เรียนถามเรื่องการบรรลุซึ่ง พระอัครสาวก หรือพระมหาสาวกครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จิตวโร, 18 มิถุนายน 2015.

  1. จิตวโร

    จิตวโร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +64
    ข้าพเจ้ามีความสงสัยอยู่เรื่องครับ อยากเชิญสหายะรรมทั้งหลายร่วมตอบ
    เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ครับ

    เรื่องมีว่า มีบุรุษผู้หนึ่งปรารถนาเป็นพระมหาสาวก มีคำถามว่า
    1.ต้องบำเพ็ญเพียรกี่อสงไขย กัปป์
    2.สามารถบรรลุโสดาบัน ก่อนได้หรือไม่ หรือต้องรอชาติสุดท้ายเลยจึงสำเร็จ
    3.ต้องได้รับการพยากรณ์หรือไม่

    เชิญพี่ๆ และสหายธรรมทั้งหลายร่วมตอบครับ
    ผมเป็นคราวาสครับ
     
  2. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    1. หนึ่งอสงไขย แสนมหากัปป์
    2. ได้ แต่ไม่สนุก
    3. ไม่ค่อยโดยตรง
     
  3. zhayun

    zhayun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +425
    1. 2อสงไขย + แสนกัปป์
    2. ต้องรอชาติสุดท้ายครับ ถึงจะบรรลุเป็นพระอริยเจ้า
    3. ต้องได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าด้วยครับ

    เพิ่มเติมอีกนิด ถ้าหากปรารถนา จริงๆ ต้องมีอิทธิบาท4ด้วยครับ

    อิทธิบาท4คือ
    1. ฉันทะ มีความพอใจ ในการเป็นพระอัครสาวก หรือพระมหาสาวก
    2. วิริยะ มีความเพียร แม้จะต้องใช้เวลายาวนาน ถึง 2อสงไขย+แสนกัปป์ ก็ไม่ลดละความเพียร
    3. จิตตะ มีจิตตั้งมั่นไม่หวั่นไหว แม้จะต้องรับทุกข์ทรมารในนรก ก็ไม่หวั่นไหว
    4. วิมังสา ใช้ปัญญาพิจารณาก่อนแล้วจึง บำเพ็ญบารมีต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2015
  4. tutong

    tutong เมสัมมุขขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขขา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +236
    มหาสาวก(เอตทัคคะด้านใดด้านหนึ่ง) 2 อสงไขย 1 แสนกัป(ใช้เวลาเท่ากับการบำเพ็ญของพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    ปกติสาวก 1อสงไขย1แสนกัป
     
  5. view2004

    view2004 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +1,107
    ถูกต้องครับ อีกทั้งยังต้องมี ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา
    รวมถึงทศบารมีด้วยครับผม
     
  6. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    อัครสาวก (เบื้องขวาหรือซ้าย) ต้องบำเพ็ญ 1 อสงไขย+ (หลังได้รับพยากรณ์)
    แต่ถ้าอสีติ เป็นเลิศพิเศษเฉพาะด้าน จะอยู่ที่ 1 แสนกัป จนถึง 1 อสงไขย+ (หลังได้รับพยากรณ์)

    พระสาวก จะอยู่ที่ราว หลายกัป จนถึง 1 แสนกัป (ไม่จำเป็นต้องได้รับพยากรณ์)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2015
  7. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    <TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 9669162" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>tutong</TD><TD class=alt1>มหาสาวก(เอตทัคคะด้านใดด้านหนึ่ง) 2 อสงไขย 1 แสนกัป(ใช้เวลาเท่ากับการบำเพ็ญของพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    ปกติสาวก 1อสงไขย1แสนกัป



    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR title="Post 9669162" vAlign=top><TD class=alt2 width=125 align=middle>zhayun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_9669143", true); </SCRIPT>
    สมาชิก
    1. 2อสงไขย + แสนกัปป์

    2. ต้องรอชาติสุดท้ายครับ ถึงจะบรรลุเป็นพระอริยเจ้า
    3. ต้องได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าด้วยครับ

    สองท่านนี้ พูดมาได้ ดี ถูกต้อง เรื่องบารมี ๑๐ นั้น ต้องทำเหมือนกันหมดครับ ทำตามกำลังของสาวก






    ขอแสดงความคิดเห็น นิดหนึ่งครับ ผมว่า ถ้าบุคคลๆนั้น จะบรรลุ มรรคผลก่อน ที่ จะทำตาม เจตนาเดิม คือ ไม่ขอติดตาม มหาพระโพธิสัตว์องค์นั้นๆต่อไป คือเมื่อไปพบ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง อยากจะไปพระนิพพานก่อน ก็ตัดเหตุเฉพาะกาล นี่แค่คิดเองครับ และอีกประการหนึ่ง ส่วนใหญ่อ่าน ประวัติ อัครสาวกแล้ว แหมตั้งแต่ ในสมัย ท่านสุเมธดาบท บางที มันไม่ใช่แค่ ๒ อสงขัยน่ะซีครับ ไว้ให้เป็นข้อคิดครับ ผมก็สงสัยเหมือนกันครับ


    </TD><TD class=alt1></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2015
  8. จิตวโร

    จิตวโร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณทุกท่านที่ให้วิทยาธารครับ
     
  9. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ชอบจริยาวัตรของพระอริยะสาวกรูปใดก็ปฏิบัติตามปฏิปธานั้น ทำแต่เหตุไว้ ส่วนผลจะเกิดเมื่อใดก็เมื่อนั้น สิ่งที่สำคัญคือจุดหมายหากเรายังหาจุดหมายไม่ได้ก็ไม่อาจจะไปถึง...สวัสดี...
     
  10. Veeravit

    Veeravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +278
    พระพุทธเจ้าบำเพ็ญบารมี 4/8/16 อสไขย ตรงนี้มาจากคำกล่าวโดยตรงจากพระพุทธเจ้า

    ส่วนที่ว่าบำเพ็ญ 20/40/80 เป็นคำภีร์ที่อาจาร์ยชั้นหลังๆแต่งขึ้น(เหมือนคำภีร์อนาคตวงศ์) ต้องใช้วิจารณญาณในการเชื่อ

    พระปัจเจกบำเพ็ญบารมี 2 อสงไขย เศษ 1 แสนกัปป์
    อัครสาวก 1 อสงไขย 1 แสนกัปป์
    เอคทัคะ 1 แสนกัปป์
    พระอสีติ 80 รูปถูกแบ่งโดยอาจารย์ในชั้นหลัง บางส่วนเป็นพระอรหันต์ที่เป็นเอคทัคะบางรูปไม่ใช่ จึงไม่อาจถือเป็นมติได้ว่า พระอสีติต้องบำเพ็ญบารมีถึง 1 แสนกัปป์ทุกรูป

    โดยผมมีข้อสงสัยในส่วนการพยากรณ์ของพระปัเจกพุทธเจ้าว่าต้องได้รับพยากรณ์เมื่อไร ระหว่าง 2 อสงไขยเศษแสนกัปป์ หรือ เพียงแค่ 1 แสนกัปป์(กรณี นายมาลาการ ต้องใช้เวลาอีก 1 แสนกัปป์ พยากรณ์โดยพระพุทธเจ้า)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2015
  11. ฉันทปาโล

    ฉันทปาโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +677
    1.ไม่ทราบจริง ๆ ครับ ไม่กล้าตอบ

    2.น่าจะรอสั่งสมบารมีจนเต็มเปี่ยมในชาติสุดท้ายนะครับ เพื่อเข้าสู่ Process การขัดเกลากิเลสโดยกงล้อแห่งธรรมหรืออริยสัจจ์ ๔ / ๓ รอบ ๑๒ อาการในครั้งเดียว

    3. น่าจะต้องรับคำพยากรณ์ด้วยเพราะพระไตรปิฏกในฝ่ายเถระวาทมีจารึกไว้ว่าพระอัครสาวกล้วนแต่ได้รับคำทำนายก่อนทั้งนั้น แต่เรื่องในอนาคตอีกน้านนนนแสนนานนนน เราก็ไม่อาจทราบได้
     
  12. พญายา

    พญายา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,265
    ค่าพลัง:
    +8,171
    หากเกิดทันท่านพระพุทธเจ้า เขาว่าแม้แต่เราๆก็จะบรรลุธรรมง่ายกว่า
     
  13. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    การจะเกิดในส่วนของพระอรหันต์นั้น มีหลายช่องทาง

    1.เป็นผู้ที่ปรารถนาอยากเป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่ง(เอตทัคคะ) เมื่อผู้นั้นได้เกิดในยุคที่มีพระพุทธเจ้าปรากฎ เมื่อเห็นภิกษุท่านใดมีความสามารถ(เอตทัคคะ) แล้วเกิดชื่นชอบอยากเป็นแบบภิกษุนั้นบ้าง ก็ให้พระพุทธเจ้าทำการพยากรณ์รับรอง ท่านก็จะทำนายให้ว่าเราจะได้เกิดเป็นพระอรหันต์มีเอตทัคคะแบบนี้ในยุคของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดในอนาคตกาล

    2.เป็นผู้ที่ปรารถนาอยากเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย,ขวา ก็เหมือนข้อ 1 คือ ต้องได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าในขณะนั้น

    3.ไม่ได้ปรารถนาจะเป็น แต่เมื่อบำเพ็ญบุญบารมีมาจนเต็มก็จะมีโอกาสได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ดังที่พระพุทธเจ้าจะทำการตรวจดูสัตว์โลกด้วยญาณในตอนเช้าว่าผู้ใดมีอินทรีย์ 5 ดีพอพร้อมที่จะบรรลุธรรม หรือมีวิสัยที่จะธรรลุธรรมได้ ท่านก็จะไปโปรดผู้นั้น

    4.มูลเหตุอีกหลายประการที่ทำให้ได้บำเพ็ญบุญบารมีแล้วมาเกิดในยุคเดียวกับพระพุทธเจ้า และได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรม

    ตอบคำถามนะครับ
    1.ต้องบำเพ็ญเพียรกี่อสงไขย กัปป์
    - ช้าเร็วไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของผู้นั้น และขึ้นอยู่กับว่าจะได้ไปเกิดในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์ใด แต่ถ้าให้เอาตัวเลขมาบอกคงได้ดังนี้
    ระยะเวลาจะอยู่ที่ระหว่าง 1 แสนกัปป์ ---> 1 อสงไขยกัปป์ ---> มากกว่า 1 อสงไขยกัปป์ ขึ้นอยู่กับว่าจะได้ไปเกิดเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าประเภทไหนด้วย วิริยาธิกะ ศรัทธาธิกะ ปัญญาธิกะ

    2.สามารถบรรลุโสดาบัน ก่อนได้หรือไม่ หรือต้องรอชาติสุดท้ายเลยจึงสำเร็จ
    - อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะพระมหาสาวกต้องใช้เวลาสั่งสมบุญบารมีนานมากเกิน 7 ชาติแน่นอน แต่คิดว่าน่าจะบรรลุโสดาบันก่อนได้เพราะถ้าไปเกิดในยุคสมัยของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนหน้าของตนเองก็มีโอกาสได้บรรลุโสดาบัน จากนั้นรอจนจบ 1 พุทธันดร แล้วก็มาเกิดในยุคสมัยของตน

    3.ต้องได้รับการพยากรณ์หรือไม่
    - ถ้าเป็นพระอรหันต์ในตำแหน่งสำคัญ ต้องมีการตั้งความปรารถนา ตั้งจิตอธิษฐาน ได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า คือมันก็เป็นเหมือนพิธี ระเบียบที่ต้องปฏิบัติตามกันมา เหมือนที่พระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้ท่านก็ต้องเอาถาดไปลอยทวนน้ำเสี่ยงทาย ทำเหมือนกันทุกพระองค์นี่แหละครับ
     
  14. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    หลวงปู่สาวกโลกอุดร ได้แสดงธรรมในส่วนนี้ว่า
    1. ธรรมที่ให้ซึ่งอริยบุคคลมีแต่เพียงฌานเท่านั้น
    2. หากผู้นั้นเพียรเพ่ง 1 แสนครั้งขึ้นไปก็มีโอกาสบรรลุขั้นใดขั้นหนึ่ง
    ****ที่ปรากฏในพระไตรปิฏก ตามพระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังกิณี เล่ม๑ ภาค๑ หน้าที่๔๐ เมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ประมาณ ๗ วัน พระองค์ก็อุทานว่า "ยทา หเว ปาตุภวันติ ธรรมมา อาตาปิโน ฌานยโต พราหมฌัสสะ ฯ เป ฯ สูโรวะ โอภาสยมนูตลิกขัง"
    ในกาลใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแก่พรามณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ ในกาลนั้น ความสงสัยทั้งปวงเทียว ของพราหมณ์ย่อมสิ้นไป เพราะมาทราบชัดซึ่งธรรมพร้อมทั้งเหตุ.
    ในกาลใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแก่พรามณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ ในกาลนั้น ความสงสัยทั้งปวงเทียว ของพราหมณ์ย่อมสิ้นไป ซึ่งมาได้รู้ซึ่งความสิ้นไปแห่งปัจจัยทั้งหลาย.
    ในกาลใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแก่พรามณ์ผู้มีความเพียรเพ่งอยู่ ในกาลนั้น พราหมณ์นั้น ย่อมกำจัดมาร และเสนามารได้เหมือนพระอาทิตย์ยังท้องฟ้าให้สว่างอยู่ ฉะนั้น.
    ******ทั้งสติปัฏฐานหรือฌานสมาบัติก็ใช้หลักการเพียรเพ่ง(ไม่มีการพิจารณา การรู้การเห็นก็เป็นจริงตามที่รู้ที่เห็นไปเลย) การเพียรเพ่งผลคือการดับไม่ว่าทั้งสติ ปัญญาและกิเลสก็ดับด้วยกันทั้งหมด ว่าโดยรวมๆก็ความคิดดับนั่นเอง ปัญญาที่ถูกดับนี้เป็นปัญญาโลกีย์ เมื่อดับไปทั้งหมดก็จะมีปัญญาญาณเกิดขึ้นหรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นปัญญาระดับโลกุตรธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2015
  15. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014






    พระอัครสาวก คือตำแหน่ง
    พระสาวกซ้าย และ พระสาวกขวา
    ของพระพุทธเจ้า
    ซึ่งมีเพียงสองตำแหน่งเท่านั้น
    จะมีความสามารถ เกือบทุกอย่าง
    เหมือนพระพุทธเจ้า แต่จะมีกำลังที่อ่อนกว่า


    ส่วน พระมหาสาวก ซึ่งเป็นตำแหน่งของ
    พระสาวก 80 พระองค์ ที่พระพุทธเจ้า
    รับรองแล้วว่า มีความสามารถโดดเด่น
    ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ

    ที่ต้องเรียกว่าตำแหน่ง
    ก็จะเหมือนกับตำแหน่ง
    เจ้าอาวาสวัดบ้านนอก
    ที่ไม่ได้มีชั้นยศอะไรเลย
    มีพระอยู่ 10-20 รูป
    ทีนี้ พอเจ้าอาวาส ตายลง
    ตำแหน่งเจ้าอาวาส
    ก็จะต้องเป็นของใครคนใดคนหนึ่งในวัดนั้น
    สมัยก่อน จะนิมนต์ผู้ที่มีธรรมสูงสุด
    หรือ มีบารมีมากสุดขึ้นเป็นเจ้าอาวาส
    แต่ต่อมาใช้ กฏอายุพรรษามาก
    เพราะเริ่มไม่มีผู้บรรลุธรรมนั่นเอง

    ที่นี้ตำแหน่ง ที่ไล่ตั้งแต่
    พระพุทธเจ้า
    พระปัจเจกพุทธเจ้า
    พระอัครสาวก
    พระมหาสาวก
    ลงมาเรื่องๆ

    ทุกตำแหน่งเมื่อว่างลง
    จะไม่ได้มีผู้เดียวที่สามารถครองตำแหน่งได้
    จะมีเป็นหมื่นเป็นแสนองค์
    ที่รอจะขึ้นแทนที่ ในวาระต่อไป
    โดยจะให้ คนที่ีพระพุทธเจ้ารับรองแล้ว
    ขึ้นบัญชีไว้ก่อน
    ส่วนคนที่ยังไม่ได้ทำนาย หรือ รับรอง
    ก็ต้องเข้าแถวรอโอกาสต่อไป

    โดยมีข้อกำหนด เช่น
    เมื่อขอลาพุทธภูมิ ก็ต้องไปเป็น สาวกภูมิ
    เมือเป็น สาวกภูมิที่บรรลุธรรมแล้ว
    ก็ไม่มีสิทธิ์เป็น พระพุทธเจ้า หรือ พระปัจเจกะ อีก
    ต้องเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งคือ
    พระอัครสาวก พระมหาสาวก พระสาวก
     

แชร์หน้านี้

Loading...