ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดินไหว7.9 เนปาล ตายเพียบ
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 26 เม.ย. 2558 05:36

    [​IMG]

    เนปาลวิปโยค เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ ขนาด 7.9 แมกนิจูด จุดศูนย์กลางอยู่ทางภาคกลางของประเทศ ส่งผลถนน อาคาร บ้านเรือนพังพินาศ รวมถึงหอคอยเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี “ธาราฮารา” ถล่ม ขณะมีนักท่องเที่ยวอยู่ภายในเพียบ ตามด้วยเกิดหิมะถล่มในเทือกเขาเอเวอเรสต์ คาดมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่หลายชาติโดยรอบทั้งอินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน และทิเบต ต่างรับแรงสั่นสะเทือนถ้วนหน้า ทางการเนปาลประกาศขอความช่วยเหลือด้านกู้ภัยและช่วยผู้ประสบภัยจากนานาชาติเป็นการเร่งด่วน

    ภัยพิบัติจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ที่ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างในครั้งนี้ สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอส) รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ 25 เม.ย. เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 แมกนิจูด ในประเทศเนปาล เมื่อเวลาประมาณ 11.56 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 13.11 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างเมืองโพคารา แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทางภาคกลางของเนปาล ค่อนไปทางทิศตะวันออกประมาณ 68 กม. ที่ระดับความลึกใต้ดินระหว่าง 2-15 กม. หรือจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล ไปทางทิศตะวันตกด้วยระยะทางพอๆกัน แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวรู้สึกได้ไกลเกือบทั่วภูมิภาคเอเชียใต้ ตั้งแต่กรุงกาฐมาณฑุถึงกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย รวมถึงพื้นที่ชายแดนติดบังกลาเทศ ทิเบต และปากีสถาน

    นอกจากนี้ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในเนปาลเกิดขึ้น 2 ระลอก โดยครั้งแรกกินเวลานานราว 30 วินาที และครั้งที่ 2 การสั่นสะเทือนกินเวลาประมาณ 2 นาที ทำให้ประชาชนจำนวนมากวิ่งหนีออกจากบ้านเรือนมาอยู่บนท้องถนน ขณะที่อาคารบ้านเรือนพังทลายเป็นจำนวนมากตลอดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว รวมถึงโบราณ
    สถานสำคัญๆหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอคอยธาราฮารา ขนาด 9 ชั้น สูงเกือบ 63 เมตร โบราณสถานเก่าแก่สร้างตั้งแต่ พ.ศ.2375 ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้พังถล่มลงมาเกือบทั้งหมด โดยมีรายงานนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ในหอคอยนับร้อยคน

    สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในเนปาลครั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานออกมาเป็นระยะ โดยหลังเกิดเหตุกว่า 5 ชม. มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 114 ราย ทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและใกล้เคียง ซึ่งหน่วยกู้ภัยเนปาลคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก แต่ในเบื้องต้นที่ยืนยันแน่นอนแล้ว 2 รายแรก เป็นเด็กหญิงชาวเนปาลเสียชีวิตเพราะถูกรูปปั้นตกใส่ศีรษะกลางกรุงกาฐมาณฑุ และอีกรายหนึ่งเป็นเด็กหญิงชาวอินเดีย อายุ 15 ปี อาศัยที่เมืองทางภาคเหนือของอินเดีย ติดกับพรมแดนติดเนปาล เสียชีวิตเพราะถูกกำแพงถล่มทับ นอกจากนั้น ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติชาวจีน ทั้งยังมีรายงานเหตุหิมะถล่มบริเวณเชิงเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูกาลปีนเขา ทำ ให้คาดว่ามีนักท่องเที่ยวติดค้าง สูญหาย และได้รับบาดเจ็บอยู่บริเวณนั้นอีกจำนวนมาก ขณะที่ระบบการสื่อสารและการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก นอกจากนี้ ทางการเนปาลยังประกาศปิดสนามบินกาฐมาณฑุด้วย

    ด้านนายมิเนนทรา ราชาล รมว.กระทรวงข่าวสารเนปาล ระบุแผ่นดินไหวครั้งนี้ก่อความเสียหายแก่เนปาลอย่างมหาศาล ทางการเนปาลต้องการความช่วยเหลือและสนับสนุนจากองค์กรนานาชาติที่มีความรู้และเครื่องมืออุปกรณ์กู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน นอกจากนั้น ทางการเนปาลได้ประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่แผ่นดินไหวให้อยู่ในที่โล่งแจ้งเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากยังเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง หรืออาฟเตอร์ช็อกตามมาเป็นระยะ อีกทั้งพื้นที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวบริเวณหุบเขากาฐมาณฑุ เป็นพื้นที่ที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นมากเกือบ 2.5 ล้านคน ซึ่งอาคารพักอาศัยส่วนใหญ่เก่าแก่และไม่แข็งแรง

    ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย เผยแพร่ข้อความผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ “ทวิตเตอร์” หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวได้ไม่นาน ระบุรัฐบาลอินเดียอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมข้อมูลเพื่อเข้าถึงและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งในอินเดียและเนปาล ส่วนรัฐบาลบังกลาเทศแถลงในเวลาต่อมาว่า พบผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในบังกลาเทศอย่างน้อย 2 ราย บาดเจ็บมากกว่า 100 คน

    ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน รัฐบาลอินเดียแถลงเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในเนปาลส่งผลถึงอินเดียทำให้มีผู้เสียชีวิตในรัฐพิหาร ใกล้ชายแดนเนปาลอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บอย่างน้อย 35 คน ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ 7 เขต ขณะที่รัฐบาลเนปาลปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็น 449 ศพ ส่วนบริเวณแคมป์นักปีนเขาเอเวอเรสต์ฝั่งเนปาลมีรายงานถูกหิมะที่ถล่มลงมาฝังกลบบางส่วน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ศพ

    ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศประเมินว่าผู้ประสบภัยในเนปาลอาจไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะรัฐบาลเนปาลไม่มีหน่วยงานที่เตรียมพร้อมเรื่องการรับมือและจัดการภัยพิบัติ ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ที่เคยเกิดขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียเมื่อ พ.ศ.2554 ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศเนปาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 110 ราย ส่วนแผ่นดิน
    ไหวขนาด 8.3 เขย่าเนปาลเมื่อ พ.ศ.2477 คร่าชีวิตชาวบ้านมากถึงกว่า 8,500 คน และเหตุแผ่นดินไหวเขย่าเนปาลครั้งล่าสุดนี้ถือว่ารุนแรงมากที่สุดในรอบกว่า 80 ปี

    ต่อมาเมื่อเวลา 18.40 น. รัฐบาลเนปาล แถลงยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวในหลายพื้นที่ทั่วประเทศสูงเกือบ 700 ราย โดยเฉพาะในกรุงกาฐมาณฑุแห่งเดียว มีจำนวน 181 ราย คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะหลายแห่งอาคารบ้านเรือนพังถล่มลงมาเหลือแต่ซากอิฐกองพะเนิน

    ส่วนคนไทยในเนปาลนั้น ช่วงค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระไทยในวัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ที่ดูแลวัดไทยในประเทศอินเดียและประเทศเนปาล ว่าพระเทพโพธิวิเทศ (วีระยุทธ วีรยุทธโท) หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล กำลังระดมพระธรรมทูตอินเดีย-เนปาล ส่งความช่วยเหลือเบื้องต้นทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม จากวัดไทยในอินเดียและเนปาลทั้งหมด ไปช่วยผู้ประสบภัย รวมทั้งเตรียมให้ความ ช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก ในฐานะที่เป็นชาวพุทธด้วยกันและดูแลซึ่งกันและกันมาตลอด

    นอกจากนี้ ทางวัดไทยพุทธคยา ได้สอบถามไปที่วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า ทราบจากพระที่วัดว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหวแรงสั่นสะเทือนไปถึงวัดไทยลุมพินี รู้สึกได้เช่นกัน พระและคนที่อยู่ในวัดต่างตกใจอกสั่นขวัญเสีย วิ่งออกมารวมกันอยู่ที่บริเวณหน้าโบสถ์ แต่เบื้องต้นยังไม่พบว่าภายในวัดเกิดความเสียหายใด และอยู่ระหว่างการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนไทยที่เดินทางไปแสวงบุญนั้น ทราบว่าปลอดภัยทุกคน เพราะเดินทางกลับประเทศมาก่อนหน้านี้แล้ว

    ด้านนายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีแผ่นดินไหวใหญ่ในเนปาลว่า เกิดความเสียหายเล็กน้อยที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ ทั้งนี้สถานทูตฯได้ตรวจสอบความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนไทย และประสานการตรวจสอบที่เมืองโพคารา ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวว่า มีนักท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบหรือไม่ ส่วนคนไทยในกรุงกาฐมาณฑุประมาณ 60 คน ยังปลอดภัยดี บางรายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ระบบสื่อสารล่มทั้งระบบ อาคารหรือสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงพังถล่มบ้าง สถานเอกอัครราชทูตฯได้ส่งรถไปตรวจสอบตามโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญว่ามีคนไทยหรือนักท่องเที่ยวหลงเหลือหรือได้รับผลกระทบที่ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ โดยขณะนี้มีคนไทยกว่า 10 คน มารายงานตัวและรวมตัวกันที่สถานทูตฯ แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีคนไทยอาศัยที่เนปาลประมาณ 100 คน เป็นกลุ่มคนงานบริษัทผลิตหม้อแปลงกับร่วมทุนพัฒนาโรงแรม และในแต่ละปีมีคนไทยเดินทางไปเนปาลกว่า 26,000 คน เพื่อแสวงบุญที่ลุมพินีและสังเวชนียสถาน

    จากนั้นเวลา 20.00 น. รัฐบาลเนปาลแถลงยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็นกว่า 876 ศพ โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตในพื้นที่หุบเขากาฐมาณฑุ สูงถึง 524 ราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตใต้ซากปรักหักพังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในกระทรวงการท่องเที่ยวเนปาลเปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุหิมะถล่มพื้นที่บางส่วนของแคมป์นักปีนเขาบริเวณเชิงเขาเอเวอเรสต์ มีมากกว่า 10ศพ รวมทั้งนักปีนเขาต่างชาติหลายคน แต่ยังไม่มีราย ละเอียดใดๆ เนื่องจากการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวเป็นไปอย่างยากลำบาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เชิงเขาเอเวอเรสต์ ระบุช่วงเวลาเกิดเหตุ มีนักปีนเขารวมตัวกันอยู่บริเวณแคมป์หลายร้อยคน

    http://www.thairath.co.th/content/495204
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ป.ป.ท.เร่งตรวจสอบข้าราชการทุจริตเพิ่มเติม
    โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 25 เมษายน 2558 14:43 น. (แก้ไขล่าสุด 25 เมษายน 2558 17:28 น.)

    [​IMG]

    เลขาฯ ป.ป.ท.เผยแก้ไขข้อมูลข้าราชการทุจริต ส่งกลับไปให้นายกรัฐมนตรีแล้ว ส่วนใหญ่พัวพันจัดซื้อจัดจ้างไม่โปร่งใสหรือปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ชี้อาจตรวจสอบข้าราชการเพิ่มเติมอีก

    วันนี้ (25 เม.ย.)นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทาจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ส่งรายชื่อข้าราชการที่พัวพันการทุจริตกลับไปยังศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เพื่อให้ตรวจสอบใหม่ว่า ตนได้ตรวจสอบความถูกต้อง และแก้ไขข้อมูลรายชื่อ ข้าราชการบางคนที่เปลี่ยนชื่อ และเกษียณอายุราชการไปแล้วและได้ส่งกลับไปให้นายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะมีการส่งรายชื่อข้าราชการที่ทุจริตล็อต 3 เพิ่มอีกหรือไม่นั้น การทำงานของ ป.ป.ท.มีการตรวจสอบตามหน้าที่อยู่แล้ว และตอนนี้ ป.ป.ท.ได้พิจารณาคดีเสร็จไปแล้ว 9 พันคดี ทั้งนี้ มีคดีที่สงสัยว่ามีการทุจริตประมาณ 1,000 คดี โดยส่วนใหญ่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ถูกต้องและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

    อย่างไรก็ตาม ทุกเรื่องต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างถูกต้องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนตอบไม่ได้ว่าใน 1,000 คดีจะมีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนวนกี่คน แต่ตนจะรีบตรวจสอบและส่งรายชื่อให้กับรัฐบาล เพราะบางหน่วยงานยังมีข้าราชการบางคนที่อยู่ในตำแหน่งแล้วยังสร้างปัญหาอยู่ไม่จบ จึงต้องรีบตรวจสอบ เพื่อให้รัฐบาลโยกย้ายและดำเนินการทางวินัยต่อไป

    ทั้งนี้ ตามนโยบายรัฐมนตรีจะมีการประชุมหารือกันในทุกเดือนเพื่อติดตามงาน แต่ถ้าหาก ป.ป.ท.ตรวจสอบแล้วพบว่ามีรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอีกก็จะส่งรายชื่อเสนอให้กับรัฐบาลเพื่อพิจารณาต่อไป

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิสราเอลโจมตีกลุ่มฮามาสหลังพบมีการยิงจรวดเข้ามาในดินแดน
    25-04-2015 15:17

    [​IMG]

    อิสราเอลส่งรถถังโจมตีที่มั่นกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาหลังก่อนหน้านี้พบจรวดถูกยิงตกเข้ามาในดินแดนทางตอนใต้ของอิสราเอล

    วันนี้(25เม.ย.)อิสราเอลส่งรถถังโจมตีที่มั่นกลุ่มฮามาสในเขตฉนวนกาซาหลังมีจรวดลูกหนึ่งถูกยิงมาจากดินแดนปาเลสไตน์ตกใส่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

    กองทัพอิสราเอลแถลงการณ์ว่าปฏิบัติการโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมามีเป้าหมายอยู่ที่โครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มหัวรุนแรงเพื่อตอบโต้ที่มีจรวดถูกยิงมาตกใส่ดินแดนอิสราเอล ขณะเดียวกันทางด้านโฆษกหน่วยงานฉุกเฉินในเขตฉนวนกาซาเปิดเผยว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้

    ทั้งนี้เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาอิสราเอลเคยเปิดฉากโจมตีทางอากาศกับกลุ่มฮามาสเพื่อตอบโต้การที่มีจรวดถูกยิงข้ามชายแดนเข้ามาในอิสราเอล ซึ่งความขัดแย้งในครั้งนั้นดำเนินระยะเวลาอยู่นาน 50 วัน คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไป 2,140 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนขณะที่อิสราเอลมีผู้เสียชีวิต 73 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารของกองทัพ

    ภาพ haaretz


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนักสุดในรอบ 80 ปี !! ยอดล่าสุด 1,911 ศพ จากแผ่นดินไหวใหญ่เนปาล !! (ประมวลภาพ) 2015-04-26 11:53:28

    [​IMG]

    [​IMG]

    ยอดดับล่าสุด 1,911 ศพ จากเหตุแผ่นดินไหวหนักที่สุดในรอบ 80 ปีของเนปาล พบผู้บริหารกูเกิ้ล สังเวยชีวิตจากหิมะถล่มขณะปีนเขา

    วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดล่าสุดจากการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เนปาล ขนาด 7.9 ล่าสุดพบยอดผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการแล้วจำนวน 1,911 ราย เป็นชาวเนปาล 1,832 ราย, ชาวอินเดีย 62 ราย, ชาวจีน 13 ราย และชาวบังคลาเทศ 4 ราย จำนวนผู้บาดเจ็บ 4,700 ราย

    ขณะที่ รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัย ขณะที่นานาชาติเร่งให้ความช่วยเหลือ สนามบินกาฐมาณฑุ ได้รับความเสียหาย จนต้องปิดให้บริการชั่วคราว ทำให้เที่ยวบินทั้งหมดต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่ประเทศอินเดียแทน

    นอกจากนี้ ในแถบเทือกเขาเอเวอเรสต์ พบศพนักปีนเขา 10 รายแล้ว แต่ยังมีผู้สูญหายอีกไม่ทราบจำนวน บางคนขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ยังหาตัวไม่พบ ทั้งยังมีรายงานด้วยว่า นายแดน เฟรดินเบิร์ก บริหารระดับสูงของกูเกิ้ล วัย 30 ปี ได้เสียชีวิตขณะปีนเขาเอเวอร์เรสแล้วถูกหิมะถล่มจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ˹ѡ
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ป.ป.ท.ชี้ขรก.ทุจริต"วิษณุ" แค่สั่งตรวจรายละเอียดเพิ่ม ทุกอย่างต้องรัดกุม
    2015-04-25 15:52:19 |

    [​IMG]

    เลขาฯ ป.ป.ท. เผยกรณีรองนายกฯ สั่งตรวจสอบเพิ่มเติมข้าราชการที่ทุจริตว่า ไม่มีอะไรมากเป็นเพียงการให้ตรวจสอบให้ละเอียดยิ่งขึ้นเท่านั้น เพื่อความถูกต้อง ยังเป็นรายชื่อกลุ่มเดิม และรองนายกฯจะนำรายชื่อเสนอนายกฯ เอง ยันหากทำอย่างถูกต้องตรงไปตรงมาก็ไม่กลัวฟ้องกลับ

    วันนี้ (25 เม.ย.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ(ศอตช.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯและได้มอบหมายให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติมข้าราชการที่ทุจริตชุดแรกว่า ไม่มีอะไรมากเป็นเพียงการให้ตรวจสอบให้ละเอียดเท่านั้น เช่นเกษียณหรือยัง ข้อหาอะไร ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งเพื่อความถูกต้อง เป็นรายชื่อในกลุ่มเดิม เพียงแต่ให้มาตรวจทานให้ดี จากนั้นรองนายกฯจะนำรายชื่อที่มีการตรวจทานแล้วทั้งหมดส่งให้นายกฯ เอง ทุกอย่างก็จะจบที่นายกฯ ตนจึงไม่สามารถลงรายละเอียดอะไรได้ ซึ่งทั้งนายกฯและนายวิษณุ ขอไว้เลยว่าไม่อยากให้พูด เพราะมันอาจไปกระทบจนทำให้เกิดความเสียหายได้ หากยังไม่จบพูดไปก็จะไม่ดี ซึ่งท่านจะเป็นผู้ให้ข่าวเอง

    ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของป.ป.ท.ยังมีรายชื่อข้าราชการทุจริตในล็อต 2 อยู่อีกหรือไม่ เลขาฯป.ป.ท. กล่าวว่า เรื่องนี้ทางพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศอตช. ได้กำหนดให้มีการประชุมกันทุกเดือน หากหน่วยงานไหนมีร้องเรียนมา และตรวจสอบแล้วก็ส่งมาได้ตลอด หรือเรื่องใดที่เกิดมาอย่างต่อเนื่องและยังตรวจสอบไม่เสร็จ โดยหลักการคือ การดำเนินคดีเป็นไปอย่างล่าช้าหรือบางคนหากอยู่ในตำแหน่งแล้วอาจจะมีปัญหาในทางปฏิบัติ นายกฯจึงเห็นว่าควรจะหยิบออกมาจากจุดนั้นซะ ซึ่งหลังจากส่งรายชื่อในบัญชี 1 ไปแล้ว เราก็ทำงานไป ถ้ามีมาก็เสนอขึ้นไปเรื่อย ๆ

    “ตอนนี้ในป.ป.ท.ก็มีการร้องเรียนเข้ามาเยอะแยะ หลังจากมีข่าวการทุจริต 100 ข้าราชการ มีร้องเรียนเข้ามาเรื่อย ๆ เดือนหนึ่งเป็นร้อยๆ เรื่อง ซึ่งมีทั้งรายย่อย รายใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องบุกรุกป่าที่กำลังมีการตรวจสอบกันในขณะนี้ จะมีคนที่กล้าร้องเข้ามามากขึ้น เพราะเขาเห็นว่ารัฐบาลเอาจริง หน่วยงานต่าง ๆ ทำได้ ความจริง ศอตช.ถือเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนที่สำคัญ ถ้าไม่มี ศอตช. ไม่มีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ลงมาทำการขับเคลื่อนก็คงลำบาก ตรงนี้จึงถือเป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ทั้งระบบ

    เมื่อถามถึงการดำเนินกับข้าราชการที่ทุจริต ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว นายประยงค์ กล่าวว่า ในการโยกย้ายคงทำอะไรไม่ได้เพราะเกษียณไปแล้ว แต่ในทางอาญาก็ยังต้องดำเนินคดีต่อไป โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (ส.ต.ง.) ก็ต้องรีบดำเนินการในส่วนของคดีอาญา

    “สิ่งที่นายกฯทำขณะนี้ มันไม่ใช่การย้ายอย่างเดียว แต่เป็นการแก้ปัญหาทั้งระบบ คนที่ทุจริตอยู่แล้ว หากปล่อยไว้ที่เดิม เดี๋ยวก็ไปทุจริตอีก เพราะการไปขอพยานหลักฐานอะไรก็ติดขัดไปหมด แต่พอโยกย้ายไปปุ๊บ ก็จะได้ 2 อย่างคือ แก้ปัญหาการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ และการดำเนินการทำได้เร็ว พอย้ายและเร่งรัดให้ดำเนินการทางวินัย เท่ากับเป็นการลงโทษให้เร็วขึ้น ปัญหาที่ผ่านมาคือการลงโทษช้า ทำให้ถูกมองว่าปราบปรามไม่ได้ผล คนไม่กลัว แต่มาตอนนี้พอพบทุจริต มีหลักฐานชัดเจน ย้ายออก ลงโทษทางวินัย ก็จะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นขึ้น ที่ผ่านมา 3-4 ปี เราทำอะไรเขาไม่ได้เลย แต่ตอนนี้แม้ว่าเราเอาเขาติดคุกไม่ได้ แต่เขาก็ถูกไล่ออก และถ้าทำอย่างนี้ได้ทั้งระบบ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่มีข่าวจะย้ายข้าราชการ 100 คนก็มีแรงกระเพื่อมแล้ว คนที่คิดจะทำก็แขยงไป ซึ่งผมว่าแบบนี้ดี แต่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างล่าช้า ปีนี้จับทุจริตได้รายหนึ่ง รอไปอีกจนปลายปีโน่นจึงจะจับได้อีกรายหนึ่ง ไม่ได้เกิดผลกระทบอะไรในภาพรวมเลย แต่อย่างนี้พอหน่วยงานต่าง ๆ ทำงานร่วมกันก็พรึบทีเดียว ดังนั้นเราต้องรักษาแนวทางตรงนี้ไว้ ”นายประยงค์ กล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงเรื่องการถูกฟ้องกลับจากข้าราชการเหล่านี้หรือไม่ เลขาฯป.ป.ท. กล่าวว่า เราก็ต้องเสี่ยง ซึ่งวิธีที่จะไม่ให้ข้าราชการฟ้องกลับก็คือเราต้องทำอย่างถูกต้อง ตรงไป ตรงมา รัดกุมที่สุด มีหลักฐานชัดเจน แต่ถ้าไปกลั่นแกล้งเขา เราก็โดนเมื่อนั้น ดังนั้นเราต้องมั่นใจในข้อมูลหลักฐานที่เรามีอยู่

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kitti Light

    NHK-ภูเขาไฟใต้ทะเล ที่คุกรุ่นที่สุดในโลก

    <iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/VzrzBSXN26Y" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำอย่างไรไม่ให้อุกกาบาตพุ่งชนโลก?
    by Chat Room Chat Room 15 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 22:24 น.

    วิธีที่นักวิทยาศาสตร์ของนาซาคิดค้นขึ้นมาเพื่อป้องกันอุกกาบาตพุ่งชนโลก ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัสเซียวันนี้ (15 ก.พ.56) เป็นการตอกย้ำว่าการเกิดปรากฏการณ์อุกกาบาตพุ่งชนโลก ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในหนังหายนะวันสิ้นโลกอย่าง 2012 หรือ อาร์มาเกดอนตามที่เราๆ เข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ทุกวัน และก็มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตอาจมีเหตุอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งชนโลก ที่อาจทำให้เกิดหายนภัยทำลายล้างโลก หรืออย่างน้อยก็สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับมนุษย์ได้

    ล่าสุดนาซาได้ออกมาเตือนว่าในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040 โลกอาจจะมีโอกาสเผชิญอุกกาบาตโหม่งโลกที่จะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน แม้ว่าโอกาสที่อุกกาบาตจะชนโลกจะมีเพียง 1 ใน 625 แต่นาซาและทางยูเอ็นก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาทางเบี่ยงเบนทิศทางอุกกาบาตดังกล่าว หากในเวลานั้นมันจะพุ่งเข้าชนโลกจริงๆ

    สำหรับวิธีที่นักวิทยาศาสตร์ของนาซาคิดค้นขึ้นมาเพื่อป้องกันอุกกาบาตพุ่งชนโลก มีอยู่หลากหลายทฤษฎี โดยหนึ่งในทฤษฎีที่นาซาคาดว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุด แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นทฤษฎีเดียวกับที่ปรากฏในหนังอาร์มาเกดดอน นั่นก็คือการส่งยานอวกาศไปยังอุกกาบาต ขุดหลุมลงไปในแกนหลางอุกกาบาตนั้น และฝังระเบิดเพื่อทำลายอุกกาบาตเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะพุ่งชนโลก วิธีการนี้ดูเหมือนจะเป็นวิธีแบบง่ายๆ ตรงไปตรงมา แต่นาซาบอกว่าเป็นไปได้น้อยมากในทางปฏิบัติ เนื่องจากซับซ้อนและเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินไป

    แต่วิธีที่เป็นไปได้มากกว่าก็คือการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ยิงใส่อุกกาบาต ไม่ใช่เพื่อทำลายก้อนอุกกาบาตที่มักจะมีขนาดใหญ่ยักษ์ แต่เพื่อหันเหทิศทางไม่ให้มันพุ่งเข้าชนโลกของเรา โดยการขนนิวเคลียร์ออกไปยิงอุกกาบาตนอกโลกอาจจะทำโดยใช้ยานแบบปราศจากคนบังคับ จึงแน่ใจได้ว่าจะไม่มีวีรบุรุษกู้โลกแบบบรูซ วิลลิสในอาร์มาเกดดอนแน่ๆ

    สำหรับใครที่คิดว่าการใช้นิวเคลียร์ออกจะเป็นวิธีฮาร์ดคอร์เกินไป ยังมีอีกวิธีการในการหันเหทิศทางอุกกาบาต นั่นก็คือการ "เพนท์สี" วิธีการนี้ใช้หลักการเดียวกับที่คนมักใส่เสื้อสีอ่อนกลางแดด เพื่อให้เสื้อสะท้อนแดดมากกว่าดูดซับแดดและความร้อนเหมือนเสื้อสีเข้ม การเพ้นท์อุกกาบาตข้างหนึ่งให้เป็นสีขาวด้วยฝุ่นชอล์ก จะทำให้ด้านนั้นสะท้อนพลังงานจากแสงอาทิตย์มากขึ้น จนเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิมได้อย่างง่ายดาย

    อีกวิธีที่ดูเหนือความคาดหมายจนแทบจะเป็นหนังการ์ตูนหรือเกมส์คอมพิวเตอร์ ก็คือการส่งหุ่นยนต์ไป "กิน" อุกกาบาต แต่นาซามีโครงการทดลองศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ภายใต้ชื่อว่า MADMEN หรือคนบ้า หุ่นยนต์จะทำหน้าที่คล้ายระเบิดแต่ไม่ต้องใช้สารเคมีหรือตัวตั้งต้นระเบิดใดๆ เพียงแค่ใช้หุ่นยนต์พลังงานนิวเคลียร์ทำการย่อยหรือกินพื้นผิวอุกกาบาต เมื่ออุกกาบาตเสียรูปทรงและมีมวลน้อยลง ก็จะเปลี่ยนทิศทางไปจากโลกของเรา

    วิธีการเหล่านี้ อาจจะฟังดูเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ที่จริงต้องใช้ทั้งงบประมาณมหาศาลและการค้นคว้าวิจัยมากมาย ซึ่งแม้แต่นาซาเองก็อาจจะต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะคิดค้นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงเป็นผลสำเร็จ ก็ได้แต่หวังว่าจะทันก่อนถึง Doom's Day วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2040

    <iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=63280" ></iframe>

    ทำอย่างไรไม่ให้อุกกาบาตพุ่งชนโลก? - VoiceTV
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Vda Nong

    [​IMG]

    26 /4 /58
    เหยื่อแผ่นดินไหวเนปาลทะลุ 1,500 ศพ หิมะถล่มเอเวเรสต์นักปีนเขาดับนับสิบ
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.8 แมกนิจูด ในพื้นที่ภูเขาใกล้กรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาลเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิน 1,100 รายแล้ว แบ่งเป็นในเนปาล 1,500 รายแล้ว กว่าครึ่งอยู่ในภูมิภาคหุบเขากาฐมาณฑุ และมีรายงานพบผู้เสียชีวิต 36 ศพ ในภาคเหนือของอินเดีย 12 รายในทิเบต และอีก 4 รายในประเทศบังกลาเทศด้วย
    แผ่นดินไหวเกิดเมื่อเวลา 13:11 น. ตามเวลาไทย ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 77 กม. และห่างจากเมืองโปขระ เมืองใหญ่ลำดับ 2 ของเนปาลไปทางตะวันออกราว 73 กม. นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 81 ปี ที่เคยเกิดในเนปาล ส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทุกทิศทาง โดยทิศเหนือถึงเทือกเขาหิมาลัยและทิเบต ทิศใต้ถึงที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคา (Indo-Gangetic plain) ตอนเหนือของอินเดีย, ทิศตะวันออกถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำพรหมบุตรในบังกลาเทศ และทางตะวันตกถึงเมืองลาฮอร์ในปากีสถาน
    แผ่นดินไหวลูกนี้สร้างความเสียหายมากเป็นพิเศษเนื่องจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียง 15 กม. และอาคารบ้านเรือนในเนปาลไม่ได้ออกแบบเพื่อต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวโดยหนึ่งในอาคารมากมายที่ถูกทำลาย คือ หอคอยธราฮาระ ในกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งมีความสูง 61.88 ม. สร้างขึ้นในปี 1832 เพื่อถวายแด่ราชินีของเนปาลในยุคนั้น หอคอยแห่งนี้ยังเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ( ยูเนสโก ) ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้วย
    ตามการเปิดเผยของตำรวจ พวกเขาเชื่อว่ามีผู้คนราว 200 คนติดอยู่ภายในหอคอยธราฮาระ ซึ่งบัดนี้มีสภาพเป็นตอสูงเพียง 10 ม.เท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามขุดซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนรวมทั้งวัดฮินดูเก่าแก่ในกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ในขณะที่ประชาชนจำนวนมาก เลือกที่จะอยู่ภายนอกอาคารเพราะกลัวอาคารถล่มซ้ำ เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกตลอดช่วงบ่ายวันเสาร์
    อีกด้านหนึ่ง มีรายงานจากกลุ่มนักปีนเขาว่าเกิดหิมะถล่มหลายลูกบนยอดเขาหิมาลัยหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ค่ายพักบนยอดเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก และทีมนักปีนเขาอย่างน้อย 1 ทีมติดอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ ขณะที่กองทัพของอินเดียพบศพผู้เสียชีวิตแล้ว 18 ศพ
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิทยาศาสตร์ทันโลก และภัยพิบัติในไทย

    [​IMG]

    **แผ่นดินไหวขนาด 7.9 ที่เนปาล ไม่ได้หมายความว่า ไทยเราจะต้องตระหนกตกใจมากขึ้น**
    แผ่นดินไหวที่เนปาล 7.9 เมื่อวาน คนเสียชีวิตแล้วมากกว่า 1400 คน RIP
    แต่หลายคนในไทยเกรงกลัวว่า หากเกิดในไทยแบบนี้นั้น จะเป็นไงบ้าง ... ขออธิบายก่อนว่า ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของไทยเรานั้นต่างจากเขามากมายนัก ซึ่งเนปาลนั้นดันไปตั้งประเทศอยู่ตีนเขาหิมาลายาแบบเน้นๆ ซึ่งแถวนั้นภูเขาสูงสุดในโลก เป็นแถบยาว (รูป 3) เพราะอะไร เพราะมีแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นชนกัน โดยแผ่นทวีปอินเดีย มุดเข้าอย่างจังใต้แผ่นยูเรเซียนประมาณ 2-3 นิ้วต่อปี (รูป 1-3) แผ่นหินที่ติดหนึบกันจากการมุด จึงผ่อนความเครียดออกมาเป็นระยะๆ เป็นแผ่นดินไหวตามจุดต่างๆ ...เหมือนอย่างที่เกาะสุมาตราของอินโดเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.5-8.0 เป็นว่าเล่น เพราะกระบวนการคล้ายกัน (แต่ระดับที่จะทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่มาไทยและสเกลระยะขนาดใหญ่นั้น ราวๆ ทุกๆ 400-500 ปี ประวัติศาสตร์ไทยจึงไม่ทันได้บันทึกเหตุการณ์ก่อนหน้านี้)

    ครั้งก่อนหน้าที่ไหวขนาดใหญ่ที่เนปาล คือ 81 ปีก่อน ขนาด 8.0 ที่คนตายไป 3 หมื่นกว่าคน .... นอกจากนี้ยังมี ปี คศ 1408, 1681 และ 1810 ที่ไหวแรงแต่ข้อมูลบันทึกไว้น้อย ..... ตรงกันข้าม ประเทศไทย ภาคกลางลงมานั้น อยู่ในที่ลุ่ม แบบรอบแม่น้ำ แบบเดลต้าขนาดเล็ก ผืนดินทับถมด้วยตะกอนแม่น้ำ .... ส่วนเรื่องที่กลัวกันว่า แผ่นดินไหวที่กาญฯ แล้วแรงสะเทือนจะทำให้ตึกที่ กทม สั่นไหว ล้มลงมาหรือไม่นั้น ก็ต้องใช้นักวิจัยและวิศวกรไทยวิจัยกันต่อไปอย่างละเอียด แต่อย่างที่ผมเคยเขียนไปครั้งนึงนานมาแล้ว มันไม่น่าจะเกิดรุนแรงแบบที่เม๊กซิโกซิตี้อย่างที่หลายคนหวาดกลัวกันนะ ดินเหนียว กทม ต่างกับดินที่เมืองนั้นอยู่นัก (ซึ่งมีต้นตอมาจากขี้เถ้าภูเขาไฟที่มอด และอมน้ำ ขาดการระบายน้ำจากพื้นที่ๆเป็นแอ่งทะเลสาป) และระยะจากแผ่นดินไหวก็ยังไกลกว่าใน กทม. .... แต่อย่างที่ว่า วิจัยกันต่อไป

    ไทยเรา จะมีภัยแผ่นดินไหว ก็แถวเชียงราย กาญฯ ใกล้พม่านั้น น่าจะจับตามอง แต่โดยรวมก็ยังเล็กกว่าพวกนี้ที่เนปาลนัก และครั้งสุดท้ายที่ผ่านมาในเชียงราย ก็เป็นเหตุการณ์ในระดับที่รุนแรงมากสุดในภูมิภาค .... ภาคกลาง รวมทั้ง กทม. เรา ภาคอีสาน ภาคใต้ ตะวันออก เราไม่ได้อยู่ใกล้บริเวณที่แผ่นเปลือกโลกขนาดใหญ่มาชนกัน จะมีก็รอย fault รอยแตกที่เล็กกว่า จึงไม่จำเป็นจะต้องกลัว หวาดระแวง (บวกกับมีเพจที่ปั่นกระแสให้คนไทยกลัวยิ่งขึ้นเพื่อขายของ ขายนู่นนี่ กุว่า โลกจะแตก ฯลฯ) .... ทุกคนควรใช้ชีวิตเช่นดังเดิม และแถวเชียงราย/เชียงใหม่ ก็เตรียมพร้อมเสมอ แต่ไม่ใช่หวาดกลัวตลอดเวลานะครับ .... ขอให้ใช้ชีวิตอย่างสงบ

    ดร. ไพโรจน์ ฉัตรอนันทเวช
    ศูนย์ภัยพิบัติ สถาบันนิด้า
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Elzindu Constantine

    [​IMG]

    ‪#‎โตเกียวนะครับ‬ ‪#‎รังสีปนเปื้อน‬
    /// สวนสาธารณะในกรุงโตเกียวถูกสั่งปิดหลังพบระดับกัมมันตภาพรังสีพุ่งสูง ///
    24/04/15
    โตเกียว 24 เม.ย. – เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตรวจพบระดับกัมมันภาพรังสีสูงมากที่สนามเด็กเล่นในสวนสาธารณะในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นทำให้เกิดความหวั่นวิตกเกี่ยวกับสุขภาพของเด็ก ๆ ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว
    เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ดินที่อยู่ใต้ทางลาดที่สวนสาธารณะทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว มีระดับกัมมันตภาพรังสีอ่านได้ถึง 480 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง ผู้ใดที่โดนรังสีระดับนี้โดยตรงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงจะเท่ากับรับรังสีในระดับที่สูงที่สุดที่สามารถรับได้โดยไม่เป็นอันตรายในระยะเวลา 1 ปี
    นายยูกิโอะ ทากาโนะ นายกเทศมนตรีเขตโตชิมะกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รับทราบการปนเปื้อนกัมมันภาพรังสีหลังจากมีชาวบ้านมาแจ้งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาและไม่คิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อปี 2554 เนื่องจากบริเวณที่ตรวจพบกัมมันตภาพรังสีนั้นเป็นบริเวณจำกัดและการตรวจสอบบริเวณรอบ ๆ ก็เป็นปกติ ดังนั้น จึงสงสัยว่าจะมีการฝั่งวัตถุที่มีสารกัมมันตรังสีไว้ที่นั่น
    สวนสาธารณแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 2556 หลังจากเกิดวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะแล้ว 2 ปี โดยก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถของแผนกสุขาภิบาลของกรุงโตเกียว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ปิดสวนสาธารณะแห่งนี้แล้วและเจ้าหน้าที่กำลังหารือกับผู้เชี่ยวชาญถึงหนทางในการแก้ปัญหา.-สำนักข่าวไทย
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Elzindu Constantine

    [​IMG]


    [​IMG]

    ‪#‎Science‬
    /// ค้นพบห้องโถงขนาดใหญ่ของแม็กม่า ใต้ซุปเปอร์ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน ///
    /// Huge magma chamber discovered deep beneath the ‪#‎Yellowstone‬ ‪#‎supervolcano‬ ///
    24/04/15
    ทีมงานของมหาวิทยาลัยยูทาห์ seismologists ค้นพบอ่างเก็บหินร้อนหลอมละลาย และทำภาพจำลองขึ้นมา
    ใต้เยลโลว์สโตน supervolcano 19-45 กิโลเมตร (12-28 ไมล์)
    หินหนืดร้อนที่เพิ่งค้นพบในห้องโถงแม็กม่า ขนาด 1000 ลูกบาศก์ไมล์จะเติมเต็มแกรนแคนยอน ได้11.2 เท่าในขณะที่ห้องโถงแม็กม่าหินหนืดที่รู้จักกันก่อนหน้านี้จะเติมแกรนแคนยอน 2.5 เท่า
    เจมี่ฟาร์เรล, ผู้เขียนร่วมของ การศึกษาวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ในวารสารวิทยาศาสตร์กล่าว..
    "เป็นครั้งแรกที่เราได้ถ่ายภาพระบบหินร้อนใต้ดินอย่างต่อเนื่องภายใต้ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน" Hsin-Hua Huang กล่าว อีกทั้งเค้ายังวิจัยปริญญาเอกทางด้านธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์ "นั่นรวมถึงห้องหินหนืดชั้นบนด้านบนเปลือกโลกที่เราได้เห็นมาก่อนหน้านี้
    รวมทั้งอ่างเก็บหินหลอมเหลวร้อนชั้นต่ำๆใต้เปลือกโลกที่ไม่เคยมีมาก่อนและถ่ายภาพที่เชื่อมต่อไปยังห้องชั้นบนของฮอตสปอตเยลโลว์สโตนด้านล่าง."
    ตรงข้ามกับความรู้ที่เคยมีมาว่า ชั้นหินหนืดใต้ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน เป็นของเหลว แต่จากการค้นพบครั้งนี้ มีทั้งหินแข็ง ที่เป็นเหมือนกะเปาะ ที่ห่อหินหนืดไว้ภายในอีกด้วย
    นักวิจัยกล่าวว่ายังไม่ถึงขั้นอันตราย
    นักวิจัยกล่าวว่า เค้าได้เห็นระบบท่อน้ำหินหลอมเหลว ภายใต้ ฮอตสปอตเยลโลว์สโตน ด้วยเทคโนโลยีนี้ เค้ากล่าวว่า ระบบท่อน้ำหินร้อนหนืด (แม็กม่า) ของภูเขาไฟเยลโลว์สโตน นั้นเล็กกว่าที่คิด และเราสามารถมองเห็นมันได้ดียิ่งขึ้น...
    และยีงสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ในการประเมินอันตรายจากภูเขาไฟระเบิด และเเผ่นดินไหวได้
    นักวิจัยกล่าวว่า "ฮอตสปอตเยลโลว์สโตนนั้นอย่างที่รู้ๆมา ถ้ามันเกิดระเบิดขึ้นนั้นหมายถึงกลียุค ซึ่งในอดีตที่แห่งนี้ เกิดระเบิดครั้งใหญ่มา 3ครั้ง คือ เมื่อ 2พันล้านปีก่อน,1.2ล้านปีก่อน และ 64000ปีก่อน ...
    และตอนนี้ยังไม่มีแนวโน้มปะทุ เพราะภายใต้แอ่งแม็กม่า ยังเหมือนเดิม"
    แต่ไม่ได้หมายความว่า มันระเบิดแล้วจะไม่อันตราย แต่ภัยพิบัติยังเหมือนเดิม แต่เราจะรู้จัก ระบบของมันมากขึ้นเท่านั้นเอง ศาสตราจารย์ Robert B. Smith กล่าว
    ทั้งนี้ Robert B. Smith กล่าวว่า ถ้ามีนระเบิด จะครอบคลุมทั้งทวีป อเมริกาเหนือ ไปถึง ชายเเดน ไวโอมิง ไอดาโฮ และ มอนทาน่า
    แต่โอกาสที่จะเกิดมีแค่ 1ใน 700000 ต่อปีเท่านั้น
    การมองในทางลึกที่ดียิ่งขึ้น.
    การทดลอง มองลงไปในระบบ ท่อน้ำ
    หินหลอมเหลว เหมือนใช้เครื่อง CT scan ของทางการแพทย์ แต่ใช้ Earthquake Waves แทนการใช้ รังสี x -ray ซึ่งจะแยกแยะความหนาแน่นของชั้นหินได้
    Source: University of Utah
    http://unews.utah.edu/…/scientists-see-deeper-yellowstone-…/
    การศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์คือเรื่อง "ระบบ magmatic เยลโลว์สโตน." หวางหลินแฟร์เรลล์สมิธ ดำเนินการวิจัยกับแบรนดอน Schmandt ที่มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกและวิกเตอร์ไจ่ที่สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย เงินทุนมาจากมหาวิทยาลัยยูทาห์, มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ, มูลนิธิ Brinson และวิลเลียม Carrico
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jimmy Sirisopha

    [​IMG]

    อีกหนึ่งสัญญานที่เกิดขึ้นในอเมริกาที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง และดูเหมือนเป็นสัญญานที่ไม่ดีเอามากๆสำหรับเหตุการณ์ใหญ่ในอนาคต นั่นก็คือการปิดตัวลงของห้างใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ หลายๆสาขาพร้อมๆกัน อย่างกระทันหัน โดยไม่มีคำอธิบาย และไม่มีการเตือนล่วงหน้าใดๆ ที่สำคัญสาขาเหล่านี้อยู่ในจุดยุทธศาสตร์ของเมืองนั้นๆทั้งทางการค้า การขนส่ง หรือแม้แต่.....การทหาร
    หลายวันมาแล้ว ที่มีเพียงคำถามและข้อสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นเพียงทฤษฏีต่างๆหรือแม้แต่ทฤษฏีสมรู้ร่วมคิดจากทุกฝ่ายที่จับตามอง หรือแม้แต่สื่อต่างๆเองก็ตาม และแทบทุกทฤษฏีก็มีความเชื่อมโยงกับอภิมหาดริล "Jade Helm 15"
    โดยการปิดตัวลงอย่างกระทันหันนี้เกิดขึ้น 1 ทุ่มตรงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปลดพนักงานออกทั้งหมดทันที โดยมีการประกาศระยะเวลาการปิดเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อ "ซ่อมระบบประปา" ......ใช่แล้วครับ เค้าให้เหตุผลอย่างนี้จริงๆ แล้วมันจะซ่อมอะไรกัน ในหลายๆสโตร์ ใหลายๆรัฐพร้อมกันทั่วประเทศ แต่..... อย่าคิดว่าเเพียงแค่นี้นะครับ เพราะในระยะเวลาที่ผ่านมา สโตร์ในญี่ปุ่นและอีกบางประเทศก็ทำแบบเดียวกัน แต่ไม่มีการเปิดตัวอีกเลย แต่ที่มีคือ "ทหาร" ครับ ไปเข้าประจำการแทนที่สาขาเหล่านั้น และแน่นอน ในอเมริกาก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก หน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ หรือ DHS (คอยจับตาบทบาทของหน่วยงานนี้ให้ดีหลังจากอเมริกา "ล้ม" แล้ว รับรองว่าไม่ทำธรรมแน่นอน )
    กระทู้นี้จึงเปิดไว้เพื่อให้เพื่อนๆสมาชิก ได้ตั้งข้อสังเกตูรวมทั้งคาดการณ์ว่า มันคืออะไรกันแน่ หรือแม้แต่ตัวผมเอง ณ ตอนนี้ เพียงไม่กี่วัน ก็ได้ข้อมูลความเป็นไปได้มาแล้ว 3-4 ทฤษฏี ซึ่งล้วนแล้วแต่ "หนาว" (โดยเฉพาะคนอเมริกัน) ทันทีที่ได้ยินได้ฟัง แล้วมันก็ยังเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆที่เราคุยกันในรอบหลายปีอีกต่างหากครับ!!
    ดังนั้น คำถามก็คือ คุณคิดว่า.......เค้ากำลังทำอะไร???
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

    [​IMG]

    ดวงเมืองปี ๒๕๕๘ (๒๕ เม.ย. ๒๕๕๘ - ๒๔ เม.ย. ๒๕๕๙) ตอนที่ ๑
    admin ได้เขียนบทความทางโหราศาสตร์ โดยพยากรณ์ความเป็นมาเป็นไปของบ้านเมืองในรอบปี โดยจับเอาวันที่ "ดาวอาทิตย์จรมาถึงอาทิตย์เดิม" ในดวงเมือง หรือที่เรียกว่า "ดวงวรรษจักรา" โดยโหรต่างชาติเรียกวิธีนี้ว่า Solar Return ในคอลัมน์ "พูดจาภาษาโหร" เวปไซด์ของท่านไพศาล พืชมงคลมาหลายปี โดยมีความแม่นยำพอควร
    หมายเหตุ : ท่านไพศาล พืชมงคล เปิดพื้นที่ให้ลงบทความ โดย admin ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับท่าน
    วิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีพยากรณ์ดวงประจำปี ซึ่งไม่ใช่ "ดวงทินวรรษ" อย่างที่หลายๆ ท่านเข้าใจผิดกัน
    รอบปีนี้ ดาวอาทิตย์จรมาถึงอาทิตย์เดิม ในวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๘ เวลาประมาณ ๐.๓๖ น ครบ ๒๓๓ ปีบริบูรณ์ โดยเฉลิมเป็นรูปดวงชาตาได้ตามรูป
    ในรอบปีนี้ ดาวได้ตำแหน่งมาตราฐานหลายดวง (อุจน์, เกษตร์) ดังนั้นโดยภาพรวมน่าจะดี แต่อย่างไรก็ตามยังมีจุดที่จะต้องพิจารณากันอีกพอสมควร
    admin จะอธิบายขยายความเพื่อเป็นแนวทางในการพินิจพิจารณาในการที่จะดำเนินการใดๆ ในรอบขวบปีนี้สำหรับผู้ที่สนใจในคำพยากรณ์ และจะอธิบายหลักพยากรณ์ในทางโหราศาสตร์ให้กับท่านที่สนใจในวิชาด้านนี้อีกด้วย
    โปรดติดตามคำพยากรณ์ในตอนที่ ๒
    admin ดิลก แสงอุทัย
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    สหรัฐฯมามุกเดิมกล่าวหาว่ารัสเซียว่าแฮ็กอีเมลของโอบามาและก.ต่างประเทศของสหรัฐฯที่ไม่เป็นความลับ
    ------------------
    มุกโยนอี้ให้คนอื่นนี่หากินได้ตลอด ครั้งก่อนก็โทษเกาหลีเหนือกรณีแฮ็กโซนีฯ คราวนี้มาใหม่แต่ลูกไม้เดิม วันนี้สื่อฯต่างประเทศบอกว่าหนังสือพิมพ์ New York Times ลงข่าวว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯแถลงว่าระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่เป็นความลับของทำเนียบขาวถูกแฮ็กเมื่อปีที่แล้ว และกล่าวว่าแฮ็กเกอร์สามารถเจาะเข้าถึงอีเมลของปธน.บารัค โอบามาได้ด้วย ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะระบุว่าแฮ็กเกอร์ที่เจาะระบบในครั้งนี้เป็นบุคคลสัญชาติใด แต่นิวยอร์กไทม์รายงานเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จากแหล่งข้อมูลที่มีความคุ้นเคยในการตรวจสอบกล่าวว่าเบาะแสทั้งหมดชี้ไปที่ชาวรัสเซีย
    นั่นไง! มันมาแบบเดิมอีกแล้ว ตอนแรกก็จะยังไม่ให้ทางรัฐบาลออกมายืนยัน แต่จะอ้างจากสื่อฯหรือแหล่งอื่นก่อน พอปั่นกระแสได้ที่ก็จะให้บุคคลสำคัญในหน่วยงานของรัสบาลออกมาประสานเสียงตบท้ายอีกรอบ แต่ไม่เคยนำหลักฐานออกมาพิสูจน์ต่อสาธารณชนซักที มีแต่คำพูดที่ปั้นขึ้นมาล้วนๆ โดยอาศัยว่าคำพูดของสหรัฐฯที่แหละคือหลักฐาน อื่ม… ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว
    นอกจากนี้แล้ว Bernadette Meehan โฆษกของฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในการเปิดเผยการตรวจสอบต่อสาธารณะอีกด้วย ซึ่งไม่ได้รับคำอธิบายใดๆจากทำเนียบขาวว่าจะอุดช่องโหว่ได้อย่างไร ส่วนอีเมลของโอบามาที่ถูกแฮ็กนั้นไม่ถือว่าเป็นความลับ (เหมือนเจตนาให้เกิดช่องโหว่อย่างไรอย่างนั้นแหละ)
    New York Times ยังอ้างอีกว่า แฮ็กเกอร์ได้เจาะเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่เป็นความลับในก.ต่างประเทศของสหรัฐฯด้วย จากการออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ทาง Ashton Carter เลขาฯกลาโหมของสหรัฐฯออกมากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า พวกแฮ็กเกอร์ชาวรัสเซียจะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีทางไซเบอร์ในระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่เป็นความลับของก.กลาโหมของสหรัฐฯ
    เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 58 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาโต้จัดปฏิบัติ Locked Shields 2015 เพื่อฝึกแฮ็กเกอร์ขึ้นมาเองที่กรุง Tallinn เมืองหลวงของประเทศ Estonia ในกลุ่มประเทศบอลติก โครงการนี้เรียกโดยทั่วไปว่า เกมสงครามไซเบอร์ (Cyber War Game) เริ่มมาตั้งแต่ปี 2010 อ้างว่าเป็นการฝึกทักษะด้านการป้องกันความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ให้กับประเทศต่างๆที่เป็นพันธมิตร มีผู้ชำนาญการด้านคอมพิวเตอร์เข้าร่วมฝึกอบรมทั้งหมด 400 คนจาก 16 ประเทศ โครงการนี้เป็นการฝึกโจมตีทางไซเบอร์ ฝึกแฮ็กระบบเน็ทเวิร์กต่างๆและฝึกด้านการป้องกันระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ด้วย
    ก่อนหน้านี้ก็ฝึกด้านอาวุธให้กับกลุ่มต่างๆในตะวันออกกลาง คราวนี้ก็หันมาฝึกทหารไซเบอร์ขึ้นมาแทน เพื่อเล่นสงครามไซเบอร์กับประเทศต่างๆ วันหนึ่งเมื่อควบคุมไม่ได้ หรือประเทศเหล่านั้นไม่เชื่อฟังสหรัฐฯ ก็จะใช้จุดนี้หันมาโจมตีกลุ่มประเทศเหล่านั้นที่เข้าร่วมในกองทัพไซเบอร์ด้วยแทน ตกลงว่าใครกันแน่ที่สร้างโจรและสงครามทั้งในโลกภายนอกและในโลกไซเบอร์ขึ้นมา?
    The Eyes
    26/04/2558
    ---------------
    Hackers Manage to Gain Access to Obama's E-Mail Correspondence / Sputnik International
    NATO Launches Major Cyber War Games in Estonia / Sputnik International
    https://ccdcoe.org/locked-shields-2015.html
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ทหารกองเกียรติยศจีนเข้าร่วมพิธีสวนสนามในงาน V-Day ที่กรุงมอสโคว์

    [​IMG]

    ---------------
    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสื่อฯรัสเซียและจีนรายงานว่าทหารกองเกียรติยศของจีนจำนวน 110 นายได้เดินทางมาถึงกรุงมอสโคว์เป็นครั้งแรกเพื่อเข้าร่วมพิธีสวนสนามร่วมกับกองทัพรัสเซียในงานวัน WWII Victory Day ที่จะจัดขึ้น ณ จตุรัสแดงในกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย วันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งทางเอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่านี่เป็นเวทีใหม่ในความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างประเทศ
    Li Hui เอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงมอสโคว์กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวของจีนว่า "นี่เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนทางทหารระหว่างรัสเซียกับจีนในปีนี้ และจะเป็นการยืนยันการสร้างความร่วมมือทางกองทัพระหว่างสองประเทศในการเข้าสู่เวทีใหม่แห่งการพัฒนา"
    นอกจากจีนแล้วยังจะมีทหารกองเกียรติยศจากเซอร์เบีย และอีกหลายสาธารณรัฐภายในรัสเซียเข้าร่วมพิธีเดินสวนสนามในครั้งนี้ด้วยร่วมทั้งอดีตทหารผ่านศึกของสหภาพโซเวียตจากต่างประเทศด้วย และที่ขาดไม่ได้ก็คือการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ T-14 Armata สุดยอดรถถังแห่งยุคที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย และ S-400 ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใหม่ของรัสเซียและขบวนรถถังและยานพาหนะติดอาวุธทางทหารจากสาธารณรัฐต่างๆของรัสเซียก็จะเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วยเช่นกัน
    เมื่อวันวานนี้ (26 เม.ย.58) หนังสือพิมพ์ Die Welt ของเยอรมันรายงานว่ารถถังรุ่น Leopard 2 ของเยอรมันนีที่เคยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรถถังที่เจ๋งที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ไม่สามารถเทียบเท่ากับของรัสเซียได้แล้วหากเกิดการปะทะกันขึ้นมา เนื่องจากทางเยอรมันนั้นไม่ได้มีการพัฒนาด้านกระสุนปืนของรถถังขึ้นมาใหม่เลย
    อาจจะในวันงาน V-Day หรือหลังงานคงจะได้มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับความร่วมมือทางกองทัพระหว่างจีนกับรัสเซียปรากฎตามสื่อฯต่างๆทั่วโลกแน่
    The Eyes
    27/04/2558
    -----------
    Chinese Honor Guard Arrives in Moscow for First Time Ever / Sputnik International
    Over 700 Foreign Servicemen to Take Part in Moscow Victory Day Parade / Sputnik International
    Russian T-14 Armata: Most Powerful Tank in the World in Details / Sputnik International
    German Army Has No Chance Against Russian Tanks - German Newspaper / Sputnik International
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ ชาวกรีกเกือบ 72% หนุน รบ.กรีซ ทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างชาติ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 เมษายน 2558 02:28 น. (แก้ไขล่าสุด 27 เมษายน 2558 09:45 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดซึ่งมีการเผยแพร่ในวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) โดยหนังสือพิมพ์ “โท วิมา” ของกรีซระบุ ชาวกรีกเกือบ 72% ให้การสนับสนุนการทำข้อตกลงระหว่างรัฐบาลเอเธนส์ กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติ มีเพียงมากกว่า 23% เล็กน้อยที่หนุนให้กรีซแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) และ กลุ่มยูโรโซน

    นอกเหนือจากผลสำรวจที่พบว่ากว่า 7 ใน 10 ของชาวกรีกต้องการให้มีการบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างชาติแล้ว ผลสำรวจในครั้งนี้ยังระบุว่า มีกลุ่มตัวอย่างชาวกรีกมากกว่า 20% ที่ปรารถนาให้ประเทศของตน “เลิกใช้เงินยูโร” และหันกลับไปใช้เงินสกุลดั้งเดิมของตน คือ เงินดราชมา

    ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดซึ่งได้จากการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,007 คนในกรีซระหว่าง 21 - 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ยังระบุว่า ชาวกรีกมากกว่า 61% มีความพึงพอใจต่อผลงานของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ขณะที่คะแนนความพึงพอใจต่อผลงานของ ยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลังที่เป็นผู้นำทีมในการเจรจาปลดล็อกปัญหาหนี้สิน กับชาติเจ้าหนี้กลับลดลงเหลือเพียง 51%

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่รัฐบาลกรีซกำลังใช้ความพยายามในการเจรจาปลดล็อกเงินช่วยเหลือ 7,200 ล้านยูโร ที่เหลืออยู่ในแพ็คเกจของสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งมีความสำคัญต่อการหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจกรีซมิให้ต้องก้าวเข้าสู่ภาวะล้มละลาย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047728
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ปินส์” เรียกร้องอาเซียนตอบโต้ “จีน” กรณีถมทะเลจีนใต้ แต่ “มาเลย์” ค้าน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 23:38 น. (แก้ไขล่าสุด 27 เมษายน 2558 11:03 น.)

    [​IMG]

    @รัฐมนตรีต่างประเทศ อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ ของฟิลิปปินส์ (ซ้าย) เดินเคียงคู่มากับ รัฐมนตรีต่างประเทศ ทองลุน สีสุลิด ของลาว (ขวา) เพื่อเข้าประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนในวันอาทิตย์ (26) โรซาอิโอ เสนอให้เล่นเกมแรงกับจีน ทว่าสมาชิกอื่นหลายรายของอาเซียนไม่เห็นด้วย

    เอเจนซีส์ - ฟิลิปปินส์เรียกร้องในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนเมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) ให้รัฐสมาชิกสมาคมชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหลาย ร่วมกันดำเนินมาตรการตอบโต้ในทันที เพื่อให้จีนระงับการถมที่ถมทะเลในน่านน้ำซึ่งพิพาทช่วงชิงกรรมสิทธิ์อยู่กับชาติอื่นๆ ในทะเลจีนใต้ พร้อมกับเตือนว่าหากล้มเหลวไม่ทำอะไรกันแล้ว ก็จะเห็นปักกิ่งเข้า “ควบคุมโดยพฤตินัย” ต่ออาณาบริเวณดังกล่าว

    อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียที่เป็นเจ้าภาพการประชุมคราวนี้แถลงว่า รัฐสมาชิกทั้ง 10 ของอาเซียนจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจีน และจะยังคงดำเนินการเจรจากับปักกิ่งต่อไป เพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติซึ่งมีผลผูกพันชาติผู้เกี่ยวข้อง สำหรับใช้ควบคุมพฤติกรรมในอาณาบริเวณนี้

    จีนนั้นประกาศอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่เกือบ 90% ของทะเลจีนใต้ ซึ่งนอกจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดเส้นทางหนึ่งของโลกแล้ว ยังเชื่อกันว่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำมันและก๊าซใต้สมุทร โดยที่ชาติอื่นๆ ได้แก่ บรูไน, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม รวมทั้งไต้หวันก็อ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนอยู่หลายๆ บริเวณ

    จากภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ให้เห็นว่าจีนได้ถมที่ถมทะเลตรงแนวปะการังหลายแห่งในหมู่เกาะสแปรตลีย์ของทะเลจีนใต้ ซึ่งมีการช่วงชิงกรรมสิทธิ์กันอยู่ โดยที่มีการก่อสร้างโรงเรือนต่างๆ ตลอดจนสิ่งที่น่าจะเป็นสนามบินซึ่งเหมาะแก่การใช้งานทางการทหารด้วย

    ในระหว่างการปราศรัยต่อที่ประชุมอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์คราวนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ ไม่ได้เอ่ยชื่อจีนโดยตรง แต่บอกว่า “เพื่อนบ้านทางเหนือของเรา” กำลังเดินหน้างานถมที่ถมทะเลไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการคุกคามที่จะทำให้พื้นที่แถบนี้กลายเป็นพื้นที่ทางทหาร รวมทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิของรัฐอื่นๆ ตลอดจนทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลด้วย

    “นี่ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วหรือที่อาเซียนจะต้องบอกกับเพื่อนบ้านทางเหนือของเราว่า สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่นั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และการถมที่ถมทะเลอย่างใหญ่โตกว้างขวางเช่นนี้จะต้องหยุดลงในทันที?” โรซาริโอ ถามเพื่อนรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนด้วยกัน

    “นี่ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วหรือที่อาเซียนจะต้องลุกขึ้นมาในท้ายที่สุดเพื่อยืนยันสิ่งที่ถูกต้อง?”

    เขาเตือนด้วยว่า จีนซึ่งใช้ท่าทีเตะถ่วงลากเท้ามาโดยตลอด ต่อความพยายามของอาเซียนที่จะผลักดันให้จัดทำแนวทางปฏิบัติในทะเลจีนใต้ที่มีผลบังคับผูกพันขึ้นมานั้น แท้ที่จริงแล้วจะต้องตั้งความมุ่งหมายให้กิจกรรมการถมที่ถมทะเลของตนสำเร็จเสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะยินยอมเห็นพ้องในแนวทางปฏิบัติดังกล่าว โดยที่หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ แนวทางปฏิบัตินี้ก็จะกลายเป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมให้แก่การถมที่ถมทะเลของแดนมังกรไปเสียอีก

    “ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากการถมที่ถมทะเลอย่างกว้างขวางใหญ่โตเช่นนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจริงๆ และไม่สามารถที่จะเพิกเฉยละเลยหรือปฏิเสธได้” เขากล่าว “อาเซียนควรต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ, ความเป็นศูนย์กลาง, และความสามัคคีสมานฉันท์ของตน อาเซียนจะต้องแสดงให้โลกเห็นว่าตนมีความเด็ดเดี่ยวในการลงมือปฏิบัติการในสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ร่วมของตน”

    รัฐมนตรีต่างประเทศ อานิฟาห์ อามัน ของมาเลเซีย ทำหน้าที่เป็นประธานของการประชุมอาเซียนระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันอาทิตย์ (26) เขากล่าวคัดค้านข้อเสนอของฟิลิปปินส์ ที่จะให้ตอบโต้รุนแรงกับการถมที่ถมทะเลในแนวปะการังของหมู่เกาะสแปรตลีย์

    อย่างไรก็ตาม ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ อานิฟาห์ อามัน ของเจ้าภาพมาเลเซีย แถลงต่อผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า อาเซียนนั้น “มีความกังวลเป็นอย่างมาก” ต่อการถมที่ถมทะเลของจีนนี้ ทว่า “เราต้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ก็ตามที่กลับจะก่อให้เกิดผลเสีย และทำให้พวกเรายิ่งเหินห่างออกจากกัน ไม่ว่าจะในระหว่างพวกเรากันเอง หรือระหว่างเรากับจีน”

    “ผมไม่คิดว่าอาเซียนชอบที่ถูกคนอื่นยื่นคำขาด และด้วยลักษณะเดียวกัน ผมก็ไม่คิดว่าจีนจะชอบที่ถูกคนอื่นยื่นคำขาด”

    “จะเป็นสิ่งที่ได้รับความชื่นชมซาบซึ้งมาก ถ้าหากจีนสามารถหยุดการทำงานเอาไว้ก่อน และนั่งลงพูดคุยกับเหล่าประเทศอาเซียนเพื่อหาหนทางออก” อานิฟะห์กล่าว “อาเซียนต้องส่งสัญญาณที่ถูกต้องออกไป และดำเนินการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง เราจะต้องหลีกเลี่ยงมาตรการใดๆ ก็ตามที่ก่อให้เกิดผลเสียหายไม่ว่าต่อตัวพวกเราเองหรือต่อจีน”

    เขาระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่จากรัฐสมาชิกอาเซียนและจีนมีกำหนดที่จะประชุมหารือกันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน เพื่ออภิปรายกันเกี่ยวกับประเด็นปัญหานี้

    ฟิลิปปินส์นั้นได้ยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเมื่อปี 2013 เพื่อคัดค้านการกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ของจีน แต่จีนประกาศไม่ให้ความร่วมมือและไม่ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้การต่อศาลอนุญาโตตุลาการแห่งนี้

    ปักกิ่งแถลงปกป้องการถมที่ถมทะเลของนตน โดยกล่าวว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ตนจะกระทำเนื่องจากแนวปะการังเหล่านั้นเป็นดินแดนจีน อีกทั้งสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่สร้างขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะ และเพื่อสนับสนุนชาวประมงจีน

    รัฐมนตรีอานิฟาห์ บอกว่า คาดหมายว่าในการประชุมระดับสุดยอดของอาเซียน 2 วันเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (27) นี้ บรรดาผู้นำอาเซียนจะหยิบยกเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการถมที่ถมทะเลของจีนขึ้นมาหารือ และจะหาทางเร่งรัดแผนการเพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติในทะเลจีนใต้กับจีนโดยเร็ว


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047712
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหยื่อแผ่นดินไหวเนปาลทะลุ 2,500 เจ็บกว่า 6,000 อาฟเตอร์ช็อกเขย่าซ้ำความแรง 6.7 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 23:00 น. (แก้ไขล่าสุด 27 เมษายน 2558 09:40 น.)

    [​IMG]

    @ชาวเนปาลช่วยกันเผาศพผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ที่ เขตภัคตาปุระ ชานกรุงกาฐมาณฑุ เมื่อวันอาทิตย์ (26) ทางการเนปาลให้ตัวเลขในคืนวันอาทิตย์ว่า แผ่นดินไหวใหญ่คราวนี้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 2,500 คน

    เอเจนซีส์ – อาฟเตอร์ช็อกระดับรุนแรงหลายต่อหลายครั้งยังตามเขย่าเนปาลเมื่อวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) สร้างความหวาดผวาแก่ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงยิ่งในวันเสาร์ (25) ซึ่งได้ผลาญชีวิตผู้คนไปกว่า 2,500 คน และกระตุ้นให้เกิดเหตุหิมะถล่มใหญ่ เข้าใส่บริเวณที่ตั้งค่ายสำหรับผู้ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ ขณะเดียวกับ ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามขุดหาผู้รอดชีวิตและร่างไร้วิญญาณใต้ซากอาคารในเมืองหลวงกาฐมาณฑุ

    ชาวเมืองกาฐมาณฑุที่ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว และจำนวนมากถูกบังคับให้ออกมาพักแรมกันนอกอาคารซึ่งหักพังเสียหาย ต้องพากันอกสั่นขวัญแขนเป็นระยะๆ จากอาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวตาม ซึ่งเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง โดยครั้งรุนแรงที่สุดนั้นวัดได้ 6.7 ในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ระดับ 7.8 ในวันเสาร์ อันถือเป็นครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1934 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8,500 ราย

    อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นรู้สึกได้ถึงกรุงนิวเดลีของอินเดีย กระทั่งทางการต้องสั่งระงับการให้บริการรถไฟใต้ดิน

    ผู้รอดชีวิตชาวเนปาลจำนวนมากตัดสินใจพักอาศัยกันนอกอาคาร โดยอยู่กันในเต็นท์ อย่างเช่นในเขตภัคตาปุระ ชานกรุงกาฐมาณฑุ

    ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติของเนปาล ซึ่งตั้งฐานอยู่ในกรุงกาฐมาณฑุ รายงานในคืนวันอาทิตย์ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวคราวนี้ เฉพาะในเนปาลอยู่ที่ 2,430 คน และบาดเจ็บกว่า 6,000 คน

    ขณะที่เจ้าหน้าที่ในอินเดีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตในเขตประเทศนั้น 67 คน และสื่อมวลชนภาครัฐของจีนให้ตัวเลขว่า ในเขตปกครองตนเองทิเบตของแดนมังกร มีผู้เสียชีวิตไป 18 คน

    ทางด้านนักปีนเขาซึ่งกำลังรอกันอยู่ที่บริเวณค่ายฐานเชิงเขาเอเวอเรสต์ รายงานว่า อาฟเตอร์ช็อกที่เกิดตามมาหลายๆ ครั้งในวันอาทิตย์ (26) ได้ทำให้เกิดเหตุหิมะถล่มใหญ่ในบริเวณยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้ขึ้นมาอีก หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์หลายลำเพิ่งขนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน เดินทางไปสู่ที่ปลอดภัย พวกเขาประสบเคราะห์เมื่อตอนที่กำแพงหิมะมหึมาอันเกิดจากการกระตุ้นของแผ่นดินไหวใหญ่ ได้ไหลลงมาถล่มค่ายฐานแห่งนี้ในวันเสาร์ (25) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 18 คน โดยที่คนหนึ่งในจำนวนนี้ คือ แดน เฟรดินเบิร์ก ผู้บริหารของบริษัท กูเกิล

    ภัยพิบัติครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเวอเรสต์คราวนี้ บังเกิดขึ้นมาเกือบๆ 1 ปี พอดีหลังจากที่เกิดเหตุหิมะถล่มใหญ่ซึ่งสังหารผู้นำทางชาวเชอร์ปาไป 16 คน และจากความเสียหายร้ายแรงที่เกิดขึ้นใหม่ๆ นี้กำลังบังคับให้ต้องระงับฤดูไต่เขาในปีนี้ไปเลย ถึงแม้มีนักปีนเขาราว 800 คนมารวมตัวกันอยู่ในช่วงเริ่มต้นของฤดู



    ในเวลาที่รัฐบาลเนปาลยังโกลาหลกับโศกนาฏกรรมร้ายแรงนี้ อินเดียได้ส่งเครื่องบินทหาร พร้อมอุปกรณ์การแพทย์และเจ้าหน้าที่ทีมรับมือภัยพิบัติแห่งชาติ 285 คนเดินทางสู่เนปาล ขณะที่จีนส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน 60 คนพร้อมสุนัขดมกลิ่น ปากีสถานจัดส่งเครื่องบิน ซี-130 จำนวน 4 ลำ พร้อมโรงพยาบาลเคลื่อนที่รองรับผู้บาดเจ็บ 30 คน ทีมค้นหาและกู้ภัย และอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ และสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศส่งทีมรับมือภัยพิบัติไปสมทบ

    หน่วยงานบรรเทาทุกข์ เผยว่า โรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองหลวงของเนปาล อยู่ในสภาพขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์อย่างหนัก และเจ้าหน้าที่ต้องตั้งเต็นท์รักษาพยาบาลภายนอก เนื่องจากทั้งสถานที่ภายในไม่พอรองรับ และเพื่อความปลอดภัยกรณีที่เกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรง

    ปีเตอร์ ออยลี จากองค์การเซฟ เดอะ ชิลเดรน เผยว่า โรงพยาบาลในกาฐมาณฑุ แวลลีย์ ขาดแคลนทั้งห้องเก็บศพและอุปกรณ์ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเนปาลเร่งตัดสินใจและสั่งการให้กองทัพสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น

    ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลา กำลังเดินทางกลับจากต่างประเทศและจะปราศรัยกับชาวเนปาลทันทีที่เดินทางถึง


    ทหารและหน่วยกู้ภัยเนปาลทำงานตลอดคืนวันเสาร์ (25) เพื่อเปิดทางเข้าสู่อาคารมากมายที่พังทลายในกาฐมานฑุ เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตและร่างผู้เสียชีวิต

    คามาล ซิงห์ บัม โฆษกสำนักงานตำรวจเนปาล เผยว่า ได้ระดมทรัพยากรการค้นหาและกู้ภัยทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ขณะที่สภากาชาดแสดงความเป็นห่วงหมู่บ้านห่างไกลที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงเหนือของกาฐมาณฑุ

    เครือข่ายโทรศัพท์ไร้สายของเนปาลใช้การได้เป็นบางพื้นที่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองหลวงไม่มีไฟฟ้าใช้

    หนึ่งในสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองที่ถูกธรณีพิโรธคือ หอธราหารสูง 60 เมตรที่สร้างขึ้นในปี 1832 เพื่อถวายแด่ราชินีเนปาล และเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยตำรวจเผยว่า มีผู้ติดอยู่ใต้ซากหอถึง 200 คน

    อิรีนา โบโกวา ผู้อำนวยการยูเนสโก แถลงว่า ยูเนสโกพร้อมช่วยเหลือเนปาลปฏิสังขรณ์สถานที่ประวัติศาสตร์หลายแห่งในกาฐมาณฑุ แวลลีย์ที่เสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

    ผู้คนในเมืองหลวงเนปาลนับหมื่นๆ ต้องนอนกลางถนนท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและฝนตก ซ้ำร้ายยังมีการพยากรณ์อากาศว่า ฝนจะตกในกาฐมาณฑุ ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้ชะตากรรมของผู้ประสบภัยเหล่านี้เลวร้ายลงหลายเท่า

    แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี ในเนเปาลครั้งนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองโภครา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 และเกิดขึ้นช่วงเที่ยงวันเสาร์ในฤดูการท่องเที่ยวของปี ซึ่งเชื่อว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 300,000 คน เดินทางสู่เนปาล เพื่อชื่นชมสถานที่ที่ได้รับยกย่องเป็นมรดกโลก รวมถึงเดินป่าและปีนเขา

    รายงานระบุว่า มีนักปีนเขาและไกด์ชาวเชอร์ปาเกือบ 1,000 คน อยู่บนเอเวอเรสต์ตอนที่หิมะและก้อนหินระลอกแรกถล่มลงมา ภาพจากนักปีนเขาที่เผยแพร่ในสื่อสังคมเผยให้เห็นเต็นท์ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ในค่ายฐานที่เชิงเขาราบเป็นหน้ากลอง

    เฮลิคอปเตอร์เพิ่งเข้าไปอพยพผู้บาดเจ็บบนเอเวอเรสต์ได้เมื่อเช้าวันอาทิตย์ หลังจากท้องฟ้าโปร่งและสภาพอากาศเป็นใจ นักปีนเขาจำนวนมากที่ปลอดภัยดีเลือกที่จะเดินลงเขาเอง แทนการรอเฮลิคอปเตอร์กลับขึ้นไปรับ เนื่องจากเกรงว่า อาจต้องติดอยู่นานหลายวัน

    เนปาลและประเทศอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ในแถบเทือกเขาหิมาลัย เป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มสูงในการเกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากการชนปะทะกันระหว่างแผ่นเปลือกโลกอินเดีย และแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047708
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนุสรณ์สถานในเนปาลเสียหายหนัก ผู้เชี่ยวชาญชี้ยากต่อการฟื้นฟู
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 20:48 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ผู้เชี่ยวชาญออกมาระบุในวันอาทิตย์ (26 เม.ย.) ว่ามรดกทางวัฒนธรรมในเนปาลได้รับความเสียหายอย่างมาก จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งล่าสุดในประเทศแห่งนี้

    ในบริเวณใจกลางของกาฐมาณฑุ มีวัดและสิ่งปลูกสร้างมากมายที่ทำขึ้นเมื่อสมัยศตวรรษที่ 12 - 18 โดยกษัตริย์เนปาล ต้องพังทลายเสียหายไปพร้อมกับเหล่าผู้เสียชีวิตเพราะแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้

    "หอธราหาร" ที่มีความสูง 9 ชั้น ซึ่งมีบันไดวน 200 ขั้น จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญในกาฐมาณฑุ ได้พังทลายลงมาเพราะแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เมื่อช่วงเที่ยงวันเสาร์

    "ผมเพิ่งจะซื้อตั๋วตรงด้านล่างเพื่อจะขึ้นไปชมหอคอย แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงการสั่นไหว" ธาร์มู ซูเบดี ผู้อยู่ในเหตุการณ์วัย 36 ปี เล่าให้นักข่าวฟังขณะที่นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลในกาฐมาณฑุ

    "ภายในไม่กี่นาที หอธราหารก็ถล่มลงมากองอยู่ที่พื้น อาจมีคนกว่า 100 รายอยู่ในนั้น" ซูเบดี บอกเอเอฟพี

    ยูเนสโก พยายามรวบรวมข้อมูลขอบเขตความเสียหาย ซึ่งรวมถึงพระราชวัง 3 แห่งในเมืองปาฏันและภักตปุระ ที่อยู่บริเวณหุบเขากาฐมาณฑุ

    "เราเข้าใจว่าจัตุรัสทรวารในกาฐมาณฑุ ปาฏันและภักตปุระ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก"คริสเตียน แมนฮาร์ต ตัวแทนยูเนสโกประจำเนปาล บอกกับเอเอฟพี

    "วัดหลายแห่งพังทลายลงมา ในปาฏันมีวัด 2 แห่งที่พังราบไม่เหลือชิ้นดี ส่วนจัตุรัสทรวารในกาฐมาณฑุก็ยิ่งแย่ไปกว่านั้นอีก" เขากล่าว

    เขาบอกว่า ตอนนี้กำลังประเมินสถานการณ์และรวบรวมข้อมูลว่ามีอะไรที่เสียหายบ้าง ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดของยูเอ็นได้รับคำขอจากรัฐบาลเนปาลให้ทำการช่วยเหลือ

    สถานการณ์ในตอนนี้ เขาบอกว่ายังเร็วไปที่จะพูดคุยถึงเรื่องการก่อสร้างศาสนสถานเหล่านั้นขึ้นมาใหม่ รวมถึงเรื่องที่ว่ายูเนสโกจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้มากน้อยเพียงใด

    แมนฮาร์ตบอกด้วยว่า ตอนนี้หน่วยงานของเขากำลังตรวจสอบดูว่า ในพื้นที่มรดกโลกอีกแห่งอย่าง "ลุมพินี" ซึ่งเป็นที่ประสูติของพระพุทธเจ้าเมื่อ 2,600 ปีก่อน ได้รับความเสียหายด้วยหรือไม่

    "เรายังไม่ได้รับรายงานความเสียหายที่ลุมพินี แต่เราจะพยายามรวบรวมข้อมูลต่อไป" เขากล่าวถึงบริเวณพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างจากกาฐมาณฑุไปทางตะวันตกราว 280 กิโลเมตร

    ในกาฐมาณฑุ มีชาวบ้านคุ้ยซากปรักหักพังด้วยมือเปล่า ถังและพลั่ว เพื่อค้นหาผู้ที่อาจจะยังติดอยู่ใต้ซากเหล่านั้น ในจัตุรัสทรวารที่เต็มไปด้วยคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติตอนเกิดเหตุร้ายเมื่อวันเสาร์

    วัดที่มีหลังคาสองชั้น ซึ่งถูกสร้างโดยกษัตริย์เนปาล ได้ถูกแปรสภาพกลายเป็นเศษอิธ ไม้และซากปรักหักพัง ที่กองพะเนินรวมกันอยู่หลายจุดทั่วจัตุรัสแห่งนี้ ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที จากภัยพิบัติครั้งล่าสุด

    ยูเนสโกได้ระบุไว้บนเว็บไซต์ว่า อนุสรณ์สถานเหล่านั้นเปรียบได้ดั่งจุดศูนย์รวมของเมือง สังคม ศาสนา ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อวัฒนธรรมและศาสนาฮินดู พุทธและตันตระ

    ยูเนสโกระบุว่า กาฐมาณฑุ ที่มีมรดกเชิงสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อย่างพระราชวัง วัดวาอารามและสิ่งปลูกสร้าง ได้ให้แรงบันดาลใจแก่ผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน ศิลปิน นักกวี ทั้งชาวต่างชาติและชาวเนปาล

    พี.ดี. บาลาจี คณบดีคณะประวัติศาสตร์และโบราณคดี มหาวิทยาลัยมัดราส ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ การบูรณะให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมนั้นเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับความเสียหายร้ายแรงในพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ของเนปาลแห่งนี้

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047674
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : ฮิลลารี คลินตัน มีสิทธิ์ “เข้าข่ายรับสินบน”!! หลังฉาวพัวพันเงินบริจาค “ดีลยูเรเนียมรัสเซีย” ด้าน “ปูติน” เล็งหายูเรเนียมเพิ่มจากมองโกเลีย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 16:58 น. (แก้ไขล่าสุด 27 เมษายน 2558 10:57 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - มิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการแมสซาชูเซตส์ และตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2012 เจ้าของวลีเด็ด “แฟ้มที่มีผู้หญิงเต็มไปหมด” ล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฉาวของอิลลารี คลินตัน ที่เพิ่วเปิดตัวเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ที่มีข่าวพัวพันถึงเงินบริจาคต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับดีลยูเรเนียมของบริษัท Uranium One เข้าสู่มูลนิธิครอบครัว “คลินตันฟาวเดชัน” ในสมัยที่เธอยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯว่า อาจจะเข้าข่าย “รับสินบน” ในขณะที่ล่าสุดสื่อออนไลน์ investorintel รายงานว่ารัสเซียต้องหาช่องทางใหม่ซื้อยูเรเนียมหลังโดนชาติตะวันตกคว่ำบาตร คาดว่าอาจจะเป็นมองโกเลีย

    นิวยอร์กโพสต์ สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (25) ว่า เงินบริจาคนับหลายร้อยล้านดอลลาร์จากต่างชาติที่ไหลเข้าสู่มูลนิธิคลินตันของครอบครัวอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน ในช่วงระหว่างที่ฮิลลารียังดำรงตำแหน่งประจำเจ้ากระทรวงต่างประเทศนั้น “อาจเข้าข่ายรับสินบน” มิตต์ รอมนีย์ อดีตผู้ว่าการแมสซาชูเซตส์ และตัวแทนผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2012 ให้ความเห็น

    รอมนีย์ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Hugh Hewit ในคืนวันพฤหัสบดี (23) ว่า “พวกคุณรู้ไหม ผมรู้สึกมึนงงกับข่าวอื้อฉาวนี้ เพราะดูเหมือนว่าจะเข้าข่ายรับสินบน” และเสริมต่อว่า “ดูเหมือนว่า ฮิลลารี คลินตัน จะข้องเกี่ยงกับการรับสินบน 20% ของดีลข้อตกลงยูเรเนียมที่อเมริกาผลิตเพื่อขายต่อให้รัสเซีย และปกปิดด้วยการโกหกคำโตเกี่ยวกับการพบปะที่บ้านของเธอกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และเรื่องการลบอีเมลก่อนหน้านี้”

    โดยอดีตผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันย้ำอีกว่า “ดูเหมือนเป็นการรับสินบน” และยังเรียกร้องให้ฮิลลารี คลินตัน ตัวเต็งจากพรรคเดโมแครตให้เปิดเผยรายงานการเสียภาษีบุคคล

    แต่ทว่าทีมหาเสียงสมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้โดยสิ้นเชิง โดยกล่าวว่าไม่หลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการอนุญาตจำหน่ายยูเรเนียมและการบริจาคนั้นเกี่ยวข้องกัน

    ทั้งนี้ ข่าวการพัวพันเงินบริจาคเข้าสู่มูลนิธิ “คลินตันฟาวเดชัน” นั้นทำให้ประชาชนชาวอเมริกันจับตา รวมไปถึงสื่อทั่วสหรัฐฯ ต่างให้ความสนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นที่รับรู้ในสหรัฐฯ ว่าตระกูลคลินตันนั้นมักทำเรื่องปิดเป็นความลับนับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีคลินตันที่ยังดำรงตำแหน่งมาจนถึงฮิลลารี คลินตันที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดจึงไม่ใช้อีเมลแอ็กเคานต์ของกระทรวงต่างประเทศ แต่เลือกกลับที่จะใช้แอ็กเคานต์ส่วนตัวแทน มาจนถึงทุกวันนี้เธอยังไม่สามารถตอบคำถามได้กระจ่าง

    เดลีเมล์ สื่ออังกฤษ รายงานก่อนหน้านี้ถึงข่าวเงินบริจาคต่างชาติฉาวในสมัยการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเศสหรัฐฯ ที่ว่า อาจมีการใช้ตำแหน่งเพื่อดึงดูดเงินไหลเข้ามูลนิธิ โดยพบว่าเงินบริจาคเข้ามูลนิธิครอบครัวร่วม 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นได้รับการบริจาคจากเอียน เทลเฟอร์ (Ian Telfer) ประธานบริษัทพลังงานนิวเคลียร์สัญชาติแคนาดา “Uranium One” ที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยูเรเนียมให้กับรัสเซีย ซึ่งในขณะนั้นฮิลลารี คลินตันในฐานะเจ้ากระทรวงต่างชาติสหรัฐฯ ได้อนุมัติให้บริษัทแห่งนี้สามารถซื้อยูเรเนียมจากสหรัฐฯ ได้

    และพบว่า Rosatom หน่วยงานนิวเคลียร์ของเครมลินได้สั่งซื้อยูเรเนียมจาก Uranium One เพื่อการผลิตในระยะยาวประจำปีในช่วงระหว่าง 2009 -2013 ซึ่งเป็นระยะเวลาเดียวกับที่คลินตันยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และเป็นที่น่าบังเอิญที่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ เทลเฟอร์ได้บริจาคเงินจำนวน 2.35 ล้านดอลลาร์ผ่านทางมูลนิธิครอบครัว เฟิร์นวูดฟาวเดชัน (Fernwood Foundation) ไปยังมูลนิธิคลินตันฟาวเดชัน

    นอกจากนี้ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน ยังได้รับค่าตัวในการรับเชิญไปขึ้นพูดด้วยเงินสูงถึง 500,000 ดอลลาร์ในช่วงเดือนมิถุนายน 2010 ในกรุงมอสโกให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน และเครมลิน

    สื่ออังกฤษยังชี้ในช่วงระหว่างปี 2001-2013 อดีตประธานาธิบดีคลินตันมีรายได้จากการได้รับเชิอญไปพูดตามที่ต่างๆ สูงถึง 100 ดอลลาร์ ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากการแจ้งบัญชีทรัพย์สินในขณะที่ฮิลลารี คลินตันยังดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ

    การขุดคุ้ยความเชื่อมโยงเงินบริจาคต่างประเทศนี้ถูกแฉโดยหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส สื่อสหรัฐฯที่ปะติปะต่อจากการให้สัมภาษณ์ รวมไปถึงข้อมูลเปิดเผยสำหรับสาธารณะในสหรัฐฯ แคนาดา และรัสเซีย

    ข่าวร้ายสำหรับตระกูลคลินตันยังไม่หยุด เมื่อพบว่าทางมูลนิธิมีปัญหากับสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ IRS จากกรณีที่ยื่นภาษีไม่ครบเพราะไม่ได้แจ้งอย่างครบถ้วนในเงินบริจาคที่ได้รับจากรัฐบาลต่างชาติ ซึ่งรอยเตอร์รายงานว่าทางมูลนิธิต้องแก้ไขและทำการยื่นใหม่อย่างน้อย 5 ปีเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่แจ้งตัวเลขต่ำไป หรือแจ้งตัวเลขไม่ถูกต้อง รวมไปถึงการไม่แยกแยะประเภทเงินบริจาคนับร้อยล้านดอลลาร์จากรัฐบาลต่างชาติ

    เดลีเมล์ชี้ต่อว่า สำหรับการสั่งซื้อยูเรเนียมของรัสเซียนั้น คิดเป็นสัดส่วนถึง 51% ของบริษัท Uranium One ที่มีสิทธิ์ควบคุม 1 ใน 5 ของยูเรเนียมที่ผลิตได้ในอเมริกา ซึ่งมีรายงานว่าการขายยูเรเนียมมูลค่า 610 ล้านดอลลาร์ต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมาธิการของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ รวมไปถึงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งคณะกรรมาธิการในการลงทุนต่างชาติของสหรัฐฯได้อนุญาตดีลการซื้อขายนี้ในปี 2010

    และสื่ออังกฤษยังรายงานทิ้งท้ายว่า ในดีลข้อตกลงซื้อขายยูเรเนียมที่เกี่ยวข้องกับคลินตันนี้ ดูเหมือนว่ารัสเซียจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดที่สามารถรวบรวมยูเรเนียมไวได้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถครอบครองยูเรเนียมส่วนใหญ่ของ Uranium One ในปี 2010 และสามารถครอบครองทั้งหมดได้ในปี 2013

    ในขณะที่ investorintel สื่ออนไลน์สรายงานว่า รัฐบาบลเครมลินของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน มองหาช่องทางอื่นเพื่อป้อนยูเรเนียมให้กับ Rosatom ในไม่กี่ปีข้างหน้าหลังจากการส่งออกยูเรเนียมให้กับรัสเซียนั้นอยู่ในมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และสหรัฐฯ โดยเฉพาะออสเตรเลีย ซึ่งหนึ่งในหนทางออกนั้นคือการผลิตยูเรเนียมในมองโกเลีย ที่ในการตัดสินใจแรกเริ่มนั้นมีขึ้นในขณะที่ปูตินเยือนมองโกเลียในปีที่ผ่านมา หลังจากข้อตกลงยูเรเนียมนี้ได้รับการเซ็นสัญญาร่วมของทั้งสองชาติรัสเซียและมองโกเลียย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ปี 2009 ในขณะที่มีการเยือนมองโกเลียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมีทรี อานาตอลเยวิช เมดเวเดฟ

    ในโครงการที่บริษัทเหมืองแร่ยูเรเนียมรัสเซีย “ARMZ Uranium Holding” เข้าร่วม ซึ่งบริษัทนี้ทำเหมืองแร่ยูเรเนียมในรัสเซียและยังเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน Rosatom ซึ่งภายใต้ข้อตกลง จะเน้นหนักในด้านการขุดค้น และการทำเหมือง และกระบวนการผลิตแร่ยูเรเนียมในดอร์นอด ( Dornod) มาร์ดาน( Mardan) และกัลป์แวน-บูลาค( Gulvan-Bulak) ซึ่งโครงการนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท Khiagda ซึ่งเป็นบริษัทลูกท้องถิ่นของ ARMZ สัญชาติรัสเซีย ที่คาดว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายการผลิตได้ถึง 35% แต่ยังสามารถเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทเป็น 2 เท่าภายใน 5 ปี และในแผนระยะยาวก่อนปี 2030 คาดากรณ์ว่าจะสามารถทำกำไรได้ถึง 6 เท่า

    เพราะในปัจจุบันนี้มองโกเลียเป็นประเทศเดียวในโลกที่คาดว่ายังมีศักยภาพสำหรับการทำเหมืองแร่ยูเรเนียมและการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการยูเรเนียมของรัสเซียภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

    In Pics :
     

แชร์หน้านี้

Loading...