ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ติดเอดส์ในกรุงทะลุ6หมื่น กทม.สั่งรับมือ'ห่วงระบาด'

    [​IMG]

    กทม.หวั่นเมืองหลวงกลับมาเผชิญกับปัญหา "เอดส์" อีกครั้ง หลังพบมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในปี 58 นี้ที่ยังมีชีวิตอยู่สูงถึง 6.1 หมื่นคน โดยมี "กลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย" นำโด่ง 60% เหตุสภาพแวดล้อมยั่วยุ วันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 เวลา 10:15 น.

    นายโกวิท ยงวานิชกิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.เตรียมจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อยุติปัญหาเอดส์ของกทม.ประจำปี 2560 โดยจะจัดทำแผนงาน/โครงการและจัดทำกรอบงบประมาณประจำปี 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์กรุงเทพมหานคร ในการมุ่งยุติปัญหาเอดส์ หรือลดให้เป็นศูนย์ คือลดการติดเชื้อ ลดการตาย ลดการตีตรา ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์ปัญหาเอดส์ในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจจะต้องกลับมาเผชิญปัญหาเอดส์อีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายพนักงานบริการ กลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด กลุ่มเด็กและเยาวชน เนื่องจากปัจจุบันสภาพแวดล้อมต่างๆ ยั่วยุให้เกิดปัญหาทางเพศและการใช้สารเสพติดได้ง่ายขึ้น จึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ ทั้งภาครัฐเอกชน ประชาสังคม และประชาชน ในการร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์อย่างจริงจัง เพื่อให้การดำเนินงานด้านต่างๆ ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมุ่งสู่การยุติปัญหาเอดส์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

    ทั้งนี้จากการคาดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวี (HIV) ใน ปี 2558 ในพื้นที่กรุงเทพฯคาดว่า มีผู้ติดเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ 61,109 คน เสียชีวิต 3,341 คน ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ได้รับยาต้านไวรัส 24,871 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,771 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย 1,066 คน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมา ภรรยาติดเชื้อจากสามี 259 คน คิดเป็นร้อยละ 15 และกลุ่มผู้ใช้สารเสพติดชนิดฉีด 162 คน คิดเป็นร้อยละ 9.1 ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มเยาวชนอายุน้อยกว่า 25 ปี 974 คน คิดเป็นร้อยละ 53.4.

    ติดเอดส์ในกรุงทะลุ6หมื่น กทม.สั่งรับมือ'ห่วงระบาด' | เดลินิวส์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กษัตริย์ซาอุฯทรงตั้งรัชทายาทองค์ใหม่

    [​IMG]

    กษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย ทรงแต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ ขึ้นเป็นรัชทายาทองค์ใหม่ และปลดเจ้าชายม็อคเร็น บิน อับดุล อาซิส บิน ซาอุด ออกจากตำแหน่งมกุฏราชกุมาร และรองนายกรัฐมนตรี วันพุธที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 11:56 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาดห์ประเทศซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 29เม.ย.ว่า กษัตริย์ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบียทรงแต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมเหม็ดบิน นาเยฟ รมว.มหาดไทยและหัวหน้าทีมกวาดล้างเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์เมื่อ10ปีก่อนเป็นรัชทายาทองค์ใหม่ พร้อมกับมีพระบรมราชโองการปลดเจ้าชายม็อคเร็นบิน อับดุล อาซิส บิน ซาอุด มกุฏราชกุมารองค์ปัจจุบัน ออกจากตำแหน่งรัชทายาทลำดับที่1 และตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดยให้เจ้าชายโมฮัมเหม็ดบิน นาเยฟ เป็นมกุฏราชกุมารองค์ใหม่ และยังคงปฏิบัติหน้าที่ในรมว.มหาดไทยต่อไป รวมทั้งประธานสภาการเมืองและความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย

    การปลดเจ้าชายม็อคเร็น พระชันษา 69พรรษาถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนสุดท้ายในสมัยของอดีตกษัตริย์อับดุลลาห์ ซึ่งสวรรคตเมื่อ23ม.ค.ที่ผ่านมา และกษัตริย์ซัลมานเสด็จขึ้นครองราชย์ นอกจากนี้เจ้าชายม็อคเร็นยังเป็นพระโอรสองค์สุดท้ายของอดีตกษัตริย์อับดุลอาซิส บิน ซาอุด ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุฯ ส่วนเจ้าชายนาเยฟ ถือเป็นสมาชิกพระราชวงศ์รุ่นที่สองและทรงเป็นพระราชนัดดาในอดีตกษัตริย์อับดุลอาซิส

    กษัตริย์ซาอุฯทรงตั้งรัชทายาทองค์ใหม่ | เดลินิวส์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไฟป่าปะทุใกล้โรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล

    [​IMG]

    เกิดไฟป่าใกล้โรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล แต่ยังไม่เป็นอันตรายต่อโรงงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้ วันพุธที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 7:56 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟประเทศยูเครน เมื่อวันที่29 เม.ย.ว่าเกิดไฟป่าใกล้โรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลในยูเครนซึ่งโรงงานแห่งนี้เคยเกิดภัยพิบัติทางนิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในโลกเมื่อปี2529 แต่ไฟป่ายังไม่ได้เป็นภัยอันตรายต่อโรงงานดังกล่าว

    นางมายารูเดนโก โฆษกโรงงานเชอร์โนบิลให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีทางโทรศัพท์ว่า ไฟป่าอยู่ห่างจากเชอร์โนบิลระหว่าง15-20กิโลเมตร และตอนนี้ที่โรงงานเชอร์โนบิลยังไม่มีปัญหาใดๆ แต่นายอาร์เซนอาวาคอฟ รมว.มหาดไทยยูเครนเตือนว่า เปลวไฟที่ลุกโชนในระดับสูงและกระแสลมแรงย่อมมีความเสี่ยงสูงที่ไฟป่าอาจลุกลามขยายวงกว้าง และตอนนี้ ไฟป่าได้เผาทำลายพื้นที่ไปแล้วราว2,400 ไร่ใกล้โรงงานเชอร์โนบิล ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเคียฟประมาณ100 กิโลเมตร

    อย่างไรก็ตามทางการยูเครนระดมกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง200นายและรถดับเพลิงจำนวนหนึ่งเพื่อควบคุมไฟป่า ขณะเดียวกันมีการใช้เครื่องบินนำน้ำจำนวนมากไปช่วยดับไฟป่าเช่นกัน ทั้งนี้ไฟป่าเริ่มเกิดขึ้นหลังเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่นไปแล้วเล็กน้อยหรือตรงกับ 16.15น.ของวันอังคารตามเวลาในไทย

    นายกรัฐมนตรีอาร์เซนี ยัตเซนยุก ได้เดินทางไปตรวจพื้นที่ไฟป่าเมื่อบ่ายวานนี้และพบปะเจ้าหน้าที่ นายกฯบอกว่า ควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้แล้ว เหตุไฟป่าครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงสองวัน หลังครบรอบ29ปีโรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลระเบิดเมื่อ26เม.ย.ปี2529 ส่งผลให้สารกัมมันตภาพรังสีแผ่กระจายไปทั่วยุโรปโดยเฉพาะในยูเครน เบลารุสและรัสเซีย



    ไฟป่าปะทุใกล้โรงงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิล | เดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดินถล่มบราซิลดับ 13 ศพ

    [​IMG]

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ศพจากเหตุดินถล่มเนื่องจากฝนตกหนัก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล เจ้าหน้าที่เตือนให้ระวังอันตรายเพราะฝนยังตกต่อเนื่อง
    วันพุธที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 7:02 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซัลวาดอร์รัฐบาเยีย ประเทศบราซิลเมื่อวันที่ 29เม.ย.ว่าเกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลจนทำให้เกิดดินถล่มและหินถล่มรวมแล้วกว่า100ครั้งใกล้กับเมืองซัลวาดอร์เมืองหลวงของรัฐบาเยียขณะที่น.ส.คารินาบาราโชโฆษกหญิงของสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเมืองซัลวาดอร์กล่าวว่า ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย13ศพจากดินถล่มและฝนก็ยังคงตกหนักต่อเนื่องดังนั้น นายกเทศมนตรีเมืองซัลวาดอร์ผู้ว่าการรัฐบาเยียเลขาธิการสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมหารือกันเพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้

    เจ้าหน้าที่ระบุด้วยว่าวัดปริมาณน้ำฝนได้กว่า 200มิลลิเมตรในพื้นที่ในช่วง24ชั่วโมงที่ผ่านมาถือว่าสูงกว่าร้อยละ 65ของปริมาณเฉลี่ยของน้ำฝนที่ตกลงของเดือนเม.ย.

    ย่านที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยหลายจุดได้รับผลกระทบจากดินถล่มเช่นย่านอเวนิดา ซาน มาร์ตินและ บอส ฮัวนอกจากนั้นชุมชนแออัดเชิงเขาใกล้กับตัวเมืองซัลวาดอร์ก็เป็นพื้นที่ล่อแหลมที่จะเกิดดินถล่มมากที่สุด

    ส่วนประธานาธิบดีดิลมารูสเซฟฟ์ แห่งบราซิลกล่าวแสดงความเสียใจที่เกิดการสูญเสียชีวิตจากดินถล่มพร้อมกันนี้ก็บอกว่ากองทัพพร้อมที่จะส่งกำลังพลเข้าไปในพื้นที่หากจำเป็นเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในรัฐบาเยีย



    ดินถล่มบราซิลดับ 13 ศพ | เดลินิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิหร่านยึดเรือสินค้าในอ่าวเปอร์เซีย

    [​IMG]

    กองทัพอิหร่านยึดเรือสินค้าที่ติดธงของหมู่เกาะมาร์แชลล์ที่แล่นอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย หลังเรือลาดตระเวนยิงกระสุนขู่พร้อมกับสั่งให้นำเรือเข้ามาในเขตน่านน้ำอิหร่าน วันพุธที่ 29 เมษายน 2558 เวลา 3:59 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่29เม.ย.ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ(เพนตากอน)แถลงว่า เครื่องบินและเรือรบของกองทัพสหรัฐกำลังเฝ้าจับตาดูสถานการณ์หลังเรือสินค้าเอ็มวี เมอส์ก ไทกริส ที่ติดธงของประเทศหมู่เกาะมาร์แชลได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือขณะกำลังแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ หนึ่งในเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หลังเรือลาดตระเวนของกองทัพอิหร่านยิงกระสุนขู่และสั่งให้นำเรือเข้ามาในเขตน่านน้ำอิหร่าน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

    ขณะที่สำนักข่าวทาสนิมของอิหร่านรายงานว่า เหตุดังกล่าวไม่มีนัยยะทางการเมืองหรือการทหารเป็นเพียงประเด็นทางพลเรือนเท่านั้น อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมสหรัฐแถลงว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอยู่ในช่วงที่สหรัฐและชาติมหาอำนาจโลก5ชาติกำลังเจรจาต่อรองให้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านให้สำเร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้

    ด้านสถานีโทรทัศน์อัล อราบียา ของซาอุดีอาระเบียรายงานว่า กองทัพอิหร่านได้ยิงกระสุนใส่เรือและบุกขึ้นไปบนเรือสินค้าลำดังกล่าวของสหรัฐ โดยมีลูกเรือชาวอเมริกันอยู่บนเรือ34คน พร้อมกับสั่งให้นำเรือแล่นเข้าไปที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ของอิหร่านอีกด้วย ขณะที่โฆษกเพนตากอนแถลงว่า ไม่มีชาวอเมริกันอยู่บนเรือ ทั้งนี้ลูกเรือที่อยู่บนเรือมีทั้งหมด24คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชียและยุโรปตะวันออก

    ส่วนสำนักข่าวฟาร์สของอิหร่านรายงานว่า ศาลอิหร่านมีคำสั่งให้การท่าเรือบุกยึดเรือสินค้าลำดังกล่าว เนื่องจากไม่จ่ายหนี้ที่มีอยู่ ขณะที่โฆษกของริคเมอร์ส ชิปแมนเนจเมนท์ บริษัทควบคุมการเดินเรือเผยว่า ไม่ทราบสาเหตุที่ทางการอิหร่านสั่งให้ตรวจค้นเรือเช่นกัน พร้อมกับเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกเรือ

    เรือสินค้าดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ระวางขับน้ำ65,000ตัน แล่นมาจากท่าเรือเมืองเจดดาห์ของซาอุดีอาระเบีย มุ่งหน้าไปที่ท่าเรือเมืองเจเบล อาลี ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะเกิดเหตุเรือกำลังแล่นอยู่ระหว่างช่องแคบฮอร์มุซ กับเกาะเคชม์ของอิหร่าน

    อิหร่านยึดเรือสินค้าในอ่าวเปอร์เซีย | เดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฤดูกาลผลัดใบในตะวันออกกลาง กษัตริย์ซาอุฯ สั่งปลด “มกุฎราชกุมาร” น้องชายต่างมารดาออกจากตำแหน่ง - ตั้งพระโอรสขึ้นเป็น “รองมกุฎราชกุมาร”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 12:27 น. (แก้ไขล่าสุด 29 เมษายน 2558 12:44 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด ทรงมีพระบรมราชโองการในวันพุธ (28 เม.ย.) ให้ปลดเจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส บิน สะอูด ที่มีฐานะเป็นพระอนุชาต่างพระมารดา ออกจากตำแหน่งมกุฎราชกุมารในฐานะผู้สืบรัชทายาท และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน นาเยฟ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระราชนัดดาที่ในขณะนี้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งซาอุดีอาระเบีย ดำรงพระยศ “มกุฎราชกุมาร” แทน รวมไปถึงการทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด พระราชโอรสขึ้นเป็น “รองมกุฎราชกุมาร” รวมไปถึงการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ โดย อเดล อัล-จูเบอีร์ เอกอัคราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐฯ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียคนต่อไป

    สื่อทางการของซาอุดีอาระเบียรายงานแถลงการณ์ของราชสำนักซาอุฯความว่า “ทางเราได้ทำตามพระประสงค์ของเจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส บิน สะอูดที่พระองค์ทรงมีความปรารถนาที่จะลาออกจากการดำรงพระยศในฐานะ “มกุฎราชกุมารแห่งพระราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย”

    ซึ่งเอเอฟพีรายงานในวันนี้ (28) ว่า สื่อซาอุฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส บิน สะอูดยังทรงประกาศลาออกจากการดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซาอุฯ อีกตำแหน่งด้วย

    นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ของราชสำนักซาอุฯ ยังมีประกาศแต่งตั้งเจ้าชายมูฮัมหมัด บิน นาเยฟ ทรงดำรงพระยศ “มกฎราชกุมาร” แทน และทรงจะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียอีกหนึ่งตำแหน่งด้วย

    และทั้งนี้สื่อซาอุฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียพระองค์ใหม่ยังจะทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยต่อไปอันเป็นตำแหน่งเดิมของพระองค์ รวมไปถึงพระองค์จะยังทรงเป็นประธานสภาความมั่นคงและการเมืองแห่งซาอุฯ

    ทั้งนี้ การสั่งปลดเจ้าชายมุคริน บิน อับดุล อาซิส ถือเป็นการปลดเจ้านายชั้นสูงพระองค์สุดท้ายที่ดำงตำแหน่งในรัชกาลของอดีตกษัตริย์ซาอุฯ สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูดที่ทรงเพิ่งเสด็จสวรรคตในเดือนมกราคมที่ผ่านมาด้วยโรคปอดบวม

    การประกาศจากสำนักราชวังซาอุฯ ยังรวมไปถึงการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด พระราชโอรสในวัยกว่า 30 พรรษาขึ้นเป็นรองมกุฎราชกุมาร รอสืบทอดอำนาจต่อจากพระราชบิดาเป็นลำดับที่ 2

    นอกจากนี้ เอเอฟพียังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุด จะยังทรงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมซาอุฯ รวมไปถึงยังทรงทำหน้าที่เป็นประธานสภาเศรษฐศาสตร์และการพัฒนาแห่งซาอุดีอาระเบีย

    แต่ทั้งนี้ สื่อซาอุฯ ระบุว่า เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล ซาอุดจะทรงไม่ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าประจำราชสำนัก” ตำแหน่งระดับสูงที่สำคัญในราชสำนักที่ควบคุมดูแลในวังหลวงให้แก่กษัตริย์ซาอุฯ ซึ่งในระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์นั้นตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก จากความเห็นของ บรูซ รีเดล (Bruce Riedel) อดีตเจ้าหน้าที่ CIA สหรัฐฯ ที่รับผิดชอบโปรเจกต์ “Brookings Intelligence” ในวอชิงตัน

    เอเอฟพีรายงานว่า ตำแหน่งหัวหน้าราชสำนักซาอุฯ จะตกอยู่กับ ฮามาด บิน อับดุลลาซิส อัล-ซูอาลิม (Hamad bin Abdulaziz al-Sualim) แทน

    ในขณะเดียวกัน ในวันเดียวกันนี้ยังมีพระราชองค์การโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อเดล อัล-จูเบอีร์ (Adel al-Jubeir )เอกอัคราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐฯ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯคนใหม่ แทนเจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอลที่ทรงดำรงตำแหน่งนี้มาอย่างยาวนาน

    ในแถลงการณ์ของราชสำนักซาอุฯรายงานว่า “เจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอลทรงมีพระประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเนื่องจากทรงมีปัญหาทางด้านพระพลานามัย”

    และสื่ออย่างเป็นทางการของซาอุฯ ยังรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าชายสะอูด อัล-ไฟซอลทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา และทูตพิเศษของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอห์ บิน อับดัลอะซิซ อาล สะอูด รวมไปถึงผู้ดูแลด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048863
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายกฯ ออสซี “เรียกทูตกลับ” โต้อิเหนายิงเป้านักโทษ-ปินส์ได้เฮยื้อชีวิตพลเมืองสำเร็จ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 09:49 น. (แก้ไขล่าสุด 29 เมษายน 2558 10:47 น.)

    [​IMG]
    @มยูรัน สุกุมารัน และ แอนดรูว์ ชาน (1 และ 2 ซ้ายบน) ถูกประหารชีวิตพร้อมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายอื่นๆ เมื่อหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาภายในเรือนจำบนเกาะนูซากัมบังงันของอินโดนีเซีย ยกเว้น แมรี เจน เวโลโซ หญิงชาวฟิลิปปินส์ (ที่ 2 จากขวาบน) ซึ่งได้รับการละเว้นโทษตายในนาทีสุดท้าย

    เอเอฟพี - รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมออกคำสั่งเรียกเอกอัครราชทูตประจำอินโดนีเซียกลับประเทศ ภายหลังทราบข่าวว่า แอนดรูว์ ชาน และ มยูรัน สุกุมารัน สองพลเมืองสัญชาติออสซี ถูกยิงเป้าพร้อมผู้ต้องหาคดียาเสพติดอีก 6 คนเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (29 เม.ย.)

    กลุ่มนักโทษซึ่งประกอบด้วยชาวต่างชาติ 7 ราย และชาวอินโดนีเซียอีก 1 รายถูกประหารชีวิตเมื่อหลังเที่ยงคืน ภายในเรือนจำความมั่นคงสูงบนเกาะนูซากัมบังงัน ยกเว้นนักโทษหญิงชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับการละเว้นชีวิตในนาทีสุดท้าย

    “เราเคารพในอธิปไตยของอินโดนีเซีย แต่ก็ต้องขอประณามสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ซึ่งไม่อาจถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาได้... ด้วยเหตุนี้หลังจากที่เราได้มอบความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ตายคือคุณสุกุมารัน และคุณชาน อย่างเต็มที่แล้วก็จะมีการเรียกทูตกลับเพื่อปรึกษาหารือ” นายกรัฐมนตรีโทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลียแถลง

    รัฐมนตรีต่างประเทศ จูลี บิชอป แห่งออสเตรเลีย ยืนยันว่า ชาน และ สุกุมารัน ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งขนเฮโรอีน “บาหลีไนน์” ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วโดยสิ้นเชิง หลังถูกตัดสินโทษเมื่อปี 2006 และต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำบาหลีนานหลายปี

    แคนเบอร์ราพยายามทุกวิถีทางที่จะกดดันอินโดนีเซียให้ละเว้นโทษตายแก่พลเมืองทั้งสอง และไม่เคยใช้วิธีเรียกทูตกลับจากประเทศใดเพื่อประท้วงการประหารนักโทษคดียาเสพติดมาก่อน แต่คราวนี้แอ็บบอตต์ระบุว่า จำเป็นต้องนำตัวทูต พอล กริกสัน กลับมา เพราะบทลงโทษที่ชาน และสุกุมารันได้รับนั้น “โหดร้าย และไม่จำเป็น”

    ครอบครัวชาน และสุกุมารัน มีคำแถลงร่วมกันว่า หลายปีที่อยู่ในเรือนจำบุตรชายของพวกเขา “พยายามทำทุกอย่างเพื่อลบล้างความผิด และช่วยเหลือคนจำนวนมาก” โดยสุกุมารันได้สอนภาษาอังกฤษและวิชาศิลปะให้แก่เพื่อนผู้ต้องขัง ส่วน ชาน ก็เข้าพิธีบวชเป็นพระสอนศาสนาคริสต์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

    “พวกเขาร้องขอความเมตตา แต่ก็ไม่ได้รับมัน... แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังรู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือจากทุกฝ่าย และเราเองก็จะสำนึกบุญคุณนี้ตลอดไปเช่นกัน”

    นายกฯ ออสซี “เรียกทูตกลับ” โต้อิเหนายิงเป้านักโทษ-ปินส์ได้เฮยื้อชีวิตพลเมืองสำเร็จ

    รัฐบาลฟิลิปปินส์แสดงความยินดีที่ทางการอิเหนายอมละเว้นชีวิต แมรี เจน เวโลโซ หญิงชาวตากาล็อกซึ่งอยู่ในกลุ่มนักโทษประหารด้วย โดยก่อนหน้านี้มีบุคคลสำคัญหลายคนที่ออกมาวิงวอนขอชีวิตเธอ รวมถึงนักมวยชื่อดังอย่างแมนนี ปาเกียว

    “พระเจ้าตอบรับคำวิงวอนของเราแล้ว” ชาร์ลส โฆเซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์กล่าว ขณะที่บรรดานักเคลื่อนไหวซึ่งร่วมกันจุดเทียนอยู่ที่หน้าสถานทูตอินโดนีเซียในกรุงมะนิลาถึงกับร้องเฮลั่น และโผเข้ากอดกันด้วยความดีใจ

    เวโลโซได้รับการละเว้นโทษตาย หลังจากบุคคลคนหนึ่งที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้หลอกให้เธอนำยาเสพติดเข้าอินโดนีเซีย ได้เข้ามอบตัวต่อทางการฟิลิปปินส์

    สำหรับนักโทษต่างชาติคนอื่นๆ ที่ถูกประหารชีวิตประกอบด้วยชาวบราซิล 1 คน ชาวไนจีเรีย 3 คน และอีก 1 คนซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าถือสัญชาติไนจีเรีย หรือกานา

    ครอบครัวของนักโทษชายชาวบราซิลที่มีชื่อว่า โรดริโก กูลาร์เต โอดครวญว่าเขาไม่สมควรถูกยิงเป้า เพราะแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าป่วยเป็นโรคจิตเภท (Schizophrenia) ขณะที่รัฐบาลบราซิลก็แสดงความผิดหวังต่อการประหารที่เกิดขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์กีโอ ฟรังกา ดาเนเซ ชี้ว่า กรุงบราซิเลียจะต้อง “ประเมิน” ความสัมพันธ์กับอินโดนีเซียเสียใหม่ หลังวิงวอนขอความเมตตาไปแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง

    ด้านฝรั่งเศสก็ออกมาย้ำจุดยืน “ไม่เห็นด้วยต่อการลงโทษประหารทุกกรณี” ซึ่งอันที่จริงแล้วมีนักโทษชาวฝรั่งเศสอยู่ในกลุ่มที่จะต้องถูกประหารชีวิตด้วย แต่ได้รับการละเว้นชั่วคราวจนกว่ากระบวนการอุทธรณ์จะเสร็จสิ้น

    ตามธรรมเนียมการประหารนักโทษของอินโดนีเซีย ผู้ต้องหาจะถูกนำไปยังลานประหารหลังเวลาเที่ยงคืน จากนั้นจะถูกมัดติดกับหลักประหารโดยสามารถเลือกได้ว่าจะคุกเข่า ยืน หรือนั่ง ก่อนที่เพชฌฆาตแม่นปืน 12 คนจะลั่นกระสุน

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048766
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทีมนักธรณีฝรั่งเศสเศร้า!! เตือนไม่ถึง 2 สัปดาห์ ระวังแผ่นดินไหวใหญ่ที่เนปาล
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 เม.ย. 2558 05:30

    [​IMG]

    ‘บัดนี้ ประวัติศาสตร์ได้เกิดซ้ำรอยด้วยตัวของมันเอง พลังงานจากแนวรอยเลื่อนของการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 2477ซี่งส่งมาทางทิศตะวันตก ได้ปลดปล่อยออกมาแล้วในวันนี้ หลังจาก 81 ปีผ่านไป’

    โลรองต์ โบลลีงเกอร์ นักธรณีวิทยา จากสำนักงานวิจัยทางภูมิศาสตร์ CEA ในฝรั่งเศส กล่าวถึงการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ระดับ 7.8 แมกนิจูด เขย่าภาคกลาง ประเทศเนปาล เมื่อเวลา 13.11 น. ของวันที่ 25 เมษายน ตามเวลาในประเทศไทย

    ความรุนแรงของแผ่นดินไหว ซึ่งมีศูนย์กลางห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันตกเฉียงเหนืองประมาณ 77 กม. และอยู่ระหว่างกรุงกาฐมาณฑุ กับเมืองโภคารา ส่งผลให้อาคารบ้านเรือน และโบราณสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO)ในเนปาลพังพินาศเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ กรุงกาฐมาณฑุ เป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายหนักสุด ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากธรณีพิโรธครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่อาจสูงถึงหมื่นคน


    ช่วยกันค้นหาผู้รอดชีวิต
    ภัยแผ่นดินไหว ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ยังไม่อาจรู้ล่วงหน้าแน่ชัดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด เพียงแต่นักธรณีวิทยาพอจะประเมินหรือคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่ามันมีโอกาสจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาประมาณนี้เท่านั้น

    เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวเนปาล เพราะก่อนจะเกิดแผ่นดินใหญ่สุดวิปโยคที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ทีมนักธรณีวิทยา ภายใต้การนำของ โบลีงเกอร์ เพิ่งส่งรายงานเตือนไปยังสมาคมภูมิศาสตร์ของเนปาล ไม่ถึง 2 สัปดาห์ด้วยความกังวลใจ ให้ระวังจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงบริเวณภาคกลางของเนปาล!!


    สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า จากการลงพื้นที่สำรวจแนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ของทีมนักธรณีวิทยาคณะนี้ ที่กลางป่า บริเวณภาคกลางของเนปาล เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมานั้น พวกเขาได้พบแนวรอยเลื่อนใหญ่ในประเทศเนปาล (รอยเลื่อนนี้ พาดเป็นทางยาวจากทิศตะวันตกไปยังตะวันออกระยะทางกว่า 1,000 กม.) จึงได้นำเถ้าถ่านที่แตกหักที่ฝังอยู่ในบริเวณรอยเลื่อน ไปตรวจวิเคราะห์หาอายุของธาตุคาร์บอน เพื่อต้องการทราบว่า รอยเลื่อนนี้มีการขยับตัวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?

    ผลจากการตรวจวิเคราะห์ธาตุคาร์บอน แสดงให้เห็นว่า รอยเลื่อนใหญ่นี้ไม่ได้มีการขยับตัวมานานมากแล้ว และดูเหมือนมีความเป็นไปได้มากที่สุดว่า มีการเคลื่อนตัวครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี พ.ศ.1887 หรือเมื่อ 700 ปีก่อน

    ที่สำคัญ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทางภาคกลางของเนปาล เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นรูปแบบเดียวกับแผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของเนปาลมาแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวตามแนวรอยเลื่อนครั้งใหญ่ ก็ย่อมจะส่งพลังงานไปยังแนวรอยเลื่อนใกล้ๆ เหมือนกับ ‘ทฤษฎีโดมิโน’ โดยแผ่นดินไหวล่าสุดนี้เป็นผลจากการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ทางตะวันออกของกรุงกาฐมาณฑุ เมื่อปีพ.ศ. 1798

    เกิดหิมะถล่มที่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ บนเทือกเขาหิมาลัย หลังจากแผ่นดินไหวใหญ่

    ชาวเนปาลได้รับบาดเจ็บ
    เพราะก่อนหน้านี้ ทีมของโบลีงเกอร์ได้ไปสำรวจแนวรอยเลื่อนใกล้เคียง ทางภาคตะวันออกของกรุงกาฐมาณฑุมาแล้ว และพบว่า รอยแตกของหินเป็นผลจากการเกิดแผ่นดินใหญ่เมื่อปีพ.ศ. 1798 และในปี พ.ศ.2477 จากนั้นได้ส่งพลังงานมาทางทิศตะวันตก มาชนแนวรอยเลื่อนใหญ่ที่ไม่ขยับมานานกว่า 700 ปี !

    ความร้อนใจของทีมนักธรณีคณะนี้ ทำให้พวกเขาได้ส่งรายงานเตือนไปยังสมาคมภูมิศาสตร์ของเนปาล ทันที โดยนายพอล แทปพอนเนียร์ จากสำนักงานสำรวจภูมิศาสตร์ของสิงคโปร์ ซึ่งเคยทำงานร่วมกับทีมโบลิงเกอร์มาก่อน ยังอธิบายให้นักข่าวบีบีซีฟังว่า การค้นพบครั้งนี้ ทำให้พวกตนทราบว่า ทั้งกรุงกาฐมาณฑุ และเมืองโภคารา จะประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อ 700 ปีก่อน หรือปีพ.ศ. 1887

    ขณะที่ นายโบลีงเกอร์กล่าวด้วยความเสียใจ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ระหว่างกรุงกาฐมาณฑุ และโภคารา ว่า ประวัติศาสตร์ได้ซ้ำรอยด้วยตัวของมันเอง เพียงแต่พวกเขายังมีความกังวลต่อไปว่า อาจเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงหนักกว่านี้ภายในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า!

    เพราะจากการคำนวณการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 25 เม.ย. พบว่า ความรุนแรงของแผ่นดินไหวขนาด 7.8 อาจยังไม่มากเพียงพอสำหรับการปลดปล่อยพลังงานออกมาสู่ผิวดินทั้งหมด ดังน้ัน จึงจะยิ่งมีการสะสมพลังงานมากขึ้น และพวกเขาคาดว่า บางทีจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่รุนแรงกว่าในบริเวณทางทิศตะวันตกและใต้ของแผ่นดินไหวครั้งนี้ที่เนปาล ในอีกไม่กี่สิบปีที่จะมาถึง


    พระเนปาลสวดมนต์ทำสมาธิ
    เรียกว่า เป็นคำเตือนของทีมนักธรณีวิทยาจากฝรั่งเศส ที่ฟังแล้วคงยิ่งสร้างความวิตกกังวลไม่น้อย ในขณะที่ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอาคารบ้านเรือน และชาวเนปาลกว่า 1.4 ล้านคนกำลังเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ไม่มีน้ำและอาหารกิน อันเนื่องมาก จากแผ่นดินไหวสุดวิปโยคที่เพิ่งเกิดขึ้น...

    ทีมนักธรณีฝรั่งเศสเศร้า!! เตือนไม่ถึง 2 สัปดาห์ ระวังแผ่นดินไหวใหญ่ที่เนปาล - ข่าวไทยรัฐออ
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เนปาลวิปโยค...‘ธรณีแปรสัณฐาน’ไทยเสี่ยงหรือไม่?1

    [​IMG]

    “แผ่นดินไหวเนปาล เป็นไปตามทฤษฎี "ธรณีแปรสัณฐาน" เพราะหลายล้านปีที่ผ่านมา เทือกเขาหิมาลัยสูงขนาดนี้ได้เพราะเกิดจากแรงยกตัวสูงขึ้นของเปลือกโลก เป็นแรงดันจากการมุดตัวของแนวแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นซ้อนกันอยู่ หมายถึงแผ่นอินเดียมุดเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย เกิดการโก่งตัวเป็นแนวเทือกเขาขนาดใหญ่ พอเวลาผ่านไปหลายร้อยปีรอยต่อเปลือกโลกก็พลังสะสมใหม่ขึ้นเรื่อย และเมื่อแรงดันสะสมจนเก็บไว้ไม่ไหวแล้ว เปลือกโลกก็ขยับตัวอีก ทำให้ไม่มีใครพยากรณ์หรือคาดเดาได้ว่า แผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นที่ไหนหรือเมื่อไร”

    รศ.ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหววิเคราะห์ให้ฟังถึงกรณีที่เกิดขึ้นในเนปาลสร้างความเสียหายร้ายแรง เพราะจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีผู้อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น และขนาดของแผ่นดินไหวร้ายแรงถึงระดับ 7.8 เชื่อว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอีกหลายระลอก ไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
    เมื่อเปรียบเทียบกับแผ่นดินไหวที่ประเทศไทยนั้น รศ.ดร.สัมพันธ์อธิบายว่า ประเทศไทยไม่ได้อยู่ช่วงรอยต่อของเปลือกโลกจึงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงว่าจะเกิดแผ่นดินไหวระดับ 7-8 ส่วนกรณีที่เกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.3 ที่เชียงรายนั้น คิดว่าคงต้องทิ้งระยะเวลาอีกสักพักกว่าเปลือกโลกจะสะสมพลังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะนานกี่ปี

    ย้อนไปเมื่อเวลา 18.08 น. วันที่ 5 พฤษภาคม 2557 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีของประเทศไทย จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณอ.แม่ลาว จ.เชียงราย วัดความสั่นสะเทือนได้ถึงระดับ 6.3 จากนั้นเกิดอาฟเตอร์ช็อกเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กตามมาอีกกว่า 1 พันครั้ง วิเคราะห์กันว่าเกิดจากการเคลื่อนตัวของกลุ่มรอยเลื่อนพะเยา ที่ถือกันว่าเป็นหนึ่งในรอยเลื่อนที่สะสมพลังมานานในพื้นที่ภาคเหนือ โดยลักษณะของแผ่นดินไหวเป็นแบบ "รอยเลื่อนแนวราบ”

    ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแผ่นดินไหวเชียวรายสรุปสถานการณ์ความเสียหายว่า มีอาคารบ้านเรือนเสียหายรวม 8,935 หลัง สถานที่ราชการกว่า 100 แห่ง แม้ว่ามีประชาชนเสียชีวิตเพียง 2 ราย แต่ส่งผลกระทบไปทั้งหมด 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง และกำแพงเพชร

    หากเปรียบเทียบกันแล้ว ประเทศเนปาลตั้งอยู่บริเวณของรอยต่อเปลือกโลกซึ่งเป็นบริเวณเส้นแนวมุดตัวระหว่างแผ่นเปลือกโลกอินเดีย-ออสเตรเลีย กับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียที่มีความยาวถึงกว่า 3 พันกิโลเมตร ขณะที่ ประเทศไทยไม่ได้ตั้งอยู่ช่วยรอยต่อเปลือกโลก แต่อยู่ด้านในของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย โดยล้อมรอบด้วยแผ่นเปลือกโลกอินเดียและแผ่นมหาสมุทรแปซิฟิก

    ผศ.ดร.ภาสกร ปนานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ วิเคราะห์ถึงตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยว่าค่อนข้างปลอดภัยจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ไม่ได้มีรอยต่อแผ่นเปลือกโลกมีเพียง14 กลุ่มรอยเลื่อนที่สะสมพลังไว้เท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่สามารถประมาทได้ ดังบทเรียนของเนปาลที่ 80 ปีก่อนเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8 จากนั้นหลายฝ่ายเชื่อว่าต้องใช้เวลาอีกหลายร้อยปีกว่าจะเกิดแผ่นดินไหวร้ายแรงอีกครั้ง แต่กลับมีแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 100 ปี

    “กรณีเชียงรายเหมือนกัน ทำให้นักวิชาการด้านนี้ตื่นเต้นกันมาก แทบไม่มีใครเชื่อว่าแผ่นดินไหวขนาด 6.3 จะเกิดขึ้นในเมืองไทยได้ ทุกวันนี้การเรียนการสอนและการป้องกันแผ่นดินไหวต้องรื้อถอนวิธีคิดแบบเดิมออกหมด จากทฤษฎีธรณีแปรสัณฐานที่วิเคราะห์จากเปลือกโลกแผ่นต่าง ๆ ไทยไม่มีรอยเลื่อนที่น่าเป็นห่วงก็จริงถ้าเปรียบเทียบพม่าหรือจีน แต่ประมาทไม่ได้เพราะอาจมีรอยเลื่อนที่สะสมพลังไว้และพร้อมที่จะปลดปล่อยออกมาเมื่อไรก็ได้ ”

    ผศ.ดร.ภาสกร แนะนำว่าควรนำกรณีเนปาลมาเป็นบทเรียนสำคัญในการเตรียมรับมือ จากนี้ไปอาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างใหม่ต้องออกแบบโดยคำนึงถึงภัยแผ่นดินไหวด้วย และควรเตรียมพร้อมสถานที่และวิธีรับมือฉุกเฉินในแต่ละชุมชน โดยเฉพาะอาคารพื้นที่สาธารณะมีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก จากเดิมวางมาตรฐานรับแผ่นดินไหวขนาดไม่เกิน 6 จากนี้ไปต้อง 7 หรือมากกว่า ที่สำคัญคือหน่วยรับมือฉุกเฉินกรณีเกิดแผ่นดินไหวร้ายแรง

    ทั้งนี้การเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนมี 3 แบบด้วยกันคือ 1.รอยเลื่อนแนวนอน (strike-slip fault) รอยเลื่อนเคลื่อนที่ระดับเดียวกัน 2.รอยเลื่อนปกติ (normal fault) หมายถึงแผ่นดินอยู่ด้านบนเคลื่อนลงมาข้างล่างตามแรงโน้มถ่วงปกติ 3.รอยเลื่อนย้อน (reverse fault) แผ่นดินไหว กรณีที่เกิดในเนปาลนั้น สามารถรุนแรงได้ถึงระดับ 6.8 นั้น เนื่องจากรูปแบบการเคลื่อนตัวของเป็นลักษณะ “รอยเลื่อนย้อน” หมายถึง แผ่นดินอยู่ข้างล่างภูเขาหิมาลัยเคลื่อนที่ย้อนขึ้นไปตามแรงอัดจากใต้ผิวโลก

    ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 3 พันคน มีการวิเคราะห์ว่า จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแผ่นดินไหวขนาดกลางและเล็กตามมาอีกไม่ต่ำกว่า 1 ปี

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิปโยคแผ่นดินไหวกลืนเมือง‘โกรข่า’แดนนักรบ1

    วิปโยคแผ่นดินไหวกลืนเมือง‘โกรข่า’ แดนกำเนิดสายเลือดนักรบ : ทีมข่าวอาชญากรรมและต่างประเทศ

    [​IMG]

    โศกนาฏกรรมธรณีพิโรธที่ประเทศเนปาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงเกิน 3,000 คน บาดเจ็บอีกมหาศาล ไม่นับบ้านเรือน และโบราณสถานที่พังยับเยินจากแผ่นดินไหวระดับ 7.8 นับเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงมากครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ แต่สำหรับชาวเนปาลแล้ว นอกจากจิตวิญญาณความเป็นชาวพุทธแล้ว พวกเขายังมีเลือดของ "นักสู้" อยู่ในตัวอย่างแรงกล้า

    วีรกรรมตลอด 200 ปีของกองทหาร "กุรข่า" (Gurkha) เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่กองทัพอังกฤษมานับตั้งแต่อังกฤษยกทัพเข้าสู้รบในสงครามกุรข่า (พ.ศ.2357-2359) ระหว่างอาณาจักรกอร์ข่า (Gorkha) หรือประเทศเนปาลในปัจจุบัน กับบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษ (British East India Company)

    ในยุคสมัยนั้นจักรวรรดิอังกฤษยิ่งใหญ่เกรียงไกรเป็นอย่างมาก รบที่ไหน ชนะที่นั่น มีเมืองอาณานิคมอยู่ทั่วทุกมุมโลก จนได้รับการขนานนานว่า เป็น "ดินแดนพระอาทิตย์ไม่ตกดิน" ด้วยแสนยานุภาพทางการทหาร และอาวุธอันทันสมัย

    แต่เมื่อกองทัพอังกฤษยกทัพขึ้นเทือกเขาหิมาลัยขึ้นมารบกับกองทหารกุรข่า ซึ่งมีเพียงมีดสั้น "ขัครี" เป็นอาวุธประจำกาย กองทัพอังกฤษถึงกับแตกพ่ายจนไม่สามารถยึดเนปาลเป็นเมืองขึ้นได้เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ

    มีตำนานเล่าขานว่า เมื่อทหารอังกฤษตั้งแถวประทับปืนยิงไปยังทหารกุรข่า ทหารกุรข่าที่แม้จะถูกยิงก็ยังกรูกันเข้ามาฟันแทงทหารอังกฤษจนล้มตายเป็นอันมาก ขณะที่กองทหารกุรข่าที่เหลือก็หนุนเนื่องกันมาเป็นระลอกจากยอดเขาลงมาจนกองทัพอังกฤษต้องแตกพ่ายกลับลงไป

    วีรกรรมอันห้าวหาญของทหารกุรข่าทำให้อังกฤษหันมาใช้ยุทธศาสตร์ "ดึงเข้าเป็นพวก" แทนการตั้งตนเป็นศัตรู โดยหลังการเซ็นสัญญาสงบศึกกับเนปาล กองทัพอังกฤษจึงได้ว่าจ้างทหารกุรข่าเป็นทหารในสังกัดกองทัพอังกฤษ โดยอาศัยจิตใจนักรบที่ "ยอมตาย-ดีกว่าอยู่อย่างขี้ขลาด" ของกุรข่าเป็น "แนวหน้า" ในทุกสมรภูมิ แต่ทหารกุรข่าก็สามารถพิชิตชัยได้เสมอ

    ทหารกุรข่าได้เริ่มเข้ามาเป็นทหารของอังกฤษในกองทัพของบริษัท อินเดียตะวันออก ในสงครามพินทรี (Pindaree) ในปี พ.ศ.2360 และภรตปุร ในปี พ.ศ.2369 และสงครามอังกฤษ-สิกข์ ครั้งแรกปี พ.ศ.2389 และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2391

    จากนั้นได้เข้ามาต่อสู้ให้อังกฤษในสงครามการก่อกบฏของชาวอินเดีย (Indian Rebellion) ในปี พ.ศ.2400 โดยกองพันที่ 8 (ซีมัวร์) ได้สร้างผลงานยอดเยี่ยมในระหว่างการจลาจล โดยมีการมอบรางวัลเหรียญกล้าหาญ จำนวน 25 เหรียญ ให้แก่กำลังพลจากการปิดล้อมกรุงเดลี

    ในระหว่างการปิดล้อมกรุงเดลีเป็นเวลา 4 เดือน ทหารกุรข่าต้องประสบความสูญเสียถึง 327 นาย จาก 490 นาย ซึ่งสะท้อนถึงเลือดนักรบของทหารกุรข่า ผู้ยอมตาย-ดีกว่าอยู่อย่างขี้ขลาด ได้เป็นอย่างดี

    หลังเสร็จศึกปราบจลาจลกองพันซีมัวร์ได้ปรับเป็นกรมไรเฟิลซีมัวร์ และมีธงประจำหน่วย โดยในปี พ.ศ.2406 พระราชินีวิคตอเรียได้พระราชทานคทาแก่กรมแทนธงประจำหน่วยเดิม

    เสร็จจากภารกิจปราบจลาจลในอินเดีย ทหารกุรข่าได้เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยออกปฏิบัติการในพม่า อัฟกานิสถาน ชายแดนเกาหลีเหนือ มลายู จีน และทิเบต ระหว่างปี พ.ศ.2444 โดยในปี พ.ศ.2449 กองพลกุรข่าได้รับการจัดตั้งเป็นกองพลทหารปืนเล็ก มีทั้งหมด 10 กองพล โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 20 กองพัน

    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มีทหารกุรข่ามากกว่า 2 แสนนาย ในกองทัพอังกฤษ แต่บาดเจ็บล้มตายไปราว 2 หมื่นนาย และได้รับเหรียญกล้าหาญถึง 2,000 เหรียญ

    ส่วนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีกำลังพลทหารกุรข่า 250,280 นาย ใน 40 กองพัน โดยมีภารกิจรักษาความสงบในอินเดีย ตลอดจนการสู้รบในซีเรีย แอฟริกาเหนือ อิตาลี กรีซ รวมทั้งการสู้รบกับกองทัพสู้กับญี่ปุ่นในพม่า และในสิงคโปร์ทหารกุรข่าได้รับเหรียญกล้าหาญจำนวน 2,734 เหรียญ และเสียชีวิตไปประมาณ 3.2 หมื่นนาย

    วีรกรรมของทหารกุรข่ายังคงปรากฏอย่างต่อเนื่อง เช่น สงครามเกาะฟอล์กแลนด์กับอาร์เจนตินา ซึ่งทหารกุรข่าเป็นทหารแนวหน้าที่เข้าประจัญบานกับข้าศึก หรือในสงครามในอิรัก ซึ่งกองทหารกุรข่าเข้าประจัญบานกับกองกำลังเรดการ์ดของ ซัดดัม ฮุสเซน จนสามารถเอาชนะได้อย่างดุเดือด

    อัตลักษณ์ของทหารกุรข่ายังคงเฉกเช่นดิน คือ ต่อให้กระสุนหมด เหลือแค่มีดสั้นด้ามเดียว..พวกเขาก็เลือกที่จะวิ่งเข้าไปแลกชีวิตกับศัตรู แทนที่จะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

    หมดจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารกุรข่าก็ยังประจำการอยู่ในกองทัพอังกฤษเช่นเดิม ด้วยเหตุผลสำคัญ 2 ประการ คือ 1.ความหยิ่งทะนงในเลือดนักรบที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และ 2. แรงผลักดันทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งรายได้จากการเป็นทหารในกองทัพอังกฤษจะสูงกว่ารายได้เฉลี่ยภายในประเทศถึง 20-30 เท่า

    ปัจจุบันนอกจากทหารกุรข่าชายแล้ว จากกฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคทางเพศของอังกฤษทำให้เริ่มมี "ทหารกุรข่าหญิง" เข้าประจำการในกองทัพอังกฤษบ้างแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นอดีตกองกำลังติดอาวุธลัทธิเหมาที่เข้าสู่กระบวนการสันติภาพกับรัฐบาลเนปาล

    สถานที่ฝึกคัดเลือกสุดยอดทหารหญิงมีขึ้นที่เมือง "โปขรา" บนเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเป็นอีกเมืองที่ประสบความสูญเสียร้ายแรงจากแผ่นดินไหว หลักสูตรนี้ใช้เวลาฝึกราว 3 สัปดาห์ โดยมีวิธีการฝึกคัดเลือกที่สุดโหด-หินที่สุดหลักสูตรหนึ่งของโลก เช่น วิ่งขึ้นลงเทือกเขาหิมาลัย 5 กิโลเมตร พร้อมแบกหินหนัก 35 กก.ไว้บนหลัง เป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันอัตราการรับทหารกุรข่าลดลงจากยุคสมัยที่มีสงครามขนาดใหญ่มาก โดยแต่ละปีจะมีเด็กหนุ่มอายุตั้งแต่ 17.6-21 ปี สมัครเข้าเป็นทหารประจำการในกองทัพอังกฤษประมาณ 2-3 หมื่นคน แต่ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะมีเพียง 150-200 คนเท่านั้น

    คุณสมบัติสำคัญของผู้ที่จะผ่านการคัดเลือกนอกจากจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงเข้าขั้นทรหดแล้ว ยังต้องผ่านการทดสอบระดับสติปัญญา ไหวพริบ และต้อง "พูดภาษาอังกฤษ" ได้ด้วย ทำให้เด็กกุรข่าที่ใฝ่ฝันเป็นทหารทุกคนต้องเร่งเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ตั้งแต่เด็กๆ หากหวังที่จะเดินตามรอยบรรพบุรุษ และหวังที่จะยกระดับฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว

    ขณะที่ภารกิจของทหารกุรข่าในปัจจุบัน นอกจากจะถูกส่งไปประจำการตามพื้นที่ยุทธศาสตร์ของอังกฤษแล้ว พวกเขายังถูกส่งไปประจำ "สถานทูตอังกฤษ" ทั่วโลก สังเกตได้ง่ายๆ ว่า หากพบเห็นทหารหน้าตาเอเชีย (ไม่ค่อยจะออกอินเดีย แต่ออกไทยผสมจีนนิดๆ) พร้อมพกมีดสั้นเป็นอาวุธประจำกายก็มั่นใจได้เลยว่า ท่านได้เจอทหารกุรข่าในตำนานเข้าให้แล้ว

    คุณสมบัติของนักรบตามแบบฉบับทหารกุรข่าสะท้อนถึงอัตลักษณ์ของความเป็น "เนปาล" ได้เป็นอย่างดี คือ ซื่อสัตย์ อดทน พอเพียง และไม่ยอมพ่ายแพ้ แม้ต้องสละด้วยชีวิต ทำให้ชาวโลกมั่นใจได้เลยว่า ต่อให้พวกเขาจะเผชิญพิบัติภัยทางธรรมชาติร้ายแรงสักเพียงใด แต่ด้วยจิตวิญญาณนักสู้แบบชาวเนปาล จะทำให้พวกเขากลับมาหยัดยืนได้อย่างสง่างามอีกครั้ง

    ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาลจะได้ภาพชัดเจน ต่อเมื่อเข้าถึงหมู่บ้านห่างไกลได้ครบทุกแห่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว 7.8 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือ โกรข่า (Gorkha) ที่อยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงเนปาล ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 100 กิโลเมตร มีประชากรราว 2.88 แสนคน อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆประมาณ 1,000 แห่ง บนพื้นที่ 3,600 ตารางกิโลเมตร

    แผนที่ที่หน่วยงานสหประชาชาติในเนปาลจัดทำในปี 2555 พบว่า ที่เขตโกรข่า มีโรงเรียนอยู่หลายแห่ง และโรงพยาบาลสองแห่ง

    จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และผู้รอดชีวิตระบุว่า บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่พวกเขาอยู่ ถูกทำลายเกือบ 90% แต่ผ่านไปสามวัน ยังไม่อาจบอกได้ว่าสถานการณ์แท้จริงเป็นอย่างไร การเข้าถึงทางบกแทบเป็นไปไม่ได้เพราะดินถล่ม บางชุมชนห่างไกลมาก แม้ในสภาพปกติยังต้องใช้เวลาเดินทางถึง 3 วัน

    "บาบูรัม ภัตตาไร" อดีตนายกรัฐมนตรีเนปาลที่เห็นภาพบ้านเกิดขณะขึ้นเครื่องบินมองลงมา กล่าวว่า ถนนเข้าหมู่บ้านของเขาถูกทำลายและเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่มีทางจะเข้าถึงได้ ซึ่งเกรงว่าหมู่บ้านอื่นอีก 1,000 แห่งในโกรข่า น่าจะมีสภาพไม่ต่างกัน

    แมตต์ ดาร์วาส เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์จากเวิลด์ วิชั่น ที่เข้าถึงพื้นที่ได้เป็นองค์กรแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บรรยายว่า ผู้รอดชีวิตนั่งอยู่บนกองซากหักพังของบ้านตัวเองท่ามกลางฝนเทกระหน่ำ บางคนโชคดีหน่อยหากผ้าใบพลาสติกมาทำเป็นที่คุ้มภัย แต่ไกลออกไปทางเหนือ สถานการณ์ยิ่งแย่กว่านี้

    โกรข่า มีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่ประวัติศาสตร์แห่งประเทศในดินแดนหิมาลัยแห่งนี้

    ปลายศตวรรษที่ 18 พระเจ้าปฤถวีนารายัณ ศาห์ แห่งราชวงศ์ชาห์ หรือ ศาห์ ซึ่งต่อมา ปกครองเนปาลนานกว่า 200 ปี นำแคว้นโกรข่าทำสงครามขยายดินแดนและรวบรวมกาฐมาณฑุ ปาฏัน และกีรติปุร์ ที่เคยเป็นเอกเทศ เป็นแผ่นดินเดียวกัน ที่เรียกว่า เนปาลในปัจจุบัน ทำให้พระองค์เป็นกษัตริย์พระองค์แรกแห่งเนปาล และชาวโกรข่าเป็นกลุ่มชนที่สถาปนาประเทศ

    จัตุรัสโกรข่า หรือ โกร์ข่า ดูบาร์ เป็นสถานที่ประสูติของกษัตริย์ชาห์ ซึ่งสวรรคตเมื่อปี 2318 เป็นหนึ่งในแหล่งโบราณสถานที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ใกล้ๆ กันคือวัดฮินดู มานากามานา ที่สร้างถวายพระนางปวารตี เทพแห่งการประทานพร

    สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สถานที่ทั้งสองแห่งเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวเช่นกัน

    โกรข่า ยังเป็นต้นกำเนิดของทหารผู้แกร่งกล้า ที่รู้จักทั้งในชื่อ โกรข่า และกุรข่า ในปัจจุบัน (Gorkhas/Gurkhas)

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    บัลติมอร์: หลังประกาศเคอร์ฟิวในบัลติมอร์ ตกกลางคืนจลาจลรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

    [​IMG]

    ----------------
    แม้ว่าสหรัฐฯจะประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 10 p.m. - 5 a.m. เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และสหรัฐฯส่งกองทัพ Nattional Guards จำนวน 5,000 นาย พร้อมกับตำรวจจากเมืองใกล้เคียงลงพื้นที่ในบัลติมอร์ ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์เบาบางหรือลดความรุนแรงลงแม้แต่น้อย มีการแจกแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยให้ประชาชนที่ออกมาประท้วงเรียกร้องหาความยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง
    ประชาชนจำนวนมากมีความสับสนต่อการประกาศเคอร์ฟิว บ้างก็ออกมาปล่อยข่าวว่าไม่มีเคอร์ฟิว บ้างก็ว่าเคอร์ฟิวแค่ช่วงเวลา 4 ทุ่มถึงตี 5 บ้างก็ว่าเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง Eric Costello สมาชิกสภาของบัลติมอร์ออกมาส่งข้อความผ่านทวีตเตอร์ว่า "ผมไม่เคยพูดว่าเคอร์ฟิว 5am - 11pm กรุณาอ่านtweets : 10pm - 5am สำหรับผู้ใหญ่ และ 5am - 10pm สำหรับเยาวชน ซึ่งก็คือ 24 ชั่วโมงสำหรับเยาวชน" (ฮ่าๆๆ ฮิ้วววว! มันเมาแก๊สน้ำตามาพูดหรือไงพี่น้อง!) (ต้นฉบับ : Eric Costello @CouncilmanETC 14h Re: Curfews: @wbaltv11 I never said 5am - 11pm, plz reread tweets, 10pm - 5am for adults, 5am - 10pm for youth, which is 24 hour for youth.)
    กลุ่มผู้ประท้วงบางคนก็แจกประทัดยักษ์กลับไปให้ตำรวจและทหารของสหรัฐฯที่เข้าควบคุมสถานการณ์เช่นกัน ล่าสุดมีรายงานว่าหลังประกาศเคอร์ฟิวเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา มีประชาชนถูกจับกุมอย่างน้อย 10 รายข้อหาฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว และมีประชาชนถูจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วประมาณ 235 ทางการรายงานว่ามีตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 20 นาย แต่ไม่มีการรายงานว่าประชาชนได้รับบาดเจ็บกี่ราย
    The Eyes
    29/04/2558
    ----------
    Police & National Guard Enforce Citywide Curfew in Baltimore / Sputnik International
    Thousands of Troops Patrol Baltimore as Citywide Curfew Comes Into Effect / Sputnik International
    Freddie Gray’s Death ‘Straw That Broke Camel’s Back’ - Baltimore Resident / Sputnik International
    http://rt.com/…/253965-baltimore-citywide-curfew-youth-ver…/
    http://rt.com/…/254013-ferguson-freddiegray-protests-shoot…/
    Police Arrest Ten People First Night of Baltimore Curfew Following Riots / Sputnik International
    https://www.youtube.com/watch?v=5tApLt_sz6M#t=17
    https://www.youtube.com/watch?v=R55rSQPTrZA#t=10
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ยูเครน: กองกำลังอิสระ Right Sector ขู่จะปิดล้อมทำเนียบปธน.ยูเครนหากกองทัพสลายกองกำลังของพวกเขา

    [​IMG]

    ----------------
    เอาหละสิ.... ส่อเค้าวุ่นกันอีกรอบศึกชิงอำนาจภายในยูเครนระหว่างฝ่ายประธานาธิบดีกับฝ่ายนายกรัฐมนตรี และระหว่างฝ่ายกองทัพรัฐบาลกลาง (ชั่วคราว) กับกองกำลังติดอาวุธอิสระนักรบรับจ้างชายชุดดำนีโอนาซีฝ่ายขวาจัดนิยมความรุนแรงหนุนโดยสหรัฐฯและอียู
    วันนี้ (29 เม.ย.58) เหล่าตัวแทนของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองชาตินิยมฝ่ายขวาของยูเครนที่เรียกตัวเองว่า "Right Sector" (มีกลุ่มย่อยหลายกลุ่ม) ออกมาประกาศว่าจะนำกำลังเข้าปิดล้อมอาคารที่ทำการของประธานาธิบดีปิโตร โปโรเชนโกของยูเครนในใจกลางกรุงเคียฟ
    ข้อความจากพวก Right Sector กล่าวว่า "กลุ่มเคลื่อนไหว Right Sector ขอแจ้งให้ทราบว่าจากข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือนั้น ทางการกำลังเตรียมการยั่วยุครั้งใหญ่ต่อหน่วยนักรบอาสาสมัคร (volunteer units) ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปฏิบัติการดังกล่าว พวกเราจะมารวมตัวกันใกล้ๆอาคารที่ทำการของประธานาธิบดี ณ เวลา 12.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น"
    ตึงๆๆๆ.... ดูสิว่าตอนนี้ใครมีอำนาจเหนือรัฐบาลประชาธิปไตยชั่วคราวที่สหรัฐฯจัดให้ในยูเครนกันแน่ กลุ่มติดอาวุธพวกนี้มีกำลังพลและอาวุธไม่ด้อยไปกว่าทหารของรัฐบาลกลางเลย ตอนเกิดเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในไมดานกรุงเคียฟเมื่อปี 2014 ก็ได้พวกนี้แหละเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการเผาและสังหารผู้คนด้วยการสนับสนุนของสหรัฐฯและอียู ตอนที่เกิดสงครามในยูเครนตะวันออกรัฐบาลก็ใช้งานพวกนี้ร่วมกับกองทัพรัฐบาลกลางไปถล่มที่นั่นด้วยเช่นกัน หลังการเจรจาหยุดยิงที่กรุงมินส์กเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางอียูเรียกร้องและกดดันให้รัฐบาลยูเครนมีการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นในยูเครนและให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวก Right Sector ด้วย
    รัฐบาลยูเครนก็ออกกฎหมายให้พวก Right Sector เข้าสังกัดในกองทัพ เพื่อที่จะสามารถควบคุมได้ กองกำลังอิสระพวกนี้เป็นพันธมิตรของปธน.โปโรเชนโก ถ้าเข้าร่วมกับกองทัพอย่างเป็นทางการ ก็จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมและกฎระเบียบของกองทัพทั้งหมดเหมือนกับทหารทั่วไป พวกนี้ก็จะออกรับจ็อบสร้างความวุ่นวายไม่ได้ อำนาจการต่อรองทางการเมืองก็จะลดลง เครื่องมือสำคัญของสหรัฐฯในการสร้างความแตกแยกในยูเครนก็จะถูกกำจัดไป มีหรือที่พวกนี้จะยอมเช่นนั้น
    การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นได้ไม่นานหลังจากที่ทหารหน่วยพลร่มของกองทัพยูเครนพยายามที่จะปลดอาวุธของกองกำลังอิสระเหล่านี้ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ Dnepropetrovsk ติดกับโดเนทส์กและลูฮานส์กในยูเครนตะวันออก
    Dmytro Yarosh หัวหน้ากลุ่ม Right Sector กล่าวว่า "ในฐานผู้ช่วยของประชาชน (people's deputy) ผมขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ความรับผิดชอบในการยั่วยุเหยียดหยามเป็นอย่างมาก และความพยายามในการที่ขุดเอากองทัพมาต่อสู้กับกลุ่ม Right Sector นั้นมีสาเหตุมาจากการเป็นผู้นำทางการเมืองและทางการทหาร" (ตำแหน่ง "people's deputy" นี่เขาตั้งของเขาขึ้นมาเองนะ ไม่น่าจะมีกฎหมายรองรับเพราะมันจะไปซ้ำซ้อนกับหน้าที่ของตำรวจกับทหารและฝ่ายความมั่นคงของประเทศ)
    รัฐบาลยูเครนยืนยันว่าหน่วยนักรบอาสา (กองทัพอิสระ) ทั้งหมดจะต้องเข้าสังกัดเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพของยูเครน (Ukrainian Armed Forces) หรือไม่ก็เข้าสังกัดหน่วย National Guard ของรัฐบาล ต่อกรณีนี้นาย Stepan Poltorak รมว.กลาโหมของยูเครนได้ออกมากล่าวว่า ไม่มีหน่วยกองกำลังอิสระเหลืออยู่ในภูมิภาค Donbass แล้ว (โดเนทส์กกับลูฮานส์ก)
    อาจจะใช่... เพราะว่าตอนนี้เขากำลังยกทัพมาปิดล้อมทำเนียบปธน.ของยูเครนแทน จึงไม่เหลืออยู่ในดอนบาสส์อีกต่อไป ขืนอยากอยู่ก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะที่นั่นมีพวกนักรบ NAF ของสาธารณรัฐปกครองตนเองทั้ง DPR และ LPR ดูแลอยู่ จึงถอยมาตั้งศูนย์ปฏิบัติการฐานใหญ่อยู่ที่ภูมิภาค Dnepropetrovsk แทน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวก็มีประชาชนที่พูดภาษารัสเซียเป็นส่วนมากและนิยมรัสเซียด้วยเช่นกัน พื้นที่ดังกล่าวเป็นเป็นส่วนหนึ่ง "novorossiya" ซะด้วยสิคงเดาออกนะว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร
    The Eyes
    29/04/2558
    ----------
    Ukraine's Right Sector to Picket Presidential Administration Building / Sputnik International
    Novorossiya - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ประชาชนเกาหลีใต้หลายร้อยคนประท้วงกองทัพสหรัฐฯซ้อมรบยิงจรวจและปืนใหญ่ใกล้ชายแดนรบกวนชาวบ้านยั่วยุเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    ----------------
    มันจะจุดชนวนสงครามเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ขึ้นให้ได้จริงๆหรือไงนะ? เมื่อวานนี้สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า มีประชาชนชาวเกาหลีใต้รวมตัวกันราว 600 คนประท้วงกองทัพสหรัฐฯยิงจรวดและปืนใหญ่จากรถถังร่วมกับกองทัพเกาหลีใต้ใกล้บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน เพราะมีลูกกระสุนปืนใหญ่และลูกจรวดไปตกใกล้บ้านเรือนของชาวบ้านทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย
    พื่นที่ขนาด 3,400 เอเคอร์ (acre) ที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Rodriguez Range คือบ้านหรือสถานที่ในการซ้อมรบทางทหารร่วมกันระหว่างกองทัพสหรัฐฯกับกองทัพเกาหลีใต้ การซ้อมรบครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีทหารเกาหลีใต้เข้าร่วมจำนวน 200,000 นาย และของสหรัฐฯประมาณ 4,000 นาย สำนักข่าว Yonhap ภาคภาษาอังกฤษของเกาหลีใต้รายงานว่า ผู้ประท้วงส่วนมากเป็นชาวไร่ชาวนาสูงอายุจากเมือง Pocheon การประท้วงจัดขึ้นที่หน้าอาคารที่ทำการก.กลาโหมของเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 ชั่วโมงและใกล้กับศูนย์บัญชาการใหญ่ที่8ของกองทัพสหรัฐฯ
    โดยกลุ่มผู้ประท้วงชาวเกาหลีใต้ได้ทำการประท้วงหลังยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อกรุงโซลเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้สหรัฐฯออกมาแสดงความรับผิดชอบและป้องกันอุบัติเหตุระหว่างการซ้อมรบในพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นอีก รายงานแจ้งว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อกระสุนปืนใหญ่ขนาด 105 mm ไปตกใกล้บ้านเรือนของชาวบ้านแต่ไม่ระเบิด แต่ก็ทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย (เดชะบุญ!… ถ้ามันระเบิดขึ้นมาจะเป็นอย่างไรหละนี่ ชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยก็จะรับเคราะห์ไป ดีไม่ดีกองทัพสหรัฐฯอาจจะบอกว่าเป็นการกระทำของเกาหลีเหนือไปโน่นเลย)
    เมื่อต้นเดือนนี้ ก็มีประชาชนชาวเกาหลีใต้มากกว่า 1,000 คนออกมาเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน $10 billion (ประมาณ 3.25 แสนล้านบาท) จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้จากการซ้อมรบในพื้นที่ดังกล่าว (multipurpose range complex - MPRC) เมื่อ 60 ปีที่แล้ว
    เมื่อวันที่ 16 เม.ย.58 ที่ผ่านมามีรายงานจากการจับตากองทัพสหรัฐฯของฝ่่ายเกาหลีเหนือซึ่งพบว่า ทหารสหรัฐฯที่ประจำการอยู่ใน Yongsan Garrison มีอัตราการป่วยเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น (ทำไมถึงเป็นมะเร็งเยอะ?) เกาหลีเหนือเย้ยสหรัฐฯว่า มีแต่กองกำลังทหารที่แข็งแรงทรงพลังเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องเกาหลีเหนือให้รอดพ้นจากการรุกรานของสหรัฐฯได้ Yongsan Garrison เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพสหรัฐฯในกรุงโซลของเกาหลีใต้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1957 สี่ปีหลังจากเกิดสงครามเกาหลี (1950-1953) ปัจจุบันนี้มีบุคคลากรด้านกองทัพของสหรัฐฯประอยู่ในเกาหลีใต้ประมาณ 28,500 คน
    The Eyes
    30/04/2558
    ----------
    Hundreds Protest US Army Stray Shells in South Korea / Sputnik International
    http://www.military.com/…/protesters-call-for-end-of-errant…
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐฯซ้อมประกาศใช้กฎอัยการศึกใน 7 รัฐ ภายใต้ปฏิบัติการ Jade Helm 15

    [​IMG]

    ----------------
    ทอล์คออฟะเดอร์ทาวน์ที่กำลังแรงเป็นพลุแตกในสื่อฯทั่วไปและในโลกออนไลน์ (ยกเว้นสื่อฯหลักของสหรัฐฯและตะวันตกที่รัฐบาลควบคุมอยู่) เห็นจะไม่พ้นเรื่อง "การซ้อมประกาศใช้กฎอัยการศึก" (Martial law) ของสหรัฐฯนี่แหละ ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ออกมาพักใหญ่ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับว่าสหรัฐฯเตรียมประกาศใช้กฎอัยการศึกในประเทศของตนเองใกล้จะเป็นจริงขึ้นมาซะแล้ว หลังจากที่เห็นความสำเร็จของการใช้กฎอัยการศึกในประเทศไทยโดยคสช.
    เมื่อวานนี้ (29 เม.ย.58) สำนักข่าว RT news ของรัสเซียรายงานว่านาย Greg Abbott ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสออกมาบอกให้ตำรวจรัฐ (state troopers) จับตาดูปฏิบัติการฝึกซ้อมทางทหารของสหรัฐฯที่มีโค้ดเนมว่า "Jade Helm 15" หลังจากมีข่าวลือในระดับท้องถิ่นแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่ากลอุบายทางทหารในครั้งนี้ดูเหมือนการทดลองประกาศใช้กฎอัยการศึก
    ปฏิบัติการขนาดใหญ่ได้รวมทีมทหารชั้นยอดจากหน่วยต่างๆในกองทัพเข้าร่วมด้วย ซึ่งมีทั้งหน่วย SEAL, Green Berets, หน่วยจู่โจมเฉพาะกิจจากทั้งกองทัพอากาศและนาวิกโยธิน โดยจะมีการฝึกในพื้นที่ 7 รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาติดต่อกันถึง 2 เดือนภายในปีนี้ (July 15 - September 15, 2015) มีบุคคลากรทางกองทัพเข้าร่วมปฎิบัติการพิเศษในครั้งนี้จำนวน 1,200 นาย (ตอนนี้ก็เริ่มเห็นมีเฮลิค็อปเตอร์ของทางกองทัพบินว่อนในรัฐเท็กซัส (?) บ้างแล้ว)
    กองทัพสหรัฐฯจะเข้าร่วมปฏิบัติการในสิ่งที่เรียกว่า "การฝึกปฏิบัติการทางทหารที่สมจริง" (Realistic Military Training) ในเมืองต่างๆในรัฐดังต่อไปนี้ Arizona, California, Colorado, New Mexico, Nevada, Texas และ Utah สำหรับจุดประสงค์ในการฝึกนั้น Texas และ Utah และบางส่วนทางตอนใต้ของรัฐ California จะถูกกำหนดให้เป็นเขต "ศัตรู" (hostile) ซึ่งมีคำอธิบายไว้ว่ามีประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมากตกอยู่ในอันตราย
    ก่อนหน้านี้ Mark Lastoria โฆษกผู้บัญชาการปฏิบัติการพิเศษของกองทัพพยายามที่จะพูดเพื่อบรรเทาความกังวลของประชาชนโดยกล่าวว่า "การฝึกดังกล่าวเป็นโอกาสที่จะฝึกกลยุทธ์สงครามแอบแฝงและกฎอัยการศึก" (นั่นไง! ชัดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ เมื่อมีควันก็ย่อมจะมีไฟ)
    ในขณะเดียวกันพันโท Mark Lastoria กล่าวว่าปฏิบัติการ Jade Helm หมายถึง เพื่อสนับสนุนทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษของเราและสนับสนุนภาวะความเป็นผู้นำในฝึกฝนทักษะที่จำเป็นในการต่อสู้กับภัยคุกคามจากต่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป (เตรียมจะนำไอซิสเข้ามาก่อเหตุในประเทศตัวเองหรือเปล่า? จากนั้นก็ใช้ข้ออ้างนี้ประกาศกฎอัยการศึกซะเลย?)
    รายงายอย่างเป็นทางการจากกองทัพบอกว่า "กองกำลังติดอาวุธจะฝึกซ้อมในพื้นที่ต่างๆที่ได้เลือกไว้แล้ว เนื่องจากพบว่ามีความใกล้เคียงกับภูมิประเทศพื้นที่สู้รบในต่างประเทศ" ผู้ว่าฯ Governor Abbott พรรครีพับริกันกล่าวว่า "เท็กซัสได้รับการยืนยันว่าไม่มีผู้อยู่อาศัยคนใด (พลเมือง) หรือทรัพย์สินใดๆของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง" (อ้าว! ความเห็นของผู้ว่าการรัฐกับของรัฐบาลกลางสหรัฐฯไม่ตรงกันซะแล้วสิคราวนี้ ที่สำคัญก็คือผู้ว่าฯเป็นพวกรีพับลิกันนิยมสงครามซะด้วย แต่ดันไม่ชอบให้กองทัพภายใต้การนำของพรรคดิโมแครทชุดปัจจุบันนำกองทัพเข้ามาฝึกใช้กฎอัยการศึกในรัฐของตัวเองซะนี่)
    รายงานจากเจ้าหน้าที่บอกว่า ทหารจะมีปฏิบัติการส่งสายลับไปปะปนอยู่กับพลเรือนทั่วไป เพื่อปรับปรุงทักษะของทหารในการแฝงตัวเข้ากับฝูงชน ทหารจะต้องฝึกหลบหนีจากดินแดนของศัตรูให้ได้ในระหว่างฝึกซ้อม
    ก่อนหน้านี้พันโท Mark Lastoria ได้ตอบคำถามจากฝูงชนประมาณ 150 คน ในการประชุมกับคณะกรรมาธิการศาลบาสทรอปคันทรี (Bastrop County Commissioners Court) ตามรายงาน ผู้พัน Mark Lastoria ถูกถามด้วยว่า "ปฏิบัติการ Jade Helm 15 จะรวมถึงการนำเอานักรบต่างประเทศจาก Islamic State (ไอซิส) เข้ามาสู่รัฐเท็กซัสด้วยหรือไม่?" และว่า "กองทัพสหรัฐฯจะทำการริบอาวุธปืนของชาวเท็กซัสด้วยหรือไม่?" และว่า "กองทัพต้องการที่จะประกาศใช้กฎอัยการศึกในการฝึกซ้อมครั้งนี้ด้วยหรือไม่?" ผู้พันเน้นย้ำว่า "ปฏิบัติการ Jade Helm 15 ไม่มีอะไรมากไปกว่าการฝึกซ้อมตามปรกติ" (เขาไม่ตอบคำถามเหล่านั้น แปลกไหม?)
    หนังสือพิมพ์ Austin American-Statesman ในรัฐเท็กซัสรายงานคำพูดของ Lastoria ว่า "ภูมิประเทศเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก และมันจะทำให้หหารของเราเหงื่อตกได้ การมีเหงื่อไหลในยามสงบคือสิ่งที่พวกเราต้องการ เพราะว่ามันจะช่วยลดการเสียเลือดในยามสงครามได้"
    Bob Wells จากคณะกรรมธิการศาลบาสทรอปคันทรีกล่าวในตอนท้ายว่า "มันเป็นแบบเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในสมัยนาซีเยอรมัน : คุณดึงเอาประชาชนให้มามีความคุ้นเคยกับภาพทหารบนท้องถนน การปรากฎกายของทหารในเครื่องแบบและสงครามตำรวจ... พวกเขากำลังรวบรวมข่าวกรอง นั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ และพวกเขากำลังจะเคลื่อนย้ายยานพาหนะทางกองทัพเข้ามาเตรียมการเพื่อประกาศใช้กฎอัยการศึก นั่นคือความรู้สึกของผม ผมหวังว่าผมคงจะเป็นเพียงพวกนักทฤษฎีสมคบคิดคนหนึ่งเท่านั้น" - จบข่าว
    เอาไงดี... จะหยุดแค่นี้หรืออยากจะฟังความคิดเห็นของแอ็ดมินต่อ? จบแค่นี้มันห้วนไปใช่ป๊ะ? เอาซะหน่อยนะ... แล้วคุณอายคิดว่าไงครับ? (วันนี้จะคุยกับคุณกรัชกายด้วย)
    คุณอาย : อื่ม… เท่าที่ฟังคร่าวๆจากสื่อฯต่างๆในสหรัฐฯตามคลิปที่ให้ไว้ข่างล่าง เขาวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ไปจนถึงขนาดที่ว่ารัฐพวกนี้ (7 รัฐที่สหรัฐฯจะซ้อมปฏิบัติการ Jade Helm 15) มีสัญญาณบางอย่างบ่งบอกว่าต้องการจะแยกตัวเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลางอีกต่อไป (ในความเป็นจริงอาจจะมีมากกว่านั้นก็ได้) อาจจะแยกเป็นประเทศใหม่หรือเป็นสาธารณรัฐใหม่ไปเลย รัฐบาลกลางก็เลยทำทีเป็นฝึกซ้อมหรือซ้อมรบภายในประเทศและเป็นการฝึกซ้อมการประกาศใช้กฎอัยการศึกในรัฐเหล่านี้ด้วย เหมือนจะเป็นการปรามกรายๆหนะ
    คุณกรัชกาย : ตั้งสองเดือนนี่นะ? ก่อนหน้านี้มีสัญญาณอะไรบ่งบอกว่าสหรัฐฯจะประกาศใช้กฎอัยการศึกบ้างไหม?
    คุณอาย : เท่าที่จำได้รู้สึกว่าจะมีอาการทีวีจอดำไประยะหนึ่ง และมีการส่งข้อความว่าเป็นสัญญาณแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน (Emergency Alert System - EAS) อยู่ในหลายรัฐเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วย แล้วก็มีพลเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนียถ่ายภาพ/คลิปมีลูกไฟสว่างในท้องฟ้ากลางดึกแปลกๆอยู่หลายครั้งแต่ชาวบ้านก็คิดว่าคงจะเป็นพวกชาวจีนในสหรัฐฯจุดพลุฉลองอะไรซักอย่าง อย่างนี้เป็นต้น
    คุณกรัชกาย : เอ… ก่อนหน้านี้คสช.ประกาศใช้กฎอัยการศึก สหรัฐฯและพวกแดงเผาไทย รวมทั้งสื่อฯสำนักทักแม้วและแก๊งสารพัดสัตว์ก็ออกมาโวยวายว่าขาดเสรีภาพเรียกร้องให้ยกเลิกกฎอัยการศึก แล้วทีอย่างนี้ไม่เห็นพวกนี้ออกคัดค้านสหรัฐฯบ้างเลยน้อ?
    คุณอาย : เชิญแขกอีกแล้วไหมหละ... จะว่าไปนะ รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องขอบคุณลุงตู่กับคสช.ที่สามารถนำกฎอัยการศึกมาสร้างความสุขสยบพวกป่วนบ้านป่วนเมืองเตรียมจะเผากรุงรัตนโกสินทร์รอบที่สามนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าไทยเราเป็นตัวอย่างที่ดีและประสบผลสำเร็จในการประกาศใช้กฎอัยการศึกจนทำให้บ้านเมืองสงบลงได้ จนรัฐบาลและกองทัพสหรัฐฯติดใจอยากจะเอาไปใช้ที่ประเทศของเขาบ้าง ตอนนี้ก็เลยแกล้งทำเป็นทดลองใช้ซักสองเดือนก่อน ถ้าได้ผลดีอาจจะเพิ่มระยะเวลาให้นานขึ้นกว่านั้นก็ได้ คุณกรัชกายคิดว่าไงหรือ?
    คุณกรัชกาย : ไม่แน่นะ... อาจจะประกาศใช้ทุกรัฐในอเมริกาเลยก็ได้ และอาจจะออกกฎหมาย ม.44 อย่างของไทยก็ได้ แต่เป็นเวอร์ชั่นยูเอสเอแทน ฮ่าๆๆ เออนี่... ดีเลยตอนนี้พวกที่กำลังตกงานจากรับจ้างจัดม็อบและรับจ้างก่อเหตุบึ้มรายวันน่าจะไปร่วมแจมที่เท็กซัสด้วยนะ อเมริกาเขากำลังจัดโปรแกรมพิเศษต้อนรับอยู่พอดีนั่นหนะ
    คุณอาย : วันนี้พอหละครับ... โอกาสหน้าค่อยคุยกันใหม่ บั๊บบาย
    The Eyes
    30/04/2558
    ----------
    http://rt.com/usa/254077-texas-governor-monitor-training/
    http://rt.com/usa/244969-texas-martial-law-army/
    http://www.chron.com/…/Covert-warfare-comming-to-Texas-6157…
    https://docs.google.com/…/0B3axduuybL0jdjZQUjhsSmJsZTA/edit…
    ‘Emergency alert’ sparks panic among TV viewers across US — RT USA
    https://www.youtube.com/watch?v=a0hS0fLxIn0
    https://www.youtube.com/watch?v=DMbyK87p8UQ
    https://www.youtube.com/watch?v=TQpo1-cS-9E
    https://www.youtube.com/watch?v=8rd2GB3LB3w
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 เมษายน 2015
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เอาไม่อยู่แล้วบัลติมอร์! พัฒนาเป็น "Baltimore Uprising" ลามไปถึงนิวยอร์กและดีซีแล้วกำลังลามไปทั่วสหรัฐฯ

    [​IMG]

    ----------------
    ยังไงหละนี่? แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาและมีการจับกุมประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 235 คน และมีปล่อยตัวออกมาบางส่วนประมาณ 101 คน แต่ในช่วงกลางวันนั้นกลุ่มผู้ประท้วงก็ได้รวมตัวกันใหม่ ไม่ใช่มีแต่คนผิวดำเท่านั้น แต่มีคนผิวขาวเข้าร่วมประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมเป็นจำนวนมากด้วย shut down เมืองบัลติมอร์ไปแล้ว ยิ่งทางรัฐบาลและกองทัพของสหรัฐฯใช้ยาแรงเท่าไร ดูเหมือนว่าผลที่ตามมาจะแรงกว่าเดิมอีกเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวนัก ประชาชนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตำรวจก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Freddie Gray ชายผิวดำอายุ 25 ปี สัญชาติอเมริกันออกมาเสียที
    เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯเล่นใช้อำนาจทางกองทัพกดขี่เสรีภาพและความยุติธรรมของประชาชน ประชาชนก็ผุดไอเดีย "Baltimore Uprising" ขึ้นมาในโลกโซเชียลบ้าง มีการเชิญชวนให้ผู้คนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนในเมืองใหญ่หลายเมืองในสหรัฐอเมริกาเช่นที่นิวยอร์กและวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐฯซะเลย ตำรวจสหรัฐฯก็ยังใช้วิธีเดิมแม้จะอยู่ในนิวยอร์กก็ยังจับกุมประชาชนที่ประท้วงบางคนอีก ที่นิวยอร์กนั้นมีการรวมตัวกันที่ Union Square ในขณะที่ DC เริ่มก่อตัวกันที่ Chinatown ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องบัลติมอร์แต่มันก็เป็นไปแล้ว
    สื่อฯหลักของสหรัฐฯอย่าง CNN และของอังกฤษอย่าง BBC พยายามไม่ลงข่าวนี้ในหน้าหลักบนเว็บไซต์อินเตอร์ของตนเอง เหมือนพยายามปิดบังหรืออำพรางเหตุการณ์อย่างนี้ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ให้ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่สื่อฯของรัสเซียเกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชม. บอกเล่าเรื่องราวของสหรัฐฯให้โลกได้รับรู้แทน
    The Eyes
    30/04/2558
    ----------
    Massive Protests Shut Down Baltimore, Cities Across the US / Sputnik International
    http://rt.com/usa/254333-baltimore-police-protest-video/
    http://rt.com/usa/254357-nyc-dc-freddie-gray-rallies/
    https://twitter.com/hashtag/BaltimoreUprising?src=hash
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    นิวยอร์ก : Baltimore Uprising ตำรวจนิวยอร์กจับกุมผู้ประท้วง 60 ราย
    --------------
    ประชาธิปไตยและเสรีภาพแบบอเมริกัน เมื่อประชาชนได้ยินได้ฟังข่าวอยู่บ่อยๆว่า "คนผิวสี/คนดำ ถูกตำรวจอเมริกันฆ่าตาย" พวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าทำไมมันถึงมีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้นในประเทศของพวกเขาถี่จัง และรัฐบาลก็ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ เขาจึงพากันออกมาเดินเรียกร้องหาความยุติธรรมและความจริงบนท้องถนน ในนิวยอร์กมีประชาชนออกมารวมกันเดินประท้วงและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเฟรดดี้ เกรย์ หลายพันคน
    แต่ก็ถูกตำรวจสหรัฐฯรวบตัวไปแล้วถึง 60 คนแม้ไม่ได้ก่อเหตุรุนแรงใดๆ เนื่องจากตำรวจห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ประท้วงเดินบนท้องถนนและบนทางเท้า อ้างว่าผิดกฎหมายจราจรและเป็นการกีดขวางทางเดิน ในขณะที่ฝ่ายตำรวจเองก็ขนเอารั้วเหล็กลงมาขวางถนนไว้ซะเองเพื่อกั้นเส้นทางเดินขบวนของกลุ่มผู้ประท้วง
    อ้าว… คนเป็นพันๆคน เดินบนถนนก็ไม่ได้ เดินบนทางเท้าก็ไม่ได้ จะให้ไปเดินบนหลังคาหรือดาดฟ้า หรือเกาะอยู่ตามผนังตึกหรือไง คนนะไม่สไปเดอร์แมน หรือจิ้งจก ตุ๊กแก ที่จะทำอย่างนั้นได้ ก็ไหนว่าอเมริกาเป็นประเทศที่มีเสรีภาพไง พอประชาชนออกมาเดินประท้วงกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯที่พวกเขามีความรู้สึกว่ามันน่าสงสัยว่ามีความยุติธรรมอยู่จริงๆหรือ ก็ถูกจับกดหัวลงกับพื้นและใส่กุญแจมือลากเข้าห้องขังซะนี่ มันยังไงกันหละนี่อเมริกา
    วันก่อนที่บัลติมอร์ก็มีอีกม็อบหนึ่งปรากฎขึ้นมานอกจากม็อบประท้วง กลุ่มนี้เรียกตัวเองว่าพวกไม่นิยมความรุนแรง รวมตัวกันได้ประมาณ 100-300 คน เข้ามาขวางม็อบเรียกร้องความยุติธรรมกับตำรวจไม่ให้ปะทะกัน แต่อยู่ในที่ๆเขาไม่ปะทะกัน พวกม็อบจัดตั้งไม่เอาความรุนแรงนี้ไม่กล้าเข้าไปอยู่ในสนามรบที่เขาซัดกันรุนแรง คล้ายๆม็อบนิ้วพิการในบ้านเรานี่แหละ กะจะเล่นม็อบชนม็อบกันหรือไง? ออกมาปรากฎตัวได้ไม่นาน พอถ่ายรูปเสร็จโพสต์โชว์ในโซเชียลมีเดียแล้วก็สลายตัวไป ส่วนฝั่งตำรวจนั้นก็ผุดไอเดียขายเสื้อเชิ้ตมีสกรีนคำว่า "Police's Lives matter" ด้วย เหมือนกับพยายามจะแข่งกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ชูป้ายว่า "Black Lives matter" อ่ะ… เอาเข้าไปสหรัฐฯ ซัดกันเข้าไป
    ตอนนี้สื่อฯหลักของสหรัฐฯ (mainstream US media) กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าพยายามปกปิด ปิดบัง อำพรางคดีเกี่ยวกับบัลติมอร์ เมื่อสังเกตตามเว็บไซต์ของสำนักข่าวต่างๆแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ตอนแรกก็ไม่ลงข่าว ต่อมาพอถูกด่าก็ลงนิดหน่อยพอเป็นพิธี ไม่ใช่ข่าวหลัก หรือข่าวใหญ่ ทำเป็นข่าวรองแทน พยายามจะไม่ขึ้นภาพที่มีผู้คนประท้วงเป็นจำนวนมาก ส่วนภาพที่นำมาประกอบข่าวนั้นก็จะพยายามเสนอภาพคนผิวสีทำลายรถตำรวจ หรือเก็บกวาดท้องถนนแทน ไม่มีหรอกภาพตำรวจและทหารถือปืนคุมสถานการณ์เคอร์ฟิวหนะ แต่ถ้าเป็นที่ประเทศไทยนี่ สื่อฯพวกนี้จะจ้องแต่ภาพทหารนี่แหละ มันตรงกันข้ามกันไปหมดจริงๆ สื่อฯไทยในเครือของพวกเขาที่ไปเอาข่าวมาก็จะลงแบบขอไปทีเหมือนกัน ลงมากไม่ได้เดี๋ยวรายได้หด
    The Eyes
    30/04/2558
    -----------
    http://rt.com/usa/254357-nyc-dc-freddie-gray-rallies/
    http://rt.com/usa/254349-media-coverage-baltimore-questions/
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย
    วันที่ 30 เม.ย.58 อเมริกา เอาไม่อยู่ เร่งลวนลามผู้หญิง จับเด็กไปขังให้หมดเพื่อหยุดม็อบ

    [​IMG]

    สถานการณ์การประท้วงเพรียกหาเสรีภาพ ที่ไม่เคยมึในอเมริกา ได้ขยายวงลุกลามจากเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ ไปยังอีกหลายเมืองเช่น บอสตัน นิวยอร์ค วอชิงตันดีซี ผู้ประท้วงจำนวนมากเป็นเด็กๆ และผู้หญิง
    แต่ทางการอเมริกา กลับมองว่าคนอ่อนแอพวกนี้ไม่ใช่ประท้วง แต่ทางการ และสื่อยิวไซออนิสต์ เรียกพวกเขาเหล่านี้ว่าก่อการจราจล โทษของพวกเขามีสถานเดียว คือ โดนทุบ ตี ยิงแก็สน้ำตาใส่ผู้อ่อนแอในแนวระนาบ ที่เป็นข้อห้ามสากล
    แต่ก็หาหยุดยั้งปริมาณผู้ประท้วงเหล่านี้ได้ กลับมีมวลมหาประชาชนอเมริกัน ออกมาสู่ท้องถนนในปริมาณมากขึ้น โดยไม่สนใจประกาศภาวะฉุกเฉิน และเคอร์ฟิว ของทางการ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ส่งผลให้ตำรวจลวนลามผู้หญิง จับกุมเด็กไปขัง
    ประชาชนไทย เป็นกังวลในการใช้ความรุนแรงเสมือน "การก่อการร้าย ทางประชาธิปไตย" ของรัฐบาลอเมริกาอย่างมาก จึงขอเตือนในฐานะมิตรประเทศกันมากว่า 180 ปี ว่า เด็ก และผู้หญิง เป็นกลุ่มผู้อ่อนแอ ที่ได้รับการคุ้มครองตามพันธสัญญานานาชาติ
    การที่ทางการอเมริกา ทำร้ายพวกเขานั้น เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงที่สุดในโลก อย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน เป็นยิ่งเสียกว่าทางทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์
    รัฐบาลอเมริกา ต้องหยุดการทำรุนแรงต่อผู้อ่อนแอทันที หยุดการคุกคามเสรีภาพประชาชน หยุดการประกาศภาวะฉุกเฉิน และเคอฟิว และปล่อยตัวผู้เรียกร้องประชาธิปไตย และถูกจับกุมโดยไม่ความผิดทั้ง 235 รายทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
    ประชาชนไทยเข้าใจดีว่า การเปลี่ยนแปลงจากระบอบเผด็จการเลือกตั้ง ไปสู้ระบอบอนุรักษ์นิยมประชาธิปไตยนั้น เป็นเรื่องยาก แต่รัฐบาลอเมริกาต้องใช้ความพยายามมากกว่านี้อีก
    ฝ่ายความมั่นคงของไทยมีประสบการณ์นี้มาก่อน และยินดีถ่ายทอดประสบการณ์นี้ให้กับกองทัพอเมริกา ในการกำจัดรัฐบาลเลือกตั้งเผด็จการบ้าอำนาจนี้ให้พ้นจากการกดขี่ประชาชน...แท้งกิ้วทรีไทม์
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 29 เม.ย.58 อึ้ง..นี่ปลากระเบนหรือนี่ มันอะไรจะใหญ่โตขนาดนี้
    กลุ่มชาวประมง ภูมิภาคทัมเบ ทางเหนือของเปรู พบปลากระเบนขนาดใหญ่ยักษ์ บริเวณลา ครอฟ เขตน่านน้ำทางตอนเหนือใกล้พรมแดนติดกับเอกวาดอร์ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมาที่ภูเขาไฟในชิลีระเบิด และแผ่นดินไหวที่เนปาล โดยระบุว่ามีน้ำหนักมากถึง 1.1 ตัน ลำตัวยาว 8 เมตร
    จากนั้นได้ขนส่งปลากระเบนด้วยกระบะลากจูง ด้วยปลากระเบนตัวดังกล่าวมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถนำไปไว้บนเรือประมงได้ กระทรวงทางน้ำของเปรู จึงติดต่อประสานงานข้อมูลจากกลุ่มชาวประมง เพื่อขอข้อมูลปลากระเบนตัวนี้
    เคยบอกแล้ว ว่าสัตว์ทะเลมันวิวัฒนามาหลายสิบล้านปี ก่อนมีมนุษย์ซะอีก มันตัวใหญ่ขนาดนี้ จู่ๆ มันหนีอะไรขึ้นมาจากทะเล และมันรู้ได้อย่างไร ว่าจะเกิดภัยพิบัติ ขนาดมนุษย์ฉลาดล้ำเลิศกว่า มีอุปกรณ์แสนไฮเทค ยังพยากรณ์แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิดไม่ได้แน่นอน
    แต่สัตว์ทะเล และสัตว์เลื้อยคลาน พวกนี้มันกลับรู้ล่วงหน้า เพราะปลาโลมากว่า 100 ตัว จู่ๆ มันขึ้นมาเกยตื้นที่ญี่ปุ่น และมีปลาขนาดใหญ่ขึ้นมาเกยตื้นถี่ยิบในหลายพื้นที่ทั่วโลก ก่อนวิปโยคนี้ไม่กี่วันเท่านั้น
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/topsecretthai
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 29 เม.ย.58 จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแผ่นดินไหวซ้ำที่เนปาลอีกครั้ง
    ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาให้ความเห็นว่า ในกรณีแผ่นดินไหวเนปาล ยังมีพลังงานตกค้างที่ปลดปล่อยออกมาไม่หมด สามารถทำให้แผ่นดินเนปาลเคลื่อนตัวไปอีก 30-50 ฟุต (เพิ่มจากเดิมที่เคลื่อนไปแล้ว 30 ฟุต )
    จุดที่แผ่นดินยกตัวขึ้นครั้งนี้ จะอยู่เหนือเชียงรายขึ้นไปเล็กน้อย อาจจะเกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีกที่บริเวณเนปาลนี้ และจะส่งผลให้แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนฉีก และอินเดียทรุดตัวจมลงทั้งประเทศ ในอนาคตอันใกล้
    เมื่ออินเดียจมลง ก็จะดึงแผ่นดินครึ่งหนึ่งของพม่าให้จมลงตามไปด้วย ไทยเราก็จะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอาณาเขตติดต่อกับพม่า คือฝั่งตะวันตกของประเทศไทยทั้งหมด และพื้นที่เชียงใหม่ เชียงราย
    -------------------------------->
    เป็นการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ ที่อยู่บนข้อมูลขณะนี้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นจริงแน่ๆ เพราะมนุษย์ยังไม่มีเทคโนโลยีใด ทำนายแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน 100%
    การรู้อาจเป็นทุกข์อยู่บ้าง แต่การไม่รู้อะไรเลยนั้น กลับเป็นทุกข์ยิ่งกว่า
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 29 เม.ย.58 อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อดาวหางพุ่งตรงมายังโลกถึงเดือนกันยาฯ นี้
    มีรายงานว่า ดาวเคราะห์น้อย ดาวหางดวงหนึ่งกว้างประมาณ 2.5 ไมล์ ที่นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาวิเคระห์มานานหลายปี ว่ามันกำลังมุ่งหน้ามาทางโลก และจะทำให้ซีกโลกด้านอเมริกา รับผลกระทบเต็มๆ กำหนดจะมาถึงโลกระหว่างช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย เดือนกันยายน ปีนี้
    ยังไม่รู้ว่าผลกระทบคืออะไร และมันจะเฉี่ยวโลกไปในระยะห่างเท่าใด แต่เป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เพราะดาวพุธ ก็โดนดาวหางพวกนี้แหละ ชนจะผิวดาวเละไปหมด
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/topsecretthai
     

แชร์หน้านี้

Loading...