ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คืนนี้ไปร่วมกันเวียนเทียนเพื่อร่วมกันถวายสักการะพระคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันน่ะครับ

    ชาวพุทธซิดนีย์ทำบุญวันวิสาขบูชา ฟังปาฐกถา 'ดร.สุเมธ'
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 1 มิ.ย. 2558 08:57

    [​IMG]

    กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นำชาวพุทธทั้งคนไทย และชาวต่างชาติร่วมทำบุญตักบาตร และเวียนเทียน เนื่องในวันวิสาขบูชา ที่วัดพุทธรังษี แอนนันเดล ซิดนีย์ โดยมี "ดร.สุเมธ" กล่าวปาฐกถาเรื่อง พระเจ้าอยู่หัวกับสิ่งแวดล้อม

    เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานข่าว นายธีรเทพ พรหมวงศานนท์ กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นำชาวพุทธทั้งคนไทย และชาวต่างชาติร่วมทำบุญตักบาตร ประกอบพิธีทางศาสนา และเวียนเทียน เนื่องในวันวิสาขบูชา ที่วัดพุทธรังษี แอนนันเดล ซิดนีย์ โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และประธานที่ปรึกษามูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ที่เดินทางมาดูงานเรื่องน้ำ และขยะที่ประเทศออสเตรเลียเข้าร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย

    ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังได้ถือโอกาสปาฐกถาเรื่อง "พระเจ้าอยู่หัวกับสิ่งแวดล้อม" ที่พระองค์ทรงห่วงใยทุกข์สุขของราษฎร โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมให้คนไทยในซิดนีย์ได้ฟังอีกด้วย.

    ชาวพุทธซิดนีย์ทำบุญวันวิสาขบูชา ฟังปาฐกถา 'ดร.สุเมธ' - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงเป็นศาสดาที่ประเสริฐเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้ โดย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนา แสดงถึงการเป็นที่พระองค์ทรงเป็นผู้มีพระหฤทัยกรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้งปวง ไม่ยึดในกิเลสแห่งสรรพสัตว์ที่ศาสนาอื่นๆ ยังยึดถือ เพราะพระเจ้าก็ํคือเทวดา หรือพรหม จึงยังคงยึดติดกับโลกีวิสัย ถึงจะมีเบาบางแต่ก็ยังคงมีอยู่ คือต้องการให้มีผู้มานับถือศาสนาแต่ของตน และพุทธยังทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน ผิดกับสมมุติสงฆ์ในปัจจุบันนี้

    วันวิสาขบูชา ต ร ง กั บ วั น ขึ้ น ๑ ๕ ค่ำ เ ดื อ น ๖

    [​IMG]

    ความหมาย คำว่า "วิสาขบูชา" หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปุรณมีบูชา " แปลว่า " การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือน ๗

    ความสำคัญ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ ได้ปรินิพพาน คือ ดับ เกิดขึ้นตรงกันทั้ง ๓ คราวคือ

    ๑. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ประสูติที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี

    ๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี หลังจากออกผนวชได้ ๖ ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย

    ๓. หลังจากตรัสรู้แล้ว ได้ประกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสัตว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมือง กุสีนคระ) แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

    นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ที่เหตุการณ์ทั้ง ๓ เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน ๖ ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญ เช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณ ของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก


    ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย
    วันวิสาขบูชานี้ ปรากฏตามหลักฐานว่า ได้มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งสันนิษฐานว่า คงจะได้แบบอย่าง มาจากลังกา กล่าวคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๔๒๐ พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกา ได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาอย่าง มโหฬาร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กษัตริย์ลังกาในรัชกาลต่อ ๆ มา ก็ทรงดำเนินรอยตาม แม้ปัจจุบันก็ยังถือปฏิบัติอยู่

    สมัยสุโขทัยนั้น ประเทศไทยกับประเทศลังกามีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกล้ชิดกันมากเพราะพระสงฆ์ชาวลังกา ได้เดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบูชามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย

    ในหนังสือนางนพมาศได้กล่าวบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบูชาสมัยสุโขทัยไว้ พอสรุปใจความได้ว่า " เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัยทั่วทุก หมู่บ้านทุกตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด ประดับตกแต่งพระนครสุโขทัยเป็นการพิเศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จุดประทีปโคมไฟแลดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร เป็นการอุทิศบูชาพระรัตนตรัย เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน พระมหากษัตริย์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ ครั้นตกเวลาเย็น ก็เสด็จพระราช ดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐ์ต ลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ไปยังพระ อารามหลวง เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน

    ส่วนชาวสุโขทัยชวนกันรักษาศีล ฟังธรรมเทศนา ถวายสลากภัต ถวายสังฆทาน ถวายอาหารบิณฑบาต แด่พระภิกษุ สามเณรบริจาคทรัพย์แจกเป็นทานแก่คนยากจน คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรัพย์ ปล่อยสัตว์ ๔ เท้า ๒ เท้า และเต่า ปลา เพื่อชีวิตสัตว์ให้เป็นอิสระ โดยเชื่อว่าจะทำให้คนอายุ ยืนยาวต่อไป "

    ในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ด้วยอำนาจอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้าครอบงำประชาชนคนไทย และมีอิทธิพลสูงกว่าอำนาจของพระพุทธศาสนา จึงไม่ปรากฎหลักฐานว่า ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวันวิสาขบูชา จนมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๖๐) ทรงดำริกับ สมเด็จพระสังฆราช (มี) สำนักวัดราชบูรณะ มีพระราชประสงค์จะให้ฟื้นฟู การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่ โดย สมเด็จพระสังฆราช ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้น เป็นครั้งแรกในวันขึ้น ๑๔ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๖ พ.ศ. ๒๓๖๐ และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ เพื่อมีพระประสงค์ให้ประชาชนประกอบการบุญการกุศล เป็นหนทางเจริญอายุ และอยู่เญ็นเป็นสุขปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และอุปัทวันตรายต่างๆ โดยทั่วหน้ากัน

    ฉะนั้น การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟื้นให้มีขึ้นอีกครั้งหนึ่งในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ และถือปฏิบัติมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน

    การจัดงานเฉลิมฉลองในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกยุคทุกสมัย คงได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกว่างาน " ฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ " ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๘ พฤษภาคม รวม ๗ วัน ได้จัดงานส่วนใหญ่ขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนสถานที่ราชการ และวัดอารามต่างๆ ประดับธงทิวและโคมไฟสว่างไสวไปทั่วพระ ราชอาณาจักร ประชาชนถือศีล ๕ หรือศีล ๘ ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วัน มีการอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์รวม ๒,๕๐๐ รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดื่มสุรา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ ถึง ๑๔ พฤษภาคม รวม ๓ วัน มีการก่อสร้าง พุทธมณฑล จัดภัตตาหาร เลี้ยงพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รูป ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ประชาชน วันละ ๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วัน ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ป่าในบริเวณนั้น รวมถึงการฆ่าสัตว์ และจับสัตว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดด้วย และได้มีการปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ อย่างพร้อมเพรียงกัน เป็นกรณีพิเศษ ในวันวิสาขบูชาปีนั้นด้วย
    ห ลั ก ธ ร ร ม สำ คั ญ ที่ ค ว ร นำ ม า ป ฏิ บั ติ
    ๑. ค ว า ม ก ตั ญ ญู คือความรู้อุปการคุณที่มีผู้ทำไว่ก่อน เป็นคุณธรรมคู่กับความกตเวที คือ การตอบแทนอุปการคุณที่ผู้อื่นทำไว้นั้น

    • บิดามารดา มีอุปการคุณแก่ลูก ในฐานะผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูจนเติบโต ให้การศึกษาอบรมสั่งสอน ให้เว้นจากความชั่ว มั่นคงในการทำความดี เมื่อถึงคราวมีคู่ครองได้จัดหาคู่ครองที่เหมาะสมให้ และมอบทรัพย์สมบัติให้ไว้เป็นมรดก

    • ลูกเมื่อรู้อุปการะคุณที่บิดามารดาทำไว้ ย่อมตอบแทนด้วยการประพฤติตัวดี สร้างชื่อเสียงให้ แก่วงศ์ตระกูล เลี้ยงดูท่าน และช่วยทำงานของ ท่าน และเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่าน

    • ครูอาจารย์มีอุปการคุณแก่ศิษย์ ในฐานะเป็นผู้ประสาทความรู้ให้ ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี สอนศิลปวิทยาให้อย่างไม่ปิดบังยกย่องให้ปรากฎแก่คนอื่น และช่วยคุ้มครองให้ศิษย์ทั้งหลาย

    • ศิษย์เมื่อรู้อุปการคุณที่ครูอาจารย์ทำไว้ ย่อมตอบแทนด้วยการตั้งใจเรียน ให้เกียรติ และให้ความเคารไม่ล่วงละเมิดโอวาทของครู

    • ความกตัญญูและความกตเวทีนี้ ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคนดี ส่งผลให้ครอบครัว และสังคมมีความสุขได้เพราะ บิดามารดาจะรู้จักหน้าที่ของตนเอง ด้วยการทำอุปการคุณให้ก่อน และลูกก็จะรู้จักหน้าที่ของตนเองด้วยการทำดีตอบแทน

    • นอกจากบิดากับลูก และครูอาจารย์กับศิษย์แล้ว คุณธรรมข้อนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้แม้ระหว่าง นายจ้างกับลูกจ้าง อันจะส่งผลให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

    • ในทางพระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้า ทรงเป็นบุพการรีในฐานะที่ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนา และทรงสอนทางพ้นทุกข์ให้แก่เวไนยสัตว์

    • พุทธศาสนิกชน รู้พระคุณอันนี้จึงตอบแทนด้วยอามิสบูชาและปฎิบัติบูชากล่าวคือการจัดกิจกรรม ในวันวิสาขบูชา เป็นส่วนหนึ่งที่ชาวพุทธแสดงออก ซึ่งความกตัญญูกตเวที ต่อพระองค์ด้วยการทำนุ บำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา และประพฤติปฎิบัติธรรม เพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป

    ๒. อ ริ ย สั จ ๔
    อริยสัจ ๔ คือ ความจริงอันประเสริฐ หมายถึงความจริงของชีวิตที่ไม่ผันแปร เกิดมีได้แก่ทุกคน มี ๔ ประการ คือ

    • ทุกข์ ได้แก่ปัญหาของชีวิตพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ก็เพื่อให้ทราบว่ามนุษย์ทุกคนมีทุกข์เหมือนกัน ทั้งทุกข์ขั้นพื้นฐาน และทุกข์เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ทุกข์ขั้นพื้นฐานคือทุกข์ที่เกิดจาก การเกิด การแก่ และการตาย ส่วนทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือทุกข์ที่เกิด จากการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการประสบกันสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากไม่ได้ตั้งใจปรารถนา รวมทั้งทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตด้านต่างๆ อาทิความ ยากจน

    • สมุทัย คือ เหตุแห่งปัญหาพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์ทั้งหมดซึ่งเป็นปัญหา ของชีวิตล้วนมีเหตุให้เกิดเหตุนั้น คือ ตัญหา อันได้แก่ความอยากได้ต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยความยึดมั่น

    • นิโรธ คือ การแก้ปัญหาได้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ทุกข์คือปัญหาของชีวิต ทั้งหมดที่สามารถแก้ไข ได้นั้นต้องแก้ไขตามทางหรือวิธีแก้ ๘ ประการ ( ดูมัชฌิมาปฎิปทา )

    • มรรค การปฏิบัติเพื่อจำกัดทุกข์ เพื่อหลุดพ้นจากทุกข์ การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา เพื่อบรรลุเป้าหมายการแก้ปัญหาที่ต้องการ

    ๓. ค ว า ม ไ ม่ ป ร ะ ม า ท
    ความไม่ประมาทคือ การมีสติเสมอทั้ง ขณะทำขณะพูด และขณะคิด สติคือการระลึกได้ ในภาคปฎิบัติเพื่อนำ มาใช้ในชีวิตประจำวัน หมายถึง การระลึกรู้ทันการเคลื่อนไหว ของอริยาบท ๔ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน การฝึกให้เกิดสติทำได้โดยตั้งสติกำหนดการเคลื่อนไหวของอริยาบท กล่าวคือ ระลึกทันทั้งในขณะ ยืน เดิน นั่ง และนอน รวมทั้ง ระลึกรู้ทัน ในขณะพูดคิด และขณะทำงานต่างๆ เมื่อทำได้อย่างนี้ก็ชื่อว่า มีความไม่ประมาท

    การทำงานต่างๆ สำเร็จได้ก็ด้วยความไม่ประมาท กล่าวคือผู้ทำย่อมต้องมีสติระลึกรู้อยู่ว่า ตนเองเป็นใครมีหน้าที่อะไร และกำลังทำอย่างไร หากมีสติระลึกรู้ได้อย่างนั้น ก็ย่อมไม่ผิดพลาด
    กิ จ ก ร ร ม ข อ ง วั น วิ ส า ข บู ช า
    ทางราชการประกาศชักชวนให้ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ทั้งเอกชน และราชการประดับตกแต่งอาคารสถานที่ด้วยธงชาติ ธงเสมาธรรมจักร จุดประทีบโคมไฟ แต่โดยทางปฎิบัติแล้ว ใช้หลอดไฟประดับหลากสี ในวันขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำ เดือน ๖

    พระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จประกอบพระราชกุศล ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงบาตร ในตอนเช้า ในตอนเย็น ทรงนำเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ และสดับพระธรรมเทศนาในพระอุโบสถ พร้อมทั้งถวายไทยธรรม

    • จัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนาที่บริเวณท้องสนามหลวงเป็นประจำทุกปี แต่ละปีมีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาหลากหลายหน่วยงาน ทั้งทางราชการ และเอกชนทั้งฝ่ายบรรพชิต และคฤหัสถ์ ร่วมกันจัดงานอันยิ่งใหญ่สร้างความศรัทธาให้แก่พุทธศาสนิกชนบำเพ็ญกุศล มีการทำบุญตักบาตร ให้ทานรักษาศีลฟังธรรม สนทนาธรรม เวียนเทียน เจริญภาวนาเป็นที่ประทับใจยิ่งนัก

    - ทำบุญตักบาตร บริเวณพุทธมณฑล -
    - เวียนเทียน บริเวณพุทธมณฑล -
    • สถานที่จัดกิจกรรมในวันวิสาขบูชาที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งก็คือ ณ บริเวณพุทธมณฑล ซึ่งมีหน่วยงานกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธการร่วมกับประชาชนทั่วไป ได้จัดกิจกรรมปฎิบัติธรรมทั้งฝ่าย พระสงฆ์ และฆราวาส มีจำนวนหลายหมื่นได้ร่วมทำบุญตักบาตรให้ทานรักษาศีล ฟังธรรม สนทนาธรรม และเจริญภาวนาแผ่เมตตาถวายเป๋นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชนมายุครบ ๗๒ พรรษา และในวันวิสาขบูชา ณ บริเวณพุทธมณฑลนี้เอง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานทรงเวียนเทียนทุกปีด้วย

    • พระสงฆ์ผู้จัดรายการธรรม ทางสถานีวิทยุ เกือบทุกรายการทั่วประเทศเมื่อถึงสำคัญ คือวันวิสาขบูชาเช่นนี้ ก็มี
    การประชาสัมพันธ์เชิญชวนพุทธศาสนิกชนบำเพ็ญกุศล เป็นกรณีพิเศษ คือ บรรพชาอุปสมบทนาคหมู่ และบวช เนกขัมมะ เพื่อปฎิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชะ ธรรมบูชา เป็นการช่วยสนับสนุน ส่งเสริม สร้างความสงบสุขให้แก่บุคคลและสร้างความสามัคคีธรรมให้แก่สังคม ตลอดถึงประเทศชาติอีกด้วย

    สรุปแล้ววันวิสาขบูชาปีนี้ คงจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทางราชการ และเอกชนตลอดทั้ง ผู้จัดรายการธรรมะ ทางสถานีวิทยุทั่วประเทศ ช่วยกันประชาสัมพันธ์ เชิญชวนสาธุชนผู้ศรัทธา จัดกิจกรรมปฎิบัติธรรม บำเพ็ญมหากุศลอันยิ่งใหญ่เป็นกรณีพิเศษ เหมือนที่เคยปฎิบัติมาทุกๆ ปี
    วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติคือ
    "วันสำคัญของโลก" ( Vesak Day )
    ภูมิหลัง
    ๑. ในการประชุม International Buddhist Conference ณ กรุงโคลัมโบ ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๑ ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมากเข้าร่วม อาทิ บังคลาเทศ จีน ลาว เกาหลีใต้ เวียดนาม ภูฐาน อินโดนีเซีย เนปาล กัมพูชา อินเดีย ปากีสถาน และไทย ได้ตกลงกันที่จะเสนอให้สมัชชาสหประชาชาติรับรองข้อมติประกาศวัน วิสาขบูชาให้เป็นวันหยุดของสหประชาชาติ

    ๒. ในการเยือนของประเทศต่างๆ ในอินโดจีนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา ในปี ๒๕๔๒ ก็ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ และได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ได้ด้วยดี

    ๓. คณะทูตถาวรศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กได้จัดเตรียมร่างข้อมติ และได้ขอเสียงสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อให้มีการรับรองข้อมติเรื่องการประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุดของสหประชาชาติในที่ประชุมสมัชชา สหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๔

    ๔. โดยที่สหประชาชาติประกาศวันหยุดเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และจะเป็นปัญหาในเรื่องงบประมาณและการบริหารแก่ สหประชาชาติ หากประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันหยุด ศรีลังกาจึงได้ตัดสินใจที่จะเสนอร่างข้อมติ ขอให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลที่สหประชาชาติ ทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานต่าง ๆ แทนการเสนอให้เป็นวันหยุดซึ่ง ออท. ผู้แทนถาวรประเทศต่าง ๆ รวม ๑๖ ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา บังคลาเทศ ภูฐาน กัมพูชา ลาว มัลดีฟส์ มองโกเลีย พม่า เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ สเปน อินเดีย ไทย และยูเครน ได้ร่วมลงนามในหนังสือถึงประธานสมัชชาฯ เพื่อให้นำเรื่องวันวิสาขบูชาเข้าเป็นระเบียบวาระการประชุมของสมัชชาฯ

    ๕. ต่อมาเมื่อ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ General Committee ของสมัชชาฯ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดย ออท.ผู้แทน ถาวรศรีลังกาได้กล่าวถ้อยแถลงสนับสนุนหนังสือร้องขอให้ที่ประชุมบรรจุระเบียบวาระดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสมัชชาเต็มคณะ ออท.ผู้แทนถาวรไทย อินเดีย สเปน บังคลาเทศ ปากีสถาน ไซปรัส ลาว และภูฐาน ได้กล่าวถ้อย แถลงสนับสนุน ซึ่งที่ประชุม General Committee ได้มีมติให้บรรจุเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสมัชชาเต็มคณะ

    ปัจจุบัน
    ๑. เมื่อ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๕๔ ได้พิจารณาระเบียบวาระที่ ๑๗๔ International recognition of the Day of Visak โดยการเสนอของศรีลังกา

    ๒. ในการพิจารณา ประธานสมัชชาฯ ได้เชิญผู้แทนศรีลังกาขึ้นกล่าวนำเสนอร่างข้อมติ และเชิญผู้แทนไทย สิงคโปร์ บังคลาเทศ ภูฐาน สเปน พม่า เนปาล ปากีสถาน อินเดียขึ้นกล่าวถ้อยแถลง สรุปความว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ทรงตรัสรู้ เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรมและขันติธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม อันเป็นแนวทางของ สหประชาชาติ จึงขอให้ที่ประชุมรับรองข้อมตินี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความสำคัญของพุทธศาสนาในองค์การสหประชาชาติ โดยถือว่าวันดังกล่าวเป็นที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติและที่ทำการสมัชชาจะจัดให้มีการระลึกถึง (observance) ตามความเหมาะสม

    ๓. ที่ประชุมฯ ได้รับรองร่างข้อมติโดยฉันทามติ

    ถ้อยแถลงของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก
    ถ้อยแถลงของนายวรวีร์ วีรสัมพันธ์ อุปทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก

    เหตุผลที่ องค์การสหประชาชาติหนดให้ วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของโลก
    เนื่องจากคณะกรรมมาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกันประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกทั้งนี้

    ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล มนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญ อีกประการหนึ่งคือ พระองค์ ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้ โดย ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนา พุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่วงนี้กินสัปปะรดระวังเคลิ้มน่ะครับ

    จับโคเคนยัดใส้ในสับปะรดส่งสเปน | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „จับโคเคนยัดใส้ในสับปะรดส่งสเปน ตำรวจสเปนจับกุมโคเคนน้ำหนักรวม 220 กก. ยัดซ่อนในผลสับปะรด ในตู้คอนเทนเอร์เรือสินค้าจากอเมริกากลาง พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2558 เวลา 2:16 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า ตำรวจสเปนแถลงผลการจับกุม ผู้ต้องสงสัย 3 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทโคเคน รวมน้ำหนัก 220 กิโลกรัม ที่ยึดได้จากตู้ขนส่งสินค้าทางเรือ ที่ท่าเรือเมืองอัลเจซิราส ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ โดยสินค้าถูกส่งไปจากภูมิภาคอเมริกากลาง แต่ไม่ระบุชื่อประเทศแน่ชัด

    แถลงการณ์ของสำนักงานตำรวจสเปน ระบุว่า โคเคนทั้งหมดถูกบรรจุซุกซ่อนในผลสับปะรดสด ซึ่งผลสับปะรดถูกคว้านเนื้อในออก และโคเคนถูกหุ้มเคลือบด้วยขี้ผึ้งสีเหลือง เพื่อให้ดูกลมกลืนกับเนื้อสับปะรด ผลสับปะรดยัดใส้โคเคนบรรจุลัง ใส่ในตู้คอนเทนเนอร์บนเรือขนส่งสินค้า 11 ตู้

    ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 คนที่ถูกจับกุม เป็นคนเชื้อสายสเปนและโคลอมเบีย ซึ่งต่างก็เป็นเจ้าของบริษัทนำเข้าผลไม้ ในกรุงมาดริดและเมืองบาร์เซโลนา การสอบสวนกำลังดำเนินต่อไปเพื่อขยายผล อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ไม่ได้ระบุแน่ชัดว่า การจับกุมโคเคนชุดนี้มีขึ้นเมื่อใด.“

    อ่านต่อที่ : จับโคเคนยัดใส้ในสับปะรดส่งสเปน | เดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศาลสหรัฐลงโทษให้เดินเท่าระยะทางค่าแท็กซีที่เบี้ยวจ่าย | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „ศาลสหรัฐลงโทษให้เดินเท่าระยะทางค่าแท็กซีที่เบี้ยวจ่าย ผู้พิพากษาในรัฐโอไฮโอของสหรัฐ ตัดสินลงโทษจำเลยที่ถูกฟ้อง ฐานใช้บริการนั่งรถแท็กซีแล้วไม่จ่ายเงิน โดยให้เธอเดินเป็นระยะทางเท่ากับระยะทางที่เธอนั่งรถแท็กซีในวันนั้น วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2558 เวลา 1:34 น.

    เว็บไซต์ข่าวดิ อินดิเพนเดนต์ ประเทศอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า ผู้พิพากษาไมเคิล เอ ชิกคอเน็ตติ แห่งศาลแขวงเมืองเพนส์วิลล์ ในรัฐโอไฮโอของสหรัฐ มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ให้ น.ส.วิกตอเรีย บาสคอม เลือกระหว่างการจำคุกเป็นเวลา 60 วัน หรือ เดินเป็นระยะทางราว 48 กิโลเมตร ให้ได้ภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะทางเทียบเท่ากับที่เธอนั่งรถแท็กซีและไม่จ่ายเงิน

    รายงานระบุว่า น.ส.บาสคอม และเพื่อนๆ โทรศัพท์เรียกรถแท็กซี หลังสังสรรค์กันในบาร์แห่งหนึ่งในเมืองคลีฟแลนด์ เพื่อกลับบ้านในเมืองเพนส์วิลล์ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร เมื่อถึงบ้านของเธอ บาสคอมและเพื่อนคนหนึ่งลงจากรถ โดยเข้าใจว่าเพื่อนที่เหลืออีก 2 คน ซึ่งยังนั่งรถไปต่อ จะเป็นผู้จ่ายค่าโดยสาร แต่พวกเขาก็ไม่จ่าย คนขับรถจึงแจ้งตำรวจและย้อนกลับมาจับบาสคอมที่บ้าน

    บาสคอมเลือกจะรับโทษด้วยการเดินเป็นระยะทาง 48 กิโลเมตร โดยผู้พิพากษากล่าวว่าจะใช้อุปกรณ์จีพีเอส ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของเธอว่าเดินจนครบตามระยะทางที่กำหนดจริงหรือไม่ ผู้พิพากษายังเสนอแนะให้เธอเลือกเดินรอบสวนเลค เคาน์ตี แฟร์กราวด์ส ซึ่งเมื่อคิดคำนวณแล้วจะเทียบเท่ากับการเดินรอบสถานที่แห่งนี้ 40 รอบ โดยบาสคอมได้เริ่มต้นการรับโทษของเธอแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 29 พ.ค. นอกจากนี้บาสคอมยังถูกภาคทัณฑ์เป็นเวลา 4 เดือน และต้องจ่ายให้แก่บริษัทแท็กซีที่เกี่ยวข้อง 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,363 บาท)

    ทั้งนี้ ผู้พิพากษาชิกคอเน็ตติเป็นที่รู้จักกันดีเรื่องการตัดสินลงโทษที่ถึงแม้จะเหมาะสมแต่ก็เป็นวิธีการที่แปลกๆ เมื่อปี 2555 เขาลงโทษชายคนหนึ่ง ที่ดูหมิ่นเจ้าพนักงานด้วยการเรียกว่า "หมู" โดยสั่งให้จำเลยไปยืนบนถนนพร้อมกับหมูตัวใหญ่ และมีป้ายเขียนข้อความว่า "นี่ไม่ใช่ตำรวจ".

    ที่มา: http://www.independent.co.uk/news/w...les-for-bailing-on-a-taxi-fare-10286623.html“

    อ่านต่อที่ : ศาลสหรัฐลงโทษให้เดินเท่าระยะทางค่าแท็กซีที่เบี้ยวจ่าย | เดลินิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รุมสับเมียนมากรณีโรฮีนจา | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „รุมสับเมียนมากรณีโรฮีนจา เหล่าผู้คว้ารางวัลโนเบลสันติภาพ เช่น เดสมอนด์ ตูต,และโฮเซ รามอส-ฮอร์ต้า วิพากษ์วิจารณ์เมียนมาที่ทำให้ชาวโรฮีนจากลายเป็นเรื่องวุ่นวาย วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2558 เวลา 15:52 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครย่างกุ้งประเทศเมียนมา เมื่อวันที่31 พ.ค.ว่า เมียนมาปฏิเสธคำกล่าวของผู้คว้ารางวัลโนเบลสันติภาพหลายคนที่ระบุว่าเมียนมาทำให้ประเด็นชาวโรฮีนจากลายเป็นเรื่องวุ่นวายโดยกระทรวงต่างประเทศเมียนมาออกแถลงการณ์ลงหนังสือพิมพ์หลายฉบับว่าการแสดงความเห็นดังกล่าวของกลุ่มผู้คว้ารางวัลโนเบลเท่ากับไม่เห็นถึงความพยายามของเมียนมาในการฟื้นฟูความไว้วางใจระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในรัฐยะไข่เช่นเดียวกับการให้สิทธิความเป็นพลเมืองต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ชาวเบงกาลีที่อาศัยอยู่ในเมียนมามาเป็นเวลานานหลายปี

    ทั้งนี้ เมียนมาไม่ยอมรับชาวโรฮีนจาว่าเป็นหนึ่งในชาติพันธุ์ของประเทศและอ้างว่า ชาวโรฮีนจากว่า1 ล้านคนในรัฐยะไข่เป็นชาวเบงกาลี ส่วนเหล่าผู้คว้ารางวัลโนเบลรวมทั้งเดสมอนด์ ตูตู แห่งแอฟริกาใต้,ชีรินเอบาดี นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวอิหร่านและอดีตประธานาธิบดีโฮเซรามอส-ฮอร์ต้าของติมอร์ตะวันออกเรียกสถานการณ์ของชาวโรฮีนจาในเมียนมาว่าไม่แตกต่างจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นอกจากนั้น ยังมีคนอื่นๆที่วิพากษ์วิจารณ์เมียนมารวมทั้งจอร์จ โซรอส พ่อมดการเงินที่เคยอพยพหนีการยึดครองฮังการีของกองทัพนาซีเยอรมันบอกว่า สถานการณ์ชาวโรฮีนจากับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกนาซีมีความคล้ายคลึงกัน

    นอกจากนี้ กองทัพเรือเมียนมาไม่อนุญาตให้คณะผู้สื่อข่าวไปยังเกาะห่างไกลแห่งหนึ่งที่กล่าวกันว่า มีผู้อพยพกว่า 700 คน หลังได้รับการช่วยเหลือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามเดินทางไปยังเกาะธามี ฮลา บริเวณปากแม่น้ำอิระวดี นับตั้งแต่ทางการประกาศว่า พบผู้อพยพ 727 คน รวมทั้งผู้หญิง 74คน และเด็ก 45 คน อยู่ในเรือที่ลอยเคว้งคว้างนอกชายฝั่งเมียนมา“

    อ่านต่อที่ : รุมสับเมียนมากรณีโรฮีนจา | เดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวพัง แม่น้ำน้ำแข็ง
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 1 มิ.ย. 2558 10:01

    [​IMG]

    แม้ว่าจะผ่านเหตุการณ์มหาวิปโยคแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด จนบ้านเมืองเก่าแก่ได้รับความเสียหายเกือบจะราพณาสูรมาตั้งเดือนกว่าแล้ว แต่ความเสียหายที่เนปาลได้รับก็ยังไม่หมดสิ้น เพราะยังมีการพบว่า บรรดาแม่น้ำ น้ำแข็งบนยอดเขาเอเวอเรสต์สูงสุดในโลกนั้น จะค่อยละลายเหือดหายลงไปตามลำดับ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และอาจจะละลายหายจนแห้งขอดลงตอนปลายศตวรรษนี้

    ทั้งนี้เป็นความเห็นของนักวิจัยของเนปาล เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ซึ่งเดินทางไปศึกษารูปแบบของดินฟ้าอากาศบนดินแดนหลังคาโลก แล้วก็สร้างแบบจำลองของดินฟ้าอากาศบนยอดเขานั้น เพื่อจะคาดหมายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อันเนื่องมาแต่ภาวะโลกร้อน ที่เป็นอยู่ในยุคนี้

    รายงานผลสำรวจตอนต้น ได้บอกให้ทราบว่า เนปาลซึ่งเพิ่งประสบมหาภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวสองครั้งซ้อน แค่หนแรกนั้นก็ได้จุดชนวนทำให้แม่น้ำน้ำแข็งบนยอดเขาสูง 8,848 เมตรละลายกลืนชีวิตคน 18 รายมาแล้ว.

    แผ่นดินไหวพัง แม่น้ำน้ำแข็ง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาวเน้ือแน่นอย่า ประมาทโรคมะเร็ง
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 1 มิ.ย. 2558 08:01

    [​IMG]

    นักวิจัยของสถาบันวิจัยวิทยาลัยหญิงของแคนาดา ได้ค้นพบเค้าลางว่า ผู้ที่เป็นสาวเนื้อแน่นที่เคยเป็นมะเร็งทรวงอกมาก่อน เสี่ยงสูงว่าอาจจะเป็นซ้ำขึ้นได้อีก แต่ผลดีก็มีเหมือนกัน เพราะจะได้ประโยชน์หลังการผ่าตัด อย่างเช่น จากการฉายรังสีมากกว่า

    นักวิจัยยังเป็นห่วงว่าผู้หญิงเหล่านี้หลังจากถูกผ่าตัดเต้านมแล้ว อาจจะเป็นซ้ำอีกได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการศึกษาลึกซึ้งอย่างจริงจัง

    นักวิจัยได้ติดตามศึกษาคนไข้โรคมะเร็ง เพื่อดูว่าโรคจะหวนกลับมาอีกหรือไม่ โดยเทียบกับกรณีผู้หญิงธรรมดา กับสาวเนื้อแน่นดู และพบว่าสตรีที่มีทรวงอกเนื้อแน่นกว่า จะเสี่ยงกับที่จะเป็นซ้ำอีกมากกว่าเพื่อนสาวที่เนื้อแน่นน้อยกว่า โดยเทียบได้ว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง มีโอกาสจะเป็นซ้ำได้มากถึงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับเพื่อนคนที่มีความเสี่ยงต่ำ จะมีโอกาสเพียงแค่ร้อยละ 5 เท่านั้น.

    สาวเน้ือแน่นอย่า ประมาทโรคมะเร็ง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรมขนส่งฯ ยันไม่เลิกใบขับขี่แบบเก่า วอนหยุดโพสต์ทำสับสน
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 30 พ.ค. 2558 20:58

    [​IMG]

    กรมขนส่งฯ วอนหยุดโพสต์สร้างความสับสน ยันใบขับขี่แบบเก่าไม่ยกเลิกยังใช้ได้ตามปกติ ชี้ทำใบขับขี่พลาสติก เป็นความสมัครใจของแต่ละคน...

    นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ระบุว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่า ผู้ที่มีใบอนุญาตขับรถรูปแบบเดิม (แบบกระดาษ) ต้องดำเนินการเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถแบบใหม่ (บัตรพลาสติก) หรือ Smart card ภายในปี 2558 นี้ ไม่เช่นนั้นจะถูกยกเลิกอัตโนมัติ และได้ออกเป็นกฎหมายมาแล้วนั้น ขอยืนยันว่าข้อความดังกล่าว ไม่เป็นความจริง ขอให้ผู้ที่โพสต์ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว ยุติการสร้างความสับสนแก่ประชาชน โดยใบขับขี่รูปแบบเก่าสามารถใช้ได้ตามกฎหมายไม่มีการยกเลิก และไม่มีการกำหนดระยะเวลาต้องเปลี่ยนเป็นแบบพลาสติก เพราะเป็นภาคสมัครใจเท่านั้น ซึ่งผู้ถือใบอนุญาตขับรถรูปแบบเดิมสามารถใช้ได้ตามปกติจนกว่าใบอนุญาตขับรถจะหมดอายุหรือสิ้นสภาพ

    สำหรับการขอเปลี่ยนใบอนุญาตขับรถสามารถกระทำได้โดยความสมัครใจของประชาชน โดยสามารถติดต่อขอเปลี่ยนเป็นใบอนุญาตขับรถรูปแบบใหม่ หรือ Smart card ได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ทุกวันและเวลาราชการ โดยไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด และสำหรับผู้ที่มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลแบบตลอดชีพ เมื่อเปลี่ยนเป็นแบบสมาร์ทการ์ดจะยังคงเป็นแบบตลอดชีพเช่นเดิม

    กรมขนส่งฯ ยันไม่เลิกใบขับขี่แบบเก่า วอนหยุดโพสต์ทำสับสน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    31 พ.ค. ปิดสะพานรัชดา-ตลาดพลู ล้อมจับเด็กแว้น-สก๊อยกว่า 400 คน!

    [​IMG]

    ตำรวจ 3 สน. ร่วมสนธิกำลังทหาร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ปิดสะพาน ปิดสะพานต่างระดับรัชดา-ตลาดพลู ถนนราชพฤกษ์ ขาออก จับเด็กแว้น ได้รถกว่า 200 คัน ผู้ต้องหา 425 คน...

    เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ตลาดพลู สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลู สน.บางยี่เรือ สน.สำเหร่ ทหารสังกัด ชป.พท.ร้อย รส.ป.พัน.19 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง จำนวน 100 นาย พร้อมยานพาหนะ 10 คัน ทำการปิดถนนราชพฤกษ์ ช่วงสะพานข้ามแยกรัชดาท่าพระฝั่งมุ่งหน้ากำนันแม้น แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. เพื่อจับกุมเด็กแว้นและสาวสก๊อยตามแผนปฏิบัติการ “ราชพฤกษ์โมเดล กวาดล้างเด็กแว้นและสาวสก๊อยป่วนเมือง”

    โดยการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังและจัดจอดยานพาหนะเอาไว้ในตรอกซอกซอยแฝงตัวอยู่ตามมุมมืดเพื่อรอแก๊งมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งมารวมตัวกันบริเวณถนนกรุงธนบุรีช่วงใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีเพื่อรอการแข่งขันมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ จากนั้นจึงสั่งการให้กำลังพลชุดแรกใช้รถกระบะและรถยนต์สายตรวจเปิดไซเรนไล่หลัง ส่งผลให้เด็กแว้นแตกกระจายเร่งเครื่องหลบหนีขึ้นสะพานข้ามแยกรัชดาท่าพระจะหน้ามุ่งหน้ากำนันแม้น

    จากนั้นให้กำลังพลอีก 2 ชุด นำยานพาหนะเข้าสกัดกั้นปิดเชิงสะพานทั้ง 2 ฝั่ง แล้วจึงเข้าจู่โจมควบคุมตัว ส่งผลให้รถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งนับร้อยคันถูกปิดประตูตีแมว บางคันเกี่ยวกันล้มระเนระนาด เบื้องต้นสามารถคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้น 425 ราย เป็นชาย 359 คน หญิง 66 คน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดนั้นอายุระหว่าง 13-30 ปี พร้อมยึดรถแต่งซิ่งของกลางไปดำเนินคดีที่ สน.ตลาดพลู ได้กว่า 200 คัน

    พ.ต.อ.วิศาล พันธุ์มณี รอง ผบก.น.8 กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามชื่อปฏิบัติการ “ราชพฤกษ์โมเดล กวาดล้างเด็กแว้นและสาวสก๊อยป่วนเมือง” ซึ่ง บก.น.8 วางแผนเอาไว้ประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเราปล่อยให้กลุ่มเด็กแว้นตายใจด้วยการไม่ไล่กวดจับ แต่จะมีชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่บันทึกข้อมูลบรรดามอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งที่เข้ามาใช้ทางสาธารณะแข่งขันโดยตลอด

    จากการเก็บข้อมูลพบว่าเส้นทางที่มักพบการกระทำความผิดอยู่ในพื้นที่ สน.ตลาดพลู สน.บางยี่เรือ และ สน.สำเหร่ จึงมอบหมายให้ร่วมกันวางแผนกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครในพื้นที่แบบลับๆ ก่อนกำหนดวันลงมือปฏิบัติการตามแผนจนสามารถทำการกวาดล้างจับกุมได้ผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมากอย่างที่เห็น
    (อ่านต่อ..ปิดสะพานรัชดา-ตลาดพลู ล้อมจับเด็กแว้น-สก๊อยกว่า 400 คน! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์)
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คำแถลงการณ์ "ขบวนการเคลื่อนไหวก่อกบฏ" ซาอุดิอาระเบีย เพื่อจัดการกับราชวงศ์ซะอูด Category: News & Event Published on Sunday, 31 May 2015 22:30 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    "ขบวนการเคลื่อนไหวนี้ขอเรียกร้องสื่อทั้งหมดของบรรดานักเคลื่อนไหวในกลุ่มประเทศอาหรับให้ยืนหยัดขึ้นเคียงข้างประชาชนชาวฮิญาซและนัจด์ จนกว่าจะบรรลุเสรีภาพและสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขา และการกำจัดการปกครองของราชวงศ์ซะอูดให้หมดไป"

    ญอมนิวส์รายงาน โดยอ้างแหล่งที่มาจากเว็บไซต์ข่าว "Almasalah" ว่า : "ขบวนการเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อ "ขบวนการเคลื่อนไหวก่อกบฏ" ต่อต้านราชวงศ์ซะอูด ได้ประกาศการดำรงอยู่ของตนโดยมีเป้าหมายเพื่อการปลดปล่อยทุกกลุ่มและเผ่าชนในเมืองนัจด์และฮิญาซ"

    เว็บไซต์อิรักนี้ได้รายงานต่อไปอีกว่า : "ขบวนการเคลื่อนไหวนี้กล่าวในแถลงการณ์ว่า จำเป็นที่ทุกกลุ่มและทุกเผ่าชนในเมืองนัจด์และฮิญาซจะต้องมีจุดยืนเป็นหนึ่งเดียวกันในการยืนหยัดต่อต้านระบอบนี้"

    ในแถลงการณ์นี้ยังได้กล่าวอีกว่า : "เราขอแจ้งข่าวเกี่ยวกับการเริ่มต้นของขบวนการเคลื่อนไหวแห่งฮิญาซและนัจด์ เพื่อปลดปล่อยพื้นที่ต่างๆ ของตนจากการปกครองของลูกหลานของ "อับดุลอะซีซ อิบนุซะอูด" และ “แนวคิดหัวรุนแรงของลัทธิวะฮ์ฮาบี

    เราขอประกาศการกบฏต่อราชวงศ์ที่กดขี่และชั่วร้ายนี้ ที่เล่นกับทรัพย์สมบัติของประชาชนของเราและจิตวิญญาณของบรรดาทหารของเรา และกำลังพยายามที่จะแพร่กระจายการปกครองที่เผด็จการและสืบสันติวงศ์ของตนออกไป”

    ในแถลงการณ์นี้ได้กล่าวต่อไปอีกว่า : "ขบวนการเคลื่อนไหวนี้ขอต่อต้านนโยบายต่างๆ ของริยาดในภูมิภาค และเราต้องขออภัยต่อประชาชนในเยเมนและประชาชนของประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างเช่น ซีเรีย บาห์เรนและอิรัก ที่ได้รับผลกระทบที่เสียหายจากนโยบายต่างๆ ของราชวงศ์ซะอูด

    ได้เป็นที่พิสูจน์แก่ชาวโลกแล้วว่า ราชวงศ์ซะอูดและทรัพย์สมบัติของพวกเขา ได้กลายเป็นสาเหตุของวิกฤตต่างๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ในประเทศเหล่านี้ ที่พยายามจะทำให้เป้าหมายต่างๆ ของตนดำเนินต่อไปโดยผ่านการให้สินบนต่อกลุ่มผู้ยากจนทั้งหลายในประเทศเหล่านี้”

    แถลงการณ์นี้ยังได้กล่าวอีกว่า : "ขบวนการเคลื่อนไหวนี้ขอเรียกร้องสื่อทั้งหมดของบรรดานักเคลื่อนไหวในกลุ่มประเทศอาหรับ ให้ยืนหยัดขึ้นเคียงข้างประชาชนชาวฮิญาซและนัจด์จนกว่าจะบรรลุเสรีภาพและสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขา และการกำจัดการปกครองของราชวงศ์ซะอูดให้หมดไป"

    [​IMG]

    ที่มา : jamnews

    คำแถลงการณ์ "ขบวนการเคลื่อนไหวก่อกบฏ" ซาอุดิอาระเบีย เพื่อจัดการกับราชวงศ์ซะอูด
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผมไปวัดนี้มาตั้งแต่ผมเด็กๆ ไม่ได้ไปมาหลายปี เพราะญาติผู้ใหญ่ที่ชอบจัดไปได้เสียไปแล้ว

    Unseen Tour Thailand
    วัดถ้ำเสือ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

    [​IMG]

    มี "พระชินประทานพร" พระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง สามารถชมวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศา ด้านหน้าวัดจะเห็นลำน้ำแม่กลอง ส่วนด้านหลังเป็นท้องทุ่งนา
    UNSEEN,
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    เฟมินิสต์แห่งคริสตจักรแห่งอังกฤษบอกว่าควรจะเรียกพระเจ้า (God) ว่า "She"

    [​IMG]

    ------------
    มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้กันนี่? เมื่อวานนี้สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่ากลุ่มผู้หญิงคริสตจักรแห่งอังกฤษ (Church of England) ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงภาษาของผู้ชายที่ใช้สำหรับอ้างอิงถึงพระผู้เป็นเจ้า (God) และขอให้ใช้คำเรียกพระผู้เป็นเจ้าสำหรับชาวคริสเตียน (Christian deity) ว่า "She" แทน (จะแปลเป็นภาษาไทยว่าอย่างไรหละนี่?)
    การเรียกร้องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทางคริสตจักรของอังกฤษได้มีการแต่งตั้งผู้หญิงเป็นบาทหลวง (bishop) เป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีที่แล้วซึ่งริเริ่มโดยกลุ่ม Watch (Women and the Church) ที่มีการรณรงค์เรียกร้องให้รับผู้หญิงเป็น bishop
    Rev Jody Stowell สมาชิกของกลุ่ม Watch กล่าวว่ากลุ่มนี้ต้องการจะกำหนดค่า (re-configure) เกือบทั้งหมดที่ใช้คำพูดเฉพาะผู้ชายอ้างอิงถึง God
    Rev Jody Stowell กล่าวว่า "เทววิทยาดั้งเดิม (Orthodox theology) กล่าวว่ามนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นมาในภาพของพระผู้เป็นเจ้า (all human beings are made in the image of God) และว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่มีเพศ (God does not have a gender) พระองค์ทรงปิดผนึกเรื่องเพศ (He encompasses gender) - พระองค์ทรงเป็นทั้งเพศชายและเพศหญิง และอยู่เหนือทั้งเพศชายและเพศหญิง ดังนั้นเมื่อพวกเราพูดถึงผู้เป็นเจ้า (God) ในรูปแบบของเพศชาย นั่นทำให้เราเข้าใจอย่างบกพร่องโดยทั่วไปเกี่ยวกับผู้ที่เป็นพระผู้เป็นเจ้า...."
    เอาเท่านี้ก็คิดว่าน่าจะพอนะ เพื่อเข้าใจได้ว่ากลุ่ม Feminism เขากำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดและเรียกร้องร้องอะไร เดิมทีจุดประสงค์หลักของกลุ่มนี้ก็คือเรียกร้องความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันระหว่างเพศชายและเพศหญิงรวมทั้งสิทธิต่างๆและการยอมรับในสังคมด้วย มีหลายเรื่องที่ได้รับการยอมรับในสังคมทั่วโลก แต่บางเรื่องฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังมองว่าใหม่เกินไปและไม่อาจจะยอมรับข้อเรียกร้องบางอย่างได้ หนึ่งในผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องหลายอย่างในการยกสถานะของเพศหญิงให้เท่าเทียมกันในวงการคริสตจักรซึ่งก็คือกรุงวาติกันนั่นเอง Church of England อยู่ที่อังกฤษเป็นเอกเทศต่างหากจากนครรัฐวาติกัน
    บางทีตรรกะที่ใช้อ้างอิงในการเรียกร้องของพวกนี้ก็ชวนให้ปวดหัวได้เช่นกันนะ เช่นอ้างคำสอนดั้งเดิมในการใช้คำเรียกแทนพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับเรื่องเพศ แต่ในขณะเดียวกันคำสอนหรือคำภีร์ดั้งเดิมเหล่านั้นก็ใช้คำพูดเหล่านั้นซึ่งส่วนมากเป็นคำพูดผู้ชายในการเรียกพระผู้เป็นเจ้ามาแต่ไหนแต่ไร แต่พอจะให้ได้ดั่งที่กลุ่มของตัวเองต้องการ ก็ทำเหมือนกับว่าหันหน้าไปทางอื่นจากคำสอนตามคำภีร์เก่าแก่ในส่วนที่ไม่สนับสนุนความคิดของกลุ่มตัวเอง และเหมือนกับว่าเลือกมาเฉพาะส่วนที่สนับสนุนความคิดของตัวเองเท่านั้น เรื่องพวกนี้เขาดีเบทกันในวงการคริสตจักรมากพอสมควร แอ็ดมินไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เป็นคนนอก ไม่ใช่ชาวคริสต์ แค่เอามาเล่าให้ฟังเท่านั้นเอง เขาจะเรียกอย่างไรนั้นก็แล้วแต่เขา
    The Eyes
    02/06/2558
    ----------
    http://rt.com/uk/263973-female-god-cofe-group/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    แหล่มเลย... YotaPhone2 สัญชาติรัสเซีย Dual-Screened Smartphone

    [​IMG]

    ------------
    บริษัท Yota Devices ของรัสเซียพึ่งเปิดตัวโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นที่สอง "YotaPhone2" ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว เป็นมือถือที่ไม่มีด้านหลัง เพราะมีสองหน้าจอ ด้านหนึ่งเป็นจอสี อีกด้านหนึ่งเป็นขาวดำ (e-paper) สไตล์สายลับสองหน้า ตอนนี้กำลังบุกตลาดจีน ยุโรป และสหรัฐฯด้วย เห็นมีข่าวว่าจะเข้ามาในไทยราวต้นปีหน้า (2559) ราคาน่าจะอยู่ที่ 2 หมื่นต้นๆ เมื่อเดือนพฤษจิกายนปีที่แล้ว ปูตินหิ้วไปฝากสี จิ้นผิงถึงเมืองจีนเลย บอกว่าเอาไปลูกสาวของเฮียสีหนะ แหม…ถูกอกถูกใจเฮียสียิ่งนัก เห็นยิ้มระรื่นหน้าบานเลย
    พักนี้เห็น sputnik news ของรัสเซียขยันลงข่าวผลิตภัณฑ์ของรัสเซียอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุด T-50 บอกว่าเป็นโรบ็อทบินได้ ส่วนรถถัง Armata T-14 เห็นบอกว่ากำลังจะทำให้เป็นโรบ็อทควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรลระยะไกลอย่างโดรนบังคับของเมริกาบ้างอย่างเป็นทางในเร็วๆนี้ซะด้วย
    ส่วนเทคโนโลยีมือถือค่าย Yota นี้ก็ขยันลงข่าวอยู่บ่อยๆ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในตลาดภายในประเทศของรัสเซีย หลังจากที่ประสบผลสำเร็จในรุ่นที่สอง (รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2556 ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไรนัก) รัสเซียก็เลยเดินสายเปิดตลาดในต่างประเทศบ้าง เห็นสื่อฯรัสเซียลงข่าวว่าตอนนี้ Yota Devices กำลังซุ่มพัฒนารุ่นที่ 3 อยู่ และจะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้าด้วย รุ่น2 ยังไม่เข้าในไทยเลย จะออกรุ่น 3 แล้วเหรอ? และ Yota Devices ของรัสเซียกำลังจะเปิดตัว tablet และ electronic schoolbooks ของตัวเองในเร็วๆนี้ด้วย วันนี้ก็เลยเอาข่าวนี้ลงให้อ่านกระตุ้นน้ำลายคอคนชอบของแนวๆกันเล่นๆ เห็นแล้วปิ๊งเลยอ่ะ เพราะมันไม่เหมือนใคร แปลกดี หรูอีกตะหาก
    The Eyes
    02/06/2558
    ----------
    Russia’s YotaPad Set to Displace Foreign Gadgets in Russian Market / Sputnik International
    https://yotaphone.com/de-en/product/yotaphone2/
    https://vimeo.com/119699520
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    โปรอเมริกาควรจะอ่านข่าวนี้นะ... ในรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้ตำรวจสหรัฐฯสังหารคนไปแล้วเกือบ 400 ราย (US police shot dead almost 400 people in 5 months – report)

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวันที่ 31 พ.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว RT news ของรัสเซียอ้างรายงานข่าวจากเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ Washington Post ของสหรัฐฯเองว่า อย่างน้อยที่สุดมีประชาชนจำนวน 385 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 16-83 ปีเสียชีวิตโดยฝีมือของตำรวจทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาในปีนี้ หนังสือพิมพ์ Washington Post ของสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขว่า 1 ใน 6 ของเหยื่อที่เสียชีวิตนั้นไม่มีอาวุธ และส่วนมากเป็นชนผิวดำและเชื้อสายสเปนและโปรตุเกส (mostly black or Hispanic) และในกรณีนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกดำเนินคดีน้อยกว่า 1% ด้วยซ้ำไป
    ข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวที่หลากหลายซึ่งรวมทั้งรายงานจากฝ่ายตำรวจ ข่าวท้องถิ่น การสัมภาษณ์แบบต่อตัวตัว สำนักพิมพ์ฯได้เปิดเผยว่าอัตราการฆ่าคนที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยตั้งแต่ต้นปี 2558 มานี้อยู่ที่ 2.6 ต่อวัน แต่จากสถิติของ FBI ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาบอกว่าตำรวจสหรัฐฯสังหารคนไปเพียง 400 ครั้งต่อปีเท่านั้น โดยเฉลี่ยแล้วตกอยู่ที่ 1.1 รายต่อวันเอง
    อุ๊แม่เจ้า! สหรัฐฯที่เชิดชูประชาธิปไตยและเสรีภาพและเรื่องสิทธิมนุษยชนนักหนา เขาดูแลพลเมืองของเขาแบบนี้กันเองหรือ? พวกคลั่งประชาธิปไตยจอมปลอมจะเอาอย่างนี้บ้างหรือเปล่า? แต่รู้ไหมสื่อฯกระแสหลักที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลสหรัฐฯและตะวันตกไม่กล้าเล่นข่าวนี้นะ สื่อฯไทยที่รับจ้างแปลข่าวจากฝั่งสหรัฐฯและตะวันตกก็ไม่กล้าเอามาลงเหมือนกัน แต่สื่อฯรัสเซียจะแฉให้โลกได้รู้ เดี๋ยวบางคนจะหาว่ารัสเซียปั้นข่าวมาโจมตีสหรัฐฯเองหรือเปล่า รัสเซียก็เลยอ้างไปตรงๆเลยว่าข่าวนี้ก็มาจากฝั่งสหรัฐฯเองนั่นแหละ ตัวเลขจากภาคสาธารณชนกับของหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯนี่มันช่างต่างกันลิบลับซะเหลือเกิน
    Jim Bueermann ประธานมูลนิธิตำรวจในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า "ตัวเลขการยิงนี้อยู่ในรายงานที่หนาปึก เราจะไม่มีทางลดจำนวนการยิงโดยฝีมือของตำรวจลงได้เลย หากเราไม่เริ่มต้นติดตามข้อมูลเหล่านี้"
    รายงานบอกว่า 80% ของเหยื่อที่เสียชีิวิตพบว่ามีอาวุธในที่เกิดเหตุซึ่งมักจะเริ่มจากเรื่่องเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะนำไปสู่การใช้ความรุนแรง การใช้อาวุธปืนโจมตีตำรวจมีจำนวนมากที่สุดถึง 221 คดี ตามด้วยการใช้อาวุธมีดและของมีคมอีก 68 คดี
    อย่างไรก็ตามข้อมูลโดยคร่าวๆบอกว่ามีเหยื่อ 6 รายที่ไม่มีอาวุธและแทบจะไม่แสดงให้เห็นว่าเป็นภัยคุกคามใดๆต่อตำรวจเลย และมีอีก 13 คดีบอกว่าพลเรือนถูกสังหารโดยตำรวจของสหรัฐฯหลังจากเข้าใจผิดคิดว่าอาวุธของเด็กเล่นเป็นอาวุธจริง วอชิงตันโพสต์เปิดเผยว่า 2 ใน 3 เหยื่อที่ไม่มีอาวุธซึ่งถูกสังหารโดยตำรวจอเมริกันเป็นชาว African American และชาว Hispanic
    ฮี่ม!… นั่นแหละการปกครองระบอบประชาธิไตยและเสรีภาพของสหรัฐฯในยุคปัจจุบัน โปรอเมริกาชอบแบบนี้ (?)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    The Eyes
    01/06/2558
    ----------
    US police shot dead almost 400 people in 5 months – report — RT USA
    http://www.washingtonpost.com/…/d322256a-058e-11e5-a428-c98…
    Nearly half of Americans support demilitarizing police – poll — RT USA
    Killed By Police - 2015
    Fatal Encounters | A step toward creating an impartial, comprehensive and searchable national database of people killed during interactions with law enforcement
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อิรัคเปิดเผยตัวเลขอาวุธของสหรัฐฯที่ตกอยู่ในมือของไอซิส เฉพาะในเมืองโมซุลไอซิสมีรถฮัมวี่ถึง 2,300 คัน และศึกแย่งชิงจุดยุทธศาสตร์ในซีเรียระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย

    [​IMG]

    ------------
    วันนี้ (1 มิ.ย.58) ทางการของอิรัคได้ออกมาแฉสหรัฐฯว่าตอนนี้กลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสสามารถยึดครองอาวุธของสหรัฐฯในอิรัคได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งรวมทั้งรถ Humvee จำนวนหลายพันคันของสหรัฐฯที่ยึดได้จากกองทัพอิรัคในเมือง Mosul เมื่อปีที่แล้วด้วย การริบทรัพย์จากสงคราม (spoils of war) โดยไอซิสในลักษณะนี้มีทั้งในอิรัคและซีเรีย
    นาย Haider al-Abadi นายกรัฐมนตรีของอิรัคให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของอิรัคว่า "ในการพังทะลายของเมืองโมซุลนั้น พวกเราได้สูญเสียอาวุธไปเป็นจำนวนมาก เราสูญเสียรถฮัมวี่เฉพาะในเมืองโมซุลแห่งเดียวไปถึง 2,300 คัน" ไอซิสเข้ายึดเมืองโมซุลได้เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2557 เนื่องจากกองทัพของอิรัคภายใต้การบัญชาการของสหรัฐฯและฝึกซ้อมการต่อสู้ให้โดยสหรัฐฯมาเป็นระยะเวลาถึง 10 กว่าปีสู้ไม่ไหวจึงถอนกำลังออกจากพื้นที่ กระนั้นเมื่อเร็วๆนี้ทางกลาโหมของสหรัฐฯยังทำปากดีอีกว่าที่กองทัพอิรัคพ่ายแพ้นั้นไม่ใช่มีกำลังพลน้อยกว่าไอซิสแต่เป็นเพราะทหารอิรัคไม่มีกำลังใจที่จะต่อสู้ (ใจเสาะว่างั้นเหอะ) คำถามก็คือว่าก็แล้วใครฝึกให้เขาเป็นอย่างนั้นหละ? และการที่รัฐบาลอิรัคออกมาพูดเช่นนี้โดยบอกว่าถูกไอซิสยึดไปจากกองทัพอิรัคเองนั้นก็เพื่อส่งสัญญาณบางอย่างไปทางสหรัฐฯนั่นเอง
    นิสัยของสหรัฐฯก็จะเป็นอย่างนี้แหละ เขาจะไม่ยอมรับว่านั่นคือความพ่ายแพ้และผิดพลาดของตัวเอง เขาจะโยนไปให้ผู้อื่น แต่ถ้าจุดใดที่กองทัพอิรัคสามารถเอาชนะไอซิสได้ สหรัฐฯจะรีบเสนอหน้าลงข่าวหน้าหนึ่งในสื่อฯกระแสหลักของตนทันทีเลยว่า "ภายใต้การนำของกองทัพสหรัฐฯ"
    รายงานข่าวล่าสุดบอกว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเพนตาก้อนได้สูญเสียรถถังไปถึง 6 คันให้กับไอซิสในเมือง Ramadi นอกจากนี้แล้วยังรวมถึงอาวุธหนักอย่างปืนใหญ่จำนวนมากและรถฮัมวี่ประมาณ 100 คันอีกด้วย
    ทางสหรัฐฯออกมายืนยันว่าได้จัดส่งอาวุธจำนวนมากไปให้อิรัคเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งสุดท้ายก็โดนไอซิสเข้ากวาดคลังแสงไปซะเกลี้ยงเลย หนึ่งในใบสัญญาซื้อขายอาวุธระบุว่า อาวุธที่สหรัฐฯส่งไปให้อิรัคนั้นประกอบด้วยรถถัง M1A1 Abarams จำนวน 175 คัน มูลค่า $12.4 billion (ประมาณ 4.2 แสนล้านบาท) ส่วนอีกใบหนึ่งบอกว่าสหรัฐฯได้ส่งรถฮัมวี่พร้อมติดตั้งปืนกลขนาด M2.50 และเครื่องยิงระเบิด MK-19 40mm จำนวน 1,000 คันด้วย
    อาวุธพวกนี้เป็นชนิดเดียวกันกับที่ไอซิสใช้ในพื้นที่ของอิรัคและทางตอนเหนือของซีเรีย อันที่จริงมีรายงานว่าพบว่าไอซิสใช้รถฮัมวี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่ยึดเมืองโมซุลได้ไม่นาน คำถามจึงมีอยู่ว่าถูกยึดหรือว่าสหรัฐฯจงใจให้ยึดต่างหากหละ?
    ในขณะเดียวกันนาย John Brennan ผอ.ของซีไอเอของสหรัฐฯออกมากล่าวว่าการที่ไอซิสรุกคืบได้ทั้งในอิรัคและซีเรียนี้อันที่จริงแล้วไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรเลยสำหรับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ (เออ… เราก็ว่ามันไม่แปลกเหมือนกัน เพราะสหรัฐฯเปิดทางและสนับสนุนให้ไอซิสทำอย่างนั้นได้ใช่ป๊ะ? และก็ไม่แปลกใจอีกด้วยว่าทั้งๆที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯพูดออกสื่อฯว่าไม่แปลกใจ ซึ่งเหมือนจะพยายามบอกว่าซีไอเอรู้ดีมาโดยตลอดว่าไอซิสกำลังเคลื่อนไหวอย่างไร แต่สหรัฐฯก็ไม่ได้ทำอะไรสกัดกั้นการเคลื่อนไหวเหล่านั้นเลย ตอนแรกกลาโหมของสหรัฐฯก็ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่าไอซิสยึดอาวุธของสหรัฐฯในอิรัคได้ แต่ต่อมาถูกอิรัคและอิหร่านแฉกันซึ่งๆหน้า สหรัฐฯก็พลิกลิ้นยอมรับว่าเป็นความจริง และจากที่ตอนแรกดูถูกทหารอิรัคที่พ่ายแพ้ให้กับไอซิสก็เปลี่ยนมาเป็นยกย่องแทน นั่นแหละสหรัฐฯ รายละเอียดเคยเล่าให้ฟังในโพสต์ก่อนหน้านี้แล้ว)
    เมื่อเร็วๆนี้มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าสหรัฐฯรู้สึกเป็นกังวลใจและไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าทั้งเงินสนับสนุนและอาวุธต่างๆที่รัฐบาลสหรัฐฯจัดหาให้กับกลุ่มติดอาวุธต่างๆในตะวันออกกลางที่สหรัฐฯพึ่งจะตั้งชื่อให้ใหม่ว่าเป็น "กบฎสายกลาง (moderate rebels) ซึ่งสหรัฐฯสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับล้มล้างและถ่วงอำนาจของรัฐบาลซีเรียและประเทศอื่นๆในตะวันออกกลางนั้นจะไม่ตกไปอยู่ในมือของพวกไอซิสได้อย่างไร
    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสหรัฐฯได้จัดส่งอาวุธเพิ่มเติมไปให้กับพวกกบฎสายกลางในซีเรียด้วย ซึ่งประกอบด้วยรถปิ๊กอัพ ปืนครก และวุธขนาดเล็กอื่นๆ โฆษกหญิงของเพนตากอนบอกว่า "จุดประสงค์หลักของโปรแกรมการฝึกซ้อมและติดอาวุธให้นั้นก็เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพวกนักรบชาวซีเรียสายกลางเพื่อปกป้องประชาชนชาวซีเรีย" (ปกป้องประชาชนชาวซีเรียจริงอ๊ะ? รู้ไหมว่าภายใต้การโจมตีทางอากาศจากฝ่ายสหรัฐฯและพันธมิตรทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างเด็กๆและผู้หญิงเสียชีวิตไปกี่พันกี่หมื่นคนแล้ว)
    รายงานข่าวแบบเล่นตามน้ำบอกว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอาวุธต่างๆที่สหรัฐฯสนับสนุนให้นั้นแท้ที่จริงได้ตกอยู่ในมือของพวกอาหรับหัวรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นมาจากซากปรักหักพังของสงครามในซีเรียและอิรัค กรุงวอชิงตันไม่มีทางที่จะคาดการณ์ได้ว่าพวกนักรบไอซิสจะไม่ยื่นมือเข้ามารับอาวุธหนักเป็นจำนวนมากที่ทิ้งไว้ใน Ramadi ในอิรัค นี่เป็นคำพูดของ Col. Steve Warren โฆษกของเพนตากอน แต่กระนั้นรัฐบาลสหรัฐฯก็ยังสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธให้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียอยู่เรื่อยๆ ที่น่าแปลกใจก็คือมีแต่ข่าวจากสื่อฯตะวันตกที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลบอกว่าพวกไอซิสและกบฏสายกลางของสหรัฐฯในซีเรียต่อสู้กับกองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรีย แต่ไม่มีข่าวว่าพวกกบฎสายกลางต่อสู้กับพวกไอซิสเลย แปลกม๊ะ?
    แต่จากเอกสารใหม่ของหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ (Defense Intelligence Agency) ซึ่งอ้างโดยองค์กร Judicial Watch บอกว่า สหรัฐฯรู้ทุกอย่างดีที่สุดว่า พวกกบฎสายกลางติดอาวุธอาจจะนำอาวุธเหล่านั้นไปให้กับพวกหัวรุนแรงสุดโต่ง แต่สหรัฐฯกลับเบือนหน้าหนีไปทางอื่น โดยมุ่งไปที่การโค่นล้มรัฐบาลของอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้งหลังอาหรับสปริงแทน แต่รัฐบาลสหรัฐฯควบคุมไม่ได้ จึงต้องโค่นล้มอีกรอบนี่คือผลลัพธ์อีกด้านหนึ่งของเกมอาหรับสปริงหรืออัพไรซิ่งหรือปฏิวัติสีที่สหรัฐฯใช้ในตะวันออกกลาง มันไม่เป็นไปตามแผนที่สหรัฐฯวางเอาไว้ ดังนั้นสหรัฐฯจึงบอกว่าไม่ยอมรับรัฐบาลชุดปัจจุบันของอัสซาด ต้องล้มทิ้ง และเลือกตั้งใหม่ ต้องทำให้อย่างยูเครนและลิเบีย รวมทั้งอิรัคด้วย เมื่อรัฐบาลซีเรียไม่ยอม สหรัฐฯก็ส่งไอซิสเข้าไปก่อกวน วันดีคืนดีก็ให้สวมหัวโขนเป็นกบฎสายกลาง เพื่อสร้างความชอบธรรมในการก่อสงครามให้กับตัวเองก็บอกว่าพวกนั้นบางส่วนเป็นไอซิส ก็มีทั้งทำลายทิ้งและสนับสนุนทั้งการเงินและอาวุธด้วย เกมมันก็อยู่แบบนี้
    ความจริงก็คือว่ายิ่งสหรัฐฯสนับสนุนอาวุธให้พวกนี้มากขึ้นเท่าไรยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่เป็นพลเรือนทั้งเด็กและผู้หญิงก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ยอดผู้อพยพลี้ภัยไปต่างประเทศก็สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน คำถามก็มีอยู่ว่าแล้วพวกกบฎเอาเงินมาจากไหนไปซื้ออาวุธจากสหรัฐฯ? บางส่วนสหรัฐฯก็ให้ฟรีหวังไปคิดดอกทบต้นในภายหลังหากสามารถล้มรัฐบาลอัสซาดได้แล้วในอนาคต อย่างที่ทำกับยูเครนในตอนนี้ แต่บางส่วนก็แลกกับน้ำมันที่พวกไอซิสและบางครั้งเรียกว่าพวกกบฎสายกลางตามที่สหรัฐฯเรียกนั่นแหละยึดได้จากแหล่งขุดเจาะและโรงกลั่นน้ำมันบางส่วนของรัฐบาลซีเรีย เมื่อสหรัฐฯถูกโจมตีหนักจากสื่อฯว่าไม่มีผลงานในการปราบปรามไอซิส และไม่สามารถระบุได้ว่าหัวหน้าไอซิสคือใคร จากนั้นไม่นานก็ปรากฎภาพตัวละคร 3-4 คนที่เป็นชาวอาหรับปรากฎขึ้นมาตามสื่อฯหลักของสหรัฐฯและตะวันตกบอกว่าเป็นหัวหน้าไอซิส สหรัฐฯตั้งค่าหัวเอาไว้ และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่าสหรัฐฯสามารถสังหารรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของไอซิสได้ ว้าว! เข้าใจเล่นนะ (เคยเล่าให้ฟังแล้ว)
    ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่สหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรปอยากจะได้ซีเรียนักหนา โดยพยายามก่อสงครามเพื่อล้มล้างรัฐบาลซีเรียชุดปัจจุบันที่ไม่ยอมก้มหัวให้สหรัฐฯก็คือ รัสเซียมีฐานทัพของกองทัพเรือรัสเซียอยู่ที่เมือง Tartus ซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Tartus เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของซีเรีย ฐานทัพเรือแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามเย็นระหว่างโซเวียตกับสหรัฐฯ ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอีกจุดหนึ่งของรัสเซียในย่านนี้ระหว่างยุโรปกับตะวันออกกลาง
    คราวนี้สหรัฐฯอยากจะขยายอิทธิพลของตัวเองในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นและหาทางลดอิทธิพลของรัสเซียลง และอยากจะได้ฐานทัพเรือแห่งนี้มาเป็นของตนอย่างที่เมือง Camranh ในเวียตนามและฐานทัพเรือของรัสเซียในเขต Sevastopol ในไคร์เมีย (แต่สหรัฐฯก็ไม่ได้ทั้งสองแห่ง และเสร็จรัสเซียทั้งสองแห่งเช่นกัน) ดังนั้นสหรัฐฯจึงพยายามที่จะล้มรัฐบาลชุดปัจจุบันของซีเรียให้ได้จากนั้นก็ตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาซึ่งเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดที่สหรัฐฯสามารถควบคุมและสั่งการได้เช่นเดียวกับรัฐบาลชุดปัจจุบันของยูเครน แน่นอนว่าในอนาคตการจะสั่งให้รัฐบาลใหม่ของซีเรียยกเลิกสัญญาเช่าท่าเรือในเมือง Tartus กับทางรัสเซียเพื่อขับไล่รัสเซียออกจากจุดนี้ของซีเรียก็จะกระทำได้โดยไม่ยาก หากแผนนี้เป็นจริงตามที่สหรัฐฯวางแผนเอาไว้นะ
    มีหรือที่ปูตินจะยอมให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้ ไม่มีวันซะหละ สหรัฐฯนั้นพยายามจะดึงรัสเซียเข้ามาเล่นเกมสงครามตัวแทนกับสหรัฐฯโดยใช้ซีเรียเป็นสนามรบอีกครั้งเช่นเดียวกับที่เคยใช้มาแล้วในสมัยสงครามเวียตนาม แต่งานนี้ปูตินไม่หลงกล ปูตินจะไม่ทำสงครามตัวแทนแบบนั้นในกรณีนี้เด็ดขาดยกเว้นเสียแต่ว่าไม่มีทางอื่นให้เลือกแล้ว
    แต่ปูตินเลือกที่จะใช้วิธีทางการทูตและการเมืองเข้าแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในซีเรียแทน สหรัฐหวังว่าถ้าหลอกให้ปูตินเข้าร่วมทำสงครามตัวแทนในซีเรียได้ การจะหาข้ออ้างว่ารัสเซียมีส่วนร่วมในการสังหารพลเรือนชาวซีเรียเพื่อแบ่งปันบาปไปจากสหรัฐฯและพวก และหาเรื่องกดดันและแซงชั่นรัสเซียอีกก็คงทำได้ไม่ยาก แต่ปูตินไม่หลงกล แทนที่จะใช้วิธีส่งอาวุธให้กับรัฐบาลและกองทัพของซีเรียอย่างที่สหรัฐฯสนับสนุนพวกหัวรุนแรงที่สหรัฐฯเรียกว่ากบฎสายกลางนั้น รัสเซียก็จัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมประเภทอาหาร ยารักษาโรคและเครื่องอุปโภคแลบริโภคไปให้ซีเรียแทน วิธีการนี้ปูตินใช้มาแล้วในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยสงครามในยูเครนตะวันออก และแม้กระทั่งในเยเมนด้วย แล้วซีเรียเอาอาวุธมาจากไหนไปสู้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล? ก็จากอิหร่านไง แล้วอิหร่านเอามาจากไหนหละ? คิดเอาเองนะ ฮ่าๆๆ
    The Eyes
    01/06/2558
    ----------
    http://rt.com/news/263769-iraq-isis-humvees-weapons/
    Declassified Pentagon Report: US 'Created' ISIL as Tool Against Assad / Sputnik International
    http://www.judicialwatch.org/…/Pg.-291-Pgs.-287-293-JW-v-DO…
    How US Obsession With Assad Overthrowing Led to Rise of ISIL in Syria / Sputnik International
    http://en.wikipedia.org/wi…/Russian_naval_facility_in_Tartus
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย
    วันที่ 1 มิ.ย. 58 เมื่ออเมริกามาหนุนขยายสาขากลุ่ม IS มาในอาเซียนตามยุทธศาสตร์ปักหมุดเอเซีย

    [​IMG]

    เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า ซาอุฯ เริ่มสร้างกลุ่ม IS ในตะวันออกกลางขึ้นมา มีนักรบกว่า 80 ประเทศเดินทางไปร่วมรบ ต่อมาถูกอิสราเอล และอเมริกา เทคโอเวอร์เอาไปใช้งานส่วนตัว โจมตีซีเรีย อิรัก และช่วงหลังหันกลับเอามาเล่นงานโดยระเบิดพลีชีพ เยเมนและซาอุฯ เสียเอง
    ครือข่ายกลุ่มก่อการร้าย IS ในอาเซียน เรียกว่า "กลุ่มคาติบาห์ นูซันตารา" ซึ่งเป็นเครือข่าย IS บนคาบสมุทรมลายู ที่อเมริกาให้การสนับสนุน พวกนี้ทำงานเงียบๆ ในการจัดส่งกำลังคนและอำนวยความสะดวกคนในอาเซียน เช่น อินโด มาเลย์ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ ไปร่วมร่วมในตะวันออกกลาง
    ตอนนี้ CIA อเมริกา แพ้สงครามในอิรัก และซีเรีย จึงออกคำสั่งให้ผู้ที่กลับจากการร่วมรบกับกลุ่ม IS เป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก กลุ่มคาติบาห์ นูซันตารา ในการโจมตีประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อทำลายความมั่นคง สอดรับกับยุทธศาสตร์ " ปักหมุดเอเซีย "
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าว อเมริกาหวังสร้างภัยคุกคามความมั่นคงภายในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศหมู่เกาะมาเลย์ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ เพราะนักรบเหล่านี้จะทำทุกทางอ้างแถหลักศาสนา ทำได้แม้วางแผนก่อการร้ายภายในประเทศของตนเอง
    ไม่นานมานี้ทางการสิงคโปร์เพิ่งจะจับกุม 2 วัยรุ่นในข้อหาที่เชื่อมโยงกับการก่อการร้าย IS ที่มีแผนก่อการร้ายทั้งในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย แน่นอนว่าประเทศใดมีพลเมืองตนเอง แอบเดินทางไปร่วมรบกับกลุ่ม IS แล้วเดินทางกลับประเทศมา
    หนอนร้ายจากอเมริกาพวกนี้ ก็จะกลับมาก่อการร้ายประเทศตนเอง เพราะถูกอเมริกาปลุกปั่นยุยงให้คลั่งโดยแอบอ้างหลักศาสนาที่ผิดเพี้ยนไปจากคำสอน หลักการก็คล้ายกลุ่มก่อการร้ายชายแดนใต้ศัตรูคนมุสลิมนั่นแหละ
    ที่อ้างอุดมการณ์ทางศาสนาบังหน้าหลอกลวงคนเข้าไปวงจรก่อการร้าย แต่ความจริงผู้บงการทำเพื่อเงินจากของเถื่อนและผิดกฎหมายล้วนๆ และหวังผลต่อรองอำนาจทางการเมือง...อุดมการณ์มันไม่มีแล้ว มีแต่อุดมเงิน
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 1 มิ.ย.58 ที่จอดรถแบบ 2 ชั้นในบ้านตนเอง
    ในเมืองใหญ่นั้น บ้านที่อยู่อาศัย จะหาที่จอดรถได้ยาก ในต่างประเทศมีการทำที่จอดรถแบบไฮโรลิค ที่สามารถจอดชั้นบน และชั้นล่างได้ สำหรับคนที่มีรถ 2 คัน หรือมีเพื่อนๆ แวะมาหาที่บ้านและกำลังปวดหัวที่จอดรถ
    ในเมืองไทย ยังไม่ค่อยพบการทำที่จอดรถแบบนี้ออกมาจำหน่ายแพร่หลายนัก หากใครคิดจะประยุกติ์ดัดแปลงฝีมือช่าง เพื่อทำธุรกิจนี้ และไปแสดงในงานมอเตอร์โชว์ ถ้าราคาสมเหตุสมผล ยอดจำหน่ายคงพุ่งกระฉูด
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 1 มิ.ย. 58 อเมริกา ออกกฎหมายจ้างไทย และอาเซียน ต่อต้านจีน
    นายจอห์น แมคเคน สมาชิกวุฒิสภารัฐแอริโซนา จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการด้านกลาโหม ของวุฒิสภา มีมติ 22 ต่อ 4 เสนอร่างแก้ไขกฎหมายความมั่นคงสหรัฐ ปี 2559 ว่าด้วยเรื่องทะเลจีนใต้
    มีรายละเอียดพิลึกพิลั่น ถึงการจ้างด้วยประมาณ 14,335 ล้านบาท แก่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนในด้านการเตรียมความพร้อม การฝึกฝน
    รวมถึงการก่อสร้างด้านการทหารในระดับย่อย เพื่อต่อต้านจีน กฎหมายฉบับนี้ รอการอนุมัติจากวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ที่ พรรครีพับลิกัน ครองเสียงข้างมากเด็ดขาดอยู่แล้ว คาดว่าภายในปีนี้
    ---------------------------->
    เพจบอกมานานแล้วก็เป็นความจริง เพราะปี 2558 นี้อเมริกา วางยุทธศาสตร์ปักหมดเอเซีย อ้างแถสีข้างว่าเพื่อความมั่นคงของสหรัฐ ทั้งๆ ที่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ อยู่คนละซีกโลกกับอเมริกา ใครจะยกกองทัพไปตีอเมริกาได้
    เรื่องของเรื่องคืออิจฉาจีน ที่เขารวยกว่ามาก และภายใน 2 ปีนี้ประเมินว่ากองทัพจีนจะมีแสนยานุภาพเหนืออเมริกาในทุกด้าน เนื่องจากจีนมีเงินสดทุ่มไม่อั้น ต่างจากอเมริกาที่ยากจนข้นแค้น ต้องกู้หนี้ยืมสินไปทั่วโลก จนกระทรวงการคลังรายงานประจำปีว่ามีหนี้สินมหาศาลราว 400 ล้านๆ บาท
    แค่ลำพังงบประมาณประจำปี 15 ล้านๆ บาทจะใช้หนี้ต่างประเทศ อเมริกาต้องใช้ไปชั่วชาติก็ไม่หมด ยังจะมีหน้าสะเออะจ้างคนอื่นด้วยเศษเงิน ไปต่อต้านจีนอีก...จนแล้วไม่เจียมจริงๆ !!
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 1 มิ.ย.58 อเมริกา ประเทศที่ทำธุรกิจค้าฝิ่นใหญ่ที่สุดในโลก
    เป็นที่ทราบกันมานานแล้วว่า เหตุผลที่อเมริกา ยกกองทัพไปรุกรานอัฟกานิสถานนั้น นอกจากจะต้องการบล็อคท่อส่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง ที่จะส่งเข้าแคว้นซินเจียงของจีน และบล็อคอิทธิพลของรัสเซีย แล้ว

    [​IMG]

    เหตุผลสำคัญอีกข้อ คือ อเมริกาใช้ดินแดนอัฟกานิสถาน "ผลิตยาเสพติด" ขายไปทั่วโลก เพราะอัฟกานิสถาน เป็นแหล่งผลิตฝิ่น และเฮโรอีน รายใหญ่ของสหรัฐฯ และเป็นฐานผลิตฝิ่น มากถึง 90% ของทุกประเทศทั่วโลกรวมกัน

    [​IMG]

    [​IMG]

    มีการขายพื้นที่สำหรับเพาะปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานมากถึง 1.4 ล้านไร่..แม่จ้าวว ยอดการผลิตยาเสพติด ในประเทศอัฟกานิสถาน เพิ่มขึ้นถึง 50 เท่าตัว นับตั้งแต่อเมริกามีปฏิบัติการทางทหารในปี 2544 เฉพาะปีที่แล้ว ยอดผลิตฝิ่นของอัฟกานิสถานเพิ่มขึ้นเป็น 17% จากปีก่อน และยังคงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีอย่างต่อเนื่อง

    [​IMG]

    [​IMG]

    อิลลูมินาติของอเมริกา มีรายได้มากมายมหาศาล จากการค้าฝิ่นและยาเสพติด ที่ผลิตจากอัฟกานิสถาน จึงสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและการเงินให้กับองค์กร NGO นอมินีต่างๆในอัฟกานิสถาน ผ่านองค์กร USAID ของ CIA ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท
    องค์กรเหล่านี้ เช่น กลุ่มตาลีบัน ที่อเมริกาแถลงว่าเป็นองค์กรน่ารัก น่าถนุถนอม และกลุ่ม IS ฮอลีวู๊ดสาขาย่อยอัฟกานิสถาน ยังได้รับการสนับอาวุธจากอเมริกา แล้วนำมาก่อการร้าย ในอัฟกานิสถาน จนมีผู้เสียชีวิตในเป็นจำนวนมาก
    ------------------------------->
    ฉีกหน้ากากอเมริกา แหกออกมาให้เห็นกันทั้งโลกแบบนี้แหละ ให้เห็นกันเต็มๆ ตาไปเลยว่าทหารอเมริกา ติดตรากองทัพอเมริกา กำลังควบคุมการผลิตฝิ่นในอัฟกานิสถาน ชาวโลกจะตำหนิว่าอย่างไรก็ไม่สน
    ในอดีตจำได้ไหม อังกฤษก็เคยใช้วิธีล่าอาณานิคมแบบนี้ โดยใช้ฝิ่นมาทำให้คนจีนอ่อนแอ ใช้ฮ่องกงเป็นท่าเรือลำเลียงฝิ่น และก่อสงครามกับจีนในที่สุด จนเรียกว่า "สงครามฝิ่น" พอในยุคปัจจุบัน อเมริกา ก็ทำแบบเดียวกันเป๊ะ
    ไปก่อสงครามกับอัฟกานิสถาน เพื่อผลิตฝิ่นส่งขายทั่วโลก เป้นรายได้ของอเมริกา การปราบปราบยาเสพติดของอเมริกา เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าแค่ลิเกลวงโลก หลายรัฐของอเมริกา เปิดขายกัญชาโดยเสรีไม่อั้น
    การซื้อขายยาเสพติดในอเมริกา ซื้อง่ายขายคล่องกว่าลูกอมเสียอีก อเมริกาฉากหน้าคือตำรวจโลก ฉากหลังก็คือซาตาน พ่อค้าความตายจากยาเสพติด
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 31 พ.ค.58 เมื่อประชาธิปไตยแบบถ่อยๆ รุกรายไปถึงกีฬาฟุตบอลโลก
    ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ออกมาแฉอเมริกาว่า การจับกุมตัวผู้บริหารของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ในเมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเดินทางมาร่วมการประชุมประจำปี และพักอยู่ที่โรงแรม 5 ดาวในเมืองซูริค โดยสวิส ฯ ส่งตัวผู้บริหาร FIFA เหล่านี้ไปยังสหรัฐ
    อ้างว่าข้อหาทุจริต และรับสินบน ที่มีความเชื่อมโยงกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก และการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติอีกหลายรายการ แต่เป็นการจับกุมของ FBI อเมริกา นอกประเทศตนเอง เป็นข้ออ้างจัดฉาก เพื่อขยายขอบเขตอำนาจอเมริกาไปยังต่างประเทศ
    และยังเป็นการกีดกันไม่ให้ นายเซปป์ แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่า คนปัจจุบัน กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง เพราะประธาน และผู้บริหาร FIFA ชุดนี้ลงมติให้รัสเซีย เป็นเจ้าภาพงานฟุตบอลโลกปี 2561 การฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีต่อผู้บริหาร FIFA จึงเป็นการต่อรองของสหรัฐ เพื่อเป้าหมายผลประโยชน์ส่วนตัว
    ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย เผยว่าจะเดินหน้าสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศตะวันออก หรือตะวันตก เพื่อร่วมแก้ปัญหาทั้งระดับโลก และระดับภูมิภาค แต่รัสเซียจะเดินหน้าปกป้องเสถียรภาพ และความมั่นคงของโลกอย่างสุดความสามารถ
    ------------------------------------->
    ชัดไหม ?? ในขณะที่อเมริกา ตั้งเป้าว่าจะก่อสงคราม และยุแหย่กับทุกประเทศทั้งโลกให้แตกแยกกัน เพื่อล่าอาณานิคม และขายอาวุธสงคราม แต่รัสเซียกลับมีแนวคิดตรงกันข้าม ว่าโลกควรจะอยู่ร่วมกันอย่างมีสันติภาพ
    แม้แต่การจับบริหารฟุตบอล FIFA นอกประเทศตัวเอง อเมริกาก็ทำหน้าตาเฉย เหตุเพราะพวกเขาดันไปเลือกรัสเซีย เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ในคราวต่อไป การจับครั้งนี้เพื่อต่อรองให้เลือกตั้งประธาน FIFA ใหม่ และจะได้กลับมติเสีย
    อเมริกา เขาไม่เคยสนใจฟุตบอล เขาเรียกกีฬาประเภทนี้ว่าซ็อคเกอร์ คำว่าฟุตบอลในความหมายอเมริกา คือ อเมริกันฟุตบอลที่เล่นคล้ายรักบี้ แล้วคิดว่าอเมริกา เกิดสนใจฟุตบอลเอามาดื้อๆ และส่ง FBI ไปจับกรรมการ FIFA ชาวต่างชาติ ถึงนอกประเทศแบบพิลึก
    นี่แหละคืออเมริกา เมื่อข้าไม่ได้ เอ็งก็ต้องไม่ได้ด้วย..เลยเป็นอันธพาลระราน เกกมะเรกเกเร ไปทั่วโลกเลย ." ประชาธิปไตยแบบถ่อยๆ "
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     

แชร์หน้านี้

Loading...