ติดตามสถานะการณ์

สงครามเต็มรูปแบบในประเทศเยเมน เริ่มแล้วน่ะครับ

ทหาร 400 นายของพันธมิตรซาอุฯ ต่อสู้กับเยเมนได้เข้าสู่จังหวัดเอเดนแล้ว
Category: News & Event Published on Sunday, 28 June 2015 09:04 Written by Islamicstudiesth Team.



กองกำลังทหาร 400 นายภายใต้การบัญชาการของพันธมิตรซาอุฯ ซึ่งได้รับการฝึกอย่างดีสำหรับการทำสงครามกับเยเมน ขณะนี้ได้เข้าสู่จังหวัดเอเดนแล้ว

สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า กองกำลังจำนวน 400 นายของพันธมิตรอาหรับโดยการนำของซาอุดิอาระเบียเพื่อทำสงครามรุกรานเยเมนนั้น ได้เข้าสู่เยเมนแล้ว

หนังสือพิมพ์ "อัรริยาด" ของซาอุดิอาระเบียอ้างว่า กองกำลังเหล่านี้เป็นชาวเยเมนและได้ถูกส่งเข้าไปยังดินแดนของเยเมน ภายใต้การดูแลของพันธมิตรซาอุฯ เพื่อทำการต่อสู้กับกองทัพและคณะกรรมการประชาชนของขบวนการเคลื่อนไหวอันซอรุลลอฮ์

แหล่งที่มานี้ได้ย้ำว่า กองกำลังเหล่านี้ได้ถูกส่งเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์ทางทหารเต็มรูปแบบ อย่างเช่นรถหุ้มเกราะและรถถัง และเร็ว ๆ นี้ทหารกลุ่มอื่นๆ ก็จะถูกส่งเพิ่มเข้าไปยังพื้นที่นี้อีก

ที่มา : farsnews

ทหาร 400 นายของพันธมิตรซาอุฯ ต่อสู้กับเยเมนได้เข้าสู่จังหวัดเอเดนแล้ว

 

แห่ถอนเงิน แต่มีคนเข้าแถวกันน้อยนิด แสดงว่าคนกรีซส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะไม่ค่อยมีเงินแล้ว มีแต่คนบางส่วนในสังคมกรีซที่ยังคงมีเงินอยู่ ซึ่งคงเป็นกลุ่มนายทุน เจ้่าของกิจการ และเงินที่ถอนไปก็คงเป็นเงินในสกุลยูโร ถึงแม้ประเทศลมละลาย แต่เงินยูโร แบงค์ยูโร ประเทศในกลุ่มยูโรก็ยังคงต้องรับชำระค่าสินค้าอยู่น่ะครับ และชนกลุ่มใหญ่ของกรีซ ก็คงเป็นลูกจ้างของพวกแห่มาถอนเงิน ยังไงพวกเขาก็ยังคงต้องจ่ายเงินเดือนให้ลูกจ้างต่อไป เหตุที่จะเกิดความวุ่นวายในกรีกอาจจะไม่รุนแรงมากก็ได้น่ะครับ รอดูกันดีกว่า เพราะถ้าเศรษฐกิจพังมีคนแห่มาถอนเงิน แบบทะลักทะลาย โกลาหลนั่นล่ะน่ากลัว แต่มาถอนเงินแบบนี้ผมว่า แปลกมากๆ

Jeerachart Jongsomchai



... "คนกรีกแห่ถอนเงิน : ECB ลุ้นให้เงินหมดธนาคารไวไว หลังนายกกรีซจะทำประชามติ"
.
... หลังจากการไม่ยอมกันในการประชุมที่ผ่านมาเมื่อ พฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน ปรากฎว่่า ธนาคารกลางยุโรปและเจ้าหนี้ไม่ยอมให้กรีซยืดเวลาการส่งแผนการปฏิรูปการเงินออกไปอีกหนึ่งเดือน โดยบอกว่าจะต้องรับโปรแกรมการช่วยเหลือที่เจ้าหนี้ออกแบบมาให้แล้วเท่านั้นทางนายกกรีกผู้แสนจนไม่มีเงินซื้อเน็คไท ก็เลยถือกระเป๋ากลับบ้านประกาศทันทีว่าจะออกประชามติให้ชาวกรีกตัดสินเอง
... ว่าจะ "จะรับข้อเสนอให้กู้เงินที่โหดเหี้ยมของเจ้าหนี้อียูต่อไปหรือไม่?" ในวันที่ 5 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ทั้งที่ในใจคงมีคำตอบอยู่แล้ว ( ถ้าไม่รับก็มีผลแปลว่าจะไม่ใช้หนี้ เบี้ยวหนี้ไปก่อน และต้องเลิกใช้เงินยูโรไปในที่สุด )
... ปรากฎว่าแค่วันเดียววันเสาร์ทั้งวันคนกรีกแห่เข้าแถวออกมาถอนเงินจากธนาคารทั้งในและนอกตู้เอทีเอ็ม ตู้เอทีเอ็ม 500 จาก 7,000 ตู้เงินเกลี้ยงตู้สะอาดแบบไม่ต้องล้าง ตั้งแต่ช่วงเช้า บางแห่งเช่นธนาคารใหญ่อย่าง Piraeus Bank SA จึงต้องออกมาตรการ "จำกัดเงินถอน" ว่าถ้าถอนในธนาคารนั้นได้แค่ 3,000 ยูโร แต่ถ้าถอนจากตู้เอทีเอ็มจะได้แค่ 600 ยูโรต่อวัน
... บางคนจะมาถอนเงินบำนาญให้แม่ยังต้องลุ้น ทำเอาหลายคนเป็นลมเพราะไม่มีเงินให้ถอนต้องส่งไปโรงพยาบาลก็มี ซึ่งแบบนี้เข้าทางยูโรปเจ้าหนี้คงคิดในใจว่า เชอะ กรีกมันจะไปได้สักกี่น้ำถ้าไม่มีเงินในระบบธนาคารเลี้ยงประเทศ ( อาจจะลุ้นว่าจะมีการวุ่นวายทางการเมืองตามท้องถนน ในประเทศได้ เพื่อมาบีบนายกหนุ่มของกรีซไให้ใจอ่อนยอมเสียที อย่าเล่นตัวมาก )
... โดยกระแสถอนเงินออกจากธนาคารนั้นไม่ได้เพิ่งมีมา แต่มีมาตั้งแต่พรรค Syriza ของนาย Tsipras ที่ออกแนวสังคมนิยม ไม่ชอบทุนนิยมอยู่แล้ว ชอบแนวซ้ายๆ ได้เป็นรัฐบาล ( ไม่รู้ว่ากระแสถอนเงินนี่เป็นส่วนหนึ่งของอาวุธทางการเงินในการบีบให้รับข้อเสนอของเจ้าหนี้หรือเปล่า อย่างไทยเราโดนบีบให้ต้องออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ทั้ง "สถาบันการเงินทั้งเอกชนและรัฐ และรัฐวิสาหกิจ" ที่คือเป้าใหญ่ที่เข้าหมายปองในการให้กู้ยืม ... เพราะคนยิวบอกว่า "ถ้าครอบครองการเงินได้ ก็จะครอบครองโลกได้" ตามแนวคิดเสรีนิยม กระฎุมพียิวครองโลก )
... โดยเจ้าหน้าที่กรีกคนหนึ่งบอกว่าเงินในธนาคารจะหมดลงประมาณวันเสาร์นี้ ธนาคารจึงต้องเร่งหาเงินมาฉีดเข้าระบบด่วน ไม่งั้นประชาชนเดือดร้อนแน่ ไม่แค่นั้นถ้าไม่มีเงินในธนาคาร "ตลาดหุ้น" ก็ไม่สามารถเปิดทำการได้อีก พันกันอลวลวุ่นวายไปหมด ตอนนี้นายกกรีกและทีมที่ไม่เอาข้อเสนอของยุโรปจะต้องเร่งหาเงินมาให้เร็วที่สุด จากไหนหล่่ะ ?
... ถ้าเงินหมดเกลี้ยงธนาคารนี่ พวกนักธุรกิจที่อยากจะกู้เงินไปลงทุนเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า ก็ตายสิครับ ไม่มีเงินให้กู้ ตายกันหมดทั้งประเทศ
... มีการคาดการว่า "การควบคุมการไหลของเงิน" หรือ Capital control น่าจะนำมาใช้เพื่อป้องกันเลือดไหลไม่หยุด ป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ ทั้งจากธนาคารและจากตลาดหลักทรัพย์ แบบเดียวกับที่ "มาเลเซีย" เคยใช้ได้ผลมาแล้วเมื่อวิกฤติปี 1997 ( ที่ไม่เหมือนไทย ที่กู้เงินไอเอ็มเอฟ ) โดยตอนนั้นนอกจากจะกักเงินไม่ให้ไหลออกนอกประเทศแล้ว มาเลเซียยัมีการตั้งอัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิตให้สูงกว่าปรกติ 10% อีก เพื่อทำให้ค่าเงินไม่อ่อนเกินไป จะนำเข้าอะไรก็ไม่แพง หลังจากนั้นก็ ลดดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ เพื่อต่อชีวิต SME ภาคการผลิตไม่ให้ตายไป ทำเหมือนเป็น "ประเทศปิดชั่วคราว"
... ซึ่งก็ได้ผลในที่สุด เราจึงไม่เห็น "ปิโตรนาส" ของมาเลเซียขายไปให้ต่างชาติและขึ้นราคาน้ำมันแบบกระฉูดและมาขูดรีดเลือดเนื้อคนไทยในประเทศตัวเองแท้ๆ แบบ "ปตท."
... ดังนั้น ดูแล้วประชามติคงออกมาว่า ไม่ใช้เงินยูโร เพราะว่าอย่างน้อยตอนนี้ มีธนาคาร NDB ของกลุ่ม BRICS คอยจะเปิดธนาคารให้กู้แบบไม่โหดร้ายอยู่แล้ว
.
http://www.bloomberg.com/…/greeks-line-up-at-banks-and-drai…-
calls-vote
http://www.wsj.com/…/greeks-line-up-to-withdraw-cash-after-…

 

Jeerachart Jongsomchai

... "ระเบิดมัสยิดในคูเวต : การหาแนวร่วมจากเด็กหนุ่มชาวซุนหนี่ของ ISIL ( ซาอุด ) ... เพื่อถล่มเยเมน และเร่งสร้างสงครามระหว่างนิกาย"



.
... เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา มีระเบิด ที่มัสยิสอิหม่าม al-Sadiq ของประเทศคูเวต มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 25 คน บาดเจ็บกว่า 202 คน โดยมี ISIL ระบุว่าเป็นคนทำ ทั้งๆที่เป็นเดือนถือศีลอด ที่เป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ของพี่น้องมุสลิม ทำไมถึงอาจหาญขนาดนี้ ? เขาทำ และกล้ารับแบบทันทีด่วนจี๋ เพื่ออะไร ?
... กลุ่มที่อ้างการกระทำที่เป็นเครือข่าย ISIL บอกว่าเลือกช่วงที่วันศุกร์ที่มีคนมาหนาแน่นเป็นช่วงทำการ โดยคนที่ระเบิดน่าจะเป็นนาย Abu Suleiman al-Muwahed ที่พยานบอกว่าเป็นคนหนุ่มวัยราวยี่สิบเศษๆ ( วัยที่กำลังมีศรัทธาแรงแต่ยังไม่ลึกซึ้งรอบคอบ เหมือนกันทุกชนชาติ ) โดยเขาบอกว่าตั้งใจระเบิดมัสยิสของพวก "ปฎิเสธศาสนา" ซึ่งแน่นอนหมายถึงชาว "ชีอะห์"
... กลุ่มเดียวกันนี้ เป็นกลุ่มเดียวกับที่ระเบิดมัสยิสชาวชีอะห์ในซาอุดิอาระเบียเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเป็นระเบิดครั้งที่ 3 ใน 5 สัปดาห์แล้วในการโจมตีมัสยิสชาวชีอะห์
... แต่ที่ชาวมุสลิมทั่วโลกตกใจมากคือเกิดในเดือนศักดิ์สิทธิ์ "รอมฎอน"
... เคยมีนักวิเคราพะห์บอกตอนที่ระเบิดในซาอุดิอาระเบียแล้วว่า "ซาอุดิอาระเบีย" ตั้งใจจะหาแนวร่วมจากชาวซุนหนี่ให้มาช่วยเหลือตน ในการถล่มเยเมนและอิหร่าน เพราะก่อนหน้านี้ หลายประเทศที่เป็นลูกน้องเครือข่ายของซาอุด กลับไม่ผ่านกฏหมายในการให้กองทัพตัวเองมาช่วยซาอุด ในการถล่มเยเมน เช่นปากีสถานเป็นต้น ซึ่งซาอุดไม่พอใจอย่างมาก แต่จะเอาให้ได้ เลยต้องใช้มุขเดิม "ชีอะห์" คือแพะ
... จึงต้องพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า และเรื่องที่ดึงดูดชาวหนุ่มๆซุนหนี่ได้ดีที่สุดนอกจาก อเมริกาและยิวก็คือ "ชีอะห์" ทำให้เกิดการขัดแย้งกับชีอะห์จะมีแนวร่วมมาทันที
... นักวิเคราะห์บางคนเคยบอกว่าวิธีการของบางกลุ่มเช่น กลุ่มอัลกอิดะห์ อยากจะได้รับความร่วมมือ หาแนวร่วมจากคนหนุ่มสาว "ซุนนี่" มากขึ้นนั้น ไม่ยาก แค่พวกเขากล่าวหรือโจมตี "ชีอะห" หรืออิหร่าน ก็จะได้แนวร่วมโดยเฉพาะเด็กหนุ่มซุนหนี่ที่ศรัทธาแรงกล้า เพราะซุนหนี่หลายกลุ่มมัสหับเชื่อว่า "ชีอะห์นั้นสนิทกับยิว" ( อับดุลลาห์ อิบบึน ซาบะ ที่พาชาวบ้านล้อมบ้านท่านอุษมาน เคาะลีฟะห์ที่สาม จนถูกฆ่าตาย ก็เชื่อว่าเป็นยิวเข้ารีตอิสลาม ... คล้ายๆที่ อบูบักร อัล แบกแดดี ผู้นำของ ISIL ก็ถูกระบุว่าเป็นยิว )
... โดยไม่ได้ดูบริบทอื่นเพิ่มเติม เช่นตั้งแต่ยุค 1973ลงมา ทั้ง อียิปต์ จอร์แดน ซาอุด ต่างสิโรราบให้กับอิสราเอลหมดแล้ว อียิปต์รับเงินช่วยเหลือจากอเมริกาปีละเป็นหมื่นล้านบาท ทั้งจอร์แดนด้วย ส่วนซาอุดิอาระเบีย นั้นมีหุ้นในบริษัทต่างๆของวอลล์ สตรีทในอเมริกามากมาย ซึ่งรู้กันทั้งโลก ทุกคน ทุกศาสนาว่า วอลล์สตรีทนั้น คนยิวเป็นเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่อยู่ ข้อมูลพื้นฐานเลย
... เพราะซาอุดิอาระเบียกับอเมริกาเคยสร้าง "มูจาฮีดีน" มาแล้วในการเอาศรัทธาที่บริสุทธฺ์ของชาวหนุ่มมาเป็นเครื่องมือหลอกใช้ป้องกันบ่อน้ำมันตัวเองในซาอุ ในการต่อต้านโซเวียตรัสเซีย ช่วงสงครามเย็น
... หลายคนถึงขั้นไปไกลกว่านั้นว่า ชีอะห์นั้นอันตรายกว่าอเมริกาหรือยิว ( แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละกลุ่มมัสหับ ไม่ว่ากัน ไม่มีข้อสรุป )
... แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ตะวันตกอยากให้เกิดสงครามภายในระหว่าง ทั้งสองนิกายอย่างมาก เพราะชัดเจนว่าทำมาถี่ขึ้น 3 ครั้งใน 5 สัปดาห์ ยิ่งตอกย้ำจุดประสงค์ เพราะจะได้ไม่มีใครมาขวางในการยึดซีเรีย ที่ล่าสุด ISIL ( ISIL คล้าย ฮิตเล่อร์ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ถูกหลอกใช้เหมือนกัน ในการป่วนยุโรปของตัวเอง จนฆ่ากันตายช้ำหนองเกือบหมด เพื่อปูทางให้อเมริกามายึดเอายุโรปง่ายๆ ) ก็ประกาศตัวชัดๆตลอดว่าพวกเขาเองที่ทำลาย ชีอะห์
... อยู่ที่ความหนักแน่นของพี่น้องมุสลิมทั่วโลก ต้องไม่หวั่นไหวไปกับการยั่วยวนยุแยงจากตะวันตกในการให้ทำลายกันเอง เพราะศัตรูที่แท้จริงคือ "ยิว ดัจญาล" และอเมริกาแองโกลแซกซอนลูกสมุนของเขา หรือแม้แต่ "เมืองปิดเล็กๆ" แดนไกลในยุโรปใต้มากกว่าที่พยายามทำ "สงครามครูเสดอย่างเงียบๆ " ตลอดมา ( ไม่ได้ใส่ร้ายแต่ให้ลองดูข่าวประมุขของที่นั่นเอง ) ... อย่าเป็นเหยือของซาตานดัจญาล
.
http://www.independent.co.uk/…/kuwait-mosque-explosion-poss…

 

Jeerachart Jongsomchai



... "แผน 'อเมริกา' บอยคอตสินค้าพม่า : ทำให้ อินเดีย จีน โตเร็ว เลยเปลี่ยนแผนมาคืนดีพม่า ... จะยุให้พม่ากินเกาเหลาจีน"
.
... ช่วงที่ "นางอองซาน ซูยี" เป็นเหมือนตัวแทนจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ของอเมริกาในการบีบให้ รัฐบาลทหารพม่าเปิดการเลือกตั้งใหม่นั้น ช่วงปีก่อน 2003 แต่พม่าส่ายหน้าไม่ยอม อเมริกาเลยจัดหนัก แซงชั่น "ห้ามนำเข้าสินค้าจากพม่าทุกประเภท ไปยังอเมริกา"
... ส่งผลให้อุสาหกรรม "สิ่งทอและเครื่องนุ่มห่ม" ที่อเมริกานำเข้าไปทำให้พม่าบาดเจ็บหนักสุด โรงงาน 125 จากทั้งหมด 350 โรงต้องปิดตัวลง คนงานระหว่าง 100,000 - 150,000 จากทั้งหมด 350,000 ต้องตกงาน ทันที ตอนนั้นพม่าได้ข้อคิดมากมาย จากการดื้อต่ออเมริกา
... ไม่กระทบแค่นั้น ธุรกิจ อุตสาหกรรมข้างเคียงก็พลอยตายลงไปด้วยเช่น การบรรจุหีบห่อ การปลูกฝ้าย เงินลงทุนต่างชาติตะวันตกก็ไม่มีมา การท่องเที่ยวก็ถูกแบน ( ด้วยเหตุนี้ เมือง"พุกาม" หรือ Bagan ของพม่าจึงยังไม่ได้เป็น "มรดกโลก" จาก Unesco ลูกทาสในเรือนเบี้ยของวอลล์สตรีทอเมริกา ) แถมห้ามคนพม่าที่อยู่ต่างประเทศส่งเงินดอลล่าร์กลับประเทศอีก ทำให้เงินดอลล่าร์หมุนเวียนน้อย "เงินจ๊าดพม่าเลยค่าอ่อนลงอีก" จะนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศก็แพงขึ้นอีก เพราะปุ๋ยหรืออุปกรณ์ทางการเกษตรยังต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ
... ( เหมือนไทยหมูสยามเลย เป็นประเทศการเกษตร แท้ๆ แต่ไม่มีปุ๋ยทำเอง ต้องสั่งเข้าต่างประเทศ ไม่นับอุกกรณ์การเกษตรก็คิดเองไม่ได้ รัฐไม่เคยส่งเสริม เด็กช่างเก่งๆก็เยอะ ไม่เห็นมาออกรายการ "God's Talent" ให้แข่งขันกันประดิษฐ์อะไรเลย แต่มีร้องรำทำเพลงมากเกิน ( ซึ่งก็ไม่ผิด แต่มันไม่สมดุล การจะเป็นประเทศพัฒนาต้องเน้นการคิดค้นและพัฒนา R&D )
... แล้วพม่ารอดมาได้ไง เอาเงินมาจากไหนหมุนเลี้ยงดูประเทศ ?
... ปรากฎว่านักลงทุนตะวันตกไม่มาก็ช่าง แต่มีนักลงทุนเอเชียยังมาเพรียบ โดยเเฉพาะ "มาเลเซีย" ที่ไม่แคร์อเมริกาเลย มาลงทุนในพม่าถึง 71% ของทั้งหมด ( ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า มาเลเซียแอร์ไลน์ MH370, MH17 ถึงหายสาปสูญและโดนสอยร่วงเป็นรังไข่มดแดง ) บวกกับการขายแก๊สให้หมูสยาม ปตท. ไทยในราคางาม , ขายไม้ ให้จีน ขายสินค้าการเกษตรให้อินเดีย รวมทั้งพัฒนาการค้าตามชายแดน ทั้งขายข้าว ปลา กุ้ง ได้มากมาย ทั้งพม่ากับ ไทย อินเดีย จีน เลยทำให้พม่ารอดตายมาได้
... อเมริกาได้รู้ว่าแผนนี้ไม่ได้ผล แถมทำให้พวก BRICS เข้มแข็งขึ้นอีกด้วย เลยเปลี่ยนแผนใหม่ พยายามดึงให้ทหารพม่าจัดการเลือกตั้งกำมะลอขึ้นในปลายปี 2010 แล้ว เมกายอมรับเสีย เพื่อดึงพม่าออกมาจากอ้อมอกจีน และก็ให้พม่าให้สัมปทานการลงทุนกับ "ญี่ปุ่น" มากขึ้น จนหลังๆญี่ปุ่น เอาไปทั้ง ทวาย และ ติลาวา "จีน" ยังไม่ได้เลย แถมมาโดน อเมริกาสร้างกรณีโรฮีนจา มาปิดเมืองท่า "เจ้าผิว" ในรัฐยะไข่ทางตะวันตกที่จะขนน้ำมันไปยูนนานอีก
... และล่าสุดพยายามทำให้ พม่า กับ จีน กินเกาเหลาทะเลกันอีก โดยสร้างกรณีชนกลุ่มน้อยโกกั้ง และ ว้าแดง มูเซอแดงขึ้นมา และยังส่่งนายอองซาน ซูจีไปจีบลุงสีจิ้นผิงอีก เพื่อจะทำให้พม่ากับจีนร้าวกันให้ได้
... ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน "พม่า" กับ "ว้าแดง" ( ที่มีจีนแดงหนุนหลังมานานหลายสิบปี ) ก็กำลังฮุ่มๆกำลังจะวางกล้ามรบกันอีก แปลว่าอะไร ถ้า "ว้าแดง" รบ "พม่า" จริงๆก็แปลว่าสัมพันธฺ์ทั้งพม่าจีนจะยิ่งร้าวฉานมากขึ้น โดนใจอเมริกาจอมโจรในคราบตำรวจ ( ที่คอยถือใบสั่งแอบเอาหน้าแนบเสาไฟฟ้า เลยทีเดียว )
... แผนต่อไปของอเมริกาจะได้ผลหรือไม่ ต้องคอยติดตามดู
.
หนังสือ ; ประวัติศาสตร์พม่า อารยะธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดย บุญเทียม พลายชมพู
.

 

ผอ.เขื่อนยักษ์กาญจน์ยอมรับน้ำใน 2 เขื่อนใหญ่แล้งสุดในรอบ 50 ปี ลุ้นปี 59 อาจไม่มีน้ำใช้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2558 19:39 น. (แก้ไขล่าสุด 27 มิถุนายน 2558 12:01 น.)



นายประเสริฐ ธำรงวิศว ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

กาญจนบุรี - ผอ.เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ ยอมรับน้ำใน 2 เขื่อนยักษ์ “เขื่อนวชิราลงกรณ-ศรีนครินทร์” แล้งสุดในรอบ 50 ปี หากฝนไม่ตกตามฤดูกาลเหมือนอปี 2556-57 ต้นทุนน้ำในเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนอาจจะไม่มีใช้สำหรับหน้าแล้งในปี 2559 วอนประชาชน 7 จังหวัดลุ่มน้ำแม่กลอง รวมทั้งชาว กทม.ช่วยใช้น้ำอย่างประหยัด ส่วนชาวนาควรขุดบ่อไว้ใช้เอง

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (26 มิ.ย.) นายประเสริฐ ธำรงวิศว ผู้อำนวยการเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ให้สัมภาษณ์ที่บริเวณต้นแม่น้ำแม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ กับเขื่อนศรีนครินทร์ว่า ข้อมูลน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ วันที่ 26 มิถุนายน 2558 เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 164.74 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากปกติรับได้สูงสุด 180 คิดเป็นปริมาณ 12,050.99 ล้าน ลบ.ม.จากระดับสูงสุด 17,745 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 67.91% สามารถรับน้ำได้อีก 5,694.11 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา มีจำนวน 6.68 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำที่ระบายผ่านเครื่องวันที่ 25 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา จากเขื่อนท่าทุ่งนา 5.00 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ อยู่ที่ระดับ 137.88 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง รับน้ำสูงสุดได้ 155 เมตร คิดเป็นปริมาณ 3,620.17 ล้าน ลบ.ม. จากที่รับได้สูงสุด 8,860 ลบ.ม. คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 40.86% สามารถรับน้ำได้อีก 5,239.83 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำวันที่ 25 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา จำนวน 56.34 ล้าน ลบ.ม.ปริมาณน้ำที่ระบายผ่านเครื่องวันที่ 25 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา จำนวน 9.04 ล้าน ลบ.ม.

จะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนมีจำนวนน้อยมาก ซึ่งเป็นเพราะว่าฝนเริ่มตกลงมาได้ประมาณ 3 วัน ส่วนตัวอยากให้ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องสัก 100 วัน ปริมาณน้ำสักประมาณ 50 ล้าน ลบ.ม. ก็จะทำให้ต้นทุนของน้ำสามารถเพียงพอที่จะนำไปใช้ในช่วงฤดูแล้งของปี 2559 แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้อย่างที่ต้องการ และจากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานชลประทานที่ 13 เขื่อนแม่กลอง กรมชลประทาน พบว่า ปริมาณของน้ำทั้ง 2 เขื่อนที่มีอยู่ในปัจจุบันถือว่าแล้งที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี

“อยากฝากเตือนไปยังประชาชนที่อาศัยตามลุ่มน้ำแม่กลองทั้ง 7 จังหวัดคือ จ.เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี และ จ.กาญจนบุรี รวมทั้งชาวกรุงเทพฯ ให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด และให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย เพราะในช่วงฤดูฝนนี้ยังไม่แน่นอนว่าฝนจะตกลงมาตรงตามฤดูกาลหรือไม่ เพราะอากาศค่อนช้างแปรปรวน หากฝนไม่ตกตามฤดูกาลเหมือนเมื่อปี 2556 และ 2557 ที่ผ่านมา ต้นทุนของน้ำในเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนอาจจะไม่มีใช้สำหรับหน้าแล้งในปี 2559 ก็เป็นได้ สำหรับชาวนาที่มีพื้นที่ทำนาเป็นของตนเองก็อยากจะแนะนำว่าควรที่จะขุดบ่อในพื้นที่นาของตัวเองเอาไว้ เชื่อว่าคงจะบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ตนเองได้” นายประเสริฐ กล่าว


http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000072529

 

ปอกเปลือก ทรราช
อูยยย... สำนักข่าวชื่อดังของสหรัฐฯทำโพลออกมาว่ามีประชาชนชาวอเมริกันเพียง 9% เท่านั้นที่มองว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคาม



-----------
อัยย๊ะ! รายงานข่าวบอกว่าสำนักข่าว Fox News ของสหรัฐฯได้จัดทำโพลระหว่างวันที่ 21 และ 23 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาจากผู้ชมรายการข่าวทางโทรทัศน์พบว่า ชาวอเมริกันจำนวน 33% บอกว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นภัยคุกคาม (ต่อสหรัฐฯ) ซึ่งถือว่าเป็นความหวาดกลัวมากที่สุดเกี่ยวกับความปลอดภัยของชาวอเมริกัน ตามด้วยจีน 26% และมีเพียง 9% เท่านั้นที่มองว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคามของสหรัฐฯ ต่อมาก็เป็นอิหร่านและอัลเคด้า ฮี่ๆๆ ผิดคาดครับท่าน หาเรื่องโจมตีรัสเซียว่าก้าวร้าวชอบรุกรานเพื่อนบ้านไม่ได้แล้วนะรัฐบาลสหรัฐฯเอ๋ย
ในขณะเดียวกันนั้น ชาวรัสเซียจำนวน 37% มองว่าสหรัฐฯและนายบารัคโอบามาเป็นพวก "ประสงค์ร้าย" (main ill-wishers) ต่อประเทศรัสเซีย จากผลของการทำแบบสอบถามที่จัดขึ้นโดยศูนย์วิจัยแสดงความคิดเห็นของประชาชนชาวรัสเซีย (Russian Public Opinion Research Center) (แบบนี้เขาเรียกว่า "เกลือจิ้มเกลือ" ครับ ต้องขออภัยชาวอเมริกันไม่ได้มีส่วนรับรู้หรือเห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายทางการเมืองต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯด้วยนะ)
ส่วนข่าวนี้หนักกว่าเดิมอีก เมื่อวานนี้สำนักข่าว RT news ของรัสเซียอ้างการศึกษาจากมูลนิธินิวอเมริกา (New America Foundation) ว่าชาวอเมริกันผิวขาวเป็น "ภัยคุกคามก่อการร้ายที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสหรัฐฯ" (White Americans are the biggest terror threat in the United States) ที่สังหารประชาชนมากกว่าชาวมุสลิมหรือกลุ่มใดๆในรอบ 14 ปีที่ผ่านมา (อุ๊แม่เจ้า! ผลการศึกษานี่ชาวอเมริกันเขาทำขึ้นมาเองนะ ไม่เกี่ยวกับรัสเซีย หรือเพจ "ปอกเปลือก ทรราช" นะครับ เราแค่แปลข่าวจากภาษาอังกฤษมาให้ฟังเฉ๊ยเฉย คริๆ)
การศึกษาในครั้งนี้กระทำโดย Charles Kurzman จากมหาวิทยาลัย University of North Carolina และ David Schanzer จากมหาวิทยาลัย Duke University ซึ่งตีพิมพ์โดย Triangle Center on Terrorism and Homeland Security และ the Police Executive Research Forum รายงานโดย New York Times ของสหรัฐฯเองนั่นแหละ
เอาอีกซักข่าวไหม...? โทษฐานที่สหรัฐฯชอบมาโจมตีไทยเรื่องสิทธิมนุษยชนและชอบกล่าวหาใส่ร้ายประเทศไทยดีนัก เราจะช่วยกันประจานสหรัฐฯ (เฉพาะคนไม่ดีนะ ไม่ได้เหมารวมนะครับ) เมื่อวานนี้สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Study: Most American ISIL Sympathizers Are Not of Arab Descent" แปลว่า "การศึกษาพบว่า: กลุ่มผู้ให้การสนับสนุนพวกไอซิสที่เป็นชาวอเมริกันส่วนใหญ่นั้นไม่ใช่พวกที่มีเชื้อสายอาหรับ" (กรรมหละสิคราวนี้! แล้วเป็นใครหละ?)
ศูนย์ Center on National Security at Fordham Law School (ของสหรัฐฯ) ได้ทำรายงานผลการศึกษาชื่อ "By the Numbers: ISIS Cases in the United States" ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียและอีรัคที่เป็นชาวอเมริกันเอง แต่ไม่ใช่ชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ
การศึกษาพบว่าประชาชนของสหรัฐฯส่วนใหญ่ 81% ที่ได้รับอิทธิพลจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสและเดินทางจากสหรัฐฯไปร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย โดยคร่าวๆนี้หนึ่งใน 3 ของจำนวนนี้เป็นผู้ที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม (ขออภัยพี่น้องชาวมุสลิมหากได้รับความไม่สบายใจจากข่าวนี้ เพราะข่าวเขาเขียนมาอย่างนั้นจริงๆ แอ็ดมินไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น) โซเชียลมีเดียมีบทบาทในกรณีนี้ถึง 80% (ที่ทำให้มีการสนับสนุนพวกไอซิส) ซึ่งบางคนแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อกลุ่มผู้ก่อการร้าย และอีกส่วนหนึ่งใช้ช่องทางนี้ในการหาสมาชิกนักรบที่มีฝีมือเพิ่ม (recruit) ในขณะเดียวกันทางรัฐบาลสหรัฐฯก็ใช้ช่องทางนี้ (โซเชียลมีเดีย) ในการบังคับใช้กฎหมายจับกุมกลุ่มผู้ก่อการร้ายภายในประเทศด้วย รายงานบอกว่าอย่างน้อยก็มีผู้ต้องสงสัยจำนวน 18 รายถูกจับกุมเกี่ยวกับกิจกรรมทางโซเชียลเนทเวิร์คของพวกเขา (อู้! ระวังนะพี่น้อง อย่าได้ไปส่งข้อความหรือโพสต์อะไรแผลงๆสนุกๆ แกล้งเป็นผู้ก่อการร้ายป่วนหน่วยงานรัฐบาลหรือหยอกล้อกับเพื่อนๆในอินเตอร์เน็ทหละ จะซวยโดยไม่รู้ตัวเอาได้นะ)
รายงานไม่ได้บอกให้ชัดเจนว่าที่บอกว่าไม่ใช่ชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับนั้นแล้วเป็นใคร โดยบอกเพียงกว้างๆเองว่ามีหลายกลุ่มชาติพันธุ์เช่น ชาวแอฟริกา ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ชาวคอเคเซียน เอเซียกลาง ยุโรปตะวันออก เอเซียใต้ และมีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่เป็นชาวตะวันออกกลาง
อ้อ… รายงานดังกล่าวเป็นการศึกษาระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2014 - 22 มิถุนายน 2015
The Eyes
28/06/2558
----------
Only 9% of Americans See Russia as a Threat - Poll / Sputnik International
http://rt.com/usa/270142-white-americans-terror-threat/
Study: Most American ISIL Sympathizers Are Not of Arab Descent / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฮี่ๆ… เฮียปูก็ซุ่มของดีไว้เหมือนกัน ล่าสุดรัสเซียเผยโฉมอากาศยานความเร็วเหนือเสียง hypersonic Yu-71





-----------
เพื่อเป็นการฉลองเลขสวยยอดไลค์เพจ "ปอกเปลือก ทรราช" เอาใจแฟนเพจคอรัสเซียและแฟนคลับปูติน จึงนำข่าวดีมาบอกให้ทราบอีกซักข่าวนะครับ เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของรัสเซียออกมาแง้มข่าวว่าตอนนี้รัสเซียได้ทำการทดลองอากาศยานรุ่นใหม่ที่มีความคล่องแคล่ว รวดเร็วเหนือเสียง (ultra-fast and elusive, the hypersonic) ชื่อ "Yu-71" ที่รัสเซียบอกว่าสามารถทะลุทะลวงระบบป้องกันมิสไซล์ได้ทุกชนิด (ว้าว! ไม่แพ้ของจีนเลยนะนี่ สงสัยเฮียปูกลัวจะน้อยหน้าเฮียสีอ่ะ)
รายงานบอกว่าการพัฒนา Yu-71 นี้ใช้เวลามาแล้วหลายปี ซึ่งมีการทดสอบครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ.58 ที่ผ่านมานี่เอง อากาศยาน Yu-71 นี้รัสเซียบอกว่าเป็นหนึ่งในแผนการปรับปรุงกองกำลังขีปนาวุธยุทธศาสตร์ของรัสเซียให้มีความทันสมัยขึ้น โครงการพัฒนาขีปนาวุธลับ "Yu-71" มีโค้ดเนมว่า "Project 4202" (ไหนว่าลับแล้วรู้ได้ไง? ก็ก่อนนี้ลับ ตอนนี้เปิดเผยเป็นบางส่วนไง คริๆ) ซึ่งคาดว่าจะมีความเร็วอยู่ที่ 11,200 kmh (ต่อชั่วโมง) (7,000 mph) ถือว่าเป็นอากาศยานที่มีความเร็วและคล่องแคล่วสูงมาก และอันตรายสุดๆ และเป็นอาวุธที่แทบจะไม่สามารถคาดเดาเป้าหมายได้ และสามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูได้ด้วย
รายงานบอกว่ารัสเซียมีแผนจะประจำการอากาศยาน Yu-71 ติดหัวรบนิวเคลียร์จำนวน 24 ลำในกองทัพภายในปี 2020-2025 และนอกจากนี้แล้วรัสเซียยังได้พัฒนา Sarmat ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ICBM รุ่นใหม่ซึ่งจะติดตั้งอุปกรณ์ไฮเปอร์โซนิคเข้าไปด้วย (กรรมหละสิสหรัฐฯเอ๋ย เล่นกับใครไม่เล่น) มีแถมให้อีกรายงานข่าวบอกว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบสเตลธ์ด้านยุทธศาสตร์ (นิวเคลียร์) รุ่นต่อไป (5th generation bomber) ก็คือ PAK DA จะใช้สำหรับบรรทุกขีปนาวุธครูสมิสไซล์ซุปเปอร์โซนิคด้วย (hypersonic cruise missiles)
เมื่อเร็วๆนี้พึ่งจะลงข่าว Wu-14 ของจีนไปคงไม่ต้องให้กล่าวซ้ำอีกนะ การทำงานของเจ้า Yu-71 ค่ายรัสเซียนี่ก็คล้ายๆกับ Wu-14 ของจีนนั่นแหละ เฉพาะ Wu-14 ของจีนนั้นก็เล่นเอาเพนตากอนของสหรัฐฯเหงื่อตกไปแล้ว นี่ยังจะมาเจอ Yu-71 และ PAK DA ของรัสเซียเข้าไปอีก เพนตาก้อนไม่ฉี่ราดกางเกงแล้วหรือนี่? ของสหรัฐฯก็มีซุ่มพัฒนาอาวุธแบบนี้อยู่เหมือนกันชื่อ AHW (Advanced Hypersonic Weapon) และอีกหนึ่งโครงการของ DARPA ของสหรัฐฯที่เกี่ยวกับการพัฒนาอากาศยานและขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงนี้ก็คือ Hypersonic Tactical Boost Glide (TBG)
The Eyes
29/06/2558
----------
Secret Russian Hypersonic Nuke Glider Can Pierce Any Missile Defense / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
เอาแล้วไง... พิษแซงชั่นถึงคราวญี่ปุ่นมั่ง นายกฯอาเบะบอกว่า "ญี่ปุ่นมองว่าความสัมพันธ์กับรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"



-----------
ฮี่ๆๆ… นึกว่าจะแน่ซะอีก G7 ก็ G7 เหอะคิดจะงัดกับปูตินเหรอ? มะ…เข้ามา... คริๆ สุดท้ายญี่ปุ่นก็บอกว่าผมยอมแล้วครับเฮียปูติน ญี่ปุ่นสำนึกผิดแล้วที่ไปหลงกลนายโอบาม่ามันหนะ ขอพี่ปูตินอภัยให้อาเบะผู้น่าสงสารหน่อยเถอะนะ อย่าห้ามญี่ปุ่นไปจับปลาแซลมอนและและปลาเทร้าท์แถวหมู่คูริลเลยนะ ไม่งั้นอุตสาหกรรมการประมงในฮ็อกไกโดเจ๊งแน่ๆ



เมื่อวานนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า "นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นขอเดินหน้าเจรจาต่อรองกับรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่าความสัมพันธ์กับกรุงมอสโคว์นั้นเป็นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ (the relations with Moscow are imperative to Tokyo's economy)" (ทำไมอาเบะถึงความรู้สึกช้าอย่างนี้นะ?)



Sputnik news อ้างรายงานข่าวจากสื่อฯญี่ปุ่นว่า นายกฯอาเบะและปธน.ปูตินได้มีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ และอาเบะได้เชิญให้ปูตินเดินทางไปเยี่ยมญี่ปุ่นภายในปีนี้ เพื่อที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะได้คุยกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศ
ในขณะเดียวกันทางญี่ปุ่นก็ให้ข่าวว่าญี่ปุ่นก็ยังพิจารณาว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ญี่ปุ่นจะต้องมีความสามัคคีกับกลุ่มประเทศ G7 ด้วย อย่างไรก็ตาม การที่รัสเซียแซงชั่นกลับ (ใส่กลุ่ม G7) เกี่ยวกับเรื่องอาหารจากหลายประเทศนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกรุงมอสโคว์และกรุงโตเกียวด้วย (เออ… แล้วกรุงโตเกียวไปหาเรื่องใส่ตัวเองทำไมหละครับ? อันที่จริงญี่ปุ่นก็ไม่อยากเล่นเกมนี้หรอก แต่เพราะถูกมัดมือชกเลือกไม่ได้ เพราะฐานทัพของสหรัฐฯมีอยู่เต็มประเทศญี่ปุ่นไปหมด ไหนจะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและกองทัพกับสหรัฐฯอีก ตอนนี้ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นเหมือนเมืองขึ้นของสหรัฐฯกรายๆไปแล้ว)
รายงานข่าวบอกว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสภาสหพันธรัฐรัสเซียมีมติสั่งห้ามการทำประมงแบบอวนลอย (driftnet fishing) ในการจับปลาแซลมอนและปลาเทร้าท์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (exclusive economic zone) ของรัสเซีย การแบน driftnet fishing ในครั้งนี้จะมีผลเมื่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เซ็นลงนามเท่านั้น หากสิ่งนี้เกิดขึ้น เรือประมงของญี่ปุ่นก็จะไม่สามารถเข้าไปจับปลาในน่านน้ำแถวหมู่เกาะ Chishima islands ซึ่งอยู่ในหมู่เกาะคูริลและในพื้นที่อื่นๆของรัสเซียได้เลย (ซวยหละสิ!)
และเมื่อเร็วๆนี้ฝ่ายบริการของเมือง Nemuro ของญี่ปุ่นออกมากล่าวว่า พื้นที่ทางตะวันออกของเกาะฮ็อกไกโดของญี่ปุ่นอาจจะสูญเสียรายได้ถึง $200 million (¥25 billion) (ประมาณ 6.7 - 6.9 พันล้านบาท) ต่อปีหากรัสเซียตัดสินใจแบนการทำประมงอวนลอยในเขตเศรษฐกิจพิเศษ รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบกระทำอะไรซักอย่างเพื่อลดผลกระทบ (ดีนะที่ยังมีสติ นึกว่าจะตอบโต้รัสเซียด้วยการแซงชั่นกลับอย่างอื่นอีก จะเจ้งกันเร็วขึ้น)
ข้อตกลงในการทำการประมงระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นในน่านน้ำของรัสเซียนี้ ทำให้ญี่ปุ่นสามารถหาปลาได้ปีละ 6,400 ตัน (รายงานข่าวจาก NHK channel) ส่วนทางรัสเซียรีบออกมากระตุ้นญี่ปุ่นอีกรอบว่า ฝ่ายที่เสนอให้มีการแซงชั่นการทำประมงอวนลอยของญี่ปุ่นในเขตเศรษฐกิจพิเศาครั้งนี้บอกว่าจะทำให้รัสเซียจับปลาเข้ามาขายในตลาดภายในประเทศรััสเซียได้เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญก็คือจะเป็นการเพิ่มงานได้ถึง 4,000 อัตราเลยหละ
นั่นหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าถ้ารัสเซียได้เดินหน้าเกมนี้แล้ว จะไม่อาจหยุดหรือใส่เกียร์ถอยหลังได้เด็ดขาด เพราะถ้าหยุด ก็จะเกิดการตกงานและการว่างงานขึ้นมาในรัสเซียทันทีถึง 4,000 อัตรา และจะมีผลกระทบต่อตลาดภายในประเทศเป็นอย่างมาก และข้อดีก็คือรัสเซียจะสามารถลดการนำเข้าปลาจากอิหร่านและประเทศพันธมิตรที่ไม่ทำการแซงชั่นรัสเซียได้ด้วย ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็จะอดทำการประมงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัสเซียไปอีกตลอดกาล เพราะถ้ายังเปิดให้ญี่ปุ่นทำก็จะเป็นการไปแย่งปลากับรัสเซียอีก ญี่ปุ่นก็ต้องหันไปนำเข้าปลากจากประเทศอื่นอีก กรรม!
The Eyes
29/06/2558
----------
Japan Considers Relations With Russia 'Imperative' – Prime Minister Abe / Sputnik International
Japan Predicts $200Mln in Losses if Russia Bans Driftnet Fishing / Sputnik International

 

Thanong Fanclub



51. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
GREEK FINANCE MINISTER VAROUFAKIS SAYS ANY ECB DECISION TO CUT FUNDING TO BANKS WOULD BE FAILURE OF EUROPEAN DEMOCRACY, MONETARY UNION
รมวคลังกรีก นายYanis Varoufakisพูดถูกว่า อีซีบีมีสิทธิ์อะไรมาตัดสภาพคล่องที่จะให้แบงค์กรีกยามฉุกเฉินที่โดนถอนเงิน แล้วจะรวมตัวกันทางการเงินทำไม? ประชาธิปไตยอะไรที่รังแกประเทศเล็ก
Thanong
28/6/2016

 

Thanong Fanclub



51. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
วันจันทร์พรุ่งนี้ น่าจะเป็นBlack Monday สำหรับตลาดการเงินท่ัวโลก เพราะว่ากรีซเตรียมใช้มาตรการควบคุมเงินไหลออก (capital controls)จากแบงค์ และอาจจะต้องปิดบางแบงค์ที่สภาพคล่องขาดเกินเยียวยา
นายYanis Varoufakis รมวคลังกรีซให้สัมภาษณ์BBCบอกว่า กำลังปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่การเงินของกรีซและอีซีบีที่แฟรงค์เฟิร์ทว่าจะจัดการกับมาตรการควบคุมเงินไหลออกจากแบงค์ และจะประกาศปิดแบงค์ (bank holiday) อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เงินไหลออกจากแบงค์จนล่มหมดทั้งระบบ
หมายความว่าผู้ฝากเงินจะถูกจำกัดว่าจะถอนเงินได้เท่าใด ในแต่ละวัน
อีซีบีประกาศว่าไม่ได้ตัดสภาพคล่องช่วยเหลือแก่แบงค์กรีก แต่จะไม่เพิ่มวงเงิน ที่ผ่านมาอีซีบีช่วยแบงค์กรีกไปแล้วประมาณ120,000ล้านยูโร
ดูเหมือนว่าพวกสหภาพยุโรปต้องการบี้กรีซและเชือดกรีซให้ลิงดูเป็นตัวอย่าง หลังจากล้มแผนฟื้นฟูทางการเงินของกรีซ
รอดูพรุ่งนี้ว่าจะเป็นผลกระทบที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ในวันพุธจะมีผลกระทบต่อตลาดการเงินโลกอย่างไร จะเกิดBlack Mondayแค่ไหน
thanong
28/6/2015

 

Thanong Fanclub



52. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
ศรีปราชญ์กำลังคลุกฝุ่นอยู่ หลังจากโดนเจ้าหนี้ยุโรปเล่นกลับ ทำให้รัฐบาลกรีซจำต้องออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อสกัดวิกฤติการเงินคือ:
1. ปิดตลาดหุ้นวันจันทร์นี้
2. ปิดแบงค์วันนี้ถึงวันที่6กรกฎาคม
3. ให้ผู้ฝากเงินถอนเงินได้จากตู้ATMวันละไม่เกิน60ยูโร
4. กรีซขอยืดอายุโปรแกรมการช่วยเหลือของทรอยก้าที่จะสิ้นสุดลงในวันที่30มิถุนายนนี้ เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ในแผนฟื้นฟูฐานะการเงินของกรีซ
5. ชาวกรีกจะเดินหน้าลงประชามติในวันที่5กรกฎาคมว่าจะเอาด้วยกับโปรแกรมรัดเข็มขัดของไอเอ็มเอฟหรือไม่
กำลังมีความพยายามดึงเรื่องให้กรีซอยู่ในยูโรโซนต่อไป แต่กรีซน่าจะต้องผิดชำระหนี้ในวันที่1กรกฎาคม หลังจากมีการล้มโต๊ะเจรเจาแผนฟื้นฟูหนี้และการเงินของกรีซ
เจ้าหน้าที่อียูบอกว่า กำลังหวังว่ากรีซจะสามารถเสนอแผนฟื้นฟูใหม่ได้เพื่อให้ทันวันพฤหัสบดีนี้ (2 กรกฎาคม)
Angela Merkelผู้นำเยอรมันเริ่มจะแสดงท่าทีประนีประนอม โดยบอกว่าหวังว่าEurogroupจะบรรลุข้อตกลงกับกรีซได้ในวันที่2กรกฎาคม
หมายความว่าอาจจะให้กรีซผิดชำระหนี้ทางเทคนิค1วัน เพราะว่าถ้ากรีซไม่จ่ายหนี้1,600ล้านยูโรภายในวันที่1กรกฎาคม จะถือว่าผิดชำระหนี้
อีซีบีให้เงินกู้สภาพคล่องกรีซไปแล้ว122,000ล้านยุโร หรือเทียบเท่า31%ของทรัพย์สินทั้งหมดของระบบแบงค์กรีซ
มีข่าวว่า อีซีบีจะไม่เพิ่มวงเงินนี้ให้อีก แต่น่าจะต้องแอบช่วย
เพราะว่าประชาชนกรีกกำลังแห่ถอนเงินอย่างกระหนกตกใจอยู่
Merkelย้ำว่ากรีซอาจจะไม่จำเป็นต้องจ่ายหนี้ก้อนโตเป็นเวลาหลายปี
Jack Lew รมวคลังสหรัฐกล่าวว่าสหรัฐกำลังติดตามสถานการณ์กรีซอย่างใกล้ชิด และคิดว่ากรีซควรต้องได้รับการผ่อนผันการใช้หนี้ 320,000ล้านยูโร
คอยดูว่าตลาดการเงินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ต่อวิกฤติการเงินของกรีซที่มีการดึงเรื่องจนต้องให้กรีซผิดชำระหนี้ทางเทคนิค
thanong
29/6/2015

 

Thanong Fanclub



53. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
ดูตารางจ่ายหนี้ของกรีซแล้ว เหนื่อยแทน
มิถุนายายน
หนี้ที่ต้องจ่าย6,740ล้านยูโร หนี้ไอเอ็มเอฟ1,500ล้านยูโร หนี้ตั๋วเงินระยะสั้น5,200ล้านยูโร
กรกฎาคม
หนี้ที่ต้องจ่าย5,095ล้านยูโร หนี้ไอเอ็มเอฟ452ล้านยูโร หนี้ตั๋วเงินระยะสั้น 2,000ล้านยูโร หนี้อีซีบี3,500ล้านยูโร
สิงหาคม
หนี้ที่ต้องจ่าย4,380ล้านยูโร หนี้ไอเอ็มเอฟ176ล้านยูโร หนี้ตั๋วเงินระยะสั้น1,000ล้านยูดร หนี้อีซีบี3,200ล้านยูโร
กรีซแทบจะไม่มีเวลาหายใจในภาระหนี้ที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนสูงมาก แก้ได้อย่างเดียวคือต้องลดหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ แต่เจ้าหนี้ไม่ยอม ให้รัดเข็มขัดลูกเดียว
จึงนำมาสู่วิกฤติการเงินของกรีซเต็มรูปแบบ
thanong
29/6/2015
Greece debt crisis: ECB 'to end' bank emergency lending - BBC News

 

Thanong Fanclub



54. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
กรีซโบราณเป็นเจ้าตำหรับอุบายม้าไม้เมืองทรอย แต่กรีซสมัยใหม่กลับตกม้าไม้อีซีบีและไอเอ็มเอฟจนหลังหักเสียเอง
ในสงครามกับพวกโทรจาน ที่กินเวลายาวนาน10ปี พวกกรีกล้อมเมืองทรอยแต่ตีไม่แตก เลยออกอุบายถอนทัพ แต่มอบม้าไม้ขนาดยักษ์ให้เป็นของขวัญที่ระลึก แต่ในท้องม้าไม้แอบซ่อนทหารกล้าของกรีกอยู่ พวกโทรจานหลงกล ลากม้าไม้เข้าไปในตัวเมือง และฉลองชัยชนะกันอย่างเอิกเกริก
ตกดึก พวกทหารกรีกที่ซ่อนตัวในม้าไม้โผล่ออกมาฆ่าพวกโทรจานตายและสามารถยึดเมืองทรอยได้
อุบายม้าไม้จึงเป็นกลยุทธเผด็จศึกที่คลาสสิคที่สุด แม้แต่ทุกวันนี้ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ยังมีคนหลงกลอุบายม้าไม้นี้อยู่
กรีกสมัยใหม่หลงกลยอมรวมตัวทางการเงินกับสหภาพยุโรปทำให้อียูสามารถส่งธนาคารกลางหรืออีซีบีเข้าไปในระบบการเงินกรีซได้ เมื่อกรีซใช้เงินยูโรที่อีซีบีพิมพ์ กรีซก็ตกเป็นทาสของอีซีบี ทำให้อีซีบียึดระบบการเงินของกรีซอย่างสมบูรณ์แบบ
กรีซกระดิกตัวไม่ได้ เพราะว่าอำนาจการต่อรองสู้อียูไม่ได้ เพราะว่าม้าไม้อีซีบีตั้งอยู่ในหัวใจของระบบการเงินของกรีซ ทำให้กรีซกลายเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด
สหรัฐใช้กลยุทธม้าไม้เมืองทรอยกับรัสเซียผ่านเงินดอลล่าร์ รัสเซียเปิดประเทศ กลายเป็นผู้ส่งออกพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในการลงทุนแบงค์รัสเซียและบริษัทรัสเซียพึ่งพาเงินดอลล่าร์เป็นหลัก ทำให้รัสเซียมีหนี้ต่างประเทศ$600,000ล้านในรูปดอลล่าร์ส่วนมาก
สหรัฐต้องการล่้มรัสเซีย จึงสร้างวิกฤติยูเครน ทำให้ปูตินต้องเข้าไปยึดไครเมียเพื่อปกป้องฐานทัพเรือในยูเครน แล้วสหรัฐก็จับมือกับยุโรปแซงชั่นรัสเซีย ห้ามแบงค์หรือบริษัททำธุรกรรมกับรัสเซีย
ผลก็คือรัสเซียโดนสหรัฐชักเงินดอลล่าร์กลับจนหมุนเงินแทบไม่ทัน ค่าเงินรูเบิ้ลโดนโจมตีหนักจากการขายรูเบิ้ลเพื่อซื้อดอลล่าร์ เงินดอลล่าร์ที่เข้าไปฝังตัวอย่างเงียบๆในระบบการเงินรัสเซียกลายเป็นม้าไม้เมืองทรอยเมื่อมันถูกดึงกลับอย่างกระทันหันทำให้ระบบการเงินรัสเซียปรับตัวไม่ทัน ดอกเบี้ยพุ่งกระฉูด และค่าเงินตกต่ำอย่างเป็นประวัติการณ์
เดชะบุญที่รัสเซียมีจีนหนุนหลังอยู่ มิเช่นนั้นอาจจะเดี้ยงไปแล้ว บทเรียนนี้ทำให้ปูตินออกมายอมรับว่าความผิดพลาดของรัสเซียคือพึ่งพาดอลล่าร์มากเกินไป ต่อไปจะไม่เพียงแต่ลดการใช้ดอลล่าร์เท่านั้น แต่จะเลิกเลย รัสเซียต้องการฆ่าม้าไม้เมืองทรอย
ประเทศไทยก่อนต้มยำกุ้งมีBIBF หรือการเปิดเสรีการธนาคารเพื่อให้เอาดอลล่าร์ถูกๆเข้าประเทศได้สะดวกในการปล่อยกู้ ผลก็คือเกิดฟองสบู่การเงิน จนในที่สุดฟองสบู่แตก แบงค์ล้่ม เศรษฐกิจพัง ค่าเงินบาทกู่ไม่กลับ
BIBFก็คือม้าไม้เมืองทรอยที่ผู้ดูแลนโยบายการเงินของไทยสมัยนั้นลากเข้ามาในประเทศเอง
จีนก็โดนม้าไม้เมืองทรอยในตลาดหุ้นเหมือนกัน ขณะนี้มีการปล่อยข่าวโดยสำนักข่าวตะวันตกตลอดเวลาว่าจีนกำลังเจอปัญหาฟองสบู่ จะเอาอยู่หรือไม่ ฟองสบู่จะแตกเมื่อใด
หุ้นจีนตกหนัก20%ในช่วงที่ผ่านมา เพราะว่ากองทุนต่างชาติเทขาย เงินฝรั่งที่เอามาลงหุ้นจีนก็เหมือนม้าไม้ ฝังตัวสักระยะ พอได้ทีก็อาละวาดเทขายออกมาเพื่อสร้างแพนิคในตลาดหุ้นจีน
จับตาวิกฤติตลาดหุ้นจีน....
1.
ธนาคารกลางจีนต้องประกาศลดดอกเบี้ยทั้งกู้-ฝากลงอย่างเงียบๆ โดยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมลดลง0.25% เหลือ 4.85% และลดดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25%เหลือ 2.0% ให้มีผลเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.เพื่อผ่อนคลายภาวะเงินตึงตัวหลังตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ถูกเทขายอย่างหนักจากนักลงทุนต่างชาติ
2.
สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนถูกดัดหลังจากนักลงทุนต่างชาติ ทำการถล่มขายหุ้นอย่างหนักในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ทำให้ดัชนี shanghai composit ร่วงหนักถึง7.4% ในวันศุกร์เพียงวันเดียว ส่งผลต่อ margin call ให้นักลงทุนที่เล่นมาร์จินหรือเงินกู้ถูกเรียกเงินเพิ่ม โดยที่ตลาดมีการใช้วงเงินมาร์จินถึง $370,000ล้าน ทั้งนี้ดัชนีหุ้นได้ดิ่งลง 19% จากระดับพีคเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งทำให้มูลค่าทางตลาดรวมหรือ market capitalization ลดลงถึง $1.25ล้านล้าน โดยที่ตลาดหุ้นจีนมัการซื้อขายหุ้นที่มาจากเงินกู้เพิ่มขึ้นถึง 123% เป็นยอดเงินกู้สูงถึง $370,000ล้าน
จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมาในเร็ววันนี้ั มี3วิกฤติเกิดขึ้นพร้อมกันโดยไม่บังเอิญ คือ
1. ISISก่อการร้ายในฝรั่งเศส ตูนิเซียและคูเวตที่ฝังตัวสักระยะก่อนจะก่อการร้าย
2. วิกฤติหนี้กรีซที่ตกลงกันไม่ได้ โดยอีซีบี ไอเอ็มเอฟเป็นม้าไม้ที่รวบเอาหนี้ของกรีซมาไว้ในมือ ถึงเวลาก็ล้มโต๊ะเจรจา ไม่ลดหนี้เพื่อให้กรีซพัง
3. ตลาดหุ้นจีนโดนถล่มจากกองทุนต่างชาติที่แอบฝังตัวมาพักใหญ่ ก่อนที่จะนัดกันถล่มหุ้นจีน
กลยุทธของการทำลายล้วนแล้วแต่เป็นอุบายม้าไม้ที่กรีกโบราณคิดขึ้นมาทั้งนั้น
thanong
29/6/2015

 

Jeerachart Jongsomchai



... "สภากรีซ : อนุมัติให้ลงประชามติ ว่าจะรับแผนเงินกู้จากอียูหรือไม่ ในวัน 5 กรกฎาคมนี้แล้ว"
... "รัฐสภากรีซ" เห็นชอบให้มีการลง "ประชามติเกี่ยวกับว่าจะรับแผนเงินกู้จากอียูหรือไม่" ในวันที่ 5 ก.ค. นี้ ว่าจะรับเอาแผนเงินให้กู้ของอียูที่โหดร้ายเอาเปรียบหรือไม่ ?
... รัฐสภากรีซมีมติอย่างน้อย 179 จาก 300 เสียง เมื่อค่ำวันเสาร์ 27มิย. อนุมัติการทำประชามติเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องหนี้ล่าสุดของประเทศกับบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย ที่นำโดยสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
... โดยการทำประชามติกำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค. นี้
... ด้านธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมพิเศษในวันอาทิตย์ ( หลังจากสภากรีซอนุมัติวันหนึ่ง ) ที่เบลเยี่ยม ยืนยันจะยังคงให้เงินช่วยเหลือแก่ธนาคารกรีซต่อไป เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ท่ามกลางความหวั่นวิตกของประชาชนที่พากันไปเข้าคิวเพื่อรอกดเงินจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ วิกฤตการเงินกรีซยิ่งถลำลึกไปกันใหญ่
... เมื่อยุโรปเสนอ "ไม่ให้มีการขยายเส้นตาย" ทางการเงินในวันที่ 30 มิ.ย. ออกไปอีก เพื่อตอบโต้นายซีปราสที่เรียกร้องให้มีการลงประชามติ ขณะที่เยอรมนีและฝรั่งเศส มหาอำนาจเศรษฐกิจแห่งยุโรป ยืนยันว่า กรีซจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยูโรโซน ท่ามกลางความหวั่นเกรงเกี่ยวกับ "อนาคตของสกุลเงินเดียวของยุโรป" หากกรีซถอนตัวออกจากยูโรโซน.“
... โจเซฟ สติกลิตซ์ บอกว่าอันตรายมากถ้ากรีซออก เพราะไม่นานสเปน ก็อาจจะตามมา บางคนก็บอกว่า ค่าเงินยูโรก็จะไม่มีใครต้องการ และจะตกลงเรื่อยๆ ( เพราะรู้ว่าอยู้ไปก็มีแต่ตกต่ำ ต้องขายบ้านขายเมือง ธนาคาร สถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจก็คงโดนเขาสอยซื้อไปหมด เลือกออกตอนนี้ดีกว่า )
[ ... อ่านข่าวนี้ อย่าเพิ่งพองหนอ ตาโตตาวาวตามข่าวว่า แหมทำไมอีซีบี ไอเอมเอฟ ก็ดีออกอย่างนั้น ที่ยังอุตสาห์จะยังอัดฉีดเงินให้กรีซอีก ทั้งๆที่กรีกกำลังจะประชามติที่มีผลต่อความสัมพันธ์แท้ๆ ... ข่าวมาแบบนี้ ตีความได้อย่างเดียวว่า "เอาใจหาเสียงสร้างภาพ" ก่อนโหวตลงมติ เอาใจประชาชนชาวกรีก เพื่อให้หูเบาลงมติให้เลือกว่า จะอยู่กับยูโรโซนต่อไปแค่นั้นเอง ... เรื่องแบบนี้คงหลอกได้แค่คนแถวๆบ้านเรา ที่เชื่อลมปากล่างนักการเมืองง่ายๆ คนกรีกเขาคงไม่เชื่อ ... ]
.
อ่านต่อที่ : กรีซอนุมัติลงประชามติแผนใช้หนี้ | เดลินิวส์

 

Chalee Na Roied



เดือนกรกฎาคม ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีหลายเหตุการณ์ที่น่าจับตานะครับ และในสหรัฐอเมริกาตามแผนการเดิม ที่เคยออกมาก่อนหน้านั้น คือ การฝีก"Jade Helm" ที่จะเริ่มขึ้นในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นการฝึกในหลายๆรัฐ ทางตอนใต้ของสหรัฐ โดยเฉพาะที่เม็กซิโก ซึ่งชาวเท็กซัสส่วนใหญ่ ล้วนไม่ไว้ใจรัฐบาลกลาง และมีท่าทีสนับสนุน ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ในการส่งกองกำลังในพื้นที่ เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของ กองกำลังจากรัฐบาลกลาง
Texas Governor Deploys State Guard To Stave Off Obama Takeover : It's All Politics : NPR

อย่าลืมนะครับว่ายิ่งนานวัน สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจโลก ก็ยิ่งเข้าสู่ความตึงเครียด และไม่สามารถแก้ปัญหาได้ โดยเฉพาะสถานการณ์ของกรีซ ในเวลานี้ก็อยู่ในระหว่าง การดึงเกมส์และยื้อกันไปมา เพราะวิกฤติการณ์ของกรีซ มีความล่อแหลม ที่จะทำให้สหภาพยุโรป แตกเป็นเสี่ยงและกระทบ ถึงประเทศอื่นๆทั่วโลก รวมถึงสหรัฐเอง เพราะเงินยูโร กับดอลลาร์นั้นเกื้อกูลกัน
http://www.zerohedge.com/news/2015-06-27/greek-butterfly-effect

เพราะฉะนั้นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐ ต้องการมากที่สุด คือ สถานการณ์ที่สามารถ นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 เท่านั้น ซึ่งล่าสุดทางเอฟบีไอ ก็ออกมาเตือนชาวอเมริกัน ในห้วงวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งวันชาติสหรัฐที่กำลังจะมาถึงนี้ ว่ามีความเป็นไปได้ ว่าจะเกิดการโจมตีจากเครือข่าย IS
Fourth of July terror warning issued by FBI, Homeland Security

ในขณะที่การเจรจา P5+1 โครงการนิวเคลียร์ ของอิหร่าน ซึ่งต้องได้ข้อยุติภายในสิ้นเดือนนี้ และถ้าผลการเจรจา ออกมาไม่เป็นผลดีต่อ อิสราเอล และซาอุดิอาระเบีย แน่นอนว่า อิสราเอลอาจจะ เปิดฉากโจมตีอิหร่าน ตามกระแสข่าวที่ออกมาล่าสุด ซึ่งนายกฯ เบนยามิน เนธันยาฮู ได้ออกมาส่งสัญญาณล่วงหน้าแล้ว ปฏิบัติการทางอากาศ เป็นกุญแจสำคัญ ในการโจมตีอิหร่าน
Air force key to defending against Iran, Netanyahu says | The Times of Israel

ซึ่งตามรายงานที่ออกมานั้น ปฏิบัติการดังกล่าว น่าจะเริ่มต้นเดือนกรกฎาคมนี้เช่นเดียวกัน และแน่นอนครับว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น "ไม่ใช่ความบังเอิญ" ซึ่งถ้าอิสราเอลโจมตีอิหร่าน และอิหร่านทำการตอบโต้ สหรัฐก็ต้องช่วยปกป้องอิสราเอล ในการโจมตีอิหร่าน ซึ่งถ้าอิหร่านถูกสหรัฐโจมตี รัสเซียและจีนในฐานะ พันธมิตรคงไม่นั่งดูอิหร่าน ถูกรุมยำฝ่ายเดียวแน่นอน
http://www.alternet.org/world/growi...strategic-alliance-has-got-pentagon-trembling

และถ้ารัสเซียและจีน กระโดดเข้าร่วม คงไม่ต้องพูดถึงนะครับว่า ภูมิภาคตะวันออกกลาง และรวมถึงเสถียรภาพของโลก จะเป็นเช่นใด?...

 

กรีซประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน-จ่อปิดธนาคาร 6 วันทำการ รับมือ “วิกฤตแห่ถอนเงิน” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2558 04:05 น.



@นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซ

รอยเตอร์ / เอพี / เอเอฟพี/เอเจนซีส์ /ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซสร้างความตกตะลึงไปทั่วยุโรปในวันอาทิตย์ ( 28 มิ.ย.) หลังออกมาประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน และสั่งปิดทำการสถาบันการเงินทั่วประเทศ เพื่อรับมือกับ “วิกฤตแห่ถอนเงิน” ของประชาชนในประเทศที่รู้สึกกังวลต่ออนาคตของกรีซ หลังรัฐบาลเอเธนส์เลือกใช้การจัดลง “ประชามติ” เป็นทางออกว่าจะทำอย่างไรกับข้อตกลงทางการเงินกับเจ้าหนี้ต่างชาติ

นายกรัฐมนตรีหนุ่มวัยเพียง 40 ปีของกรีซซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังนำกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย “ซีริซา” คว้าชัยในการเลือกตั้งเหนือฝ่ายอนุรักษ์นิยม ระบุถึงการตัดสินใจประกาศบังคับใช้ “ มาตรการควบคุมเงินทุน” มิให้ไหลออกจากระบบธนาคารของกรีซเพิ่มเติม รวมถึง คำสั่งปิดทำการธนาคารทั่วประเทศว่า เป็นผลจากการที่กรีซถูกบีบคั้นจนไม่เหลือ “ทางเลือกอื่น” จากบรรดาหุ้นส่วนในยุโรปและธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีของกรีซยืนยัน จะไม่ล้มเลิกแผนจัดลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ในวันอาทิตย์หน้า ( 5 ก.ค.) เพื่อชี้ชะตาอนาคตของประเทศที่ถูกมองว่า “กำลังนับถอยหลัง” ขยับเข้าใกล้การหลุดกระเด็นออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซนและการใช้เงินสกุลยูโร หรือปรากฏการณ์ “เกร็กซิต” (Grexit) ทุกขณะ

จนถึงขณะนี้ นายกรัฐมนตรีซีปราสยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า จะสั่งปิดทำการธนาคารและสถาบันการเงินรูปแบบต่างๆในประเทศเป็นระยะเวลายาวนานมากน้อยเพียงใด ตลอดจนยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดใดๆ ของการบังคับใช้มาตรการควบคุมเงินทุนด้วยเช่นกัน

แหล่งข่าวทางการทูตในกรุงเอเธนส์ได้เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการกำกับดูแลเสถียรภาพทางการเงินของกรีซเตรียมออก “ข้อแนะนำ” ให้รัฐบาลสั่งปิดทำการธนาคารนาน “6 วันทำการ” จนถึงวันจันทร์หน้า ( 6 ก.ค.)

นอกจากนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯชุดดังกล่าวยังเสนอให้รัฐบาลเอเธนส์ออกข้อกำหนดให้ประชาชนชาวกรีกสามารถถอนเงินได้เพียง “วันละ 60 ยูโร” (ราว 2,230 บาท) เท่านั้น เมื่อธนาคารกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม ยกเว้นเพียงชาวต่างชาติที่ยังคงสามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ตามเกณฑ์การถอนเงินขั้นสูงสุด ตามที่ธนาคารแต่ละแห่งเป็นผู้กำหนด

อย่างไรก็ดี มาตรการควบคุมเงินทุนมิให้ไหลออกจากระบบธนาคารของกรีซเพิ่มเติม รวมถึง คำสั่งปิดทำการธนาคารทั่วประเทศนี้ที่ประกาศโดยนายกรัฐมนตรีซีปราสยังจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และต้องยื่นเสนอต่อประธานาธิบดีโปรโกปิส ปาฟโลปูโลส ที่เป็นประมุขสูงสุดของประเทศให้ลงนามบังคับใช้อย่างเป็นทางการต่อไป

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่กรีซไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้เงินมาชำระหนี้สินภายในกำหนดเส้นตายสิ้นเดือนนี้ แล้วยังตัดสินใจหันไปประกาศจัดลงประชามติว่า ประชาชนจะยอมรับเงื่อนไขเข้มงวดของฝ่ายเจ้าหนี้หรือไม่ ส่งผลให้ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือ “ยูโรกรุ๊ป” ตอบโต้ด้วยการลงมติไม่ต่ออายุแพ็กเกจช่วยเหลือปัจจุบันต่อกรีซที่กำลังจะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 30 มิถุนายนนี้

ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งมีฐานอยู่ที่นครแฟรงค์เฟิร์ตของเยอรมนี ได้ออกคำแถลงภายหลังการประชุมฉุกเฉินทางโทรศัพท์ของสภาผู้ว่าการของธนาคาร โดยระบุว่า มีมติให้คงเพดานการจัดหาความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องฉุกเฉินให้แก่พวกธนาคารต่างๆ ของกรีซเอาไว้ในระดับที่ได้ให้ไปเมื่อวันศุกร์ (26 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการอัดฉีดให้เม็ดเงินเพิ่มเติมให้อีก หลังจากที่ได้เพิ่มเพดานความช่วยเหลือดังกล่าวนี้มาแล้วหลายครั้ง ตลอดระยะเวลาหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ยังคงมีความหวังกันว่า รัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซจะสามารถตกลงประนีประนอมกับบรรดาเจ้าหนี้ได้ ในเรื่องแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินกู้งวดสุดท้ายมูลค่า 7,200 ล้านยูโร (ราว 268,150 ล้านบาท) มาผ่อนชำระหนี้ให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คิดเป็นวงเงินกว่า 1,500 ล้านยูโร (ราว 55,865 ล้านบาท) ซึ่งถึงกำหนดชำระคืนในวันอังคาร (30) นี้

ทั้งนี้ ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนมากมายเข้าแถวต่อคิวกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศกรีซ กระทั่งเงินสดหมดจากตู้เอทีเอ็มบางตู้หรือกระทั่งจากธนาคารบางแห่ง เนื่องจากผู้ฝากเงินต่างหวาดกลัวว่า ทางการอาจประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน และปิดธนาคาร

โดยในวันอาทิตย์ ( 28) สตาฟรอส คูคอส ประธานสหภาพแรงงานภาคธนาคารของกรีซออกมายอมรับว่า นับเฉพาะคืนวันศุกร์ (26) มีผู้แห่ถอนเงินสดออกจากธนาคารต่างๆ ของกรีซไปประมาณ 1,300 ล้านยูโร (ราว 48,400 ล้านบาท) ขณะที่แหล่งข่าวในแวดวงธนาคารกรีซระบุ เวลานี้มีตู้เอทีเอ็มต่างๆ เพียง 40% เท่านั้นที่ยังมีเงินสดเหลืออยู่ในตู้

 

อีซีบีมีมติ'ไม่อัดฉีด'เพิ่มเงินสดให้ธนาคารกรีซ เอเธนส์หารือจะ 'ควบคุมเงินทุน' และ 'ปิดแบงก์' หรือไม่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
28 มิถุนายน 2558 23:10 น.



@ประชาชนชาวกรีกเข้าแถวเป็นคิวยาวเพื่อรอถอนเงินจากเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารอัลฟาแบงก์ ที่บริเวณใจกลางกรุงเอเธนส์เมื่อวันอาทิตย์ (28) ทั้งนี้ธนาคารกลางยุโรป (อีบีซี) มีมติไม่อัดฉีดเงินสดช่วยบรรดาแบงก์ของกรีซเพิ่มเติมแล้ว ขณะที่รัฐบาลกรีซยอมรับว่ากำลังพิจารณาว่าต้องใช้มาตรการควบคุมเงินทุนและปิดธนาคารในวันจันทร์ (29) หรือไม่

เอเจนซีส์ – ระบบการเงินของกรีซปั่นป่วนหนัก ประเทศขยับใกล้หลุดออกจากการใช้สกุลเงิน “ยูโร” หรือที่เรียกกันว่า “เกร็กซิต” (Grexit) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แถลงผลประชุมเมื่อวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) ว่า จะไม่อัดฉีดเงินสดฉุกเฉินให้แก่พวกแบงก์ต่างๆ ในกรีซเพิ่มเติมแล้ว ขณะที่รัฐบาลเอเธนส์ระบุว่าจะใช้ช่วงเวลาคืนวันอาทิตย์หารือว่าควรประกาศมาตรการควบคุมเงินทุนและปิดธนาคารของประเทศในวันจันทร์ (29) หรือไม่ ความเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้เป็นผลต่อเนื่องจากการที่กรีซไม่สามารถทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้เงินมาชำระหนี้ภายในสิ้นเดือนนี้ แล้วตัดสินใจหันไปประกาศทำประชามติว่าประชาชนจะยอมรับเงื่อนไขเข้มงวดของฝ่ายเจ้าหนี้หรือเปล่า ทางที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจึงตอบโต้ด้วยการมีมติไม่ต่ออายุแพกเกจความช่วยเหลือปัจจุบันที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันอังคาร (30 นี้)

อีซีบี แถลงภายหลังการประชุมฉุกเฉินทางโทรศัพท์ของสภาผู้ว่าการของธนาคาร โดยระบุว่า มีมติให้คงเพดานการจัดหาความช่วยเหลือด้านสภาพคล่องฉุกเฉินให้แก่พวกธนาคารต่างๆ ในกรีซเอาไว้ในระดับที่ได้ให้ไปเมื่อวันศุกร์ (26) ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการอัดฉีดให้เพิ่มเติมอีก หลังจากที่ได้เพิ่มเพดานความช่วยเหลือดังกล่าวนี้มาหลายครั้งตลอดจนไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นช่วงเวลาที่ยังคงมีความหวังกันว่ากรีซจะตกลงประนีประนอมกับฝ่ายเจ้าหนี้ได้ ในเรื่องแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับเงินกู้งวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโร มาผ่อนชำระหนี้ให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จำนวนกว่า 1,500 ล้านยูโร ซึ่งถึงกำหนดในวันอังคาร (30)

ขณะที่กรีซก็มีการเรียกประชุมสภาเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศในวันอังคารเช่นกัน และหลังจากนั้นรัฐมนตรีคลัง ยานิส วารูฟากิส ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุและโทรทัศน์บีบีซีว่า รัฐบาลกรีซจะทำงานร่วมกับอีซีบีในคืนวันอาทิตย์ เพื่อกำหนดมาตรการรับมือกับวิกฤตเงินสดซึ่งพวกธนาคารต่างๆ ของกรีซจะต้องเผชิญเมื่อเปิดทำการอีกครั้งในวันจันทร์ (29)

เมื่อถูกถามว่ากรีซจะประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ ตลอดจนจะปิดระบบธนาคารชั่วคราวในวันอังคารหรือไม่ วารูฟากิสตอบว่าจะมีการหยิบยกมาพิจารณากันในคืนวันอาทิตย์ กับอีซีบีและธนาคารกลางของกรีซ

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งมีประชาชนมากมายเข้าแถวต่อคิวกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศกรีซ กระทั่งเงินสดหมดจากตู้เอทีเอ็มบางตู้หรือกระทั่งจากธนาคารบางแห่ง เนื่องจากผู้ฝากเงินต่างหวาดกลัวว่า ทางการอาจประกาศมาตรการควบคุมเงินทุน และปิดธนาคาร

สตาวรอส คูคอส ประธานสหภาพแรงงานภาคธนาคารของกรีซบอกว่า นับเฉพาะคืนวันศุกร์ (26) มีผู้ถอนเงินออกจากธนาคารต่างๆ ของกรีซไปประมาณ 1,300 ล้านยูโร

ส่วนแหล่งข่าววงการธนาคารในกรีซรายหนึ่งซึ่งขอไม่ให้เปิดเผยนามกล่าวว่า เวลานี้มีตู้เอทีเอ็มต่างๆ เพียง 40% เท่านั้นที่ยังมีเงินสดอยู่

ด้านกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ได้ออกคำแนะนำถึงพลเมืองของตนซึ่งกำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในกรีซ ให้ “จัดหาเงินสดในจำนวนที่เพียงพอ” ติดตัวไว้


@นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส กำลังกล่าวปราศรัยต่อรัฐสภาของกรีซในกรุงเอเธนส์เมื่อวันอาทิตย์ (28) รัฐสภาเพิ่งมีมติในคืนวันเสาร์ (27) อนุมัติตามข้อเสนอของรัฐบาลที่จะจัดการลงประชามติในวันที่ 5 ก.ค. ว่าจะรับหรือไม่รับมาตรการปฏิรูปที่เสนอโดยพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนค่ำวันเสาร์ (27) รัฐสภากรีซอนุมัติด้วยคะแนนเสียงชนะกันสบายๆ ให้รัฐบาลจัดการลงประชามติ ตามคำประกาศในวันศุกร์ (26) ที่สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ซึ่งปฏิเสธข้อเสนอล่าสุดของฝ่ายเจ้าหนี้ โดยอ้างว่า มีการเรียกร้องมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมซึ่งเท่ากับเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมชาวกรีซ

ทั้งนี้ซีปราสบอกว่า การทำประชามติในวันที่ 5 กรกฏาคม จะสอบถามประชาชนว่า เห็นด้วยกับมาตรการที่เจ้าหนี้เสนอให้เอเธนส์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26) หรือไม่

ในการแถลงต่อรัฐสภาก่อนการโหวตเมื่อวันเสาร์ (27) ซีปราสกล่าวว่า เขามั่นใจว่า ประชาชนจะปฏิเสธข้อเสนอของเจ้าหนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งจะทำให้กรีซมีอำนาจต่อรองมากขึ้น

กระนั้น ผลสำรวจจากสองสำนักที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอาทิตย์ ก่อนที่จะมีการประกาศแผนการทำประชามติพบว่า ชาวกรีซส่วนใหญ่ยังคงเห็นว่าควรต้องมีการทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ให้สำเร็จ


@ผู้คนเดินผ่านภาพวาดเหรียญยูโร ที่ใส่จำนวนว่าเป็น 0 ซึ่งมีผู้เขียนเอาไว้บนกำแพงผนังอาคารในบริเวณกลางกรุงเอเธนส์ ความขัดแย้งระหว่างกรีซกับพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ทำท่าว่าจะถึงขั้นที่กรีซต้องออกจากการใช้เงินสกุลยูโรแล้ว

หลังการประกาศของซีปราส ที่ประชุมรัฐมนตรียูโรโซนหรือ “ยูโรกรุ๊ป” ได้ตอบโต้กล่าวหาเอเธนส์ว่า ล้มการเจรจา “ฝ่ายเดียว” พร้อมทั้งปฏิเสธข้อเสนอของกรีซในการขยายแพกเกจความช่วยเหลือปัจจุบันที่จะสิ้นสุดลงสิ้นเดือนนี้

ขณะที่คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟแสดงความเห็นว่า การที่มาตรการช่วยเหลือในส่วนของยุโรปจะสิ้นสุดลงในวันที่ 5 เดือนหน้า ดังนั้น การทำประชามติของกรีซจึงเกี่ยวข้องกับข้อเสนอและการจัดการที่ไม่มีผลอีกต่อไป อย่างไรก็ดี หากชาวกรีซจำนวนมากมายแสดงประชามติว่า ต้องการคงอยู่กับยูโรโซนต่อ หมายความว่า เอเธนส์และเจ้าหนี้ควรต้องพยายามกันใหม่

ทั้งนี้ ภายหลังการเจรจาตลอดสัปดาห์ที่บรัสเซลส์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหนี้ยื่นข้อเสนอสุดท้ายขยายโปรแกรมความช่วยเหลือออกไปอีก 5 เดือนในวงเงิน 12,000 ล้านยูโร แลกกับมาตรการปฏิรูป ทว่า ไซรีซา พรรครัฐบาลกรีซ ยืนกรานปฏิเสธการลดบำนาญและแก้ไขระบบภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อเรียกร้องของ “ทรอยกา” หรือกลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศที่ประกอบด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป อีซีบี และไอเอ็มเอฟ

แม้เยอรมนีและฝรั่งเศส สมาชิกทรงอิทธิพลในอียู ยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า กรีซจะต้องอยู่ในยูโรโซนต่อ ทว่า ความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นว่า วิกฤตหนี้กรีซอาจจบไม่สวย ทำให้ยูโรกรุ๊ปนัดกันในช่วงค่ำวันเดียวกันโดยไม่มีกรีซ เพื่อหารือผลกระทบหากกรีซต้องออกจากยูโรโซน พร้อมยืนยันเป้าหมายในการปกป้องความสมบูรณ์และเสถียรภาพของยูโรโซน

เจอโรน ดิสเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป และวูล์ฟกัง ชอเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี กล่าวว่า ยูโรกรุ๊ปจะทำทุกทางเพื่อไม่ให้วิกฤตกรีซลุกลามและทำให้ตลาดโลกปั่นป่วน

ด้านยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลังกรีซกล่าวว่า การปฏิเสธข้อเรียกร้องขยายโปรแกรมความช่วยเหลือปัจจุบันจะทำลายความน่าเชื่อถือของยูโรกรุ๊ปในฐานะสหภาพประชาธิปไตยอย่างถาวร

ปาโบล อิเกลเซียส ผู้นำพรรคโพเดอมอสที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดในสเปน ขานรับว่า ยุโรปบางประเทศและไอเอ็มเอฟต้องการบีบบังคับกรีซ พร้อมกับสั่งสอนพรรคการเมืองในสเปนที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยและโครงการการเมืองของยุโรป


@พวกสมาชิกของพรรค “โกลเดน ดอว์น” ซึ่งเป็นพรรคนาซีใหม่ของกรีซ พากันตะโกนคำขวัญและถือธงชาติกรีซ ระหว่างพิธีรำลึกพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ในเมืองเธสซาโลนิกิ เมื่อวันเสาร์ (27) นอกเหนือจากวิตกกันว่าเศรษฐกิจของกรีซเมื่อต้องออกจากยูโรโซนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยุโรปและเศรษฐกิจโลกแล้ว ยังมีความกังวลกันว่า วิกฤตเช่นนี้จะทำให้พวกขวาจัดสุดโต่งอย่าง “โกลเดน ดอว์น” ได้รับความนิยมและขึ้นมีอำนาจในกรีซอีกด้วย

 

มารู้จักพรรคโกลเดน ดอว์น” ซึ่งเป็นพรรคนาซีใหม่ของกรีซ ซึ่งมีความกังวลกันว่า วิกฤตกรีซเช่นนี้จะทำให้พวกขวาจัดสุดโต่งอย่าง “โกลเดน ดอว์น” ได้รับความนิยมและขึ้นมีอำนาจในกรีซอีกด้วย


ภาพจาก Manager Online


2 ผู้พิพากษาหญิงในกรีซท้าทายพรรคนีโอนาซี
Tue, 2014-03-25 15:49

ผู้พิพากษาหญิงเหล็ก 2 คนชี้ว่าพรรคโกลเดนดอว์น ซึ่งเป็นพรรคนีโอนาซีของกรีซเป็นองค์กรอาชญากรรม โดยที่ผ่านมา พรรคโกลเดนดอว์นอาศัยโอกาส ศก.ตกต่ำ สร้างความนิยมด้วยแนวคิดต่อต้านผู้อพยพ ส่วนผู้นำพรรคมีคดีต้องสงสัยสังหารนักร้องต่อต้านเผด็จการ

24 มี.ค. 2557 สำนักข่าวเดอะการ์เดียน รายงานเรื่องราวเกี่ยวกับผู้พิพากษาหญิง 2 คนในประเทศกรีซ ผู้พยายามยับยั้งกลุ่มแนวคิดเผด็จการนีโอนาซีที่ชื่อโกลเดนดอว์น

เดอะการ์เดียนระบุว่า อิออนนา กลาปา และมาเรีย ดิมิโทรปูวโล เป็นผู้พิพากษาหญิงรุ่นแรกของกรีซ พวกเธอได้รับหน้าที่สำคัญในการสืบสวนข้อมูลของโกลเดนดอว์นซึ่งเป็นองค์กรและพรรคการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มเผด็จการนีโอนาซี อีกทั้งยังเป็นผู้ต้องสงสัยสังหารนักร้องเพลงแร็พต่อต้านเผด็จการที่ชื่อพาฟลอฟ ฟิซซัส

หลังจากสืบสวนด้านต่างๆ ตั้งแต่การตรวจค้นคอมพิวเตอร์ของผู้นำพรรคการเมืองขวาจัดนี้ รวมถึงซักถามพยาน พิจารณาข้อมูลวิดีโอ รูปภาพ คำปราศรัย เอกสาร และบล็อกต่างๆ รวมหลายพันชุด ในที่สุดเจ้าหน้าที่ศาลก็รวบรวมสำนวนคดียาว 15,000 หน้า ระบุถึงสาเหตุที่พวกเขามองว่าองค์กรโกลเดนดอว์นเป็นองค์กรอาชญากรรม

หลังจากที่นิโคเลาส์ มิคาโลลิยาโคส หัวหน้าพรรคโกลเดนดอว์นรวมถึงสมาชิกพรรคและ ส.ส.อีกหลายคนถูกจับไปไต่สวนในคดีสังหารนักร้องต่อต้านเผด็จการเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว พรรคโกลเดนดอว์นก็เริ่มอ่อนแอลง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส.ส.รายหนึ่งของพรรคขอลาออกอ้างว่ากิจกรรมของพรรคโง่เขลา มี ส.ส.พรรคอีกรายหนึ่งถูกไล่ออกหลังจากบอกว่าจะออกจากพรรคเช่นกัน

อลิกิ มูริกิ นักสังคมวิทยา จากสถาบันวิจัยสังคมแห่งชาติของกรีซกล่าวว่า "ระบอบยุติธรรมในกรีซเป็นหนึ่งในไม่กี่สถาบันที่ประสบความสำเร็จด้วยตนเอง และผู้หญิงทั้งสองคนนี้ (กลาปาและดิมิโทรปูวโล) ก็เป็นที่รู้จักในเรื่องความกล้าหาญอย่างมาก รวมถึงเป็นอิสระและไม่เข้าข้างฝ่ายใด"

หลังจาก ส.ส. ลาออกไป ทำให้ตอนนี้พรรคโกลเดนดอว์นมีที่นั่งในสภาทั้งหมด 16 ที่นั่งจากทั้งหมด 300 ที่นั่ง แต่ก็มี ส.ส. 9 คนที่ต้องคดีและมีอีก 6 คนที่อยู่ในคุกเพื่อรอการพิจารณาคดี โดยในช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาหญิงทั้ง 2 คนเสนอให้ยกเลิกสิทธิได้รับคุ้มกันจากอำนาจศาลของ ส.ส. อีก 9 คนที่ตอนนี้ยังไม่ถูกดำเนินคดี โดยจะมีการลงมติเรื่องนี้ในสภา สัปดาห์หน้า

ฝ่ายขวาจัดโต้ตอบด้วยถ้อยคำรุนแรง โดยกล่าวหาว่าผู้พิพากษาหญิง 2 คนนี้ทำงานโดยถูกชักใยจากสถาบันการเมืองที่ "เน่าเฟะ" ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา หัวหน้าพรรคนิโคเลาส์ มิคาโลลิยาโคส ที่ถูกขังอยู่ได้ส่งข้อความให้กับผู้สนับสนุนที่ชุมนุมในเมืองไพเรอัส โดยให้สัญญาว่าจะล้างแค้น

พรรคโกลเดนดอว์นสามารถนำ ส.ส.เข้าสู่สภาได้จำนวนหนึ่ง พวกเขาได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งร้อยละ 7 เมื่อ 2 ปีที่แล้วในขณะที่ประชาชนกรีกหลายคนรู้สึกไม่พอใจที่ประเทศล้มเหลวทางการเงิน โดยไม่มีใครวิจารณ์วิธีการรุนแรงและนิสัยอันธพาลของพรรคนี้

ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนนานาชาติเริ่มตื่นตัวและประณามการโจมตีผู้อพยพซึ่งเกิดบ่อยครั้งขึ้นในกรีซ นักวิชาการและพรรคการเมืองในประเทศยังคงเงียบเฉย และยิ่งมีความยากจนและอัตราการว่างงาน กลุ่มแนวคิดนีโอนาซีก็ดูจะมีพลังมากขึ้น

นานอส วาลาเออริติส กวีวัย 92 ปีกล่าวว่าประเทศกรีซเป็นประเทศที่เคยประสบกับความโหดเหี้ยมในช่วงที่ถูกยึดครองโดยพรรคนาซีเยอรมนีมาก่อน จึงไม่มีคำแก้ตัวใดๆ สำหรับการไม่พูดต่อต้านพรรคการเมืองนีโอนาซี การวางเฉยของชาวกรีกซึ่งเคยเป็นเหยื่อของแนวคิดนาซีมาก่อนถึงเป็นเรื่องแปลก

ดูเหมือนว่าจะมีแต่ศาลกรีกเท่านั้นที่ตั้งใจจะแก้ปัญหาในเรื่องนี้ เดอะการ์เดียน ระบุว่ากลาปาและดิมิโทรปูวโล เป็นผู้พิพากษามาตลอด 30 ปี เคยทำหน้าที่จัดการกับอาชญากรที่เข้มแข็งมาแล้ว พวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ห้ามไม่ให้มีคนถ่ายรูปพวกเธอ อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา ทนายความที่รู้จักพวกเธอบอกว่าพวกเธอเป็นคนที่ทำงานหนัก ไม่เกรงกลัวอะไร และใส่ใจในรายละเอียดมาก

ทนายความคนหนึ่งกล่าวว่า ผู้พิพากษาหญิงสองคนนี้แสดงออกผ่านการกระทำ "พวกเธอเชื่อว่าโกลเดนดอว์นไม่ได้เป็นแค่องค์กรอาชญากรรมที่แสร้งใส่หน้ากากเป็นพรรคการเมืองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นองค์กรที่อยู่ได้ด้วยการสร้างความหวาดกลัวทั้งกับผู้สนับสนุนและผู้ที่ต่อต้าน"

ในประเทศกรีซมีกฎห้ามไม่สั่งแบนพรรคการเมืองที่มี ส.ส. ได้รับเลือกตั้ง โดยที่ฝ่ายตุลาการมีเส้นตายต้องนำ ส.ส. โกลเดนดอว์นมาดำเนินคดีภายใน 18 เดือน

แม้ว่าพรรคโกเดลดอว์นจะเริ่มสูญเสียแรงสนับสนุนไปส่วนหนึ่งจากการที่ผลสำรวลแสดงให้เห็นว่าพวกเขาหล่นจากพรรคยอดนิยมอันดับสาม เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาได้รับความนิยมจากผลโหวตของคนที่โกรธแค้นและต้องการลงโทษผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจทรุด แต่หลายคนก็ยังเชื่อว่าพรรคโกลเดนดอว์นจะยังไม่ถูกกำจัดไปง่ายๆ

การลดงบประมาณอย่างเคร่งครัดทำให้ประเทศกรีซเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และทำให้เกิดบรรยากาศที่พรรคโกลเดนดอว์นจะไม่ถูกกำจัดไปง่ายๆ

นักวิจารณ์สายอนุรักษนิยมของกรีซ จอร์โกซ เคิร์ทซอส กล่าวว่าผู้สนับสนุนพรรคโกลเดนดอว์นดูจะลดลงเพราะไม่ได้แสดงความเห็นของตัวเองในผลสำรวจ โดยเขาไม่คิดว่าพรรคโกลเดนดอว์นจะจบลงง่ายๆ เนื่องจากพรรคนี้มีการจัดตั้งที่ดีมาก ต้องใช้เวลานานกว่ากรีซจะกำจัด "ภัย" นี้ได้


เรียบเรียงจาก

Golden Dawn: courage of two women stems the rise of Greece's neo-Nazis, The Guardian, 23-03-2014
Golden Dawn: courage of two women stems the rise of Greece's neo-Nazis | World news | The Guardian

2 ผู้พิพากษาหญิงในกรีซท้าทายพรรคนีโอนาซี | ประชาไท

 

อิหร่านย้ำชัดเจรจานิวเคลียร์เกินเส้นตาย 30 มิถุนายน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 20:08 น.



เอเอฟพี - โฆษกของคณะผู้แทนอิหร่านในการเจรจาที่กรุงเวียนนา ระบุในวันอาทิตย์ (28 มิ.ย.) ว่าการพูดคุยระหว่างอิหร่านและเหล่าชาติมหาอำนาจในการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งประวัติศาสตร์ จะใช้เวลาเกินกำหนดเส้นตายวันที่ 30 มิถุนายนนี้

โฆษกฯ ระบุว่า เพราะว่ายังมีงานต้องทำอีกมาก คณะผู้แทนจึงยังต้องอยู่ต่อจนเลยวันที่ 10 เทียร์ (เป็นวันตามปฏิทินของเปอร์เซีย หมายถึงวันที่ 1 กรกฎาคม) เพื่อเจรจากันต่อให้ได้ข้อตกลงที่ดี

"ในขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีความปราถนาหรือการพูดคุยว่าจะขยายเวลาออกไปในระยะยาว" เขากล่าว

เจ้าหน้าที่หลายรายเคยบอกว่า กำหนดเส้นตายอาจจะเลยออกไปเพียงแค่ไม่กี่วัน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครออกมายืนยันว่ามันจะเป็นแบบนั้นได้จริงๆ

การเจรจาระหว่างอิหร่านกับกลุ่ม P5+1 ซึ่งได้แก่ อเมริกา จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน นั้นมุ่งหวังจะบรรลุกรอบข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ยังคงติดขัดมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

ข้อตกลงฉบับนี้ จะทำให้อิหร่านลดขนาดโครงการนิวเคลียร์ พร้อมยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหประชาชาติเข้าไปดูแลได้อย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการสร้างระเบิดปรมาณู

โดยทางอิหร่านจะได้รับผลตอบแทนเป็นการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร รวมถึงการบรรเทาผลกระทบจากการคว่ำบาตร

 

ฝนตกหนักทำดินถล่ม-น้ำท่วมบังกลาเทศ สังเวยแล้วอย่างน้อย 23 ศพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 มิถุนายน 2558 20:58 น.



รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ /ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 รายหลังเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มซึ่งเป็นผลพวงมาจากฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ทั้งนี้ เป็นการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในวันอาทิตย์ ( 28 มิ.ย.)

รายงานข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งอ้างฮาบิบูร์ ระห์มาน เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเมืองท่า “ค็อกซ์สบาซาร์” ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของบังกลาเทศระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากฝนที่ตกหนักได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 23 รายแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาและกู้ภัยสามารถพบและนำร่างของผู้เสียชีวิต อีก 4 รายขึ้นมาจากแม่น้ำสายหนึ่งได้ในวันอาทิตย์ ( 28)

สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ประชาชนจำนวนเรือนหมื่นได้แห่หนีกันขึ้นไปอยู่ในพื้นที่สูง หลังหลายพื้นที่รอบเมืองค็อกซ์สบาซาร์และเขตบันดาร์บันถูกน้ำไหลเข้าท่วม ไม่นานหลังฝนตก

บังกลาเทศซึ่งเป็นบ้านของประชากรมากกว่า 156.5 ล้านคน ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นแออัดที่สุดในโลก คิดเป็นสัดส่วนต่อพื้นที่สูงถึง 1,033.5 คนต่อตารางกิโลเมตร แต่ทว่าในขณะเดียวกัน บังกลาเทศก็ถือเป็นหนึ่งในดินแดนที่มีความเปราะบางต่อการเกิดภัยธรรมชาติในระดับสูง ทั้งภัยจากพายุไซโคลน ภัยแล้ง ตลอดจนภัยจากแผ่นดินไหว

นอกจากนั้น การที่พื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของบังกลาเทศอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลน้อยกว่า 12 เมตร ส่งผลให้บังกลาเทศต้องเผชิญกับเหตุอุทกภัยเป็นประจำทุกปี โดยที่ประชาชนหลายล้านคนต้องได้รับผลกระทบ ขณะที่พืชผลทางการเกษตรจำนวนมากได้รับความเสียหาย

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน ปี 1998 บังกลาเทศต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำในแม่น้ำพรหมบุตร แม่น้ำคงคา และแม่น้ำเมกนา เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่หลายเมืองของบังกลาเทศพร้อมๆกัน ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนกว่า 300,000 หลังคาเรือน ต้องจมอยู่ใต้น้ำ โดยที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยใหญ่ในปีนั้นพุ่งสูงกว่า 1,000 ราย และอีก 30 ล้านคนต้องกลายสภาพเป็น “คนไร้บ้าน”