ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คูเวตรวบตัวผู้สมรู้ร่วมคิดของมือระเบิดถล่มมัสยิด
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 15:23 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2558 17:03 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - กระทรวงมหาดไทยคูเวตระบุในวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) ว่าตำรวจได้จับกุมคนขับรถที่ทำหน้าที่คอยรับ-ส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายไปโจมตีมัสยิดของชาวมุสลิมชีอะห์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 227 ราย

    การโจมตีมัสยิดในคูเวตด้วยระเบิดฆ่าตัวตายครั้งนั้น พวกนักรบญิฮัดในเครือของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้บงการ โดยที่มือระเบิดมีชื่อว่า อาบู ซุไลมาน อัล-มูวาฮิด

    สำหรับคนขับรถที่ถูกจับได้มีชื่อว่า อับดุลราห์มัน ซาบาห์ ไอดัน ซูอัด เขาเป็นพลเมืองผิดกฏหมาย เกิดเมื่อปี 1989 รับหน้าที่พามือระเบิดไปส่งที่มัสยิด อัล-อิหม่าม อัล-ซาเดค ที่อยู่ในคูเวตซิตี้เมื่อวันศุกร์

    “พลเมืองผิดกฎหมาย” เป็นคำเรียกอย่างเป็นทางการในคูเวต ที่ใช้เรียกกลุ่มคนไร้รัฐ รู้จักกันในท้องถิ่นว่าพวกไบดูน มีอยู่ราวๆ 110,000 คน โดยคนเหล่านี้อ้างสิทธิ์เป็นพลเมืองคูเวต

    คนขับรายนี้ได้ซ่อนตัวในบ้านหลังหนึ่งในย่านอัล-ริกกา ซึ่งอยู่ภายในเขตอัล-อาห์มาดี ทางใต้ของประเทศ

    ทางการยังได้จับกุมตัวเจ้าของรถที่ใช้รับส่งมือระเบิดได้เมื่อวันเสาร์ เขามีชื่อว่า จาร์เราะห์ นิมรา เมจบิล กาห์ซี เกิดในปี 1988 อยู่ในรายชื่อคนไร้รัฐด้วยเช่นกัน

    นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังได้ระบุในคำแถลงด้วยว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเจ้าของบ้านซึ่งใช้เป็นที่ซ่อนตัวของมือระเบิด เจ้าของบ้านรายนี้เป็นชาวคูเวตและถูกระบุว่าเป็นพวกหัวรุนแรง มีแนวคิดสุดโต่ง

    ถึงแม้ว่ากลุ่มไอเอสจะเปิดเผยชื่อของมือระเบิด แต่จนถึงตอนนี้ทางการยังไม่สามารถระบุตัวตนของเขาได้จากศพที่พบในที่เกิดเหตุ โดยทางหนังสือพิมพ์ อัล-อันบา ได้รายงานว่ามีการส่งตัวอย่างของศพไปยังประเทศใกล้เคียงเพื่อทำการตรวจสอบดีเอ็นเอ เนื่องจากไม่มีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเขาในคูเวต

    กระทรวงมหาดไทยคูเวตระบุว่า ทางการจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดเผยกลุ่มคนที่สมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรมนี้ รวมถึงจะเผยข้อมูลและสถานการณ์ทั้งหมด

    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น เป็นชาวคูเวต 18 ราย ชาวอิหร่าน 3 ราย ชาวอินเดีย 2 ราย ปากีสถาน 1 ราย ซาอุดีอาระเบีย 1 ราย กับพวกไบดูน (คนไร้รัฐ) 1 ราย


     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนขับรถรับส่งผู้ก่อการร้ายในคูเวตถูกจับกุมแล้ว
    Category: News & Event Published on Sunday, 28 June 2015 22:55 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    คนขับรถรับส่งผู้ก่อการร้ายในคูเวต ที่ระเบิดตัวเองท่ามกลางผู้นมาซวันศุกร์ในมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) นั้นถูกจับแล้ว

    อัลอาลัมรายงานว่า : กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้ประกาศในวันอาทิตย์ว่า "อับดุรเราะห์มาน ซอบาห์ อีดาน ซะอูด" วัย 26 ปี พำนักอยู่ในคูเวตอย่างผิดกฎหมาย และได้ซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังหนึ่งในย่าน “อัรริเกาะฮ์”

    กระทรวงมหาดไทยของคูเวตได้กล่าวเสริมในแถลงการณ์ที่สำนักข่าวทางการของคูเวตได้ตีพิมพ์เผยแพร่ว่า : การสืบสวนเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า เจ้าของบ้านที่อับดุรเราะห์มานได้หลบซ่อนตัวอยู่นั้น เป็นผู้หนึ่งจากบรรดาผู้สนับสนุนแนวความคิดหัวรุนแรง และความพยายามในการสืบสวนและจับกุมผู้ที่ให้ความร่วมมือและสมรู้ร่วมคิดยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง

    ในวันเสาร์ กองกำลังความมั่นคงของคูเวตได้ตรวจสอบพบรถที่ขนส่งผู้ก่อการร้ายที่โจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายยังมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) และได้เข้าจับกุมเจ้าของรถคันดังกล่าว

    กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ประกาศความรับผิดชอบในการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในวันศุกร์ ณ มัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ซึ่งเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คนและบาดเจ็บ 227 คน

    [​IMG]

    ที่มา : fa.alalam

    คนขับรถรับส่งผู้ก่อการร้ายในคูเวตถูกจับกุมแล้ว
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ "วิซ้อล" ของซาอุฯ ในคูเวตได้ยุติลงแล้ว
    Category: News & Event Published on Sunday, 28 June 2015 23:24 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    ผลจากการระเบิดของผู้ก่อการร้ายในมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ในคูเวต กระทรวงสารสนเทศของประเทศนี้ได้หยุดการออกอากาศโทรทัศน์ดาวเทียม "วิซ้อล" ของซาอุดิอาระเบียแล้ว
    อัลอาลัมรายงานว่า หนังสือพิมพ์ "อัลวะฎ็อน" ได้รายงานโดยอ้างจากกระทรวงสารสนเทศของคูเวตว่า การตัดสินใจดังกล่าวนี้เป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคูเวตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเป็นเหตุทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ในคูเวตจำนวนหนึ่งเสียชีวิตลง

    เนื้อหาหลักของรายการโทรทัศน์ "วิซ้อล" คือการหว่านเมล็ดพันธ์แห่งความแตกแยกและการปลุกปั่นระหว่างชาวมุสลิมและการตักฟีร (กล่าวให้ร้ายคนที่มีความคิดต่างจากตนว่าเป็นผู้ปฏิเสธอิสลาม) โดยอาศัยบรรดานักเผยแพร่ศาสนาที่เป็นชาววะฮ์ฮาบีและชาวซะละฟีหัวรุนแรง นอกจากนี้สถานีโทรทัศน์นี้ยังให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มตักฟีรีในอิรัก ซีเรียและพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลกตลอดเวลา

    การระเบิดก่อการร้ายในวันศุกร์ ณ มัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน และบาดเจ็บ 227 คน

    ที่มา : fa.alalam

    การออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ "วิซ้อล" ของซาอุฯ ในคูเวตได้ยุติลงแล้ว
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำไม? ISIS ก่อเหตุในคูเวต !! โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 28, 2015

    [​IMG]

    ISIS ได้สร้างรอยแผลอันเจ็บปวดให้แก่ชาวคูเวต กลุ่มขบวนการ ISIS ตักฟีรีได้เข้าแทรกแซงไปในประเทศคูเวตอย่างเงียบๆและได้ประกาศตนด้วยการหลั่งเลือดผู้บริสุทธิครั้งล่าสุดที่ผ่านมา การโจมตีของ อบู สุไลมาน อัลมุญิด ด้วยการระเบิดฆ่าตัวตายในมัสยิดอิมามซอดิก(อ) ในเมืองหลวงของคูเวต ทำให้ผู้เข้าร่วมนมาซเสียชีวิต 27 ศพ และผู้ถือศีลอดได้รับบาดเจ็บมากกว่า 270 คน ซึ่งเป็นเหตุทำให้ความสงบสุขของประเทศนี้ถูกโค่นล้มลง

    ในระยะเวลา 40 วันที่ผ่านมา การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ขบวนการ ISIS ตักฟีรีได้เข้าโจมตีมัสยิดในตะวันออกกลาง โดยก่อนหน้านี้ มัสยิด 2 แห่งในเขตทิศตะวันออกของซาอุดิอารเบีย และอีก 1 แห่งใน ซันอาเมืองหลวงของเยเมนอีก และครั้งนี้ได้โจมตีมัสยิดในเมือง อัศศอวาบีร ในคูเวต เราจะเห็นได้ว่าประเทศคูเวตไม่ได้เกิดเหตุก่อการร้ายมาตั้งแต่ปี 2006 จึงถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีความสงบในระดับหนึ่ง แต่เพราะเหตุใดคูเวตจึงกลายเป็นโรงละครที่ใช้แสดงการฆ่าคนบริสุทธิ์ไป?

    ครบรอบการแต่งตั้ง คีลาฟะฮ์(ผู้นำ)

    ปีที่ผ่านมา ISIS ได้ประกาศแต่งตั้งคีลาฟะฮ์ในวันที่ 1 รอมาฏอน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ การปกครองเหนือเอเชียกลาง คอเคซัส คาบสมุทรบอลข่าน สเปน ภาคเหนือและภาคกลางของแอฟริกา และเอเชียตะวันตก การเลือกเดือนนี้เพื่อหวังความศักดิ์สิทธิ์แก่คีละฟะฮ์ แต่หลังจากวันนั้น พวกเขาได้พบกับความปราชัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเมือง ซินจาร์ กูบานี ตักรีต และในพื้นที่อื่นๆ ทำให้พวกเขาเปลี่ยนกลยุทธ์ในการโจมตีต่อเป้าหมาย เป็นการระเบิดฆ่าตัวตายและการลอบโจมตีในเวลากลางคืนเพื่อหวังเพียง ยืนยันถึงการเคลื่อนไหวและการมีอยู่ของขบวนการตนเอง อีกเป้าหมายหนึ่งเนื่องจากเป็นวันครบรอบแห่งการแต่งตั้งคีลาฟะฮ์และรวมตัวขึ้นของขบวนการ

    เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางโฆษกของ ISIS มูฮัมหมัด อัดนานี ได้ประกาศทางข้อความเสียง แสดงเจตนาต้องการจะขยายการต่อสู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในช่วงรอมฏอนนี้

    แก้แค้นสหรัฐในคูเวต

    การแสวงหาผลประโยชน์ผสมผสานกับความรุนแรงจากเดือนรอมฏอนและการโจมตีมุสลิมด้วยกันในคูเวตเป็นอีกหนึ่งเวทีเพื่อเบี่ยงเบนการโจมตีของ สหรัฐ

    11 เดือนที่ผ่านมาในช่วงแรกของการโจมตี ISIS ในซีเรียโดยการนำของสหรัฐ ได้มีสื่อทวิตเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับอบูบักร์ อัลบักดาดี หัวหน้า ISIS ออกมาประกาศยืนยันว่า เขาจะบุกคูเวตเพื่อตอบโต้แก่สหรัฐ เขาได้เขียนว่า ISIS ไม่สามารถจะเดินทางไปยังแผ่นดินของสหรัฐได้ แต่เราจะมุ่งหน้าไปยังคูเวตซึ่งสหรัฐก็จะไปที่นั้นเช่นกัน เราจะสู้กับพวกเขาและจะแก้แค้นพวกเขาที่นั้น

    คูเวตถือเป็นลูกบุญธรรมของสหรัฐ ซึ่งเคยใช้ที่นั้นเป็นฐานทัพหลักในการโจมตีซัดดามถึงสองครั้ง ในปี 1991 กระทั้งหลังจากการล่มสลายของโซเวียต สหรัฐประกาศเป็นมหาอำนาจขั้วเดียว (unipolar) และได้เริ่มฉันทามติระดับโลกครั้งแรก ด้วยการเข้าปล้นคูเวต ไอเอสจึงเลือกคุเวตเป็นเป้าหมาย เพราะถือเป็นประเทศที่มีผลประโยชน์ต่อสหรัฐที่ใกล้ที่สุด แต่ข้อเท็จจริง คูเวตอาจไม่ใช่สถานีสุดท้ายของ ISIS นี่เป็นเพียงข้ออ้างในการสร้างเหตุนองเลือดขึ้น ตราบใดที่ความต้องการที่แท้จริงของขบวนการหัวรุนแรง ISIS ตักฟีรีไม่เกิดขึ้น การพลีและการนองเลือดจากจากน้ำมือของพวกเขา ทั้งในคูเวต คอร์คุก โกบานี จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

    ที่มา PressTV-چرا داعش آرامش کویت را به هم زد؟

    ทำไม? ISIS ก่อเหตุในคูเวต !! | abnewstoday
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตูนิเซีย เล็ง “ปิดมัสยิดในประเทศ 80 แห่ง” หลังเหตุก่อการร้าย
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 29, 2015

    [​IMG]

    ทางการรัฐบาลตูนิเซีย เผย มีแผนสั่งปิดมัสยิดในประเทศ 80 แห่ง ซึ่งเป็นมัสยิดที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล อีกทั้งเป็นศูนย์บ่มเพาะการก่อความรุนแรง

    สำนักข่าว iqna รายยงานอ้างจาก อัลญาซีร่า ว่า การตัดสินใจของรัฐบาลครั้งนี้หลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในเมือง ซูสส์ เมืองตากอากาศนิยมของตูนิเซีย

    ฮาบิบ เอสซิด (Habib Essid) นายกรัฐมนตรีตูนิเซีย ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 27 ว่า มีมัสยิดในประเทศ 80 แห่ง ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับรัฐบาลและนอกเหนือจากการควบคุมของรัฐ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการสั่งปิดทั้งหมด

    เขากล่าวเสริมว่า การตัดสินใจปิดมัสยิดครั้งนี้ เพื่อรักษาความปลอดภัย หลักจากที่กลุ่มก่อการร้ายได้ก่อเหตุ โจมตีกราดยิงกราดยิงนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดของโรงแรมอิมพีเรียล มาร์ฮาบา ในซูสส์ เมืองตากอากาศนิยมของตูนิเซีย เมื่อวันศุกร์ (26) และสังหารไปไม่ต่ำกว่า 39 คน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 15 ราย ซึ่งกลุ่มก่อการร้าย IS ออกมาประกาศความรับผิดชอบ


    دولت تونس تصمیم به بستن ۸۰ مسجد گرفت

    ตูนิเซีย เล็ง “ปิดมัสยิดในประเทศ 80 แห่ง” หลังเหตุก่อการร้าย | abnewstoday
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภัยแล้ง อ.สตึกน่าห่วง แหล่งน้ำดิบผลิตประปาแห้ง คาดภายใน 2 เดือนหมดเกลี้ยงแน่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 16:28 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2558 16:40 น.)

    [​IMG]
    @หนองหัวช้าง บ.ลิ้นเกี่ย ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ แหล่งผลิตน้ำประปา ของอ.สตึก ใกล้แห้งขอดแล้ว

    บุรีรัมย์ - ภัยแล้ง อ.สตึกน่าห่วง หลังหนองหัวช้างเนื้อที่กว่า 32 ไร่ แหล่งผลิตประปาและทำการเกษตร 2 อำเภอตื้นเขินใกล้แห้งขอด เกษตรกรไม่กล้าสูบน้ำขึ้นไปทำนาจนต้องปล่อยยืนต้นตาย เกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

    วันนี้ (28 มิ.ย.) สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหนองหัวช้าง บ.ลิ้นเกี่ย ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 32 ไร่ อยู่ในพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำลำตะโคง ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 1,000 ไร่ โดยหนองหัวช้างดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปา และทำการเกษตรใน 2 อำเภอ คือ อ.สตึก และ อ.แคนดง มีสภาพตื้นเขิน แห้งขอด เนื่องจากฝนตกน้อยและทิ้งช่วง ทำให้เกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวใกล้หนองหัวช้างไม่กล้าที่จะสูบน้ำเข้านาข้าว เพราะเกรงว่าน้ำที่เหลืออยู่เพียงประมาณ 10% ของความจุจะไม่เพียงพอผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนทั้ง 2 อำเภอได้ตลอดฤดูแล้ง จึงปล่อยให้ต้นข้าวที่หว่านไว้เหี่ยวเฉาและยืนต้นตาย

    คาดว่าภายใน 2 เดือนน้ำที่เหลืออยู่ก็จะแห้งขอดจนไม่สามารถสูบขึ้นไปทำประปาได้อย่างแน่นอน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือทั้งในเบื้องต้น โดยการทำฝนหลวง หรือขุดลอกหนองหัวช้างดังกล่าวให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในระยะยาวด้วย

    นายประสิทธิ์ แตร่งยอดรัมย์ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านลิ้นเกี่ย กล่าวว่า หนองน้ำดังกล่าวมีมาตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้าน แต่ไม่เคยมีการขุดลอกเลย ทำให้ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขินและแห้งขอดที่สุดในรอบหลายปี ทำให้เกษตรกรที่อาศัยน้ำจากหนองน้ำดังกล่าวทำนาไม่กล้าจะสูบน้ำขึ้นไปใส่นาข้าว เพราะเกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปาทั้ง 2 อำเภอได้ตลอดหน้าแล้งนี้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือด้วย

    ด้านนายภควุฒิ เที่ยงธรรม อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านลิ้นเกี่ย กล่าวว่า พื้นที่ของอ่างเก็บน้ำลำตะโคงมีมากกว่า 1,000 ไร่ แต่หนองหัวช้างมีพื้นที่ 32 ไร่ ขณะนี้มีสภาพตื้นเขิน บางจุดแห้งขอด สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรที่มีอาชีพทำนา เพราะไม่สามารถสูบน้ำไปเพาะปลูกข้าวได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจขุดลอกหนองน้ำดังกล่าวให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค และทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรด้วย

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภัยแล้งทำชาวนาอุตรดิตถ์ไร้รายได้กว่า 3 หมื่นคน วอนรัฐชัดเจนการเยียวยา
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 14:32 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2558 15:01 น.)

    [​IMG]

    อุตรดิตถ์ - สภาเกษตรกรอุตรดิตถ์เผยตัวเลขชาวนา-ชาวสวน ว่างงานจากภัยแล้งกว่า 36,000 คน จี้รัฐบาลชัดเจนมาตรการเยียวยา

    นายบัญชา อรุณเขต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึงตัวเลขชาวนาที่ขึ้นทะเบียนไว้ว่าปัจจุบันมีมากกว่า 30,000 ครัวเรือน โดยชาวนาใน อ.เมือง อ.ตรอน และ อ.พิชัย ที่สามารถทำนาได้เพราะอยู่ในเขตชลประทานราว 60% หรือราว 18,000 ครัวเรือนเศษ แต่ชาวนาใน อ.น้ำปาด อ.ฟากท่า อ.บ้านโคก อ.ทองแสนขัน อ.ท่าปลา และ อ.ลับแล บางส่วนไม่สามารถทำนาปีได้ เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งราว 40% หรือราว 12,000 ครัวเรือน ประชากรราว 36,000 คนเศษ และหากรวมตัวเลขของชาวไร่ข้าวโพด และปลูกพืชอื่นๆ น่าจะมีมากกว่า 36,000 คนแน่นอน

    นายบัญชากล่าวว่า เกษตรกรที่ไม่สามารถทำนาได้มากกว่า 36,000 คน ย่อมหมายถึงว่าเกิดปัญหาการว่างงานจากภาคเกษตรแบบ 100% สิ่งที่ตามมาคือทุกคนมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นรายจ่ายประจำอย่างการซื้ออยู่ซื้อกินทุกวัน ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เกิดจากการดำเนินชีวิตประจำวัน ย่อมทำให้เงินเก่าที่สะสมไว้ต้องถูกนำมาใช้ลดลงทุกวัน ขณะเดียวกัน หนี้สินที่ผูกพันมา ซึ่งชาวนาชาวสวนมีความหวังว่าหากทำนาทำสวนก็จะมีเงินไปใช้หนี้สิน แต่เมื่อไม่สามารถทำนาทำสวนได้หนี้สินย่อมมีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะดอกเบี้ย

    “วันนี้รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนที่จะให้การช่วยเหลือชาวนาชาวสวนอย่างไร จะมีมาตรการเยียวยาอย่างไรบ้าง จะชะลอหนี้สิน ลดดอกเบี้ยก็ควรประกาศออกมาได้แล้ว เพราะหากไม่ประกาศออกมาสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ก็จะยังคงปฏิบัติต่อชาวนาเหมือนอยู่ในช่วงปกติ แต่หากรัฐบาลประกาศออกมาก็จะทำให้เจ้าหนี้ของชาวนาปฏิบัติตาม ที่สำคัญยังไม่มีสิ่งใดการันตีได้ว่าปีนี้ชาวนาจะสามารถทำนาปีรอบสองได้ หากไม่สามารถทำนาปีได้ในปีนี้ มาตรการของรัฐบาลที่ออกมาอาจจะล่าช้าเกินไปก็เป็นได้”

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝนตกทั้งวันทั้งคืนทำน้ำเมยเพิ่มร่วมเมตร เตือนคน 2 ฝั่งไทย-พม่าเตรียมรับมือ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2558 08:43 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มิถุนายน 2558 11:37 น.)

    [​IMG]

    ตาก - ระดับน้ำเมยเพิ่มสูงขึ้นจากปกติร่วมเมตรแล้ว หลังฝนตกหนักต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน ลำห้วยต้นสายไหลทะลัก เตือนชาวบ้านทั้งไทย-พม่า เตรียมรับมือหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

    วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเมย ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ตรงข้ามจังหวัดเมียวดี ของพม่า เริ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 50-70 ซม. หลังมีฝนตกต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ทำให้กระแสน้ำจากลำห้วยต้นน้ำ ทั้งฝั่งไทย และพม่า โดยเฉพาะลำห้วยในฝั่งพม่า เช่น ลำห้วยแม่กาล่า และลำห้วยสายต่างๆ ในฝั่งไทย ไหลลงแม่น้ำเมยจำนวนมาก

    ขณะที่ นายปรีชา ใจเพชร นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเมย เพิ่มความระมัดระวัง เพราะน้ำเมยอาจจะมีระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น จะได้ขนข้าวของสินค้าได้ทันหากน้ำท่วมฉับพลัน และได้มีการเตรียมการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยไว้แล้ว ทั้งอุปกรณ์การช่วยเหลือ กำลังเจ้าหน้าที่ เพราะเคยเกิดอุทกภัยน้ำท่วมที่ริมชายแดนมาแล้วทั้ง 2 ฝั่ง โดยเฉพาะที่ตลาดริมเมย ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างหนักเมื่อปีก่อน

    เช่นเดียวกับทางการเมียวดีของพม่า ก็ได้ประกาศเตือนให้ชาวพม่าระมัดระวังอุทกภัยเช่นกัน เพราะช่วงนี้พื้นที่ชายแดนมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องทุกวัน

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    น้ำผลิตประปาหมู่บ้านพะเยาเริ่มขาด อีก 3 วันหยุดสนิท โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2558 10:09 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มิถุนายน 2558 11:42 น.)
    พะเยา - ภัยแล้งกระทบประปาหมู่บ้าน คาดอีก 3 วันฝนไม่ตกขาดน้ำดิบผลิตแน่
    รายงานข่าวจากจังหวัดพะเยา แจ้งว่า พื้นที่หมู่ที่ 6 บ้านต๊ำม่อน อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนัก หลังแหล่งน้ำผลิตน้ำประปาหมู่บ้านแห้งขอด คาดว่าใช้ได้อีกเพียง 3 วัน หากฝนไม่ตกลงมาชาวบ้านในพื้นที่คงได้รับความเดือดร้อนหนัก
    นายจิรพงษ์ ใจลา ผู้ใหญ่บ้านบ้านต๊ำม่อน หมู่ 6 ตำบลบ้านต๊ำ พร้อมกับผู้ช่วยที่มีส่วนรับผิดชอบประปาหมู่บ้าน ต้องช่วยกันนำเครื่องสูบน้ำสูบน้ำบริเวณแอ่งน้ำตามมุมต่างๆ ในอ่างเก็บน้ำสาธารณะที่ใช้ผลิตประปาหมู่บ้านซึ่งมีสภาพแห้งขอด และมีน้ำหลงเหลือบริเวณตามเแอ่ง และมุมสระน้ำเพียงเล็กน้อย เพื่อสูบขึ้นไปผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้าน ซึ่งมีมากกว่า 120 ครัวเรือน
    นายจิระพงษ์ กล่าวว่า แหล่งน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของหมู่บ้านที่ใช้ผลิตน้ำประปา แต่มาช่วงระยะ 2 ปี หลังเกิดภัยแล้งหนัก โดยเฉพาะปีนี้ทำให้แห้งขอดจนแทบไม่เหลือน้ำที่จะใช้ในการผลิตประปา คาดว่าภายใน 3 วันนี้ หากฝนไม่ตกลงมาจะไม่สามารถผลิตน้ำประปาแจกจ่ายให้แก่หมู่บ้านได้ และจะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งทุกวันนี้การแจกจ่ายน้ำประปาก็เปิดเป็นช่วงเวลาแล้ว
    ขณะที่ นางอาดละออ อ้อยหอม ชาวบ้านหมู่ 6 ต.บ้านต๊ำม่อน ระบุว่า ช่วงนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมากเนื่องจากน้ำประปาไม่มีใช้ บางวันมีใช้แต่น้ำก็ขุ่นข้นจนไม่สามารถใช้อาบได้ และบางวันน้ำไม่ไหลเลย ต้องไปซื้อน้ำที่เขานำรถออกมาจำหน่ายไว้ใช้
    http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx…
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำในกว๊านพะเยาลดวูบ ประมงวอนงดทำนาเต็มรูปแบบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2558 16:50 น.

    [​IMG]

    พะเยา - ประมงพะเยาขอเกษตรกรงดทำนาเต็มรูปแบบหลังเจอแล้งหนัก น้ำกว๊านฯ แห้งขอดเหลือแค่ 15 ล้าน ลบ.ม.พร้อมระบุหากภายใน 1 สัปดาห์นี้ฝนไม่ตกลงมาในพื้นที่จะส่งผลต่อการผลิตน้ำประปาด้วยอย่างแน่นอน

    วันนี้ (27 มิ.ย.) นายวิวัฒน์ ปรารมภ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยา ได้เตือนเกษตรกรที่อาศัยน้ำจากกว๊านพะเยา ในช่วงนี้ให้งดเว้นการทำนาแบบเต็มรูปแบบ เนื่องจากปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาลดลงสู่ภาวะวิกฤต ส่งผลให้ไม่สามารถระบายน้ำออกจากกว๊านพะเยาให้แก่เกษตรกรได้ โดยแนะนำให้เกษตรกรชะลอการทำนาตั่งแต่กลางเดือนกรกฎาคม จนถึงสิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกลงมาในพื้นที่ ขณะที่สภาพกว๊านพะเยาน้ำเริ่มแห้งขอด

    ล่าสุด ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาอยู่ที่ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ไม่สามารถระบายน้ำออกให้แก่เกษตรกรได้ และหากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติมภายใน 1 สัปดาห์นี้ จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาอย่างแน่นอน

    สำหรับวิกฤตภัยแล้งในครั้งนี้ซึ่งถือว่ารุนแรงมากในรอบ 15 ปี ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ลดลงเป็นอย่างมาก ไม่เพียงพอต่อการใช้ในกิจกรรมการเกษตร

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝนทิ้งช่วง! นาข้าวตายแน่ วอนรัฐเร่งทำฝนเทียมช่วย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    28 มิถุนายน 2558 11:20 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2558 11:32 น.)

    [​IMG]

    อุดรธานี - ชาวนาอุดรฯ ถางหญ้ารอฝน เผยหากฝนไม่ตกกลางเดือนหน้าข้าวตายแน่ วอนรัฐบาลเร่งทำฝนเทียมช่วยเหลือ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการออกสำรวจในเขตพื้นที่ทำการเกษตรของจังหวัดอุดรธานีหลังฝนไม่ตกลงมาเป็นเวลานานเช่นกัน โดยสำรวจที่อ่างเก็บน้ำและไร่นาของชาวบ้าน พบว่าหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน แหล่งกักเก็บน้ำมีน้ำอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์กำหนดทั้งสิ้น ทำให้อ่างเก็บน้ำไม่สามารถระบายน้ำส่งออกมาเพื่อช่วยเหลือชาวนาได้ ต้นข้าวของชาวนาตอนนี้กำลังจะเหี่ยวแห้งใกล้ตายเพราะขาดน้ำเลี้ยง

    นางซ้อน แก้วอุดร อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 65/1 ม.8 บ.ศรีเชียงใหม่ ต.นาดี อ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า วันนี้ตนออกมาถางหญ้าและตรวจดูต้นข้าวในผืนนา ทั้งนี้ตนมีที่นาอยู่ 14 ไร่ ทำนาแบบหว่าน ซึ่งการทำนาของตนต้องลงทุนสูงเนื่องจากไม่มีคนทำนาจึงต้องจ้างเกือบทุกขั้นตอน คือ ไถหุด หรือไถดะ ค่าจ้างไร่ละ 250 บาท ขึ้นมาจากปีกลายอีก 50 บาท ไถพรวน หรือไถแปร ก่อนที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวไร่ละ 350 บาท ราคาพิ่มขึ้นอีก 50 บาทเช่นกัน

    ตอนนี้ตนได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 1 หมื่นบาทเศษ โดยนำเงินที่ได้จากการขายมันสำปะหลังมาลงทุน

    ขณะนี้ฝนไม่ตกมากว่า 1 เดือนแล้ว ทำให้ต้นข้าวที่กำลังโตกำลังจะแห้งตายทั้งหมด หากฝนไม่ตกลงมาก่อนกลางเดือนนี้ข้าวของตนต้องแห้งตายเพราะขาดน้ำอย่างแน่นอน ถึงแม้ผืนนาของตนจะใกล้กับอ่างเก็นน้ำกดลิงง้อก็ตาม แต่น้ำในอ่างเหลือน้อยมากจนไม่สามารถปล่อยมาให้ชาวนาได้

    อยากจะขอร้องผ่านผู้สื่อข่าวไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยมาทำฝนเทียมช่วยเหลือชาวนาในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเป็นการด่วน

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง และขนาดกลาง 13 แห่ง ตอนนี้มีปริมาณกักเก็บน้ำ ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2558 อยู่ที่ 82.945 ล้านลูกบาศก์เมตร ของปริมาณกักเก็บที่ 275.830 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นปริมาณกักเก็บน้ำร้อยละ 30.07 อ่างเก็บน้ำทั้งหมด

    จึงจำเป็นต้องสำรองน้ำในอ่างเก็บไว้เพื่อส่งไปยังศูนย์วิจัยประมงน้ำจืด, ศูนย์วิจัยข้าวอุดรธานี, ศูนย์พัฒนาอาชีพเกษตร, ระบบผลิตประปาเมืองอุดรธานี, ระบบผลิตประปาท้องถิ่น 5 สถานี และโรงงานอุตสาหกรรมอีก 2 แห่ง รวมถึงการรักษาระบบนิเวศของอ่างเก็บน้ำ

    ซึ่งหากส่งน้ำไปเพื่อการเกษตรในช่วงนี้น้ำจะซึมลงในดินมากกว่าทำให้ต้องใช้น้ำมาก จึงยังจะไม่มีการส่งน้ำเพื่อการเกษตร จนกว่าจะมีน้ำฝนมาเพิ่มปริมาณในอ่างมากพอ

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภัยแล้งร้อยเอ็ดวิกฤต อ่างเก็บน้ำ 11 แห่งเหลือน้ำต้นทุนน้อย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 19:12 น. (แก้ไขล่าสุด 29 มิถุนายน 2558 08:59 น.)

    [​IMG]

    ร้อยเอ็ด - สถานการณ์ภัยแล้ง จ.ร้อยเอ็ด ปีนี้เข้าขั้นวิกฤต อ่างเก็บน้ำ 11 แห่งของจังหวัดเหลือน้ำน้อย โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับทุ่งกุลาร้องไห้ ด้านพ่อเมืองร้อยเอ็ดกำชับเกษตรกรเข้าร่วมโครงการประกันราคากับ ธ.ก.ส. ทั้งประสานทำฝนเทียม หาแหล่งน้ำสำรอง ช่วยเกษตรกรช่วงรอฝน

    วันนี้ (28 มิ.ย. 58) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายอเนก ไชยคำภา หัวหน้าสำนักงานชลประทานร้อยเอ็ด, นายพิทยา กุดหอม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด รับฟังปัญหาตรวจสอบสภาพน้ำ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยจานใต้ ตำบลบัวแดง อำเภอปทุมรัตต์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน และผลิตประปาอำเภอ ปัจจุบันน้ำลดลงเหลือเพียง 12% จนกรรมการบริหารจัดการน้ำสั่งงดใช้น้ำเพื่อผลิตประปาโดยเด็ดขาด เหลือไว้ใช้อุปโภคบริโภคเท่านั้น

    นายอเนก ไชยคำภา ชลประทานจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้วิกฤตสุด เพราะอ่างเก็บน้ำทั้ง 11 แห่งของจังหวัดร้อยเอ็ด โดยเฉพาะส่วนของพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ทั้ง 4 แห่งตกอยู่ในภาวะวิกฤต เริ่มขาดน้ำ มีน้ำต้นทุนรวมเฉลี่ยเพียง 4 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น มีเพียงตอนเหนือของเมืองร้อยเอ็ดในลุ่มน้ำชีที่ยังพอมีน้ำต้นทุนจากลำน้ำปาว และลำน้ำพอง เพียงพอรอรับน้ำฝนใหม่ บรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งได้

    นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การแก้ปัญหาภัยแล้ง ได้กำชับให้เกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการประกันราคา ธ.ก.ส.เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และกำชับหาทางบริหารจัดการน้ำ ช่วยกันประหยัดน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค บรรเทาความเดือดร้อนในสภาวะที่ฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ ชาวนาได้ปรับลดพื้นที่ทำนาปรังลงจาก 2 แสน 5 หมื่นไร่ ลงกว่า 50% เพื่อประหยัดน้ำต้นทุน โดยจังหวัดได้เตรียม 3 แผนรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง

    ประกอบด้วย เร่งประสานกับหน่วยฝนเทียม ทำฝนเทียมในพื้นที่ ส่วนที่ 2 จัดระบบน้ำสำรอง ด้วยการเตรียมจัดแหล่งขุดเจาะน้ำบาดาลที่จะเข้าไปสนับสนุนการใช้น้ำให้มากยิ่งขึ้น และส่วนที่ 3 หาแหล่งน้ำใกล้เคียงมาทดแทนกัน เช่น พื้นที่ในส่วนของลุ่มลำน้ำชีที่น้ำยังมีเหลืออยู่บ้าง ส่วนพื้นที่อื่นจะพยายามหาแหล่งน้ำชดเชยช่วงรอฝน และเน้นย้ำการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าพระยาลดระดับไม่หยุด ทำตลิ่งทรุดบ้านพังอีก 2 หลังที่ชัยนาท - อ่างทองเร่งเจาะบ่อบาดาล โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 13:07 น. (แก้ไขล่าสุด 28 มิถุนายน 2558 19:55 น.)

    [​IMG]

    ชัยนาท - แม่น้ำเจ้าพระยา ลดระดับลงทุกวัน ส่งผลกระทบทำให้ตลิ่งทรุด บ้านของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลท่าชัย อำเภอเมืองชัยนาท พังลงแม่น้ำอีก 2 หลัง ด้านสถานการณ์น้ำเจ้าพระลดลงต่อเนื่อง ภัยแล้งลุกลามขยายวงกว้าง เจ้าหน้าที่เร่งเจาะบ่อบาดาลบรรเทาภัยแล้ง

    [​IMG]

    เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (28 มิ.ย.) นายยศกร เล็งบัวรัตน์ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ปลัด อบต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท ได้รับแจ้งเหตุบ้านพังเพราะตลิ่งทรุดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลขที่ 177 หมู่ 2 ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท เป็นบ้านของ ด.ต.วิมล สนิทชาติ อายุ 62 ปี และบ้านของนายชัยยุทธ สนิทชาติ อายุ 48 ปี เลขที่ 14 ม.2 ต.ท่าชัย ทั้งคู่เป็นพี่น้อง และปลูกบ้านอยู่ติดกันกัน เมื่อไปที่เกิดเหตุพบว่าบ้านทั้ง 2 หลัง ได้ทรุดลงแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นแต่หลังคาบ้าน และซากปรักหักพังกองอยู่ เหลือแต่ช่วงด้านหน้าที่อยู่ติดถนน

    [​IMG]

    ด.ต.วิมล สนิทชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดระดับลงอย่างต่อเนื่องเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงได้โยกย้ายสิ่งของออกจากบ้านด้านหลังเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นก็ออกไปข้างนอกบ้านกลับมาบ้านประมาณ 21.00 น.ก็ได้ยินเสียงบ้านลั่นเปรี๊ยะอยู่ประมาณ 20 นาที บ้านก็ทรุดลงแม่น้ำลงไป โชคดีที่ตนกับคนในบ้านได้ออกจากบ้านไปอยู่ด้านนอกก่อนแล้ว ช่วงเช้าจึงแจ้งไปที่ อบต.ท่าชัย ทราบ

    [​IMG]

    นายยศกร เล็งบัวรัตน์ ปลัด อบต.ท่าชัย ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรายงานให้นายสิงหล ทรัพย์พ่วง นายก อบต.ท่าชัย ทราบ เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้น นำข้าวสารอาหารแห้งมาช่วย แต่ไม่สามารถช่วยได้มากกว่านี้ เพราะไม่เข้าระเบียบของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ที่ไม่ใช่พื้นที่ประกาศภัยพิบัติ เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่มีการเกิดตลิ่งทรุดไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงอยากเตือนผู้ที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ระวังบ้านเรือน และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

    [​IMG]

    ด้านสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดอ่างทองขยายวงกว้างมากขึ้น ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลงต่อเนื่อง โดยบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทองเช้าวันนี้วัดได้ 0.65 เมตร จากระดับตลิ่ง 9.32 เมตร ขณะที่คลองชลประทานหลายแห่งแห้งขอดคลอง

    [​IMG]

    นายสมพิศ พูลสวัสดิ์ เกษตรจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนที่ได้รับจากเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้อย ชลประทานจึงได้ชะลอการจ่ายน้ำทำให้ระดับน้ำไม่เพียงพอที่น้ำจะไหลเข้าสู่คลองส่งน้ำ ส่วนคลองส่งน้ำสายหลักมีปริมาณน้ำลดลงต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรชาวนาต้องรวมกลุ่มกันตั้งเครื่องสูบน้ำจากคลองสายหลักเข้าสู่คลองส่งที่น้ำไปไม่ถึงเพื่อส่งน้ำไปสู่พื้นที่เกษตรของชาวนาที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังแห่งเหี่ยวและรัฐบาลดำเนินการเร่งขุดเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หลายจุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนขาดน้ำ

    ผู้สื่อข่าวรายงานชาวนาที่ได้ลงมือทำนาไปแล้วในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมากว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทำนาหลังกระทบภาวะแล้งฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลและชลประทานชะลอการจ่ายน้ำส่วนชาวนาที่ยังไม่ได้ลงมือทำนาได้ เลื่อนการทำนาออกไปในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เพื่อทำนาพร้อมกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือชาวนาในที่ลุ่ม ที่ไม่ได้ทำนาในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หากทำนา ล่าช้าในเดือนสิงหาคมนั้นอาจได้รับผลกระทบจากน้ำที่ไหลหลากมา และไม่กล้าที่จะเสี่ยงทำนา และคงจะไม่ได้ทำนาสร้างรายให้ครอบครัวในปีนี้

    ขณะที่หน่วยทหารจากกองบัญชากองทัพไทย โดยสำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาพิเศษ โดยการนำของ พ.อ.ฐิติวัฒน์ ฐิติภพร่มเย็น ได้นำเครื่องจักรขนาดใหญ่สำหรับขุดเจาะบ่อบาดาล พร้อมนำกำลังทหารชุดช่างลงพื้นที่เพื่อขุดเจาะบ่อบาดาลช่วยเหลือเกษตรกรทำนา ที่กำลังประสบภัยแล้ง บริเวณพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ตามนโยบายรัฐบาลในโครงการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลมาเสริมผิวดิน เพื่อเกษตรกร ที่กำลังประสบภัยแล้งอย่างเร่งด่วน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2015
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โต้ สยามเมืองยิ้ม‎ก้าวทันโลก-วิทยาศาสตร์

    [​IMG]

    " TOKAMAK ต้นแบบพลังงานแห่งอนาคต "
    สักวันหนึ่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติจะต้องหมดไปจากโลก พลังงานน้ำก็ไม่เพียงพอต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า พลังงานลมก็ไม่แน่ไม่นอน พลังงานแสงก็ทำงานแต่ตอนกลางวัน ดังนั้นพลังงานนิวเคลียร์จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าจับตามอง แต่...โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟิสชันนั้นมีข้อมูลให้อ่านเยอะแล้ว วันนี้เลยอยากเขียนอะไรที่ล้ำมากไปกว่านั้น นั่นคือเรื่องเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชัน (เรื่องของเรื่องคือเพื่อนผมทำวิจัยเรื่องนี้อยู่ เลยนึกสนุกเอามาเล่นด้วย)
    ก่อนอื่นต้องอธิบายสั้นๆก่อนว่า ฟิสชัน กับ ฟิวชัน แตกต่างกันตรงไหน
    ฟิสชัน สมมติง่ายๆคือธาตุหนักตัวหนึ่งถูกทำให้แตกตัวเป็นธาตุที่เบาลง แล้วคายพลังงานออกมา ซึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในปัจจุบันใช้เทคโนโลยีนี้ในการผลิตไฟฟ้ามานานหลายสิบปีแล้ว
    ฟิวชัน คือปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ โดยธาตุเบาจะรวมตัวกันกลายเป็นธาตุหนักและคายพลังงานออกมา แต่การที่ปฏิกิริยานี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยแรงโน้มถ่วงหรือความร้อนที่สูงมากๆในการหลอมรวมธาตุเบาเข้าด้วยกันให้กลายเป็นธาตุหนัก
    ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พยายามสร้างอุปกรณ์ชนิดหนึ่งเพื่อจำลองปฏิกิริยาฟิวชันบนดวงอาทิตย์ อุปกรณ์ชนิดนี้มีชื่อว่า TOKAMAK โครงสร้างของ TOKAMAK มีลักษณะคล้ายโดนัท ภายในมีช่องว่างสำหรับให้พลาสมาไหลเป็นวงกลม วัสดุที่ใช้ทำโครงสร้างเป็นวัสดุชนิดพิเศษที่สามารถทนความร้อนได้หลายล้านองศา และโครงสร้างของห่วงโดนัทนี้จะมีขดลวดแม่เหล็กประกอบอยู่ด้วย เพื่อใช้ควบคุมการไหลของพลาสมา หลักการทำงานคือเราต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าหรือปล่อยพลังงานเข้าไปเพื่อทำให้พลาสมาคงสถานะการเกิดฟิวชันไว้ได้ และในระหว่างนี้จะเกิดความร้อนสูงภายในพลาสมา จากนั้นความร้อนที่เกิดขึ้นจะถูกถ่ายโอนไปยังระบบผลิตกระแสไฟฟ้าของเตาปฏิกรณ์
    แต่...ในปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ค่อนข้างใหม่ และขาดเสถียรภาพ ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้งานได้จริงในเชิงพาณิชย์ ดังนั้นจึงต้องทำการศึกษาค้นคว้ากันต่อไปอีกนาน ขณะนี้ TOKAMAK เครื่องใหม่กำลังถูกพัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือจากหลายประเทศในยุโรป TOKAMAK เครื่องใหม่นี้มีชื่อว่า ITER หากมีงานวิจัยใหม่จะนำมาอัพเดตให้อ่านกันในอนาคตครับ
    ปล.เพื่อนผมทำวิจัยเรื่อง PWI หรือ Plasma wall interaction of TOKAMAK
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใครลับใครลวง‘ไวรัสเมอร์ส’? : ทีมข่าวรายงานพิเศษ

    [​IMG]

    ชายเกาหลีใต้วัย 68 ปีเพียงคนเดียวสามารถแพร่เชื้อทำให้มีผู้ติด “ไวรัสเมอร์ส” มากถึง 175 คน ภายใน 1 เดือน และเสียชีวิตไปแล้ว 27 คน ตัวเลขนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา ย้อนกลับไปวิเคราะห์ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สที่คนงานจากตะวันออกกลางว่า อาจมีการลับลวงซ่อนเร้นจำนวนตัวเลขที่แท้จริง !?!

    ย้อนดู 3 ปีที่แล้ว ตรวจพบไวรัสเมอร์สครั้งแรกเมื่อปี 2012 ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ช่วงแรกนักวิทยาศาสตร์เรียกเชื้อนี้ว่า “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012” จากนั้นกลุ่มผู้ป่วยถูกเรียกว่าเป็น “โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง” (Middle East respiratory syndrome coronavirus, MERS-CoV) ปัจจุบันย่อเหลือเพียงโรค “ไวรัสเมอร์ส”

    ปี 2012 รายงานพบผู้ติดเชื้อตัวนี้ครั้งแรกในซาอุดีอาระเบีย 9 คน เสียชีวิต 6 คน ปัจจุบันลุกลามไปหลายประเทศ ข้อมูลวันที่ 20 มิถุนายน 2558 พบผู้ป่วย 1,338 คน เสียชีวิต 475 คน เฉพาะเกาหลีใต้ตัวเลขวันที่ 23 มิถุนายน พบผู้ป่วย 174 คน เสียชีวิต 27 คน มีการกักตัวกลุ่มเสี่ยงถึง 6,000 คน และเฝ้าติดตามอีก 4 หมื่นคน ส่วนประเทศไทยเป็นประเทศล่าสุด คือประเทศที่ 26 ซึ่งพบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สเป็นชาวโอมานวัย 75 ปี

    ตั้งแต่ปี 2012-2015 ซาอุดีอาระเบียพบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส 950 คน เสียชีวิต 412 คน ส่วนประเทศโอมาน พบผู้ติดเชื้อ 6 คน เสียชีวิต 3 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 76 คน เสียชีวิต 10 คน จอร์แดน 19 คน เสียชีวิต 6 คน กาตาร์ 13 คน เสียชีวิต 5คน อิหร่าน 6 คน เสียชีวิต 2 คน

    คำถามที่หลายฝ่ายสงสัย คือ ประเทศโอมานประกาศว่าพบผู้ป่วยเมอร์สเพียง 6 คน และเสียชีวิตไป 3 คนนั้น เป็นตัวเลขแท้จริงหรือไม่ ? ประเทศไทยพบ 1 รายนั้น เผอิญเป็นชาวโอมานรายที่ 7 จริงหรือ ?

    ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาให้ข้อมูลว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ ทำให้นักวิเคราะห์ด้านระบาดวิทยาขององค์การอนามัยโลกเริ่มไม่เชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตไวรัสเมอร์สในตะวันออกกลางข้างต้น จะเป็นตัวเลขที่แท้จริง เพราะองค์การอนามัยโลกและศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของอเมริกาหรือซีดีซี พยายามออกมาประกาศขอความร่วมมือจากรัฐบาลกลุ่มประเทศตะวันออกกลางหลายครั้งแล้ว ให้ช่วยเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อ โรงพยาบาลและแหล่งที่มาของกลุ่มผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สในประเทศต่างๆ

    “แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ เมื่อตะวันออกกลางไม่เปิดเผย การไม่รู้ตัวเลขที่แท้จริงทำให้วิเคราะห์ได้ยากมาก เช่น กรณีชายเกาหลีใต้คนนี้เดินทางไป 4 ประเทศก่อนกลับเกาหลีคือ ซาอุฯ บาห์เรน กาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้ป่วยรายนี้ยืนยันว่า ไม่ได้สัมผัสอูฐ ไม่ได้กินนมอูฐ ไม่ได้ไปโรงพยาบาล ถ้าเขาไม่ได้ทำอะไร หรืออยู่ใกล้สถานที่ที่อาจมีเชื้อไวรัสเมอร์ส ก็หมายความว่าเชื้อตัวนี้อาจกระจายอยู่ในชุมชนบางแห่งแล้ว แต่เราไม่รู้เลยว่าที่ไหน ตัวเลขผู้ติดเชื้อของเกาหลีใต้ทำให้ต้องทบทวนกันใหม่ว่า เชื้อตัวนี้อาจแพร่กระจายไปในตะวันออกกลางมากกว่าที่คิดไว้มาก”

    ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาข้างต้น อธิบายต่อว่า ผู้ได้รับเชื้อไวรัสเมอร์สร้อยละ 20 จะไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่อาจเป็น “พาหะ” นำเชื้อร้ายตัวนี้ไปติดต่อให้ผู้อื่นได้ ดังนั้นการสืบหาผู้มีเชื้อไวรัสเมอร์สแล้วรีบนำมารักษาจึงเป็นเรื่องสำคัญในการควบคุมเชื้อไวรัสตัวนี้

    สอดคล้องกับความเห็นของ “ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา” ผอ.ศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ไวรัสสัตว์สู่คน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า เชื้อตัวนี้ไม่ได้เผยแพร่ได้ง่ายเหมือนเชื้อไข้หวัดใหญ่ทั่วไป แต่ต้องรีบกักบริเวณผู้ที่เข้าข่ายน่าสงสัยไว้ก่อน เช่น ในแท็กซี่ที่รับผู้โดยสารชาวโอมานคนนี้นั้น ไม่ใช่แค่ตามหาคนขับแท็กซี่มาตรวจเชื้อแต่ต้องทำความสะอาดด้านนอกและด้านในรถแท็กซี่อย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารคนต่อไปติดเชื้อที่หลงเหลืออยู่ตามตัวรถแท็กซี่

    “ถ้าเมอร์สหลุดจากผู้โดนกักกันโรคไปได้ จะเป็นปัญหาใหญ่มาก” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวเตือน

    ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า หลังพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไวรัสเมอร์สในประเทศไทย 1 คน ได้ขอความร่วมมือกักตัวผู้สัมผัสโรคแล้วจำนวน 163 คน และจัดพื้นที่ในสนามบินรองรับเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศสุ่มเสี่ยง 7 ประเทศ ได้แก่ โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิหร่าน จอร์แดน และเกาหลีใต้ ไว้เป็นการเฉพาะเรียบร้อยแล้ว

    ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางเดินทางมาไทยเดือนละ 2-3 หมื่นคน ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ 1 หมื่นคน ชาวโอมาน 5,000-7,000 คน ชาวคูเวต 3,000-7,000 คน และชาวซาอุดีอาระเบีย 600 -1,300 คน เดินทางมาประเทศไทย

    หากรัฐบาลในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางยังปกปิดความลับ หรือให้ตัวเลขหลอกลวงในเรื่องของผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส การรับมือของรัฐบาลไทยกับผู้เดินทางเข้ามาเดือนละ 2-3 หมื่นรายนั้น

    การกลั่นกรองเบื้องต้นคงต้องเข้มข้นและเข้มงวดมากขึ้น การติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิอัตโนมัติ (Thermoscan) 4 จุด ในสนามบินสุวรรณภูมิ และวางแอลกอฮอล์เจลให้ล้างมือกว่า 200 จุด อาจไม่เพียงพอ !?!


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วรวรรณ ธาราภูมิ
    กว่าจะมาเป็นกรีซในวันนี้
    --------------------------
    วรวรรณ ธาราภูมิ CEO กองทุนบัวหลวง
    28 มิถุนายน 2558

    [​IMG]

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กรีซ ประเทศต้นแบบของประชาธิปไตย เผชิญกับภาวะล้มละลาย

    ย้อนหลังไปในศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งเป็นยุคที่ Plato กับ Aristotle และ Alexander the Great ยังมีชีวิตอยู่ มี 13 เมืองในกรีซที่ไปขอยืมเงินจากวิหาร Delos แล้วเอาไปทำเจ๊งจนเงินต้นที่วิหารปล่อยกู้เสียหายไปถึงร้อยละ 80

    หลังจากการเจ๊งครั้งแรกในยุคโบราณ มาในยุคใหม่ รัฐบาลกรีซก็เคยผิดนัดชำระหนี้ของเจ้าหนี้ต่างประเทศไปแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งจะว่าไปจำนวนครั้งที่ชำระหนี้คืนไม่ได้นี้ก็ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของที่เวเนซุเอล่าและเอควาดอร์เคยทำมา

    .

    5 ครั้งแห่งการเบี้ยวหนี้ของกรีซ
    ----------------------------------
    ปี 1826 เกิดขึ้นระหว่างมีสงครามที่กรีซจะแยกตัวออกมาเป็นอิสระจากอาณาจักรออตโตมาน

    ปี 1843 กรีซไปกู้ยืมเงินมาเมื่อปี 1832 เพื่อนำมาใช้เป็นงบการทหาร ในยุค Otto, the Bavarion Prince แล้วก็หยุดจ่ายคืนเจ้าหนี้ไปในปี 1843

    ปี 1860 กรีซไม่จ่ายคืนหนี้อีกครั้ง และหลังจากครั้งนี้ กรีซก็เลยถูกนานาชาติถีบออกจากระบบ International Market จนได้กลับมาอีกครั้งในปี 1878

    ปี 1894 หลังตลาดนานาชาติหายเข็ด ยอมเปิดเวทีให้กรีซอีกครั้ง บรรดาเจ้าหนี้เกิดโลภเกิน ให้กรีซกู้มากขึ้นๆ จนกรีซจ่ายไม่ไหว รัฐบาลกรีซเลยชักดาบอีกครั้งในปี 1893

    ปี 1932 กรีซเบี้ยวอีกครั้งในยุค the Great Depression.

    .

    เรียกได้ว่ากรีซใช้เวลาทั้งหมด 90 ปี หรือเกือบครึ่งของเวลาที่กรีซได้รับอิสรภาพจากอาณาจักรอื่น (196 ปี) ไปในการเกิดวิกฤติทางการเงิน

    .

    แต่ยังมีข้อมูลอื่นๆ ของกรีซที่น่าสนใจ เช่น ....

    1. Corruption costs ของกรีซ คิดเป็นประมาณ 8% ถึง 10% ของ GDP ต่อปี และที่น่าตกใจก็คือ มันเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดกับการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชนชาวกรีซ จนมีกรณีศึกษาโดย European Commission ในปี 2014 ที่ระบุว่า กรีซเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นสูงที่สุดในกลุ่มอียู พอๆ กับจีน ซึ่งถ้าขจัดคอร์รัปชั่นไปได้บ้าง แค่เอาให้มีระดับพอๆ กับสเปน การขาดดุลงบประมาณในกรีซจะลดลงเหลือเพียง 4% ของ GDP เลยทีเดียว

    2. งานวิจัยในปี 2012 ของมหาวิทยาลัยชิคาโก ชี้ว่า ชาวกรีกที่มีอาชีพอิสระ ผ่อนชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลในจำนวนที่เกินกว่ารายได้ที่ได้รับ นี่แสดงว่าพวกเขารายงานเท็จเรื่องรายได้ เพื่อให้เสียภาษีน้อยลง

    3. เยาวชนกรีซในวัยแรงงาน 49.7% ไม่มีงานทำ ซึ่งรัฐบาลต้องจ่ายเงินสวัสดิการว่างงานให้ ทั้งนี้ จำนวนอัตราว่างงานทั้งหมดเป็น 25.6% ในเดือนมีนาคม 2558 และเคยสูงสุดที่ 28% ในเดือนกันยายน 2556

    4. มีชาวกรีซที่อายุ 18-34 ปี รวม 63.5% ที่ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ได้รับบำนาญน้อยลง ซึ่งจำนวนผู้ที่ต้องอาศัยพ่อแม่กินนี้มันเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2010 แล้ว

    5. สัดส่วนของชาวกรีซในวัยหนุ่มสาวคืออายุ 18-34 ปี มีเพียง 23.9% เท่านั้น ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียมีสัดส่วนถึง 47% นอกจากนี้ สัดส่วนประชากรในวัยเด็กอายุ 15-24 ปียังมีเพียง 9.8% เท่านั้นด้วย ในขณะที่ประชากรวัย 55 ขึ้นไปมีถึง 32.9% กรีซจึงเป็นอีกประเทศที่จะมีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมทวีขึ้นจากความชราภาพและการมีคนเกิดใหม่น้อยลง โดยในปัจจุบันนี้ผู้หญิง 1 คน ให้กำเนิดบุตรได้โดยเฉลี่ยเพียง 1.3 คน (พอๆ กับไทย) ซึ่งเมื่อวัยเด็กและหนุ่มสาวมีสัดส่วนน้อย จำนวนแรงงานก็จะน้อย แล้วจะไปพยุงเงินบำนาญให้คนชราที่มีสัดส่วนสูงได้อย่างไร

    6. พื้นที่ของประเทศกรีซใหญ่กว่ารัฐแมสสาชูเซส 5 เท่า แต่กรีซมี GDP เพียงครึ่งของรัฐแมสสาชูเซส (GDP กรีซ 242.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีพื้นที่ 131,957 ตร.กม. ในขณะที่ รัฐแมสสาชูเซส มี GDP 420.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีพื้นที่ 27,336 ตร.กม.

    7. ฝันร้ายทางเศรษฐกิจของกรีซในวันนี้มันแย่กว่าฝันร้ายของชาวอเมริกันในยุค The Great Depression !

    8. ผลผลิตรายปีของน้ำมันมะกอกของกรีซเท่ากับ 3 แสนตันต่อปี เป็นอันดับ 3 ของโลก รองลงมาจากสเปนและอิตาลี (กรีซส่งออก 90% ของผลผลิตไปยังกลุ่มอียูด้วยกัน) ซึ่งเป็นปริมาณที่เทียบเท่าน้ำหนักของปลาวาฬสีน้ำเงินถึง 1,575 ตัว (ปลาวาฬสีน้ำเงิน 1 ตัว หนักประมาณ 420,000 ปอนด์)

    9. อัตราการสูบบุหรี่ต่อคนของชาวกรีซสูงกว่าชาวอินเดียถึง 28 เท่า และเป็นอันดับ 3 ของโลก

    10. กีฬาโอลิมปิคจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีที่ 776 ก่อนคริสต์ศักราชที่กรีซ (ก่อนจักรวรรดิ์โรมันอันเกรียงไกรจะล่มสลาย กว่า 1,250 ปี) และจัดต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 393 หลังคริสต์ศักราชที่จักรพรรดิ์ ธีโอโดซิอุส ประกาศยกเลิก อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าจักรวรรดิ์โรมันเลิกกีฬาโอลิมปิคอย่างเป็นทางการในปี 476 หลังคริสต์ศักราช

    (ขอบคุณข้อมูลจาก Business Insider, Reuters / Investopedia / RBS Economics และ Wikipedia)
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เวหา เวหาธรรมบารมี

    อิทธิพลของจันทร์ดับ + อังคารดับ ( นานๆครั้งจะมีโอกาสมาดับพร้อมกันแบบนี้)
    เมื่อ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา เกิดที่ ๑ องศา ๓ ลิบดา ราศีเมถุน
    ( ราศีแห่งประตูเข้าออก ด่านตรวจฅนเข้าออก สถานบันเทิง โรมแรม ฯ การท่องเที่ยวเดินทาง ฯลฯ ) เรือนพุธ (เอกสาร หลักฐาน การเรียกร้อง วัยรุ่น ฯ )
    เทศาตรีฤกษ์ ( เกี่ยวกับเรื่องผิดกฎหมายทุกชนิด )
    เฮี้ยนไม่เบาเลยเชียว
    ( จันทร์ดับ ส่งผลระหว่าง ๑๖ /๖ /๒๕๕๘ )
    ( อังคารดับ ส่งผลระหว่าง ๑๖ / / ๒๕๕๘ ถึง ปลายเดือน พฤษภาคม ๒๕๕๙ โน่น)
    ( ดาว ๒ ดาวดับ พร้อมกัน ผลมาออกมาร้าย และ เร็ว
    ดังจะเห็นได้จาก การที่ฅนเหมือนปลาปลาแขยงที่ได้ดีเพราะพี่ให้ ถูกจับเกี่ยวกับการพกอาวุธปืน ( ดาวอังคาร)ที่สถานบินญี่ปุ่น นั้นก็เรื่องหนึ่ง
    การเกิดไฟไหม้ใหญ่ที่สถานบังเทิงที่ไต้หวันก็เรื่องหนึ่ง
    และเรื่องร้ายแรงเกี่ยวกับขบวนการไอซิสลอบทำร้ายใน ๓ ประเทศ ก็ประการหนึ่ง
    และการเกิดเรื่องร้ายแรงอีกหลายที่หลายจุด
    นับตั้งแต่ ๑๖ มิถุนายนที่ผ่านมาล้วนเกิดจาก จันทร์ดับร่วมอังคารดับนี้ด้วย
    และ
    เรื่องน่าจับตามมองนอกจากเรื่องเลข 730 ที่คุณเปลวท่านทิ้งท้ายว่าเป็นลางร้าย(สำหรับบุคคลนั้น)ไว้นั้น
    ขอเรียนว่า ดาวอังคารที่เพิ่งจะดับไปหมาดๆ ผสมกับดาวอาทิตย์ นั้น
    ได้กำลังโคจรไปทับดาวอังคารเดิม + ดาวมฤตยูเดิม ของ บุคคลนั้นในวันที่ ๒๙ , ๓๐ นี้นี้เอง
    ก็จับตามองกันว่า
    บุคคลนั้น จะเป็นฉันท์ใด ? ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ต้นเดือน กรกฎาคมนี้
    ก่อนกลาง 'กรกฎา' จะมาถึง

    ก่อนกลาง 'กรกฎา' จะมาถึง
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้แทน 57 ชาติร่วมพิธีลงนามรับรองธรรมนูญ AIIB "จีน" ถือหุ้นใหญ่ 30%
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2558 11:48 น. (แก้ไขล่าสุด 29 มิถุนายน 2558 11:53 น.)

    [​IMG]

    @หลู จี้เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีลงนามรับรองธรรมนูญธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ซึ่งจัดขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง วันนี้ (29 มิ.ย.)

    ไชน่าเดลี/ รอยเตอร์ – ผู้แทนจาก 57 ประเทศที่เป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank – AIIB) ได้เข้าร่วมพิธีลงนามรับรองธรรมนูญของธนาคาร ซึ่งจัดขึ้น ณ มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เช้าวันนี้ (29 มิ.ย.) โดยรัฐบาลจีนครองสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคาร 30%

    ในวันนี้ (29) มีสมาชิกก่อตั้งที่ลงนามรับรองธรรมนูญ AIIB แล้วทั้งสิ้น 50 ประเทศ ส่วนอีก 7 ประเทศที่เหลือยังรอการอนุมัติจากรัฐสภาของตนเอง ซึ่งได้แก่ เดนมาร์ก คูเวต มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ และไทย

    ธรรมนูญของ AIIB จะเป็นตัวกำหนดหลักการพื้นฐานว่าด้วยการก่อตั้งและทิศทางการบริหารงานของสถาบันการเงินนานาชาติแห่งนี้ โดยเป็นผลสัมฤทธิ์จากการเจรจาหลังม่านนาน 6 เดือน เพื่อให้การก่อตั้งธนาคารสำเร็จลุล่วงภายในสิ้นปี

    รัฐบาลจีนประกาศสนับสนุนเงินทุนแก่ AIIB รวม 2,978 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทุนตั้งต้นทั้งหมด 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้ปักกิ่งกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 30.34% และมีอำนาจในการใช้สิทธิ์วีโต 26.06%

    ประเทศสมาชิกในภูมิภาคเอเชียจะถือหุ้น 75% ใน AIIB ส่วนอีก 25% ที่เหลือจะแบ่งสรรปันส่วนแก่สมาชิกนอกภูมิภาค และหากในอนาคตมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น สัดส่วนการถือหุ้นสำหรับสมาชิกนอกภูมิภาคอาจเพิ่มตามไปด้วย แต่จะไม่เกิน 30% ของหุ้นธนาคารทั้งหมด

    AIIB จะใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการดำเนินงาน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง แต่อาจมีการเปิดสำนักงานระดับภูมิภาคในประเทศอื่นๆ ด้วย

    “ธนาคาร AIIB จะยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและมาตรฐานสูงสุด เพื่อเป็นเวทีสำหรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สะอาด มีประสิทธิภาพ และมีความเป็นมืออาชีพ” หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี อ้างคำแถลงจาก หลู จี้เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน

    ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของ AIIB ได้แก่ อินเดีย (8.4%) ตามมาด้วยรัสเซีย เยอรมนี และเกาหลีใต้


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรีซจะปิดธนาคารทั่วประเทศไปจนถึงวันจันทร์หน้า
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/29 9:04 AM

    [​IMG]

    เอเธนส์ 29 มิ.ย.- รัฐบาลกรีซสั่งปิดธนาคารทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันจันทร์หน้า และจะจำกัดการถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติ (เอทีเอ็ม) ขณะที่มาตรการควบคุมเงินทุนน่าจะมีผลบังคับใช้นานหลายเดือน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศว่าจะไม่เพิ่มความช่วยเหลือธนาคารกรีซ

    นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสแถลงทางโทรทัศน์เมื่อค่ำวานนี้ว่า ธนาคารกลางเสนอแนะให้ปิดธนาคารทั้งหมดเป็นการชั่วคราวและจำกัดการถอนเงิน แต่ขอให้ชาวกรีซมั่นใจว่าเงินฝากทั้งหมดยังคงปลอดภัย และขอให้ใจเย็นเพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์ขณะนี้ไปได้ รัฐบาลจะขอให้เจ้าหนี้ต่ออายุความช่วยเหลืออีกครั้ง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ก็จะปิดทำการในวันนี้เช่นกัน

    ล่าสุดรัฐบาลเผยแพร่คำสั่งลงนามโดยนายกรัฐมนตรีซีปราสและประธานาธิบดีโปรโคปิส ปาฟโลปูลอสในวันนี้ว่า ธนาคารจะปิดไปจนถึงวันจันทร์หน้า และในระหว่างนี้บริการเอทีเอ็มจะจำกัดให้ถอนเงินสดได้คนละ 60 ยูโร (ราว 2,230 บาท) ต่อวัน มีผลบังคับใช้กับผู้ถือบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรีซทั้งหมด ยกเว้นชาวต่างชาติที่ถือบัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างชาติ ทั้งนี้เนื่องจากมีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งที่จะต้องปกป้องระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศจากภาวะขาดสภาพคล่อง อันเกิดจากการที่กลุ่มยูโรโซนตัดสินใจไม่ขยายข้อตกลงเงินกู้กับกรีซ

    ด้านธนาคารกลางมาเซโดเนียสั่งให้ธนาคารทุกแห่งถอนเงินออกจากกรีซ และจะออกมาตรการจำกัดเงินทุนไหลออกไปกรีซซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางตอนใต้ โดยจะมีผลกับธุรกรรมในอนาคต ไม่ใช่ธุรกรรมที่ได้ตกลงไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    http://www.tnamcot.com/content/219960
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกาหลีใต้ไม่พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่มาสองวันแล้ว
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/29 11:35 AM

    [​IMG]

    เซจง 29 มิ.ย.- เกาหลีใต้แจ้งว่า ไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สรายใหม่มา 2 วันติดต่อกันแล้วจนถึงวันนี้ และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจากวันก่อน บ่งชี้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดอาจเริ่มบรรเทาลง

    เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮัพระบุว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าเดือนที่ไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สรายใหม่ติดต่อกัน 2 วัน ทั้งนี้นับตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมจนถึงวันนี้ เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สแล้วทั้งหมด 182 คน แยกเป็นผู้เสียชีวิต 32 คน ออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากหายดีแล้ว 93 คน และยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 57 คน ในจำนวนนี้ 14 คนอาการน่าเป็นห่วง กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า อัตราการเสียชีวิตในเกาหลีใต้อยู่ที่ร้อยละ 17.6 และกว่าร้อยละ 90 เป็นผู้มีปัญหาสุขภาพหรือสูงอายุ

    ส่วนผู้ถูกกักดูอาการจนถึงวันนี้มีทั้งหมด 2,682 คน จากจำนวนผู้ถูกกักดูอาการทั้งหมด 15,818 คนเนื่องจากใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่พ้นจากการกักดูอาการเพราะไม่มีอาการใด ๆ ตลอด 14 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาฟักตัวสูงสุดของเชื้อ.-สำนักข่าวไทย

    เกาหลีใต้ไม่พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่มาสองวันแล้ว | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...