ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    อะฮ้า!... อังกฤษรู้ทันรีบปฏิเสธเป็นเจ้าภาพจัดงาน 2018, 2022 World Cups แม้จะมีการเปิดโหวตใหม่ แต่...

    [​IMG]

    ------------
    แหม… ต้องบอกว่าแผนจับกุมผู้บริหารระดับสูงของ FIFA และบีบให้ประธานฟีฟ่าคนล่าสุดที่พึ่งจะได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานอีกสมัยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการนี่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนยิ่งนัก
    เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.58) สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียรายงานโดยอ้างข่าวจากสำนักข่าว ESPN ว่านาย Greg Dyke ประธานสมาคมฟุตบอลของอังกฤษ England’s Football Association (FA) กล่าวว่า "อังกฤษจะไม่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกทั้งในปี 2018 หรือในปี 2022 แม้ว่าจะมีการเสนอให้เข้าชิงการจัดทัวร์นาเมนต์ด้วยการออกเสียงลงคะแนนอีกครั้งก็ตาม"
    ตามโปรแกรมของฟีฟ่านั้นรัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน 2018 World Cup และกาตาร์จะเป็นเจ้าภาพ 2022 World Cup ไม่ทันไรหลังจากที่มีการจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่าข้อหาคอรัปชั่นโดย FBI ของสหรัฐฯ ก็มีข่าวลอยไปถึงอังกฤษและนาย Boris Johnson ผู้ว่าการกรุงลอนดอนรีบรับมุกบางคนออกมาเสนอให้อังกฤษรีบคว้าโอกาสทองเอาไว้ (หายนะสิไม่ว่า) โดยให้รีบเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกแทนซะเลย
    แต่นาย Greg Dyke ผู้ช่ำชองในวงการฟุตบอลแม้จะไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ รีบออกปฏิเสธทันทีเลยว่า "อังกฤษไม่ได้ต้องการที่จะเป็นเจ้าภาพ World Cup แม้ว่ารัสเซียหรือกาตาร์จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นเจ้าภาพทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลก็ตาม" Greg Dyke เน้นย้ำว่าอีกว่า "เราจะไม่มี World Cup ในปี 2018 (ในอังกฤษ) และแน่นอนเราก็จะไม่มีมันในปี 2022 ด้วย"
    Martin Glenn ประธานผู้บริหารของ FA สนับสนุนความคิดเห็นของ Dyke โดยกล่าวว่า "จริงๆแล้วพวกเราไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เลย มันได้ตกเป็นของรัสเซียซึ่งเหมาะสมแล้ว พวกเขายังไม่เคยมี World Cup ทำไมถึงจะไม่ให้พวกเขาไปเล่นกันที่นั่นหละ และปี 2022 ก็จะไม่มีทางกลับมาที่ยุโรปเด็ดขาด มันควรที่จะอยู่ภายนอกยุโรป ดังนั้นพวกเราขอสนับสนุนให้ World Cup กระจายไปทั่วโลกตามชื่อของมันนั่นเอง"
    Dyke กล่าวทิ้งท้ายว่าไม่ว่ากรณีใดๆ ก่อนที่จะด่วนสรุปและพูดอะไรออกมาซึ่งเป็นการขัดแย้งกับกาตาร์หรือรัสเซีย เจ้าหน้าที่จะต้องรอจนกว่าการสอบสวนจะจบสิ้นซะก่อน
    ประธาน FA แนะนำว่า หากสุดท้ายแล้วปรากฎว่ากาตาร์เสียสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ World Cup ในปี 2022 ดังนั้นสหรัฐฯอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีก็ได้ (ฮะฮ่า... สุดท้ายก็พวกเดียวกันนี่เอง)
    เห็นมะ... แผนนี้เป็นอย่างไร? แม้ว่าสหรัฐฯจะไม่นิยมเล่นฟุตบอล และเรียกฟุตบอลว่าซ็อกเกอร์ก็ตาม แต่จากสถิติแล้วสหรัฐฯเคยเป็นเจ้าภาพจัดงาน FIFA World Cup ครั้งที่ 15 ในปี 1994 อิตาลีเป็นเจ้าภาพสองครั้ง (1934,1990) ฝรั่งเศสสองครั้ง (1938,1998) บราซิลสองครั้ง (1950,2014) อังฤษหนึ่งครั้ง (1966) เยอรมันสองครั้ง (1974,2006) ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นิยมเล่นฟุตบอลหรือไม่ สำหรับสหรัฐฯแล้วมันคือเรื่องของผลประโยชน์และอำนาจ มันเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ จุดประสงค์หลักก็คือทำลายรัสเซียทุกช่องทาง เมื่อเร็วๆนี้อังกฤษพึ่งจะประกาศสานสัมพันธ์กับรัสเซียเอง จู่ๆพอเกิดเรื่องอื้อฉาวของฟีฟ่าขึ้นมา แล้วก็มีคนเสนอให้อังกฤษรับเป็นเจ้าภาพแข่งกับรัสเซียโดยเอากาตาร์บังหน้า
    งานนี้มองได้อย่างน้อยสองทาง คือ1.) บางคนกำลังยุให้อังกฤษรับเป็นเจ้าภาพแข่งกับรัสเซีย พูดให้ชัดก็คือให้รัสเซียกับอังกฤษทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้เป็นเหตุ นั่นแหละงานถนัดของบางคนหละ ทางอังกฤษรู้ว่าถ้ารับมุกนี้เสร็จรัสเซียแน่ อันตรายใหญ่หลวงเลย เพราะรัสเซียได้ลงทุนจัดเตรียมงานไปเยอะมากแล้ว อังกฤษจึงแกล้งโยนไปให้สหรัฐฯแทน 2.) สหรัฐฯและอังกฤษรู้กัน ถ้าสหรัฐฯออกตัวรับเป็นเจ้าภาพแต่แรกก็จะดูน่าเกลียดเกินไป ไม่เนียน จึงแกล้งโยนลูกไปให้อังกฤษโดยรู้อยู่แล้วว่าอังกฤษไม่กล้าเตะตัดขาดรัสเซียในกรณีนี้แน่นอน จากนั้นก็ให้อังกฤษส่งลูกกลับไปให้สหรัฐฯอีกครั้ง แต่ยังไม่เห็นสหรัฐฯออกมาปฏิเสธข่าวนี้นะ สงสัยคงแอบยิ้มหรือฝันหวานอยู่มั๊ง
    The Eyes
    07/06/2558
    -----------
    England Refuses to Host 2018, 2022 World Cups, if Votes Re-Open / Sputnik International
    England Could Host 2022 FIFA World Cup if Qatar Bid Proves Corrupt / Sputnik International
    http://en.wikipedia.org/wiki/FIFA_World_Cup
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "อเมริกากับการดูดเงินออมทั่วโลกไปปรนเปรอมาเฟียการเงินวอลล์สตรีท ... เพื่อครองการเงินโลก = สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 3"
    ... "อเมริกา" โดยการนำของ Bank Cartel หรือกลุ่มมาเฟียทางการเงิน การธนาคารของโลกได้พยายามที่จะ "ดูดเอาเงินออม" ของทั่วโลกไปใช้พัฒนาประเทศตัวเองและไปเก็งกำไรสร้างความยิ่งใหญ่พุงกางกับ "วอลล์สตรีทและBank Cartel" ( เช่น โดยผ่านการขายเงินกระดาษดอลล่าร์ที่ไม่มีสินทรัพย์ใดๆในการค้ำเพื่อผลิตเงินออกมา ค่าเงินต่ำคนชั้นล่างต้องทำงานหนักมากกว่าเดิม ทำให้เงินเฟ้อไปทั่วโลก และดูดเงินจาก ธนาคาร ประกันภัยไปประเคนวอลล์สตรีท เพื่อจะไปปรนเปรอคนชั้นสูง )
    ... โดยวิธีการทำนั้นอเมริกาพยายามที่จะ "ดูดเงินออม" จากทั่วโลกโดยเฉพาะจากเอเชียและประเทศตลาดเกิดใหม่เช่นกลุ่ม BRICS ที่ยี่สิบปีมาหลังมีเงินเก็บเยอะมาก โดยผ่านทาง "ตลาดหุ้น ธนาคาร วาณิชธนกิจ การประกันภัย พันธบัตร" หรือการค้าเงินดอล่าร์ โดยสามอย่างแรกนั้น ( ธนาคาร วาณิชธนกิจ การประกันภัย ) อเมริกาพยายามดันกฎหมายการ "ควบรวมกิจการ" ที่จะทำให้เงินออมจาก การประกันภัย และ ธนาคาร ผ่านตกมาอยู่ในกระเป๋าของ "วาณิชธนกิจ" ที่เป็นตัวละครหลักในการเอาเงินไป "เก็งกำไร" ใน "ตลาดหุ้น" เงินออมทั่วโลกจะตกไปอยู่ในนั้น เพื่อให้นักลงทุน นายหน้า นายธนาคารสามารถปั่นสร้างกำไรได้มากยิ่งขึ้น Bank Cartel หรือกลุ่มมาเฟียทางการเงิน วอลล์สตรีทยิ่งกล้ามใหญ่ตัวโตคับฟ้ามากขึ้นอีก
    ... โดยพยายามบีบปั่นป่วนให่การซื้อขายแบบอื่นดูไร้ค่า ไม่มีกำไรมากเท่าแม้แต่การค้าทองก็มีพวกพยายามทุบราคาทองเพื่อให้คนเหนื่อยหน่ายหันไปค้าและเก็งกำไรในตลาดหุ้นแทน
    ... สิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลในโลกและเกิดสงครามโลกในที่สุด
    ... หลังจากที่เอเชียและตลาดเกิดใหม่เศรษฐกิจเติบโตเกิดเงินออมมากมาย อเมริกาก็พยายามดึงเงินเหล่านี้มาจากประเทศเหล่านั้น ( อเมริกาลอกแบบอังกฤษในอดีต ) เช่นขายเงินดอลล่าร์ให้เป็นเงินเก็บในรูป “ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ” หรือ “พันธบ้ตรรัฐบาล” เป็นต้น ซึ่งทั้งโลกตอนนี้มีเงินดอลล่าร์เป็นเงินเก็บเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทั้งๆเงินนั้นผลิตออกมาจากกระดาษเปล่าๆ ไม่มีทองค้ำประกันการผลิตเลย
    ... เอเชียและทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่ จึงคือ "เจ้าหนี้ของอเมริกา" ที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำในระยะยาวให้อเมริกาเอาเงินไปถลุงเล่นพัฒนาประเทศและ “เก็งกำไรจนเพลิน” ในตลาดหุ้นแต่เมื่อคิดเสร็จสรรพแล้วดอกเบี้ยที่ได้คืนแทบจะไม่ได้อะไรเพราะอเมริกาพยายามทำเงินตัวเองให้แข็งทำให้อัตราแลกเปลี่ยนตอนที่จ่ายดอกเบี้ยคืนมาน้อยมาก นี่คือหลักการของอเมริกา ได้เงินใช้ฟรีๆ เหมือน "ประเทศแห่งธนาคาร"
    ... เพราะใครก็ตามที่พยายามทำให้ค่าเงินดอลล่าร์ของอเมริกาตกต่ำ เช่น กัดดาฟี กับ ซัดดัม ฮุสเซนพยายามจะใช้เงินสกุลดีน่าร์และยูโรในการซื้อขายน้ำมัน ที่จะมีผลให้ดอลล่าร์ตกต่ำลง และต้องจ่ายดอกเบี้นเงินกู้ดังกล่าวมากขึ้น ก็ต้องมีอันเป็นไปทุกคน โดยอ้างว่าเป็นเผด็จการบ้าง มีอาวุธร้ายแรงบ้าง หรือแม้แต่ นายโดมินิค สเตราน์ คาห์น ผู้ว่า IMF ที่พยายามลดบทบาทความสำคัญและปริมาณเงินดอลล่าร์ในตระกร้าของ IMF ลงก็ต้องมาโดนคดีการลวนลามแม่บ้านในโรงแรมเสียอนาคตทางการเมืองที่สดใสไปอีกคน
    ... โดยอเมริกามีหลายวิธีการในการเอาเงินออมทั่วโลกไปในตลาดเก็งกำไร เช่น ยกเลิกกฎหมาย “กลาสส์และสตีกัล” ( 1933 - 1987 ) ที่เหมือนกำแพงกั้นไม่ให้ธนาคารกับวาณิชธนกิจเชื่อมต่อกันได้ เพราะไม่อยากให้เงินฝากของคนอเมริกาถูกดูดไปให้นักเก็งกำไรสร้างกำไรให้พวกวอลล์ สตรีท ที่ชอบอ้างว่าเอาเงินไปลงทุน ทั้งที่ความจริงเงินลงทุน Real Sector มีไม่กี่เปอร์เซนท์เท่านั้น
    ... นอกจากแก้ไขกฎหมายเช่นนั้นแล้วก็แก้ไขกฎหมายการควบรวมกิจการ ทั้งระหว่างธนาคาร หรือระหว่าง ธนาคาร ประกันภัย และวาณิชธนกิจ เพื่อรวมเงินออมทั่วโลกไปกองที่เดียวกันในตลาดเก็งกำไร ที่ยื่งทำให้พวกวอลล์สตรีท หรือ Bank Cartel ร่ำรวยมากขึ้น ครอบครองโลกได้เบ็ตเสร็จมากขึ้นอีก
    ... โดยการที่ระบบโลกออนไลน์เป็นดิจิตัลยิ่งทำให้การทำงานของเครือข่ายพวกเขาง่ายดายมากขึ้น
    ... พวกเขาพยายามสนับสนุน “การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ” เพื่อจะเอาทรัพย์สินของรัฐในประเทศต่างๆในหลายรูปแบบของทั่วโลกเอาไปเป็น “ตัวดึงดูด” ให้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งการฝากเงินออมเงินที่ดีที่น่ายั่วยวนแห่งเดียวของโลกต่อไปอีก โดยอ้างเหตุผลต่างๆมากมาย ว่ารัฐดูแลไม่ดีเท่าเอกชน ( รวมทั้งระบบการศึกษาเอง เช่นมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ที่อาจารย์ไทยยังมองไม่เห็นผลร้าย )
    ... เงินออมทั่วโลกแทนที่จะเอาไปลงทุนในภาคการผลิตจริงๆ พัฒนาจริงๆ กลับเอาไปเก็งกำไรในตลาดหุ้น ตลาดเงิน ตลาดอนุพันธ์ซื้อขายล่วงหน้า เงินไปเน่าจนบวมเป่งเริ่มจะฟองสบู่แตกในเร็ววันแล้ว จนปี 2008 เกิดวิกฤติครั้งใหญ่แต่อเมริกาก็ไม่เข็ด
    ... และวิกฤติครั้งนี้เองที่เกิดความไม่สมดุลของการพยายามครอบครองการเงินโลกของอเมริกา “จีน” เริ่มพยายามตีตัวออกห่างจากดอลล่าร์ โดยการรวมตัวกันบีบให้ลดสัดส่วนดอลล่าร์ในระบบการเงินโลกลง โดยพยายามตั้งองค์ทางการเงินมาแข่งเช่น AIIB หรือธนาคารของกลุ่ม BRICS เป็นต้น ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า เรื่องนี้เองที่เป็นสาเหตุให้ “อเมริกา” สร้าง “สงครามยูเครน” ขึ้นมาเพื่อตัดกำลัง “รัสเซีย” ซึ่งเป็นสมาชิกของสำคัญของกลุ่มนี้ในยุโรป เพื่อรักษาอำนาจทางการเงิน ที่อังกฤษเคยสอนอเมริกาว่า “ถ้าอยากครองโลกต้องครอบครองระบบการเงินโลกให้ได้ก่อน”
    ... แถม "จีน" จะไปเน้นการพัฒนาตลาดภายในประเทศลดการส่งออกไปอเมริกา ยุโรปน้อยลง ยิ่งทำให่เศรษฐกิจโลกและดอลล่าร์ลดค่าลงเรื่อยๆ ที่อเมริกายอมรับไม่ได้
    ... และจากวิกฤติปี 2008 หลายประเทศได้เรียกร้องให้มีการทบทวนระบบการเงินโลกใหม่ ทั้งลดอำนาจของวอลล์สตรีทลง กลับมาใช้กฎหมาย “กลาสและสตีกัลล์” อีกครั้ง เพิ่มมาตรการลงโทษบริษัทในวอลล์สตรีทที่สร้าง CDO, CDS มาป่วนกิเลสชาวโลก พยายามรั้งกฎหมายเปิดเสรีทางการเงินถ้าประเทศใดๆยังไม่พร้อม แต่ทุกอย่างที่ร้องไป อเมริกาก็ทำเฉยเสีย เพราะมันคือการเสียอำนาจทางการเงินของอเมริกา คืออำนาจในการครองโลกของพวก Bank Cartel
    ... ดังนั้นสาเหตุที่แท้จริงของ “สงครามโลก ครั้งที่ 3 “ นั้น คือความไม่สมดุลทางการเงินที่ประเทศมหาอำนาจเดิมพยายามรั้งเอาไว้ โดยการสร้างสถานการณ์ต่างๆขึ้นมาเพื่อแค่เป็นข้ออ้างในการรักษาอำนาจตัวเองไว้ให้นานที่สุดนั้นเอง
    ... ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลไทยจะลดการครองดอลล่าร์ในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศแล้วหันมาสะสมทองแบบที่หลวงตาบัวแนะนำ ลดการเล่นหุ้นเพื่อสร้างให้วอลล์สตรีทร่ำรวย สร้าง "การออมแบบใหม่ที่ยั่งยืนและพอเพียง" เช่นระบบสหกรณ์ในแต่ละชุมชนในหลายระดับ ไม่เปิดเสรีทางการเงินแบบไม่มีการควบคุมและรอบคอบ ไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจและสถาบันการศึกษา แล้วหาแนวทางของเราเองในการเอาเงินออมมาสร้างความเจริญให้เราเองแม้จะช้าแต่ก็มั่นคงกว่า
    ... ผีเสื้อที่อยากเป็นนกอินทรีย์นั้นไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะถึงวันหนึ่งที่เริ่มโตก็จะถูกนกอินทรีย์จิกตายในท้ายที่สุด
    .
    เครดิตหนังสือ “เศรษฐกิจล่มสลาย : จุดจบของยุคแห่งความโลภ” โดย พอล เมสัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2015
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    กองทัพอากาศสหรัฐที่กำลัง ใช้ปฏิบัติการร่วมกับพันธมิตร เพื่อทำสงครามต่อต้านเครือข่าย ISIS ในอิรัก ทำการโจมตีพลาดเป้าหมายนะครับ ระเบิดไปถล่มทหารอิรักที่ประจำการในฐานทัพ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ก่อนหน้านั้นเมื่อปีที่แล้ว เครื่องบินสัญชาติอเมริกัน ก็ทำการทิ้งอาวุธ กระสุนและวัตถุระเบิดตกในพื้นที่ ยึดครองของเครือข่ายISIS ขณะที่กำลังเพลี่ยงพล้ำต่อกองทัพอิรัก
    U.S. Airdrops Weapons to ISIS as Iraqi Army Makes Gains | Global Research - Centre for Research on Globalization

    มาปีนี้แทนที่จะทิ้งกระสุนพลาดเป้าบ้าง ตกในกองทัพอิรักบ้าง กลายเป็นว่า ทิ้งระเบิดพลาดเป้าไปถล่มกองกำลังอิรัก ที่กำลังต่อสู้กับเครือข่ายISIS .."บังเอิญจริงๆ"..
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    12. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
    ผมเคยคุยกับลุงMarc Faber นักลงทุนชื่อดังระดับโลกเมื่อซัก2ปีมาแล้ว เขาบอกว่าเขาไม่เชื่อว่าเงินเฟ้อของไทยอยู่ที่2%-3%ตามที่ทางการบอก เงินเฟ้อที่แท้จริงของไทยน่าจะอยู่ที่8%-10% ผมก็เชื่อเช่นนั้น
    วิธีการวัดเงินเฟ้อConsumer Price Indexของไทยก็คงคล้ายๆกับของฝรั่ง ถึงได้เงินเฟ้อที่ต่ำกว่าสภาวะความเป็นจริงมาก อย่างไรก็ตามในเมืองไทยยังไม่มีใครสร้างระบบวัดดัชนีเงินเฟ้อใหม่เพื่อมาเทียบกับของทางการ เหมือนกับที่Chapwood Index หรือShadowstatsได้ทำที่สหรัฐฯที่ให้ตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าของทางการอย่างมาก
    ตอนนี้มีความเป็นกังวลใจว่าไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะว่าเงินเฟ้อติดลบไปแล้ว
    จากรายงานของไทยรัฐ:
    "ผู้ตรวจราชการ ก.พาณิชย์เผยเงินเฟ้อ มี.ค. ติดลบ 0.57% สูงสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน แต่ยังไม่ใช่ภาวะเงินฝืด เหตุคนยังซื้อสินค้าและผู้ประกอบการไม่ได้ลดกำลังการผลิต...
    เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน มี.ค. 2558 ว่า เท่ากับ 106.33 ลดลง 0.57% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค. 2557 ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่อง 3 เดือนในรอบปีนี้ และติดลบสูงสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน หรือ 66 เดือน นับจากเดือน ก.ย. 2552 แต่เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 2558 สูงขึ้น 0.17% ขณะที่เฉลี่ย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค. 2558) ลดลง 0.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
    สำหรับสาเหตุทำให้เงินเฟ้อเดือน มี.ค. ลดลง 0.57% เป็นผลจากดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.53% จากการลดลงของน้ำมันเชื้อเพลิง 19.49% ค่าการสื่อสาร 0.03% นอกจากนั้น ราคาปรับขึ้น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าหอพักเพิ่ม 1.34% ค่าโดยสารสาธารณะเพิ่ม 1.53% เหล้า บุหรี่ เพิ่ม 1.52% เป็นต้น ส่วนดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่ม 1.25% จากการสูงขึ้นของอาหารบริโภคนอกบ้าน (อาหารปรุงสำเร็จ) 3.27% อาหารบริโภคในบ้าน 2.18% เครื่องประกอบอาหาร 2.53% ผักสด 2.77% เป็นต้น
    นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 2 คาดว่ายังคงลดลงต่อเนื่อง และน่าจะติดลบ 0.5-0.7% หลังจากนั้น น่าจะทยอยสูงขึ้น เพราะราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น โดยในปีนี้ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในกรอบ 0.6-1.3% ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจไทยปี 2558 ขยายตัว 3-4% น้ำมันดิบตลาดดูไบเฉลี่ย 50-60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยน 32-34 บาท/เหรียญสหรัฐฯ
    "ยืนยันว่าเงินเฟ้อที่ลดลง ยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะเงินเฟ้อพื้นฐานยังขยายตัวอยู่ โดยในเดือน ก.พ. 58 ขยายตัว 1.31% การเกิดเงินฝืดคงดูที่ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะเกิดขึ้นต่อเมื่อคนไม่คิดจะซื้อสินค้า คนขายของจึงต้องลดราคาสินค้าลงไป ถ้าเข้าสู่ภาวะนั้นจะเห็นภาพเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงกว่านี้ เหมือนกับปี 52 ที่เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่อง 6-7 เดือน แต่ก็ไม่ได้เกิดเงินฝืด แต่เป็นเพราะรัฐบาลมีมาตรการเยอะมาก ที่จะทำให้ราคาสินค้าและพลังงานลดลง" ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว."
    ภาพหรือตัวเลขของเงินเฟ้อที่ทางการให้มา กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นที่ชาวบ้านหรือประชาชนทั่วไปรู้สึก มันช่างต่างกันราวกับฟ้าและดิน เพราะว่าคนไทยแทบจะทุกคนรู้สึกว่าข้าวของแพงขึ้นอย่างมาก หรือไม่ก็ซื้อขอได้ราคาเท่าเดิมแต่ปริมาณลดลงอย่างมาก เงินที่อยู่ในมือเป็นbad moneyขึ้นทุกวัน แต่ไม่รู้จะไปบ่นกับใคร
    thanong
    7/6/2015
    เงินเฟ้อ มี.ค. ติดลบ 0.57% สูงสุดในรอบ 5 ปี 6 เดือน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    13. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
    หลังจากขอความร่วมมือให้แฟนคลับช่วยเขียนเข้ามาให้ข้อมูลเรื่องเงินเฟ้อ จะได้แชร์กันสร้าง Thanong Fanclub Bad Money Index ปรากฎว่าทุกคนมีความเห็นหรือมีข้อมูลเหมือนกันหมดว่าข้าวของและค่าครองชีพเมืองไทยสูงขึ้นมาก ไม่มีใครรู้สึกว่าเงินเฟ้อติดลบเลยแม้แต่คนเดียว
    ลองอ่านดู:
    Jittanart Chanpong ในยุคที่เงินเฟ้อกำลังไล่ล่าพวกเราทุกคน
    เรามาดูดัชนีชี้วัดรอบตัวเรากันครับ
    วันนี้ไปจ่ายตลาดครับ สั่งสุกี้น้ำหนึ่งถุงเอาแต่ผัก
    ราคาขึ้นเป็น 50 บาทแล้ววว OMG !!!
    จากเดิม 35-40 บาท นี่ขึ้นราคากัน ขั้นต่ำ 25% กันเลยทีเดียว
    เดือนที่แล้ว แวะกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำร้านข้างทางเจ้าประจำ แถวบางบัวทอง จากราคาต้นปี 30 บาท ขึ้นเป็น 40 บาทแล้ว นี่มัน เงินเฟ้อระดับ 33.33% เลยนะ
    ร้อนๆเดินเข้า 7-11 จะกินไอติมวอลล์สักนอย
    เห็นไอติม เอเชี่ยนดีไลน์ รสเผือก น่ากินจัง แต่ทว่า จากราคา 12 บาท เป็น 15 บาท แว้ววนะฮว้าฟฟ
    เงินเฟ้อตั้ง 25% อีกแล้วว
    อย่าเห็นว่าแค่ บาท สองบาท ลองเอามาคิดเป็นเปอร์เซน แล้วจะต๊กกะใจ
    เผลอคิดในใจ ฤๅ บ้านเมืองเราจะเป็น ซิมบับเวแล้วรึไร
    คือ เมาค้าง เลยขี้บ่น นิดนึง
    Pump Ka Note Pachi ราคาเนื้อหมูในตจว จากเดิม140-150/กิโล ที่เกิดขึ้นคือราคาลดลงเหลือ100บาท/กิโล เดิมเขียงสามารถขายหมดได้ที่ราคาเดิม แต่พอกำลังซื้อเริ่มลดเลยขายไม่หมด ที่ราคาเดิมพ่อค้าซื้อหมูบริษัทมาขายเลยต้องขายแพง พอขายไม่ได้พ่อค้าเลยเปลี่ยนไปซื้อหมูจากฟาร์มในท้องถิ่นตัวเองที่เป็นผู้เลี้ยงรายย่อย เลยได้ทุนที่ต่ำลงขายได้ถูกลง
    Paul Akradejadhama Walker ชอบตรงนี้มากครับ อยากให้ทั้งประเทศคิดได้แบบนี้ หันกลับไปอุดหนุนสินค้าจากรายย่อยโดยตรง สนับสนุนกันแบบนี้ เราจะอยู่กันได้อย่างมีสุขครับ เช่นอำเภอนี้ถ้าอยากได้หมูอร่อยก็ต้องไปซื้อจากตำบลนี้ หมู่บ้านนี้ กลุ่มเกษตรกรกลุ่มนี้นะ เพราะจะได้ของสด ดี อร่อย ราคายุติธรรม อยากได้ไก่เนื้อ ไก่บ้าน คุณภาพดีก็ต้องไปซื้อจากอีกตำบล หมู่บ้าน กลุ่มเกษตรกรอีกกลุ่ม แล้วทุกคนก็จะอยู่ยั้งยืนยง มีความสุข ภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำ
    Laosnoi Jimmy ถ้ากลับไทย แฟนชอบซื้อเนื้อจากตลาดสด ที่ชาวบ้านทำเองถึงมีแมลงวันตอมหึ่งๆ แต่เอามาทำกับข้าวอร่อยกว่า ซื้อเป็นแพคๆๆสวยๆ ในห้าง เธอบอกรสชาดไม่อร่อยเหมือนซื้อจากตลาดสด
    Waab Pathan ช่วยกันรวบรวมข้อมูลย้อนหลัง ของอุปโภค บริโภค ตามห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี แมคโคร โลตัส เซเว่น ล้วนแอบขยับขึ้นราคามาตลอด สินค้าบางชนิด ราคาเดิม แต่ลดปริมาณ
    Tcc Bkk ผลไม้รถเข็น มะม่วงเขมร ลูกใหญ่แต่แสนจะไม่อร่อย ราคาลูกละ 20 บาท ฝรั่งแป้นสีทอง ลูกใหญ่ขาย 30 บาท สมัยรัฐบาลมาร์ค ผลไม้รถเข็นทุกอย่างยัง 10 บาทอยู่เลยค่ะ ตอนนั้นทองก็แพงแล้วนะ ส่วนข้าวแกงกินราคา 15 บาทมาตลอด เพราะทานข้าวน้อย แม่ค้าลดให้ เดี๋ยวนี้กับข้..
    Patcharee Kathintong เขียนไม่หมดหรอกค่ะ อาหารการกินขึ้นราคาเนี่ย ทั้งขึ้นราคาแถมปริมาณน้อยมากก๋วยเตี๋ยวเนี่ยเท่ากับเกือบเท่าก๋วยเตี๋ยวเรือแล้ว กินเบิ้ลถึงจะอิ่มเท่ากับมื้อละเกือบร้อย ขนาดต่างจังหวัดข้าวต้มเครื่องยังขายเป็นถ้วย ไม่ใช่ชาม
    สุชาดา จิรฐานกุล เทสโก้พระราม9 ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น 55บาทจากเคยกิน 40บาทมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้กินไม่ถึง 8คำ ลูกชิ้นหมูอุดมด้วยแป้ง จะแพงอารายขนาดน้าน แพงแล้วกินได้ก็ยังสมยอม แพงแล้วแดร๊กไม่ได้ลาขาด
    Chocco Late เรากินอาหารตามร้านและริมถนน ราคาสูงแต่หนูเห็นร้านอาหารในห้างกับร้านสะดวกซื้อ อาหารแพงมากคนกินในห้างเพียบ ร้านสะดวกซื้อข้าวกล่องแถมแช่แข็งด้วย ราคาไม่ถูกนะ ได้ข้าวกะปิดเดียว
    Yannakit Bumroongpan ร้านโจ๊กแถวบ้านตอนต้นปีนี้เอง น้ำมันก็ลดราคา ข้าวก็ราคาตก หมูก็ราคาปกติ ค่าแรงขั้นต่ำก็ไม่ได้ขึ้น สงสัยจังว่าต้นทุนอะไรเพิ่มขึ้น
    Thanakorn Wean จะออกไปขายของ แต่เดินทางก็มีค่าใช้จ่ายแล้ว ในขณะที่ยังไม่รู้ว่าจะขายของได้เปล่า เงินยังไม่เข้าแต่ ต้นทุนเพียบ
    Suneewan Pensook ข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง
    หมัยก่อนสิบบาท ตอนนี้ก้อสิบห้าบาทค่ะ
    ส่วนก๋วยเตี๋ยวตอนนี้ที่ภูเก็ตไม่ตํ่ากว่าชามละ35 บาท( ยกเว้น ก๋วยเตี๋ยวเรือที่ให้น้อยถ้าราคาตํ่า ต้องกินเบิ้ล2-3 ชาม)
    เฉลิม แฟงสุต แต่ผมอยากรู้ใครเป็นคนอนุญาติให้พวกร้านอาหารตามสั่งทั่วไปขึ้นเป็น35-40บาทครับราคา30นี่ยังพอรู้เพราะเป็นข่าวอยู่..หรือแอบขึ้นกันเองจนระบาดไปเกือบทั่วประเทศแล้ว..
    Sukanya Su ปาท่องโก้ เคยซื้อตัวละ 2 บาท แล้วก็ขึ้นเป็น 2.50 บาท แป๊บเดียวจากตัวใหญ่ก็กลายเป็นตัวเล็กลงมาครึ่งหนึ่ง เฮ้อ!?!?
    Srang Ban ราคาไม่ขึ้น แต่ปริมาณลด
    Pimolwan Thongbut ก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ไม่ได้อยู่ในห้องแถว ก็ขายห่อละ 40 บาท เส้นใหญ่ลูกชิ้นปลาธรรมดา
    Narudsaruk Likitcharoenkron พี่ตัวเลขทางการเชื่อถือได้หรือคะ
    Chantira Beverley ไม่เคยเชื่อหรอกคะ. เชื่อเงินในกระเป๋าเรา 100 หนึ่งซื้ออะไรก็ไม่ได้แล้ว ออกจากบ้านมีเงิน 200 ยังกลัวเลย
    Phutana Mitrchob เงินค่าของมันน้อยมากๆแค่ระดับข้างฟุตบาทกินพอประทังหิวอย่สงน้อยต้องจ่าย 40 ขึ้น/มื้อ และแถมยังอยู่ในภาวะฝืดอีกสรุปคือเฟ้อและฝืดเรื่องจริงเพราะขายของตลาดนัดเปิดท้าย
    JimJa Java ถ้าส้มตำเคยกิน30บาทแล้วตอนนี้กินขึ้นเป็น40บาท เท่ากับอัตราเงินเฟ้อส่วนบุคลของส้มตำ เพิ่มขึ้น 33.33%คะ
    Man Nie กับข้าวมังสวิรัตคลองเตย 20 บาท ทานกับข้าวหุงเองที่ออฟฟิศ กับข้าวเจ้แอ๋ว30ถึง50 แล้วแต่ปรมาณเน้อสัตว์ครับ
    นิรนาม กำลังสาม ของเซเว่นขึ้นทุกเดือน ค่อยๆทยอยขึ้นทีละหลายรายการ สลับกันขึ้นไปเรื่อยๆจนครบ ชิ้นละบาทบ้าง สองบาทบ้างเป็นงี้ตลอด
    Korn Xern หมูยอชื่อดังยี่ห้อป้าปี๋ราคา3ก้อนร้อยบาทเปลี่ยนเป็นสามก้อน114บาท
    เจ้าชาย อสูร ปุ๋ยใส่ข้าวสูตร 16-8-8 จากถุง 300 ในเป็น 600 และขึ้นเป็น 800 โดยไม่มีการปรับราคาลงอีก แต่ราคาข้าวขึ้นๆลงๆ ปริมาณการเก็บเกี่ยวนับวันยิ่งได้น้อยลงทั้งๆที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น สวนทาง
    Tim Piyabhan ตลาดมโนรมย์ ใกล้ๆ ซาฟารีเวิลด์ แกงถุง กับข้าวถุง จากเดิมทุกร้าน ขายถุงละ 30 บาท แต่เมื่อต้นปี 58 ก็ปรับเป็น 35-40 บาทครับ .. แพงขึ้น แต่ไม่เห็นมีใครบ่น คงจำทนรับสภาพครับ ^^"
    Nita San แกงถุง กับข้าวสำเร็จรูป ขึ้นจาก 25 บาทเป็น 30 บาท
    อาหารตามสั่ง จาก 30 บาทไปอยู่ที่ 35 บาท
    Orn Kul ก๋วยเตี๋ยวหน้าทางเข้าหมู่บ้าน เมื่อก่อนชามละ 25 พอน้ำมันแพงขึ้นเปน30 พอน้ำมันพืชขึ้นราคาขึ้นเปน35 พอผักแพง ขึ้นเปน40
    Antonio Oattono ลูกชิ้นหมูปิ้ง ร้านลูกชิ้นทิพย์ ที่ขายตามห้างหน้า food court จาก 5 ขึ้นเป็น 8 บาท ประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมาเองครับ
    Narudsaruk Likitcharoenkron หว้า ตอนนี้ของถูกต้องตลาดน้ำ อาหร่อยและถูก ราคา 20 บาทยังซื้อง่ายขายคล่อง ก๊วยเตี๋ยวนายเงี๊ยบที่พุทธมณฑล ปีก่อนธรรมดา 35 บาท พิเศษ 40 บาท น้ำอ้อยขวดใหญ่ 25 บาท มาปีนี้ ธรรมดา 50 บาท พิเศษ 60 บาท น้ำอ้อยขวดใหญ่ 40 บาท เฟ้อน่าดู เงินร้อยบาทมีอำนาจซื้อแค่ 90 บาทเอง
    Pump Ka Note Pachi นมUHT enfagrow ราคาแม็คโคร ยกลัง24กล่อง จาก365 เป็น422
    Kitty Plus ต่างจังหวัด-กับข้าวถุงจากราคา30ทุกอย่างปรับเป็น40-45-50บาท แล้วแต่เมนู วิธีควบคุมเงินจากซื้อ5ถุงก็จะลดเหลือ4ถุง อิ่มแบบไม่เหลือ
    ศิริบุญ มิตร ไมตรี ไม่ได้แพงเฉพาะอาหารนะคะ น้ำดิ่ม น้ำปั่น กาแฟ แพงมากราคาแพงเท่าข้าวเลย ผลไม้แต่ละอย่างก็แทบซื้อไม่ลง เวลาออกนอกบ้านต้องกำเงินให้แน่น ๆ คะ
    พราวนภา ธรรมโชติ ตอนนี้ กินเพื่ออยู่ ลดความอยากไปให้หมด เงินเหลือแน่นอน
    Peeraphong Varasen เงินกระดาษไหลเข้ามา จากประเทศอัตราดบ. 0 % สู่ประเทศที่มีอัดตราดบ. 1.5 % แต่ตอนนี้เงินจากไทยก็ไหลไปลาว มากเหมือนกันเพราะดอกเบี้ย 3 กว่า ๆ
    Thong Phonghanyudh ปี 48 เรียนจบ ซื้อทอง1 บาท 1 เส้น 8300 บาทครับ ..... สมัยป.5 (ปี35) พ่อเติมน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 8 บาทครับ
    สไตล์ ตัวพ่อ อาหารแพงมาก เงินหายากมากขึ้นไปอีก ทั้งทั้งที่ สยามเรา เป็นอู่ข้าวอู่น้ำแท้แท้
    กิ่งไผ่ กับนู๋ปุ๊กกี้ อยากจะปลูกผัก เลี้ยงไก่ เอาไข่กินเองเลยค่ะ..
    แต่ไม่มีที่ดิน 555
    Somyat Kumpala ก๋วยเตี๋ยว ซี่โครงหมู ห้างฉัตรลำปาง จากธรรมดา 35 พิเศษ 40 เดี่ยวนี้ ธรรมดา 40 พิเศษ 50 บาท
    Cherd Chai Khantee ถ้าเมื่อ 3-4 ปี ก่อน ก๋วยเตี๋ยวชามล่ะ 20-25 ตอนนี้ 40-45 บาท กับข้าวถุงๆละ 15 ตอนนี้ 25-30 บาท อาหารตามสั่ง 20-30 บาท ตอนนี้ 35-40 บาท ไข่ดาวฟองละ 8-10 บาท ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว ตั้งแต่ค่าแรงขึ้น 300 ทุกอย่างขยับหมด คนที่เงินเดือน ก่อนค่าแรงขึ้น ที..
    Chaiyawat Choophan ปลาทูจากแข่งละ40 บาท ขึ้นไป 50 60 แล้ว
    Thongchai Na Chiangmai ซื้อลาบ 1 ถุง พะโล้ 1ถุงมีไข่ 2 ฟองเต้าหู้หมูมีครบ ข้าวเปล่า 2 ถุง 65 บาท กินได้ 2 มื้อ
    Srssr Siri ส้มตำ 30 เป็น 40 ทุเรียนหมอนทองเคยกินโลละ 70-80 วันนี้โลละ 120 เจ้าเดิมนะคะ
    Manee Ganjana ก๋วยเตี๋ยวเรื้อสามย่าน เนื้องวัดสันติธรรมเชียงใหม่ เดิม30ขึ้นเป็น40 พอค่าแรง300/วัน ขึ้นเป็น50 มีอีกร้าน ก๋วยเตี๋ยวโคขุน ธรรมดา60 พิเศษ 100 จำใจกินเพราะของขอบ
    Kung Voi ข้าว+ไข่เจียวชะอมแผ่บางๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6" ราดน้ำพริกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ราคา 50 บาท ที่ตลาดนัดในมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่งแถวอนุสาวรีย์ !!!
    Akimoto Makoto ข้าวแกงแถวบ้านเดี๋ยวนี้สองอย่างก็ 45 แล้วครับ ถ้าในห้างก็ 65-70 แพงมากกก
    Chawalak Wiangwises บ้านอยู่ใกล้ตลาดห้วยขวาง อาหารจานเดียวตอนปี 54 ราคา 25 บ. หลังขึ้นค่าแรงปี 55 ปรับขึ้นเป็น 30 บ. ปัจจุบันต่ำสุดที่หาทานได้คือ 35 บ.ท
    Jackychy White ที่ภูเก็ตค่าแรงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์ปี57 ราคา200บาท ปีนี้300บาท หมี่ฮกเกี้ยนเมื่อ5ปีก่อนราคา 30บาทใส่ใข่ 35 ตอนปี58 ราคา50บาท ใส่ไข่ 60-70บาท ข้าวกระเพราหมู 45บาท ใส่ไข่ 50 บาท ข้าวกระเพรากุ้ง 60บาท ใส่ไข่ 70บาท เดี๋ยวนี้ขึ้นราคาเกินจริง
    Araya Pop B แถวหน้ารามของถูกกว่าที่อื่นแยะ ข้าวแดงกับข้าว2อย่างน้ำพริกผักสดฟรี40บาทค่ะ
    Suwanna Mongkoladisai อาหารญี่ปุ่นเคยเซ็ตล่ะ 240฿ กลายเป็น 340฿ หลังค่าแรงขึ้นเป็น 300฿
    Suwanna Mongkoladisai ทุเรียนหมอนทองขายข้างถนน ลูกล่ะ 400-500฿ 3 กิโลกว่า
    Narub Chamsrisai ฃลบุรีกับข้าวถุงจาก 30 ขึ้นเป็น 35-40 แล้วครับ
    เอนก เอกลักษณ์ ลูกอม 3 เม็ดบาท กลายเป็น 3 เม็ด 2 บาท
    ไข่ฟอง 2 บาท กลายเป็น 4 บาท
    ถ่าน AA ก้อน 2 บาท เป็น 6 บาท
    Aon Moso จานละ 50 ท้องตลาดนะ ในร้าน75
    Pichaid Varoonchotikul จากเดิมทุกร้าน ขายถุงละ 30 บาท แต่เมื่อต้นปี 58 ก็ปรับเป็น 35-40 บาทครับ .. แสดงว่า เงินเฟ้อถึง16-30% แล้วครับ
    นคเดช แสงประจักร ข้าวแกงสกาล่าสยามสแควราดสองอย่าง40
    Mongkol Krangchit 2513_ก๋วยเตี๋ยว 3 บาท / 2558_40 บาท
    Napat Lim ร้านตัดผมบาร์เบอร์โต๊ะเรียง2ปีที่ผ่านมาจาก 50 60 70 ตอนนี้ 80 เกือบ100%
    Pu Sripisut ขนมปัง เจ้าประจำแถวอ่อนนุช ราคาถุงละ 20 บาท 6 ชิ้น ปัจจุบัน 20 บาท 5 ชิ้น ราคาเดิมแต่ลดปริมาณ
    Theem Tara ร้านก๋วยเตี๋ยวหลัง มช. เมื่อก่อนธรรมดา30 ตอนนี้ 35
    ปีเตอร์ แซ่โซว เคยกินก๋วยเตี๋ยว20บาทเดี๋ยวนี้60บาท
    Jonathan Lee เผ็ดตับแตก..หูดับตับไหม้..ประมาณนั้น
    Sathit Phong อืม
    PlaWhale Pakkhinee Thonglim ที่หมู่บ้าน
    ส้มตำไทยจานละ 60 ค่า
    I-tick Tick Tick ผมมีความสงสัยว่าถ้าของข้างนอกถูกกว่าในร้านสะดวกซื้อ อิลิทเมืองไทยคงเจ๊ง บิดเบือนรึตั้งใจให้เกิดรึป่าวครับ
    Panupant Viroonhamas ค่ากับข้าวต่ออาทิตย์จ่ายให้แม่บ้านเพื่อซื้อของมาทำกับข้าวเพิ่มจาก 1000 บาท มาอยู่ที่ 2500 บาทแล้วในช่วงนี้ครับ
    วรรณลดา ทิพย์สนเท่ห์ มะพร้าวอ่อนเลยค่ะลูกละ 25-30 บาท
    Chayut Lorthammakhun ไมโลผงจาก 1000g ลดปริมาณเหลือ 600g ยังขึ้นราคาอีกด้วย
    ******************************************************************
    ทุกคนรู้สึกได้ว่าเงินในกระเป๋าเป็นbad moneyหมด คือมีกำลังซื้อลดลง เพราะว่าสินค้าทุกอย่างดาหน้าขึ้นหมด แต่ทางการบอกว่าเรากำลังอยู่ภาวะเงินเฟ้อติดลบ มันอะไรกันนี่
    thanong
    7/6/2015
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Event ได้แชร์ลิงก์

    [​IMG]

    ยูเครนเตรียมความพร้อมสำหรับ 'การบุกรุกเต็มรูปแบบจากรัสเซียตามแนวชายแดน' 7 มิถุนายน 2558 เลขาธิการของนาโต้ Jens Stoltenberg ได้กล่าวว่า รัสเซียกำลังส่งอาวุธที่มีความซับซ้อน (มีอานุภาพที่ทำลายรุนแรงมาก) ให้กับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน

    Ukraine prepares for ‘full-scale Russian invasion along border’ as violence flares | Utopia
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แฉ! ฮิลลารีมือเปื้อนเลือด แอบส่งออก “อาวุธเคมี-อาวุธเชื้อโรค” ให้ รบ.เผด็จการ 9 ชาติใช้ฆ่า ปชช.แลกกับเงินบริจาคเข้า “บัญชีผัว” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    8 มิถุนายน 2558 05:08 น. (แก้ไขล่าสุด 8 มิถุนายน 2558 09:13 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลล่าสุดชี้ นางฮิลลารี คลินตัน อนุมัติให้มีการส่งออกอาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรคไปให้กับรัฐบาลเผด็จการของ 9 ประเทศในตะวันออกกลาง และแอฟริกา ในระหว่างที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แลกกับเงินบริจาคที่รัฐบาลเผด็จการเหล่านี้ต้องโอนเข้าบัญชีของสามี คือ อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน

    รายงานซึ่งถูกเผยแพร่โดย “อินเตอร์เนชันแนล บิสสิเนสส์ ไทม์ส” ระบุว่า ในช่วงที่ ฮิลลารี คลินตันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯนั้น มีการอนุมัติโดยฮิลลารี ให้ส่งมอบอาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรคในรูปแบบต่างๆ คิดเป็นมูลค่ากว่า 66 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,236 ล้านบาท) ให้กับรัฐบาลเผด็จการ 9 ประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกา เพื่อให้รัฐบาลเหล่านี้นำไปใช้ในการปราบปรามประชาชนที่ลุกฮือขึ้นขับไล่อำนาจเผด็จการจากผลพวงของปรากฏการณ์ “อาหรับสปริง”

    รายงานข่าวระบุว่า อาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรคที่ฮิลลารี คลินตัน ลงนามอนุมัติให้ส่งไปยังรัฐบาลเผด็จการทั้ง 9 ประเทศ จะถูกตีตราด้วยข้อมูลเท็จว่าเป็นเพียงแก๊สน้ำตาและอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนเท่านั้น

    หลังจากได้รับมอบอาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรคจากสหรัฐฯแล้ว รัฐบาลเผด็จการทั้ง 9 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย อียิปต์ (ในยุคฮอสนี มูบารัค), แอลจีเรีย, ตูนิเซีย, บาห์เรน, คูเวต, โมร็อกโก, โอมาน, กาตาร์ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะต้องทำการโอนเงินเข้าบัญชีของอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน สามีของฮิลลารี หรือบัญชีของมูลนิธิ คลินตัน ฟาวเดชัน ซึ่งเงินบริจาคที่มีมูลค่าระหว่าง 100,000 - 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อ 1 ครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะถูกระบุว่าเป็น “เงินค่าจ้างในการกล่าวสุนทรพจน์” ของบิล คลินตัน

    อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สองสามีภรรยาตระกูลคลินตันได้รับเงินบริจาคด้วยวิธีการเช่นนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้นเท่าใด และไม่เป็นที่เปิดเผยว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯทราบเรื่องอื้อฉาวในการนำอาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรคไปแลกกับเงินบริจาคของฮิลลารี - บิล คลินตัน หรือไม่


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000064589
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น” โวยิงทดสอบขีปนาวุธ SM-3 รุ่นใหม่สำเร็จ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2558 08:58 น. (แก้ไขล่าสุด 8 มิถุนายน 2558 09:17 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - สหรัฐฯ และญี่ปุ่นมีคำแถลงร่วมวานนี้ (7 มิ.ย.) เกี่ยวกับความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธ สแตนดาร์ด มิสไซล์-3 (SM-3) รุ่น IIA ของบริษัทเรย์ธีออน ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอาวุธร่วมระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่ใช้งบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    ริค เลห์เนอร์ โฆษกสำนักงานป้องกันขีปนาวุธสหรัฐฯ (MDA) ระบุว่า การยิงทดสอบขีปนาวุธจริงที่ พอยต์ มูกู ซี เรนจ์ นอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์ (6) ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

    เลห์เนอร์ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ทุ่มงบประมาณราว 2,000 ล้านดอลลาร์ให้กับโครงการพัฒนาขีปนาวุธรุ่นนี้ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นร่วมสนับสนุนเงินทุนอีกราว 1,000 ล้านดอลลาร์

    SM-3 IIA ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 นิ้วถูกพัฒนาต่อยอดมาจากขีปนาวุธ SM-3 รุ่นเดิม ซึ่งใช้งานในระบบป้องกัน-โจมตีแบบเอจิสที่บริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน คอร์ป เป็นผู้พัฒนา

    ริกี เอลลิสัน หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรสนับสนุนการป้องกันขีปนาวุธ (Missile Defense Advocacy Alliance) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ชี้ว่า “นี่เป็นกรณีที่ดีเยี่ยมที่สุดที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้สนับสนุนเงินทุนและความรู้ด้านวิศวกรรมร่วมกับประเทศพันธมิตร เพื่อพัฒนาระบบอาวุธรุ่นใหม่ที่จะช่วยยกระดับความมั่นคงของทั้ง 2 ชาติ”

    เรย์ธีออน แถลงว่า ขีปนาวุธ SM-3 IIA ติดตั้งมอเตอร์จรวดขนาดใหญ่ขึ้น และมีศักยภาพสูงกว่าในการทำลายขีปนาวุธอื่น ซึ่งจะช่วยป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธพิสัยใกล้และกลางได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม และยังปกป้องพื้นที่ได้กว้างขวางยิ่งขึ้นด้วย

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และพนักงานของเรย์ธีออน ระบุว่า การยิงทดสอบเมื่อวันเสาร์ (6) มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการทำงานของส่วนปลายแหลมด้านหน้าของจรวด (nosecone) ระบบควบคุมวิถี การแยกตัวของบูสเตอร์ และการทำงานของขีปนาวุธในขั้นที่ 2 และ 3 โดยไม่ได้กำหนดให้มีการยิงสกัดหรือปล่อยขีปนาวุธเป้าหมายแต่อย่างใด

    “ความสำเร็จครั้งนี้คงจะทำให้ขีปนาวุธ SM-3 IIA สามารถนำไปใช้งานจริงทั้งในทะเลและภาคพื้นดินได้ภายในปี 2018” เทย์เลอร์ ลอว์เรนซ์ ประธานฝ่ายธุรกิจระบบขีปนาวุธของ เรย์ธีออน เผย

    เอลลิสัน ชี้ว่า สหรัฐฯ มีแผนที่จะทดสอบขีปนาวุธรุ่นนี้อีกเป็นเวลา 3 ปี ก่อนนำไปติดตั้งบนเรือรบเอจิสของกองทัพเรืออเมริกัน เรือรบคอนโกของญี่ปุ่น และระบบเอจิสภาคพื้นดินในโปแลนด์และโรมาเนีย


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โสมขาวพบเหยื่อ MERS ดับ “รายที่ 6” ยอดติดเชื้อพุ่ง 87 คน มากเป็น “อันดับ 2 ของโลก" รองจากซาอุฯ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2558 10:26 น.

    [​IMG]
    @เจ้าหน้าที่สายการบินโคเรียนแอร์ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดภายในห้องโดยสารของเครื่องบินลำหนึ่ง ที่สนามบินนานาชาติอินชอน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.

    รอยเตอร์ – รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศพบชายวัย 80 ปีซึ่งติดเชื้อไวรัสกลุ่มทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) เสียชีวิตเป็นรายที่ 6 ในวันนี้ (8 มิ.ย.) ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 87 ราย

    ทางการท้องถิ่นได้สั่งปิดโรงเรียนเกือบ 2,000 แห่งในวันนี้ (8) เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลของพ่อแม่ผู้ปกครอง ขณะที่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความเชื่อมั่นว่าเกาหลีใต้จะสามารถหามาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสมไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปมากกว่านี้

    เจ้าหน้าที่เมืองแดจอนเผยวันนี้ (8) ว่า ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการปอดอักเสบหลังจากได้รับเชื้อ

    กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ประกาศพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 23 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศในเวลานี้เพิ่มเป็น 87 ราย

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป แถลงว่า เกาหลีใต้กลายเป็นประเทศที่พบผู้ติดเชื้อไวรัส MERS มากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากซาอุดีอาระเบีย

    ทางการโสมขาวได้เริ่มใช้มาตรการติดตามโทรศัพท์มือถือของประชาชนกว่า 2,300 คนที่อยู่ในระยะกักโรค (quarantine) เนื่องจากอาจมีการติดต่อกับผู้ป่วย โดยคนกลุ่มนี้บางส่วนพักอยู่ในสถานพยาบาล แต่ส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ที่บ้าน

    ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก WHO จะเริ่มประเมินวิธีตอบสนองการแพร่ระบาดของไวรัส MERS ในเกาหลีใต้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(9) รวมถึงหาคำตอบว่าเหตุใดเชื้อจึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้คำแนะนำแก่ทางการโสมขาวต่อไป

    มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการ WHO ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวยอนฮัปว่า การที่ชาวเกาหลีใต้มีวัฒนธรรมในการดูแลญาติมิตรที่ป่วยไข้ และบางคนก็นอนค้างอยู่กับผู้ป่วยเป็นเวลานานๆ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ไวรัส MERS แพร่กระจายในสถานพยาบาล

    อย่างไรก็ตาม WHO ยังไม่ประกาศจำกัดการเดินทางไปยังเกาหลีใต้

    รัฐบาลเกาหลีใต้ซึ่งกำลังถูกวิจารณ์ว่าไม่ตอบสนองวิกฤตสาธารณสุขครั้งนี้อย่างโปร่งใสและรวดเร็วพอ ได้เปิดเผยรายชื่อสถานพยาบาล 24 แห่งที่มีผู้ติดเชื้อ MERS นอนรักษาตัวอยู่ ในจำนวนนี้มีอยู่ 6 แห่งที่เชื้อได้แพร่จากผู้ป่วยไปยังบุคคลอื่นๆ

    กระทรวงการศึกษาเกาหลีใต้ได้สั่งปิดโรงเรียน1,869 แห่งทั่วประเทศในวันนี้ (8) เพื่อบรรเทาความกังวลของพ่อแม่ผู้ปกครอง ขณะที่สื่อสิงคโปร์อ้างประกาศของกระทรวงการศึกษาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่สั่งให้โรงเรียนทุกแห่งในสิงคโปร์ยกเลิก หรือเลื่อนกำหนดการส่งนักเรียนไปทัศนศึกษาในเกาหลีใต้ไว้ชั่วคราว

    สำนักงานกักกันโรคที่สนามบินนานาชาตินาริตะในกรุงโตเกียวได้แจ้งไปยังผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่กักกันโรค หากเคยติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วย MERS หรืออยู่ในโรงพยาบาลที่มีผู้ติดเชื้อ MERS รักษาตัวอยู่

    การแพร่กระจายของไวรัส MERS ในเกาหลีใต้มีต้นตอมาจากผู้ป่วยรายแรกซึ่งเป็นชายวัย 68 ปีที่เพิ่งเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย และแพทย์ได้ยืนยันอาการป่วยของเขาเมื่อวันที่ 20 พ.ค.

    ไวรัส MERS ซึ่งพบในมนุษย์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012 เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาตระกูลเดียวกับโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ “ซาร์ส” ที่เคยระบาดหนักในจีนเมื่อปี 2003 ทว่ามีความรุนแรงมากกว่า และติดต่อสู่บุคคลอื่นได้ยากกว่าเชื้อโรคซาร์ส

    การระบาดของไวรัส MERS ในเกาหลีใต้ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 1,236 คน ซึ่งในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 445 คน ตามข้อมูลของ WHO

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000064650
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานชี้ ซาอุฯจ่อเพิ่มงบทางทหารเป็น “มากกว่า 2 ล้านล้าน” ภายใน 5 ปี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2558 22:26 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-รายงานด้านความมั่นคงฉบับล่าสุดซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัย “ไอเอชเอส เจนส์” ในกรุงลอนดอนระบุ ดินแดนเศรษฐีน้ำมัน ซาอุดีอาระเบีย เตรียมทุ่มงบประมาณมหาศาลถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.03 ล้านล้านบาท) เพื่อใช้จ่ายด้านการทหารและความมั่นคงภายในปี ค.ศ.2020

    รายงานของไอเอชเอส เจนส์ซึ่งมีการเผยแพร่ในวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) ระบุว่า ทางการซาอุฯ เตรียมทุ่มงบประมาณก้อนดังกล่าวซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงเกือบ 1 ใน 4 ของงบประมาณแผ่นดินประจำปี ไปในด้านการทหารและความมั่นคงในช่วง 5 ปีข้างหน้า

    รายงานฉบับนี้ระบุด้วยว่า การทุ่มงบประมาณสูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐดังกล่าวของทางการซาอุฯ จะส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ใช้จ่ายทางทหารสูงเป็น “ลำดับ 4 ของโลก” (รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และรัสเซีย) ขณะที่ยอดการใช้จ่ายทางการทหารโดยรวมของภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมด จะพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 110,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.7 ล้านล้านบาท) ภายในช่วง 1ทศวรรษข้างหน้า

    ทั้งนี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียตั้งงบประมาณด้านการทหารไว้ที่ระดับ 49,000 ล้านดอลลาร์ (ราว1.66 ล้านล้านบาท)


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียประกาศเตรียมส่งขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม “รอบที่ 29” ไปเขต“ดอนบาสส์” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2558 21:41 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-ทางการรัสเซียเตรียมจัดส่งขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรอบใหม่ เข้าไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน

    รายงานในวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) ของสำนักข่าวทาสส์ซึ่งอ้างโฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียระบุทางกระทรวงฯเตรียมจัดส่งขบวนรถบรรทุกลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรอบใหม่ซึ่งเป็น “รอบที่ 29” เข้าไปยังเขตโดเนตส์กและลูกานส์ก หรือเขตวงแหวนถ่านหิน “ดอนบาสส์” ทางภาคตะวันออกของยูเครน

    โฆษกกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่าในขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ จะมีทั้งความช่วยเหลือในรูปของอาหาร ยารักษาโรค และอุปกรณ์อื่นๆที่มีความจำเป็นและได้รับการร้องขอจากประชาชนในเขตดอนบาสส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ใช้ภาษารัสเซียในชีวิตประจำวันและมีความผูกพันทางประวัติศาสตร์ต่อรัสเซีย

    ทั้งนี้ ขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากรัสเซียทั้ง 28 รอบก่อนหน้านี้ ได้จัดส่งความช่วยเหลือคิดเป็นน้ำหนักรวมกันมากกว่า 36,000 ตันแก่ประชาชนในเขตดอนบาสส์นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมปี 2014 เป็นต้นมา

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000064546
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารซีเรียผลักดันนักรบไอเอสให้ถอยพ้นเมืองฮาเซเกห์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2558 20:28 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - กลุ่มผู้สังเกตการณ์ระบุในวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) ว่ากองกำลังของรัฐบาลซีเรียได้ผลักดันนักรบของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ให้ล่าถอยกลับไปได้ หลังจากพวกมุสลิมหัวรุนแรงกลุ่มนี้พยายามบุกเข้าเมืองฮาเซเกห์ ทางตอนเหนือของประเทศ

    กลุ่มผู้สังเกตการณ์ระบุว่า ด้วยการสู้รบกันอย่างดุเดือด ทำให้กองกำลังรัฐบาลซีเรียสามารถผลักดันนักรบญิฮัดของกลุ่มไอเอสให้ออกไปจากทางตอนใต้ของเมืองฮาเซเกห์

    "พวกไอเอสที่มาอยู่แถวทางเข้าเมืองฝั่งทิศใต้ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี ได้ถูกผลักดันให้ถอยออกไปราว 2 กิโลเมตร หลังจากที่สู้รบกับกองกำลังรัฐบาลอย่างดุเดือด" กลุ่มผู้สังเกตการณ์ระบุ

    ด้านสำนักข่าวของซีเรียได้รายงานถึงการสู้รบนี้ว่า กองทัพได้ยึดที่มั่นหลายแห่งกลับคืนมาจากพวกไอเอส ที่ได้เข้ามาครอบครองไว้ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ในจำนวนนั้นมีโรงไฟฟ้าและเรือนจำที่ถูกใช้เป็นฐานทัพด้วย

    อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้สังเกตการณ์ ระบุว่า การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่ใกล้กับเรือนจำ

    กลุ่มไอเอสได้เริ่มบุกโจมตีเมืองฮาเซเกห์ในวันที่ 30 พฤษภาคม โดยมีการเคลื่อนกำลังมาที่บริเวณทางเข้าฝั่งทิศใต้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

    ฮาเซเกห์เป็นเมืองที่แบ่งการควบคุมกันระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียและนักรบชาวเคิร์ด ผู้ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมต่อสู้กับพวกไอเอสในตอนแรกที่เมืองโดนบุก

    อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้สังเกตการณ์ได้บอกว่า กองกำลังชาวเคิร์ดได้เริ่มสู้รบกับพวกไอเอสบริเวณรอบนอกฝั่งตะวันตกของเมือง ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของชาวเคิร์ดเมื่อคืนวันเสาร์

    "การเข้ามาร่วมสู้ของพวกเคิร์ดเกิดขึ้นหลังจากที่โดนผู้คนในเมืองวิจารณ์อย่างหนัก เรื่องที่ไม่ยอมช่วยปกป้องเมือง มีการประชุมหลายครั้งที่พวกเคิร์ดถูกเรียกร้องให้ช่วยปกป้องเมือง แล้วสุดท้ายพวกเขาก็เห็นพ้องที่จะร่วมสู้ เนื่องจากพวกเขาคิดว่านักรบชาวเคิร์ดควรจะถูกยอมรับในฐานะกองกำลังหลักของเมืองนี้" ผู้สังเกตการณ์ บอกนักข่าว

    ทั้งนี้ กองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียพยายามที่จะก้าวย่างด้วยความระมัดระวัง ในการสู้รบของประเทศนี้ โดยปฏิเสธที่จะร่วมลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลร่วมกับพวกกบฏซีเรีย ขณะเดียวกันก็จะไม่สู้รบเคียงข้างกับฝ่ายรัฐบาลเช่นกัน

    จนถึงตอนนี้ การสู้รบที่เมืองฮาเซเกห์ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 119 ราย เป็นทหารฝ่ายรัฐบาล 71 ราย ส่วนทางฝ่ายนักรบญิฮัดไอเอสตาย 48 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตเพราะระเบิดฆ่าตัวตาย 11 ราย


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000064521
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : ตำรวจ 17,000 ปะทะ 4,500 ผู้ประท้วงต้านประชุม G7 ทางใต้เยอรมัน โอบามาประกาศจุดยืน “G7 ต้องถกปูตินก้าวร้าวเป็นอันดับ 1” เสี่ยหมีครวญ “รัสเซียไม่รังแกนาโต” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2558 18:24 น. (แก้ไขล่าสุด 8 มิถุนายน 2558 10:47 น.)

    [​IMG]


    เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ฝูงผู้ประท้วงราว 4,500 คนรวมตัวประท้วงต่อต้านทุนสามานโดยอ้างว่าการประชุมนี้เอื้อบริษัททุนข้ามชาติ รับการประชุมสุดยอดชาติผู้นำ G7 ล่วงหน้า 1 วัน ในเมืองการ์มิช-พาร์เตนเคอร์เชน (Garmisch-Partenkirchen) ไม่ห่างจากที่จัดประชุม G7 จำนวน 2 วันที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ (7) แคว้นบาวาเรีย ทางใต้ของเยอรมนี และมีการปะทะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนราว 17,000 คน และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่งและต้องถูกส่งไปโรงพยาบาล โดยมีการใช้สเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วง แต่ทางตำรวจเยอรมันอ้างว่าไม่มีการใช้สิ่งนี้ถึงแม้นักข่าวจะสามารถจับภาพได้ก็ตาม ในขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ประกาศทันทีหลังจากลงจากเดินทางไปถึงสถานที่ประชุมว่า ปัญหาความก้าวร้าวของรัสเซียในยูเครนถือเป็นวาระแรกที่ต้องให้ความสนใจ แต่ทว่าก่อนหน้านี้ 1 วันประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เปิดใจผ่านหนังสือพิมพ์อิตาลี Corriere della Sera ว่า “รัสเซียไม่ใช่ภัยของนาโต”

    RT สื่อเยอรมน และอัลญะซีเราะห์ สื่อกาตาร์ รายงานในวันเสาร์ (6) ว่าเกิดเหตุประท้วงต่อต้านการประชุมสุดยอดชาติผู้นำด้านอุตสาหกรรม G7 ในเมืองการ์มิช-พาร์เตนเคอร์เชน (Garmisch-Partenkirchen) ไม่ห่างจากที่จัดประชุม G7 จำนวน 2 วันที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ (7) แคว้นบาวาเรีย ทางใต้ของเยอรมนี โดยมีจำนวนผู้ประท้วงถึง 4,500 คนจากตัวเลขของฝ่ายจัดการประท้วง แต่ทว่าทางตำรวจเยอรมันคะเนว่ามีผู้ประท้วงราว 3,600 คนเท่านั้น

    สื่อรัสเซียระบุว่า ตัวเลขผู้ประท้วงนั้นเทียบไม่ได้เลยกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดจากตัวเลขตำรวจรักษาความสงบที่มีถึง 17,000 คน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่รักษาพรมแดนออสเตรียซึ่งอยู่ไม่ห่างที่จัดประชุม G7 อีกร่วม 2,000 คน และทางนักข่าว RT ระบุว่ามีการใช้สเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วงหลังจากที่คนเหล่านั้นพยายามจะฝ่าแนวตำรวจเข้าไป ส่งผลทำให้มีผู้ประท้วงรายหนึ่งต้องถูกห้ามขึ้นรถกู้ภัยฉุกเฉินออกไป แต่ทว่าตำรวจในจุดเกิดเหตุภายหลังได้เปิดเผยกับนักข่าว RT ปีเตอร์ โอลิเวอร์ (Peter Oliver) ว่า เป็นเพราะทางผู้ประท้วงใช้สเปรย์พริกไทยกับทางเจ้าหน้าที่ก่อน และทางผู้สื่อข่าวเห็น 1 ในเจ้าหน้าที่ตำรวจเยอรมันได้รับการปฐมพยาบาลไม่ห่างจากนั้น

    ด้านอัลญะซีเราะห์รายงานเพิ่มเติมว่า ฮานส์-ปีเตอร์ คามเมอร์เรอร์ (Hans-Peter Kammerer) โฆษกตำรวจเยอรมันแถลงในวันเสาร์ (6) ว่า “การเดินขบวนทั่วไปโดยรวมดูสงบดี แต่ทว่ามีกลุ่มหัวรุนแรงบางส่วนจำนวนมากจากเยอรมนี อิตาลี ออสเตรีย และอังกฤษ เข้าร่วมการประท้วงนี้”

    ทั้งนี้ ผู้ประท้วงต่างประนามกลุ่มชาติสมาชิก G7 ว่า เป็นต้นเหตุทำให้เกิดความยากจนและการกดขี่ และโดยเฉพาะทางกลุ่มต่อต้านการค้าเสรีที่ริเริ่มโดยสหรัฐฯ กับชาติในยุโรป ซึ่งรู้จักในนาม TTIP ด้วยเกรงว่าเศรษฐกิจยุโรปจะถูกสหรัฐฯ ครอบงำในที่สุด

    นอกจากนี้ ทางผู้จัดการประท้วงไม่พอใจต่อค่าใช้จ่ายที่เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเจ้าภาพต้องทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อจัดการประชุม 2 วัน โดยทางตัวแทนประเทศเข้าร่วมจะพักที่โรงแรมสุดหรูในการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา

    โดยนักข่าวอัลญะซีเราะห์รายงานจากเมืองการ์มิช-พาร์เตนเคอร์เชนว่า บรรดาผู้ประท้วงต่างประกาศจะพยายามก่อกวนการประชุมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ซึ่งในการประชุม G7 ที่ได้เริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ (7) ตัวแทนชาติสมาชิกคาดว่าจะหารือในเรื่องความมั่นคง พลังงาน และเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ทว่า RT ชี้ว่า นี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งรัสเซียถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประชุม G7 นับตั้งแต่เกิดวิกฤตยูเครนในปีที่ผ่านมา

    อังเกลา แมร์เคิล ประเทศเจ้าภาพจะถกประเด็นการแก้ปัญหาโลกร้อนเพื่อสร้างความสมดุลย์จากการประชุมของสหประชาชาติในกรุงปารีสเมื่อธันวาคมในปีที่ผ่านมา และทางเยอรมันต้องการให้มีการถกเถียงปัญหาภัยคุกคามด้านรคระบาดเช่น อีโบลา ไปจนถึงวิธีการบำบัด และโรคระบาดเขตร้อนอื่นๆ

    แต่ทว่ามีรายงานว่า ในค่ำวันก่อนทีอังเกลา แมร์เคิลจะต้อนรับตัวแทนประเทศสมาชิก G7 จากแคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ แมร์เคิลและประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ อองลองด์ ต่างต้องหมุนโทรศัพท์สายด่วนเป็นครั้งที่ 4 เพื่อถกปัญหาวิกฤตหนี้กรีซภายใน 10 วันกับนายกรัฐมนตรีกรีซ อเล็กซิส ซีปราส เพื่อผ่าทางตันที่เกิดขึ้นระหว่างเอธนส์และเจ้าหนี้ต่างชาติทั้งหลาย

    และนอกจากนี้ในเช้าวันอาทิตย์ (7) ก่อนเริ่มประชุม G7 แมร์เคิลมีวาระต้องสนทนากับประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาซึ่งสื่อสหรัฐฯ CNN รายงานล่าสุดว่า ได้เดินทางไปถึงเยอรมันแล้ว โดยผู้นำหญิงสตรีเหล็กต้องการพูดคุยกับทางสหรัฐฯ ในเรื่องวิกฤตยูเครน สงครามก่อการร้าย IS ในตะวันออกกลาง และที่สำคัญคือการเจรจาระหว่างวอชิงตันและหสภาพยุโรปในการเจรจาการค้าเสรี TTIP

    CNN รายงานว่า ทันทีที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้เหยียบเท้าเข้าสู่หมู่บ้าน Krun เขตบาวาเรียเทือกเขาแอลป์ โอบามาแถลงว่า ในการประชุม G7 นี้วาระที่สำคัญที่สุดคือ “ปัญหาความก้าวร้าวของรัสเซียในยูเครน” รวมไปถึงการเพิ่มมูลค้าการค้าระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป ปัญหาโลกร้อน และการต่อต้านก่อการร้าย

    และก่อนหน้านี้ ยูโรนิวส์รายงานในวันเสาร์ (6) ว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการประชุม G7 เป็นครั้งที่ 2 ได้ออกมาเปิดใจผ่านหนังสือพิมพ์อิตาลี Corriere della Sera ว่า “รัสเซียไม่ใช่ภัยของนาโต”

    สื่อยูโรนิวส์รายงานว่า ชาติพันธมิตรตะวันตกต่างเร่งเสริมกองกำลังทหารอย่างมากในแถบยุโรปตะวันออก เป็นเพราะรัสเซียได้ไปข้องเกี่ยวในวิกฤตยูเครน และได้ลั่นสัจวาจาร่วมกันว่า จะร่วมมือป้องกัน “hybrid warfare” ของมอสโก

    “ผมคิดว่าจะต้องเป็นเพียงแค่คนบ้าเท่านั้น และจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในความฝัน ที่จะคิดได้ว่ารัสเซียจะยกพลโจมตีนาโตแบบฉับพลัน ซึ่งผมคิดว่ามีบางประเทศที่ใช้ความกลัวของประชาชนต่อรัสเซียให้เป็นประโยชน์” ปูตินกล่าว และเสริมต่อว่า “ทุกสิ่งที่เราทำ เราทำไปตามสัญชาติญาณป้องกันตนเองต่อภัยคุกคามซึ่งหน้า และเราทำในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น แต่ยิ่งใหญ่พอที่จะปกป้องผลประโยชน์รัสเซียไว้ได้”

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000064493
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พันธมิตรอาหรับถล่มที่มั่นกบฏฮูตี ทหาร-ชาวบ้านในเยเมนดับ 45 ราย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2558 18:48 น. (แก้ไขล่าสุด 7 มิถุนายน 2558 18:51 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - เครื่องบินรบของฝ่ายพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบียได้โจมตีที่มั่นของกบฏเยเมนหลายแห่งในวันอาทิตย์ (7 มิ.ย.) โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการโจมตีรอบนี้ 45 ราย ซึ่งมีทั้งทหารและพลเรือน โดยในส่วนของพลเรือนมีผู้หญิงกับเด็กด้วย

    ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า การโจมตีทางอากาศในวันอาทิตย์ มุ่งเป้าไปที่ฐานทัพจูไมเนห์ ทางตะวันออกของกรุงซานา ที่นั่นมีหน่วยทหารปกป้องสาธารณรัฐ ที่ยังภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ผู้เป็นมิตรกับพวกกบฏฮูตี นอกจากนี้การโจมตียังได้สร้างความเสียหายให้กับคลังอาวุธตรงเนินนาห์เดียน ทางใต้ของกรุงซานา

    ช่างภาพของเอเอฟพีรายงานว่า มีการโจมตีทางอากาศเข้าใส่สำนักงานใหญ่ของกองกำลังฝ่ายกบฏในกรุงซานาอย่างน้อย 4 ครั้งช่วงก่อนรุ่งสาง ทำให้เกิดการระเบิด สร้างความเสียหายให้กับอาคารใกล้เคียง ชาวบ้านต้องพากันหนีกระเจิดกระเจิง

    เจ้าหน้าที่แพทย์และผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า มีพลเรือนอย่างน้อย 20 ราย กับทหารและเจ้าหน้าที่ 25 รายที่เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ ที่มุ่งเป้าไปยังสำนักงานใหญ่ของฮูตีในย่านตาห์เรียร์ ใจกลางกรุงซานา ซึ่งเป็นเขตที่อยู่อาศัยของผู้คน ทำให้มีบ้านพังยับเยินไป 5 หลัง

    ด้านสำนักข่าวที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏฮูตีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 44 รายจากการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ กับผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก

    ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ที่มั่นของฝ่ายกบฏหลายแห่งในภาคเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดซาดา จังหวัดฮัจจาและอัมรัน ถูกทิ้งบอมบ์อย่างหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยฝีมือของพันธมิตรอาหรับ

    ส่วนในภาคใต้ เครื่องบินรบของฝ่ายพันธมิตรได้มุ่งเป้าโจมตีที่มั่นฝ่ายกบฏบริเวณรอบนอกฝั่งเหนือและฝั่งตะวันตกของเมืองเอเดน เพื่อเป็นการสนับสนุนบรรดานักรบท้องถิ่นในภาคใต้ที่ให้การสนับสนุนประธานาธิบดี อับเบด รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี

    ผู้บังคับบัญชารายหนึ่งของกองกำลังฝ่ายผู้นำเยเมน ระบุว่า นักรบของฝ่ายเขาได้พยายามป้องกันไม่ให้พวกกบฏฮูตีรุกเข้าสู่พื้นที่ใกล้เคียงอย่าง อัล-มาสนูรา , ดาร์ซาด , ชีค ออธมาน , อัล-บูไรกา

    "พวกกบฏฮูตีและพรรคพวกถูกสังหารและได้รับบาดเจ็บหลายราย" พล.อ.ฟาดี บาเอช กล่าว

    เมื่อวันเสาร์ ซาอุดีอาระเบียได้ระบุว่า พวกฮูตีได้ยิงขีปนาวุธสกั๊ดเข้าใส่ดินแดนของซาอุฯ แต่ฝ่ายตนสามารถยิงสกัดกั้นเอาไว้ได้ แถมก่อนหน้านั้นก็ยังมีการโจมตีข้ามชายแดนจนทำให้ทหารซาอุฯ เสียชีวิตไป 4 ราย

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กมธ.ศึกษา กม.ปิโตรเลียม ชง สนช.ตั้งบริษัทน้ำมันแห่งชาติคุมเบ็ดเสร็จ แนะชะลอเปิดสัมปทานรอบ 21 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2558 16:03 น. (แก้ไขล่าสุด 7 มิถุนายน 2558 18:16 น.)

    [​IMG]


    กมธ. วิสามัญศึกษา กม. ปิโตรเลียม เสนอ สนช. ตั้งบริษัทน้ำมันแห่งชาติคุมเบ็ดเสร็จ พร้อมแนะควรชะลอเปิดสัมปทานรอบ 21 จนกว่าจะแก้กฎหมายสำคัญเสร็จ แต่หากจำเป็นต้องเปิดประมูลเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายด้านพลังงานของประเทศ ควรใช้ระบบแบ่งปันผลประโยชน์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 11 มิ.ย. มีวาระการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 สนช. ที่มี พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิก สนช. เป็นประธาน

    สำหรับข้อเสนอของคณะ กมธ. ที่สำคัญ คือ การให้ตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Company) ให้มีฐานะเป็นตัวแทนของรัฐ เป็นผู้มีสิทธิเพียงรายเดียวในการสำรวจและให้สิทธิเกี่ยวกับปิโตรเลียมในการดำเนินการบริหารจัดการปิโตรเลียมและการบังคับบริษัทน้ำมันเอกชนในฐานะคู่สัญญาโดยตราเป็นกฎหมายในระดับ พ.ร.บ. ให้บรรษัทน้ำมันแห่งชาติมีสภาพนิติบุคคล และมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน และไม่เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เพื่อให้การบริหารจัดการสัญญาที่เกี่ยวกับปิโตรเลียมไม่อยู่ภายใต้กฎระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการพัสดุของส่วนราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนกับรัฐและบรรษัทน้ำมันแห่งชาติเป็นผู้ถือสิทธิทรัพยากรปิโตรเลียมแทนรัฐในการสำรวจและแสวงหาประโยชน์จากปิโตรเลียม ควบคุมดูแลระบบการสำรวจและแสวงหาประโยชน์ในปิโตรเลียมทั้งหลาย และมีหน้าที่ในการบริหารสัญญาสัมปทาน สัญญาแบ่งปันผลผลิตและสัญญาจ้างผลิต

    การปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม คณะ กมธ. เห็นสมควรที่จะดำเนินการเป็นสองระยะ ประกอบด้วย 1. ในระยะยาว เพื่อวางระบบให้เป็นที่ยอมรับทุกภาคส่วนและสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน จึงควรศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศอื่นๆที่มีลักษณะของแหล่งปิโตรเลียม สภาพสังคม และสภาพเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย

    2. ในระยะเร่งด่วน เพื่อให้การสำรวจปิโตรเลียมดำเนินการไปได้ในระหว่างที่มีการปรับปรุงกฎหมายทั้งฉบับ โดยจะเป็นต้องพิจารณาแก้ไขรายมาตรา แต่เฉพาะมาตราที่สำคัญเพื่อเปิดโอกาสให้มีการนำระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตและสัญญาจ้างบริการมาใช้บังคับได้ไปพลางก่อน และให้คณะกรรมการจากหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่ในการบริหารสัญญาแบ่งปันและผลผลิตและสัญญาจ้างผลิตปิโตรเลียม และแก้ไขปัญหากรณีที่สัมปทานผลิตปิโตรเลียมจะหมดอายุลง

    ส่วนการเปิดประมูลสำรวจปิโตรเลียมรอบ 21 คณะ กมธ .เห็นว่ามีความสำคัญเร่งด่วนต่อความมั่นคงทางพลังงาน แต่จากการศึกษาปัญหาการใช้กฎหมายปิโตรเลียม ทำให้มีความเห็นว่าการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมทีกระจายตัวในหลายพื้นที่ของประเทศซึ่งมีศักยภาพเชิงพาณิชย์สูงต่ำต่างกัน จึงควรมีระบบในการบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียม ที่เปิดกว้างสอดคล้องกับศักยภาพนั้น จึงต้องแก้ไขกฎหมายจากเดิมที่ระบุว่า “กำหนดให้ปิโตรเลียมเป็นของรัฐ และผู้ใดจะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้องได้รับสัมปทาน” โดยการบัญญัติเพิ่มเติมให้มีรูปแบบอื่นนอกจากสัมปทานด้วย

    การที่รัฐบาลจะใช้ระบบสัมปทานไปก่อน โดยมีข้อตกลงในสัญญาสัมปทานว่ารัฐสามารถทำความตกลงในการเปลี่ยนแปลงระบบเบ่งปันผลผลิตได้ภายหลังนั้น มีข้อควรระวัง คือ อาจทำให้เสียบรรยากาศการลงทุน เพราะเอกชนเกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง โดยอาจทำให้การคำนวณต้นทุนไม่ชัดเจน ดังนั้น จึงควรชะลอการเปิดสัมปทานไปจนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบธุรกรรมที่ยังไม่บัญญัตินี้ให้เรียบร้อยก่อนทำสัญญา

    ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเปิดประมูลแปลงปิโตรเลียมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในด้านพลังงานของประเทศ คณะ กมธ. เห็นควรให้ทำการเปิดประมูลในระบบแบ่งปันผลผลิตคราวละ 4 - 5 แปลง ในแปลงที่มีข้อมูลมากพอสำหรับผู้เข้าร่วมประมูล เพื่อให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรมและรัฐได้ผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงขึ้น หรือดำเนินการสำรวจในเบื้องต้นในแปลงที่มีศักยภาพสูง โดยเป็นการ สำรวจเพื่อความมั่นคง ซึงอาจมอบหมายให้หน่วยงานภาครัฐที่มีขีดความสามารถและประสบการณ์ร่วมกับกรมพลังงานเชื้อเพลิงธรรมชาติ เป็นผู้ดำเนินการ

    ขณะที่ ปัญหาความไม่ไว้วางใจของประชาชนต่อผู้บริหารภาคพลังงานนั้น รัฐต้องดำเนินการตามนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 87 โดยกำหนดให้คณะกรรมการปิโตรเลียมมีสัดส่วนของตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยแก้ไขเพิ่มเติมความในหมวด 2 คณะกรรมการปิโตรเลียม มาตรา 15 ของ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 นอกจากนี้ควรแก้ไขมาตรา 76 ของ พ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เรื่องเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    ความไม่ไว้วางใจของประชาชนมาจากการเข้าถึงข้อมูลได้ยาก ประกอบกับความสามารถของรัฐในการสื่อสาร ทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียศรัทธาไปอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นควรให้มีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว และต้องนำเสนอข้อมูลบนพื้นฐานความต้องการของประชาชน และตอบคำถามของประชาชนอย่างตรงประเด็นที่แสดงถึงประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการรับรู้ข้อมูลของประชาชน เพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจของประชาชนต่อรัฐ


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คงจะถูกใจกันน่ะครับที่จะมีการแก้ไขกฎหมายจากเดิมที่ระบุว่า “กำหนดให้ปิโตรเลียมเป็นของรัฐ และผู้ใดจะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมต้องได้รับสัมปทาน” โดยการบัญญัติเพิ่มเติมให้มีรูปแบบอื่นนอกจากสัมปทานด้วย
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "วิษณุ" เผยชงแก้รธน. "บิ๊กตู่" ไม่ได้ท้วงนายกฯ คนนอก ส่วนใหญ่ติติงเขียนไม่ชัดเจน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2558 12:35 น.

    [​IMG]
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)

    รองนายกฯ เผย นายกฯ ครม. ชงแก้รัฐธรรมนูญ 117 ประเด็น มีหลายระดับ ยัน "ประยุทธ์" ไม่ได้ท้วงนายกฯ คนนอก แต่ติงให้พลเมืองเสนอร้องทุกข์กรณีข้าราชการปฏิบัติกระทบเสรีภาพเขียนไม่ชัด ทำซวยกันหมด หรืออย่างเปิดรับฟังความเห็นเรื่องแผนงานก็มีปัญหาต้องฟังอะไรบ้าง บอกที่ทักท้วงเพราะห่วงรัฐบาลหน้า ส่วนสภาขับเคลื่อนปฏิรูปต้องชัดมาจากไหนและทำอะไร และแยก กสม.กับผู้ตรวจฯ

    วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.25 น.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชี้แจงต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ถึงข้อเสนอแนะปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เสนอแก้ไข 117 ประเด็น ที่บางเรื่องมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง หรือบางเรื่องที่รัฐบาลอ่านแล้วไม่เข้าใจ แบ่งเป็นระดับรุนแรงที่ต้องแก้ ระดับกลาง และระดับจะแก้หรือไม่แก้ก็ได้ ซึ่งดูแล้วกมธ.ยกร่างฯก็เข้าใจ อย่างกรณีของนายกรัฐมนตรีคนนอกรัฐบาลไม่ได้ท้วงอะไรมากมาย ขณะที่มาตรา 62 ว่าด้วยพลเมืองย่อมมีสิทธิเสนอร้องทุกข์ มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันอาจมีผลกระทบต่อสิทธิหรือเสรีภาพของตน มันไม่ชัด ปฏิบัติไม่ถูกอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ เคราะห์ดีเคราะห์ร้ายเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติอาจติดคุกกันหมด หรือปลัดกระทรวงอาจโดนเด้งง่ายๆ

    นายวิษณุ กล่าวว่า อย่างเช่น แผนทั้งหลายต้องเปิดให้รับฟังทั่วถึง แต่ก็มีปัญหาว่าแผนอะไร เพราะในประเทศไทยมีหลายหน่วยงาน แต่ละหน่วยงานก็มีแผนเยอะ และก็ต้องถามว่าบางทีเขาไม่เรียกแผน แต่อาจไปเรียกนโยบายจะต้องรับฟังความเห็นอีกหรือเปล่า หรือที่ระบุว่า ทำอย่างทั่วถึงเป็นยังไง เพราะถ้าเกิดเราทำดีที่สุดแล้ว ถ้ามีคนหนึ่งบอกว่าไม่ทั่วถึง ยังไม่รู้เรื่องเลย จะทำยังไงถ้าเขาไปฟ้อง

    นายวิษณุ กล่าวว่า โดยสรุปคือตนไปทักท้วง เพราะเป็นห่วงรัฐบาลที่จะเข้ามา ไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง เพราะไม่ได้อยู่ปฏิบัติสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว เพราะถ้าเกิดรัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วทำไม่ถูกก็จะมาโทษรัฐบาลนี้ หรือพวกที่ปล่อยให้ผ่านมา ซึ่งมีหลายมาตรา ส่วนเรื่องของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศนั้น ตนไม่ได้มีการทักท้วงอะไร เพียงแต่ขอให้เขียนให้ชัดว่ามาจากไหน และทำอะไร ซึ่งถ้าจะมีสภาขับเคลื่อนฯไว้ทำการปฏิรูปก็ไม่ว่ากัน เพราะรัฐบาลใหม่และรัฐสภาใหม่ อาจต้องใช้สมาธิไปกับการทำเรื่องหลัก เราจึงห่วงว่าไม่มีใครมาทำเรื่องการปฏิรูป และอาจถูกกรอบของพรรคบีบจนคนเหล่านี้คิดอะไรไม่ได้ ส่วนกรณีขององค์กรอิสระที่เคยมีก็ยังมีอยู่ ส่วนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)กับผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ให้แยกออกจากกัน

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000064716
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พรรครัฐบาลตุรกีเสียการครองเสียงข้างมากในสภา | เดลินิวส์

    [​IMG]

    แม้พรรคเอเคพีซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดปัจจุบันของตุรกีสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ แต่เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่ไม่ได้ครองเสียงข้างมาก วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558 เวลา 7:45 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ว่าผลอย่างไม่เป็นทางการของการนับคะแนนเลือกตั้งสภาแห่งชาติของตุรกีซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ ปรากฏว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์ราวร้อยละ 86 โดยพรรคยุติธรรมและการพัฒนา ( เอเคพี ) ของประธานาธิบดีเรย์เซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ได้รับเสียงสนับสนุนราวร้อยละ 41 คิดเป็น 258 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคสาธารณรัฐประชาชน ( ซีเอชพี ) ที่ร้อยละ 25 หรือ 132 ที่นั่ง พรรคแนวร่วมแห่งชาติ ( เอ็มเอชพี ) ที่ร้อยละ 16.5 หรือ 81 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปไตยประชาชน ( เอชดีพี ) ซึ่งเป็นพรรคแนวร่วมของชาวเคิร์ด ที่ร้อยละ 13 คิดเป็น 79 ที่นั่ง

    แม้พรรคเอเคพียังสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งได้ตามความคาดหมายของหลายฝ่าย แต่คะแนนเสียงที่ได้รับนั้นลดลงจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี 2554 ถึงร้อยละ 10 หมายความว่าพรรคเอเคพีสูญเสียการครองที่นั่งเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียวในรัฐสภาของตุรกีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2545 เนื่องจากรัฐธรรมนูญของประเทศระบุให้พรรคการเมืองเสียงข้างมากพรรคเดียวต้องมีจำนวนที่นั่งไม่ต่ำกว่า 276 ที่นั่ง จากทั้งหมด 550 ที่นั่ง

    ขณะที่ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่า การสูญเสียความนิยมของพรรคเอเคพีเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ และการที่พรรคเอชดีพีได้รับความนิยมจากชาวตุรกีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถได้รับคะแนนเสียงเลือกตั้งเกินร้อยละ 10 เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำของการมีจำนวนสมาชิกนั่งในสภาแห่งชาติ แม้ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีผลต่อเออร์โดกัน แต่น่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการเมืองของตุรกีได้ไม่น้อย“

    อ่านต่อที่ : พรรครัฐบาลตุรกีเสียการครองเสียงข้างมากในสภา | เดลินิวส์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สิงคโปร์-มาเลเซียไว้อาลัยเหยื่อแผ่นดินไหว | เดลินิวส์

    [​IMG]

    รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์จัดพิธีไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ศพ จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.0 บนเกาะบอร์เนียว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558 เวลา 12:15 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโกตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่านายมาซิดี มานจุน รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย แถลงเรื่องการพบผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 6.0 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. เพิ่มเป็นอย่างน้อย 16 ศพ แบ่งเป็นชาวสิงคโปร์ 7 ศพ ชาวมาเลเซีย 6 ศพ ชาวฟิลิปปินส์ ชาวจีน และชาวญี่ปุ่น ประเทศละ 1 ศพ โดยผู้เสียชีวิตทุกรายเป็นนักปีนเข้าซึ่งอยู่ระหว่างท่องเที่ยวบนยอดเขาคินาบาลู ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวมากที่สุด

    ทั้งนี้ หน่วยค้นหายังไม่พบเบาะแสของผู้สูญหายอีก 2 คน คือครูและนักเรียนชาวสิงคโปร์ แต่จะเดินหน้าค้นหาต่อไป โดยเชื่อว่าทั้งสองคนสูญหายอยู่บนยอดเขา ขณะที่นักปีนเขาและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นทยอยเดินทางลงมาจากยอดเขาเกือบหมดแล้ว

    ด้านรัฐบาลสิงคโปร์กำหนดให้วันนี้เป็นวันไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยมีการลดธงชาติครึ่งเสาทั่วประเทศ และมีการยึดสงบนิ่งตามสถานที่ราชการ รวมถึงสนามกีฬาที่จัดการแข่งขันซีเกมส์ด้วย เช่นเดียวกับทางการมาเลเซียซึ่งจัดพิธีไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต

    ยอดเขาคินาบาลูเป็นหนึ่งในยอดเขาสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในจุดหมายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักปีนเขาจากทั่วโลก เกิดการสั่นไหวอย่างหนักตามแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางเพียง 54 กิโลเมตรเท่านั้น“

    อ่านต่อที่ : สิงคโปร์-มาเลเซียไว้อาลัยเหยื่อแผ่นดินไหว | เดลินิวส์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "จี 7" ยึดมั่นมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย | เดลินิวส์

    [​IMG]

    กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก "จี 7" เห็นพ้องเรื่องการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป จนกว่าจะได้รับ "ความร่วมมือ" จากอีกฝ่ายในการแก้ไขสถานการณ์วุ่นวายในยูเครน วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2558 เวลา 10:07 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองครุน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ว่าแถลงการณ์ของที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ "จี 7" หลังเสร็จสิ้นการหารือที่รีสอร์ทชลอส เอลเมา ท่ามกลางหุบเขาในรัฐบาเยิร์น ทางตอนใต้ของเยอรมนี เมื่อวันอาทิตย์ ย้ำจุดยืนในการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียต่อไป จนกว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะบรรลุข้อตกลงอันเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อยุติสถานการณ์สู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวก่อนเริ่มการประชุม ยืนยันกลุ่มจี 7 และประชาคมโลกจะร่วมมือกันยับยั้ง "ความก้าวร้าว" ของรัฐบาลมอสโกที่มีต่อยูเครน ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เสริมคำกล่าวของผู้นำสหรัฐ ว่าระยะเวลาของมาตรการคว่ำบาตรจะนานเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐบาลรัสเซียต่อการสร้างสันติภาพในยูเครน

    ด้านนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานมุขมนตรียุโรป กล่าวว่าการถกเถียงเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของมาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อทางการรัสเซีย หมายถึงการยกระดับให้มีความเข้มงวดมากขึ้นเท่านั้น สะท้อนความเป็นไปได้ที่จะมีการยกระดับมาตรการให้รุนแรงขึ้นอีกในอนาคต ส่วนนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ กล่าวเพียงว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป ( อียู ) ที่มีต่อรัฐบาลรัสเซีย ส่งผลกระทบต่อ "ทุกฝ่าย" ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวกำลังจะหมดอายุในเดือนก.ค. นี้“

    อ่านต่อที่ : "จี 7" ยึดมั่นมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย | เดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...