ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประหลาดใจ! ออง ซาน ซูจี เยือนปักกิ่ง หารือผู้นำจีน
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 มิ.ย. 2558 13:29

    [​IMG]

    สื่อตะวันตกเซอร์ไพรซ์...ออง ซาน ซูจี วีรสตรีนักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา เดินทางเยือนจีน พบปะหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกฯหลี่ เค่อเฉียงถึงกรุงปักกิ่ง นักข่าวบีบีซีชี้ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน คงไม่มีใครคาดคิด นางซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพจะไปเยือนชาติคอมมิวนิสต์จีน

    สำนักข่าวบีบีซี รายงานเมื่อ 10 มิ.ย.58 ว่า นางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านคนสำคัญของเมียนมา ได้เดินทางเยือนจีนในวันพุธนี้ (10 มิ.ย.) ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เย็นชาต่อกันช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากกรณีกองทัพเมียนมามีการสู้รบกับกลุ่มกบฏโกก้าง บริเวณชายแดนเมียนมาติดกับจีนด้านมณฑลยูนนาน และยังได้ส่งเครื่องบินรบทิ้งระเบิดเป็นเหตุให้ชาวจีนในมณฑลยูนนานพลอยเสียชีวิตไปด้วยอย่างน้อย 5 ศพ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

    บีบีซี ระบุว่า การเดินทางไปเยือนจีนของนางซูจี วีรสตรีประชาธิปไตยในพม่า จะพบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ในกรุงปักกิ่ง เพียงแต่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นหารือระหว่างนางซูจีกับผู้นำจีน ขณะที่รัฐบาลเมียนมาก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการเดินทางไปเยือนจีนครั้งนี้ของนางซูจีรวมทั้งไม่ได้เผยว่านางไปจีนเนื่องจากได้รับคำเชิญจากสื่อมวลชนภาคเอกชนหรือสื่อของรัฐในประเทศจีน

    อย่างไรก็ตาม ด้านหยูเหวิน หวู ผู้สื่อข่าวบีบีซีในจีน ชี้ถึงการไปเยือนจีนของนางซูจีว่า คงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครจินตนาการเลยว่าจะเกิดขึ้นหากย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน เนื่องจากสถานภาพของออง ซาน ซูจี ในสายตาชาวโลกคือนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในเมียนมา จนทำให้นางได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ขณะที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน ได้มองรางวัลโนเบลในฐานะเป็นรางวัลของชาติตะวันตกที่เป็นปรปักษ์กัน โดยเฉพาะนับตั้งแต่นายหลิว เสี่ยวโป๋ นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน คว้ารางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม เมื่อปี 2554

    ประหลาดใจ! ออง ซาน ซูจี เยือนปักกิ่ง หารือผู้นำจีน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด.ญ.กตัญญู ดูแลพ่อป่วย-ย่าอัมพาต ขอข้าววัดประทังชีวิต
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 มิ.ย. 2558 19:49

    [​IMG]

    วอนผู้ใจบุญ ให้การช่วยเหลือ

    [​IMG]

    พบอีกเด็กกตัญญู เป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่สุโขทัย ช่วงโรงเรียนพักเที่ยง ต้องขี่จักรยานไปขอข้าววัด กลับไปป้อนพ่อที่ป่วย และย่าที่เป็นอัมพาตที่บ้านพัก บอกต้องประหยัดเงิน เพื่อเก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาล อนาคตอยากเป็นหมอ จะได้มารักษาพ่อ ย่า และชาวบ้านคนอื่นๆ...

    วันที่ 10 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่โรงเรียนวัดบ้านคลอง ม.2 ต.น้ำขุม อ.ศรีนคร มีนักเรียนชั้น ป.5 วัย 11 ปี ต้องปั่นจักรยานสองล้อจากโรงเรียน กลับไปที่บ้านระยะทางเกือบ 2 กม.ในช่วงพักเที่ยงของทุกวัน เพื่อไปดูแลและป้อนข้าวป้อนน้ำให้แก่พ่อซึ่งป่วยหนัก และย่าซึ่งเป็นอัมพาต

    [​IMG]

    หลังจากป้อนข้าวพ่อแล้ว ก็ต้องมาป้อนข้าวย่าต่อ ก่อนที่จะกลับไปเรียน

    เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ พบ ด.ญ.ปิยะภัทร หรือ น้องดักแด้ จันทร์สุข อายุ 11 ปี กำลังนั่งเรียนหนังสืออยู่กับเพื่อนๆ ภายในห้องเรียนชั้นประถมปีที่ 5 และทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งพักกลางวัน น้องดักแด้ จะลงมาจากอาคารเรียน รีบปั่นจักรยานสองล้อไปที่วัดบ้านคลองสามัคคีธรรม ซึ่งอยู่ติดกับโรงเรียน เพื่อนำกับข้าวซึ่งเหลือจากพระฉัน กลับไปให้ผู้เป็นพ่อและย่า กินเป็นอาหารมื้อกลางวัน

    โดยที่บ้านเลขที่ 52/2 ม.5 ต.น้ำขุม อ.ศรีนคร ซึ่งปลูกเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบ นายดอน จันทร์สุข อายุ 53 ปี พ่อของน้องดักแด้ ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคไต และตับไม่ทำงาน จนท้องบวมโตอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งสายตาก็เริ่มพร่ามัวจนแทบมองไม่เห็น นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนที่นอนเก่า สภาพร่างกายผอมจนหนังติดกระดูก นอกจากนี้ยังพบ นางทองดี พานทอง อายุ 72 ปี ย่าของน้องดักแด้ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ นอนอยู่ใต้ถุนบ้านญาติ ซึ่งปลูกอยู่ติดกัน


    น้องดักแด้ ต้องปั่นจักรยานกลับมาบ้าน ช่วงโรงเรียนพักเที่ยงเป็นประจำทุกวัน

    ทันทีที่ปั่นจักรยานกลับมาถึงบ้าน น้องดักแด้ ก็ตรงเข้าไปจัดกับข้าวที่ได้มา พร้อมนำข้าวสวยที่หุงไว้แต่เช้า มาป้อนให้กับนายดอน ผู้เป็นพ่อทันที เมื่ออิ่มแล้ว ก็จะเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ จากนั้นก็จะไปป้อนข้าว ป้อนน้ำ หรือนมกล่องให้กับผู้เป็นย่าด้วย ซึ่งจะทำเช่นนี้ทุกวัน ช่วงที่ต้องไปโรงเรียน

    ด.ญ.ปิยะภัทร เล่าด้วยเสียงสั่นเครือว่า ครอบครัวตนมีด้วยกัน 4 คน คือ ตน นายดอนผู้เป็นพ่อ แม่ และพี่สาว ซึ่งแม่และพี่สาวไปทำงานก่อสร้างอยู่ที่ กทม. โดยจะส่งเงินมาให้เดือนละ 1,000-2,000 บาท และก็มีรายได้จากเบี้ยผู้พิการ และเบี้ยผู้สูงอายุของย่า เพียงเดือนละ 1,500 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ค่าหมอ จึงต้องหาทางประหยัด ด้วยการไปขอกับข้าวที่เหลือจากพระฉันที่วัด นำกลับมาเป็นอาหารมื้อกลางวันให้กับพ่อและย่า ส่วนความหวังนั้น คือ อยากเรียนหมอ เพื่อที่จะได้นำความรู้กลับมารักษาชาวบ้าน รวมทั้งอาการของพ่อและย่า ให้หายป่วยด้วย


    ด้าน นายดำรง คุ้มพาล ผอ.โรงเรียนวัดบ้านคลอง กล่าวว่า น้องดักแด้ เป็นเด็กขยัน มีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี และทางโรงเรียนได้ให้ความช่วยเหลือมาตลอด ขณะนี้ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้ง พมจ.สุโขทัย เพื่อขอรับการช่วยเหลือแล้ว เนื่องจากเด็กมีความประพฤติดี เรียบร้อย และที่สำคัญคือมีความกตัญญูต่อบุพการี หากท่านใดมีจิตเมตตา ต้องการช่วยเหลือครอบครัวของน้องดักแด้ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถบริจาคได้ที่ บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ชื่อ ด.ญ.ปิยะภัทร จันทร์สุข ธนาคารออมสิน สาขาศรีนคร เลขที่บัญชี 020120976293.

    ด.ญ.กตัญญู ดูแลพ่อป่วย-ย่าอัมพาต ขอข้าววัดประทังชีวิต - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เมื่อซิซีหันมาสนิทกับปูตินมากขึ้น บางคนไม่พอใจ จะเกิดอะไรขึ้นกับอียิปต์?

    [​IMG]

    -----------
    วันนี้มีข่าวการก่อการร้ายในอียิปต์ จึงลองนึกย้อนไปว่าเมื่อเร็วๆนี้เหตุการณ์ความเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้นในอียิปต์ที่อาจจะเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกันก็ได้ จึงเอาข่าวเมื่อไม่นานมานี้มาเล่าให้ฟัง เดิมทีกะว่าจะเล่าให้ฟังตั้งแต่วันก่อนนี้แล้วแต่ยังไม่มีโอกาส ประจวบกับเกิดเหตุขึ้นที่อียิปต์จึงขอเล่าข่าวย้อนหลังดังนี้
    - 6 มิ.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news และ RT news รายงานว่า กองเรือรบของรัสเซียจากกองเรือประจำทะเลดำ (Black Sea Fleet) ที่ประจำการถาวรอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้เข้าเทียบท่าเรือ Alexandria ของอียิปต์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองทัพเรือของรัสเซียในชุดนี้ประกอบด้วยเรือลาดตระเวนติดตั้งขีปนาวุธ Moskva (Moskva missile cruiser) เรือสนับสนุนขีปนาวุธ Samum (Samum missile hovercraft) เรือบรรทุกน้ำมันและเรือลากจูงในทะเล (sea-going tugboat)
    - 6 มิ.ย.58 วันเดียวกันนี้ก็มีรายงานข่าวจาก Sputnik news ว่ากองทัพเรือรัสเซียกับอียิปต์จัดซ้อมรบทางทะเลร่วมกันเป็นครั้งแรก ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างวันที่ 6-14 มิถุนายนนี้ โดยอ้างอิงรายงานจากโฆษกกลาโหมของรัสเซีย
    - 8 มิ.ย.58 กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน (รับจ้าง) หรือที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า HRW กล่าวหาว่ากองกำลังรักษาความมั่นคงของอียิปต์ละเมิดสิทธิมนุษยชนตั้งแต่ปธน. Abdel Fattah al-Sisi เข้าดำรงค์ตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีของอียิปต์เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว (ซิซีทำการปฏิวัติยึดอำนาจจากอดีตปธน. Mohamed Morsi เนื่องจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2013 จากนั้นก็จับ Morsi เข้าคุกดำเนินคดีทางกฎหมายหลายคดี จนบ้านเมืองสงบ และจัดให้มีการเลือกตั้งปธน.ของอียิปต์ขึ้นมาใหม่ในวันที่ 8 มิถุนายน 2014 และซิซีชนะเลือกตั้งจึงได้เป็นปธน.ของอียิปต์มาจนถึงทุกวันนี้)
    พวก HRW ออกมากล่าวหาว่าไม่มีการดำเนินคดีกับกองกำลังรักษาความมั่นคงของอียิปต์ที่ได้สังหารกลุ่มผู้ประท้วงก่อเหตุวุ่นวายติดอาวุธอย่างน้อย 900 คนในการยึดอำนาจจาก Mohamed Morsi ซึ่งพวก HRW รับจ้างเหล่านี้บอกว่าเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง (แต่ไม่บอกว่า Mohamed Morsi สั่งสังหารประชาชนฝ่ายตรงข้ามไปแล้วเท่าไร)
    - 10 มิ.ย.58 ตำรวจอียิปต์จับกุมนาย Ahmed Ali พนักงานของสถานทูตสหรัฐฯในกรุงไคโร ซึ่งเป็นชาวอียิปต์ในข้อหาสงสัยมีส่วนร่วมในการก่อการร้าย ตามรายงานข่าวจากอียิปต์บอกว่าผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนร่วมในกากรโจมตีด้วยการก่อการร้ายถึง 13 ครั้ง และเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มติดอาวุธ Helwan Brigades รายงานข่าวยังบอกอีกว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาตำรวจอียิปต์ได้จับกุมนาย Ahmed Amin Suleyman ชาวอียิปต์ซึ่งเป็นพนักงานของสถานทูตสหรัฐฯเช่นกัน (กรรม!)
    - 10 มิ.ย.58 วันนี้มีรายงานข่าวว่ากลุ่มผู้ก่อการร้าย (สำนักข่าวบางแห่งบอกว่าเป็นพวกไอซิส แต่ยังไม่มีการยืนยันจากทางการของอียิปต์) ได้ใช้ระเบิดคาร์บอมพร้อมกับระเบิดตัวเองตามไปด้วยในสถานที่แห่งหนึ่งใกล้ Karnak Temple ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเมือง Luxor ทางตอนใต้ของอียิปต์
    เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่... เห็นหรือยังว่าใครเป็นผู้เลี้ยงดูผู้ก่อการร้ายตัวจริง ใครเป็นผู้ให้การสนับสนุน และใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ก่อการร้ายในอียิปต์ หลังจากที่ระดับหัวหน้าผู้ก่อการร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตสหรัฐฯถูกตำรวจอียิปต์จับกุม ก็เกิดขึ้นทันที แสดงว่าทางการของอียิปต์ภายใต้การนำของซิซีจับตาดูพฤติกรรมของบางคนมาได้สักพักหนึ่งแล้ว และที่สำคัญก็คือทำไมต้องบังเอิญมาเกิดเหตุตอนที่อียิปต์กับรัสเซียหันมาจับมือกันมากขึ้นด้วย? สถานทูตสหรัฐฯยังหุบปากเงียบกริ๊บเกี่ยวกับเรื่องนี้
    The Eyes
    10/06/2558
    ----------
    Suicide car bomber attack near Luxor temple tourist site in Egypt — RT News
    Suicide Bomber Attacks Tourist Site in Egypt / Sputnik International
    Egyptian Police Arrest US Embassy Worker On Terror Charges / Sputnik International
    Egypt ISIL Affiliate Fires at Sinai Airport Used by UN Peacekeepers / Sputnik International
    HRW Slams Egypt’s President Al-Sisi Over ‘Flagrant’ Human Rights Abuses / Sputnik International
    First Ever Russian-Egyptian Naval Drills to Be Held in Mediterranean / Sputnik International
    Russian Naval Flotilla Visits Egypt Port / Sputnik International
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เพนตาก้อน : พวกเรา (สหรัฐฯ) ได้ส่งแบคทีเรียไลฟ์แอนแทร็กซ์ไปที่อังกฤษด้วย

    [​IMG]

    -----------
    ซวยหละสิพี่น้องเอ๋ย... ความจริงเริ่มโผล่ออกมาเรื่อยๆแล้ว ลองเช็กข่าวนี้จากสื่อฯกระแสหลักหลายสำนักมีการพาดหัวแบบเอียงและไม่เอียงดังนี้
    - RT news ของรัสเซีย : Pentagon: We sent live anthrax to UK lab (เพนตาก้อน : พวกเราได้ส่งเชื้อแอนแทร็กซ์ที่ยังมีชีวิตไปยังห้องแล็บในอังกฤษ)
    - The Guardian ของอังกฤษ : UK lab among recipients of live anthrax shipment from US defence department (ห้องทดลองในอังกฤษเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับแอนแทร็กซ์ที่ยังมีชีวิตอยู่จากการจัดส่งจากก.กลาโหมของสหรัฐ)
    - Reuters ของแคนาดา : Pentagon says British lab received live anthrax samples (เพนตากอนกล่าวว่า ห้องทดลองในอังกฤษได้รับตัวอย่างเชื้อแอนแทร็กซ์ที่ยังมีชีวิตอยู่)
    - Time ของสหรัฐฯ : Pentagon Adds U.K. to List of Countries Sent Live Anthrax (เพนตากอนเพิ่มอังกฤษลงในรายชื่อประเทศได้ส่งเชื้อแอนแทร็กซ์มีชีวิตไปให้)
    - BBC ของอังกฤษ : US may have sent live anthrax to UK lab (สหรัฐฯ "อาจจะ" ส่งเชื้อแอนแทร็กซ์ไปให้ห้องทดลองในอังกฤษ)
    เห็นความแตกต่างในการนำเสนอข่าวของสื่อฯเหล่านี้ไหม? โดยเฉพาะบีบีซี (ตัวดี) ทุกสำนักข่าวเขาพากันใช้ past tense ซึ่งบ่งบอกว่า มั่นใจ (100%) และได้เกิดขึ้นแล้ว แต่บีบีซีพยายามที่จะอุ้มสหรัฐฯโดยใช้ future perfect tense แทน (มั่นใจ 80-90 %) แสดงความหมายว่าอาจจะส่งไปหรืออาจจะไม่ได้ส่งไปก็ได้ อย่ากังวลไปว่างั้นเหอะ ถ้าเป็นข่าวด้านลบของสหรัฐฯและอังกฤษเอง พี่แกก็จะออกอาการอย่างนี้แหละ บ่อย…
    อ่านข่าวจาก RT news ของรัสเซียต่อดีกว่า รายงานข่าวบอกว่า บริษัทแห่งหนึ่งของอังกฤษไม่เอ่ยนาม ได้รับตลับตัวอย่างของแบกทีเรียแอนแทร็กซ์ในระดับที่ไม่ปลอดภัยตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งนำมาซึ่งการเปิดเผยข้อมูลว่าสหรัฐฯได้จัดส่งแบกทีเรียมรณะไปยังห้องทดลองต่างๆแล้วถึง 68 แห่ง - ข้อมูลจากกลาโหมของสหรัฐฯ (ก่อนหน้านี้มีรายงานบอกว่า 51 แห่ง 17 รัฐทั่วสหรัฐฯและอีก 3 ประเทศคือแคนาดา เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย โดยมีตัวอย่างที่ส่งออกไปทั้งหมดถึง 400 ชุด)
    แถลงการณ์จากสำนักบริหารสุขภาพและความปลอดภัยของอังกฤษ (UK Health and Safety Executive - HSE) กล่าวว่า "บริษัทได้แจ้งกับพวกเราว่า ได้ทำลายตัวอย่างไปไม่นานหลังจากที่มีการทดลอง" (ใช่… แล้วก็เก็บเชื้อใหม่ไว้แทนหละสิ)
    ในแถลงการณ์ของ HSE ยังกล่าวต่ออีกว่า "หากมีใครได้สัมผัสเชื้อในปี 2007 จะมีอาการแสดงให้เห็นได้โดยเร็ว ไม่มีรายงานความเจ็บป่วยด้านสุขภาพเช่นนั้นปรากฎให้เห็นในการทำงาน บนพื้นฐานนี้เราไม่เชื่อว่ามีความเสี่ยงใดๆต่อสุขภาพของประชาชนและสาธารณะอย่างต่อเนื่อง เรากำลังรอที่จะคุยกับกลาโหมของสหรัฐฯเพื่อให้เข้าใจว่าปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นในปี 2007 ได้อย่างไร และพวกเขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสถานการณ์เช่นนี้สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ในอนาคต"
    เพนตากอนของสหรัฐฯออกมากล่าวปลอบใจว่า "ไม่มีความเสี่ยง" (no risk) ต่อสถานที่สาธารณะทั่วไป แม้จากตัวอย่างเมื่อเร็วๆนี้ (อ่ะ… แสดงว่ายังทำการทดลองอย่างต่อเนื่องอยู่หละสิ?) และมีความเสี่ยงในระดับที่ต่ำมากสำหรับผู้ที่ทำงานในห้องแล็บ (จริงดิ๊? เมื่อเร็วๆนี้พึ่งจะมีข่าวเองว่าเจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯในเกาหลีใต้จำนวน 20 นายได้สัมผัสกับเชื้อแบกทีเรียแอนแทร็กซ์ที่ยังมีชีวิตอยู่และถูกกักบริเวณด้วยไม่ใช่รึ?)
    The Eyes
    10/06/2558
    ----------
    Pentagon: We sent live anthrax to UK lab — RT UK
    http://www.theguardian.com/…/uk-lab-among-recipients-live-a…
    http://www.reuters.com/…/us-usa-military-anthrax-idUSKBN0OP…
    Pentagon: U.S. Army sent live Anthrax sample to UK
    US may have sent live anthrax to UK lab - BBC News
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 10 มิ.ย.58 คุณรู้ไหมว่ารูปปั้นโมอายมีแหล่งรายละเอียด?
    รูปปั้นโมอาย ที่เกาะอีสเตอร์ ชิลี มีความลึกลับมานานหลายทศวรรษแล้ว ต่อมานักโบราณคดีได้ขุดค้นพบว่าหัวที่โผล่พ้นดินมาเหล่านี้ มีร่างกายเต็มรูปแกะสลักและมีรายละเอียดค่อนข้างสมบูรณ์ที่อยู่ใต้พื้นดิน
    ผู้เชี่ยวชาญ คาดว่ารูปปั้นแกะสลัก เป็นเกียรติและเป็นตัวแทนของบรรพบุรุษคนโต ของชาวพื้นเมืองโปลีนีเซีย...นี่กว่าจะเอาหินมาแกะสลัก และขนมาตั้งได้ขนาดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะนี่
    @ เสธ น้ำเงิน4
    สั่งซื้อหนังสือแฉ ความลับ คลิ๊กไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 10 มิ.ย.58 โอ้ววว..จับผู้บัญชาการก่อการร้ายใหญ่ ที่แท้มีสำนักงานตั้งอยู่ในสถานทูตอเมริกา
    วันก่อน รมต.ต่างประเทศมะกัน นัดเจอกับผู้บัญชาการ IS ที่ฝรั่งเศส เกิดเหตุคุยกันไม่รู้เรื่อง ยิงกันจนขาแตก แล้วออกข่าวลวงว่ารถจักรยานล้ม ป่านนี้ยังไม่กล้าออกมาสู้หน้าผู้คนเลย ต่อมาปลายเดือนที่ผ่านมา ตำรวจอียิปต์ ได้จับกุมนาย อัลเหม็ด อามีน ซูเลแมน เขาพนักงานของสถานทูตสหรัฐฯ ในข้อหาก่อการร้าย
    และหมาดๆ ล่าสุด ตำรวจอียิปต์ ก็จับกุมนายอัลเหม็ด อาลี ชาวอียิปต์ พนักงานของสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ทั้ง 2 คนถูกตั้งในข้อหา "มีส่วนร่วมในการโจมตีก่อการร้าย" ถึง 13 ครั้ง นายอัลเหม็ด อาลี ยังเป็นผู้บัญชาการของกลุ่มติดอาวุธ Helwan Brigades ในการหนุนหลังของอเมริกาอีกด้วย
    วันนี้กลุ่มก่อการร้าย IS ฮอลีวู๊ด ได้รับคำสั่งจากมือที่มองไม่เห็น ใช้ระเบิดคาร์บอม ในสถานที่แห่งหนึ่งใกล้ศาสสถานคานัค ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเมืองลุซอร์ ทางตอนใต้ของอียิปต์ ประจวบเหมาะกับพี่หมีปูติน ส่งเรือรบไปซ้อมรบร่วมกับอียิปต์พอดี
    ผู้หนุนหลังกลุ่มการร้ายในอียิปต์ ที่มีหัวหน้าผู้ก่อการร้ายมีฐานบัญชาการอยู่ในสถานทูตสหรัฐฯ นั่นเลย ใช้ทรัพยากร เครื่องไม้เครื่องมือ การติดต่อสื่อสาร ข่าวกรอง ของสถานทูตอเมริกาอีกต่างหาก งานนี้เมื่อความแตกว่าสถานทูตสหรัฐฯ คือ สำนักงานใหญ่กองบัญชาการกลุ่มก่อการร้ายในอียิปต์ ก็เลยออกอาการหุบปากเงียบ !!...
    โถ..หลายครั้งแล้วนะ ที่เผลอเรอจนถูกจับได้นะ "มือที่มองไม่เห็น"...เอ..รอฟังข่าวจากสื่อยิวไซออนิสต์ สำนักใหญ่ๆ อยู่น๊าาาา
    @ เสธ น้ำเงิน2
    สั่งซื้อหนังสือแฉ ความลับ คลิ๊กไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 10 มิ.ย.58 เหล้าปลอมฆาตรกรเงียบสังหารผู้ไม่รู้
    ขาโจ๋ คอเหล้า พ่อบ้านเมียเผลอ ที่ชอบดื่มเหล้าแบรนด์เนมที่ราคาถูกผิดปกติ จากร้านเหล้าหรือผับบาร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ต้องระมัดระวังเพราะมีการทำเหล้านอกญี่ห้อดังๆ มาลักลอบขายแบบผิดกฎหมาย
    ตำรวจ และสรรพสามิตได้ทลายแหล่งผิดเหล้าปลอมแล้วถึงกับอึ้ง เพราะเป็นการใช้แอลกฮอล์ 99.8 % มาเจือจาง ผสมทำเหล้าปลอมเอาดื้อๆ เลย จริงๆ แล้วเหล้าพวกนี้ต้องหมักบ่มสกัดแอลกฮอล์จากธัญพืช และถูกควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด
    ขืนเอาแอลกอฮอล์เข้มข้นสูงแบบนี้ไปผสมทำเหล้าปลอม คือ การฆ่าคนกินชัดๆ เพราะนอกจากจะเสี่ยงตาบอดแล้ว ยังไม่รู้ด้วยว่าเปอร์เซ็นต์แอลกฮอล์ที่ผสมปลอมนี้เข้มข้นเท่าไรกันแน่ กินแล้วอาจน็อคหมดสติเอาดื้อๆ และไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีไปเลย
    @ เสธ น้ำเงิน2
    สั่งซื้อหนังสือ แฉ ความลับ คลิ๊กไปที่ https://t.co/KxhM77h8oO
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "จีน : เริ่มออกโรงให้มีการเจรจาหยุดยิงในเยเมน = การแก้แค้นเอาคืนกับอเมริกาที่ยุ่งทะเลจีนใต้"
    ... จะสังเกตว่าเหตุการณ์ที่ฝ่ายอเมริกาเป็นฝ่ายรุกเช่นในซีเรีย อิรัก ที่มีตัวแทนหน้าม้าอย่าง ISIL หรือกบฎในซีเรีย อเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ ที่เป็นฝ่ายเดียวกันจะไม่โวยวายเลย แถมจะยิ่งรุกหนักเข้าไปอีกกะเด็ดหัวตระกูลอัล อัสสาดให้พ้นประเทศให้ได้ เพื่อเอานายหน้าหรือหน้าม้าที่อิงแอบยอมเป็นลูกทาส "อิสราเอล"แบบ อียิปต์ จอร์แดน หรือซาอุด ตั้งเป็นรัฐบาลแทน เพื่อความปลอดภัยของรัฐอิสราเอลที่มีไซออนนิสต์ปกครองอยู่
    ... แต่พอฝ่ายตัวเองเป็นฝ่ายถูกบุกบ้าง อเมริกา และลูกสมุนกลับโหวกเหวกโวยวายว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง (ซึ่งก็จริง ก็หนุนคนละฝาย ) แล้วโต้ตอบแบบโหดเหี้ยม มีคนตายกว่า 4-5,000 คนแล้วแค่ไม่กี่เดือน และไม่มีแววว่าประเทศคณะมนตรีความมั่นคงของ UN ทั้งห้าจะออกมาว่าซาอุดเลย ... จน "จีน" ที่ลึกๆคือพันธมิตรของ "อิหร่าน" ต้องออกโรงมาสดๆร้อนๆ ให้มีการเจรจาหยุดยิงกันโดยเร็ว
    ... ก่อนนี้นายสีจิ้นผิงก็เคยโทรศัพท์หากษัตริย์ซัลแมนของซาอุดว่าอยากให้มีการแก้ปัญหาเยเมนมาแล้วเมื่อเดือนเมษายนแต่ก็ไร้ผล เพราะซาอุดฟังอเมริกันลูกพี่คนเดียว
    ... น่าสังเกตว่าเป็นสิ่งที่เกิดไม่บ่อยที่จีนออกโรงยุ่งเรื่องในอาหรับต่อหน้าสื่อกระแสหลักแบบนี้ ดูกลายๆเหมือนจะออกโรงมาช่วยอิหร่าน(และฮูทิ)พันธมิตรแสนรักของจีน ที่กำลังถูกรุมจากฝ่ายอเมริกา ซาอุด อิสราเอล
    ... แปลว่าเรื่องของ "เยเมน" นี้คงจะยืดเยื้อแน่ๆ แต่ถ้าดูให้ลึกกว่านั้นอีกแง่หนึ่งเป็นการถ่วงอำนาจอเมริกาคืนบ้างของจีน หลังจากที่อเมริกาไปยุ่งกับเส้นทางเดินเรือทางทะเลจีนใต้ ที่เป็นหน้าบ้านของจีนในกรณีหมู่เกาะสแปรตลี่ย์ พาราเซลล์ คราวนี้จีนจึงมายุ่งเรื่องทางเดินเรือของอเมริกาบ้างเป็นการเอาคืน เหมิอนจะบอกว่าเอ็งยุ่งเรื่องของข้าได้ ข้าก็ยุ่งเรื่องของ(ซาอุด ลูกน้อง)เอ็ง ได้เช่นกัน
    .
    http://www.dailystar.com.lb/…/301368-china-pushes-again-for…
    ...
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "รัสเซีย : ประกาศเตรียมซ้อมรบกับ "จีน" ปีหน้าในทะเลจีนใต้ เพื่อรับมืออเมริกาและพวกพ้อง"
    ... รัสเซียโดยรัฐมนตรีกลาโหม นายอนาโตลี่ แอนโทปอพ บอกที่สิงคโปร์เมื่อวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่าจะมีการซ้อมรบดังกล่าวกับพันธมิตรรวมทั้ง "จีน" ด้วย โดยจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมปี 2016 ในบริเวณทะเลจีนใต้
    ... โดยมีจุดประสงค์เพื่อ "ต่อต้านการก่อการร้าย" และเพื่อความมั่นคงทางทะเลในดินแดนย่านนี้ และบอกชัดถ้อยชัดคำด้วยว่า "อเมริกา" เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่มีเสถียรภาพดังกล่าว เพราะว่าอเมริกามีนโยบายมุ่งหมายในการสกัดกั้นและควบคุมอิทธิพลของ "จีนและรัสเซีย" ไม่ให้แพร่หลายออกไปสู่ประเทศอื่นรอบๆ ในย่านนี้ตลอดมา
    ... โดยรัสเซียได้กังวลต่อการสร้างระบบป้องกันจรวดของอเมริกาที่ติดตั้งไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ที่เป็นการขัดขวางความมีเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ไปทั่วโลก ( ปั่นป่วนให้แตกแยกไปทั่วโลก ) รวมทั้งเอเชียแปซิฟิก ทะเลจีนใต้
    ... โดยเขาได้บอกอีกว่า อเมริกานั้นไปแทรกแซงเรื่องประเทศอื่นๆไปทั่ว ซึ่งสิ่งนี้เองที่รัสเซียกังวลใจ ว่าเป็นเหมือน "โรคระบาด" ที่กำลังยุแยงให้เกิดการปฏิวัติและกวาดซัดประเทศในย่านอาหรับไปมากมาย และโรคร้ายนี้ยังได้ลามไปทั่วยุโรปเช่นกัน โดยมีการชักใยจากนอกประเทศ
    ... เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง "อเมริกา" เพิ่งประกาศว่าจะร่วมซ้อมรบกับ "ญี่ปุ่น" และ "ออสเตรเลีย" โดยลึกๆแล้วต้องการกดดัน "จีน" ที่กำลังสร้างเกาะเทียมขึ้นมาในทะเลจีนใต้ เพื่อจะเป็นจุดแวะพักทางการทหารหรือ "ฐานทัพย่อยๆ" ในการซ่อมบำรุงหรือเติมเชื้อเพลิงและอื่นๆ โดยอเมริกาอ้างแบบเอาใจประเทศเล็กน้อยเช่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เวียตนาม บรูไน มาเลเซีย เพื่อหาแนวร่วม ว่ากรรมสิทธิ์ยังไม่ชัดเจน จีนจึงไม่มีสิทธิ์ทำเกาะเทียม ( ซึ่งก็จริง แต่จีนก็อ้างว่าเป็นของจีนมานานแล้ว และคงต้องทำเพื่อเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญก่อนโดยเร็ว )
    ... แต่จีนก็ประกาศโต้กลับไปทันควันว่าไม่สนใจจะซ้อมก็ซ้อมไปสิ และจนล่าสุดมาประกาศจากรมว.กลาโหมรัสเซียว่า จะมีการร่วมซ้อมรบกับดังกล่าวในปีหน้า ซึ่งก็สมใจอเมริกาที่ต้องการสร้างความขัดแย้งไปทั่ว จากยูเครนและยุโรป จากซีเรีย อิรัก อียิปต์ และทั่วตะวันออกกลาง จนมาถึงทะเลจีนใต้ เอเชีย ในที่สุด
    .
    ​Russia will take part in multinational navy drills in disputed South China Sea — RT News
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตอนนี้ผู้นำรัสเซีย อยู่ระหว่างการเดินทางเยือน อิตาลี นะครับ อีกประเทศหนึ่งที่กำลัง อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ในสภาวะที่ไม่ปรกติเช่นนี้ แน่นอนครับว่า การเดินทางเยือนอิตาลี ของผู้นำรัสเซีย คงไม่ต่างอะไรกับ กรีซก่อนหน้านั้น ที่ยื่นข้อเสนอที่ บนผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และกรีซน่าจะรับข้อเสนอเรียบร้อยแล้ว ถึงกล้าชักดาบไอเอ็มเอฟ
    http://rt.com/news/266221-putin-italy-visit-expo2015/

    แน่นอนครับ อิตาลี คืออีกประเทศหนึ่ง ที่เป็นทางผ่านของ ท่อก๊าซจากรัสเซียมายังตุรกี กรีซ ทดแทนท่อก๊าซที่เคยผ่านยูเครน มายังยุโรปตะวันออก นี่คือเกมส์ที่รัสเซียกำลังเล่น และเป็นสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐพยายาม หาหนทางขัดขวาง เพราะรู้ว่ารัสเซียขายก๊าซแลกทองคำ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเงินดอลลาร์ ที่พิมพ์ออกมาจากอากาศ ปราศจากหลักประกันใดๆนั่นเอง
    De-Dollarization Du Jour: Russia's Largest Bank Issues Yuan-Denominated Guarantees | Zero Hedge

    สหรัฐต้องการสงคราม เพื่อรักษาอำนาจในการพิมพ์เงินดอลลาร์ และความมั่งคั่งร่อไป แต่รัสเซียและจีนต้องการส่วนแบ่งในตลาดโลก บนพื้นฐานของผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย(mutual interest) โลกใบนี้จะได้แบ่งเป็น หลายขั้วมหาอำนาจ(multi-polar) "ไม่ใช่"ปล่อยให้สหรัฐผูกขาดการพิมพ์เงินเพียงฝ่ายเดียว...
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    เรื่องวิกฤติการณ์ของกรีซเวลานี้ ทางสื่อของรัสเซีย "RT News" ซึ่งมีผู้ชมทั่วโลกกว่า 1 พันล้านคนเข้าไปแล้ว ได้ออกมาเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ แม็กซ์ ไคส์เซอร์ นะครับว่า กรีซนั้นออกจากลุ่มยูโรโซน เรียบร้อยแล้วครับ แต่สื่อตะวันตกอย่าง BBC ไม่ยอมรายงานข่าวดังกล่าว ผมก็เลยไม่แปลกใจครับว่าทำไม ล่าสุดหลายบริษัทและสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง HSBC ถึงมีการวางแผนปลดพนักงานทั่วโลกถึง 50,000คน
    HSBC to Reduce Head Count by 50,000 as Part of Overhaul - WSJ

    สิ่งที่สหภาพยุโรป และไอเอ็มเอฟรวมถึงเยอรมัน พยายามทำในเวลานี้ คือ การเข้าครอบครองสินทรัพย์ของกรีซในราคาที่ต่ำ เพื่อแลกกับการผิดนัดชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ แต่กรีซไม่ยอมครับ คือ ไม่จ่ายและไม่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว เพราะรู้สึกว่าถูกมัดมือชก บังคับให้เร่ขายสินทรัพย์ราคาถูก
    ถ้านึกไม่ออกขอให้นึกถึงเหตุการณ์ต้มยำกุ้งปี 40 เพราะถูกโจมตีค่าเงิน จนเราต้องยอมแก้กฎหมายขายชาติหลายๆฉบับ และต้องขายสินทรัพย์ในราคาถูก เพื่อแลกกับการกู้เงินนั่นเอง ซึ่งก็คือกลุ่มเดียวกันที่กำลังพยายาม บีบบังคับกรีซในเวลานี้
    ซึ่งกรีซไม่ยอมรับเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นครับ และไม่ยอมจ่ายหนี้ให้ไอเอ็มเอฟ และบรรดาเจ้าของธนาคารหน้าเลือดทั้งหลาย แม้จะถูกขับออกจากลุ่มยูโรโซนก็ตาม..

    <iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/3k51xAsaGKY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    <iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/4AXbiCdmXgw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://www.youtube.com/watch?v=4AXbiCdmXgw&sns=fb
    หลายวันก่อนผมพูดถึง การที่ธนาคารกลางรัสเซียประกาศออกมาแล้วว่า จะถือทองคำเพิ่มขึ้นเป็น 40% ซึ่งหมายความว่ารัสเซียจะขายน้ำมันแลกทองคำ หรือหยวนที่มีทองคำเป็นหลักประกันเท่านั้น ส่วนดอลลาร์ที่พิมพ์ออกมา โดยปราศจากหลักประกัน ก็จะค่อยๆทยอยไหลเข้าท่วมสหรัฐ และยิ่งเงินหยวนของจีน สามารถสร้างความเชื่อมั่น ในตลาดโลกได้มากขึ้นเท่าไหร่ อิทธิของดอลลาร์ในตลาดโลก ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น The Yuan vs. the Dollar vs. Gold: One Step forward by China, One Step back for America? | Global Research - Centre for Research on Globalization
    เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องแปลกใจครับว่า ทำไมสถานการณ์ในยูเครน ถึงตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง และรวมถึงในบริเวณหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้ เพราะสหรัฐจะต้องทำสงครามกับจีนและรัสเซีย โดยอาศัยสถานการณ์เหล่านี้นั่นเอง ซึ่งถ้ารัสเซียและจีนสามารถอดทนอดกลั้น ต่อการยั่วยุของสหรัฐได้ แนวทางต่อมาก็คือสหรัฐจะต้อง สร้างสถานการณ์คล้ายๆ เหตุการณ์9/11 ขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำสงคราม กับรัสเซียและจีน รวมถึงส่งทหารสหรัฐเข้าไปยังตะวันออกกลางอีกครั้ง เพราะเวลานี้ "petrodollar" กำลังได้รับการท้าทายจาก "PetroYuan " และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กำลังจะประกาศให้หยวน เป็นอีกสกุลเงินสำรองหนึ่งในระบบตะกร้าเงิน(SDR)ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐพยายามยับยั้งมาตลอดนั่นเอง http://www.scmp.com/…/why-chinas-yuan-deserves-sdr-recognit…
    เพราะฉะนั้นสหรัฐถ้าไม่สามารถ ใช้ความขัดแย้งในยูเครน และทะเลจีนใต้ รวมถึงภูมิภาคตะวันออกกลาง จุดชนวนสงครามได้ ก็ต้องยอมสร้างสถานการณ์ขึ้นในประเทศตนเอง อย่าแปลกใจนะครับว่าทำไมเวลานี้ สื่อในสหรัฐถึงเริ่มประโคมข่าว เรื่องแนวโน้มของการก่อร้าย โดยเฉพาะจากเครือข่ายISIS เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดแม้แต่ทาง โฆษกทำเนียบขาวเอง ก็ยังมีการอพยพนักข่าว ออกจากห้องแถลงข่าวอย่างฉับพลัน ภายหลังมีโทรศัพท์ข่มขู่ ลอบวางระเบิดในห้องแถลงข่าว http://www.mediaite.com/…/press-corps-hammers-josh-earnest…/
    นอกจากนี้หน่วยงานรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานในสหรัฐ(TSA) ช่วงหลังเริ่มออกมาให้ข้อมูลชี้นำแล้วเช่นกันว่า มีความบกพร่องด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย สร้างความไม่มั่นใจ และหวาดกลัวเกิดขึ้น ซึ่งทั้งสำนักข่าว CNN และฟ็อกซ์นิวส์ ก็เริ่มออกมานำเสนอเรื่องดังกล่าวบ่อยขึ้นเรื่อยๆ http://www.foxnews.com/…/tsa-whistleblowers-describe-secur…/
    นอกจากเครือข่ายก่อการร้ายแล้ว การสร้างสถานการณ์ ถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์หรือ EMP จากจีนและรัสเซีย แม้กระทั่งเกาหลีเหนือ สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน เพราะล่าสุดแม้แต่อดีต ผู้อำนวยการซีไอเอ ยังออกมาให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า รัฐบาลสหรัฐเวลานี้ ไม่พร้อมรับมือการถูกโจมตีด้วย EMP ทั้งจากมนุษย์และธรรมชาตินั่นเอง http://www.zerohedge.com/…/former-cia-director-were-not-doi…
    นี่แหละครับที่เรียกว่า ความพยายามโฆษณาชวนเชื่อ(propaganda) หรือออกข่าวชี้นำสาธารณะชนล่วงหน้า ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ สหรัฐถูกกลุ่มก่อการร้ายโจมตีแม้กระทั่งทำเนียบขาวถูกถล่ม ทุกคนก็จะได้พุ่งเป้าไปยังกลุ่มก่อการร้าย หรือประเทศเป้าหมายที่ สหรัฐต้องเปิดฉากทำสงครามนั่นเอง http://www.zerohedge.com/…/isis-planning-us-nuclear-attack-…
    อย่าลืมนะครับว่า มาตรการรักษาความปลอดภัย ของสหรัฐนั้นเรียกได้ว่าสูงที่สุดในโลก มีอุปกรณ์สอดแนม และดักฟังชาวอเมริกันทั่วประเทศ รวมถึงรัฐบาลต่างๆทั่วโลก จึงเป็นเรื่องยากสำหรับ เครือข่ายก่อการร้ายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด เข้าไปเคลื่อนไหวหรือโจมตี เว้นแต่รัฐบาลมีส่วนรู้เห็น และจงใจปล่อยให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเอง http://www.ibtimes.co.uk/sections-white-house-capital-hill-…
    อดีต ปธน.อัมราฮัม ลินคอล์น เคยกล่าวไว้ว่า
    "สหรัฐอเมริกาจะไม่มีวัน ถูกทำลายด้วยศัตรู ที่มาจากภายนอก หากวันใดวันหนึ่ง เราเริ่มสั่นคลอน จนกระทั่งสูญเสียเสรีภาพ นั่นเป็นเพราะพวกเราทำลายกันเอง"
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันพุ่งหลังสต๊อกเชื้อเพลิงมะกันลด หุ้นสหรัฐฯทะยาน-ทองขึ้น
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2558 05:15 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ(10มิ.ย.) ปรับขึ้นแข็งแกร่ง 2 วันติด หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงหรัฐฯลดลง ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งทะยานจากความเป็นไปได้ที่กรีซอาจบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ ขณะที่ทองคำก็บวกแรง แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 65.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นวันที่ 5 มิถุนายน ลดลงถึง 6.8 ล้านบาร์เรล และสต๊อกเบนซินก็ลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก

    อย่างไรก็ตามเหล่านักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่ากำลังผลิตของสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยปรับเพิ่ม 24,000 บาร์เรลเป็น 9.61 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ(10มิ.ย.) พุ่งขึ้นแรง ตามแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและภาคการเงิน รวมถึงจากมุมมองแง่ดีว่าบางทีกรีซอาจใกล้บรรลุข้อตกลงกับเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติ

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 236.36 จุด (1.33 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,000.40 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.05 จุด (1.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,105.20 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 62.82 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,076.69 จุด

    ประธานคณะรัฐมนตรีคลังยูโรโซน บอกว่าข้อตกลงปฏิรูปแลกเงินช่วยเหลือกับเอเธนส์ ยังมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุกันในเวลาที่สองฝ่ายนัดหารือกันอีกครั้งในวันที่ 18 มิถุนายน ด้วยเหลือแค่ประเด็นเล็กๆน้อยๆที่ยังต้องหาทางออก แต่ย้ำว่าข้อเสนอแย้งของกรีซยังไม่เป็นที่น่าพอใจ

    อย่างไรก็ตามสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่ารัฐบาลเยอรมนีอาจยอมรับคำสัญญาปฏิรูปของกรีซอย่างน้อยๆ 1 มาตรการ เพื่อปลดล็อคเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย เพื่อจะได้นำมาชำระหนี้จำนวน 1.6 พันล้านยูโร ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยหากไม่สามารถชำระได้อาจทำให้กรีซต้องออกจากอียู

    ขณะเดียวกันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเคลื่อนไหวตามดัชนีหลัก10 ตัวของเอสแอนด์พี 500 ที่ล้วนปิดในแดนบวก โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นร้อยละ 1.6

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพุธ(10มิ.ย.) ขยับขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ นักลงทุนรอดูข้อมูลทางเศรษฐกิจที่จะถูกเผยแพร่ออกมาเร็ววันนี้ เพื่อเป็นเครื่องชี้นำว่าเมื่อไหร่ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,186.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000066011
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรณีอุปทานล้นยังฉุดราคาน้ำมัน ผมว่าไม่จริงน่ะครับ ถ้าล้นจริงทำไมราคาน้ำมันจึงยังมีการขึ้นลงไม่หยุด แสดงว่าปัจจัยขึ้นลงอยู่ที่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ การเมือง ของผู้ที่พยายามกดราคาน้ำมันโลก
    โอเปกเชื่ออุปสงค์จะฟื้น แต่ภาวะอุปทานล้นยังฉุดราคาน้ำมัน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2558 00:31 น. (แก้ไขล่าสุด 11 มิถุนายน 2558 00:50 น.)

    [​IMG]
    @สัญลักษณ์ของกลุ่มโอเปก
    เอเอฟพี - โอเปกเมื่อวันพุธ(10มิ.ย.) ประมาณการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ แต่เตือนว่าภาวะอุปทานล้นตลาดจะทำให้ราคาน้ำมันยังถูกจำกัดเพดานไว้
    องค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก(โอเปก) คงประมาณการณ์อุปสงค์น้ำมันโดยรวมในปี 2015 ไว้ตามเดิมที่ 92.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2014 อยู่ 1.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน
    อย่างไรก็ตามในรายงานประจำเดือนมิถุนายนของโอเปก คาดหมายว่าอุปสงค์จะร้อนแรงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
    โอเปกบอกด้วยว่าราคาน้ำมันที่ขยับตัวเหนือ 60 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม สูงสุดในรอบปี เพราะได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยอื่นๆอย่างเช่นความยุ่งเหยิงทางภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตามรากฐานโดยรวมยังคงอยู่ที่ภาวะอุปทานล้นตลาดที่ยังเป็นตัวจำกัดเพดานราคา
    ราคาน้ำมันพังครืนกว่าร้อยละ 60 ระหว่างเดือนมิถุนายนปีก่อนจนถึงเดือนมกราคม 2015 ซึ่งแตะระดับต่ำสุด 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สืบเนื่องจากภาวะอุปทานล้นตลาดจากการเฟื่องฟูของน้ำมันชั้นหินสหรัฐฯ
    อย่างไรก็ตาม โอเปก ซึ่งมักมีธรรมเนียมปรับลดกำลังผลิตเพื่อปกป้องราคาน้ำมันที่ตกต่ำ กลับปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างฉับพลันในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เมื่อพวกเขาเลือกคงกำลังผลิตไว้ตามเดิม แม้ราคาร่วงลงอย่างหนักซึ่งส่งผลกระทบกับรายได้ของชาติสมาชิก
    ในการประชุมสมัยสามัญที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โอเปกมีมติยึดนโยบายนี้ต่อไป โดยคงระดับเป้าหมายการผลิตไม่เปลี่ยนแปลงที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน
    แม้ราคาดำดิ่งลงหนักขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หลังโอเปกเปลี่ยนนโยบาย แต่นักวิเคราะห์บอกว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวได้ผล เนื่องจากผลผลิตน้ำมันชั้นหินสหรัฐฯต้องหยุดชะงักและราคาน้ำมันดิบก็เริ่มค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
    ในรายงานประจำเดือนที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ(10ใมิ.ย.) โอเปก ยอมรับหากภาวะราคาน้ำมันระดับต่ำยังยืดเยื้อต่อไป ก็อาจก่อความยุ่งยากซับซ้อนอย่างแสนสาหัสแก่บริษัทเชื้อเพลิงต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทที่พึ่งพาเทคนิคขุดเจาะน้ำมันแบบ Fracking หรือวิธีการผลิตที่ทันสมัยอื่นๆ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดชาวยูเครนได้สถานะ“ผู้ลี้ภัยชั่วคราว” ในรัสเซียเพิ่มเป็นมากกว่า 336,000 ราย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2558 05:04 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-เซอร์เก เตมรียาโควิช ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการตรวจคนเข้าเมืองกลางของรัสเซีย เผยในวันพุธ (10)ระบุ มีพลเมืองยูเครนมากกว่า 336,000 คนได้รับสถานะ “ผู้ลี้ภัยชั่วคราว” ในรัสเซียแล้ว

    ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการตรวจคนเข้าเมืองกลางของรัสเซียยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมอสโกภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้ใช้งบประมาณกว่า 10,000 ล้านรูเบิล (ราว 6,175 ล้านบาท) สำหรับจัดหาที่พักและความช่วยเหลือที่จำเป็นให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเหล่านี้

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่โฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียระบุ ทางกระทรวงฯเตรียมจัดส่งขบวนรถบรรทุกลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรอบใหม่ซึ่งเป็น “รอบที่ 29” เข้าไปยังเขตโดเนตสก์ และลูกานสก์ หรือเขตวงแหวนถ่านหิน “ดอนบาสส์” ทางภาคตะวันออกของยูเครน

    โฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่า ในขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งนี้จะมีทั้งความช่วยเหลือในรูปของอาหาร ยารักษาโรค และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีความจำเป็นและได้รับการร้องขอจากประชาชนในเขตดอนบาสส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ใช้ภาษารัสเซียในชีวิตประจำวันและมีความผูกพันทางประวัติศาสตร์ต่อรัสเซีย

    ทั้งนี้ ขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากรัสเซียทั้ง 28 รอบก่อนหน้านี้ ได้จัดส่งความช่วยเหลือคิดเป็นน้ำหนักรวมกันมากกว่า 36,000 ตันแก่ประชาชนในเขตดอนบาสส์นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมปี 2014 เป็นต้นมา เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการสู้รบในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนระหว่างฝ่ายรัฐบาลเคียฟกับกลุ่มกบฏแยกดินแดน ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ และคร่าชีวิต “พลเรือน” ไปแล้วเกือบ 7,000 คน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลล่าสุดชี้ ยอด “นักรบต่างชาติ” ที่เข้าร่วมกลุ่ม “ไอเอส” ในซีเรียมีกว่า 70,000 คน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2558 04:38 น.

    [​IMG]
    @อาหมัด บัดเร็ดดิน ฮัสซูน มุฟตีสูงสุดของซีเรีย

    เอเจนซีส์-อาหมัด บัดเร็ดดิน ฮัสซูน มุฟตีสูงสุดของซีเรีย เผยระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษในวันพุธ (10 มิ.ย.) กับสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย โดยระบุ ขณะนี้มีนักรบชาวต่างชาติกว่า 70,000 คนเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส)ในซีเรียซึ่งในจำนวนนี้เป็นพลเมืองของรัสเซียและอดีตประเทศในเครือจักรภพแห่งรัฐเอกราช (CIS) รวมอยู่ด้วยระหว่าง 5,000 – 7,000 คน

    องค์ประมุขทางศาสนาอิสลามแห่งซีเรียซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม “ อิสลามิก เวิลด์ อินเตอร์เนชันแนล คอนเฟอเรนซ์” ระบุว่า ในจำนวนนักรบต่างชาติกว่า 70,000 คนที่หลั่งไหลเข้าสู่แผ่นดินซีเรียนี้มีไม่น้อยที่เดินทางกันมาเป็นครอบครัว และเข้ารับการฝึกอาวุธในตุรกี รวมถึงรับการสนับสนุนทางการเงินจากซาอุดีอาระเบียก่อนที่จะเข้าร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรีย

    อย่างไรก็ดี มุฟตีสูงสุดของซีเรียเผยว่าในระยะหลัง มีข้อมูลว่าทางกลุ่มไอเอสเริ่มหันมาว่าจ้าง “นักรบรับจ้าง” มากขึ้น โดยเฉพาะจากอดีตประเทศบริวารในเครือสหภาพโซเวียตอย่างคาซัคสถาน เติร์กเมนิสถาน และอาเซอร์ไบจัน

    ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า ตำรวจสากล (Interpol) สามารถจับกุมวาร์วารา คาราอูโลวา นักศึกษาชาวรัสเซียวัย 19 ปีจากมหาวิทยาลัย “Moscow State University” ได้พร้อมกับพลเมืองรัสเซียอีก 12 คนขณะพยายามข้ามพรมแดนจากตุรกีเข้าไปยังซีเรีย โดยผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า คาราอูโลวาซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมาได้ยอมรับว่าตนเองเดินทางออกจากรัสเซียมาเพื่อต้องการไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000066008
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ผู้นำโสมใต้ยอมเลื่อนเยือนสหรัฐฯ คนผวา'เมอร์ส'ไม่เลิก-ตายอีก2ติดเชื้อเพิ่ม13
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2558 22:03 น.

    เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้ ประกาศเลื่อนแผนการเยือนอเมริกาออกไปก่อน เพื่อรวมศูนย์ความสนใจที่การควบคุมปราบปรามการระบาดของไวรัส “เมอร์ส” ให้อยู่หมัด ท่ามกลางความตื่นตระหนกของประชาชนที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อวันพุธ (10 มิ.ย.) ยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2 คน และพบผู้ติดเชื้อใหม่ 13 คน ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (ฮู) และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโสมขาวร่วมกันแถลงแนะนำรัฐบาลทบทวนการตัดสินใจปิดสถาบันการศึกษา เนื่องจากไม่มีความเชื่อมโยงกับการแพร่เชื้อของไวรัสเมอร์สแต่อย่างใด ทว่ากลับมีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบสั่งปิดโรงเรียนเพิ่มเติมขึ้นอีก ขณะเดียวกัน ความหวั่นผวายังลามมาถึงฮ่องกง โดยมีสตรีผู้หนึ่งถูกกักกันโรคเป็นการป้องกันไว้ก่อน ภายหลังกลับจากเกาหลีใต้ด้วยอาการไข้หวัด

    การตัดสินใจเลื่อนกำหนดการเดินทางไปเยือนสหรัฐฯระหว่างวันที่ 14-18 เดือนนี้ มีขึ้นหลังจากคณะบริหารของพัคถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า รับมือการระบาดของโรค “กลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส)” ทั้งล่าช้าและไร้ประสิทธิภาพ

    คะแนนนิยมในตัวพัคดิ่งลงนับจากนั้น ในการสำรวจล่าสุดโดยรีลมิเตอร์ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันพุธยังพบว่า ชาวเกาหลีใต้กว่าครึ่งคัดค้านการไปเยือนอเมริกาของเธอ

    ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ยืนยันในวันพุธว่า พบผู้เสียชีวิตจากเมอร์สเพิ่มอีก 2 ราย และผู้ติดเชื้อใหม่ 13 คน รวมยอดผู้เสียชีวิตในเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 9 คนและติดเชื้อ 108 คน

    ผู้ป่วยเมอร์สคนแรกในเกาหลีใต้ได้รับการวินิจฉัยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม หลังเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย และชายวัย 68 ปีผู้นี้ได้แพร่เชื้อให้เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลและคนไข้อื่นๆ ระหว่างตระเวนเข้ารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลรวม 4 แห่ง และนับจากนั้น จึงมีผู้ถูกกักกันโรคในระดับต่างๆ เกือบ 3,500 คน

    สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุดที่ประกาศเมื่อวันพุธ เป็นหญิงวัย 75 ปี และชายวัย 62 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้ป่วยมะเร็งของศูนย์การแพทย์ซัมซุง โรงพยาบาลใหญ่ทางใต้ของกรุงโซล และเป็นโรงพยาบาล 1 ใน 4 แห่งที่ผู้ป่วยเมอร์สคนแรกเข้ารักษาตัว

    โรงพยาบาลแห่งนี้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเมอร์สมากที่สุดคือ 47 คน โดยที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันวันพุธนั้น 10 คนพบที่โรงพยาบาลแห่งนี้เอง ส่วนอีก 3 คนพบในโรงพยาบาลอื่นอีก 3 แห่ง ทั้งนี้ 2 แห่งอยู่ในเมืองแดเจิน และอีกแห่งใกล้ชานเมืองด้านใต้ของกรุงโซล

    การติดเชื้อทั้งหมดยังคงเกิดขึ้นภายในโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ย้ำว่า เมอร์สไม่ได้ระบาดเข้าสู่ชุมชน ขณะที่ผู้เสียชีวิตทุกรายล้วนมีอาการป่วยรุนแรงอย่างอื่นๆ อยู่ก่อนแล้ว

    อย่างไรก็ดี จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อที่ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุดส่งผลให้ชาวเกาหลีใต้ตื่นตระหนก สถาบันการศึกษาเกือบ 2,500 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซลและจังหวัดคย็องกี ที่อยู่ติดกัน ระงับการเรียนการสอนในวันพุธ เพิ่มขึ้น 300 แห่งจากวันอังคาร (9)

    ถึงแม้ในวันพุธนั่นเอง คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกที่เดินทางถึงเกาหลีใต้ตั้งแต่วันอังคารเพื่อร่วมประเมินสถานการณ์การรับมือไวรัสเมอร์ส ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่แดนโสมขาวเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ทบทวนการปิดโรงเรียน เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่า สถาบันการศึกษาเชื่อมโยงกับการแพร่เชื้อของไวรัสนี้แต่อย่างใด

    ขณะเดียวกัน ธุรกิจท้องถิ่น ซึ่งรวมถึงห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และสวนสนุก ต่างมียอดขายทรุดฮวบ เนื่องจากประชาชนต่างพากันหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนแออัด

    ทางด้านรักษาการนายกรัฐมนตรี ชอย เกียงฮวาน เรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือต่อสู้กับเมอร์ส แต่ไม่ควรตื่นตระหนกมากเกินไป และใช้ชีวิตตามปกติ

    ชอยที่ควบคำแหน่งรัฐมนตรีคลัง ยังประกาศงบช่วยเหลือธุรกิจและพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเมอร์สมูลค่า 357 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังคาดกันว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้จะลดดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของเมอร์สต่อระบบเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดี (11)

    ยิ่งกว่านั้น ในวันพุธ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังริเริ่มโครงการตรวจหาผู้ป่วยปอดอักเสบทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ป่วยเมอร์สมักมีอาการปอดอักเสบตามมา

    นอกจากปฏิกิริยาแง่ลบภายในประเทศแล้ว เมอร์สยังฉุดรายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเกาหลีใต้กระเจิดกระเจิง หลังจากรัฐบาลหลายประเทศแนะนำให้ประชาชนงดเดินทางสู่เกาหลีใต้ หรือเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้า

    รายงานระบุว่า ท่าอากาศยานอินชอนซึ่งเป็นสนามบินหลักของเกาหลีใต้ มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าลดลง 25-31% ในวันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา

    สายการบินใหญ่สุด 2 แห่งของไต้หวันประกาศลดเที่ยวบินไปยังเกาหลีใต้ลงครึ่งหนึ่งเป็นการชั่วคราว และคาเธ่ย์ แปซิฟิก แอร์เวย์สของฮ่องกง เผยว่า ยอดสำรองที่นั่งไปเกาหลีใต้ดิ่งลงเช่นเดียวกัน

    ที่ฮ่องกงในวันพุธ หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐระบุว่า มีหญิงวัย 22 ปีผู้หนึ่งต้องสงสัยว่าติดเชื้อเมอร์ส ถูกกักกันโรคอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยเธอไปเยือนเกาหลีใต้ในช่วงวันที่ 23-27 พฤษภาคม หลังจากกลับมาแล้วเธอมีอาการน้ำมูกไหลในวันที่ 7 มิถุนายน และเริ่มมีไข้ในวันที่ 9

    ก่อนหน้านี้ ฮ่องกงเคยกักกันโรคผู้คนจำนวน 19 ราย เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสเมอร์ส อย่างไรก็ตาม ไม่พบการติดเชื้อในกลุ่มผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำเนียบขาวยัน'โอบามา'ส่งทหารเพิ่ม450นาย ฝึกทัพอิรักทวงคืนดินแดนจากIS
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2558 02:00 น.

    [​IMG]

    @กองกำลังอิรักจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนจากสหรัฐฯ

    รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเมื่อวันพุธ(10มิ.ย.) ออกคำสั่งจัดส่งกำลังพลสหรัฐฯสูงสุด 450 นายเข้าไปในอิรักเพิ่มขึ้นอีก และจัดตั้งฐานฝึกแห่งใหม่ในจังหวัดอันบาร์ เพื่อช่วยฟื้นฟูกองกำลังอิรักเตรียมการต่อสู้เพื่อยึดคืนดินแดนที่สูญเสียไปแก่พวกรัฐอิสลาม(ไอเอส)

    แผนเสริมกำลังพลเพิ่มเติมจาก 3,100 นายที่กำลังปฏิบัติภารกิจช่วยฝึกฝนและให้คำปรึกษาอยู่ในอิรัก ณ ขณะนี้ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์ของโอบามา ซึ่งกำลังเผชิญแรงกดดันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆให้ดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อทำลายแนวโน้มของพวกกบฏรัฐอิสลาม

    การตัดสินใจประจำการทหารเพิ่มเติมของโอบามาในครั้งนี้ เป็นไปตามคำร้องขอของนายไฮเดอร์ อัล-อาบาดี นายกรัฐมนตรีอิรัก หลังจากสองผู้นำมีโอกาสหารือกัน ณ รอบนอกเวทีการประชุมจี 7 ที่เยอรมนีเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตามการยึดมั่นต่อคำปฏิเสธส่งทหารไปสู้รบหรือแม้แต่ส่งไปอยู่ใกล้ๆแนวหน้าของโอบามา ได้เรียกเสียงพวกวิพากษ์วิจารณ์ที่บอกว่าบทบาททางทหารอย่างจำกัดของสหรัฐฯในความขัดแย้งนี้ ไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนกระแสสงครามได้

    กระนั้นก็ดีเจ้าหน้าที่สหรัฐฯแย้มว่า ประธานาธิบดีโอบามา ไม่ปฏิเสธถึงการใช้มาตรการต่างๆเพิ่มเติมในการต่อสู้กับพวกรัฐอิสลาม หล้งจากตัดสินใจเพิ่มกำลังพลด้านการฝึกฝนและให้คำปรึกษาในอิรักอีก 450 นาย

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯบอกกับผู้สื่อข่าวว่าทหารในจังหวัดอันบาร์ของอิรัก จะช่วยในภารกิจบัญชาการ ข่าวกรองและปกป้องพื้นที่ พร้อมระบุว่าทหารชุดใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอเมริกา

    นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่สหรัฐฯยังหวังว่าการเสริมกำลังอเมริกาในอันบาร์ จะช่วยกองกำลังอิรักคิดแผนโจมตีตอบโต้ยึดคืนรามาดี เมืองเอกของจังหวัด ซึ่งถูกพวกกบฏไอเอสยึดไปตั้งแต่เดือนก่อน

    "เพื่อเพิ่มแสนยานุภาพและประสิทธิภาพของคู่หูในทางภาคพื้น ท่านประธานาธิบดีอนุมัติประจำการบุคลากรทางทหารเพิ่มเติมสูงสุด 450 นาย เพื่อฝึกฝน ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือกองกำลังความมั่นคงอิรักที่ฐานทัพตักกอดุม ทางตะวันออกของจังหวัดอันบาร์" ทำเนียบขาวระบุในถ้อยแถลง

    ทำเนียบขาวบอกด้วยว่า โอบามา ยังออกคำสั่งเร่งรัดการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นแก่กองกำลังอิรัก เช่นเดียวกับกองกำลังเปชเมอร์กาของชาวเคิร์ดและนักรบชนเผ่าสุหนี่ที่ปฏิบัติการภายใต้คำบัญชาการของอิรัก

    ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น 2 วันหลังจาก โอบามา เผยว่าสหรัฐฯยังไม่บรรลุยุทธศาสตร์ฝึกฝนกองกำลังความมั่นคงอิรัก เพื่อทวงคืนดินแดนที่สูญเสียไปแก่นักรบรัฐอิสลาม ที่ยึดครองเนื้อที่ของอิรักได้ราวๆ 1 ใน 3 โดยความปราชัยเสียเมืองรามาดีแก่ไอเอสเมื่อเดือนที่แล้ว เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักต่อความอ่อนแอของทหารอิรัก และตั้งแต่นั้น วอชิงตันก็เริ่มเร่งมือจัดส่งอาวุธแก่กองกำลังรัฐบาลและพิจารณาแนวทางต่างๆเพื่อปรับปรุงโปรแกรมฝึกฝน

    กองกำลังสหรัฐฯมีโครงการฝึกฝนที่ฐานทัพอัล-อาซาด ทางตะวันตกของอันบาร์อยู่แล้ว แต่ศูนย์ฝึกแห่งใหม่จะถูกตั้งขึ้นที่ ตักกอดุม ฐานทัพอากาศในทะเลทรายที่เคยเป็นศูนย์บัญชาการของกองทัพสหรัฐฯ ระหว่างสงครามอิรักปี 2003-2011 และอยู่ใกล้เมืองรามาดี ทางตะวันออกของจังหวัด

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065994
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ISปะทะเดือดกองกำลังเคิร์ดในซีเรีย ผู้คนหลายพันอพยพหนีตายเข้าตุรกี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    10 มิถุนายน 2558 23:25 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - ประชาชนหลายพันคนอพยพจากซีเรียเข้าไปยังตุรกีในวันพุธ(10มิ.ย.) หนีตายจากการต่อสู้กันระหว่างนักรบรัฐอิสลาม(ไอเอส)กับกองกำลังชาวเคิร์ดและฝ่ายต่อต้าน ในศึกแย่งชิงเมืองเทล อับยาด ในเขตแนวชายแดนของซีเรีย

    ผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ซึ่งอยู่ ณ จุดเกิดเหตุรายงานว่าผู้อพยพเหล่านั้นจำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก โดยพวกเขาหลบหนีเข้าสู่ตุรกีผ่านจุดผ่านแดนชั่วคราว โดยมีเจ้าหน้าที่กองตำรวจภูธรของตุรกีคอยตรวจตราอำนวยความสะดวก

    เมืองเทล อับยาด ที่อยู่ในจังหวัดฮาซากา เวลานี้อยู่ภายใต้การควบคุมของนักรบรัฐอิสลาม ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกหัวรุนแรงกลุ่มนี้ก็ได้ลงมือโจมตีตอบโต้ในฮาซานา ซีตี เมืองเอกของจังหวัด ซึ่งแบ่งเขตบริหารกันระหว่างรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดและรัฐบาลเคิร์ด

    "วันนี้มีผู้คนราว 2,000 คนอยู่ระหว่างขั้นตอนการอพยพ" เจ้าหน้าที่ตุรกีรายหนึ่งเผย โดยชี้แจงว่าคนเหล่านั้นต้องผ่านการลงทะเบียนและตรวจสุขภาพก่อนถึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ "พวกเขาหลบหนีการทิ้งระเบิดของพันธมิตร เช่นเดียวกับการรุกคืบของ YPG" อ้างถึงนักรบเคิร์ดและปฏิบัติการทางอากาศของพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯเพื่อสนับสนุนนักรบเคิร์ด

    สื่อมวลชนรายงานว่าช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยรอที่จุดผ่านแดนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ตุรกีระบุว่านับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว มีประชาชน 3,837 คนเข้ามาในพื้นที่ และในนั้น 686 คนเป็นชาวอิรัก

    แถบหัวมุมทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่ามันเชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆที่พวกรัฐอิสลามยึดครองทั้งในซีเรียและอิรัก ส่วนชาวเคิร์ดซีเรีย ก็ประสงค์ขยายพื้นที่ควบคุมจากโคบานีไปจนถึงกามิสชี ที่พวกเขามองว่าเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตรัฐเคิร์ด

    IS
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    USเล็งส่งทหารเพิ่มช่วยฝึกทัพอิรัก กล่อมแบกแดดดึงสุหนี่ช่วยไล่ไอเอส
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มิถุนายน 2558 21:17 น.

    [​IMG]

    ภาพซึ่งถ่ายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นนักรบชาวชนเผ่าที่เป็นพวกสุหนี่ ทำหน้าที่รักษาพื้นที่กลางเมืองรามาดี ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตก 115 ก.ม. เวลานี้เมืองรามาดีถูกพวกไอเอสตีแตกแล้ว และฝ่ายอเมริกันเห็นว่าการดึงเข้ากองกำลังสุหนี่เข้ามาร่วมอย่างเต็มที่ เป็นกุญแจสำคัญยิ่งในการชิงเมืองนี้คืนมาและรักษาไว้ได้อย่างยั่งยืน

    เอพี - เจ้าหน้าที่อเมริกันชี้ การที่ทำเนียบขาวกำลังจะประกาศตัดสินใจในเร็ววันนี้ ว่าจะจัดส่งทหารสหรัฐฯเข้าไปในอิรักเพิ่มขึ้นอีก เพื่อขยายการฝึกกองกำลังอาวุธในจังหวัดอันบาร์นั้น ไม่ใช่หมายความว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ หากแต่เพื่อช่วยอิรักชิงเมืองรามาดีกลับคืน และมุ่งทำลายโมเมนตัมในการสู้รบของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในท้ายที่สุด

    การตัดสินใจดังกล่าวซึ่งอาจมีการประกาศออกมาอย่างเร็วที่สุดในวันพุธ (10 มิ.ย.) จะมีการเพิ่มค่ายฝึกของสหรัฐฯ ในอิรักจาก 4 แห่งเป็น 5 แห่ง และเปิดโอกาสให้อาสาสมัครจำนวนมากซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอิรักที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่ ได้เข้าร่วมทำสงครามต่อต้านกลุ่มไอเอส แผนการนี้ยังสอดคล้องกับแนวทางโดยองค์รวมของอเมริกาที่ต้องการสร้างกองกำลังอาวุธของอิรักให้เข้มแข็งไปด้วย ในขณะที่ตนเองดำเนินโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายต่างๆ ของไอเอส

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวย้ำเรื่อยมาว่า ปัจจัยอันสำคัญยิ่งสำหรับการขับไล่ไอเอสให้ออกจากจังหวัดอันบาร์ ได้แก่การดึงชาวสุหนี่เข้ามาร่วมสงครามให้มากขึ้น

    อย่างไรก็ดี ยังมีคำถามสำคัญอยู่ว่า รัฐบาลอิรักในปัจจุบันที่นำโดยชาวมุสลิมนิกายชีอะต์ จะยอมอ้าแขนรับนักรบสุหนี่หรือไม่ เพื่อการขับไล่พวกไอเอสให้ออกจากรามาดี เมืองเอกของอันบาร์ที่ไอเอสตีแตกเมื่อเดือนที่แล้ว รวมทั้งเมืองฟอลลูจาห์ที่ตกเป็นของนักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้มากว่าปี

    ประธานาธิบดีโอบามานั้น ยืนกรานไม่ส่งทหารหน่วยสู้รบทางภาคพื้นดินของสหรัฐฯ กลับเข้าร่วมสงครามในอิรักอีกครั้ง โดยขณะนี้ มีทหารอเมริกันอยู่ในอิรักไม่ถึง 3,100 คนเพื่อปฏิบัติภารกิจในการฝึก ให้คำปรึกษา รักษาความปลอดภัย และการสนับสนุนอื่นๆ ถึงแม้กองทหารอเมริกันยังปฏิบัติภารกิจในการโจมตีทางอากาศ สอดแนมทางอากาศ และรวบรวมข่าวกรองเพื่อหาทางบ่อนทำลายกองกำลังไอเอส ทว่าปล่อยให้ทหารภาคพื้นดินของอิรัก เป็นผู้รับหน้าที่ชิงดินแดนคืนเอง

    เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งที่ขอไม่ให้ออกนาม เนื่องจากทำเนียบขาวยังไมได้ประกาศการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้ เปิดเผยในวันพุธ ว่า ค่ายฝึกแห่งใหม่แห่งที่ 5 ของอเมริกาจะอยู่ที่ อัล-ตักกอดุม ฐานทัพอากาศในทะเลทรายที่เคยเป็นศูนย์บัญชาการของกองทัพสหรัฐฯ ระหว่างสงครามอิรักปี 2003-2011 โดยการจัดตั้งค่ายฝึกแห่งใหม่นี้จะต้องใช้ทหารอเมริกัน 400-500 คน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นครูฝึก เจ้าหน้าที่พลาธิการ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

    ปัจจุบัน อเมริกามีค่ายฝึกในอิรัก 4 แห่ง โดย 2 แห่งอยู่ใกล้ๆ กรุงแบกแดด แห่งที่ 3 อยู่ที่ฐานทัพอากาศในจังหวัดอันบาร์ และแห่งสุดท้ายอยู่ใกล้เมืองเออร์บิล ทางเหนือของอิรัก

    ยังไม่มีความชัดเจนว่า ค่ายฝึกแห่งใหม่ที่อาจจะพร้อมเริ่มดำเนินการในฤดูร้อนนี้ จะฝึกทหารอิรักเพื่อส่งเข้าต่อสู้กับไอเอสได้เพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ในปีที่แล้ว อเมริกาช่วยฝึกทหารให้อิรักได้ประมาณ 9,000 คน

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดูจะแน่นอนแล้วก็คือจะไม่มีการส่งกองทหารอเมริกันเข้าไปใกล้ๆ แนวหน้าของการสู้รบ เพื่อทำหน้าที่ช่วยชี้เป้าการโจมตีทางอากาศ หรือให้คำแนะนำการรบแก่หน่วยย่อยของอิรัก กระนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันผู้หนึ่งระบุว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้อาจจะรวมถึงการเร่งรัดจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปให้ทหารบางหน่วยของอิรัก

    เมื่อวันอังคาร (9) พลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานเสนาธิการร่วมทางทหารของสหรัฐฯ กล่าวขณะอยู่ในนครเยรูซาเลมว่า ได้ยื่นข้อเสนอเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต่อโอบามาแล้ว และชี้ว่าในขณะนี้โอบามาอาจจะต้องพิจารณาคำถามต่างๆ จำนวนหนึ่ง เป็นต้นว่า ทหารอเมริกันในอัฟกานิสถานและที่อื่นๆ ในโลกจะต้องมีการเปรับเปลี่ยนกิจกรรมอย่างไรหรือไม่ หากอเมริกาเข้าร่วมในสงครามอิรักมากขึ้น

    เดมป์ซีย์เสริมว่า เพนตากอนยังกำลังทบทวนหนทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพการโจมตีทางอากาศ ซึ่งถือเป็นเสาหลักของยุทธศาสตร์ของโอบามา ในการกรุยทางให้ทหารภาคพื้นดินของอิรัก สามารถเข้ายึดดินแดนคืนจากไอเอส

    ตัวโอบามาเองกล่าวยอมรับในวันจันทร์ (8) ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯยังคงไม่มี “ยุทธศาสตร์ที่พร้อมสมบูรณ์” ในการฝึกกองกำลังอาวุธชาวอิรัก และเรียกร้องรัฐบาลชีอะห์เปิดทางให้อาสาสมัครชาวสุหนี่เข้าร่วมในการสู้รบกับไอเอสให้มากขึ้น

    เดมป์ซีย์สำทับว่า เมื่อเร็วๆ นี้ โอบามาขอให้ทีมความมั่นคงแห่งชาติตรวจสอบและพิจารณาวิธีการในการปรับปรุงประสิทธิภาพการฝึกและติดอาวุธให้ทหารอิรัก หลังจากมีเสียงวิจารณ์แนวทางนี้ของวอชิงตัน แม้กระทั่งแอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมเองยังแสดงความเคลือบแคลง โดยแถลงว่า การที่กองทัพอิรักละทิ้งรามาดีจนไอเอสยึดไปได้อย่างไม่ยากไม่เย็นอะไรนั้น บ่งชี้ให้ว่า ชาวอิรัก “ไม่มีใจในการรบ”

    ประธานเสนาธิการร่วมทางทหารของสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางของอเมริกาในอิรักอย่างถอนรากถอนโคน แต่ยอมรับว่า ความพยายามอาจดำเนินไปล่าช้าเกินไป หรือเปิดช่องไปสู่ความล้มเหลว

    เดมป์ซีย์ระบุว่าคำถามหนึ่งในหลายๆ ข้อที่โอบามากำลังขวนขวายหาคำตอบก็คือ “มีวิธีการใดหรือไม่ที่จะทำให้ทหารอิรักมั่นใจมากขึ้น”


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000065950
     

แชร์หน้านี้

Loading...