ติดตามสถานะการณ์

ชี้แผ่นดินไหวเนปาล กระทบ 3 รอยเลื่อนในไทย



กรมทรัพยากรธรณี จับตาแผ่นดินไหวเนปาล กระทบ 3 รอยเลื่อนไทย ชี้คาดเดาล่วงหน้าไม่ได้ ขอ ปชช.ใช้ชีวิตตามปกติ ยันเขื่อนศรีนครินทร์ รองรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ วันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 เวลา 16:36 น.

เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี แถลงข่าวเรื่อง "เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เนปาล ส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร?" ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล เกิดจากรอยเลื่อนย้อนมุมต่ำ โดยเกิดขึ้นระหว่างแนวมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกอินเดียใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเชียไปในทิศทางด้านเหนือโดยประมาณ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดห่างจากเมืองกาฐมานฑุ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 80 กิโลเมตร และจุดศูนย์กลางห่างจาก จ.เชียงราย ของประเทศไทย ประมาณ 1,700 กิโลเมตร ห่างจาก กทม. ประมาณ 2,000 กิโลเมตร ดังนั้นแรงสั่นสะเทือนที่จะมาถึงประเทศไทยมีค่าน้อยมาก จนไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณี สามารถตรวจสอบแผ่นดินไหวหลัก และแผ่นดินไหวตาม หรืออาฟเตอร์ช็อกจนถึงวันที่ 27 เม.ย.ได้จำนวนทั้งหมด 18 ครั้ง แต่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย โดยเกิดขึ้นบริเวณชายแดนประเทศเนปาล – อินเดีย และเนปาล – บังคลาเทศ เป็นต้น

อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแนวการเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าว มีความต่อเนื่องมายังรอยเลื่อนสกายในประเทศพม่า ซึ่งได้เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.2 ริกเตอร์ติดตามหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล และรอยเลื่อนสกาย มีรอยเลื่อนแขนงมายังประเทศไทย ประกอบด้วยรอยเลื่อนแม่ปิง – เมย ทอดตัวผ่าน อ.ตากฟ้า อ.พยุหะคีรี อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อ.ขาณุวรลักษบุรี อ.คลองขลุง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ มีความยาวโดยประมาณ 161 กิโลเมตร โดยรอยเลื่อนสกายอยู่ห่างจากรอยเลื่อนแม่ปิง – เมย ประมาณ 100 กว่ากิโลเมตร และเป็นรอยเลื่อนเดียวกัน นอกจากนี้ยังเชื่อมไปยังกลุ่มรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี และกลุ่มรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี ซึ่งกรมทรัพยากรธรณี จะต้องติดตามรอยเลื่อนทั้ง 3 รอยอย่างใกล้ชิด พร้อมกับภาวนาขอไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการเกิดแผ่นดินไหวไม่มีใครสามารถพยากรณ์ หรือคาดเดาได้ล่วงหน้า

เมื่อถามว่า โอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวในประเทศไทยมีหรือไม่ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า อาจจะมีเกิดขึ้น แต่ไม่รุนแรง และไม่น่าจะเกิน 5 ริกเตอร์ แต่ปกติมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่ารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ เป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์ จะมีผลกระทบหรือไม่ นายสุพจน์ กล่าวว่า ไม่ต้องพูดถึงเขื่อนศรีนครินทร์ เพราะเขื่อนฯ ยืนยันว่ามีระบบรองรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ นอกจากนี้ กรมทรัพยากรธรณี ยังมีเครื่องวัดอัตราเร่งคอยตรวจผลกระทบจากแผ่นดินไหวติดตั้งอยู่แล้ว คอยตรวจสอบสถานการณ์ตลอดเวลา ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ.

ชี้แผ่นดินไหวเนปาล กระทบ 3 รอยเลื่อนในไทย | เดลินิวส์

 

"ประวิตร"ถก ครม.จับตาโผโยกย้ายบิ๊ก มท.



"ประวิตร"นั่งหัวโต๊ะถก ครม.แทน "บิ๊กตู่" จับตา มท.เตรียมชงโยกย้ายรายชื่อข้าราชการระดับสูงเข้าพิจารณา วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 9:26 น.

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ติดภารกิจเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 26 ที่ประเทศมาเลเซีย

โดยวาระ ครม.ที่น่าสนใจ อาทิ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เตรียมเสนอแต่งตั้งผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ด้านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ฉบับที่ 3 และแผนปฏิบัติการระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ฉบับที่ 4 ขณะที่กระทรวงมหาดไทยขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเป็นค่าเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อทดแทนระบบเดิม 455 แห่ง

ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เตรียมจะเสนอบัญชีรายชื่อข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาโยกย้ายเป็นวาระจร ซึ่งมีทั้งตำแหน่งรองปลัด อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด.

"ประวิตร"ถก ครม.จับตาโผโยกย้ายบิ๊ก มท. | เดลินิวส์

 

วิษณุ ลั่น ไม่บ้าจี้ลงโทษ ขรก.ที่ถูกกล่าวหา ยันให้ความเป็นธรรม
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 27 เม.ย. 2558 14:00



"วิษณุ" แนะให้ความสำคัญงานตรวจราชการ เตรียมใช้คำขอตั้งงบฯ ปี 59 เป็นแผนปฏิบัติงานปี 58 เหตุประเทศวุ่นวายจัดทำแผนไม่ทัน ลั่นไม่บ้าจี้ลงโทษผู้ถูกกล่าวหา ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 เม.ย. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการสัมมนาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2558 โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า การจัดทำงานใดๆ ให้สำเร็จนั้น ปัจจัยสำคัญ คือ การสื่อสารสองทาง ที่ผู้ปฏิบัติจะต้องนำสิ่งที่จะดำเนินการไปสื่อสารให้คนภายนอกรู้ แล้วรับฟังความเห็นเพื่อมาปรับปรุงงาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยบอกไว้ว่า การตรวจราชการมีความสำคัญกว่างานออฟฟิศ ข้าราชการอย่าตรวจราชการเฉพาะที่งานออฟฟิศ เพราะการตรวจราชการ สามารถเซ็นเอกสารออฟฟิศได้ แต่การอยู่ออฟฟิศไม่สามารถตรวจราชการได้ ข้าราชการสมัยก่อนดำรงตัวเช่นนี้ จึงได้รับความเลื่อมใส แตกต่างจากปัจจุบัน ซึ่งเราต้องพยายามแก้ปัญหาของการตรวจราชการให้หมดไป

ทั้งนี้ ตามกฎหมายได้กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำแผนราชการประจำปีงบประมาณ และมีหน่วยงานต่างๆ คอยตรวจสอบว่า ทำตามแผนงานหรือไม่ และปีนี้ที่บ้านเมืองมีความวุ่นวาย ทำให้การจัดทำแผนล่าช้า ไม่เป็นไปตามที่คิด เพราะมีแผนงานจากทั้ง คสช. และรัฐบาล สำนักงบประมาณจึงเสนอว่า ในงบปี 2558 หลายกระทรวงยังไม่ได้ทำแผนงาน ถ้ายึดตามข้อกฎหมายก็ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ จึงเสนอมาว่า ขอให้ยึดคำขอตั้งงบประมาณประจำปี 2559 เป็นแผนปฏิบัติประจำปี 2558 ไปโดยปริยาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นชอบ และให้เสนอเข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 28 เม.ย.นี้

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า เมื่อมีแผนปฏิบัติราชการปี 2558 ที่อนุโลมมาแล้ว ผู้ตรวจราชการต้องไปตรวจดูว่า กระทรวงต่างๆ ทำตามหรือไม่ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีหัวข้อฝากให้ผู้ตรวจราชการได้ช่วยดูแลหลายเรื่อง อาทิ เรื่องหนี้สินครัวเรือน การพัฒนาฝีมือแรงงาน ปัญหาการค้ามนุษย์ การจัดพื้นที่รองรับผู้อพยพ แม้จะมีไม่กี่พื้นที่ แต่เราต้องดูแลให้เป็นไปตามหลักมนุษยธรรม ปัญหาชุมชนแออัด การกำจัดขยะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่น แต่เมื่อขยะล้น ส่วนกลางต้องเข้าไปดูแล หากติดขัดตรงไหน หากถึงจุดหนึ่งก็อาจใช้มาตรา 44 เข้าไปแก้ปัญหา การให้คำแนะนำเสริมประสิทธิภาพผู้ว่าราชการจังหวัด และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อไม่ให้เข้ามาขอความช่วยเหลือในส่วนกลาง เพราะนายกรัฐมนตรีรู้ดีว่า แม้บางครั้งอาจมีนายหน้า มีคนพามา มีค่ารถ ค่าข้าวให้ แต่ก็ลำบากไม่ใช่เล่น ถ้ามาแล้วบางครั้งรัฐบาลไม่อาจแก้ปัญหาได้ทันที จึงไม่ดีกว่าหรือ ที่จะไปใช้บริการที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งตรงนี้ผู้ตรวจราชการสามารถเข้าไปดูและช่วยประสานงานให้ได้

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการทุจริต ได้ส่งรายชื่อผู้ที่อาจมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการทุจริตมาให้รัฐบาลจำนวนมากกว่า ที่สื่อมวลชนบอกว่า 100 รายชื่อนั้น ที่จริงมีมากกว่า 100 รายชื่อ และจะมีรุ่นสอง รุ่นสาม ตามมา ตนจึงให้ไปจำแนกรายชื่อเดิมว่า มีใครเกษียณอายุราชการไปแล้ว มีใครเปลี่ยนชื่อ-สกุลบ้าง บางเรื่องมูลทุจริตเดียวครอบคลุมไปทั้งจังหวัด ถ้าจะเอาตามข้อมูลดังกล่าว จะกระทบต่อข้าราชการทั้งจังหวัด เราจะยึดรายชื่อนั้นอย่างเดียวไม่ได้ ต้องตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมด้วย เราจะบ้าจี้ดำเนินการกับผู้ที่ถูกกล่าวหาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะต่อไปอาจจะมีคนยื่นเรื่องกล่าวหากันเป็นจำนวนมาก และในที่นี้ก็ขอเป็นกำลังใจกับผู้ตรวจราชการทุกคนที่ทำงานเป็นอย่างดี

วิษณุ ลั่น ไม่บ้าจี้ลงโทษ ขรก.ที่ถูกกล่าวหา ยันให้ความเป็นธรรม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ญี่ปุ่นงงแผ่นดินงอกนอกชายฝั่งเกาะฮกไกโด



ธรรมชาติยกดินแดนให้ญี่ปุ่นฟรีๆ โดยจู่ๆ ผืนดินขนาดความยาว 300 เมตร โผล่จากใต้ทะเล เข้าเชื่อมต่อกับชายฝั่งเกาะฮกไกโด ทางภาคเหนือ วันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 เวลา 22:12 น.

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า ดินแดนอาณาเขตของญี่ปุ่นขยายเพิ่มออกไปอีกเล็กน้อย หลังจากผืนดินขนาดความยาวประมาณ 300 เมตร โผล่ขึ้นจากใต้ทะเลและเข้าเชื่อมต่อกับพื้นที่ชายฝั่ง โดยนายโยชิโนริ ยาจิมะ นักวิจัยชาวญี่ปุ่น เผยในวันนี้ ว่า ผืนดินที่งอกเงยอยู่ที่ชายฝั่งทะเล เขตเมืองราอูสึ บนเกาะฮกไกโด ทางภาคเหนือ บางจุดของพื้นที่อยู่สูงกว่าระดับผิวน้ำทะเล 10 เมตร แสดงให้เห็นบางส่วนที่เคยเป็นก้นทะเล

ปรากฏการณ์แปลกประหลาดสร้างความสนเท่ห์แก่ประชาชนท้องถิ่น ก่อให้เกิดการคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ บ้างก็ว่าอาจเป็นลางร้ายบอกเหตุ แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งใหม่ เหมือนแผ่นดินไหว 9.0 แมกนิจูด ซึ่งทำให้เกิดสึนามิพัดถล่มแนวชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อเดือน มี.ค. 2554 แต่กลุ่มนักธรณีวิทยาเชื่อว่า การโผล่ของผืนดินอาจเป็นผลจากดินถล่มในบริเวณใกล้เคียง เมื่อน้ำแข็งและหิมะละลาย ทำให้ผืนดินบางส่วนทรุดตัว และงัดดันพื้นที่ใต้ทะเลขึ้นสู่อากาศ

นายยาจิมะ เผยต่อผุ้สื่อข่าวหลังขึ้นเครื่องบินสำรวจทางอากาศเหนือพื้นที่ ว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากดินถล่ม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า พื้นที่แนวชายฝั่งบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีหิมะปกคลุมเกือบตลอดทั้งปี เกิดการถล่มเมื่อใด และเชื่อว่าน่าจะไม่มีผืนดินโผล่งอกเพิ่มอีก

เมืองราอูสึไม่ใช่สถานที่เดียวที่ทำให้ญี่ปุ่นแผ่นดินขยาย เมื่อเดือน พ.ย. 2556 เกิดแผ่นดินไหวบนเกาะกลางทะเล ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางใต้ประมาณ 1,000 กม. หินหลอมละลายที่พ่นออกมาจากปากปล่องอย่างต่อเนื่อง ทับถมก่อตัวกลายเป็นเกาะแห่งใหม่บริเวณใกล้เคียง การตรวจสอบเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาพบว่า เกาะเกิดใหม่มีเนื้อที่ประมาณ 2.46 ตารางกิโลเมตร หรือเท่ากับสนามฟุตบอล 345 สนาม.

ญี่ปุ่นงงแผ่นดินงอกนอกชายฝั่งเกาะฮกไกโด | เดลินิวส์

 

หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 'กาฐมาณฑุ'เคลื่อน3เมตร



ผู้เชี่ยวชาญชี้ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7.8 แมกนิจูดที่เนปาลเมื่อวันเสาร์ ทำให้เมืองหลวงกรุงกาฐมาณฑุขยับเคลื่อนจากจุดที่ตั้งเดิมประมาณ 3 เมตร วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 6:42 น.

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า จากเหตุการณ์เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 แมกนิจูด มีจุดศูนย์กลางอยู่ในเขตเมืองลัมจัง ทางภาคกลางของเนปาล เมื่อเวลา 11.56 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ผุ้เชี่ยวชาญชี้ว่า แรงไหวสะเทือนรุนแรงครั้งนี้ อาจทำให้ผืนดินรอบๆ เมืองหลวงกรุงกาฐมาณฑุ เคลื่อนที่จากจุดที่ตั้งเดิมหลายเมตร โดยสำนักข่าวเอเอฟพีได้รวบรวมความเห็น แบบตั้งเป็นคำถาม-ตอบ ดังนี้

กาฐมาณฑุเคลื่อนที่หรือไม่ ? - นายเจมส์ แจ็คสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาแปรสัณฐาน มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวว่า จากการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้น ข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นดินไหวที่ได้รับจากคลื่นเสียง ที่เดินทางผ่านโลกหลังเกิดแผ่นดินไหว เชื่อว่ากรุงกาฐมาณฑุเคลื่อนที่จากที่ตั้งเดิมไปทางทิศใต้ประมาณ 3 เมตร (10 ฟุต) รอยเลื่อนเปลือกโลกขนาดความยาว 150 กม. และกว้าง 50 กม. ที่ลากผ่านใต้หุบเขากาฐมาณฑุ ทนทานต่อไปไม่ไหว หลังถูกแรงกดดันนานหลายสิบปี ทำให้ชั้นหินด้านบนสุดของรอยเลื่อน ไถลลงจากหินด้านล่าง ไปทางทิศใต้

รอยเลื่อนดังกล่าวพาดผ่านระหว่างแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น แผ่นหนึ่งอยู่ใต้ประเทศอินเดีย ทิศทางแรงผลักดันขึ้นไปทางเหนือ เข้าสู่ยุโรปและเอเชีย ในอัตราประมาณ 2 เซนติเมตรต่อปี ซึ่งเป็นกระบวนการที่ก่อกำเนิดเทือกเขาหิมาลัยตั้งแต่ยุคเริ่มแรก แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ จะทำให้ผืนดินในเขตกรุงกาฐมาณฑุ ยกตัวสูงขึ้นประมาณครึ่งเมตร และพื้นที่ทางตอนเหนือขึ้นไป จะยุบตัวลงประมาณครึ่งเมตรเช่นกัน การขยับเขยื้อนของพื้นผิวโลกครั้งนี้ กว้างใหญ่เพียงพอที่จะต้องมีการทำแผนที่โลกแบบความเที่ยงตรงสูงขึ้นใหม่

อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวทำลายล้างเนปาลในครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งรุนแรงสุด ที่เคยสะเทือนพื้นที่แถบเทือกเขาหิมาลัย แผ่นดินไหวในเขตรัฐอัสสัม ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียเมื่อปี พ.ศ. 2493 ทำให้ผืนดินในวงกว้างเขยื้อนเคลื่อนที่เกือบ 30 เมตร

เนปาลจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งต่อไปเมื่อไหร่ ? - คำถามนี้บรรดาผู้เชี่ยวชาญตอบตรงกันว่า เนปาลและพื้นที่ใกล้เคียงจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อีกแน่นอน และหลายครั้งด้วย แต่ไม่มีใครตอบได้ว่า จะเกิดเมื่อใด แกรี กิบสัน อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์โลก มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ออสเตรเลีย กล่าวว่า เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.5 แมกนิจูดขึ้นไป เขย่ากรุงกาฐมาณฑุ โดยเฉลี่ยทุกๆ 100 ปี ในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา แต่ช่วงเวลาห่างระหว่างการเกิดแต่ละครั้ง จะอยู่ระหว่าง 23 - 273 ปี ทั้งนี้ การเกิดแผ่นดินไหวจากการกระทบประแทกของรอยเลื่อนแผ่นเปลือกโลกแต่ละครั้ง จะทำให้พื้นที่ติดกันโดยรอบไม่มั่นคง และจะเป็นเงื่อนไขทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งต่อไปด้วย.

หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 'กาฐมาณฑุ'เคลื่อน3เมตร | เดลินิวส์

 

เริ่มขายอุปกรณ์ตรวจเอดส์ ทางเน็ตที่อังกฤษ-15นาทีรู้



อุปกรณ์ตรวจเอดส์ด้วยตนเองเริ่มจำหน่ายทางออนไลน์ใน "อังกฤษ" แล้วเมื่อวันจันทร์ สามารถทราบผลได้เร็วเพียง 15 นาที ด้วยอัตราความแม่นยำสูงถึง 99.7%
วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 6:08 น.

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า อุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ เอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของกลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม หรือ โรคเอดส์ ที่ได้รับการอนุมัติโดยถูกต้องตามกฎหมายของอังกฤษ BioSure HIV Self Test ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจด้วยตนเองด้วยวิธีการง่ายๆ และทราบผลเร็วเพียงแค่ 15 นาที ด้วยอัตราความแม่นยำสูงถึงร้อยละ 99.7 เริ่มออกจำหน่ายทางออนไลน์แล้วเมื่อวันจันทร์ นางบริแกตต์ บาร์ด ผู้ก่อตั้งบริษัทไบโอชัวร์ กล่าวแสดงความหวังว่า อุปกรณ์ชุดนี้ซึ่งจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น จะช่วยให้ประชาชนในอังกฤษประมาณ 26,000 คน ที่มีเชื้อ เอชไอวี ในร่างกาย โดยที่ตนเองไม่รู้ ได้ทราบความจริง

ทางด้าน นางเดบอราห์ โกลด์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกองทุนเอดส์แห่งชาติ (เอ็นเอที) ของอักงฤษ กล่าวว่า การตรวจพบการติดเชื้อ เอชไอวี แต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นๆ และทำให้อัตราความสำเร็จในการรักษาโรคด้วยวิธีการสมัยใหม่สูงขึ้น "กว่าร้อยละ 40 ของประชาชนที่มีเชื้อ เอชไอวี ตรวจพบเชื้อสายเกินไป หมายความว่าพวกเขาเหล่านี้อยู่กับเชื้อเอดส์มานานอย่างน้อย 4 ปี" นางโกลด์ กล่าว และว่า ประชาชนที่ตรวจพบการติดเชื้อช้า มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ากลุ่มคนที่ตรวจพบในปีแรก 11 เท่า

จากข่้อมูลของทางการ ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อ เอชไอวี ในอังกฤษประมาณ 110,000 คน ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นโรคเอดส์ หากระบบภูมิคุ้มกันของผู้ติดเชื้อถูกทำลาย

อุปกรณ์ตรวจหาเชื้อ เอชไอวี แบบคล้ายกัน มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2555 สามารถทราบผลภายในเวลาประมาณ 30 นาที หลังการตรวจตัวอย่างเลือดหรือน้ำลายของผู้ตรวจ.

เริ่มขายอุปกรณ์ตรวจเอดส์ ทางเน็ตที่อังกฤษ-15นาทีรู้ | เดลินิวส์

 

เมฆฝน 28/04/58 17:30น.

 

ปอกเปลือก ทรราช
ฝรั่งเศสกำลังหาทางลงให้ตัวเองกรณีเรือ Mistral โดยให้กองทัพเรือออกมาบอกว่าไม่ต้องการเรือรบเพิ่มอีก ฮิ้ววววว



--------------
ขออัพเดทข่าวเกี่ยวกับเรือ Mistral ให้ฟังต่ออีกสักนิดนะครับ อันที่จริงเมื่อวันที่ 26 เม.ย.58 ที่ผ่านมาสื่อฯของรัสเซียก็ออกมาเสนอความคิดสนับสนุนการต่อเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ของรัสเซียอยู่เหมือนกัน เนื่องจากเรือบรรทุกเครื่องบิน Admiral Kuznetsov ที่สร้างมาตั้งแต่ 1982 เข้าประจำการในปี 1990 ในสมัยโซเวียต มีอายุมากแล้ว จะเข้าซ่อมบำรุงและอัพเกรดในปี 2017 และต้องใช้เวลาในการปรับปรุงอยู่ถึง 3 ปี ซึ่งในช่วงนี้รัสเซียก็จะไม่มีเรือบรรทุกเครื่องบินให้ใช้งานเลย
ในโปรแกรมการเสริมสมรรถนะทางอาวุธของกองทัพรัสเซียนั้นไม่ได้รวมการพัฒนาเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่เอาไว้ด้วยจนกว่าจะถึงปี 2025 หรือ 2030 เนื่องจากปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่หลังจากนั้นฐานทัพนาวิกโยธินแต่ละแห่งของรัสเซียขอเรือบรรทุกเครื่องบินไว้ฐานละ 2 ลำโดยให้ลำหนึ่งออกปฏิบัติการในทะเล ส่วนอีกลำหนึ่งมีไว้สำรอง เมื่อได้ครบทุกฐานทัพนาวิกโยธินแล้ว (ฐานบัญชาการใหญ่) รัสเซียกจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินด้วยกันทั้งหมด 8 ลำ ในขณะที่สหรัฐฯมี 10 ลำ จีนมี 5 ลำ
กระแสข่าวลือว่ารัสเซียกำลังจะสร้างอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของตัวเองไม่ง้อฝรั่งเศสหรืออียูอีกต่อไปนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อฯต่างๆทั้งในรัสเซียและสหรัฐฯ ประจวบเหมาะกับท่าทีของฝรั่งที่ก่อนหน้านี้ออกมาปล่อยข่าวว่าฝรั่งเศสอาจจะจ่ายเงินชดเชยให้กับรัสเซียแทน ซึ่งทางรัสเซียได้ออกมาเรียกร้องร้องค่าเสียหายเนื่องจากฝรั่งเศสไม่ยอมส่งมอบเรือบรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ให้รัสเซีย ตอนนี้ดูเหมือนว่าฝรั่งเศสกำลังเล่นเกมโยนหินถามทาง เพื่อหาทางลงให้กับตัวเองหลังจากที่หลงกลอเมริกาเข้าให้เต็มเปาในการเล่นแง่กับรัสเซีย โดยอ้างเรื่องวิกฤตยูเครนมาเป็นเหตุผลในการไม่ส่งมอบเรือรบให้รัสเซียซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการตกลงค้าขายที่ได้ทำไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ก็ไม่วายที่อียูและสหรัฐฯจะดึงเรื่องค้าขายและเรื่องอื่นๆมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองจนได้
คราวนี้เมื่อฝรั่งเศสคิดจะเล่นเกมจิตวิทยา เล่นกับไฟขืนจับไว้นานไฟจะไหม้มือเอานะสิ พวกนักการเมืองรัฐบาลฝรั่งเศสจะหาทางลงแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นอย่างไรดีหนอ โดยที่สามารถส่งมอบเรือบรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ Mistral ทั้งสองลำให้รัสเซียได้ในขณะเดียวกันก็ทำให้สหรัฐฯตำหนิไม่ได้ด้วย รัฐบาลฝรั่งเศสก็ให้ฝ่ายกองทัพของตนออกมาพูดแทนประมาณว่า นาวิกโยธินของฝรั่งเศสหวังว่าข้อตกลงเกี่ยวกับเรือ Mistral ระหว่างกรุงปารีสกับกับมอสโคว์นั้นจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และรัสเซียจะได้รับเรือบรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ทั้งสองลำ เพราะทัพเรือของฝรั่งเศสไม่ได้ต้องการเรือ Mistral เพิ่มมาอีกเนื่องจากข้อจำกัดของกองทัพ
ปัจจุบันนี้กองทัพเรือของฝรั่งเศสมีเรือ Mistral-class ประจำการอยู่แล้วจำนวน 3 ลำด้วยกันตั้งแต่ปี 2006 และปี 2012 รายงานข่าวจากกองทัพของฝรั่งเศสบอกว่าลูกเรือของฝรั่งเศสมีความพึงพอใจกับเรือทั้ง 3 ลำนี้อยู่แล้ว และไม่ต้องการให้เพิ่มเข้ามาอีก การส่งมอบเรือ Vladivostok และ Sevastopol ทั้งสองลำให้ทัพเรือของฝรั่งเศสในขณะที่งบประมาณยังเท่าเดิมนี้ถือว่าเป็นฝันร้ายของกองทัพเรือฝรั่งเศสแน่ๆ ดังนั้นแม้จะได้เรือรบลำใหม่เพิ่มแต่งบประมาณในงานบริหารจัดการและกระจายกองกำลังไม่เพ่ิมนี่ กองทัพเรือบอกว่างานนี้ฝ่ายทหารขอบายนะครับท่านนักการเมืองทั้งหลาย
อันนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฝรั่งเศสจะพลิกลิ้นอีกรอบ เพื่อดูท่าทีของทั้งฝ่ายรัสเซียและฝ่ายสหรัฐฯรวมถึงนาโต้อีกครั้งว่าจะว่าอย่างไรบ้าง ถ้าสหรัฐฯหรือนาโต้ยังเงียบรับมุกนี้ ก็แสดงว่าอ๊ะ! ไปเขียวแล้ว ธุรกิจดำเนินต่อ ไม่ต้องเสียค่าปรับและไม่ต้องถูกแบนสินค้าอย่างอื่นจากรัสเซียด้วย เผลอๆอาจจะได้งานอีกหลายโครงการในโดเนทส์กและลูฮานส์กยูเครนตะวันออกด้วยก็ได้
The Eyes
29/04/0558
----------
Will Russia Really Build a Fleet of Supercarriers? / Sputnik International
Russia May Finalize its Flagship Aircraft Carrier by 2025 / Sputnik International
Caught in Limbo: French Navy Has No Use for Extra Mistrals, Looks to Moscow / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
เอาอีกแล้วตะวันมามุกเดิม : ฟินแลนด์ทิ้งระเบิดใส่วัตถุลึกลับใต้น้ำเพราะมโนไปว่าเป็นเรือดำน้ำรัสเซีย



--------------
โรคหวาดผวารัสเซียนี่ติดต่อเร็วมากในยุโรปและแต่ละรายที่ติดเชื้อนี้แล้วจะมีอาการหนักมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เห็นอะไรแปลกๆ ไม่ชัดเจนก็จะชวนให้มโนไปว่าเป็นของรัสเซียไปซะทุกอย่าง ต้องรีบหาทางต่อต้านและทำลายโดยเร็ว เมื่อกลางเดือนนี้กองทัพสวีเดนพึ่งออกมายอมรับเองว่า ไอ้เจ้าวัตถุลึกลับที่เข้าใจและปล่อยข่าวไปว่าเป็นเรือดำน้ำของรัสเซียก่อนหน้านี้ที่สั่งให้กองทัพเรือและกองทัพอากาศของสวีเดนระดมกำลังตามล่ากันยกใหญ่จนสามารถผ่านงบประมาณกลาโหมไปได้ถึง $1.2 billion จากเดิมที่ยื่นไป $2 billion นั้น แท้ที่จริงเป็นเรือลากจูงของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งของสวีเดนนั่นเอง
เมื่อวานนี้มาฟินแลนด์มามุกเดียวกันอีกแล้ว แต่อัพเดทนิดหน่อย สำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียรายงานว่า เรือรบ (ลาดตระเวน) นาวิกโยธินของฟินแลนด์ได้ทิ้งระเบิดใส่วัตถุลึกลับใกล้เมืองหลวงของตนเอง หลังจากที่ฟินแลนด์ประเทศเพื่อนบ้านกล่าวหารัสเซียว่าส่งเรือดำน้ำมาปฏิบัติการในน่านน้ำของตน ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นเรือเอกชนของสวีเดน
Carl Haglund รมว.กลาโหมของฟินแลนด์กล่าวกับสำนักข่าวแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ว่า "เราสงสัยเป็นอย่างยิ่งเลยว่ามีกิจกรรมบางอย่างอยู่ใต้น้ำที่ไม่สมควรจะมาอยู่ตรงนั้น แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเรื่องที่ร้ายแรงแน่ๆ หากน่านน้ำของเราถูกรุกราน" จากนั้นนาวิกโยธินของฟินแลนด์ก็ทิ้งระเบิดลงไปใต้น้ำทะเลใกล้กับจุดที่สงสัยว่ามีวัตถุบางอย่างปฏิบัติการอยู่
พลเรือจัตวา Olavi Jantunen อดีตทหารนาวิกโยธินของฟินแลนด์ออกมากล่าวกับสื่อฯว่า "ระเบิดเหล่านั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายเป้าหมาย จุดประสงค์ก็เพื่อทำให้เป้าหมายรับทราบว่าถูกสังเกตพบเท่านั้น" (เข้าใจรับมุกและเข้าใจเล่นกันจริงๆ) รมว.กลาโหมของฟินแลนด์ยังกล่าวอีกว่า "มีความเป็นไปได้ว่า วัตถุดังกล่าวอาจจะเป็นเรือดำน้ำ และดูเหมือนว่ามันจะออกจากพื้นที่ไปแล้ว" (เออ… เกรงว่าจะไปโดนเรือพันธิมิตรพวกเดียวกันเข้าให้ แล้วแกล้งออกมาบอกว่าไปชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งในปฏิบัติการไล่ล่าเรือดำน้ำของรัสเซียอย่างอย่างอังกฤษนะสิ)
นั่นแหละโรคติดต่อของอียู โรคหวาดผวารัสเซีย ยังมีอีกนะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั้งอังกฤษและสหรัฐฯก็มีอาการเหมือนคนติดโรคนี้ด้วยเช่นกัน โดยบอกว่ามีเรือดำน้ำของรัสเซียไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวทะเลไอริสอีกครั้ง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างยาวนิดนึง
ส่วนอีกเรื่องตอนนี้ที่กำลังฮ็อตไปทั่วยุโรปก็คือโรคกลัวแก๊งบิ๊กไบค์ Night Wolves ของรัสเซียที่กำลังจะออกทัวร์ทั่วยุโรปรณรงค์งานวัน V-Day ของรัสเซีย รัฐบาลอียูก็พากันออกมาคัดค้านหัวยันฝาเลย มันเป็นอะไรนักหนาก็อีแค่นักท่องเที่ยวเขาจะหอบเอาเงินไปช่วยเศรษฐกิจยุโรปให้ดีขึ้น ตามเส้นทางอดีตกองทัพโซเวียตยาตราทัพเข้าถึงกรุงเบอร์ลินเพื่อปราบปรามกองทัพนาซีให้กับเยอรมันเท่านั้นเอง ก็ไม่ได้ขับรถถังไปด้วยซะหน่อยจะกลัวอะไรกันนักหนา ข่าวบิ๊กไบค์นี่เป็นข่าวเกือบทุกวัน
The Eyes
29/04/0558
----------
Finland 'Bombs' Mysterious Underwater Object Near Capital / Sputnik International
Inquiry Dismisses Sighting of Russian Submarine Near Stockholm / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
เกมจิตวิทยาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ อิหร่านยึดเรือสินค้าสหรัฐฯ เรือรบของสหรัฐฯขยับอ้างจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด



--------------
ในขณะที่การเจรจาต่อรองเงื่อนไขปัญหานิวเคลียร์ระหว่างมหาอำนาจกับอิหร่านยังดำเนินไปเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.58 ที่ผ่านมามีรายงานว่า เรือรบของอิหร่านเข้าควบคุมเรือบรรทุกสินค้าของสหรัฐฯติดธงของหมู่เกาะ Marshall Island พร้อมลูกเรือจำนวน 34 คน เรือที่ถูกยึดชื่อ Maersk Tigris จดทะเบียนที่หมู่เกาะ Marshall Island ซึ่งเรือที่ใช้ธงของหมู่เกาะนี้ไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็นเรือของสัญชาติใด รู้กันโดยทั่วไปว่าเป็นธงอำนวนความสะดวก (Marshall Islands is a flag of convenience) เรือบรรทุกสินค้าลำดังกล่าวมีการบริหารจัดการโดยบริษัท Rickmers Ship Management ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Hamburg-based Rickmers Group
เรือ Maersk Tigris กำลังมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือ Jebel Ali ในประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ผ่านช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) แต่ถูกหน่วยลาดตระเวนทางทะเลของอิหร่านยิงปืนเตือน โดยอิหร่านบอกว่าเรือ Maersk Tigris ละเมิดน่านน้ำของอิหร่าน จึงสั่งให้เรือลำดังกล่าวเข้าเทียบท่าที่เมือง Bandar Abbas ของอิหร่านซึ่งอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือ Jebel Ali ของ UAE เรือ Maersk Tigris แจ้งขอความช่วยเหลือ (distress call) จากกองทัพเรือสหรัฐฯ สหรัฐฯจึงส่งเครื่องบินรบและเรือรบ USS Farragut เข้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังจากอิหร่านตำรวจสอบเรือดังกล่าวแล้วไม่พบว่ามีทหารของสหรัฐฯอยู่บนเรือลำนั้นด้วย ก็ปล่อยเรือ Maersk Tigris และลูกเรือทั้งหมดเป็นอิสระ
หมู่เกาะ Marshall Islands เรียกชื่อเต็มว่า "สาธารณรัฐมาร์แชลล์ไอส์แลนด์" (Republic of the Marshall Islands) อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก มีประชากรประมาณ 68,480 คน (ปี 2009) Marshall Islands ได้รับเอกราชในการปกครองตนเองในปี 1979 ในอดีตก่อนหน้านั้นสหรัฐฯ ใช้หมู่แห่งนี้เป็นสถานที่ทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของตนเองอยู่ถึง 67 ครั้ง ต่อมาในปี 1986 สหรัฐฯใช้อำนาจทางกองทัพของตนเองที่เหนือกว่ากลุ่มประเทศในหมู่เกาะเหล่านั้นบังคับให้ลงนามในสัญญา Compact of Free Association ซึ่งมีอยู่ 3 ประเทศคือ Federated States of Micronesia (FSM), Republic of the Marshall Islands (RMI) และ Republic of Palau ซึ่งทำให้สหรัฐฯสามารถนำกองทัพของตนเองเข้ามีอำนาจเหนืออธิปไตยของของ RMI ได้ โดยสหรัฐฯบอกว่ามีอำนาจและอ้างความรับผิดชอบในการปกป้องหมู่เกาะเหล่านี้ แต่ที่จริงในสัญญาเหล่านั้นก็คือทำให้สหรัฐยังคงสามารถทำการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ที่เกาะ Kwajalein Atoll (Kwajalein Island) และบางเกาะของ RMI ได้อีกต่อไป
นี่แหละคืออิสรภาพที่อเมริกามอบให้อดีตเมืองที่อเมริกาเคยยึดมาก่อน ปัจจุบันนี้แม้จะบอกว่าได้รับเอกราชแล้วแต่ในความเป็นจริงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากการตกเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐฯเลย อิสรภาพแบบอเมริกาก็คืออิสรภาพที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมทางกองทัพของสหรัฐฯโดยเบ็ดเสร็จ มันต่างอะไรกับสมัยล่าอาณานิคมจากตะวันตกเมื่อร้อยกว่าปีหละนี่? กฎหมายที่กดขี่ประเทศอื่นอย่างนี้หรือที่เรียกว่าเสรีภาพและประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯมอบให้
The Eyes
29/04/0558
----------
http://rt.com/news/253853-iran-seize-us-ship/
Pentagon Confirms Iranian Forces Board Marshall Islands-Flagged Cargo Ship / Sputnik International
Marshall Islands - Wikipedia, the free encyclopedia
Compact of Free Association - Wikipedia, the free encyclopedia

 

ปอกเปลือก ทรราช

ตำรวจเท็กซัสจับผู้หญิงชาวอเมริกันฟาดลงกับพื้นคอนกรีตจนหมดสติในทันที (18+)

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/p6xL9ntIGNs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

--------------
เป็นภาพที่โหดร้าย และทารุณมากๆ อีกหนึ่งวีรกรรม (ทุรกรรม!) ที่ตำรวจสหรัฐฯกระทำต่อประชาชนชาวอเมริกันของตนเองกลางวันแสกๆ ตามข่าวบอกว่าผู้หญิง (Keith) คนที่ตกเป็นเหยื่อมีอาการอ่อนเพลีย พาลูกสาวเข้าไปซื้อของในร้านค้าท้องถิ่นแห่งหนึ่งในเมือง Round Rock รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอคุยกับบางคนในร้านนั้นว่าเธอรู้สึกอ่อนเพลียและง่วงนอน คนที่คุยด้วย (พยานในที่เกิดเหตุ) ก็ได้แนะนำให้เธอกลับบ้านไปนอนพักผ่อน เธอก็เดินกลับมาที่รถของเธอพร้อมกับลูกสาว
แต่ตำรวจมาเจอเข้าเห็นเธอมีอาการแปลกๆ สันนิษฐานว่าน่าจะเสพของมึนเมา จึงเข้าไปหาแล้วจับกุมเธอ และเธอก็ไม่ได้ขัดขืน จู่ๆตำรวจสหรัฐฯเมืองเท็กซัสก็กระชากแขนของเธออย่างแรงและฟาดตัวเธอล้มลงกับพื้นซีเมนต์จนเธอหมดสติไปในทันที มีผู้มาพบเหตุการณ์และบันทึกวีดีโอไว้ได้พอดี หลังจากที่เหยื่อได้สติแล้วเมื่อถูกถาม เธอบอกว่าจำอะไรที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นไม่ได้เลย แต่พอมีคนเอาวีดีโอให้เธอดู เธอถึงกับร้องไห้โฮออกมาทันที และบอกว่าเธอรู้สึกเจ็บที่ใบหน้าและศรีษะมาก
อีกหนึ่งหนึ่งตัวอย่างของเสรีภาพแบบอเมริกัน ดินแดนแห่งประชาธิปไตยที่ตำรวจมีสิทธิ์จะทุ่มใครลงกับพื้นให้หมดสติก็ได้ ไม่สนว่าจะเป็นชายหรือหญิง ตัวอย่างแบบนี้มีเยอะ เพจนี้นำเสนอให้เห็นอยู่เรื่อยๆ
The Eyes
28/04/0558
----------
Counter Current News — Your one stop for all the news the mainstream media can't get away with.
https://www.youtube.com/watch?v=p6xL9ntIGNs#t=36

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซีย - จีนกำลังจะบรรลุความร่วมมือในการสร้างเฮลิค็อปเตอร์ รัสเซียเตรียมสร้างสะพานเชื่อมเกาหลีเหนือ



--------------
+ รัสเซีย - จีนกำลังจะบรรลุความร่วมมือในการสร้างเฮลิค็อปเตอร์
--------------
หันดูความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ระหว่าง รัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือบ้างครับ วันนี้ (28 เม.ย.58) Dmitry Rogozin รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสื่อฯว่าจีนกับรัสเซียจวนจะบรรลุข้อตกลงในการพัฒนาเฮลิค็อปเตอร์ร่วมกันในเร็วๆนี้ โดยคาดว่าจะสามารถลงนามเซ็นสัญญากันอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนพฤษภาคที่จะถึงนี้แน่นอน
รองนายกฯของรัสเซียกล่าวว่า "เมื่อวานนี้พวกเราได้เห็นชอบในร่างข้อตกลงความร่วมมือกันฉบับสุดท้ายเกี่ยวกับโครงการอภิมหาโปรเจ็คนี้ ดังนั้น เราหวังว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคม เราจะทำ "dot the i's" (เก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่อาจจะตกหล่น) และเซ็นต์เอกสารเป็นครั้งสุดท้าย"
รองนายกฯ Rogozin กล่าวเสริมว่า "จีนให้ความสนใจในโครงการนี้เป็นอย่างมาก และเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนขนาดใหญ่ด้วย โครงการนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัสเซียกับจีนในเชิงพาณิชย์ ทางรัสเซียได้แจ้งให้จีนทราบว่ารัสเซียมีความสามารถในการสร้างเครื่องยนต์เครื่องบินที่จะใช้ในโครงการสร้างเฮลิค็อปเตอร์ร่วมกับจีน"
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วจีนกับรัสเซียมีการลงนามร่วมกันว่าจะสร้างเฮลิค็อปเตอร์ร่วมกัน และในงานแสดง Airshow ที่เมือง Zhuhai ของจีนเมื่อปี 2557 รัสเซียได้นำเฮลิค็อปเตอร์ของตนไปแสดงหลายรายการเช่น Ka-226T, Mi-171A2, Mi-38 และ Ka-32A11BC เครื่องบินเฮลิค็อปเตอร์ยอดนิยมของรัสเซียในจีนก็คือรุ่น Mi-8/17 ปีที่แล้วรัสเซียพึ่งส่งมอบเฮลิค็อปเตอร์รุ่น Mi-171E ไปให้จีนจำนวน 52 ลำซึ่งมีการเซ็นต์สัญญากันตั้งแต่ปี 2555 จีนกำลังเปลี่ยนเฮลิค็อปเตอร์บรรทุกขนาดใหญ่ Mil Mi-6 มาเป็น Mi-26TC ของรัสเซียทั้งสองรุ่น ส่วนรัสเซียกล่าวว่ากำลังจะปรับปรุงรุ่น Mi-26 ให้มีขนาดเบากว่าเดิม โดยจะยังสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ที่ 15 เมตรติกตันเช่นเดิม เฉพาะรุ่น Mi-26 นี้ราคาก็น่าจะอยู่ที่ $15,000,000 – $18,000,000 ต่อลำ (ประมาณ 4.8 - 5.8 ร้อยล้านบาท)
+ รัสเซียเตรียมสร้างสะพานมิตรภาพเชื่อมชายแดนเกาหลีเหนือกับรัสเซีย
--------------
รัสเซียเริ่มงานด้านเอกสารเตรียมสร้างสะพานชั่วคราว (Pontoon Bridge) ข้ามชายแดนที่เมือง Hasan Primorsky ของรัสเซียเชื่อมถึงเกาหลีเหนือ (ดูแผนที่ประกอบ) เมื่อวานนี้ Alexander Galushka รมต.ด้านการพัฒนาเขตตะวันออกไกลของรัสเซียได้เข้าร่วมประชุมกับสภาธุรกิจระหว่างรัสเซียกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชานแห่งเกาหลี (Democratic People's Republic of Korea) (Russia-DPRK Business Council) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก ในการกล่าวปาฐกถานั้นทางรัสเซียกล่าวว่านี่เป็นการขับเคลื่อนไปในทิศทางที่เป็นบวก ซึ่งได้มีการกำหนดขอบเขตในความสัมพันธ์ด้านการค้าและเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศ
รมต. Galushka ของรัสเซียกล่าวว่า "นับตั้งแต่การจัดตั้งสภาแห่งนี้ขึ้นมา เราได้รับข้อเสนอแนะเป็นจำนวนมากจากสมาคมทางด้านธุรกิจของทั้งสองประเทศ หนึ่งในข้อเสนอเหล่านั้นก็คือการสร้างสะพานมิตรภาพชั่วคราว pontoon bridge ข้ามชายแดนที่เมือง Hasan รัฐมนตรีและฝ่ายบริหารของพื้นที่ Primosrkiy ได้ให้การสนับสนุนความคิดริเร่ิมนี้ รัสเซียได้เริ่มงานเอกสารเกี่ยวกับโครงนี้แล้ว"
ฝั่งรัสเซียเสริมว่าโครงการสร้างสะพานมิตรภาพ Hasan-Radzhin ระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือนี้จะเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางรถไฟ Trans-Siberian และเส้นทาง Baikal-Amur Mainline เข้ากับทางรถไฟ Trans-Korean ได้ด้วย ปีนี้ทางรัสเซียทุ่มงบถึง $10 billion (ประมาณ 3.25 แสนล้านบาท) ในการปรับปรุงเส้นทางเดินรถไฟ Trans-Siberian (ระยะทาง 9,289 กม.ในตะวันออกไกลของรัสเซีย) และ Baikal-Amur Mainline (ระยะทาง 4,324 กม.) ให้ทันสมัยขึ้น ทางรัสเซียคาดว่าทั้งสองโครงการนี้จะเสร็จสิ้นภายในปี 2561
เห็นสัญญาณบางอย่างหรือยัง? การรวมชาติระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและใกล้จะเกิดขึ้นแน่ สหรัฐฯไม่ยอมปล่อยเกาหลีใต้ให้หลุดมือไปแน่ ในขณะเดียวกันจีนกับรัสเซียก็ไม่มีทางปล่อยเกาหลีเหนือให้สหรัฐฯคุมฝ่ายเดียวเช่นกัน ถ้ารวมประเทศกันแล้วสหรัฐฯคุมเกาหลีได้ทั้งหมด มีหรือที่จีนกับรัสเซียจะยอมเพราะนั่นหมายถึงภัยคุกความด้านความมั่นคงต่อทั้งจีนและรัสเซียเลยทีเดียว นี่ถ้ามองในเรื่องการเมืองเชิงภูมิศาสตร์นะ
แน่นอนว่าถ้ารวมเกาหลีเข้าด้วยกันแล้วจีนและรัสเซียมีอิทธิพลเหนือเกาหลี ก็จะทำให้สหรัฐฯสูญเสียพันธมิตรในเอเซียไปอีกราย ดังนั้นจึงไม่มีทางที่สหรัฐฯจะยอมให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นได้อย่างเด็ดขาด ยกเว้นตัวเองจะได้เปรียบ ก่อนนี้มีผู้เล่นเพียงจีนกับสหรัฐฯในความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ คราวนี้รัสเซียเริ่มจะเข้ามามีบทบาทในเกาหลีเหนือมากขึ้น แน่นอนว่าต้องระวังไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียด้วย เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วงเท่าไร เพราะยังไงซะจีนกับรัสเซียก็ยังเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นต่อกันเสมอ
ป.ล. ขอเพิ่มเกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษให้สมาชิกแฟนเพจสักนิดหน่อยนะครับ สำหรับผู้ที่รู้แล้วก็คงไม่ว่ากันนะ คำว่า "dot the i's" ที่พบในคำพูดของรองนายกฯรัสเซียนั้น อ่านออกเสียงเป็น "ด็อด ดิ ไอส์" เป็นสำนวน/คำสแลง/idiom ประโยคเต็มคือ "dot the i's and cross the t's" ใช้สำหรับกรณีที่มีการจดบันทึกหรือร่างหนังสืออย่างเร่งด่วนซึ่งอาจจะมีการเขียนตกหล่นไปบ้าง เช่นลืมใส่จุดตรงหัวตัวไอ (i) และ/หรือลืมขีดเส้นตรงหัวตัวที (t) จึงต้องมีการตรวจซ้ำอีกรอบว่ามีตกหล่นตรงไหนบ้างนั่นเอง สำนวนนี้ใช้ได้ทั่วไปในกรณีทั้งการตรวจพิสูจน์อักษร รวมถึงการตรวจร่างข้อกฎหมายหรือข้อตกลงต่างๆ เพื่อหาจุดที่ตกหล่นว่ามีเงื่อนไขใดบ้างที่ยังไม่ให้ใส่เข้าไปเพื่อให้ครอบคลุมและรัดกุมมากที่สุด ส่วนแอ็ดมิน (the eyes) นั้นก็พิมพ์ตกหล่นหรือสะกดผิดอยู่บ่อยๆ แม้จะทำ dot the i's แล้วแต่ก็ยังมีหลุดไปบ้างก็ขออภัยด้วยครับผม หากพบก็จะตามแก้ไขให้ในภายหลัง
The Eyes
28/04/0558
----------
Russia, China to Close Joint Helicopter Construction Deal in May / Sputnik International
Russian Helicopters Expect Deepening of Cooperation With China / Sputnik International
Russia, North Korea to Build Pontoon Bridge at Border Crossing / Sputnik International
TASS: Russia - Russia-North Korea Business Council looking at building bridge between two countries

 

ปอกเปลือก ทรราช
จลาจลเผาบ้านเผาเมือง บัลติมอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน สหรัฐฯส่ง National Guard เข้าพื้นที่ 5,000 นาย



--------------
เอาไม่อยู่แล้วบัลติมอร์ (Baltimore) เฟอร์กูสันโมเดล คือจลาจล แล้วก็เผา! ในขณะที่สังคมของชนกลุ่มน้อยผิวสีมีความรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกรังแกจากตำรวจผิวขาว จึงพากันออกมาเรียกร้องหาความยุติธรรมในประเทศที่รัฐบาลสหรัฐฯเรียกตัวเองว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพและเป็นประชาธิปไตย แต่รัฐบาลกลางหรือท้องถิ่นกลับไม่ได้ใส่ใจที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริง เมื่อความกดดัน อัดอั้นปะทุขึ้นมา ก็นำไปสู่การประจันหน้ากันระหว่างประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมกับตำรวจเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเกิดการปะทะกันในที่สุด
หลังจากที่มีการรวมกลุ่มกันปิดเมืองปิดถนนหลายสายในบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐฯอเมริกามาตั้งแต่วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์ก็ทวีความรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อตกค่ำวันนี้ ก็มีการเผาบ้านเผาเมืองขึ้นมาจนได้ ทีการทุบทำลายร้านค้าข้างถนน ปล้นสะดม เผารถยนต์ไปหลายคัน มีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วง นักข่าวบางคนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบใบหน้า สื่อฯหลายสำนักพยายามนำเสนอภาพดังกล่าว เหมือนจะพยายามสื่อฯอะไรบางอย่าง การใช้ยุทธวิธีโจมตีนักข่าวนี่คุ้นมาก ที่ไทยก็เคยมีมาแล้ว ที่ยูเครนก็มีสไนเปอร์ยิงนักข่าวเสียชีวิตไป 2 รายเมื่อไม่นานมานี้เอง คราวนี้ก็ที่บัลติมอร์ ของสหรัฐฯนี่แหละ
รัฐบาลท้องถิ่นของบัลติมอร์และรัฐแมรี่แลนด์ควบคุมสถานการณ์ไม่อยู่ สหรัฐฯจึงประกาศภาวะฉุกเฉินในบัลติมอร์ ส่งกองกำลังทหารรักษามาตุภูมิ (ทหารรักษาดินแดน) National Guard จำนวน 5,000 นายเข้าสู่พื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ร่วมกับตำรวจ มีการเผาอพาร์ทเม้นท์จนเป็นจุลก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะเข้าไปช่วยดับไฟ RT และ Sputnik เกาะติดสถานการณ์รายงานสดตลอด 24 ชม.ทางเว็บไซต์ตามลิงค์ข้างล่าง
The Eyes
28/04/0558
----------
Baltimore Under Siege as Police & Protesters Battle in the Streets / Sputnik International
http://rt.com/usa/253597-massive-fire-baltimore-riots/
http://rt.com/usa/253569-baltimore-riot-live-updates/

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย
วันที่ 29 เม.ย.58 ภาพเถ้าภูเขาไฟที่เห็น คล้ายกับอะไร ??



คำโบราณว่าภาพเพียงหนึ่ง สื่อได้ดีกว่าร้อยคำพูด ภาพที่เห็นเป็นภาพเหตุภูเขาไฟระเบิดในประเทศชิลี และพุ่นเถ้าถ่านขึ้นไปบนท้องฟ้า มีผู้ถ่ายได้จากหลายๆ มุม แต่น่าแปลกที่ทุกภาพมีลักษณะเถ้าถ่านภูเขาไฟคล้ายกันมาก
แต่ละคนมองดูและจินตนาการเอาเองว่าเหมือนอะไร บ่ายวันเดียวกันนั้นเอง ก็เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด M7.8 ขึ้นในเนปาล ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่เป็นทางการกว่า 5,000 ราย และพบซากศพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา โดยยังไม่รู้ว่าตัวเลขศพจะหยุดเมื่อใด
ภาพที่ถัดๆ ไปในอัลบั้มภาพนี้ คือ พิธีบูชายัญเจ้าแม่กาธิมัย ของชาวเนปาล 2 ล้านคน ที่มารวมตัวกัน โดยการใช้มีดฟันคอสัตว์ต่างๆ 500,000 ตัว ในเวลา 2 วัน ตามความเชื่อของตนว่าจะทำให้โชคดี..เน้นว่า " ไม่ได้ฆ่าเพื่อทำอาหาร " เพื่อการยังชีพตามปกติวิสัย
แล้วแต่จะคิด และไม่ได้ซ้ำเติมใคร เพียงนำความจริง 2 เหตุการณ์มาเล่าในคราวเดียวกันเท่านั้น
@ เสธ น้ำเงิน3 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/topsecretthai

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 29 เม.ย.58 คุณพระคุณเจ้า แผ่นดินไหวเนปาล คาดอาจตาย 1 หมื่นราย
ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด กรณีแผ่นดินไหวเนปาล ค้นหา 4 วันใต้ซากปรักหักพัง จำนวน 4,310 ราย (นายกฯ เนปาล คาดยอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 10,000 ราย) บาดเจ็บ 8,000 ราย UN ระบุมีผู้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 8 ล้านคน
และมากกว่า 2 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติรุนแรง สิ่งจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้ คือ เต็นท์พักแรม อาหาร น้ำดื่ม ที่พัก และยารักษาโรค ขณะนี้คนเนปาลราว 1.4 ล้านคน ประสบภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มสะอาด
ทางการเนปาลร้องขอแพทย์เฉพาะทาง 3 ด้านคือ ศัลยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ (ดมยาสลบ) และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูก ชุดกู้ภัยเริ่มเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล แต่อุปสรรคคือดินถล่ม ถนนพัง
ญาติๆ ต่างนำร่างผู้เสียชีวิตเผาริมแม่น้ำ Bagmati กลางกรุงกาฎมัณฑุ ตามความเชื่อศาสนาฮินดู จนไม่มีที่ว่างเหลือในการเผาศพ เฉพาะวัดฮินดูวัดเดียว มีศพนำมาเผาถึงวันละ 500 ราย จากปกติแค่ 30 รายเท่านั้น
------------------------------>
คุณพระคุณเจ้า อะไรจะตายมากมายขนาดนี้ พ้น 3 วันไปแล้ว โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่อยู่ใต้ซากอาคารแทบจะไม่มีแล้ว รอเพียงส่งกลิ่น และมีทีมกู้ภัยมางัดเอาร่างไปทำพิธีเท่านั้น และจะทำให้การพิสูจน์เอกลักษณ์ยากขึ้นกว่าวันแรกๆ
นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่งจะตามมาแน่นอนคือ "โรคระบาด" จากอาหารและน้ำที่ไม่ถูกสุขอนามัย และจากการจัดการศพ ที่นับวันจะพบร่างมากขึ้นเรื่อยๆ บางศพอาจใช้เวลาหลายเดือน กว่าจะพบ และจะมีเหตุอาชญากรรม และผู้สูญหายที่ไม่พบศพอีกมาก
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/topsecretthai

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย


·
วันที่ 28 เม.ย.58 โอละพ่อ..ไฟไหม้สิ่งของในบ้านที่พัทลุง ไหงคนกันเองจุดไฟ
จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้สิ่งของในบ้าน ชาวบ้านที่พัทลุง เกือบ 200 ครั้ง โดยไม่ทราบสาเหตุ และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี ลงพื้นที่ และสันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเกิดจากปฏิกริยาเคมี ธาตุตามธรรมชาตินั้น หลังจากนั้นมาก็ยังเกิดเหตุเพลิงไหม้สิ่งของต่างๆ จนชักเริ่มมีกลิ่นไม่ดี เพราะ
1. ถ้าเกิดจากปฏิกริยาเคมี บ้านอื่นข้างเคียงทำไมไม่เกิดเหตุแบบเดียวกัน
2. มีตัวละครเป็นเด็ก 2 ขวบในการบอกว่ามีไฟไหม้จุดใดทุกครั้ง และไฟจะไม่ยอมไหม้หลัง 22.00 น. ซึ่งเป็นแบบแผนเกินไป
3. มีการไหม้สิ่งของที่อยู่ในตู้เย็นอีกด้วย ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้เลยในทางวิทยาศาสตร์ เพราะการเกิดการเผาไหม้เป็นปฏิกิริยาทางเคมี มีองค์ประกอบ 3 อย่าง คือ เชื้อเพลิง ออกซิเจน และพลังงานความร้อน...ในตู้เย็นมีเชื้อเพลิง กับพลังงานความร้อนตรงไหน ?? และอ็อกซีเจนก็ต่ำ เพราะอากาศไม่ถ่ายเท
4. การลุกไหม้แต่ละครั้ง มักเกิดกับสิ่งของในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่แสงแดด และองค์ประกอบธาตุ ไม่มีปัจจัยพอจะลุกไหม้ไฟได้ และมีอุณหภูมิต่ำเกินกว่าจะติดไฟได้
ดังนั้นจึงมีการซ้อนแผนขึ้น โดยแอบติดตั้งกล้องวงจรปิดในที่สูง ที่สามารถเห็นได้ทั้งบ้าน จากภาพวงจรปิด พบความผิดปกติ คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่เสื้อสีดำในภาพ ได้แอบซ่อนที่จุดไฟไว้ในตัว จากนั้นแอบจุดไฟที่กองผ้าที่วางไว้
แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องตรงข้าม และตามเด็ก 2 ขวบมาชี้ว่าไฟไหม้ ต่อมาเกิดโกลาหล พบภาพญาติและคนในบ้านหลายคน มาช่วยกันดับไฟที่ลุกไหม้ผ้านั้น ยังไม่รู้สาเหตุว่าผู้ก่อเหตุ ทำไปเพื่อจุดประสงค์ใด
คงต้องให้ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้สอบสวนผู้ก่อเหตุถึงมูลเหตุจูงใจ ว่าทำคนเดียว หรือมีผู้อื่นร่วมด้วย ให้รอดูคลิปภาพวงจรปิดฉบับเต็ม ทางสื่อมวลชนทุกแขนง และเจ้าหน้าที่จะได้แถลงให้ประชาชนทราบต่อไป
ความจริงบางทีก็เจ็บปวด ญาติและเพื่อนบ้านต้องทำใจ เพราะเรื่องแบบนี้อาจผิดความเชื่อและความคาดหวัง ถ้าเจ้าของบ้านยินยอมให้ติดกล้องวงจรปิดหลายๆ ตัวในบ้าน เหตุเพลิงไหมอาจหายไปโดยปลิดทิ้ง เพราะสิ่งปริศนาคงกลัวกล้องวงจรปิด
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/topsecretthai

 

Jeerachart Jongsomchai ได้แชร์ลิงก์

สงครามโลกครั้งใหม่ที่ไม่มีใครพูดถึง : ทั่วโลกร้องหาน้ำมันและก๊าซ
ขณะที่โลกจวนจะเข้าสู่สงครามโลกอีกครั้งหนึ่งด้วยไฟที่ถูกจุดขึ้นในตะวันออกกลาง น้ำมันและก๊าซ ซึ่งไม่ใช่อุดมการณ์ ศาสนา หรือแม้แต่ความเป็นชาตินิยม เป็นแกนสำคัญของสมการอำนาจและความโลภ By เยาฮาเราะห์ ยอมใหญ่ - เม.ย. 28, 2015 564



(ภาพ) นายกรัฐมนตรีฏอยยิบ เออร์ดูกัน (กลาง) พบกับ ส.ส.จากอาเซอร์ไบจัน (แถวซ้าย) ในกรุงอังการ่า เมื่อ 14 ตุลาคม 2009 เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่คอเคซัสใต้ที่มีปัญหาด้านพลังงาน ตุรกีกำลังผงาดขึ้นเป็นเจ้าแห่งพลังงานโลกอย่างเงียบๆ

ลอนดอน – ความทะเยอะทะยานที่จะครองความเป็นใหญ่ของรัสเซียและสหรัฐฯ ถูกเผยออกมาอย่างโจ่งแจ้งเมื่อเดือนมีนาคม 2014 ในวิกฤตการณ์ไครเมียร์ที่เป็นปัญหาโต้แย้งกันอย่างรุนแรง ทั้งคู่ต่างชิงดีชิงเด่นกันในการแข่งขันที่ดำเนินมาตลอดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นอย่างน้อย

แต่ “สงครามเย็น” ที่ดำเนินการนานหลายทศวรรษนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมืองเลย และเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการแข่งขันด้านพลังงานล้วนๆ ตามที่กัลกิซ ดาดาโชวา นักวิเคราะห์พลังงานของอาเซอร์นิวส์ ในอาเซอร์ไบจันกล่าวไว้

ขณะที่โลกจวนจะเข้าสู่สงครามโลกอีกครั้งหนึ่งด้วยไฟที่ถูกจุดขึ้นในตะวันออกกลาง น้ำมันและก๊าซ ซึ่งไม่ใช่อุดมการณ์ ศาสนา หรือแม้แต่ความเป็นชาตินิยม เป็นแกนสำคัญของสมการแห่งอำนาจและความโลภ อันที่จริงเรื่องสำคัญอันดับแรกสำหรับชาติต่างๆ ส่วนใหญ่ คือการรักษาการเข้าถึงทรัพยากรพลังงานและการควบคุมการไหลเวียนของมัน

ถึงแม้ว่าผู้เล่นหลักในเกมอันโหดร้ายนี้ยังคงเป็นสหรัฐฯ กับรัสเซียเจ้าเก่า แต่ตุรกีกำลังผงาดขึ้นมาเป็นผู้ช่วงชิงตามธรรมชาติ เป็นผู้กำหนดประเภทและมหาอำนาจทางพลังงานระดับภูมิภาคในสิทธิของตัวเอง และขณะที่ไม่มีอาณาจักรออตโตมานอันเก่าแก่อีกต่อไป แต่แกนสำคัญที่ทำให้ตุรกียิ่งใหญ่ยังคงเป็นสิ่งเดียวกันในวันนี้ นั่นก็คือ ภูมิประเทศและทรัพยากรธรรมชาติอันมากมายมหาศาล

ทรัพยากรธรรมชาติได้กลายมาเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งอำนาจ เป็นเครื่องกำเนิดและค้ำจุนอย่างเดียวของอำนาจความเป็นใหญ่ที่แท้จริง ชาติต่างๆ ได้รุ่งเรืองและเสื่อมถอยไปกับการเข้าถึงและควบคุมทรัพยากรธรรมชาติ แม้หลายคนจะไม่รู้ แต่การต่อสู้กับรัสเซียของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ไม่ได้ถูกกระตุ้นจากความเชื่อที่ว่านาซีเยอรมนีควรจะได้ปกครองทวีปยุโรปโดยไม่มีใครขัดขวาง แต่น่าจะเป็นเพราะความเข้าใจว่าหากไม่สามารถเข้าถึงน้ำมันและก๊าซได้ จักรวรรดิไรช์ที่สาม (Third Reich) ก็จะอยู่ไม่ถึงฤดูหนาวอีกปี ทรัพยากรธรรมชาติอันมากมายของอาเซอร์ไบจันนั่นเองที่ผลักดันฮิตเลอร์ให้รนหาที่ทำลายอาณาจักรของเขาเอง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องท้าทายกับคราเคนของรัสเซีย

เหมือนอย่างที่เรารู้กันในตอนนี้ การท้าทายรัสเซียของสตาลินจะนำไปสู่การล่มสลายของเบอร์ลินได้ในที่สุด และด้วยการนั้นเองที่ทำให้การปกครองอันโหดร้ายของฮิตเลอร์ค่อยสิ้นสุดลง

“ขณะที่สงครามของนาซีเอาชนะโปแลนด์ ยึดฝรั่งเศส และกองทัพอากาศเยอรมันเข้าล้อมอังกฤษได้ทางอากาศในเดือนพฤษภาคคม 1940 ฮิตเลอร์ก็นึกถึงความเป็นจริงที่สัมผัสได้ว่า กลไกในการทำสงครามของเขานั้นต้องอาศัยทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด ที่สำคัญที่สุดคือน้ำมัน” ดาดาโชวาบอกกับสำนักข่าวมินท์เพรสส์

“ฮิตเลอร์คิดว่าถ้าเขายึดน้ำมันของคอคูเซสได้ อาณาจักรระเบียบใหม่ของเยอรมันก็จะพึ่งพาตนเองได้ภายในเขตแดนของตัวเอง และจะแข็งแกร่งยืนยง แต่ยุทธศาสตร์ของเขาในการต่อสู้กับสองแนวรบ คือสตาลินกราดกับคอคูเซส ทำให้ทรัพยากรของกองทัพเยอรมันต้องกระจายออกไปเป็นปริมาณที่น้อยเกินไปและทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ในที่สุดฮิตเลอร์ต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเพราะเขาพยายามที่จะครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง”

ฮิตเลอร์ผู้ใฝ่ฝันจะเป็นจักรพรรดิในยุคใหม่ได้วางเดิมพันบัลลังก์ของเขาในเกมพนันน้ำมัน แต่เขายังไม่ใช่ผู้นำคนสุดท้ายที่วางน้ำมันไว้เหนือธงและชาติ หรือแฝงนโยบายฉกฉวยน้ำมันไว้ใต้การหลอกลวงว่าจะสร้างประชาธิปไตย ต่อต้านการก่อการร้าย หรือความรักชาติ และอื่นๆ อีกมากมาย

“ขณะที่มหาอำนาจยังคงเล่นเกมอันยิ่งใหญ่นี้อยู่ ทรัพยากรธรรมชาติก็ตั้งอยู่ในใจกลางของทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกการเจรจา ทุกสงคราม ทุกการต่อสู้กันด้วยคำพูดที่กำลังเปิดเผยอยู่บนโลกนี้ น้ำมันและก๊าซได้กลายมาเป็นตัวหารร่วม สิ่งอื่นทั้งหมดเป็นแค่เศษฝุ่น” รูฟิซ ฮาฟิโซกลู ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานของสำนักข่าวเทร็นด์นิวส์ในอาเซอร์ไบจันกล่าว

ขณะที่มอสโกและวอชิงตันเล่นเกมช่วงชิงอำนาจกัน ตุรกีได้ใช้ยุทธศาสตร์ทางภูมิศาสตร์ ความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และความรู้สึกร่วมกันทางการเมืองเพื่อสร้างพันธมิตรด้านน้ำมันที่แผ่ไปไกลขึ้น ตุรกียังไม่เคยเลิกล้มความทะเยอทะยานอันใหญ่หลวงของตน

ความมั่นคงด้านพลังงานสอดคล้องกับความมั่นคงของชาติ

Turkey Oil Smuggling(ภาพ) ทหารตุรกีลาดตระเวนถนนสายหนึ่งใกล้ฮาคิปาซา ฮาเตย์ ตุรกี ในช่วงที่มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันมากที่สุดของตุรกี จุดผ่านสำคัญเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เรียกว่าฮาคิปาซา ริมฝั่งแม่น้ำโอรอนเตสที่แบ่งเขตแดนกับซีเรีย เมื่อ 20 กันยายน 2014 เจ้าหน้าที่และชาวบ้านบอกว่าฮาคิปาซาเป็นแหล่งลักลอบขนส่งมานานหลายทศวรรษแล้ว น้ำมันเชื้อเพลิงมาจากบ่อน้ำมันในอิรักหรือซีเรียที่อยู่ในความควบคุมของทหาร รวมทั้งกลุ่มรัฐอิสลามด้วย และถูกขายให้กับคนกลางที่ลักลอบนำข้ามชายแดนตุรกี-ซีเรีย

ขณะที่รัสเซียและสหรัฐฯ ถูกระบุว่าเป็นมหาอำนาจของโลกเนื่องจากขนาดของกองทัพและร่องรอยทางเศรษฐกิจของมัน การกระทบกระทั่งและวาระขัดแย้งกันได้ทำให้เกิดอำนาจอื่นๆ ขึ้นภายในที่ว่างของความไม่ลงรอยกันนั้น ตุรกีเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสิ่งนั้น

ฟัซลี คอร์แมน ทูตตุรกีประจำเยเมนพูดกับมินท์เพรสส์ ระบุว่าประเทศของเขาเป็น “หนึ่งในตลาดพลังงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก ควบคู่ไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในรอบสิบปีที่ผ่านมา”

คอร์แมนอธิบายต่อไปว่า ตุรกีใช้โครงการแปรรูปองค์กรอย่างชาญฉลาดเพื่อป้องกันทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลของตน และลงทุนในการพัฒนาพลังงานอย่างมียุทธศาสตร์ ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในขณะเดียวกับการใช้ภูมิประเทศที่ไม่เหมือนใครของประเทศเพื่อเป็นสื่อกลางกับพันธมิตรและข้อตกลงด้านพลังงาน เนื่องจากมหาอำนาจของโลกต้องอาศัยตุรกีมากขึ้น

“ภาคส่วนพลังงานของประเทศมีโครงสร้างที่มีการแข่งขันสูง และทำให้มีขอบเขตใหม่สำหรับการเติบโต ไม่ใช่เพียงแค่ในด้านเศรษฐกิจ แต่ในด้านการเมืองด้วย” ท่านทูตกล่าว “ตุรกีต้องการที่จะเป็นผู้เล่นที่แข็งขันในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตำแหน่งของตนเป็นการเปิดประตูธรรมชาติออกสู่ยุโรป เอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง”

ด้วยการกำหนดเงื่อนไขโดยรายงานยุทธศาสตร์พลังงาน 2012 จากกระทรวงต่างประเทศตุรกี “คาดว่าตุรกีจะกลายเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจพลังงานที่เคลื่อนไหวมากที่สุดของโลกในด้านการเพิ่มขึ้นของความต้องการพลังงาน”

และเพราะความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตของประชากรและความจำเป็นของการเติบโตด้านอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ในอังการาให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับความมั่นคงด้านพลังงาน

“ความจำกัดของแหล่งพลังงานในประเทศของตุรกีท่ามกลางความต้องการพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซ”

รายงานนั้นกล่าวต่อไป “ปัจจุบัน ทรัพยากรในประเทศมีประมาณ 26% ของความต้องการพลังงานทั้งหมด ขณะที่ส่วนที่เหลือได้มาจากการนำเข้า”

“เป้าหมายแรกของประเทศคือเพื่อตระหนักถึงความมั่นคงด้านพลังงานของตนเอง” รายงานกล่าวต่อไป โดยอธิบายว่าการจะบรรลุผลเช่นนั้น ตุรกีวางแผนที่จะเปลี่ยนเส้นทางและแหล่งจัดหาพลังงานของตน เพิ่มส่วนแบ่งของพลังงานทดแทนในพลังงานแบบผสมของตน ดำเนินการด้านพลังงานนิวเคลียร์ เริ่มขึ้นตอนสำคัญในการส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และนำไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรป
ดังที่มาร์ติน คาทูซา นักยุทธศาสตร์การลงทุนด้านพลังงานของ Casey Research เขียนในหนังสือ “The Colder War” ของเขาว่า ประเทศต่างๆ “วางแผนที่จะชนะโดยไม่ใช่ด้วยการใช้ดาบ แต่ด้วยการควบคุมแหล่งพลังงานของโลก”

ดังที่มันเป็นอยู่ ตุรกีได้รับประโยชน์จากภูมิประเทศของมันและความตึงเครียดในปัจจุบันระหว่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และรัสเซีย

ตุรกี : ผู้ค้าพลังงานโดยกำเนิด

Leiv Eiriksson(ภาพ) เลฟ อีริคสัน หนึ่งในแท่นขุดเจาะที่ใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเดินทางข้ามช่องแคบบอสโพรัสของอิสตันบูลไปยังทะเลดำ ในอิสตันบูล ตุรกี เมื่อ 31 ธันวาคม 2009

ทูตคอร์แมนระบุว่า พลังงานเป็นส่วนสำคัญในความพยายามด้านการทูตและการเมืองของตุรกีในหลายทศวรรษนี้ เพราะอังการาเข้าใจว่า อำนาจที่แท้จริงและยั่งยืนนั้นมาพร้อมกับการควบคุมพลังงาน การเข้าถึงพลังงาน และการใช้ประโยชน์จากพลังงาน

ในฐานะสะพานระหว่างทวีป ตุรกียังคงเป็นหลักสำคัญสำหรับความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ที่สหภาพยุโรปและรัสเซียไม่ค่อยจะเป็นมิตรกันเท่าใด

ยุโรปที่หิวพลังงานและพึ่งพาก๊าซของรัสเซียต้องมองหาช่องทางเลือกอื่นที่จะตอบสนองต่อความต้องการพลังงานที่กำลังเพิ่มขึ้นของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงแหล่งพลังงานที่ถูกและเชื่อถือได้ และเนื่องจากทางเลือกที่สมเหตุสมผลเพียงทางเดียวของมันตั้งอยู่ในคอเคซัสใต้ที่ร่ำรวยพลังงาน ตุรกีได้รับประโยชน์จากความได้เปรียบทางภูมิยุทธศาสตร์อย่างมากมาย

ดาดาโชวา ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานในอาเซอร์ไบจัน เชื่อว่า การอุ่นเครื่องกับตุรกีของสหภาพยุโรปในรอบปีที่ผ่านมามีผลอย่างมากกับการเจรจาที่กำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศในคอเคซัสใต้ ได้แก่จอร์เจีย อาเซอร์ไบจัน เติร์กเมนิสถาน คาซัคสถาน และอื่นๆ เพื่อร่วมในการซื้อขายพลังงานผ่านทะเลแคสเปียนผ่านทางตุรกี

“โครงการ Southern Gas Corridor ถูกคิดขึ้นโดยคำนึงถึงความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรป และด้วยการพัฒนาในไครเมีย เห็นได้ชัดว่ายุโรปต้องผ่อนคลายความกดดันจากตุรกี และมุ่งเน้นไปที่การเจรจาต่อรองข้อตกลงที่มั่นคงแทน ก็เหมือนกับสหรัฐฯ ที่มักจะยอมทำเป็นมองไม่เห็นการละเมิดประชาธิปไตยและเสรีภาพของซาอุดิอารเบีย สหภาพยุโรปก็ยินดีที่จะมองไปทางอื่นเกี่ยวกับนโยบายในตะวันออกกลางของอังการา” ดาดาโชวากล่าว

“ความสัมฤทธิผลมักจะสำคัญกว่าความเห็นอกเห็นใจทางการเมือง” เธอพูดต่อ “ไม่อาจมียุโรปที่ปลอดภัยได้โดยปราศจากตุรกี ดังนั้นสหภาพยุโรปจึงค่อนข้างจะทำงานร่วมกับอังการามากกว่าที่จะขัดแย้งกับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากตุรกีเป็นมหาอำนาจที่มั่นคงในภูมิภาคนี้ เราไม่ได้กำลังพูดถึงเบี้ยตัวหนึ่งที่มหาอำนาจตะวันตกจะสามารถเคลื่อนไปมาตามที่พวกเขาปรารถนาได้อย่างแน่นอน ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ในสภาพการณ์ของภูมิภาคในปัจจุบัน”

ภายใต้โครงการ Southern Gas Corridor นี้ อาเซอร์ไบจัน ตุรกี จอร์เจีย เติร์กเมนิสถาน คาซัคสถาน อิรัก อียิปต์ และกลุ่มประเทศมัชริกจะจัดหาก๊าซที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ให้แก่ยุโรป

รายงานฉบับหนึ่งจากหน่วยงานสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีตุรกี ระบุว่า “นอกจากจะมีตลาดภายในประเทศขนาดใหญ่แล้ว ตุรกียังตั้งอยู่ตรงจุดยุทธศาสตร์ระหว่างผู้บริโภคและผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ มันจึงเป็นเสมือนจุดศูนย์กลางด้านพลังงานของภูมิภาค ท่อส่งน้ำมันและก๊าซที่มีอยู่และมีแบบแผน ช่องแคบสำคัญของตุรกี และแนวโน้มที่จะค้นพบไฮโดรคาร์บอนสำรองในประเทศ ทำให้ตุรกีมีอำนาจในเรื่องราคาพลังงานเพิ่มขึ้น และเสริมสถานการณ์เป็นทางผ่านของมัน”

โวลคาน โบซเคอร์ รัฐมนตรีกิจการยุโรปของตุรกีและหัวหน้าผู้เจรจา กล่าวในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของยุโรปในกรุงบูดาเปสท์เมื่อต้นเดือนนี้ว่า

“ด้วยการตั้งอยู่ที่ทางแยกระหว่างผู้ผลิตและตลาดผู้บริโภคพลังงานสำคัญ ทำให้ตุรกีไม่ใช่เพียงแค่ตลาดที่สิ้นสุดเท่านั้น แต่ยังได้กำหนดให้ตัวเองเป็นประเทศทางผ่านที่น่าเชื่อถือ ด้วยการเสนอเส้นทางที่สั้น มั่นคง และยั่งยืนสำหรับทรัพยากรพลังงานของประเทศเพื่อนบ้านที่ร่ำรวยพลังงานของตนอีกด้วย”

ด้วยการผลักดันไปข้างหน้าเสมอ ตุรกีได้เปิดพิธีวางศิลาฤกษ์ท่อส่งก๊าซเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ในเมืองคาร์ส ตุรกี โครงการท่อส่งก๊าซ Trans Anatolian Gas Pipeline (TANAP) มูลค่า 11,000 ล้านดอลล่าร์ ความยาว 2,000 กิโลเมตรนี้ เป็นส่วนสำคัญของโครงการ Southern Gas Corridor ซึ่งจะส่งก๊าซจากอาเซอร์ไบจันไปยังยุโรปผ่านตุรกี ท่องส่งก๊าซนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2018 และจะส่งก๊าซธรรมชาติ 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตรไปยังตุรกี และเสริมด้วยก๊าซ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตรไปยังยุโรปภายในปี 2019

สงครามพลังงาน

ในหนังสือ The Colder War ของคาทูซา เขาได้อธิบายอย่างละเอียดถึงอำนาจของน้ำมันและก๊าซที่มีเหนือชาติต่างๆ และการเมืองโลก เขาเขียนว่า “มันเป็นเรื่องธรรมดาที่โลกดำเนินไปด้วยพลังงาน แต่น้อยคนที่จะชื่นชมกับความโหดร้ายของสัจธรรมข้อนั้นสำหรับโลกแห่งอุตสาหกรรม เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น พลังงานเป็นองค์ประกอบสำคัญของอารยธรรม”

ที่จริงแล้ว ไม่ว่าชาติเหล่านั้นจะมีอำนาจหรือช่ำชองโลกสักแค่ไหน แต่ในที่สุดก็จะล่มสลายลงหากปราศจากพลังงาน อุตสาหกรรมของชาติเหล่านั้นจะเป็นอัมพาต สถาบันของรัฐในชาติเหล่านั้นจะถูกบีบคั้นด้วยการไร้ความสามารถที่จะรักษาศูนย์รวมที่สังคมสมัยใหม่ถูกถักทอขึ้นมาไว้ได้

ชาติต่างๆ กำลังเผาผลาญแหล่งพลังงานของตนไปอย่างรวดเร็ว แม้จะมีการพัฒนาในภาคส่วนของพลังงานทดแทนก็ตาม มันคือความหิวที่มีแต่จะเติบโตขึ้นเท่านั้น
“จริงอยู่ ที่เทคโนโลยีกำลังทำการปรับปรุงแก้ไขอย่างรวดเร็วในด้านประสิทธิภาพของพลังงานทดแทนหรือพลังงานยั่งยืน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และลม แต่ในอนาคตที่มองเห็นได้นี้ ยังไม่มีสิ่งใดจะมาแทนที่พลังงานที่มีความหนาแน่นสูงของเชื้อเพลิงฟอซซิลได้อย่างแท้จริงเลยแม้แต่น้อย” เทชู ซิงห์ นักวิเคราะห์ภูมิศาสตร์การเมืองอธิบาย

ภายในสมการแห่งอำนาจนี้ มันเป็นการง่ายที่จะเข้าใจว่า ชาติใดหรือแม้แต่บริษัทใดที่ประสบความสำเร็จในการวางตำแหน่งตัวเองในการแข่งขันด้านพลังงาน ก็จะได้อำนาจควบคุมมาเป็นรางวัล เพราะผู้ที่มีเอกสิทธิ์ผูกขาดในด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการสำรองพลังงาน การจัดส่ง การขาย หรือการขนส่ง จะได้ขยายอิทธิพลอย่างกว้างขวางในด้านการปกครอง เศรษฐกิจ และประชาชน

“นี่คือสงครามจริงที่ไม่มีใครพูดถึง” ซิงห์กล่าวเน้น

ตัวอย่างของ “สงครามลับ” นี้ พบเห็นได้ไม่ยากถ้าหากเราจะมองผ่านข้ออ้างเอ็จและละครทางการเมือง สหรัฐฯ ได้ทำสงครามระดับโลกในตะวันออกกลางตลอดสิบปีที่ผ่านมาเพราะว่าต้องการรักษาการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติอันมหาศาลของภูมิภาคนี้

ในรายงานข่าวเดือนมีนาคม 2005 ของบีบีซี เกรก พาลาสท์ นักเขียนขายดีและนักข่าวเชิงสืบสวนของบีบีซีและเดอะการ์เดียน ได้ให้นิยามที่ชัดเจนแก่การเข้าแทรกแซงทางทหารในอิรักเมื่อปี 2003 ของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐฯ ขณะนั้นว่าเป็นอุบายเพื่อการควบคุมน้ำมันและก๊าซสำรองมหาศาลของประเทศ
พาลาสท์เขียนว่า “คณะบริหารของบุชได้วางแผนเพื่อทำสงครามและเพื่อน้ำมันของอิรักมาก่อนเกิดเหตุการณ์โจมตี 11 กันยายน เป็นการจุดประกายการต่อสู้ทางนโยบายระหว่างกลุ่มอนุรักษ์นิยมใหม่(Neo-cons) กับกลุ่มบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่(Big Oil)” เขาอธิบายต่อไป ถึงวิธีการที่ Big Oil ของอเมริกา ในการเป็นหุ้นส่วนกับอังกฤษ ได้ดำเนินการเพื่อฉกฉวยพื้นที่น้ำมันของอิรักด้วยการใช้ “การสร้างประชาธิปไตย” มาเป็นฉากหน้าสำหรับสื่อ

“นายอัลจิบูรี (ฟาลาห์ อัลจิบูรี ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมน้ำมันชาวอิรัก) ที่เคยเป็น ‘ช่องทางการหนุนหลัง’ ซัดดัม ของโรนัลด์ เรแกน อ้างว่า แผนการขายน้ำมันของอิรัก ที่ผลักดันโดยสภาการปกครอง ปี 2003 ที่จัดตั้งโดยสหรัฐฯ ได้ช่วยส่งเสริมการจลาจลและการโจมตีกองกำลังของสหรัฐฯ และอังกฤษ”

ถึงแม้ว่าบรรดามหาอำนาจจะระมัดระวังในการแปลงโฉมวาระพลังงานของตน ด้วยการให้เหตุผลต่อท่าทีที่ก้าวร้าวมากยิ่งขึ้นกับอำนาจทางพลังงานของตนไว้ภายใต้ข้ออ้างเท็จต่างๆ แต่มันปรากฏชัดเจนว่า น้ำมันและก๊าซยังคงเป็นแกนสำคัญของความขัดแย้งในเรื่องอาณาเขต การเมือง และแม้แต่ศาสนา

เมื่อมองดูท่าทีที่สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปใช้กับรัสเซียตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ในไครเมีย ตุรกีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในแวดวงอำนาจ และต้องไม่ลืมว่าตุรกีมีความสำคัญอย่างไรในการเข้ามาต่อต้านรัสเซีย และกับยุโรปในด้านความสามารถในการใช้พลังงานของมัน เงาของอังการาน่าจะแผ่ไกลออกไปและกว้างขวางขึ้นในทศวรรษที่จะมาถึงนี้ ถ้าหากว่ารัสเซียจะไม่ทำลายแผนการนั้นเสีย

—
By Catherine Shakdam
Source MintPress News | Independent, non-partisan journalism


สงครามโลกครั้งใหม่ที่ไม่มีใครพูดถึง : ทั่วโลกร้องหาน้ำมันและก๊าซ | เดอะพับลิกโพสต์

 

Chalee Na Roied



ตอนนี้ที่สหรัฐ เมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ของสหรัฐ กำลังประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินนะครับ เพราะมีการปล้นสดมภ์ และเผาอาคารตลอดจน รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งล่าสุดผู้ว่าการรัฐก็ ประกาศเรียกกำลังพลสำรอง(national guard) เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ดังกล่าว ถ้าให้ผมวิเคราะห์เป้าหมาย ก็เหมือนกับที่เกิดขึ้นที่ เฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรีนั่นแหละครับ ซึ่งครั้งนั้นไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ จุดเริ่มต้นมาจาก ตำรวจยิงวัยรุ่นชาวอเมริกันผิวสี จุดกระแสเกลียดชัง มีการเดินขบวนประท้วง มีการประทะกัน และมีกลุ่มคนที่ยั่วยุ เพื่อให้เกิดความรุนแรง จนกระทั่งสถานการณ์บานปลายเป็นจราจล
จริงๆเป้าหมายก็คือ น่าจะเป็นการเตรียมการ เพื่อรองรับสถานการณ์บางอย่างที่ใหญ่กว่า และการใช้กฎอัยการศึก รองรับเหตุการณ์ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
New reports of looting in Baltimore as National Guard join police patrolling streets | Fox News

 

"บิ๊กตู่"ไม่กลัวถูกเช็กบิลหลังพ้นตำแหน่ง
นายกฯ เล็งถก "ครม.-คสช."ดูเนื้อหา รธน.ก่อนส่ง กมธ.ยกร่างฯปรับแก้ ยันต้องยึด ปชช.เป็นศูนย์กลาง ซัดพวกมโน กล่าวหาจะนั่งนายกฯคนนอกเอง ไม่หวั่นถูกเช็กบิลหลัง "ลงจากหลังเสือ" วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 17:19 น.



เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)ที่ผ่านมา ว่า ได้ติดตามการอภิปรายอย่างต่อเนื่อง และได้วิเคราะห์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอให้ใครรายงาน ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็จะหารือกับคณะรัฐมนตรี(ครม.) และคสช. เพื่อทำการสรุปเป็นรายมาตราว่าจะแก้ไขหรือไม่ อย่างไร ก่อนที่จะเสนอกลับไปยังคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งข้อสรุปของ ครม.และ คสช.ไม่จำเป็นจะต้องมีข้อคิดเห็นที่เหมือนกัน แต่ต้องไปหาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนที่จะสรุปออกมา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และต้องให้เกียรติ ให้ความเป็นธรรมกับ กมธ.ยกร่างฯ ด้วย เพราะต้องการร่างให้บ้านเมืองสงบปลอดภัย แต่กลับมีคนวิจารณ์ว่าเพื่อต้องการสืบทอดอำนาจ หรือเพื่อผลประโยชน์ ถ้าคิดอย่างนี้ใครก็มาร่างไม่ได้ ส่วนที่มีอดีตรัฐมนตรีได้วิเคราะห์ถึงประเด็นที่มาของนายกฯ ไม่จำเป็นต้องเป็น ส.ส.นั้น หากยังมีความคิดเห็นที่ทำให้เกิดความแตกแยก หรือทำให้เข้าใจผิด ก็จะใช้กฏหมายดำเนินการ

"เรื่องที่มานายกฯ อย่าไปกังวลว่าผมจะเป็นนายกฯ ตรงนั้น มันคนละเรื่อง แต่ที่ฟังเขาระบุว่าถ้าเหตุการณ์ไม่ปกติ นายกฯ จะมาจากไหน ก็กลายเป็นว่าจะสืบทอดอำนาจ มันอะไรกันประเทศไทย วิเคราะห์วิจารณ์ ฝันไปเรื่อย มโนกันไป โต ๆ กันแล้ว จะเอาใครมาบังคับบัญชาปกครองบริหาร ไปหามา ไม่ใช่เรื่องของผม หน้าที่ใครก็หน้าที่มัน แต่อย่าให้มีเรื่อง หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าตัวเองจะถูกไล่บี้เช็กบิล หลังลงจากตำแหน่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ว่าขึ้นหลังเสือแล้วลงหลังเสือลำบากใช่หรือไม่ ตนไม่ห่วง ถ้าห่วงก็ไม่เข้ามา ยอมรับว่าเสี่ยงทุกวัน ถามว่าตนได้อะไร วันนี้ไม่มีที่ไหนในโลก มีที่เดียวในโลกนี้ที่มาลักษณะนี้เป็นแบบตน ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่จับกุมคุมขังนักการเมืองแบบร้ายแรง อย่างมากแค่พูดคุย 3-4วันก็ปล่อยกลับ แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากให้เป็นตัวอย่าง เพราะหลายประเทศดูอยู่ ส่วนกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง หากเตือนแล้วไม่หยุดก็ต้องใช้กฎหมายที่แรงและหนักขึ้นไป ซึ่งจริง ๆ แล้วกฎหมายมีแรงอยู่แล้ว แต่ตนไม่ได้ใช้เลย จริงๆ ถ้าผิดก็สามารถมาติดคุกได้ทันที.

"บิ๊กตู่"ไม่กลัวถูกเช็กบิลหลังพ้นตำแหน่ง | เดลินิวส์

 

สปช.ชงยกเครื่องตำรวจเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงหน่วยใด
สปช.ถกรายงานปฏิรูปกิจการตำรวจ "กมธ.กฎหมาย" เสนอยกเครื่อง สตช.เป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงหน่วยราชการ สกัดการเมืองแทรกแซงแต่งตั้ง "พะจุณณ์"ซัด "เสรี"ทำสับสน วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 18:04 น.



เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยมีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม วาระเรื่องการปฏิรูปกิจการตำรวจ โดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธาน กมธ.ปฎิรูปฯ รายงานว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาหน่วยงานตำรวจถูกสั่งการ แทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ในการบริหารและปฏิบัติงานของตำรวจทุก ๆ ด้านจากส่วนกลาง จึงเห็นควรกำหนดให้มีแนวทางการปฏิรูปในเรื่องความเป็นอิสระของหน่วยงานตำรวจ โดยตรา พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับปรุงโครงสร้างตำรวจ และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และยกร่าง พ.ร.บ.สอบสวน โดยบัญญัติให้มีคณะกรรมการบริหารกิจการตำรวจ และการสอบสวน ไม่มีตัวแทนนักการเมืองในทุกระดับชั้น เข้ามาใช้อำนาจโยกย้ายแต่งตั้ง และกำหนดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารกิจการตำรวจ

“ทางกมธ.ปฏิรูปฯ จึงเสนอให้ สตช.เป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ขึ้นกับหน่วยราชการใด มี ผบ.ตร.เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ทั้งนี้ให้ยุบเลิกกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ส่วนเรื่องการสร้างกลไกตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้พนักงานอัยการ ผวจ. นายอำเภอ มีอำนาจตรวจสอบและถ่วงดุลการสอบสวนได้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนถูกผู้บังคับบัญชาการ สั่งการทางพฤตินัย ไม่ให้รับคำร้องทุกข์ เพื่อลดสถิติคดีอาญาที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นจึงเสนอให้ กมธ.ยกร่างฯ บัญญัติถ้อยคำไว้ในรัฐธรรมนูญ และจัดทำร่างพ.ร.บ.จัดตั้งสำนักงานสอบสวนคดีอาญาแห่งชาติ เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณา”นายเสรี กล่าว

ด้าน พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ประธานอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจเพื่อประโยชน์ของประชาชน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ทุกคนรอคอย ดวงวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ เนื่องจากพฤติกรรมของตำรวจที่ได้ทำกับพวกเขา กำลังรอคอยที่จะไปสู่สุคติ เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ประธาน กมธ.ปฏิรูปกฎหมายฯ ได้ใช้คำพูดซึ่งตนคิดว่าจะสร้างความสับสน ว่า “ใครจะได้ ใครจะเสีย ตำรวจคนใดจะได้ประโยชน์ ตำรวจคนใดจะเจ็บแค้น ผมไม่เกี่ยว ผมเป็นกลาง” ซึ่งตนเสียใจกับคำพูดนี้ แต่ตนจะไม่ขอให้ประธาน กมธ.ฯเป็นคนขอโทษ ตนจะขอโทษกับคณะทำงานของตน เพราะตนเป็นผู้รับผิดชอบชีวิตพวกเขาที่เอามาทำงานนี้ เพราะคณะทำงานของตนเต็มใจที่จะทำงานนี้ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย

ขณะที่ นายอมร วาณิชวิวัฒน์ อนุกมธ.ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจหน้าที่และกระบวนการทำงานตำรวจเพื่อประโยชน์ของประชาชน กล่าวว่า ตนไม่ได้มีเจตนาเพื่อมุ่งทำลายองค์กรตำรวจ หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่หากวันนี้เราสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรตำรวจ หรือปรับปรุงสิ่งที่เป็นปัญหาอยู่ได้ คนดีก็จะอยู่กับองค์กรตำรวจได้ คนไม่ดีเท่านั้นที่จะอยู่ไม่ได้ และเรื่องการแยกพนักงานสอบสวนออกจาก สตช.เป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปองค์ตำรวจ เพื่อการบริการประชาชนที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง.

สปช.ชงยกเครื่องตำรวจเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงหน่วยใด | เดลินิวส์