ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น่ากลัว! ประมวลภาพ ภูเขาไฟซินาบุงระเบิดควันดำทะมึน พ่นลาวาแดงฉาน
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 มิ.ย. 2558 11:49

    [​IMG]

    ชาวอินโดฯ กว่าพันคนเร่งอพยพ ภูเขาไฟซินาบุง พ่นหินแร่ และลาวาร้อน ไหลออกมาแดงฉานน่ากลัว หลังจากเกิดระเบิดรอบใหม่ เมื่อต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

    [​IMG]

    เมื่อ 16 มิ.ย. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ภูเขาไฟซินาบุง บนเกาะสุมาตรา ทางตะวันตกของประเทศอินโดนีเซีย ระเบิดครั้งใหม่ พ่นเถ้าถ่านดำทะมึนพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า เมื่อ 14 มิ.ย. 58 จนทำให้ชาวบ้านกว่า 1,200 คน ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้เคียงภูเขาไฟ ต้องรีบอพยพออกจากบ้านเรือน ไปพำนักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางการ เพื่อความปลอดภัยในระยะนี้

    [​IMG]

    บีบีซี รายงานว่า ภูเขาไฟซินาบุง ซึ่งสงบนิ่งมานานกว่า 400 ปี ได้มีการระเบิดปะทุเถ้าถ่านควันดำทะมึนออกมาอีกครั้งในปี 2553 และเกิดระเบิดครั้งล่าสุดตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 58 ทำให้สำนักงานจัดการหายนภัยแห่งชาติอินโดนีเซียได้ประกาศยกระดับเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด

    [​IMG]

    ด้านนักวิทยาศาสตร์หลายคนมีความวิตกกังวลว่า ภูเขาไฟซินาบุง อาจก่อให้เกิดอันตรายในอีกไม่กี่สัปดาห์ที่จะมาถึง เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย. 58 ได้มีหินแร่จากภูเขาไฟ ลาวาร้อน และเถ้าถ่านไหลออกมาจากภูเขาไฟอย่างรวดเร็ว อย่างน้อย 28 ครั้ง โดย นายกีดี ซวนติก้า นักวิชาการด้านภูเขาไฟ ของทางการอินโดนีเซียชี้ว่า สัญญาณดังกล่าว แสดงว่า มีลาวาไหลมารวมตัวกันเป็นลักษณะกองใหญ่รอบปล่องภูเขาไฟมีขนาดใหญ่ขึ้น

    [​IMG]

    นายทหารระดับสูงของอินโดนีเซียนายหนึ่งกล่าวว่า อันตรายจากภูเขาไฟซินาบุงระเบิดนั้น ทำให้ทางการอินโดนีเซียได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา และมีประชาชนหลายพันคน อพยพออกจากบ้านเรือนกันมากขึ้น ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากเหตุการณ์ภูเขาไฟซินาบุงระเบิด และเกิดมีลาวาร้อนไหลออกมาเมื่อเดือน ก.พ.ปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย

    น่ากลัว! ประมวลภาพ ภูเขาไฟซินาบุงระเบิดควันดำทะมึน พ่นลาวาแดงฉาน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกาหลีเหนือแล้งหนักสุดในรอบศตวรรษ | เดลินิวส์
    สื่อของทางการเกาหลีเหนือเผยสถานการณ์ภัยแล้งในประเทศกำลังเข้าขั้นวิกฤต รุนแรงสุดในรอบ 100 ปี ส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคการเกษตร วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558 เวลา 0:32 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ รายงานว่า ขณะนี้ เกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากฝนไม่ตกมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในจังหวัดฮวังแฮเหนือ ฮวังแฮใต้ พยองกันใต้ และฮัมกยองใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกหลักของประเทศ

    รายงานระบุว่า ข้าวในนาทั่วประเทศราวร้อยละ 30 กำลังยืนต้นตายจากการขาดน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติทั้งแม่น้ำและลำธารเริ่มแห้งขอด อีกทั้งน้ำสำรองในแหล่งกักเก็บก็ลดลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา โดยกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ผลผลิตทางการเกษตรของเกาหลีเหนือในปีนี้อาจลดลงจากปีที่แล้วมากถึงร้อยละ 20 เนื่องจากภาวะฝนทิ้งช่วงที่อาจต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นเดือน ก.ค.

    นายกูแลม ไอแซคไซ ผู้ประสานงานสหประชาชาติ (ยูเอ็นอาร์ซี) ประจำเกาหลีเหนือ แถลงเมื่อเดือนที่แล้ว เตือนว่าเกาหลีเหนืออาจต้องประสบกับวิกฤตที่เป็นผลมาจากภัยแล้งในช่วงปีที่ผ่านมา ที่มีปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยต่ำสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งคาดว่าอาจกระทบกับสถานการณ์ความอดอยากในประเทศ ที่ราว 1 ใน 3 ของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีต้องอยู่ในสภาพขาดสารอาหาร อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่าสถานการณ์อาจไม่รุนแรงเท่าที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบันมีความยืดหยุ่นและเตรียมพร้อมมากขึ้น

    ทั้งนี้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งความแห้งแล้งและน้ำท่วม เป็นปัญหาสำคัญสำหรับเกษตรกรรมในเกาหลีเหนือ แม้จะมีพัฒนาการปรับปรุงรูปแบบวิธีการทำเกษตร และชนิดของพืชที่ปลูกให้เหมาะสม เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ตาม นับจากภาวะอดอยากรุนแรงในช่วงคริสต์ทศวรรษปี 1990 เป็นต้นมา เกาหลีเหนือได้รับความช่วยเหลือด้านอาหารจากนานาชาติ แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การสนับสนุนดังกล่าวลดลงมาก เนื่องจากข้อจำกัดในการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมและการกีดกันการตรวจสอบความโปร่งใสในการแจกจ่ายอาหารจากรัฐบาลเปียงยาง

    เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ตั้งเป้าเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับเกาหลีเหนือไว้ที่ 111 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,735 ล้านบาท) ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบรรลุเป้าหมาย โดยปัจจุบันประชาชนชาวเกาหลีเหนือยังคงรอคอยความช่วยเหลือเร่งด่วนทั้งในด้านอาหาร เกษตรกรรม สาธารณสุข โภชนาการ น้ำและโครงการด้านสุขอนามัย.“

    อ่านต่อที่ : เกาหลีเหนือแล้งหนักสุดในรอบศตวรรษ | เดลินิวส์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าชายซาอุฯยอมความฟอร์บส์จัดอันดับรวยต่ำเกินจริง | เดลินิวส์

    [​IMG]

    เจ้าชายซาอุดีอาระเบียยอมความกับนิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐ หลังฟ้องหมิ่นประมาท ฐานประเมินความร่ำรวยของพระองค์ต่ำกว่าความเป็นจริง วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2558 เวลา 3:36 น.

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่า เจ้าชายมหาเศรษฐีแห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย อัลวาลีด บิน ทาลัล ตกลงยอมความ ในคดีที่พระองค์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท ต่อนิตยสารฟอร์บส์ในแวดวงธุรกิจและการเงินของสหรัฐอเมริกา ที่จัดอันดับมหาเศรษฐีของโลก ซึ่งพระองค์ระบุว่าว่าประเมินความร่ำรวยของพระองค์ ต่ำกว่าความเป็นจริงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    เจ้าชายอัลวาลีด เจ้าของบริษัทคิงดอม โฮลดิ้ง ซึ่งถือหุ้นในหลายบริษัทขนนาดใหญ่ เช่น ทวิตเตอร์ ซิติีกรุ๊ป ยูโร ดิสนีย์ และโรงแรมซาวอยในกรุงลอนดอน ยื่นฟ้องนิตยสารฟอร์บส์ ต่อศาลอังกฤษ ในกรุงลอนดอน เมื่อปี 2556 เนื่องจากการจัดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดของโลกประจำปีนั้น ฟอร์บส์ระบุว่าเจ้าชายอัลวาลีดทรงมีสินทรัพย์สุทธิตามประเมิน 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพระองค์โต้แย้งว่าฟอร์บส์ประเมินมูลค่าบริษัทคิงดอม โฮลดิ้ง ต่ำเกินจริง เนื่องจากไม่ใช้ราคาตลาดเต็ม ของหุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในซาอุดีอาระเบีย และยังระบุเป็นนัยว่าบริษัทของพระองค์ไม่โปร่งใส ในการรายงานด้านการเงิน

    แถลงการณ์ของสำนักเลขานุการส่วนพระองค์เจ้าชายอัลวาลีด เมื่อวันอังคาร ระบุว่า คดีฟ้องร้องนิตยสารฟอร์บส์ และนักเขียน 2 คน เป็นจำเลย สามารถตกลงยอมความกันได้ "ด้วยเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน" ในเว็บไซต์ของฟอร์บส์ล่าสุดได้ปรับสถานะทางการเงินของเจ้าชายอัลวาลีด มีสินทรัพย์สุทธิตามประเมิน 22.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 761,600 ล้านบาท) ทำให้กลายเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุด อันดับที่ 34 ของโลก เว็บไซต์ของฟอร์บส์ ระบุว่า การประเมินนี้ยึดตามการคิดคำนวณของฟอร์บส์ จากมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทคิงดอม โฮลดิ้ง ไม่ใช่จากราคาตลาดของหุ้นบริษัท เนื่องจากมีเพียงร้อยละ 5 ของบริษัทเท่านั้น ที่ทำการซื้อขายโดยเปิดเผย ในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดีอาระเบีย.“

    อ่านต่อที่ : เจ้าชายซาอุฯยอมความฟอร์บส์จัดอันดับรวยต่ำเกินจริง | เดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อากาศร้อนทำส่งออกถ่านหินเวียดนามลด | เดลินิวส์

    [​IMG]

    ลูกค้าถ่านหินของเวียดนามกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เมื่ออากาศร้อนระอุทำให้ความต้องการใช้ผลิตพลังงานภายในประเทศเพิ่มขึ้น และการส่งออกลดลง วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558 เวลา 22:36 น.

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่า จีน ญี่ปุ่น และประเทศลูกค้าผู้ซื้อถ่านหินจากเวียดนามรายอื่นๆ กำลังเผชิญความไม่แน่นอนในปีนี้ เนื่องจากภาวะอากาศร้อนระอุในเวียดนาม อันเป็นผลสืบเนื่องจากปรากฏการณ์ เอล นินโญ ทำให้การบริโภคพลังงานในประเทศพุ่งสูงเป็นสถิติ เพิ่มแรงกดดันต่อการจัดส่งเชื้อเพลิงภายในภูมิภาค

    ความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในเวียดนาม สูงสู่ระดับ 14.96 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จากการที่บรรดาอาคารบ้านเรือนและสำนักงานธุรกิจ ต่างเปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อเอาชนะคลื่นความร้อน ที่แผ่ปกคลุมประเทศ นับตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว ส่งผลให้การบริโภพลังงานในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนแบ่งของการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานถ่านหิน เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 3 ของทั้งหมด และในช่วงเวลาเดียวกันนี้ การส่งออกถ่านหินของเวียดนามไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงอินเดียและเกาหลีใต้ ลดลงเป็นสถิติถึงร้อยละ 77.2 เหลือ 895,000 ตัน

    ความต้องการถ่านหินในหลายประเทศของเอเชีย เช่นอินเดียและเวียดนาม ยังถูกกระตุ้นจากการสูญเสียพลังน่้ำ อันเนื่องมาจากคลื่นความร้อน ส่งผลให้ต้องหันไปหาเชื้อเพลิงอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นถ่านหิน

    ราคาส่งออกถ่านหินอ้างอิงจากดับชนีราคาของออสเตรเลีย ปรับตัวลดลงร้อยละ 6.5 นับตั้งแต่เิร่มต้นเดือนนี้ ลงไปอยู่ที่ตันละ 61.70 ดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกถ่านหินที่ลดลงของเวียดนาม ยังเป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ตกต่ำลงประมาณร้อยละ 10 ต่อปี ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553 คาดว่าเวียดนามจะเริ่มนำเข้าถ่านหินประเภทให้ความร้อน (themal coal) จากปี 2560 เนื่องจากความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนสูงเกินกว่าที่จะหาได้จากภายในประเทศ

    จากรายงานประจำปีของ ANZ เมื่อต้นปีนี้ ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2553 เวียดนามได้กลายเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าการส่งออก ความต้องการน้ำมันเติบโตร้อยละ 7.5 ต่อปี ในช่วงเวลา 20 ปีจนถึงปี 2553 รวดเร็วสุดในภูมิภาค และมากกว่าจีนซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.5

    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ Vinacomin กลุ่มบริษัทเหมืองแร่ถ่านหินรายใหญ่สุดของเวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามจำเป็นต้องนำเข้าถ่านหิน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2560 แต่ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้น.“

    อ่านต่อที่ : อากาศร้อนทำส่งออกถ่านหินเวียดนามลด | เดลินิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตาลีบันเตือนไอเอสอย่าเข้าไปซ่าในอัฟกานิสถาน | เดลินิวส์

    [​IMG]

    กลุ่มตาลีบันประกาศเตือนผู้นำกลุ่มไอเอส อย่าคิดเข้าไปขยายอิทธิพลแข่งในดินแดนอัฟกานิสถาน วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558 เวลา 21:44 น.

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่า กลุ่มตาลีบานที่กำลังก่อความไม่สงบ เพื่อกลับมาครองอำนาจในอัฟกานิสถาน ขู่เตือนผู้นำกลุ่มไอเอสเมื่อวันอังคาร อย่าคิดเข้าไปสู้รบแผ่ขยายอิทธิพลแข่งในดินแดนอัฟกานิสถาน ความเคลื่อนไหวมีขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวนักรบตาลีบันแปรพักตร์ ไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรียเป็นจำนวนมาก และเกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มตาลีบัน กับกลุ่มนักรบที่ฝักใฝ่ไอเอสในอัฟกานิสถานหลายครั้ง

    กลุ่มไอเอส ที่่รู้จักกันในชื่อย่อตามภาษาอาระบิกว่า ดาเอช และกำลังสู้รบเพื่อขยายดินแดน หลังบุกยึดครองพื้นที่ภาคตะวันตกของอิรัก และภาคตะวันออกของซีเรีย ไม่เคยยอมรับอย่างเป็นทางการว่า ได้เข้าไปในดินแดนอัฟกานิสถาน แต่ล่าสุดกำลังเกิดกระแสวิตกเพิ่มมากขึ้นว่า เป็นอีกดินแดนที่ไอเอสกำลังจะเข้าไปแผ่ขยายอิทธิพล

    จดหมายที่ลงนามโดย มุลเลาะห์ อัคตาร์ โมฮัมหมัด มานซูร์ รองหัวหน้าใหญ่กลุ่มตาลีบันในอัฟกานิสถาน ที่มีถึง อาบู บาการ์ อัล-แบกดาดี ผู้นำสูงสุดของกลุ่มไอเอส เป็นภาษาพาชตู อูร์ดู อาระบิก และดารี ลงเผยแพร่ในเว็บไซต์ของกลุ่มตาลีบัน มีข้อความเตือน อัล-แบกดาดี อย่าพยายามเข้าไปแทรกแซงในอัฟกานิสถาน และว่า สงครามศักดิ์สิทธิต่อต้านอเมริกาและกลุ่มพันธมิตร จะต้องกระทำภายใต้ธงผืนเดียวและผู้นำคนเดียว ไอเอสไม่ควรเข้าไปสู้รบขับไล่อเมริกาแข่งกับตาลีบันในอัฟกานิสถาน

    สัปดาห์ที่แล้ว สื่อท้องถิ่นอัฟกานิสถานรายงานการสู้รบ ระหว่างนักรบตาลีบันกับกลุ่มสนับสนุนไอเอส ทางภาคตะวันออกของประเทศ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็ฐจำนวนมากทั้ง 2 ฝ่าย พล.อ.จอห์น แคมป์เบล ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐในอัฟกานิสถาน กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า กลุ่มไอเอสกำลังเกณฑ์นักรบในอัฟกานิสถาน แต่ยังไม่เริ่มปฏิบัติการในประเทศ.“

    อ่านต่อที่ : ตาลีบันเตือนไอเอสอย่าเข้าไปซ่าในอัฟกานิสถาน | เดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียจวกแผนสหรัฐประจำการอาวุธในยุโรปตอ. | เดลินิวส์

    [​IMG]

    รัสเซียกล่าวหาแผนการทางทหารของสหรัฐ ที่เตรียมนำอาวุธเข้ามาประจำการในยุโรปตะวันออก คือภัยคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558 เวลา 10:34 น.

    สำนักข่าวต่างปรเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่าพล.อ.ยูริ ยาคูบอฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อวันจันทร์ วิจารณ์แผนการของกองทัพสหรัฐ ที่เตรียมเคลื่อนย้ายอาวุธสำหรับทหารราบ ที่รวมถึงรถถังและระบบต่อต้านขีปนาวุธ เข้ามาประจำการอยู่ในฐานทัพของโปแลนด์ และอีกหลายประเทศในยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นรัฐบริวารของสหภาพโซเวียต ถือเป็นการแสดงออกอย่างยั่วยุและคุกคามรัฐบาลมอสโกมากที่สุด นับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น

    ความเคลื่อนไหวทางทหารลักษณะดังกล่าวของกองทัพสหรัฐทำให้กองทัพรัสเซียไม่มี "ทางเลือก" มากนัก นอกจากต้องเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนทางตะวันตกของประเทศให้มากขึ้นอีกเช่นกัน ซึ่งอาจร่วมถึงการเร่งติดตั้งขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ "อิสกันเดอร์" ที่มณฑลคาลินินกราดด้วย

    ขณะที่พ.อ.สตีฟ วอร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) แถลงว่าการเคลื่อนย้ายสรรพาวุธเข้าไปประจำการในยุโรปเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์เสริมศักยภาพทางทการของเพนตากอนในยุโรป อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ และนายแอชตัน คาร์เตอร์ รมว.กระทรวงกลาโหม ยังอยู่ระหว่างหารือกันเรื่องปริมาณของอาวุธในคลังสรรพาวุธ และการอาศัยสถานที่จัดเก็บที่นอกเหนือจากในโปแลนด์

    ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เพนตากอนประกาศแผนประจำการเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ 5 "เอฟ-35 ไลท์นิง 2" ที่ฐานทัพอากาศลาเคนฮีธ ในมณฑลซัฟฟอล์ก ทางตะวันออกของอังกฤษ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงตามแผนยุทธศาสตร์ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ ( นาโต )“

    อ่านต่อที่ : รัสเซียจวกแผนสหรัฐประจำการอาวุธในยุโรปตอ. | เดลินิวส์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิตาลี-ฝรั่งเศสวิวาทเรื่องผู้อพยพ | เดลินิวส์

    [​IMG]

    รัฐบาลอิตาลีและฝรั่งเศสเปิด "สงครามน้ำลาย" เรื่องปัญหาผู้อพยพทางเรือ หลังรัฐบาลปารีสปฏิเสธให้เรือผู้อพยพที่เดินทางมาจากอิตาลี ผ่านน่านน้ำไปยังยุโรปเหนือ วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2558 เวลา 12:20 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่านายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ผู้นำอิตาลี แถลงเมื่อวันจันทร์ เรียกร้องยุโรปให้ความสำคัญกับปัญหาผู้อพยพทางเรือในภูมิภาคให้มากกว่านี้ และร่วมกันแก้ไขสถานการณ์อย่างจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่ ผ่านการแบ่งเบาภาระร่วมกันอย่างเป็นธรรม พร้อมกับเตือนเรื่องทางการอิตาลีอาจใช้ "แผนสำรอง" เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน

    ถ้อยแถลงของเรนซีมีขึ้นไม่นาน หลังเกิดวิวาทะว่าด้วยสถานการณ์ผู้อพยพทางเรือระหว่างรัฐบาลโรมกับรัฐบาลปารีส โดยนายอังเกลิโน อัลฟาโน รมว.กระทรวงมหาดไทยของอิตาลี กล่าวแสดงความไม่พอใจการที่ฝรั่งเศสไม่อนุญาตให้เรือบรรทุกผู้อพยพชาวแอฟริกันราว 250 คน ซึ่งปัจจุบันติดค้างอยู่ที่เมืองเวนติมิเกลีย ทางตอนเหนือของประเทศ เดินทางผ่านน่านน้ำของฝรั่งเศสเพื่อไปยังจุดหมาย คือยุโรปเหนือ

    ขณะที่นายแบร์นาร์ด กาเซเนิฟ รมว.กระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส ยืนยันรัฐบาลปารีสมี "สิทธิ์ตามกฎหมาย" ที่จะผลักดันเรือให้กลับไปทางน่านน้ำของอิตาลี อย่างไรก็ตาม กาเซเนิฟยืนยันการตัดสินใจดังกล่าวไม่ใช่การปิดพรมแดน ซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดความตกลงเชงเก้น ที่เป็นการอนุญาตให้พลเมืองของประเทศที่ร่วมลงนามเดินทางระหว่างกันได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องมีวีซ่า

    ทั้งนี้ ท่าทีของอิตาลีและฝรั่งเศสมีขึ้นก่อนรัฐมนตรีมหาดไทยของสหภาพยุโรป ( อียู ) ทั้ง 28 ประเทศ มีกำหนดประชุมกันที่ลักเซมเบิร์กในวันนี้ เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการแก้ไขสถานการณ์การหลั่งไหลของเรือผู้อพยพจากแอฟริกาเหนือ โดยเฉพาะลิเบีย“

    อ่านต่อที่ : อิตาลี-ฝรั่งเศสวิวาทเรื่องผู้อพยพ | เดลินิวส์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    13. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    ประเทศนกรู้คืออังกฤษ ตอนนี้น่าจะเสียวสันหลังวาบแล้วจากภัยของจรวดนิวเคลียร์ของรัสเซียที่ไม่รู้ว่าจะลงมาเมื่อใด
    อังกฤษก่อกรรมทำสงครามมามาก ทั้งสงครามโลกครั้งที่1 และ 2อังกฤษอยู่เบื้องหลังมาตลอดเพื่อทำลายจักรวรรดิอื่น และรักษาความเป็นมหาอำนาจของโลกแต่ผู้เดียว ตะวันออกลางที่เละตุ๊มเป๊ะทุกวันนี้ก็ฝีมือผู้ดีอังกฤษ ยึดอินเดียเป็นเมืองขึ้น ทำลายราชวงศ์พม่า เอาฝ่นไปให้จีนแล้วทำสงครามฝิ่น ยึดมาเลย์เซีย แล้วก็ปล้นสยามมาตั้งแต่รัชกาลที่4 ตอนนี้ยังไม่เลิก แค่เนียนขึ้น
    สาระพัดพิษเลยอังกฤษตัวดี ใครไว้ใจมีแต่จะฉิบหาย
    ขณะนี้อังกฤษกำลังชักใยสหรัฐอยู่ข้างหลังให้สหรัฐออกหน้ารบกับจีนและรัสเซียแทน แล้วค่อยกอบโกยผลประโยชน์ทีหลังจากความล่มจมของประเทศอื่น
    นายPhilip Hammond รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษออกมาบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะขอหัวรบนิวเคลียร์สหรัฐมาติดตั้งบนเกาะอังกฤษ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากก็ตาม
    ทั้งนี้เนื่องจากมีสัญญานที่น่าเป็นห่วงจากกิจกรรมที่เพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นโดยกองทัพรัสเซียและพวกแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ที่รัสเซียให้การสนับสนุน
    ขณะนี้สหรัฐกำลังจะพิจารณายกเลิกข้อตกลงจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ในยุคสงครามเย็น โดยที่สหรัฐจะติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธพิสัยปานกลางให้ยุโรปเพื่อที่จะต่อต้าน "การรุกรานของรัสเซีย"
    ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียได้ออกมาพูดแล้ว ว่าทางรัสเซียเป็นห่วงการติดตั้งขีปนาวุธป้องกันตัวเองของนาโต้ในยุโรป เพราะว่ามันทำให้ยุทธศาสตร์การทหารของรัสเซียเสียดุลไป
    นายHammondกล่าวว่า อังกฤษและสหรัฐจะตัดสินใจร่วมกันว่าจะเอานุ๊คของสหรัฐมาใช้หรือไม่ โดยจะพิจารณาข้อดีข้อเสียทั้งหมด
    นายHammondกล่าวว่า รัสเซียต้องได้รับสัญญานที่ชัดเจนว่าอังกฤษจะไม่ให้รัสเซียล้ำเส้นแดง
    หมายความว่าการติดตั้งนุ๊คของอังกฤษเป็นสัญญานที่จะส่งถึงรัสเซียหรือ?
    นายHammondตอบว่า อาจจะเป็นไปได้ แต่ผมคิดว่าเราจำต้องกระทำการในเรื่องที่อ่อนไหวมากในเรื่องนี้
    อังกฤษอยากได้นุ๊คมะกันเพื่อต้านรัสเซีย แล้วทำไมอิหร่านอยากมนุ๊คไม่ได้ เล่นแซงชั่่นเขามาหลายสิบปีแล้ว
    ปูตินรู้ดีว่า อังกฤษแสบที่สุด ถึงได้ส่งเครื่องบินบอมบ์ไปป้วนเปี้ยนแถวช่องแคบอังกฤษ โดยบินวนอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้อังกฤษต้องส่งเครื่องบินรบขึ้นไปขับไล่ให้ออกพื้นที่
    แต่เครื่องบินบอม์ของรัสเซียก็บินกวนตีนไปเฉื่อยๆเหมือนทำทองไม่รู้ร้อน
    thanong
    17/6/2015
    http://rt.com/uk/265597-us-uk-nukes-russia/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การต่ออายุราชการ
    สามารถดำเนินการได้.ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งได้กำหนดไว้ใน มาตรา ๑๐๘ ว่า ข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ใดเมื่ออายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ในสิ้นปีงบประมาณ และทางราชการมีความจำเป็นที่จะให้รับราชการต่อไปเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในทางวิชาการหรือหน้าที่ที่ต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว ในตำแหน่งตามมาตรา ๔๖ (๓) (ง) หรือ (จ) หรือ (๔) (ค) หรือ (ง) จะให้รับราชการต่อไปอีกไม่เกินสิบปีก็ได้ตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
    และมาตรา ๔๖ (๓) (ง) หรือ (จ) ก็เป็นตำแหน่งประเภทวิชาการ เฉพาะในระดับ (ง) ระดับเชี่ยวชาญ และ(จ) ระดับทรงคุณวุฒิ
    ส่วนมาตรา ๔๖ (๔) (ค) หรือ (ง) ก็จะเป็นตำแหน่งประเภททั่วไป เฉพาะในระดับ (ค) ระดับอาวุโส และ(ง) ระดับทักษะพิเศษ

    พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    "มอสโคว์จะตอบโต้นาโต้ที่ประชิดชายแดนรัสเซียอย่างสมน้ำสมเนื้อ" - ปูติน

    [​IMG]

    -------------
    เอาหละสิ... ไม่ต้องเล่นเกมจิตวิทยาชิงรักหักเหลี่ยมกันอีกต่อไปแล้ว เปิดหน้าซัดปากกันตรงๆเลยดีกว่า... ปูตินบอกว่า "หากนาโต้คุกคามดินแดนของรัสเซีย กรุงมอสโคว์ก็จะตอบโต้การคุกคามนั้นคืนแน่นอน" คำพูดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ปูตินพึ่งจะประกาศว่าจะเพิ่มขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์จำนวนมากกว่า 40 ชุดให้กับกองกำลังยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ของรัสเซียเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา
    ปูตินกล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับปธน. Sauli Niinisto ของฟินแลนด์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้ว่า "หากบางคนคุกคามดินแดนของเรา นั่นหมายความว่าพวกเราจะต้องมุ่งกองกำลังติดอาวุธของพวกเราไปยังดินแดนที่เป็นภัยคุกคามนั้นตามไปด้วย มันจะเป็นอย่างอื่นไปได้อย่างไร? นาโต้กำลังเคลื่อนเข้ามาประชิดชายแดนของพวกเรา มันไม่เหมือนว่าพวกเราจะย้ายไปที่ไหนได้เลย"
    ปูตินกล่าวต่ออีกว่า "ผมพยายามหลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ แน่นอน พวกเราจะวิเคราะห์ทุกอย่าง แต่จนถึงบัดนี้ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรที่อาจจะแจ้งให้เราทราบเพื่อ [ใช้มาตรการตอบโต้] สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นกังวลมากก็คือระบบป้องกันขีปนาวุธที่ถูกนำเข้าไปติดตั้ง (ในยุโรปและเพื่อนบ้านของรัสเซีย) - นั่นเป็นสัญญาณของความสำคัญทางยุทธศาสตร์ที่เห็นได้ชัดเจนมาก"
    เพนตากอนออกมากล่าวว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "เพนตากอนอาจจะเก็บคลังรถถัง ยานพาหนะสำหรับสู้รบของทหารราบ และอาวุธหนักอื่นๆพร้อมทั้งทหารอเมริกันจำนวน 5,000 นายไว้ที่กลุ่มประเทศบอลติกและยุโรปตะวันออกก็ได้"
    วันต่อมาทางโปแลนด์และลิธัวเนียก็เปิดเผยว่าตอนนี้กำลังคุยกับกรุงวอชิงตันเพื่อให้สหรัฐฯใช้สถานที่ในประเทศของตนเป็นคลังแสงเก็บอาวุธหนักของกองทัพสหรัฐฯได้ ทางกลาโหมของรัสเซียออกมากล่าวว่า "รัสเซียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเพิ่มกำลังตามชายแดนของตนมากขึ้น และการเพิ่มกำลังทางยุทธศาสตร์อาจจะรวมไปถึงที่เบลารุสและคาลินินกราดด้วย"
    หลังจากที่ได้ยินคำประกาศของปูตินว่าจะเพิ่มขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีปแล้ว ทางนาโต้รีบออกมาประท้วงโวยวายทันทีเลยว่า "อาวุธนิวเคลียร์ทรงพลังแสนยานุภาพของรัสเซียนี้ไม่ยุติธรรม (หือ?) มันทำให้เกิดความวุ่นวายและเป็นอันตราย นี่คือสิ่งที่เรากำลังพูดถึง และนั่นคืออีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเรา (นาโต้) ต้องเริ่มความพร้อมและการเตรียมพร้อมให้กับกองทัพของเรา นาโต้มั่นใจว่าจะสามารถให้การสนับสนุนด้านการปกป้องเหล่าพันธมิตรจากศัตรูได้"
    สหรัฐฯกับนาโต้นั้นมาตรฐานเดียวกันคือตัวเองมีขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้ แต่ถ้าคนอื่นมีบ้างพี่แกก็จะโวยวายและกล่าวหาว่าเป็นภัยคุกคามตัวเอง พูดง่ายๆก็คือจะหาเรื่องทะเลาะกับรัสเซียโดยใช้โปแลนด์ ยุโรปตะวันออกและกลุ่มประเทศบอลติกอดีตส่วนหนึ่งของโซเวียตเป็นสนามรบซัดกับรัสเซียนี่แหละ พวกบอลติกก็งี่เง่าหลงเชื่อสหรัฐฯซะด้วย โดยสามารถให้กองทัพของสหรัฐฯเข้าไปตั้งฐานทัพได้ในประเทศของตัวเอง แต่ไม่อนุญาตให้รัสเซียเข้าไปตั้ง เพราะอ้างว่าจะถูกรัสเซียยึด แต่ไม่ดูเบลารุสและบางประเทศที่มีฐานทัพของรัสเซียอยู่ก็ไม่เห็นว่ารัสเซียจะไปยึดอะไร นี่จึงเป็นแค่วาทกรรมในการหาเหตุผลสนับสนุนความคิดตนเท่านั้น
    เกี่ยวกับเรื่องขีปนาวุธข้ามทวีปของรัสเซียนั้นทาง John Kerry ขาเดี้ยง รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯออกมากล่าวว่า "ผมไม่รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ (ถ้าสหรัฐฯพูดแบบนี้ แสดงว่ากังวลมากๆ) ไม่ควรมีใครไปฟังคำประกาศแบบนั้นของผู้นำประเทศที่เป็นมหาอำนาจ และไม่ควรเป็นกังวลว่ามีนัยไปในทางใด (รวมทั้งคำประกาศในลักษณะเดียวกันนี้ของโอบาม่าด้วยหรือเปล่า?)" (ชัดเลย... สไตล์การแถลงข่าวจากก.ต่างประเทศ ก.กลาโหมและนักการเมืองของสหรัฐฯนี่เขาจะรีบออกมาปฏิเสธก่อนเป็นอันดับแรก มันเป็นอย่างนี้บ่อยมากๆ ดูอย่างเรื่องไลฟ์แอนแทร็กซ์และเรื่องหลักฐานการละเมิดข้อตกลงเจรจาสันติภาพกรุงมินส์กกรณีการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายในยูเครนตะวันออกเมื่อเร็วๆนี้ก็ได้ พวกนี้ทั้งปฏิเสธและแถไปแบบหน้าด้านๆเห็นๆเลย)
    เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาทางเพนตากอนออกมาแถลงข่าวว่า "ตอนนี้สหรัฐฯยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปตั้งฐานทัพหรือคลังแสงเก็บอาวุธหนักของตนในยุโรปตะวันออกและในกลุ่มประเทศบอลติกหรือไม่ และยังไม่ได้บอกว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไรด้วย" (นี่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธในการโยนหินถามทางของสหรัฐฯหละ ถ้ามีเสียงคัดค้านมากก็จะพับแผนนี้ไว้ก่อน แต่จะค่อยๆแอบเอาเข้าไปในภายหลังเอง ดูที่ยูเครนเป็นตัวอย่าง กรณีนี้ฉากหน้าก็บอกว่าเอาไว้เก็บอาวุธเท่านั้น แต่ความจริงก็คือเตรียมพร้อมปิดล้อมรัสเซียเต็มรูปแบบ นั่นเอง)
    ทางสื่อฯของรัสเซียกล่าวว่า การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของสหรัฐฯถูกประณามอย่างรุนแรงจากรัสเซียว่านั่นอาจจะเป็นการบ่อนทำลายสนธิสัญญาระหว่างรัสเซียกับนาโต้ที่ลงนามกันในปี 1997 ก็ได้
    เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา Sputnik news รายงานว่ากรุงวอชิงตันกำลังวางแผนที่จะเก็บอาวุธหนักของตนจำนวน 1,200 ชิ้น ซึ่งรวมทั้งรถถังจำนวน 250 คันไว้ใน บัลกาเรีย ลัตเวีย ลิธัวเนีย เอสโตเนีย โปแลนด์ โรมาเนีย และมีความเป็นไปได้รวมถึงฮังการีด้วย ส่วนสวีเดนพวกขี้ตกใจบ้าจี้นั้นก็สั่งเพิ่มอาวุธหนักเสริมกำลังทัพของตนเต็มที่ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบโต้จากการเสพข่าว propaganda เกี่ยวกับการรุกรานโดยฝั่งรัสเซีย จากสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกมากเกินไป
    ล่าสุดทางสหรัฐฯออกมาปล่อยข่าวว่ากำลังจะส่งเครื่องบินรบ Gen.5 F-22 Raptor เข้าไปประจำการในยุโรปเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมเผชิญหน้าการฟื้นคืนชีพของรัสเซีย นี่เป็นรายงานข่าวจาก Deborah Lee James เลขาฯของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
    Deborah Lee James กล่าวว่า "นั่นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ยังจะมีตามมาอีกมากกว่านี้ คุณจะได้เห็นกำลังหนุน (ของสหรัฐฯ) มากขึ้นเรื่อยๆ ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในใจของพวกเราก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในรัสเซีย และกิจกรรมของรัสเซีย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเข้าไปอยู่ในยุโรป" (ยั่วยุกันเข้าไป!)
    แค่นี้สหรัฐฯก็สามารถยึดยุโรปได้โดยปริยาย แทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรเลย ปั้นข่าวถึงความน่ากลัวของรัสเซียขึ้นมา ขู่ยุโรปว่ารัสเซียกำลังจะมาแล้ว ดูอาวุธของรัสเซียสมัยนี้สิว่ามันน่ากลัวขนาดไหน ลำพังยุโรปเองถ้าไม่มีสหรัฐฯไปช่วยคุ้มครองให้คิดหรือว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของรัสเซียไปได้ แม้แต่ประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตมาก่อนก็ยังเชื่อสหรัฐฯเลย ดังนั้นอียูจึงเปิดประตูบ้านต้อนรับกองทัพอเมริกาให้เข้าไปตั้งฐานทัพของตัวเองในประเทศเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องเหนื่อยแรงใดๆทั้งสิ้น แค่เดินเกมโดยใช้สื่อฯและการทูตเป็นเครื่องมือหลัก ก็ได้ผลเกินคุ้มแล้ว หากยุโรปไม่เละเป็นจุลอย่างอิรัคและอัฟกานิสถานซะก่อน ฝันไปเถอะว่าสหรัฐฯจะยอมถอนทัพออกจายุโรปไปง่ายๆ
    สงครามใหญ่ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯและนาโต้ในยุโรปตะวันออกจะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะหากสหรัฐฯสามารถส่งกองทัพของตนไปประจำอยู่ได้ทุกประเทศในยุโรปได้ในอนาคต ก็ถือว่าสหรัฐฯประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในการขยายจักรวรรดิอเมริกาของตัวเองในการครอบงำอียู แค่นี้อียูก็ไม่มีทางยึกยักหรือหลุดพ้นจากการบงการของสหรัฐฯได้อีกต่อไป ส่วนจีนกับรัสเซียก็กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของสหรัฐฯและยุโรปตามแบบฉบับหนังฮอลลิวูดที่กำกับโดยสหรัฐฯต่อไป (เอ… แต่ปูตินไม่อย่างนั้นนะ)
    The Eyes
    17/06/2558
    ----------
    http://rt.com/news/267661-russia-nato-border-weapons/
    US Authorizes 'Forward-Based' Missile Defense System for Allies / Sputnik International
    To Send or Not to Send: US Undecided on Putting Heavy Weapons in E Europe / Sputnik International
    http://rt.com/news/267247-us-europe-heavy-weapons/
    US Deploys Heavy Weaponry in Europe; Russia to 'Answer Adequately' / Sputnik International
    Moscow Warns US Not to Store Military Hardware Near Russian Border / Sputnik International
    Sweden Beefs Up Military Hardware Over Alleged Russian 'Aggression' / Sputnik International
    US Pledges F-22 Fighters in Europe Due to Fictional 'Russian Threat' / Sputnik International
    Analyst Warns Russia Will Respond to F-22 Deployment in Europe / Sputnik International
    US Pledges F-22 Fighters in Europe Due to Fictional 'Russian Threat' / Sputnik International
    Analyst Warns Russia Will Respond to F-22 Deployment in Europe / Sputnik International
    http://rt.com/news/267247-us-europe-heavy-weapons/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    รัสเซียประกาศแจ้งเตือนการฝึกซ้อมฝูงบิน Su-25 ในพื้นที่ Krasnodar และ Stavropol ทางตอนใต้

    [​IMG]

    ----------
    โฆษกมณฑลทหารภาคใต้ของกองทัพรัสเซียออกประกาศแจ้งเตือนว่าจะมีการฝึกซ้อมฝูงบินรบสนับสนุนทางอากาศ Su-25 Frogfoot จำนวน 12 ลำโดยการฝึกครั้งนี้จะสิ้นสุดวันทีี่ 19 มิถุนายนนี้

    [​IMG]

    กลาโหมของรัสเซียรายงานว่า "หน่วpต่างๆจากฐานทัพอากาศได้มีการแจ้งเตือนระดับสูงเกี่ยวกับการต่อสู้รบ และหน่วยภาคพื้นดินได้มีการปรับปรุงแผนปฏิบัตการสำหรับเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ ในระหว่างการฝึกซ้อมนี้ นักบินจะฝึกการบินในระดับความสูงที่ต่ำ (low-elevation flights) ค้นหาการเคลื่อนไหวของยุทโธปกรณ์ทางทหารที่มีการอำพรางไว้ และฝึกหลบหลีกระบบตรวจจับต่อต้านอากาศยานจากข้าศึกให้ได้"
    ว้าว! เช็กดูแล้ว ทั้งสองพื้นที่ไม่ได้อยู่ใกล้ยูเครน อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลดำ แต่ไม่ไกลจาก Abkhazia และ South Ossetia ที่แยกตัวออกมาจากจอร์เจีย อ้อ… Su-25 Frogfoot นี่เป็นเครื่องบินรบรุ่นเก่าแต่นักบินเขาบอกว่าถึงจะเก่าแต่เจ๋ง
    มันมีอะไรเคลื่อนไหวในจอร์เจียอย่างนั้นหรือ รัสเซียถึงมีปฏิกิริยาออกมาแบบนี้? เท่าที่ตามข่าวมาล่าสุดทางรัสเซียออกมาเปิดเผยว่าสหรัฐฯมีห้องทดลองอาวุธชีวภาพลับอยู่ในจอร์เจีย (พึ่งลงข่าวให้อ่านเมื่อเร็วๆนี้) ส่วนเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.58 ที่ผ่านมา Sputnik news รายงานว่านาโต้กับจอร์เจียก่อตั้งศูนย์ฝึกทางทหารร่วมกัน ซึ่งอาจจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้ (อ้างรายงานจากกองทัพจอร์เจีย)
    The Eyes
    17/06/2558
    ----------
    Attack Aircraft Put on Alert for Training Exercises in Russia's South / Sputnik International
    US Secret Military Biolabs at Russian Border Arouse Grave Concern - Moscow / Sputnik International
    NATO Military Training Center May Open in Georgia in Autumn 2015 / Sputnik International
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อะเฮ้ย!... เบลารุสทดสอบระบบยิงจรวดอย่างลับๆในจีน

    [​IMG]

    ----------
    เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่าเบลารุสทำการทดสอบระบบยิงจรวด Polonez รุ่นใหม่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งมีพิสัยการยิงที่เจ๋งกว่าระบบ Smerch ของโซเวียตซะอีก และนี่บ่งบอกถึงการร่วมมือกันพัฒนาอาวุธระหว่างสองประเทศอย่างลับๆมาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปีแล้ว
    โอ้ว... ทำเป็นเล่นไปเห็นเงียบๆอย่างนี้เหอะ พี่หนวดแกย่องไปจับมือกับเฮียสีจิ้นผิงตั้งนานแล้วนิ ระบบ Polonez ของเบลารุสตัวนี้เป็นระบบยิงจรวดแบบ multiple rocket launcher system (MLRS) อย่างที่เขาซัดกันอยู่ในยูเครนตะวันออกหนะ ยิงแต่ละชุดก็เป็นโหลไปเลย ปธน. Alexander Lukashenko ของเบลารุสแถลงข่าวว่าการทดสอบเครื่องยิงจรวดในครั้งนี้นับว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
    สื่อฯรัสเซียรายงานว่ามีข้อมูลน้อยมากเกี่ยวกับระบบที่เบลารุสไปซุ่มพัฒนากับจีนในต่างประเทศ มีการเปิดเผย (นิดหน่อย) เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมานี่เอง โดยเบลารุสนำมาร่วมแสดงโชว์ในขบวนพาเรดงานวัน Victory Day ที่กรุงมอสโคว์ด้วย ข้อมูลโดยคร่าวๆบอกว่ายิงได้ไกลถึง 200 กม. (ไม่เชื่อหรอก อันที่จริงจะยิงใกล้หรือไกลนี่มันอยู่ที่ตัวจรวดไม่ใช่รึ? แสดงว่าก็ต้องมีการพัฒนาจรวดด้วยแน่นอน)
    Smerch ของรัสเซียนั้นมีหลายรุ่น ล่าสุดคือ BM-30 Smerch (9A52-2 Smerch-M) พิสัยทำการที่ 850 กม. พัฒนาตั้งแต่ปี 1989 ส่วน BM-21 Grad ของรัสเซียนี่นิยมใช้กันในหลายประเทศมากพิสัยทำการอยู่ที่ 405 กม. ถ้าเบลารุสบอกว่าทำได้เจ๋งกว่าของโซเวียต แสดงว่าคงไม่ใช่ที่ 200 กม.แล้วหละ รายงานข่าวบอกว่าเป็นระบบเดียวกันกับ Norinco AR3 ของจีนซึ่งเปิดตัวในปี 2011 เฉพาะ Norinco AR3 ข้อมูลเบื้องต้นบอกว่ายิงได้ไกลราว 220-370 กม. ทั้งสองประเทศนี้ซุ่มพัฒนาอาวุธร่วมกันอย่างลับๆ แทบจะไม่มีข้อมูลปรากฎออกมาภายนอกเลย นานๆทีถึงจะแง้มออกมาให้เห็นเป็นบางส่วน เล่นเอาอเมริกาใจหายใจคว่ำไปด้วยเลยนะนี่
    ปธน. Alexander Lukashenko พูด (ด้วยความน้อยใจรัสเซีย) ว่า "พันธมิตรรัสเซียของพวกเราไม่กระตือรือร้นในการสนับสนุนแรงบันดาลใจของพวกเรา (พูดซะน่าเห็นใจเลยอ่ะ เหมือนเป็นลูกเมียน้อยยังไงก็ไม่รู้ เมื่อพี่หมีขาวไม่ชำเลืองตามาบ้างงั้นไปหาหมีแพนด้าที่ปักกี่งก็ได้) พวกเราจะไปคุยเรื่องนี้ต่างหากกับท่านปธน.ของรัสเซีย แต่ก็ขอบคุณประเทศจีนและผู้นำของจีนที่ให้การสนับสนุนในโครงการนี้" (ยังไงก็ตัดสวาทจากหมีขาวไม่อยู่ดีหละน่า แค่งอนนิดหน่อยเอง แอบไปซุ่มพัฒนาผลงานแล้วเอามาเสนอให้ปูตินว่างั้นเถอะ เอาป๊ะ ราคามิตรภาพนะ?)
    รายงานข่าวบอกว่าระบบนี้ถูกออกแบบที่เบลารุส แต่เบลารุสไม่ได้ผลิตขีปนาวุธเอง แต่มีประสบการณ์ในการผลิตตัวถังรถสำหรับระบบโรงงานล้อรถแท็กเตอร์ในกรุงมินส์ก (Minsk Wheel Tractor Plant - MZKT) เบลารุสกับจีนร่วมกันผลิตระบบตัวถังรถยิงจรวดมาตั้งแต่ปี 1998 ในช่วงที่จีนผลิต ครูสมิสไซล์ CJ-10 และบอลลิสติกมิสไซล์รุ่น DF-11 ทั้งสองประเทศได้ทำข้อตกลงที่จะสร้างเขตอุตสาหกรรมขึ้นในเบลารุสและอีกแห่งหนึ่งในจีนด้วย
    ในปี 2011 เบลารุสได้กระชับความร่วมมือทางกองทัพของทั้งสองประเทศมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการพัฒนายุทโธปกรณ์ทางกองทัพรุ่นใหม่ๆ ในช่วงนั้น รมว.กลาโหมของจีนกล่าวว่าจีนกับเบลารุสกำลังร่วมมือกันพัฒนาระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศ ในปี 2013 มีการเปิดเผยว่าจีนกับเบลารุสกำลังพัฒนาระบบ Smerch MLRS ที่สร้างโดยโซเวียตให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ดังนั้น Polonez อาจจะเป็นผลงานการพัฒนาของเบลารุสกับจีนก็ได้ มีข่าวลือว่าอาจจะใช้จรวด A200 ของจีนในการยิง (A200 ยิงได้ไกล 200 กม. ตอนนี้มี A300 ยิงได้ไกล 290 กม.พัฒนามาจาก A200)
    เมื่อวันที่ 10 พ.ค.58 ที่ผ่านมามีรายงานว่าจีนกับเบลารุสลงนามในข้อตกลงร่วมกันราว 20 ฉบับโดยจีนปล่อยกู้ให้กับเบลารุสจำนวน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) ก็ไม่มากนิ
    เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว Sputnik news รายงานว่าโอบาม่าสั่งให้ต่ออายุแซงชั่นเบลารุสเพิ่มอีก 1 ปี สหรัฐฯได้แซงชั่นเบลารุสมาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2006 โดยสหรัฐฯให้เหตุผลในการแซงชั่นในครั้งนี้ว่า "การกระทำและนโยบายของสมาชิกในรัฐบาลเบลารุสและคนอื่นๆยังคงถือว่าไม่ปรกติและเป็นภัยคุกคามที่ไม่ธรรมดาต่อความมั่นคงของประเทศและนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ...ผมขอให้คง [การแซงชั่นเบลารุส] ไว้อีกหนึ่งปีฉุกเฉินแห่งชาติ"
    ก็ตามประสาอเมริกาขี้อิจฉาหนะ อาวุธหลักในการกดหัวประเทศอื่นที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาก็คือ "แซงชั่น แชงชั่น และแซงชั่น" เมื่ออเมริกาไม่พอใจใคร อเมริกาก็จะหาเหตุผลสนับสนุนให้กับตัวเองได้เสมอ และเหตุผลที่อเมริกาใช้บ่อยที่สุดก็คือ เป็นภัยคุกคาม ต่อมาก็เรื่องไม่เป็นประชาธิปไตย หรือเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน แค่นี้ก็วางก้ามหากินได้ทั้งปีทั้งชาติแล้ว
    The Eyes
    17/06/2558
    ----------
    China, Belarus Sign 20 Documents to Deepen Cooperation / Sputnik International
    China, Belarus Sign 20 Documents to Deepen Cooperation / Sputnik International
    Obama Continues Sanctions Regime Related to Belarus for One More Year / Sputnik International
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    จีน-ออสเตรเลียชื่นมื่น ลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีร่วมกัน อเมริกาจอมอิจฉาจะว่าอย่างไรบ้างน๊า?

    [​IMG]

    ----------
    ไหนๆก็พูดถึงจีนมาแล้ว (ในโพสต์ก่อน) ไปต่อที่จีนอีกซักโพสต์ดีไหม? เผื่อโปรอเมริกาที่ชอบประชดประชันว่า "จีนมีแต่ของปลอม" จะได้เปิดหูเปิดตาให้กว้างไกลจากการมอมเมาตัวเองด้วยสื่อฯตะวันตกบ้าง วันนี้ (17 มิ.ย.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า "ออสเตรเลียและจีนได้ลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีร่วมกันเป็นครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากที่ต่อรองกันมาอย่างยาวนานเป็นปีๆ" (โปรอเมริกาคงไม่บอกว่า นี่เป็นข่าวปลอม หรือเป็นการลงนามปลอม อีกนะ? เพราะว่าพวกนี้ติดนิสัย "ปลอมๆ" มาจากพวก นอปอชั่ว พอถูกจับได้ก็มักจะอ้างว่า "แดงปลอม" พอเห็นจีนก้าวหน้าหน่อยพวกนี้ก็จะพูดว่า "ปลอม!" ต่อไปคงจะพูดว่า iPhoneปลอม iPadปลอม ด้วยหรือเปล่า เพราะของแอปเปิลผลิตในจีนทั้งนั้นเลยนะ ฮี่ๆ)
    กลับมาที่ข่าวจีนกับออสเตรเลียดีฝ่าาาา... รายงานข่าวบอกว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนกับออสเตรเลียได้เซ็นลงนามในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีร่วมกัน ซึ่งมีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ (วันนี้แหละ) โดยนายโทนี แอ็บบ็อตต์ นายกฯของออสเตรเลียออกมาคุยโอ่ (อวดอเมริกาขี้อิจฉาผู้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตลูกพี่ใหญ่) ว่า "[ข้อตกลงนี้] จะทำให้ประเทศทั้งสองของพวกเราสามารถเข้าถึงตลาดซึ่งกันและกันได้อย่างเป็นประวัติการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน" (ก็แหงหละ ไม่งั้นออสเตรเลียคงไม่ตัดสินใจเข้าร่วมในธนาคาร AIIB กับจีนและชาติอื่นๆแม้จะถูกสหรัฐฯดึงขาไว้หรอกน่า หรือจะบอกว่านี่ก็ธนาคารปลอมอีก งั้นก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เลยนะ ฮี่ๆ)
    สำนักข่าว AFP อ้างคำพูดของนายโทนี แอ็บบ็อตต์ว่า "นี่เป็นช่วงเวลาและเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์สำหรับทั้งสองประเทศของพวกเรา ข้อตกลงนี้จะเปลี่ยนแปลงประเทศของพวกเราไปในทางที่ดีขึ้น มันจะเปลี่ยนแปลงภูมิภาคของพวกเราให้ดีกว่าเดิม มันจะเปลี่ยนแปลงโลกของพวกเราให้ดีขึ้น" (ว้าว! ฟังโทนีพูดดิ โอบาม่าได้ยินป๊ะ? ฮ่าๆๆ ฝรั่งออสเตรเลียนไม่เห็นรังเกียจเงินหยวนของจีนเลย แล้วก็ไม่เห็นว่าจีนจะเป็นภัยคุกคามออสเตรเลียตรงไหนอย่างที่สหรัฐฯเที่ยวสร้าง propaganda ขึ้นมาโจมตีจีนเลยนิ?)
    การลงนามร่วมกันดังกล่าวจัดขึ้นที่กรุง Canberra ประเทศออสเตรเลีย โดยนาย Andrew Robb รมว.การค้าของออสเตรเลียลงนามร่วมกันกับนาย Gao รมว.พาณิชย์ของจีน ผู้ซึ่งเรียกข้อตกลงนี้ว่า "เหตุการณ์ครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี" (a milestone in bilateral relations) และ Andrew Robb ของออสเตรเลียช่วยเป็นโทรโข่งให้อีกแรงหนึ่งว่า "ข้อตกลงเขตการค้าเสรีนี้จะเป็นตัวล็อคความสัมพันธ์ด้านการค้าของพวกเราให้คงอยู่กับหุ้นส่วนด้านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของพวกเรา และจะเป็นตัวเร่งการเติบโตให้ครอบคลุมถึงสินค้า บริการ และการลงทุนด้วย" (สังเกตให้ดี ออสเตรเลียใช้คำพูดว่า "our largest trading partner" ซึ่งหมายถึงจีนเท่านั้น ไม่ใช่สหรัฐฯนะครัช ฮ่าๆๆ)
    ข้อตกลงนี้กำหนดให้มีการยกเลิกมาตรการทางด้านภาษีจากทรัพยากรและสินค้าด้านพลังงานของออสเตรเลียเกือบทุกชนิด นั่นหมายความว่าสินค้าของออสเตรเลียมากกว่า 85% สามารถเข้าไปตีตลาดในจีนได้โดยไม่มีการลงโทษใดๆ
    ขณะเดียวกันทางออสเตรเลียก็จะยกเลิกอัตราภาษี 5% จากสินค้าประเภทอุปกรณ์อิเลคทอนิคและเครื่องใช้ในบ้านของจีนออกไป รายงานบอกว่าจีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และเมื่อปีที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างกันถึง $123 billion (ประมาณ 4.1 ล้านล้านบาท) (สหรัฐฯอยากจะสร้างสงครามต่างแดนเพื่อขายอาวุธก็ทำไป ส่วนจีนจะเน้นการเป็นเจ้าเศรษฐกิจของโลกเอง ดูซิว่าใครจะอยู่ได้นานและยั่งยืนกว่ากัน)
    The Eyes
    17/06/2558
    ----------
    Australian PM Heralds Signing of Landmark Free Trade Agreement With China / Sputnik International
    http://rt.com/busin…/267721-china-australia-trade-agreement/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุดิอาระเบีย อเมริกาและอิสราเอล เป็นที่มาของความชั่วร้ายอย่างแท้จริง
    Category: News & Event Published on Wednesday, 17 June 2015 22:30 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมน ได้ชี้ถึงการยืนหยัดและความอดทนของประชาชนเยเมนในการเผชิญหน้ากับการรุกรานต่างๆ พร้อมกับอธิบายว่า ซาอุดีอาระเบีย อเมริกาและระบอบไซออนิสต์ เป็น "แหล่งที่มาของความชั่วร้ายทั้งหมดในโลก"

    อัลอาลัมรายงานว่า "ซัยยิดอับดุลมะลิก บัดรุดดีน อัลเฮาซี" ได้กล่าวในช่วงเย็นวันอังคารว่า : ประชาชนเยเมนกำลังเผชิญกับสงครามที่ป่าเถื่อน ที่เกิดจากซาอุดิอาระเบีย อเมริกาและอิสราเอล

    ในคำปราศรัยที่ถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์อัลอาลัมนั้น เขากล่าวเสริมว่า : แม้จะมีการรุกรานอย่างกว้างขวาง แต่ประชาชนเยเมนก็ได้ยืนหยัดตั้งแต่เริ่มต้น และการไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้า คือปัจจัยหลักของการยืนหยัดนี้

    อัลเฮาซีอธิบายว่า ซาอุดิอาระเบียไม่มีแผนใดๆ ในสงครามนี้ และสงครามนี้ได้เริ่มต้นขึ้นโดยการตัดสินใจของอเมริกาและระบอบไซออนิสต์ พร้อมกับกล่าวว่า : การโจมตีประชาชนเยเมนโดยรัฐบาลซาอุดิอาระเบียนั้น เกิดขึ้นโดยการยุยงและการสนับสนุนของอเมริกาและอิสราเอล เขาย้ำว่า : ประชาชนจะไม่ยอมจำนนต่อการรุกรานของซาอุดีอาระเบีย

    ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนได้อธิบายว่า ซาอุดีอาระเบีย อเมริกาและระบอบไซออนิสต์ เป็น "บ่อเกิดของความชั่วร้ายอย่างแท้จริงในโลก" และกล่าวว่า : การรุกรานที่ป่าเถื่อนนี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและการตื่นตัวให้แก่ประชาชนเยเมน เขากล่าวว่า : ประชาชนเยเมนจะได้เห็นธาตุแท้ของอเมริกาและคำขวัญต่างๆ ของมันโดยผ่านการรุกรานนี้

    อัลเฮาซีย้ำว่า : การมีส่วนร่วมของอิสราเอลในการรุกรานเยเมนไม่ว่าในระดับใดก็ตาม จะทำให้ระดับของความเป็นอันตรายและแผนการของมันในภูมิภาคเป็นที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพียงนั้น

    ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนอธิบายว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียไม่เคารพเกียรติของเพื่อนบ้าน และกล่าวว่า : ความป่าเถื่อนของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียนั้นเป็นความเสื่อมทรามในหน้าแผ่นดิน และการรุกรานนี้ก็คือการก่อความเสียหายในหน้าแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสไว้นั่นเอง

    อัลเฮาซีกล่าวว่า : ความป่าเถื่อนของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียและอาชญากรรมต่างๆ ของมันในทุกกรณีนั้น ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความมีอำนาจของรัฐบาลนี้ แต่มันเป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงสันดานของความเป็นอาชญากร

    เขาชี้ถึงการเป็นชะฮีด (เสียชีวิต) ของพลเมืองของเยเมนนับพันคน นับจากการเริ่มต้นโจมตีของซาอุดีอาระเบีย และกล่าวว่า : หลังจากการเริ่มต้นการรุกรานของซาอุดีอาระเบียนั้น ประชาชนชาวเยเมนหลายพันคนได้รีบรุดเข้าสู่สนามรบต่างๆ และไม่ว่าระดับของการรุกรานและการโจมตีนั้นจะรุนแรงมากขึ้นเพียงใด จำนวนของอาสาสมัครในการเข้าร่วมในเวทีต่างๆ ของการต่อสู้ก็จะเพิ่มมากขึ้นเพียงนั้น

    ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนกล่าวว่า : ความมั่นคงและการยืนหยัดของประชาชนเยเมนได้ทำให้บรรดาผู้รุกรานหวั่นกลัวและตกตลึง และหากไม่ใช่เพราะการยืนหยัดของประชาชนแล้ว สถานการณ์ในขณะนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาเสริมว่า : หากไม่มีการยืนหยัดนี้ ทุกสิ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้แต่การยึดครองประเทศของเราและการแบ่งซอยมันระหว่างอเมริกา อัลกออิดะฮ์ ซาอุดีอาระเบียและอิสราเอล

    อัลเฮาซี ได้กล่าวต่อไปอีกว่า : การรุกรานนี้จะเผยให้เห็นโฉมหน้าของบรรดาพันธมิตรใกล้ชิดของซาอุดีอาระเบียและอิสราเอลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาเสริมว่า : การรุกรานนี้ยังเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ว่าอัลกออิดะฮ์เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือของบรรดาผู้รุกราน

    ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนชี้ให้เห็นว่า บรรดาผู้รุกรานมีจุดยืนที่ตรงข้ามกับแกนต้านทานในเลบานอนและปาเลสไตน์ และกล่าวว่า : พวกเขาได้ให้ชื่อใหม่แก่กลุ่มอัลกออิดะฮ์ และเรียกกลุ่มนี้ว่า “กลุ่มต้านทานของประชาชน”

    อัลเฮาซีกล่าวว่า : รัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้สูญเสียเกียรติและชื่อเสียงของตนไปพร้อมกับการเริ่มต้นการรุกรานเยเมน และทำให้ตัวเองต้องหม่นหมอง และการดำเนินต่อไปของการรุกรานนี้ก็จะไม่ก่อให้เกิดสิ่งใด นอกจากความอับอายขายหน้า เขาเสริมว่า : รัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากการรุกรานเยเมน แต่ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายจากการรุกรานครั้งนี้คือ “อิสราเอล”

    ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนกล่าวว่า : พวกเขาต้องการให้ประชาชนเยเมนมอบรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ของประเทศนี้ให้กับอัลกออิดะฮ์ซึ่งถูกเรียกด้วยชื่อใหม่ๆ และจุดยืนในทางลบทำให้บุคคลบางกลุ่มถูกหลอกด้วยเงินตรา

    อัลเฮาซีถือว่า ผู้ที่อยู่ในเยเมนและให้ความร่วมมือกับศัตรูผู้รุกรานนั้น พวกเขาไร้ซึ่งมนุษยธรรม และกล่าวว่า : ใครก็ตามที่วางแผนต่อต้านทำลายเพื่อนร่วมชาติของตน เขาคือผู้ทรยศและล้มเหลว และจะกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ และผู้ใดที่ให้การสนับสนุนบรรดาผู้รุกรานประเทศของตน ในอนาคตเขาจะต้องเผชิญกับผลพวงต่างๆ ของมัน

    อัลเฮาซีกล่าวว่า : การพึ่งพิงของบางกลุ่มในประเทศต่อบรรดาผู้รุกรานและต่อคนขายชาตินั้น ได้ประสบกับความล้มเหลวแล้ว และเขาได้กล่าวว่า : ทางออกเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์ในเยเมนได้ คือการเจรจา

    เขากล่าวเสริมว่า : บรรดาผู้รุกรานพยายามที่จะหาทางหลีกเลี่ยงการบรรลุข้อตกลงสันติภาพและความร่วมมือ ในขณะที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เห็นชอบที่จะให้เกิดสิ่งนี้ เขาได้ชี้ถึงประเด็นของความล่าช้าในการเจรจาเจนีวา โดยกล่าวว่า : รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย อเมริกาและอิสราเอลได้ทำให้การเจรจาเจนีวาเกิดความล่าช้า เพื่อที่จะก่ออาชญากรรมต่างๆ ให้มากขึ้น

    อัลเฮาซีย้ำว่า : พวกเขาได้เปลี่ยนการเจรจาในกรุงเจนีวาให้กลายเป็นแค่เพียงการพบปะหารือกัน เนื่องจากพวกเขาไม่เห็นด้วยกับการสร้างแนวทางแก้ไขปัญหา

    อัลเฮาซีได้เรียกร้องสหประชาชาติให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ผู้นำอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนกล่าวว่า : พวกเราพึ่งพิงต่อพระผู้เป็นเจ้า และในทุกสนามเราทำหน้าที่ในการเผชิญหน้ากับบรรดาผู้รุกราน ชัยชนะของประชาชนของเรากำลังรออยู่เบื้องหน้า

    ที่มา : fa.alalam

    ซาอุดิอาระเบีย อเมริกาและอิสราเอล เป็นที่มาของความชั่วร้ายอย่างแท้จริง
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    14. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    อาร์เจนตินาเป็นเดือดเป็นดาลที่มีการค้นพบน้ำมันที่หมู่เกาะFalklandsนอกชายฝั่งประเทศตัวเองที่ตกไปเป็นของอังกฤษ บริษัทน้ำมันอังกฤษกำลังทำการสำรวจเพื่อขุนเจาะน้ำมันที่Falklands
    ในปี1982 อาร์เจนติน่าส่งกองทัพยึดเกาะFalklands และรบกับอังกฤษเป็นเวลา10สัปดาห์ก่อนที่พ่ายแพ้ต่ออังกฤษ แต่อาร์เจนติน่าไม่มีวันยอมรับผล ถือว่าFalklandsเป็นของคนอาร์เจนติน่า44ล้านคน
    เกาะFalklandsอยู่ในทวีปลาตินอเมริกา และอยู่ห่างจากอังกฤษ8,000ไมล์
    บริษัทน้ำมันอังกฤษRockhopperได้ทำการสำรวจขุดเจาะน้ำมันอยู่ที่Falklands และรัฐบาลอาร์เจนติน่าตอบโต้ด้วยการฟ้องร้องและสั่งแบนนักธุรกิจของบริษัทRockhopper มีบริษัทอังกฤษอีก3บริษัทเข้าร่วมขุดเจาะคือPremier Oil, Edison International และNoble Energy
    ไม่เห็นสหรัฐส่งกองทัพเรือไปFalklandsเพื่อช่วยอาร์เจนติน่าไม่ให้อังกฤษรังแกเลย ทำไมกองทัพเรือสหรัฐเพื่อไปที่นั่นปกป้องให้การเดินเรือเป็นไปอย่างเสรี เหมือนอย่างที่กำลังทำในทะเลจีนใต้ Falklandsเป็นของใครกันแน่
    thanong
    17/6/2015
    http://www.express.co.uk/…/Falklands-Islands-oil-discovery-…
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวดีปฏิรูป ยกฐานะ ปปท.หน่วยงานกึ่งอิสระลุยขรก.โกง !!
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 06:06 น.

    [​IMG]

    ผ่าประเด็นร้อน

    ข่าวการแถลงของ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 16 มิถุนายน เกี่ยวกับเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป

    ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการยกระดับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นองค์อิสระในระดับใกล้เคียงกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตที่เกิดขึ้นในภาครัฐมากยิ่งขึ้น และเป็นไปตามแนวทางในประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 69/2557 โดยได้กำหนดวิธีการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ท.จากเดิมที่สรรหาบุคคลที่เหมาะสม 6 รายให้วุฒิสภาเป็นผู้พิจารณา ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เป็นให้ ครม., ป.ป.ช. และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) เสนอบุคคลที่เหมาะสมเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ท.ที่ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดองค์กรละ 5 ราย รวมเป็น 15 ราย ก่อนส่งชื่อให้คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกให้เหลือเพียง 6 ราย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยให้คณะกรรมการ ป.ป.ท.มีวาระการทำงาน 7 ปี

    ขณะเดียวกันยังกำหนดให้ ป.ป.ท.มีระยะเวลาพิจารณาเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนให้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือนหลังจากรับการกล่าวหา และมีอำนาจฟ้องคดีได้เอง หากพนักงานอัยการเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ได้รับสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ป.ป.ท. และสำนักงาน ป.ป.ท.ให้รวดเร็วขึ้น

    นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงสถานะของสำนักงาน ป.ป.ท.ให้ส่วนราชการระดับกรมที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้การทำงานของสำนักงานเป็นอิสระและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงาน ป.ป.ท.ตามโครงสร้างใหม่นั้น ต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกทางกฎหมาย และสอบเนติบัณฑิตได้แล้ว โดยต้องมีประสบการณ์ในการสอบสวนข้อเท็จจริงและวินิจฉัยคดีไม่น้อยกว่า 1 ปี ส่วนกรณีผู้สำเร็จการศึกษาระดับต่ำลงมานั้น ต้องรับราชการในสำนักงาน ป.ป.ท. มาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี สำหรับผู้ที่ถูกกล่าวหานั้น ร่างกฎหมายใหม่ได้กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ที่ถูกกล่าวหาต้องใช้มาตรการทางวินัย ในส่วนของการพักราชการหรือย้ายออกจากพื้นที่เดิม ในระหว่างที่ถูกสอบสวนด้วย

    นั่นเป็นหลักการและรายละเอียดของพระราชบัญญัติดังกล่าว ส่วนที่บอกว่านี่คือข่าวดีเล็กๆของการปฏิรูปบ้านเมือง เป็นเพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่ามีความเอาจริงเอาจังในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตโดยเฉพาะการทุจริตในภาครัฐ ในหน่วยงานของราชการที่เป็นต้นตอสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความล้าหลัง ด้อยพัฒนาในหลายเรื่อง

    แม้ว่าที่ผ่านมาในช่วงไม่กี่เดือนจะมีการตรวจสอบ สอบสวนจนพบข้าราชการระดับสูงลงมาหลายรายที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตจนมีการส่งรายชื่อข้าราชการประเภทดังกล่าวให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้พิจารณาลงโทษตามขั้นตอนนั่นคือส่งต่อไปให้หน่วยงานต้นสังกัดจัดการลงโทษ ซึ่งจากรายชื่อรอบแรก และรอบสองรวมแล้วเกือบสองร้อยคน มีทั้งระดับปลัดกระทรวง ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี รวมทั้งข้าราชการระดับสูงรายอื่นที่อยู่ในข่ายต้องสอบสวน โดยเวลานี้หลายรายกำลังถูกสั่งพักราชการ พ้นจากตำแหน่งเดิมไปก่อนเพื่อรอการสอบสวน

    การสอบสวนดังกล่าวนอกเหนือจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้นำสูงสุดที่ให้ไฟเขียวแล้ว ยังต้องให้เครดิตกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) และ ประยงค์ ปรียาจิตต์ ในฐานะเลขานุการศูนย์ดังกล่าวและเป็นเลขาธิการ ปปท.ในการทำงานผลักดันในเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง

    การขยายผลการดำเนินการในการปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ด้วยการเสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเพื่อยกฐานะหน่วยงาน ปปท.ให้มีศักยภาพในการปราบปรามทุจริตให่เข้มข้นรวดเร็วมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมีประสบการณ์จากการตรวจสอบการทุจริตข้าราชการในช่วงที่ผ่านมาที่มีอุปสรรคไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ที่สำคัญลักษณะมักออกมาเป็นแบบ "ปกปิดช่วยเหลือกันเอง" ทำให้เกิดความล้มเหลว ไม่ได้ผลจริงจัง

    การยกฐานะสำนักงาน ปปท.ให้เป็นหน่วยงานกึ่งอิสระจากเดิมที่เป็นหน่วยงานระดับกรม ขึ้นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้มาขึ้นกับนายกรัฐมนตรีทำให้การทำงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ มีศักยภาพใกล้เคียงกับ ปปช.มากขึ้น การคัดเลือกกรรมการทั้ง 6 คนมาจากคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกมาจากตัวแทนของ ครม.ปปช.และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน(คตง.)พิจารณาจากหน่วยงานละ 5 คน แล้วคัดเลือกให้เหลือ 6 คนดังกล่าว โดยมีวาระการทำงาน 7 ปี โดยมีคุณสมบัติสูงลิ่วตามที่ปรากฎข้างต้น นอกจากนี้ปปท.ยังมีอำนาจฟ้องร้องได้เอง หากเสนอไปให้อัยการสูงสุดแล้วเกินเวลา 6 เดือน

    ก็ต้องเรียกว่ามีความหวังและน่าชื่นชมกับการผลักดันในการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะหากมีการผ่านออกมาเป็นพระราชบัญญัติบังคับใช้ ก็ถือว่าเป็นเปลี่ยนแปลง ปปท.อย่างขนานใหญ่ เชื่อว่าจะทำให้การปราบปราบทุจริตในภาครัฐได้ผลดียิ่งขึ้น เพราะการทุจริตของข้าราชการคือปัญหาที่หมักหมมในบ้านเมือง และนับวันยิ่งขยายวงกว้างออกไปทุกที ดังนั้นหากบอกว่าอุปสรรคของการปฏิรูปก็คือการทุจริตนี่แหละ ถ้าทำให้ลดลงให้เหลือน้อยที่สุดปัญหาอื่นก็อาจถือเป็นเรื่องเล็ก !!

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068763
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    InPics & Clips : ปูทูน่ามหาศาลเกยตื้นชายฝั่งสหรัฐฯไม่หยุด แดงเถือกทั้งหาด
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 03:29 น.

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ซีบีเอส - ปูทูน่าสีแดงจำนวนมหาศาลเหลือคณานับยังเกยตื้นในออเรนจ์ เคาน์นี มลรัฐแคลิฟอร์เนีย อย่างต่อเนื่อง และปกคลุมชายหาดจนกลายเป็นสีแดง สร้างความพิศวงแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/QZCdXFOyVAg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/Cwt-HAiv2jI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ปูทูน่าเหล่านี้ปรากฎตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกบริเวณชายหาดลากูนาไปจนถึงชายหาดฮันติงตันเมื่อ 3 วันก่อน ทว่าสัตว์ทะเลสายพันธ์นี้ถูกซัดขึ้นฝั่งอีกระลอกในช่วงค่ำวันอังคาร(16มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น

    เจดี ดักช์ตี เจ้าของร้านตกปลา ที่ตกปลาในแถบนิวพอร์ตมานานกว่า 30 ปี เชื่อว่าเหตุปูทูน่าขึ้นมาเกยตื้นชายหาด น่าจะเป็นผลของกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรตามชายฝังทางตะวันตก "มันเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่าเอลนีโญใกล้มาถึงแล้ว และเราจะได้เห็นในเดือนสิงหาคมและกันยายน"

    ความเห็นของเขาสอดคล้องกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยบอกว่าการตายของปูทูน่าเป็นผลจากอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นของมหาสมุทร แต่สำหรับชาวประมงนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่พบเห็นบ่อยนักตลอดช่วงชีวิตของพวกเขา

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068778
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2015
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มติเฟดคงดอกเบี้ย แต่เผยศก.มะกันแข็งแกร่งพอที่จะปรับขึ้นปลายปี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 04:30 น.

    [​IMG]

    @นักลงทุนในตลาดหุ้นจับจาผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

    รอยเตอร์/เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม ณ ระดับเตี้ยติดพื้นใกล้ๆร้อยละ 0 ในวันพุธ(17มิ.ย.) แต่เผยเศรษฐกิจของอเมริกากำลังเติบโตปานกลางหลังหยุดชะงักท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บก่อนหน้านี้ พร้อมแย้มดูเหมือนจะแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับสนับสนุนให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี

    ในคำแถลงด้านนโยบายและตัวเลขประมาณการณ์ล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ( FOMC) ระบุว่าหลังจากหดตัวในไตรมาสแรก เวลานี้เศรษฐกิจกลับสู่เส้นทางการเติบโตระหว่างร้อยละ 1.8 ถึง 2.0 ในปีนี้ ปรับลดจากการประมาณการณ์เมื่อเดือนมีนาคม ที่คาดหมายว่าน่าจะขยายตัวตลอดทั้งปีร้อยละ 2.3 ถึง 2.7

    เฟดกล่าวด้วยว่าในส่วนตลาดแรงงานก็กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ แม้คาดหมายว่าตัวเลขคนว่างงานตอนสิ้นปีอาจสูงกว่าที่ประมาณการณ์คราวก่อนในเดือนมีนาคม ขณะเดียวกันแม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็คาดหมายว่าน่าจะดีดตัวขึ้นตามลำดับสู่ร้อยละ 2 ตามเป้าหมายระยะกลางที่วางเอาไว้

    จากคำแถลงและตัวเลขประมาณการณ์ดังกล่าวทำให้เฟดยังอยู่บนเส้นทางของความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 หรือ 2 ครั้ง ระหว่างการประชุมกำหนดนโยบายในอีก 4 ครั้งที่เหลือของปี 2015 "เฟดมีอยู่ 2 กฎเกณฑ์ หนึ่งคือการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งเรากำลังพบเห็นต่อเนื่อง และสองคือความเชื่อมั่นว่าภาวะเงินเฟ้อจะเคลื่อนสู่เป้าหมาย ซึ่งมันค่อยๆเริ่มจะเกิดขึ้นแล้ว" เวย์น เคลาฟ์มัน หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของฟีนิกซ์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิชส์ ในนิวยอร์กกล่าว

    เหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ร้อยละ 0 ไว้สำหรับตอนนี้ และบอกว่าจะปรับขึ้นอย่างเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดงานฟื้นตัวแล้วและมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะดีดขึ้น

    เฟดปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวทางจีดีพีในปี 2015 ลง ตามหลังภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปี ถือเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ธนาคารกลางแห่งนี้ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีนี้ อย่างไรก็ตามเหล่าคณะกรรมการเฟด 15 ใน 17 ราย ยังบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ อันเป็นมุมมองที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการณ์คราวก่อน

    ทั้งนี้สมาชิกส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟด คาดหมายจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือร้อยละ 0.5 ในช่วงสิ้นปี "กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานปลาง" เฟดระบุในถ้อยแถลง "อัตราการจ้างงานเริ่มดีดตัวขึ้น ขณะที่ตัวเลขคนว่างงานยังทรงตัว สิ่งต่างๆในตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการใช้ทรัพยากรแรงงานไม่ก่อประโยชน์ก็ค่อยๆน้อยลงแล้ว"

    ด้วยอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ระหว่างร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 0.25 จึงคาดหมายว่าตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นปีน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยราวๆร้อยละ 0.5 ด้วยนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าการปรับขึ้นครั้งแรกน่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068781
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันทรงตัว-หุ้นสหรัฐฯบวกหลังเฟดคงดอกเบี้ย ทองคำลง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 05:14 น. (แก้ไขล่าสุด 18 มิถุนายน 2558 05:19 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันอเมริกาเมื่อวันพุธ(17มิ.ย.) ลงเล็กน้อย จากข้อมูลปิโตรเลียมที่ผสมผสานของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้น หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ส่วนทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 59.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 63.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐฯพบว่าคลังน้ำมันสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 มิถุนายน ลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ถือเป็นการปรับลด 7 สัปดาห์ติดต่อกัน อย่างไรก็ตามนักลงทุนจับตาไปยังอุปทานน้ำมันดิบ ณ เมืองคุชชิง มลรัฐโอคลาโฮมา ศูนย์ส่งมอบสำคัญ ซึ่้งเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล

    ข้อมูลยังเผยให้เห็นว่ากำลังผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ อยู่ที่ 9.59 ล้านบาร์เรลต่อวัน แม้ลดลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราว 21,000 บาร์เรล แต่ก็ถือว่ายังเป็นระดับที่สูงลิ่วอยู่ ขณะเดียวกันสต๊อกเบนซิน ก็เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล ซึ่งสร้างความแปลกใจแก่ผู้เชี่ยวชาญหลายคน

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(17มิ.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ร้อยละศูนย์ตามเดิม และประธานเจเน็ต เยลเลน ให้สัญญาว่าจะใช้แนวทางอย่างรอบคอบในการปรับขึ้นดอกเบี้ย

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 31.26 จุด (0.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,935.74 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.15 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,100.44 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.33 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,064.88 จุด

    ตลาดทุนเคลื่อนไหวสู่แดนบวกหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ( FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม

    ทั้งนี้ในขณะที่คาดหมายว่าเหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายจะขึ้นดอกเบี้ยราวร้อยละ 0.5 ในช่วงปลายปี แนวโน้มของการขึ้นดอกเบี้ยถือว่าต่ำกว่าที่คาด และตัวเยลเลนเองก็บอกว่าเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในตลาดแรงงานยังคงมีจุดอ่อนแอบางอย่าง

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพุธ(17มิ.ย.) ปิดลบเล็กน้อย แต่พุ่งแรงในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิก หลังจากเฟด เคลื่อนไหวใกล้ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบทศวรรษ แต่ก็บ่งชี้ว่าอัตราการปรับขึ้นนั้นจะช้ากว่าที่คาด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,176.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000068785
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    EUเห็นพ้องขยายเวลาคว่ำบาตรรัสเซียจากวิกฤตยูเครนจนถึงต้นปี2016
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 02:14 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ชาติสมาชิกอียูเห็นพ้องกันในวันพุธ(17มิ.ย.) ขยายกรอบเวลามาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย จากกรณีเข้าแทรกแซงวิกฤตยูเครน ออกไปอีก 6 เดือนและจะไปสิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2016

    เจ้าหน้าที่เผยว่าข้อตกลงระหว่างเหล่าคณะทูตจาก 28 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม จะถูกทำให้เป็นทางการโดยเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มซึ่งมีกำหนดนัดหารือกันในสัปดาห์หน้า

    "เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศจะตัดสินใจกันในขั้นสุดท้ายในลักเซมเบิร์ก วันจันทร์หน้า" ผู้แทนถาวรของโปแลนด์ประจำอียูระบุบนทวิตเตอร์ ขณะที่แหล่งข่าวหลายคนก็ยืนยันข้อตกลงนี้เช่นกัน

    จากนั้นในวันถัดไป เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส เยอรมนี ยูเครนและรัสเซีย จะนัดหารือกันในปารีส ด้วยความหวังว่าการประชุมเหล่านี้อาจช่วยกอบกู้แนวโน้มทางการทูตสู่การคลี่คลายวิกฤตความรุนแรงทางภาคตะวันออกของยูเครน และจัดการความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก อันเกี่ยวกับความขัดแย้งและมาตรการคว่ำบาตรที่สืบเนื่องจากความขัดแย้งนี้

    สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่เหล่าธนาคารของรัสเซีย ภาคอุตสาหกรรมพลังงานและกลาโหม ตามหลังเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ถูกยิงตกในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏนิยมมอสโก ทางภาคตะวันออกของยูเครน ในเดือนกรกฎาคม 2014 ขณะที่สหรัฐฯก็ออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจต่อรัสเซียเช่นกัน

    ในเดือนมีนาคม เหล่าผู้นำของอียู เห็นพ้องกันในหลักการลดระดับมารตรการคว่ำบาตรต่างๆ โดยเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวดังกล่าวกับกรณีที่รัสเซีย บังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวมีฝรั่งเศสและเยอรมนีเป็นคนกลางและลงนามกันในกรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

    แหล่งข่าวเปิดเผยว่าด้วยเนื้อหาทางกฎหมายเห็นพ้องกันแล้วในระดับเจ้าหน้าที่ จึงมีความเป็นไปได้ว่าเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศจะลงมติเห็นชอบในวันจันทร์(22มิ.ย.) โดยไม่จำเป็นต้องมีการถกเถียงใดๆ จากนั้นก็จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการ ณ ที่ประชุมของเหล่าผู้นำอียูในบรัสเซลส์ วันพฤหัสบดี(25มิ.ย.) และวันศุกร์(26มิ.ย.)นี้

    แน่นอนว่าการขยายกรอบเวลามาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ จะยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับตะวันตกเย็นยะเยือกต่อไป แม้วิกฤตในยูเครนที่กระพือความแตกร้าวครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็นจะผ่านพ้นมา 1 ปีครึ่งแล้วก็ตาม

    เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เมื่อวันอังคาร(16มิ.ย.) กล่าวหารัสเซีย สำแดงแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ที่อันตราย หลังประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงแผนเพิ่มขีปนาวุธข้ามทวีปในคลังแสงนิวเคลียร์อีก 40 ลูก โดยมอสโกบอกว่าความเคลื่อนไหวนี้เพื่อตอบโต้พันธมิตรนาโต้ที่นำโดยสหรัฐฯ ซึงดำเนินการติดตั้งอาวุธหนักและนำทหารเข้าประจำการในยุโรปตะวันออกและแถบบอลติก

    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ(จี7) ที่ขับรัสเซียออกจากกลุ่มเมื่อปีที่แล้ว เตือนว่ามอสโกเสี่ยงเจอมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อกรณีรุกรานยูเครน หากปูตินไม่ยอมปรับเปลี่ยนแนวทาง

    ข้อตกลงหยุดยิงมินสก์ได้ข้อสรุปขึ้นมา หลังจากแผนสันติภาพในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ล้มเหลวในการระงับเหตุปะทะระหว่างสองฝ่าย ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วข้อตกลงหยุดยิงได้รับการยึดมั่น แต่เคียฟและฝ่ายกบฏยังกล่าวหากันรายวันว่าแต่ละฝ่ายละเมิดข้อตกลง ขณะที่เหล่านักสังเกตการณ์รายงานว่าพบเห็นการสู้รบดุเดือดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

    อียูออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งแรกด้วยการอายัดทรัพย์และสั่งห้ามเดินทางของเหล่าผู้นำกบฏและบุคคลสำคัญๆของรัสเซีย หลังจากมอสโกผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนในเดือนมีนาคม 2014 จากนั้นก็ขยายมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม หลังความขัดแย้งลุกลามสู่ภาคตะวันออกของยูเครน คร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 6,400 ศพ

    EU
     

แชร์หน้านี้

Loading...