ติดตามสถานะการณ์

แผ่นดินไหวซ้ำที่เกาะยาว ขนาด 4.7 พังงา-ภูเก็ต รับรู้แรงสั่นไหว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 7 พ.ค. 2558 01:18



แผ่นดินไหวซ้ำ ในทะเลบริเวณเกาะยาว จ.พังงา ขนาด 4.7 เมื่อเวลา 00.30 น. รับรู้แรงสั่นหลายพื้นที่ทั้งใน พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ไร้เตือนสึนามิ ก่อนปรับขนาดเป็น 4.5 ในเวลาต่อมา ...

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2558 สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจพบว่าที่บริเวณทะเล อ.เกาะยาว จ.พังงา (ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 15 กม.) เกิดแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 4.7 ความลึก 8 กม. รู้สึกสั่นไหวได้ในหลายพื้นที่ทั้ง จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต นั้น มีผู้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง เช่น กลุ่มไลน์ เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการรับรู้แรงสั่นไหวที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก นานประมาณ 3-4 วินาที แม้ไม่ได้อยู่บนอาคารสูง เช่น บริเวณบ้านเกาะสิเหร่ บ้านกู้กู บ้านสามกอง บ้านอ่าวมะขาม บ้านราไวย์ เป็นต้น แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้น


ชาวบ้านที่ ต.รัษฎา เมืองภูเก็ต อพยพออกมาอยู่นอกบ้าน หลังแผ่นดินไหว

อย่างไรก็ตาม มีรายงานแจ้งด้วยว่า กลุ่มชาวเลราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต ได้มีการอพยพออกจาก บ้านเรือน มาอยู่ที่จุดปลอดภัยบริเวณเนินสวนไผ่ หมวดการทางภูเก็ตที่ 2 (ตรงข้ามวิจิตร รีสอร์ท) อ.เมืองภูเก็ต โดยทางเทศบาลตำบลราไวย์ได้ อำนวยความสะดวก มีการติดตั้งสัญญาณไฟกระพริบ เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังได้จัดหาน้ำดื่มไว้คอยบริการ และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยด้วย

เช่นเดียวกับ ชาวเลเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งมีบ้านเรือนตั้งอยู่ติดริมทะเล ก็ได้มีการอพยพมาอยู่บริเวณจุดปลอดภัย ที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตรเศษ และรอดูสถานการณ์ เมื่อพบว่าไม่มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ จึงได้เดินทางกลับไปบ้านเรือนแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา สำนักแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา มีการปรับตัวเลขขนาดของแผ่นดินไหวครั้งนี้จากขนาด 4.7 เป็น ขนาด 4.5


แผ่นดินไหวซ้ำที่เกาะยาว ขนาด 4.7 พังงา-ภูเก็ต รับรู้แรงสั่นไหว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

คลังเนปาลร้อง ครม. จัดสรรงบฯซ่อมแซม-บูรณะ หลังแผ่นดินไหว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 6 พ.ค. 2558 23:58


@ผ่านมาแล้ว 12 วัน ชาวบ้านที่นี่ระบุ ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใด

กระทรวงการคลังของเนปาล เรียกร้อง ครม. จัดสรรงบฯซ่อมแซม บูรณะ หลังแผ่นดินไหว ขณะที่จากการสำรวจ พบบางพื้นที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการ หรือหน่วยงานนานาชาติ แม้จะอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ เพียงไม่ถึง 10 กม. ...

วันที่ 6 พ.ค. ทีมข่าวไทยรัฐทีวีที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในเนปาล ลงพื้นที่ไปตรวจสอบความเสียหายเมืองรามโกศ และดูความคืบหน้ากระบวนการแจกจ่ายสิ่งของให้ผู้ประสบภัย โดยคุณชัยรัตน์ ถมยา ผู้สื่อข่าวไทยรัฐทีวี รายงานสดผ่านสัญญาณดาวเทียมไทยคม จากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล

หลังเหตุแผ่นดินไหวผ่านไปแล้ว 12 วัน หลายหน่วยงานเริ่มมีการพูดถึงการบูรณะอาคาร บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย โดยล่าสุด กระทรวงการคลังของเนปาล ได้เรียกร้องไปยังคณะรัฐมนตรีของเนปาล ให้มีการจัดสรรงบประมาณ เพื่อนำมาซ่อมแซมสร้างบ้านเรือนให้กับประชาชนที่ประสบภัย โดยให้ถอนแผนรายจ่ายที่ยังไม่เร่งด่วนออกไปก่อน ซึ่งคาดว่า แผนบูรณะซ่อมแซม หลังแผ่นดินไหว สำหรับปีงบประมาณหน้า จะอยู่ที่ไม่เกิน 735 ล้านรูปีเนปาล หรือประมาณ 241 ล้านบาท

โดยแผนแรกจะเป็นการสร้างบ้านโลว์คอสให้กับผู้ประสบภัยได้เข้าไปอยู่อาศัย และการสร้าง ซ่อมแซม อาคาร ที่ทำการของรัฐ ให้กลับมาใช้การได้ ทั้งกระทรวงมหาดไทยเนปาล ได้มีการปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ เป็น 7,652 คน บาดเจ็บ 16,390 คน และจากการสำรวจความเสียหายล่าสุด พบว่า อาคารของรัฐ ได้รับความเสียหาย พังราบ 10,718 หลัง เสียหายบางส่วน 14,741 หลัง ส่วนบ้านเรือนประชาชน พังเสียหายราบ 191,058 หลัง เสียหายบางส่วน 157,162 หลัง

สำหรับบรรยากาศในกรุงกาฐมาณฑุ ประชาชนเริ่มที่จะออกมาจับจ่ายหาซื้อสินค้ากันบ้างแล้ว ขณะที่ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจตลาด หลังได้รับการร้องเรียนว่า มีผู้นำอาหารหมดอายุ และน้ำดื่มไม่สะอาด ออกมาวางขาย ในราคาที่สูงกว่าปกติ ทั้งนี้ ทางการได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนให้ระวังน้ำดื่มบางยี่ห้อ นอกจากนี้ ก็ยังได้ขยายผลเพิ่มเติม ว่ามีการแจกสินค้าไม่ได้มาตรฐานไปยังผู้ประสบภัยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางการเนปาลจะพยายามช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ห่างไกล แต่ก็พบว่ายังไม่ทั่วถึง โดยที่เมืองรามโกศ ซึ่งอยู่ห่างจากกาฐมาณฑุไปเพียง 10 กม. แต่ชาวบ้านที่นั่นบอกว่า 12 วันผ่านมาแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆจากรัฐบาล หรือหน่วยงานนานาชาติ

ทั้งนี้ จากการสำรวจหมู่บ้านบนภูเขา ที่เมืองรามโกศ พบว่า มีบ้านเรือนที่สร้างด้วยวิธีดั้งเดิม คือการใช้หินนำมาเรียงต่อกัน และประสานด้วยดิน เสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว กว่า 140 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 4 คน ซึ่งเมื่อความช่วยเหลือมาไม่ถึง ทำให้หลายคนต้องรื้อซากบ้านเรือนด้วยตัวเอง เพื่อค้นหาสิ่งของที่ยังพอใช้ได้มาประทังชีวิต

นอกจากนั้น ยังพบว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ช่วงนาทีเกิดแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็ได้มีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่หมู่บ้านลังตัง ซึ่งเป็นเขตอุทยานแห่งชาติของเนปาล พื้นที่นี้มีนักท่องเที่ยว และชาวบ้าน เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวนับร้อยคน

คลังเนปาลร้อง ครม. จัดสรรงบฯซ่อมแซม-บูรณะ หลังแผ่นดินไหว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ปอกเปลือก ทรราช
บุคคลากรในกองทัพสหรัฐฯขโมยน้ำมันและยุทโธปกรณ์จากกองทัพในอิรัคและอัฟกานิสถานไปขายมากกว่า $52 million



-------------
เห็นใจเหล่าขาโปรอเมริกาที่มาด้อมๆมองๆเพจนี้ คงสงสัยว่าทำไมถึงลงข่าวรัสเซียบ่อยจัง อ้าว! ก็แฟนเพจส่วนมากชอบปูตินนี่นา และข่าวที่เอามาลงก็ตรงไปตรงมาซะด้วยหาไม่ค่อยพบจากสื่อฯทั่วไป ส่วนมากสื่อฯรัสเซียก็เอามาจากสหรัฐฯและยุโรปทั้งนั้น แต่ไม่มีในสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯเอง อ๊ะ! เพื่อความยุติธรรมในการเสนอข่าวอย่างเป็นกลางและรอบด้าน วันนี้ก็จะเสนอข่าวเกี่ยวกับสหรัฐฯให้ได้รับทราบกันอีกซักข่าวสองข่าวนะครับ หวังว่าคงถูกใจโปรอเมริกาที่ชอบมาป่วนเพจนี้อยู่บ่อยๆนะครับผม คริๆ
เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.58) สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าอย่างน้อยมีเจ้าหน้าที่และบุคคลากรในกองทัพของสหรัฐฯที่ประจำอยู่ในฐานทัพของสหรัฐฯในอิรัคและอัฟกานิสถานจำนวน 115 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ขโมย ติดสินบน และยักยอกทรัพย์สินของกองทัพซึ่งสร้างความเสียหายให้กับกองทัพของสหรัฐฯมีมูลค่ามากกว่า $52 million (ประมาณ 1.7 พันล้านบาท) อุ๊แม่จ้าวววว! อึ้งเลยอ่ะ ยัง… แค่นี้หนะ จิ๊บๆ ที่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบและยังไม่ได้เปิดเผยออกมาหนะยังมีอีกเยอะและหลายคดีกว่านี้
รายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีขโมยและยักยอกทรัพย์สินของกองทัพสหรัฐฯในครั้งนี้ได้รับการติดสินว่าไม่มีประวัติความผิดทางอาญาและถูกลงโทษจำคุกระหว่าง 3 ถึง 17 เดือน
หนึ่งในคดีที่อื้อฉาวมากก็คือการขายแอบขายน้ำมันเถื่อน ซึ่งก็คือการลักลอบเอาน้ำมันจากกองทัพไปขายให้พ่อค้าท้องถิ่นที่รับซื้อภายในอัฟกานิสถานเอง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับกองทัพของอเมริกามูลค่า $15 million (ประมาณ 500 กว่าล้านบาท)
เขาทำอย่างไร? เขาทำกันเป็นขบวนการ ที่จับได้หนะปลาซิวปลาสร้อยทั้งนั้น ในสัญญาการขนส่งเชื้อเพลิงให้กองทัพจากต้นทางไปถึงปลายทางลงระยะเวลาเป็น 7 วัน ทั้งๆที่ใช้เวลาในการขนส่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น การควบคุมที่หละหลวมนี้เปิดช่องทางให้มีการลักลอบขายน้ำมันเชื้อเพลิงของกองทัพสหรัฐฯไปขายให้กับบุคคลภายนอกได้ ในแต่ละครั้งที่มีการขส่งพบว่ามีการลักลอบขายน้ำมันประมาณ 11,000 แกลลอน โดยตลอดทั้งปีมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 800,000 แกลลอน
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทางกองทัพของสหรัฐฯซึ่งตอนนี้ถูกตัดสินจำคุกอยู่สารภาพว่า เธอเพียงแค่สั่งให้มีรถบรรทุกน้ำมันมาเพิ่มหลายคัน ทำบันทึกปลอมขึ้นมา และรายงานว่ารถบันทุกน้ำมันได้ส่งน้ำมันกลับไปที่ฐาน แต่ในความเป็นจริงนั้นทหารสหรัฐฯกจะขับรถบรรทุกน้ำมันเหล่านี้จะไปแวะจอดถ่ายน้ำมันและขายตามจุดต่างๆให้กับผู้รับซื้อท้องถิ่นในอัฟกานิสถาน
อีกกรณีหนึ่งก็คือบุคคลากรทางกองทัพของสหรัฐฯจะแอบนำอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารของกองทัพสหรัฐฯไปขายให้พ่อค้าชาวอิรัค การก่ออาชญากรรมดังกล่าวถูกตำหนิว่าเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการที่หละหลวม และกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของการคอรัปชั่นในวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่ และยากที่จะติดตามแกะรอยเส้นทางเงินได้
เฮ้อ… บทจะโทษก็ไปโทษชาวบ้านซะงั้น ถ้าคนของตัวเองไม่แอบเอาไปขายให้เขา เขาจะซื้อได้อย่างไร? เมื่อมีคนเอามาขายให้ ชาวบ้านเขาไม่สนใจหรอกว่าสินค้าเหล่านั้นจะมาจากไหน เมื่อตกลงราคากันได้ก็รับซื้อแค่นั้นเอง เอ… หรือว่านี่จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่รัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯใช้ในการกระจายและสนับสนุนอาวุธของตนไปยังกลุ่มผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางนะ?
ฝ่ายสอบสวนกลางของสหรัฐฯกล่าวว่านี่เป็นเพียงส่วนยอดของภูเขาน้ำแข็ง (tip of the iceberg) ที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำเท่านั้น และกล่าวว่าตอนนี้กำลังมีการตรวจสอบการทุจริตอยู่ถึง 327 คดีที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่และบุคคลากรทางทหารตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (หมายถึงการตรวจสอบ) ฝ่ายตรวจสอบคาดว่าความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตในกองทัพสหรัฐฯมีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ
The Eyes
07/05/2558
-----------
US Military Personnel Stole at Least $50M During Iraq and Afghanistan Wars / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
อัพเดทสถานการณ์เยเมน-ซาอุดิฯ : สำนักข่าวหลายแห่งยืนยันเมือง Najran ถูกโจมตีจริง กลุ่มฮูติบุกยึดบางอำเภอในอาดังได้จากกลุ่มผู้สนับสนุนฮาดี้และทหารซาอุดิฯ



-------------
"ติ๊ง ตอง…" เสียงสัญญาณแจ้งประชาสัมพันธ์จากสายการบิน Saudi Arabin Airlines ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงหวานๆจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสายการบินฯผ่านมาทางทวิตเตอร์ว่า "เรียนท่านผู้โดยสารผู้มีอุปการะคุณทุกท่านโปรดทราบ... ขณะนี้เกิดการสู้รบกันในเมือง Najran ของซาอุดิอาระเบียใกล้สนามบินซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนเยเมน ทางสายการบิน Saudi Arabin Airlines ขอแจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่า สายการบิน Saudi Arabin Airlines ได้ทำการยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดที่จะเดินทางไปยังเมือง Najran จนกว่าจะมีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบในครั้งต่อไป ขอบคุณในความอุปการะของผู้โดยสารทุกท่านที่ใช้บริการของเรา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ รักนะจุ๊บๆ..."
อ่ะนี่ไม่ได้พูดเล่นนะ... สายการบิน Saudi Arabin Airlines ของซาอุดิฯเขาส่งทวิตเตอร์แจ้งเตือนอย่างนั้นหลายรอบอยู่นะครับ สำนักข่าวหลายแห่งในต่างประเทศก็ลงข่าวนี้ เยเมนก็ลง ปากีสถานก็ประกาศยกเลิกเที่ยวบินทัศนศึกษาของตนที่จะมายังเมือง Najran ออกไป สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียก็ลงพื้นที่แล้วพาดหัวข่าวว่า "ซาอุดิฯแอร์ไลน์ยกเลิกเที่ยวบินไปยังเมืองแห่งหนึ่งของประเทศที่ไปทิ้งระเบิดใส่เยเมนเนื่องจากมีการยิงปืนใหญ่ถล่ม" แล้วก็พาดหัวข่าวรองว่า "สายการบินซาอุดิอาระเบียนแอร์ไลน์ได้ยกเลิกเที่ยว (ทั้งหมด) ที่จะเดินทางไปยังเมือง Najran ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ชายแดนประเทศเยเมน เนื่องจากถูกโจมตีด้วยปืนใหญ่จากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย"
ชอบตรงนี้จังเลยอ่ะ "กองกำลังไม่ทราบฝ่าย" (unidentified forces) ก็สายการบินของซาอุดิฯไม่ระบุนี่นาว่าถูกโจมตีโดยฝ่ายไหน สื่อฯซาอุดิฯก็ไม่ค่อยอยากจะเล่นข่าวนี้สักเท่าไร คงเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้นในเมืองมั๊ง ก็จะมีฝ่ายไหนซะอีกหละ? แต่สื่อฯรัสเซียก็ลงกวนสื่อฯซาอุดิฯกับสื่อฯสหรัฐฯไปอย่างนั้นแหละ นั่นข่าวแรกจาก sputnik news
คราวนี้มาดูข่าวที่สองกันบ้าง ในวันเดียวกันนี้ (6 พ.ค.58) สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียลงข่าวว่า "กลุ่มฮูติรุกเข้ายึดพื้นที่บางส่วนในเมืองอาดังที่ถูกทิ้งระเบิดใส่โดยซาอุดิฯ" sputnik news พาดหัวข่าวรองว่า "กลุ่มติดอาวุธฮูติของเยเมน (Houthi militias) (สังเกตนะว่าเขาจะไม่ใช้คำว่า "กบฎ" อย่างสื่อฯซาอุดิฯและสื่อฯตะวันตก) สามารถเข้ายึดพื้นพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองท่าอาดังเพิ่มขึ้นได้อีกหนึ่งอำเภอเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มพื้นที่ในดินแดนของซาอุดิฯเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา" การยิงปืนใหญ่ถล่มเมือง Najran ของซาอุดิฯทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ผู้อยู่อาศัยในเมืองต่างพากันอพยพออกจากพื้นที่หลังจากมีการเปิดฉากถล่มเมือง Najran เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (อ่ะ… คราวนี้รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของกลุ่มฮูตินี่เอง)
The Eyes
07/05/2558
-----------
Saudi Airlines Cancels Flights to City Bordering Yemen Amid Mortar Fire / Sputnik International
Houthis Advance in Aden, Shell Saudi Arabia / Sputnik International
http://www.yementimes.com/…/Houthi-Rockets-Hit--Saudi-City-…
http://pakistanheadlines.com/…/houthi-rebel-rocket-attack-…/
https://twitter.com/hashtag/Najran?src=hash
https://twitter.com/saudi_airlines

 

Jaroen Compeerapap



จากเนปาล ถึง ปาปัวนิวกีนี : ขอขอบคุณทุกท่านที่อุทิศข้อมูลส่งมา เมื่อเราเอาข้อมูลของทุกท่านที่ได้รายงานเผยแพร่ ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล มาจนถึงวันสองวันก่อนที่ปาปัว ฯ ทำให้เราต้องคิดเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงมีอยู่ว่า บ้านเราตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกที่ชื่อ Eurasian Plate ช่วงปลายแหลมของมันไปไกลถึงอินโดนีเซีย ข้างซ้ายทิศตะวันตกชนติดกับแผ่น Indo-Australian Plate ขอให้ดูรูปประกอบ ด้านตะวันออกฝั่งอ่าวไทยติดแผ่น Pacific Plate บ้านของวงแหวนแห่งไฟ ประเด็นคือ แผ่นดินไหวระดับ 7.5 ที่ปาปัวนั้น ดันไปไหวตรงรอยต่อของแผ่น Indo-Australian Plate กับแผ่น Pacific Plate ซึ่งตรงจุดที่แผ่นดินไหวนั้น เป็นหุบเหวสูงชันลึกมากลงไปในทะเล บริเวณที่แห่งนี้เป็นจุดน้ำลึกที่สุดในโลก ย่อมแสดงให้เห็นเห็นสัญฐานของแผ่นดินตรงนี้ โดยเฉพาะทิศทางของแผ่นดินไหวที่ปาปัว ฯ ดันมีทิศทางจาก ตะวันออก มุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ East-Northeast ในทิศทางที่มุดลงแผ่น Pacific Plate ดังนั้นหัวไหวที่เนปาล ปลายมุดลง Pacific Plate ตรงปาบัวนิวกีนี 7.5 ตรงหุบเหวสูงชันใต้ทะเล จึงทำให้ กลาง ๆ แผ่น Indo-Australian Plate แถว ๆ ฝั่งอันดามัน กาญจนบุรี ที่แผ่น Indo-Australian Plate เบียบกับ แผ่น Eurasian Plate ที่ตั้งของประเทศไทย ขอให้มโนภาพดูประกอบรูปภาพ แล้วท่านจะเห็นว่ามันเรื่องใหญ่แล้วครับ ขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณสูงสุด จะทราบอะไรเป็นอะไร เราจึงต้องมาวิเคราะห์กันจริง ๆ จัง ๆ แล้วล่ะ ขอให้ทุกคนปลอดภัย อยู่ในความไม่ประมาท เตรียมการตามสมควรแก่กรณีจากนี้ไป… ทิศทางการเคลื่อนที่ปาปัว และ เหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล ส่งสัญญาณให้ชาวสยามจริง ๆ อยู่ที่เราจะได้ยินสัญญาณนีไหมเท่านั้น

 

ปอกเปลือก ทรราช

อัยย๊ะ! เจ้าหน้าที่เพนตากอนใช้บัตรเครดิตรัฐรูดบริการโสเภณีและการพนัน



-------------
ความจริงก็คือความจริง ยอมรับเหอะ! พระเอกในหนังฮอลลิวูดกับในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นมันตรงกันข้ามอ่ะ วันนี้ (7 พ.ค.58) สำนักข่าวรัสเซียรายงานว่า จากการตรวจสอบภายในหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศสหรัฐฯเกี่ยวกับ "ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของบุคคลในรัฐบาล" ซึ่งใช้เบิกโดยเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯพบว่า มีเจ้าหน้าที่และพนักงานลูกจ้างในสังกัดของเพนตากอนได้ใช้บัตรเครดิตของรัฐบาลเพื่อการพนัน เที่ยวหญิงบริการ และกิจกรรมสำหรับผู้ใหญ่อื่นๆ
การทำออดิตในครั้งนี้เป็นเพียงการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตของเจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐเท่านั้น ยังไม่มีการสืบสวนสอบระดับถึงการละเมิดการใชับัตรเครดิตของรัฐไปในทางที่ไม่เหมาะสม (หมายความว่ามีการใช้บัตรเครดิตของรัฐไปในทางที่ไม่เหมาะสมจริง แต่ยังไม่สามารถสั่งให้มีการสืบสวนสอบสวน เพราะเจอตอซะก่อนมั๊ง?) ดังนั้นการสืบค้นในครั้งนี้จึงมีผลแค่การแจ้งเตือนเท่านั้นยังไม่มีการสั่งปลดเจ้าหน้าทีี่ออกจากงาน
วุฒิสมาชิก Chuck Grassley จากรัฐไอโอวาของสหรัฐฯกล่าวว่า การขาดการจัดการที่เหมาะสมนำไปสู่การผลาญเงินมูลค่าหลายร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐฯของผู้เสียภาษี ในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต ค่าใช้จ่ายที่น่าสงสัย และไม่จำเป็น จำเป็นต้องออกกฎหมาย (เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้)
The Eyes
07/05/2558
-----------
Perks of the Job? Pentagon Credit Cards Used to Finance Sex and Gambling / Sputnik International

 

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันตก



แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณจังหวัดภูเก็ตเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อน
คลองมะรุ่ย ซึ่งเป็นกลุ่มรอยเลื่อนตามแนวระดับที่วางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนระนองแบบเหลื่อมซ้ายแสดงดังภาพ ปรากฏในทะเลอันดามัน บริเวณทิศตะวันออกของจ.ภูเก็ต และเกาะยาว ในบริเวณอ่าวพังงา รอยเลื่อนยาวต่อเนื่องขึ้นบกบริเวณลำคลองมะรุ่ย อ.
ทับปุด จ.พังงา พาดผ่านต่อเนื่องไปในพื้นที่อ.พนม อ.คีรีรัฐนิคม อ.วิภาวดี และอ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี มีความยาวเฉพาะส่วนบนแผ่นดินประมาณ 150 กิโลเมตร ซึ่งในเขต อ.ไชยานี้ปรากฏว่ามีแหล่งน้ าพุร้อนหลายแห่งไหลขึ้นมาตามแนวรอยเลื่อนนี้(กรมทรัพยากรธรณี) รอยเลื่อนนี้เป็นรอยเลื่อนขนาดเล็ก เมื่อมีการสั่นไหวและตำแหน่งศูนย์กลางอยู่บนแผ่นดิน อาจทำให้สิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายได้ ส่วนอีกภาพหนึ่งเป็นแนวแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หรือแนวแผ่นดินไหวของโลก ซึง่แนวนี้มีอยู่ในทะเลอันดามันวางตัวขนานกับประเทศไทยในแนวเหนือ-ใต้ ในกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ 6.5 ขึ้นไป จะต้องประกาศเตือนสึนามิให้ประชาชนได้รับทราบและเตรียมการอพยพ

 

จวนสร้างจรวด ความเร็วใกล้แสง
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 6 พ.ค. 2558 08:01



วงการใกล้ชิดเปิดเผยว่า องค์การอวกาศสหรัฐฯ อาจจะได้รับความสำเร็จ ในการทดลองแบบการเดินทางในอวกาศแบบหนึ่ง สามารถพามนุษย์เดินทางไปถึงดวงจันทร์ได้ภายในเวลา 2–3 ชั่วโมงสั้นๆ และขั้นต่อไปมันจะช่วยให้เราสามารถเดินทางด้วยความเร็วใกล้กับแสงได้

องค์การสามารถสร้างแรงขับแม่เหล็กไฟฟ้าขึ้นมาได้ ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่อาจจะใช้ความรู้ทางด้านฟิสิกส์ในปัจจุบันทำความเข้าใจได้ แต่ในการทดลองภายใต้การควบคุม ในภาวะที่คล้ายกับในอวกาศหนหนึ่ง ก็เพียงพอแล้วที่จะลงมือทำ เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าโครงการนี้ใช้งานได้

วงการเปิดเผยต่อไปว่า เครื่องยนต์นี้สามารถจะนำส่งวัตถุ ทะลุทะลวงไปในอากาศ ด้วยการใช้แม่เหล็กสร้างพลังไมโครเวฟ ส่งผ่านเครื่องอีกอย่างหนึ่ง สร้างแรงขับดันขึ้น หากโครงการนี้สำเร็จลง ก็จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่จรวดอวกาศต้องขนเชื้อเพลิงไปกับตัวด้วย เป็นปัญหาทำให้ไม่อาจเดินทางด้วยความเร็วและเป็นระยะทางไกลในปัจจุบัน.

จวนสร้างจรวด ความเร็วใกล้แสง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Elzindu Constantine



06/05/15
ตามภาพนะครับ แผ่นดินไหวเช้านี้เกิดที่ส่วนปลายของรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ซึ่งเป็นรอยเลื่อน strike slip แบบเลื่อนซ้าย
Tip: สึนามิไม่ได้เกิดง่ายครับ ขนาดต้องใหญกว่า 7.0 โฟกัสตื้นกว่า 60-70 กม และแนวรอยเลื่อนต้องขยับในแนวตั้งด้วย ต้องครบ 3 องค์ประกอบ
แผ่นดินไหวแถวภูเก็ต ยังไงก็สร้างสึนามิไม่ได้แม้จะแรงกว่านี้
เพราะอะไร
.
เพราะ รอยเลื่อนคลองมะรุ่ยเป็นรอยเลื่อนแนวนอน (Strike slip)
3 องค์ประกอบหลักสึนามิคือ แผ่นดินไหวต้อง ตื้น, แรง, ตั้ง
Tip: ถ้าออกเรือยิ่งเรือคุณอยู่ห่างฝั่ง กลางทะเลเลยยิ่งดี ก็ยิ่งปลอดภัยจากสึนามิ
ถ้าล่องเรืออยู่แล้วมีประกาศเตือนสีนามิ ให้รอประกาศยกเลิกแล้วจึงกลับเข้าฝั่ง
ความรู้Cr: Paipibut

 

ทูตเยเมนเรียกร้อง UN ส่ง “กองกำลังภาคพื้นดิน” เข้าไปช่วยปราบกบฏฮูตี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2558 13:42 น.


@ซากเครื่องบินลำเลียงของกองทัพเยเมนซึ่งถูกทำลายโดยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบีย

รอยเตอร์ – คณะผู้แทนเยเมนประจำองค์การสหประชาชาติเรียกร้องวานนี้ (6 พ.ค.) ให้มีการส่ง “กองกำลังภาคพื้นดิน” เข้าไปช่วยเหลือฝ่ายรัฐบาลต่อสู้กับพวกกบฏฮูตี โดยเฉพาะที่เมืองท่าเอเดนและเมืองตาอิซ
จดหมายซึ่ง คอลิด อัลเยมานี เอกอัครราชทูตผู้แทนเยเมนประจำยูเอ็น ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อาจมีผลทางกฎหมายทำให้นานาชาติเข้าแทรกแซงสถานการณ์ในเยเมนได้อย่างสะดวกขึ้น

รัฐบาลเยเมนได้ยื่นหนังสือต่อคณะมนตรีความมั่นคงฯ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. เพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารจากกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ หลังจากนั้นเพียง 1 วันซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรเกือบ 10 ชาติก็ส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มฐานที่มั่นของกบฏนิกายชีอะห์ ซึ่งเชื่อว่ามีอิหร่านหนุนหลังอยู่

ล่าสุดวานนี้ (6 พ.ค.) กบฏฮูตีสามารถฝ่าการโจมตีของฝูงเครื่องบินรบซาอุฯ เข้าถึงเขตตาวาฮีในเมืองเอเดน เมืองท่าซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์และอาจกลายเป็นจุดพลิกผันของสงครามครั้งนี้
ทูตเยเมนยังวิงวอนให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนจดบันทึกพฤติกรรมของกบฏฮูตีที่เข่นฆ่าพลเรือน และปิดกั้นการเข้าถึงของทีมแพทย์ ซึ่งถือเป็น “การล่วงละเมิดอย่างป่าเถื่อนต่อประชาชนที่ไม่มีทางสู้”

การสู้รบที่เกิดขึ้นทั่วเยเมนทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 120 คนวานนี้ (6) โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ในจำนวนนี้ยังรวมถึงกลุ่มชาวเยเมน 40 คนที่ถูกกบฏฮูตียิงถล่ม ขณะพยายามล่องเรือหนีออกจากเมืองเอเดน
กบฏฮูตีและพวกทหารเก่าที่ยังภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ได้เข้าปิดล้อมเมืองเอเดนมาหลายสัปดาห์ โดยหวังที่จะบดขยี้ฐานที่มั่นสุดท้ายที่ประธานาธิบดี อับดุร-รับบูห์ มันซูร์ ฮาดี แห่งเยเมนเคยใช้เป็นที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ก่อนจะหลบหนีออกไปพึ่งใบบุญซาอุดีอาระเบีย

“ทุกคนที่ก่ออาชญากรรมจะต้องได้รับโทษอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง รัฐบาลเยเมนจะทำทุกวิถีทางเพื่อนำพวกกบฏฮูตีและทหารที่ยังจงรักภักดีกับอดีตประธานาธิบดี ซาเลห์ ไปขึ้นศาลระหว่างประเทศ ในฐานะอาชญากรสงคราม” อัลเยมานี ระบุในจดหมาย

 

ปอกเปลือก ทรราช
สื่อฯตะวันตกรายงานว่า รัฐบาลเยเมนร่อนจดหมายถึงยูเอ็นให้ส่งกองกำลังนานาชาติภาคพื้นดินเข้าสู่เยเมนอ้างเพื่อช่วยปกป้องเยเมน



-------------
รอยเตอร์รายงานว่า "รัฐบาลเยเมนได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติขอให้ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าแทรกแซงเยเมนโดยเร็วเพื่อช่วยเหลือประเยเมนให้ปลอดภัย ซึ่งตอนนี้เมืองที่มีการต่อสู้กันอย่างหนักได้แก่ Aden และ Taiz โดยเฉพาะจากกองกำลังต่อต้านกลุ่มฮูติ"
Khaled Alyemany ทูตยูเอ็นประจำเยเมนรายงานว่าจดหมายดังกล่าวได้ส่งมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 พ.ค.58) การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะนำมาซึ่งการส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าสู่เยเมนจากต่างชาติอย่างถูกกฎหมาย (อ้าวแสดงว่าที่ซาอุดิฯส่งเข้าไปวันก่อนนี้ก็ไม่ถูกกฎหมายนะสิ นั่นเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของเยเมนเห็นๆเลยนะ ทำไมถึงไม่พูดบ้างหละยูเอ็น?)
จดหมายที่ส่งถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติยังได้เรียกร้องให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนเข้าทำการบันทึกการกระทำที่ป่าเถื่อนต่อประชาชนที่ไม่มีทางต่อสู้ด้วย และยังได้กล่าวตำหนิกลุ่มฮูติ (Houthi Shiite) เกี่ยวกับการเสียชีวิตของพลเรือนด้วย
สำนักข่าว RT ของรัสเซียรายงานว่าจดหมายที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ได้เคยส่งไปขอความเชื่อเหลือด้านกองทัพจากกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับมาแล้ว และได้ส่งไปถึงยูเอ็นเพียงแค่ 1 วันก่อนที่ซาอุดิฯและพวกจะเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่เยเมนในวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา
แม้ว่าเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ทางกองกำลังผสมนำโดยซาอุดิฯ (โดยมีสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังวางแผนและชี้เป้าให้) จะออกมาประกาศหยุดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแล้ว โดยจะใช้ปฏิบัติการ "Restoring Hope" (ฟื้นฟูความหวัง) แทนซึ่งจะเน้นด้านการเมืองและการทูตในการแก้ไขปัญหาเยเมนที่ซาอุดิฯก่อขึ้นก็ตาม แต่จากรายงานพบว่าในความเป็นจริงนั้นซาอุดิฯก็ยังส่งเครื่องบินฯรบของตนเข้าไปโจมตีเยเมนอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันพุธที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบของกองกำลังผสมนำโดยซาอุดิฯจำนวน 120 ราย รอยเตอร์รายงานว่ามีพลเรือน 40 รายเสียชีวิตเนื่องจากพยายามขึ้นเรือหลบหนีทางทะเลในอ่าวอาดัง รายงานบอกว่าถูกโจมตีโดยกลุ่มฮูติ (ถ้าเชื่อสื่อฯตะวันตกทุกที่เขาพูดมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรหละนะ)
รอยเตอร์สนั้นจัดอยู่ในสื่อฯกลุ่มตะวันตกเช่นเดียวกับสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯและยุโรป เข้าข้างซาอุดิฯและปธน.ฮาดี้ของเยเมนที่ลี้ภัยไปอยู่ที่ซาอุดิฯ เวลาอ่านข่าวจากสื่อฯพวกนี้จะต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอกหรือถูกปั่นหัวได้โดยง่าย เวลาอ้างคำพูดจากปธน.ฮาดี้ที่อาจจะร่างโดยซาอุดิฯหรือคนของสหรัฐฯเขาก็จะบอกว่าเป็นการพูดในนามของรัฐบาลเยเมน ซึ่งถูกคณะปฏิวัติฮูติยึดอำนาจ แต่พวกนั้น (ฮาดี้) บอกว่ายังมีความชอบธรรมในการเป็นปธน.ของเยเมนอยู่แม้จะลี้ภัยพลัดถิ่นไปอยู่ที่ซาอุดิฯก็ตาม
ปัจจุบันนี้อำนาจการปกครองในเยเมนนั้นอยู่ภายใต้คณะปฏิวัติของกลุ่มฮูติ ไม่ใช่กลุ่มผู้สนับสนุนปธน.ฮาดี้ของเยเมน พอกลุ่มฮูติรุกเข้าไปในเขตแดนของซาอุดิและโจมตีเมือง Najran ของซาอุดิฯได้วันเดียวเท่านั้นแหละหลังจากที่ซาอุดิฯส่งกองกำลังภาคพื้นดินของตนจำนวนหนึ่งเข้าประจำการในเมืองอาดังทางตอนใต้ของเยเมน และถูกกลุ่มฮูติยึดพื้นที่ในเขตอำเภอ Tawahi ของเมืองอาดังได้ ฝ่ายซาอุดิฯ ปธน.ฮาดี้ และสหรัฐฯ ถึงกับเล่นมุกเดียวกันกับปธน.โปโรเชนโก้ของยูเครนเลย คือเรียกร้องให้กองกำลังนานาชาติเข้าถล่มเยเมนต่อ โดยอ้างมุกเดิมคือเรื่องสิทธิ์มนุษยชนและช่วยเหลือพลเรือนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย
ก่อนหน้านี้มีประชาชนชาวเยเมนหลายแสนออกมาประท้วงการโจมตีทางอากาศและการรุกรานของซาอุดิฯในเยเมน แสดงให้เห็นว่ากลุ่มฮูติกำลังรวมประชาชนชาวเยเมนให้เป็นหนึ่งเดียวในการต่อต้านการรุกรานจากซาอุดิฯ สิ่งที่สหรัฐฯ ซาอุดิฯ และฮาดี้กลัวก็คือการรวมพลังของประชาชนทั่วไปในเยเมนเพื่อต่อต้านสหรัฐฯและซาอุดิฯกับพวก อย่างที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ในเวเนซูเอล่า จนทำให้สหรัฐฯถึงหงอยไปไม่เป็นเอาซะเลย
ดังนั้นสหรัฐฯผู้บงการอยู่เบื้องหลังจึงต้องสั่งให้ฮาดี้ออกจดหมายอ้างในนามของรัฐบาลเยเมนเพื่อขอกำลังสนับสนุนจากนานาชาติ ซึ่งก็คือสหรัฐฯและซาอุดิฯนั่นแหละให้ส่งเข้าไปเข่นฆ่าประชาชนชาวเยเมนต่อไปอย่างที่ทำกับชาวซีเรียที่เมือง Kobani มาแล้วจนไม่เหลือซาก ตอนนั้นอ้างว่าเพื่อปราบพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส ต่อมาก็เปลี่ยนสถานะจากผู้ก่อการร้ายไอซิสให้เป็น "กบฎสายกลาง" ที่ต่อต้านรัฐบาลของซีเรียที่มาจากการเลือกตั้ง แต่สหรัฐฯไม่ยอมรับเพราะไม่สามารถควบคุมได้ คราวนี้ก็จะอ้างอีกว่าเพื่อปราบปรามกลุ่มฮูติ ชนเผ่าฮูติมีเป็นแสนเป็นล้านคนในเยเมน สหรัฐฯกับพวกจะฆ่าทิ้งทั้งหมดนั่นเลยหรือถึงจะพอใจ?
The Eyes
07/05/2558
-----------
Yemen govt calls on UN to ‘save’ country with foreign boots on the ground – report — RT News
UN urges Saudi-led coalition to stop bombing Yemen’s intl airport — RT News
'Limited' coalition ground force in Aden, Yemen, more coming - reports — RT News

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 7 พ.ค.58 เมฆประหลาดสีสายรุ้ง 7 สี โผล่ภูเก็ต
กรณีการเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 4.6 ทางทิศใต้ของเกาะยาว จ.พังงา สะเทืนไปถึงกระบี่ และ ภูเก็ต ต่อมาได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก 1 ครั้ง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ขนาด 3.2 ใกล้เคียงจุดเดิม รู้สึกสั่นไหวเล็กน้อยบริเวณตึกสูงในพื้นที่ จ.ภูเก็ต
ชาวไทยใหม่ หรือ ชาวเล บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ถ่ายภาพเมฆดำ และแสงประหลาดสีรุ้ง 7 สี ที่ลอยอยู่เหนือวัดเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้อพยพประชาชนกรณีเกิดภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ ทั้งเมฆและสายรุ้งลอยอยู่ประมาณ 10 นาที
ชาวบ้านได้บันทึกภาพไว้ ส่วนใหญ่บอกว่าไม่เคยเห็นเมฆและสายรุ้งเกิดขึ้นพร้อมกันมาก่อน..เคยบอกล่วงหน้ามาแล้วหลายครั้งว่า ท้องฟ้าจะมีปรากฎการณ์ประหลาด ก่อนเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อย ดิน น้ำ ลม (ฟ้า) ไฟ ...เป็นความสัมพันธ์ที่ล้ำลึกเกินมนุษย์จะเข้าใจได้
และแจ้งคำเตือนล่วงหน้ามาเป็นสัปดาห์ เรื่องดวงอาทิตย์ระเบิดใหญ่ ที่จะส่งผลต่อสนามแม่เหล็กโลก..ลองคิดดีๆ ทบทวนว่าสีรุ้ง 7 สี นี้เกิดที่ชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลกใช่หรือไม่ ??..จะได้เปิดใจรับทฤษฎีใหม่บ้าง ไม่งั้นนักวิทยาศาสตร์ก็จะติดอยู่กับเปลือกโลกเคลื่อนตัวตลอดไป
แต่ไม่ได้มองต้นเหตุว่า เออ..อะไรถึงมีพลังงานมากที่บีบอัดสนามแม่เหล็กโลก ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนตัวได้ และอะไรทำให้ท้องฟ้ามีสีประหลาด ถ้าไม่ใช่ "พายุสุริยะ" จากการระเบิดที่รุนแรงของดวงอาทิตย์
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ปอกเปลือก ทรราช



ติดตามผลการเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษ 2015…
ล่าสุดพรรคแรงงาน (LAB) มีคะแนนนำพรรคอนุรักษ์นิยม (CON) ตามมาด้วยพรรค SNP ของสก็อตแลนด์ (มีโอกาสได้ทำประชามติแยกประเทศอีกครั้งแน่ๆ) ก่อนหน้านี้ exit poll ออกผลสำรวจว่าพรรค CON ของนายเดวิด คาเมรอนมีคะแนนนำ และมีหวังว่าจะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ผลของความเป็นจริงจะไม่ใช่อย่างนั้นซะแล้ว
-------------
Election 2015 - BBC News

 

ผงะ!เนปาลพบชิ้นส่วนมนุษย์กระจายตามเนินเขา คาดถูกฝังใต้โคลนหิมะหลายร้อยศพ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2558 01:02 น. (แก้ไขล่าสุด 8 พฤษภาคม 2558 01:18 น.)



รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) พบอวัยวะมนุษย์กระจัดกระจายตามเนินต่างๆของภูเขาลูกหนึ่งในเนปาล ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีประชาชนมากกว่า 300 คน จำนวนมากเป็นชาวต่างชาติถูกฝังอยู่ใต้กองดินโคลนจากหิมะที่ถล่มลงมาตามหลังแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อเดือนที่แล้ว

นายกัวตัม ริมาล รองหัวหน้าสำนักงานเขตเผยว่าเมื่อวันพุธ(6พ.ค.)หน่วยกู้ภัยสามารถดึงร่างไร้วิญญาณ 6 ศพขึ้นมาจากพื้นที่ของหมู่บ้านลังตัง ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ไปทางเหนือราว 60 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางปีนเขายอดนิยมของชาวตะวันตก อย่างไรก็ตามปฏิบัติการต่างๆต้องพบกับอุปสรรคอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย

ส่วนสำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานโดยอ้างฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถานทูตมอสโกประจำเนปาล เผยในวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) ว่าในบริเวณเดียวกันนี้ พบศพของผู้แทนทูตรัสเซีย 2 คน โดยทั้ง 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่ทูตเครมลินประจำปากีสถาน

ก่อนหน้านี้นายริมาล คาดหมายว่าน่าจะมีผู้คนประมาณ 120 คนที่ถูกฝังอยู่ในพื้นที่นี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตในพื้นที่ดังกล่าวได้ราว 100 ศพในวันเสาร์(2พ.ค.)และวันอาทิตย์(3พ.ค.)ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามในวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) เขาบอกว่าจำนวนเหยื่ออาจสูงถึง 300 ในนั้นเป็นชาวต่างชาติ 110 คน "เราพบอวัยวะมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นแขนขา และชิ้นส่วนเนื้อหนังกระจัดกระจายในพื้นที่"

ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลเนปาลระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เมษายน อยู่ที่ 7,759 ศพและมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 16,000 คน

หมู่บ้านลังตัง ตั้งอยู่บนเส้นทางปีนเขายอดนิยมของชาวตะวันตกและมีเกสต์เฮาส์รองรับนักปีนเขา 55 แห่ง แต่แผ่นดินใหญ่ทำให้เกิดหิมะถล่มลงมาฝังกลบหมู่บ้านและยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าในตอนเกิดเหตุนั้นมีผู้คนอยู่มากน้อยแค่ไหน

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกระดมเงินบริจาค เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ และช่วยเหลือชาวเนปาลนับล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง แต่จนถึงตอนนี้มีนานาชาติบริจาคเข้ามาเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเผยในวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) อ้างถึงเงินจำนวน 415 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ร้องขอไป แต่ได้รับการสนับสนุนแค่ 22.4 ล้านดอลลาร์

"มันได้รับการตอบสนองไม่ดีเลย" โฆษกของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติบอกกับรอยเตอร์ โดยโฆษกรายนี้เชื่อว่าปัจจัยที่ทำใหขาดแคลนผู้บริจาค เพราะว่าโลกต้องเผชิญวิกฤตนานาชาติที่ยืดเยื้อยาวนานอื่นๆอีกหลายสิบกรณี ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในซีเรียและอิรัก ซึ่งต่างต้องการเงินบริจาคด้วยเช่นกัน

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052371

 

ซาอุฯเสนอแผนหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในเยเมน หลังพลเรือนตายเป็นเบือ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤษภาคม 2558 23:30 น.



เอเอฟพี - ซาอุดีอาระเบียเมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) ยื่นข้อเสนอหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเป็นเวลา 5 วันในเยเมน ตามหลังการถล่มทางอากาศและเหตุปะทะต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ โดยนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องพวกกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านตอบรับข้อเสนอนี้

ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ล้มเหลวในความพยายามสกัดการรุกคืบของกบฏฮูตีในเยเมน และมีความกังวลใหญ่หลวงต่อกรณีที่มีพลเรือนเสียชีวิตในความขัดแย้งนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

อเดล อัล-จูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย แถลงข้อเสนอหยุดยิงชั่วคราว หลังเจรจากับนายเคร์รีที่กรุงริยาด ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯชี้ว่ามันคือโอกาสสำคัญที่จะบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรม

นายจูเบอีร์ เผยว่าตนเองได้แจ้งกับนายเคร์รี ถึงแนวคิดหยุดยิง 5 วันในเยเมน เพื่อประสานงานกับองค์กรนานาชาติต่างๆสำหรับส่งมอบความช่วยเหลือไปยังเยเมน หากพวกฮูตีและพันธมิตรยึดมั่นในข้อเสนอนี้และไม่กระทำการก้าวร้าวใดๆในเยเมน

"วันเวลาของการหยุดยิงจะมีการกำหนดเร็วๆนี้" เขาบอกกับผูสื่อข่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายเคร์รี ที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าเฝ้าฯกษัตริย์ซัลมานและพบปะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

"เงื่อนไขของการหยุดยิงนี้อยู่ที่พวกฮูตี" นายเคร์รีกล่าว พร้อมร้องขอฝ่ายกบฏและผู้ที่ให้การหนุนหลัง ใช้อิทธิพลทุกอย่างที่มีคว้าโอกาสสำคัญนี้ไว้เพื่อใส่ใจกับความจำเป็นต่างๆของประชาชนชาวเยเมนและหาทางมุ่งหน้าสู่สันติภาพ และชี้แจงว่าระหว่างการหารือครั้งนี้ ไม่ได้มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการส่งทหารราบเข้าไปยังเยเมน

พันธมิตรนานาชาติปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและทิ้งอาวุธเพื่อสนับสนุนพวกนักรบที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี หลังพวกกบฏรุกคืนประชิดเมืองเอเดน ฐานที่มั่นของเขาทางภาคใต้ของประเทศ และตอนนี้สองฝ่ายก็ยังคงสู้รบกันอย่างดุเดือด

กบฏฮูตีและพวกทหารเก่าที่ยังภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ได้เข้าปิดล้อมเมืองเอเดนมาหลายสัปดาห์ โดยหวังที่จะบดขยี้ฐานที่มั่นสุดท้ายที่ประธานาธิบดีฮาดี เคยใช้เป็นที่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ก่อนจะหลบหนีออกไปพึ่งใบบุญซาอุดีอาระเบีย

หลังเดินทางมาถึงกรุงริยาดในวันพุธ(6พ.ค.) นายเคร์รี ได้เข้าเฝ้าฯเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ จากนั้นในวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) เขายังได้หารือกับนายฮาดี ที่เวลานี้พำนักอยู่ในเมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย "สหรัฐฯมีความกังวลใหญ่หลวงต่อสถานการณ์ทางภาคพื้นในเยเมน และเราสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อความพยายามอำนวยความสะดวกแก่การส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม" นายเคร์รีกล่าว

จากข้อมูลของสหประชาชาติพบว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศแห่งนี้แล้วอย่างน้อย 1,200 คนนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมเป็นต้นมา และมากกว่าครึ่งเป็นพลเรือน โดยในวันพุธ(6พ.ค.) ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 38 รายขณะกำลังพยายามหลบหนีทางทะเลออกจากเมืองเอเดน

ขณะที่ยอดพลเรือนเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและเหตุสู้รบกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การส่งมอบความช่วยเหลือด้านเชื้อเพลิง อาหารและเวชภัณฑ์ยาในเยเมนก็เกือบง่อยเปลี้ยโดยสิ้นเชิง โดยองค์กรสิทธิมนุษยชน 22 แห่งเตือนว่าอาจจำเป็นต้องยุติปฏิบัติการช่วยเหลือฉุกเฉิน เนื่องจากขาดแคลนเชื้อเพลิง พร้อมเรียกร้องให้เปิดเส้นทางต่างๆ เช่นเดียวกับยุติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรและปิดกั้นทางทะเล

ในส่วนของฟากฝั่งซาอุดีอาระเบีย ถูกโจมตีเข้ามาเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) โดยสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐอ้างเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมบอกว่ามีกระสุนปืนใหญ่หลายลูกตกลงพื้นที่ซึ่งไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ในเขตนาจราน ที่อยู่ตามแนวชายแดน หลังจากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ มีกระสุนปืนใหญ่หลายลูกถูกยิงออกมายังเยเมนและตกที่เมืองแห่งนี้ คร่าชีวิตพลเรือน 4 รายและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรือนจำ 1 คน

ก่อนหน้านั้นในวันอังคาร(5พ.ค.) พวกกบฏฮูตีเปิดฉากยิงปืนครกและโจมตีด้วยจรวดต่อเมืองของซาอุดีอาระเบียเป็นครั้งแรกระหว่างสงคราม ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052361

 

น้ำมันร่วง$2ความกังวลทางอุปทานหวนคืน หุ้นมะกันบวก-ทองลง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2558 04:48 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันร่วงลงแรงเมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) หลังความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดโผล่กลับมาอีกรอบจากข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกตามแรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปรับลดพอสมควร นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันทั้งสองสัญญาทำสถิติปิดสูงสุดในรอบปีเมื่อวันพุธ(6พ.ค.) หลังข้อมูลกระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยคลังน้ำมันดิบสำรองรายสัปดาห์ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่าแม้จะลดลง 3.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สต๊อกน้ำมันดิบก็ยังอยู่ที่ 487.0 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยพบมาหากนับเฉพาะในช่วงเวลานี้ของปี

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) ขยับขึ้นเล็กน้อย จากแรงหนุนของกลุ่มเทคโนโลยีและข้อมูลบวกภาคแรงงาน

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 82.08 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,924.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 7.85 จุด (0.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,088.00 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 25.91 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,945.55 จุด

หุ้นของอาลีบาบาทะยานถึงร้อยละ 7.5 หลังพบยอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เป็น 2,810 ล้านดอลลาร์ ผลประกอบการอันแข็งแกร่งของบริษัทแห่งนี้ประกอบกับข่าวลือเกี่ยวกับการขายเว็บไซต์ดัง Yelp.com ช่วยดันเอสแอนด์พี500 ปิดบวก

ขณะเดียวกันยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายใหม่ของสหรัฐฯที่ทรงตัวในระดับต่ำสุดรอบ 15 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็บ่งชี้ถึงแนวโน้มในทางบวกของเศรษฐกิจอเมริกา แต่ก็ไม่มากมายจนถึงขั้นเปลี่ยนความคาดหมายว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนกำหนด

ตัวเลขภาคแรงงานรายสัปดาห์ดังกล่าว ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลให้นักลงทุนหมางเมินสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ ฉุดราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี(7พ.ค.) ปิดลบพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,182.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000052385

 

ปอกเปลือก ทรราช
ตอบคำถามแฟนเพจเกี่ยวกับเยเมน



-----------
โพสต์ก่อนหน้านี้แอ็ดมินเผลอไปพูดถึงเรื่องคณะปฏิวัติฮูติของเยเมนเข้าให้ ก็เลยชวนให้บางคนเกิดความสงสัย และตั้งคำถามให้แอ็ดมินช่วยตอบให้หน่อย (ตอบเองก็ได้มั๊ง? ฮ่าๆๆ) คำถามมีอยู่ 2 ข้อ 2 ประเด็น ซึ่งก็คือ...
1.) กลุ่มฮูติเข้าควบคุมอำนาจบริหารได้นานแล้ว เท่ากับทำการปฏิวัติสำเร็จ ฮาร์ดี้เท่ากับกระเด็นตกเก้าอี้ไปแล้ว แต่ทำไมจึงไม่จัดตั้งรัฐบาลและ ปธน.คนใหม่ เพื่ออ้างความชอบธรรมในการปกครองเยเมน เหมือนๆกับที่หลายชาติทำ?
2.) สมมุติว่าฮูติประกาศจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว การกระทำของซาอุฯ รัฐบาลใหม่เยเมนก็สามารถประกาศสภาวะสงคราม แล้วอย่างนี้จะสามารถร้องขอความช่วยเหลือจาก รัสเซีย,จีน,อิหร่าน ได้หรือปล่าว?
+ ตอบคำถามข้อที่ 1
-----------
แหม… ดูโจทก์แต่ละข้อสิ ขอถอนหายใจก่อน ฮ้าาาาา... เกี่ยวกับคำถามข้อแรกนั้น จำเป็นต้องเล่าประวัติหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับการยึดอำนาจโดยกลุ่มฮูติซึ่งฝั่งสหรัฐฯเรียกว่า "กบฎ" (rebels) ให้หลายท่านได้ทราบซะก่อน (ขออภัยสำหรับผู้ที่ทราบอยู่แล้ว) อันที่จริงถ้าใครที่ติดตามอ่านเพจนี้มาตั้งแต่ช่วงวิกฤตยูเครนและวิกฤตเยเมนก็พอจะมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเยเมนอยู่บ้าง ผู้เขียนเคยเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของความขัดแย้งในเยเมนให้ฟังมาแล้วในโพสต์ "เยเม้น... เยเมน เบื้องหลังของความขัดแย้ง" ภายใต้หัวข้อ "ย้อนรอย ข้อเท็จจริง 5 อย่างที่ควรรู้เกี่ยวกับความขัดแย้งในเยเมน" เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (https://www.facebook.com/fisont/posts/1649075565312577) หากสนใจก็สามารถกลับไปอ่านได้
คราวนี้จะเล่าเฉพาะช่วงเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติยึดอำนาจโดยย่อในเยเมนเมื่อปี 2014 เป็นต้นมา ในช่วงนั้นปธน.ฮาดี้ (Abd Rabbuh Mansur Hadi) ยังครองอำนาจอยู่ในเยเมนหลังจากเกิดอาหรับสปริง (กระแสคลั่งประชาธิปไตยที่จุดติดโดยสหรัฐฯและตะวันตก โค่นอำนาจเก่าของอดีตปธน. Ali Abdullah Saleh) ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2557 เป็นต้นมา ประชาชนชาวเยเมนเชื้อสายฮูติ (Houthi) พากันออกมาประท้วงการขึ้นราคาน้ำมันในกรุง Sanaa เมืองหลวงของประเทศเยเมนหลายรอบ ฝ่ายรัฐบาลที่นำโดยฮาดี้ก็ไม่ยอม ก็จัดม็อบชนม็อบตามสูตรของอเมริกาเช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แค่ม็อบธรรมดาแต่มีอาวุธด้วย วันที่ 21 กันยายน 2557 กลุ่มฮูติเข้าควบคุมกรุงซานาหลังจากนาย Mohammed Basindawa นายกรัฐมนตรีของเยเมนลาออกจากตำแหน่ง จากนั้นกลุ่มฮูติก็ลงนามความร่วมมือกับกลุ่มนักการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่
มีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ที่นำโดยกลุ่มชนเผ่าฮูติกับกลุ่มผู้สนับสนุนปธน.ฮาดี้และกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าที่มีซาอุดิฯและสหรัฐฯสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธซึ่งมีฐานใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของเยเมน การปะทะกันในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 340 ราย มีการจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2557 โดยปธน.ฮาดี้กับพวกรวมทั้งกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตปธน.ซาเลห์ด้วย (ตอนแรกทะเลาะกัน พอเจอฮูติเข้าให้หันมาจับมากัน แล้วก็ทะเลาะกันอีกและซาเลห์ก็หันไปสนับสนุนกลุ่มฮูติอีก) แต่กลุ่มฮูติและสภาประชาชน (General People's Congress) ไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลใหม่ของฮาดี้
กลุ่มฮูติกล่าวว่าปธน.ฮาดี้สนับสนุนด้านอาวุธให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าเพื่อก่อความไม่สงบและทำลายความมั่นคงของประเทศในตะวันออกของเยเมน
วันที่ 22 มกราคม 2557 กลุ่มฮูติเข้ายึดทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านพักส่วนตัวของฮาดี้ ปธน.ฮาดี้ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่่งปธน.พร้อมกับคณะรัฐมนตรีของเขาในวันเดียวกัน ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์กลุ่มฮูติประกาศควบคุมอำนาจรัฐบาลทั้งหมด ยุบสภา และแต่งตั้งคณะประวัติ (Revolutionary Committee/Revolutionary Council/Revolutionary committees) ขึ้นมาแทน คณะปฏิวัติได้แต่งตั้งสมาชิกรัฐสภาขึ้นมาใหม่จำนวน 551 คน จากนั้นก็เลือกประธานออกมา 5 คนเพื่อทำการบริหารประเทศในระยะเวลา 2 ปีโดยมี Mohammed Ali al-Houthi ผู้นำชนเผ่าฮูติและผู้นำการปฏิวัติยึดอำนาจเป็นประธานคณะปฏิวัติ แต่ฝ่ายตรงข้ามในเยเมนและกลุ่มผู้สนับสนุนฮาดี้ รวมทั้งสหรัฐฯ ซาอุดิฯ ยูเอ็น และคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ซึ่งประกอบด้วย Bahrain, Kuwait, Oman, Qatar, Saudi Arabia, และ the United Arab Emirates ไม่ยอมรับอำนาจของคณะปฏวัติเยเมน
21 ก.พ.58 ฮาดี้หนีตายไปอยู่ที่เมืองอาดัง (Aden) ที่ซึ่งเขาประกาศลาออกจากตำแหน่ง และประณามการยึดอำนาจของกลุ่มฮูติ และพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเขาขึ้นมา โดยเขาได้ประกาศให้เมืองอาดังเป็นเมืองหลวงของเยเมนแทน การต่อสู้ระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่ายก็รุนแรงยิ่งขึ้นในบริเวณสนามบินนานชาติในเมืองอาดัง 19 มีนาคม 2558 ฮาดี้หายตัวไปจากเมืองอาดัง ต่อพบว่าไปปรากฎตัวอยู่ที่กรุงริยาดห์ประเทศซาอุดิฯ และในวันที่ 25 มีนาคม 2558 กองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯ ที่มีสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิค (เป็นแบ็คให้) ก็เปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่เยเมนโดยเน้นที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศและเครื่องบินรบของกองทัพเยเมนเป็นอันดับแรก และมีการโจมตีทางอากาศเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ร้อยกว่าครั้งแล้ว อย่างที่เคยเล่ามาให้ฟังเรื่อยๆก่อนหน้านี้
แต่พอไปอยู่กับซาอุดิฯ ฮาดี้บอกว่าเขายังเป็นปธน.ของเยเมนอยู่ แม้ว่าเขาจะประกาศลาออกแล้วแต่ซาอุดิฯกับสหรัฐฯไม่ยอมให้เขาลาออก บอกว่าการลาออกของเขาไม่ชอบธรรม ต้องเป็นปธน.ของเยเมนต่อไปจนกล่าวสหรัฐฯจะหาคนอื่นที่สหรัฐฯควบคุมเบ็ดเสร็จอย่างนี้มาแทนซะก่อน ดังนั้นทั้งซาอุดิฯและสหรัฐฯจึงออกมาพูดว่าให้การรับรองความชอบธรรมทางกฎหมายต่อปธน.ฮาดี้ แต่ไม่รับรองความชอบธรรมของรัฐบาลใหม่ของเยเมนที่นำโดยคณะปฏิวัติฮูติ
การปฏิวัติของเยเมนในครั้งนี้ไม่เหมือนกับการปฏิวัติของอียิปต์และของไทยที่กระทำโดยกองทัพซึ่งมีเครื่องไม้เครื่องมือและอำนาจมากว่า ในขณะที่ของเยเมนนั้นมีแต่นักรบชนเผ่าฮูติติดอาวุธบ้านๆเป็นผู้นำในการปฏิวัติ แต่ก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน จากข้อมูลเบื้องต้นไม่มีข่าวออกมาว่าทหารหรือกองทัพของเยเมนที่มีจำนวนถึง 400,000 นายอยู่ฝ่ายไหน แต่ก็ไม่พบว่ากองทัพเยเมนต่อสู้กับคณะปฏิวัติด้วย ถ้าซาอุดิฯคิดจะลุยทำสงครามภาคพื้นดินกับเยเมนจริงๆ คิดดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับกองทัพของซาอุดิฯบ้างหากเยเมนรวมพลังสู้จริงๆ นี่ตอบคำถามและข้อสงสัยข้อที่ 1 ให้แล้วนะครับ
+ ตอบคำถามข้อที่ 2
-----------
อันนี้ยาวอีกหละ... จะยกตัวอย่างที่เคยเล่ามาให้ฟังบ้างแล้วในฟังอีกครั้งหนึ่งย่อๆ (บางคนแซวว่าย่อซะยาวเลย ฮ่าๆๆ สไตล์คุณอายเขาหละครับ) พอจะจำกรณีของจอร์เจีย (Geogia) ที่เล่าให้ฟังแล้วได้บ้างหรือเปล่า ซึ่งมีอยู่สองที่คือ Abkhazia กับ South Ossetia ในปี 1999 อับฮาเซียซึ่งเป็นดินแดนติดทะเลดำด้้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งอยู่ติดชายแดนของรัสเซียได้ประกาศแยกตัวออกจากจอร์เจียและประกาศเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองเป็นประเทศใหม่มีบางประเทศยอมรับ แต่จอร์เจีย สหรัฐฯและยูเอ็นไม่ยอมรับ อับฮาเซียขอความช่วยเหลือด้านกองทัพจากรัสเซีย รัสเซียส่งกองกำลังทหารเข้าไปช่วยและตั้งฐานทัพของตนในอับฮาเซีย ติดตั้ง S-300 ระบบป้องกันภัยทางอากาศบริเวณชายแดนอับฮาเซียกับจอร์เจียเกิดสงครามสู้รบกัน จอร์เจียสู้ไม่ได้ แต่ก็ยังบอกว่าอับฮาเซียเป็นส่วนหนึ่งของจอร์เจียหลังจากที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียต ทุกวันนี้กองทัพของรัสเซียก็ยังให้ความคุ้มครองอับฮาเซียอยู่ แว่วๆว่าอาจจะมีการรวมอับฮาเซียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในอนาคตอันใกล้นี้คล้ายกับกรณีของไคร์เมีย
ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือเซ้าท์โอซีเทียที่มีชายแดนติดกับรัสเซียเช่นกัน นี่ก็ต้องการแยกตัวออกจากจอร์เจียเกิดสงครามสู้รบกันระหว่างเซ้าท์โอซีเทียกับจอร์เจีย โดยรัสเซียได้ส่งกองกำลังสนับสนุนเซ้าท์โอซีเทียเช่นเดียวกับกรณีของอับฮาเซีย กรณีนี้คล้ายกับเป็นสงครามตัวแทนระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯและอียูด้วย แต่สุดท้ายจอร์เจียก็เข้าไปยึดเซ้าท์โอซีเทียคืนมาไม่ได้ และกล่าวหาว่ารัสเซียยึดเซ้าท์โอซีเทียไป เปล่าเลยรัสเซียยังไม่ได้ยึด ยังไม่ได้ประกาศด้วยว่าทั้งสองแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเหมือนกับไคร์เมียเลย ยังไม่มีการทำประชามติ รอให้เวลาสุกงอมซะก่อนก็ยังไม่สาย
ทั้งสองกรณีนี้รัสเซียส่งกองทัพของตัวเองเข้าไปช่วยเหลือ ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศชั้นดีจึงทำให้เครื่องบินรบของจอร์เจียและนาโต้ไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้รัศมีการยิงของ S-300 ของรัสเซีย
ส่วนอีกกรณีหนึ่งก็คือที่ยูเครนตะวันออก อันนี้เล่ามาให้ฟังหลายครั้งแล้ว คงจะจำกันได้ กรณีนี้ทั้งสหรัฐฯและอียูต่างก็กล่าวหาว่ารัสเซียให้การสนับสนุนด้านอาวุธและอยู่เบื้องหลังของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก ซึ่งไม่มีหลักฐานพิสูจน์ซักอย่างที่ว่ารัสเซียให้การสนับสนุนด้านอาวุธให้กับกลุ่ม DPR/LPR ในยูเครน มีแต่ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้เท่านั้น ตอนที่ทั้งสองแคว้นถูกรัฐบาลยูเครนกลั่นแกล้งตัดแก๊สในหน้าหนาวนั้น ก็ได้รัสเซียเป็นผู้ส่งแก๊สไปให้ประชาชนในยูเครนตะวันออกใช้แทน แต่รัฐบาลยูเครนปฏิเสธที่จะจ่ายค่าแก๊สดังกล่าวให้กับรัสเซีย
กรณีนี้รัสเซียไม่ได้ทำอย่างอับฮาเซีย เซ้าท์โอซีเทีย หรืออย่างไคร์เมีย ถามว่าหากรัสเซียจะทำอย่างนั้นจะได้ไหม? ด้วยกำลังทางอาวุธและทหารทำไมจะทำไม่ได้ แต่ถ้าทำลงไปแล้วจะคุ้มไหมนั่นต่างหากคือประเด็น เพราะแค่นี้ทั้งสหรัฐฯและอียูก็หาเรื่องกลั่นแกล้งรัสเซียด้วยการแซงชั่นสารพัดอย่างแล้ว ตอนนี้รัสเซียต้องการแสดงบทเป็นผู้ไม่รุกรานใคร ต้องการใช้วิธีทางการทูตในการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ด้วยการใช้กำลังอย่างสหรัฐฯที่ทำกับอิรัค อัฟกานิสถานและซีเรีย และอีกหลายประเทศที่เคยทำมาในอดีต การจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกโดยได้รับการยอมรับจากนานาชาติอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่ด้วยการใช้กำลังเพียงอย่างเดียว ต้องสร้างบารมีให้เขาเห็นถึงความมีน้ำใจรักสันติด้วย
ถามว่าหากรัฐบาลใหม่ของเยเมนขอกำลังสนับสนุนจากรัสเซีย จีน อิหร่านหละจะได้ไหม? ก็อาจจะขอได้ ทางอิหร่านนั้นยินดีสนับสนุนด้านอาวุธให้เยเมนอยู่แล้ว แต่ถ้าทั้งอิหร่านและรัสเซียขยับมากกว่านี้ ก็จะติดกับดักที่สหรัฐฯวางไว้พอดี เพราะว่า 1) สหรัฐฯจะหาข้ออ้างแซงชั่นทั้งรัสเซียและอิหร่านต่อไปได้อีก ซึ่งนี่เป็นความต้องการของสหรัฐฯอยู่แล้ว 2) สหรัฐฯต้องการจะสร้างสงครามตัวแทน และขยายสงครามออกไปเรื่อยๆ หากรัสเซียแบ่งกำลังไปช่วยเยเมนสู้ การป้องกันประเทศของตนเองก็จะลดลง ง่ายต่อการจู่โจมจากนาโต้อีก เกมก็จะพลิกทันที เพราะที่เยเมนนั้นสหรัฐฯไม่จำเป็นต้องใช้ทหารของตนเข้ารบ แต่ส่งทหารของซาอุดิฯและพวกอาหรับที่ทำตามคำสั่งของสหรัฐฯไปสู้รบแทน
คราวนี้พวกนั้นก็จะประกาศตัวเป็นศัตรูกับรัสเซียอีกด้วย โครงการต่างๆที่รัสเซียไปตกลงไว้กับอียิปต์อาจจะต้องพังทั้งหมด แทนที่จะได้พันธมิตรในตะวันออกกลางเพิ่ม กลับได้ศัตรูเพิ่ม แบบนี้ไม่ดีกับรัสเซียแน่นอน แล้วจีนหละ? จีนนั้นใจเย็นกว่า ยังก่อตั้งธนาคาร AIIB ไม่เรียบร้อย BRICS ก็ยังไม่มั่นคง ยังไม่สามารถดึงอำนาจทางเศรษฐกิจออกจาก IMF ที่นำโดยสหรัฐฯได้ จีนมองว่าระบบเศรษฐกิจโลกตอนนี้ยังถูกควบคุมโดยสหรัฐฯและยุโรปอยู่ ยังไม่พร้อมทำศึกใหญ่ จึงได้แต่ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามใหญ่เท่านั้น และกองกำลัง "ยูเรเซีย" ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างที่จะมาแข่งกับนาโต้ได้ ยังต้องรออีกนาน
เมื่อใดสามารถตั้งกองกำลังผสมสร้างพันธมิตรขึ้นมาใหม่ได้อย่างนาโต้นั่นแหละ ถึงจะมีอำนาจสั่งสอนสหรัฐฯได้ อำนาจทั้งกองทัพและเศรษฐกิจจะต้องไปพร้อมกันถึงจะมั่นคง ตอนนี้พอมีโจรมาจุดไฟเผาบ้าน ทางรัสเซียกับจีนก็ทำได้เพียงช่วยกันดับไฟให้เพื่อนบ้าน และป้องกันไม่ให้โจรมาจุดไฟในบ้านของตัวเองได้เท่านั้น ยังไม่สามารถจับโจรได้ เอาไว้ให้มีกำลังกล้าแข็งกว่านี้ก่อนค่อยไล่จับโจรก็ยังไม่สาย
สำหรับสาเหตุที่เยเมนไม่ประกาศภาวะสงครามกับซาอุดิฯนั้น คิดว่า เพราะว่ากลุ่มฮูติและคณะปฏิวัติของเยเมนไม่ได้มีความต้องการจะทำสงครามกับต่างชาติ แต่ฮาดี้ตัวดีหุ่นเชิดของสหรัฐฯชักศึกเข้าบ้านเอง อีกทั้งศึกภายใน สงครามกลางเมืองก็ยังไม่สงบ ไม่พร้อมที่จะทำสงครามกับซาอุดิฯ เพราะนั่นเท่ากับเปิดศึก 2 ด้าน แต่หากสหรัฐฯและซาอุดิฯอยากจะสงครามทำเวียตนามโมเดลอีกครั้งที่เยเมนเพื่อประกาศความพ่ายแพ้ของตนครั้งที่สอง โดยใช้เยเมนเป็นสนามรบแทน ชาวเยเมนก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ที่จะทำการป้องกันประเทศของตนเอง ถึงเวลานั้น ความสามัคคีในเยเมนจะเกิดขึ้น เพื่อขับไล่ข้าศึกออกจากประเทศของตน
ตอบคำถามให้ครบทั้งสองข้อแล้วนะครับ จะถูกใจผู้อ่านหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ดุลพินิจนะ ผู้เขียนก็ว่าไปตามข้อมูลที่มีอยู่และสถานการณ์ปัจจุบันโดยยกเหตุการณ์อดีตมาประกอบนิดหน่อย อย่าถามแบบนี้บ่อยนักนะครับ สงสารแอ็ดมินบ้าง... ฮ่าๆๆ
The Eyes
07/05/2558
----------
Houthi insurgency in Yemen - Wikipedia, the free encyclopedia
Yemen - Wikipedia, the free encyclopedia
Prime Minister of Yemen - Wikipedia, the free encyclopedia
http://en.wikipedia.org/…/General_People's_Congress_(Ye…
Georgia (country) - Wikipedia, the free encyclopedia
http://www.constitutionnet.org/…/constitutional_declaration…
Yemeni Revolution - Wikipedia, the free encyclopedia

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 7 พ.ค.58 ถ้านกชนเครื่องบินจังๆ จะบุบไปขนาดไหน
เครื่องบินโดยสารภายในประเทศ โบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ที่เดินทางจากกรุงอิสตันบูล ตุรกี มุ่งหน้าสู่เนฟเซไฮร์ ได้รับความเสียหายหลังถูก "นก" พุ่งชน ทำให้ช่วงหน้าเครื่องบินบุบเสียหาย แต่ก็ลงจอดได้อย่างปลอดภัยและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
นกตัวเล็กๆ ชนเครื่องบินแรงๆ เต็มเหนี่ยว ก็ดูเอาเองว่าเครื่องบินยุบไปขนาดไหน
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย
วันที่ 7 พ.ค.58 อึ้ง.. เนปาลจ่ายผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวครอบครัวละ 2,300 บาท ??



ยอดผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหวเนปาลพุ่งสูงถึงเกือบ 7,900 ราย และบาดเจ็บกว่า 16,500 ราย และยังพบศพเพิ่มอยู่ตลอดเวลา มูลค่าความเสียหาย 1.6 แสนล้านบาท (น้อยกว่าเจ๊งโครงการจำนำข้าเผาไทย 4 เท่า)
ตอนนี้เริ่มทะแม่งเมื่อทางการเนปาลจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพียงครอบครัวละ 2,300 บาทเท่ากันหมด ไม่ว่าเสียหายมากหรือน้อย สร้างความมึนงงกับประชาชนเนปาล ว่าจะเอาไปซื้ออะไรได้ ในท่ามกลางของแพงหูฉี่แบบนั้น
พอนักการเมืองโค่นล้มระบอบกษัตริย์ คนเนปาลก็เคว้งคว้างไร้ที่พึ่งทางใจ และนักการเมืองก็บังคับให้เลือกตั้งช่องทางเดียว ไม่ให้มีทางเลือกรูปแบบอื่นเลย เลือกมาก็ได้คนเดิมๆ อีก

@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

“สินามิทางการเมืองและความมั่นคง” ของซาอุดิอาระเบีย
ตะวันออกกลางเรื่องเด่นประเด็นร้อนby อิบรอฮีม อาแว - พ.ค. 7, 2015


@(แฟ้มภาพ ฏอลาล บิน อับดุลอาซิส น้องชายต่างมารดาของ กษัตริย์ ซัลมาน)

“สินามิทางการเมืองและความมั่นคง” ของซาอุดิอาระเบีย หลังปลดและโยกย้ายตำแหน่งสำคัญทางการเมือง

สำนักข่าว spa ซาอุฯ เผยว่า เมื่อเช้าค่ำวันพฤหัสบดี ที่ ( 30) เมษายน มีคำสั่งปรับโครงสร้างทางการเมืองการปกครองในประเทศ ด้วยการรวมราชสำนักและสำนักงานมกุฎราชมารเป็นองค์กรเดียวกัน ตามคำร้องขอของ เจ้าชาย มุฮัมมัด บินนาเยฟ หลานชายคนแรกของอับดุลอะซีซ ผู้ก่อตั้งระบอบการปกครองของซาอุดิอาระเบีย

กษัตริย์ ซัลมาน ได้ส่งสาส์นขอบคุณ ถึง ม็อคเรน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด มกุฎราชกุมาร และซาอูด อัลฟัยศอล รัฐมนตรีต่างประเทศ ในผลงานในอดีตที่ผ่านมา
ตามแถลงการณ์ของสำนักพระราชวัง ซาอุฯ การตัดสินใจรวมราชสำนักและสำนักมกุฎราชมารเป็นองค์กรเดียวกันนั้น เป็นไปตามคำขอของมุกฎราชกุมารองค์ใหม่
ขณะเดียวกันบางสื่อในโลกอาหรับ เผยว่า บรรดาเจ้าแห่งราชวงศ์ซาอูดและลูกหลานของกษัตริย์จำนวนมาก ที่คัดค้านและไม่เห็นด้วยในคำสั่งใหม่ล่าสุดของ กษัตริย์ซัลมาน ที่มีพระราชโองการให้พวกเขาให้การสัตยาบันแก่ มกุฎราชกุมารและรัชทายาทองค์ใหม่

ผู้สังเกตการณ์บางคนเชื่อว่า คำสั่งดังกล่าว เพื่อที่จะควบคุมบุคคลในครอบครัวของแห่งราชองค์ซาอูด ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับตน ให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นความพยายามของกษัตริย์ ซัลมาน ในการกดดันกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตมกุฎราชมาร

ในการเปลี่ยนตำแหน่งมกุฎราชกุมารในครั้งนี้ กษัตริย์ ซัลมาน อ้างว่า ม็อคเรน เป็นผู้ประกาศความต้องการของตนที่จะถอนตัวจากการเป็นมกุฎราชกุมาร

นอกจากนั้นการที่ กษัตริย์ซัลมาน ได้แต่งตั้งลูกชายของตนเป็นตัวแทนของ (รอง) มกุฎราชกุมารคนต่อไป ซึ่งมีกระแสต่อต้านอย่างมากมาย โดยเฉพาะในหมู่สมาชิก สถาบันให้การสัตยาบัน (สภาบัยอะฮ์) ที่มาจากลูกหลานของราชวงศ์ซาอูด
ในการนี้ ฏอลาล บิน อับดุลอาซิส ออกมาตำหนิ กษัตริย์ ซัลมาน พี่ชายต่างมารดาของตน ว่าเป็นการปฏิบัติและการกระทำที่ขาดความรอบคอบ ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งและความวุ่นวายในการให้สัตยาบันในหมู่ลูกหลานของราชวงศ์ซาอูด

เขาได้โพสต์ลงในทวิตเตอร์ ว่า คำสั่งดังกล่าวไม่มีความสอดคล้องใดๆกับหลักศาสนบัญญัติของอิสลาม และระบบการเมืองการปกครองของประเทศของเรา ซึ่งการให้สัตยาบันและเคารพเชื่อฟังต่อพวกเขานั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่วาญิบ(บังคับ)เหนือผู้ใดทั้งสิ้น
เขาได้เสนอและเรียกร้องให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาในการทำร่างประชามติในเรื่องนี้ และย้ำว่า ควรเปิดการประชุมพิจารณา โดยมีการเชิญบรรดาลูกหลานของอับดุลอาซิส ลูกหลานของราชวงศ์ซาอูดบางกลุ่มที่เป็นสมาชิกของสภาบัยอัต สมาชิกสภาที่ปรึกษาบางคน นักการศาสนาบางคน และบุคคลที่เหมาะสมที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วน มาร่วมกันพิจารณาในประเด็นดังกล่าว
สินามิทางการเมืองและความมั่นคงในซาอุ
การตัดสินใจของกษัตริย์ในการรวมราชสำนักกับสำนักมกุฎราชมาร เป็นองค์กรเดียวกันนั้น เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ทีมีการประกาศเปลี่ยนแปลงและโยกย้ายตำแหน่งสำคัญๆในประเทศ อย่างไม่คาดฝัน เพื่อเสริมบารมีและอำนาจให้กับบุตรชายของเขา
กษัตริย์ ซัลมาน ได้ปลด เจ้าชาย ม็อคเรน บิน อับดุลอาซิส ออกจากตำแหน่ง มกุฎราชกุมาร รองประธานสภาชูรอคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ มุฮัมมัด บิน นาเยฟ ขึ้นเป็น มกุฎราชกุมารองค์ใหม่แทน
กษัตริย์ ซัลมาน ยังคงตำแหน่ง รัฐมนตรีกลาโหม ให้กับบุตรชายของตนเช่นเดิม ผู้สั่งการให้มีการโจมตีเยเมน อีกทั้งยังควบตำแหน่ง รองมกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและประธานสภากิจการเศรษฐกิจและการพัฒนา อีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มีการวิเคราะห์คาดการณ์ ว่าอาจเกิดการก่อรัฐประหารภายใน โดย มุฮัมมัด บิน ซัลมาน เพื่อยึดครองอำนาจที่เบ็ดเสร็จให้ตนเอง ก็เป็นได้

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในเรื่องของมกุฎราชกุมารเท่านั้น ทว่าเขาได้ปลด “ซะอูด อัล ไฟซอล” ออกจากตำแหน่งภายหลังการดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลาถึง 40 ปี และแต่งตั้ง “อัล ญุบัยร์ ” ทูตซาอุฯ ประจำสหรัฐฯขึ้นมาแทน
กษัตริย์ ซัลมาน ทรงปลดเจ้าชายคาลิด บิน บันดาร์ บิน อับดุล อาซิซ อัล-ซาอูด ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง และให้พลเอก คาลิด บิน อาลี อับดุลลาห์ อัล-ฮูไมดัน ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
ส่วนเจ้าชายบันดาร์ บิน สุลต่าน ทรงถูกปลดจากตำแหน่งเลขาธิการทั่วไปของสภาความมั่นคงแห่งชาติ และที่ปรึกษาของกษัตริย์ ซึ่งเจ้าชายบันดาร์ ทรงเคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐนานถึง 22 ปี ก่อนจะทรงย้ายไปดำรงตำแหน่งในสภาความมั่นคงแห่งซาอุดิอาระเบีย เมื่อปี 2548
แต่ประเด็นที่เขย่ารัฐบาลมากที่สุด คือ การปลดเจ้าชาย มิชาอัล ผู้ว่าการนครมักกะฮ์ และเจ้าชายตูร์กี ผู้ว่าการกรุงริยาด ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงเป็นพระโอรสของกษัตริย์อับดุลเลาะห์
หนังสือพิมพ์ “เราะยุลเยาม์” ได้ชี้ถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงล่าสุดในระบอบการปกครองของราชวงศ์ซะอูด และได้เขียนวิเคราะห์ว่า “คำสั่งต่างๆ ที่ออกโดยกษัตริย์ซัลมานนั้น คล้ายคลึงกับคำสั่งที่ ไฟซอล บินอับดุลอะซีซ พี่ชายของเขาได้ออกในปี 1965 ในการปลดกษัตริย์ซะอูด ผู้เป็นน้องชายของตน”
หนังสือพิมพ์นี้ได้เขียนต่อไปว่า “บางทีหากเราจะเรียกคำสั่งต่างๆ ที่ไม่คาดคิดที่ออกโดยกษัตริย์ซัลมาน บินอับดุลอะซีซ ว่าเป็น “รัฐประหาร ” ก็นับว่าไม่ได้พูดเกินจริง เขาได้ปลด “ม็อคเรน ” น้องชายต่างมารดาของตนออกจากการเป็นมกุฎราชกุมารหลังจากไม่กี่เดือน และได้แต่งตั้ง มุฮัมมัด บินนาเยฟ หลานชายคนแรกของอับดุลอะซีซ ผู้ก่อตั้งระบอบการปกครองของซาอุดิอาระเบียขึ้นแทนที่เขา และกษัตริย์ซัลมานได้แต่งตั้งลูกชายของตนเป็นรองมกุฎราชกุมาร”
เขาได้เปลี่ยน 9 รัฐมนตรี และ “คอลิด อัลตุวัยญะรี” อดีตหัวหน้าสำนักพระราชวังก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งตั้งแต่ก่อนที่พระศพของกษัตริย์องค์ก่อนจะถูกฝัง
“การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะหยุดลงเพียงแค่นี้ หรือจะยังคงดำเนินต่อไปอีกในอนาคต?
ปฏิกิริยาของเจ้าชายซาอุฯ คนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหลานของกษัตริย์ผู้ก่อตั้งประเทศซาอุดิอาระเบียที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเป็นอย่างไร?
ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามนี้ แต่อาจกล่าวได้ว่า สามารถคาดหมายได้เลยว่ากษัตริย์องค์ใหม่จะยังมีการตัดสินใจที่ชวนตกตลึงอื่นๆอีกอย่างแน่นอน”……….

PressTV-پس‌لرزه‌های تغییرات‌سیاسی در پادشاهی آل‌سعود

“สินามิทางการเมืองและความมั่นคง” ของซาอุดิอาระเบีย | abnewstoday