนจะเคลื่อนขึ้นไปทางเหนือสู่ฝรั่งเศสและอังกฤษในช่วงกลางสัปดาห์ ทำให้หนังสือพิมพ์อังกฤษฉบับหนึ่งพยากรณ์ว่าประเทศแห่งนี้อาจต้องเผชิญสภาพอากาศที่สาหัสราว 36 องศาเซลเซียสในวันพุธ(1ก.ค.) ซึ่งหากเป็นไปตามคำทำนาย นั่นเท่ากับว่ามันจะกลายเป็นอุณหภูมิสูงสุดตลอดกาลของศึกเทนนิสแกรนด์ สแลม วิมเบิลดัน ที่กำลังแข่งขันกันอยู่ทางใต้ของลอนดอน

ในเซบีญา เมืองเอกของแคว้นอันดาลูซีอา อุณหภูมิพุ่งทะยานถึง 42 องซาเซลเซียส ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องหาทางคลายร้อนด้วยการลงเล่นน้ำที่น้ำพลุของเมือง ขณะที่บางส่วนก็เลือกไปกระโดดจากสะพานลงแม่น้ำกวาดัลกีบีร์

คำพยากรณ์ดังกล่าวยังกระพือความกังวลในฝรั่งเศส ดินแดนที่เคยได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดของภัยคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติและไม่คาดฝันในยุโรปปี 2003 ซึ่งคร่าผู้คนมากถึง 30,000 ศพ โดยในนั้นเกือบ 20,000 คนเป็นเหยื่อผู้เสียชีวิตในแดนน้ำหอม และส่วนใหญ่เป็นคนชรา

ด้วยเหตุนี้ฝรั่งเศสจึงรุดติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามสถานที่สาธาณะต่างๆเพื่อให้ประชาชนได้คลายร้อน "ฉันไม่คิดว่าคลื่นความร้อนนี้จะก่อผลลัพธ์แบบเดียวกับเมื่อครั้งปี 2003 เพราะว่าตอนนั้นเราไม่ได้เตรียมการใดๆ" เซโกลีน โรยาล รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกล่าว ท่ามกลางความคาดหมายว่าอุณหภูมิที่ร้อนระอุนี้จะลากยาวไปถึงช่วงสุดสัปดาห์

ชายหาดต่างๆตามแถบชายฝั่งทางใต้ของสเปนแออัดไปด้วยผู้คน เนื่องจากคลื่นความร้อนดันมาพร้อมๆกับช่วงเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยว


แม้คาดหมายว่าคลื่นความร้อนจะเคลื่อนขึ้นมาถึงในช่วงกลางสัปดาห์ แต่ชาวอังกฤษจำนวนมากก็เริ่มทนไม่ไหว พากันไปแออัดยัดเยียดรับลมเย็นตามชายหาดแล้ว

In Pics :

 

น้ำมันร่วง-หุ้นสหรัฐฯดิ่งเหวตื่นตระหนกกรีซจ่อเบี้ยวหนี้ ทองคำขึ้น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2558 05:29 น.



ชาวกรีซแห่ไปยังตู้เอทีเอ็มเพื่อถอนเงิน หลังรัฐบาลเอเธนส์ชุดปัจจุบันซึ่งเป็นพวกฝ่ายซ้ายประกาศจัดการลงประชามติในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ว่ามหาชนชาวกรีกจะยอมรับหรือปฏิเสธผลลัพธ์การเจรจาข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินระหว่างเอเธนส์กับเจ้าหนี้นานาชาติกลุ่มทรอยกา และสถานการณ์ดังกล่าวกระพือความกังวลไปยังตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงวอลล์สตรีทที่ปิดลบอย่างหนักหน่วงในวันจันทร์(29มิ.ย.)

เอเอฟพี - น้ำมันโลกร่วงหนักและวอลล์สตรีทดิ่งเหวเมื่อวันจันทร์(29มิ.ย.) ท่ามกลางเค้ารางว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ และด้วยความกังวลต่อวิกฤตทางการเงินของเอเธนส์ ผลักให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

มีหลายปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการปรับลงในราคาน้ำมันในวันจันทร์(29มิ.ย.) ในนั้นรวมถึงความกังวลต่อภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจจีน ชาติผู้บริโภครายใหญ่ และการเจรจานิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจ อาจนำมาซึ่งข้อตกลงยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเตหะราน ที่จะเปิดทางให้น้ำมันดิบของอิหร่านเข้าสู่ตลาดนานาชาติเพิ่มเติม ในขณะที่อุปทานนั้นก็ล้นตลาดอยู่ก่อนแล้ว

แต่ปัจจัยสำคัญที่เหนี่ยวรั้งราคาน้ำมันวานนี้ เกิดจากการที่กรีซและเหล่าเจ้าหนี้ล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงปล่อยเงินช่วยเหลือแก่เอเธนส์ให้ทันเวลาที่ต้องชำระหนี้จำนวน 1,500 ล้านยูโร แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศในวันอังคาร(30มิ.ย.)

ด้วยเค้ารางที่กรีซอาจผิดนัดชำระหนี้นี้เอง ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(29มิ.ย.) ร่วงลงอย่างหนักและปิดลบตามตลาดทุนทั่วโลก ขณะที่เอสแอนด์พี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือคาดหมายว่ามีโอกาสถึง 50-50 ที่เอเธนส์จะต้องออกจากยูโรโซน

ดาวโจนส์ ลดลง 350.33 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,596.35 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 43.85 จุด (2.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,057.64 จุด แนสแดค ลดลง 122.04 จุด (2.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,958.47 จุด

ในวันจันทร์(29มิ.ย.) ถือเป็นวันแรกใน 2015 ที่เอสแอนด์พี 500 ดิ่งลงมากกว่าร้อยละ 2 และยังเป็นการปิดลบหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2014

นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซสร้างความตกตะลึงไปทั่วยุโรปในวันอาทิตย์ ( 28 มิ.ย.) หลังออกมาประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน และสั่งปิดทำการสถาบันการเงินทั่วประเทศ เพื่อรับมือกับวิกฤตแห่ถอนเงินของประชาชนในประเทศที่รู้สึกกังวลต่ออนาคตของกรีซ หลังรัฐบาลเอเธนส์เลือกใช้การจัดลงประชามติ เป็นทางออกว่าจะทำอย่างไรกับข้อตกลงทางการเงินกับเจ้าหนี้ต่างชาติ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลให้ในวันจันทร์(29มิ.ย.) สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส(S&P)ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ จาก'CCC' สู่ '-CCC' โดยบอกว่าตอนนี้ความเป็นไปได้ที่เอเธนส์จะออกจากยูโรโซนอยู่ที่ 50-50

วิกฤติทางการเงินที่เลวร้ายลงเรื่อยๆของกรีซ กระพือให้นักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและดันราคาทองคำเมื่อวันจันทร์(29มิ.ย.) แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,179.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทำเนียบขาวยัน ไม่มีแผนยื่นมือช่วยเหลือ “เปอร์โตริโก” แก้วิกฤตหนี้ แม้เกาะสวรรค์อาจ “ล้มละลาย” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2558 03:42 น.


@อเลฮันโดร การ์เซีย ปาดิญา ผู้ว่าการวัย 43 ปีของเกาะเปอร์โตริโก

เอพี / เอเจนซีส์ /ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – ทำเนียบขาวออกโรงยืนยันในวันจันทร์ ( 29 มิ.ย.) ระบุ ไม่มีแผนยื่นมือเข้าช่วยเหลือ “เปอร์โตริโก” ดินแดนในปกครองของสหรัฐอเมริกาที่กำลังเผชิญวิกฤต จากปัญหาหนี้สิน

รายงานข่าวในวันจันทร์ ( 29) ซึ่งอ้างถ้อยแถลงของจอช เออร์เนสต์ โฆษกประจำทำเนียบขาว ระบุว่า รัฐบาลอเมริกันชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา “ไม่มีแผน” ที่จะยื่นมือเข้าไปให้การช่วยเหลือใดๆ ต่อ “เปอร์โตริโก” ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การปกครองของสหรัฐฯ กลางทะเลแคริบเบียน ที่กำลังถูกรุมเร้าจากวิกฤตหนี้สิน และสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งยวดที่จะประสบภาวะ “ล้มละลาย”

“รัฐบาลสหรัฐฯตระหนักดีถึงวิกฤตที่เปอร์โตริโกกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้และเรารู้สึกเห็นใจต่อความยากลำบากทางเศรษฐกิจที่ชาวเปอร์โตริโกได้รับ แต่เราขอยืนยันว่าทางวอชิงตันไม่มีแผนที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องนี้”โฆษกทำเนียบขาว กล่าว

การออกโรงปฏิเสธของทางทำเนียบขาวล่าสุดมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ อเลฮันโดร การ์เซีย ปาดิญา ผู้ว่าการวัย 43 ปีของเกาะเปอร์โตริโก ออกโรงเรียกร้องให้ทางวอชิงตันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยเตือนว่า เปอร์โตริโกอาจประสบภาวะ “ล้มละลายทางเศรษฐกิจ” ในเร็วๆนี้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือในเรื่อง “วิกฤตหนี้สิน”

รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า การจัดทำแผนงบประมาณที่ไร้ประสิทธิภาพและการใช้จ่ายเงินเกินตัวของเปอร์โตริโกตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา คือ ต้นตอแห่งปัญหาวิกฤตหนี้สินที่เกาะเปอร์โตริโกต้องเผชิญอยู่ในเวลานี้

ทั้งนี้ ปัญหาหนี้สินที่เปอร์โตริโกกำลังเผชิญอยู่อาจส่งผลให้รัฐบาลของเกาะซึ่งเป็นบ้านของประชากนราว 3.55 ล้านคนแห่งนี้ อาจต้อง “ผิดนัดชำระหนี้สินต่างประเทศ” ที่มีมูลค่าสูงถึง 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.4 ล้านล้านบาท) ที่ใกล้ครบกำหนดชำระคืนแก่บรรดาเจ้าหนี้ในช่วง 1-2 เดือนนับจากนี้

 

อดีตผอ.ซีไอเอ: อิหร่านเหนือกว่าในการเจรจานิวเคลียร์
Category: News & Event Published on Monday, 29 June 2015 17:42 Written by Islamicstudiesth Team.



อดีตผอ.ซีไอเอ แสดงความกังวลในเรื่องการเป็นมือบนของอิหร่านในการเจรจานิวเคลียร์

สำนักข่าว Mehr รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ว่า อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของอเมริกา (ซีไอเอ) ในการให้สัมภาษณ์ของตนในวันอาทิตย์ได้แสดงความวิตกกังวลของตนเกี่ยวกับความเหนือกว่าของอิหร่านในการเจรจานิวเคลียร์

"ไมเคิล เฮย์เดน" (Michael Hayden) อดีตผอ.ซีไอเอ ในการสัมภาษณ์กับโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ในวันอาทิตย์ได้กล่าวว่า : ความกังวลของผมเกิดจากกรณีที่ว่า อิหร่านอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าในการเจรจานิวเคลียร์

นอกจากนี้เขายังได้กล่าวเสริมอีกว่า : ผมหวังว่าการเจรจาครั้งนี้จะยังไม่เป็นรอบสุดท้ายของการเจรจานิวเคลียร์

อดีตผอ.ซีไอเอ พร้อมกับการแสดงความกังวลเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงระหว่างประเทศ 5 + 1 กับอิหร่าน ได้อ้างว่า ข้อตกลงที่ถูกนำเสนอในขณะนี้ไม่สามารถที่จะป้องกันไม่ให้อิหร่านบรรลุสู่อำนาจทางด้านนิวเคลียร์ได้

ที่มา : mehrnews


อดีตผอ.ซีไอเอ: อิหร่านเหนือกว่าในการเจรจานิวเคลียร์

 

ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ซาอุฯ “เราจะเก็บเกี่ยวศีรษะของชีอะฮ์!”
Category: News & Event Published on Monday, 29 June 2015 18:33 Written by Islamicstudiesth Team.



(ภาพ) คอลิด อัลฆอมิดี ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์หัวรุนแรงช่อง "วิซ้อล" ของซาอุอาระเบีย

บรรดานักเคลื่อนไหวในเครือข่ายสังคมได้เผยแพร่คลิปวิดีโอคำพูดของผู้ดำเนินรายการของสถานีโทรทัศน์ "วิซ้อล" ของซาอุดิอาระเบียที่ได้ตอกย้ำเกี่ยวกับ "การตัดศีรษะของชาวชีอะฮ์"

อัลอาลัมได้รายงานในวันจันทร์ว่า "คอลิด อัลฆอมิดี" ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์หัวรุนแรงและคลั่งศาสนาช่อง "วิซ้อล" ของซาอุอาระเบีย และเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับเครือข่ายก่อการร้ายดาอิช (ISIS) และอัลกออิดะฮ์

ในรายการนี้เขาได้ขู่ว่า ถ้าหากเป็นไปได้ เขาจะกีดขวางการเดินทางไปแสวงบุญของ "ชีอะฮ์" ในนครมักกะฮ์และมะดีนะฮ์ และจะตัดหัวของพวกเขา

ในวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดก่อการร้ายในมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ในย่านอัซซอวาบิร กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศของคูเวตได้ระงับการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์วิซ้อลของซาอุดิอาระเบียในประเทศคูเวต จากการโจมตีครั้งนี้ทำให้ผู้นมาซเสียชีวิต 27 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 227 คน

ก่อนการโจมตีของผู้ก่อการร้ายนี้ไม่กี่วัน โทรทัศน์ "วิซ้อล" ของซาอุดิอาระเบียได้ออกอากาศรายการต่างๆ ที่เป็นการปลุกปั้น และ “คอลิด อัลฆอมิดี” ก็คือคนๆ เดียวกันกับผู้ที่อ้างความรับผิดชอบในปฏิบัติการฆ่าตัวตายและการโจมตีของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธยังโรงพยาบาล "อัลอะรอฎี" ในซานาเมืองหลวงของเยเมน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2013 เป็นการแก้แค้นต่อโรงพยาบาลและบรรดาผู้บริหาร เนื่องจากตามคำพูดของเขา ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในเขตพื้นที่ "ดิมาจญ์" นั้นถูกลักพาตัวไปจากโรงพยาบาล ในช่วงเวลานั้นเกิดการปะทะกันระหว่างชาวพื้นที่ "ดิมาจญ์" กับกองกำลังติดอาวุธจากต่างชาติ


ที่มา : fa.alalam

ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ซาอุฯ “เราจะเก็บเกี่ยวศีรษะของชีอะฮ์!”

 

ประโยคคำพูดของประมุขคูเวตบนป้ายโฆษณา
Category: News & Event Published on Tuesday, 30 June 2015 06:38 Written by Islamicstudiesth Team.



"พวกเขาเหล่านี้คือลูกๆ ของฉัน" คำพูดแรกของประมุขคูเวตในสถานที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดล่าสุด

ในวันนี้ตามถนนสายต่างๆ ของคูเวตจะพบเห็นแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ซึ่งถูกเขียนบนแผ่นป้ายเหล่านั้นด้วยภาษาชาวบ้านของคูเวตด้วยสำนวนว่า "พวกเขาเหล่านี้คือลูก ๆ ของฉัน"

อัลอาลัมรายงานว่า : "พวกเขาเหล่านี้คือลูก ๆ ของฉัน" (هذولا عیالی) เป็นคำพูดแรกของเชคซอบาห์อัลอะห์มัด อัซซอบาห์, ประมุขคูเวตในในขณะที่ปรากฏตัวในมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ในย่านอัซซอวาบิร หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ประมุขคูเวตเป็นยุคคลแรกๆ ที่ไปถึงสถานที่เกิดเหตุในระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพื่อรับทราบถึงสภาพของบรรดาผู้ตกเป็นเหยื่อและได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพวกเขา และบรรดาสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า เขาได้กล่าวในท่ามกลางกลุ่มชนที่อยู่ในที่นั้นว่า : "พวกเขาเหล่านี้คือลูกๆ ของฉัน"

พลเมืองคูเวตได้ถ่ายภาพแผ่นป้ายโฆษณาต่างๆ ที่อยู่ตามท้องถนนของประเทศที่มีประโยคดังกล่าวถูกเขียนไว้บนมัน และได้โพสต์ลงบนหน้าเครือข่ายทางสังคมของตนและด้านล่างของภาพภ่ายเหล่านี้ พวกเขาได้เขียนทัศนะต่างๆ ของตนไว้ อย่างเช่น "ท่านก็เป็นบิดาของเรา"

ประโยคคำพูดนี้ของประมุขคูเวตได้รับการต้อนรับอย่างกว้างขวางจากประชาชนชาวคูเวต และสัปดาห์ภายใต้ชื่อ "สัปดาห์เครือข่ายทางสังคม" ก็ได้ถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว

บรรดานักเคลื่อนไหวในเครือข่ายสังคมถือว่าในเบื้องต้น ประโยคคำพูดของประมุขคูเวตนี้ ได้ถูกกล่าวขึ้นในสถานการณ์ที่วิกฤตนั้น จะช่วยเสริมสร้างความสามัคคีในชาติได้เป็นอย่างดี โดยที่มันจะช่วยปกป้องความหวั่นกลัวในการเกิดวิกฤตทางศาสนาในประเทศนี้ได้



ที่มา : fa.alalam

ประโยคคำพูดของประมุขคูเวตบนป้ายโฆษณา

 

ฮือฮา! “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ทนายแม้ว งัดไม้เด็ดขอ “เปลี่ยนตัวผู้พิพากษา”ช่วยยกฟ้องอดีตผู้นำจอมโกงแห่งแซมเบีย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2558 11:27 น.


@โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมและลูกความรายล่าสุด อดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดาแห่งแซมเบีย

เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ทนายความระหว่างประเทศชื่อดังชาวแคนาดา ซึ่งเคยรับจ้างเป็นที่ปรึกษากฏหมายให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยที่หลบหนีคดีความอยู่ในต่างแดน โชว์ผลงานชิ้นโบแดงสะเทือนวงการกฏหมายในวันจันทร์ ( 29 มิ.ย.) ด้วยการช่วยให้ “รูเปียห์ บันดา”อดีตประธานาธิบดีจอมโกงกินแห่งประเทศแซมเบียรอดพ้นความผิดคดีทุจริต ถูกศาลแซมเบียตัดสินยกฟ้อง ทั้งที่หลักฐานมัดตัวแน่น

รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงลูซากา เมืองหลวงของแซมเบีย อดีตดินแดนอาณานิคมของอังกฤษที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา ระบุว่า ผู้พิพากษาศาลแขวงลูซากามีคำตัดสินให้อดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดาแห่งแซมเบียในวัย 78 ปี รอดพ้นจากความผิดทั้งปวงในคดีที่เขาถูกสำนักอัยการแผ่นดินแซมเบียยื่นฟ้องฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ และยักยอกเงินข้อตกลงจำนวน 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 84.4 ล้านบาท) ที่ได้จากการเจรจาซื้อขายน้ำมันกับประเทศไนจีเรีย เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง

รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวในศาลระบุว่าทีมทนายความของอดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดาแห่งแซมเบียซึ่งนำโดย “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” ทนายความระหว่างประเทศชื่อดังชาวแคนาดา สามารถโน้มน้าวให้ผู้พิพากษาเชื่อได้ว่า หลักฐานทั้งหมดของฝ่ายอัยการนั้นเต็มไปด้วย “เอกสารเท็จ” ซึ่งถูกจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง บวกกับ “เอกสารจริง” ที่ล้มเหลวในการพิสูจน์ความเชื่อมโยงกันระหว่างอดีตประธานาธิบดีบันดา กับการยักยอกเงินจำนวนดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้พิพากษาตัดสินยกฟ้องอดีตผู้นำแซมเบียที่เคยครองอำนาจระหว่างปี 2008-2011 รายนี้

อย่างไรก็ดีมีรายงานว่า ก่อนการตัดสินคดีนี้เพียงไม่กี่วัน ทางสำนักงานศาลยุติธรรมกลางของแซมเบียได้ให้ความเห็นชอบต่อคำร้องของทีมทนายฝ่ายจำเลยที่นำโดยโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ร้องขอให้มีการ “เปลี่ยนตัวผู้พิพากษา” ในคดีนี้มาเป็นผู้พิพากษาโจชัว บันดา (ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นญาติห่างๆกับจำเลย แต่พิสูจน์ไม่ได้)

รายงานข่าวระบุว่า หลังผู้พิพากษาโจชัว บันดา อ่านคำตัดสินให้ “ยกฟ้อง” อดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดา ทางอดีตผู้นำแซมเบียรายนี้ได้แสดงอาการดีใจอย่างมากและพุ่งตรงไปให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยระบุ รู้สึกผ่อนคลายที่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และกล่าวขอบคุณทีมทนายความของเขา แต่อดีตผู้นำแซมเบียปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างตัวเขาและผู้พิพากษาโจชัว บันดา

ทั้งนี้ มีรายงานว่าโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม มิได้เข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดีที่ศาลแขวงลูซากาในครั้งนี้ เนื่องจากเขาถูก “ขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ” โดยรัฐบาลแซมเบียชุดก่อนภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีไมเคิล ซาตาผู้ล่วงลับ แต่ถึงกระนั้น ทีมกฎหมายฝ่ายจำเลยที่นำโดยซากวิบา ซิโกตา ผู้ช่วยของอัมสเตอร์ดัมยังคงเดินหมากแก้ต่างได้ตามแผน และนำไปสู่การยกฟ้องอดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดาในที่สุด

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปี 2012 เคนเนดี ซาเกนี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในหรือ“กระทรวงมหาดไทย”ของแซมเบียในขณะนั้นออกประกาศห้ามโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมเดินทางเข้าประเทศ โดยระบุเป็นบุคคลที่ไม่เป็นที่ต้อนรับของประชาชาวแซมเบีย และมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

อย่างไรก็ดี ข้าหลวงใหญ่ของสหราชอาณาจักร อดีตประเทศเจ้าอาณานิคมของแซมเบีย มีคำสั่งอนุญาตให้อัมสเตอร์ดัมเดินทางเข้ามายังแซมเบีย ได้เป็นกรณีพิเศษ โดยใช้วีซ่า “นักท่องเที่ยว” เพื่อเปิดทางให้อัมสเตอร์ดัม สามารถเข้ามาให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่อดีตประธานาธิบดีรูเปียห์ บันดา และบุตรชายคือ เฮนรี บันดา ที่กำลังถูกทางการแซมเบียดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมถึงข้อหาทุจริตโกงกิน ขณะที่อัมสเตอร์ดัมยืนยันมาตลอดว่า ข้อกล่าวหาที่สองพ่อลูกตระกูลบันดาได้รับนั้นมี “แรงจูงใจทางการเมือง” อยู่เบื้องหลัง

ขณะที่สื่อท้องถิ่นในแซมเบียต่างรายงานข่าวเกี่ยวกับประวัติของอัมสเตอร์ดัม โดยระบุว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากการรับว่าความ หรือเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้แก่บุคคลสำคัญหลายคน เช่น ดร.ฉี ซุน จวาน นักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชนชื่อดังของสิงคโปร์, เอลิฆิโอ เซเดนโญ นักโทษการเมืองจากเวเนซุเอลา รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ถูกกองทัพโค่นอำนาจเมื่อเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2006 และถูกทางการไทยดำเนินคดีในหลายข้อหา รวมถึงการทุจริต

 

คาร์บอมบ์โจมตีใกล้กับโรงพยาบาลทหารในเมืองหลวงเยเมน – กบฎฮูตียิง “จรวดสกั๊ด” ใส่กองกำลังซาอุฯเป็นครั้งที่ 2 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มิถุนายน 2558 11:28 น.



เอพี/เอเจนซีส์ - เกิดเหตุคาร์บอมบ์บริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลทหารในกรุงซานาในวันจันทร์(29) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 28 คนด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงผู้หญิง 12 คน ในขณะที่กลุ่มโยงใยก่อการร้าย IS ในเยเมนออกมารับผิดชอบถึงเหตุโจมตี และในวันเดียวกัน(29) ทางกลุ่มกบฎฮูตีออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ยอมรับยิงขีปนาวุธสกั๊ดเข้าโจมตีกองทัพซาอุดีอาระเบีย ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เริ่มต้นการสู้รบตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ

เอพีและบีบีซี สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(29) ว่า เกิดคาร์บอมบ์ขึ้นใกล้โรงพยาบาลกองทัพเยเมนในกรุงซานา แต่ทว่าเป้าหมายโจมตีนั้นยังเป็นที่สับสน หซึ่งเอพีออกมารายงานว่า เป้าหมายโจมตีไปที่บ้านเรือนของบรรดาแกนนำกลุ่มกบฎฮูตี

ทั้งนี้แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเยเมนที่ใกล้ชิดกับกลุ่มกบฎฮูตีให้สัมภาษณ์กับเอพีว่า การเกิดเหตุระเบิดในกรุงซานานั้นมีเป้าหมายไปที่บ้านของบรรดาแกนนำกบฎฮูตี ซึ่งหลังจากเกิดเหตุทางกลุ่มกบฎได้ล้อมบริเวณที่เกิดเหตุไว้ พร้อมห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในขณะที่รถพยาบาลฉุกเฉินแล่นเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

และในวันเดียวกันเมื่อวานนี้(29) ทางกลุ่มกบฎฮูตีได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ว่าได้ยิงจรวดสกั๊ดเข้าใส่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายเริ่มการสู้รบในช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นต้นมา

บีบีซีรายงานเพิ่มเติมว่า มีความพยายามในการยิงจรวดสกั๊ดในช่วงต้นเดือนแต่ถูกทางกองทัพซาอุฯสามารถสกัดได้เสียก่อน

เอพีระบุว่า กลุ่มที่โยงใยกับก่อการร้าย IS ในกรุงซานา ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบเหตุระเบิดล่าสุด โดยกล่าวผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้จุดระเบิดรถคาร์บอมบ์ที่จอดไว้ใกล้กับโรงพยาบาลของกองทัพเยเมนในกรุงซานา รายงานจากกลุ่ม SITE Intelligence Group monitoring service

ซึ่งบีบีซีชี้ว่า เหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดในเมืองหลวงของเยเมนนั้น รอยเตอร์รายงานว่า จากการให้ตัวเลขของหน่วยกู้ภัยพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 28 คนด้วยกัน ซึ่งรวมไปถึงผู้หญิง 12 คนที่อยู่ภายในตึกที่เหยื่อชุดแรกอาศัยอยู่”

นอกจากนี้ในวันจันทร์(29) การสู้รบในเมืองต่างๆทั่วเยเมนยังดำเนินต่อไป ในขณะที่กองทัพซาอุฯ ประเทศแกนนำฝ่ายพันธมิตรยังคงออกโจมตีทางอากาศบริเวณฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎฮูตีในซาดา(Saada) เอเดน (Aden) และ ชาบวา (Shabwa) และโดยเฉพาะในเอเดน และทาอิซ( Taiz) การสู้รบบนท้องถนนด้วยอาวุธหนัก

ส่วนในชาบวา หัวหน้าชนเผ่าท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่กบฎฮูตีเปิดเผยว่า มีมือปืนได้โจมตีขบวนรถที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นคนของกบฎฮูตี และผู้บัญชาการทหารสนับสนุนกบฎฮูตีนั่งอยู่ภายในนั้น และจากการโจมตีทำให้คนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ