ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตำรวจฝรั่งเศสไล่รื้อ “เพิงที่พักผู้อพยพใต้สะพาน” ทางเหนือของปารีส จับอื้อชาวแอฟริกันหลายร้อยหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 15:06 น. (แก้ไขล่าสุด 2 มิถุนายน 2558 17:08 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสจำนวนมากได้ผสานกำลังในวันนี้ (2 มิ.ย.) เพื่อกวาดล้างที่พักผิดกฎหมายบริเวณใต้สะพานรถไฟใต้ดินทางตอนเหนือของกรุงปารีส และสามารถจับกุมตัวผู้อพยพชาวแอฟริกันไว้ได้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 350 คน ที่ส่วนใหญ่เดินทางมาจากซูดาน และมีบางส่วนมาจากเอริเทรีย โซมาเลีย และอียิปต์

    ผู้อพยพชาวแอฟริกันจำนวนไม่ต่ำกว่า 350 คน ส่วนใหญ่จากซูดาน และบางส่วนอพยพมาจากเอริเทรีย โซมาเลีย และอียิปต์ ลักลอบสร้างเพิงอาศัยอยู่บริเวณใต้รางรถไฟเมโทรแทร็กระหว่างสถานี La Chapelle และ Barbes- Rochechouart ในทางตอนเหนือของกรุงปารีส

    เอเอฟพีรายงานว่า แต่แรกเริ่มแล้วเพิงที่พักผู้อพยพผิดกฏหมายจากกาฬทวีปเหล่านี้เริ่มต้นมีขึ้นในช่วงหน้าร้อน ปี 2014 แต่ทว่ากลับเพิ่มปริมาณมากขึ้นในเดือนเมษายน เพราะสภาพอากาศที่อบอุ่นและเอื้ออำนวยให้ผู้ลี้ภัยยอมเสี่ยงตายข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจากแอฟริกาเหนือมุ่งหน้าสู่ยุโรปจำนวนมหาศาล

    ทั้งนี้ พบว่าตำรวจฝรั่งเศสได้นำป้ายไปติดตั้งเพื่อแจ้งให้บรรดาผู้อพยพผิดกฎหมายเหล่านี้ยอมย้ายออกไปภายใน 48 ชม.จากเพิงที่พักในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และในช่วงเช้าวันอังคาร (2) ตำรวจฝรั่งเศสได้รวมกำลังปิดล้อมบริเวณเพิงแห่งนี้ รวมไปถึงปิดการจราจรบริเวณดดยรอบ

    เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่เป็นชาย แต่ทว่ายังมีครอบครัวรวมอยู่ประปราย ยืนรอเพื่อจะขึ้นรถเพื่อนำตัวไปยังศูนย์พักพิงที่ตั้งกระจายรอบกรุงปารีส

    นอกจากนี้ยังมีการสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำขึ้นโดยเจ้าหน้าที่เมืองและหน่วยงานสิทธิเพื่อผู้อพยพในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้อพยพจำนวน 160 คนภายในเพิงที่พักมีความต้องการอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส ในขณะที่มีผู้อพยพอีก 200 คนต้องการเดินทางไปยังประเทศอื่น เช่น อังกฤษ และในประเทศแถบขั้วโลกเหนือ

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐมนตรีกรีซเสียงแข็งไม่ยอมอ่อนข้อปฏิรูป ติงเจ้าหนี้ควรควักเงินมาช่วยได้แล้ว
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 15:21 น. (แก้ไขล่าสุด 2 มิถุนายน 2558 17:10 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - พานอส สโคเลติส รัฐมนตรีแรงงานของกรีซ ระบุในวันอังคาร (2 มิ.ย.) ว่ารัฐบาลกรีซไม่สามารถอ่อนข้อให้มากไปกว่านี้แล้วในการเจรจาที่เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องเงินช่วยเหลือแลกกับการปฏิรูป ย้ำบรรดาเจ้าหนี้ควรจะทำหน้าที่ตามบทบาทของตัวเอง

    กรีซกับบรรดาเจ้าหนี้จากยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กำลังพยายามหาหนทางเพื่อป้องกันไม่ให้กรีซเข้าสู่เส้นทางของการชักดาบไม่ยอมชำระหนี้ รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะออกจากยูโรโซน

    มีการกำหนดเส้นตายเอาไว้ในวันศุกร์เพื่อสรุปการพูดคุย จะได้มีเวลาให้กับสถาบันการเงินและเหล่ารัฐมนตรีได้อนุมัติข้อตกลงและรับการรับรองจากรัฐสภา จะได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่กรีซ ก่อนที่จะหมดอายุในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายน

    “ไม่มีที่ว่างให้กับการต่อรองประณีประนอมอีกแล้ว เรากำลังรอให้อีกฝ่ายทำตามหน้าที่ความรับผิดชอบ” สโคเลติส บอกกับสกายทีวีของกรีซ พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องใช้การเมืองเข้าแก้ไขวิกฤติ

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของอียูเคยระบุว่า ข้อเสนอใดๆ ก็ตามจากฝ่ายเจ้าหนี้ของกรีซที่ไม่ได้อยู่ภายในกรอบข้อตกลง อาจไม่นับว่าเป็นคำขาดที่ต้องทำตาม

    เมื่อถูกถามว่ากรีซจะยอมรับข้อตกลงที่จะบีบให้ปฏิรูปเพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ นิคอส ฟิลิส โฆษกรัฐสภา จากพรรคไซรีซาของนายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส ที่บริหารประเทศอยู่ในตอนนี้ ได้ตอกย้ำว่ารัฐบาลไม่อาจลงนามในข้อตกลงใดๆ ที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายผ่อนคลายมาตรการรัดเข็มขัด

    “ถ้าเราจะมาพูดถึงเรื่องคำขาดพวกนี้ ซึ่งมันไม่ได้อยู่ในกรอบการทำงานตามนโยบายที่ได้ให้ไว้กับประชาชน มันก็ชัดเจนแจ่มแจ้งเลยว่ารัฐบาลคงไม่อาจลงนามและยอมรับได้” ฟิลิส บอกกับแอนเทนนาทีวี

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062485
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จำกัดการขายอาวุธให้อิรัก ถึงซื้อได้ก็ได้แต่อาวุธไม่ดี แต่กลับส่งอาวุธให้ไอซิส

    อิรักจวกนานาชาติพูดเยอะแต่ช่วยน้อย บ่นอุบไม่มีอาวุธสู้กับไอเอสเพราะหาซื้อยาก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 15:55 น. (แก้ไขล่าสุด 2 มิถุนายน 2558 17:11 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี ระบุในวันอังคาร (2 มิ.ย.) ก่อนการประชุมของพันธมิตรนานาชาติเรื่องกลยุทธ์รับมือกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ว่าการุกรานในอิรักของพวกนักรบญิฮัดกลุ่มนี้ ถือเป็นความล้มเหลวของประชาคมโลก

    ผู้นำรัฐบาลอิรักบอกว่า ประเทศของเขาจำเป็นจะต้องได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก เพื่อตอบโต้การรุกรานของพวกนักรบญิฮัด แต่เอาเข้าจริงก็ได้รับความช่วยเหลือมาไม่มากนัก เขาคิดว่านี่เป็นความล้มเหลว มีการพูดคุยกันเยอะเรื่องให้การสนับสนุนอิรัก แต่ในการปฏิบัติจริงกลับมีนิดเดียว

    อาบาดียังได้เรียกร้องให้นานาชาติช่วยอิรักในเรื่องการจัดซื้ออาวุธสำหรับใช้สู้พวกนักรบญิฮัด โดยระบุว่า ประเทศของเขาแทบจะไม่ได้รับอาวุธเลย ต้องพึ่งตัวเองล้วนๆ

    “เพราะปัญหาด้านการเงินของเรา ทำให้เราไม่สามารถทำสัญญาซื้ออาวุธฉบับใหม่ได้ สัญญาส่วนใหญ่ที่เคยทำไว้ในรัฐบาลก่อนล้วนทำกับรัสเซียทั้งนั้น” ผู้นำรัฐบาลอิรัก ระบุ

    “ตอนนี้รัสเซียโดนคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ ทำให้เราได้ค้นพบว่ามันช่างยากเหลือเกินที่จะซื้ออาวุธมาจัดการพวกนักรบญิฮัด ตอนนี้เงินกองอยู่ในธนาคาร แต่หาซื้ออาวุธไม่ได้” อาบาดีตัดพ้อ

    อาบาดียังบอกด้วยว่า มาตรการคว่ำบาตรยังส่งผลทำให้อิรักไม่สามารถซื้ออาวุธจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างอิหร่าน

    “เราไม่ได้ขอให้แจกอาวุธ แต่ได้โปรดเถอะ ช่วยให้เราหาซื้อได้ง่ายๆ หน่อยได้ไหม“ อาบาดีบ่นอุบ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062508
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : “แอร์โดกัน” ออกโรงข่มขู่บก.หนังสือพิมพ์ตุรกี ฐานสามารถหาภาพเด็ดแฉ “ข่าวกรองตุรกีแอบส่งอาวุธเข้าซีเรีย” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 18:34 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - สำนักงานอัยการสูงสุดตุรกีกำลังสอบสวน แคน ดันดาร์ (Can Dundar) บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คัมฮูริเย็ต ( Cumhuriyet ) หลังจากเผยแพร่ภาพรถบรรทุกขนอาวุธเต็มคันรถกำลังเดินทางจากตุรกีข้ามพรมแดนเข้าไปยังซีเรียบนหน้าหนึ่ง เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่า สำนักงานข่าวกรองตุรกีลักลอบขนอาวุธเข้าซีเรียเพื่อสนับสนุนกบฎซีเรียในการโค่นประธานาธิบดีซีเรียบาชาร์ อัล อัสซาด

    ดิอินดีเพนเดนท์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้(1)ว่า แคน ดันดาร์ (Can Dundar) บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คัมฮูริเย็ต ( Cumhuriyet )ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก และถูกสอบสวนจากสำนักงานอัยการสูงสุดตุรกี หลังจาก คัมฮูริเย็ต ได้ตีพิมพ์ในวันที่ 29 ฑฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นภาพภาพรถบรรทุกที่ขนยุทโธปกรณ์เต็มคันรถมุ่งหน้าข้ามพรมแดนเข้าไปยังตุรกี แต่จากคำบรรยายระบุว่า ภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2014 และเป็นหลักฐานพิสูจน์ถึงการเกี่ยวข้องของสำนักงานข่าวกรองตุรกีในการให้การสนับสนุนกลุ่มกบฎซีเรียได้เป็นอย่างดี

    และจากการตีพิมพ์ครั้งนี้ ทำให้สำนักงานอัยการสูงสุดของตุรกีต้องออกมาชี้แจงว่า เป็นเพราะดันคาร์ละเมิดกฎหมายก่อกาาร้ายตุรกี อานาโดลู (Anadolu) สื่อตุรกีรายงาน

    ซึ่งจากภาพถ่ายที่กล่าวว่าเป็นหลักฐานเด็ดนั้นแสดงให้เห็นถึง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตุรกีกำลังหยุดคาราวานรถและเริ่มที่จะตรวจค้นอย่างถี่ยิบ และรวมไปถึงเปิดหีบเพื่อทำการตรวจค้น ซึ่งทางสื่อ คัมฮูริเย็ต อ้างว่า ลังและหีบเหล่านี้บรรจุอาวุธยุทโธปกรณ์และกระสุนเต็มไปหมด และการตรวจค้นทำให้เกิดการงัดข้อขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นตุรกีและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตุรกี

    แต่ทว่าทางรัฐบาลตุรกีกลับยืนยันว่าคาราวานรถบรรทุกของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตุรกีนี้ล้วนเป็น “สิ่งของบรรเทาทุกข์” ทั้งสิ้น และกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ทำการตรวจค้นกองคาราวานว่า อยู่ในเครือข่ายของนักการศาสนาอิสลาม เฟตุลลาห์ กูเลน ( Fetullah Gulen) คู่ปรับทางการเมืองของประธานาธิบดีตุรกี เรเซ็ป ทายยิป แอร์โดกัน จ้องที่จะล้มรัฐบาลชุดนี้

    และนอกจากนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งให้มีการตรวจจับขบวนรถคาราวานได้ถูกจับกุมเมื่อไม่นานามานี้ นอกจากนี้สื่ออังกฤษยังชี้ว่า การสอบสวนดันดาร์มีขึ้นท่ามกลางการหาเสียงเลือกตั้งรัฐสภาตุรกีเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

    ดิอินดีเพนเดนท์รายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้แอร์โดกันได้ออกโรงข่มขู่ดันดาร์ “ต้องจ่ายในราคาที่สาสม” จากการที่ได้เผยแพร่ภาพเหล่านี้ออกสู่สาธารณะ ซึ่งในการออกแถลงการณ์ครั้งล่าสุดทางโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ (31 พค.) ประธานาธิบดีตุรกีชี้ว่า ดันดาร์เข้าข่ายทำการจารกรรมความลับประเทศ และกล่าวเพิ่มเติมว่า “เขาต้องจ่ายในราคาสูง ซึ่งผมจะไม่มีวันยอมปล่อยให้หลุดรอดไปได้”


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062587
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัทรัสเซียยอมรับ MH17 น่าจะถูกสอยด้วยจรวดบุ้ค แต่ยังโบ้ยเป็นฝีมือกองทัพยูเครน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 20:39 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - บริษัทผู้ผลิตจรวดมิสไซล์ของรัสเซียได้ออกมาระบุในวันอังคาร (2 มิ.ย.) ว่าเที่ยวบิน MH17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่ตกลงในยูเครนเมื่อปีก่อน ดูเหมือนจะโดนสอยด้วยเครื่องยิงจรวดบุ้คที่ผลิตในแดนหมีขาว

    เจ้าหน้าที่ของ "อัลมาส-แอนตี" ซึ่งเป็นผู้ผลิตจรวดมิสไซล์ของรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่าพวกเขายังไม่สามารถบอกได้ว่าฝั่งไหนกันแน่ที่ยิงเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าว แต่น่าจะเป็นฝ่ายกองทัพยูเครนที่ทำ ซึ่งตอนนั้นทางยูเครนได้เปิดเผยรายงานของพวกเขาเกี่ยวกับเหตุร้ายครั้งนั้น โดยอิงข้อมูลจากรูปภาพซากเครื่องบินที่ปรากฏต่อสาธารณชน

    "การวิเคราะห์ขั้นต้นของเราแสดงให้เห็นว่าประเภทของจรวดมิสไซล์ที่ใช้ยิงคือ BUK-M1" สำนักข่าวของรัสเซียรายงานคำพูดของ มิคาอิล มาลีเชฟสกี เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ที่ระบุในการแถลงข่าว

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ระบุว่า จรวดมิสไซล์ BUK-M1 นั้นทางรัสเซียเลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 1999 ส่วนที่เหลือน่าจะอยู่ในคลังแสงของกองทัพยูเครน

    บริษัทผู้ผลิตอาวุธของรัสเซียยังได้กล่าวหาด้วยว่า จรวดมิสไซล์ที่สอยเครื่องบินของมาเลเซียน่าจะถูกยิงจากพื้นที่ใกล้หมู่บ้านซารอชเชนสกี ซึ่งอยู่ทางใต้ของเส้นทางการบิน

    "เราไม่อาจแสดงความเห็นได้ว่าใครประจำการอยู่แถวนั้นในตอนที่เกิดเหตุ" ยาน โนวิคอฟ ผู้อำนวยการบริษัทฯ ระบุ

    ที่ผ่านมา ยูเครนและชาติตะวันตกได้กล่าวหากลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียว่าเป็นคนยิงเครื่องบินลำนี้ด้วยจรวดบุ้ค ที่ได้รับมาจากรัสเซีย ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ปฏิเสธมาโดยตลอด อาจเป็นฝีมือของจรวดยูเครนหรือไม่ก็เครื่องบินรบลำอื่น

    เจ้าหน้าที่สืบสวนของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นชาติที่มีพลเรือนเสียชีวิตบนเครื่องบินลำนั้นมากที่สุด ได้เตรียมที่จะออกรายงานเกี่ยวกับสาเหตุการตกประมาณเดือนตุลาคม

    ด้านกลุ่มนักข่าวพลเมือง "เบลลิงแคท" ของอังกฤษยังได้ออกรายงานที่อ้างว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียมีการปรับแต่งภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อเอามาใช้หนุนข้ออ้างของฝ่ายตนเอง


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062647
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่ในกาซาสังหารสมาชิกกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง "ซาลาฟิสต์"
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 19:39 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ผู้นำในระดับท้องถิ่นรายหนึ่งของกลุ่ม "ซาลาฟิสต์" ถูกยิงเสียชีวิตที่เมืองกาซาซิตี้ในวันอังคาร (2 มิ.ย.) ระหว่างที่มีการเผชิญหน้ากับตำรวจและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฮามาส ที่พากันบุกไปจับกุมตัวเขา

    เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในย่านชีครัดวาน ทางตอนเหนือของกาซาซิตี้ โดยทางกระทรวงมหาดไทยระบุว่า ผู้เสียชีวิตคือ ยุสเซฟ อัล-ฮาตาร์ ผู้นำในระดับท้องถิ่นของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่รู้จักกันดีในชื่อ "ซาลาฟิสต์"

    จากข้อมูลของโฆษกกระทรวงมหาดไทย "อิยัด บูซูม" ได้ความว่า กองกำลังความมั่นคงได้เข้าไปในบ้านของผู้ตายในช่วงเช้าเพื่อจับกุมตัวเขา จากการดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฏหมาย

    "ฮาตาร์พยายามที่จะหลบหนี เขายิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ แล้วพยายามจะระเบิดตัวเองด้วยเสื้อที่ติดตั้งระเบิดฆ่าตัวตาย แต่โดนเจ้าหน้าที่ยิงจนเสียชีวิตก่อนที่จะได้จุดระเบิด นอกจากนี้เขายังพยายามจะเปิดใช้งานกับระเบิดที่ซ่อนในบ้านของเขาด้วย" บูซูม บอกเอเอฟพี

    "กองกำลังความมั่นคงได้วางแนวกั้นบ้านหลังนั้นเอาไว้ แล้วหลังจากนั้นการปะทะกันอย่างรุนแรงก็เกิดขึ้น" ผู้เห็นเหตุการณ์บอกเอเอฟพี โดยมีบางรายบอกด้วยว่า ฮาตาร์ เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่อยู่ในเครือของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

    บูซูม บอกว่า ภายในบ้านหลังนั้น เจ้าหน้าที่ได้พบอาวุธจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีทั้ง เข็มขัดระเบิด อุปกรณ์จุดระเบิด รวมถึงเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี รูปถ่ายของอาวุธเหล่านี้ถูกโพสต์ขึ้นไปบนหน้าเพจของเฟซบุ้คกระทรวงมหาดไทย

    ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กลุ่มฮามาส ซึ่งมีอำนาจอยู่ในกาซา ได้ดำเนินการปราบปรามอย่างหนักต่อกลุ่มซาลาฟิสต์ ที่ออกปฏิบัติการในดินแดนของชาวปาเลสไตน์แห่งนี้ โดยมีการโจมตีด้วยระเบิดแบบหาคนทำไม่ได้อยู่หลายครั้ง

    นับตั้งแต่ช่วงหน้าร้อนปีที่แล้ว ตอนอิสราเอลกับฮามาสสู้รบกันอย่างดุเดือด 50 วันในกาซาและบริเวณโดยรอบ ก็เริ่มมีเหตุระเบิดขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้นในดินแดนของชาวปาเลสไตน์ แต่มักจะหาตัวบงการก่อเหตุได้ยาก

    ระเบิดเหล่านี้มุ่งเป้าโจมตีอาคารบ้านเรือน รถยนต์ รวมถึงบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งของฮามาสและฟาตาห์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวภายใต้การนำของประธานาธิบดี มาห์มุด อับบาส ของชาวปาเลสไตน์

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โอบามาเตือนจีนอย่า “เหวี่ยงศอก” ใส่ชาติอื่นในข้อพิพาททะเลจีนใต้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 18:10 น. (แก้ไขล่าสุด 2 มิถุนายน 2558 18:14 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯพิจารณาถึงเรื่องข้อพิพาททางดินแดนในทะเลจีนใต้เมื่อวานนี้ (1) พร้อมเรียกร้องให้มหาอำนาจในภูมิภาค โดยเฉพาะจีน เคารพกฎหมายและเลิกขยายอำนาจอธิปไตยของตนในพื้นที่นี้ด้วยการ “เหวี่ยงศอก” ใส่คนอื่น

    ในขณะที่มหาอำนาจในภูมิภาคเอเชียหลายชาติกำลังเผชิญหน้ากันจากกรณีพรมแดนทางทะเล โอบามาได้กล่าวเตือนในเรื่องการเพิกเฉยต่อกฎหมายที่มีอยู่และการออกห่างจากแนวทางที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขข้อพิพาท

    “หากคุณเริ่มสูญเสียแนวทางนั้นไป และความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน อีกทั้งการอ้างสิทธิ์ถูกยกมาจากพื้นฐานที่ว่าประเทศใหญ่แค่ไหนหรือกองทัพเรือทรงอานุภาพเพียงใด แทนที่จะมาจากพื้นฐานทางกฎหมาย เมื่อนั้นแล้วผมคิดว่าเอเชียและภูมิภาคแปซิฟิกจะรุ่งเรืองมั่งคั่งน้อยลง” เขากล่าว

    โอบามาเสริมว่า ถึงแม้ว่าสหรัฐฯจะไม่ได้อ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ใดๆ ในทะเลจีนใต้ แต่ในฐานะ “มหาอำนาจในภูมิภาคแปซิฟิก” วอชิงตันเรียกร้องให้จีนและประเทศอื่นๆ ยุติการแปรสภาพที่ดิน

    คณะบริหารของเขาประกาศกร้าวว่าจะยังคงส่งเครื่องบินและเรือของกองทัพไปยังพื้นที่ตึงเครียดแห่งนี้เพื่อปกป้องสิทธิในการเดินเรือ

    “พวกเราคิดว่าการแปรสภาพที่ดิน และการกระทำก้าวร้าวโดยฝักฝ่ายใดก็ตามในพื้นที่ดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์” โอบามา กล่าว

    โอบามา ซึ่งกล่าวกระทบถึงจีนโดยตรง ได้ยกคำศัพท์ในการชกมวยมาใช้เชิงเปรียบเทียบว่า “มันอาจเป็นไปได้ว่าการอ้างสิทธิ์ของพวกเขาบางส่วนชอบด้วยกฎหมาย แต่พวกเขาก็ไม่ควรเพียงแค่พยายามทำให้มันเป็นที่ยอมรับด้วยการเหวี่ยงศอกและผลักคนอื่นให้พ้นทาง”


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนเพิ่มการใช้ประโยชน์จาก “พลังงานนิวเคลียร์” เป็น 1 ใน 5 ภายในปี 2030 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มิถุนายน 2558 05:06 น. (แก้ไขล่าสุด 2 มิถุนายน 2558 10:19 น.)

    [​IMG]
    เอเจนซีส์ - รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเดินหน้าแผนเพิ่มสัดส่วนการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์เป็นมากกว่า 20% หรือ 1 ใน 5 ของสัดส่วนการใช้พลังงานทั้งประเทศภายในปี ค.ศ. 2030 เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานและลดการพึ่งพา “น้ำมัน” จากต่างประเทศ

    ท่าทีล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นมีขึ้นหลังมีการเผยแพร่ผลการศึกษานานเป็นแรมปีของทางคณะกรรมการพิเศษของกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นซึ่งได้ข้อสรุปว่า การใช้พลังงานนิวเคลียร์ถือเป็นเรื่องจำเป็น และถือเป็นทางออกเพื่อความอยู่รอดของเศรษฐกิจแดนปลาดิบ

    ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 สัดส่วนการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 1% เท่านั้น แต่คาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะขยายสัดส่วนของการใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็น 22-24% ภายในปี ค.ศ. 2030 หากแผนการนี้ผ่านความเห็นชอบจากกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในช่วงกลางปีนี้

    อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดกันว่าสาธารณชนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยยังคงไม่เชื่อมั่นต่อความปลอดภัย ของการใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์ โดยเฉพาะหลังเกิด “วิกฤตที่ยังแก้ไม่รู้จบ” กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา-ไดอิจิ ที่เสียหายหนักจากเหตุแผ่นดินไหว-สึนามิเมื่อเดือนมีนาคม 2011


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000062205
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แคนาดาได้รับเชื้อแอนแทรกซ์มีชีวิตจากสหรัฐ | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „แคนาดาได้รับเชื้อแอนแทรกซ์มีชีวิตจากสหรัฐ รัฐบาลแคนาดายืนยันการได้รับตัวอย่างเชื้อแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตจากกองทัพสหรัฐ เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลวอชิงตันยอมรับ "ความผิดพลาด" ที่เกิดขึ้น และเร่งสืบสวนหาสาเหตุ วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 เวลา 8:51 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่ากระทรวงสาธารณสุขของแคนาดาออกแถลงการณ์ยืนยันการได้รับสปอร์เชื้อแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตจากห้องทดลองของกองทัพสหรัฐ ซึ่งส่งตัวอย่างเชื้อมายังห้องทดลองของรัฐบาลในเมืองวินนิเป็ก เมื่อปี 2549 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่เคยเปิดใช้เชื้อดังกล่าว และปัจจุบันเก็บรักษาเอาไว้ในสถานที่ปลอดภัย

    แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลแคนาดาถือเป็นการยืนยันรายงานของหนังสือพิมพ์ "ยูเอสเอ ทูเดย์" ฉบับเมื่อวันจันทร์ ว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) อาจส่งตัวอย่างเชื้อแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตให้รัฐบาลออตตาวาด้วย ขณะที่พ.อ.สตีฟ วอร์เรน โฆษกเพนตากอน แถลงยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันกำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุของความผิดพลาดร่วมกับศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ( ซีดีซี ) โดยทุกฝ่ายพุ่งเป้าไปที่ห้องทดลองดักเวย์ของเพนตากอน ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลทรายในรัฐยูทาห์ และเป็นสถานที่วิจัยอาวุธเคมีของรัฐบาลวอชิงตัน

    ทั้งนี้ รายงานของเพนตากอนซึ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยืนยัน "ความผิดพลาด" ในการส่งตัวอย่างเชื้อแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตจากห้องทดลองดักเวย์ ไปยังห้องทดลองอย่างน้อย 28 แห่ง ใน 12 รัฐ ขณะที่ห้องทดลองในออสเตรเลียและเกาหลีใต้ได้รับตัวอย่างเชื้อที่ยังมีชีวิตเช่นกัน โดยมีผู้ต้องสงสัยได้รับเชื้ออย่างน้อย 27 คน แบ่งเป็น 5 คนในสหรัฐ และ 22 คนในเกาหลีใต้“

    อ่านต่อที่ : แคนาดาได้รับเชื้อแอนแทรกซ์มีชีวิตจากสหรัฐ | เดลินิวส์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มคนหนุ่มสาวค้านอังกฤษออกจากอียู | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „กลุ่มคนหนุ่มสาวค้านอังกฤษออกจากอียู ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอังกฤษที่มีต่ออียูพบว่า กว่าครึ่งไม่ต้องการให้ประเทศออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพ และผู้ที่คัดค้านส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 เวลา 10:52 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ว่าศูนย์วิจัยพิวเผยผลสำรวจทัศนคติของประชาชนใน 6 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ( อียู ) ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี โปแลนด์ และสเปน รวมทั้งสิ้น 6,028 คน ระหว่างวันที่ 7 เม.ย.- 13 พ.ค. ปรากฏว่า ร้อยละ 61 ของกลุ่มตัวอย่างต้องการให้ประเทศของตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของอียูต่อไป เพิ่มขึ้น 9 จุด จากผลสำรวจเมื่อปี 2556 ซึ่งคะแนนในครั้งนั้นอยู่ที่ร้อยละ 52

    ร้อยละ 46 ของกลุ่มตัวอย่างกล่าวด้วยว่า นโยบายบูรณาการทางเศรษฐกิจร่วมกันของสมาชิกทั้ง 28 ประเทศ มีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในภาพรวม ขณะที่หากจำแนกออกเป็นประเทศพบว่า ร้อยละ 52 ของกลุ่มตัวอย่างในสหราชอาณาจักรมีความพึงพอใจกับเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน ที่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ เพิ่มขึ้นถึง 15 จุด จากการสำรวจเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

    ขณะที่ร้อยละ 55 ของกลุ่มตัวอย่างในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า ต้องการให้ประเทศเป็นส่วนหนึ่งของอียูต่อไป โดยผู้ที่ตอบแง่บวกส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้มีอายุ 18-29 ปี ซึ่งร้อยละ 69 ของกลุ่มตัวอย่างส่วนนี้กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลจัดการลงประชามติในเร็ววันนี้ จะออกเสียงคัดค้านการถอนตัวออกจากสหภาพ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2556 ผลสำรวจของพิวในหัวข้อเดียวกันพบว่า ความต้องการถอนตัวออกจากอียู และต้องการให้ประเทศอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพต่อไปนั่น อยู่ในระดับเท่ากันที่ร้อยละ 46

    ทั้งนี้ รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ซึ่งชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ยืนยันเดินหน้าจัดการลงประชามติชี้ชะตาอนาคตของประเทศในอียู ภายในปี 2560“

    อ่านต่อที่ : กลุ่มคนหนุ่มสาวค้านอังกฤษออกจากอียู | เดลินิวส์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเอ็นร้องเยเมนสงบศึกชั่วคราวเพื่อประชาชน | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „ยูเอ็นร้องเยเมนสงบศึกชั่วคราวเพื่อประชาชน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติรับรองความเห็นนายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้เยเมนหยุดสู้รบชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์เข้าแจกจ่ายความช่วยเหลือให้ประชาชน วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 เวลา 11:55 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติเป็นเอกฉันท์รับรองข้อเรียกร้องของนายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ต้องการให้การสู้รบซึ่งเกิดขึ้นในเยเมนระหว่างกองกำลังของกบฎฮูตี เชื้อสายชีอะห์ กับกองกำลังของรัฐบาลเยเมนที่มีซาอุดิอาระเบียเป็นผู้สนับสนุน สงบศึกกันชั่วคราว เพื่ออนุญาตให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานบรรเทาทุกข์สามารถเข้าไปแจกจ่ายความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนเยเมนได้

    ทั้งนี้ ยูเอ็นเอสซีทั้ง 15 ชาติ ต่างแสดงความผิดหวังที่การเจรจาสันติภาพของสองฝ่ายที่สู้รบกันนั้นถูกเลื่อนออกไปจากเดิมซึ่งต้องมีการเจรจากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่นครเจนีวา ของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวใกล้ชิดยูเอ็นเอสซีกล่าวว่า การเจรจามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 10 มิ.ย.ที่จะถึง

    เมื่อเดือนที่แล้วกบฎฮูตีและกองกำลังของรัฐบาลสามารถสงบศึกกันชั่วคราวเป็นเวลา 5 วัน ทำให้เจ้าหน้าที่จากองค์บรรเทาทุกข์สามารถเข้าไปแจกจ่ายความช่วยเหลือให้ประชาชนได้ แต่ยูเอ็นก็ยังไม่สามารถยืดเวลาสงบศึกได้นานไปกว่านั้น และการเจรจาสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองฝั่ง ต้องไม่มีเงื่อนไขก่อนการเข้าร่วมการเจรจา แต่เงื่อนไขต่างๆจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้เจรจากันแล้ว“

    อ่านต่อที่ : ยูเอ็นร้องเยเมนสงบศึกชั่วคราวเพื่อประชาชน | เดลินิวส์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ติดเชื้อไวรัส "เมอร์ส" ในเกาหลีใต้เพิ่มไม่หยุด | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „ผู้ติดเชื้อไวรัส "เมอร์ส" ในเกาหลีใต้เพิ่มไม่หยุด ทางการเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือ "เมอร์ส" เพิ่มอีก 5 คน ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มเป็น 30 คนแล้วในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ และเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 เวลา 7:37 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ว่ากระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์เรื่องการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนากลุ่มโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ( เมอร์ส ) เพิ่มอีก 5 คน ในจำนวนนี้ 4 คนคาดว่าได้รับเชื้อหลังการเข้าเยี่ยมชายวัย 68 ปี ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อคนแรกของประเทศ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงโซล เมื่อกลางเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา เพิ่มจำนวนผู้ป่วยเป็นอย่างน้อย 30 คนแล้ว

    ส่วนผู้ป่วยอีกคนเป็นชายวัย 60 ปี มีอาการติดเชื้อแบบตติยภูมิ คือได้รับเชื้อต่อจากผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันก่อนหน้านี้ว่าติดเชื้อมาจากผู้ป่วยคนแรก ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ยอมรับว่าเป็นลักษณะการติดเชื้อที่พบได้ไม่บ่อยนัก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่อย่างน้อย 2 ศพ และมีผู้เข้ารับการกักบริเวณรวมถึงเฝ้าระวังรวมกันราว 750 คน ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขึ้นบัญชีกลุ่มคนเหล่านี้ห้ามเดินทางออกนอกประเทศชั่วคราว

    ด้านองค์การอนามัยโลก ( ฮู ) ยังคงไม่ออกประกาศเตือนภัยหรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศนอกภูมิภาคตะวันออกกลางที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สมากที่สุด นับตั้งแต่มีการค้นพบการติดเชื้อในมนุษย์เป็นครั้งแรกในซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2555 จนถึงปัจจุบันทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ศพ โดยยังไม่มียาชนิดใดสามารป้องกันหรือรักษาได้

    อาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสเมอร์สนั้นคล้ายการติดเชื้อไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ( ซาร์ส ) โดยติดต่อกันผ่านสารคัดหลั่ง แต่อาการของโรครุนแรงกว่าหลายเท่า เนื่องจากอาจถึงขั้นปอดบวม ไตวาย หรือเกิดภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิตของเชื้อไวรัสซาร์สอยู่ที่ร้อยละ 9-12 สำหรับวัยผู้ใหญ่ และเพิ่มเป็นร้อยละ 50 สำหรับวัยชรา แต่อัตราการเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเมอร์สสำหรับทุกช่วงวัยสูงถึงร้อยละ 40“

    อ่านต่อที่ : ผู้ติดเชื้อไวรัส "เมอร์ส" ในเกาหลีใต้เพิ่มไม่หยุด | เดลินิวส์
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนเริ่มก่อสร้างแนวท่อรับก๊าซจากรัสเซีย | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „จีนเริ่มก่อสร้างแนวท่อรับก๊าซจากรัสเซีย จีนเริ่มการก่อสร้างท่อในฝั่งของตน เพื่อรองรับก๊าซที่จะส่งข้ามแดนจากรัสเซีย ตามข้อตกลงซื้อขายพลังงานมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระยะเวลา 30 ปี วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 เวลา 3:42 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่า ทางการจีนเริ่มการก่อสร้างแนวท่อ พลังงานแห่งไซบีเรีย (Power of Siberia) สำหรับขนส่งก๊าซข้ามแดนจากรัสเซีย ตามเส้นทางสายตะวันออก ในส่วนของจีนเอง ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะเริ่มจากเมืองไห่เหอ ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ติดเขตแดนรัสเซีย ไปยังเมืองจางหลิงในมณฑลจี้หลิน แนวท่อในฝั่งจีนจะแยกเป็น 3 แนวย่อย ผ่านเขต 9 มณฑลและเมือง ไปสิ้นสุดที่นครเซี่ยงไฮ้ ริมชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออก

    [​IMG]

    แถลงการณ์ของ "ก๊าซพรอม" บริษัทก๊าซของรัฐบาลรัสเซียเมื่อวันอังคาร ระบุว่า แนวท่อส่งก๊าซพลังงานแห่งไซบีเรีย มีระยะทางทั้งหมด 3,968 กิโลเมตร การก่อสร้างของจีนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงมูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างบริษัทก๊าซพรอมของรัสเซีย กับบริษัทซีเอ็นพีซีของรัฐบาลจีนเมื่อปีที่แล้ว และรัสเซียจะลงทุน 55 พันล้านดอลลาร์ ในส่วนของตนเอง ซึ่งรวมถึงการนำแหล่งก๊าซใหม่ส่งป้อนให้กับจีนตามข้อตกลง

    [​IMG]

    ท่อพลังงานแห่งไซบีเรีย จะส่งก๊าซให้จีนปีละ 38 พันล้านคิวบิกเมตร เป็นเวลา 30 ปี การส่งก๊าซงวดแรกกำหนดมีขึ้นในปี พ.ศ. 2562 แถลงการณ์ฯ ยังระบุอีกว่า การเจรจาสำหรับแนวท่อส่งก๊าซ "สายตะวันตก" ซึ่งจะเชื่อมต่อแหล่งก๊าซที่ดำเนินการอยู่แล้วในรัสเซียกับจีน กำลังดำเนินไปด้วยดี.“

    [​IMG]

    อ่านต่อที่ : จีนเริ่มก่อสร้างแนวท่อรับก๊าซจากรัสเซีย | เดลินิวส์
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัทอาวุธรัสเซียชี้เอ็มเอช17ถูกสอยโดยกองทัพยูเครน | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „บริษัทอาวุธรัสเซียชี้เอ็มเอช17ถูกสอยโดยกองทัพยูเครน บริษัทผู้ผลิตจรวด 'บุ๊ค' แบบยิงจากพื้นสู่อากาศ ซึ่งเป็นอาวุธที่ต้องสงสัยว่าถูกใช้ในการโจมตีเครื่องบินโดยสารเอ็มเอช 17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกในยูเครนเมื่อปีที่แล้ว เปิดเผยข้อมูลระบุว่าอาวุธดังกล่าวเป็นแบบที่ยังใช้กันอยู่ในกองทัพยูเครน วันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 เวลา 0:44 น.

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สำนักข่าวเอพี รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่า บริษัท "อัลมาซ-อันเต" บริษัทผลิตอาวุธของทางการรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตจรวดบุ๊ค ขีปนาวุธแบบยิงจากพื้นสู่อากาศ แถลงชี้แจงเมื่อวันอังคาร นายมิคาอิล มาลิเชฟสกี ที่ปรึกษาผู้อำนวยการบริหาร กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายซากเครื่องบินโดยสารเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส พบว่า ปรากฏร่องรอยความเสียหายที่เป็นลักษณะเฉพาะเกิดจากจรวดบุ๊ครุ่นเก่า

    นายเอียน โนวิคอฟ ผู้อำนวยการอัลมาซ กล่าวว่า หัวรบของจรวดบุ๊คแต่ละรุ่น จะมีลักษณะการกระจายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งปัจจุบันจรวดรุ่นนี้ยังมีใช้อยู่ในกองทัพอยู่เครน แต่ไม่มีการใช้ในกองทัพรัสเซียแล้ว นอกจากนี้ มาลิเชฟสกียังกล่าวว่า จรวดนั้นไม่ได้ถูกยิงออกจากพื้นที่ที่อยู่ในการควบคุมของกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียอย่างที่รัฐบาลเคียฟและชาติตะวันตกพยายามกล่าวหา แต่เป็นพื้นที่ในการควบคุมของรัฐบาลยูเครน ซึ่งเป็นการกล่าวเป็นนัยว่าทางการยูเครนอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

    ทั้งนี้ เอ็มเอช 17 บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 298 คน เดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ มุ่งหน้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ถูกยิงตกเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ปีที่แล้ว ขณะบินผ่านน่านฟ้าเหนือภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบระหว่างรัฐบาลยูเครนและกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน.“

    อ่านต่อที่ : บริษัทอาวุธรัสเซียชี้เอ็มเอช17ถูกสอยโดยกองทัพยูเครน | เดลินิวส์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 3 มิ.ย.58 เอ้าเร่เข้ามา รมต.ต่างประเทศมะกัน โดนยิงแล้วแต่ปิดข่าว
    เป็นที่รู้กันในวงในลับๆ มานานแล้วว่า รมต.ต่างประเทศอเมริกา คนปัจจุบัน เป็นเจ้านายสายตรงกลุ่ม IS ฮอลีวู๊ด ในตะวันออกกลาง ผู้นำคุมกำลัง สายเหยี่ยวกลุ่ม IS คนสำคัญคือ พ.อ.กัลมูรอด คาลิมอพ เชื้อสายเชเชน
    เกิดเรื่องหลุดแทบไม่น่าเชื่อ จากความประมาท ของรัฐบาลอเมริกา เมื่อ รมต.ต่างประเทศอเมริกา บินจากสวิสฯ ไปที่ฝรั่งเศส เพื่อจะประชุมการต่อต้านกลุ่ม IS ที่จัดขึ้นที่ฝรั่งเศส แต่ก่อนประชุมเขานัดหารือลับกับผู้บัญชาการกลุ่ม IS ฮอลีวู๊ดคนนี้ ที่ฐานทัพลับแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส
    แต่ปากมีหูประตูมีช่อง เกิดเหตุแทรกซ้อน ไม่รู้กองกำลังฝ่ายไหน บุกกระหน่ำยิงใส่คณะ รมต.ต่างประเทศอเมริกา กับ ผู้บัญชาการกลุ่ม IS ขณะกำลังเจราความกัน ส่งผลให้ รมต.ถูกยิง และทีม รปภ.ก็บาดเจ็บสาหัส
    ทางการอเมริกาเสียหน้าเรื่องนี้มาก ที่ความลับถูกเปิดโปง รีบให้ฝรั่งเศสส่งเขาไปสวิสฯ จากนั้นส่งเครื่องบินทหาร C-17 มารับ รมต.ต่างประเทศตนเอง ไปผ่าตัดที่อเมริกาโดยด่วน พร้อมออกข่าวกลบเกลื่อนว่า เขาขี่จักรยานล้มในเมืองเล็กๆ ของฝรั่งเศสแห่งหนึ่งจนขาหัก...น้านนน
    บอกแล้ว เรื่องแฉอเมริกา ต้องสายลับรัสเซีย ถึงจะรู้จริง แต่ไม่เป็นไร อเมริกา อยากกลบข่าวเพราะอับอาย แต่เราอยากจะแฉ ให้โลกรู้ว่า รมต.ต่างประเทศเขา นัดพบผู้บัญชาการกลุ่ม IS ฮอลีวู๊ด แล้วเกิดปะทะยิงใส่กัน จนบาดเจ็บหนัก...เจ้าข้าเอ้ย..กระจองงองๆ..แท้งกิ้วทรีทาม กิ๊วๆ !!

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    @ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 2 มิ.ย.58 แผงโซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้าบนคลองชลประทาน
    ในต่างประเทศนั้น กระแสเรื่องการใช้พลังงานทดแทนจากธรรมชาติ เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวกว่าในอดีต มีการใช้ วันที่ 2 มิ.ย.58 แผงโซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้าบนคลองชลประทาน
    ในต่างประเทศนั้น กระแสเรื่องการใช้พลังงานทดแทนจากธรรมชาติ เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวกว่าในอดีต มีการใช้ แผงโซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลาย ที่เหลือใช้ก็ขายกลับมาให้รัฐ นำไปจำหน่ายต่อ
    ในภาพเขาใช้ แผงโซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้า วางคล่อมลงบนคลองส่งน้ำระบบชลประทาน ข้อดีคือลดการระเหยของน้ำจากความร้อนดวงอาทิตย์ ขณะเดียวกันน้ำก็ยังได้รังสี UV เพื่อฆ่าเชื้อโรคไปด้วย อีกทั้งไม่ต้องวางโครงสร้างของ แผงโซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้าเพิ่ม
    เพราะขอบของคลองส่งน้ำรูปตัววี เป็นโครงสร้างรับ แผงโซลาเซลล์ผลิตไฟฟ้าได้พอดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งฝูงเลย..เรื่องแบบนี้ประชาชนระดมทุนทำได้ง่ายๆ ด้วยรูปแบบ "สหกรณ์" เก็บผลประโยชน์ขายไฟฟ้ากินในระยะยาว
    แต่การผลิตพลังงานไฟฟ้าทุกประเภท "เพื่อขาย" ให้รัฐวิสาหกิจของไทย ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตให้เรียบร้อยก่อนเท่านั้น (ถ้าใช้ส่วนตัวไม่ต้องขอ) ซึ่งที่ผ่านมาคนไทยมักข้ามขั้นตอนนี้ไป แล้วเกิดปัญหาติดขัดผิดกฎหมายภายหลัง ที่ต้องขออนุญาตเพื่อขาย เพราะไฟฟ้ามีอันตรายถึงชีวิต และต้องติดตั้งถูกต้องตามหลักวิศวกรรม
    หากทำเพื่อขายไฟฟ้า แต่ไม่ขออนุญาต ย่อมเชื่อมเข้าระบบไม่ได้ เกิดไฟฟ้าลัดวงจรในระบบกลางขึ้นมา ไฟฟ้าดับทั้งย่าน หาคนรับผิดชอบก็ไม่รู้จะตามที่ใคร เรียกว่าทำๆ ไปก่อน แล้วอนาคตค่อยมาแก้..คล้ายๆ ทำหมู่บ้านจัดสรรขายไปก่อน เจ้าหน้าที่ตรวจเจอก็ผิดกฎหมาย
    พอจะยื่นเรื่องขอจดทะเบียนใบอนุญาตย้อนหลัง ก็ไม่มีใครกล้าอนุมัติให้ ที่ผ่านมาเมืองไทยพบปัญหานี้มาก ในผู้ติดโซล่าเซลล์ ในโรงแรม โรงงาน ฯลฯ แต่ไม่ยอมยื่นขอใบอนุญาตตามขั้นตอนเสียก่อน
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำชาติอียูร่วมวงถกไอเอ็มเอฟหาทางช่วยกรีซ
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 3 มิ.ย. 2558 09:01

    [​IMG]
    @ภาพจาก Lefigaro

    ผู้นำอียู ฝรั่งเศส เยอรมนี ประชุมร่วมกับประธานธนาคารกลางยุโรปและไอเอ็มเอฟ เพื่อหาข้อสรุปช่วยกรีซ โดยได้ข้อสรุปรวม 3 ข้อเสนอของเจ้าหนี้ เพื่อหวังจะช่วยให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซนต่อไป...

    เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2558 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำประเทศเบลเยียม รายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์เลอฟิกาโรของฝรั่งเศสได้รายงานข่าว ข้อเสนอกับข้อโต้แย้งของกรีซกับบรรดาเจ้าหนี้เดินหน้าไปถึงจุดสุดท้าย ที่จะบรรลุข้อตกลงด้วยเงื่อนไขเวลาที่กระชั้นชิด ขณะที่กรีซกำลังรอรับเงินก้อนสุดท้ายจำนวน 7.2 พันล้านยูโร ที่ยังถูกบล็อกอยู่ และจะต้องคืนเงินให้กับไอเอ็มเอฟจำนวน 1.5 พันล้านยูโรในเดือน มิ.ย.นี้ โดยต้องชำระก้อนแรกจำนวน 300 ล้านยูโรในวันศุกร์นี้ (5 มิ.ย.) เริ่มมีความวิตกกังวลกับความสามารถในการใช้คืนหนี้ก้อนแรก

    ขณะที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกอียูต่างปฏิเสธที่จะพูดถึงประเด็นดังกล่าว เพียงแต่บอกว่า ยังมีงานที่จะต้องทำกันต่อไป ทางด้านนางแองเกอลา แมร์เคล ก็พยายามดึงประเด็นนี้ออกไป มิให้วนเวียนอยู่ในระหว่างการประชุมจี 7 ที่แคว้นบาวาเรียช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยภายหลังการรับประทานอาหารค่ำกับผู้นำธุรกิจดิจิตอลชั้นนำกว่ายี่สิบบริษัทที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีเยอรมนีเมื่อคืนวันจันทร์ที่กรุงเบอร์ลิน ได้มีการเรียกประชุมลับระหว่างนางแองเกอลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายฌองโคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป นายมาริโอ ดรากี้ ประธานธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB และนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF

    หลังจากการพูดคุยกันเป็นเวลาสามชั่วโมง ผู้นำยุโรปก็ได้ตัดสินใจที่จะแสวงหา 'ข้อเสนอร่วม' เพื่อยื่นต่อกรีซเป็นข้อเสนอสุดท้าย อันจะเป็นรวมเงื่อนไขทั้งหลายของเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันหลักทั้งสามแห่งให้เป็นแนวทางเดียวกัน แม้ว่าผู้นำประเทศสมาชิกอียูจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่ ทั้งนางแองเกอลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็ยังคงเน้นย้ำว่า ได้พยายามทุกวิถีทางที่จะให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซน แต่การตัดสินใจก็มิได้ขึ้นอยู่กับเขาทั้งสองคนเท่านั้น

    นายอเลซิส ทซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ มิได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมที่กรุงเบอร์ลินด้วย แต่เขาก็ได้รับการติดต่อกับนางแองเกอลา แมร์เคล และนายฟรองซัวส์ ออลลองด์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาได้ติดตามผลการประชุมของบรรดาเจ้าหนี้อย่างใกล้ชิด กรีซได้นำเสนอแผนใหม่ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีกรีซยืนยันว่า “เราได้นำข้อเสนอที่ทำได้จริง ดังนั้น การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับบรรดาผู้นำอียูเท่านั้น” ในระดับยุโรปนั้น ก็ได้มีการแสดงความยินดีกับการแลกเปลี่ยนข้อเสนอระหว่างกัน

    นายปิแอร์ มอสโควิชิ กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจของอียู กล่าวว่า “ถือเป็นความก้าวหน้าที่บรรลุผล” แต่ก็ไม่มีการแถลงถึงผลการประชุมระหว่างสามสถาบันเกี่ยวกับข้อเสนอของกรีซ

    ด้าน นายเจอเริน ไดจ์เซลบลูม ประธานกลุ่มยูโร กล่าวว่า แม้ว่ากรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงในอาทิตย์นี้ ก็ยังคงต้องผ่านความเห็นชอบจากยูโรกรุ๊ปอีกด้วย ดังนั้น จะยังคงไม่มีการให้โอนเงินให้ในสัปดาห์นี้ อียูไม่ต้องการให้ใครมาชี้นำ ผู้รับผิดชอบของอียูกล่าวว่า “เราได้ผ่อนคลายท่าทีลงไปมากกว่าเมื่อสี่ปีก่อน อียูมิได้หวาดกลัวกับผลกระทบอันจะเกิดจากการล่มสลายของกรีซแล้ว ซึ่งเป็นท่าทีที่ต่างกับในช่วงแรกของการเกิดวิกฤติ

    รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า มีหลายหลายแนวทางที่จะต้องเผชิญหน้าหากว่า “ความตกลงเต็มรูปแบบ” ไม่บรรลุผลในช่วงอนาคต บางฝ่ายได้มีข้อเสนอให้ทำการโอนเงินให้เป็นสองขั้น โดยนำเรื่องที่ยากที่สุดเก็บไว้ในพิจารณาในลำดับสุดท้าย เช่น เรื่องการปฏิรูประบบเงินบำนาญ ก็จะช่วยให้กรีซสามารถปฏิบัติตามข้อบังคับทางการเงินได้ แต่ก็เป็นไปได้ว่าจะมีการผิดนัดชำระหนี้ ทางด้านไอเอ็มเอฟเองก็ไม่ยอมผ่อนคลายข้อบังคับ และต้องการให้กรีซรับผิดชอบชำระหนี้ตามกำหนด กระบวนการใหม่ที่จะนำมาปรับใช้กับปฏิกิริยาอันไม่แน่นอนกำลังจะเกิดขึ้น ตลาดเงินจะมีการตอบสนองอย่างไร ธนาคารกลางยุโรปมีแนวคิดตอบรับเพียงได นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ กับนางแองเกอลา แมร์เคล ก็ยังคงรักษาท่าทีที่สงบเงียบเช่นเดิม.

    ผู้นำชาติอียูร่วมวงถกไอเอ็มเอฟหาทางช่วยกรีซ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nopp Rattachat
    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
    จาก ดร. Simon Atkins
    เกี่ยวการเปลี่ยนแปลงระดับ Shumann Resonance
    หรือคลื่นความถี่มวลรวมของโลกจาก 7.83Hz.เป็น 11
    และจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ในอนาคต
    เขาคาดการณ์ว่าในอีกสองเดือนข้างหน้า 15%ของพลเมืองโลกจะมีอาการคลุ้มคลั่งหรือที่เราเรียกว่าบ้า
    และมีการคาดการในอีกหลายๆเรื่องที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าจะเป็นเช่นนั้น
    บทสัมภาษณ์สองชั่วโมงตัดตอนสรุปมาให้ 6:17นาที

    <iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/cPQYhkkuIFw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ่านดูน่ะครับ แล้วจะรู้ว่าความถี่มีผลกับสภาวะจิตใจของมนุษย์อย่างไรบ้างครับ
    รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก
    การสลับขั้วของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์และปฏิกิริยาบนดวงอาทิตย์ที่มีผลต่อพฤติกรรมของมนุษย์

    [​IMG]

    [​IMG]

    ขณะเดียวกันคลื่นพลังงานหรืออนุภาคต่างๆ Solar flare ที่มาจากดวงอาทิตย์มันได้ส่งผลกระทบต่อมนุษย์เช่นกัน โดยมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับปฏฺิกิริยาบนดวงอาทิตย์ที่นักวิทยาศาสตรของนาซ่าได้ทำการศึกษาไว้ซึ่งเขาแยกพฤติกรรมของมนุษย์ไว้ในช่วงที่ดวงอาทิตย์เริ่มเกิดการสลับขั้วและช่วงที่ดวงอาทิตย์เริ่มมีปฏิกิริยาสูงได้มา 5 พฤติกรรม จากการสำรวจวิจัยทั่วโลกคือ
    1.เหล่าผู้นำเริ่มมีอารมณ์เกิดการถูกกระตุ้นทำให้มีอิทธิพลเพื่อโน้มน้าวปลุกปั่นมวลชน
    2.ทำให้เกิดการกระทำด้วยการเน้นหนักทางความคิดความตื่นเต้นต่อมวลชน
    3.การเกิดความไม่แน่นอนเมื่ออยู่ในสถานที่หนึ่งของบุคคลนั้นๆ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจุดสำคัญทางด้านจิตใจ
    4.การควบคุมคนกลุ่มๆหนึ่ง หรือถูกดึงความสามารถพิเศษ ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวของมวลชน
    5.การผสมผสานความแตกต่างระหว่างบุคคลในหมู่มวลชน ให้เข้าใจกันได้
    ทุกครั้งที่ดวงอาทิตย์มีการสลับขั้วสนามแม่เหล็กเหนือใต้ ใต้เหนือ จะมีผลทำให้พฤติกรรมของมนุษย์ก้าวร้าว หุนหัน ต่อต้าน ไม่นิ่ง พูดง่ายๆว่าปฏิกิริยาที่ดวงอาทิตย์จะมีผลต่อความแปรปรวนทางด้านอามรณ์และความรู้สึกได้ ไม่ใช่เพียงแต่สภาพอากาศเท่านั้น
    โดยการเปรียบเทียบเหล่านี้จากพฤติกรรมมนุษย์ในแต่ละช่วงของยุคสมัย เมื่อ 500 ปีก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศักราช 1922 โดยนักวิทย์ได้ตรวจสอบประวัติศาสตร์ทั้ง 72 ประเทศในช่วงเวลาที่สังเกตเห็น ซึ่งสัญญาณความไม่สงบของมนุษย์เช่น สงครามโลกและการปฏิวัติจลาจล , การเดินทางอพยพโยกย้าย อื่นๆ บวกกับจำนวนของคนที่เกี่ยวข้อง พบว่าอย่างเต็มที่ 80% ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นไปอย่างมีนัยสำคัญทางด้านสถิติที่สุดที่เกิดขึ้นในปีนั้น ระหว่างกิจกรรมจุดดับบนดวงอาทิตย์ที่มีมากเมื่อสูงสุด เขายืนยันว่า "น่าตื่นเต้นมาก" ระยะเวลาอาจจะอธิบายได้โดยการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของพฤติกรรมมนุษย์ในระดับระบบประสาทและจิตใจจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ดวงอาทิตย์เมื่อถึงกิจกรรมจุดสูงสุดของมัน
    การศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ ได้ถูกตีพิมพ์ลงและออกมาเผยแพร่ในวารสาร New Scientist ที่บอกว่า การเชิ่อมต่อระหว่าง พายุสุริยะและผลกระทบที่มีต่อร่างกายมนุษย์ ท่อที่นำอนุภาคพวกประจุไฟฟ้าคลื่นความถี่จากดวงอาทิตย์ ส่งผลมายังร่างกายมนุษย์จนเกิดการรบกวนเป็นท่อเดียวกัน ซึ่งจะนำพาผ่านสภาพอากาศของโลก ผ่านสนามแม่เหล็กบนโลก และผ่านไปยังสนามแม่เหล็กรอบๆ ตัวมนุษย์ อีกด้วย
    ซึ่งผลของพฤติกรรมมนุษย์ดังกล่าว เมื่ออนุภาคต่างๆที่เกิดจาก Solar flare มันจะส่งผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง(เส้นกลางกะเพาะ) , การทำงานต่างๆ ของสมอง (รวมทั้ง ความสมดุลย์) , อีกทั้งความประพฤติของคน ผลตอบสนองทั้งทางร่างกาย และจิตใจ(จิตใจ อารมณ์ ร่างกาย)
    โดย Solar flare มีความสามารถทำให้เกิดอาการ ประสาท , ความกังวล , ความห่วง , กระวนกระวายใจ , วิงเวียน , สั่นคลอน , ระคายเคือง , เซื่องซึม , หมดแรง ไม่มีพลัง , ความจำสั้น และหัวใจเต้นสั่น ,พะอึดพะอมจะอ้วก , อึดอัด , มีความดันหัวเป็นเวลานานและปวดหัว , ปัญหาหูชั้นใน เสียงในหู , ปัญหาคอและต่อมไทรอยด์
    แพลทตินัม โฟตอน คือแสงที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต ขนาด 4- 14 ไมครอน ซึ่งเป็นคลื่นยาวในร่างกายมนุษย์และเป็นประเภทหนึ่งของรังสีอินฟาเรดชนิดคลื่นความถี่ไกล (ฟาร์อินฟาเรด)
    Solar flare และ คลื่นโฟตอน จะเปลี่ยนภายนอกของกายภาพมนุษย์ เพราะมันมีพลังมากๆ ที่จะส่งผลต่อระดับเซลล์ของมนุษย์ ทำให้หน่วยความจำของเราตื่นและสะอาด ส่วนอารมณ์ที่อยู่ล่างๆ ไป คือ พลังงานความถี่ต่ำ ที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ต่างๆ จากประสบการณ์ในอดีตและในตำแหน่งนี้ ที่พวกเราประสบและไม่เคยถูกดำเนินการ พวกมันจะถูกเก็บไว้ในระบบความจำ พลังงานโฟตอนจะมีคลื่นความถี่ที่สูงกว่ามาก จะทำการดึงอารมณ์ที่อยู่ในคลื่นความถี่ต่ำ ดังนั้นเราสามารถปรับให้มาเป็นคลื่นความถี่สูงได้ ดังนั้นพวกเราจะประสบว่า พวกเรารู้สึกปล่อยความรู้สึกความถี่ต่ำของความเศร้าเหงาหงอยออกไปได้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าทำไม
    “คลื่นสมอง” ก็คือการแกว่งขึ้นๆลงๆอย่างเป็นจังหวะของแรงดันไฟฟ้าอย่างหนึ่ง ระหว่างส่วนต่างๆของสมอง จนเป็นผลให้เกิดกระแสการไหลของไฟฟ้าขึ้น ซึ่งสภาวะของคลื่นสมอง หรือก็คือกิจกรรมทางไฟฟ้าที่เกิดขึ้นภายในช่วงความถี่หนึ่งๆ ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุด มีอยู่ 4 สภาวะด้วยกัน ได้แก่ คลื่นสมองระดับเบต้า (Beta), แอลฟ่า (Alpha), ธีต้า (Theta), และ เดลต้า (Delta)
    ซึ่งระดับความถี่ของคลื่นสมองของพวกคุณนี้เอง ที่เป็นตัวกำหนดระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณเอง และในทางกลับกัน ระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะนำพาไปสู่การมี ”อารมณ์” และ/หรือ “ความคิด” แบบใดแบบหนึ่งตามมาด้วย
    คลื่นสมองทุกๆสภาวะ จะดำรงอยู่ในส่วนต่างๆของสมองของพวกคุณ ในปริมาณที่แตกต่างกันไป
    และระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ ก็จะถูกกำหนดโดยคลื่นสมอง ที่กำลังเป็นใหญ่อยู่ในสมองของพวกคุณ ในขณะนั้นๆด้วย
    คลื่นสมองระดับเบต้า (Beta Brainwaves)
    คลื่นสมองระดับเบต้า ปกติแล้วจะเกิดจากการจดจ่ออยู่กับโลกภายนอก และเกิดจากการจดจ่อในขณะที่ยังลืมตาอยู่เป็นหลัก คลื่นสมองชนิดนี้ จะบ่งบอกถึงความสามารถของพวกคุณ ในการจัดการกับความคิดทั้งหลายของตัวเองอย่างมีสติสัมปชัญญะ พวกคุณมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในยามตื่นของตัวเองอยู่ในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองระดับเบต้านี้ ซึ่งเป็นคลื่นสมองที่มีความถี่อยู่ระหว่าง 13 – 40 รอบต่อวินาที
    ในสภาวะนี้พวกคุณจะจดจ่อความสนใจอยู่แต่กับเรื่องราวและตรรกะในชีวิตประจำวันของตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่ พวกคุณจะใช้กิจกรรมของสมองซีกซ้ายซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าพวกคุณจะยุ่งอยู่กับการประมวณผลข้อมูลข่าวสาร จำนวนมหาศาล ที่ถูกส่งเข้ามาทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของพวกคุณเองอยู่ตลอดเวลา
    คลื่นสมองระดับเบต้านี้ จะทำให้พวกคุณสามารถจดจ่อความตระหนักรู้ของตัวเองไปบนร่างกายเนื้อของตัวเองได้ และไปบนภาระหน้าที่ๆกำลังทำอยู่นั้นได้
    คลื่นสมองระดับแอลฟ่า (Alpha Brainwaves)
    คลื่นสมองระดับแอลฟ่า จะเกิดจากการผสมผสานการจดจ่อระหว่าง การจดจ่ออยู่กับโลกภายในและกับโลกภายนอก ซึ่งในขณะนั้นๆ พวกคุณกำลังให้ความใส่ใจอยู่กับจินตนาการภายในของตัวเอง พอๆกับการให้ความใส่ใจกับสิ่งกระตุ้นจากภายนอก
    ในขณะที่พวกคุณผ่อนคลาย หรือ กำลังทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ คลื่นสมองของพวกคุณจะเปลี่ยนไปอยู่ในระดับแอลฟ่า ซึ่งมีความถี่อยู่ระหว่าง 7 – 13 รอบต่อวินาที
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองในระดับแอลฟ่านี้ จะเป็นจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ ที่ผสมผสานระหว่างสิ่งกระตุ้นจากมิติที่ 3 และมิติที่ 4 ซึ่งจะทำให้ตัวตนที่อยู่ในมิติที่ 4 ของพวกคุณเอง ซึ่งก็คือ “กายทิพย์” (Astral Body) ของพวกคุณเอง สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของพวกคุณเองได้อย่างเป็นอิสระ
    ในขณะที่พวกคุณกำลังอยู่ในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับนี้อยู่ พวกคุณจะสามารถ “คิดแบบใช้สมองทุกๆส่วน” (Whole Brain Thinking) ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ซึ่งการคิดแบบใช้สมองทุกๆส่วนที่ว่านี้ก็คือ
    การมีความสมดุลระหว่างสมองซีกขวาและสมองซีกซ้าย ในการเขียน การเต้นรำ การปั้น การร้องรำทำเพลง หรือการทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ใดๆก็ตาม
    ในสภาวะนี้ ตามปกติแล้ว ระดับความเข้มข้นของสารเอนดอร์ฟินส์ (endorphins) ในร่างกายของพวกคุณ ก็จะสูงกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้พวกคุณรู้สึก “เบิกบาน” ตามไปด้วย
    คลื่นสมองระดับธีต้า (Theta Brainwaves)
    คลื่นสมองระดับธีต้า จะเกิดขึ้นเมื่อพวกคุณหลับตาลง และจดจ่อความสนใจอยู่กับโลกภายในอย่างเข้มข้น คลื่นสมองระดับธีต้านี้ จะมีความถี่อยู่ระหว่าง 4 – 7 รอบต่อวินาที และจะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ภายในที่เกิดจากการเข้าสมาธิ และการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ขั้นลึกที่สุด
    และเพื่อที่จะรักษาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับนี้เอาไว้ให้ได้ พวกคุณจะต้องทำให้ร่างกายเนื้อของตัวเองอยู่นิ่งๆเท่านั้น เพราะว่าในสภาวะนี้พวกคุณจะต้องจดจ่ออยู่แต่กับโลกภายในของตัวเองเท่านั้น ดังนั้น มันอาจจะเป็นการไม่ปลอดภัยหากจะเคลื่อนที่ไปไหนมาไหน ในโลกทางกายภาพในระหว่างที่กำลังอยู่ในสภาวะนี้
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองในระดับธีต้านี้ ปกติแล้วจะได้มาจากการเข้าสมาธิขั้นลึก และจะทำให้พวกคุณสามารถยังมีสติเต็มตื่นอยู่ได้ ในขณะที่กำลังท่องไปด้วยกายทิพย์ เพื่อเข้าไปสู่มิติที่ 4 ส่วนบน และเข้าไปสู่สะพานสายรุ้งที่เชื่อมต่อไปสู่มิติที่ 5 ด้วย
    และด้วยการฝึกฝน พวกคุณก็จะสามารถจดจำการผจญภัยของตัวเองในช่วงระหว่างที่กำลังอยู่ในสมาธิได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ความทรงจำเกี่ยวกับการผจญภัยเหล่านี้ มันก็จะหายไปทันทีเมื่อพวกคุณลืมตาขึ้น
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองระดับธีต้านี้ ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับ “การฝันแบบรู้ตัว” (Lucid Dreaming) และมีส่วนเกี่ยวข้องกับมโนภาพต่างๆ ที่พวกคุณจะได้ประสบในระหว่างที่พวกคุณ กำลังอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นอีกด้วย (ทั้งช่วงเวลาก่อนหลับ และ ก่อนตื่น)
    จิตวิญญาณของพวกคุณ หรือตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเอง ที่บัดนี้ได้ผสานรวมเข้ากับตัวตนของพวกคุณแล้วนั้น จะปิติยินดีกับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองระดับนี้มาก เพราะว่ามันจะทำให้พวกคุณสามารถเข้าไปใน “กระแสของความเป็นหนึ่งเดียวกัน” (the Flow of the One) ได้
    ซึ่งภายในกระแสดังกล่าวนี้ พวกคุณจะสามารถติดต่อสื่อสารกับตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเองได้ เพื่อทำให้ตัวเองมีความรู้ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น และได้รับแรงบันดาลใจเพิ่มมากขึ้น อย่างมหาศาล
    คลื่นสมองระดับธีต้านี้ จะไปกระตุ้นสมองส่วนที่ไม่เคยถูกใช้งานของพวกคุณ และจะเชื่อมต่อพวกคุณให้เข้ากับ “จิตสำนึกมวลรวมของโลกทั้งโลก” อีกด้วย
    คลื่นสมองระดับเดลต้า (Delta Brainwaves)
    คลื่นสมองระดับเดลต้า คือความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นของจิตเหนือสำนึกของพวกคุณ(your superconscious empathy) ซึ่งจะมีปฏิสัมพันธ์กับ และเชื่อมโยงพวกคุณเข้ากับ ตัวตนหลากมิติของพวกคุณเอง
    คลื่นสมองระดับเดลต้านี้ จะมีความถี่อยู่ในช่วง 0.5 – 4 รอบต่อวินาที และจะเกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาโรคแบบปาฏิหาริย์, ความรู้อันศักดิ์สิทธิ์จากเบื้องบน, การเกิดใหม่, การหายจากความเจ็บปวดทางจิตใจ, การเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล (สมาธิ), ประสบการณ์เฉียดตาย (near death experience) และอาการโคม่า
    ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับเดลต้านี้ ปกติแล้วพวกคุณจะ “ไม่รับรู้” ความเป็นไปของโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพเลย
    ในระหว่างที่อยู่ในสภาวะจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ดังกล่าวนี้ ปกติแล้ว จะปราศจากความฝัน และจะมีก็เพียงแต่ผู้ปฏิบัติสมาธิที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์สูงที่สุดเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าถึงจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับนี้ได้
    แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่สามารถเข้าถึงสภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับ “ความเป็นหนึ่งเดียว” (the ONE) ได้แล้ว มันก็จะไม่มีการลืมเกิดขึ้น เพราะว่ามันจะค่อยๆซึมซับเข้าไปในทุกๆพื้นที่ของชีวิตของพวกคุณ และ จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองระดับนี้ มันก็จะช่วยให้พวกคุณ ได้มาซึ่งสภาวะอันมั่นคงของความเป็นหนึ่งเดียวกัน กับตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเอง ในท้ายที่สุด
    และเมื่อใดที่ตาที่สามของพวกคุณถูกเปิดขึ้นแล้ว พวกคุณก็จะสามารถทำให้จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณเอง ถูกครอบงำด้วยคลื่นสมองระดับนี้ และสามารถรักษาไว้ซึ่งคลื่นสมองระดับนี้ ได้อย่างง่ายดาย
    จิตวิญญาณของพวกคุณ หรือตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเอง ที่บัดนี้ได้ผสานรวมเข้ากับตัวตนของพวกคุณแล้วนั้น จะปิติยินดีกับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคลื่นสมองระดับนี้มาก เพราะว่ามันจะช่วยให้จิตวิญญาณ/ตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเอง สามารถที่จะโฉบลงมาจิกเอาพวกคุณขึ้นไปได้ เพื่อพาพวกคุณท่องเที่ยวเข้าไป ใน “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (Oversoul) ของพวกคุณเอง และท่องเที่ยวเข้าไป
    ในโลกแห่งความเป็นจริงต่างๆที่มีอยู่จำนวนมากมายก่ายกอง ที่ตัวตนหลากมิติของพวกคุณเอง มี “รูปกาย” อยู่ เพื่อไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันหลากหลายมาได้
    คลื่นสมองระดับเดลต้านี้ จะช่วยให้พวกคุณหลุดพ้นจากมายาการของโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 นี้ได้ และจะช่วยเชื่อมต่อพวกคุณให้เข้ากับ “จิตสำนึกระดับกาแลกซี่” (Galactic Consciousness) ได้
    คลื่นสมองระดับแกมม่า (Gamma Brainwaves)
    คลื่นสมองระดับแกมม่านี้ จะสั่นสะเทือนอยู่ในช่วงความถี่ประมาณ 40 รอบต่อวินาที คลื่นสมองระดับแกมม่านี้ เป็นคลื่นสมองที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่ชนิดหนึ่ง เพราะว่ามันเป็นคลื่นสมองที่ยากต่อการใช้เครื่องมือตรวจวัดค่ามันออกมาให้ได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
    คลื่นสมองระดับแกมม่านี้ เป็นคลื่นสมองที่มีความถี่สูงกว่าคลื่นสมองระดับเบต้าซะอีก และมันก็ถูกเข้าใจว่ามันเป็น “ความถี่แห่งการประสานกลมกลืนกัน” (harmonizing frequency)
    การสังเกตการณ์ดูวัตถุใดๆ เช่น ดูขนาด, ดูสี, ดูเนื้อสัมผัส, ดูหน้าที่ของมัน เป็นต้น จะถูกเก็บบันทึกเอาไว้, ถูกรับรู้ และถูกจัดการโดยส่วนต่างๆของสมองของพวกคุณ ที่แตกต่างกัน
    คลื่นสมองระดับแกมม่านี้ จะเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของสมอง ในการสร้างภาพโฮโลแกรมขึ้นมา
    โดยการปะติดปะต่อเอาข้อมูลต่างๆ ที่ถูกเก็บเอาไว้ในส่วนต่างๆของสมองเข้าด้วยกัน เพื่อรวมพวกมันเข้าด้วยกัน ให้กลายเป็นภาพรวมระดับสูงกว่าขึ้นไปอีก
    จิตวิญญาณของพวกคุณ จะพึงพอใจกับคลื่นสมองระดับนี้เป็นอย่างมาก พอๆกับที่พึงพอใจ “คลื่นสมองใหม่” อื่นๆ เพราะว่าพวกมันจะทำให้พวกคุณสามารถนำเอาประสบการณ์ภายในทั้งหมดของตัวเอง มารวมเข้าด้วยกันได้ และจะทำให้พวกคุณสามารถจดจำพวกมันได้ ในชีวิตจริงทางโลกของพวกคุณด้วย
    ยิ่งไปกว่านั้น สภาวะจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับนี้ คือสิ่งที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อการกราวด์มิติที่ 5 ให้เข้ากับดาวเคราะห์โลกของไกอา ที่อยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้
    คลื่นสมองใหม่ (New Brainwaves)
    นักวิจัยด้าน EEG ได้สังเกตเห็นว่ามันมีคลื่นสมองที่มีความถี่สูงมากๆแบบสุดขั้ว จนสูงกว่าคลื่นสมองระดับแกมม่าอยู่อีก คือราวๆ 100 รอบต่อวินาที ดังนั้น พวกเขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า “คลื่นสมองระดับไฮเปอร์แกมม่า” (Hyper Gamma Brainwaves)
    ส่วนคลื่นสมองที่มีความถี่สูงกว่านั้นไปอีก คือมีความถี่ราวๆ 200 รอบต่อวินาที พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า “คลื่นสมองระดับแลมบ์ด้า” (Lambda Brainwaves)
    และในทางกลับกัน พวกเขาก็ยังค้นพบคลื่นสมองที่มีความถี่ต่ำมากๆแบบสุดขั้วอีกด้วย ซึ่งต่ำกว่าคลื่นสมองระดับเดลต้าซะอีก นั่นก็คือมีความถี่ต่ำกว่า 0.5 รอบต่อวินาที ดังนั้น พวกเขาจึงได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า “คลื่นสมองระดับเอปซิลอน” (Epsilon Brainwaves)
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับเอปซิลอนนี้ ถูกเข้าใจว่ามันคือสภาวะที่เหล่าโยคีทั้งหลายใช้เพื่อเข้าสู่นิโรธสมาบัติ (Suspended animation) ซึ่งในระหว่างที่อยู่ในสภาวะนี้ เหล่าแพทย์ชาวตะวันตกจะไม่สามารถตรวจพบชีพจร, การเต้นของหัวใจ, และการหายใจ ของโยคีเหล่านี้ได้เลย
    จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ระดับไฮเปอร์แกมม่า และ แลมบ์ด้านี้ เป็นสภาวะที่มีความเกี่ยวข้องกับ ความสามารถของพระทิเบตบางนิกาย ที่สามารถนั่งสมาธิบนภูเขาหิมาลัยที่มีอุณหภูมิติดลบได้ โดยสวมใส่เครื่องนุ่งห่มเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง และยังสามารถทำให้หิมะที่อยู่รอบๆตัวพวกเขาละลายได้ด้วย
    คลื่นสมองระดับเอปซิลอน ที่มีความถี่ต่ำกว่า 0.5 รอบต่อวินาทีนี้ พวกคุณจะเห็นว่ามันซ่อนอยู่ภายในรูปแบบของคลื่นสมองระดับไฮเปอร์แกมม่า และแลมบ์ด้า ซึ่งมีความถี่ 100 – 200 รอบต่อวินาทีด้วย
    และในทำนองเดียวกัน ถ้าพวกคุณสามารถถ่ายภาพเป็นมุมกว้างย้อนกลับไปได้ พวกคุณก็จะเห็นว่า คลื่นสมองระดับแลมบ์ด้า ซึ่งมีความถี่สูงแบบสุดขั้ว คือราวๆ 200 รอบต่อวินาทีนี้ ก็จะขี่อยู่บนยอดของคลื่นสมองระดับเอปซิลอน ซึ่งมีความถี่ต่ำแบบสุดขั้ว อยู่เช่นเดียวกัน
    ในทำนองเดียวกัน ประสาทสัมผัสภายในของพวกคุณเอง ก็จะถูกตรึงเอาไว้กับประสาทสัมผัสภายนอกทั้ง 5 ของพวกคุณ และจะต้องพึ่งพาอาศัยประสาทสัมผัสภายนอกทั้ง 5 ของพวกคุณด้วย ดังนั้น พวกคุณจึงสามารถรับรู้โลกภายในได้ อย่างมีสติสัมปชัญญะ ในท้ายที่สุด ในขณะที่ยังคงอยู่ในรูปกายทางกายภาพของมิติที่ 3 นี้
    มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพวกคุณ ที่จะต้องจดจำเอาไว้ว่า โลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ในมิติสูงๆกว่าทั้งหลาย พวกมันยังคงมีอยู่เสมอ แต่ในชั่วขณะใดที่พวกคุณหลงลืมพวกมันไป พวกมันก็จะไม่มีอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่เป็นไปได้ของพวกคุณอีกต่อไป
    เพราะฉะนั้นแล้ว แนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องโลกที่อยู่ในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย จึงจะกลายเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้” ไป
    ดังนั้น ยิ่งพวกคุณกล้าที่จะเชื่อในสิ่งที่ “เป็นไปไม่ได้” อันนั้น มากเท่าไหร่ พวกคุณก็จะยิ่งสามารถ เข้าถึงการทำงานขั้นสูงกว่าของสมองตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย
    หรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ยิ่งพวกคุณ “เปิดใจตัวเอง” มากขึ้นเท่าไหร่ พวกคุณก็จะยิ่งทำให้ “สมองของตัวเองพัฒนา” มากขึ้นเท่านั้นด้วย
    - See more at: http://warningdisasters.blogspot.com/…/08/blog-post_28.html…
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'โรคเมอร์สฯ' ยังไม่มียาฆ่าเชื้อ แต่ป้องกันได้ !
    by Phennapha C. 3 มิถุนายน 2558 เวลา 09:44 น.
    โรคอุบัติใหม่ 'เมอร์สฯ' เกิดจากการติดเชื้อในกลุ่ม โคโรน่าไวรัส ยังไม่มียาที่ใช้ทำลายเชื้อนี้ได้ ส่วนใหญ่มักพบการติดเชื้อในผู้ใหญ่ อาการของผู้ป่วยมักมีไข้สูง ไอหอบ หายใจลำบาก
    โรค MERS-CoV ย่อมาจากคำว่า Middle East Respiratory Syndrome หรือกลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง เกิดจากการติดเชื้อในกลุ่ม โคโรน่าไวรัส (Coronavirus: CoV) ทำให้ชื่อย่อของเชื้อโรคนี้ในภาษาอังกฤษ จึงใช้คำว่า MERS-CoV
    โคโรน่าไวรัสเป็น RNA ไวรัส ที่สามารถก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหาร (ซึ่งส่วนมากแล้วอาการน้อยและบางครั้งอาจรุนแรงมาก) แต่การติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด พบว่ามีการรายงานครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ต่อมาเชื้อได้แพร่กระจายไปยังประเทศใกล้เคียง ได้แก่ การ์ตา จอร์แดน ฝรั่งเศส อิตาลี และ ตูนิเซีย เดิมทีเราเรียกไวรัสชนิดนี้ว่า “โนเวล โคโรน่า ไวรัส: Novel Corona virus) แต่ในปัจจุบัน องค์การอนามัยโลกได้ใช้ชื่อเรียกใหม่ว่า Middle East Respiratory Syndrome Coronavirus หรือ โรค MERS-CoV ที่สามารถพบการติดเชื้อได้ในทุกกลุ่มอายุ ซึ่งส่วนใหญ่มักพบในผู้ใหญ่ และมีอัตราการเสียชีวิตราวร้อยละ30 (ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน 2557) ความสำคัญของการพบโรคนี้ก็คือ นอกจากอัตราการเสียชีวิตที่สูงแล้ว ยังพบการแพร่กระจายจากคนสู่คน โดยเฉพาะบุคคลที่อาศัยภายในบ้านเดียวกันนั่นเอง
    อาการที่สังเกตได้คือ มักพบได้ตั้งแต่ไม่มีอาการจนถึงมีอาการรุนแรงแล้ว ซึ่งผู้ป่วยมักมีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส มีอาการไอหอบ หายใจลำบาก ในรายที่อาการรุนแรงพบว่าผู้ป่วยจะมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็วภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้ป่วยอาจมีลักษณะของกลุ่มอาการในระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันอย่างรุนแรง คือมีอาการหอบเหนื่อยตามความรุนแรงของภาวะขาดออกซิเจน
    แนวทางการรักษา เนื่องด้วยโรคนี้เป็นโรคอุบัติใหม่ ทำให้ข้อมูลการใช้ยาต้านไวรัสค่อนข้างจำกัด และยังไม่มียาต้านไวรัสจำเพาะต่อเชื้อนี้ในการรักษา จึงทำได้เพียงให้การรักษาตามอาการและการรักษาแบบประคับประคอง จนกว่าการอักเสบในระบบทางเดินหายใจจะลดน้อยลงจนหายเป็นปกติดี
    การป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุด เพราะยังไม่มียาที่ใช้ทำลายเชื้อนี้ได้ ดังนั้น เมื่อมีอาการไข้สูง ไอ หอบ หายใจเร็ว ก็ควรให้ผู้ป่วยสวมผ้าปิดปาก-จมูก และมาพบแพทย์พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่หากมีประวัติเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย การ์ตา จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศส ตูนิเซีย เยอรมนี อิตาลี โอมาน คูเวต มาเลเซีย กรีซ และฟิลิปปินส์ ส่วนผู้ที่อยู่ใกล้ชิด ก็ให้สวมหน้ากากอนามัย และหมั่นรักษาความสะอาดมือ ทั้งผู้ป่วยเองและคนรอบข้างกันด้วย

    [​IMG]

    ที่มา : ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์กำธร มาลาธรรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี และอาจารย์ประจำภาควิชา อายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล , สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
    อินโฟกราฟฟิก : โรงพยาบาลสมิติเวช
    'โรคเมอร์สฯ' ยังไม่มียาฆ่าเชื้อ แต่ป้องกันได้ ! - VoiceTV
     

แชร์หน้านี้

Loading...