ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    40. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    เศรษฐกิจจีนจะใหญ่กว่าสหรัฐฯใน11ปี แล้วจีนจะยังคงไฟแนนซ์หนี้ของสหรัฐอีกต่อไปหรือ ก่อนที่จะแซงสหรัฐหยวนต้องลอยลำก่อน จีนจะค่อยๆทิ้งดอลล่าร์ไปเรื่อยๆ ดอลล่าร์จะอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ เพราะว่าเจ้าหนี้รายใญ่สุดไม่เอา ประเทศที่ถือดอลล่าร์ต้องทะยอยทิ้งดอลล่าร์ตามจีน ไม่งั้นจะขาดทุนดอลล่าร์จากการอ่อนค่า ถึงจุดๆหนึ่งดอลล่าร์จะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนเดิม เพราะว่ามีแต่หนี้และมีแต่จะพิมพ์กระดาษดอลล่าร์ออกมาต่อยอดหนี้ เกมนี้แม้แต่ซาอุดิ อาราเบียยังกลัวเพราะว่าถือดอลล่าร์เยอะมาก ถึงได้พยายามคืนดีกับปูตินของรัสเซียเพื่อกระจายพอร์ตมายังกลุ่มBRICS
    ก่อนที่จีนจะผงาดได้ จะต้องโดนขัดแข้งขัดขาเป็นธรรมดา เพราะว่าสหรัฐจะยอมให้จีนใหญ่กว่าตัวเองไม่ได้ เพราะว่าจะโดนจีนกินรวบหมด เข้าตำราปลาใหญ่กินปลาเล็ก ไทยต้องเริ่มปรับขบวนทรรศน์ได้แล้ว ก่อนที่จะตามสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ทัน
    อ่านข่าวดู:
    “อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต” สื่อดังด้านการวิเคราะห์เศรษฐกิจซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงลอนดอนในสหราชอาณาจักรคาดการณ์ว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนจะใช้เวลาอีกเพียง 11 ปีเท่านั้นจึงจะสามารถก้าวแซงหน้าอเมริกาขึ้นเป็นดินแดนที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกได้ และจากนั้นภายในปี ค.ศ. 2050 เศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนจะเติบโตจนมีมูลค่าสูงลิ่วถึง “105 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” หรือคิดเป็นยอดการเติบโตที่สูงกว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาถึง “1.5 เท่าตัว”
    รายงานเชิงวิเคราะห์ฉบับล่าสุดของอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) ระบุว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนจะใช้เวลาอีกเพียง 11 ปีเท่านั้น จึงจะสามารถก้าวแซงหน้าอเมริกาขึ้นเป็นดินแดนที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกได้ในปี ค.ศ. 2026
    แต่การก้าวขึ้นครองตำแหน่งดินแดนที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกของจีนเมื่อถึงปี 2026 นั้นจะถือเป็นเพียง “บันไดขั้นแรก” ของจีนในการก้าวขึ้นเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างเต็มภาคภูมิ
    โดยข้อมูลจากรายงานของอีไอยูล่าสุดชี้ว่า เศรษฐกิจจีนจะยังคงเติบโตได้อย่างร้อนแรงต่อไป จนกระทั่งมีมูลค่าสูงถึง “105 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” เมื่อถึงปี 2050 ขณะที่เมื่อถึงเวลานั้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะมีมูลค่าราว “71 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ” เท่ากับการตามหลังมูลค่าทางเศรษฐกิจของจีนถึง “1.5 เท่าตัว”
    ขณะที่ “ยักษ์หลับ” อย่างอินเดียจะก้าวขึ้นเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 3 ของโลกเมื่อถึงปี 2050 ด้วยมูลค่ารวมของเศรษฐกิจที่ระดับ “64 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ”
    รายงานฉบับนี้ของอีไอยูคาดการณ์ว่า เมื่อถึงปี 2050 อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียจะมีสัดส่วนคิดเป็น 53 เปอร์เซ็นต์ หรือ “เกินครึ่งหนึ่งของจีดีพีโลก” ถือเป็นการเพิ่มบทบาทขึ้นอย่างสำคัญของเศรษฐกิจเอเชียจากที่เอเชียเคยมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจคิดเป็น 26 เปอร์เซ็นต์ของโลกเมื่อปี 2000 และ 32 เปอร์เซ็นต์ของโลกเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา
    อย่างไรก็ดี บทวิเคราะห์ล่าสุดของสื่อดังจากอังกฤษชิ้นนี้เตือนว่า ถึงแม้เอเชียจะสามารถขยายบทบาทเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็น “ศูนย์กลางแห่งอำนาจใหม่” ในเวทีเศรษฐกิจโลก แต่หลายประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกจะต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญยิ่งที่รอท้าทายอยู่เบื้องหน้า นั่นคือ ปัญหาการลดจำนวนลงอย่างสำคัญของ “ประชากรในวัยแรงงาน” และก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ”
    ทั้งนี้ เป็นที่คาดกันว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสที่สุดจากการหดตัวของประชากรในวัยแรงงานเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่แรงงานในแดนปลาดิบจะลดลงเหลือเพียง 47 ล้านคนเมื่อถึงปี 2050 จากระดับ 66 ล้านคนในปัจจุบัน ขณะที่จีนและเกาหลีใต้ก็จะต้องเผชิญกับปัญหาการหดตัวของประชากรวัยแรงงานราว 17-18 เปอร์เซ็นต์จากระดับปัจจุบัน
    thanong
    26/6/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    41. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    วันเดียว ISISก่อการร้าย3จุด ที่ฝรั่งเศส คูเวตและตูนิเซีย ถือว่าเป็นการก่อการร้าย3ทวีป คือยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ
    คนร้ายรายหนึ่งที่ถือธงแบบนักรบอิสลามได้ก่อเหตุโจมตีโรงงานในภาคตะวันออกของฝรั่งเศสในวันศุกร์ (26 มิ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกหลายคน
    แหล่งข่าวด้านกระบวนการยุติธรรมระบุว่า ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นคนร้ายได้เข้าไปในโรงงานนั้น แล้วติดตั้งและจุดระเบิดขนาดเล็กหลายลูก ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายบอกว่าพบร่างผู้เสียชีวิตที่คอขาดอยู่ใกล้กับโรงงานดังกล่าว
    "จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลขับรถคันหนึ่งเข้าไปในโรงงาน แล้วทำการติดตั้งและจุดระเบิด ส่วนร่างไร้ศีรษะถูกพบอยู่ใกล้กับโรงงาน แต่เรายังไม่รู้ว่าเขาถูกขนมาจากที่อื่นหรือไม่ มีการพบธงที่มีภาษาอารบิกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย" แหล่งข่าว กล่าว
    มีรายงานว่า ชายคนหนึ่งที่คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ได้ถูกจับกุมแล้ว
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
    กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ส่งมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์แห่งหนึ่งในเมืองหลวงคูเวต ขณะทำพิธีทางศาสนาในวันศุกร์ (26 มิ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
    เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า สถานที่เกิดเหตุครั้งนี้คือมัสยิด อัล-อิหม่าม อัล-ซาเดค ในคูเวตซิตี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 25 ราย
    เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ระบุว่า ระเบิดที่ถูกใช้โจมตีในครั้งนี้คือระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า มือระเบิดได้เข้าไปในมัสยิดขณะทำพิธีทางศาสนาช่วงเที่ยง
    การโจมตีครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เป้าหมายคือชาวมุสลิมชีอะห์ในประเทศคูเวต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดประมาณ 1.3 ล้านคน
    กลุ่มติดอาวุธในเครือไอเอส ที่อยู่ในซาอุดีอาระเบีย ได้ออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ โดยบอกว่ามือระเบิดคือ อาบู ซุไลมาน อัล-มูวาฮิด ได้ทำการโจมตีมัสยิดดังกล่าว ที่เผยแพร่คำสอนของนิกายชีอะห์ให้แก่ชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ พร้อมทั้งยอมรับด้วยว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดมัสยิดในซาอุดีอาระเบียช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
    นอกจากนี้ กลุ่มไอเอสยังยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีชาวมุสลิมชีอะห์ในเยเมนหลายครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พวกเขาได้ยอมรับว่าใช้ระเบิดโจมตีพื้นที่ 5 จุด ซึ่งเป็นมัสยิดและออฟฟิศในกรุงซานา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 ราย
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
    ก่อการร้ายที่ตูนิเซียฆ่าคนไป27คน
    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 ราย ในนั้นเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 คน หลังมือปืนคนหนึ่งลงมือกราดยิงใส่โรงแรมติดชายหาดแห่งหนึ่งในซูสส์ เมืองตากอากาศนิยมเมื่อวันศุกร์(26มิ.ย.) ท่ามกลางผู้คนที่หนีตายกันจ้าละหวั่น เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายเป็นนักศึกษาชาวตูนิเซียที่ไม่เคยถูกจับตามาก่อนและยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ
    จากเหตุความรุนแรงดังกล่าว ส่งผลให้วันศุกร์(26มิ.ย.) กลายเป็นวันแห่งการนองเลือด หลังจากไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดชีอะห์แห่งหนึ่งในเมืองหลวงของคูเวต คร่าชีวิตผู้คนไป 13 ศพ และเหตุคนร้ายจู่โจมโรงงานก๊าซแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือของพวกอิสลามิสต์หัวรุนแรง
    ตำรวจกำลังดำเนินการเคลียร์พื้นที่รอบโรงแรมอิมพีเรียล มาร์ฮาบา และพบเห็นร่างของมือปืนนอนจมกองเลือดอยู่ที่จุดเกิดเหตุโดยมีปืนอาก้าตกอยู่ข้างๆ หลังจากเขาถูกลูกกระสุนระหว่างดวลปืนกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคง โดยนอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน
    ศพผู้เสียชีวิตกระจัดกระจายอยู่เต็มชายหาดของโรงแรมอิมพีเรียล มาร์ฮาบา ในซูสส์ เมืองตากอากาศนิยมของตูนิเซีย หลังคนร้ายแต่งกายเหมือนนักท่องเที่ยวลงมือกราดยิงไม่เลือกหน้า คร่าชีวิต 27 ศพเมื่อวันศุกร์(26มิ.ย.)
    "มือโจมตีรายหนึ่งใช้ปืนอาก้ากราดยิงนักท่องเที่ยวและชาวตูนิเซียที่อยู่บนชายหาดของโรงแรม" พนักงานของโรงแรมเผย "มีคนร้ายแค่คนเดียว เขาเป็นคนหนุ่มนุ่งกางเกงขาสั้น ทำตัวเหมือนเป็นนักท่องเที่ยว"
    ตูนิเซียเป็นหนึ่งในประเทศมุสลิมสายกลางที่สุดของโลกอาหรับ ด้วยสถานตากอากาศตามชายหาดและไนท์คลับริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวตะวันตก และการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในรายได้หลักของรัฐบาล
    เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่พวกญิฮัดอิสลามิสต์เคยโจมตีแหล่งท่องเที่ยงในประเทศแถบแอฟริกาเหนือแห่งนี้มาก่อน โดยพวกเขามองว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมเพราะเปิดรับวิถีชีวิตชาวตะวันตกและยอมให้มีการดื่มแอลกอฮอล์
    ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าสถานการณ์เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความสับสน ตามหลังเหตุกราดยิงที่โรงแรมในเมืองซูสส์ ที่อยู่ห่างจากกรุงตูนิส ไปทางใต้ราว 140 กิโลเมตร
    เอลิซาเบธ โอไบรอัน สตรีชาวไอร์แลนด์ ซึ่งพักอยู่ในโรงแรมที่อยู่ติดกันกับลูกชาย 2 คน เล่าว่าบนชายหาดเต็มไปด้วยความโกลาหลเมื่อเหตุกราดยิงเริ่มขึ้น "ด้วยความจริง ตอนแรกฉันคิดว่ามีคนจุดพลุ จากนั้นฉันก็เห็นผู้คนวิ่งไปทั่ว ฉันถึงรู้ว่า โอ้พระเจ้า มันคือการยิงกัน" เธอบอกกับสถานีวิทยุไอริช "พวกบริกรชายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนชายหากเริ่มตะโกนบอกทุกคนว่า วิ่ง วิ่ง วิ่ง เร็วเข้า"
    เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุโจมตีนองเลือดครั้งเลวร้ายต่อตูนิเซียหนที่ 2 ในรอบปี และยังเกิดในช่วงเดือนถือศีลอดในเทศกาลรอมฎอนของชาวมุสลิม โดยตูนิเซียยกระดับเตือนภัยขั้นสูงสุดมาตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังจากกลุ่มมือปืนอิสลามิสต์บุกถล่มพิพิธภัณฑ์บอร์โนในเมืองหลวง ฆ่านักท่องเที่ยวหลายสิบชีวิต นับเป็นการโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษของประเทศ
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงเผยว่ามือปืนที่อยู่เบื้องหลังโจมตีโรงแรมในเมืองซูสส์วันศุกร์(26มิ.ย.) เป็นนักศึกษาชาวตูนิเซีย ซึ่งไม่เคยอยู่ภายใต้การจับตาของตำรวจมาก่อน "เขาเป็นชาวตูนิเซีย มีภูมิลำเนาจากจังหวัดไครวน ทางภาคกลางของประเทศ เขาเป็นนักศึกษา" ราฟิก เชลวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุท้องถิ่น
    เขาเผยต่อว่า "เราไม่รู้จักบุคคลนี้มาก่อน เขาเดินเข้าไปยังชายหาด แต่ตัวเหมือนจะไปว่ายน้ำ เขาซ่อนปืนไว้ใต้ร่มชายหาด และพอไปถึงเขาก็ใช้อาวุธดังกล่าวกราดยิง และดูเหมือนว่าเป็นการโจมตีเพียงลำพัง"
    http://edition.cnn.com/…/06/26/africa/tunisia-terror-attack/
    ด้วยเหตุนี้ โอบามาและผู้นำตะวันตกคงจะได้ทีประกาศสงครามต่อต้านการก่อการร้าย ด้วยการเพิ่มกองกำลังทหารในตะวันออกกลางเพื่อรบในซีเรียอิรัค และประเทศอื่นๆที่ไม่อยู่ในสายตามฟอร์มเพื่อเผด็จศึก โดยที่ไม่มีใครค้าน
    thanong
    26/6/2017
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    42. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    นาโต้เตรียมระดมพล40,000นายในยุโรป ส่วนมากจะประจำการที่ชายแดนยุโรปตะวันออกใกล้รัสเซีย โดยที่สหรัฐจะซับไพลเครื่องบินรบ อาวุธและกำลังทหารให้
    นาโต้เรียกกองกำลังนี้ว่าSpearhead Force กองบังคับบัญชาการจะอยู่ที่โปแลนด์ เอสโตเนีย แลทเวีย ลิธัวเนีย โรมาเนีย และบูลกาเรีย
    Aston Carterรมวกลาโหมสหรัฐบอกว่าสหรัฐพร้อมหนุนยุโรปเพื่อต้านภัยคุกคามจากรัสเซีย
    นาโต้รัวกลองรบเป็นระยะๆ
    thanong
    26/6/2015
    http://www.ibtimes.com/nato-may-station-40000-troops-europe…
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    43. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    ในที่สุดญี่ปุ่นเผยโฉมรัฐทหารออกมาแล้วเมื่อได้เข้าร่วมซ้อมรบกับฟิลิปปินส์และสหรัฐในทะเลจีนใต้ โดยญี่ปุ่นอาสาจะช่วยปกป้องฟิลิปปินส์จากจีน การซ้อมรบนี้ดำเนินมาแล้วตลอดทั้งสัปดาห์นี้
    วันพรุ่งนี้ กองทัพญี่ปุ่นจะซ้อมรบกับกองทัพฟิลิปปินส์ใกล้เกาะในทะเลจีนใต้ โดยสหรัฐเป็นพี่เลี้ยงคอยกำกับ
    จีนออกโรงเตือนฟิลิปปินส์แล้วว่า อย่าได้ชักศึกเข้าบ้าน แต่ชั่วโมงนี้ฟิลิปปินส์ออกอาการเหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อน
    เราจะได้เห็นญี่ปุ่นใส่ชุดทหารมากขึ้น ประวัติศาสตร์กำลังจะย้อนรอย
    thanong
    26/6/2015
    http://www.bloomberg.com/…/u-s-japan-join-philippines-in-so…
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    44. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    นาโต้กำลังประเมินยุทธศาสตร์อาวุธนิวเคลียร์ใหม่ โดยอ้างภัยจากการรุกรานของรัสเซีย
    หนังสือพิมพ์The Guardian ของอังกฤษรายงานว่า นาโต้กำลังพิจารณาเพิ่มศักยภาพทางอาวุธนิวเคลียร์เพื่อตอบโต้รัสเซีย หลังจากวิกฤติยูเครนเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
    เจ้าหน้่าที่นาโต้แสดงความเป็นกังวลใจที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะเพิ่มการติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ยิงข้ามทวีปอีก40ลูก เนื่องจากนาโต้มีการเพิ่มศักยภาพของจรวดต้านขีปนาวุธทำให้ดุลของกำลังทางทหารในยุโรปเปลี่ยนไป
    นาโต้ ซึ่งมีการประชุม2วันที่กรุงบรัสเซลล์เริ่มเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมากำลังพิจารณาให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการซ้อมรบ
    กลายเป็นว่าสงครามเย็นรอบใหม่ร้อนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพราะว่าต่างฝ่ายต่างกำลังสะสมอาวุธนิวเคลียร์กันรอบใหม่อย่างคึกคัก
    thanong
    27/6/2015
    Nato to review nuclear weapon policy as attitude to Russia hardens | World news | The Guardian
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    45. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    ซิปราสเล่นไม้ตาย โยนปัญหาแก้หนี้กรีซไปเป็นเรื่องประชามติ เจ้าหนี้IMFบีบรัดเข็มขัดเกินทน ซีปราสยอมไม่ได้ ตัดสินใจให้ประชาชนเลือกผ่านประชามติว่าจะเอาแผนเจ้าหนี้หรือไม่
    คนกรีก80%ต้องการอยู่ในเขตยูโรต่อไป แต่จำนวนเดียวกัน80%ไม่ต้องการแผนฟื้นฟูประเทศด้วยการรัดเข็มขัด
    มาถึงจุดต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วว่า จะอยูหรือจะไป
    GREXIT

    ด่วน! นายกฯกรีซ อเลกซีส ซีปราส ขอประชามติตัดสินใจรับรองประเทศควรยอมรับแผนอุ้มกรีซหรือไม่ ก่อนที่จะต้องพบกับเส้นตายผิดนัดชำระหนี้ 30 มิ.ย........Greek Prime Minister Alexis Tsiprashas calls referendum to decide if country should accept bailout program.
    Breaking News, U.S., World, Weather, Entertainment & Video News - CNN.com
    รัฐบาลกรีซของอเลกซีส ซีปราส ประกาศให้ประชาชนลงประชามติวันที่ 5 กรกฎาคม ยอมรับแผนการอุ้มกรีซของเจ้าหนี้ต่างประเทศหรือไม่ ขณะที่รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนนัดประชุมวันนี้ถกแผนเงินกู้ช่วยเหลือกรีซที่เข้าใกล้เส้นตาย 30 มิถุนายนนี้
    Thanong
    27/6/2015

    Greece bailout: Country's PM calls referendum to decide on agreement offered by creditors - ABC News (Australian Broadcasting Corporation)
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    46.พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    เฟดตั้งใจปล่อยให้Lehman Brothersล้มในปี2008เพื่อเป็นตัวtriggerให้เกิดวิกฤติ ทั้งๆที่สามารถปล่อยสภาพคล่องช่วยLehman Brothersได้ แต่ไม่ช่วย และทั้งๆที่Lehman Brothersเป็นผู้ถือหุ้นดั้งเดิมของเฟด
    วิกฤติLehmanทำให้ยุโรปเจ้งในปี2009 ตอนนี้ยังไม่ฟื้น
    แต่วิกฤติLehmanทำให้เฟดมีอำนาจมากขึ้น เพราะพิมพ์เงินไปซื้อทุกอย่าง
    วิกฤติยูโรทำให้ECBมีอำนาจมากขึ้นเหมือนเฟด ที่มีอำนาจมากกว่านักการเมือง
    ดูต่อไปว่าIMFบี้นายศรีปราชญ์อย่างจงใจเพื่อให้กรีซล้มหรือไม่ เพื่อให้วิกฤติกรีซเป็นตัวtrigger สำหรับให้one world currencyได้แจ้งเกิด และสร้างสภาวะลำบากให้ยุโรปเพื่อไม่ให้มีทางเลือก นอกจากตัองรบกับรัสเซียเพื่อเกิดใหม่
    Thanong
    27/6/2015

    เลห์แมน บราเธอร์ส (Lehman Brothers) คือใคร....ทำไมถึงล้มละลาย...

    วันที่ 15กันยายน 2551 จะเป็นวันที่ทั้งโลกเศรษฐกิจต้องจารึกไว้ว่า เป็นวันที่บริษัททางการเงินขนาดยักษ์อันดับต้นๆ ของโลกที่มีนามว่า กลุ่มบริษัท เลห์แมนบราเธอร์ส จำกัด (Lehman Brothers) ต้องประกาศขอเข้าฟื้นฟูกิจการภายใต้มาตรา 11 ของกฎหมายการเงินสหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้บริษัทที่มีปัญหาทางการเงิน ประกาศขอล้มละลาย และต้องการฟื้นฟูกิจการด้วยตนเอง นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงการล่มสลายของระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากปัญหาหนี้เสียในสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้กับลูกค้าที่มีปัญหาความไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่มีเครดิต (ปัญหา Sub-Prime Lending)

    เลห์แมนบราเธอร์ส (Lehman Brothers) มีจุดกำเนิดเมื่อ 158 ปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัวที่เป็นนายหน้าซื้อขายสินค้าเกษตร แล้วพัฒนาตัวเองต่อมาจนเป็นนายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า, กลุ่มเลห์แมนบราเธอร์สมีธนาคารและสถาบันการเงินประเภทต่างๆ เป็นของตนเอง, เป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่เป็นนายหน้ารายหลักของการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลอเมริกัน (Primary Dealer in the US Treasury Securities Market), เป็นบริษัทที่มีการลงทุนทั่วโลกทั้งในตลาดเงิน และตลาดทุน เป็นทั้งบริษัทเงินทุน, บริษัทหลักทรัพย์ และเป็นบริษัทที่ปรึกษาที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก,

    เป็นนายหน้ารายใหญ่ในตลาดอนุพันธ์ (Future Markets) ในตลาดการเงินต่างๆ ทั่วทั้งโลก, เป็น Investment Banker รายใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก และเป็นเจ้าของบริษัทบัตรเครดิตที่มีจำนวนผู้ใช้มากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นคือบัตร American Express มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นิวยอร์ค และมีสาขาอยู่ในตลาดการเงินใหญ่ๆ ทั่วโลก ทั้งที่ลอนดอน, โตเกียว และเป็นผู้เข้ามาประมูลรับช่วงเข้าไปบริหารจัดการหนี้เสียของระบบสถาบันการเงินของประเทศ ในช่วงวิกฤตการณ์เศรษฐกิจการเงินปี พ.ศ. 2540 (แม้ว่าปัจจุบันผู้บริหารหลายคนยังคงมีคดีค้างอยู่กับองค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.))

    จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทเลห์แมนบราเธอร์ส มีขนาดทางธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ (Market Cap.)ประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8.5 หมื่นล้านบาท) มีรายรับต่อปีอยู่ที่ 59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท) ในปี 2550 และมีประมาณการรายได้สุทธิของปี 2550 อยู่ที่ 6.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.278 แสนล้านบาท) สินทรัพย์ของบริษัท ณ สิ้นปี 2550 อยู่ที่ 691 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 23.5 ล้านล้านบาท) มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 26,000 คน และเคยฟันฝ่าวิกฤตการณ์ต่างๆ มาได้ตลอดทั้ง 150 กว่าปีของการดำเนินงานที่ผ่านมา

    แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวถึงกิตติคุณในอดีตที่ผ่านมาก็ต้องมาล้มละลายลง เมื่อหนึ่งในบริษัทลูกที่มีนามว่า BNC Mortgage ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้าที่มีปัญหาด้านเครดิต (Sub-prime lending) ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะบ้านและที่ดิน เกิดปัญหาหนี้เสียครั้งมโหฬาร และต้องปิดตัวลงในปี 2550 โดยการปิดตัวนี้ทำให้บริษัทขาดทุนถึง 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    และทำให้มูลค่าของชื่อเสียงของบริษัท (Goodwill) เสียหายคิดเป็นมูลค่าถึง 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และความเสียหายนี้ยังคงลุกลามต่อเนื่องไปจนถึงบริษัทแม่ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 กลุ่มบริษัทเลห์แมนบราเธอร์สมียอดขาดทุนถึง 2.8 พันล้านดอลลาร์ และทำให้บริษัทต้องขายสินทรัพย์ออกไปถึง 6 พันล้านดอลลาร์ หุ้นของบริษัทมีมูลค่าลดลงถึงร้อยละ 73 และมีแนวโน้มจะลดลงต่อไปเรื่อยๆ จนในวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาบริษัทประกาศการขาดทุนเพิ่มอีก 3.9 พันล้านดอลลาร์ และทำให้หุ้นของบริษัทดิ่งลงอีกร้อยละ 40


    และแล้ววันสิ้นสุดก็มาถึงเมื่อบริษัทต้องขอความคุ้มครองตาม มาตรา 11 ของกฎหมายการเงินสหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้บริษัทที่มีปัญหาทางการเงิน ประกาศขอล้มละลาย และต้องการฟื้นฟูกิจการด้วยตนเอง


    และจากการล่มสลายของ Lehman Brothers ยังส่งผลทำให้สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอีก 2 แห่ง อันได้แก่ Merrill Lynch และ American International Group (AIG) มีแนวโน้มที่จะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทางธุรกิจที่รุนแรง และยังจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปถึงบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอีกเป็นวงกว้าง และนักการเงินส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าปัญหาที่คงจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจแท้จริงของสหรัฐอย่างรุนแรง รวมทั้งยังจะส่งผลต่อระบบการเงินในระดับโลกอย่างแน่นอน

    “Hamburger Crisis” เกิดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว และเมื่อสหรัฐเจ็บป่วย โลกร้ายก็จะแพร่ไปทั่วโลกอย่างแน่นอน


    คราวนี้มาดูผลต่อเศรษฐกิจไทยกันบ้าง ดร.บัณฑิต นิจถาวร จากธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่าประเทศไทยคงจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน แต่คงไม่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงนัก เนื่องจากระบบสถาบันการเงินของประเทศไทยมีความเกี่ยวข้องไม่มากนักต่อระบบตลาดการเงินโลก จำนวนธุรกรรมโดยเฉพาะที่เกิดขึ้นในตลาดล่วงหน้า และตลาดอนุพันธ์ (Future and Derivative Markets) ของประเทศไทยยังมีไม่มากนัก นอกจากนี้แล้วจากประสบการณ์เลวร้ายในวิกฤตทางการเงินในปี 2540 ที่ผ่านมายังทำให้ระบบสถาบันการเงินในประเทศไทยยังคงมีความระมัดระวังตัวในระดับที่สูง ไม่กล้าที่จะทำธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูงจนเกินไปนัก

    ระบบทุนนิยมเสรีของสหรัฐอเมริกา ที่เน้นหลักการบริโภคนิยมเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยไม่ได้คำนึงถึงหลักศีลธรรมจรรยาคือปัญหาหลักที่ทำให้อเมริกาต้องมีปัญหาอย่างทุกวันนี้ หรือแม้แต่การบริโภคทรัพยากรโลกจนทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างในทุกวันนี้ ก็เกิดจากการบริโภคอย่างไม่มีปัญญาพิจารณา

    ในตลาดการเงินภายใต้ระบบทุนนิยมเสรีที่ปล่อยให้ทุกคนในระบบแข่งขันกันให้ถึงที่สุดโดยไม่ได้คำนึงถึงหลักธรรมที่สำคัญ 2 ประการนั่นคือ ปัญญา และ มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เช่นในกรณีของ Lehman Brothers ปัญหาเกิดจากการเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์ ที่เมื่อขาดสภาพคล่องเนื่องจากปัญหาการปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่ไม่มีคุณภาพ เมื่อตลาดอยู่ในขาลง การขาดสภาพคล่อง ขาดเงินหมุนเวียนก็ทำให้บริษัทถึงจุดจบ

    ตลาดตราสารอนุพันธ์ (Derivative Markets)โดยเฉพาะในตลาด Future ที่ Lehman Brothers เป็นดีลเลอร์ใหญ่นั้น เกิดขึ้นในโลกการเงินโดยความหวังดีที่จะมีการสร้างตราสารหรือเครื่องมือทางการเงินที่เป็นมาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการค้าสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากอุปทานหรือผลผลิตขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน นอกจากนั้นการที่ไม่รู้ราคาล่วงหน้ามักจะทำให้เกษตรกรประสบปัญหาสินค้าล้นตลาด สลับกับขาดตลาดอยู่เสมอ เช่น ในปีที่สินค้าเกษตรราคาสูง เกษตรกรมักจะลงทุนปลูกพืชเป็นจำนวนมาก ทำให้ในฤดูกาลถัดมาเกิดปัญหาสินค้าล้นตลาด ทำให้ราคาตก เมื่อเป็นเช่นนี้ในปีการผลิตหน้าเกษตรกรก็จะลดการลงทุนเพาะปลูกลง ทำให้ในฤดูเก็บเกี่ยวถัดไปเกิดปัญหาสินค้าขาดตลาด เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้

    ตลาดซื้อขายล่วงหน้า, ตลาดอนุพันธ์ ตราสาร เช่น Future จึงเกิดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงให้กับทั้งเกษตรกร และผู้ที่ต้องการซื้อผลผลิต Lehman Brothers ก็เจริญเติบโตมากับธุรกิจเช่นนี้ และเมื่อเวลาผ่านไปตราสารเหล่านี้ก็ถูกพัฒนาจากตลาดสินค้าเกษตร เข้าสู่ตลาดการเงิน และเมื่อนักลงทุน นักธุรกิจเหล่านี้เกิดความละโมภ ไม่รู้จักประมาณตนเอง ไม่รู้จักว่าทางสายกลางหรือมัชฌิมาปฏิปทา การลงทุนแต่พอดี การลงทุนโดยใช้ปัญญา (ความฉลาดประกอบกับคุณธรรม) ลงทุนในตราสารเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง ก็ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นการเก็งกำไร ใช้ตลาดการเงินเช่นนี้เป็นเหมือนการพนันที่เมื่อราคาสินค้าแพงขึ้นก็ได้สตางค์ เมื่อราคาสินค้าลดลงก็ได้สตางค์ ไม่ได้ทำเพื่อลดความเสี่ยง แต่กลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงจากการเก็งกำไร

    ในอีกทางหนึ่ง เงินตราที่ได้มาก็เอาไปปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นลูกหนี้ที่มีเครดิตต่ำ (Sub-prime lending) ซึ่งลูกหนี้เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะชักดาบสูง การปล่อยกู้โดยประมาท ไม่รู้จักความพอดี ไม่รู้จักทางสายกลาง ไม่ใช้ปัญญาในการพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ขาลง ลูกหนี้ชักดาบ บริษัทขากสภาพคล่อง (ขาดเงิน) ก็ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทำให้อีกด้านที่เก็งกำไรไว้ เกิดปัญหาตามมา และทำให้บริษัทถึงกับล้มละลายในที่สุด

    เมื่อเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ที่เคยประกาศว่าตนบริหารโดยยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้ เพียงเพราะไม่รู้จักหลักธรรมเพียง 2 ข้อ ทางสายกลาง คือการรู้จักประมาณตนเอง รู้จักความพอดี เมื่อทางสายกลางมารวมกับปัญญาจะทำให้เราพิจารณาได้ว่า ทางสายกลางไม่ได้แปลว่า ระหว่างกินเหล้า 10 แก้วในหนึ่งวัน กับไม่กินเหล้าเลย (0 แก้วต่อวัน) ทางสายกลางที่ใช่ปัญญาจะบอกเราว่า ตรงกลางไม่ใช่กินเหล้า 5 แก้วต่อวัน แต่ต้องไม่กินเลยซักแก้ว เพราะสุราเป็นอบายมุขประเภทหนึ่ง ทางสายกลางไม่ใช่อยู่ตรงกลางระหว่างความดี ความชั่ว แต่ทางสายกลางต้องประกอบด้วยปัญญา แล้วเลือกความดี การเมืองใหม่ก็เช่นเดียวกัน ต้องเป็นการเมืองที่ประกอบด้วยปัญญา เมื่อมีการเมืองใหม่ ระหว่างทรราชโกงชาติเป็นพันเป็นหมื่นล้าน กับไม่โกง ทางสายกลาง ยืนอยู่ตรงกลางไม่ใช่โกงแบบกลางๆ แต่ต้องไม่โกง ต้องเป็นการเมืองที่อยู่บนหลักศีลธรรม

    เศรษฐกิจใหม่ที่จะอยู่คู่กับการเมืองใหม่ก็ต้องเป็นเศรษฐกิจอุดมปัญญาด้วยเช่นกัน ดังนั้นกิจกรรมทางการเงิน เช่น การเก็งกำไร การไม่รู้จักความความดี การปล่อยเงินกู้โดยไม่มีเหตุผล เช่น กู้เงินไปเพื่อการบริโภคแบบเดี่ยวกับ Personal Loan, Quick Cash, Easy Money ที่คนกู้เงินไปโดยไม่ได้ไปลงทุน ทำกิจการที่จะสร้างรายได้ให้งอกเงย แต่เป็นการกู้เงินไปซื้อเหล้า ซื้อรถจักรยานยนต์ การปล่อยกู้เช่นนี้ ต้องไม่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจใหม่ การกู้เงินต้องมี แต่ต้องเป็นการปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ต้องการเงินไปลงทุนในกิจการที่ถูกต้องเหมาะสมกับสังคมไทย เกิดการผลิต เกิดการสร้างรายได้ เกิดความดีงามในสังคม เราต้องปล่อยกู้ให้กับกิจการเหล่านี้ ต้องพิจารณาให้รอบคอบ โดยใช้ปัญญา

    เครื่องมือทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นในตลาดหลักทรัพย์, ตลาดพันธบัตร, ตลาดอนุพันธ์, ตลาดซื้อขายล่วงหน้า, ตลาดเงินตราต่างประเทศ, และอื่นๆ ต้องเกิดขึ้น เพื่อเป็นตลาดรอง เพื่อการลงทุน และเพื่อการกระจายความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่เพื่อเก็งกำไร หรือเพื่อเล่นการพนัน ไม่ใช่เปิดตลาดการเงินโดยไม่ดูความพร้อมของประเทศ, ไม่ใช่เอารัฐวิสาหกิจที่เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนรวม มาแปลงเป็นหุ้นเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับคนแค่บางกลุ่ม

    ศตวรรษที่ 21 คงจะเป็นศตวรรษของเอเซีย โลกเศรษฐกิจที่นำโดยจีนและญี่ปุ่น แล้วไทยล่ะ จะยืนอยู่ที่ไหน จะตามกลุ่มผู้นำใหม่ทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ถ้าจะตามให้ได้ผมขอเสนอให้ไทยต้องมีลักษณะเป็นตัวของตัวเอง ต้องสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ที่ใฝ่ดี มีปัญญาและต้องคู่กับเศรษฐกิจระบบใหม่ ที่อุดมปัญญาด้วยเช่นกัน

    และเศรษฐกิจระบบใหม่ ไม่ใช่สิ่งที่คนไทยไม่รู้จัก พ่อหลวงของเราได้แสดงให้เห็นไว้นานแล้ว ระบบเศรษฐกิจที่เป็นไปตามหลักสันโดษ (พอใจในสิ่งที่มี ที่ได้) เศรษฐกิจที่อุดมปัญญา (รู้จักพิจารณาสิ่งต่างๆ ตามที่เป็นจริง ด้วยความฉลาด และด้วยศีลธรรมที่ดี) ระบบเศรษฐกิจที่เป็นไปตามแนวทางของเศรษฐศาสตร์แนวพุทธ ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของเราพยายามอธิบาย พยายามแสดงให้เห็เป็นตัวอย่างมานานแล้ว

    และเราเรียกแนวคิดที่สุขสมบูรณ์นี้ว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” คำถามที่สำคัญคือ เมื่อเราจะสร้างการเมืองใหม่กันแล้ว ระบบเศรษฐกิจใหม่ ที่เดินตามรอยเท้าพ่อ เศรษฐกิจพอเพียง ถึงเวลาที่เราจะนำมาปฏิบัติอย่างจริงจังแล้วหรือยัง


    ที่มา
    อาจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม

    Bloggang.com :
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โจมตีมัสยิดอิมามศอดิก (อ) กลางเมืองหลวงคูเวต เสียชีวิต-เจ็บเพียบ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 26, 2015

    [​IMG]

    เพรสทีวี/ตัสนีม – เกิดเหตุระเบิด ในมัสยิดอิมามศอดิก(อ) ใจกลางเมืองหลวงประเทศคูเวต เบื้องต้นเพรสทีวีรายงานมีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ราย และบาดเจ็บ 170 กว่าคน ขณะที่ตัสนีมนิวส์ของอิหร่่านระบุเสียชีวิต 24 เจ็บ 163

    ตามการรายงานของหน่วยงานความมั่นคงคูเวต ว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่ประชาชนกำลังปฏิบัตินมาซวันศุกร์ในมัสยิด ซึ่งยอดผู้เสียชีวิต น่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

    หลังจากเกิดเหตุระเบิด ทางรัฐสภาคูเวต เรียกประชุมด่วนในทันที

    หนังสือพิมพ์ “อัลซียาซะห์” คูเวต รายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิส ออกมารับผิดชอบเหตุระเบิดในครั้งนี้

    ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้ายไอซิส ได้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวในมัสยิดของชีอะห์ในประเทศซาอุดิอาระเบียมาแล้วสองครั้ง

    สำนักข่าว ตัสนีม รายงานว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายแฝงเข้าร่วมแถวนมาซด้วย ขณะที่กำลังอยู่ในระกะอัตที่สองของการนมาซวันศุกร์ ก็ได้ถอดสลักระเบิดตัวเอง ทำให้เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดครั้งนี้

    ตามรายงานเผยว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสเป็นผู้ลงมือปฏิบัติการณ์ โดยมือระเบิดฆ่าตัวตาย ชื่อว่า “ อบู สุลัยมาน อัลมุวะฮีด”

    [​IMG]

    [​IMG]

    PressTV-27 کشته در انفجار مسجد شیعیان درشهرکویت

    خبرگزاری بین المللی تسنیم - ۲۷ شهید و ۲۲۷ زخمی در حمله تروریستی به مسجد شیعیان کویت + فیلم و تصاویر

    เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โจมตีมัสยิดอิมามศอดิก (อ)  กลางเมืองหลวงคูเวต เสียชีวิต-เจ็บเพีย
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มดาอิช (ISIS) อ้างความรับผิดชอบต่อการก่อการร้ายโจมตีมัสยิดชีอะฮ์ในคูเวต
    Category: News & Event Published on Saturday, 27 June 2015 00:05 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ประกาศในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า : ในการโจมตีก่อการร้ายครั้งนี้ "อบูสุไลมาน อัลมุวะฮ์ฮิด" เป็นผู้ปฏิบัติการ

    ญอมนิวส์รายงานว่า เว็บไซต์ "อัซซูมะริยะฮ์นิวส์" (alsumaria.tv/news) รายงานว่า : กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ประกาศความรับผิดชอบต่อการก่อการร้ายโจมตีมัสยิดชีอะฮ์ในคูเวต

    เว็บไซต์นี้ได้เขียนว่า : กลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ประกาศในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า "ผู้ปฏิบัติการก่อการร้ายโจมตีในครั้งนี้คือ "อบูสุไลมาน อัลมุวะฮ์ฮิด"

    สิ่งที่ควรกล่าวถึงก็คือว่า ในการก่อการร้ายโจมตีครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการในมัสยิดของชีอะฮ์ในคูเวต ในช่วงรอกะอัตสุดท้ายของนมาซญุมอะฮ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน

    ที่มา : jamnews

    กลุ่มดาอิช (ISIS) อ้างความรับผิดชอบต่อการก่อการร้ายโจมตีมัสยิดชีอะฮ์ในคูเวต
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ก่อการร้ายที่โจมตีมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ในคูเวตเป็นใคร?
    Category: News & Event Published on Saturday, 27 June 2015 06:13 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    หลังจากการระเบิดก่อการร้ายในมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ในคูเวต กลุ่มดาอิช (ISIS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในการปฏิบัติการก่อการร้ายครั้งนี้

    อัลอาลัมรายงานว่า กลุ่มดาอิช (ISIS) ได้ประกาศในการแถลงฉบับหนึ่งว่า บุคคลผู้มีนามว่า "อบูสุไลมาน อัลมุวะฮ์ฮิด" ได้ดึงฉนวนเข็มขัดระเบิดของตัวเองในมัสยิดนี้

    [​IMG]

    อบูสุไลมาน อัลมุวะฮ์ฮิด" เป็นชาวซาอุดีอาระเบียมีชื่อจริงว่า "คอลิด ตามิร ญาบิร อัชชิมรี"

    เว็บไซต์ "เยเมนเพรส" ได้ย้ำว่า ตามข้อมูลที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในเครือข่ายสังคมนั้น "อบูสุไลมาน อัลมุวะฮ์ฮิด" เป็นชาวซาอุดีอาระเบียมีชื่อจริงว่า "คอลิด ตามิร ญาบิร อัชชิมรี"

    บรรดานักเคลื่อนไหวในเครือข่ายสังคมยังได้ทำการตีพิมพ์ภาพของมือระเบิดฆ่าตัวตายผู้นี้ด้วย

    จนถึงขณะนี้กระทรวงมหาดไทยของคูเวตยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการใดๆ เกี่ยวกับสถานะของผู้ก่อการร้ายที่ก่ออาชญากรรมครั้งนี้

    สำนักข่าวคูเวตได้ประกาศโดยอ้างจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศนี้ว่า ในการโจมตีของผู้ก่อการร้ายครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 27 คนและอีก 227 คนได้รับบาดเจ็บ

    ที่มา : fa.alalam

    ผู้ก่อการร้ายที่โจมตีมัสยิดอิมามซอดิก (อ.) ในคูเวตเป็นใคร?
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่ของซาอุฯ พร้อมทหาร 300 นาย แปรทัพเข้าร่วมกับกองทัพและกองกำลังประชาชนเยเมน Category: News & Event Published on Saturday, 27 June 2015 15:46 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    ประธานพรรคเยเมนอิสระกล่าวย้ำว่า ในความสูญเสียต่างๆ ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับซาอุดีอาระเบีย ทำให้ผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่พร้อมด้วยทหาร 300 นาย ของซาอุฯ แปรทัพเข้าร่วมกับกองทัพและกองกำลังประชาชนของเยเมนแล้ว

    สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า "นาซิร บินยะห์ยา อัลอาร์ญาลี" สมาชิกคณะกรรมการระดับสูงของการปฏิวัติและประธานพรรคเยเมนอิสระ ได้รายงานเกี่ยวกับความสูญเสียต่างๆ ที่หนักหน่วงที่ราชวงศ์ซะอูดได้รับในการรุกรานเยเมน

    [​IMG]

    เว็บไซต์ข่าว "พาโนรามา อัชชัรก์ อัลเอาซัฏ" (mepanorama) รายงานว่า 300 คน จากผู้ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์อยู่ในกองทัพของซาอุดีอาระเบียได้แปรทัพเข้าร่วมกับกองทัพเยเมน

    "อัลอาร์ญาลี" ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า : "การตบหน้าอย่างแรงครั้งล่าสุดที่ซาอุดีอาระเบียได้รับ คือการที่ "ฮาชิม อัลอะห์มัร" ผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่ของกองทัพที่เป็นทาสรับใช้ซาอุดิอาระเบียในเขตผ่านข้ามแดน "อัลวะดีอะฮ์" ได้ประกาศแปรทัพเข้าร่วมกับกองทัพและคณะกรรมการประชาชนของเยเมน"

    เขาได้ชี้ถึงการที่ทหารของซาอุดิอาระเบียจำนวน 300 นาย ได้แปรทัพพร้อมกับอาวุธและยุทโธปกรณ์ทั้งหมดของตนเข้าร่วมกับกองทัพเยเมน โดยย้ำว่า : ทุกคนเหล่านี้หลังจากที่ได้เหนื่อยหน่ายกับการกดขี่ การใช้อำนาจบาตรใหญ่และการหลงตนของซาอุดิอาระเบีย และการปฏิบัติอย่างดูถูกเหยียดหยามต่อประชาชนชาวเยเมน พวกเขาได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่จะกลับเข้าสู่อ้อมกอดของบ้านเกิดของตน

    ประธานพรรคเยเมนอิสระได้กล่าวเสริมอีกว่า : วีรบุรุษที่ได้กลับใจเหล่านี้ ในช่วงเวลาที่ "เชคยาซิร ไฟซ้อล ฮุเซน ฮัลอะห์มัร" ได้ให้การต้อนรับพวกเขาในจังหวัดมะริบ พวกเขาได้ประกาศว่าพวกเขาพร้อมที่จะเสียสละและอุทิศชีวิตเพื่อประเทศของพวกเขา เพื่อที่จะทำลายความน่าเกรงขามของการอวดใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย และการดูถูกเหยียดหยามอย่างต่อเนื่องที่ประเทศนี้มีต่อประชาชนเยเมนที่อยู่ในซาอุดิอาระเบีย

    อัลอาร์ญาลีได้ชี้ถึงชัยชนะใหม่ๆ ของกองทัพและกองกำลังประชาชนชาวเยเมนที่ได้รับภายในประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยกล่าวว่า : เหตุผลข้ออ้างต่างๆ ของ "อะห์มัด อะซีรี" โฆษกพันธมิตรซาอุฯ ต่อต้านเยเมน เกี่ยวกับการที่กองทัพและกองกำลังประชาชนของเยเมนได้เข้าสู่จังหวัดนัจญ์รอนนั้นเป็นเรื่องตลกและน่าขบขัน

    เขาได้ย้ำในตอนท้ายว่า : รัฐบาลซาอุดิอารเบียยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและตระหนักเป็นอย่างดีถึงความขมขื่นของความพ่ายแพ้ แต่เป็นเพราะความโง่เขลาของบรรดาผู้นำหนุ่มของเขา พวกเขาก็ยังคงหลอกตัวเองและประชาชนของตน และยังคงยืนกรานในการที่จะเดินหน้าต่อไป

    [​IMG]

    ผู้บัญชาการทหารปืนใหญ่ของซาอุฯ พร้อมทหาร 300 นาย แปรทัพเข้าร่วมกับกองทัพและกองกำลังประชา
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อูยยยย... อาหมวยจีนชำแหละเครื่อง ATM ด้วยมือเปล่า เพราะว่ามันกลืนบัตร debit card ของเธอ

    [​IMG]

    -----------
    พาไปดูข่าวแปลกๆที่เมืองจีนบ้างนะครับ วันนี้ (26 มิ.ย.58) People's Daily Online ของจีนรายงานข่าวหนึ่งว่า "
    Woman rips ATM open with bare hands" จริงดิ? จริง… รายงานข่าวบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของจีนได้ควบคุมตัวผู้หญิงชาวจีนคนหนึ่งในเมือง Changchun มณฑล Jilin เนื่องจากเธอได้ฉีกกระชากชำแหละเครื่องเอทีเอ็มด้วยมือเปล่าของเธอเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่เธออ้างว่า เจ้าเครื่อง ATM เครื่องนั้นมันกลืนบัตร debit card ของเธอเข้าไป (อ้างจากสำนักข่าว Xinwenhua News ของจีนอีกต่อหนึี่ง)
    รายงานข่าวบอกว่าทางพนักงานของธนาคารได้เข้าตรวจเช็กเครื่อง ATM ดังกล่าวแล้วบอกว่าไม่พบบัตรของเธอเลย (จริงอ่ะ?) ผู้ต้องสงสัยถูกนำตัวเข้าไปยังหน่วยงานด้านสุขภาพจิตท้องถิ่นตามคำสั่งของตำรวจ พยายานเล่าว่า อาหมวยหลิน (Lin) ได้รื้อเครื่องกดเงินอัตโนมัติภายในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่ง โดยบอกว่าเครื่อง ATM นั้นกินบัตรของเธฮหลังจากที่เธอพยายามกดเงินอยู่หลายครั้งแต่ล้มเหลว เธอจึงกระชากหน้ากากเจ้าเครื่อง ATM เครื่องนั้นออกมา และรื้อม้วนกระดาษใบเสร็จออกเพื่อค้นหาบัตรกดเงินของเธอที่อาจจะภายในเครื่องดังกล่าว
    ภาพในกล้องวงจรปิดบอกว่าอาหมวยสามารถน็อกเจ้าเครื่อง ATM นั้นได้ภายในไม่กี่นาที ว้าววว! ไม่กล้าให้ไปยืนใกล้รถถังหรือเครื่องบินเลยนะนี่!
    The Eyes
    26/06/2558
    ----------
    Woman rips ATM open with bare hands - People's Daily Online
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ฮี่ๆ… เสร็จเฮียสีจนได้ ผลงานบิ๊กป้อม คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยโหวดเสียงข้างมากเลือกเรือดำน้ำจีน 3 ลำ คริๆ เขี่ยเยอรมันกับเกาหลีใต้ตกขอบ
    -----------
    วันนี้ (26 มิ.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Thailand to Upgrade Fleet, Chooses Chinese to Provide Three Submarines" รายงานข่าวบอกว่ารัฐบาลไทยมีแผนจะสั่งซื้อเรือดำน้ำจากจีน (Chinese-made) ให้กับกองทัพเรือไทย (Royal Thai Navy) กองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการจำนวน 3 ลำตกลำละ 355 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณลำละ 1.2 หมื่นล้านบาท 3 ลำก็ตก 3.6 หมื่นล้านบาท)
    การติดสินใจในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างจำนวน 17 เสียงโหวต "Yes" ในการเลือกเรือดำน้ำจากจีน โดยให้เหตุผลว่า "คุ้มค่าเงินที่สุด" (best value for money) ส่วนที่เหลือก็โหวตให้กับเกาหลีใต้และเยอรมัน แต่แพ้ทั้งสองค่าย
    แหล่งข่าวภายในบอกว่า "ที่คณะกรรมการได้โหวตให้ซื้อเรือดำน้ำจีนก็ด้วยเหตุผลที่ว่าของจีนมีการติดตั้งอาวุธและเทคโนโลยีที่เหนือกว่าและสามารถอยู่ใต้น้ำได้นานกว่าด้วย" (ฮ่าๆๆ ชอบครับท่าน)
    รายงานข่าวบอกว่ากองเรือดำน้ำของไทยมีเรือดำน้ำจำลองเยอรมัน (German submarine simulator) สำหรับฝึกอยู่ที่ฐานทัพเรือในสัตหีบทางตะวันออกของกรุงเทพฯในอ่าวไทย โครงการจัดหาเรือดำน้ำให้กับกองทัพเรือไทยนี้ได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป้อม) รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการท้าทายด้านเขตแดนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนและเพื่อปฎิบัติการทางทะเลด้วย และประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศต่างก็มีเรือดำน้ำด้วยกันแทบทั้งนั้น เหลือแต่ไทยตั้งแต่ปี 1915 มานี่แหละ และบิ๊กป้อมกล่าวว่าจะผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป
    บางกอกโพสต์บอกว่า ในปี 2011 กองทัพเรือได้เสนอให้มีการจัดหาเรือดำน้ำจากเยอรมันจำนวน 6 ลำในราคา 7.7 พันล้านบาท (6 ลำราคา 7.7 พันล้านบาท?) บางกอกโพสต์กล่าวต่ออีกว่า "อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวก็ถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"
    [สังเกตการใช้ไวยากรณ์ของสำนักข่าวแห่งนี้ให้ดีนะ เขาเลือกที่จะใช้คำว่า "at a cost of" ซึ่งเป็นมีความหมายที่ค่อนข้างจะเป็นลบบ่งบอกถึงนัยว่าสูญเสียหรือเสียหาย แทนที่จะใช้คำว่า "for the price of" (ซึ่งมีความหมายที่ซ้อฟท์ขึ้นมาหน่อยหนึ่งแต่ก็ยังติดลบอยู่ดี) หรือ "at the amount of" ซึ่งจะเป็นคำกลางๆ ทั้งสองวลีมีความหมายเกี่ยวกับเรื่องราคาเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกันคือน้ำหนักคำพูดและเจตนาของสื่อฯที่ต้องการจะสื่อฯมันต่างกัน ใครเขียนข่าวนี้รู้ไหม? นังวาสฯ (ในสมองหล่อนนี่ช่วยคิดอะไรที่เป็นบวกหน่อยได้ไหม? please!) แล้วสื่อฯรัสเซียก็เอาไปใช้ด้วย เพราะน้อยใจที่จีนคว้าตัดหน้ารัสเซียไป เอาน่าาา แบ่งๆกันไป]
    อ่านข่าวต่อนะ... สมาชิกท่านหนึ่งในคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพเรือกล่าวว่าจีนมีความก้าวหน้าด้านการพัฒนาอาวุธอย่างรวดเร็ว และแหล่งข่าวอ้างคำพูดของบิ๊กป้อมว่า "หากไม่สามารถจัดซื้อเรือดำน้ำภายในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ได้ กองทัพเรือก็จะไม่มีโอกาสได้เรือดำน้ำอีกเลย" (เพราะว่า พวกนักการเมืองจะไม่สนับสนุนให้ไทยมีกองทัพที่เข้มแข็งเด็ดขาด)
    นี่ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับกองทัพเรือของไทยนะนี่ อย่ารังเกียจว่าเป็นของจีนเลย ดีกว่าไม่ได้นะ แต่ยังไม่มีรายละเอียดว่าไทยจะซื้อรุ่นไหน และจะส่งมอบได้เมื่อไรนะครับ ส่วนเพื่อนรัสเซียก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะถึงยังไงก็ได้โควต้าเครื่องบินไปจากไทยแล้วไม่ใช่รึ งานนี้ก็แบ่งเฮียสีบ้าง แต่แปลกอ่ะ เฮียสีเงียบมาก น้ำนิ่งไหลลึก ปล่อยให้เยอรมันกับเกาหลีใต้แข่งกันไป ขนาดเยอรมันส่งเครื่องจำลองมาฝึกให้กับทหารเรือไทยแล้วนะ (คงไม่ใช่ของฟรีหรอกมั๊ง?) แต่สุดท้ายก็เสร็จจีน เพราะอะไร? ก็เพราะว่าพวกตะวันตกและสหรัฐฯชอบกล่าวหาและโจมตีไทยเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องประชาธิปไตย (จอมปลอม) ดีนัก จีนกับรัสเซียไม่ยุ่งกับกิจการภายในของไทย จึงได้เค้กไปแบ่งกัน
    แต่เมื่อเร็วๆนี้ก็มีข่าวว่า นายรอล์ฟ เพเทอร์ (H.E. Mr. Rolf Peter Gottfried Schulze) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล) อยู่เหมือนกันนะ ไม่รู้ว่าย่องมาพูดเรื่องอะไร พวกตะวันตกก็งี้แหละตอนแรกก็ทำเป็นจะไม่คบค้าสมาคมด้วยหากยังไม่เลือกตั้งซะก่อน สุดท้ายทนอิจฉาจีนกับรัสเซียไม่ได้ก็ต้องรีบแจ้นเข้ามาขอคืนดีกับไทยด้วย
    ป.ล. ส่วนภาพลุงตู่ทำบุญที่ทำเนียบนั้นเก็บมาฝากนะครับ ไม่เกี่ยวกับข่าวนี้หรอก
    The Eyes
    26/06/2558
    ----------
    Thailand to Upgrade Fleet, Chooses Chinese to Provide Three Submarines / Sputnik International
    http://www.bangkokpost.com/…/chinese-win-bid-to-supply-subs…
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้? ไอซิสโจมตีบริษัทแก๊สของสหรัฐฯในฝรั่งเศสด้วยระเบิดพลีชีพ, คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงนักท่องเที่ยวชาวตูนีเซียและชาวต่างชาติบนชายหาดในตูนีเซีย, ระเบิดพลีชีพในมัสยิดคูเวต

    [​IMG]

    -----------
    เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.58) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่ามีผู้ก่อการร้ายไอซิสจำนวน 2 คนขับรถยนต์เข้าไปในโรงงานผลิตแก๊ส US Air Products ของสหรัฐฯในเมือง Saint-Quentin-Fallavier ทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส และก่อเหตุระเบิดพลีชีพจนทำให้แท้งค์แก๊สระเบิดมีผู้บาดเจ็บหลายราย ส่วนผู้ก่อเหตุทั้งสองคนนั้นไม่เหลือ คนหนึ่งหัวขาดกระเด็นไปตกใกล้ๆกำแพงโรงงาน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าที่ศรีษะของผู้ก่อเหตุมีรอยสักเป็นภาษาอารบิกด้วย และมีเศษธงผ้าของพวกไอซิสห่อร่างของเขาด้วย ทางฝรั่งเศสบอกว่านี่เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย ต่อมาทางการของฝรั่งเศสได้จับกุมชายคนหนึ่งวัย 30 กว่าปีสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยซึ่งได้รับแจ้งโดยหน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศส (จับได้เร็วไปหรือเปล่า?) ปธน. Francois Hollande ของฝรั่งเศสยกเลิกการเดินทางไปร่วมประชุมที่กรุงบรัสเซลส์
    เหตุการณ์ที่สอง รายงานข่าวบอกว่ามีการก่อเหตุระเบิดพลีชีพภายในมัสยิด Imam Al-Sadeq ของนิกายชีอะห์ภายในเมืองหลวงของคูเวต ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 25 ราย และบาดเจ็บอีกราย 202 คน หลังจากเกิดเหตุแล้วพวกไอซิสก็ออกมาประกาศว่าเป็นฝีมือตน พวกนักเลงคีย์บอร์ด (internet troll) โปรอเมริกาปัญญานิ่มรีบออกมาเม้นท์ใต้ข่าวของ Sputnik news ทันทีเลยว่า "นี่เป็นความผิดของรัสเซีย รัสเซียอยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์นี้...." (จะบ้าตาย!)
    เหตุการณ์ที่สาม ในวันเดียวกันนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าหลังจากเกิดเหตุในฝรั่งเศสแล้ว ก็มีผู้ก่อการร้ายก่อเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวทั้งที่เป็นชาวตูนีเซียและชาวต่างชาติในโรงแรมสองแห่งในตูนีเซีย มีนักท่องเที่ยว 30 คนเสียชีวิต และ 38 คนได้รับบาดเจ็บ รายงานบอกว่าเหยื่อที่ถูกโจมตีในครั้งนี้ส่วนมาเป็นชาวเยอรมันและอังกฤษ มือปืน (ผู้ก่อการร้าย) หนึ่งคนถูกวิสามัญในที่เกิดเหตุส่วนอีกคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าตำรวจตูนีเซียจับกุมได้ การก่อเหตุจุดแรกเกิดขึ้นที่โรงแรม Imperial ในเมือง Sousse ของตูนีเซีย ส่วนอีกจุดหนึ่งก็อยู่ไม่ไกลกันนัก หลังจากเกิดเหตุก็มีรายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัยสันนิษฐานว่าเป็นระเบิด
    จุดที่น่าสงสัย... เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 ที่ผ่านมา Christiane Taubira รมว.ยุติธรรมของฝรั่งเศสออกมาประกาศว่าฝรั่งเศสอาจจะตัดสินใจให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่ Edward Snowden และ Julian Assange (ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks) ซึ่งเป็นจอมแฉพฤติกรรมดักฟังและสอดแนมหน่วยข่าวกรองและสืบราชการลับของสหรัฐฯ โดย Edward Snowden หนีไปลี้ภัยจากความผิดอาญาของสหรัฐฯอยู่ที่รัสเซียจนถึงตอนนี้ ส่วน Julian Assange ซุกตัวอยู่ภายในสถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอนมาเป็นเวลาถึงสองปีแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมจากทางการของสวีเดนเกี่ยวกับข้อหาการล่วงละเมิดทางเพศ WikiLeaks คือกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ชอบเจาะข้อมูลลับของสหรัฐฯ และมักจะแฉผ่านเว็บไซต์ของพวกตน สื่อฯรัสเซียชอบเอาข่าวมาลงอยู่เรื่อยๆ
    ล่าสุดผลงานของ WikiLeaks ก็คือแฉว่าปธน.ของฝรั่งเศสทั้งสามคน (จนถึงคนปัจจุบัน) ต่างก็ถูกหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐฯและของอังกฤษดักฟังโทรศัพท์และสอดแนมมาแล้วทั้งนั้น สหรัฐฯรีบออกมาบอกว่าตอนนี้สหรัฐฯเลิกสอดแนมฝรั่งเศสแล้วนะ (ขี้แมวนี่!) ปธน.ของฝรั่งเศสก็มีชะตาไม่ต่างจากนายกฯรัฐมนตรีคนปัจจุบันของเยอรมันหรอก โดนกันทั่วหน้าจากมหามิตรผู้ยิ่งใหญ่ของตนนั่นแหละ
    นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สนใจเช่นกัน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news รายงานว่าเจ้าชาย Mohamed bin Salman รมว.กลาโหมของซาอุดิอาระเบียเข้าพบกับปธน. Francois Hollande ของฝรั่งเศสโดยการนำของ Laurent Fabius รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศส มีการพูดคุยและตกลงกันหลายเรื่องตั้งแต่เรื่องการสร้างเตาปฏิกรณ์พลังงานนิวเคลียร์ และเรื่องสุขภาพ มีการทำข้อตกลงร่วมกันราว 20 โครงการซึ่งมีมูลค่าถึง $12.7 billion (ประมาณ 4.3 แสนล้านบาท)
    สื่อฯพยายามวิพากษ์วิจารณ์ว่าฝรั่งเศสหลับหูหลับตาจับมือกับซาอุดิฯในขณะที่ซาอุดิฯถูกโจมตีเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างมาก และก่อนหน้านี้ทางซาอุดิฯก็เดินทางไปรัสเซียและจับมือกับปูตินด้วย คนเดิมคือเจ้าชาย Muhammad bin Salman (ยังหนุ่มแต่เหลี่ยมจัดมาก เป็นรองมกุฎราชกุมาร และเป็นโอรสของกษัตริย์ซาอุดิองค์ปัจจุบัน)
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าชาย Muhammad bin Salman ได้เดินทางไปร่วมประชุม International Economic Forum 2015 ที่เมือง St. Petersburg ในรัสเซีย ก็ไปพูดเรื่องนิวเคลียร์นี่แหละกับรัสเซียรวมทั้งเรื่องการซื้อขายอาวุธด้วย และมีการลงนามร่วมกับรัสเซีย 6 ฉบับ ในขณะเดียวกันรมว.ต่างประเทศของซาอุดิฯ ก็ออกมาประกาศว่า "ซาอุดิฯขอบอกไว้เลยว่าไม่มีอะไรมาขัดขวางพวกเราไม่ให้ซื้อระบบป้องภัยและอาวุธจากรัสเซียได้ และไม่มีใครมาขัดขวางไม่ให้กรุงมอสโคว์ขายอาวุธให้กรุงริยาดห์ได้" ในขณะเดียวกันซาอุดิฯก็จับมือกับสหรัฐฯและอิสราเอลแน่นสนิทเช่นกัน (การเดิมเกมของซาอุดิฯนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ)
    Pepe Escobar คอลัมนิสต์เขียนบทความชื่อ "Putin and the Saudi Caravan" ลงใน Sputnik เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาว่า "ทั้งปูตินและคิงซัลมานต่างก็เป็นคนที่สุขุมมากๆ (very discreetly) ในการสนทนากันทางโทรศัพท์เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน พระราชโอรสของคิงซัลมานเชื้อเชิญปูตินให้ไปเยี่ยมกรุงริยาดห์ ปูตินก็รับคำเชิญ (accepted) ในขณะเดียวกันปูตินก็เชื้อเชิญกษัตริย์ซาอุดิฯให้มาเยี่ยมกรุงมอสโคว์บ้าง ทางซาอุดิฯก็รับคำเชิญ (accepted) เช่นกัน แต่ไม่มีคำถามใดๆ สถานการณ์ที่ใจจดใจจ่อแบบนี้กำลังจะฆ่าทุกคนอยู่แล้ว แต่ว่านี่คือชีวิตจริงอย่างนั้นหรือ? หรือว่ามันเป็นควันไฟหรือเงาสะท้อนในกระจกกันแน่?"
    คนนี้ (Pepe Escobar) มองแบบหักมุมมาก ตอนแรกที่อ่านบทความของแกไปเรื่อยๆเหมือนกับว่าแกมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่า? ตอนสุดท้ายของบทความนี้ Pepe Escobar พูดว่า "… แต่ว่านี่อาจจะเข้าข่ายที่ว่าจงเก็บเพื่อนของตัวเองไว้ใกล้ตัว และจงเก็บศัตรูของตัวเองไว้ใกล้ชิดกว่านั้นอีก" (ว้าวววว! เป็นอีกหนึ่งบทความที่คิดว่าน่าสนใจมาก เกี่ยวกับการเดินเกมของซาอุดิฯนะ) พอมาดูการเดินเกมของซาอุดิฯแล้ว บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ แต่คงจะไม่อยู่เหนือวิสัยของปูตินที่จะคาดเดาได้ (กระดูกคนละเบอร์หนะ)
    งานนี้ซับซ้อนเหลือเกิน เหมือนกับมีบางคนพยายามจะทำให้บางคนคิดว่าที่เกิดเหตุในฝรั่งเศสนั้นคงจะมาจากการขัดผลประโยชน์กันในซาอุดิฯระหว่างรัสเซียกับฝรั่งเศสหรือเปล่า? โดยพยายามใช้ไอซิสเป็นผู้ก่อเหตุ แต่ในขณะเดียวกันประเด็นการที่ฝรั่งเศสจะให้สถานะลี้ภัยแก่สองจอมฉาวนั้นก็ยังไม่น่าตัดทิ้งไป เพราะคงจะมีบางคนไม่พอใจที่ฝรั่งเศสให้ที่ลี้ภัยแก่นักโทษหนีคดีอาญาแน่ๆ
    The Eyes
    27/06/2558
    ----------
    French Gas Factory Under Alleged Islamist Attack Belongs to US Company / Sputnik International
    France Launches Terrorism Investigation Into Friday Attack at Gas Factory / Sputnik International
    One Killed, Several Injured in Alleged Islamist Attack in France – Reports / Sputnik International
    http://rt.com/news/269959-tunisia-hotel-attack-gunfire/
    Suicide Bomber Blows Himself Up in Kuwait Mosque / Sputnik International
    Putin and the Saudi Caravan / Sputnik International
    France Strengthens Relations With Saudi Arabia Despite Human Rights Record / Sputnik International
    French Minister: Paris May Offer Asylum to Whistleblowers Snowden, Assange / Sputnik International
    Man beheaded, several injured in Islamist attack on French gas factory — RT News
    Shootout on Beach in Tunisian Tourist Resort Leaves Multiple Casualties / Sputnik International
    Russia and Saudi Arabia ink nuclear energy deal, exchange invites — RT News
    ‘Nothing could prevent S. Arabia from buying Russian defensive weapons’ – Saudi FM — RT News
    ‘Saudi Arabia invested a lot in Washington – no surprise it’s shielded from media criticism’ — RT Op-Edge
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวไทยพุทธเสนอช่วยพระพม่าหัวรุนแรงต่อต้านมุสลิมตั้งสถานีวิทยุ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 10:28 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 10:44 น.)

    [​IMG]

    @พระสงฆ์พม่าหลายพันรูปเข้าร่วมการประชุมองค์กรชาวพุทธ ครั้งที่ 2 โดยคณะกรรมการเพื่อการคุ้มครองเชื้อชาติและศาสนา หรือ มะบะธา ที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ในนครย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 21 มิ.ยในที่ประชุมนี้ กลุ่มชาวไทยได้เสนอให้ความช่วยเหลือแก่พระสงฆ์พม่าตั้งสถานีวิทยุเผยแผ่ศาสนา.--Agence France-Presse/Ye Aung Thu.


    เอเอฟพี - ชาวไทยพุทธกลุ่มหนึ่งได้เสนอที่จะช่วยเหลือเครือข่ายพระสงฆ์พม่าหัวรุนแรงต่อต้านมุสลิมตั้งสถานีวิทยุเพื่อเผยแพร่สารต่างๆ ไปทั่วประเทศ ในขณะที่ความเกลียดชังทางศาสนาขยายตัวเพิ่มสูง

    ชาวไทยพุทธกว่าสิบคนที่เป็นส่วนหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุมจำนวนหลายร้อยคน ในนครย่างกุ้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่จัดขึ้นโดยกลุ่มเคลื่อนไหวมะบะธา โดยในที่ประชุม กลุ่มชาวไทยที่ผลิตรายการโทรทัศน์ และวิทยุเกี่ยวกับศาสนาได้ให้คำมั่นว่าจะบริจาคอุปกรณ์วิทยุมูลค่า 44,000 ดอลลาร์ ให้แก่กลุ่มเคลื่อนไหวของพม่า

    วุฒิสาร พนารี รองประธานสมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ ที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุมมะบะธา ระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่ใช่การสนับสนุนด้วยเงิน แต่เป็นการสนับสนุนด้วยอุปกรณ์ และการติดตั้งสถานีวิทยุที่มีมูลค่าราว 1.5 ล้านบาท

    “วิทยุ และโทรทัศน์มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่พุทธศาสนาในไทย และสิ่งนี้จะช่วยพวกเขาเผยแพร่ศาสนาพุทธในพม่า” วุฒิสาร พนารี กล่าว

    ความรู้สึกชาตินิยมชาวพุทธกำลังขยายตัวมากในพม่า จากการผลักดันของกลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรงที่เรียกร้องการคว่ำบาตรร้านค้าชาวมุสลิม และเสนอชุดกฎหมายที่นักวิจารณ์ระบุว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ

    การเพิ่มขึ้นของชาตินิยมชาวพุทธมาพร้อมกับเหตุรุนแรงทางศาสนาระหว่างชาวพุทธ และมุสลิม ที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ และในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ พระสงฆ์ชาตินิยมได้เป็นแนวหน้าในการประท้วงต่อต้านชาวโรฮิงญา

    พรชัย พิญญพงษ์ ประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลกในไทย ระบุว่า ได้เข้าร่วมการประชุมในฐานะส่วนตัว และว่าทั้งสองประเทศมีความยากลำบากกับศาสนาอิสลามที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขเพื่อปกป้องพุทธศาสนา

    “เมื่อเรามองดูรัฐยะไข่ของพม่าก็เป็นปัญหาแบบเดียวกันกับพื้นที่ทางภาคใต้ของไทย” พรชัย พิญญพงษ์ กล่าว

    พรชัย ยังปฏิเสธความเห็นที่ว่า พระสงฆ์หัวรุงแรงของพม่ามักใช้ถ้อยคำสร้างความเกลียดชังต่อต้านชาวมุสลิม

    “พระเหล่านั้นไม่ได้สนับสนุนให้ใครก็ตามทำลายมัสยิด หรือฆ่าชาวมุสลิม เพียงแต่ต้องการที่จะปกป้องศาสนาพุทธให้แก่คนรุ่นต่อไป ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพระสงฆ์ที่จะรวมตัวกันปกป้องพุทธศาสนา” พรชัย กล่าว.


    http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9580000071763
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    ดร.พอลล์ เครค โรเบิร์ต อดีต ผู้ช่วย รมต.คลังสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยนะรับว่า รัฐบาลกรีซเวลานี้ กำลังอยู่ในสถานการณ์อันตราย ซึ่งถ้ากรีซหันมาทางตะวันออก เพื่อยุติสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเสี่ยงที่จะถูกโค่นล้มลงจากอำนาจ
    เว้นแต่ชาวกรีซต้องยืนเคียงข้าง และสนับสนุนรัฐบาลออกตน เพื่อออกจากสหภาพยุโรป และสมาชิกนาโต และรับข้อเสนอของรัสเซีย ซึ่งข้อเสนอดังกล่าว ย่อมไม่ใช่เป็นไปเพื่อ ชำระหนี้สินให้กับเยอรมัน ธนาคารดัทช์ และกองทุนเฮ็ดฟันจ์จากนิวยอร์ค ซึ่งกำลังกดดันรัฐบาลกรีซ และกรีซอ้างว่าผิดกฎหมายในเวลานี้
    เพราะถ้ากรีซออกจากสหภาพยุโรป ประเทศต่อมาก็คือ อิตาลี สเปน ซึ่งแน่นอนว่า ออสเตรีย ฮังการี และเชก ย่อมไม่ลังเลใจ ที่จะกระโดดตามมา ซึ่งจะส่งผลให้กองกำลังนาโต แตกสลายไปโดยปริยาย ทำให้สหรัฐไม่สามารถ บีบบังคับให้นาโต ทำสงครามกับรัสเซียได้ แต่รัฐบาลกรีซ ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดัน จากรัฐบาลสหรัฐ และชาวกรีซเอง ที่อาจจะชุมนุมประท้วง จนกระทั่งรัฐบาลถูกโค่นล้มลงจากอำนาจ เหมือนที่เกิดขึ้นในยูเครน เพราะนี่หมายถึง หายนะของ" Petrodollar" นั่นเอง
    เรื่องกรีซคงต้องจับตาอย่างไกล้ชิดครับ เพราะมันไม่ได้มีนัยยะด้านเศรษฐกิจของ ที่เกี่ยวข้องกับชาวกรีซเท่านั้น แต่หมายถึงเกมส์การเมืองระดับโลก ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย รวมถึงประเทศในกลุ่ม BRICS ให้การสนับสนุน โดยใช้กรีซเป็นจุดเริ่มต้นนั่นเอง..

    Paul Craig Roberts Warns Greek Government May Be Assassinated In This Crisis If They Pivot East To Stop World War III | King World News
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    ตอนนี้สำนักข่าว ซินหัวของจีน เริ่มนำเสนอข้อมูลแล้วนะครับว่า สงครามระหว่างสหรัฐ กับรัสเซียและจีน ไม่น่าจะเลี่ยงได้ เพราะตอนนี้มีความตึงเครียด เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสหรัฐก็กล่าวหาจีน ว่ามีการแฮ็คข้อมูล เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐว่าเข้าข่าย "act of war" ในขณะที่ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ก็เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ในขณะทางกองทัพจีนเอง ก็เตรียมพร้อม สำหรับการเข้าสู่สงคราม ทั้งการพัฒนาเรือรบ และการซ้อมรบในทะเลจีนใต้ และตู้คอนเทนเนอร์ บนเรือบรรทุกสินค้าของจีน ที่ลอยลำในทะเลจีนใน้เวลานี้ ส่วนใหญ่บรรจุไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์

    War ‘Inevitable’ Between US, China: Russian, Chinese Media
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    กลาโหมสหรัฐกำลังจะ รีบเร่งเปิดศูนย์บัญชาการ สำหรับสงคราม "สตาร์วอร์" แห่งใหม่ ภายในไม่เกินหกเดือนนี้นะครับ ทั้งนี้เพื่อรับมือและป้องกัน ดาวเทียมของสหรัฐในห้วงอวกาศ จากการโจมตีรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นสงครามในห้วงอวกาศ

    Pentagon Rushing to Open Space-War Center To Counter China, Russia - Defense One
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตปท.มะกันจวก “จีน” สร้างเกาะเทียมในทะเลจีนใต้ ไม่ต่างจาก “รัสเซียยึดไครเมีย” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 มิถุนายน 2558 16:06 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แนวทางที่รัฐบาลจีนใช้ตอบสนองปัญหาทะเลจีนใต้ โดยชี้ว่าการที่จีนเข้าไปถมทะเลสร้างเกาะเทียมเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำพิพาท ไม่ต่างจากการที่รัสเซียบุกยึดแหลมไครเมียไปจากยูเครน
    แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวปาฐกถาที่ศูนย์เพื่อความมั่นคงอเมริกันใหม่ (Center for a New American Security) โดยระบุว่า โครงการถมทะเลสร้างเกาะเทียมของจีนกำลังเป็น “ภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพ” ในภูมิภาค
    บลินเคน ย้ำว่า สหรัฐฯ “ไม่ได้เลือกข้างฝ่ายใด” ทั้งสิ้น แต่ให้ความสนใจกับวิธีการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ และต้องการปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือ
    “วิธีแก้ปัญหาสำหรับจีนและทุกๆ ประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์ก็คือ ต้องยุติการแปรสภาพที่ดินทุกรูปแบบ และหันมาเจรจาคลี่คลายความเห็นต่างด้วยข้อกฎหมาย”
    “ไม่ว่าจะในยูเครนตะวันออกหรือทะเลจีนใต้ เราต่างได้เห็นการใช้กำลังฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะในปัจจุบันของพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการรุกรานที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรไม่เห็นด้วย”
    จีนนั้นอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ และยืนยันว่ามีสิทธิ์จะเข้าไปสร้างเกาะเทียมเหนือแนวปะการังที่เป็นข้อพิพาทอยู่กับหลายๆ ประเทศ
    หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐจีน ได้ให้สัมภาษณ์หลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลจีนขอรับรองเสรีภาพในการเดินเรือผ่านทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าทางทะเลที่มีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
    การแสดงความคิดเห็นของ บลินเคน มีขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์สหรัฐฯ และจีนกำลังเขม็งเกลียว เนื่องจากจีนเริ่มแผ่อิทธิพลอย่างแข็งกร้าวในเอเชีย และยังเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในสหรัฐฯ
    เมื่อวันพฤหัสบดี (25) เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า จีนอาจอยู่เบื้องหลังการเจาะระบบของสำนักงานจัดการบุคลากรสหรัฐฯ (Office of Personnel Management) ซึ่งทำให้ข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันหลายล้านคนรั่วไหลออกไป
    นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาล บารัค โอบามา ออกมากล่าวหาจีนอย่างโจ่งแจ้งว่าเป็นตัวการแฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ แต่ แคลปเปอร์ ก็ชี้ว่า ทุกอย่างยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ
    หลู กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาตอบโต้สมมติฐานของสหรัฐฯว่า “ไร้ตรรกะ”
    แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก กล่าวเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้วว่า โอกาสที่จะถูกตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจคงทำให้จีนไม่กล้าใช้กำลังเข้ายึดน่านน้ำในทะเลจีนใต้เหมือนเช่นที่รัสเซียทำกับแหลมไครเมีย และปักกิ่งก็น่าจะทราบดีว่า สหรัฐฯ พร้อมยืดหยัดปกป้องพันธมิตรในเอเชียอย่างแน่นอน
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชายผู้เป็นวีรบุรุษของยูโรโซน และ IMF ที่พวกเขารอคอยการกลับมาเป็นนายกแทนนายอเล็กซิส ซีปราส ซึ่งก็คืออดีตนายกฯกรีซนายอันโตนิส ซามาราส

    อดีตนายกฯกรีซ ชี้ การจัดลงประชามติอาจฉุดประเทศออกจาก “ยูโรโซน” ปชช.ตระหนกแห่ถอนเงิน“2.2 หมื่นล้าน” ในวันเดียว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    28 มิถุนายน 2558 06:09 น.

    [​IMG]


    @อันโตนิส ซามาราส อดีตนายกรัฐมนตรีหัวอนุรักษ์นิยมของกรีซ

    รอยเตอร์ / เอพี / เอเอฟพี / เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ – อันโตนิส ซามาราส อดีตนายกรัฐมนตรีหัวอนุรักษ์นิยมของกรีซ ระบุ อนาคตของกรีซในฐานะสมาชิกกลุ่มยูโรโซนมีอันต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย หลังรัฐบาลเอเธนส์ชุดปัจจุบันซึ่งเป็นพวกฝ่ายซ้ายประกาศจัดการลงประชามติในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ ว่ามหาชนชาวกรีกจะยอมรับหรือปฏิเสธผลลัพธ์การเจรจาข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินระหว่างเอเธนส์กับเจ้าหนี้นานาชาติกลุ่มทรอยก้า ที่ประกอบด้วยสหภาพยุโรป (อียู)กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขณะที่ชาวกรีกแห่ถอนเงินออกมากกว่า “2.2 หมื่นล้าน” ในวันเสาร์ ( 27 มิ.ย.) จนตู้เอทีเอ็ม 1 ใน 3 ของประเทศต้องเผชิญกับภาวะ “เงินเกลี้ยงตู้”

    ซามาราส วัย 64 ปี ซึ่งครองอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีกรีซระหว่างเดือนมิถุนายน ปี 2012 – มกราคมปีนี้ กล่าวต่อที่ประชุมสมาชิกรัฐสภาในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน โดยระบุ รัฐบาลชุดปัจจุบันที่อยู่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส และกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย “ซีริซา” ตัดสินใจผิดพลาดอย่างเลวร้าย ที่เลือกใช้การจัดลงประชามติเป็นทางออกในการปลดล็อกทางตัน ในการเจรจาแก้วิกฤตทางการเงินกับบรรดาเจ้าหนี้ของประเทศ และว่ามีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งยวดต่ออนาคตของกรีซ ในฐานะสมาชิกกลุ่มยูโรโซน

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดในกรุงเอเธนส์มีขึ้นหลังจากที่นายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของกรีซ ประกาศเมื่อช่วงเช้ามืดของวันเสาร์ ( 27 มิ.ย.) ว่า เขาจะจัดการลงประชามติในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ว่าประเทศจะรับหรือปฏิเสธ ผลการเจรจาข้อตกลงช่วยเหลือระหว่างรัฐบาลเอเธนส์กับบรรดาเจ้าหนี้นานาชาติกลุ่มทรอยก้า ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้

    "ประชาชนชาวกรีกจะต้องตัดสินใจเลือกโดยปราศจากการขู่กรรโชกใดๆในการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคม" นายซีปราส แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ที่อยู่ในความควบคุมของรัฐเมื่อเวลา 01.00น. (ตรงกับเวลา 05.00น.ในประเทศไทย)โดยนายซีปราส ออกถ้อยแถลงดังกล่าวถึงประชาชนทั่วประเทศ ก่อนหน้าการประชุมฉุกเฉินของรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันเสาร์( 27 มิ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลอย่างสูงว่า กรีซอาจถึงคราวต้อง “ผิดนัดชำระหนี้” ตามกำหนดในวันอังคาร ( 30 มิ.ย.) นี้ และอาจนำไปสู่การกระเด็นออกจากยูโรโซนของกรีซ

    "เป็นเวลายาวนานกว่า 6 เดือนแล้ว ที่รัฐบาลกรีซชุดนี้เป็นผู้นำในการต่อสู้เพื่อหาข้อตกลงที่ใช้การได้และเคารพต่อหลักการ ประชาธิปไตย เราถูกร้องขอให้บังคับใช้มาตรการรัดเข็ดขัดที่แสนเจ็บปวดต่อประชาชนของเราเอง และถูกบีบจากบรรดาเจ้าหนี้ให้ตัดลดเงินบำนาญ ตลอดจนถูกกดดันให้ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในสินค้าประเภทอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเจ้าหนี้ ก็คือการดูหมิ่นและหยามเกียรติของประชาชนชาวกรีกทั้งมวลให้ต้องยอมก้มหัวอยู่ใต้เท้าของพวกเขา" อเล็กซิส ซีปราสกล่าว พร้อมย้ำว่า การจัดลงประชามติที่เกิดขึ้นถือเป็น “ความรับผิดชอบครั้งประวัติศาสตร์ของชาวกรีก”ที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญโดยมีอนาคตของประเทศและอนุชนกรีกรุ่นหลังเป็นเดิมพัน

    ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์( 26 มิ.ย.) รัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซเพิ่งปฏิเสธข้อเสนอขยายโครงการช่วยเหลือออกไป 5 เดือนเป็นเงิน 12,000 ยูโรของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ โดยระบุว่า ข้อเสนอนี้ "มิอาจยอมรับได้" พร้อมยืนยันจะซื่อสัตย์ต่อหลักการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดต่อไป

    ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า หลังข่าวการจัดลงประชามติของรัฐบาลเอเธนส์ได้รับการยืนยัน ประชาชนชาวกรีกต่างพากันตื่นตระหนกแห่กันไปถอนเงิน จนกระทั่งตู้เอทีเอ็มมากกว่า 2,000 ตู้ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 35 หรือมากกว่า 1 ใน 3 ของตู้กดเงินสดทั่วประเทศต้องเผชิญกับภาวะ “เงินหมดตู้” ในวันเสาร์ ( 27) เป็นเวลานานหลายชั่วโมง

    ทั้งนี้ แหล่งข่าวในแวดวงการเงินและธนาคารของกรีซเปิดเผยว่า จำนวนเงินที่ประชาชนแห่ถอนออกไปจากระบบเมื่อวันเสาร์เพียงวันเดียวนั้นมีมูลค่าสูงถึงกว่า 600 ล้านยูโร (ราว 22,635 ล้านบาท)

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000072917
     

แชร์หน้านี้

Loading...