ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    31. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    การประชุมของกลุ่มยูโรสิ้นสุดในเมื่อวานนี้หรือวันที่24 มิถุนายน 2015 โดยไม่มีข้อตกลงใดๆกับกรีซในการเจรจาเรื่องแผนปรับโครงสร้างการเงินของกรีซเพื่อแลกกับการเบิกจ่ายเงินกู้รอบใหม่7,200ล้านยูโร กรีซอาจจะผิดชำระหนี้1,600ล้านยูโรได้ในสิ้นเดือนนี้ ถ้าหากว่าไม่ได้เงินกู้ก้อนใหม่เข้ามาช่วยจ่ายหนี้
    การประชุมระหว่างนายAlexis Tsipras นายกรัฐมนตรีของกรีซและเจ้าหนี้จะดำเนินต่อไปในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลล์ ซึ่งจะมีการประชุมผู้นำสุดยอดของสมาชิกสหภาพยุโรป
    วันนี้เป็นเส้นตายอีกวันสำหรับกรีซ หลังจากฝ่าเส้นตายมาหลายครั้งแล้ว
    เวลาเหลือน้อยเต็มแก่สำหรับกรีซ เพราะว่าถึงแม้ว่าจะตกลงกันได้กับเจ้าหนี้ อีซีบี สหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ รัฐสภาของกรีซจำต้องโหวตอนุมัติแผนปฏิรูปการเงินด้วยในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา2วันเพื่อถกเถียงกัน ก่อนที่จะโหวตมติว่าเอาด้วยหรือไม่เอาด้วย
    ไม่แน่ว่ารัฐสภากรีซจะเอาด้วยกับแผนปฏิรูปการเงิน ถ้ามันกระทบคนจน
    วันอังคารหน้าคือวันที่30 มิถุนายนจะเป็นเส้นตายที่กรีซต้องชำระหนี้1,600ล้านให้เจ้าหนี้
    ข้อเสนอล่าสุดในแผนปฏิรูปการเงินของกรีซ คือ
    1. ขึ้นภาษีธุรกิจและคนรวย
    2. ขึ้นภาษีVATบางจำพวกรายการสินค้า
    3. ประหยัดงบประมาญเงินบำนาญ ด้วยการให้มีการเกษียณอายุก่อนกำหนด และเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมการสบทบเงินบำนาญ
    4. ไม่ขอลดงบประมาณการจ่ายบำนาญหรือลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ นี้คือไฟแดงที่พรรคSyrizaของนายซิปราสไม่สามารถจะฝ่าไปได้
    แผนนี้โดยรวมจะทำให้กรีซเพิ่มรายได้ภาษี7,900ล้านยูโร เพื่อพยายามทำให้งบประมาณเกินดุล1%ต่อจีดีพี
    แต่เจ้าหนี้ ทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศและเยอรมันให้นายซิปราสสอบตกในการเสนอแผนปฏิรูปการเงินเพื่อที่จะคงอยู่ในโปรแกรมการช่วยเหลือทางการเงิน240,000ล้านยูโร เนื่องจากกรีซมีหนี้สูงถึง320,000ล้านยูโร จีดีพีหายไปแล้วเกือบหนึ่งใน3ในระยะ4-5ปีที่ผ่านมา
    กองทุนการเงินระหว่างประเทศไม่ประทับใจกับข้อเสนอของนายซิปราส เพราะว่าต้องการให้กรีซลดการใช้จ่ายงบประมาณมากกว่าที่จะหารายได้ด้วยการขึ้นภาษี เพราะว่าเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ไม่มีทางได้รายได้ภาษีตามแผน เพื่อให้ชัวร์ ให้กรีซลดการใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดลดงบประมาณบำนาญจาก16%ให้เหลือ15%ต่อจีดีพี หรือคิดเป็นเงินที่จะประหยัด1,800ล้านยูโรต่อปี
    หลังจากพูดคุยกับเจ้าหนี้ Christine Lagardeจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ Jean-Claude Juncker จากEuropean Commission Mario Draghi จากธนาคารกลางยุโรปทั้งคืนในวันพุธหรือเมื่อวานนี้ ปรากฎว่านายซิปราสไม่สามารถได้ความมั่นใจจากเจ้าหนี้
    หลังจากนั้น นายซิปราสส่งข้อความทางทวิทเตอร์ว่า: "การปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศไอร์แลนด์หรือโปรตุเกสในมาตรการเทียบเท่ากัน"
    "The repeated rejection of equivalent measures by certain institutions never occurred before - neither in Ireland nor Portugal.
    "จุดยืนที่แปลกนี้ ดูเหมือนจะชี้ว่า (เจ้าหนี้)ไม่มีความสนใจที่จะบรรลุข้อตกลง หรือมีกลุ่มผลประโยชน์กำลังหนุนหลังอยู่
    "This odd stance seems to indicate that either there is no interest in an agreement or that special interests are being backed."
    เรื่องนี้ทำให้นายซิปราสมั่นใจอย่างแน่นอนมากยิ่งขึ้นว่าจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ที่พวกเจ้าหนี้และกลุ่มผลประโยชน์ที่อยู่ข้างหลังต้องการบีบให้เขาจนมุม เพื่อนำไปสู่วิกฤติการเมืองภายในกรีซ อันนำมาสู่การตกประป๋องจากอำนาจของเขา
    ทั้งนี้การจับกรีซเชือดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้ลูกหนี้อื่นๆของยุโรปที่จะแข็งข้อดื้อแพ่งต่อไปในภายหน้า
    เล่นการเมืองแรงอย่างนี้ นายซิปราสจะเล่นพวกเจ้าหนี้ หรือยุโรปกลับอย่างไร? เดี๋ยวคงจะได้เห็น
    thanong
    25/6/2015
    Eurogroup meeting ends with no deal on Greece
    Greek debt crisis: Tsipras in intensive talks with creditors - BBC News
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์กรีซ ขณะนี้ถ้ามองแต่ในแง่ยูโรโซน และ IMF ก็น่าจะตายแล้ว แต่เป็นการมองแต่ปัจจัยภายในน่ะครับ แต่ขณะนี้ยังมี BRICS ของรัสเซียอยู่ และธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (AIIB) ของจีน ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่จะช่วยกรีซได้ ถ้ากรีซยอมทิ้งยูโรโซน ผมว่ากลอนศรีปราชญ์ก็น่าจะเป็นจริง เพราะถ้ากรีซทิ้งยูโรโซน ก็คือตายจากยูโรโซน ส่วนบรรดาผู้ข่มเหงไม่ช้าผลกรรมก็ตามทัน

    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    32. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    ในชาติก่อนนายซิปราส (Tsipras)นายกรัฐมนตรีของกรีซอาจจะเกิดเป็นศรีปราชญ์ กวีเอกของอยุธยาสมัยพระเจ้านารายณ์มหาราชก็เป็นได้
    เพราะดูชื่อแล้ว คล้ายๆกันระหว่างซิปราส และศรีปราชญ์ นอกจากนี้แล้วยังอยู่ในบ่วงชะตากรรมคล้ายๆกัน
    ศรีปราชญ์เป็นกวีที่ป๊อปมาก เพราะว่าเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน แต่เจ้าชู้ ไปแสดงท่าทีอี๋อ๋อกับนางสนมของพระนารายณ์จนเกือบจะโดนโทษประหารชีวิต แต่มีการลดโทษโดนเนรเทศให้ไปอยู่ที่นครศรีธรรมราช
    ที่นครศรีธรรมราช ศรีปราชญ์เป็นที่โปรดปรานของเจ้าเมือง แต่นิสัยเจ้าชู้ยังไม่หาย ไปเกี้ยวพาราสีอนุภรรยาของเจ้าเมืองนครศรีฯ เมื่อเจ้าเมืองนครศรีฯทราบเรื่องถึงกับโกรธมาก สั่งประหารชีวิตศรีปราชญ์
    เป็นความซวยของศรีปราชญ์ เพราะว่าถ้าศรีปราชญ์จีบเมียหลวงของท่านเจ้าเมืองนครศรีฯ อาจจะไม่ทำให้เจ้าเมืองนครศรีฯโกรธขนาดนี้ ถึงกับเอาให้ตาย
    ศรีปราชญ์บอกว่าตัวเองไม่ผิด ก่อนที่จะโดนเพชฌฆาตประหารด้วยดาบคมด้วยการตัดคอ เขาเขียนบทโคลงสุดท้ายบนพื้นดินว่า
    ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
    เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
    เราผิดท่านประหาร เราชอบ
    เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนี้ คืนสนอง
    วันหนึ่ง พระนารายณ์แต่งโคลงติดขัด ต้องการเรียกตัวศรีปราชญ์กลับมาช่วยแต่ง พอทราบข่าวว่าศรีปราชญ์โดนเจ้าเมืองนครศรีฯฆ่าตายแล้ว ทรงพระพิโรธมาก เพราะว่ากระทำการโดยพละการ เพราะว่าศรีปราชญ์เป็นคนของพระองค์ สั่งให้ประหารชีวิตเจ้าเมืองนาครฯให้ตายตกไปตามศรีปราชญ์
    ดาบนั้นจึงคืนสนองจริงๆ ตามคำสาปแช่งของศรีปราชญ์
    ย้อนกลับมาชาตินี้ นายซิปราสเป็นคนหนุ่มที่ป๊อปมากในประเทศกรีซ อายุ40ปีอาจจะแก่กว่าศรีปราชญ์หน่อยในชาติที่แล้ว เขากำลังเผชิญกับพรรคพวกหรือแก๊งค์ทวงหนี้ของเจ้าเมืองนครศรีฯ ที่กลับชาติมาเกิดคือพวกไอเอ็มเอฟ ธนาคารกลางยุโรปและสหภาพยุโรป
    นายซิปราสมีความตั้งใจดี ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติกรีซ แต่โดนกลั่นแกล้งทางการเมือง เหมือนที่ศรีปราชญ์โดน เพราะว่าเก่ง จึงมีคนอิจฉาริษยา ต้องการฆ่าให้ตาย
    หลังจากเจรจารอบสุดท้ายกับแก๊งทวงหนี้เจ้าเมืองนครศรีฯคืนชีพแล้ว นายซิปราสรู้ตัวว่า พวกนี้จ้องเอาเขาให้ตายทางการเมืองไปเลย จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างให้ใครมากระด้างกระเดื่องท้าทายอำนาจของพวกตนได้อีก
    สมัยนั้นศรีปราชญ์เอาไม้ขีดเขียนโคลงสี่สุภาพบนพื้นดิน สมัยนี้นายซิปราสเขียนข้อความลงในทวิทเตอร์บนมือถือ
    นายซิปราสเขียนทวิทเตอร์ว่า:
    "การปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศไอร์แลนด์หรือโปรตุเกสในมาตรการเทียบเท่ากัน"
    "จุดยืนที่แปลกนี้ ดูเหมือนจะชี้ว่า (เจ้าหนี้)ไม่มีความสนใจที่จะบรรลุข้อตกลง หรือมีกลุ่มผลประโยชน์กำลังหนุนหลังอยู่"
    ถ้าแก๊งค์ทวงหนี้ของเจ้าเมืองนครศรีฯฆ่านายซิปราสให้ตายทางการเมืองด้วยการบี้ให้ตกกระป๋องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกรีซได้ เห็นทีนายซิปราสต้องเขียนข้อความทวิทเตอร์ เหมือนกับที่ศรีปราชญ์ได้เขียนโคลงอมตะเอาไว้ก่อนตายว่า:
    ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
    กรีซก็ยูโร หนึ่งบ้าง
    เราเบี้ยวท่านมาล้าง เราชอบ
    เราบ่เบี้ยวท่านมาล้าง ล่มจ่มนี้คืนสนอง
    (คุณ ประชาชน รักชาติช่วยแต่ง)
    แปลเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า:
    "แม่งมันจะเอาอะไรวะ จะให้ตัดรายจ่ายโน้นโน้นรายจ่ายตัดนี้ กูก็ตัดจนพุงยุบเหลือกระดูกแล้ว จนถึงขนาดไม่มีอะไรให้แดก แล้วยังจะมาเอาอะไรอีก ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายโว้ย ถ้ากรีซล่มจม ขอให้ยุโรปทั้งทวีปพังพินาศไปด้วย"
    ต้องคอยดูว่านายซิปราสต้องไปถึงจุดที่ต้องโดนประหารทางการเมือง และต้องล้างแค้นด้วยการสาปแช่งแก๊งค์ทวงหนี้ของเจ้านครศรีฯที่ตามจองล้างจองผลาญศรีปราชญ์ข้ามภาพข้ามชาติให้ฉิบหายวายวอดไปตามกันหรือไม่
    thanong
    25/6/2015
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้านายซิปราส (Tsipras)นายกรัฐมนตรีของกรีซ ยืนยันทำตามความตั้งใจเดิม ไม่โดนบรรดาเจ้าหนี้ในยูโรหลอก เขาก็จะไม่โดนทำให้เสียอนาคต ฆ่้าให้ตายทางการเมืองแน่นอน เพราะเขายังมีทางเลือกอื่น ซึ่งเขาและประเทศเขาจะเลือกหรือเปล่า แต่ถ้าเขาเลือกทรยศตัวเอง และประชาชนที่เลือกเขามา เขาก็สมควรตายในทางการเมืองได้เลย เพราะมาตรการที่ทางเจ้าหนี้นำมาใช้ ยังไงประชาชนในประเทศส่วนใหญ่ก็ต้องตายด้วยมาตรการเหล่านี้อยู่แล้ว การไล่ข้าราชการออก นักศึกษาไม่ได้เรียน ฯลฯ ถึงจะได้เงินมาโดยการจำยอมเจ้าหนี้ ก็มีจ่ายแค่เฉพาะบางส่วนแต่บางส่วน และคนฐานะดีก็อาจยังคงชีวิตสะดวก สบายท่องเที่ยวไปอย่างเสีในยูโรโซน โดยไม่ต้องสนใจคนอื่นๆ ในประเทศว่าจะเป็นอย่างไร และจากการที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการทรยศของนายซิปราส (Tsipras) ถ้าเขาเลือกทางนั้น ความนิยมในตัวนายซิปราส (Tsipras)นายกรัฐมนตรีของกรีซก็ลดน้อยลง และอาจจะตายไปในทางการเมืองได้จริงๆ เหมือนกับสุภาษิตที่ว่า คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้

    [​IMG]

    คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้” เป็นคำที่มีเหตุผลมากถ้าเข้าใจความหมายเชิงอุปาอุปมัยของภาษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทยสมัยก่อนนั้นยึดพระพุทธศาสนาเป็นหลักยึดของจิตใจ ถ้าศึกษาดี ๆ จะเห็นว่าหลายคำนั้นล้วนมีความหมามย หรือมีที่มาเพื่อสื่อถึงความเข้าใจทางพุทธศานาอย่างลึกซึ้ง
    มาดูคำว่า “ไฟ” ในที่นี้ หมายถึง สิ่งที่ทำให้จิตใจเรารุ่มร้อน ความรู้สึกที่เผาใจเราจนไม่เป็นสุขหรือทำให้เป็นทุกข์นัั่นเอง ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ และความหลง ไฟนี้ถ้าใครมีอยู่กับตัวก็จะทุกข์ทรมาน อาการดีดิ้นของใจที่เหมือนคนโดนเผา หรือเหมือนคนบ้า (บ้ายศ สมบัติ ชื่อเสียง งาน ฯลฯ) ส่วน “น้ำ” นั้นเป็นสิ่งที่เย็น ทำให้เพลิดเพลิน หรือ จะเรียนกว่า สิ่งดีงามก็ไม่ผิด แต่ถ้าใครที่เผลอติดสิ่งดี ๆ ที่ตัวเองทำจนเกินไปก็อาจจะเผลอไปทำร้ายจิตใจคนอื่นได้โดยไม่รู้ตัว เพราะเหตุหลงความดีจนยกตัวเองเหนือผู้อื่น
    ฉะนั้น คำว่า “คนดี” จึงหมายถึง ผู้ที่รู้เท่าทัน น้ำ และ ไฟ ดังกล่าว เมื่อเขาหรือเธอรู้เท่าทัน น้ำ และ ไฟ ที่ปรากฎอยู่รอบตัวตลอดเวลาด้วยความมีสติ แม้พวหเขาจะเจอเหตุการณ์เลวร้ายใด ๆ ก็ตาม ไม่ว่าจากมนุษย์ด้วยกัน จากภัยธรรมชาติ หรือแม้จะถูกทำร้ายร่างกายอย่างสาหัส แต่เรื่องร้ายเหล่านั้นก็ไม่อาจทำร้ายจิตใจของเขาได้ ใจเขายังคงรู้สึกสงบและร่มเย็นไม่หลงไหลไปตามกระแสน้ำและไฟต่าง ๆ ที่ลูกโชนตามโลกภายนอก…..

    Thai proverb : Land on your feet/ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตามดูบทสนทนา 2 ตอน “ปราโมทย์ นาครทรรพ” สอนเชิงการทูต “ดับเบิลยู. แพทริก เมอร์ฟีย์” ถึงกับอึ้ง! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 11:05 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:31 น.)

    [​IMG]
    @วันที่ 23 มิ.ย. นายดับเบิลยู. แพทริค เมอร์ฟี อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้โพตส์ทวิเตอร์ “แสดงความเสียใจ” โดยระบุว่า ได้เดินทางเข้าขอโทษ และมอบบัตรเชิญใหม่เพื่อร่วมงานฉลองวันชาติสหรัฐ ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตามดูบทสนทนา 2 ตอน “ปราโมทย์ นาครทรรพ” นักวิชาการอิสระ สอนเชิงการทูต “ดับเบิลยู. แพทริก เมอร์ฟีย์” อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา หลังเข้าขอโทษ และสำนึกผิด ปมคำนิยาม “Anti-Thaksin Activist” ย้ำไม่อยากให้ชาวไทยกับชาวอเมริกันโกรธหรือเกลียดกัน เปิดคำถามเด็ด! “สถานทูตมะกัน” เชิญ “พล.อ.ประยุทธ์” ร่วมงานหรือไม่ ทูตมะกันถึงอึ้ง! เจอคำพูด “ถ้าอเมริกันเป็นอย่างนี้ ถ้าผมมีอำนาจจะเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากวอชิงตัน”

    วันนี้ (25 มิ.ย.) มีรายงานว่า ภายหลังวันที่ 23 มิ.ย. นายดับเบิลยู. แพทริก เมอร์ฟีย์ อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้โพสต์ทวิตเตอร์ “แสดงความเสียใจ” โดยระบุว่าได้เดินทางเข้าขอโทษ และมอบบัตรเชิญใหม่เพื่อร่วมงานฉลองวันชาติสหรัฐฯ ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย หลังจากที่ระบุชื่อตำแหน่งของนายปราโมทย์ว่า “Anti-Thaksin Activist” หรือนักเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณไปแล้วนั้น

    ศ.ดร.ปราโมทย์ นาครทรรพ นักรัฐศาสตร์และนักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Pramote Nakornthab” เปิดเผยบทสนทนาบางช่วงว่า ได้สนทนากับทูตอเมริกัน 23 มิถุนายน 2558

    โดยเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ศ.ดร.ปราโมทย์เขียนว่า “เพื่อนๆ คงอยากทราบว่าผมพูดอะไรกับทูตอเมริกันบ้าง ผมขอเล่าให้ฟังบางตอน เพื่อจะทำให้สังคมเกิดความเข้าใจ และผู้รับผิดชอบด้านการทูตทั้งสองฝ่าย คือ ไทย-อเมริกัน-ได้เจริญสติและปัญญาบ้างไม่มากก็น้อย

    1. ผมบอกท่านทูตว่าผมโปรอเมริกัน ผมไม่อยากให้ชาวไทยกับชาวอเมริกันโกรธหรือเกลียดกัน อเมริกาซึ่งเป็นบ้านที่ 2 ของผมจะกลายเป็นบ้านที่หนึ่งทันที หากครั้งแล้วครั้งเล่าไทยก็ก็เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ มิใช่เป็นเพราะว่าผมมีลูกเป็นคนอเมริกัน แต่เป็นเพราะว่าผมเกลียดเผด็จการ และผมรู้ดี และเสียดายที่อเมริกันไม่รู้ว่า เผด็จการเลือกตั้งในเมืองไทยนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าเผด็จการอื่นที่ไทยเคยมี

    2. ผมยกตัวอย่าง Armed Forces Movement ของโปรตุเกสที่ขับไล่เผด็จการเลือกตั้งพลเรือน ถ้ากองทัพโปรตุเกสไม่ทำอย่างนั้น ป่านนี้รับรองว่ายูโรไม่เกิด และวันนี้ยุโรปไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย ทำไมเรื่องนี้อเมริกันและยุโรปจึงไม่เข้าใจ

    3 คำว่า coup เป็นตัวอย่างความยากจนของภาษาอังกฤษ ที่ไม่สามารถแสดงภาพการยึดอำนาจของเมืองไทยได้ เพราะการยึดอำนาจในไทยไม่เหมือน coup ที่ไหนๆซึ่งรบราฆ่าฟันกันเหมือนไม่ใช่มนุุษย์ การยึดอำนาจของเมืองไทยกระสุนนัดเดียวก็ไม่ได้ยิง แม้สักหนึ่งชีวิตก็ไม่เสีย หัวคะแนนฆ่ากันตายในวันเลือกตั้งเสียอีกที่มีเป็นประจำ

    จบบทสนทนาชุดอารัมภบท ขอผัดเป็นพรุ่งนี้ครับ ผมทนง่วงไม่ไหว ความจริงผมหลับไปนานแล้ว คุณหมอกระแส ชนะวงศ์ โทร.มาปลุกเพื่อจะถามเรื่องบัตรเชิญสถานทูต ผมเลยนอนไม่หลับ ผมถามคุณหมอ อดีต รมว.กระทรวงต่างประเทศ และรมต.สำนักนายกฯ รัฐบาลทักษิณว่าได้รับเชิญวันชาติอเมริกันครั้งนี้ไหม คุณหมอตอบว่าไม่”

    ขณะที่วันที่ 25 มิ.ย.นี้ ศ.ดร.ปราโมทย์เขียนว่า “ตอนที่ 2 ผมต้องขอโทษที่มาช้าไปเป็นวัน เมื่อวานนี้เหนื่อยมาก เพราะมีรายการภารกิจเต็มเหยียดตั้งแต่เช้าจนเกือบสามทุ่ม เวลานอน จนต้องนอนช้าไปกว่าชั่วโมง ผมเชื่อว่าทูตจะต้องรายงานกลับไปวอชิงตันว่าท่านพูดว่าอย่างไรกับผมบ้าง และผมสันนิษฐานว่า ทางสถานทูตคงติดตามอ่านเฟซบุ๊กของผม ผมจึงยินดีมาก และคอยอ่านรายงานของท่านทูตเช่นเดียวกัน ความลับไม่มีในโลก ผมจะย่อการสนทนาตอนที่ 2 นี้เป็นหัวข้อสั้นๆ ผมจะบันทึกรายละเอียดเก็บไว้ทีหลังดังนี้

    การสนทนาตอนที่ ๒ เรื่องการจ่าหน้าบัตรเชิญ

    ท่านทูตบอกว่าเสียใจจริงๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้นต้องขอโทษในความผิดพลาด ขอรับรองว่าไม่มีเจตนาเลยเสียใจจริงๆ ผมตอบว่าผมไม่โกรธหรือถือโทษเสมียนหรือเจ้าหน้าที่คนใดๆ ในสถานทูตหรอก เพราะผมเข้าใจดีว่าต้องทำงานอย่างไร และการทำงานผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมโทษความคิดหรือคำสั่งหรือนโยบายที่มาจากเบื้องบน ที่ทำให้เกิด data base ที่แบ่งแยกคนไทยออกเป็นพวกๆ เช่น ผมเป็นพวกนักเคลื่อนไหวแอนตี้ทักษิณ เป็นต้นนั้น ผมรับไม่ได้ และขอเตือนให้ทราบ ท่านทูตตอบว่ารับรองว่าไม่มี data base และไม่มีการแบ่งแยกคนไทย เขาถือว่าทุกฝ่ายเป็นมิตรทั้งสิ้น เป็น broad spectrum คือ การรวมคนไทยอย่างกว้างขวาง รัฐบาลอเมริกันถือว่าเป็นมิตรกับคนไทยทุกคน ขอให้เชื่อ

    ผมตอบว่าขอได้ แต่ให้ไม่ได้ การกระทำที่ผ่านๆ มาของสถานทูตอเมริกัน นึกว่าผมไม่รู้อย่างนั้นหรือ ผมรู้เพราะผมเรียนการเมืองอเมริกันมามากพอที่จะสอนคนอเมริกันได้ ผมรู้มากกว่าที่ผมพูด บางอย่างผมก็ไม่พูด เพราะผมไม่อยากให้คนไทยกับคนอเมริกันเกลียดกัน ผมถือว่าคนไทยโปรอเมริกันมากกว่าใครๆ และผมไม่ต้องการให้สัมพันธภาพอันดีระหว่างสองประเทศที่ยืนยาวมาถึง 80 ปีต้องเปลี่ยนแปรไป ผมไม่อยากเห็นทูตอเมริกันถูกปาดหน้าอย่างในเกาหลีใต้ หรือถูกขู่ฆ่าทุกวันอย่างในญี่ปุ่น บางอย่างผมจึงไม่พูดและไม่เผยแพร่ เพราะไม่ต้องการเห็นคนไทยมาเยี่ยวรดธงอเมริกันหรือมาพังรั้วสถานทูต ท่านทูตก็ยืนยันแล้วยืนยันอีกว่าเป็นอย่างที่พูด แต่เมื่อมันเกิดอย่างนี้ก็ไม่สบายใจมากจึงต้องตามมาขอโทษผมด้วยตนเอง

    ผมก็บอกท่านว่าไม่จำเป็นเลย และขอโทษท่านทูตด้วยที่ไม่สามารถต้อนรับได้ที่บ้าน หรือแม้แต่โรงแรมใกล้ๆ สถานทูตเมื่อเช้านี้ ทำให้ท่านทูตต้องวิ่งตามมาถึงสนามบิน ไม่ได้ตั้งใจทำให้ลำบากเลย ท่านทูตตอบว่าไม่เป็นไรเลย เป็นหน้าที่ของท่าน ด้วยความจริงใจจริง และยืนยันว่าความผิดพลาดเฉพาะเรื่องผมนั้นผิดพลาดจริง แต่สถานทูตเป็นมิตรกับคนไทยทุกกลุ่ม ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง กลุ่มนั้นก็เชิญ กลุ่มนี้ก็เชิญ ข้าราชการก็เชิญ คนในรัฐบาลก็เชิญ และอยากเชิญผมด้วยใจจริง เชิญด้วนตนเอง หวังว่าผมจะไปร่วม

    ผมบอกว่าผมไปไม่ได้ดอก เพราะผมจะไปที่อื่นอยู่แล้ว (ความจริงผมไม่ได้โกหก) แต่ผมไม่สำคัญหรอก คนอื่นสำคัญกว่า และจะพิสูจน์ความจริงใจของนโยบายอเมริกัน เช่น การเชิญนายกรัฐมนตรี เป็นต้น เพราะฉะนั้นช่วยตอบผมด้วยว่าสถานทูตเชิญพลเอกประยุทธ์หรือไม่

    เขาตอบเลี่ยงๆ อ้ำๆ อึ้งๆ ว่าเชิญเยอะแยะหลายคน รวมทั้งผู้ใหญ่หลายคน ผมบอกว่าถามเป็นครั้งที่สองนะ คำถามก็ง่ายๆ ตรง ช่วยตอบตรงๆ ว่าเชิญพลเอกประยุทธหรือเปล่า ผมก็ได้คำตอบครั้งที่สองคล้ายๆ คำตอบครั้งที่หนึ่งอีกว่าอย่าให้เขาระบุชื่อว่าเชิญใครบ้างได้ไหม ขอรับรองว่าเชิญมากทั่วถึงจริงๆ ผมจึงคาดคั้นว่า ผมขอถามซ้ำนะ ขอถามซ้ำเป็นครั้งที่สามว่าเชิญพลเอกประยุทธ์หรือไม่ ท่านทูตต้องตอบตรงๆ ตอบโดยไม่ต้องใช้คำพูดก็ได้ ผมมีวิธีอ่านคำตอบ ผมเข้าใจว่าผมอ่านคำตอบที่ท่านทูตไม่ยอมเปล่งวาจาว่าไม่ได้เชิญ ผมจึงบอกท่านทูตว่า นั่นไงเห็นไหมล่ะ กระทรวงต่างประเทศคุณ และรัฐบาลคุณเป็นเสียยังงี้ นี่ดีเป็นพลเอกประยุทธ์นะ ถ้าเป็นผม ผมจะทำยังไงรู้ไหม

    ท่านทูตไม่ว่าอะไร ผมเลยบอกว่า ผมน่ะอยากบอกรัฐบาลของผมว่า ถ้าอเมริกันเป็นอย่างนี้ ผมจะเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับจากวอชิงตัน ความจริงไม่มีเหตุผลอะไรที่ทูตไทยจะแจ้งไปวอชิงตันเลย ในเมื่อทูตอเมริกาก็ยังไม่มี และไม่มา (การทูตไทยก็ตกต่ำมาก ชอบทำตัวให้เขาดูถูกยังงี้ ผมไม่ได้บอกเขานะครับ ผมพูดกับพวกเรา) และถ้าเป็นผม ผมจะบอกรัฐบาลอเมริกาว่า ถ้ายูยังมีท่าทีแบบนี้ เอกอัครราชทูตของอเมริกันก็อย่าเพิ่งส่งมา

    วันนี้ขอจบแค่นี้นะครับ วันนี้ทั้งวันอีก แขกรายแรกจะมาถึง 7.45 น. ซึ่งปกติเป็นเวลาที่ผมหลับสบายหลังจากกลับไปนอนอีกครั้งตอนหกโมงเช้า สวัสดีครับ ขอให้พวกเราจงรักษาศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทย เมืองไทยเป็นเมืองสำคัญของโลกก่อนที่อเมริกาจะเกิดตั้งหลายร้อยปี ถ้าเทียบชีวิตา 239 ปีของอเมริกา ก็คือเด็กหัวเท่ากำปั้นดีดีนี่เอง เราจะต้องช่วยกันสั่งสอนมิให้ยะโสกับผู้ใหญ่ แต่ทำด้วยความรักและเมตตาครับ มิใช่เกลียดชัง เหมือนกับที่ผมพูดกับท่านทูตด้วยความจริงใจและเปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร”



     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนุ่มใหญ่ภูฏานถูกรวบหลังลักลอบขน “ทองแท่ง” เข้าอินเดีย “กษัตริย์จิกมี” ย้ำห้ามช่วยเหลือ หากผิดจริง ชี้ต้องเคารพกฎหมายชาติเพื่อนบ้าน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 08:28 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:22 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - หนุ่มใหญ่ชาวภูฏานถูกรวบตัวคาสถานีรถไฟกรุงนิวเดลีของอินเดีย หลังลักลอบขน “ทองคำ” มูลค่ามหาศาลมาจากประเทศบ้านเกิด ด้าน “กษัตริย์จิกมี” ย้ำห้ามช่วยเหลือหากผิดจริง ชี้ต้องเคารพกฎหมายชาติเพื่อนบ้าน

    รายงานข่าวระบุว่า นายคินเล ดอร์เจ วัย 48 ปีซึ่งเป็นพลเมืองของภูฏาน ถูกจับกุมตัวเมื่อมาถึงสถานีรถไฟกรุงนิวเดลีของอินเดียได้ไม่นาน หลังจากเจ้าหน้าที่จากสำนักงานข่าวกรองทางภาษีของอินเดีย (ดีอาร์ไอ) ตรวจพบว่าหนุ่มใหญ่ชาวภูฏานรายนี้พยายามลักลอบขนทองคำแท่งเข้าประเทศ

    เบื้องต้น รายงานของเจ้าหน้าที่ดีอาร์ไอชุดจับกุมระบุว่า ดอร์เจได้ซุกซ่อนทองคำแท่งจำนวน 17 ก้อน น้ำหนักก้อนละ 1 กิโลกรัมโดยผูกติดเอาไว้กับเอวและคลุมทับด้วยชุดที่เขาสวมใส่อีกชั้นหนึ่ง หวังตบตาเจ้าหน้าที่ของอินเดีย

    จากการประเมินของสำนักงานข่าวกรองทางภาษีของอินเดียพบว่า หากทองคำแท่งล็อตนี้สามารถเล็ดลอดการจับกุมไปได้ จะมีมูลค่าราว 44.2 ล้านรูปี (คิดเป็นเงินไทยราว 23.4 ล้านบาท) เมื่อนำออกไปปล่อยในตลาด

    รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานข่าวกรองทางภาษีของอินเดียได้รับข้อมูลจากสายสืบของตนและได้เริ่มติดตามหนุ่มใหญ่ชาวภูฏานรายนี้ตั้งแต่ที่เขาเดินทางข้ามชายแดนเข้ามายังรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดียก่อนขึ้นรถไฟมุ่งหน้ามายังกรุงนิวเดลีซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการจับกุม

    จนถึงขณะนี้คินเล ดอร์เจยังคงยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเขาได้รับทองคำแท่งทั้ง 17 ก้อนนี้มาจากชาวจีนคนหนึ่ง แต่ยังไม่ยอมปริปากบอกเจ้าหน้าที่ของอินเดียเกี่ยวกับเงินค่าจ้างที่จะได้รับในการลักลอบนำทองคำเข้ามาในแดนโรตีในครั้งนี้ และยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับ “ผู้รับปลายทาง” ของทองคำล็อตนี้ด้วยเช่นกัน

    ทางการอินเดียระบุว่า นี่ถือเป็น “ครั้งแรก” ที่พบว่ามี “พลเมืองภูฏาน” ถูกจับกุมเพราะการลักลอบขนทองคำเข้าไปยังอินเดีย ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตลาดการค้าทองคำที่ใหญ่ที่สุดของโลก

    ข่าวการถูกจับกุมของดอร์เจที่อินเดียได้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่ประชาชนชาวภูฏานให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะที่ผ่านมา แทบไม่เคยมีพลเมืองภูฏานถูกจับกุมในต่างแดนด้วยข้อหาร้ายแรงเช่นนี้มาก่อน

    ล่าสุดมีรายงานว่าสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุกองค์พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุกของภูฏาน ทรงมีรับสั่งให้รัฐบาลภูฏานภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีเชริง ต๊อบกาย เร่งติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด แต่ทรงย้ำห้ามให้การช่วยเหลือพลเมืองภูฏานที่ถูกจับกุม หากพบว่ากระทำความผิดจริง และขอให้รัฐบาลภูฏานเคารพในกระบวนการยุติธรรมของประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย

    ˹
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ราคาน้ำมันลง สรุปมาจากข่าว จากะข้อมูลสหรัฐฯ พบกำลังผลิตภายในประเทศยังสูงลิ่ว โดยมีกำลังผลิตภายในประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 มิถุนายน ดีดตัวขึ้นเป็น 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสหรัฐได้ผลิตให้สินค้า(น้ำมัน) ล้นตลาดมากๆ (อุปทานมากๆ) ก็จะทำให้ราคาน้ำมันก็ตกไปเอง เพราะเขาคงรู้ผลลัพธ์ในการเจรจาหนี้กรีซอยู่แล้ว ว่าล้มเหลว และอาจมีผลทำให้ราคาน้ำมันพุ่ง เลยมีการเดินมาตราการลดราคาน้ำมัน โดยการอัดฉีดปริมาณการผลิตน้ำมันให้สูงปรี๊ด เพื่อให้ปัจจัยในการลดราคาน้ำมัน มีน้ำหนักกว่าปัจจัยเพิ่มราคาน้ำมัน ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาน้ำมันขยับตัวลดลง แต่ไม่ต้องห่วงน่ะครับสต๊อกน้ำมันที่ผลิตเกินก็คงเก็บอยู่ในสหรัฐ และซาอุดิอาระเบีย เมื่อไหร่จัดการรัสเซียได้สินค้าน้ำมันที่ผลิตไว้ก็พร้อมขายทั่วโลกด้วยราคาที่ปรับตัวขึ้นอีก 100 ถึง 1000 %
    แต่ประเทศไหนก็อย่าไปคิดจะทำกำไรกับการกักตุนน้ำมันของเขาเชียว เพราะถ้าเขารู้ ประเทศนั้นคงโดนจัดการ

    น้ำมันลง ทองคำปิดลบ-หุ้นสหรัฐฯ ร่วงหลังเจรจาหนี้กรีซเจอปัญหา
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 05:00 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:19 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันในวันพุธ (24 มิ.ย.) ขยับลงพอสมควร หลังข้อมูลสหรัฐฯ พบกำลังผลิตภายในประเทศยังสูงลิ่ว ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบแรง จากสัญญาณปัญหาใหม่ของการเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกา กดดันให้ทองคำปรับลดในกรอบๆ

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 74 เซ็นต์ ปิดที่ 60.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 96 เซ็นต์ ปิดที่ 63.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ พบว่า กำลังผลิตภายในประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 มิถุนายน ดีดตัวขึ้นเป็น 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้อีกด้านหนึ่งคลังน้ำมันดิบสำรองในสัปดาห์เดียวกัน จะลดลง 4.9 ล้านบาร์เรล แต่ก็ยังสูงถึง 463 ล้านบาร์เรล ใกล้ๆ ระดับสูงสุดตลอดกาล

    จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเลยที่บ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐฯ กำลังตัดลดปริมาณการผลิต แม้ต้องเผชิญกับภาวะราคาที่ตกต่ำ

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ (24 มิ.ย.) ขยับลงแรงตามตลาดทุนอื่นๆ ของยุโรป จากสัญญาณปัญหารอบใหม่ของการเจรจาระหว่างกรีซและเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติซึ่งมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้เอเธนส์ผิดนัดชำระหนี้

    ดาวโจนส์ ลดลง 178.00 จุด (0.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,966.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 15.62 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,108.58 จุด แนสแดค ลดลง 37.68 จุด (0.73 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,122.41 จุด

    น้ำเสียงการเจรจาระหว่างกรีซกับเหล่าเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเคร่งเครียดหนัก ด้วยนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ แสดงความไม่พอใจต่อข้อเสนอแย้งของเหล่าเจ้าหนี้ต่อแผนปฏิรูปของรัฐบาล

    ปีเตอร์ คาร์ดิลโล ประธานฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของร็อกเวลล์ โกลบัล แคปิตอล ให้ความเห็นว่าประเด็นกรีซเป็นตัวถ่วงตลาด แต่ก็ชี้ว่ามีนักลงทุนบางส่วนตัดสินใจขายออกมาก่อนสิ้นสุดไตรมาส 2 ในวันอังคารหน้า

    ส่วนราคาทองคำในวันพุธ (24 มิ.ย.) ปิดลบเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน นักลงทุนทบทวนข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาแรกของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดกรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ขณะเดียวกันก็จับตาการเจรจาแก้วิกฤตหนี้กรีซ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,172.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ข้อมูลล่าสุดพบว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสแรก หดตัวเพียงร้อยละ 0.2 น้อยกว่าจากที่ประมาณการณ์คราวก่อนที่ระบุว่าน่าจะหดตัวถึงร้อยละ 0.7 ปัจจัยนี้ส่งผลให้นักลงทุนจับตาก้าวย่างต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เซียร์ราลีโอนวิตก ไวรัสมรณะอีโบลาหวนคืนสู่เมืองหลวงอีกครั้ง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2558 23:29 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:09 น.)

    [​IMG]

    @ชาวบ้านในเซียร์ราลีโอนอ่านป้ายคำแนะนำเกี่ยวกับอีโบลา ขณะที่ไวรัสมรณะชนิดนี้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งในเมืองหลวง

    เอเอฟพี - กรุงฟรีทาวน์ เมืองหลวงของเซียร์ราลีโอน ต้องหวาดวิตกกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ของอีโบลา หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 คนรวด กัดเซาะความหวังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่เชื่อว่าเมืองซึ่งมีประชาชนหนาแน่นถึง 1.2 ล้านคนแห่งนี้ เอาชนะไวรัสมรณะนี้ได้แล้ว

    ศูนย์ตอบสนองอีโบลาแห่งชาติ (เอ็นอีอาร์ซี) ของรัฐบาลเซียร์ราลีโอน บอกกับเอเอฟพีเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร (23 มิ.ย.) ว่าพบผู้ติดเชื้อ 3 รายในเขตสลัมแมกาซีน วาร์ฟ ทางตะวันออกของกรุงฟรีทาวน์ ราว 3 สัปดาห์หลังพบผู้ติดเชื้อรายสุดท้ายภายในเมืองหลวงแห่งนี้

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยว่า หลังจากผลตรวจผู้ติดเชื้อใหม่รายแรก ออกมาเป็นบวกเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ตั้งแต่นั้นก็มีประชาชน 6 คนต้องอยู่ภายใต้การสังเกตอาการ ท่ามกลางความกังวลว่ามันอาจนำไปสู่การแพร่ระบาดขนาดย่อมๆ ในชุมชนชาวประมงที่อยู่กันอย่างแออัด มีสุขอนามัยที่ย่ำแย่และปกติแล้วมักเผชิญการแพร่ระบาดของมาลาเรีย และอหิวาตกโรคอยู่เป็นประจำ

    ไลบีเรีย ได้รับประกาศให้ประเทศปลอดเชื้ออีโบลาในเดือนพฤษภาคม แต่ความหวังว่าชาติเพื่อนบ้านอย่างเซียร์ราลีโอน และกินี จะเดินตามรอยอย่างรวดเร็วมีอันต้องพังทลายลงเมื่อเร็วๆ นี้ ด้วยยอดผู้ติดเชื้อใน 2 ชาติดังกล่าวยังคงลอยตัวอยู่ระดับสูงที่สัปดาห์ละราวๆ 25 คน

    ตัวเลขดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางคำเตือนเมื่อช่วงต้นเดือนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ย้ำว่าสถานการณ์ตลอดทั้งเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ไวรัสมรณะชนิดนี้แค่หยุดชะงักไปเท่านั้น “ท้องถนนอันขรุขระที่มุ่งสู่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์จะยังคงทดสอบข้อจำกัดด้านความแน่วแน่และความอดทนของเรา แต่ผมอยากร้องขอความมุ่งมั่นและความเข้าอกเข้าใจจากพวกคุณ ในขณะที่เรากำลังมุ่งหน้าสู่บทสุดท้ายของการสู้รบครั้งนี้” ปาโล คอนเตห์ หัวหน้าศูนย์ตอบสนองอีโบลาแห่งชาติของเซียร์ราลีโอนกล่าว

    จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า จนถึงวันที่ 21 มิถุนายน มีผู้ติดเชื้ออีโบลาในกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย รวมทั้งสิ้น 27,443 คน ในนั้นเสียชีวิตถึง 11,207 คน โดยผู้เสียชีวิตเกือบครึ่ง มากกว่า 3,900 อยู่ในเซียร์ราลีโอน


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คูเวตคาดราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก เหตุขุดเจาะ-สต็อคลดลง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2558 17:14 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - รัฐมนตรีน้ำมันของคูเวตเชื่อว่า ราคาน้ำมันจะขยับตัวสูงขึ้นอีก โดยได้รับอานิสงค์จากการสต็อกน้ำมันและการขุดเจาะที่ลดลง

    "เรามาถึงจุดที่ดูเหมือนว่าราคาน้ำมันจะไม่ลดลงอีกแล้ว" สำนักข่าวเคยูเอ็นเอ รายงานคำพูดของ อาลี อัล-โอมาอีร์ รัฐมนตรีน้ำมันคูเวต เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

    โอมาอีร์ ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ทิ้งความคิดที่ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนเป้าหมายการผลิต ทำให้ได้เห็นการลดลงของปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาดสากล ซึ่งช่วยผลักดันให้ราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการลดจำนวนการขุดเจาะและการเก็บสต็อคน้ำมันดิบ

    โอมาอีร์ บอกด้วยว่า หมวดธุรกิจน้ำมันได้ร้องขอเงินทุนเพิ่มกว่า 1 พันล้านดีนาร์ สำหรับโรงกลั่นแห่งใหม่ หลังจากตัวเลขเงินประมูลสูงเกินกว่างบประมาณที่ประเมินไว้

    เขาบอกด้วยว่า ได้ประเมินค่าใช้จ่ายของโรงกลั่นน้ำมัน อัล-ซูร์ ที่สามารถกลั่นได้ 615,000 บาร์เรลต่อวัน ว่าตอนนี้เกิน 5 พันล้านดีนาร์แล้ว โดยตัวเลขการประเมินใหม่นี้จะมีการนำเสนอต่อสภาปิโตรเลียมสูงสุด เพื่อขอรับการอนุมัติเงินทุนเพิ่มเติม

    เมื่อรวมเข้ากับโครงการปรับปรุงโรงกลั่นอีก 2 แห่ง คูเวตวางแผนไว้ว่าจะเพิ่มผลผลิตน้ำมันที่กลั่นแล้วให้เป็น 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิม 930,000 บาร์เรลต่อวัน


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไอเอสเสริมการป้องกัน “เมืองหลวงคอลิฟะห์” ในซีเรีย หลังเคิร์ดรุกคืบประชิด
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2558 18:20 น.

    [​IMG]

    @นักรบกลุ่มวายพีจีกำลังดึงสติกเกอร์ของกลุ่มไอเอสออกในเมืองเทลอับยาดของเขตปกครองรอกเกาะห์ (16 มิ.ย. 2015)

    รอยเตอร์ – กลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ดูเหมือนว่ากำลังเสริมการป้องกันรอบเมืองรอกเกาะห์อันเป็นที่มั่นสำคัญของพวกเขาในซีเรีย หลังจากที่เสียพื้นที่ให้กับกองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ดในสัปดาห์นี้ โฆษกของกองกำลังวายพีจีของเคิร์ด ระบุในวันนี้ (24)

    การที่กองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ดรุกคืบลึกเข้าสู่ศูนย์กลางของดินแดนกลุ่มไอเอสกำลังพลิกกลับสถานการณ์ของนักรบญิฮาดกลุ่มนี้ ซึ่งเข้ายึดเมืองสำคัญๆ ในทั้งซีเรียและอิรักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    กองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ด ซึ่งมีการโจมตีทางอากาศจากกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ คอยสนับสนุน ได้ตียึดเมืองไอน์อิสซาในตอนเหนือของซีเรียมาจากกลุ่มไอเอสเมื่อวานนี้ (23) หลังจากเข้ายึดค่ายทหารแห่งหนึ่งได้เมื่อคืน

    ชาวเคิร์ดและพันธมิตรกบฏชาวซีเรียเข้ามาภายในระยะ 50 กิโลเมตรของเมืองรอกเกาะห์ เมืองหลวงโดยพฤตินัยของกลุ่มไอเอส ซึ่งเป็นที่ๆ พวกเขาใช้เป็นศูนย์กลางการปกครองดินแดนคอลิฟะห์ทั่วพื้นที่กว้างขวางในซีเรียและอิรัก

    ในวันนี้ (24) ราดูห์ เซลิล โฆษกกลุ่มวายพีจี กล่าวในข้อความออนไลน์ว่า กองกำลังเคิร์ดได้รับข้อมูลมาว่า กลุ่มไอเอส “เริ่มขุดสนามเพาะในบริเวณโดยรอบเมืองรอกเกาะห์เพื่อเสริมการป้องกัน” ภายหลังการกรุกคืบดังกล่าวของกองกำลังเคิร์ด

    กลุ่มวายพีจีกล่าวเมื่อวานนี้ (23) ว่ายังไม่มีแผนโจมตีเมืองรอกเกาะห์ และกลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรีย (Syrian Observatory for Human Rights) ระบุว่า ปฏิบัติการในตอนนี้มีเป้าหมายที่การยึดทางหลวงตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งเชื่อมเมืองอเลปโปกับจังหวัดฮาซากาทางตะวันออกเฉียงเหนือ

    เมื่อวานนี้ (23) กองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ดได้ยึดเมืองไอน์อิสซาในขณะที่กลุ่มไอเอสถอนกำลังออกไป หลังจากเข้ายึดค่ายทหารลีวา-93 ที่อยู่ใกล้เคียง สถานที่ยุทธศาสตร์ซึ่งกลุ่มไอเอสยึดมาจากกองกำลังรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว

    นักรบกลุ่มวายพีจีเป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรที่ไว้วางใจได้มากที่สุดของปฏิบัติการภาคพื้นปราบปรามกลุ่มไอเอสในซีเรีย ที่นำโดยสหรัฐฯ และกลุ่มวายพีจีระบุว่าพวกเขามีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อเมริกายอมเจรจากับก่อการร้าย? “โอบามา” หาลู่ทางช่วยครอบครัวเหยื่อตัวประกันจ่ายค่าไถ่ก่อการร้าย ตั้งหน่วยงานใหม่ที่มี FBI คุมช่วยเหลือ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2558 18:32 น.

    [​IMG]

    เอพี – ในวันพุธ(23)มีการเปิดเผยนโยบายตัวประกันที่เปลี่ยนไป หลังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯบารัค โอบามา กำลังหาช่องทางให้ ครอบครัวเหยื่อตัวประกันสามารถจ่ายเงินค่าไถ่เพื่อรักษาชีวิตผู้ถูกจับกุมไว้ โดยที่ทางรัฐบาลกลางสหรัฐฯจะเป็นผู้อำนวนยความสะดวกในเรื่องการติดต่อกับกลุ่มก่อการร้าย โดยจะเป็นตัวแทนการเจรจาในฐานะครอบครัวเหยื่อเอง ในหน่วยงานใหม่ที่ภายใต้ชื่อปฎิบัติการ “fusion cell” ที่จะมีสำนักงานในที่ทำการ FBI สหรัฐฯ และมีการแต่งตั้งทูติพเศษเพื่อติดต่อรัฐบาลต่างชาติต่อปัญหาการลักพาตัว อย่างไรก็ตามทางสหรัฐฯยืนกรานว่า นโยบายที่สหรัฐฯจะไม่จ่ายค่าไถ่และไม่เจรจากับกลุ่มก่อการร้ายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

    เอพีรายงานวันนี้(24)ว่า หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้หารือกับบรรดาครอบครัวตัวประกันชาวสหรัฐฯที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายจับไว้แล้ว จากนั้นประธานาธิบดีสหรัฐฯจะแถลงถึงการที่สหรัฐฯจะอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวเหยื่อตัวประกันสามารถหาช่องทางช่วยเหลือญาติที่ตกอยู่ในอุ้งมือก่อการร้ายผ่านช่องทางการเจรจาและการจ่ายค่าไถ่เพื่อให้เหยื่อยังมีชีวิต หลังจากในปีที่ผ่านมา โอบามาออกคำสั่งให้พิจารณาข้อร้องเรียนของครอบครัวญาติเหยื่อก่อการร้าย ที่อ้างว่า พวกเขาถูกกระบวนการยุติธรรมสหรัฐฯข่มขู่ หากพยายามหาช่องทางที่จะติดต่อเพื่อจ่ายค่าไถ่นำตัวญาติกลับบ้าน

    ซึ่งพบว่าได้มีการเชิญครอบครัวเหยื่อตัวประกันสหรัฐฯจำนวน 82 ครอบครัวที่ญาติถูกจับตัวไปตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมาเพื่อร่วมในการตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับการจัดการตัวประกันของสหรัฐฯ ซึ่งมี 24 ครอบครัวยอมรับปากที่จะเข้าร่วม นอกจากนี้ทางหน่วยงานต่อต้านก่อการร้ายสหรัฐฯ ยังได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกประเทศถึงเรื่องนี้

    ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐยืนกรานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯไม่เคยไล่ล่านำครอบครัวเหยื่อตัวประกันขึ้นศาลในกรณีที่ได้ทำตามเงื่อนไขการปล่อยตัวของคนร้ายโดยยอมจ่ายเงินค่าไถ่ไป

    แต่อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวสหรัฐฯจำนวน 2 คนได้ยืนยันกับเอพีว่า ในส่วนรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ยังคงยืนกรานในจุดยืนเดิมที่จะไม่มีการเจรจากับกลุ่มติดอาวุธ หรือยอมทำตามข้อเรียกร้องด้วยยจ่ายค่าไถ่ หรือสิ่งอื่นๆที่ต้องการแลกเปลี่ยนกับชีวิตตัวประกัน ซึ่งทางครอบครัวตัวประกันสหรัฐฯต่างข้องใจที่เหตุใดตัวประกันทางฝั่งยุโรปสามารถถูกช่วยชีวิตเหยื่อตัวได้สำเร็จมากกว่าฝั่งสหรัฐฯ

    และโดยที่ผ่านมาทางรัฐบาลสหรัฐฯกล่าวว่า นโยบายไม่เจรจากับกลุ่มก่อการร้ายนั้นนอกจากห้ามหน่วยงานรัฐแล้ว ยังรวมไปถึงประชาชนชาวอเมริกันด้วยเช่นกันนั้น มีจุดประสงค์เพื่อไม่ต้องการให้มีการจับตัวเรียกค่าไถ่เพิ่ม และยังไม่ต้องการให้การจ่ายค่าไถ่กลายเป็นส่วนหนึ่งของน้ำเลี้ยงองค์การก่อการร้าย

    ทั้งนี้จากการเปิดเผยในวันพุธ(23) สหรัฐฯชี้แจงว่า นอกจากประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเปิดเผยถึงผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนนโยบายการจ่ายค่าไถ่กลุ่มก่อการร้ายแล้ว โอบามาจะยังกล่าวถึงปฎิบัติการ "fusion cell" ซึ่งเป็นข้อสรุปจากการตรวจสอบข้อร้องเรียน ที่ปฎิบัติการนี้จะเป็นการรวมตัวกันของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯที่เกี่ยวข้องในการหาทางช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อตัวประกัน และอีกทั้งหน่วยงานใหม่ของสหรัฐฯถูกตั้งขึ้นใหม่นี้เพื่อตอบสนองต่อปัญหาข้อเรียกร้องจากครอบครัวเหยื่อลักพาตัว เพื่อทำให้ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับการลักพาตัวไม่สับสน

    ซึ่งเอพีรายงานว่า สำนักงานของ "fusion cell" จะตั้งอยู่ภายในที่ทำการหน่วยงาน FBI สหรัฐฯไม่ใช่ในส่วนของสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวอย่างที่เข้าใจ

    ด้าน สส. จอห์น ดีเลนี (John Delaney) จากรัฐแมรีแลนด์ สังกัดพรรคเดโมแครต ที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับครอบครัวของ วอร์เรน ไวน์สไตน์ (Warren Weinstein) เหยื่อพลเรือนสหรัฐฯที่ถูกกลุ่มอัลกออิดะห์จับตัวเป็นตัวประกัน และพลาดโดนโดรนของรัฐบาลสหรัฐฯสังหารก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายนล่าสุด ได้เปิดเผยถึงผู้จะมารับตำแหน่งดูแลหน่วยงานใหม่ว่า คาดว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก FBI

    แต่ในความเห็นส่วนตัวของเขา และญาติของ วอร์เรน ไวน์สไตน์ กลับเห็นว่า ผู้ที่น่าจะดำรงตำแหน่งบริหารสูงสุดองค์การนี้น่าจะมาจากทางฝั่งบริหารเพื่อป้องกันความล่าช้าในการดำเนินงานตามขั้นตอนหน่วยงานรัฐทั่วไป

    นอกจากนี้เอพียังชี้ว่า โอบามาจะประกาศตั้งทูตพิเศษเพื่อติดต่อกับรัฐบาลชาติต่างๆ คอยประสานงานในเรื่องการจับกุมตัวประกันโดยเฉพาะ


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    US เตือนปักกิ่งเคารพน่านน้ำสากล จีนย้อนศรเร่งมะกันรับผิดชอบเศรษฐกิจโลก
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มิถุนายน 2558 20:54 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:08 น.)

    [​IMG]

    @นายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ(กลาง) ดื่มฉลองกับ นางหลิว เหยียนตง รองนายกรัฐมนตรีจีน(ซ้าย) ระหว่างการหารือยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีนประจำปีครั้งที่ 7

    เอเจนซีส์ - อเมริกากับจีนลั่นปากจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน ขณะที่การหารือระดับสูงด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของประเทศทั้งสองเดินหน้าเข้าสู่วันสุดท้ายในวันพุธ (24 มิ.ย.) โดยที่มีการพูดจากันอย่างตรงไปตรงมาถึงความแตกต่างที่ยังดำรงอยู่ในหลายประเด็นปัญหาสำคัญ ทั้งนี้ วอชิงตันแสดงความกังวลเรื่องที่แดนมังกรสนับสนุนแฮกเกอร์โจรกรรมข้อมูลธุรกิจบริษัทอเมริกัน รวมทั้งย้ำให้จีนเคารพเสรีภาพในการเดินเรือในน่านน้ำสากล ส่วนปักกิ่งก็สอนมวยแดนอินทรี ชี้สหรัฐฯ ควรส่งเสริมการออมและการลงทุนภายในประเทศ เพื่อช่วยจีนแบ่งเบาภาระในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

    นอกจากการหารือระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสองประเทศแล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังมีกำหนดให้การต้อนรับสมาชิกสำคัญของคณะผู้แทนจีนที่ทำเนียบขาวในวันพุธ (24) ก่อนหน้าการเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในเดือนกันยายนนี้

    สำหรับการหารือยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีนประจำปีครั้งที่ 7 ในวันอังคาร (23) ซึ่งเป็นวันที่ 2 เริ่มต้นด้วยรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวเตือนปักกิ่งว่า ประเทศที่มีความรับผิดชอบจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และให้ความร่วมมือเพื่อทำให้ทางน้ำของโลก ซึ่งเป็นน่านน้ำสากลที่เป็นทางผ่านของสินค้า 80% ของพื้นพิภพนี้ เป็นน่านน้ำที่เปิดกว้าง

    มหาอำนาจสองประเทศกำลังมีความเห็นแตกต่างไปคนละขั้ว โดยที่จีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ขณะที่วอชิงตันเฝ้าเร่งเร้าให้ปักกิ่งยุติการสร้างเกาะเทียมในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งใช้วิธีสันติแก้ไขข้อพิพาทในการอ้างอธิปไตยทับซ้อนกับเพื่อนร่วมภูมิภาค

    ระหว่างขึ้นพูดที่เวทีการหารือในวอชิงตันคราวนี้ ซึ่งฝ่ายจีนส่งคณะตัวแทนที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ราว 400 คนจากจีน นำโดย หยาง เจียฉือ มนตรีแห่งรัฐ มาเข้าร่วม ไบเดนกล่าวยืนยันว่า แม้ทั้งสองประเทศแข่งขันกันในหลายด้าน หรือขัดแย้งกันในหลายประเด็น แต่ปักกิ่งกับวอชิงตันต้องร่วมมือกันในการสร้างระบบใหม่ที่อิงกับกฎเกณฑ์เพื่อรับมือโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ด้านแดนมังกรก็ขึ้นปราศรัยอย่างตรงไปตรงมาชนิดผิดจากที่ฝ่ายนี้เคยปฏิบัติ รองนายกรัฐมนตรีหวัง หยาง กล่าวว่า ปักกิ่งและวอชิงตันนั้นไม่ได้เห็นพ้องกันทุกเรื่อง แต่ผู้มีอำนาจตัดสินใจของทั้งสองประเทศต้องตระหนักว่า การเผชิญหน้าจะส่งผลร้ายแรงต่อทั้งสองฝ่ายตลอดจนถึงทั่วโลก

    ขณะที่ หยาง เจียฉือ สำทับว่าจีนจะร่วมมือกับอเมริกาอย่างตรงไปตรงมาเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม

    สำหรับหนึ่งในประเด็นหารือที่สำคัญระหว่างการประชุมเป็นเวลา 3 วันครั้งนี้คือการแอบเจาะระบบคอมพิวเตอร์ เจค็อบ ลูว์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า ประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่ยอมรับได้เกี่ยวกับพฤติกรรมในไซเบอร์สเปซ พร้อมแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่ปักกิ่งให้การสนับสนุนการเจาะระบบคอมพิวเตอร์เพื่อโจรกรรมข้อมูลธุรกิจและเทคโนโลยีของบริษัทอเมริกัน

    ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ร้าวลึก หลังจากอเมริกายื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ทหารจีน 5 คนเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ไม่เพียงเท่านั้น การหารือในสัปดาห์นี้ยังมีขึ้นหลังจากฝ่ายสหรัฐฯ แพลมว่าเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของสำนักบริหารบุคลากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกโจมตีครั้งใหญ่


    นอกจากเรื่องการแฮกโจรกรรมข้อมูลแล้ว ลูว์ยังเรียกร้องให้จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน และส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ

    ข้อเรียกร้องของลูว์ในประเด็นท้ายสุดได้รับการตอบโต้สวนกลับจากโหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีคลังจีน ที่บอกว่า อเมริกาเองควรส่งเสริมการออมและการลงทุนภายในประเทศเพื่อกระตุ้นการเติบโต รวมถึงจัดสรรงบใช้จ่ายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยชี้ว่า จีนมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึง 30% ขณะที่อเมริกาที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก กลับช่วยผลักดันเศรษฐกิจโลกเพียง 10% เท่านั้น

    อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายมีความพยายามผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียด ด้วยการเน้นย้ำประเด็นปัญหาซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการร่วมมือกัน เป็นต้นว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและเกาหลีเหนือ การต่อสู้กับขบวนการมุสลิมหัวรุนแรง และการสนับสนุนการพัฒนาของโลก

    จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า อเมริกาและจีน ในฐานะสองประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลกและปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก ได้ร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอดในการพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนการประชุมใหญ่เพื่อจัดทำข้อตกลงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่สหประชาชาติเป็นเจ้าภาพ ณ กรุงปารีสเดือนธันวาคมนี้


    US
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ภาพ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยเดินระหว่างร่วมประชุมการหารือยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจสหรัฐฯ-จีน หลังได้รับบาดเจ็บเมื่อเดือนก่อน จาก US
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    “โอบามา” ต่อสายตรงลูบหลัง “ออลลองด์” ย้ำสหรัฐฯ เลิกพฤติการณ์ดักฟังพันธมิตร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 02:24 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:12 น.)

    @ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฝรั่งเศส(ซ้าย) แสดงความไม่พอใจหลังวิกิลีกส์แฉว่าพวกเขาถูกสหรัฐฯที่นำโดยบารัค โอบามา(ขวา) สอดแนม

    รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ต่อสายตรงพูดคุยโทรศัพท์กับนายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสในวันพุธ (24 มิ.ย.) ย้ำถึงคำสัญญาของวอชิงตันว่าจะยุติพฤติการณ์สอดแนมที่ถูกเหล่าชาติพันธมิตรมองว่าเป็นสิ่งที่ “รับไม่ได้” หลังถูกวิกิลีกส์แฉว่าลอบดักฟังการติดต่อสื่อสารของประมุขแดนน้ำหอมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 3 คน

    คำสนทนาระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองเปิดเผยโดยทำเนียบของนายออลลองด์ โดยการพูดคุยทางโทรศัพท์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเว็บไซต์จอมแฉวิกิลีกส์ ออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (23 มิ.ย.) ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอสเอ) สอดแนมเหล่าผู้นำของฝรั่งเศสอย่างน้อยๆ 3 ราย

    การออกมาแฉพฤติกรรมล้วงความลับพันธมิตรตะวันตกของสหรัฐฯ หนล่าสุดของวิกิลีกส์หนนี้ มีขึ้นหลังจากเว็บไซต์ดังกล่าวเคยออกมาเปิดโปงว่าเอ็นเอสเอได้สอดแนมเยอรมนี ขณะที่สำนักข่าวกรองบีเอ็นดีของเยอรมนีเองก็ร่วมมือกับเอ็นเอสเอล้วงข้อมูลเจ้าหน้าที่และบริษัทอื่นๆในยุโรป

    “ประธานาธิบดีโอบามาย้ำอย่างชัดเจนถึงคำสัญญาที่หนักแน่นของเขา ในการยุติพฤติการณ์ที่บางทีอาจเกิดขึ้นในอดีตและถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ในหมู่พันธมิตร” ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุ

    ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีออลลองด์ได้เรียกประชุมฉุกเฉินรัฐมนตรีและผู้บัญชาการกองทัพตั้งแต่ช่วงเช้าวันพุธ (24) หลังจากวิกิลีกส์ได้ร่วมกับหนังสือพิมพ์ลิเบราซิยอง ของฝรั่งเศส และเว็บไซต์มีเดียพาร์ต เผยแพร่เอกสารที่ถูกระบุว่า “ลับสุดยอด” หลายชิ้น ซึ่งมีเนื้อหาแฉให้ทราบว่า เอ็นเอสเอได้กระทำการสอดแนมทั้งตัวออลลองด์ ตลอดจนประมุขแดนน้ำหอม 2 คนก่อนหน้า คือ ฌาคส์ ชีรัก และ นิโคลาส์ ซาร์โคซี

    “ฝรั่งเศสจะไม่ยอมอดกลั้นต่อการกระทำที่คุกคามความมั่นคงของประเทศเช่นนี้ รวมทั้งจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ” พร้อมสำทับว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเปิดโปงว่า อเมริกาสอดแนมผลประโยชน์ของฝรั่งเศส รวมทั้งทวงสัญญาที่วอชิงตันเคยให้ไว้เมื่อปลายปี 2013 ว่าจะไม่สอดแนมผู้นำแดนน้ำหอม

    ดิดิเยร์ เลอ เบรต์ ซึ่งเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติของฝรั่งเศส จะเดินทางไปกรุงวอชิงตันเพื่อหารือกับฝ่ายสหรัฐฯ ในประเด็นนี้และกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ขณะที่ สเตฟาน เลอ ฟอลล์ โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส กล่าวว่า “เราจำเป็นต้องตรวจสอบว่าการสอดแนมยุติไปแล้วหรือยัง” และเผยว่าเหล่าคณะรัฐมนตรีได้รับคำเตือนให้ระมัดระวังในการใช้โทรศัพท์มือถือ

    ถึงแม้โดยภาพรวม ในช่วงหลังๆ นี้ปารีสและวอชิงตันจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แต่ระยะสองปีที่ผ่านมา ฝรั่งเศสก็ยืนหยัดนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ และมีหลายช่วงหลายตอนที่สองประเทศเคืองกัน เป็นต้นว่า ออลลองด์ไม่พอใจที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจในนาทีสุดท้ายที่จะไม่โจมตีรัฐบาลซีเรียในปี 2013 ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันวิจารณ์จุดยืนแข็งกร้าวของปารีสในการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านบ่อยครั้ง

    สำหรับเอกสารลับต่างๆ ที่รั่วไหลถูกวิกิลีกส์และพันธมิตรนำออกมาเปิดโปงเผยแพร่คราวนี้ มีอยู่ 5 ชิ้นซึ่งระบุว่ามาจากเอ็นเอสเอ เอกสารทั้งหมดลงวันที่ในช่วงระหว่างปี 2006 ถึง 2012 ชิ้นหลังสุดนั้นลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2012 ไม่กี่วันหลังจากออลลองด์ขึ้นเป็นประธานาธิบดี

    จากเอกสารที่วิกิลีกส์นำออกเผยแพร่เหล่านี้บ่งชี้ให้เห็นว่า ซาร์โคซีเคยคิดฟื้นการเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์โดยไม่มีอเมริกา รวมทั้งเคยคิดว่าตนเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถแก้ไขวิกฤตการเงินโลกได้ ตลอดจนโทษว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนสำหรับที่เกี่ยวข้องกับออลลองด์นั้น แสดงให้เห็นว่าเขากลัวว่า กรีซจะต้องออกจากยูโรโซนตั้งแต่ปี 2012 รวมทั้งได้แอบติดต่อกับพรรคฝ่ายค้านของเยอรมนี โดยไม่ให้แมร์เคิลทราบอีกด้วย

    เอกสารของวิกิลีกส์ยังรวมถึงรายงานสรุปการสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบาลฝรั่งเศสเกี่ยวกับวิกฤตการเงินโลก อนาคตของสหภาพยุโรป (อียู) ความสัมพันธ์ระหว่างคณะบริหารของออลลองด์กับรัฐบาลของแมร์เคิล ความพยายามของฝรั่งเศสในยุคชีรักส์ในการสรรหาตัวแทนประจำในสหประชาชาติ และความขัดแย้งระหว่างปารีสกับวอชิงตันเรื่องที่อเมริกาสอดแนมแดนน้ำหอม

    ในเอกสารยังมีเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่หลายคนในสำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งรวมถึงเบอร์มือถือส่วนตัวของผู้นำฝรั่งเศส

    ทั้งนี้ วิกิลีกส์ยังทวิตว่า เร็วๆ นี้จะเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติมเพื่อตอกย้ำหลักฐานว่า อเมริกาพุ่งเป้าสอดแนมฝรั่งเศสอย่างมโหฬาร

    โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสเผยว่าปารีสยังไม่ตัดสินใจว่าจะดำเนินการทางกฎหมายแบบเดียวกับที่เยอรมนีทำหรือไม่ ท่ามกลางเสียงเรียกร้องบางส่วนให้ดำเนินแก้เผ็ด โดยไม่ต้องกังวลต่อผลย้อนกลับทางการทูต “จากการคุกคามต่างๆ ที่เราเผชิญและประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ที่เชื่อโยงระหว่างเราทั้งสอง เราจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ เราต้องไม่ทำลายความสัมพันธ์ทางการทูต”

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิกฤตคลื่นความร้อนปากีสถานจ่อคลี่คลาย คาดจะมีฝนตกช่วยลดอุณหภูมิ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 01:00 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:10 น.)

    [​IMG]
    @ชาวปากีสถานที่ต้องทนทุกข์มรมานจากคลื่นความร้อนมาหลายวัน ได้รับข่าวดีว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเร็วๆนี้

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - สภาพอากาศที่แผดเผาทางใต้ของปากีสถานส่งสัญญาณว่ากำลังคลี่คลาย น่าจะพอบรรเทาความทุกข์ทรมานแก่ประชาชนในเมืองการาจีได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ยอดล่าสุดของผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมทางใต้ของปากีสถาน ก็พุ่งแตะ 780 ศพแล้วในวันพุธ (24 มิ.ย.)

    คาดหมายว่าอุณหภูมิในการาจี เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของปากีสถาน จะสูงสุดที่ 38 องศาเซลเซียส ลดลงจากระดับเหนือ 40 องศาเซลเซียสในช่วงหลายวันที่ผ่านมา และด้วยลมเปลี่ยนทิศสู่ตะวันตกเฉียงใต้ พัดอากาศเย็นจากทะเลอาหรับ สู่เมืองท่าแห่งนี้ ทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาปากีสถานจึงพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาและช่วยทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงไปอีก

    อย่างไรก็ตาม ท้องถนนในเมืองซึ่งปกติแล้วจะพลุกพล่าน ยังคงอ้างว้างในวันพุธ (24 มิ.ย.) เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดสินธ์ ประกาศให้เป็นวันหยุดพิเศษ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหลบแดดอยู่แต่ในที่ร่ม หลังจากก่อนหน้านี้ก็เพิ่งประกาศภาวะฉุกเฉินตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ต้องประสบปัญหารับมือกับผู้ป่วยโรคลมแดดและภาวะร่างกายขาดน้ำจำนวนหลายพันคน

    การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานแก่ผู้คนในศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้ ซึ่งต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดราว 44-45 องศาเซลเซียสมาตั้งแต่วันเสาร์ (20 มิ.ย.) อย่างไรก็ตามมีคำเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงกว่านี้

    เบื้องต้นเอเอฟพีรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตที่รวบรวมได้เมื่อคืนวันอังคาร (23 มิ.ย.) คือ 750 คน อย่างไรก็ตามรอยเตอร์อ้างคำยืนยันจากนายอันวาร์ คาซมี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอธี เวลแฟร์ องค์กรการกุศลใหญ่ที่สุดของปากีสถาน ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตในการาจี เมืองที่มีประชากร 20 ล้านคน พุ่งแตะ 780 ศพแล้วในวันพุธ (24 มิ.ย.)

    หน่วยงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติได้มีการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคลมแดดขึ้นหลายแห่งเพื่อรับมือกับปริมาณคนไข้จำนวนมหาศาล ส่วน เอธี เวลแฟร์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าบอกว่ามีร่างไร้วิญญาณถูกนำเข้าโรงเก็บศพในเมืองขององค์กร มากกว่า 600 ศพตั้งแต่วันเสาร์ (20 มิ.ย.) ซึ่งเกินความจุแล้ว และนั่นยังหมายความว่าพวกเขาประสบปัญหาในการแช่แข็งศพอย่างเหมาะสม

    นอกจากนี้แล้วครอบครัวของเหยื่อยังเผชิญกับปัญหาในการฝังศพของญาติๆ เนื่องจากคนขุดหลุมศพไม่เพียงพอต่อความต้องการท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา

    ฤดูร้อนที่ร้อนระอุไม่ใช่เรื่องผิดปกติในปากีสถาน ด้วยบางพื้นที่ของประเทศก็มักเจออุณหภูมิสูงแบบเดียวกับที่การาจีเผชิญ ทว่าก็ไม่เคยมีผู้เสียชีวิตมากมายเท่านี้มาก่อน นั่นเพราะในปีนี้คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมพร้อมๆกับช่วงเดือนรอมฎอน เทศกาลถือศีลอดที่เริ่มมาตั้งแต่วันศุกร์ (19 มิ.ย.) ทำให้นักเทศน์บางส่วนแนะนำประชาชนที่มีร่างกายอ่อนแอสามารถงดอดอาหารภายใต้สภาพอากาศอันแสนสาหัส

    สถานการณ์ยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาไฟดับที่มักเกิดขึ้นแทบทุกวันในปากีสถาน ส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้พัดลมหรือเครื่องปรับอากาศคลายความร้อนได้ นอกจากนี้ภาวะไฟฟ้าขาดแคลนยังก่อปัญหาแก่ระบบจ่ายน้ำประปา โดยเป็นอุปสรรคต่อการสูบน้ำหลายล้านแกลลอนไปหล่อเลี้ยงผู้บริโภค

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้เลี้ยงปลากระชังน้ำปิงโล่งอก รอดวิกฤตแล้งฝนทิ้งช่วงหลังชลประทานช่วย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 14:28 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 15:03 น.)

    [​IMG]

    ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิงถอนหายใจโล่งอก รอดวิกฤตน้ำแห้งจนปลาที่เลี้ยงไว้ขาดออกซิเจนหวิดตายเกลี้ยง หลังชลประทานเชียงใหม่ปรับรอบการเปิดปิดประตูระบายน้ำท่าวังตาลเข้าช่วย จากเดิมเปิดปิดรอบละ 7 วัน เป็นเปิด 4 วัน ปิด 3 วัน

    [​IMG]

    รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ภาวะภัยแล้งและฝนตกทิ้งช่วงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในการเพาะปลูกพืชต่างๆ แล้ว ยังส่งผลสร้างความเดือดร้อนแก่กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิงด้วยเช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

    นายดวงคำ หินมี อายุ 53 ปี ผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำแม่ปิง ในพื้นที่บ้านท่าขี้ควาย ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากภาวะแล้งของปีนี้ได้ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงกว่าหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้ระดับน้ำลดลงมากจนปลาทับทิมที่เลี้ยงไว้ตกอยู่ในสภาพขาดน้ำและขาดออกซิเจนอย่างหนัก รวมทั้งกินอาหารลดลงจากปกติเกือบเท่าตัว จนทำให้ปลาทั้งหมดเกือบตาย

    จากสถานการณ์ดังกล่าวทางกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิงจึงได้รวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทางชลประทานเชียงใหม่ปล่อยน้ำจากประตูน้ำท่าวังตาล เพื่อให้ความช่วยเหลือก่อนที่จะได้รับความเสียหายทั้งหมด

    ล่าสุดทางชลประทานได้มีการปล่อยระบายน้ำให้แล้ว จากเดิมที่จะมีรอบการปล่อยน้ำ 7 วัน เว้น 7 วัน เปลี่ยนเป็นเปิดประตูน้ำ 4 วัน ปิด 3 วัน ส่งผลทำให้ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังได้รับออกซิเจนมากขึ้นจนกลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้ว และกินอาหารได้มากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของปลา โดยปลาที่เลี้ยงไว้เมื่อโตเต็มที่จะมีราคาขายที่หน้ากระชังกิโลกรัมละ 92 บาท ซึ่งเป็นราคาที่อยู่ในระดับทรงตัว

    ด้านนายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำโครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักชลประทานที่ 1 เปิดเผยว่า จากการที่ชลประทานเชียงใหม่ได้ตัดสินใจเปิดประตูระบายเพิ่มเป็น 5.2 ลบ.ม./วินาที หรือ 450,000 ลบ.ม./วัน ในขณะนี้ได้ส่งผลดีต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังเป็นจำนวนมาก

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่จะประสบปัญหากับการขาดน้ำเนื่องจากฝนที่ตกทิ้งช่วงเป็นเวลานาน จนทำให้น้ำที่กักเก็บไว้มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่ในเมื่อมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนทางชลประทานก็พร้อมที่จะทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป

    ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาทางเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลก็ได้ระบายน้ำช่วยชาวสวนลำไยและพื้นที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า โดยเพิ่มปริมาณน้ำจากปกติที่ระบาย 2.7 ล้าน ลบ.ม.เป็น 4 ล้าน ลบ.ม. และเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเสียหายก่อนที่จะเก็บผลผลิตไม่มากก็น้อย

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฮกันทั่ว! ฝนหลวงได้ผล-หลายพื้นที่ทั้ง “เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง” ชุ่มฉ่ำทันตา
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 11:16 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 11:23 น.)

    เชียงใหม่/ตาก - ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือประสบความสำเร็จ หลังขึ้นบินโปรยสารทำฝนเทียมช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง จนมีฝนตกหลายพื้นที่แล้ว

    วันนี้ (25 มิ.ย. 58) น.ส.หนึ่งฤทัย ตันติพลับทอง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือฯ ได้บินขึ้นปฏิบัติภารกิจจำนวน 4 เที่ยวบิน เพื่อปฏิบัติภารกิจทำฝนหลวงช่วยเหลือชาวนาที่ประสบภัยแล้ง และช่วยเติมน้ำในเขื่อน ทำให้มีฝนตกเล็กน้อย-ปานกลาง เป็นบริเวณกว้าง

    พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีฝนตกทั้ง อ.แม่แจ่ม อ.สารภี อ.สันป่าตอง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.เมือง อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง อ.สะเมิง อ.แม่วาง และ อ.หางดง, จ.ลำพูน มีฝนตกใน อ.บ้านธิ อ.เมือง อ.ป่าซาง อ.เวียงหนองล่อง, จ.ลำปาง มีฝนตกใน อ.เมือง และ อ.ห้างฉัตร

    ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตกเล็กน้อย คือ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่, อ.แม่พริก จ.ลำปาง, อ.ลี้ จ.ลำพูน และ อ.สามเงา จ.ตาก

    อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่กำลังนำเครื่องบินทำฝนหลวงจากฐานจังหวัดกระบี่ และจังหวัดระยอง ซึ่งมีเครื่องบินรวม 4 ลำมาช่วยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ และพิษณุโลก อีกทั้งจะขอเครื่องบิน BT 67 ของกองทัพอากาศ มาช่วยปฏิบัติการอีก 1 ลำ เพื่อช่วยทั้งเรื่องเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำ, เขื่อนแม่กวงอุดมธารา และช่วยเหลือประชาชนในภาคเหนือที่กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงจนประสบภัยแล้งเป็นบริเวณกว้าง จนต้องเลื่อนการปลูกข้าวนาปีออกไป

    นอกจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือยังขึ้นบินเพื่อทำฝนหลวงในพื้นที่ภาคเหนือ เติมน้ำให้เขื่อนหลักๆ ทั้ง 7 เขื่อน และลุ่มน้ำสายหลัก ได้แก่ ปิง วัง ยม น่าน รวมถึงลุ่มน้ำป่าสักในพื้นที่ภาคกลาง โดยมีการขยายฐานเติมสารที่สนามบินแพร่ด้วย

    ขณะที่สนามบินตาก ที่เคยตั้งฐานเติมสารประจำทุกๆ ปีนั้นยังไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ตามแผน เนื่องจากติดขัดในเรื่องการซ่อมแซมรันเวย์ที่ยังไม่สามารถเปิดให้ใช้งานได้ตามปกติ

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แดดเผาไร้ฝนเขื่อนห้วยติ๊กชู ศรีสะเกษน้ำแห้ง ขณะ 3 เขื่อนหลักเหลือไม่ถึง 20%
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 13:37 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 14:12 น.)

    [​IMG]

    @เขื่อนห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เขื่อนดินขนาดใหญ่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว เหลือปริมาณเพียง 13 ล้านลบ.ม. วันนี้ ( 25 มิ.ย.)

    [​IMG]

    ศรีสะเกษ - แดดเผาไร้ฝน เขื่อนห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ น้ำแห้งเหลือเพียง 13 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ 3 อ่างเก็บน้ำสำคัญเหลือน้ำไม่ถึง 20%

    [​IMG]

    วันนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เขื่อนห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เขื่อนดินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ จากการที่สภาพอากาศที่ร้อนจัด แสงแดดแผดเผาและฝนไม่ตกต่อเนื่องมานานหลายเดือน ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนห้วยติ๊กชูลดระดับลงเป็นอย่างมาก ล่าสุดมีปริมาณน้ำเพียง 13 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 51% ของขนาดความจุ 26 ล้าน ลบ.ม.

    ขณะเดียวกัน อ่างเก็บน้ำอีก 3 แห่งสำคัญของ จ.ศรีสะเกษ คือ อ่างเก็บน้ำห้วยซัน อ.เมืองศรีสะเกษ มีปริมาณน้ำเพียง 18% อ่างเก็บน้ำห้วยตาจู อ.ขุนหาญ มีปริมาณน้ำ 17% ส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยทา อ.ขุนหาญ เหลือปริมาณน้ำ 21% เท่านั้น

    นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า ในเขตคลองส่งน้ำของชลประทานได้ขอความร่วมมือให้เกษตรกรทำนาปรังจำนวน 40,000 ไร่ แต่เกษตรกรได้พากันทำนาปรังรวมจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 50,000 ไร่ เกินกว่าแผนที่วางเอาไว้ ทำให้ต้องมีการวางแผนการใช้น้ำเพื่อให้เพียงพอต่อการทำนาปรังและการใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งหากประชาชนชาวศรีสะเกษร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดมั่นใจว่าน้ำที่มีอยู่ทั้งหมดในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จะสามารถใช้ได้ตลอดฤดูแล้งปีนี้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามฝนได้ทิ้งช่วงมานาน หากไม่ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดอาจเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำขึ้นมาได้

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เขื่อนใหญ่ชายแดนศรีสะเกษแห้ง โขดหินตอไม้โผล่เป็นบริเวณกว้าง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 มิถุนายน 2558 09:22 น. (แก้ไขล่าสุด 25 มิถุนายน 2558 09:51 น.)

    [​IMG]

    @อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา น้ำแห้งเหลือ 13 ล้านลบ.ม. โขดหินและตอไม้ใต้ท้องอ่างเก็บน้ำโผล่เหนือน้ำเป็นบริเวณกว้าง วันนี้ ( 25 มิ.ย.)

    [​IMG]

    ศรีสะเกษ - เขื่อนใหญ่ชายแดนไทย-เขมร จ.ศรีสะเกษใกล้แห้งขอด ระดับน้ำลดฮวบเหลือแค่ 13 ล้าน ลบ.ม. โขดหินและตอไม้ใต้ท้องอ่างเก็บน้ำโผล่เหนือน้ำเป็นบริเวณกว้าง ชลประทานงดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เตือนประชาชนใช้น้ำประหยัดเพื่อให้มีน้ำดื่มน้ำใช้ตลอดแล้งปีนี้

    [​IMG]

    วันนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อ่างเก็บน้ำห้วยศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้น้ำในอ่างลดลงอย่างรวดเร็วจากภาวะความแห้งแล้ง และฝนไม่ตกมาหลายเดือนแล้ว มีน้ำเหลือเพียง 13 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 36.1% ของขนาดความจุ 37 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้โขดหินและตอไม้ท้องอ่างเก็บน้ำโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่คลองส่งน้ำแห้ง ไม่มีน้ำเพียงพอส่งให้ประชาชนใช้เพื่อการเกษตร เกษตรกรใต้อ่างเก็บน้ำต้องลดพื้นที่ปลูกพืชและทำนาปรังลง

    [​IMG]

    นายจำรัส สวนจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานศรีสะเกษ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำทุกแห่งของ จ.ศรีสะเกษเหลือปริมาณน้ำน้อยมาก มีเพียงเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น งดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร จึงขอให้ชาวศรีสะเกษใช้น้ำอย่างประหยัด รวมทั้งหากทำการเกษตรควรปลูกพืชระยะสั้นใช้น้ำน้อย เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคตลอดหน้าแล้งปีนี้

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บิ๊กตู่'ฟัน ขรก.ลอตสอง 71 ราย- อธิบดีพช. เลขาฯสปช. ปลัดท่องเที่ยว-7นายก อบจ.
    'บิ๊กตู่'ฟัน ขรก.ลอตสอง 71 ราย- อธิบดีพช. เลขาฯสปช. ปลัดท่องเที่ยว-7นายก อบจ.
    เขียนวันที่ วันพฤหัสบดี ที่ 25 มิถุนายน 2558 เวลา 16:00 น.เขียนโดยisranewsหมวดหมู่เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวTagsม.44 |

    [​IMG]

    ‘ประยุทธ์’ใช้ ม.44 ฟัน ขรก.ลอต 2 รวม 71 ราย อธิบดีกรม พช. เลขาฯ สปช. ปลัด ก.ท่องเที่ยวฯ อธิการฯม.สารคาม นายก อบจ. 7 จว. ล้างปากน้ำ เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ พ่วง4จนท. ‘พรชัย โควสุรัตน์‘จ.อุบลฯ 'ยุทธนา' หนองคาย 'ไพบูลย์'ภูเก็ต ผอ.รร.หาดใหญ่ฯ 2 โดนด้วย
    ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19 /2558 เรื่อง แต่งตั้งและให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำรงตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่อื่น
    ระบุว่า ตามที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เรื่อง มาตรการแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ 15 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 นั้น โดยที่ต่อมาหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบได้เสนอรายงานเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มเติม จึงจำเป็นต้องประกาศรายชื่อบุคคลเพิ่มเติม ตามความในข้อ 5 ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 ประกอบกับจำเป็นต้องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการบางตำแหน่งเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของงานอันเป็นประโยชน์ในการปฏิรูปราชการแผ่นดินอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
    1. ให้นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี
    2. ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 1 ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่งนี้ระงับการปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิมเป็นการชั่วคราวและไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งประจำสำนักงานปลัดกระทรวงที่สังกัดโดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิมและให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดมอบหมาย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้ผู้นั้นไปปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐเป็นการชั่วคราวก็ได้
    3. ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 3 และกลุ่มที่ 4 ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่งนี้ระงับการปฏิบัติราชการในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำรงตำแหน่งอยู่เป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน
    4. ให้ผู้มีรายชื่อในกลุ่มที่ 5 ตามบัญชีแนบท้ายคำสั่งนี้ไปช่วยราชการที่ศาลากลางจังหวัดที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นตั้งอยู่หรือสถานที่ราชการอื่นตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดแต่ต้องมิใช่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่อยู่เดิม โดยไม่ต้องมีคำร้องขอ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นผู้บังคับบัญชามีอำนาจมอบหมายให้ผู้นั้นปฏิบัติงานตามความเหมาะสมในกรณีนี้ มิให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินประจำตำแหน่งและสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการชั่วคราว ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น พ.ศ. 2555 อันเนื่องจากการไปช่วยราชการตามคำสั่งนี้
    5. นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี อาจมีคำสั่งหรือมติเปลี่ยนแปลงคำสั่งตามข้อ 1 ถึงข้อ 5 ได้ตามที่เห็นสมควร
    คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
    สั่ง ณ วันที่ 25 มิถุนายน พุทธศักราช 2558
    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบัญชีรายชื่อข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ แนบท้ายคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 19/2558 ประกอบไปด้วย
    กลุ่มที่ ๑ ข้าราชการ (๒๑ ราย)
    ๑. นายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
    ๒. นายไชยวัฒน์ พันธ์นรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กระทรวงมหาดไทย
    ๓. นายรังสรรค์ มณีเล็ก รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
    สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
    ๔. นายศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กระทรวงศึกษาธิการ
    ๕. นายวินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
    กระทรวงสาธารณสุข
    ๖. นายชัยรัตน์ กรรณิการ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคดีศาลสูงภาค ๘ สำนักงานอัยการสูงสุด
    ๗. พันตำรวจเอก นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม
    ๘. นางพัชณีย์ ยงยอด ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบริการท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยวกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
    ๙. นายศุภยุทธ สาครบุตร ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านยุทธศาสตร์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
    ๑๐.นายสุทธิ ศิลมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
    ๑๑.นายชูศักดิ์ ตั้งศิริไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
    ๑๒.นายสมพร ดำนุ้ย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุดรธานี กรมชลประทาน
    กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    ๑๓.นายยุทธนา นวมะชิติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสตูล กรมชลประทาน
    กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    ๑๔.นายชัยฤกษ์ เมษสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ ๑๖ จังหวัดนครศรีธรรมราชกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม
    ๑๕.นายธงชัย จินตนาวงศ์ วิศวกรใหญ่ด้านบำรุงรักษา กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม
    ๑๖.นายสุใหญ่ หลิ่มโตประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ กระทรวงสาธารณสุข
    ๑๗.นายปรีชา วงศ์ศิลารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลา กระทรวงสาธารณสุข
    ๑๘.นางพิมพ์มาส รังสรรค์สฤษดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ๒ จังหวัดสงขลากระทรวงศึกษาธิการ
    ๑๙.นายนิวัจน์ พิมเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคม ซอย ๑๐ จังหวัดสตูล
    กระทรวงศึกษาธิการ
    ๒๐.นายเอกชัย ปานเม่น ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกวิชาชีพกาญจนบุรี “สามสงฆ์ทรงพระคุณ”กระทรวงศึกษาธิการ
    ๒๑. นายกิตติ โกมลกุลพัทธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาไก่นาคำน้อยวิทยา อำเภอสุวรรณคูหา(ภูดอนนาง) จังหวัดหนองบัวลำภู กระทรวงศึกษาธิการ
    กลุ่มที่ ๒ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (จำนวน ๗ ราย)
    ๑. นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
    ๒. นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
    ๓. นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย
    ๔. นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
    ๕. นายสถิรพร นาคสุข นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร
    ๖. นายสมชอบ นิติพจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม
    ๗. นางสุนี สมมี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง
    กลุ่มที่ ๓ นายกและรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (จำนวน ๑๗ ราย)
    ๑. นายสนิท วรกิจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท้ายเมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
    ๒. นายประพจน์ เพียรพิทักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้ำไหล
    อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
    ๓. นายสุมิตร สากาลี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท
    จังหวัดขอนแก่น
    ๔. นายณรงค์ ถาวร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองจิก อำเภอคีรีมาศ
    จังหวัดสุโขทัย
    ๕. นายสมเกียรติ บรรพบุรุษ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราษฎร์นิยม อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
    ๖. นายสมพงษ์ รอดดารา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางโทรัด อำเภอเมือง
    จังหวัดสมุทรสาคร
    ๗. นายนิวัฒน์ วัฒนเวศวิทย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาวาง อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
    ๘. นายเสรี ทิจินะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย
    จังหวัดเชียงราย
    ๙. นายสมาน ดาหมาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล
    ๑๐. นายประภัย เพ็ชร์สุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวัดขนุน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา
    ๑๑. นายแซน กมุทชาติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบุ่ง อำเภอเมือง
    จังหวัดอำนาจเจริญ
    ๑๒. นายธงชัย ดอกไม้ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอนเมย อำเภอเมือง
    จังหวัดอำนาจเจริญ
    ๑๓.นายเวชยันต์ สิงห์ขันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแก้ว อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
    ๑๔.นายพงษ์สวรรค์ สถาธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหล่อยูง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
    ๑๕. นายวัฒนา ภูเกิดพิมพ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
    ๑๖. นายสมชาย ลานทอง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี
    ๑๗. นายวิรัตน์ วัฒนสุข รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
    กลุ่มที่ ๔ นายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล (จำนวน ๑๘ ราย)
    ๑. นายจำรัส อินใจ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ข่า อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
    ๒. นายลำพอง นามพันธ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองพิมลราช อำเภอบางบัวทอง
    จังหวัดนนทบุรี
    ๓. นายภูษิต คงเดิม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่านา อำเภอกะปง จังหวัดพังงา
    ๔. นายบุญเลิศ ต่างสี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสระโบสถ์ อำเภอสระโบสถ์
    จังหวัดลพบุรี
    ๕. นายอภิชิต วิโนทัย นายกเทศมนตรีเทศบาลนครตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
    ๖. นายประพัฒน์ ริ้วทองชุ่ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
    ๗. นายวิทยา อุ่นคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบุญเรือง อำเภอเชียงของ
    จังหวัดเชียงราย
    ๘. นายนัฏฐชัย มูลนาม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหมอม้า อำเภอเมือง
    จังหวัดอำนาจเจริญ
    ๙. นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแพร่ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
    ๑๐. นางสาวสาวิตรี สิทธิธรรม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลอุบล อำเภอเมือง
    จังหวัดอุบลราชธานี
    ๑๑. นายปิยะชัย โชติวุฒิมนตรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน
    จังหวัดนครพนม
    ๑๒. นายประดิษฐ์ วณีสอน นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองตองพัฒนา อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
    ๑๓. นายพุฑฒิพงษ์ ฤาชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
    ๑๔. นางสาวลาเคละ จะทอ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    ๑๕. นายเกรียงไกร ไกรทอง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์
    อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    ๑๖. นายบุญเกื้อ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปราจีนบุรี อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี
    ๑๗. นายสาร สมรักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนายม อำเภอเมือง
    จังหวัดอำนาจเจริญ
    ๑๘.นายสมศักดิ์ ธรรมเมธาพร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลวังเย็น ตำบลวังเย็น
    จังหวัดฉะเชิงเทรา
    กลุ่มที่ ๕ ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (จำนวน ๗ ราย)
    ๑. นายสายัณห์ รักษนาเวศ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
    อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
    ๒. นางสาวกาญจนา ทาโบราณ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลศรีบุญเรือง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
    ๓. นางอรชา พัฒนศุภสุนทร ปลัดเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
    ๔. นายประดิษฐ์ นามลักษณ์ ปลัดเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
    ๕. นายสุรศักดิ์ ปรีชาผล ผู้อำนวยการกองคลัง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
    ๖. นายนิพนธ์ บุณยเกียรติ ผู้อำนวยการกองแผนและงบประมาณ องค์การส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
    ๗. นายวิชัย จันทร์จำรูญ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
    องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
    -------------------------------------
    สำนักข่าวอิศรา
    http://www.isranews.org/%E0%B9%8…/…/39514-news01_39514.html…
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เจาะลึกประท้วงขึ้นค่าไฟฟ้าในอาร์เมเนีย เพราะรัสเซียอยู่เบื้องหลัง? หรือจะกลายเป็น ElectroMaidan ยูเครนไมดานโมเดล? หรือเพราะมือที่มองไม่เห็นต้องการจะให้เป็นอย่างอื่น (ปฏิวัติสี) กันแน่? (บทเรียนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของประเทศ) [ตอนที่ 1/4]

    [​IMG]

    --------------
    ตอนที่1: การประท้วงและมือที่มองไม่เห็นคอยเสี้ยมผ่านสื่อฯกระแสหลักโดยหวังผลบางอย่าง
    --------------
    เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งในสถานการณ์โลกที่น่าสนใจมากๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นการประท้วงทั่วไปเฉพาะการขึ้นค่าไฟฟ้าในประเทศอาร์เมียเท่านั้น และดูเหมือนว่ามีบางคนบางกลุ่มบางประเทศพยายามจะเข้าไปมีส่วนร่วมถือโอกาสทำให้เรื่องนี้ขยายตัวออกไปมากกว่านั้น (คงไม่ต้องบอกนะว่าใคร จอมแส่จอมแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นและจอมเสี้ยม) และตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังตั้งแต่ 2-3 วันก่อนแล้ว แต่เนื่องจากมีข่าวอื่นมาตัดหน้าจึงยังไม่มีเวลาพิมพ์ พอจับตาดูไปเรื่อยๆ ก็พบว่ามีข้อมูลเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ และอยากรู้สาเหตุเหมือนกันว่าปัญหามันมาจากอะไรกันแน่ จึงหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงได้ถึงบางอ้อ ส่วนประเด็นที่บอกว่าน่าสนใจนั้น ก็เพราะมองว่าเรื่องนี้ "แปรรูปรัฐวิสาหกิจและปฏิรูปพลังงาน" ในอาร์เมเนียซึ่งก่อให้เกิดปัญหาตามมาอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ไทยเราก็สามารถนำมาเป็นบทเรียนและเรียนรู้จากตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นในอีกมุมหนึ่งของโลกในปัจจุบันนี้ได้ เพราะไทยเราก็กำลังมีการปฏิรูปพลังงานเช่นกัน มาดูว่าน่าสนใจอย่างไรบ้าง
    เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่าตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ประท้วงจำนวน 237 คนเนื่องจากเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงขึ้นค่าไฟฟ้ากับตำรวจภายในกรุง Yerevan เมืองหลวงของ Armenia เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การประท้วงดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่ 22 บางสำนักข่าวบอกว่าเริ่มมีการระดมพลมาประท้วงผ่านทางโซเชียลเน็ทเวิร์คตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ว และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุรุนแรงไปบางส่วนแล้วในวันต่อมาก็มีข่าวว่าทางตำรวจได้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมออกมาหมดแล้ว
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะกรรมการเครือข่ายไฟฟ้าของอาร์เมเนีย (Electricity Networks of Armenia) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้าที่อาร์เมเนียเป็นเจ้าของและบริหารจัดการและรัฐบาลอาร์เมเนียได้ตัดสินใจขึ้นค่าไฟฟ้าสำหรับใช้ในครัวเรือนประมาณ 17-22 เปอร์เซนต์ โดยการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ผลที่ตามมาก็คือกลุ่ม "No to Plunder" (ต่อต้านการปล้นทรัพย์/ไม่เอาการปล้นทรัพย์) ได้เรียกระดมพลราว 5,000 คนออกมาประท้วงปิดถนนในใจกลางเมืองหลวงของอาร์เมเนียและตะโกนด้วยคำพูดว่า "No to Robber!" (ไม่เอาโจร!) และว่า "Don't slip your hands into our pockets!" (อย่าเอามือมาล้วงกระเป๋าพวกเรา!)
    ปัจจุบันนี้อาร์เมียมีประชากรจำนวน 3.2 ล้านคน อยู่ในภูมิภาคเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains region) คือระหว่างทะเลดำและทะเลแคสเปียนซึ่งอยู่ตรงเส้นแบ่งทวีปยุโรปและทวีปเอเซียอีกจุดหนึ่ง อาร์เมเนียเป็นประเทศ Landlocked (ไม่มีอาณาเขตติดกับทะเล) มีชายแดนติดกับจอร์เจีย ตุรกี อาเซอร์ไบจานและอิหร่าน มีพื้นที่พิพาทบางส่วนกับอาร์เซอร์ไบจาน (Nagorno-Karabakh Republic) ปัจจุบันนี้กำลังประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจเนื่องได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯและอียูแซงชั่นรัสเซีย และรัสเซียก็แซงชั่นกลับ
    การประท้วงเริ่มขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 ณ Freedom Square เมือง Yerevan ผู้ประท้วงพยายามจะเดินขบวนไปที่ทำเนียบประธานาธิบดี ส่วนนาย Serzh Sarkisian ปธน.ของอาร์เมเนียก็บอกว่ายินดีที่จะออกมาพบกับตัวแทนกลุ่มผู้ประท้วง และยินดีรับเงื่อนไขที่จะทำให้พวกเขายุติการประท้วง แต่ข้อเสนอของนาย Serzh Sarkisian ได้รับการปฏิเสธจากกลุ่มผู้ประท้วง หลังจากเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันจันทร์ที่ 22 เนื่องจากตำรวจสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงมุ่งหน้าไปยังทำเนียบปธน. กลุ่มผู้ประท้วงก็บอกว่าจะไม่ลุกออกจากถนน จะนั่งอยู่ตรงนี้แหละจนกว่ารัฐบาลจะยกเลิกการขึ้นค่าไฟ และมีการระดมพลออกมาเพิ่ม รายงานข่าวบอกว่ามีประชาชนมาชุมนุมประท้วงเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 - 15,000 คน ส่วนอีกหนึ่งสาเหตุของการปะทะกันนั้นรายงานข่าวบอกว่ากลุ่มผู้ประท้วงบางคนเริ่มขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ (เริ่มใช้ความรุนแรง) หลังจากที่ตำรวจอาร์เมเนียฉีดน้ำ (เล่นสงกรานต์ปลายเดือนมิถุนายน) ใส่กลุ่มผู้ประท้วง จึงนำมาซึ่งการแจกขนมตุ๊บตั๊บให้กันทั้งสองฝ่าย ก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายราว 18 คน
    สื่อฯกระแสหลักของทั้งสหรัฐฯและตะวันตกและในเครือของพวกเขาจะเล่นข่าวประเด็นที่มีการปะทะกันนี้เป็นพิเศษ (มันเป็นปรกติของสื่อฯพวกนี้อยู่แล้ว) บีบีซีรายงานว่าทูตสหรัฐฯออกมากล่าวว่า "สหรัฐฯรู้สึกเป็นกังวลกับรายงานที่ตำรวจใช้ความรุนแรง และขอเรียกร้องให้มีการสอบสวนเต็มรูปแบบ" (นั่นไง! มันจ้องไว้อยู่แล้ว) ส่วนสื่อฯของยูเครนก็พยายามนำเสนอข่าวในมุมมองว่านี่คือ "ElectroMaidan" ซึ่งเหมือนพยายามจะชี้นำไปว่าการประท้วงในอาร์เมเนียในครั้งนี้คือวิกฤตไมดานยูเครนโมเดล และพยายามกล่าวโทษรัสเซียว่าเป็นสาเหตุของความวุ่นวายนี้ สื่อฯตะวันตกก็พยายามชี้นำให้คนมองว่าสาเหตุมาจากรัสเซีย เพื่อให้สอดรับกับ anti-Russia propaganda ของสหรัฐฯและอียูนั่นเอง โดยชูประเด็นว่ารัสเซียเป็นเจ้าของกิจการด้านพลังงานและไฟฟ้าในอาร์เมเนียมากกที่สุด และพยายามโยงไปที่เรื่องรัสเซียมีฐานทัพและดำเนินกิจการด้านพลังงานอยู่ในอาร์เมเนีย แต่ไม่กล้าที่จะพูดถึงบริษัทของสหรัฐฯที่เข้าไปถือหุ้นและซื้อกิจการไฟฟ้าบางส่วนจากอาร์เมเนียเลย
    แม้ว่ากลุ่มผู้ประท้วงเองจะออกมายืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และไม่มีใครอยู่เบื้องหลังในการประท้วงของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นตะวันตกหรือตะวันออก แต่สื่อฯของยูเครนก็พูดว่า "… พวกเขาส่วนมากซึ่อสัตย์ต่อรัสเซียและกรุงเครมลิน" และนาย Stephan Grigoryan ซึ่งเป็นพวก NGO think-tank (ขี้ข้าอเมริกาและพวกอีลีทนายทุนตะวันตก) กลับกล่าวว่า "เพราะว่าเหตุนี้ จึงมีถนนที่ทอดยาวไปข้างหน้าที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง ประชาชนเข้าใจว่าความหวังของพวกเขาก็เพื่อสหภาพยุโรป ในขณะที่รัสเซียกำลังเสื่อม (People understood that their hopes for a Eurasian Union, with Russia are fading) การมีสายสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับรัสเซียนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นลบ ตำรวจไม่มีสิทธิ์จับพลเมือง จากมุมมองของยุโรปแล้วนี่ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่ (ฮึ่ม! หันไปดูเรื่องผู้อพยพและการค้ามนุษย์ในอียูดีกว่าไหมว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนขนาดไหน?)" (เป็นไงสไตล์การเสี้ยมของพวก ngo ที่มือที่มือไม่เห็นส่งเข้าไปบ่อนทำลายประเทศอื่น?)
    The Eyes
    25/06/2558
    ----------
    15,000 Take to Streets of Armenian Capital Over Utilities Rate Hike / Sputnik International
    18 Hurt, 237 Arrested Following Protests Over Electricity Rates in Armenia / Sputnik International
    Thousands Protest in Armenian Capital Against Rising Electricity Prices / Sputnik International
    Armenian protesters refuse to meet president, continue ‘Electric Yerevan’ sit-in — RT News
    Protesters Remain Barricaded in Yerevan; Police Are on High Alert / Sputnik International
    The Interests That Power Armenia's 'Electric' Protests / Sputnik International
    http://rt.com/politi…/269392-russian-senator-armenia-unrest/
    http://uatoday.tv/…/armenian-protesters-against-electricity…
    Vorotan Complex of HPP
    http://www.reuters.com/…/us-armenia-energy-investment-idUSB…
     

แชร์หน้านี้

Loading...