ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุฯ ส่ง “ทหารภาคพื้นดิน” รุกเข้าเมืองท่า "เอเดน" เป็นครั้งแรก
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 12:44 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – ทหารจากกลุ่มชาติพันธมิตรซาอุดีอาระเบียหลายสิบนายเดินทางเข้าไปยังเมืองท่าเอเดนของเยเมนเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ซึ่งถือปฏิบัติการภาคพื้นดินครั้งแรกนับตั้งแต่ซาอุฯ ได้เริ่มเปิดสงครามทางอากาศกับกบฏในเยเมนเมื่อปลายเดือนมีนาคม

    โฆษกกองกำลังพันธมิตรซาอุฯ ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การเคลื่อนพลภาคพื้นดินครั้งใหญ่เข้าไปในเยเมน และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับ “ปฏิบัติการซึ่งกำลังดำเนินอยู่”

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเยเมนและกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นยอมรับว่ามีทหารต่างชาติหลายสิบนายยกพลขึ้นบกที่เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ ขณะที่แหล่งข่าวบางรายระบุลึกลงไปอีกว่า กองกำลังเหล่านี้ถูกส่งมาเพื่อช่วยยึดคืนสนามบินนานาชาติเอเดนจากพวกกบฏฮูตี

    ด้านผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในเยเมนรายงานว่า พบเห็นชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหาร สวมหมวกกันกระสุน และถืออาวุธหนัก อยู่ภายในเขตสนามบินเอเดน

    “กองกำลังพันธมิตรจำนวนจำกัดได้เข้าสู่เมืองเอเดนแล้ว และยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินทางมา” เจ้าหน้าที่รัฐบาลในเมืองเอเดนให้สัมภาษณ์ โดยปฏิเสธที่จะเผยชื่อของตน

    ซาอุดีอาระเบียและประเทศพันธมิตรเกือบ 10 ชาติเริ่มส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มฐานที่มั่นของกบฏฮูตีนิกายชีอะห์ที่มีอิหร่านหนุนหลังอยู่ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. หลังจากกบฏกลุ่มนี้ได้บุกยึดกรุงซานาและพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ และกำลังรุกคืบมายังเมืองท่าเอเดน จนทำให้ประธานาธิบดี อับดุร-รับบูห์ มันซูร์ ฮาดี แห่งเยเมนต้องตัดสินใจหลบหนีออกนอกประเทศ

    ฮาดี หนีไปพึ่งใบบุญซาอุดีอาระเบีย ขณะที่กบฏฮูตีก็ผนึกกำลังกับหน่วยทหารเยเมนที่ยังคงภักดีต่ออดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ และปฏิเสธที่จะคืนดินแดนหรือวางอาวุธตามที่นานาชาติเรียกร้อง

    สมาชิกอาวุโสของ “คณะกรรมการประชาชน” ซึ่งจัดตั้งโดยกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นที่สนับสนุนฮาดี บอกกับเอเอฟพีว่า กองกำลังพันธมิตร “จะเริ่มช่วยเราสู้รบกับกบฏฮูตีและทหารของซาเลห์”

    สนามบินเมืองเอเดนถูกต่อสู้แย่งชิงจนเปลี่ยนมือมาแล้วหลายรอบ และเกิดการสู้รบอย่างรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2)

    แหล่งข่าวคนเดิมบอกว่า ทหารภาคพื้นดินจากพันธมิตรซาอุฯ จะช่วยสนับสนุนนักรบฝ่าย ฮาดี ให้ยึดสนามบินคืนจากพวกกบฏได้สำเร็จ ขณะที่ผู้บัญชาการกองกำลังท้องถิ่นคนอื่นๆ ก็ระบุตรงกันว่า มีทหารจากกองกำลังพันธมิตรหลายสิบนายเข้าไปยังเมืองเอเดน โดยส่วนใหญ่เป็นทหารซาอุฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เติบโตในเยเมน

    แหล่งข่าวทางทหารอีกคนบอกว่า มีทหารพันธมิตรราว 30 นายคอย “ให้คำปรึกษา” ในปฏิบัติการยึดคืนสนามบินเอเดน

    พลจัตวา อาเหม็ด อัสซิรี โฆษกกองกำลังพันธมิตรซาอุฯ ปฏิเสธข่าวการเคลื่อนพลครั้งใหญ่เข้าเมืองเอเดน โดยให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว อัล-เอคบาริยา ว่า “ผมขอยืนยันว่าไม่มีทหาร (พันธมิตร) เข้าไปในเมืองเอเดนเวลานี้” แต่ขณะเดียวกันก็ไปให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ อัล-ญาซีเราะห์ ว่า “เราพร้อมพิจารณาทุกทางเลือก”

    เจ้าหน้าที่ทหารฝ่าย ฮาดี ระบุว่า เครื่องบินรบของพันธมิตรซาอุฯ ได้ทิ้งระเบิดใส่ฐานที่มั่นของกบฏฮูตีรอบๆ สนามบินเอเดนเมื่อวานนี้ (3) ขณะที่แพทย์ในเมืองดังกล่าวรายงานยอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน บาดเจ็บ 65 คน ตั้งแต่ช่วงวันเสาร์(2) โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน

    ซาอุดีอาระเบียเคยประกาศเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ว่าจะยุติโจมตีทางอากาศในเยเมน เพื่อก้าวสู่ขั้นตอนใหม่ที่เรียกว่าแผน “ฟื้นความหวัง” (Renewal of Hope) โดยจะเน้นไปที่การเจรจาทางการเมือง ส่งความช่วยเหลือ และต่อสู้กลุ่มก่อการร้าย

    อย่างไรก็ตาม การทิ้งระเบิดไม่ได้ยุติลงตามที่อ้าง ซึ่งทำให้ปฏิบัติการของริยาดในเยเมนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเยเมนก็เพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,200 คน บาดเจ็บอีกหลายพันคนตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นมา

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050744
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮิวแมนไรต์วอตช์แฉสหรัฐฯ ส่ง “ระเบิดดาวกระจาย” ให้ซาอุฯ ใช้บอมบ์ “เยเมน”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 08:54 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2558 09:00 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี – องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์วอตช์ออกมากล่าวหาวานนี้ (3 พ.ค.) ว่า ซาอุดีอาระเบีย และ ชาติพันธมิตร นำ “ระเบิดดาวกระจาย” (cluster bombs) ที่ได้จากสหรัฐฯ ไปใช้ถล่มกบฏฮูตีในเยเมน พร้อมเตือนถึงอันตรายใหญ่หลวงที่จะเกิดต่อพลเรือนเยเมนในระยะยาว

    กว่า 100 ประเทศทั่วโลกได้ลงนามในอนุสัญญาต่อต้านการใช้ระเบิดชนิดนี้ ซึ่งเมื่อยิงออกไปแล้วจะแตกออกเป็นระเบิดขนาดเล็กหลายสิบลูก บางลูกที่ไม่ทำงานทันทีอาจฝังอยู่ในดินต่อไปอีกเป็นเวลานาน กลายเป็นภัยต่อชาวบ้านที่อาจเดินไปเหยียบจนถึงแก่ความตาย หรือไม่ก็พิกลพิการ

    วอชิงตันออกมาแก้ต่างเรื่องนี้ โดยชี้ว่าระเบิดดาวกระจายที่สหรัฐฯ ส่งออกจะต้องถูกนำไปใช้ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด

    “ผู้ที่ได้รับระเบิดชนิดนี้ไปจะต้องรับปากว่าจะนำมันไปใช้ต่อเป้าหมายทางทหารที่ชัดเจน ไม่ใช้ในเขตที่มีพลเรือน หรือพื้นที่ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีพลเรือนเข้าไปอาศัยอยู่” เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี

    “นี่คือเงื่อนไขที่สำคัญยิ่งในนโยบายของเรา”

    ฮิวแมนไรต์วอตช์ ได้รวบรวมภาพถ่าย คลิปวิดีโอ และหลักฐานอื่นๆ ที่ล้วนบ่งชี้ว่า มีการใช้ระเบิดดาวกระจายในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกบฏฮูตีนิกายชีอะห์ในจังหวัดซาดา ซึ่งอยู่ในเขตเทือกเขาทางตอนเหนือของเยเมน ในช่วงหลายสัปดาห์มานี้

    จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียม ฮิวแมนไรต์วอตช์ พบว่า ระเบิดเหล่านี้ไปตกในที่ราบสูงแห่งหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตร ห่างจากย่านชุมชนไม่เกิน 600 เมตร

    อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ระเบิดดาวกระจายปี 2008 มีภาคีร่วมลงนามแล้วทั้งสิ้น 116 ชาติ แต่สหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย และประเทศพันธมิตรที่ผนึกกำลังทิ้งบอมบ์เยเมนไม่ได้เข้าร่วม

    “ระเบิดดาวกระจายที่ใช้ในปฏิบัติการโจมตีของซาอุดีอาระเบียไปตกใกล้ๆ หมู่บ้าน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อคนในท้องถิ่น” สตีฟ กูส ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุธของฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุ พร้อมชี้ว่า ริยาดกับชาติพันธมิตร รวมถึงสหรัฐฯ ที่เป็นผู้จัดส่งระเบิดให้ กำลังฝ่าฝืนมาตรฐานนานาชาติที่ไม่ยอมรับการใช้อาวุธซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อประชาชนในระยะยาวเช่นนี้

    ซาอุดีอาระเบียเริ่มส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีเยเมนเมื่อวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นกองทัพก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีการใช้ระเบิดดาวกระจาย

    “เราไม่ได้ใช้ระเบิดดาวกระจายแน่นอน” พลจัตวา อาเหม็ด อัล-อัสซิรี แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงริยาด

    ฮิวแมนไรต์วอตช์ ชี้ว่า ระเบิดที่ใช้ในเยเมนดูเหมือนจะเป็นรุ่น CBU-105 ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับเป้าหมาย ผลิตโดยบริษัท เท็กซ์ตรอน ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชัน และมีการส่งขายให้แก่กองทัพซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    ระเบิดชนิดนี้แม้ถูกห้ามโดยอนุสัญญาระเบิดดาวกระจาย แต่วอชิงตันยังคงใช้งานและส่งออกไปยังประเทศพันธมิตร เนื่องจากอ้างว่ามีอัตราการ “ไม่ระเบิดและเหลือตกค้าง” (unexploded ordnance rate) ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์

    ฮิวแมนไรต์วอตช์ เรียกร้องให้มีการอุดช่องโหว่ดังกล่าว และขอให้สหรัฐฯ หยุดจัดส่งอาวุธร้ายแรงชนิดนี้ทันที

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050646
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิหร่าน-ตุรกี จับมือใช้เงินสกุลท้องถิ่นเป็นสื่อกลางค้าขายระหว่างกัน เลิกง้อดอลลาร์-ยูโร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 04:43 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2558 08:52 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - อิหร่านเตรียมจับมือตุรกีเดินหน้าแผนใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขายทวิภาคี ระหว่างทั้งสองชาติ แทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯและเงินยูโรเป็นสื่อกลาง

    ญาลาล เอบราฮิมี ประธานสภาการค้าร่วมอิหร่าน - ตุรกี ออกมาเปิดเผยว่า แนวคิดการใช้เงินสกุลริอัล และ ลีรา เป็นสื่อกลางในการค้าขายระหว่างประเทศทั้งสองถูกหยิบยกมาพูดคุยกันเมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างการเดินทางเยือนกรุงเตหะรานของประธานาธิบดี เรเซป ทายยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขจัดอุปสรรคและส่งเสริมการค้า

    ประธานสภาการค้าร่วมอิหร่าน - ตุรกี เผยว่า ขณะนี้มีการบรรลุข้อตกลงในเรื่องดังกล่าวระหว่างรัฐบาลของอิหร่านและตุรกีแล้ว และคาดว่า จะเริ่มการใช้เงินสกุลท้องถิ่นเป็นสื่อกลางในการค้าระหว่างกันได้ภายในปีนี้

    ก่อนหน้านี้ อิหร่านได้บรรลุข้อตกลงแบบเดียวกันนี้กับรัสเซียมาแล้ว ซึ่งมีผลให้มีการใช้เงินรูเบิลและ เงินริอัล เป็นสื่อกลางในการค้าขายระหว่างกัน


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกสะพรึง โสมแดงย้ำจะส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรเพิ่มขึ้น
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2558 16:17 น. (แก้ไขล่าสุด 3 พฤษภาคม 2558 19:52 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - สื่อโสมแดงรายงานในวันอาทิตย์ (3 พ.ค.) ว่าผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ให้คำมั่นจะส่งดาวเทียมขึ้นไปในอวกาศให้มากขึ้น เพื่อมุ่งจะเป็นมหาอำนาจในด้านอวกาศ แม้ว่าทั่วโลกจะพากันประณามการส่งดาวเทียมในครั้งก่อนๆ เพราะเชื่อว่าอันที่จริงแล้วเป็นการแอบทดสอบขีปนาวุธระยะไกล

    สำนักข่าว เคซีเอ็นเอ รายงานว่า ในระหว่างการเยือนศูนย์บัญชาการดาวเทียมที่สร้างขึ้นมาใหม่ คิม จองอึน ได้เรียกร้องให้บรรดานักวิทยาศาสตร์ทำงานให้หนักขึ้น เพื่อนำพาเกาหลีเหนือไปสู่การเป็นมหาอำนาจด้านอวกาศ

    มีการรายงานคำพูดของคิม ที่ระบุว่า สถานภาพของเกาหลีเหนือในการเป็นผู้ผลิตและส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้บรรดากองกำลังที่เป็นปฏิปักษ์จะไม่เห็นดีเห็นงามด้วย แต่การพัฒนาด้านอวกาศจะไม่มีวันถูกทอดทิ้ง ไม่ว่าจะมีใครต่อต้านก็ตาม

    ศูนย์บัญชาการดาวเทียมแห่งใหม่ที่มีขนาด 13,770 ตารางเมตร จะถูกใช้ฐานสำคัญในการส่งดาวเทียมหลากหลายรูปแบบขึ้นไปทำงานบนอวกาศ

    สื่อโสมแดงระบุว่า จะมีการส่งดาวเทียมไปสู่นอกอวกาศเพิ่มมากขึ้นตามเวลาและสถานที่ซึ่งถูกกำหนดโดยพรรคแรงงาน โดยทางผู้นำคิมบอกด้วยว่า โครงการพวกนี้สามารถทำได้ตามสิทธิที่ถูกต้องตามกฏหมาย

    ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2012 เกาหลีเหนือได้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร โดยอธิบายว่าเป็นโครงการวิทยาศาสตร์เพื่อสันติล้วนๆ

    อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติได้ประณามความเคลื่อนไหวครั้งนั้น ว่าเป็นการแอบทดสอบขีปนาวุธระยะไกล ซึ่งเป็นข้อห้ามตามมติของสหประชาชาติ อันเกิดจากการทดสอบนิวเคลียร์ในปี 2006 และ 2009 ของเกาหลีเหนือ

    โสมแดง ไม่พอใจสำหรับการคว่ำบาตรของยูเอ็น หลังการส่งดาวเทียมครั้งนั้น จึงได้ดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่สามในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2013

    ในปี 2012 การส่งดาวเทียมขึ้นฟ้าของเกาหลีเหนือถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดง ซึ่งก่อนหน้านั้นมักจะถูกมองว่าขาดศักยภาพในการยิงขีปนาวุธระยะไกล

    ไม่ค่อยมีข้อสงสัยกันสักเท่าไหร่ ถึงเรื่องที่ว่าเกาหลีเหนือดำเนินโครงการพัฒนาขีปนาวุธระยะไกลหรือไม่ ความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญนั้นหันไปถกกันในเรื่องที่ว่า คืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหนแล้วต่างหาก

    นักวิเคราะห์ บอกว่า การพัฒนาที่กำลังดำเนินการอยู่ กับศักยภาพในเรื่องขีปนาวุธระยะไกลที่กำลังเข้าใกล้ระดับเดียวกับสหรัฐฯ จะเท่ากับว่า การเตือนภัยเรื่องการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือจะต้องจริงจังมากยิ่งขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับใช้ในขีปนาวุธข้ามทวีปที่มีประสิทธิภาพ


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050483
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics :จับประท้วงฝ่าเคอร์ฟิวคืนที่ 5 หลังอัยการสหรัฐฯแถลงฟ้าผ่า “สั่งจับ 6 ตำรวจบัลติมอร์ยัดข้อหาผิวสีวัย 25” ที่คอหักตายหลังถูกจับ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2558 17:28 น. (แก้ไขล่าสุด 3 พฤษภาคม 2558 17:32 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ / ASTVผู้จัดการออนไลน์ – หลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจลครั้งใหญ่ในบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ มีการจับกุมผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งที่ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิวที่ยังประกาศใช้เพื่อรักษาความสงบในคืนที่ 5 หลังจากในวันศุกร์(1) แมริลีน มอสบี วัย 35 ปี อัยการรัฐบัลติมอร์ออกแถลงการจับกุมตัวตำรวจบัลติมอร์ทั้ง 6 นายที่ปฎิบัติหน้าที่ในขณะเกิดเหตุ โดยเธอระบุว่า เป็นการยัดข้อกล่าวหาให้กับเฟรดดี เกรย์ ชาวบัลติมอร์ หนุ่มแอฟริกันอเมริกันวัย 25 ปี ที่เป็นผู้บริสุทธิ แต่ต้องถูกไล่จับกุมด้วยข้อหาพกพามีดพับ ซึ่งไม่ผิดตามกฎหมายรัฐ แต่เกรย์กลับเสียชีวิตในอีก 1 สัปดาห์หลังจากอยู่ในรถตู้ตำรวจนาน 45 นาทีด้วยอาการกระดูกต้นคอหัก

    NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานวันนี้(3)ว่า ในคืนที่ 5 หลังจากการประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกจากเคหาในเวลาหลังจาก 22.00 น.ในบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ที่คำสั่งนี้จะมีผลจนถึงวันอังคารนี้(5) มีการจับกุมผู้ฝ่าฝืนจำนวนหนึ่ง แต่ทว่าตำรวจบัลติมอร์ยังไม่เปิดเผยตัวเลขของผู้ที่ถูกจับ ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการเดินขบวนอย่างสงบเพื่อแสดงความยินดีต่อการที่อัยการรัฐแมรีแลนด์ แมริลีน มอสบี วัย 35 ปี ได้ออกแถลงการณ์ประกาศตั้งข้อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจบัลติมอร์ที่ปฎิบัติหน้าที่ในการจับกุมเฟรดดี เกรย์ หนุ่มผิวสีในพื้นที่วัย 25 ปี และต่อมาอีก 1 สัปดาห์หลังจากนั้นเกรย์เสียชีวิตในขณะที่อยู่ในโคม่าด้วยอาการกระดูกต้นคอหัก ซึ่งมอสบีชี้ว่า การเสียชีวิตของมอสบี “เป็นการฆาตกรรม”

    สื่อสหรัฐฯยังรายงานเพิ่มเติมว่า มีพยานเห็นว่ามีผู้หญิงอย่างน้อย 3 คน และผู้ชายอีกจำนวน 2 คนถูกจับกุมนำขึ้นรถตู้ตำรวจท้องที่ถนนเพนซิลวาเนีย และถนนอร์ทเอเวนิว ใกล้กับร้านขายยาที่มีสาขาทั่วสหรัฐฯ CVS ที่ถูกเผาในการจลาจลวันจันทร์(27)

    นอกจากนี้ยังพบตำรวจบัลติมอร์กำลังลากตัวชายผู้หนึ่งหลังจากเขาถูกจับในเวลาหลัง 22.00 น.ไปเล็กน้อย รวมไปถึงตำรวจได้ใช้สเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วงที่ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกบ้าน

    ซึ่งในเวลา 23.00 น.NBC News รายงานว่าแยกถนนเพนซิลวาเนียและถนนนอร์ทเอเวนิวว่างเปล่า

    ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนรัฐแมรีแลนด์ The American Civil Liberties Union of Maryland ได้ออกแถลงการณ์ในวันเสาร์(2) เรียกร้องให้มีการยกเลิกประกาศใช้เคอร์ฟิว พร้อมประกาศว่า การคงอยู่ของมาตรการห้ามออกนอกบ้านไม่ต่างอะไรกับการไม่ให้ใช้สิทธิประชาชนสหรัฐฯข้อ 1ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอเมริกาที่อนุญาตให้สามารถชุมนุมได้อย่างสันติ

    ทั้งนี้ในคำแถลงของมอสบีในการตั้งหมายจับตำรวจบัลติมอร์ทั้ง 6 นายนั้น เธอระบุว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้ประมาทขั้นร้ายแรงจนทำให้เกรย์อยู่ในอาการโคม่า และทำให้เสียชีวิตเวลาต่อมา ซึ่งตำรวจที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาได้รับการประกัน และถูกปล่อยตัวในบ่ายวันศุกร์(1)

    และในคำแถลงการณ์ยังระบุว่า ตามกฎหมายของรัฐบัลติมอร์ อนุญาตให้พกพามีดพับแบบธรรมดาได้หากเพราะไม่ใช่มีดพกแบบสปริงที่ใบมีดออกมาโดยอัตโนมัติ และการบาดเจ็บของเกรย์ที่เกิดจากระดูกคอร้าว และทำให้เกรย์โคม่าและเสียชีวิต ซึ่งในระหว่างการจับกุมที่ข้างถนน เกรย์ได้ร้องว่า “หายใจไม่ออก” และขอความช่วยเหลือ และในขณะที่ถูกนำตัวขึ้นรถตู้นั้นมีภาพปรากฎว่าหัวของเขาชนกับขอบประตูรถตู้ก่อนเดินเข้าไป และเกรย์สามารถใช้ขาเพียงข้างเดียวในขณะที่เดินเข้าไปเนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังในระหว่างการจับกุม

    และในคำแถลงการณ์ของอัยการรัฐแมรีแลนด์ ระบุว่าเกรย์ได้ร้องขอความช่วยเหลือทางด้านการแพทย์อีกหลังจากนั้น แต่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่เพิกเฉย นอกจากนี้ในระหว่างการเดินทางไปยังสถานีตำรวจเพื่อนำตัวไปฝากขังนั้น ได้พบว่าในรายงานการจับกุมได้มีการปกปิดการจอดรถนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้

    และมอสบียังแถลงต่อว่า การเสียชีวิตของเกรย์เกิดขึ้นมาจากการที่เขาถูกใส่กุญแจมือ และกุญแจล่ามเท้า รวมไปถึงการที่นำตัวเข้าไปในรถตู้และไม่รัดเข็มขัดนิรภัยให้กับเกรย์ในระหว่างการเดินทาง ซึ่งเกรย์ถูกพบหมดสติหลังจากรถตู้เดินทางไปถึงสถานีตำรวจ ซึ่งใช้เวลาราว 45 นาที และมีอาการหัวใจหยุดเต้นในเวลาต่อมา ก่อนที่จะมีอาการโคม่าและเสียชีวิตในอีก 1 สัปดาห์หลังจากนั้น

    ทั้งนี้มีหลายฝ่ายในสหรัฐฯเห็นว่า ตำรวจสหรัฐฯมีปัญหาในการใช้อำนาจในการจับกุมผู้ต้องสงสัย และมีกฎหมายปกป้องเจ้าหน้าที่ซึ่งเห็นชอบให้ใช้กำลังตามดุลย์พินิจ เช่น สามารถยิงผู้ที่กำลังถูกจับกุมได้ถึงแม้จะมีมีดปอกผลไม้เพียงเล่มเดียวหากคิดว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอาวุธปืนคิดว่าตนเองมีภัยถึงแก่ชีวิต

    นอกจากนี้ชุมชนแอฟริกันอเมริกันในสหรัฐฯให้ความเห็นว่า เกรย์จะไม่เสียชีวิตหากตำรวจสหรัฐฯปฎิบัติกับเกรย์เฉกเช่น "ปฎิบัติกับเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง" และให้การช่วยเหลือด้านการแพทย์ทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050510
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปชป.จี้รัฐทบทวนเก็บภาษี LPG ขนส่งเท่าดีเซล ซัดฆ่าเจ้าของปั๊มชัดๆ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 13:09 น. (แก้ไขล่าสุด 4 พฤษภาคม 2558 14:01 น.)

    [​IMG]

    อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์ นำเจ้าของปั๊มแอลพีจี แถลงจี้ทบทวน หลัง อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เสนอเก็บภาษีภาคขนส่งให้ใกล้กับดีเซล ขึ้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้ง และภาษีรถที่ติดแก๊ส ซัดฆ่าผู้ประกอบการทำปิดกิจการแน่ เตรียมร้องเรียนต่อ

    วันนี้ (4 พ.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการสถานีบริการแก๊สแอลพีจี และในนามประชาชนผู้ใช้แก๊สแอลพีจี ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายที่ นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิวัฒน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ออกมาเสนอมาตรการเก็บภาษีทั้งระบบของแอลพีจีภาคขนส่งให้เทียบเคียงกับน้ำมันดีเซล คือ ลิตรละ 4 - 5 บาท ขึ้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สและภาษีรถยนต์ที่ติดตั้งแก๊สแอลพีจี

    “เป็นแนวทางที่ไร้ธรรมาภิบาลไม่อาจยอมรับได้ เพราะภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประชาชนต้องดิ้นรนเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้วยการใช้แอลพีจีเป็นที่พึ่งของคนมีรายได้น้อย การประกาศเช่นนี้ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นแนวทางจ้องทำร้ายประชาชนอย่างไม่น่าให้อภัย” นายวัชระ กล่าว

    นายวัชระ กล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการแก๊สแอลพีจีเป็นประชาชนที่เสียภาษีถูกต้องมิใช่มิจฉาชีพ มีภาระเลี้ยงครอบครัว การที่อธิบดีออกมาเสนอเช่นนี้จะเป็นการฆ่าผู้ประกอบการ ส่งผลให้ต้องปิดกิจการอย่างแน่นอน ดังนั้น ในฐานะผู้ประกอบการ และผู้ใช้แก๊สแอลพีจี ขอประกาศจุดยืนคัดค้านกรณีดังกล่าวถึงที่สุด ถ้ายังดึงดันผู้ประกอบการ และผู้ใช้แก๊สแอลพีจีจะรวบรวมรายชื่อ 5 หมื่นรายชื่อ เพื่อร้องเรียนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี และร้องต่อศาลยุติธรรมต่อไป

    “การขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิต ก๊าซแอลจึพี เพื่อให้เท่ากับเชื้อเพลิงชนิดอื่นขึ้นภาษีอุปกรณ์ติดตั้ง ขึ้นภาษีรถยนต์ใช้ก๊าซแอลพีจี ควบคุมการตั้งปั๊มใหม่ เป็นนโยบายที่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการกับประชาชน ทั้งที่ปริมาณการใช้สูงที่สุด คือ ปิโตรเคมี ทำให้ก๊าซไม่เพียงพอจนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ จึงอยากให้รัฐฟังเสียงประชาชน โดยยุติการขึ้นภาษีสรรพสามิตดังกล่าวที่จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และที่นายวิฑูรย์แนะนำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนอาชีพไปขายเต้าฮวย ก็ขอแนะนำให้รัฐมนตรีเรียกตัวนายวิฑูรย์ไปปรับทัศนคติด้วย” นายวัชระ กล่าว

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050760
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2015
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อวยชัย กุลพงษ์

    จับตา ! ภูเขาไฟเกาะอันดามันปะทุ ห่างจาก ระนอง 700 กม.
    4 พ.ค. 58 11.51 น. | Matichon สนับสนุนเนื้อหา

    [​IMG]

    นักวิชาการเตือนอย่าตื่นตระหนก โลกโซเชียลโพสต์ "ภูเขาไฟเกาะบาร์เรน" ปะทุ ห่างจ.ระนองแค่ 800 กม. เผยไทยเสี่ยงเจอสึนามิ แนะหน่วยงานวางแผนรับมือ หวั่นเป็นวัวหายล้อมคอก

    [​IMG]

    จับตา ! ภูเขาไฟเกาะอันดามันปะทุ ห่างจาก ระนอง 700 กม.
    นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

    นักวิชาการเตือนอย่าตื่นตระหนก โลกโซเชียลโพสต์ "ภูเขาไฟเกาะบาร์เรน" ปะทุ ห่างจ.ระนองแค่ 800 กม. เผยไทยเสี่ยงเจอสึนามิ แนะหน่วยงานวางแผนรับมือ หวั่นเป็นวัวหายล้อมคอก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงกรณีการโพสต์ข้อความในโลกสังคมออนไลน์ ระบุว่าภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรน ในมหาสมุทรอินเดีย เยื้องๆ กับ จ.ระนอง ของประเทศไทย มีควัน (ขี้เถ้า) พุ่งขึ้นมาสูง 3 กิโลเมตร ในช่วงระหว่างวันที่ 22-28 เมษายน ปรากฏการณ์นี้เป็นปฏิกิริยาเปลือกโลกใกล้ประเทศไทย หากเกิดการระเบิดรุนแรงในอนาคต สึนามิย่อมมากระทบชายฝั่งไทยทางตะวันตกและพม่าแน่นอน

    เรื่องนี้ รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐานผืนแผ่นดินของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า จากการติดตามภูเขาไฟบนเกาะบาร์เรน พบว่ามีการปะทุจริง แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะรุนแรงหรือไม่ สมาคมธรณีวิทยาในประเทศอังกฤษประกาศว่าไม่น่าจะเกิดสึนามิ เนื่องจากปัจจัยการเกิดจะต้องมีการปะทุของภูเขาไฟรุนแรง การเขย่ารุนแรง การระเบิดไม่ได้การันตีว่าจะระเบิดขนาดใหญ่หรือจะเกิดสึนามิเสมอไป จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตูม แต่ขอให้เตรียมตัว ดูแลเครื่องมือวัดกระแสน้ำให้ทำงานได้ปกติ

    "ไม่อยากคิดว่าจะเกิดสึนามิ แต่ไม่อยากให้เป็นวัวหายล้อมคอก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนเตรียมความพร้อม ระแวดระวัง เพราะตามปกติหากเกิดภูเขาไฟระเบิดหรือแผ่นดินไหวในบริเวณหมู่เกาะอันดามัน หรือ นิโคบาร์ อันเนื่องมาจากการยุบตัวของแผ่นเปลือกโลก ประเทศไทยมีเวลาเพียง 45 นาที ในการไหวตัวหรืออพยพคนไปอยู่ในที่ปลอดภัย หากเกิดสึนามิจริง แนวโน้มการปะทะจะเข้ามาในแนวพื้นที่เดิมเมื่อ 10 ปีก่อน หรือปี 2547 อาทิ จ.ภูเก็ต, จ.พังงา, จ.กระบี่, จ.ตรัง ฯลฯ แต่จะมากจะน้อยต่างกันเท่านั้น" รศ.ดร.ปัญญากล่าว

    ทั้งนี้ ไม่ได้บอกว่าจะเกิดสึนามิ แต่เชื่อว่ามีแนวโน้ม ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเตรียมตัว ทั้งป้ายบอกทาง ที่หลบภัย รวมไปถึงอุปกรณ์ตรวจวัดระดับน้ำทะเลให้ทำงานเป็นปกติ และต้องบอกประชาชนให้เข้าใจว่าไทยมีเครื่องมือแจ้งหากเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตื่นตกใจ

    รศ.ดร.ปัญญา กล่าวอีกว่า หากถามว่าเป็นผลพวงมาจากการเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลหรือไม่นั้น ตอบได้ว่าทั้งสองพื้นที่อยู่ในแผ่นเปลือกโลกเดียวกัน ดังนั้นมีโอกาสได้ทั้งนั้น

    รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) กล่าวว่า เกาะบาร์เรนอยู่ในหมู่เกาะอันดามัน ห่างจากประเทศไทยประมาณ 700-800 กิโลเมตร ไม่ทราบข้อมูล แต่คิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน

    รศ.ดร. เป็นหนึ่ง กล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 มีนักวิชาการจำนวนมากให้ข้อมูลและเกิดการถกเถียงกันในเรื่องของเหล่งกำเนิดสึนามิในครั้งต่อไป มีผลสรุปที่คล้ายกันคือ การเกิดสึนามิทางฝั่งทะเลอันดามันจะเกิดในลักษณะเดิม คือการที่แนวรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกเลื่อน โดยกลไกมีการขยับตัวของแผ่นเปลือกโลกอินเดีย (Indian Plate) ที่มุดใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย (Eurasian Plate) แบบเดียวกับเมื่อครั้งที่แล้ว ทั้งนี้รอยต่อของเปลือกโลก 2 แผ่นนี้ยาว ความเสี่ยงจะเกิดสึนามิ คือการเกิดการไถลตัวของแผ่นเปลือกโลกบริเวณหมู่เกาะอันดามันจนถึงบริเวณฝั่งตะวันตกของพม่า

    "เท่าที่ทราบไม่มีการพูดถึงภูเขาไฟระเบิด เนื่องจากไม่ใช่แหล่งกำเนิดหรือมีกลไก ทำให้เกิดสึนามิได้ยาก เพราะต้องเกิดการระเบิดรุนแรงมาก ในอดีตเคยมีกรณีภูเขาไฟกรากะตัวในอินโดนีเซียระเบิดรุนแรงมากจนเกิดสึนามิ" รศ.ดร.เป็นหนึ่งกล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจาก VolcanoDiscovery: volcanoes worldwide - news, info, photos, and tours to volcanoes and volcanic areas, earthquake information ระบุว่า เกาะบาร์เรนเป็นภูเขาไฟที่เกิดการปะทุครั้งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2005-2006 และเกิดการปะทุครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 และเป็นภูเขาไฟที่สามารถระเบิดได้

    จับตา ! ภูเขาไฟเกาะอันดามันปะทุ ห่างจาก ระนอง 700 กม.
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อวยชัย กุลพงษ์

    ชาวเมืองคอนผวาโรคร้าย มือมืดลอบทิ้งขยะติดเชื้อ

    [​IMG]

    ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยเหมพงศ์ เมืองนครศรีธรรมราช ร้องผ่านผู้สื่อข่าว หลังพบขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลถูกนำมาทิ้งไว้จำนวนมาก เคยแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กลับไม่ได้รับการเหลียวแลเข้ามาตรวจสอบ หวั่นเชื้อโรคร้ายจะแพร่กระจายสู่ประชาชนในพื้นที่ วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:38 น.

    เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยเหมพงศ์ หมู่ 2 ต ท่าซัก อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ว่า พบขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลถูกนำมาทิ้งที่บริเวณกองขยะในซอยดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าในซอยดังกล่าวยังเป็นถนนดินลูกรัง โดยที่ป่าละเมาะริมทางซึ่งเป็นกองขยะเก่า พบการลักลอบนำขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาลใส่ลังกระดาษสำหรับใส่เครื่องใช้ไฟฟ้ามาทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งถุงเลือด ถุงน้ำดี น้ำฟอกไต หลอดเลือดที่มีเลือดอยู่ในหลอดเล็กน้อย ผ้าก๊อซเปื้อนเลือด รวมถึงหน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อ

    จากการสอบถามชาวบ้านระบุว่า ไม่ทราบว่าใครนำขยะเหล่านี้มาทิ้ง แต่มีผู้พบเห็นเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้เคยแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาช่วยตรวจสอบ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานใด ในขณะเดียวกันก็ยังมีการนำขยะติดเชื้อมาลักลอบทิ้งเพิ่มเติมเรื่อยๆ ชาวบ้านจึงเกรงว่าเชื้อโรคร้ายอาจจะแพร่กระจายในพื้นที่ จนเป็นอันตรายแก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน น้ำจากขยะปนเปื้อนดังกล่าวอาจจะไหลลงคลองท่าซัก ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งลำคลองสายนี้เป็นเสมือนสายเลือด จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และนำขยะติดเชื้อดังกล่าวไปกำจัดด้วยวิธีการที่ถูกต้องโดยเร็ว.


    ชาวเมืองคอนผวาโรคร้าย มือมืดลอบทิ้งขยะติดเชื้อ | เดลินิวส์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kitti Light

    แผ่นดินไหวถี่ขึ้นเพราะอะไร : รายงานพิเศษ วันที่ 4 พ.ค. 2558 เวลา 07:16 น.

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งโลกต่างสะเทือนใจกับโศกนาฎกรรม แผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.8 ที่ประเทศเนปาล ส่งผลให้เกิดความสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินมหาศาล อย่างไม่สามารถประเมินค่าได้ ซึ่งเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา

    จากการรวบรวมสถานการณ์แผ่นดินไหวทั่วโลก เราจะพบว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นทุกปี โดยเกิดกระจายตัวในหลาย พื้นที่ทั่วโลก ไม่ได้จำกัดเฉพาะพื้นที่บริเวณรอยต่อของเปลือกโลก หรือ วงแหวนแห่งไฟเท่านั้น

    ที่สำคัญแผ่นดินไหวบางจุดที่เกิดนอกแนวพื้นที่เสี่ยง ก็สามารถมีความรุนแรงได้ไม่แพ้กัน อย่างที่จีน ในปี 2008 เกิดแผ่นดินไหวบนแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย มีความรุนแรง ขนาด 9.0 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 90,000 คน หรือเหตุแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 มีความรุนแรงขนาด 9.0 เกิดคลื่นสึนามิพัดเข้าชายฝั่ง ผู้คนเสียชีวิตมากกว่า 16,000 คน

    แต่เป็นเพราะเหตุผลอะไร ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวแบบกระจายตัวในหลายพื้นที่ทั่วโลก ไม่ใช่แค่วงแหวนแห่งไฟ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลว่า แผ่นเปลือกโลกนั้นเชื่อมต่อกัน เมื่อมีการขยับของแผ่นเปลือกโลกแผ่นหนึ่ง ก็ย่อมส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ต่อพื้นที่ใกล้เคียง จนเกิดพลังงานสะสม และปลดปล่อยพลังงานออกมาเป็นแผ่นดินไหว

    นอกจากนั้น ศ.ดร. ธนวัฒน์ ได้ให้ความเห็นอีกว่า นักวิทยาศาสตาสตร์ และ นักธรณีวิทยา ทั่วโลกยังคงจับตาว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิด แผ่นดินไหวบ่อยขึ้น เป็นผลพวงมาจาก แกนโลกที่ขยับเอียงเรื่อยๆ โดยปกติโลกจะทำมุมเอียง 23.5 องศาอยู่แล้ว จนทำให้เกิดฤดูกาลต่างๆขึ้นบนโลกใบนี้

    แต่ที่น่าวิตก คือ นักวิทยาศาตร์บางส่วน เชื่อว่า แกนโลกซึ่งกำลังเอียงเพิ่มขึ้น ใน วงรอบ 4 หมื่น 1 พันปี กำลังส่งผล ต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศให้มีความหนาวเหน็บ และการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก จนกระทบกับมนุษย์

    ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ดูเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากกลไกทางธรรมชาติ ที่ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง จากยุคปัจจุบันเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติเหล่านี้ จะปะทุขึ้นช้าเร็ว ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับน้ำมือของมนุษย์ ว่าพวกเราจะช่วยกันรักษา หรือทำลายโลกใบนี้

    ข่าวแผ่นดินไหวถี่ขึ้นเพราะอะไร : รายงานพิเศษ
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    3 พ.ค. ห้ามเปิด! 'ดีเอสไอ'เตือนอีเมลไวรัสคอมฯเรียกค่าไถ่ระบาดหนัก

    [​IMG]

    ดีเอสไอ เตือน อีเมลไวรัสคอมฯ ตัวใหม่ระบาดหนัก หากเปิด-ติดตั้ง เปรียบเสมือนถูกเรียกค่าไถ ต้องจ่ายค่าปลดล็อก 20,000 บาท

    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. สำนักเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีหนังสือแจ้งเตือนแก่เจ้าหน้าที่ภายในดีเอสไอ เรื่องการเปิดอ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ลงวันที่ 29 เม.ย. 58 ซึ่งจะทำให้ติดไวรัสคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ โดยไวรัสชนิดนี้จะส่งผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล) ซึ่งหากกดเปิดอีเมล์ดังกล่าวไวรัสจะสามารถผ่านเข้าไปในระบบ และส่งผลให้ไม่สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และค้นหาไฟล์ต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้คอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสดังกล่าวจะเหมือนถูกเรียกค่าไถ โดยต้องจ่ายเงินกว่า 20,000 บาท เพื่อรับรหัสสำหรับการถอดข้อมูล

    ทั้งนี้ดีเอสไอ แจ้งเตือนว่า อีเมล์ไวรัสดังกล่าวจะมีลักษณะพฤติกรรมคือ จะส่งอีเมลให้กับเป้าหมายพร้อมแนบไฟล์ Attachment โดยไฟล์ที่แนบจะเป็นไฟล์นามสกุล เช่น .pdf, .xls, .ppt, .txt, .py, .wb2, .jpg, .odb, .dbf, .md, .js, .pl, และ .doc เป็นต้น โดยหัวข้อการส่งอีเมล์จะมีคำว่า account หรือ suspended หรือ locked ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีความเกี่ยวข้องด้านการเงิน การสั่งซื้อสินค้า หรือบัญชีธนาคาร พร้อมระบุเนื้อหาของอีเมล์ว่าขอให้เปิดไฟล์ที่แนบไปกับอีเมล์ ซึ่งหากเปิดไฟล์จะทำให้ติดมัลแวร์หรือไวรัสทันที โดยเป็นไวรัสชนิดนี้มีจุดประสงค์ในการเข้ารหัสลับไฟล์เอกสารประเภทต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงเอกสารที่แชร์ผ่านเครือข่าย และจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ด้วย เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ติดไวรัสแล้วจะไม่สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และค้นหาไฟล์ต่าง ๆ ได้ โดยผู้ที่ถูกติดตั้งไวรัสชนิดนี้จะเหมือนถูกเรียกค่าไถ่ โดยต้องจ่ายเงินเป็นสกุลเงินบิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินในระบบดิจิตอล คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 20,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของอีเมล์ที่ส่งมาเป็นค่าทำการส่งรหัสสำหรับถอดข้อมูล

    หากประชาชนหลงเชื่อและเปิดไฟล์ดังกล่าวจะทำให้ถูกหลอกโอนเงินให้ เพื่อแลกกับการนำข้อมูลในคอมพิวเตอร์กลับคืน อย่างไรก็ตามหากพบอีเมล์ลักษณะดังกล่าวของหน่วยงาน อีเมล์ส่วนบุคคล หรือจากผู้ส่งที่ไม่รู้จักโดยไม่ทราบเหตุผลของการส่งให้โทรสอบถามโดยตรง หรือลบอีเมล์นั้นทิ้งเพื่อป้องกันการติดไวรัสและปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาได้

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mahanthanut Vithitdhiranun

    [​IMG]

    3/05/15
    ชาวชิลีหวั่น! “เถ้าถ่านภูเขาไฟ” ปนเปื้อนในน้ำกินน้ำใช้...!!!!
    03 พฤษภาคม 2015 เวลา 15:37 น.

    เถ้าถ่านจากภูเขาไฟคาบูโก ที่ปะทุออกมาในประเทศชิลี ได้ทำให้ประชาชนในหลายเมืองงดใช้น้ำประปาเพราะเกรงว่า มีเถ้าถ่านปนเปื้อนในน้ำกินน้ำใช้

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภูเขาไฟคาบูโก ในประเทศชิลี ได้ปะทุออกมาอีกระลอก เมื่อเวลา 13.20 น. ของเมื่อวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.58) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น แม้การปะทุออกมาในครั้งนี้ จะไม่มากเท่ากับช่วงวันแรกๆ แต่แรงปะทุของภูเขาไฟ ก็ทำให้หิน ควัน และเถ้าถ่านลอยไปไกลถึงกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของประเทศชิลี และยังลอยไปไกลถึงประเทศอาร์เจนตินา และอุรุกวัย...!!!

    รายงานแจ้งว่า กระแสลมได้พัดพาเถ้าถ่านปกคลุมถนน บ้านเรือนประชาชน รวมทั้งลอยไปตกในแม่น้ำ ทำให้ประชาชนในเมืองเอ็นเซนาด้า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาไฟลูกนี้ เริ่มกังวลใจที่จะใช้น้ำประปาในการอุปโภคบริโภค เนื่องจากเกรงว่าจะมีการปนเปื้อน ต่างพากันซื้อน้ำขวดมาดื่ม แม้ว่ารัฐบาลจะแจกจ่ายน้ำดื่มเป็นขวดให้ประชาชน แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน สำหรับการปะทุของภูเขาไฟครั้งล่าสุดนี้ ทางการได้ประกาศเตือนภัยในระดังสูง เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์อีกทั้งหามาตรการรับมือกับเหตุฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

    Cr.SpringNews
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Mahanthanut Vithitdhiranun

    3/05/15 ตึกเก่า2พันหลังเสี่ยงแผ่นดินไหว

    [​IMG]

    ตึกเก่าทั่วกรุง2พันหลังเสี่ยงแผ่นดินไหว เจ้าของอาคารโร่ขอกทม.ตรวจสอบแรงรับแผ่นดินไหว..!!!! วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2558 เวลา 3:00 น.

    นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการโยธา(สนย.)กรุงเทพมหานคร
    เปิดเผย ถึงความเสี่ยงของอาคารสูงในพื้นที่กรุงเทพฯที่มีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหวว่า..!!!!

    ในส่วนของอาคารที่ก่อสร้างหลังพ.ศ.2550 มีกฎหมายควบคุมอาคารได้แก่
    กฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนักความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวอยู่แล้วจึงไม่น่าเป็นห่วง แต่ในส่วนของอาคารที่ก่อสร้างก่อนที่จะมีกฎหมายฉบับนี้หรืออาคารเก่ามีประมาณ 2,000อาคารที่ก่อสร้างโดยยังไม่มีการกำหนดในเรื่องนี้
    แต่ทั้งนี้กทม.ก็ทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนหรือกระตุ้นเตือนเจ้าของอาคารเก่าให้ทำการตรวจสอบหรือเพิ่มความปลอดภัยกับอาคารของตนเพื่อเป็นการป้องกันเนื่องจากปัญหาแผ่นดินไหวในปัจจุบันมีความรุนแรงขึ้นซึ่งพบว่าเจ้าของอาคารที่เป็นอาคารเก่าค่อนข้างให้ความสนใจในปัญหามากขึ้น
    มีการมาขอยื่นตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารและมีการยื่นความจำนงเพื่อขอดัดแปลงอาคารอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันและรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวให้มากขึ้น จึงอยากให้เจ้าของอาคารเก่าอีกจำนวนมากดำเนินการดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคาร

    นายภัทรุตม์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.)ที่มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองและกทม.หาแนวทางควบคุมอาคารในพื้นที่กรุงเทพฯให้มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไทยเหมือนกันทั้งหมดนั้นอาจจะต้องพิจารณารายละเอียดว่าการปรับรูปแบบจะต้องมีการออกกฎหมายควบคุมหรือไม่อย่างไรและมีข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัยหรือไม่รวมถึงความร่วมมือของเจ้าของอาคารเองด้วยทั้งนี้อาจจะสามารถทำได้ในรูปแบบที่เหมือนกันในย่านเดียวกันแบบที่กทม.ดำเนินการกับอาคารเก่าในพื้นที่เก่ารัตนโกสินทร์ที่มีการปรับปรุงทัศนียภาพและทาสีอาคาร ซึ่งก็มีความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่เช่นกัน.
    Cr. Dailynews.
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ammy Chumnankit

    น่าสนใจค่ะ

    ฝีมือนักวิจัยไทยแยกน้ำจืดจากน้ำเค็มด้วยไฟ 5 โวลต์

    [​IMG]

    นักวิจัย มจธ.คิดค้นวิธีแยกเกลือออกจากน้ำแบบง่ายๆ ใช้ไฟเพียง 5 โวลต์ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก “Sorp Soft” เครื่องแยกเกลือออกจากน้ำ ฝีมือคนไทย สามารถผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้ 80 ลิตรต่อชั่วโมง เพียงพอกับการบริโภค 4 คน “ดื่ม” ได้ปราศจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังใช้ได้กับน้ำกร่อยและน้ำขมอีกด้วย

    นักวิจัย มจธ.คิดค้นวิธีแยกเกลือออกจากน้ำแบบง่ายๆ ใช้ไฟเพียง 5 โวลต์ เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก “Sorp Soft” เครื่องแยกเกลือออกจากน้ำ ฝีมือคนไทย สามารถผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้ 80 ลิตรต่อชั่วโมง เพียงพอกับการบริโภค 4 คน “ดื่ม” ได้ปราศจากเชื้อโรคและสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังใช้ได้กับน้ำกร่อยและน้ำขมอีกด้วย

    เมื่อโลกต้องเผชิญกับการขาดแคลน “น้ำจืด” ผลจากอิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก (climate change) แหล่งน้ำจืดที่เคยพอเพียงสำหรับการอุปโภค บริโภค กำลังถูกน้ำทะเลรุกเข้าแทนที่ ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทั่วโลกกำลังคิดค้นวิธีที่จะทำน้ำเค็มให้เป็นน้ำจืด สำหรับประเทศไทยได้มีการคิดค้นและพัฒนา “เครื่องแยกเกลือออกจากน้ำ หรือที่เรียกว่า เครื่อง Sorp Soft ” ผลงาน ของ ผศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญศรี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เครื่อง Sorp Soft พัฒนาขึ้นด้วยวิธีการแบบง่ายๆ เหมาะสำหรับการผลิตน้ำจืดเพื่อใช้บริโภคเองได้ในครัวเรือน หรือแม้แต่ผู้ประสบภัยที่ขาดแคลนน้ำจืดเพื่อการบริโภค หรือผู้ที่อาศัยบนเกาะกลางทะเล ก็สามารถนำเครื่องดังกล่าวไปใช้ได้

    ผศ.ดร.ธิดารัตน์ กล่าวถึงที่มาว่า แนวคิดนี้เกิดจากปัญหาการรุกของน้ำทะเลเข้าสู่แผ่นดินแล้วทำให้แหล่งน้ำต่างๆ อาจมีสภาวะที่ไม่เหมาะสมจะนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ เนื่องจากน้ำทะเลมักจะมีเกลือ ความกระด้าง จุลินทรีย์ และบางครั้งอาจพบโลหะหนักปนเปื้อน เมื่อนำน้ำมาผลิตเป็นน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค จึงจำเป็นต้องกำจัดสารปนเปื้อนเหล่านี้ออกจากน้ำ วิธีทำให้น้ำทะเลสามารถดื่มได้และต้องดื่มได้อย่างปลอดภัย จึงคิดค้นนวัตกรรมที่นำเอาสิ่งปนเปื้อนดังกล่าวออก ด้วยวิธีทาง “เคมีไฟฟ้า”

    สำหรับเครื่อง Sorp Soft ประกอบด้วย 3 ส่วน โดยหลักการทำงาน เริ่มจากการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงที่ระดับความต่างศักย์ 5 โวลต์เข้าไปที่ขั้วอะลูมิเนียม เพื่อให้ไอออนของเกลือต่างๆแตกตัว จะพบก๊าซต่างๆ รวมทั้งคลอรีนที่ขั้วอะลูมิเนียม ก๊าซคลอรีนนี้จะสามารถฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ไอออนของเกลือบางส่วนจะรวมกับอะลูมิเนียม เกิดเป็นฟล็อค ซึ่งเป็นตะกอนคล้ายๆ ปุยนุ่น จากนั้นน้ำจะผ่านเข้าสู่ชั้นถ่านกัมมันต์ เพื่อกำจัดสี และกลิ่น รวมถึงโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำทะเล แล้วน้ำจะถูกส่งต่อไปยังชั้นเรซิ่น ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนปะจุ มีทั้งเรซิ่นปะจุบวก และเรซิ่นปะจุลบ โดยเรซิ่นประจุบวกและประจุลบ ทำหน้าที่ในการแยกไอออนที่มีประจุบวก และประจุลบออกจากน้ำ ตามลำดับ เมื่อเสร็จขั้นตอนทั้ง 4 กระบวนแล้วจะได้น้ำจืด ที่ไร้สี กลิ่น ปราศจากเชื้อโรคปนเปื้อน และโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะมีปริมาณลดน้อยลงจนอยู่ในระดับที่สามารถบริโภคได้ เหมือนน้ำดื่มทั่วไป

    ผศ.ดร.ธิดารัตน์ กล่าวว่า จากผลการทดลอง เรานำน้ำที่ผลิตได้จากเครื่อง Sorp Soft มาวิเคราะห์คุณภาพ พบว่า เป็นน้ำจืด ที่สะอาด ผ่านมาตรฐานน้ำดื่ม ดังนั้นจึงมั่นใจว่าน้ำทะเลที่ผ่านเครื่อง Sorp Soft สามารถบริโภคได้จริง โดยขนาดของเครื่อง Sorp Soft ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นนี้ สามารถแยกเกลือที่มีความเข้มข้นสูง เช่น มีค่าความเค็มอยู่ที่ 35 ส่วนในพันส่วน จะได้น้ำดื่มถึง 85 ลิตร ต่อกระบวนการผลิต 1 ครั้ง ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือกรณีน้ำกร่อยที่มีค่าความเค็มของเกลืออยู่ที่ 10 – 25 ส่วนในพันส่วน จะได้น้ำดื่ม 120-250 ลิตรต่อชั่วโมง แม้แต่น้ำขมซึ่งเป็นน้ำทิ้งจากกระบวนการผลิตเกลือสินเธาว์ในพื้นที่ภาคอีสาน ก็สามารถนำมาผลิตน้ำจืดใช้ได้เช่นกัน

    ทั้งนี้ เครื่องดังกล่าวได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นเหมาะสำหรับนำไปใช้ในครัวเรือนเพื่อการผลิตน้ำจืดจากน้ำเค็มได้เพียงพอต่อการบริโภคสำหรับครัวเรือน 4 คน และผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมก็สามารถใช้เครื่องนี้ผลิตน้ำสำหรับการบริโภคในช่วงที่รอคอยความช่วยเหลือสามารถใช้เครื่อง Sorp Soft ต่อเข้ากับถ่านไฟฉายจำนวน 2 ก้อน หรือขนาด 6 โวลต์เป็นแหล่งจ่ายไฟฟ้า

    ASTVManager on Mobile
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Phakpurin Pimatukan

    [​IMG]

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดเขาว่าร้านขายปลีกหลักๆ ในอเมริกาปิดทำการไปแล้วมากกว่า6พันแห่งครับ
    เช่นเคยนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับสื่อ
    More than 6,000 major U.S. retail stores are closing -- Society's Child -- Sott.net
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Phakpurin Pimatukan

    [​IMG]

    ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสจะใช้กองกำลังพิทักษ์รัฐ (National Guard) จับตาดูการซ้อมรบในเมืองของหน่วยรบพิเศษอเมริกาด้วย (Jade Helm 15) ป้องกันโอบาม่า(รัฐบาลกลาง) เทคโอเวอร์รัฐไป
    แว่วๆมาบ้างแล้วว่าในเม็กซิโกที่มีชายแดนติดเท็กซัสและหลายๆรัฐทางใต้ที่กำลังจะซ้อมรบใหญ่กันนี้ (Jade Helm 15) พวกไอซิสเริ่มแฝงตัวเข้ามาแล้ว อาศัยความไม่สงบจากสงครามปราบยาเสพติดในเม็กซิโกเข้าออกตั้งค่าย สะสมอาวุธได้สบายๆ
    หรือซ้อมแล้วจะปราบไอซิสไปในตัวเลย? (เป้าหมายจริงๆคือยึดรัฐทางใต้)
    ทางภายในแต่ละรัฐของสหรัฐเอง ก็มีกองกำลังมิลิเชียล ซึ่งก็คือประชาชนนี่ละครับ ซ้อมใช้อาวุธ ติดอาวุธ เพื่อเตรียมต่อต้านรัฐบาลกลางหากยึกยัก ทำการเผด็จการลามปาม ไม่นานมานี้ก็มีกองกำลังมินิทแมน ซึ่งก็คือประชาชน ไปป้องกันชายแดนทางใต้ ป้องกันคนหลบหนีเข้าเมืองจากเม็กซิโกเข้ามาในอเมริกา ถ้าไอซิสจะมาจริง ก็ต้องสู้กับพวกนี้ด้วย
    พวกมิลิเชียล เริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ทศวรรษ1990 หลังจากรัฐบาลปราบปรามประชาชนรุนแรงเกินเหตุหลายครั้ง จึงมีการปะทะกันมาเรื่อยๆในหลายกรณี
    สถานการณ์จากสงครามปราบยาเสพติดในเม็กซิโก ที่สู้กันรุนแรง ตั้งแต่ปี2006 มีคนตายร่วมเป็นแสน บาดเจ็บ สูญหาย อีกนับไม่ถ้วน ทำให้ปัญหาการลักลอบขนยาเสพติดหนักหน่วงขึ้น เพราะพวกแก็งค์ค้ายาก็ต้องการเงินมาซื้ออาวุธต่อสู้กับรัฐบาลเม็กซิโกมากขึ้น ซึ่งอาวุธทั้งหลายก็มาจากในสหรัฐอเมริกานี่เอง และตลาดขายยาก็รู้ๆกันอยู่ว่าคือสหรัฐอเมริกา
    ในขณะที่กระทรวงยุติธรรมส่งเอฟบีไอ แล้วก็ดีอีเอไปจับพวกค้ายาเม็กซิโก ในประเทศเม็กซิโกเลย แต่แว่วๆอีกแล้วว่า พ่อค้ายาตัวใหญ่คือซีไอเอ เบื้องหลังค้ายากับพวกแก็งค์ค้ายาในเม็กซิโก แล้วเอายาแลกเงินอาวุธให้ พวกแก็งค์ กับมาเฟีย ในอเมริกาก็สนับสนุนแก็งค์ค้ายาในเม็กซิโก เพราะถ้าแก็งค์ค้ายาในเม็กซิโกถูกปราบหมด พวกนี้ก็ไม่มียามาขาย
    ซึ่งแหล่งผลิตยาเสพติด มาจากอเมริกาใต้ ที่เด่นคือโคลัมเบีย กับในอเมริกากลาง จากนั้นก็จะต้องส่งมาที่เม็กซิโก แล้วก็ใช้สารพัดวิธีส่งเข้าอเมริกา อุโมงค์ลักลอบเข้าเมืองที่พบทำลายยังไงก็สร้างใหม่เรื่อยๆ แม้สมัยบุชจะสร้างกำแพงป้องกันชายแดนที่น่าจะยาวที่สุดในโลก ก็ยังปีนกำแพงกัน หยุดไม่อยู่
    เลยเป็นที่มาของข่าวความรุนแรงต่างๆที่เราได้ยินในเม็กซิโกละครับ กรณีนักศึกษาเจอฆ่าหมู่ พวกแก็งค์ค้ายาซุ่มทำร้ายเจ้าหน้าที่ฯลฯ ในอเมริกาเองจริงๆก็ใช่เล่น ปัญหาอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
    เอาจริงๆแหล่งผลิตยาเสพติดที่ใหญ่สุดในโลกก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลบ้านเรานี่ละครับ สามเหลี่ยมทองคำนี่เอง แล้วก็อัฟกานิสถาน
    พวกที่ออกมาที่บัลติมอร์นี่ ไม่ใช่เพิ่งมีมาวันสองวันนะครับ พวกปล้นเผาก็มีปะปนอยู่แล้ว แต่คนที่ออกมาเพราะรับความเป็นรัฐตำรวจและป่าเถื่อนของตำรวจสหรัฐที่เลือกปฏิบัติต่อคนผิวดำก็มีจริงๆ
    แต่พวกฮาร์ดคอร์ก็คือพวกเสือดำ (Black Panther) ที่ในยุค60 (ใครนึกไม่ออกถ้าเคยดูหนังเรื่อง Forrest Gump ตอนพระเอกกลับมาจากเป็นทหารในสงครามเวียดนาม แต่งชุดเต็มยศ ไปหานางเอก ซึ่งอยู่กับพวกนี้ เพราะต่อต้านสงครามเวียดนาม) รวมตัวกันติดอาวุธด้วย ต่อต้านรัฐบาล เพราะตอนนั้นกระแสการตื่นตัวเรื่องต่อต้านการแบ่งสีผิวแรงมากๆ จนทำให้รัฐบาลอเมริกาให้สิทธิคนผิวดำเท่าชาวผิวขาวสำเร็จ หลังจากสมัยก่อนมีการกีดกันสารพัด เช่นมีเขตไม่ต้อนรับคนผิวดำ ห้ามคนผิวดำลงสระน้ำ เข้าร้านอาหาร (ชาวพื้นเมืองเองก็เคยโดน)
    พวกที่ออกตัวแรงคือพวกเสือดำใหม่(New Black Panther) ร่วมกับพวกChip ซึ่งเป็นแก็งค์คนผิวดำ กับพวกNation of Islam (พวกคนผิวดำที่นับถือศาสนาอิสลาม ใครนึกไม่ออกคงจำคนนี้ได้ นักมวยชื่อดังมูฮัมมัด อาลี อีกคนก็ แมลคัม เอ็กซ์)
    จากที่เล่ามา คงพอเห็นภาพแล้วนะครับ ถ้าพวกต่างๆหมดนี่ปะทะกัน จะเละกันขนาดไหน
    ปล.โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร
    Texas Governor Deploys State Guard To Stave Off Obama Takeover : It's All Politics : NPR
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลงดาบ 3ข้าราชการกทม.ทุจริต
    ปลัดกทม.เร่งส่งเรื่องอ.ก.ก.วินัยพิจารณาโทษ ลงดาบ3ข้าราชการทุจริต มีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากบุคคลภายนอก
    วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 19:38 น.

    [​IMG]

    จากที่ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.)ซึ่งมีพล.อ.ไพบูลย์คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานได้นำรายชื่อข้าราชการระดับต่างๆประมาณ 180คนที่พัวพันการทุจริตคอร์รัปชั่นเสนอ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในฐานะประธานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(คตช.)และนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดเพื่อให้โยกย้ายออกจากตำแหน่งรวมทั้งให้ดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดีอาญาในกรณีความผิดที่เกี่ยวข้องนั้นตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีรายชื่อของข้าราชการกทม.อยู่ในบัญชีดังกล่าว3รายนั้น

    นายสัญญา ชีนิมิตรปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผยว่าขณะนี้ได้รับหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้วและปรากฎว่ามีข้าราชการกทม.จำนวน3รายซึ่งเป็นความผิดฐานทุจริตโดยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากบุคคลภายนอกและความผิดเกี่ยวกับการเบิกเงินราชการไปใช้ส่วนตัวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทั่วไปและเจ้าหน้าที่ระดับ8(หัวหน้าฝ่าย)ทั้งนี้กรณีความผิดดังกล่าวได้มีการร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยมีผลการสอบสวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดจากทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)ทั้งนี้ตามขั้นตอนเมื่อมีการสอบสวนพบมูลความผิดของข้าราชการกทม.แล้วจะต้องส่งเรื่องไปยังอนุกรรมการวินัยและการออกจากราชการ(อ.ก.ก.วินัยฯ)เมื่อมีผลออกมาเป็นเช่นไรก็จะมีการดำเนินการลงโทษทางวินัยและทางอาญาเกี่ยวกับฐานความผิดที่ปรากฎต่อไปซึ่งกระบวนการพิจารณาไม่น่าจะใช้เวลานานเพราะมีรายละเอียดข้อเท็จจริงที่ได้มีการสอบสวนมาพอสมควรแล้วอย่างไรก็ตามสำหรับกรณีของมาตรการเร่งด่วนที่ให้มีการโยกย้ายออกจากตำแหน่งก่อนนั้นจากการตรวจสอบพบว่าในส่วนของข้าราชการกทม.ทั้ง3รายดังกล่าวปัจจุบันได้มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนออกจากพื้นที่ที่เกิดการกระทำผิดมาแล้วรวมทั้งการพิจารณาลงโทษน่าจะมีผลในเร็วๆนี้ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการโยกย้ายอีกในห้วงเวลานี้.

    ลงดาบ 3ข้าราชการกทม.ทุจริต | เดลินิวส์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กทม.ยันทางเท้าคลองถมตั้งแผงค้าไม่ได้อีก

    [​IMG]

    เผยมีมิจฉาชีพปล่อยข่าวผู้ค้าคลองถม กลับมาตั้งแผงได้พ.ค.นี้ กทม.ยันทางเท้าคลองถมห้ามตั้งแผงถาวร พร้อมย้ำอย่าตกเป็นเหยื่อผู้แอบอ้างช่วยให้กลับมาขายจุดเดิม วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2558 เวลา 14:06 น.

    เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3พ.ค. นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกทม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจและติดตามความเป็นระเบียบเรียบร้อยบริเวณย่านคลองถม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และบริเวณถนนมหาจักร เขตสัมพันธวงศ์ ภายหลังจากที่กทม.ได้ดำเนินการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ซึ่งผู้ค้าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไม่มีการตั้งวางสินค้าบนผิวจราจรและกีดขวางทางสัญจรของประชาชนแต่อย่างใด

    นายวัลลภ กล่าวว่า หลังจากที่กทม.ได้ดำเนินการจัดระเบียบทางเท้าย่านคลองถม ซึ่งได้กำหนดห้ามผู้ค้าตั้งวางแผงบนทางเท้าในถนนโดยรอบ ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.เป็นต้นมานั้น กลุ่มผู้ค้าบริเวณคลองถมและถนนมหาจักรได้ให้ความร่วมมือกับกทม.และรัฐบาลในการจัดระเบียบพื้นที่เป็นอย่างดี แต่ยังมีพื้นที่บางจุดบริเวณถนนมหาจักรที่กทม.จะต้องดำเนินการเจรจาเนื่องจากเป็นพื้นที่เกี่ยวเนื่องกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยในส่วนของถนนมหาจักรมีผู้ค้าตั้งวางสินค้าทั้งบนผิวการจราจรและทางเท้าทั้งสองฝั่งจำนวน 173 ราย ซึ่งกทม.ได้มีหนังสือประกาศยกเลิกผู้ค้าในจุดผ่อนผันถนนมหาจักรทั้งสองฝั่ง และไม่อนุญาตให้ตั้งวางสินค้าในบริเวณดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.58 เป็นต้นมา พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับผู้ค้าทั้ง 173 รายเพื่อรับทราบนโยบายการจัดระเบียบของกรุงเทพมหานครและรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามในระยะปรับตัวกทม.อนุโลมให้ผู้ค้าถนนมหาจักร 173 รายสามารถทำการค้าขายในช่วงกลางคืนตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไปเฉพาะบางทางเท้าเท่านั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นเวลา 2 เดือนคือเดือนพ.ค.-มิ.ย. จากนั้นจะต้องย้ายไปยังพื้นที่อื่นหรือพื้นที่รองรับที่กทม.จัดไว้ให้ ได้แก่ เวิ้งนาครเกษม ตลาดหลังพาต้าปิ่นเกล้า ตลาดนัดสายใต้เก่า ตลาดท่าดินแดง และสายใต้ใหม่เซ็นเตอร์

    ด้านพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า กทม.ร่วมกับทหารและตำรวจ ดำเนินการจัดระเบียบคลองถมและถนนมหาจักร อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีการปล่อยข่าวว่าในเดือนพ.ค.58นี้ กลุ่มผู้ค้าสามารถกลับมาตั้งแผงค้าได้เหมือนเดิม พร้อมทั้งมีการเรียกเก็บเงินค่าแผงกับผู้ค้าอีกด้วย ซึ่งกทม.ขอยืนยันว่าผู้ค้าไม่สามารถกลับมาค้าขายในจุดเดิมได้อีกต่อไป ผู้ค้ารายใดที่โอนเงินให้กลุ่มที่เรียกเก็บผลประโยชน์ดังกล่าว กทม.ขอให้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างฐานหลอกลวง ฉ้อโกง และเข้าข่ายการฟอกเงิน ซึ่งหากตนเองสามารถจับตัวผู้แอบอ้างได้จะให้ตำรวจดำเนินคดีและยึดทรัพย์ต่อไป ดังนั้น กทม.ขอเตือนประชาชนอย่างได้หลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพื้นที่ใดที่กทมงทำการจัดระเบียบทางเท้าและกำหนดกฎเดกณฑ์การตั้งแผงค้าไว้แล้วก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

    นอกจากนี้กทม.จะเดินหน้าจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยพื้นที่ต่อไปบริเวณพาหุรัด วงเวียนใหญ่ พาต้าปิ่นเกล้า และสนามเป้า เนื่องจากมีการตั้งวางสินค้าเป็นจำนวนมาก กีดขวางทางสัญจรและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน

    กทม.ยันทางเท้าคลองถมตั้งแผงค้าไม่ได้อีก | เดลินิวส์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แฟลตดินแดงสมบัติชาติ ห้ามฉกฉวย
    จำเป็นต้องรื้อเพราะมันเก่ามากราว 50 ปีแล้ว บางคนไม่กล้าอยู่เพราะพอรถใหญ่วิ่งแรง ๆ อยู่ชั้น 4-5 สั่นสะเทือนไปหมด วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2558 เวลา 2:19 น.
    แฟลตดินแดงสมบัติชาติ ห้ามฉกฉวย

    [​IMG]

    ‘ข้อเสนอใหม่’ ถึงการเคหะ
    บทความของผมก่อนหน้านี้ได้เคยเขียนถึงแฟลตดินแดงมาแล้ว ครั้งนี้ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องเตรียมการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจึงได้หยิบยกมาพูดคุยในวันนี้อีกครั้ง ผมก็เห็นใจทุกคนที่จะต้องถูกรื้อบ้านช่อง เช่น แฟลตดินแดงครับ แต่ที่จำเป็นต้องรื้อเพราะมันเก่ามากราว 50 ปีแล้ว บางคนไม่กล้าอยู่เพราะพอรถใหญ่วิ่งแรง ๆ อยู่ชั้น 4-5 สั่นสะเทือนไปหมด นี่ถ้าวันดีคืนร้ายพังลงมา มีคนตาย ใครจะรับผิดชอบ เรามาดูทางออกของแฟลตดินแดงกันครับ
    ที่มาแฟลตดินแดง
    ตอนสร้างแฟลตดินแดงเมื่อปี 2506 ผมก็วิ่งเล่นอยู่แถวนั้นเพราะเป็นคน “ตลาดศรีดินแดง” ตอนแรกแฟลตนี้สร้างให้ชาวสลัมอยู่ ผมจำได้ว่าเมื่อปี 2530 สมัยที่ผมทำงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซียและไปประจำการอยู่การเคหะแห่งชาติ การเคหะแห่งชาติ
    ก็มีโครงการ “ฟื้นนครดินแดง” ที่วาง แผนจะรื้อแฟลตเหล่านี้มาสร้างใหม่ให้ทันสมัยและใช้ที่ดินให้คุ้มค่ากว่านี้แต่ก็หยุดไป
    แต่ถึงวันนี้ในทางกายภาพสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียก็ระบุว่าควรรื้อถอน แม้อาคารเหล่านี้อาจไม่พังลงในทันทีแต่ก็คงในไม่ช้า หากพังลงมาจะเสียหายต่อวิชาชีพวิศวกรรมในประเทศไทยและเสียชื่อเสียงของประเทศเป็นอย่างมากที่ปล่อยให้คนอยู่ในอาคารจนอาคารพังทลาย ในอีกแง่หนึ่งแฟลตดินแดงหมดอายุขัยทางเศรษฐกิจ (EconomicAge) แล้วควรรื้อเพื่อสร้างใหม่ได้ใช้ประโยชน์ที่ดินได้สูงสุดเพื่อพัฒนาชุมชนพัฒนาชาติ
    ชาวแฟลตไม่ได้จน
    ผมเคยออกค่าใช้จ่ายสำรวจแฟลตดินแดงในระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2555 (http://goo.gl/L89dNg) และพบว่า
    1. ครัวเรือนผู้เช่าแฟลตในแฟลตดินแดงที่ 1-20 นี้อยู่อาศัยมาโดยเฉลี่ย 20 ปีแต่ครึ่งหนึ่งอยู่ไม่ถึง 17 ปี แสดงว่ามีการเปลี่ยนมือหรือโยกย้ายเข้าออกกันพอสมควรทั้งนี้คงเป็นผลมาจากการให้ผู้อื่นมาอยู่เช่าหรือเซ้ง
    2. ชาวแฟลตเช่าโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติเป็นเงินโดยเฉลี่ยเดือนละ 632 บาทเท่านั้น ที่เช่าต่อมาเช่าสูงสุดไม่เกิน 4,500 บาทต่อเดือน แต่ส่วนมากอยู่ระหว่าง 2,500-3,500 บาทต่อห้องต่อเดือน
    3. ห้องเช่าประมาณ 52% ตอบว่ามีเครื่องปรับอากาศ การที่ครัวเรือนถึงราวครึ่งหนึ่งมีเครื่องปรับอากาศแสดงว่าไม่ใช่ครัวเรือนยากจนแต่อย่างใด
    4. ครัวเรือน 41% มีรถยนต์ใช้โดยมากครัวเรือนหนึ่งมีเพียง 1 คันเท่านั้น โดยครัวเรือนหนึ่งมีรถโดยเฉลี่ย 1.14 คัน
    5. ราว 31% ของชาวแฟลตมีบ้านในพื้นที่อื่นในกรุงเทพฯ (ยังไม่รวมบ้านต่างจังหวัด)
    เห็นใจสังคมบ้าง
    อีกเหตุผลหนึ่งในการรื้อถอนแฟลตดินแดงเพื่อการพัฒนาใหม่ก็คือความไม่คุ้มค่าทางการเงิน ที่ดินบริเวณนี้น่าจะใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมมากกว่านี้ในแง่การเงิน มีประเด็นที่พึงพิจารณาเป็นดังนี้
    1. หากการเคหะแห่งชาติเก็บเงินค่าเช่าจากแฟลตดินแดงเฉลี่ยห้องละ 400 บาทต่อเดือน ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา แล้วนำเงินนี้ไปฝากธนาคารโดยไม่ใช้สอยเลยไว้ ณ อัตราดอกเบี้ย 5% ค่าเช่าที่เก็บได้นี้จะรวมเป็นเงินห้องละ 318,906 บาท ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเรียกร้องของผู้เช่าแฟลตที่ต้องการเงินนับล้านเสียอีก
    2. ที่ผ่านมาค่าเช่าที่เก็บได้ยังไม่พอค่าดูแลชุมชน หากแต่ละเดือนการเคหะแห่งชาติต้องแบกภาระขาดทุนจากการดูแลชุมชนเป็นเงินเฉลี่ยประมาณ 300 บาทต่อเดือนมาเป็นเวลา 30 ปีติดต่อกัน ณ อัตราดอกเบี้ย 5% แล้วก็เท่ากับการเคหะแห่งชาติได้ขาดทุนไปแล้วห้องละ 239,180 บาท และหากยังอนุญาตให้อยู่ต่อไปอีก 20 ปี โดยการเคหะแห่งชาติเก็บค่าเช่าไม่พอค่าดูแลอีกเฉลี่ยห้องละ 500 บาท ณอัตราดอกเบี้ย 5% ก็แสดงว่าการเคหะแห่งชาติต้องแบกภาระเป็นเงินปัจจุบันสุทธิ 74,773 บาทต่อห้อง
    3. แฟลตบางห้อง ผู้เช่ายังนำไปปล่อยเช่าต่อโดยมิชอบเป็นเงินถึง 3,000 บาทต่อเดือน โดยที่ผู้เช่าเดิมเช่าจากการเคหะแห่งชาติเพียง 632 บาทต่อเดือนโดยเฉลี่ย ในระยะเวลาที่ผ่านมาหากค่าเช่าเฉลี่ยเท่ากับ 2,500 บาท ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาก็ เท่ากับแต่ละเดือนผู้ให้เช่าต่อ สามารถทำกำไรได้ประมาณ 1,868 บาทหรือปีละถึง 22,416 บาท ในทำนองเดียวกันถ้าผู้ให้เช่านำเงินที่เก็บได้ทุกปีนี้ไปฝากธนาคารเป็นเวลา 20 ปี ณ อัตราดอกเบี้ยปีละ 5% เงินจำนวนดังกล่าวก็จะงอกเงยเป็นเงินถึง 741,206 บาทไปแล้ว
    หากพิจารณาจากตัวเลขข้างต้นนี้ครัวเรือนในแฟลตดินแดงควรตระหนักถึงประโยชน์ที่ตนได้รับตลอดช่วงที่ผ่านมาแสดงความขอบคุณการเคหะแห่งชาติที่ให้พักอาศัยโดยไม่คิดมูลค่ามาเป็นเวลานานและให้ความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติเพื่อได้นำที่ดินนี้ไปพัฒนาที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้นการจะให้ทางราชการแบกรับภาระดูแลเฉพาะกลุ่มผู้เช่าแฟลตกลุ่มนี้เป็นการเฉพาะย่อมเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำต่อประชาชนในภาคส่วนอื่น
    ข้อเสนอใหม่ของการเคหะแห่งชาติ
    การเคหะแห่งชาติมีข้อเสนอใหม่ที่จะสร้างแฟลต
    บริเวณสำนักงานเคหะชุมชนดินแดง แล้วค่อยโยกย้ายชาวแฟลตขึ้นตึกใหม่แล้วค่อยรื้อถอนอาคารแฟลตเดิมซึ่งจะไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่ต้องโยกย้ายไปไกลไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวแฟลตแต่อย่างใดทั้งสิ้น นอกจากนี้ทางราชการยังควร
    1. ชี้ให้เห็นอันตรายจากการอยู่อาศัยในแฟลตที่อาจพังลงมาได้นี้โดยผู้เช่าพึงทำประกันชีวิตให้กับตนเองและหากพังลงมาจะไม่ใช่ความรับผิดชอบของการเคหะแห่งชาติเว้นแต่การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้
    2. จ่ายค่าทดแทนแก่กลุ่มผู้เช่าแฟลตที่ประสงค์จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแทนที่จะอยู่แฟลต
    3. แจงให้ทราบว่าค่าเช่าในอาคารใหม่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เช่าพึงยอมรับเพราะการเช่าช่วงในแฟลตดินแดงหรือแฟลตเอกชนใกล้เคียงก็เป็นเงินเดือนละ 3,000 บาทหรือมากกว่านี้
    4. จัดหาที่อยู่ใหม่สำหรับผู้เช่าที่ยากจนเกินกว่าจะเช่าแฟลตใหม่ได้โดยเฉพาะพลเมืองอาวุโสที่ไม่มีงานทำและยากจนอาจต้องจัดให้อยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุหรืออื่นใด เพื่อให้มีชีวิตที่เป็นสุขแทนที่จะอยู่อาศัยในแฟลตใหม่
    ขั้นตอนการย้ายแฟลต
    สำหรับขั้นตอนในการโยกย้ายนั้นการเคหะแห่งชาติควรดำเนินการดังนี้:
    1. การเคหะแห่งชาติยังควรตรวจสอบห้องพักในแฟลตที่ถูกปล่อยเช่าให้บุคคลอื่น (14% ตามผลการสำรวจ) และเจรจากับผู้เช่าให้ย้ายออกไปเช่าที่อื่นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและเจรจากับผู้ให้เช่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เองให้คืนห้องพักให้กับการเคหะแห่งชาติและเมื่อได้ห้องพักคืนแล้วก็ปิดไว้เพื่อป้องกันการบุกรุก
    2. สำหรับผู้เช่าแฟลตที่ยินดีที่จะรับเงินชดเชยและย้ายออกไปเลยก็ให้จ่ายค่าชดเชยไปตามสมควรและให้การเคหะแห่งชาติปิดห้องเช่าเหล่านั้นเพื่อป้องกันการบุกรุกซ้ำซ้อน
    3. ให้ความรู้แก่ผู้เช่าให้รู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ส่งเสริมให้มีจริยธรรมไม่เอาเปรียบสังคมและหากขาดแคลนไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ตามอัตภาพก็อาจได้รับการสงเคราะห์ตามควรจากรัฐบาล และให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปให้ช่วยกันปกป้องสมบัติของแผ่นดินเองอย่าปล่อยให้ถือเอาสมบัติของส่วนรวมไป
    เอาที่ดินมาพัฒนาเชิงพาณิชย์
    การเคหะแห่งชาติไม่พึงกลัวข้อครหาเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินแปลงนี้ในเชิงพาณิชย์เพราะต้องนำเงินมาพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับชาวแฟลตที่อยู่กันมานานเหล่านี้ด้วยส่วนหนึ่ง การพัฒนาที่สมควรได้แก่
    1. การพัฒนาแฟลตสำหรับผู้มีรายได้น้อยอื่นโดยให้เช่าในราคา 3,000 บาทต่อเดือน และให้เช่าได้เท่านั้นห้ามการเช่าช่วงหรือการให้บุคคลอื่นมาอยู่อาศัยโดยมีการตรวจตราอย่างเสมอหน้าเคร่งครัด
    2. การสร้างแฟลตเช่าสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางโดยอาจให้เช่าในราคา 8,000-20,000 บาท เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ทดแทนการอุดหนุนกลุ่มชาวแฟลตดินแดง
    3. การสร้างอาคารสำนักงานหรือศูนย์การค้าเพื่อการใช้สอยของชุมชนในพื้นที่เพราะในบริเวณดังกล่าวยังไม่มีศูนย์การค้าที่ดีบริการแก่ประชาชน
    ทางราชการไม่พึงกลัวว่าเป็นการเอื้อนายทุน การกระทำเช่นนี้เป็นการหาเงินมาเพื่อเอื้อต่อคนจนต่างหาก โดยไม่ต้องนำเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศมา “ประเคน” ให้กับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดโดยเฉพาะ
    โดยสรุปแล้วกรณีย้ายแฟลตดินแดงนี้ไม่ใช่การรังแก
    “คนจน” หากแฟลตเหล่านี้เป็นของเอกชนคงไม่มีใครชดเชยให้ที่ดินแฟลตดินแดงนี้ถือเป็นทรัพยากรของชาติควรเอามาใช้ประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ดีที่สุดและเพื่อนำรายได้มาพัฒนาประเทศ รัฐบาลควรเข้มแข็งในการจัดการพัฒนาพื้นที่แฟลตดินแดงขึ้นใหม่ให้เป็นตัวอย่างหากปล่อยให้อาคารถล่มลงจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายก็จะเสียชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของชาติ.
    http://www.dailynews.co.th/bangkok/318580
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว 7.4 เขย่า “ปาปัวนิวกินี” มีเตือน “สึนามิ” ระดับท้องถิ่น
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2558 10:36 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:38 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี – เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.4 ตามมาตราแมกนิจูดนอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาวันนี้ (5 พ.ค.) โดยมีประกาศเตือนความเสี่ยงเกิดคลื่นสึนามิในระดับท้องถิ่น แต่คาดว่าไม่กระทบถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

    สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นทะเล 63 กิโลเมตร ห่างจากเมืองโกโกโปบนเกาะนิวบริเทนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 133 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อแรงสั่นสะเทือนระลอกแรกผ่านไปแล้ว ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.9 ตามมาอีก

    ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกเตือน “ความเสี่ยงเกิดสึนามิตามแนวชายฝั่งในรัศมี 300 กิโลเมตรจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว”

    โจนาธาน บาธเกต ผู้เชี่ยวชาญแผ่นดินไหวจากสถาบัน จีโอไซเอินซ์ ออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า “แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดสึนามิในระดับท้องถิ่น” แต่จะไม่ส่งผลกระทบถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งจะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 ที่นอกชายฝั่งเมืองโกโกโปซึ่งมีประชากรราว 20,000 คน แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

    บาธเกต เตือนว่า พื้นที่บริเวณนี้มีกิจกรรมแผ่นดินไหวถี่ขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะแผ่นดินไหว 7.7 เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งทำให้เกิดสึนามิระดับท้องถิ่นด้วย

    นิวบริเทนซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะบิสมาร์ก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของปากัวนิวกินี และมีประชากรอาศัยอยู่ราว 500,000 คน

    เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่บนแนวรอยต่อ 4,000 กิโลเมตรระหว่างแผ่นเปลือกโลกแปซิฟิกและออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแนว “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000051042
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กาตาร์จ่อยกเลิกกม.ให้สิทธิ์นายจ้าง "ห้ามแรงงานลาออก" ภายในสิ้นปีนี้
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2558 10:00 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:45 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานกาตาร์เผยวานนี้ (4 พ.ค.)ว่า ระบบอุปถัมภ์ “คาฟาลา” ที่ถูกนักสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ว่าเป็นกฎหมายแรงงานทาสยุคใหม่ อาจถูกยกเลิกภายในสิ้นปีนี้

    กฎหมายแรงงานคาฟาลาของกาตาร์ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนับตั้งแต่กรุงโดฮาได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2022 โดยกฎหมายฉบับนี้เปิดโอกาสให้นายจ้างชาวกาตาร์สามารถขัดขวางไม่ให้ลูกจ้างต่างชาติเปลี่ยนงาน หรือเดินทางออกจากประเทศได้

    ดร.อับดุลเลาะห์ บิน ซาเลห์ อัล-คุลัยฟี รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและกิจการสังคมกาตาร์ แถลงว่า ตนรู้สึกมั่นใจถึง “90 เปอร์เซ็นต์” ว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกยกเลิกภายในเวลา 7 เดือนที่เหลืออยู่ของปีนี้

    “ผมหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนสิ้นปี” คุลัยฟี แถลงต่อสื่อมวลชนต่างชาติที่กรุงโดฮา

    “เราได้มีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง... ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ถามว่าผมเชื่อหรือเปล่าว่าผลที่ออกมาจะเป็นไปในทางบวก? แน่นอน ผมเชื่อ เพราะท้ายที่สุดแล้วผมเชื่อว่ามันจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและประเทศของเรา”

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายคาฟาลาจะถูกยกเลิกก่อนสิ้นปีหรือไม่ รัฐมนตรี คุลัยฟี ก็ตอบว่า “ผมคาดหวังหรือเชื่อถึง 90 เปอร์เซ็นต์ว่าจะเป็นอย่างนั้น”

    กรุงโดฮามีแผนที่จะยกเลิกระบบอุปถัมภ์คาฟาลา และใช้กฎหมายใหม่ที่ยึดเงื่อนไขในสัญญาจ้างเป็นหลัก

    สัญญาจ้างงานเหล่านี้จะมีอายุสูงสุดไม่เกิน 5 ปี และระบบ “ขออนุญาตออก” ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายจ้างจะถูกแทนที่ด้วยกฎหมายใหม่ ซึ่งลูกจ้างต่างชาติสามารถเข้าแจ้งความประสงค์ต่อทางการล่วงหน้า 72 ชั่วโมงหากต้องการเดินทางออกจากกาตาร์ และจะได้รับสิทธิ์นั้นโดยอัตโนมัติ หากภายใน 72 ชั่วโมงนี้นายจ้างไม่สามารถหาเหตุผลมาคัดค้านได้

    คุลัยฟี ระบุด้วยว่า กาตาร์จะเริ่มนำวิธีจ่ายค่าแรงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้กับแรงงานต่างชาติหลายพันคนภายในกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า แรงงานจะได้รับค่าจ้างอย่างน้อย 1 ครั้งต่อเดือน หรือทุกๆ ครึ่งเดือนในบางกรณี

    ก่อนหน้านี้ แรงงานที่ก่อสร้างสนามฟุตบอลโลก 2022 ต่างร้องเรียนว่าได้รับค่าแรงล่าช้า

    “เราไม่ต้องการปิดบังปัญหาที่เกิดขึ้นในกาตาร์ เราพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน” คุลัยฟี กล่าว

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000051025
     

แชร์หน้านี้

Loading...