ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    [​IMG]

    จีนนั้นอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ราวร้อยละ 90 ของพื้นที่ทั้งหมด 3.5 ล้านตารางกิโลเมตรในทะเลจีนใต้ ด้วยการเข้าถมทะเลสร้างเกาะเทียมอย่างรวดเร็วรอบแนวปะการัง 7 แห่ง บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งจุดชนวนความขัดแย้งกับผู้อ้างกรรมสิทธิ์รายอื่น ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซีย บรูไน และเวียดนาม

    ภาพถ่ายจากดาวเทียมที่เผยแพร่ไม่นานนี้ชี้ว่า จีนได้เริ่มถมทะเลและก่อสร้างลานจอดเครื่องบินของกองทัพบนแนวปะการังแฟร์รี ครอส รีฟ ตั้งแต่เดือนมี.ค. ปีก่อน รวมถึงลานบินแห่งที่สองบนแนวปะการังอีกแห่งหนึ่งด้วย ทำให้ฟิลิปปินส์ที่เป็นพันธมิตรสนิทกับอเมริกาออกโรงเรียกร้องมาตรการฉุกเฉิน

    แต่จีนที่ปฏิเสธการเข้ามายุ่มย่ามข้อพิพาททะเลจีนใต้ของสหรัฐฯ มาโดยตลอด ก็ตำหนิว่าสหรัฐฯ กำลังยั่วยุความตึงเครียดด้วยการส่งเสริมประเทศต่างๆ เข้าร่วม ‘พฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอันตราย’ โดยจีนย้ำว่าวิถีทางเดียวของการแก้ไขปัญหาคือการเจรจาระดับทวิภาคีเท่านั้น
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    28 พ.ค. สหรัฐยืนยันหนักแน่นรักษาสัญญาคุ้มครองฟิลิปปินส์ พร้อมเรียกร้องให้จีนหยุดการถมทะเลในทันที

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ว่า นายแอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ได้แจ้งต่อนายวอลแตร์ กาซมิน รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นพันธสัญญาในการปกป้องฟิลิปปินส์อย่างไม่มีเปลี่ยนแปลง และเรียกร้องให้ยุติการถมทะเลในทะเลจีนใต้ โดยในการกล่าวกับนายกาซมิน ในรัฐฮาวายของสหรัฐ นายคาร์เตอร์ ยืนยันอีกครั้งถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ และได้หารือเกี่ยวกับกรณีพิพาทเรื่องดินแดนในน่านน้ำพิพาทของทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนขัดแย้งกับฟิลิปปินส์และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า นายคาร์เตอร์ ซึ่งอ้างถึงสนธิสัญญาความมั่นคงทวิภาคีของสหรัฐกับฟิลิปปินส์ ย้ำว่า พันธสัญญาของสหรัฐในการปกป้องฟิลิปปินส์ ยังหนักแน่นมั่นคง การพบหารือกันครั้งนี้ มีขึ้นขณะที่นายคาร์เตอร์เตรียมเดินทางเยือนเอเชีย และเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นกรณีความพยายามครั้งสำคัญของจีนในการสร้างเกาะเทียมในทะเลจีนใต้

    ทั้งนี้ นายคาร์เตอร์และนายกาซมิน ตกลงเห็นชอบร่วมกันว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทะเลจีนใต้ ควรจะแสวงหาการแก้ปัญหาอย่างสันติ, ยุติการถมทะเลในทันที และหยุดการใช้มาตรการทางทหารเพิ่มเติมในพื้นที่พิพาท ขณะที่ ฟิลิปปินส์ ระบุว่า จะยังคงบินเหนือพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ แม้ว่าจะมีคำเตือนจากรัฐบาลจีนก็ตาม และในเดือนนี้ ฟิลิปปินส์ยังจะเข้าร่วมในการซ้อมรบทางทะเลกับญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบโต้การแผ่อิทธิพลของจีนที่กำลังเพิ่มมากขึ้น

    จีนได้ขยายงานการถมทะเลในทะเลจีนใต้อย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ซึ่งเป็นการก่อสร้างเกาะเทียมบนแนวประการังในพื้นที่แห่งหนึ่ง เพื่อสนับสนุนการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนของตน โดยจีนยืนยันว่า มีสิทธิ์ในการควบคุมทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งน่านน้ำหลายแห่งใกล้ชายฝั่งฟิลิปปินส์ เวียดนามและเพื่อนบ้านในเอเชียอีกหลายชาติ

    สหรัฐยันรักษาสัญญาคุ้มครองฟิลิปปินส์ | เดลินิวส์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนเตือนสหรัฐฯที่มายุ่มย่ามในทะเลจีนใต้ว่า "อย่ามาบอกว่าจีนจะต้องทำอะไรบ้าง"

    [​IMG]

    --------------
    จีนบอกสหรัฐฯว่า "Don't Tell Me What to Do!" โย่! แมน… สะใจจริงอ่ะ จีนซะอย่าง วันนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียลงข่าวแรกว่า Ashton Carter รวม.กลาโหมของสหรัฐฯออกมาหาข้ออ้างในการรุกรานทะเลจีนใต้ให้กับกองทัพสหรัฐฯว่า การรุกรานของจีนทำให้สหรัฐฯต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก
    ถึงจีนไม่ขยับสหรัฐฯก็หาเรื่องที่เข้าไปยุ่มย่ามกับทุกประเทศอยู่แล้ว การยกเหตุผลเรื่องจีนขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการรุกรานและแทรกแซงประเทศอื่นของสหรัฐฯจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ดูอย่างกรณีของเวเนซูเอล่าเป็นต้น พอบังคับเขาไม่ได้อีกต่อไป สหรัฐฯก็ออกมาประกาศทันทีว่าเวเนซูเอล่าเป็นภัยคุกคามของสหรัฐฯ พอชาติลาตินอเมริการ่วมมือกันต่อต้านสหรัฐฯ พี่แกก็ไม่กล้าหือกับลาตินอเมริกาอีกต่อไป โดยหันไปเล่นเกมเชื่อมสัมพันธ์แบบหลอกๆแทนหวังบ่อนทำลายจากภายในในอนาคต
    กับรัสเซียก็เหมือนกัน ทำเป็นฮึ่มใส่รัสเซียโดยยกเรื่องยูเครนเป็นข้ออ้าง พอรัสเซียแข็งสวนกลับบ้าง ถึงกับรีบส่งรมว.ต่างประเทศไปขอคืนดีกับรัสเซีย ล่าสุดก็ส่ง IMF ให้มาง้อรัสเซียให้เข้าร่วม G8 อีก รัสเซียรู้ว่าสหรัฐฯจะมาไม้ไหน ขืนเข้าไปก็ถูกกดหัวอีก เพราะสหรัฐฯสามารถควบคุมเสียงส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ได้อยู่แล้ว ทำไมจีนกับรัสเซียจะต้องไปเล่นตามเกมของสหรัฐฯด้วย สู้ออกมาตั้งกลุ่มมหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ของตนเองโดยไม่ต้องง้อสหรัฐฯไม่ดีกว่าหรือ ดังนั้นจึงเกิด BRICS, AIIB เส้นทางสายไหม และ EEU ขึ้นมาอย่างไรหละ นี่หละที่สหรัฐฯกับอียูกลัวจึงต้องหาทางสกัดรัสเซียกับจีนทุกทาง
    กลับมาที่จีนบ้าง หลังจากที่กลาโหมของสหรัฐฯออกมาร้องงอแงเป่าปี่เป่าแตรใส่จีน ทางจีนออกมาสวนกลับทันทีเลยว่า จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯละเว้นจากการพูดและการกระทำที่ยั่วยุ ซึ่งทำให้ตัวเองแต่เพียงผู้เดียวสามารถกระทำอะไรก็ได้ในทะเลจีนใต้ ในขณะที่ความตึงเครียดในพื้นที่พิพาทเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
    Hua Chunying โฆษกหญิงกองทัพฝ่ายกิจการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า "มีเพียงไม่กี่ประเทศที่ก่อกวนให้เกิดปัญหาขึ้นในทะเลจีนใต้ เพื่อผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวของตัวเอง ยุแหย่อธิปไตยเหนือดินแดนและอ้างสิทธิ์เหนือน่านน้ำและผลประโยชน์ของจีน ในขณะเดียวกันก็มีบางคนกระตุ้นให้พวกเขาทำอย่างนั้น"
    จีนพยายามเตือนสหรัฐฯว่าอย่าเข้ามายุ่งกับข้อพิพาทเหนือดินแดนดังกล่าวเพราะว่ากรุงวอชิงตันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับปัญหานี้ แต่ดูเหมือนว่าสหรัฐฯจะยังไม่ได้ยินหรือแกล้งทำเฉยต่อเสียงเตือนของจีน โฆษกหญิง Hua Chunying ของจีนกล่าวว่า "หากประเทศมหาอำนาจหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกถูกโยนเข้าสู่ความวุ่นวาย (chaos) นั่นจะยังคงเป็นการรักษาผลประโยชน์ของฝั่งอเมริกันได้หรือไม่?" (นี่จีนอุตส่าห์เตือนสหรัฐฯให้รู้จักสถานะปัจจุบันทางเศรษฐกิจของตนด้วยความปราณีแล้วนะนี่)
    Hua Chunying กล่าวว่า "พวกเรา (จีน) มีการตัดสินใจ (judgment) ของเราเอง และไม่มีใครมีสิทธิ์มาบอกให้จีนว่าต้องทำอะไร!" (ชอบอ่ะ... ขอเชียร์จีนนะครับงานนี้ มันเสอะเจย ที่เห็น รมว.กลาโหมของสหรัฐฯถูกโฆษกหญิงตัวเล็กๆจากกองทัพจีนตบปากกลับอย่างแรงแบบนี้) จีนมองว่าพฤติกรรมของสรหัฐฯนั้นคือการคุกคามต่อเสถียรภาพในภูมิภาคในวิถีทางที่อันตรายและไม่มีความรับผิดชอบ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การคำนวณที่ผิดพลาดและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมาก็ได้ (สำนักข่าว Xinjua) ใกล้แล้ว... ดูซิว่าสหรัฐฯจะกล้างัดกับจีนไปได้ซักกี่น้ำ
    The Eyes
    28/05/2558
    ----------
    'Don't Tell Me What to Do': China Warns US Over South China Sea Meddling / Sputnik International
    Ashton Carter: Chinese Aggression Provokes US Engagement in Asia Pacific / Sputnik International
    IMF Chief Wants Russia Back in G8 / Sputnik International
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    กลาโหมสหรัฐฯแก้ตัวว่าเชื้อแบคทีเรีย anthrax ที่ถูกส่งไปยังเกาหลีใต้เป็นอุบัติเหตุ

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงายว่าเพนตากอนออกมากล่าวว่าเชื้อแอนแทร็กซ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ (live anthrax) ถูกนำออกจากห้องทดลองของกองทัพในรัฐยูท่าห์ประเทศสหรัฐฯส่งไปยังรัฐอื่นๆอีก 9 รัฐฯและส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยโฆษกกลาโหมของสหรัฐฯยังกล่าวอีกว่าสาธารณชนไม่ตกอยู่ในความเสี่ยง (9 รัฐกับ 1 ประเทศนี่นะ ยังบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอยู่อีกรึ?)
    เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ตัวอย่างแบคทีเรีย anthrax ถูกนำออกจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ของกองทัพสองแห่งในช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านตั้่งแต่เดือนมีนาคม 2014 ถึง เมษายน 2015 โดยตัวอย่างเหล่านี้ถูกทำเครื่องหมายโดยความผิดพลาดว่า "inactive" (ไม่ชีวิต/ตายแล้ว/ไม่สามารถแพร่ขยายได้) ซึ่งในความเป็นจริงนั้นมันเป็นแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตอยู่
    ตัวอย่างเชื้อแบคทีเรียมรณะแอนแทร็กซ์จำนวนหนึ่งได้ถูกนำออกจากห้องทดลอง Dugway Proving Ground ในรัฐยูท่าห์เป็นครั้งแรก ต่อมาก็ถูกนำออกจากห้องทดทอง Edgewood Chemical Biological Center ในรัฐแมรี่แลนด์ไปยังที่ต่างๆทั่วประเทศทั้งในส่วนของเอกชนและสถาบันการศึกษา
    รายงานข่าวบอกว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 22 คนภายในประเทศสหรัฐฯฉีดวัคซีนป้องกันโรคหลังจากที่มีข่าวนี้แพร่ออกไป แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่ามีใครได้สัมผัสกับตัวอย่างเชื้อแอนแทร็กซ์ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นหรือไม่
    เพนตาก้อนยอมรับทีหลังว่ามีตัวอย่างหนึ่งถูกส่งไปยังฐานทัพอากาศ Osan ประเทศเกาหลีใต้โดยบังเอิญ (ไม่ได้ตั้งใจ) ตัวอย่างดังกล่าวถูกทำลายแล้ว และไม่มีใครตกอยู่ในความเสี่ยง (ที่บอกว่าถูกทำลายแล้วนั้นเชื่อได้ซะที่ไหนหละนั่นหนะ)
    AP รายงานว่าตัวอย่างเชื้อแอนแทร็กซ์ถูกส่งไปยังห้องทดลองต่างๆใน 9 รัฐในประเทศสหรัฐฯคือ Texas, Maryland, Wisconsin, Delaware, New Jersey, Tennessee, New York, California และ Virginia
    เมื่อปีที่แล้วผอ.ของห้องทดลอง bioterror ของCDC สหรัฐฯได้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากมีหลายฝ่ายเกิดความหวาดกลัวและเป็นกังวลว่าพนักงานของรัฐหลายสิบคนได้สัมผัสกับเชื้อแอนแทร็กซ์ที่ห้องทดลองแห่งหนึ่งในเมือง Atlanta รัฐ Georgia
    จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าในอดีตได้เคยมีการนำเอาเชื้อแอนแทร็กซ์ไปสร้างเป็นอาวุธชีวภาพและใช้ในสงครามมาแล้วหลายครั้ง โดยในปี 1917 ทหารเยอรมันโจมตีทหารโซเวียตด้วยอาวุธชีวภาพชนิดนี้ในฟินแลนด์ ในปี 1930 กองทัพญี่ปุ่นใช้อาวุธชีวภาพจากเชื้อแอนแทร็กซ์นี้ใน Manchuria ประเทศจีนและมีใช้กับเชลยศึกด้วยทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายพันคน ในปี 1940 อังกฤษก็เคยทดลองใช้อาวุธชนิดนี้ที่มีการปนเปื้อนสูงที่เกาะ Gruinard ในสก็อตแลนด์และกลายพันธุ์ไปเป็น "Vollum strain" ถึงกับต้องกำหนดให้เกาะดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าจนถึงปี 1990 อังกฤษพัฒนาอาวุธชนิดนี้ขึ้นมาเรียกชื่อว่า "N-bomb" ใช้เพื่อโจมตีปศุสัตว์ของเยอรมันในยุคนั้นซึ่งพัฒนาโดยกองทัพอากาศของอังกฤษ ตามแผนการนั้นอังกฤษคาดว่าจะโจมตีเยอรมันในปี 1994 แต่รายงานเบื้องต้นบอกว่าไม่มีการโจมตีเยอรมันด้วยอาวุธชีวภาพชนิดนี้
    สหรัฐฯพัฒนาอาวุธชีวภาพมาตั้งแต่ก่อนปี 1972 และยังมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 1979 เกิดอุบัติเหตุการติดเชื้อแอนแทร็กขึ้นที่ Sverdlovsk ในสหภาพโซเวียต (ปัจจุบันเรียกว่า Ekaterinburg, Russia) ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 94 รายและเสียชีวิต 98 ราย
    เมื่อเดือนตุลาคมปี 2014 ก็มีการแพร่กระจายเชื้อแอนแทร็กซ์ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งอำเภอ Simdega จังหวัด Jharkhand ประเทศอินเดีย คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 7 ราย
    สหรัฐฯกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่ทั้งในประเทศของตนเอง และในคาบสมุทรเกาหลีด้วย? นี่ถ้าไม่ถูกจับได้ซะก่อน ต่อไปเราอาจจะได้ยินข่าวว่ามีการแพร่ระบาดของโรคแอนแทร็กซ์ในเกาหลีเหนือหรือเกาหลีใต้ก็ได้ การจะหาข้ออ้างถล่มเกาหลีเหนือว่าเป็นผู้แพร่เชื้อโรคและสร้างอาวุธชีวภาพขึ้นมาก็เริ่มจะฟังดูสมเหตุสมผลมากขึ้นเพราะมีบางคนโยนข้ามชายแดนเกาหลีเหนือเข้าไป หรือการจะแพร่ระบาดเชื้อโรคชนิดนี้ในปศุสัตว์แล้วสร้างมาตรการกีดกันสินค้าประเภทเนื้อสัตว์จากบางประเทศที่มีข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในเวลาต่อมาก็คงจะทำได้ไม่ยาก
    The Eyes
    28/05/2558
    ----------
    http://rt.com/usa/262533-anthrax-lab-mail-country/
    Anthrax - Wikipedia, the free encyclopedia
    http://www.siamhealth.net/…/Disease/in…/anthrax/anthrax.htm…
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพนตากอนพลาด! ส่งตัวอย่างอาวุธชีวภาพเชื้อแอนแทรกซ์เข้าแล็บทั่วสหรัฐฯ – เกาหลีใต้” พบติดเชื้อร้าย 22 ในโซล อีก 4 ในสหรัฐฯ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2558 18:38 น. (แก้ไขล่าสุด 28 พฤษภาคม 2558 20:21 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/เอเอฟพี - คาดว่ามีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อแอนแทรกซ์ในกรุงโซล 22 คน และในสหรัฐฯอีก 4 คน หลังจากแล็บวิทยาศาสตร์กองทัพสหรัฐฯ ผิดพลาดส่งตัวอย่างเชื้ออาวุธชีวภาพแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตอย่างน้อย 1 ตัวอย่างไปยังห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ใน 9 รัฐทั่วสหรัฐฯ รวมไปถึงห้องทดลองทางทหารในเกาหลีใต้

    วอลสตรีทเจอร์นัลด์รายงานเมื่อวานนี้(27)ว่า เพนตากอนออกแถลงการณ์ยอมรับว่า ได้ทำการผิดพลาดจัดส่งอาวุธชีวภาพไวรัสแอนแทรกซ์ที่ยังมีชีวิตไปยังฐานทัพอากาศสหรัฐฯโอซาน (Osan Air Base) จริง แต่ทว่าทางเพนตากอนแถลงว่า ตัวอย่างเชื้อไวรัสแอนแทรกซ์ ที่อยู่ในแพคเกจ AG-1 นี้ได้ถูกทำลายไปแล้ว

    ในขณะที่เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมในนี้(26)ว่า คาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ประจำฐานทัพสหรัฐฯจำนวน 22 นายติดเชื้อในระหว่างการฝึกทางห้องทดลองภายในฐานทัพแห่งนี้ ซึ่งเป็นล็อตตัวอย่างเชื้อไวรัสแอนแทรกซ์ชุดเดียวกันกับที่ทางเพนตากอนส่งไปยังแล็บใน 9 รัฐทั่วสหรัฐฯ

    ซึ่งพบว่าแล็บเอกชนในรัฐแมรีแลนด์เป็นห้องปฎิบัติการทางวิทยาศาสตร์แห่งแรกที่ได้รับชุดตัวอย่างในเดือนมีนาคม 2014 นั้นรับรู้ความจริงในวันศุกร์(22) หรืออีก 1 ปีหลังจากนั้นว่า ตัวอย่างเชื้อไวรัสแอนแทรกซ์ที่ได้รับในขณะนั้นนั้นเป็นเชื้อที่ยังมีชีวิต

    วอลสตรีทเจอร์นัลด์รายงานต่อว่า สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคระบาดสหรัฐฯ CDC กำลังตรวจสอบเชื้อไวรัสแอนแทรกซ์มีชีวิตที่เก็บได้จากแล็บกองทัพสหรัฐฯในดักเวย์ (Dugway) ยูทาห์ รัฐโคโลราโด และยืนยันว่า เป็นเชื้อที่ยังมีชีวิตจริง

    ทั้งนี้ตัวอย่างอาวุธชีวภาพมีชีวิตที่ถูกบรรจุในแพคเกจถูกส่งด้วยบริการจัดส่งข้ามคืนเริ่มต้นตั้งแต่มีนาคม 2014 ไปจนถึงวันที่ 30 มีนาคม 2015 โดยทางเพนตากอนยืนยันว่า ความเป็นจริงแล้วตัวอย่างไวรัสแอนแทรกซ์ AG-1 ต้องได้รับการฉายรังสีแกมม่าเพื่อจะทำให้เชื้อโรคนี้ตอบสนองเองไม่ได้

    นอกจากนี้ตัวแทนเพนตากอนเปิดเผยว่า ครึ่งหนึ่งของล็อตจัดส่งยังคงถูกเก็บที่ห้องวิจัยดักเวย์ ในขณะที่อีกครึ่งถูกส่งกระจัดกระจายไปตามห้องทดลองวิทยาศาสตร์ต่างๆ

    สื่อธุรกิจสหรัฐฯรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯจำนวน 22 คนได้รับการรักษา รวมไปถึงได้รับยาปฎิชีวนะ และวัคซีนเป็นการป้องกัน แต่ยังไม่มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัยคนใดมีอาการติดเชื้อแสดงออกมา

    และเพนตากอนแถลงยืนยันว่า ในขณะนี้ยังไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเชื่อว่าเชื้ออาวุธชีวภาพแอนแทรกซ์จะเล็ดลอดระบาดสู่สาธารณะ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060843
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปูตินชี้! สหรัฐฯ ก้าวก่ายต่างชาติ กรณีจับกุม “เจ้าหน้าที่ฟีฟ่า”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2558 19:04 น. (แก้ไขล่าสุด 28 พฤษภาคม 2558 19:13 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวหาสหรัฐฯ ในวันนี้ (28) ว่าก้าวก่ายนอกเขตอำนาจศาลของตน ในการจับกุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)

    ปูติน กล่าวว่า การจับกุมในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวานนี้ (27) เป็น “ความพยายามอย่างชัดเจน” ที่จะขัดขวางการลงเลือกอีกครั้งของ เซฟฟ์ แบลทเตอร์ ประธานฟีฟ่าในสัปดาห์นี้ แต่ระบุว่า นายใหญ่ลูกหนังโลกวัย 79 ปีรายนี้มีรัสเซียหนุนหลังอยู่

    แวดวงกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกชนิดนี้ได้ตกลงสู่ความสับสนอลหม่านในสัปดาห์นี้ เมื่อเจ้าหน้าที่อาวุโส 7 คนของฟีฟ่าถูกจับกุมในข้อหาคอร์รัปชั่นของสหรัฐฯ พร้อมเตรียมถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากแดนนาฬิกาไปเมืองลุงแซม

    ทางการสวิตเซอร์แลนด์ยังประกาศการสืบสวนอาชญากรรมเกี่ยวกับกระบวนการเลือกเจ้าภาพของฟุตบอลโลก 2 ครั้งต่อไป ซึ่งรวมถึงการแข่งขันในปี 2018 ที่รัสเซีย

    “หากมีอะไรเกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดบนแผ่นดินสหรัฐฯ และสหรัฐฯ ไม่มีกงการที่จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับมัน” ปูตินกล่าว และเสริมว่า “นี่เป็นอีกความพยายามที่ชัดเจน (โดยสหรัฐฯ) ที่จะขยายอำนาจศาลของตนสู่ชาติอื่นๆ”

    ปูติน ตั้งข้อคำถามถึงสิทธิของวอชิงตันในการร้องขอการส่งตัวเจ้าหน้าที่ฟีฟ่ากลุ่มนี้ข้ามแดน โดยกล่าวอ้างถึง เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เจ้าหน้าที่สัญญาจ้างของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ และ จูเลียน อัสซาส ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ที่ต่างหลบเลี่ยงการถูกดำเนินคดีในสหรัฐฯ ด้วยการลี้ภัยในต่างแดน

    “น่าเสียดายที่หุ้นส่วนอเมริกันของเราใช้วิธีเช่นนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายอันเห็นแก่ตัวของพวกเขา และจับคนมาดำเนินคดีอย่างผิดกฎหมาย ผมไม่ได้ตัดเรื่องนั้นออกในกรณีของฟีฟ่า มันเหมือนกันอย่างชัดเจน” ปูติน กล่าว

    เขากล่าวว่า แบลตเตอร์ ประธานฟีฟ่าซึ่งกำลังเสนอตัวรับเลือกตั้งอีกครั้งเพื่อรั้งเก้าอี้เป็นสมัยที่ 5 ในคณะกรรมการบริหารฟีฟ่าที่นครซูริชในวันพรุ่งนี้ (29) ได้ถูกกดดันให้ถอดสิทธิ์ของรัสเซียในการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060853
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำรัสเซียว่าสหรัฐพยายามขวางแบล็ตเตอร์นั่งเก้าอี้ฟีฟ่า
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/05/28 5:02 PM

    [​IMG]

    มอสโก 28 พ.ค. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวประณามการจับกุมคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า)จากผลการสอบสวนของสหรัฐ โดยมองว่าสหรัฐพยายามหาทางให้นายเซปป์ แบล็ตเตอร์พ้นจากตำแหน่งประธานฟีฟ่าหลังคาดว่าจะได้รับเลือกอีกสมัย

    ผู้นำรัสเซียกล่าววิจารณ์ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เหตุการณ์นี้ชัดเจนว่าสหรัฐพยายามขวางไม่ให้นายแบล็ตเตอร์นั่งเก้าอี้ประธานฟีฟ่าอีกสมัย ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดอย่างยิ่งต่อหลักการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศ โดยกล่าวหาว่าสหรัฐพยายามขยายเครือข่ายอำนาจทางกฎหมายของสหรัฐไปยังประเทศอื่นๆ .-สำนักข่าวไทย

    ผู้นำรัสเซียว่าสหรัฐพยายามขวางแบล็ตเตอร์นั่งเก้าอี้ฟีฟ่า | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮิวแมนไรท์วอทช์ กระบอกเสียงอเมริกา ได้ขอให้ผู้นำฟีฟ่าคนใหม่ แก้ไขปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิและแรงงานในฟุตบอลโลกรัสเซีย 2018 และฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 โดย ประเทศเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อ ๆ ไปจะเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของคนงาน ผมว่าอเมริกาคงจะแซงชั่นกีฬารัสเซียในเรื่องการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 ผ่านทาง ฟีฟ่า โดยจะให้ยกเลิกการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพทิ้ง อเมริกานี่ก็ดีน่ะครับ เล่นได้ทุกทาง

    ฮิวแมนไรท์วอทช์ขอให้ประธานฟีฟ่าคนใหม่ใส่ใจเรื่องละเมิดสิทธิคนงาน
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/05/28 5:24 PM

    [​IMG]

    นิวยอร์ก 28 พ.ค.- ฮิวแมนไรท์วอทช์ซึ่งตั้งอยู่ที่สหรัฐขอให้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) คนใหม่ให้ความมั่นใจว่า ประเทศเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อ ๆ ไปจะเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของคนงาน

    ฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกร้องหลังจากเจ้าหน้าที่ฟีฟ่า 7 คนถูกจับกุมที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันพุธข้อหารับสินบน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานฟีฟ่าคนใหม่ในวันศุกร์นี้ว่า ประธานฟีฟ่าคนใหม่จะต้องแก้ไขวิกฤติต่าง ๆ โดยตรงทั้งเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริตเพราะบ่อนทำลายพื้นฐานของการบริหารจัดการการแข่งขันฟุตบอล ประเทศที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกจะต้องเล่นตามกฎกติกาและไม่ปล่อยให้มีการเลือกปฏิบัติ

    ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่า พันธมิตรสิทธิต่าง ๆ ในการกีฬา (เอสอาร์เอ) ที่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ได้เรียกร้องเมื่อเดือนเมษายนให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่าแก้ไขปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิและแรงงานในฟุตบอลโลกรัสเซีย 2018 และฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 โดยเฉพาะการละเมิดสิทธิแรงงานต่างถิ่นในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ ในกาตาร์ และว่านายเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่าคนปัจจุบันไม่เคยรับปากแม้แต่ครั้งเดียวตลอดระยะเวลาที่ดำรง 4 สมัยนาน 17 ปีว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้.-สำนักข่าวไทย

    ฮิวแมนไรท์วอทช์ขอให้ประธานฟีฟ่าคนใหม่ใส่ใจเรื่องละเมิดสิทธิคนงาน | เว็บไซต์สำนักข่าวไ
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    อุ๊แม่เจ้า! อิสราเอลเรียกร้องให้สหรัฐฯจ่ายส่วยเพิ่มเป็น 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯอ้างเพื่อยับยั้งอิหร่าน

    [​IMG]

    --------------
    เฮ๊อะ!… มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นในโลกด้วยรึ? ที่เขาลือกันในโซเชียลมีเดียว่าสหรัฐอเมริกาเป็นเบ๊ให้อิสราเอลท่าจะจริงซะหละมั๊งนี่? ใครเป็นนายใครเป็นบ่าวตัวจริง ความจริงมันค่อยๆเผยออกมาให้เห็นเรื่อยๆแล้ว
    เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Netanyahu demands ‘up to $45 bn’ in US military aid to deter Iran, Gulf States" แปลว่านายเนทันญาฮู (นายกฯอิสราเอล) ต้องการให้สหรัฐฯจ่ายเงินสนับสนุนทางทหารเพิ่มขึ้นเป็น 45,000 ล้านดอลล่าร์เพื่อยับยั้งอิหร่าน - รัฐอ่าวอาหรับกล่าว
    รายงานข่าวบอกว่าแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลได้กล่าวกับสำนักข่าว Defense News ว่่าอิสราเอลคาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือทางกองทัพ (ส่วยการเมือง) จากสหรัฐฯจำนวน $4.2-$4.5 billion (ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท) ต่อปีเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่านและประเทศมหาเศรษฐีน้ำมันในตะวันออกกลางซึ่งเสริมเขี้ยวเล็บทางกองทัพของตนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    สหรัฐฯกับอิสราเอลเซ็นสัญญาว่าสหรัฐฯจะจ่ายส่วยให้อิสราเอลปีละ $3 billion (ประมาณ 1 แสนล้านกว่าบาท) อ้างเพื่อสนับสนุนทางกองทัพให้อิสราเอลเป็นระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่ปี 2007 ด้วยเงื่อนไขที่ว่าอิสราเอลจะต้องเอาเงินจำนวนนี้่ซึ่งมากกว่า 70% กลับไปซื้ออาวุธหนักจากสหรัฐฯ (ฮ่าๆ อัฐยายซื้อขนมยายนี่นา ช่างเข้าใจทำมากินนะนักการเมืองสหรัฐฯ กินเปอร์เซ็นต์จากเงินค้าขายอาวุธพวกนี้แหละ แล้วประชาชนชาวอเมริกันจะรู้หรือไม่นี่ว่าเงินภาษีของพวกเขาถูกรัฐบาลสหรัฐฯนำไปจ่ายส่วยให้อิสราเอลปีละมากโขขนาดนี้) ในปี 2008 ได้มีขยายข้อตกลงออกไปอีก โดยในปี 2013 โอบามาได้เดินทางไปอิสราเอลและได้ตกลงโดยหลักการซึ่งมีการพูดถึงเงื่อนไขว่าเป็นข้อตกลงเบื้องต้นและไม่เป็นทางการ (แต่จ่ายจริง)
    ข้อตกลงการซื้ออาวุธจากสหรัฐฯได้ครอบคลุมถึงการจัดส่งเครื่องบินลำเลียง V-22 Osprey ไปให้อิสราเอลซึ่งสหรัฐฯปฏิเสธที่จะส่งออกไปยังประเทศอื่นด้วย นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดส่งเครื่องบินรบเจนเนอเรชั่นที่5 อย่าง F-35 จำนวน 75 ลำไปให้อิสราเอลด้วย และสหรัฐฯยังได้สนับสนุนเทคโนโลยี อะไหล่ และจรวดสำหรับใช้ติดตั้งในระบบป้องกันขีปนาวุธให้กับอิสราเอลเช่น Iron Dome และ Arrow 3 ด้วย งบกลาโหม 25% ของอิสราเอลได้จากเงินสนับสนุนจากกรุงวอชิงตันภายใต้ข้อตกลงฉบับปัจจุบันซึ่งดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    Howard Kohr นักล็อบบี้มืออาชีพในกลุ่ม AIPAC ได้กล่าวว่ากับคณะกรรมธิการ House Appropriations Committee ของสหรัฐฯเมื่อเดือนที่แล้วว่า "อิสราเอลได้ต่อสู้ในสนามรบของตัวเองมาโดยตลอด และไม่เคยขอให้กองทัพอเมริกันเข้าร่วมต่อสู้ในนามของอิสราเอล แต่อิสราเอลเรียกร้องให้สหรัฐฯสนับสนุนทรัพยากรทางกองทัพจำนวนมหาศาลที่อิสราเอลได้ลงทุนงบด้านการป้องกันประเทศไปแล้วแทน" (ข้อความตอนสุดท้ายนี้หมายความว่าอย่างไร? อิสราเอลพัฒนาและสร้างอาวุธให้สหรัฐฯอย่างนั้นใช่ไหม ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทน สหรัฐฯจึงต้องจ่ายส่วยให้อิสราเอลหละสิ?)
    The Eyes
    28/05/2558
    ----------
    http://rt.com/news/262505-israel-military-aid-us/
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิรักขุด 470 ศพที่โดนไอเอสสังหารหมู่ขึ้นมาตรวจสอบ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2558 18:16 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - รัฐมนตรีสาธารณสุขอิรักระบุในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) ว่าทำการได้ขุดศพของผู้คนราว 470 รายในเมืองติกริต ที่เชื่อกันว่าถูกสังหารโดยพวกนักรบญิฮัดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ การสังหารหมู่สปีเชอร์

    "เราได้ขุดศพของผู้เสียชีวิตที่สปีเชอร์จำนวน 470 ศพขึ้นมาจากหลุมในติกริต" อาดิลา ฮัมมูด ระบุในการแถลงข่าวที่กรุงแบกแดด โดยพูดถึงศพของเหตุการณ์สังหารหมู่ ที่ตั้งชื่อตามค่ายทหารใกล้จุดเกิดเหตุ

    ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2014 ตอนนั้นกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) กับกองกำลังที่เป็นฝ่ายเดียวกัน ได้ทำการลักพาตัวทหารใหม่อายุน้อยจำนวนหลายร้อยคนไปจากค่ายทหารสปีเชอร์ ที่อยู่บริเวณนอกเมืองติกริต

    ทหารเหล่านั้นถูกจับเรียงแถวแล้วสังหารทีละคน ดังเช่นที่ปรากฏในรูปและวีดีโอที่มีการเผยแพร่หลังจากนั้น บางรายถูกผลักลงแม่น้ำไทกริส ส่วนคนอื่นก็ถูกฝังไว้ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งถูกค้นพบโดยฝ่ายรัฐบาลและกองกำลังที่เป็นฝ่ายเดียวกัน หลังจากยึดเมืองติกริตคืนมาได้เมื่อ 2 เดือนก่อน

    มีการประเมินว่าจำนวนผู้ที่ถูกสังหารโดยกลุ่มไอเอสในครั้งนั้นมีสูงถึง 1,700 ราย

    "ศพเหล่านี้มาจากหลุมศพ 4 แห่ง มีอยู่หนึ่งหลุมที่ใหญ่กว่าจุดอื่นๆ ในนั้นมีศพอยู่ 400" ซิอัด อาลี อับบาส หัวหน้าคณะแพทย์ของห้องเก็บศพในกรุงแบกแดดกล่าว

    เขาบอกด้วยว่า กระบวนการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาตร์สำหรับศพทั้งหมดที่ถูกขุดขึ้นมานั้น กำลังดำเนินการอยู่โดยได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ อาทิ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ

    หลายร้อยครอบครัวที่มีลูกชาย พ่อและพี่น้อง สูญหายไปในช่วงที่กลุ่มไอเอสบุกโจมตีในอิรัก พวกเขาต่างเฝ้ารอการยืนยันว่าคนที่พวกเขารักนั้นอยู่ในกลุ่มเหยื่อของเหตุการณ์สังหารหมู่สปีเชอร์

    ในการแถลงข่าววันนี้ เจ้าหน้าที่ได้บอกว่า รายชื่อชุดแรกของผู้เสียชีวิตเหล่านี้จะมีการเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060839
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประธานฟีฟ่าปัดรับผิดชอบเหตุคอร์รัปชั่นในองค์กร
    Written by: newmedia2015/05/29 7:47 AM

    [​IMG]

    สวิตเซอร์แลนด์ 29 พ.ค.-เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ฟีฟ่า ปฏิเสธความรับผิดชอบเรื่องอื้อฉาวคอร์รัปชั่นในองค์กร จนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฟีฟ่าถูกเอฟบีไอของสหรัฐรวบตัวทั้งในสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐ

    แบลตเตอร์ กล่าวในพิธีเปิดการประชุมฟีฟ่าที่นครซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ว่า เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในฟีฟ่า ได้สร้างความอัปยศอดสูให้กับวงการฟุตบอล และแม้หลายคนชี้นิ้วว่าเขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตัวเขาเองก็ไม่สามารถจะลงไปตรวจสอบทุกคนในองค์กรได้ตลอดเวลา ซึ่งคนทำผิดก็มักจะปกปิดความผิดที่ทำไว้ อย่างไรก็ดี แบลตเตอร์บอกว่าจะไม่ยอมให้ชื่อเสียงของวงการฟุตบอลและฟีฟ่าต้องถูกลากไปเปรอะเปื้อนและต้องหยุดยั้งการคอร์รัปชั่นเสียแต่ตอนนี้ นอกจากนี้ เขายังหวังด้วยว่าการเลือกประธานฟีฟ่าคนใหม่ที่จะมีขึ้นในวันนี้ จะเป็นโอกาสเริ่มต้นที่ดีสำหรับการฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของฟีฟ่า การกล่าวครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่ระดับสูง 7 คนของฟีฟ่า ถูกเจ้าหน้าที่เอฟบีไอของสหรัฐ รวบตัวคาโรงแรมในนครซูริคก่อนที่การประชุมฟีฟ่าจะเริ่มขึ้นเพียงวันเดียว

    ก่อนหน้านี้ นายมิเชล พลาตินี ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ได้เรียกร้องนายแบลตเตอร์ในฐานะเพื่อนให้ลาออกจากตำแหน่งไปเสีย ซึ่งนายแบลตเตอร์ ได้ปฏิเสธและเดินหน้าเพื่อเป็นประธานฟีฟ่าต่อไปเป็นสมัยที่ 5 ขณะเดียวกัน บริษัทเอกชนที่เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของฟีฟ่า ไม่ว่าจะเป็นโคคา โคล่า วีซ่า อาดิดาส แมคโดนัลด์ ฮุนไดมอเตอร์ และ บัดไวเซอร์ ต่างก็กดดันให้ฟีฟ่ามีมาตรการเร่งด่วนเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นและชื่อเสียงกลับมาโดยเร็ว ทางด้านองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้แถลงว่า ยูเอ็นกำลังทบทวนการเป็นหุ้นส่วนกับฟีฟ่า หลังเกิดเรื่องอื้อฉาวการคอร์รัปชั่นในฟีฟ่า ทั้งนี้ ยูเอ็นและฟีฟ่ามีความร่วมมือกันในด้านต่างๆ อาทิ การส่งเสริมด้านสุขภาพ ความเท่าเทียมกันทางเพศ และ การปกป้องสิทธิเด็ก.-สำนักข่าวไทย

    http://www.tnamcot.com/content/196233
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเอ็นซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับการดำเนินกิจกรรมของฟีฟ่าเป็นคราว ๆ ไป และได้ดำเนินโครงการร่วมกับฟีฟ่าหลายโครงการมาตั้งแต่ปี 2542 เช่น โครงการขจัดความยากจน การปกป้องสิทธิมนุษยชน การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม กำลังติดตามสถานการณ์การสอบสวนความไม่ชอบมาพากลในฟีฟ่าอย่างใกล้ชิด สอดคล้องกับฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้ขอให้ผู้นำฟีฟ่าคนใหม่ แก้ไขปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิและแรงงานในฟุตบอลโลกรัสเซีย 2018 และฟุตบอลโลกกาตาร์ 2022 โดย ประเทศเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อ ๆ ไปจะเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของคนงาน ชักจะยังไงแล้วน่ะครับ

    ยูเอ็นตรวจสอบความเป็นหุ้นส่วนกับฟีฟ่า
    Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/05/29 8:49 AM

    [​IMG]

    สหประชาชาติ 29 พ.ค.- โฆษกสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า ยูเอ็นกำลังตรวจสอบความเป็นหุ้นส่วนกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) หลังจากเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าหลายคนถูกกล่าวหาว่าทุจริตรับสินบน

    โฆษกกล่าวว่า ยูเอ็นกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากได้ดำเนินโครงการร่วมกับฟีฟ่าหลายโครงการมาตั้งแต่ปี 2542 เช่น โครงการขจัดความยากจน การปกป้องสิทธิมนุษยชน การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม หน่วยงานของยูเอ็นเป็นหุ้นส่วนกับการดำเนินกิจกรรมของฟีฟ่าเป็นคราว ๆ ไป ทั้งการแข่งขันฟุตบอลโลกและการแข่งขันฟุตบอลอื่น ๆ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจเพื่อส่งสารเรื่องสันติภาพผ่านการแข่งขันกีฬาใหญ่ ๆ อย่างไรก็ตาม การสอบสวนเรื่องการทุจริตและรับสินบนในฟีฟ่าขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น และเจ้าหน้าที่สหรัฐที่เป็นแกนนำการสอบสวนความไม่ชอบมาพากลในฟีฟ่ายังไม่ได้ติดต่อกับยูเอ็น.-สำนักข่าวไทย

    ยูเอ็นตรวจสอบความเป็นหุ้นส่วนกับฟีฟ่า | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    เยอรมันเหน็บเยอรมัน : หากคุณเชื่อ propaganda, "รัสเซียจะมาเยือนในไม่ช้า"

    [​IMG]

    --------------
    เห็นข่าว/บทความนี้น่าสนใจจึงเอามาแปลให้แฟนเพจได้อ่านกันแบบเบาๆไปก่อนนะครับ มาดูข่าวแวดวงทางการเมืองฝั่งเยอรมันดูบ้างนะครับ งานนี้นักเหน็บแนม (satirist เรียกตามสื่อฯรัสเซีย) ชาวเยอรมันเขาเหน็บรัฐบาลตัวเองและพวกอียูแบบหนุกๆเกี่ยวกับโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วยุโรปในตอนนี้ว่า ตามที่มีการพูดจากันค่อนข้างมากว่ารัสเซียเป็นผู้รุกรานพยายามจะขยายดินแดนของตัวเองเพิ่มมากขึ้นนั้น ความแตกต่างระหว่างรัสเซียกับตะวันตกก็คือว่า รัสเซียได้ออกไปจากเยอรมันนีตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาโน่นแล้ว ในขณะที่เพื่อนชาวอเมริกันได้นำอาวุธนิวเคลียร์ที่ทันสมัยเข้ามาประจำอยู่ในดินแดนของเยอรมันแทน (อันนี้ต้องบอกว่าเจ็บมากๆ สำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์และเข้าใจความหมายที่เขาต้องการสื่อฯนะ ส่วนพวกโปรอเมริกานั้นก็ปล่อยไปเถอะครับ)
    Uwe Steimle นักวิจารณ์และเสียดสีทางการเมืองชาวเยอรมันได้กล่าวล้อเลียนแบบติดตลกต่อแถลงการณ์ของปธน.เปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ต่อกรณีปฏิบัติการสร้าง propaganda ของสหรัฐฯในยุโรปและตะวันตก Uwe Steimle พูดเป็นภาษารัสเซียแบบตลกว่า ภาษาอาจจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เชื่อในคำโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองทั่วไปที่วาดเอาไว้ว่ารัสเซียคือผู้รุกรานและสามารถทำให้จินตนาการต่อไปได้อีกว่า "ชาวรัสเซียกำลังจะมาในเร็วๆนี้" (Russians will come soon.)
    ผลที่ตามมาก็คือทำให้ชาวตะวันตกขี้หดตดหายหวาดผวาต่อรัสเซียเป็นอย่างมาก กลัวแม้กระทั่งนักท่องเที่ยวบิ๊กไบค์ชาวรัสเซียที่จะไปทัวร์ยุโรป แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ทุกด่านโดยราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร ก่อนหน้านี้พวกนักการเมืองและรัฐบาลต่างๆในยุโรปก็พากันดาหน้าออกมาประท้วงและคัดค้าน ขนาดเห็นเรือลาดจูงของบริษัทเอกชนในบ้านของตัวเองก็ยังมโนไปว่าเป็นเรือดำน้ำของรัสเซียมาแล้ว เล่นเอากองทัพของยุโรปปั่นไปป่วนไม่ใช่น้อย แต่พอผ่านงบกลาโหมได้แล้วถึงออกมาเฉลยทีหลังว่ามันเป็นเรื่อง โอละพ่อ ซะงั้น คราวนี้มาใหม่อีก
    Uwe Steimle พูดเสริมว่า ชาวรัสเซีย (กองทัพ/ทหาร) ได้ออกไปจากเยอรมันตะวันออกตั้งนานแล้ว แต่ในทางตรงกันข้ามผู้ที่เรียกว่า "เพื่อนชาวอเมริกัน" (American friends") ผู้ซึ่งพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ให้ทันสมัยกลับเข้ามาอยู่ในดินแทนของเยอรมันแทน
    Uwe Steimle กล่าวต่ออีกว่า "มีบางคนกำลังพูดถึงสงครามใหญ่ (a total war) ขึ้นมาอีกครั้ง ประวัติศาสตร์ควรจะสอนให้เยอรมันหลีกเลี่ยงสงครามโดยทุกช่องทางที่จะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกันชาวอเมริกันก็สนับสนุนด้านอาวุธเพื่อป้องกันประเทศให้กับยูเครน วลีที่พูดว่า 'อาวุธเพื่อป้องกัน(ตนเอง)' (defensive weapons) ช่างเป็นคำพูดที่ฟังดูแปลกเสียนี่กระไร บางทีมันอาจจะกลายเป็นว่ารถถังเหล่านั้นสามารถยิงกลับหลังได้ก็เป็นได้" (อันนี้ Uwe Steimle พูดเหน็บยูเครนที่ใช้รถถังและจรวดยิงถล่มยูเครนตะวันออกซึ่งเป็นบ้าน ประชาชน และดินแดนของตัวเองแท้ๆ)
    ตามความคิดเห็นของชาวเยอรมันคนนี้ เขามองว่าผู้ที่จุดชนวนสงครามนั่นแหละควรจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการหลั่งไหลของเหล่าผู้อพยพลี้ภัยทั้งหลาย เขาได้แสดงความกังวลต่อความจริงที่ว่าผู้เสียภาษีชาวเยอรมันต้องจ่ายเงินซื้ออาวุธ ที่ใช้สำหรับทำลายประเทศอื่นและบีบบังคับให้ประชาชนจากประเทศอื่นต้องลี้ภัยเข้ามาอยู่ในยุโรปแทน
    Uwe Steimle แนะนำว่าบริษัทผู้ผลิตอาวุธควรจะออกค่าใช้จ่ายให้กับแคมป์ผู้ลี้ภัยโดยตรง และพูดเสริมอีกว่า อเมริกาและอิสราเอลเป็นผู้ก่อสงคราม ซึ่งท้ายที่สุดแล้วประชาชนชาวเยอรมันก็ต้องจ่าย (เป็นค่าดูแลผู้ลี้ภัยสงครามเหล่านั้น)
    นี่พวกนักคิดชาวเยอรมันเขาเตือนรัฐบาลเยอรมันและชาวยุโรปแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าอียูจะตื่นรู้ได้มากน้อยสักแค่ไหน หรือถึงจะตื่นรู้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะสลัดออกจากปีกของจักรวรรดิอเมริกาได้หรือไม่ เพราะตอนนี้ฐานทัพของอเมริกาแทรกซึมไปทุกหย่อมหญ้าในยุโรปหมดแล้ว บอกได้เพียงคำเดียวว่ามีเยอะกว่ากองทัพนาซีกับญี่ปุ่นรวมกันในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองหลายเท่านัก หากเกิดสงครามสหรัฐฯจะไม่ให้เกิดในบ้านของตัวเองแน่นอน แต่จะใช้อียูนั่นแหละเป็นสนามรบแทน
    The Eyes
    29/05/2558
    ----------
    German Satirist: If You Believe Propaganda, ‘Russians Will Come Soon’ / Sputnik International
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    23. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    ในปีเสียงแตร พวกสมุนบริวารของพวกอิลิทการเงินโลกต่างดาหน้าออกมาสนับสนุนให้เลิกใช้เงินสด และให้ใช้เงินผ่านบัตรอิเลคโทรนิคแทนเพื่อว่ารัฐบาลจะได้รงบคุมการใช้จ่ายเงินของประชาชนได้ทุกอย่าง
    ระบบเผด็จการกำลังมา
    ไม่ว่าจะเป็น Kenneth Rogoff แห่ง Harvard University หรือ Willem Buiter หัวหน้่านักเศรษฐศาสตร์ของCitibankต่างก็สนับสนุนการยกเลิกการใช้เงินสดอย่างออกหน้าออกตา โดยอ้่างว่าการยกเลิกการใช้เงินสดจะทำให้ป้องกันการเลี่ยงภาษี การซื้อขายของที่ผิดกฎหมาย และกิจกรรมของเศรษฐกิจใต้ดิน รวมทั้งช่วยการทำงานของธนาคารกลางได้ดียิ่งขึ้นในภาวะที่ดอกเบี้ยกำลังติดลบ
    ในภาวะดอกเบี้ยติดลบที่ยุโรป บอนด์ก็ให้ยิลด์ติดลบ ประชาชนและนักลงทุนหลายคนเริ่มถอนเงินสดเอามาฝากตู้เชฟ หรือไม่ก็เอามาฝังตุ่มที่บ้าน เพราะว่าแบงค์ชาร์จดอกเบี้ยค่าฝากด้วย
    แสดงว่าพวกอิลิทเห็นกลัวแบงค์รันจะทำให้ตัวเองสูญเสียการควบคุมระบบการเงิน จึงต้องเข็นมาตรการยกเลิกเงินสดออกมา
    Martin Armstrongนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเป็นผู้รายงานเป็นคนแรกว่าจะมีการประชุมลับที่ลอนดอนก่อนสิ้นเดือนนี้ เพื่อหามาตรการที่จะยกเลิกการใช้เงินสด โดยจะมีตัวแทนของFederal Reserve, European Central Bankและธนาคารกลางของเดนมาร์กและสวิตเซอร์แลนด์เข้าร่วมด้วย เขาเตือนว่าระบบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จกำลังมา ถ้าหากรัฐบาลสามารถเลิกเงินสดและสามารถล่วงรู้เห็นการใช้จ่ายของประชาชนได้ทุกอย่าง
    ถ้าพวกอิลิทสามารถยกเลิกการใช้เงินสดได้ (cashless society) หมายความว่าการใช้จ่ายของประชาชนต่อไปต้องทำผ่านบัตรอิเลคโทรนิคอย่างเดียว และต้องทำผ่านแบงค์ที่รัฐบาลควบคุมจะได้คุมการใช้เงินของประชาชนได้
    ถ้าแบงค์ชาร์จดอกเบี้ยติดลบ ประชาชนจะไม่สามารถถอนเงินสดเอาไปฝังตุ่มที่บ้านได้ เพราะว่าเงินในรูปอิเลคโทรนิคต้องอยู่ในแบงค์อย่างเดียว วิธีการนี้เหมือนเป็นการต้อนประชาชนให้เข้าคอกแบงค์ที่กำลังดิ้นรนให้อยู่รอดเพราะว่าภาวะเศรษฐกิจที่กำลังมีปัญหาหนัก ที่ประคองตัวอยู่ได้เพราะว่าการทำQEของธนาคารกลาง
    เมื่อแบงค์คุมเงินฝากได้ผ่านระบบที่ไม่ต้องมีเงินสดอีกต่อไป จะทำการมัดมือชกด้วยการทำbail-inหรือเอาเงินฝากประชาชนไปเพิ่มทุนแบงค์ได้ หรือชดเชยความเสียหายจากหนี้เสีย เหมือนกับที่ประเทศไซปรัสทำให้ดูเป็นหนังตัวอย่างแล้ว
    นอกจากนี้ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศและองค์การสหประชาชาติได้เตรียมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อยแล้วเพื่อล้างหนี้ของโลก$200ล้านล้านที่ไม่มีปัญญาจ่ายได้ เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ โดยที่พวกอิลิทที่สร้างปัญหาทางการเงินให้โลกยังคงจะคุมระบบอีกต่อไป
    เวลาข่าวออกไปเกี่ยวกับการbail in หรือปรับโครงสร้างหนี้ของแบงค์หรือของรัฐบาล จะเกิดภาวะตกใจหรือไม่มั่นใจในหมู่ผู้ฝากเงิน ทำให้แห่ไปถอนเงินจากแบงค์ ทำให้แบงค์เจ้ง และระบบพังทันที เหมือนกับที่กรีซกำลังเจอแบงค์รันเวลานี้่
    ทำให้มีการคิดการยกเลิกเงินสดล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้โลก
    มีการเป่าแตรโหมโรงกันดังขึ้นในปีเสียงแตรระหว่างบริวารของพวกอิลิทที่ให้ยกเลิกการใช้เงินสดเพื่อนำไปสู่ระบบเผด็จการทางการเงินที่สมบูรณ์
    thanong
    28/5/2015
    http://www.infowars.com/secret-meeting-in-london-to-end-ca…/
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    24. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    ความพยายามที่จะยกเลิกเงินสดของพวกอิลิท ทำให้เรานึกถึงฉากเผาเงินดอลล่าร์ที่มัดรวมกันเป็นกองในโรงเก็บของในหนังมนุษย์ค้างคาว ตอนDark Knight
    ในฉากโจ๊กเก้อร์คู่ปรับของมนุษย์ค้างคาวกำลังพูดคุยกับลูกน้องเจ้าพ่ออิตาเลี่ยนอยู่ที่ต้องการทำลายมนุษย์ค้างคาวด้วยกัน โจ๊กเกอร์ได้เงินส่วนแบ่ง แต่เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่มีรสนิยมที่เรียบง่ายมาก คือชอบไดนาไมท์ ดินปืนและน้ำมัน
    พูดเสร็จโจ๊กเกอร์เอาน้ำมันราดเข้าไปในกองเงินดอลล่าร์ ลูกน้องเจ้าพ่อตาเหลือก จะบ้าไปแล้วหรือ แต่โจ๊กเกอร์เอาปืนจ่อไม่ให้กระดิก แล้วก็เอาซิการ์ของลูกน้องเจ้าพ่อโยนเข้าไปในกองเงิน ไฟลุกท่วมเงินทันที
    เป็นฉากที่ติดตาผู้ชมมากที่สุด เพราะว่าเงินนับล้านๆดอลล่าร์ถูกเผา โดยที่โจ๊กเกอร์ไม่รู้สึกเสียดาย
    โจ๊กเกอร์บอกว่าเมืองGothamสมควรที่จะมีผู้ร้ายที่มีระดับ เขาพูดกับลูกน้องเจ้าพ่อว่า ให้กลับไปบอกเจ้านายได้ว่าทุกคนตอนนี้ทำงานให้โจ๊กเกอร์หมด เพราะว่าเมืองGothamเป็นของโจ๊กเกอร์แล้ว
    โจ๊กเกอร์ไม่หยี่หระกับเงินที่เผากับมือ เขาทิ้งท้ายด้วยคำพูดว่า: "มันไม่ใช่เรื่องเงินเลย มันเป็นเรื่องของการส่งสัญญานต่างหาก เผาแม่งทุกอย่างเลย"
    ย้อนกลับมาดูความพยายามที่จะยกเลิกเงินสดในปีแห่งเสียงแตร พวกอิลิทมีอาการคล้ายๆกับโจ๊กเกอร์ที่เงินไม่มีความหมาย เพราะว่าคุมระบบโลกหมดเรียบร้อยแล้วและสามารถพิมพ์เงินเองกับมือผ่านธนาคารกลางที่คุมเอง
    การยกเลิกเงินสดก็เพื่อที่จะคุมประชาชนให้เหมือนเป็นทาส แต่จะทำได้ต้องทำให้แบงค์เจ้งไปก่อน เหมือนโจ๊กเกอร์ที่กล้าได้กล้าเสียเพราะว่าคุมเมืองGothamได้แล้ว
    ปีแห่งเสียงแตร พวกนี้จะเริ่ม"เผ่าแม่งทุกอย่างเลย Everything burns!" เลยหรือ? คิดอีกทีการที่พวกอิลิทต้องการยกเลิกเงินสด เท่ากับที่โจ๊กเกอร์เผาเงินสดให้ดูเป็นตัวอย่างนั่นเอง
    thanong
    28/5/2015
    [the Joker meets the Chechen in a warehouse; Lau is tied up on the top of the pile]
    The Chechen: Not so crazy as you look.
    The Joker: I told you, I'm a man of my word. Where's the Italian?
    The Chechen: Joker man, what you do with all your money?
    The Joker: You see, I'm, a guy of simple taste: I enjoy dynamite, and gunpowder…and gasoline! [Joker's men douse the money with gasoline]
    The Chechen: What the—? [the Joker brandishes a pistol at him]
    The Joker: Ah-ah-ah. You know the thing that they have in common? They're cheap.
    The Chechen: You said you were a man of your word.
    The Joker: Oh, I am. I'm only burning my half. [throws the Chechen's cigar onto the money, setting it ablaze] All you care about is money. This town deserves a better class of criminal, and I'm gonna give it to 'em. Tell your men they work for me now. This is my city.
    The Chechen: They won't work for a freak!
    The Joker: [mocking the Chechen's accent] "Freak"… [normal voice] Why don't we cut you up into little pieces and feed you to your pooches? Hm? And then we'll see how loyal a hungry dog really is! [Joker's men drag the Chechen away] It's not about money. It's about…sending a message. Everything burns!
    The Dark Knight - Wikiquote
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    25. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    เสียงแตรจะดังในทะเลจีนใต้ในปีเสียงแตรนี้หรือไม่ อีกไม่นานจะได้รู้กัน
    นายAsh Carter รมวกลาโหมของสหรัฐ พูดที่Pearl Harbour ที่มลรัฐฮาวายที่สหรัฐยึดจากชาวฮาวายในวันพุธว่า จีนและทุกฝ่ายที่มีข้อพิพาทกันในทะเลจีนใต้ให้ยกทำการก่อสร้างในบริเวณนั้น หยุดเผชิญหน้ากันทางทหาร และให้หันมาเจรจาหาทางออกทางการเมืองแทน
    นายขี้เถ้าเริ่มออกโรงอาละวาดหนักแล้ว สหรัฐต้องการเป็นพี่ใหญ่ในทะเลจีนใต้ กำลังหาเรื่องส่งทหารเข้ามาจุ้นจ้าน
    นายขี้เถ้าบอกว่า จีนได้ฝ่าฝืนวิธีการปฏิบัติในเรื่องระหว่างประเทศในทะเลจีนใต้ ทำให้กระทบความมั่นคงในเอเซียแปซิฟิค ในขณะที่ภูมิภาคนี้ต้องการการแก้ไขปัญหาผ่านการไม่คุกคามกัน
    จีนยึดพื้นที่ในทะเลจีนใต้2,000 เอเคอร์ผ่านการสร้างสิ่งปลูกสร้่างบน5แห่ง ไม่รวมกับที่ยึดไปก่อน1,500เอเอคร์ตั้งแต่ต้นปี มีภาพถ่ายดาวเทียมว่าจีนกำลังสร้างสนามบิน และมีการถมทะเล
    เวียดนามสร้างสิ้งปลูกสร้างไปแล้วประมาณ29เกาะ ส่วนฟิลิปปินส์5เกาะ
    นายขี้เถ้าต้องการสหรัฐกำลังส่งทหารเข้าไปคุมทะเลจีนใต้เพื่อปิดล้อมจีน โดยอ้างว่าต้องการให้บริเวณนี้เป็นเขตเดินเรือเสรี แต่เอาเข้าจริงแล้ว สหรัฐต้องการเสี้ยมให้ทั้งเวียดนามและฟิลิปปินส์ขัดแย้งกับจีนให้หนักข้อมากที่สุดในSpratly Islands เพื่อเปิดทางให้สหรัฐเข้ามาแทรกแซงในภูมิภาคนี้
    ทั้งสหรัฐ ออสเตรเลียและญี่ปุ่นจะซ้อมรบร่วมกันในปฏิบัติการทหารTalisman Sabreในวันที่7กรกฎาคมนี้ เพื่อส้งสัญญานให้จีนรับรู้ว่าพันธมิตรตะวันตกเอาจริง
    จีนตอบโต้ด้วยการออกสมุดปกขาวทางเป็นทางการในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนนโยบายทางทหารจากเชิงรับเป็นเชิงรุกครั้งแรกในประวัติศาสตร์จ้น โดยสมุดปกขาวระบุชัดเจนว่าปฏิบัติการทางทหารของจีนในการปกป้องประเทศจะไม่ได้จำกัดในดินแดนจีนต่อไป แต่จะอยู่ในน่านน้ำสากล หรือดินแดนนอกประเทศจีน
    สหรัฐปิดล้อมรัสเซียผ่านกองทัพนาโต้ที่ยุโรป โดยเอาวิกฤติยูเครนมาเป็นข้ออ้าง สหรัฐกำลังจะปิดล้อมจีนในเอเซีย โดยเอาวิกฤติทะเลจีนใต้เป็นข้ออ้าง เพราะว่าการผงาดของรัสเซียและจีนจะเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นเจ้าโลกของสหรัฐแต่เพียงผู้เดียวนั้นเอง
    นายขี้เถ้าเร่ิมเป่าแตรให้กองทัพสหรัฐมุ่งหน้ามาเผชิญหน้ากับจีนในเอเซียในปีเสียงแตรแล้ว ทั้งที่เอเซียเหนือผ่านการหนุนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และที่ทะเลจีนใต้ผ่านการหนุนเวียดนามและฟิลิปปินส์
    thanong
    28/5/2015
    http://www.reuters.com/…/us-southchinasea-philippines-vietn…
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    26. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    สหรัฐจะให้จีนผงาดเป็นมหาอำนาจโลกแห่งศตวรรษที่21ผ่านโครงการเส้นทางสายไหมใหม่ไม่ได้
    ขอย้ำอีกครั้งว่าสหรัฐยอมไม่ได้ เพราะว่าเขตเศรษฐกิจทางสายไหมที่จะเกิดขึ้น เวลารวมกับเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย จะทำให้ยุโรปหรือสหรัฐเสื่อมอำนาจลงไป เพราะว่าจีดีพีของโลกต่อไปจะอยู่ในบริเวณนี้ ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด รวมทั้งมีทรัพยากรธรรมชาติมากมายที่สุด
    อันนำมาสู่การส่งกองทัพสหรัฐมาป้วนเปี้ยนในทะเลจีนใต้ในปีเสียงแตรเพื่อสกัดไม่ให้ทางสายไหมทางทะเลได้เกิด
    จีนจะทนตั้งรับได้นานแค่ไหน สมุดปกขาวจีนได้ออกมาแล้วว่าจีนพร้อมตอบโต้การโจมตี
    ต่างฝ่ายต่างเป่าแตรกับแล้ว
    thanong
    28/5/2015
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    27. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
    ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก้ของยูเครนประกาศว่า เขาพร้อมที่จะประกาศใช้กฎอัยการศึกภายในไม่กี่ชั่วโมงในกรณีที่กองทัพยูเครนถูกจู่โจมจากพวกกบฎแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออก
    เขาพูดชัดเจนว่าแผนสันติภาพของยูเครนถูกฉีกทิ้งไปแล้ว เส้นแบ่งการเผชิญหน้ากันถูกละเมิดไปแล้ว และถ้าหากมีการประชิดเข้ามาจู่โจมกองทัพของยูเครน เขาจะประกาศกฎอัยการศึก และให้สภายูเครนรับรองเพื่อบังคับใช้ทั่วประเทศ
    โปโรเชนโก้กล่าวต่อไปว่า กฎอัยการศึกจะสะท้อนให้เห็นว่ายูเครนพร้อมที่จะทำสงคราม เพื่อชัยชนะ เพื่อการปกป้องประเทศ และเพื่อสันติภาพ
    เมื่อมีกฎอัยการศึกเมื่อใดในปีเสียงแตร ยูเครนจะอยู่ในภาวะสงครามเต็มพิกัด โดยฝ่ายตรงกันข้ามคึือรัสเซียที่ให้การสนับสนุนพวกยูเครนตะวันออกนั้นเอง
    เมื่อเร็วๆนี้ นายJohn Kerry รมวต่างประเทศของสหรัฐได้เยือนรัสเซียเพื่อพูดคุยปัญหาหลักของโลกกับประธานาธิบดีปูติน สำหรับเรื่องวิกฤติยูเครน Kerry บอกว่าสหรัฐสนับสนุนMinsk Agreementหรือข้อตกลงสันติภาพที่Mink ที่ได้เซ็นกันระหว่างยูเครน รัสเซีย เยอรมัน ฝรั่งเศส โดยมีตัวแทนของพวกกบฎยูเครนเข้าเซ็นร่วมด้วย
    แต่ปรากฎว่ามีการละเมิดแผนสันติภาพของยูเครนมาตลอด เคียฟส่งทหารถล่มแคว้นทางตะวันออกออกของยูเครนที่ต้องการแยกตัวอิสระมาตลอด แคว้นทางตะวันออกไม่เห็นด้วยที่ยุเครนจะไปเข้าพวกกับยุโรปและสหรัฐ แต่ต้องการอยู่กับรัสเซียมากกว่า ที่บริเวณนั้นโดยเชื้อสายแล้วมีชาวยูเครนที่มีเชื้อสายรัสเซียจำนวนมาก
    ในปีเสียงแตร ต้องจับตาดูว่าวิกฤติยูเครน หรือวิกฤติทะเลจีนใต้ หรือวิกฤติตะวันออกกลาง ที่ไหนจะระเบิดออกมาก่อนกัน
    thanong
    29/5/2015
    http://rt.com/news/262849-ukraine-martial-law-poroshenko/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเครนเชื่อการสู้รบในภาคตะวันออกจะกลับมาดุเดือดในอีกไม่ช้า
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2558 00:15 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนระบุในวันพฤหัสบดี (28 พ.ค.) ว่ารัสเซียได้เคลื่อนกำลังพลเข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครน ทำให้มีความเสี่ยงที่การสู้รบระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียจะหวนกลับมาปะทุอีกครั้งในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ความสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครนได้ลดความรุนแรงลง นับตั้งแต่มีการทำข้อตกลงหยุดยิงกันในกรุงมินสก์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงกล่าวหากันว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลง

    สเตฟาน โพลโตรัค รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ได้กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของประเทศแถบทะเลบอลติก ที่เมืองปาเนเวซิส ของลิทัวเนีย โดยระบุว่า พวกกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย การกระทำของพวกเขานั้นยากที่จะคาดเดา

    "รถถังและปืนใหญ่จำนวนมากได้ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในดินแดนแถบนั้น ตอนนี้ทั้งในลูฮันสก์และโดเนตสก์มีหน่วยทหารของรัสเซียเข้าไปประจำการอยู่ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงเห็นความเสี่ยงที่การสู้รบจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง" โพลโตรัค กล่าว

    ที่ผ่านมายูเครนและชาติตะวันตกได้กล่าวหารัสเซียว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน ทั้งในเรื่องของอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมไปถึงในด้านกำลังทหาร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060940
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปูตินออกคำสั่ง ทหารตายถือเป็นความลับชาติ!!
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2558 02:30 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเมื่อวันพฤหัสบดี(28พ.ค.) ลงนามในร่างแก้ไขคำสั่ง กำหนดให้การเสียชีวิตของทหารแดนหมีข่าวระหว่างปฏิบัติการพิเศษในช่วงเวลาสันติเป็น "ความลับชาติ" ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นในขณะที่มอสโกถูกแฉว่าส่งกำลังพลเข้าสู่ไปสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน

    ปูติน ซึ่งปฏิเสธมาตลอดถึงความเกี่ยวข้องกันระหว่างทหารรัสเซียกับกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครนที่ฝักใฝ่มอสโก ได้แก้ไขคำสั่งประธานาธิบดี เดิมที่เคยกำหนดให้การเสียชีวิตของนายทหารเป็นความลับชาติเฉพาะช่วงเวลาแห่งสงครามเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อถูกขอให้ชี้แจงถึงมูลเหตุที่อยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวของปูตินครั้งนี้ ทางโฆษกประธานาธิบดีรัสเซียปปฏิเสธแสดงความคิดเห็น

    บทบาทของรัสเซียในสถานการณ์ความยุ่งเหยิงทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,100 รายในเหตุสู้รบที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปี เป็นหนึ่งในประเด็นถกเถียงกันมากที่สุด ในความขัดแย้งที่ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกกับตะวันตกเข้าสู่ความอลหม่าน

    นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านรัสเซียเผยแพร่รายงานช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาว่า มีทหารแดนหมีขาวอย่างน้อย 220 คนเสียชีวิตในเหตุสู้รบในจุดล่อแหลม 2 แห่งทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อฤดูร้อนปีก่อนและช่วงต้นปีที่ผ่านมา

    ต่อมานายบอริส เนมต์ซอฟ แกนนำฝ่ายค้านซึ่งเป็นผู้ริเริ่มทำรายงานดังกล่าว ถูกยิงเสียชีวิตกลางกรุงมอสโกในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่อิลยา ยาชิน คนสนิทของเขาและเป็นคนช่วยจัดทำรายงานจนเสร็จสมบูรณ์ บอกกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่ามันแสดงให้เห็นว่าสงครามยูเครน กำลังสร้างความระคายเคืองแก่ปูติน "มันจะถูกมองว่าเป็นคำขู่ส่งถึงนักเคลื่อนไหว นักการเมืองและผู้สื่อข่าวที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้"

    เซอร์เก คริเวนตอฟ ประธานกลุ่มสิทธิทหารและดำรงตำแหน่งในสภาที่ปรึกษาด้านสิทธิมนุษยชนของเครมลินบอกว่าคำสั่งประธานาธิบดีอยู่ในขอบเขตตรรกะของสถานการณ์ปัจจุบันในรัสเซีย "ถ้าเจ้าหน้าที่พูดอย่างเป็นทางการว่าไม่มีทหารรัสเซียในยูเครน เมื่อนั้นก็ไม่ควรมีรายงานการสูญเสีย"

    ในขณะที่คำสั่งนี้อ้างถึงข้อมูลต่างๆที่ถือครองโดยกระทรวงกลาโหม แต่คริเวนตอฟเห็นพ้องกับยาชินว่ามันอาจถูกนำไปใช้กดดันเหล่านักเคลื่อนไหว นักการเมืองและผู้สื่อข่าวที่กำลังสืบสวนประเด็นนี้ โดยอ้างถึงกรณีของสเวตลานา ดาวีโดวา ชาวรัสเซียที่ถุูกดำเนินคดีในข้อหาทรยศชาติ หลังโทรศัพท์ถึงสถานทูตยูเครน บอกว่าเธอได้ยินการสนทนาของทหารนายหนึ่งโดยบังเอิญ ว่ามีกองทหารจากฐานทัพที่อยู่ใกล้ๆกันกำลังถูกส่งเข้าไปยังยูเครน

    รัสเซียผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อปีก่อน หลังจากส่งทหารในชุดเครื่องแบบไร้สังกัดเข้าประจำการในแหลมแห่งนี้ เบื้องต้นมอสโกปฏิเสธว่าคนเหล่านั้นไม่ใช่ทหารรัสเซีย อย่างไรก็ตามราว 1 เดือนหลังจากลงนามในกฎหมายรับรองการผนวกไครเมียอย่างเป็นทางการ ปูติน ยอมรับอย่างเปิดเผยว่าคนเหล่านั้นเป็นทหารของเครมลิน

    ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางมีผลบังคับใช้ทางภาคตะวันออกของยูเครนมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ทั้งสองฝ่ายกล่าวหากันและกันว่าละเมิดข้อตกลง โดยเคียฟ กลัวว่ารัสเซียอาจส่งทหารเข้ามาช่วยกบฏขยายอาณาเขตยึดครองเข้าไปในดินแดนยูเครนมากขึ้น ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า พบเห็นทหารรัสเซียจำนวนมากในชุดเครื่องแบบไร้สังกัดและอาวุธยุทโธปกรณ์นับร้อยประจำการอยู่ตามแนวชายแดนติดกับยูเครน

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000060947
     

แชร์หน้านี้

Loading...