ติดตามสถานะการณ์

บราซิลทลายเครือข่ายฟอกเงินระหว่างประเทศ | เดลินิวส์



ทางการบราซิลรวบ 11 ผู้ต้องสงสัย ร่วมขบวนการฟอกเงินข้ามชาตินับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผ่านสัญญาการค้าปลอมกับเวเนซุเอลา วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558 เวลา 22:01 น.

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่า ตำรวจบราซิลจับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการฟอกเงินจำนวนมาก ผ่านข้อตกลงการค้าปลอมกับเวเนซุเอลา โดยการจับกุมมีขึ้นหลังการบุกจู่โจมตรวตค้นเมื่อวันพฤหัสบดี ในรัฐเซาเปาโล ริโอเดจาเนโร และปารานา ตามแผนปฏิบัติการ "เปอร์โต วิคตอเรีย" ตำรวจประเมินว่า กลุ่มคนร้ายทำการฟอกเงินประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (33,688 ล้านบาท) ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ในระยะเวลา 3 ปี

ตำรวจหน่วยสืบสวนของบราซิลได้รับเบาะแส จากการสอบสวนของทางการสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2557 เกี่ยวกับชายชาวบราซิลรายหนึ่ง ที่เกี่ยวโยงกับแก๊งอาชญากรรมในบราซิล สหรัฐ ญี่ปุ่น อังกฤษ และเวเนซุเอลา โดยพฤติกรรมส่วนหนึ่งของกลุ่มคนร้ายแก๊งนี้ จะทำการเบิดถอนเงินแข็ง (hard currency) จากเวเนซุเอลา โดยผ่านการนำเข้าสินค้าที่แต่งขึ้นมา จากหลายบริษัทในบราซิล โดยมีจุดประสงค์เดียวคือ การยักย้ายถ่ายเทเงิน มูลค่าสินค้าถูกกำหนดเกินจริงถึง 5,000 % เพื่อให้สอดคล้องกับเงินแข็งที่โอนจากเวเนซุเอลา ซึ่งมีนโยบายควบคุมเงินตราเข้มงวด จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็จะให้กู้ หรือทำใบสั่งนำเข้าสินค้าปลอม เพื่อส่งเงินไปยังฮ่องกง ก่อนจะแจกจ่ายไปทั่วโลก.“

อ่านต่อที่ : บราซิลทลายเครือข่ายฟอกเงินระหว่างประเทศ | เดลินิวส์

 

จีนเรียกร้องเมียนมาหยุดถล่มกบฏโกก้าง | เดลินิวส์



รัฐบาลจีนเรียกร้องเมียนมาคืนสู่ความสงบ ตามแนวชายแดนร่วม 2 ประเทศ หลังกบฏโกก้างประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียว วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558 เวลา 22:46 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า รัฐบาลจีนเรียกร้องต่อรัฐบาลเมียนมา ให้คืนความมั่นคงตามแนวชายแดนร่วมระหว่าง 2 ประเทศ หลังกลุ่มกบฏในเขตปกครองตนเองโกก้าง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา ในนาม กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา หรือ เอ็มเอ็นดีเอเอ ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียว เริ่มตั้งแต่วันพุธ (10 มิ.ย.) ด้วยแรงกดดันจากรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อยุติการสู้รบรุนแรงตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างทหารกองทัพเมียนมา กับนักรบ เอ็มเอ็นดีเอเอ

นายหง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงที่กรุงปักกิ่ง ในวันนี้ ว่า จีน ซึ่งกำลังเป็นเจ้าภาพต้อนรับการไปเยือนของ นางออง ซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านเมียนมา มีความยินดีต่อการหยุดยิงในเขตโกก้าง "เราหวังว่าคู่ขัดแย้งจะพบกันครึ่งทาง ใช้ความอดกลั้น ยุติสงครามโดยเร็ซที่สุด และนำความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่ตามแนวเขตแดนร่วม จีน-เมียนมา" นายหง กล่าว และว่า จีนสนับสนุนสันติภาพและความปรองดองแห่งชาติในเมียนมา ให้บังเปิดผลโดยเร็ว.“

อ่านต่อที่ : จีนเรียกร้องเมียนมาหยุดถล่มกบฏโกก้าง | เดลินิวส์

 

บาห์เรนจำคุก-ถอนสัญชาติผู้ประท้วงต้านรัฐ | เดลินิวส์



ศาลบาห์เรนสั่งถอนสัญชาติและคุกจำ 10 ปี ถึงตลอดชีวิต กลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกว่าครึ่งร้อย วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2558 เวลา 22:43 น.

สำนักข่าวเพรสทีวีของอิหร่าน รายงานจากกรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่า ศาลบาห์เรนมีคำพิพากษาโทษจำคุกตลอดชีวิตกลุ่มผู้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล 5 คน จำคุก 15 ปี 22 คน และจำคุก 10 ปี อีก 30 คน จากทั้งหมด 61 คนที่ถูกดำเนินคดี ในจำนวนนี้มี 56 คน ถูกเพิกถอนสัญชาติบาห์เรน โดยจำเลยยังถูกสั่งปรับเป็นเงินระหว่าง 500 - 10,000 ดีนาร์ (ประมาณ 44,300 - 886,000 บาท)

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต่อต้านซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม 'เซลล์ 61' ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย โดยเหตุไม่สงบในบาห์เรนปะทุขึ้นเมื่อราวเดือน ก.พ. 2554 จากความพยายามของกลุ่มต่อต้านที่ต้องการโค่นอำนาจราชวงศ์บาห์เรนที่นำโดยสมเด็จพระราชาธิบดีฮะมัด บิน อีซา บิน อัล เคาะลีฟะห์ ซึ่งนับแต่นั้นเป็นต้นมา ก็มีการก่อเหตุวุ่นวายปั่นปวนขึ้นเกือบรายวัน

ทางการได้ดำเนินคดีและสั่งจำคุกกลุ่มต่อต้านหลายร้อยคนเพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดการปฏิวัติ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน ว่าเป็นการใช้อำนาจที่รุนแรงเกินไป ทำให้มีนักเคลื่อนไหวเสียชีวิตไปแล้วจำนวนมาก. ที่มา: PressTV-Bahrain jails 57, revokes 56 citizenships

อ่านต่อที่ : บาห์เรนจำคุก-ถอนสัญชาติผู้ประท้วงต้านรัฐ | เดลินิวส์

 

ชาวบ้านไนจีเรียก๊งเหล้าต้มเองดับแล้ว68ราย | เดลินิวส์



หน่วยงานสาธารณสุขไนจีเรียเผย มีประชาชนที่ดื่มเหล้าต้มเองซึ่งมีส่วนผสมของเอธานอลในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 68 ราย นับตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. เป็นต้นมา วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน 2558 เวลา 5:10 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า ดร.ซีโมน อิบูฟูราบา มานูเอล จากหน่วยงานด้านสาธารณสุขของรัฐริเวอร์ส ทางตอนใต้ของไนจีเรีย เผยว่า มีประชาชนเสียชีวิตจากการดื่มสุรากลั่นเองที่มีการปนเปื้อน ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. อย่างน้อย 68 ราย รายงานเบื้องต้นระบุว่า เหตุการณ์เริ่มต้นจากงานเลี้ยงฉลองที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านเผยว่า แขกบางคนในงานนำสุรากลั่นเองที่เรียกว่า "โอโกโกโร" จากรัฐอื่น มาร่วมฉลอง

โอโกโกโร เป็นสุราพื้นบ้านที่ทำจากน้ำเลี้ยงต้นปาล์มซึ่งพบได้ทั่วไป แต่ในกรณีมีการผสมเอธานอลลงไป ซึ่งจะทำให้ระดับแอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 60 หน่วยงานสาธารณสุขเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการดื่มสุราทำเองหลายร้อยคนในแต่ละปี โดยผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดเกร็งท้อง ตาพร่ามัว ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ และหมดสติ ซึ่งทางการเพิ่งมีคำสั่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ห้ามไม่ให้มีการผลิตและบริโภคสุราดังกล่าว

ทั้งนี้ โอโกโกโร เครื่องดื่มที่ขายทั่วไป เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวไนจีเรีย โดยมันถูกใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในงานพิธีต่างๆ ทั้งงานสังคมและพิธีกรรมทางศาสนา.“

อ่านต่อที่ : ชาวบ้านไนจีเรียก๊งเหล้าต้มเองดับแล้ว68ราย | เดลินิวส์

 

'แจ๋ว'รวมตัวเรียกร้องสิทธิ ม.33 ประกันสังคม | เดลินิวส์



„'แจ๋ว'รวมตัวจัดงาน 'วันลูกจ้างทำงานบ้านโลก' เรียกร้องสิทธิเข้าสู่ประกันสังคม ม.33 หวังทัดเทียมลูกจ้างทั่วไป แนะรวมพลต่อสู้ อย่าอยู่ในภาวะจำยอม วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน 2558 เวลา 13:50 น.

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่โรงแรมเสนาเพลส เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านจัดงาน “วันลูกจ้างทำงานบ้านโลก” ภายใต้หัวข้อ “กระบวนการยุติธรรมกับลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย” โดยมีลูกจ้างทำงานบ้าน เข้าร่วมงานจำนวนมาก ทั้งนี้งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อร่วมฉลองความก้าวหน้าในการคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างทำงานบ้านในวันลูกจ้างทำงานบ้านสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มิ.ย.นี้ และเพื่อกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐ นายจ้าง รับรู้สิทธิที่ลูกจ้างทำงานบ้านพึงได้รับและบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างทำงานบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยนางสมร พาสมบูรณ์ ประธานเครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านประเทศไทย กล่าวว่า การรวมตัวของเราเพื่อเรียกร้องให้ลูกจ้างทำงานบ้านเข้าสู่ประกันสังคม ตามมาตรา 33 สิทธิที่เราต้องได้ ทั้งลูกจ้างไทยและลูกจ้างต่างชาติ เพราะเรามีนายจ้างชัดเจนแม้ปัจจุบันจะมีการใช้กฎกระทรวงฉบับที่ 14 พ.ศ. 2555 ที่ให้ลูกจ้างได้รับวันหยุดวันลาป่วยแล้วก็ตาม แต่กฎกระทรวงที่มีอยู่ไม่สามารถบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างทำงานบ้าน ได้ใช้ได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งนี้มาตรา 33 จะทำให้ลูกจ้างทำงานบ้านได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาล ค่าคลอดลูก ค่าทำศพ ค่าทุพลภาพ ค่าทำงานนอกเวลาเหมือนลูกจ้างที่มีนายจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นสิทธิที่เราควรได้รับเหมือนลูกจ้างตามบริษัทที่มีนายจ้างทั่วไป เราอยากได้รับความเท่าเทียม และภูมิใจในอาชีพ เพราะถูกกดขี่มานาน การจะให้เราเข้ามาตรา 40 นั้น มันไม่ใช่ เพราะมาตรา 40 ใช้สำหรับลูกจ้างแผงลอย และชาวไร่ ชาวนา และเราได้รับสิทธิคุ้มครองไม่เต็มที่

ด้าน น.ส.แอนนา โอลเซ็น ผู้แทนองค์กรการแรงงานระหว่างประเทศ กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกจ้างทำงานบ้านเข้าถึงความยุติธรรมได้ยากกว่าคนกลุ่มอื่น เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และแรงงานข้ามชาติ มีปัญหาเรื่องสถานะทางกฎหมาย ภาษา และการทำงานบ้านยังเป็นงานนอกระบบ นอกจากนี้ยังมีอีก 3 เหตุผล ที่ทำให้ลูกจ้างฯ ร้องเรียนเรื่องต่าง ๆได้ยากคือ 1.รัฐบาล เพราะไม่มีนโยบาย กลไก ระเบียบต่างๆ แนวปฏิบัติอย่างชัดเจน ไม่ส่งต่อการร้องเรียนของลูกจ้างทำงานบ้าน 2.อุปสรรคด้านการสื่อสาร ลูกจ้างชาวต่างชาติไม่สามารถร้องเรียนได้ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีล่ามแปลภาษา การร้องเรียนต่าง ๆ ต้องเขียนข้อมูลเป็นภาษาไทยเท่านั้น 3.ลูกจ้างไม่รู้ว่ามีสิทธิ และไม่รู้ว่าจะไปร้องเรียนที่ใด หากไปร้องเรียนก็กลัวนายจ้างปลดออกจากงาน เสียเวลา เสียเงิน ทั้งนี้รัฐควรจัดหามาตรการรองรับให้ลูกจ้างฯ ด้วย ขณะที่อีกส่วนเป็นสิทธิที่ลูกจ้างต้องเรียกร้องด้วยตัวเอง

ด้าน น.ส.มาลี พฤกษ์พงศาวลี ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ กล่าวถึงความสำคัญของการเข้าถึงระบบยุติธรรมของลูกจ้างทำงานบ้านว่า ไม่ว่าจะลูกจ้างคนไทยหรือต่างชาติ ต้องได้รับค่าแรงเท่าเทียมกัน เพราะมีความเสมอภาคในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่ากัน ทั้งนี้กุญแจสำคัญที่จะทำให้ลูกจ้างฯ เรียกร้องสิทธิได้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องรวมกลุ่มและหาข้อมูล อย่ายืนโดดเดี่ยว อย่าอยู่ในภาวะจำยอมเลือกไม่ได้ เราควรหาข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน.“

อ่านต่อที่ : 'แจ๋ว'รวมตัวเรียกร้องสิทธิ ม.33 ประกันสังคม | เดลินิวส์

 

องค์การแรงงานระหว่างประเทศ อยู่ในสังกัดของสหประชาชาติ เริ่มเข้ามาเรียกร้อง
ให้„รัฐควรจัดหามาตรการรองรับให้ลูกจ้างเข้าถึงความยุติธรรมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากคนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และแรงงานข้ามชาติ จะมีปัญหาเรื่องสถานะทางกฎหมาย ภาษา และการทำงานบ้านยังเป็นงานนอกระบบ นอกจากนี้ยังมีอีก 3 เหตุผล ที่ทำให้ลูกจ้างฯ ร้องเรียนเรื่องต่าง ๆได้ยากคือ 1.รัฐบาล เพราะไม่มีนโยบาย กลไก ระเบียบต่างๆ แนวปฏิบัติอย่างชัดเจน ไม่ส่งต่อการร้องเรียนของลูกจ้างทำงานบ้าน 2.อุปสรรคด้านการสื่อสาร ลูกจ้างชาวต่างชาติไม่สามารถร้องเรียนได้ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีล่ามแปลภาษา การร้องเรียนต่าง ๆ ต้องเขียนข้อมูลเป็นภาษาไทยเท่านั้น 3.ลูกจ้างไม่รู้ว่ามีสิทธิ และไม่รู้ว่าจะไปร้องเรียนที่ใด หากไปร้องเรียนก็กลัวนายจ้างปลดออกจากงาน เสียเวลา เสียเงิน “ มาติดตามดูกันครับ ว่าสหประชาชาติ สหรัฐ หรือยุโรปจะมีอะไรตามมาไหม


องค์การแรงงานระหว่างประเทศ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ไอแอลโอ (อังกฤษ: International Labour Organization; ILO) องค์การไอแอลโอ ตั้งขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสันนิบาตชาติ เมื่อ พ.ศ. 2462 (ค.ศ. 1919) เป็นองค์การชำนาญเฉพาะเรื่อง และเข้ามาอยู่ในสังกัดของสหประชาชาติเมื่อสันนิบาตชาติถูกยุบลงเมื่อ พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) องค์การนี้มีอายุได้ 77 ปี ใน พ.ศ. 2539 ในบรรดารัฐสมาชิกสหประชาชาติที่นับว่าเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง มีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ประเทศอื่นในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์

ภารกิจหลัก[แก้]
ภารกิจหลักของไอแอลโอ คือช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานทั่วโลกให้ได้รับความยุติธรรมจากสังคม ให้มีชีวิต และสภาพการทำงานที่ดีขึ้น ผลงานขององค์การทำให้ได้รับรางวัลโนเบล เพื่อสันติภาพ เมื่อ พ.ศ. 2512 (ค.ศ. 1969) [1] ทั้งนี้โดยที่องค์การยึดมั่นในหลักการที่ว่า สันติสุขแห่งโลกจะเกิดขึ้นได้และมีความต่อเนื่องมั่นคงก็ด้วยการที่มีความยุติธรรมในสังคม มีฐานรากคือ ความเคารพในสิทธิมนุษยชน มีมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดี มีสภาพการทำงานซึ่งเกื้อกูลความผาสุกของผู้ใช้แรงงาน การมีโอกาสทำงานและมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

ยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานของไอแอลโอ[แก้]
ยุทธศาสตร์การปฏิบัติงานของไอแอลโอ คือจัดให้มีการเจรจาร่วมของผู้เกี่ยวข้องสามฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายนายจ้าง และฝ่ายแรงงาน ในกรณีที่มีความขัดแย้งและพยายามแก้ไขปัญหาร่วมกันโดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ภารกิจขององค์การนี้ในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกมีความหลากหลายและยุ่งยาก เพราะประเทศต่างๆ มีสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม โครงสร้าง รายได้และสวัสดิการสังคม การพาณิชย์ การลงทุน แรงงาน ปัญหาด้านสังคมและแรงงาน ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้านเศรษฐกิจและสังคม ในประเทศที่เริ่มเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ก็ได้นำมาซึ่งปัญหาใหม่ๆ อีกมากมาย

ไอแอลโอ จัดลำดับเรื่องสำคัญรีบด่วนไว้สามประการ คือ

การจัดให้มีงานทำและขจัดความยากจน
การคุ้มครองผู้ใช้แรงงาน
ส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิแห่งมนุษยชน
ในข้อแรกไอแอลโอ ช่วยเหลือประเทศต่างๆ ในการฝึกอบรมผู้ใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพ ในข้อที่สอง ไอแอลโอ ช่วยประเทศต่างๆ ให้เพิ่มพูนประสิทธิภาพในการคุ้มครองผู้ใช้แรงงานให้ได้รับความปลอดภัย และให้ตระหนักถึงภัยที่เกิดจากการทำงานในโรงงาน ในข้อที่สามไอแอลโอช่วยเหลือในการออกกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน และอุตสาหกรรมสัมพันธ์ระหว่างแรงงานกับนายจ้าง สนับสนุนองค์การของผู้ใช้แรงงาน ได้กำหนดมาตรฐานสากลเกี่ยวกับแรงงาน ซึ่งช่วยในการสร้างเสริมประชาธิปไตยและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

สำนักงานประจำภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก[แก้]
องค์การไอแอลโอ มีสำนักงานภูมิภาคและสำนักงานประจำประเทศหลายแห่งในภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ให้ความช่วยเหลือทางด้านวิชาการ จัดการฝึกอบรม ทำการศึกษาวิจัย เพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างรัฐบาล แรงงานและนายจ้าง ในระดับประเทศ สำนักงานภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิกตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร

อ้างอิง[แก้]
กระโดดขึ้น ↑ History of Organization
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ - วิกิพีเดีย

 

สลด! แก๊สรั่วในภาคเหนืออินเดีย ดับ 6 ป่วยนับร้อยคน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 มิ.ย. 2558 05:10


(ภาพ: NDTV)

เกิดเหตุรถขนแก๊สเชี่ยวชนกับสะพานทางยกระดับในภาคเหนือของประเทศอินเดีย เป็นเหตุให้แก๊สรั่วไหล มีผู้สูดดมเข้าไปจนเสียชีวิต 6 ราย และป่วยอีกกว่า 100 คน…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุแก๊สรั่วในเมือง ลูธิอันนา ในรัฐปันจาบ ทางเหนือของประเทศอินเดีย หลังจากรถขนถังแก๊สไปชนกับสะพานทางยกระดับ เป็นเหตุให้แก๊สรั่วออกมา มีผู้เสียชีวิตจากการสูดดมแก๊ส 6 ราย และมากกว่า 100 คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และทางการต้องสั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง

ขณะเดียวกัน น.ส. นิธิ ดัตต์ ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอัลจาซีราในอินเดีย รายงานจากกรุงนิวเดลี ว่า ประชาชนอย่างน้อย 100 คนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการป่วยหลากหลาย เช่นมีปัญหาเรื่องการหายใจ บางคนมีอาการตาแดง และลิ้นเปลี่ยนสี ขณะที่ตำรวจอินเดีย เริ่มการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

สลด! แก๊สรั่วในภาคเหนืออินเดีย ดับ 6 ป่วยนับร้อยคน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

รองผู้ว่าการรถไฟจีนชี้ประโยชน์อื้อ ‘โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน’
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 มิ.ย. 2558 10:20



@นายหวง หมิน รองผู้ว่าการองค์การรถไฟแห่งประเทศจีน

‘หวง หมิน’ รองผู้ว่าการองค์การรถไฟแห่งประเทศจีน ชี้ประโยชน์จากความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างจีนกับไทย จะช่วยยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยอย่างมีพลัง พร้อมเสริมสร้างบทบาทสำคัญของไทยที่เป็นชุมทางของอาเซียน

นายหวง หมิน รองผู้ว่าการองค์การรถไฟแห่งประเทศจีน ให้สัมภาษณ์ชี้แจงโครงการความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างจีนกับไทย ซึ่งประสบความสำเร็จ ในเดือนกรกฎาคม 2557 เมื่อรัฐบาลไทยประกาศแผนพัฒนาทางรถไฟมาตรฐานสากลฉบับใหม่ โดยระบุว่า จะสร้างทางรถไฟมาตรฐานสองสาย ได้แก่ ทางรถไฟสายหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด (ยาวประมาณ 734 กิโลเมตร) กับทางรถไฟแก่งคอย-กรุงเทพฯ (ยาวประมาณ 133 กิโลเมตร) ภายใต้การสนับสนุนของผู้นำทั้งจีนและไทย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ปี 2557 ที่กรุงเทพมหานคร และผู้นำทั้งสองได้ร่วมลงนามใน “บันทึกช่วยจำเพื่อความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการรถไฟภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและการขนส่งแห่งประเทศไทยฉบับปี 2558-2565” เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า ความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยก้าวสู่ช่วงใหม่


รองผู้ว่าการองค์การรถไฟจีนยังชี้ถึงผลคืบหน้าของโครงการรถไฟจีน-ไทยในขณะนี้ ว่า ปัจจุบัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนและไทยได้จัดตั้งกลไกปฏิบัติงานสำหรับความร่วมมือด้านการรถไฟขึ้นมาแล้ว ขณะที่การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันเป็นไปอย่างราบรื่น โดยรายละเอียดความร่วมมือและรายการที่เป็นรูปธรรมกำลังเดินหน้าอย่างมั่นคงและเป็นขั้นตอน

โดยวันที่ 21 มกราคม ปี 2558 การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทย ครั้งแรกจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ทั้งสองฝ่ายตกลงจะปฏิบัติตามความเห็นร่วมกันระหว่างผู้นำสองประเทศ นั่นคือ เร่งผลักดันทางรถไฟหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-มาบตาพุด และทางรถไฟแก่งคอย-กรุงเทพฯ พร้อมกับร่วมทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ หารือรูปแบบร่วมมือ และแผนระดมทุน และได้ลงนามใน “บันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยครั้งแรก” เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ปี 2558

ส่วนการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง โดยสองฝ่ายได้อภิปรายประเด็นสำคัญต่างๆ และได้บรรลุความเห็นร่วมกันที่สำคัญเกี่ยวกับกฎบัตรของคณะกรรมการฯ วันเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการ รูปแบบร่วมมือและแผนระดมทุน ข้ออนุมัติเทคโนโลยีด้านการรถไฟ การสร้างสรรค์ศักยภาพด้านการรถไฟ และได้ลงนามใน “บันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยครั้งที่ 2”

ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม ปี 2558 การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ สองฝ่ายได้ข้อตกลงเกี่ยวกับการแบ่งงานของโครงการสร้างทางรถไฟหนองคาย-มาบตาพุด และทางรถไฟแก่งคอย-กรุงเทพฯ การบริหารจัดการ การอบรมบุคลากร เป็นต้น

ระหว่างวันที่ 6-8 มีนาคม ปี 2558 การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่เมืองคุนหมิง สองฝ่ายได้อภิปรายลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับการกำหนดเส้นทางรถไฟ วันเวลาเริ่มต้นโครงการ รูปแบบความร่วมมือ แผนการลงทุนและการระดมทุน การอบรมเจ้าหน้าที่ และบรรลุความเห็นร่วมกันที่สำคัญ ที่ประชุมลงนาม ใน “บันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทยครั้งที่ 4” โดยขณะนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การรถไฟแห่งประเทศจีนกับผู้เชี่ยวชาญของไทยกำลังทำการศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการอยู่ที่กรุงเทพมหานคร


ส่วนโครงการรถไฟจีน-ไทย จะเริ่มก่อสร้างเมื่อไร? ระยะเวลาก่อสร้างนานแค่ไหน? นั้น นายหวง หมิน ได้ตอบว่า ตามความเห็นร่วมกันระหว่างจีนกับไทยที่มีอยู่ในปัจจุบัน สองฝ่ายเห็นด้วยในหลักการว่า จะใช้รูปแบบ EPC (รับเหมาก่อสร้างโครงการ ที่รวมทั้งการออกแบบ จัดซื้อและก่อสร้าง) เป็นรูปแบบความร่วมมือของโครงการรถไฟจีน-ไทย ต้องเสร็จสิ้นภารกิจ 6 อย่าง ได้แก่ การศึกษาความเป็นไปได้ การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ขั้นตอนการอนุมัติ การเวนคืนที่ดิน การโยกย้ายชาวบ้านไปอยู่ที่อื่น การเซ็นสัญญา EPC และเงินลงทุนที่ถึงบัญชี ถือเป็นเงื่อนไขบังคับของการเปิดดำเนินการก่อสร้าง พยายามเร่งงานการศึกษาความเป็นไปได้ของทางรถไฟบางตอนให้แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมปี 2558 และเริ่มต้นก่อสร้างในเดือนตุลาคม ระยะเวลาการก่อสร้าง 30 เดือน อีกส่วนให้สิ้นสุดการศึกษาความเป็นไปได้ก่อนสิ้นปีนี้ และเริ่มต้นก่อสร้างในต้นปี 2559 ระยะเวลาการก่อสร้าง 36 เดือน

พร้อมกันนั้น รองผู้ว่าการรถไฟจีนยังตอบคำถามที่ถามว่า การสร้างทางรถไฟมาตรฐานสากลนั้น มีความหมายสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย และหน่วยงานการรถไฟของจีนจะสามารถทำให้เป้าหมายนี้เป็นจริงอย่างไรว่า บนพื้นฐานแห่งการก่อสร้างและบริหารจัดการทางรถไฟนานหลายปี ทำให้การรถไฟจีนมีระบบเทคโนโลยีการรถไฟที่สมบูรณ์และครบวงจร การสำรวจออกแบบ การวิจัยและผลิตอุปกรณ์ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการทางรถไฟของจีน ล้วนอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก

การรถไฟจีนสร้างโครงการเรลเวย์ เบด (Railway Bed) ที่รองรับเงื่อนไขทางภูมิประเทศที่สลับซับซ้อนที่สุดของโลก สร้างสะพานที่ให้ทั้งรถยนต์และรถไฟวิ่งผ่านที่มีความโค้งยาวที่สุดในโลก และสร้างอุโมงค์ยาวขนาดใหญ่จำนวนมากที่สุดของโลก การรถไฟจีนวิจัยและผลิตรถไฟทุกรุ่นทุกชนิดขึ้นมาเอง รวมถึงรถไฟขนส่งผู้โดยสาร หัวรถจักร และรถไฟขนส่งสินค้า สามารถตอบสนองความต้องการอุปกรณ์ที่เกิดจากความเร็วไม่เท่ากัน รางรถไฟประเภทที่ไม่เหมือนกัน และเงื่อนไขการขนส่งที่แตกต่างกัน ครองเทคโนโลยีควบคุมรถไฟโดยอัตโนมัติอย่างรอบด้าน และประสบความสำเร็จในการควบคุมการเดินรถแบบผสม และการเชื่อมต่อรางรถไฟความเร็วสูงกับรางรถไฟทั่วไป


ปัจจุบัน จีนมีทางรถไฟที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 112,000 กิโลเมตร แต่ละวันเปิดเดินรถไฟขนส่งผู้โดยสารกว่า 7,000 ขบวน เปิดเดินรถไฟขนส่งสินค้า 20,000 ขบวน ประสิทธิภาพการขนส่ง และยอดการปฏิบัติงานของจีนล้วนเป็นอันดับหนึ่งของโลก การรถไฟจีนมีศักยภาพบริบูรณ์ในการก่อสร้างและบริหารจัดการทางรถไฟความเร็วสูงกับทางรถไฟทั่วไปให้สนองตอบเงื่อนไขทางภูมิประเทศที่สลับซับซ้อน สิ่งแวดล้อมที่มีภูมิอากาศพิเศษ และความต้องการการขนส่งทุกชนิด

จากนั้น นายหวงยังกล่าวถึงประโยชน์ที่ประชาชนทั้งจีนและไทย รวมทั้งเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่จะได้รับภายหลังโครงการรถไฟจีน-ไทย สร้างเสร็จสมบูรณ์ว่า ประเทศไทยเป็นคู่ค้าหลักของจีนในอาเซียน จีนเป็นตลาดส่งออกสินค้าใหญ่เป็นอันดับแรกของไทย และเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเมืองไทยมากที่สุด หลังจากทางรถไฟหนองคาย-มาบตาพุด ในโครงการร่วมมือด้านการรถไฟจีน-ไทย สร้างแล้วเสร็จ จะเชื่อมต่อกับทางรถไฟจีน-ลาว ที่กำหนดจะสร้างขึ้นมา และบรรลุซึ่งการเชื่อมต่อกันระหว่างทางรถไฟของจีนและไทย ถึงเวลานั้น สินค้าของสองประเทศสามารถหมุนเวียนกันผ่านทางรถไฟได้สะดวก ต้นทุนการขนส่งจะต่ำลงได้อย่างมาก ประชาชนทั้งจีนและไทยก็สามารถโดยสารรถไฟเดินทางถึงกันได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น

‘ความร่วมมือในโครงการรถไฟระหว่างจีนกับไทยจะยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยอย่างมีพลัง เสริมสร้างบทบาทสำคัญของไทยที่เป็นชุมทางของอาเซียน กระตุ้นการไปมาหาสู่กันทางการค้าและการแลกเปลี่ยนทางบุคลากรระหว่างประเทศอาเซียน และระหว่างอาเซียนกับจีน ผลักดันการพัฒนาเป็นเมืองแห่งใหม่ และการท่องเที่ยวของไทย เพิ่มโอกาสการมีงานทำของมวลชน และสร้างแรงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยในอนาคต’ รองผู้ว่าการรถไฟของจีน กล่าวทิ้งท้ายถึงประโยชน์ของโครงการรถไฟจีน-ไทย ที่จะบังเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ข้างหน้า.

รองผู้ว่าการรถไฟจีนชี้ประโยชน์อื้อ ‘โครงการความร่วมมือรถไฟไทย-จีน’ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ระทึกภาคต่อ!!พายุโหมซัดลานจอดรถ "โรบินสันสระบุรี" คนแตกตื่นพบแสงปริศนา(ชมคลิป) 2015-06-12 21:09:44



เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาของวันนี้(12มิ.ย.58)เกิดพายุโหมกระหน่ำลานจอดรถ "โรบินสันสระบุรี" ผู้คนแตกตื่นหามุมหลบเอาชีวิตรอด พบแสงปริศนาพาคนแตกตื่น

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/MzvHPERcxxg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ขอบคุณคลิปจาก https://www.facebook.com/100009266236863/videos/1446011905717670/

 

เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่เพิ่ม ยอดติดเชื้อรวม 145 คน
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 9:30 AM



โซล 14 มิ.ย. – กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สรายใหม่เพิ่ม 7 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสเมอร์สในเกาหลีใต้รวมเป็น 145 คน ซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่าถือเป็นการระบาดในวงกว้างและซับซ้อน

แถลงการณ์เกาหลีใต้ระบุว่า ผู้ติดเชื้อทั้งหมดคาดว่าเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลที่ให้การรักษาชายชาวเกาหลีใต้ซึ่งเดินทางกลับจากภูมิภาคตะวันออกกลางและพบว่าติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ขณะที่เกาหลีใต้มียอดผู้เสียชีวิตรวม 14 คน ทั้งหมดเป็นคนไข้สูงอายุหรือเป็นผู้ที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ไวรัสเมอร์สที่พบในเกาหลีใต้ระบาดเป็นวงกว้างและมีความซับซ้อน คาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก องค์การอนามัยโลกและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้ประสานงานร่วมกันเพื่อหารือปัญหาไวรัสเมอร์สระบาดในเกาหลีใต้ที่ถือว่ารุนแรงที่สุด นอกพื้นที่ซาอุดีอาระเบีย แถลงการณ์ระบุว่า การระบาดที่เกาหลีใต้ลุกลามรวดเร็วกว่าปกติ โดยมีผู้ติดเชื้อ 140 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิต 14 คน หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อ 20 พฤษภาคม คาดกันว่ายอดผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้จะเพิ่มขึ้นอีก .-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายใหม่เพิ่ม ยอดติดเชื้อรวม 145 คน | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

แผนการโยกย้ายชาวโรฮิงญาของบังกลาเทศสร้างความกังวล
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 12:23 PM



ฮาติยา 14 มิ.ย. – รัฐบาลบังกลาเทศยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแผนการโยกย้ายผู้อพยพชาวโรฮิงญา 32,000 คนจากค่ายผู้อพยพในเขตค็อกซ์บาซาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไปยังเกาะเธนการ์ ชาร์ ส่วนหนึ่งเนื่องจากค่ายผู้อพยพดังกล่าวบดบังการท่องเที่ยวของบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีหาดทรายยาวที่สุดในโลก

ข้อเสนอของรัฐบาลได้สร้างความกังวลต่อแกนนำของกลุ่มชาวโรฮิงญา ซึ่งเริ่มเดินทางมายังบังกลาเทศมานานกว่า 2 ทศวรรษแล้วเพื่อหนีการกวาดล้างของเมียนมาร์ ในขณะที่ชาวเกาะเธนการ์ ชาร์และเจ้าหน้าที่สำนักงานป่าไม้ที่ควบคุมการปลูกป่าโกงกางเมื่อปี 2554 ที่เกาะเธนการ์ ชาร์ กล่าวว่า ในช่วงเวลาน้ำขึ้น เกาะทั้งเกาะจะถูกน้ำท่วมสูงราว 1 เมตร เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะไปอาศัยอยู่บนเกาะดังกล่าว เกาะเธนการ์ ชาร์ อยู่ห่างจากเกาะฮาติยาไปทางตะวันออกราว 30 กิโลเมตร และเพิ่งโผล่ขึ้นมาจากทะเลเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน มีเนื้อที่ประมาณ 25,000 ไร่ อยู่ภายใต้การดูแลของเกาะฮาติยา ซึ่งมีประชากร 600,000 คน การเดินทางไปที่เกาะดังกล่าวในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน ไม่สามารถทำได้เลย เนื่องจากทะเลเต็มไปด้วยอันตราย และยังโดนพายุไซโคลนพัดกระหน่ำอยู่บ่อยครั้ง

เจ้าหน้าที่รัฐบาลบังกลาเทศที่รับผิดชอบดูแลเกาะฮาติยา กล่วว่า คณะสำรวจของรัฐบาลที่ส่งมาตามคำสั่งของนายกรัฐมตรีเชค ฮาซินา เป็นผู้เลือกเกาะดังกล่าว แต่เขายอมรับว่า เป็นเรื่องท้าทายเป็นอย่างยิ่งในการย้ายคนหลายพันคนไปอยู่ที่เกาะแห่งนี้ แต่หากมีการก่อสร้างสถานที่หลบภัยไซโคลน แนวป้องกัน และโรงพยาบาล ก็จะเพียงพอที่จะทำให้เกาะเป็นสถานที่ที่พักอาศัยได้.-สำนักข่าวไทย

แผนการโยกย้ายชาวโรฮิงญาของบังกลาเทศสร้างความกังวล | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องกลุ่มไอเอสได้ 108 คนแล้ว
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 12:58 PM



บากันดาโต๊ะ 14 มิ.ย. – ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 108 คนคาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)

นายอาหมัด ซาฮีด ฮามีดี รัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย กล่าวว่า ในจำนวนที่ถูกควบคุมตัวดังกล่าว มีอยู่ 6 คนที่ถูกนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนที่เหลือตำรวจกำลังสอบปากคำ นายอาหมัด ซาฮีดแถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังเปิดการประชุมศูนย์อินเตอร์เน็ตวันนี้ว่า ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยบางคนที่เดินทางจากซีเรียและอิรักเข้ามาในมาเลเซีย นับจนถึงขณะนี้มีผู้ถูกควบคุมตัวโดยสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส 108 คน รัฐมนตรีมหาดไทยระบุว่า มีชาวมาเลย์ 66 คนที่มีรายงานเตรียมเดินทางไปซีเรียและอิรัก .-สำนักข่าวไทย

ตำรวจมาเลเซียควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องกลุ่มไอเอสได้ 108 คนแล้ว | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

เผยแบล็ตเตอร์ อาจหาทางอยู่ในตำแหน่งประธานฟีฟ่าต่อไป
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 10:57 AM



เจนีวา 14 มิ.ย. – หนังสือพิมพ์สวิตเซอร์แลนด์รายงานวันนี้ว่า นายเซปป์ แบล็ตเตอร์ อาจจะหาทางอยู่ในตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ต่อไป โดยรายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากที่นายแบล็ตเตอร์ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานฟีฟ่า

หนังสือพิมพ์สวิตเซอร์แลนด์รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุนามว่า ได้รับข้อมูลว่า นายแบล็ตเตอร์ได้รับข้อความสนับสนุนจากสมาคมฟุตบอลในทวีปแอฟริกาและเอเชีย และขอให้เขาพิจารณาทบทวนเรื่องการลาออกใหม่อีกครั้ง ซึ่งนายแบล็ตเตอร์รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการสนับสนุนดังกล่าวและไม่ได้ปิดทางที่จะอยู่ในตำแหน่งประธานฟีฟ่าต่อไป หนังสือพิมพ์ยังรายงานด้วยว่า การที่นายแบล็ตเตอร์กลับลำโดยสนใจที่จะดำรงตำแหน่งต่อ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นายวอลเตอร์ เด เกรกอริโอ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของฟีฟ่า ลาออกจากตำแหน่งเพราะก่อนหน้านี้เขาแนะนำให้นายแบล็ตเตอร์ลาออกและปฏิรูปฟีฟ่าใหม่ทั้งหมด

นายแบล็ตเตอร์ ประกาศเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งประธานฟีฟ่าในช่วงเวลาที่ฟีฟ่ากำลังถูกรุมเร้าด้วยปัญหาการทุจริต หลังจากที่เขาดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2541 แต่เขาจะยังคงรักษาการในตำแหน่งนี้ต่อไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานคนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมเพื่อเลือกประธานฟีฟ่าที่นครซูริค ของสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนธันวาคม.-สำนักข่าวไทย

เผยแบล็ตเตอร์ อาจหาทางอยู่ในตำแหน่งประธานฟีฟ่าต่อไป | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนเตือนเจ้าหน้าที่ทำผิดซ้ำรอยในการต่อสู้กับไวรัสอีโบลา
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 11:46 AM



ดาการ์ 14 มิ.ย. – นางโจแอน หลิว ประธานองค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (เอ็มเอสเอฟ) เตือนว่าเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขกำลังทำผิดซ้ำรอยการต่อสู้กับไวรัสอีโบลาเหมือนในอดีตช่วง 1 ปีก่อนที่ไวรัสก่อตัวขึ้นในกินีและเซียร์ราลีโอน

ความเห็นข้างต้นของประธานกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนมีขึ้นหลังจากที่เซียร์ราลีโอนกำหนดใช้เคอร์ฟิวช่วงกลางวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์บริเวณพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสอีโบลาล่าสุด ซึ่งเป็นความพยายามทางหนึ่งในการควบคุมไม่ให้ไวรัสมรณะซึ่งคร่าชีวิตประชากรในประเทศราว 3,900 คนกลับมาระบาดอีก ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาไลบีเรีย ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเพิ่งจะประกาศปลอดจากไวรัสอีโบลาแสดงความหวังว่าเซียร์ราลีโอนและกินีจะสามารถตามรอยไลบีเรียในการประกาศปลอดไวรัสดังกล่าว ความเห็นครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่กินีจัดการประชุมในหัวข้อการต่อสู้กับการระบาดของไวัสอีโบลา .-สำนักข่าวไทย

กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนเตือนเจ้าหน้าที่ทำผิดซ้ำรอยในการต่อสู้กับไวรัสอีโบลา | เว็บไซต์สำน

 

จีนจะยกเลิกระเบียบการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศให้แก่ชาวไต้หวัน
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 11:32 AM



ปักกิ่ง 14 มิ.ย.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า จีนวางแผนที่จะยกเลิกระเบียบการขออนุญาตเข้าประเทศสำหรับชาวไต้หวันที่จะเดินทางไปยังจีนแผ่นดินไหญ่

ซินหัวรายงานอ้างคำกล่าวของนายหยู เจิ้งเชง ประธานคณะกรรมการแห่งชาติของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองประชาชนจีน ที่กล่าวในระหว่างการประชุมประจำปีระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นแรงจูงใจให้แก่ไต้หวันก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในไต้หวันในเดือนมกราคม เพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้นสำหรับชาวไต้หวันหลายแสนคนที่เดินทางไปยังจีนแผ่นดินไหญ่เพื่อทำงานหรือท่องเที่ยวในทุก ๆ ปี

ไต้หวันและจีนมีการปกครองแยกออกจากกันนับตั้งแต่พรรคคอมมิวนิสต์เอาชนะพรรคชาตินิยมและเข้าบริหารจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2492 ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากในช่วงที่ นายหม่า อิงจิ่ว ซึ่งมีท่าทีเป็นมิตรกับจีน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2551 และได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในปี 2555.-สำนักข่าวไทย

จีนจะยกเลิกระเบียบการขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศให้แก่ชาวไต้หวัน | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

กลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเตรียมเดินขบวนตามท้องถนน
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 11:51 AM



ฮ่องกง 14 มิ.ย. – กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเตรียมชุมนุมกันตามท้องถนนเพื่อเดินขบวนวันนี้ โดยมีเป้าหมายเรียกร้องให้ทางการฮ่องกงผ่านร่างกฎหมายที่จะเปิดทางให้ชาวฮ่องกงมีสิทธิออกเสียงเลือกผู้นำเอง
การเดินขบวนในครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการลงคะแนนเสียงสนับสนุนการปฎิรูปแนวทางการบริหารปกครองเขตปกครองพิเศษฮ่องกง โดยหนึ่งในนั้นรวมถึงการให้ชาวฮ่องกงมีสิทธิลงคะแนนเลือกผู้นำซึ่งเป็นประเด็นที่นำไปสู่การประท้วงยึดถนนครั้งใหญ่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วหลังรัฐบาลจีนแสดงความเห็นระบุว่าการเลือกตั้งผู้นำครั้งแรกของเกาะฮ่องกงที่มีกำหนดในปี 2560 สมควรยกเลิกไป
สภานิติบัญญัติฮ่องกงจะพิจารณาไตร่ตรองประเด็นดังกล่าวในวันพุธที่จะถึงนี้ ก่อนลงคะแนนในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ปัจจุบันผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการ 1,200 คน ซึ่งฝักใฝ่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับการชุมนุมเดินขบวนครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของการเรียกร้องประชาธิปไตยในคราวนี้ โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า จะเดินขบวนชุมนุมทุกวันจนกระทั่งถึงวันที่สภานิติบัญญัติโหวตลงคะแนนเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว .- สำนักข่าวไทย

กลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงเตรียมเดินขบวนตามท้องถนน | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

คอมพิวเตอร์ในสำนักงานนายกรัฐมนตรีเยอรมนีถูกโจมตีทางไซเบอร์
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/06/14 10:59 AM



เบอร์ลิน 14 มิ.ย. – หนังสือพิมพ์บิลด์ สื่อเยอรมนีรายงานวันนี้ว่า คอมพิวเตอร์ในสำนักงานนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีถูกโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีที่พุ่งเป้าสภาผู้แทนราษฎรช่วงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา
หนังสือพิมพ์เยอรมนีรายงานโดยไม่ได้อ้างอิงถึงแหล่งข่าวว่า เหตุโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้กินวงกว้างและมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น อีกทั้งสภาก็ประสบปัญหาในการควบคุมจำกัดการโจมตีที่เกิดขึ้น คอมพิวเตอร์ที่สำนักงานในสภาเยอรมนีของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล เป็นหนึ่งในเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่ถูกโจมตี โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในเครื่องแรกๆที่พบว่าโดนโจมตีโดยไวรัสโทรจันฮอร์ส

สื่อรายงานว่าทางการพบการโจมตีล่าสุดเมื่อวันศุกร์ โดยพบซอฟท์แวร์โทรจันฮอร์ส ในเครื่องคอมพิวเตอร์ 5 เครื่องของสภาเยอรมนี โฆษกของพรรคซีดียูพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิลกล่าวว่า เขาไม่สามารถยืนยันหรือปฎิเสธรายงานดังกล่าว และยังไม่แน่ชัดว่าการโจมตีทางระบบไซเบอร์เป็นการกระทำของฝ่ายใด .-สำนักข่าวไทย

คอมพิวเตอร์ในสำนักงานนายกรัฐมนตรีเยอรมนีถูกโจมตีทางไซเบอร์ | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ข่าวน่าจะผิด คงจะไปเติม methanol มากกว่า เพราะ ethanol กินไม่ตายครับ

 

ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร



ดาวเนปจูนวิกลคติหยุดนิ่งเพื่อที่จะพักรถอยหลัง ๑๒ มิย.๕๘
ดาวอังคารดับ ๑๔ มิย.๕๘
ปฏิทินโหรฯประจำปีตามแนวทางท่าน อ.เทพย์ ระบุไว้ว่า "ดาวเนปจูนวิกลคติพักร (ถอยหลัง) ที่ ๑๕ องศา ๔๔ ลิปดา ในราศีกุมภ์" โดยดาวเนปจูนจะวิกลคติหยุดนิ่งก่อนที่จะโคจรถอยหลังในช่วงประมาณวันที่ ๖-๑๙ มิย. ๕๘ นี้
และ "ดาวอังคารจะโคจรมากุมกับดาวอาทิตย์ และจะดับสนิทในวันที่ ๑๔ มิย.๕๙ ที่ ๒๙ องศาเศษ ในราศีพฤษภ"
ดาวเนปจูนแทนได้กับน้ำ น้ำมัน สารเคมี ฯลฯ ดังนั้นช่วงเดือนนี้มีโอกาสที่จะเกิดภัยธรรมชาติเกี่ยวกับพายุฝน วาตภัยหรืออุทกภัยในทั่วโลกได้สูงมาก
ดาวอังคารนั้นแทนได้กับการทหาร อาวุธ ของมีคม ฯลฯ ดังนั้นในช่วงเดือนนี้มีโอกาสที่จะเกิดเหตุสู้รบ การรอบทำร้าย การจู่โจมในทางทหารได้มากเช่นกัน
ปรากฏการณ์ทางดวงดาวทั้งสอง "ไม่ได้" ไปต้องดาวเดิมหรือจุดศูนย์กลางภพใดๆ ของดวงเมือง ดังนั้นจึงมีผลกับดวงชาตาบ้านเมืองน้อยมาก
แต่อย่างไรก็ตาม ท่านที่มีลัคนา,ดาวหรือจุดศูนย์กลางภพในตำแหน่งดาววิกลคติหรือดาวดับดังกล่าว ให้พึงระมัดระวังอุปัทวอันตรายตามความหมายของดาวดังกล่าวให้มาก
ตำแหน่งดาวเนปจูนวิกลคติดังกล่าวได้ไปต้องลัคนาของบุคคลสำคัญของบ้านเมืองด้วย ซึ่งน่าเป็นห่วงอยู่เช่นกัน
เราท่านทั้งหลายพึงสวดมนต์ ภาวนา แผ่เมตตาบารมีกันด้วยเถิด กุศลผลบุญคงจะยังให้ท่านและบ้านเมืองดำรงคงอยู่อย่างร่มเย็นเป็นปกติสุขได้
admin ดิลก แสงอุทัย

 

ปอกเปลือก ทรราช
ปูตินเยือนอิตาลีเจาะยาง G7



------------
วันนี้จะขอเล่าข่าวย้อนหลังซัก 2-3 ข่าวซึ่งคิดว่าน่าสนใจ โดยเฉพาะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจาก G7 ประชุมกันที่เยอรมันนีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวแรกก็คือสื่อฯฝรั่งเศสบอกว่า "โชดดีแล้วที่รัสเซียไม่ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ G7" (อ้าว! ทำไมสื่อฯฝรั่งเศสพูดไม่ไว้หน้าสหรัฐฯและฝรั่งเศสอย่างนั้นหละ ทั้งๆที่ฝรั่งเศสก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่ม G7 ด้วยนะ) นาย Nicolas Bonnal แห่งสำนักข่าว Boulevard Voltaire กล่าวว่าเขาเชื่อว่ารัสเซียโชคดีแล้วที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ในปีนี้ เพราะ G7 ก็เปรียบเหมือนกลุ่มของบริษัทงี่เง่าเสแสร้งปากว่าตาขยิบ (the group to the company of hypocritical idiots)
นาย Nicolas Bonnal กล่าวต่ออีกว่า "รัสเซียไม่ต้องรู้สึกละอาย (หรือเสียหน้า) ที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุมกับ G7 ในปีนี้ กลุ่มของชาติที่ร่ำรวยที่สุดในตะวันตกรวมตัวกันที่เยอรมัน โดยปราศจากรัสเซียและจีน แต่มีอิตาลีและฝูงชนผู้ลี้ภัยจากลิเบีย (เข้าร่วมด้วย)"
นาย Nicolas Bonnal กล่าวว่า "ประเทศเอธิโอเปียได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานนี้ด้วย แต่ไม่ใช่รัสเซีย รัสเซียถูกลงโทษ (โดยสหรัฐฯและพวก) เนื่องจากไม่ยอมเต้นตามจังหวะของกรุงวอชิงตัน กรุงมอสโคว์ถูกต้อนเข้ามุมด้วยข้อกล่าวหาว่ารุกรานยูเครน และขาดความเคารพในสิทธิมนุษยชน ในขณะเดียวกันสหรัฐฯก็จับคนติดคุกถึง 2.2 ล้านคน อ่าวกวนตานาโมเอย กฎหมายดักฟัง Patriot Act เอย เหยื่อความโหดร้ายของตำรวจมีถึง 1,200 รายเอย และไหนจะประชาชนถูกฆ่าตายเป็นล้านจากสงครามแก๊งยาเสพติดอีก..." (แค่นี้พอหละนะ... ที่เหลือก็ล้วนแต่เป็นเรื่องเลวร้ายต่างๆที่สหรัฐฯไปก่อสงครามในต่างแดนซึ่งคล้ายกับที่เคยเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆก่อนหน้านี้ งานนี้จึงกลายเป็นว่าสื่อฯฝั่งเศสด่าสหรัฐฯซะงั้น)
ข่าวที่สอง ยกระดับความมันส์ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง หลังจาก G7 ประชุมเสร็จ ปูตินก็เดินทางไปเที่ยวอิตาลีซะหน่อย สหรัฐฯจับตาดูปูตินในอิตาลีอย่างเขม็ง นาย Matteo Renzi นายกฯของอิตาลีซึ่งเข้าร่วมประชุม G7 ด้วย แต่พอประชุมเสร็จเขาก็มีนัดคุยกันกับปูตินต่อที่มิลาน มีหรือที่ Matteo Renzi จะไม่บอกปูตินว่าพวก G7 เขาคุยอะไรกันบ้าง เห็นภาพที่ผู้นำรัสเซียและผู้นำอิตาลียิ้มใส่กันแล้วบอกได้เลยว่ากรุงวอชิงตันคงรับไม่ได้แน่ๆ
Renzi พูดตอนหนึ่งในระหว่างการพบปะกับปูตินว่า "พวกเราเจรจากันอย่างออกรสชาติ และแลกเปลี่ยนมุมมองในหลายๆเรื่องด้วยกัน พวกเราถกกันถึงแนวทางของ UNSC ในหลายประเด็น... และพวกเราก็พูดตลกหยอกล้อกันในระหว่างการประชุมว่าพวกเราต้องการการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากฝั่งรัสเซียในการแก้ไขปัญหาลิเบีย หากรัสเซียไม่ให้การสนับสนุนพวกเรา งั้นพวกเราก็จะไม่ไปร่วมทานอาหารเย็นอย่างเป็นทางการด้วยกัน" (แล้วไปไหม? ไปดิ ฮ่าๆๆ ก็แปลว่า... นั่นแหละ)
ปูตินได้พูดตอนหนึ่งว่า "สำหรับผมแล้วซึ่งดูเหมือนว่ามีบางเหตุผลอยู่ภายในตัวมันเอง เนื่องจากว่าพวกเราได้แสดงบางอย่างให้เห็นแล้วว่าเป็นอีกมุมมองทางเลือกหนึ่ง แต่เหล่าเพื่อนๆหุ้นส่วนของพวกเราได้ตัดสินใจแล้วว่า พวกเขาไม่ต้องการมุมมองทางเลือก (ใหม่) ที่ว่านั้น ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจของพวกเขา แต่กลุ่มนี้ไม่ใช่องค์กร (ด้านเศรษฐกิจ) เป็นเพียงกลุ่มของคนรักงานอดิเรกเท่านั้น เราหวังว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในรูปแบบนั้น (ของพวกเขา)" (จะบอกว่าปูตินเย้ยอเมริกาก็คงไม่ผิด เพราะมองดูแล้วไม่เห็นมีอะไรเป็นสาระสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลกโดยส่วนรวมจากการประชุมของ G7 ในครั้งนี้เลย นอกจากสหรัฐฯออกมาเรียกร้องให้ G7 ทำการแซงชั่นรัสเซียต่อไปเท่านั้นเอง ซึ่งก็คือกลุ่มเดิมที่เคยแซงชั่นรัสเซียนั่นแหละ เพียงแต่เปลี่ยนหัวโขนใหม่ งานนี้ปูตินมองเกมทะลุตั้งแต่แรกแล้ว)
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านาย Silvio Berlusconi สมาชิกรัฐสภาของอิตาลีจากพรรค Forza Italia ได้ออกมากล่าวว่า มาตรการแซงชั่นรัสเซียที่มีมาตั้งแต่ปี 2014 นั้นถือว่าไม่ยุติธรรม ไม่สร้างสรรค์ และเป็นอันตราย และยังได้เรียกร้องให้รัฐสภาอิตาลียกเลิกการแซงชั่นและปรัชญากระหายสงครามที่พวกเขาเป็นตัวแทนด้วย
การที่ปูตินไปเยือนอิตาลีในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปเที่ยวงาน Milan Expo-2015 เท่านั้น และการที่ Silvio Berlusconi ออกมาพูดอย่างนี้ก็ไม่ใช่แต่เพียงพูดเพื่อเอาใจปูตินเท่านั้น แต่เขายังได้เสนอร่างกฎหมายทางออกจากการแซงชั่นต่อต้านรัสเซียเข้าสภาฯด้วย
นอกจากปูตินจะเข้าพบกับผู้นำอิตาลี ซึ่งยินดีกระซิบบอกปูตินว่าในที่ประชุม G7 เขาพูดอะไรกันบ้างและวางแผนอย่างไรบ้างแล้ว ปูตินยังได้เข้าพบกับโป๊ปฟรานซิสที่นครรัฐวาติกันด้วย นี่ก็สำคัญเช่นกัน ก่อนที่ปูตินจะเดินทางเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปานั้น ทางกรุงวอชิงตันก็ส่งนาย Kenneth Hackett ทูตประจำวาติกันออกมา (แทรกแซงกิจการภายใน) เล็กเชอร์โป๊ปว่า "วาติกันอาจจะกล่าวแสดงความเป็นกังวลได้มากกว่าเกี่ยวกับเรื่องการผนวกดินแดน"
พูดง่ายๆก็คือสหรัฐฯต้องการและคิดว่าสามารถบีบวาติกันให้เพิ่มการกดดันต่อรัสเซียกรณีไคร์เมียหละสิ สงสัยว่าสหรัฐฯคงจะลืมไปแล้วหละมั๊งว่าโป๊ปฟรานซิสเป็นคนอาร์เจนตินา และเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาผู้นำอาร์เจนติน่าพึ่งจะเดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือและความร่วมมือกับรัสเซียในหลายๆด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจการลงทุน การค้าขาย และที่สำคัญอาร์เจนตินาขอให้รัสเซียช่วยออกหน้าในเวทีนานาชาติเกี่ยวกับปัญหาข้อขัดแย้งเหนือหมู่เกาะ Falkland/Malvinas Islands ซึ่งกำลังมีปัญหาอยู่กับอังกฤษในเวลานี้ ความสามัคคีของชาติลาตินอเมริกานั้นเข้มแข็งมาก เมื่อประเทศหนึ่งถูกสหรัฐฯรังแกเช่นกรณีของเวเนซูเอล่า สมาชิกในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาทั้งหมดรวมตัวกันต่อต้านและประณามสหรัฐฯพร้อมกัน จนสหรัฐฯต้องถอยจากเกมพยายามสร้างสนามรบแห่งใหม่ในเวเนซูเอล่าไปเลย
โป๊ปเอ่ยกับปูตินว่า "วลาดิมีร์ ทางกรุงวอชิงตันเขาต้องให้หลวงพ่อเทศนาโปรดเธอหนะ เธอจะว่าอย่างไรหรือเปล่า?" ปูตินก็เอ่ยกับโป๊ปว่า "หลวงพี่... เอ่อ… หลวงพ่อครับ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาลูกสาวสุดเลิฟชาวอาร์เจนตินาของหลวงพ่อพึ่งจะมาขอให้กระผมช่วยเหลือเธอในการทวงหมู่เกาะมัลวีนัสคืนจากอังกฤษเองนะครับ ซึ่งกระผมก็ได้รับปากไปแล้วด้วย หลวงพ่อคิดเห็นเช่นไรครับ? สหรัฐฯเข้าข้างอังกฤษนะครับหลวงพ่อ" โป๊ป "อึ่ม… อึ่ม… อึ่ม… ลูกเล่นเอาหลวงเครียดไปด้วยเลยนะนี่" ปูตินเห็นสีหน้าของโป๊ปไม่ค่อยจะผ่อนคลายสักเท่าไรก็เลยชวนโป๊ปคุยเรื่องฟุตบอล "ในการแข่งขันฟุตบอล World Cup 2018 ที่จะถึงนี้หลวงพ่อจะเชียร์ทีมชาติอาร์เจนติน่าหรือเชียร์ทีมชาติอังกฤษกับสหรัฐฯหรืออิตาลีดีครับหลวงพ่อ?" (อันนี้แอ็ดมินแต่งเล่นๆนะครับ)
The Eyes
15/06/2558
----------
Russia is Lucky Not to Be Part of G7 – French Media / Sputnik International
Putin's Visit to Italy Gives Worried Obama Food for Thought / Sputnik International
In Italy, Putin Sees Western Policy Backfire / Sputnik International
Putin's Visit to Italy Exposes US Allies' Disunity – Italian Analyst / Sputnik International
Berlusconi: Anti-Russian Sanctions 'Unjust, Counterproductive, Harmful' / Sputnik International
US attempt to ‘lecture the Pope’ before Putin meeting a ‘big responsibility’ to take – Kremlin — RT News