ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    2. ศึกทะเลจีนใต้
    ในสัปดาห์ที่แล้ว นายAsh Carterรมว กลาโหมของสหรัฐได้ไปขู่จีนที่Pearl Harbourว่าให้จีนหยุดการปลูกสร้างอาคารหรือสนามบินในหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ รวมทั้งประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ต้องหยุดทำการก่อสร้างด้วย และให้หันหน้ามาเจรจาหาทางออกทางการเมืองแทน
    นายขี้เถ้ากล่าวต่อไปว่าการครอบครองดินแดนที่เป็นหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ของจีนทำให้ความมั่นคงของภูมิภาคเสื่อมลง และเป็นภัยต่อเสรีภาพการเดินเรือทางทะเล
    ด้วยเหตุนี้สหรัฐจะส่งเรือรบและเครื่องบินสอดแนมไปประจำการในทะเลจีนใต้เพื่อรักษาสันติภาพ
    ฟังดูก็แล้วกันว่านายAsh Carterพูดจาใหญ่โตอวดกล้ามแค่ใหน เรื่องทะเลจีนใต้เกี่ยวข้องอะไรกับสหรัฐด้วย
    ทางจีนเคยโต้กลับสหรัฐว่าเรื่องปัญหาทะเลจีนจีนเป็นความขัดแย้งระหว่างจีนและเพื่อนบ้านที่สามารถหาทางออกได้ ที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะว่ามีสหรัฐเข้ามายุ่งเข้ามาเสี้ยมให้บาดหมางกัน และที่นี่ทะเลจีนใต้นะไม่ใช่อ่าวเม็กซิโกมาสหรัฐยุ่มย่ามทำไม?
    เสร็จแล้วนายขี้เถ้าบินมาร่วมงานสัมนาทางความมั่นคงShangri-la Dialogueที่สิงคโปร์จัดทุกปี โดยมีตัวแทนทางฝ่ายทหารจากประเทศต่างเข้าร่วม นายขี้เถ้ายังคงย้ำจุดยืนเดิมของสหรัฐที่เรียกร้องให้จีนหยุดถมทะเลหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างในทะเลจีนใตั
    ข่าวจากเอเอฟพีมีดังนี้:
    "สหรัฐฯ เรียกร้องในวันนี้ (30 พ.ค.) ให้รัฐบาลจีนยุติโครงการถมทะเลสร้างเกาะเทียมบริเวณน่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้ “ทันที และอย่างถาวร” ระบุพฤติกรรมของปักกิ่งถือว่าไม่เคารพหลักปฏิบัติของนานาชาติ
    แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงในการประชุมสุดยอดผู้นำความมั่นคงเอเชีย "แชงกรี-ลา ไดอะล็อก" ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ว่า “ประการแรก เราปรารถนาที่จะเห็นความขัดแย้งได้รับการแก้ไขด้วยแนวทางสันติ ซึ่งนั่นหมายความว่า ทุกฝ่ายที่อ้างกรรมสิทธิ์อยู่จะต้องหยุดปรับสภาพที่ดินในทันที และอย่างถาวรด้วย”
    “สหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารไปในเชิงก่อความขัดแย้ง” คาร์เตอร์ กล่าว พร้อมประกาศว่า กองกำลังสหรัฐฯ จะไม่หยุดส่งเรือและเครื่องบินเข้าไปลาดตระเวนในจุดที่เป็นน่านน้ำและน่านฟ้าสากล
    รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังตำหนิจีนแบบไม่อ้อมค้อมด้วยว่า “สิ่งที่จีนกำลังกระทำในทะเลจีนใต้ถือว่าไม่เคารพกฎเกณฑ์และหลักปฏิบัติของนานาชาติ”
    คาเตอร์ ยอมรับว่า ประเทศผู้อ้างกรรมสิทธิ์รายอื่นๆ ก็ได้เข้าไปสร้างฐานที่มั่นของตนเอาไว้บนหมู่เกาะพิพาทเช่นกัน โดยเวียดนามมีฐานอยู่ 48 แห่ง, ฟิลิปปินส์ 8 แห่ง, มาเลเซีย 5 แห่ง และไต้หวัน 1 แห่ง
    “อย่างไรก็ดี มีเพียงประเทศเดียวที่ทำมากกว่า และเร็วยิ่งกว่าใครเพื่อน นั่นก็คือ จีน... เวลานี้รัฐบาลจีนเข้าไปยึดพื้นที่กว่า 2,000 เอเคอร์ มากกว่าของประเทศอื่นๆ รวมกัน และมากที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับภูมิภาคแถบนี้... แต่จีนทำได้ในระยะเวลาแค่ 18 เดือน”
    “ผมเองก็ยังไม่ทราบว่าจีนจะรุกคืบไปอีกแค่ไหน และนี่คือเหตุผลที่ทำให้น่านน้ำบริเวณนี้เป็นบ่อเกิดของข้อพิพาท ซึ่งตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งทั่วโลก”
    สัปดาห์ที่แล้ว กองทัพจีนสั่งให้เครื่องบินลาดตระเวน พี-8 โพไซดอน ของกองทัพเรือสหรัฐฯ บินออกจากน่านฟ้าเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์ แต่ฝ่ายสหรัฐฯ ไม่ยอมทำตาม
    “กรุณาเข้าใจให้ถูกต้องว่า... สหรัฐฯ มีสิทธิ์ที่จะบิน ล่องเรือ หรือปฏิบัติการในพื้นที่ใดๆ ก็ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต อย่างที่กองทัพของเราก็ได้ปฏิบัติอยู่แล้วทั่วโลก” คาเตอร์ กล่าว
    “สหรัฐฯ ตลอดจนประเทศพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราในภูมิภาคนี้ไม่ลังเลที่จะใช้สิทธิ์ของเรา ซึ่งเป็นสิทธิที่ทุกประเทศพึงมี อีกอย่าง... แค่การเข้าไปยึดเกาะปาการังมาทำสนามบินไม่ได้ช่วยให้ประเทศนั้นๆ ได้อธิปไตย หรือสามารถจำกัดสิทธิในการเดินเรือและการบินในพื้นที่สากลได้”
    ปักกิ่งยืนยันว่ามีสิทธิ์ที่จะถมทะเลในน่านน้ำพิพาท และกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าจ้องเล่นงานจีนอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่อีกหลายประเทศก็กระทำการอย่างเดียวกัน
    จีนอ้างอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลก และเชื่อกันว่าอุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
    ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน และบรูไน ต่างก็อ้างสิทธิทับซ้อนในทะเลจีนใต้เช่นเดียวกัน"
    นายขี้เถ้าเริ่มเดินเกมรุกทางทหารในทะเลจีนใต้แล้ว เพราะว่าต้องการให้สหรัฐเป็นใหญ่ในภูมิภาคนี้ต่อไป และสกัดอิทธิพลของจีน
    สหรัฐกำลังขนอาวุธมาภูมิภาคบ้านเราเพื่อเตรียมการรบกับจีน โดยมีประเทศในเอเซียเป็นหมาก รู้ตัวกันหรือยัง?
    thanong
    31/5/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    3. ศึกทะเลจีนใต้
    เรื่องดราม่าไม่มีใครสู้สหรัฐได้ ไหนๆจะหาเรื่องจีน หรือจะรบกับจีนต้องมีการสร้างสะตอรี่ให้คนดูตื่นเต้นก่อน
    ในวันที่21 พฤษภาคม 2015 กองทัพเรือสหรัฐได้อนุญาตให้นักข่าวCNNขึ้นไปถ่ายภาพและร่วมสังเกตุการณ์การลาดตระเวณบริเวณทะเลจีนใต้ของเครื่องบินสอดแนมทันสมัยสุดของสหรัฐมีชื่อว่า P-8A Poseidon กองทัพเรือและกองทัพอากาศของสหรัฐประจำการที่ทะเลจีนใต้แล้วโดยไม่ต้องรอให้สภาคอนเกรซได้รับรู้อย่างเป็นทางการ โอบามาเอาด้วย
    ปรากฎว่าระหว่างการบินสอดแนม มีสัญญานวิทยุทางกองทัพเรือจีนส่งมาเตือนว่าเครื่องบินโพไซดอนกำลังรุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำจีน ขอให้บินออกไป ปรกฎว่าคนขับเครื่องบินโพไซดอนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ โดยตอบกลับไปว่ากำลังบินในน่านน้ำสากล
    ฝ่ายกองทัพเรือจีนมีการเตือนถึง8ครั้งว่าให้ออกไป โดยประโยคเด็ดที่CNNเอามารายงานคือ "This is the Chinese Navy ....You go!" แปลว่า นี้คือกองทัพเรือจีน คุณออกไปได้แล้ว
    ทำให้ฮือฮามากพอสมควร ถือว่าเป็นการลองเชิงให้ดูกันเป็นหนังตัวอย่าง
    ทางสหรัฐถือว่ากำลังบินสอดแนมในน่านน้ำสากล มีภาพถ่ายให้เห็นเกาะเทียมที่จีนกำลังสร้าง
    สหรัฐมองว่าจีนกำลังสร้างอิทธิพลในทะเลจีนใต้ คุกคามเพื่อนบ้านและสร้างความเสี่ยงของการเดินเรืออย่างเสรีในทะเลจีนใต้ จึงจำเป็นต้องโยกกองทัพเรือและกองทัพอากาศเข้าไปดูแลความเรียบร้อย
    นายDaniel Russel บอกว่าการบินสอดแนมของกองทัพสหรัฐในทะเลจีนใต้เป็นเรื่องที่เหมาะสม และสหรัฐมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการใดๆในพื้นที่ที่เป็นน่านน้ำสากลหรือน่าฟ้าสากล
    "ไม่มีใครที่สติดีอยู่จะพยายามหยุดกองทัพเรือสหรัฐในการปฏิบัติการ เพราะว่ามันจะเป็นการเดิมพันที่ไม่ดี" นายRussel กล่าว
    คงจำกันได้ว่านายRusselมาเมืองไทยเมื่อไม่นานมานี้แล้วมาเล็คเช่อร์ประเทศไทยเรื่องประชาธิปไตย พร้อมปกป้องปูลั้ลลาว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ทำให้นายRusselถูกด่ากระเจิงว่ามาจุ้นจ้านในเรื่องภายในของไทย
    ที่ผ่านมาจีนอดกลั้นพอสมควรกับการท้าทายของสหรัฐ แต่ตอนนี้จะไม่อดกลั้นต่อไปแล้ว เพราะรู้ตัวดีว่าสหรัฐกำลังเสื่อมทางการเงินและเศรษฐกิจ แต่จะไม่ยอมให้จีนเป็นใหญ่ทางเศรษฐกิจได้ ต้องหาข้ออ้างก่อสงครามเพื่อรักษาสถานภาพความเป็นเจ้าโลกแต่ผู้เดียว
    thanong
    31/5/2015
    http://news.yahoo.com/china-navy-warns-u-spy-plane-disputed…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    4. ศึกทะเลจีนใต้
    ทางจีนได้ตอบโต้แล้วว่าสงครามระหว่างจีนและสหรัฐในทะเลจีนใต้อาจจะเลี่ยงไม่ได้แล้ว
    Global Times ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลจีน โดยแย้งว่าในเมื่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของสหรัฐคือจะให้จีนหยุดกิจกรรมทุกอย่างในทะเลจีนใต้ ถ้าเป็นเช่นนั้น มันจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดสงครามระหว่างจีนและสหรัฐในทะเลจีนใต้
    "เราไม่ต้องการทำสงครามกับสหรัฐ แต่ถ้ามันจะต้องเกิด เราจะยอมรับมัน"
    สหรัฐส่งเครื่องบินสอดแนมP-8A Poseidonไปลาดตระเวณในทะเลจีนใต้ ส่วนจีนตอบโต้ด้วยการส่งสัญญานอิเลคโทรนิคส์เพื่อรบกวนเครื่องบินไร้คนขับลาดตระเวณของสหรัฐคือGlobal Hawkที่สอดแนมบนเกาNansha
    โฆษกของทางกระทรวงการต่างประเทศของจีน Hong Leiออกมาพูดว่า การบินสอดแนมของเครื่องบินทหารของสหรัฐถือว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงทางทะเลของจีน และอาจจะนำไปสู่การประเมินสถานการณ์ที่ผิดพลาด หรืออาจจะเกิดเหตุร้ายทางทะเลและทางอากาศได้
    Hua Chunying โฆษกอีกคนของกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ประท้วงไปยังสหรัฐว่าพฤฒิกรรมที่ทำไปเป็นการยั่วยุ โดยเรียกร้องให้สหรัฐเปลี่ยนแปลงความผิด ให้มีเหตุผล และหยุดการพูดและการกระทำที่ไม่รับผิดชอบ การเดินเรือและการบินอย่างเสรีไม่ได้หมายความว่าจะเพิกเฉยกับสิทธิอันชอบธรรมของประเทศอื่นในการมีการเดินเรือและการบินที่เสรีด้วย
    ถือว่าเป็นการโหมโรงสงครามทะเลจีนใต้ไปเรียบร้อยแล้ว
    thanong
    31/5/2015
    http://anonhq.com/us-china-war-is-inevitable-in-the-south-…/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG] [​IMG]

    5. ศึกทะเลจีนใต้
    ภาพถ่ายดาวเทียมที่ทางสหรัฐเผยแพร่ออกมา ทำให้เห็นว่าจีนกำลังสร้างสิ่งปลูกสร้างบนเกาะSpratly Islandsในทะเลจีนใต้
    สหรัฐอาสาเข้ามาปกป้องสิทธิ์ในการอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ให้กับพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลย์เซีย บรูไนรวมทั้งญี่ปุ่นที่มีปัญหากับจีนในเรื่องหมู่เกาะเซนกากุ หรือเตียวหยูในทะลเจีนตะวันออก
    ทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่ที่มีการเดินเรือขนส่งสินค้ามีมูลค่า $5ล้านล้านผ่านทุกๆปี
    จีนมีการสร้างประภาคารบนแนวประการังของเกาะSpratly และได้ถมที่สร้างสนามบินมีรันเวย์ยาวถึง10,000ฟุต รันเวย์ในแนวประการังFiery Crossนี้สามารถรองรับเครื่องบินรบและเครื่องบินสอดแนมของจีนได้
    ผู้บัญชาการทหารเรือHarry Harris Jr ในมหาสมุทรแปซิฟิคของสหรัฐได้ออกมาเตือนเมื่อเร็วๆนี้ว่า ปักกิ่งกำลังทำการยึดครองดินแดนหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ ด้่วยการถมทะเลอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    นายRobert Dujarric แห่งInsitute of Contemporary Asian Studies ที่วิทยาเขตTemple Universityในญี่ปุ่น ให้ความเห็นว่า: "ไม่มีฝ่ายใดต้องการทำสงคราม ถ้าหากว่ามันสามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่มีเส้นสีแดงขวางกันทั้งสองฝ่ายอยู่ ผมเป็นกังวลใจว่าปักกิ่งอาจจะคิดว่าสหรัฐเป็นมหาอำนาจที่กำลังเสื่อม และคิดว่าสหรัฐอาจจะยอมถอย ถ้าหากว่าทหารจีนยิงเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐร่วง"
    จีนได้เตือนสหรัฐหลายครั้งแล้วว่า อย่าได้มายุ่งหรือจุ้นจ้านในทะเลจีนใต้ แต่สหรัฐเดินหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพเรือจีน
    การลองเชิงและการปะทะกันทางทหารได้เริ่มขึ้นแล้ว
    thanong
    31/5/2015
    http://anonhq.com/us-china-war-is-inevitable-in-the-south-…/
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    6. ศึกทะเลจีนใต้
    สหรัฐใช้เครื่องบินไร้คนขับGlobal Hawkในการบินลาดตระเวณและสอดแนมในทะเลจีนใต้ ปรากฎว่าโดนจีนสอยร่วง แต่ข่าวถูกปิดเงียบ จีนบอกว่านาทีนี้ พร้อมเผชิญหน้าทางทหารกับสหรัฐอย่างเต็มตัวแล้ว
    thanong
    31/5/2015
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    7. ศึกทะเลจีนใต้
    สิงคโปร์เป็นฐานทัพเรือที่สำคัญของสหรัฐ และเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของสหรัฐในอาเซี่ยน สิงคโปร์รู้ตัวดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเกาะสิงคโปร์ ถ้าหากว่าศึกทะเลจีนใต้ปะทุออกมาอย่างดุเดือด
    ในที่ประชุมShangri-la Dialogueที่สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพจัดทุดปี นายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ออกโรงเตือนถึงภัยของศึกทะเลจีนใต้
    ข่าวจากPost Todayรายงานว่า:
    "ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า บรรดาสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) อาจตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รวมถึงตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากสองชาติมหาอำนาจคือสหรัฐและจีนต่างแข่งขันกันสร้างอิทธิพลภายในภูมิภาคเอเชีย
    ความเห็นข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์ที่ผู้นำสิงคโปร์กล่าวระหว่างการประชุมแชงกรีลาที่ประเทศสิงคโปร์ โดยลีเซียนลุงย้ำชัดว่าทุกประเทศในเอเชียต่างคาดหวังให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีนเป็นไปในทางบวกไม่มีชาติใดต้องการเลือกข้าง
    “การกระทำทำให้เกิดการตอบโต้ การตอบสนองของสหรัฐที่มีต่อการกระทำของจีน ที่ส่งเครื่องบินและเรือเข้ามาลาดตระเวนภายในพื้นที่พิพาทมากขึ้น ความเคลื่อนไหวในปัจจุบันเสี่ยงต่อความตึงเครียดและนำผลลัพธ์ที่เลวร้ายได้” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าว
    ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทวีความตึงเครียด หลังรัฐบาลจีนเดินหน้าสร้างสิ่งปลูกสร้างบนหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการอ้างกรรมสิทธิ์บนพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ สร้างความไม่พอใจให้กับคู่กรณี เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน บรูไน และเป็นประเด็นที่สหรัฐหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์จีน
    วันเดียวกัน พล.อ.ไรอามิซาร์ด ไรอาซูดู รัฐมนตรีกลาโหมอินโดนีเซีย เสนอให้ประเทศที่ลุกขึ้นอ้างกรรมสิทธิ์บนพื้นที่ในทะเลจีนใต้ รวมถึงจีน ร่วมจัดตั้งกองกำลังลาดตระเวนสันติภาพ เพื่อบรรเทาความเสี่ยงจากเหตุขัดแย้ง และเป็นสัญญาณที่สื่อได้ว่าไม่สมควรมีประเทศใดที่จะแข็งกร้าวหรือข่มขู่อีกประเทศทางน่านน้ำ
    ก่อนหน้านี้ จอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกสหรัฐ เปิดเผยระหว่างงานแถลงข่าวในการประชุมแชงกรีลาด้านความมั่นคงแห่งเอเชียในสิงคโปร์ ว่า ได้เสนอให้สหรัฐจัดตั้งกองทุนมูลค่า 425 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยให้ชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการฝึกซ้อมรบ จัดซื้ออุปกรณ์และยกระดับแสนยานุภาพกองทัพ พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนให้รัฐบาลสหรัฐเปิดทางขายอาวุธให้แก่เวียดนามเพื่อไว้สำหรับป้องกันตนเอง"
    สหรัฐเริ่มจะสบโอกาสขายอาวุธให้เอเซียรบกันเองแล้ว
    thanong
    31/5/2015
    โวยมะกัน-จีนทำอาเซียนเดือด
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    8. ศึกทะเลจีนใต้
    ประเทศไทยไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในทะเลจีนใต้ แล้วเราจะเจอปัญหาหรือไม่
    คำตอบคือแน่นอนอยู่แล้ว โดนตรงๆ ถ้าหากว่าดำเนินท่าทีหรือนโยบายไม่ดี เพราะว่าประเทศไทยเป็นฐานที่สำคัญที่สุดในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    สหรัฐต้องการใช้ฐานทัพอู่ตะเภาเพื่อที่จะสนับสนุนศึกทะเลจีนใต้ แต่ที่ผ่านมาไทยก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้ใช้ เพราะว่าไทยจะกลายเป็นสมรภูมิสงครามทันที
    สหรัฐจึงหาเรื่องหาข้ออ้างมาใช้อู่ตะเภาโดยอ้างปฏิบัติการช่วยภัยพิบัติเหลือด้านมนุษยธรรม ล่าสุดสหรัฐเป็นเจ้ากี้เจ้าการเรื่องผู้อพยพโรฮิงญา โดยให้ไทยรับผู้อพยพเหล่านี้ที่มากับเรือจากพม่า โดยมีบังคลาเทศผสมโรง
    ข้ออ้างเรื่องสิทธิมนุษยธรรมนี้ทำให้สหรัฐมีข้ออ้างเอาเรือรบและเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้าประเทศไทยที่ภูเก็ตเพื่อสังเกตุการณ์
    ฝ่ายรัฐบาลบิ๊กตู่รู้แกว บอกว่ายูมาได้ แต่มาแล้วก็ออกไป ห้ามประจำถาวร
    ลองมาฟังดูความเห็นของอดีตเอกอัครราชทูต สุรพงษ์ ชัยนามเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู:
    ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า:
    "อดีตเอกอัครราชทูต สุรพงษ์ ชัยนาม ชี้สหรัฐตั้งฐานการบินที่อู่ตะเภา อาจก่อปัญหาความมั่นคงกระทบต่อประเทศที่มีปัญหากับสหรัฐ เน้นให้รัฐบาลต้องระมัดระวัง ทำข้อตกลงอนุญาตให้ฐานการบินไทย ต้องระบุประเภทเครื่องบิน กรอบเวลาและภารกิจเฉพาะกิจช่วยโรฮีนจาให้ชัดเจน ป้องกันการบินสอดแนม
    นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศ ให้สัมภารณ์รายการ"เจาะข่าววงใน"ช่อง NEWS1 กรณีสหรัฐอเมริกาใช้ไทยเป็นฐานการบินที่อู่ตะเภาและภูเก็ต ลาดตระเวนสำรวจเรือโรฮีนจาว่า ฐานการบินถือเป็นอธิปไตยของประเทศไทย จำเป็นต้องระมัดระวังในแง่ที่ว่าการสำรวจนี้จะยืดยาวนาน จะต้องมีข้อตกลงว่าด้วยภารกิจเฉพาะกิจ กรอบเวลา และประเภทเครื่องบินที่จะใช้ลาดตระเวนสำรวจอย่างชัดเจน และถ้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการช่วยโรฮีนจาหรือผู้ย้ายถิ่นฐานผิดปกติ ห้ามใช้ฐานทัพนี้โดยที่ไทยไม่ได้อนุญาต เพราะเครื่องบินสหรัฐมีแนวโน้มจะใช้เครื่องบินออกนอกภารกิจสำรวจเรือโรฮีนจาได้ เช่น สอดแนมอีกประเทศหนึ่งที่มีปัญหากับสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับความมั่นคงของประเทศนั้นๆ ทำให้ประเทศไทยเสียหายเนื่องจากเป็น สหรัฐนำเครื่องบินขึ้นลงจากฐานทัพของไทย
    “ ผมคิดว่าเราต้องระมัดระวังมากๆ ในแง่ที่ว่ามันจะเป็นการสำรวจที่ยืดยาวนาน ภารกิจที่ต้องใช้ฐานบินซึ่งเป็นอธิปไตยของไทย สหรัฐจะต้องบอกรายละเอียดว่าจะทำภารกิจอะไร ในกรอบเวลาเท่าไหร่ และฝ่ายไทยต้องอนุญาตกรอบเวลาว่าเครื่องบินจะขึ้นจะลงได้เมื่อไร ต้องชัดเจน ไม่ใช่ว่าอนุญาตแล้ว คุณจะบินไปไหนเมื่อไรก็ได้ หรือไม่ต้องบอกว่าใช้เครื่องบินประเภทอะไร เช่นสำรวจเรือผู้ย้ายถิ่นฐานผิดปกติ แต่คุณเล่นใช้เครื่องบินเอฟ 16 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบ หรือใช้เครื่องบินใหญ่ทันสมัย วี 52 ที่ใช้สอดแนมอีกประเทศหนึ่งที่มีปัญหากับสหรัฐ อันนี้ไม่ใช่ภารกิจสำรวจเรือโรฮีนจา”
    นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ชัยนาม ยังให้ความเห็นหลังการประชุมว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดียของ 20 ประเทศวันที่ 29 พ.ค.ว่า ส่วนใหญ่พูดเรื่องหลักการทั้งนั้น แต่ครั้งหน้าควรทำหลักการให้เป็นรูปธรรม และเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วที่ตั้งฐานลอยน้ำ ไม่ตั้งค่ายพักพิงผู้อพยพชั่วคราวที่กลายเป็นค่ายถาวร ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่มีประสบการณ์ค่ายผู้อพยพมากที่สุดและยาวนานกว่า 30 ปี
    นายสุรพงษ์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่ารัฐบาลไทยควรสร้างปัจจัยผลักดัน คือ 1. จัดประชุมที่แสดงว่าไทยรับไม่ได้ 2. เปิดโปงความชั่วร้ายของประเทศที่มือถือสากปากถือศีล ไม่ทำในสิ่งที่ตัวเองเทศน์ เช่นสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้ชาวเม็กซิโกเข้า ขณะที่อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ไม่ให้เรือขึ้นฝั่ง เรือล่ม คนตายหลายร้อย แต่ไม่มีใครว่า ถือปฏิบัติสองมาตรฐาน 3.ต้องแก้ที่รากเหง้าปัญหาโรฮีนจาเกิดจากนโยบายรัฐบาลพม่าที่ 40 ปีไม่เคยแก้ปัญหาความขัดแย้งกับชนกลุ่มน้อยได้ เน้นปราบปรามไม่เจรจา และต้องบอกพม่าซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศอาเซียน อย่าเอาปัญหานี้มาเป็นปัญหาอาเซียน ให้อาเซียนเป็นทนายแก้ต่าง ซึ่งพม่ายึดยุทธศาสตร์นี้มาตลอด
    “ผมมีประสบการณ์กว่า 30 ปีทำเรื่องนี้มา มีปัญหานี้เกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะเรื่องแรงงานทาส ยาเสพติด ปราบปรามจนอพยพ พม่านิ่งเฉยและบอกว่าถ้าคุณไม่อยากให้อาเซียนเสียชื่อเสียง คุณต้องมาช่วยผม เอาปัญหาพม่าเป็นปัญหาอาเซียน (ASEANIZED) พม่ายึดยุทธศาสตร์นี้มาตลอด ถ้าเราไม่รับเป็นปัญหาอาเซียน พม่าก็บอกว่าอย่ายุ่งเพราะเป็นปัญหาของเขา แต่เราจะยอมรับถ้าชนกลุ่มน้อยไม่อพยพทะลักมาไทย ทุกวันนี้ยาเสพติดทะลักมาไทย มาจากไหนล่ะ ทะลักมาจากการปราบปรามชนส่วนน้อย เราได้รับผลกระทบแล้วบอกว่าอย่ามายุ่งกับผม ถ้าบ้านพม่าไฟไหม้ เราไม่ไปดับ มันก็ไหม้บ้านเราด้วย ดังนั้นเราเห็นปัญหาคุณ คุณต้องแก้ เราก็ยินดีช่วย ให้ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ให้หมอให้ยา การที่เราช่วยดับไฟในพม่า เท่ากับช่วยประเทศไทยด้วย”
    นายสุรพงษ์กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัญหานี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ที่ไม่ควรคิดว่าเป็นคลื่นกระทบฝั่ง รัฐบาลขณะนี้ทำถูกต้องแล้ว แต่ไม่ควรหยุด หรือแค่สร้างภาพเท่านั้น นายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ควรจะมีทิศทางการพูดแบบเดียวกัน เพื่อไม่เปิดโอกาสให้คนไม่หวังดีตอกลิ่มแตกแยก"
    สหรัฐกำลังหาเรื่องเข้ามาใช้ดินแดนประเทศไทยเพื่อรบกับจีนในทะเลจีนใต้ เราต้องระวังไม่หลงกล มิเช่นนั้นจะประสบกับหายนะ
    thanong
    31/5/2015
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    9. ศึกทะเลจีนใต้
    สหรัฐเปิดศึก2ด้านพร้อมๆกันเลย คือกำลังจะส่งกองทัพเรือและกองทัพอากาศไปเผชิญหน้ากับกองทัพเรือของจีนที่ทะเลจีนใต้ และได้ส่งกองทัพเรือไปลูบคมหมีขาวแล้วที่ทะเลดำ
    จีนถือว่าทะเลจีนใต้เป็นถิ่นจีน ใครจะมาลูบคมไม่ได้
    รัสเซียก็คิดเหมือนกันว่าทะเลดำคือถิ่นของรัสเซีย ใครจะลูบคมไม่ได้ เพราะว่ากองทัพเรือรัสเซียใช้ฐานทัพเรือที่ไครเมียมาเป็นเวลายาวนานแล้ว เมื่อยูเครนออกอาการพยศไปเข้าข้างตะวันตก ประธานาธิบดีจึงรีบผนวกเอาไครเมียเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซีย เพราะว่าไครเมียมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือของรัสเซียในทะเลดำ ก่อนที่จะออกไปทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
    แต่ตอนนี้กองทัพเรือสหรัฐได้เข้าไปในทะเลดำแล้วเพื่อชิมลางกองทัพรัสเซีย ในวันที่30 พฤษภาคม 2015มีรายงานว่าเครื่องบินรบรัสเซียได้บินโฉบUSS Ross ซึ่งเป็นเรือรบของสหรัฐที่กำลังรุกเข้าไปบริเวนน่านน้ำของรัสเซียในทะเลดำ
    ทางรัสเซียกล่าวหาว่าลูกเรือของUSS Rossได้กระทำการยั่วยุ และแสดงอาการกร้าวร้าว ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารรัสเซียและเรือรบที่ดูแลประจำการที่ทะเลดำเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่
    กองทัพรัสเซียส่งเครื่องบินโจมตีSu-24ไปบินโฉบเรือรบของสหรัฐทันที เพื่อแสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะปกป้องชายแดนและผลประโยชน์ของรัสเซีย
    แหล่งข่าวรัสเซีย กล่าวว่าดูเหมือนว่าพวกอเมริกันลืมเหตุการณ์ในเดือนเมษายนปี2014 ที่เครื่องบินรบSu-24ได้ส่งคลื่นเพื่อรบกวนสัญญานอิเลคโทรนิคส์บนเรือรบDonald Cook ทำให้เกิดการแบล๊คเอาท์
    กองทัพสหรัฐได้ส่งเรือรบหลายลำไปผลัดเปลี่ยนกันในทะเลดำ เช่นUSS Vella Gulf, USS Ross, USS Truxton และUSS Taylor และมีเรือรบของนาโต้เข้าร่วมด้วย เพื่อทดสอบสมรรถภาพการป้องกันของกองทัพรัสเซีย
    ในขณะเดียวกัน รัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบไปทดสอบกองทัพนาโตเหมือนกันในยุโรปเหนือ รวมทั้งในบอลติกส์และทะเลดำตามกราฟิค
    แสดงว่าสหรัฐต้องมั่นใจในแสนยานุภาพทางทหารมากว่ามีของดีซุกซ่อนอยู่ ยังไม่ได้เอาออกมาใช้ ถึงกล้าเปิดศึก2หน้ากับรัสเซียในยุโรป และจีนในทะเลจีนใต้
    แต่ชั่วโมงนี้ ทั้งรัสเซียและจีนมีความพร้อมทางทหารสูงสุด ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว
    thanong
    31/5/2015
    http://www.zerohedge.com/…/russia-wards-provocative-and-agg…
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    10. ศึกทะเลจีนใต้
    สหรัฐได้ออกมาให้ข่าวว่า จีนได้ติดตั้งปืนใหญ่คู่หนึ่งบนเกาะแห่งหนึ่งในในหมู่เกาะSpratlyในทะเลจีนใต้
    จากภาพถ่ายที่ตีพิมพ์ในThe New York Times ชี้ให้เห็นว่า จีนกำลังใช้เครื่องขุดถมทะเลเป็นการเร่งด่วนบนเกาะแห่งหนึ่งในทะเลจีนใต้
    นายAshton Carterรมว กลาโหมของสหรัฐแสดงความไม่เห็นด้วยที่จีนสร้างนามบินบนเกาะในทะเลจีนใต้ โดยบอกว่ากฎหมายระหว่างประเทศไม่ยอมรับการยึดครองหมู่เกาะSpratlyของจีน
    รองรัฐมนตรีกลาโหมของเวียดนาม นายพลNguyen Chi Vinh กล่าวว่าการติดตั้งปืนใหญ่บนเกาะในทะเลจีนใต้ของจีนเป็นพัฒนาการที่น่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่ง
    "ถ้ามันเกิดขึ้นจริง หมายความว่ามันเป็นสัญญานที่เลวร้ายในสถานการณ์ที่สลับซับซ้อนอยู่แล้วในทะเลจีนใต้" เขากล่าว
    thanong
    31/5/2015
    http://www.nytimes.com/…/chinese-artillery-spotted-on-sprat…
    http://www.reuters.com/…/us-asia-security-vietnam-idUSKBN0O…
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub
    11. ศึกทะเลจีนใต้

    [​IMG]

    ดูกราฟิค1. จะเห็นว่าสหรัฐและนาโต้ปิดล้อมรัสเซียในยุโรปจนเกือบจะมิด ทำให้หมีขาวปูตินอึดอัดมาก มีสัญญากันในช่วงการล่มสลายของอาณาจักรโซเวียตในปี1991 ว่าสหรัฐจะไม่ขยายสมาชิกนาโต้มายังทางตะวันออกเพื่อประชิดรัสเซีย แต่ปรากฎว่าสหรัฐไม่รักษาสัญญา เข้าไปล้วงลูกให้ประเทศยุโรปตะวันออกที่เคยเป็นพันธมิตรรัสเซียกลายเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปและเป็นสมาชิกของนาโต้

    [​IMG]

    ส่วนในกราฟิค2. พันธมิตรหลักของสหรัฐในเอเซียคือญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ มาเลย์เซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นอกจากนี้สหรัฐยังมีฐานทัพเสริมที่กวม และฮาวายในแปซิฟิค

    [​IMG]

    กราฟิค3. แสดงให้เห็นถึงกองทัพของแองโกลอเมริกันที่กำลังปิดล้อมทั้งรัสเซียและจีนอยู่พร้อมกัน ถ้าอินเดียเอาด้วย จีนจะโดนปิดล้อมสนิท
    ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก พ่อแม่พี่น้องทั้งหลาย
    thanong
    31/5/2015
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    12. ศึกทะเลจีนใต้
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ของNational Security Agencyของสหรัฐได้ทวิทข้อความว่า: "เจ้าหน้าที่ชั้นสูงคนหนึ่งของนาโต้ที่ไม่ใช่อเมริกันบอกผมวันนี้ว่า เราอาจจะเข้าสู่สงครามในฤดูร้อนนี้ ถ้าหากว่าเราโชคดี จะไม่มีการใช้นิวเคลียร์"
    มีการรีทวิทข้อความนี้มาก แต่ปรากฎว่าสื่อกระแสหลักไม่ให้ความสำคัญกับข้่อความนี้ ที่ชี้ให้เห็นว่านาโต้จงใจปล่อยข่าวเพื่อให้เห็นว่าสถานการณ์การเผชิญหน้ากันทางสงครามระหว่างนาโต้และรัสเซียกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกันอย่างไร
    thanong
    31/5/2015
    http://www.infowars.com/senior-nato-official-well-probably…/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    13. ศึกทะเลจีนใต้
    ความตรึงเครียดทางทหารระหว่างกลุ่มแองโกลอเมริกันพวกหนึ่งและรัสเซีย+จีนอีกพวกหนึ่งเกิดจากความพยายามของกลุ่มแองโกลอเมริกันที่จะรักษาสถานภาพเดิมทางการเงินและเศรษฐกิจที่มิอาจจะรักษาได้
    ถ้าเศรษฐกิจโลกและระบบการเงินโลกมีปัญหา ตะวันตกจะล่มสลาย และตะวันออกจะพังเหมือนกัน แต่จะฟื้นได้เร็วกว่าเพราะว่ามีทั้งทรัพยากรธรรมชาติและมีระบบการผลิตที่แท้จริง ผิดกับตะวันตกที่มีแต่การเงิน หนี้และการบริการ
    ด้วยเหตุนี้กลุ่มแองโกลอเมริกันกลัวว่าทั้งรัสเซียและจีนจะนำพาโลกไปสู่ระเบียบโลกใหม่ที่ตะวันตกจะกลายเป็นผู้ตาม ทำให้มีการสร้างเรื่องเพื่อก่อสงครามกับรัสเซียในยุโรปและกับจีนในเอเซีย
    วิกฤติเศรษฐกิจมาทุกๆ 7ปี แต่ละรอบความเสียหายจะทวีเพิ่มขึ้นไปเนื่องจากปริมาณเงินและหนี้ที่เพิ่ม
    ปี1973เกิดเหตุน้ำมันอาหรับเอมบาร์โก้ ปี1980พี่น้องตระกูลฮั้นท์สร้างฟองสบู่ราคาทองและเงิน ปี1987เกิดเหตุBlack Monday ปี1994เกิดวิกฤติในตลาดบอนด์ ปี2001เกิดเหตุการณ์9/11 และฟองสบู่ดอทคอม ปี2008เกิดวิกฤติวอลล์สตรีท
    และปี2015ในปัจจุบันนี้ได้เห็นการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสหรัฐและจีนและรัสเซียอย่างเต็มรูปแบบ อาจจะนำไปสู่ปัญหาของดอลล่าร์
    นายStephen Kingหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของHSBCยอมรับว่าภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจโลกกำลังจะมา เขาไม่ได้บอกว่าจะมาเมื่อใด แต่เขาอธิบายว่าเศรษฐกิจโลกเหมือนเรือไทแทนิคที่อาจจะชนภูเขาน้ำแข็งได้ทุกเมื่อ ปัญหาคือเมื่อมันล่มแล้ว จะไม่มีเรือลำเล็กที่ช่วยผู้โดยสารทุกคน
    หนี้โลกเพิ่ม40%ตั้งแต่วิกฤติ2008จนอยู่ในระดับ$200ล้านล้าน หรือประมาณ3เท่าของขนาดเศรษฐกิจโลก หนี้จำนวนนี้ไม่มีทางชำระคืนได้ เนื่องการแรงเหวี่ยงให้เศรษฐกิจโลกโตต่อไปไม่มีอีกแล้ว
    นายKingบอกว่ามีความเสี่ยงอยู่4ด้านที่ควรจะระวังคือ
    1. หุ้นจะแครช
    2. กองทุนบำนาญและประกันภัยอาจจะไม่มีเงินจ่ายผู้รับผลประโยชน์
    3. ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจจีนจะลากเศรษฐกิจสหรัฐแล้วสู่การถดถอย หรือถดถอยอย่างรุนแรง (depression)
    4. ถ้ามีการขึ้นดอกเบี้ยเมื่อใด จะเห็นความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกทันที เรือไทแทนิคจะล่ม และจะไม่มีเรือเล็กพอที่จะพาทุกคนไปสู่ฝั่งที่ปลอดภัยได้
    5.ทองจะเป็นเรือเล็กสำหรับนักลงทุนที่จะช่วยพยุงสถานการณ์ได้
    สรุปได้ว่าแองโกลอเมริกันไม่สามารถจะรักษาสถานภาพเดิมของระบบเศรษฐกิจและการเงินโลกที่กำลังจะเจอวิกฤติรอบใหม่ที่ใหญ่และรุนแรงกว่าปี2008หลายสิบเท่า ทำให้ต้องปรับยุทธศาสตร์มาเป็นการแก้ปัญหาทางทหารเพื่อสยบรัสเซียและจีนไม่ให้ผงาด มิเช่นนั้นระเบียบโลกใหม่จะมีจีนและรัสเซียเป็นผู้นำโลก ไม่ใช่ดีซีและลอนดอนอีกต่อไป
    thanong
    1/6/2015
    Buy Gold Bullion Safely | Secure Storage | GoldCore
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    14. ศึกทะเลจีนใต้
    ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Council on Foreign Relations หรือ CFR ถังขยะความคิด (think tank) ที่เขียนรายงาน"Revising U.S. Grand Strategy Toward China" เพื่อเขย่าจีน เวลาCFRเขียนรายงานหรือออกนโยบายแล้ว กระทรวงการต่างประเทศรวมทั้งทำเนียบขาวของสหรัฐต้องเอาไปใช้ แสดงว่าCFRมีอิทธิพลสูงเหนือรัฐบาลและเหนือรัฐธรรมนูญสหรัฐ อย่าได้หลงคิดว่าสหรัฐเป็นประชาธิปไตย เนื้อแท้แล้วเป็นคณาธิปไตย
    ต้องถือว่ารายงานRevising U.S. Grand Strategy Toward China เป็นการประกาศสงครามกับจีน เพราะว่าสหรัฐจะยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้จีนเติบโตใหญ่กว่าทางเศรษฐกิจและการเงิน หรือมีอิทธิพลทางการเมืองมากกว่าสหรัฐ
    พูดง่ายๆสหรัฐเป็นพวกขี้แพ้ชวนตี
    เพจลุงเล่านิทานอธิบายเรื่องCFRได้ดี ขอคัดมาดังนี้:
    "รายงานนี้มีความหมายมากครับ เหมือนเป็นเข็มทิศและเครื่องวัดอุณหภูมิของโลก และที่สำคัญ มีความเกี่ยวพันกับแดนสมันน้อยของเรา ในช่วงเวลานับจากนี้เป็นต้นไป
    Edward Mead บรรณาธิการรุ่นเก๋าชื่อดัง ได้เขียนอธิบายความหมายของคำว่า Grand Strategy ไว้ว่า เป็นศิลปะของการควบคุม และการใช้ทรัพยากรทั้งหมดของประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์สุงสุดของประเทศและเพื่อปกป้องตนเองจากผู้ที่เป็นศัตรู หรือมีโอกาสที่จะกลายเป็นศัตรู หรือเพียงแต่คาดว่า อาจจะเป็นศัตรู... และเป็นยุทธศาสตร์ที่มิได้ใช้เฉพาะในภาวะสงครามเท่านั้น แต่ใช้ในทุกสภาวะของรัฐนั้น
    เทียบกับสมัยโบราณของบ้านเรา Grand Stategy คงจะเป็นทำนองหลักพิชัยสงครามขั้นสูงสุด นะครับ
    " จีน นับเป็นขู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา ในขณะนี้ และในอีกหลายๆทศวรรษต่อไป"
    China represents and will remain the most significant competitor to the United States for decades to come"
    คนเขียนรายงานการวิเคราะห์ เขาเกริ่นเริ่มต้นเช่นนั้น อ่านเผินๆ เหมือนน้ำไหลเอี่อยๆไม่เห็นต้องสดุ้ง สะอึก อะไรเลย แต่ประโยคต่อไปของเขา ความเอื่อยค่อยๆเปลี่ยน..
    ...จีน กำลังดำเนินยุทธศาสตร์ ของตน ซึ่งมีเป้าหมาย ที่จะควบคุมประชาสังคมทั้งในและนอกประเทศจีน ที่อยู่ใกล้กับอาณาบริเวณของจีน ให้สงบราบคาบ และสร้างสถานะของจีนให้แข็งแกร่งในประชาคมนานาชาติ เพื่อเข้าไปแทนที่อเมริกา ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดในเอเซีย..
    ...ความพยายามของอเมริกา ที่จะนำจีนเข้ามาอยู่ในระบบที่ใช้กันอยู่ในสากล กลายเป็นการสร้างความคุกคามให้แก่อเมริกาเอง ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในเอเซีย และในที่สุดจีนอาจเป็นผู้ท้าทาย ความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในโลก ของอเมริกาด้วย..
    .. อเมริกาจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด ในนโยบายปัจจุบันของอเมริกา เพื่อเป็นการจำกัดอันตราย ที่อาจมีต่อผลประโยชน์ของอเมริกาในภูมิภาคเอเซีย และในระดับโลก ที่เกิดจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ และการทหารของจีน
    การเปลี่ยนแปลงยโยบายของอเมริกาดังกล่าว จะต้องเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นความจำเป็น ที่จะต้องรักษาความเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของอเมริกาในระบบปัจจุบันของโลกเอา ไว้...
    ....การเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีน ในช่วงสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จีนสามารถสร้างอำนาจ ที่ยากแก่การเอาชนะ กลายเป็นประเทศที่สามารถจะครอบงำภูมิภาคเอเซีย และเป็นอันตรายต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และผลประโยชน์ ของอเมริกาในภูมิภาค
    ด้วยเศรษฐกิจที่โตแบบพุ่งพรวดของจีน แม้รายได้ต่อหัวของคนจีน จะยังตามหลังคนอเมริกันก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ปักกิ่ง สามารถท้าทายความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเซียและอิทธิพลของอเมริกาในเอเซีย ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่ออเมริกาอย่างน่าอันตราย และแม้การเติบโตของจีดีพีของจีน อาจจะช้าลงอย่างเห็นชัดในอนาคต แต่เมื่อเทียบกับของอเมริกาในอนาคตแล้ว ก็ยังจะสูงกว่าอเมริกาอยู่ดี จึงทำให้การถ่วงดุลอำนาจจีน จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
    การทำให้รากฐานของจีนล่มสลายเท่านั้น (fundamental collapse) จึงเป็นทางเดียว ที่จะทำให้อเมริกาพ้นจาก "ภาระ" การถ่วงดุลกับจีน เพราะว่า แม้จะทำให้จีน "สะดุด" หัวทิ่มบ้าง ก็ยังไม่เป็นการเพียงพอที่จะขจัดอันตราย ที่จีนมีต่ออเมริกาในเอเซีย และที่ไกลโพ้นไปกว่านั้น
    ในบรรดาชาติทั้งหมด และไม่ว่าในสถานการณ์ใดเท่าที่จะคาดการณ์ได้ มีแต่จีนเท่านั้น ที่จะเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของอเมริกา และจะเป็นอยู่เช่นนั้นไปอีกหลายทศวรรษ การผงาดขึ้นมาของจีน จนถึงขณะนี้ ได้สร้างความท้าทายอำนาจของอเมริกา (และอำนาจของอเมริกาที่มีต่อ)มิตรของอเมริกา ไม่ว่าทางด้านภูมิศาสตร์ การเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และที่สำคัญ ต่อการจัดระเบียบโลก "ภายใต้ข้อกำหนด" ของอเมริกา และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป ยิ่งนานไป ก็ยิ่งเป็นการทำลายผลประโยชน์ของอเมริการุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
    นโยบายที่อเมริกาใช้อยู่กับจีนขณะนี้ เป็นนโยบายที่รับรองคุณค่าของจีนทางเศรษฐกิจและปล่อยให้เกิดเสรีทางการเมืองในนานาชาติ ด้วยค่าใช้จ่าย หรือการเสียประโยชน์ของอเมริกาในการเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก มันห่างไกลกับการใช้ยุทธศาสตร์แบบ "grand" แถมไม่มีทางจะได้ผลอะไรขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งแล้ว ที่อเมริกาจะต้องตอบโต้การเติบโตของอำนาจจีนอย่างเร่งด่วน ซึ่งแม้จะทำตอนนี้ ยังเกือบจะสายไป.."
    อันนำมาสู่ถ้อยคำที่กร้าวร้าวมากยิ่งขึ้นของนายAshton Carterรมวกลาโหมของสหรัฐที่ต้องการโยกกองทัพเรือและกองทัพอากาศเข้ามาในทะเลจีนใต้เพื่อสกัดไม่ให้จีนมีอิทธิพลเหนือทะเลจีนใต้ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว สหรัฐต้องการแหย่เท้าให้จีนสะดุดล้มด้วยการสงครามนั้นเอง
    สหรัฐท่้าจีนรบแล้ว ผ่านการหนุนพันธมิตรในเอเซียเพื่อปิดล้อมจีน โดยสหรัฐบุกมาถึงถิ่นทะเลจีนใต้เพื่อกระตุกหนวดมังกร แล้วมังกรจะหวั่นไหว หรือจะตอบโต้อย่างไรเพราะว่ากำลังเจอไฟท์บังคับ
    thanong
    1/6/2015
    https://www.facebook.com/ThanongFanc…/posts/351499671713080…
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขอสนับสนุนชาวฝรั่งเศษที่เรียกร้องให้ประเทศเลิกสมาคมกับองค์กรบ้าสงคราม ที่เป็นเพียง “เครื่องมือทางทหาร”ของสหรัฐอเมริกา

    ชาวฝรั่งเศสนับพันรวมตัวประท้วงในปารีส เรียกร้องรบ.แดนน้ำหอมถอนตัวจาก “นาโต” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 มิถุนายน 2558 03:24 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-กลุ่มผู้ประท้วงชาวฝรั่งเศสจำนวนนับพันคนรวมตัวกันเดินขบวนในกรุงปารีส เรียกร้องให้รัฐบาลแดนน้ำหอมถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่เป็นเพียง “เครื่องมือทางทหาร”ของสหรัฐอเมริกา

    กลุ่มผู้ประท้วงต่างชูป้ายและตะโกนถ้อยคำเรียกร้องให้รัฐบาลฝรั่งเศสภายใต้การนำของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ ถอนตัวจากนาโต โดยระบุองค์กรทางทหารแห่งนี้ จะสร้างภาระด้านงบประมาณที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นให้กับฝรั่งเศสและยังลิดรอนเอาอำนาจอธิปไตยไปจากแดนน้ำหอม นอกจากนั้น นาโตยังกลายเป็นเครื่องมือของสหรัฐฯในการรุกรานและแทรกแซงประเทศต่างๆ

    ก่อนหน้านี้เมื่อปี ค.ศ.1966 อดีตประธานาธิบดีชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ตัดสินใจถอนฝรั่งเศสออกจากการเป็นสมาชิกนาโตโดยระบุ การเป็นสมาชิกนาโตบ่อนทำลายอธิปไตยของชาติ

    อย่างไรก็ดี ฝรั่งเศสได้กลับเข้าเป็นสมาชิกนาโตอีกครั้งในสมัยประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ผู้ได้ชื่อว่า มีนโยบายกระชับความสัมพันธ์กับอเมริกา ถือเป็นการกลับเข้าร่วมนาโตของฝรั่งเศสเป็นหนแรกในรอบ 40 ปี

    ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสื่อหลายสำนักในแดนน้ำหอมล่าสุด บ่งชี้ว่า จำนวนชาวฝรั่งเศสที่ต้องการให้ประเทศของตนลาออกจากนาโตได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโพลล์บางสำนักระบุว่า ในเวลานี้มีชาวฝรั่งเศส “มากกว่าครึ่งหนึ่ง” ที่ต้องการให้รัฐบาลปารีสทบทวนการเป็นสมาชิกองค์กรทางทหารนี้

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000061867
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนญี่ปุ่นอย่าวางใจ แผ่นดินไหว'ใหญ่'อาจใกล้เข้ามา หลังธรณีพิโรธ 7.8 วันเสาร์ และ 6.2 วันนี้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2558 21:42 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – เหล่านักวิทยาแผ่นดินไหว ออกมาเตือนญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) อย่าเพิ่งนอนใจ ยังต้องรักษาสติคอยระแวดระวัง เนื่องจากอาจมี “แผ่นดินไหวใหญ่” ตามมา หลังเกิดเหตุธรณีพิโรธวัดความรุนแรงได้ 7.8 นอกชายฝั่งแดนอาทิตย์อุทัยเมื่อคืนวันเสาร์ (30) ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน

    อาคารต่างๆ ในกรุงโตเกียวและบริเวณใกล้เคียง พากันสั่นสะเทือนอยู่ราว 1 นาทีช่วงคืนวันเสาร์ ขณะที่เกิดแผ่นดินไหว ณ จุดอันไกลโพ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยอยู่ห่างจากเมืองหลวงของญี่ปุ่นไปทางใต้ประมาณ 874 กิโลเมตร ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส)

    ยูเอสจีเอสและศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกระบุว่า แม้แผ่นดินไหวคราวนี้มีความรุนแรงมาก แต่ไม่มีความเสี่ยงเกิดคลื่นยักษ์ เนื่องจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ผิวโลกถึง 676 กิโลเมตร

    ทางด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานดับเพลิงโตเกียวและสื่อท้องถิ่นรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 12 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต

    รายงานยังระบุว่า มีประชาชน 400 คนติดอยู่บนชั้นสังเกตการณ์ของอาคารโตเกียวทาวเวอร์ เนื่องจากลิฟต์หยุดทำงานนานกว่าชั่วโมง ส่วนรันเวย์ของท่าอากาศยานฮาเนดะในโตเกียวปิดทำการราว 30 นาที เช่นเดียวกับบริการรถไฟ และการแข่งขันฟุตบอลในโตเกียวที่ต้องหยุดชะงักไปช่วงสั้นๆ

    อย่างไรก็ดี พวกโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในบริเวณแถบนี้ ซึ่งล้วนแต่ถูกสั่งปิดการเดินเครื่องมาเป็นแรมปีแล้ว ไม่ได้มีรายงานว่าเกิดปัญหาใดๆ

    ต่อมาเมื่อถึงตอนเช้าวันอาทิตย์ ยูเอสจีเอสรายงานว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 6.2 ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในบริเวณนอกหมู่เกาะอีซุ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว แต่ไม่มีรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตายหรือเกิดความเสียหาย


    ครั้งสุดท้ายที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่โต ได้แก่ธรณีพิโรธระดับ 9.0 เมื่อเดือนมีนาคม 2011 ซึ่งทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิโถมทำลายชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน และเตาปฏิกรณ์ 3 เตาในโรงงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะ หลอมละลาย

    แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ถือเป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ครั้งที่สองในแถบกรุงโตเกียวในรอบหนึ่งสัปดาห์ โดยก่อนหน้านั้นในวันจันทร์ (25 พ.ค.) ที่ผ่านมา ก็แผ่นดินไหวใกล้เมืองหลวงของญี่ปุ่นที่มีรุนแรงน้อยกว่าแต่ศูนย์กลางอยู่ในระดับตื้นกว่า

    พวกผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่า แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดระลอกล่าสุดอาจเป็นสัญญาณว่า บริเวณแถวๆ ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ระยะที่เปลือกโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างคึกคัก

    โตชิยาสึ นากาโอะ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อการคาดการณ์แผ่นดินไหวของมหาวิทยาลัยโตไก เป็นผู้หนึ่งที่มีความเห็นเช่นนี้ และชี้ว่า เมื่อพิจารณาจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของญี่ปุ่นแล้ว ควรต้องกล่าวว่ากิจกรรมของเปลือกโลกในขณะนี้แหละค่อนข้างปกติ ขณะช่วงก่อนเกิดแผ่นดินไหวในปี 2011 กิจกรรมของเปลือกโลกก็ดูเหมือนเงียบกริบเกินไป

    เขาสรุปว่า ญี่ปุ่นจึงควรระมัดระวัง เนื่องจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

    สำหรับ คาสุกิ โคเค็ตสึ ศาสตราจารย์สถาบันวิจัยแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยโตเกียว ขานรับว่า ถึงแม้ธรณีพิโรธครั้งล่าสุด ไม่น่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มโหฬารขึ้นมาอีกในโตเกียว ทำนองเดียวกับที่เคยเกิดเมื่อปี 1923 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 140,000 คน แต่กระนั้นสิ่งสำคัญก็คือ การเตรียมพร้อมเพื่อรับมือแผ่นดินไหวในอนาคต

    ทั้งนี้ ดินแดนประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกที่กำลังเคลื่อนตัว 4 แผ่น และทุกปีต้องประสบกับธรณีพิโรธถึงราว 20% ของแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงที่สุดของโลก ทว่า เนื่องจากมีกฎหมายการก่อสร้างอาคารและการบังคับใช้อย่างเข้มงวด ทำให้บ่อยครั้งจะได้รับความเสียหายน้อยมากจากแผ่นดินไหว

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ยังเกิดภูเขาไฟระเบิดทางใต้ของญี่ปุ่น พ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ฟ้าและทำให้ทางการต้องอพยพประชาชนออกจากเกาะ แม้ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหาย แต่ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนความอ่อนไหวทางธรณีวิทยาของประเทศนี้

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000061829
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปรกติเห็นแต่ ไอเอส จับคนของฝ่ายตรงข้ามมาฆ่าตัดคอ แต่ครั้งนี้ถึงกับต้องยอมเสียสละชีวิตคนในกลุ่ม เพื่อถล่ม "ฟาจร์ ลิเบีย" หรือว่ากลุ่มนี้เก่งเกินไอเอส

    [​IMG]

    ไอเอสใช้ระเบิดฆ่าตัวตายถล่ม "ฟาจร์ ลิเบีย" ดับไป 5 ราย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2558 20:19 น.

    เอเอฟพี - เกิดเหตุโจมตีที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของลิเบีย ด้วยระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในช่วงก่อนรุ่งสางวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) ทำให้สมาชิก 5 รายของกองกำลังติดอาวุธ "ฟาจร์ ลิเบีย" เสียชีวิต

    "คาร์บอมบ์คันหนึ่งได้ถูกจุดระเบิดขึ้นใกล้กับจุดตรวจตรงทางเข้าเมืองดาฟนิยา" โฆษกของ ฟาจร์ ลิเบีย ระบุ

    เขาบอกว่า การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเวลาประมาณ 3.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้สมาชิกของ ฟาจร์ ลิเบีย เสียชีวิต 5 ราย ได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย

    ด้านสื่อของลิเบียก็รายงานข่าวตรงกันว่า การโจมตีครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย

    กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้ออกมายอมรับผ่านทางทวิตเตอร์ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ ทั้งยังบอกด้วยว่ามือระเบิดคือ อาบู วาฮิบ อัล-ทุนซี เป็นชาวตูนิเซีย

    ไอเอสยังได้ทวิตข้อความเตือนพวก "ฟาจร์ ลิเบีย" ด้วยว่า กำลังจะเจอกับสงครามเพื่อชำระล้างดินแดนที่ต้องสกปรกโสมมเพราะพวก ฟาจร์ ลิเบีย

    ฟาจร์ ลิเบีย เป็นแนวร่วมกองกำลังติดอาวุธ ที่มีพวกอิสลามิสต์รวมอยู่ด้วย พวกเขาได้ยึดอำนาจในกรุงตริโปลีเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาได้จัดตั้งรัฐบาลและรัฐสภาใหม่ ทำให้ฝ่ายบริหารเดิมที่นานาชาติให้การยอมรับ ต้องหลบหนีไปอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศ

    เมื่อ 3 วันก่อนหน้านี้ กลุ่มไอเอสเพิ่งจะเข้าควบคุมสนามบินในเมืองซีราเต ที่อยู่ทางตะวันออกของตริโปลี ซึ่งเป็นจุดสู้รบกันมาเป็นระยะๆ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ระหว่างพวกนักรบญิฮัด กับกองกำลัง ฟาจร์ ลิเบีย

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ต้องดำเนินคดีกับ สุนัขน่ะครับทำให้หมีโคอาล่ามีสิทธิ์สูญพันธ์

    หมีโคอาลาสุดน่ารักจ่อถูกรัฐควีนสแลนด์ขึ้นบัญชี “เสี่ยงสูญพันธุ์” หลังพบ “สุนัขไล่กัด” เป็นหนึ่งในภัยคุกคาม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2558 16:45 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – รัฐควีนสแลนด์ ออสเตรเลีย กำลังหาทางขึ้นบัญชีหมีโคอาลาว่าเป็นสัตว์ “เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์” ทั่วทั้งทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียจากสาเหตุที่หมีน้อยขนฟูสุดน่ารักนี้ถูกคุกคามอย่างหนักจากการขยายเมือง รวมไปถึงถูกรถยนต์ทับ และโดนสุนัขไล่กัด

    “ทุกคนรักหมีโคอาลากันทั้งนั้น และเราต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อปกป้องสัตว์สายพันธุ์นี้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต” อานาตาเซีย พาลาสซัค (Annastacia Palaszczuk) ผู้ว่าการรัฐควีนสแลนด์ (Queensland Premier) ประกาศในงาน “Sunday of the tree-dwelling marsupial” ในวันนี้(31) หรือวันอาทิตย์แห่งหมีโคอาลา

    โดยเอเอฟพีรายงานว่า โคอาลาได้ถูกขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ “ใกล้เสี่ยงสูญพันธุ์” ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนสแลนด์ ออสเตรเลียก่อนหน้านี้ แต่ทว่ามาตรการขยายการคุ้มครองหมีโคอาลาไปทั่วรัฐนั้นจัดได้ว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลรัฐควีนสแลนด์ที่ต้องการสำรวจประชากรหมีโคอาล่า และรวมไปถึงอนุรักษ์ประชากรของสัตว์พันธุ์นี้ไว้

    “เรารู้ว่า ภัยคุกคามที่มีตั้งแต่การถูกรถทับไปจนถึงโดนสุนัขกัดจนเสียชีวิตนั้นเป็นปัจจัยใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประชากรหมีโคอาลาทั่วรัฐควีนสแลนด์” พาลาสซัคแถลงต่อ และเสริมว่า “และดังนั้นเราตั้งมั่นที่จะทำทุกอย่างเท่าที่จะกระทำได้”

    เอเอฟพีรายงานต่อว่า จากการวิจัยปี 2011 ประเมินว่า มีประชากรโคอาลาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านตัวอาศัยอยู่ก่อนที่อังกฤษจะส่งคนมาตั้งถิ่นฐานอพยพในบริเวณนี้ในปี 1788 แต่ทว่านับตั้งแต่นั้นมาจำนวนโคอาล่ากลับพบลดลงอย่างฮวบฮาบเหลือไม่ถึง 45,000 ตัว ในป่าออสเตรเลียในปัจจุบัน ที่ถึงแม้งานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า เป็นเพราะหมีโคอาลาส่วนใหญ่อาศัยบนยอดต้นไม้ อาจทำให้เป็นการยากที่จะคาดเดาตัวเลขที่แท้จริงได้

    และรัฐบาลกลางออสเตรเลียได้จัดให้โคอาลาที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐควีนสแลนด์ และแคปิตอล เทอริทอรีขึ้นบัญชีแห่งชาติสำหรับสัตว์ที่ถุกคุกคาม (Threatened )ในประเภท “ที่ตกอยู่ในอันตราย” (vulnerable) ในปี 2012

    นอกจากนี้ในรายงานปี 2012 พบว่าประชากรโคอาลาในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐควีนสแลนด์มีจำนวนลดลงจาก 60,000 ตัว เหลือเพียงแค่ 11,000 ตัวภายในเพียงแค่ 20 ปีที่ผ่านมา โดยนักวิจัยได้โทษถึงปัญหาภัยแล้ง คลื่นความร้อน และที่อาศัยเป็นปัจจัยหลักทำให้มีจำนวนโคอาล่าลดลง

    ทั้งนี้จากเว็บไซต์โลกสีเขียว ได้มีการจัดเกณฑ์ประเมินสัตว์ป่าและการสูญพันธุ์ดังต่อไปนี้ :

    Extinct - สูญพันธุ์ไปจากโลก
    สูญพันธุ์โดยสมบูรณ์ โดยมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตายของสัตว์ตัวสุดท้าย
    Threatened - ถูกคุกคาม
    ถูกคุกคามจนเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ
    CR - Critically Endangered - วิกฤต
    มีความเสี่ยงสูงมากที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในขณะนี้
    EN - Endangered - อันตราย
    มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ
    VU - Vulnerable - เสี่ยงสูญพันธุ์
    มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติในภายหน้า
    NE - Near Threatened - ใกล้ถูกคุกคาม
    ถูกคุกคามในระดับที่ยังไม่ถึงขั้น CR, EN หรือ VU แต่ใกล้เคียง และอาจจัดให้อยู่ในระดับ Threatened ในอนาคตอันใกล้
    LR - Lower Risk - เสี่ยงน้อย
    มีความเสี่ยงน้อยต่อการสูญพันธุ์
    CD - Conservation Dependent - ปลอดภัยโดยแผนงานอนุรักษ์
    ปลอดภัยโดยแผนงานอนุรักษ์ที่ดี หากแผนงานนั้นไม่สามารถดำเนินการต่อ จะเข้าสู่ threatened
    NT - Near Threatened - ใกล้ถูกคุกคาม
    ในภายภาคหน้า เป็นไปได้ว่าจะเข้าสู่ VU
    LC - Least Concerned - ไม่ถูกคุกคาม
    มีการประเมินสถานภาพแล้ว พบว่ายังไม่ถูกคุกคามถึงขั้น NE ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็น CD หรือ NT
    DD - Data Deficient
    ข้อมูลไม่เพียงพอที่จะประเมิน
    NE - Not Evaluated
    ยังไม่มีการพิจารณาประเมินสถานภาพ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตอนนี้ใครเดินทางไปอเมริกาต้องระวังตัวด้วยน่ะครับ อเมริกากลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไปแล้ว ไม่เคารพสิทธิมนุษยชน ตำรวจยิงคนจายวันละ 2 คน ฮิวแมน ไลท์วอทช์ ไปไหน

    สื่อนอกเผยตำรวจมะกันปืนโหด ยิงคนตายวันละ 2 ราย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2558 16:12 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - วอชิงตันโพสต์รายงานในวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) ว่าตำรวจของสหรัฐฯ มีอัตราการยิงคนตายวันละ 2 รายในปีนี้ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของตนเอง ไม่ใช่ข้อมูลทางสถิติของส่วนกลาง

    วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า ในจำนวนคนทั้งหมดที่ตายเพราะตำรวจ คนผิวดำมีอัตราการตายมากกว่าคนขาวหรือชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ถึง 3 เท่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลในปีนี้

    รายงานชิ้นนี้ระบุว่า ส่วนใหญ่ของผู้ที่เสียชีวิตมักจะพกอาวุธร้ายแรง ซึ่งมักจะเป็นปืน แต่ก็มีบางรายที่พวกมีดหรืออาวุธอื่น มีเพียง 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่พกของเล่นหรือไม่พกอาวุธ

    วอชิงตันโพสต์พบว่าจนถึงตอนนี้ มีผู้คนอย่างน้อย 385 รายที่ถูกยิงเสียชีวิตโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากทั่วสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นอัตราที่มากกว่า 2 รายต่อวัน

    "ข้อมูลการยิงเหล่านี้เป็นรายงานรวมยอดแบบหยาบๆ" อดีตตำรวจ จิม บูเออร์มัน หัวหน้าขององค์กรไม่หวังผลกำไรที่อุทิศตัวเข้ามาช่วยปรับปรุงการบังคับใช้กฏหมาย บอกกับวอชิงตันโพสต์ พร้อมย้ำว่า "เราไม่มีวันลดจำนวนการยิงผู้คนของตำรวจได้เลย หากเราไม่เริ่มบันทึกข้อมูลพวกนี้ให้แม่นยำ"

    หนึ่งในคดีที่ผู้คนสนใจจนทำให้เกิดการถกเถียงเรื่องการใช้ความรุนแรงของตำรวจก็คือ การยิง ไมเคิล บราวน์ วัยรุ่นผิวดำอายุ 18 ปี ในเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ในปีที่แล้ว

    เมื่อเดือนก่อน ที่เมืองบัลติมอร์ ก็เกิดการประท้วงจนลุกลามเป็นจลาจล อันเนื่องมาจากการตายของ เฟรดดี เกรย์ คนผิวดำอายุ 25 ปี ผู้เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บ ที่ด้านหลังของรถตู้ตำรวจ

    วอชิงตันโพสต์ยังพบด้วยว่า หลายครั้งที่การเสียชีวิตเริ่มต้นจากการกระทบกระทั่งเล็กน้อย ระหว่างตำรวจกับสมาชิกในชุมชน แล้วก็บานปลายจนกลายเป็นความรุนแรง

    อย่างในกรณีหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่เมืองไมอามีการ์เดน รัฐฟลอริดา ที่นั่นตำรวจได้สังหารผู้ป่วยทางจิตรายหนึ่งที่กวัดแกว่งด้ามไม้กวาด ทั้งที่เรื่องมันเริ่มต้นจากการที่แม่ของผู้เสียชีวิตโทรเรียกตำรวจเพราะเธอไม่สามารถชักชวนลูกชายให้กลับเข้าบ้านได้เท่านั้นเอง
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิชาการแนะแก้กม.แพ่งและพาณิชย์ ม.1623 แทนจัดเก็บภาษีพระ
    เขียนวันที่ วันจันทร์ ที่ 01 มิถุนายน 2558 เวลา 10:00 น.เขียนโดยthaireformหมวดหมู่Thaireform |

    [​IMG]

    ดร.ปรีชา สุวรรณทัต เสนอแก้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1623 ให้ทรัพย์สินที่ได้มาตกเป็นของวัดทั้งหมด ลดข้อครหาพระมีทรัพย์สินครอบครอง และไม่ขัดหลักธรรมพระวินัย ด้านดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ยืนยัน รายงานผลการศึกษา สปช. ไม่มีเนื้อหาสาระเรื่องการเก็บภาษีพระ

    ผศ.ดร.ปรีชา สุวรรณทัตอดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ถึงแนวคิดเก็บภาษีพระที่มีรายได้เกิน 2 หมื่นบาทต่อเดือน ว่า หากมีการจัดเก็บภาษีพระสงฆ์จริงเท่ากับเป็นการยอมรับให้พระสงฆ์มีทรัพย์สิน มีเงินทองได้ ถึงขั้นเข้าข่ายจะประเมิน และนั่นเป็นการกระทำที่ขัดกับหลักธรรมวินัย เพราะพระสงฆ์จะมีเงินหรือทรัพย์สินจำนวนมากไม่ได้ มีได้ยินดีได้ตามหลักปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และพระสงฆ์จะจับเงินจับทองไม่ได้ หากมีการถวายก็ต้องถวายผ่านไวยาวัจกร หากพระสงฆ์รูปใดมีเงินเป็นจำนวนมากถือว่า อาบัติ

    ผศ.ดร.ปรีชา กล่าวว่า สำหรับการจะแก้เรื่องการมีทรัพย์สินของพระสงฆ์นั้นจะต้องแก้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องมรดกของพระสงฆ์ ในมาตรา 1623 ซึ่งความไม่ชัดเจนในมาตราดังกล่าวทำให้มีช่องโหว่ในเรื่องทรัพย์สิน

    "กฎหมายเดิมระบุว่า พระสงฆ์มีทรัพย์สินได้ แต่จะตกเป็นมรดกของวัดก็ต่อเมื่อมรณภาพ และทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างในสมณเพศนั้น หากมรณภาพให้ตกเป็นสมบัติของวัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระ เว้นเสียแต่จะจำหน่ายในระหวา่งมีชีวิตหรือพินัยกรรม เน้นเป็นการเปิดช่องให้พระสงฆ์เขียนพินัยกรรมได้" นักวิชาการด้านนิติศาสตร์ กล่าว และว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาจะต้องแก้มาตรา 1623 เสียใหม่ว่า ทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมณเพศนั้นให้ตกเป็นของวัดทั้งหมดตั้งแต่วันที่ได้ทรัพย์สินนั้นมา หากเขียนแบบนี้เมื่อได้ทรัพย์สินมาถือว่าเป็นของวัดทันที และจะไม่สามารถประเมินภาษีได้ พระสงฆ์มีทรัพย์สินเงินทองไม่ได้ หมดปัญหา และยังสอดคล้องกับหลักธรรมวินัยด้วย

    ผศ.ดร.ปรีชา กล่าวถึงในส่วนทรัพย์สินเงินทองของหลวงพ่อคูณ ที่กำลังเป็นปัญหา ถ้าไม่ได้ทำพินัยกรรมเป็นอย่างอื่นทุกอย่างก็จะตกเป็นของวัดบ้านไร่ เว้นแต่ท่านจะทำพินัยกรรม ดังนั้นหากแก้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1623 พระภิกษุกับกฎหมายมรดกก็จะส่งผลให้ต่อไปทำพินัยกรรมไม่ได้อีกแล้ว ได้ทรัพย์สินมาตกเป็นของวัดทันที จะแบ่งให้ญาติโยมไม่ได้

    ด้านดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โพสต์ข้อความในเฟชบุค โดยยืนยันว่า ในรายงานผลการศึกษาแนวทางการปฏิรูปฯ ของคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาต่อสปช.ไม่มีเนื้อหาสาระเรื่องการเก็บภาษีพระ และสามารถหาหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษรได้

    สำหรับเนื้อหาสาระหลักของรายงานดังกล่าว ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวว่า ระบุชัดเจนถึงสภาพปัญหาของกิจการพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน และแนวทางการดำเนินการเพื่อปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา 4 ประเด็นหลัก ได้แก่

    (1) เรื่องทรัพย์สินของวัดหรือของพระ กฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะทำให้แนวปฏิบัติในการบริหารเงินของวัดที่เป็นระบบที่ดี มีธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพ

    (2) เรื่องปัญหาของพระสงฆ์ที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย อันนำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธา มีการรวมศูนย์เข้าสู่ส่วนกลางเป็นแนวตั้งมาไว้ที่มหาเถรสมาคม เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล การขาดการมีส่วนร่วมของพุทธบริษัททั้ง 4 ในการดูแลวัด รวมถึงปัญหาที่พระจำนวนมากบวชแล้วไม่ศึกษาปฏิบัติตามหลักธรรม แต่บวชเพื่อหาเงินรายได้ส่วนตัว

    (3) เรื่องการทำให้พระธรรมวินัยวิปริต และการประพฤติปฏิบัติวิปริตจากพระธรรมวินัย โดยมีลัทธิสมอ้างว่าปฏิบัติตามแนวทางพระพุทธศาสนา แต่ความเป็นจริงขัดแย้งหรือตรงข้ามโดยสิ้นเชิง ควรจะต้องมีคณะกรรมการชำระการปฏิบัติที่ผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัย เปรียบเสมือน “ศาลรัฐธรรมนูญ” ที่ใครบิดเบือนหรือละเมิดรัฐธรรมนูญจะต้องถูกตัดสินวินิจฉัย

    (4) เรื่องฝ่ายอาณาจักรที่จะต้องเข้าไปสนับสนุน ปกป้องคุ้มครองกิจการฝ่ายศาสนจักร การปกครองคณะสงฆ์ไทยมีการรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลางมากเกินไป ส่งผลกระทบให้การดำเนินการแก้ปัญหาต่างๆ เกิดความล่าช้า

    "ไม่มีในรายงานส่วนไหนระบุถึงเรื่องการเก็บภาษีพระ หรือการสับเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสเลย" สมาชิกสปช. กล่าว และว่า ประเด็นเรื่อง “เก็บภาษีพระที่มีรายได้ 20,000 บาทขึ้นไป” ไม่มีอยู่ในรายงาน แต่ในวันที่นำเสนอรายงานต่อสปช. ปรากฎว่า สมาชิก สปช.บางท่านได้ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความคิดเห็นส่วนตัว โดยระบุเพียงว่า เงินที่ประชาชนบริจาค ถวายพระ ควรจะเป็นเงินส่วนกลาง เข้าวัด เข้าเป็นสมบัติของกิจการพระพุทธศาสนา มิใช่ของส่วนตัวของพระ ซึ่งอาจจะนำไปจำหน่ายจ่ายโอนให้ผู้อื่น เพราะฉะนั้น หากยังมีพระรูปใดรับเงินถวายเข้าเป็นรายได้ส่วนบุคคลของตนเอง ก็ควรจะต้องเสียภาษี เช่นเดียวกับรายได้ของบุคคลอื่นๆ ในสังคม เว้นเสียแต่จะนำไปเข้าบัญชีวัด ทั้งหมดนี้ สภาปฏิรูปแห่งชาติมิได้มีมติใดๆ ต่อความเห็นดังกล่าวเลย และที่สำคัญ ความเห็นดังกล่าวก็ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในรายงานด้วย

    http://www.isranews.org/thaireform-other-news/item/38958-monk_38958.html
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝรั่งเศสซึมอินเดียหั่นใบสั่งซื้อเครื่องบินรบราฟาล | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „ฝรั่งเศสซึมอินเดียหั่นใบสั่งซื้อเครื่องบินรบราฟาล รัฐบาลอินเดียประกาศลดจำนวนเครื่องบินรบที่จะสั่งซื้อจากฝรั่งเศส จากเดิม 126 ลำ เหลือเพียง 36 ลำ เนื่องจากราคาแพงเกินไปและไม่จำเป็น วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน 2558 เวลา 0:00 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า ความหวังที่ค้างคามานานหลายปีของรัฐบาลฝรั่งเศส ในการเจรจาขายเครื่องบินรบฝูงใหญ่ มูลค่ากว่า 3.3 แสนล้านบาท ให้กองทัพอินเดีย มีอันดับวูบลง เมื่อฝ่ายหลังประกาศจะลดจำนวนเครื่องบินที่จะสั่งซื้อลง จากเดิม 126 ลำ เหลือเพียง 36 ลำเท่านั้น โดย นายมาโนฮาร์ ปาร์ริการ์ รัฐมนตรีกลาโหมอินเดีย กล่าวที่กรุงนิวเดลี ในวันนี้ ว่า แผนการณ์ของรัฐบาลชุดเก่าอินเดีย ที่จะสั่งซื้อเครื่องบินรบอเนกประสงค์แบบ "ราฟาล" จากบริษัทดัซโซลท์ของฝรั่งเศส จำนวน 126 ลำ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 336,894 ล้านบาท) "เป็นไปไม่ได้ในทางเศรษฐกิจ และเกินความต้องการ" รัฐบาลชุดใหม่จะซื้อเพียงแค่ 36 ลำเท่านั้น

    ระหว่างการเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน เม.ย. นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ประกาศว่า อินเดียจะซื้อเครื่องบินรบ 36 ลำ ที่ "พร้อมจะขึ้นบิน" นายปาร์ริการ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา เพื่อสรุปรายละเอียดการเจรจาสั่งซื้อราฟาล 36 ลำ จะสเร็จสิ้นการทำงานภายใน 2 - 3 เดือนข้างหน้า

    ในช่วงไม่กี่ปีล่าสุด รัฐบาลอินเดียทุ่มเงินงบประมาณราว 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการปรับปรุงเหล่าทัพให้มีความทันสมัย ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เท่าเทียมกับ 2 ประเทศเพื่อนบ้านคู่แข่งคือ ปากีสถานและจีน นับตั้งแต่ขึ้นครองอำนาจเมื่อ 1 ปีที่แล้ว รัฐบาลฝ่ายขวา พรรคภาราติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของโมดี ได้อนุมัติการทำสัญญาสั่งซื้อฮาร์ดแวร์กองทัพใหม่หลายรายการ ที่เคยค้างคาในชุดเก่าของพรรคคองเกรสแนวเอียงซ้าย

    อย่างไรก็ตาม โมดีผู้นำชาตินิยมหัวรุนแรง ต้องการยุติสถานะของอินเดียที่ครองความเป็นประเทศผู้นำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์อันดับ 1 ของโลก และตั้งเป้าอินเดียสามารถผลิตฮาร์ดแวร์ได้เองภายในประเทศราวร้อยละ 70 ของทั้งหมด ก่อนสิ้นคริสต์ทศวรรษนี้.“

    อ่านต่อที่ : ฝรั่งเศสซึมอินเดียหั่นใบสั่งซื้อเครื่องบินรบราฟาล | เดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...