ติดตามสถานะการณ์

Weekend Focus : สงครามตอ.กลางทำ “อุตฯอาวุธ” คึกคัก “โบอิ้ง-ล็อกฮีด” จ่อรับทรัพย์ยาว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2558 04:15 น.


@ ยานเกราะของกองทัพซาอุดีอาระเบียยิงขีปนาวุธข้ามไปถล่มฐานที่มั่นกบฏฮูตีในฝั่งเยเมน

สถานการณ์ร้อนระอุในตะวันออกกลางไม่ว่าจะเป็นสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านในเยเมน หรือการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) อาจถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทอาวุธสัญชาติอเมริกันที่มีแนวโน้มจะได้ยอดสั่งซื้อมูลค่ามหาศาลจากบรรดาประเทศที่ขนเอาอาวุธ “เมด อิน อเมริกา” ออกมาใช้จนคลังแสงร่อยหรอ แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังนำไปสู่การแข่งสะสมอาวุธที่เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อสันติภาพ

ซาอุดีอาระเบียส่งฝูงบิน F-15 ที่ผลิตโดยโบอิ้งไปถล่มฐานที่มั่นของกบฏฮูตีในเยเมน นักบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ขับ F-16 จากค่ายล็อกฮีดมาร์ตินไปทิ้งบอมบ์ใส่เยเมนและซีเรีย และอีกไม่นานยูเออีก็จะบรรลุข้อตกลงสั่งซื้อโดรน “พรีเดเตอร์” จากบริษัท เจเนอรัล อะตอมมิกส์ เพื่อใช้ในภารกิจสอดแนม

โดรนรุ่นนี้แม้ไม่ติดตั้งอาวุธ แต่ก็มีระบบเลเซอร์ที่สามารถตรวจจับเป้าหมายภาคพื้นดินได้อย่างแม่นยำ

ไม่นานนี้ เจ้าหน้าที่อุตสากรรมกลาโหมในสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสว่า เร็วๆ นี้อาจมีคำสั่งซื้อจากซาอุดีอาระเบีย ยูเออี กาตาร์ บาห์เรน จอร์แดน และอียิปต์ ที่ต้องการได้อาวุธรุ่นใหม่ๆ ไปเติมเต็มคลังแสงที่เริ่มร่อยหรอจากการทำสงครามต่อต้านกลุ่มไอเอส

ตั้งแต่อดีตมา สหรัฐฯ ได้วางข้อจำกัดในการขายอาวุธแก่กลุ่มประเทศอาหรับ เพื่อให้มั่นใจว่า “อิสราเอล” จะยังมีแสนยานุภาพเหนือกว่าเพื่อนบ้านที่เป็นอริ แต่ปัญหานิวเคลียร์อิหร่านกลับทำให้อิสราเอลและชาติอาหรับต้องกลายเป็น “พันธมิตรจำเป็น” ในเวลานี้ และสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็มีท่าทีเต็มใจที่จะขายอาวุธล้ำสมัยให้แก่ประเทศอาหรับมากขึ้น โดยที่รัฐยิวแทบไม่คัดค้าน

“ถ้าคุณลองคิดดูจะเห็นได้ว่า การคำนวณยุทธศาสตร์ของอิสราเอลไม่มีอะไรซับซ้อน... กลุ่มประเทศอาหรับไม่ใช่ภัยคุกคามอันดับต้นๆ ของรัฐยิว แต่กลับเป็นตัวถ่วงดุลอำนาจอิหร่านได้เสียอีก” แอนโธนี เอช. คอร์เดสแมน นักวิเคราะห์จากสถาบันเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ (CSIS) ระบุ

ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมอาวุธและกิจการตะวันออกกลางเห็นพ้องกันว่า การเมืองที่ปั่นป่วนและความมุ่งมั่นของชาติมุสลิมสุหนี่ที่จะกำราบอิหร่านให้อยู่หมัด จะทำให้ความต้องการครอบครองอาวุธไฮเทคเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปีที่แล้วซาอุดีอาระเบียทุ่มงบประมาณจัดซื้ออาวุธกว่า 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากเสียยิ่งกว่ามหาอำนาจในยุโรปอย่างฝรั่งเศสหรืออังกฤษ และนั่นทำให้ซาอุฯ กลายเป็นตลาดอาวุธที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตามข้อมูลซึ่งสถาบันวิจัยสันติภาพสากลในกรุงสตอกโฮล์มเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

รัฐบาลยูเออีก็สั่งซื้ออาวุธเป็นวงเงินถึง 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2014 เพิ่มขึ้นกว่าสถิติปี 2006 กว่า 3 เท่าตัว

แม้แต่รัฐเล็กๆ อย่างกาตาร์ก็ได้ทำสัญญามูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์กับเพนตากอนเพื่อสั่งผลิตเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเช่ ระบบป้องกันขีปนาวุธแพทริออตและเจฟเวอลิน และล่าสุดยังเตรียมสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ F-15 ฝูงใหญ่มาทดแทนฝูงบินรบ “มิราจ” ที่จวนได้ฤกษ์ปลดระวาง

อุปสงค์อาวุธในตะวันออกกลางทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ๆ แข่งกันชิงส่วนแบ่งตลาด โบอิ้งนั้นเข้าไปเปิดสำนักงานในกรุงโดฮาตั้งแต่ปี 2011 ส่วน ล็อกฮีด มาร์ติน ตามเข้าไปในปี 2013 และยังเพิ่มแผนกใหม่เพื่อดูแลการจำหน่ายอาวุธแก่ลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะ

มาริลีน ฮิวสัน ซีอีโอของล็อกฮีด ระบุว่า บริษัทมีนโยบายขยายธุรกิจไปยังต่างแดน และจะเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่มาจากการจำหน่ายอาวุธให้ลูกค้านอกสหรัฐฯ จาก 25% เป็น 30%

หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ มองว่า สงครามตัวแทนในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไปอีกหลายปีจะทำให้ประเทศแถบนี้มีความต้องการสุดยอดเครื่องบินรบสเตลธ์ F-35 ซึ่งถือเป็นเพชรยอดมงกุฎในบรรดาอาวุธล้ำสมัยที่อเมริกาพัฒนาขึ้น

โครงการพัฒนา F-35 ได้ชื่อว่าใช้งบประมาณสิ้นเปลืองที่สุดในประวัติศาสตร์โลก โดยมุ่งผลิตเครื่องบินขับไล่ชนิดหลบหลีกเรดาร์ที่มีประสิทธิภาพเป็นเลิศสำหรับใช้งานในกองทัพสหรัฐฯและประเทศพันธมิตรในเอเชียและยุโรป

สหรัฐฯ ยังไม่มีแผนจำหน่าย F-35 ให้แก่ประเทศในตะวันออกกลาง เพราะเกรงจะกระทบต่อดุลอำนาจของอิสราเอล แต่นักวิเคราะห์กลาโหมหลายคนเชื่อว่าวอชิงตันจะต้องทบทวนจุดยืนในที่สุด เพราะเมื่อประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียยอมจำหน่ายระบบป้องกันภัยทางอากาศให้แก่อิหร่าน ชาติมุสลิมสุหนี่ก็คงปรารถนาที่จะได้ครอบครองสุดยอดเครื่องบินรบอย่าง F-35 ซึ่งน่าจะมีศักยภาพพอฝ่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้

ริชาร์ด แอล. อาบูลาเฟีย นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมจาก ทีล กรุ๊ป ระบุว่า “ปรากฏการณ์อย่างนี้อาจเกิดขึ้นรวดเร็วมาก สงครามระหว่างมุสลิมสุหนี่-ชีอะห์ บวกกับการจำหน่ายระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัยของรัสเซียไปยังอิหร่าน... ถ้าวันหนึ่งรัฐอ่าวอาหรับจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าของเครื่องบินขับไล่ F-35 ก็คงเกิดจากหลายๆ เหตุการณ์ประกอบกัน”

อย่างไรก็ดี คำถามสำคัญมีอยู่ว่า วอชิงตันจะมั่นใจได้อย่างไรว่าชาติอาหรับเหล่านี้จะนำสุดยอดอาวุธที่อเมริกาผลิตไปใช้อย่างเหมาะสม?

ดารีล คิมบอลล์ ผู้อำนวยการสมาคมควบคุมอาวุธ (Arms Control Association) ชี้ว่า อาวุธที่ซาอุดีอาระเบียนำไปใช้ถล่มเยเมนถูกเป้าหมายพลเรือนเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งริยาดปฏิเสธว่าไม่จริง

สภาคองเกรสได้ออกกฎหมายเมื่อปี 2008 กำหนดให้สหรัฐฯ ต้องคำนึงถึงการปกป้องแสนยานุภาพที่เหนือกว่า (qualitative military edge) ของอิสราเอล ซึ่งหมายความว่าวอชิงตันจะจำหน่ายอาวุธให้แก่กลุ่มประเทศตะวันออกกลางได้ก็ต่อเมื่อไม่ทำให้อิสราเอลอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ดี โอกาสที่โลกจะได้เห็นโดรน “พรีเดเตอร์” ปฏิบัติภารกิจสอดแนมให้กับยูเออีนั้นไม่ไกลเกินจริง และหากสัญญาสั่งซื้อผ่านฉลุยก็จะถือเป็นครั้งแรกที่อากาศยานไร้คนขับรุ่นนี้ถูกจำหน่ายให้แก่พันธมิตรสหรัฐฯ นอกกลุ่มนาโต

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047074

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047074

 

In Pics & Clips : แผ่นดินไหว 7.9 เขย่า “เนปาล” อาคารถล่มยับในกาฐมาณฑุ-ดับใกล้ 600 ราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2558 16:14 น. (แก้ไขล่าสุด 25 เมษายน 2558 18:30 น.)

@
หอคอยดาราราในกรุงกาฐมาณฑุ ก่อนและหลังเกิดแผ่นดินไหว

เอเจนซีส์– เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.9 ตามมาตราแมกนิจูดทางตอนกลางของเนปาล วันนี้(25 เม.ย.) โดยมีศูนย์กลางอยู่ระหว่างเมืองโพคารา (Pokhara) และกรุงกาฐมาณฑุ แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารหลายแห่งในเมืองหลวงพังถล่ม รวมถึงหอคอยเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 597 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก

สื่อโทรทัศน์ท้องถิ่นแพร่ภาพอาคารสำนักงานและบ้านเรือนหลายหลังในกรุงกาฐมาณฑุพังถล่มลงมา ถนนหลายสายมีสภาพปริแตกเนื่องจากแรงเขยื้อนของแผ่นดิน

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดเมื่อเวลา 6.11 น. GMT (13.11 น. ตามเวลาในไทย) ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน 15 กิโลเมตร ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 81 กิโลเมตร

สื่อท้องถิ่นและประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า แผ่นดินไหวกินเวลานานประมาณ 30 วินาที – 2 นาที โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ทั่วแนวพรมแดนที่ติดกับอินเดีย รวมถึงที่กรุงนิวเดลี และบังกลาเทศ

โรงพยาบาลหลักในกรุงกาฐมาณฑุมีผู้บาดเจ็บแขนขาหักเข้ารับการรักษาหลายคน แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในกรุงกาฐมาณฑุรายงานว่า “กำแพงบ้านหลายครั้งล้มครืนลงมารอบตัวผม ประชาชนพากันวิ่งหนีออกจากบ้านมารวมกลุ่มกันด้วยท่าทางตื่นตระหนก เวลานี้แผ่นดินยังไหวสะเทือนตลอดเวลา”

ความรุนแรงของแผ่นดินไหวยังทำให้ “หอคอยดารารา” (Dharhara Tower) ในกรุงกาฐมาณฑุซึ่งสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1832 พังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้วนับสิบ แต่คาดว่ายังมีผู้เคราะห์ร้ายติดอยู่ภายในอีกมาก

ตำรวจเนปาลระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 108 รายตามการประเมินเบื้องต้น โดยเป็นผู้เสียชีวิตจากหุบเขากาฐมาณฑุเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ แทบไม่มีข้อมูลใดๆ จากบรรดาพื้นที่ห่างไกลของประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาแห่งนี้เลย และเฮลิคอปเตอร์กำลังบินวนเพื่อประเมินความเสียหาย

ยอดผู้เสียชีวิตในภาคเหนือของอินเดียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 11 รายโดยมี 6 คนถูกบ้านถล่มทับเสียชีวิตในรัฐอุตตรประเทศ และอีก 5 คนเสียชีวิตในพื้นที่ตะวันออกไกลของรัฐพิหาร ทั้งนี้อ้างจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล

นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย ได้ทวีตข้อความล่าสุดว่า “เรากำลังรอข้อมูลเพิ่มเติม และเตรียมดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งในอินเดียและเนปาล”

ลักษมัน สิงห์ ราธอร์ ผู้อำนวยการกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย บอกผู้สื่อข่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้รับรู้ได้ทั่วภาคเหนือของประเทศ เช่น รัฐอุตตรประเทศ พิหาร เบงกอลตะวันตก และสิกขิม เมื่อระลอกแรกผ่านไปประมาณ 20 นาทีก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.6 ตามมา

“เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มีความรุนแรง จึงน่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก ขอให้ประชาชนเตรียมป้องกันตนเองด้วย” ราธอร์ กล่าว

แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังทำให้เกิดหิมะถล่มบนภูเขาเอเวอเรสต์ด้วย กลุ่มนักปีนเขา ระบุ ก่อให้เกิดความกังวลแก่ผู้ที่อยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้

ต่อมา เมื่อเวลา 18.16 น.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ว่า อยู่ที่ 597 คน โดยอ้างอิงจากคำกล่าวของลักษมี ธากัล โฆษกกระทรวงมหาดไทยของเนปาล และยังมีอาฟเตอร์ช็อกขนาด 4.5 แมกนิจูดขึ้นไป ตามมาอีก 15 ครั้ง ทำให้ประชาชนจำนวนมากในกรุงกาฏมาณฑุยังไม่กล้ากลับเข้าไปในตัวอาคารเพราะกลัวว่าอาจจะมีการไหวรุนแรงอีกครั้ง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047320

 

เถ้าถ่านภูเขาไฟชิลีปะทุแผ่ลาม ยกเลิกเที่ยวบินถึงเมืองหลวงอาร์เจนตินา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2558 01:01 น.



รอยเตอร์ - ภูเขาไฟคาลบูโก ทางภาคใต้ของชิลี ที่เกิดปะทุขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อวันพุธ (22 เม.ย.) ยังคงพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันสู่ท้องฟ้า และแผ่ขยายวงกว้างออกไปมากยิ่งขึ้นในวันศุกร์(24เม.ย.) โดยถึงขึ้นที่สายการบินต่างๆต้องยกเลิกเที่ยวบินจากกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ที่อยู่ห่างไปทางตะวันออกถึง 1,400 กิโลเมตร

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/WI5V-PAR0I4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คาลบูโก ซึ่งถูกยกเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่อันตรายที่สุดของบรรดาภูเขาไฟที่ยังมีพลังราว 500 ลูกของชิลี ปะทุรุนแรง 2 ครั้งซ้อนในเวลาห่างกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในวันพุธ(22เม.ย.) และวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) ส่งกลุ่มควันอันน่าตื่นตะลึงขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงราว 17 กิโลเมตรและทำเมืองต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านสีน้ำตาลหนาหลายสิบเซนติเมตร

เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นพื้นที่รัศมี 20 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตลอส ลากอส ทางใต้ของประเทศ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซานติอาโก ราว 1,000 กิโลเมตร ขณะที่สถานีวิทยุท้องถิ่นรายงานว่ามีบ้านเรือนบางส่วนและอาคารโรงเรียนบางแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟลูกนี้พังถล่มลงมา เนื่องจากแบกรับน้ำหนักของเถ้าถ่านไม่ไหว

เถ้าถ่านภูเขาไฟชิลีปะทุแผ่ลาม ยกเลิกเที่ยวบินถึงเมืองหลวงอาร์เจนตินา

เถ้าถ่านยังคุกคามการสัญจรทางอากาศ โดยเฉพาะในชั้นบรรยากาศที่อาจก่อความเสียหายแก่เครื่องบิน ทั้งนี้กระแสลมแรงได้พัดหมอกเถ้าถ่านไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งหน้าสู่อาร์เจนตินา ชาติเพื่อนบ้าน และการสัญจรทางอากาศได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดในวันศุกร์(24เม.ย.)

เดลตา แอร์ไลน์ส, แอร์ฟรานซ์ และอเมริกัน แอร์ไลน์ส ต้องระงับเที่ยวบินต่างๆที่มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติที่เอเซย์ซา ใกล้ๆกรุงบัวโนสไอเอส "พวกเขายกเลิกในมาตรการป้องกันไว้ก่อน ด้วยความกังวลว่าหากลงจอดแล้ว พวกเขาอาจไม่สามารถเทคออฟในภายหลังได้" โฆษกของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติอาร์เจนตินากล่าว "เราไม่ตัดความเป็นไปได้ที่สายการบินอื่นๆ อาจตัดสินใจแบบเดียวกัน"

ในบาริโลเช เมืองท่องเที่ยวทางภาคใต้ของอาร์เจนตินา มีการยกเลิกเที่ยวบินเป็นวันที่ 2 ติด ถนนบางแห่งปิดการสัญจนและโรงเรียนต่างๆระงับการเรียนการสอน ส่วนในชิลี หมอกเถ้าถ่านลอยไปไกลถึงเมืองวัลปาไรโซ ใกล้กรุงซันติอาโก ทำให้สายการบินเดลต้าและอเมริกัน แอร์ไลน์ส ต้องยกเลิกเที่ยวบินสู่เมืองหลวง

อย่างไรก็ตาม เดวิด รอทรีย์ ศาสตราจารย์ด้านธรณีวิยาจากมหาวิทยาลัยโอเพ่นของสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นว่าภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน หมอกเถ้าถ่านไม่น่าจะแผ่ลามไปมากกว่านี้ "แม้การปะทุเถ้าถ่านจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนาน แต่มีความเป็นไปได้เล็กน้อยมากที่มันจะก่อเถ้าถ่านมากพอที่แผ่ลามไปทั่วเขตร้อน" เขากล่าว โดยชี้ว่ามันจะไม่ก่อความยุ่งเหยิงในวงกว้างเหมือนเมื่อครั้งที่ภูเขาไฟเปูเยอวยปะทุเมื่อปี 2011 ซึ่งส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไกลถึงออสเตรเลีย

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047203

 

อบู อะลา อัลอัฟรีย์ ผู้นำคนใหม่ ของ ไอซิส
ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 24, 2015



MEHR NEWS – สื่ออาหรับรายงานจาก นิวส์วีก ว่า หลังจากที่ อบูบักร อัลบักดาดีย์ ได้รับบาดเจ็บจากการถูกโจมตีอย่างรุนแรง จากทหารอิรัก ทำให้ ในช่วงเวลานี้ อบู อะลา อัล อัฟรีย์ (Abu Ala al-Afri) ที่ปรึกษาของอบูบักร รักษาการตำแหน่ง ผู้นำแทนอบูบักร แทน

รายงานชี้ว่า ในช่วงปี 1998 อัลอัฟรีย์ ได้เดินทางไปยังอัฟกานิสถาน ก่อนที่จะกลายเป็นสมาชิกระดับสูงคนหนึ่งของ อัลกออิดะฮ ซึ่งเขาได้ให้สัตยาบันกับ อัลกออิดะฮ เมื่อปี 2004

รายงานนี้ ดร ฮิชาม อัลฮาชีมี ที่ปรึกษารัฐบาลอิรัก เป็นผู้ยืนยันความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว และได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ ตามรายงานที่เราได้รับ อัลอัฟรีย์ ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของกลุ่มไอซิสแล้วในขณะนี้ โดยการแต่งตั้งอัลอัฟรีย์ เกิดขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่า อบูบักร์ อัลบัฆดาดีย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกโจมตี “

ตามคำกล่าวของ ฮาชีมีย์ อัลอุฟรีย์ เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ ในการบัญชาการกลุ่มก่อการร้าย ในเขต ฮัดร เมือง โมซุล ในจังหวัด นัยนาวา และเขายังเป็นบุคคลที่ กลุ่มก่อการร้ายต่างๆพากันยกย่องยิ่งกว่า อบูบักร อัลบัฆดาดีย์
ฮิชาม อัลฮาชีมีย์ ได้กล่าวเสริม ว่า หลังจากการตายของ อบูอุมัร อัล ฮัดร์ และ อบูอัยยูบ อัลเมศรีย์ อบู อะลา อัลอัฟรีย์ ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกของบินลาเดน ในการทำหน้าที่ ดำรงตำแหน่งผู้นำของอัลกออิดะฮ ในอิรัก ซึ่งต่อมา หลังจาก ไอซิส ปรากฏตัว อัลอัฟรีย์ ได้เข้ามอบสัตยาบัน กับ อบูบักร นอกจากนี้ เขายังเป็น ครูสอนวิชาฟิสิกส์ อีกด้วย ซึ่งนั้น ทำให้กลุ่ม ดาอิช สามารถ ขยายอิทธิพลไปได้อย่างรวดเร็ว

อัลอัฟรีย์ เรียกตัวเองว่า เป็นผู้ช่วย หรือ ที่ปรึกษา ของ อบูบักร

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ การเดียน ของ อังกฤษ ก็ได้รายงานข่าว การได้รับบาดเจ็บสาหัสของอบูบักร อัลบัฆดาดีย์ จากการโจมตีโดยเครื่องบินรบของกองทัพอิรัก ในเขตตะวันตกของประเทศอิรัก จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถบัญชาการกลุ่มดาอิชต่อไปได้

อบู อะลา อัลอัฟรีย์ ผู้นำคนใหม่ ของ ไอซิส | abnewstoday

 

ซาอุฯ แค้นอียิปต์ จวกเละ“ชนชาติขี้ขลาด” เหตุไม่เข้าร่วมโจมตีเยเมน
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 24, 2015



mehrnews – เจ้าชายมุฮัมมัดบิน ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส อาลีซาอูด รัฐมนตรีกลาโหมซาอุดิอาระเบีย ออกแถลงการณ์ประณามและโจมตีอียิปต์อย่างแรงที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรในการโจมตีเยเมน

แถลงการณ์ดังกล่าว มีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซด์ทางการของกระทรวงกลาโหมซาอุฯ โดยเผยว่า ชาวอียิปต์ เป็นประชาติที่ขี้ขลาดและใจเสาะ ซึ่งการออกมาแถลงในครั้งนี้ของ เจ้าชายซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมซาอุฯ นั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าซาอุฯ แค้นอียิปต์อย่างหนัก

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา และหลังจากที่ซาอุ ออกมาประกาศโจมตีหยุดยิงเยเมน บรรดานักวิเคราะห์และผู้สันทัดกรณีด้านการเมืองและการเมืองระหว่างประเทศโลกอาหรับ วิเคราะห์ เหตุผลหนึ่งที่ซาอุฯและพันธมิตรต้องประกาศยุติการโจมตีเยเมนว่า เนื่องจากอียิปต์และปากีสถาน ไม่ขอเข้าร่วมในการปฏิบัติการโจมตีเยเมนภาคพื้นดิน

ซาอุฯ เรียกร้องให้สองประเทศดังกล่าว (อียิปต์และปากีสถาน) ส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าเยเมน แต่ทั้งสองประเทศปฏิเสธคำร้องขอของซาอุฯ ด้วยเหตุนี้ซาอุฯ จำต้องประกาศยุติการโจมตี โดยปราศจากการบรรลุเป้าหมายใดๆในการโจมตีครั้งนี้

กระทรวงกลาโหมซาอุฯ ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อชัยชนะในการโจมตีเยเมนครั้งนี้ โดยอาศัยคำพูดของเจ้าชาย ซัลมาน บิน อับดุลอาซิส พร้อมกับประณามอียิปต์และกล่าวหาว่าอียิปต์เป็นประชาชาติทีขี้ขลาด

ซาอุฯ แค้นอียิปต์ จวกเละ“ชนชาติขี้ขลาด” เหตุไม่เข้าร่วมโจมตีเยเมน | abnewstoday

 

ปอกเปลือก ทรราช
เยเมน : ซาอุดิฯถอย ส่งไอซิสเข้าเสียบแทน ให้มันได้อย่างนั้น!



------------
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 เม.ย.58) สำนักข่าว "International Business Times" รายงานว่าพวกไอซิสได้โพสต์วีดีโอชุดใหม่ขึ้นในอินเตอร์เน็ท เป็นการปรากฎตัวเป็นครั้งแรกหลังจากซาอุดิฯประกาศยุติการโจมตีเยเมนอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในวีดีโอดังกล่าวมีการออกมาขู่จะตัดคอกลุ่มฮูติด้วย (Shiite Houthi)
สำนักข่าว RT News ของรัสเซียเอาข่าวมาเล่าต่อว่า ก็เหมือนกับคลิปวีดีโอของพวกไอซิสที่ผ่านมา ครั้งล่าสุดนี้มีความยาว 9 นาที มีการถ่ายทำและตัดต่ออย่างมืออาชีพ ใช้เทคนิค CG และมีเสียงเพลงประกอบเบื้องหลังด้วย มีทหารไอซิสออกมาเรียงแถวกันประมาณยี่สิบกว่าคน แต่งตัวในเครื่องแบบทหารพร้อมอาวุธครบชุดในพื้นที่ทะเลทราย ซึ่งอ้างว่าอยู่ในกรุงซานา (Sanaa) เมืองหลวงของเยเมน พวก jihadist ไอซิสถือปืน AK-47 ปืนกลหนัก และ RPG จากนั้นก็ยิงอาวุธขึ้นฟ้า
สังเกตหลายครั้งแล้ว ทำไมไอซิสถึงนิยมใช้อาวุธเมดอินรัสเซีย? ทำไมถึงไม่ใช้ M16 ของอเมริกาหรือของประเทศอื่น พวกนี้กำลังจะทำให้คนเข้าใจว่ารัสเซียเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่พวกไอซิสหรือเปล่า? แล้วจากนั้นก็หาเรื่องแซงชั่นรัสเซียอีก เอ๊ะ… ก็ทางฝั่งรัสเซียเขาก็มีภาพออกมาแชร์ในอินเตอร์เน็ทด้วยนะว่าไอซิสก็ได้รถฮัมวี่ของกองทัพสหรัฐฯอยู่เหมือนกัน คล้ายๆกับพวกนีโอนาซีในยูเครนที่ใช้รถฮัมวี่ของอเมริกานั่นแหละ
ต่อนะ... หลังจากนั้น หลังจากไอซิสยิงปืนขึ้นฟ้าแล้ว ผู้บัญชาการของไอซิสก็เดินมาปักธงไอซิสลงบนพื้นทราย และประกาศว่า เหล่าทหารของกาหลีป (Caliphate) ได้มาถึงเยเมนแล้ว เพื่อมาตัดคอพวกฮูติ (อ้าว! เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาก็ออกมายอมรับเองว่าการระเบิดมัสยิดในกรุงซานาที่มีคนตายไปตั้ง 142 คนบาดเจ็บอีก 350 คนว่าเป็นฝีมือพวกไอซิสเองแล้วจะพึ่งมาประกาศว่ามาถึงแล้วอะไรตอนนี้ อ้อ...หรือว่าตอนที่ซาอุดิฯใช้เครื่องบินโจมตีเยเมนมันกลัวโดนลูกหลงจึงหนีไปแล้วกลับมาใหม่)
หัวหน้าไอซิสกล่าวต่ออีกว่า "พวกเราได้มาถึงเยเมนพร้อมกับพวกผู้ชายที่กระหายเลือดของคุณ เพื่อแก้แค้นให้ชาวซุนนี (Sunnis) และเอาแผ่นดินที่พวกเขา (ใคร? ฮูติหรือชีอะห์?) ยึดครองคืนมา" จากนั้นก็เรียกร้องให้ผู้ชายนิกายซุนนีทั้งหมดในเยเมนออกมาร่วมมือกับเขาในการทำสงครามต่อสู้กับกลุ่มฮูติ
พวกซุนนีไอซิสและอัลเคดาที่เป็นกลุ่มก่อการร้ายระดับแถวหน้าในเยเมนมองว่าพวก Shiite Houthis เป็นพวกนอกรีด ส่วนปธน.Abd-Rabbu Mansour Hadi ของเยเมนที่ลี้ภัยไปอยู่กับซาอุดิฯนั้นก็เป็นซุนนีด้วย ซาอุดิฯและพันธมิตรซุนนีในตะวันออกกลางก็ร่วมมือกันใช้เครื่องบินรบถล่มเยเมนตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิต 767 ราย บาดเจ็บ 2,906 คน ไร้ที่พักอีก 150,000 คน (ตัวเลขจาก unicef)
เอาหละเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไอซิสนั้นเป็นพวกนิกายซุนนี ที่ออกมาประกาศเช่นนี้นัยหนึ่งก็เพื่อทำสงครามกับอิหร่านซึ่งนับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์เป็นส่วนมากด้วย แต่ไอซิสนี่ไม่ว่าจะซุนนี ชีอะห์ คริสเตียน มันฆ่าหมดแหละ ยกเว้นยิว (อิสราเอล) แปลกมะ? ที่น่าแปลกอีกอย่างก็คือ พอกองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯ ประกาศหยุดใช้กำลังทางทหารกับเยเมนแล้ว ก่อนหน้านั้น 1-2 วันเรือรบและเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯก็แล่นเข้าสู่อ่าวอาดังของเยเมน อ้างเพื่อสกัดไม่ให้อิหร่านสนับสนุนอาวุธให้เยเมน หลังจากนั้นไอซิสก็โผล่คลิปนี้ออกมา
ถ้าไอซิสปรากฎตัวขึ้นในเยเมนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แน่นอนว่าสหรัฐฯก็จะอ้างสิทธิ์ในการโจมตีทางอากาศใส่เยเมนแทนซาอุดิฯกับพวกได้อย่างสบาย โดยอ้างว่าเพื่อปราบปรามไอซิสในเยเมนอย่างที่ทำในซีเรียและอิรัค ต่อมาสหรัฐฯก็สร้างภาพลักษณ์ให้กับไอซิสพวกนั้นในซีเรียเสียใหม่ว่าเป็นกองทัพกบฎสายกลางที่ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย ซึ่งสามารถทำให้สหรัฐฯใช้เป็นข้ออ้างในการสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและการเงินให้ผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นได้อย่างสบาย วันนี้มาโผล่ที่เยเมนอีกรอบ อย่าหวังเลยว่าเยเมนจะสงบสุขได้ ถ้ามองในแง่ของอิหร่านก็อาจจะดีเหมือนกัน โดยเพิ่มผู้เล่นในการปราบไอซิสเข้าไปด้วย คราวนี้อิหร่านก็มีเหตุผลที่จะเข้าไปในเยเมนแล้วโดยอาจจะอ้างว่าไปช่วยเยเมนปราบไอซิสอย่างที่เคยไปช่วยอิรัคมาแล้วนั่นเอง มาตรการที่ยูเอ็นห้ามไม่ให้สนับสนุนอาวุธแก่เยเมนก็จะมีช่องโหว่ขึ้นมาทันที เคราะห์ร้ายก็จะตกอยู่ที่ประชาชนชาวเยเมนต่อไปอีกยาวนาน
The Eyes
26/04/2558
----------
http://rt.com/news/253029-isis-yemen-houthi-sanaa/

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯจะไม่ส่งทหารของตัวเองไปรบกับรัสเซียกรณีไคร์เมีย



------------
มาดูท่าทีล่าสุดจากนักการเมืองทั้งฝั่งสหรัฐฯและยุโรปเกี่ยวกับไคร์เมียกันดูบ้าง เพราะทัศนคติเหล่านี้มีผลต่อการดำเนินนโยบายต่างประเทศระหว่างสหรัฐฯยุโรปกับรัสเซีย ซึ่งได้ส่งผลไปทั่วโลกแม้กระทั่งกับประเทศไทยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความขัดแย้งทางการเมืองดังกล่าวก็ยังพลอยโดนลูกหลงจากการกีดกันทางการค้าไปด้วย อันเนื่องมาจากพิษแซงชั่นรัสเซียอย่างที่เคยเล่าให้ฟังแล้วนั่นเอง
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.58 ที่ผ่านมา Michael McFaul อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำรัสเซียออกมาส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า "ทหารสหรัฐฯจะไม่ถูกส่งเข้าไปในสนามรบต่อสู้กับรัสเซียเพื่อปลดปล่อยไคร์เมีย" (US soldiers will not be sent into battle against Russia soldiers to liberate Crimea.) นี่แปลตามตัวแบบพยายามรักษาใจความต้นฉบับให้คงไว้มากที่สุดเลยนะนี่ คำพูดของอดีตทูตสหรัฐฯคนนี้หมายความว่าอย่างไร? ถ้าแปลเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆก็คือ "สหรัฐฯจะไม่ส่งทหารของตนไปรบกับรัสเซียเพื่อแย่งไคร์เมียมาจากรัสเซียเด็ดขาด" นี่ไม่ได้หมายความว่าสหรัฐฯจะไม่ก่อสงครามกับรัสเซียกรณีไคร์เมียนะ
จากคำพูดดังกล่าวไม่มีตรงไหนรับประกันได้เลยว่าสงครามกรณีไคร์เคียจะไม่เกิดขึ้น และที่น่าเกลียดก็คือว่าสหรัฐฯเลือกที่จะใช้คำว่า "ปลดปล่อยให้เป็นอิสระ" (liberate) ทั้งๆที่การรวมไคร์เมียนั้นเป็นความเห็นของเสียงส่วนมากบนแหลมไคร์เมียเอง เขาสมัครใจที่จะไปร่วมกับรัสเซียเอง ก็อย่างที่อังกฤษอ้างความชอบธรรมว่าทำประชามติเพื่อแย่งหมู่เกาะ Malvinas/Falkland มาจากอาร์เจนติน่านั่นแหละ แล้วที่นี้จะอ้างว่ารัสเซียยึดไคร์เมียได้อย่างไร และไม่สมควรใช้คำว่าปลดปล่อยอีกด้วย
การทำสงครามนั้นสหรัฐฯไม่จำเป็นต้องส่งทหารของตัวเองไปตายในต่างแดนเหมือนในอิรัคและอัฟกานิสถานก็ได้ ส่งทหารชาติอื่นไปรบแทนก็ได้ อย่างที่พึ่งเกิดขึ้นล่าสุดในเยเมนอย่างไรหละ นี่เขาเรียกว่าสงครามตัวแทน
Michael McFaul ยังให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Ukrainskaya Pravda ของยูเครนอีกว่า "แม้ว่าสหรัฐฯจะไม่ยอมรับการผนวกไคร์เมียเข้ากับรัสเซียก็ตาม แต่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ (สหรัฐฯ-รัสเซีย) นั้นเป็นสิ่งจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในรัสเซีย"
นั่นไง สหรัฐฯก็คือสหรัฐฯ ส.ด.เก่าไม่เปลี่ยนจริงๆ คุณจะไปยุ่งอะไรกับกิจการภายในของเขา ทำไมคุณถึงอยากจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงการเมืองของประเทศนั้นประเทศนี้จังเลย รัสเซียก็ได้เปลี่ยนจากคอมมิวนิสต์มาเป็นประชาธิปไตยมาเป็นเวลา 24 ปีแล้วนี่ สหรัฐฯยังจะมาเรียกต้องอะไรอีก? ก็คงเป็นเพราะสหรัฐฯอิจฉาการที่รัสเซียก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจเทียบสหรัฐฯอีกครั้งหละสิ ก็ตราบใดที่สหรัฐฯยังไม่สามารถควบคุมการเมืองภายในประเทศต่างๆได้อย่างที่ทำอยู่กับยูเครนนี้ สหรัฐฯก็จะพยายามเข้าไปแทรกแซงและเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ
คำพูดดังกล่าวของอดีตทูตคนนี้ยิ่งพูดก็ยิ่งฟังดูสับสนมากขึ้น คุณไม่ยอมรับ แล้วคุณก็แซงชั่นเขารอบแล้วรอบเล่าเพื่อแย่งไคร์เมียมาจากรัสเซีย เพื่อที่ว่าสหรัฐฯจะสามารถไปตั้งฐานทัพของตัวเองในไคร์เมียแทนได้ ในขณะที่ยังไม่ยกเลิกแซงชั่นนั้นคุณก็บอกว่าต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับรัสเซีย ปากคุณบอกว่ามาสามัคคีกันนะส่วนกำปั้นคุณก็ทุบเขาอยู่ตุ๊บๆๆ นี่นะ เซ็งกะอเมริกาจริงๆ แล้วยังมมีหน้ามาบอกอีกว่าการฟื้นฟูความสัมพันธ์นั้นจะต้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของรัสเซียอีก อยากจะได้เลนินกลับมาหละสิ
คราวนี้มาดูกรณียูเครนในทัศนะของอดีตทูตสหรัฐฯคนนี้บ้าง ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อฯนั้น McFaul กล่าวว่าประชาชนชาวยูเครนกำลังคิดเหมือนกับปูตินเมื่อพวกเขาเชื่อว่าสหรัฐฯจะตอบโต้ด้วยกำลังทางทหารตอบโต้ ต่อกรณีผนวกไคร์เมียเข้ากับรัสเซีย MaFaul กล่าวอีกว่า "ตอนนี้พวกคุณ (ชาวยูเครน) กำลังพูดเหมือนกับปูตินว่า: พวกคุณ, พวกอเมริกัน ก่อปฏิวัติยึดอำนาจจากปธน.วิกเตอร์ ยานูโควิชของยูเครน และนี่ไงคือผลที่ตามมา! พวกเรา (ชาวยูเครน) ไม่ได้ทำสิ่งนี้ พวกคุณ (อเมริกันต่างหาก) ที่ทำมันขึ้นมา! (ก่อปัญหาขึ้นมา)" นี่… ตอนนี้อดีตทูตสหรัฐฯ พูดแทนชาวยูเครนแบบนี้ นี่คือทัศนคติปัจจุบันที่ชาวยูเครนส่วนมากมีต่อสหรัฐฯ ยกเว้นรัฐบาลยูเครน
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ปธน.โอบามา ให้สัมภาษณ์กับcnnโดยยอมรับว่า "สหรัฐฯเป็นโบรกเกอร์ในการส่งผ่านอำนาจในยูเครน" พูดให้ชัดก็คือยึดอำนาจมาจากอดีตปธน.ยานูโควิชของยูเครน แล้วก็จัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาแทน จากนั้นก็ร่างรธนใหม่โดยมีสหรัฐฯคอยจับมือเขียนให้เองแล้วถึงจะเลือกตั้งใหม่อีกรอบ แต่ถ้าฝั่งแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกไม่เห็นด้วย ก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ นี่ไงสหรัฐฯ อังกฤษและแคนาดาจึงส่งทหารของตนเข้าไปฝึกรบให้กับกองทัพยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับบางอย่าง อย่างที่ McFaul กล่าวไว้ว่าสหรัฐฯจะไม่ส่งทหารของตนไปรบกับรัสเซียในไคร์เมียนั่นเอง
ป.ล. ของฝั่งยุโรปขอยกไปพูดในโพสต์ต่อไป เพราะว่าโพสต์นี้ยาวแล้ว เห็นใจคนอ่านจะเหนื่อยซะก่อน
The Eyes
26/04/2558
----------
US Will Not Go to War With Russia Over Crimea - Ex-Ambassador McFaul / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
อียูไม่มีแผนบีบรัสเซียคืนไคร์เมียให้ยูเครน



------------
ฟังคำพูดจากฝั่งสหรัฐฯไปแล้ว รู้แล้วว่าธาตุแท้ของสหรัฐฯนั้นเป็นอย่างไร คราวนี้มาฟังด้านอียูบ้าง เป็นนักการเมืองจากยุโรปที่พูดถึงกรณีไคร์เมียเช่นกัน สื่อฯของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "กลุ่มประเทศตะวันตกไม่มีแผนจะใช้กำลังบีบกรุงมอสโคว์ให้คืนแหลมไคร์เมียให้ยูเครน เพราะว่าการที่จะกระทำอย่างนั้นได้มีแต่การใช้กำลังทางกองทัพเท่านั้น และไม่มีใครสนใจในการเผชิญหน้าทางทหาร" (แหม… พูดยังกะว่ามันง่ายอย่างนั้นแหละ ปูตินได้ยินคงจะขำกลิ้งสิบตลบได้ล่ะมั๊งนี่)
Günter Verheugen คณะกรรมาธิการของสหภาพยุโรปหรือ EU กล่าวว่ายุโรปอาจจะยกเลิกแซงชั่นรัสเซียเมื่อความขัดแย้งในยูเครนสามารถระงับได้อย่างสันติ Günter Verheugen กล่าวอีกว่านักการเมืองตะวันตกไม่น่าจะโยงเรื่องการยกเลิกแซงชั่นเข้ากับกรณีของไคร์เมีย (Western politicians are unlikely to link the withdrawal of sanctions and the Crimea issue.)
เขาพูดยังไงของเขานี่ ตอนแรกที่แซงชั่นรัสเซียนั้นก็อ้างเรื่องไคร์เมีย คราวนี้มาบอกว่าถ้าจะยกเลิกก็ต้องให้แก้ไขปัญหายูเครนให้ได้่ก่อน แล้วยังบอกอีกว่าไม่น่าจะดึงเรื่องการยกเลิกแซงชั่นมาเกี่ยวกับปัญหาไคร์เมียซะงั้น สงสัยจะเมาเบียร์มาพูดอ่ะ อันที่จริงไม่ใช่แค่คนนี้พูดอย่างนี้เท่านั้นนะ ทั้งผู้นำของเยอรมันและฝรั่งเศสก็พูดคล้ายกันนี่แหละว่าการจะยกเลิกแซงชั่นรัสเซียนั้นต้องดูที่ว่ามีการปฏิบัติตามข้อตกลงที่กรุงมินส์กได้ 100% หรือไม่
ถ้ายูเครนตะวันออกยังไม่สงบ อียูก็จะยังไม่ยกเลิกแซงชั่นรัสเซีย นั่นหมายความว่าอาจจะมีมือที่สามหรือแม้กระทั่งพวกนีโอนาซีของยูเครนเองทำให้มันไม่มีทางสงบก็ได้ ก็ก่อกวนแบบจับมือใครดมไม่ได้ พอพวก DPR/LPR ทนไม่ไหวก็ตอบโต้กลับ อย่างที่ปิ้วกันไปมาประปรายอยู่ทุกวันนี้ ถ้าฝ่ายที่ก่อเหตุเป็นฝ่ายยูเครนทางสหรัฐฯและอียูก็จะเฉยๆ แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นฝีมือของ DPR/LPR เมื่อไร อียูก็จะบอกว่านั่นไง! ยังไม่สงบ จึงต้องคงการแซงชั่นรัสเซียเอาไว้ก่อน สหรัฐฯกับอียูนี่ลูกเล่นเยอะแพรวพราวพอๆกันเลยหละ ทุกวันนี้ก็ยังมีข่าวปรากฏตามสื่อฯทั้งฝั่งรัสเซียและยูเครนว่าที่ยูเครนตะวันออกยังซัดกันไปมาอยู่เรื่อยๆนะแต่ไม่รุนแรงมาก ต้องรอรายงานอย่างเป็นทางการจาก OSCE
ถ้าคิดในแง่ของปูตินนะ ก็จะบอกว่าดี! นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้งสหรัฐฯและอียูต้องการให้ปูตินเป็นหัวเรือใหญ่ในการแก้ไขปัญหาในยูเครน ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดำเนินตามนโยบายที่ปูตินเสนอนะ ไม่งั้นจะมาโทษรัสเซียไม่ได้ อียูนี่หาเรื่องผูกคอตัวเองแล้วไหมหละ เล่นกะใครไม่เล่น
อ่านข่าวต่อนะ... ต่อคำถามที่ว่าอียูจะเพิกถอนการแซงชั่นหรือไม่หากไคร์เมียยังคงเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียต่อไป Verheugen ตอบว่า เขาไม่ได้มีความรู้สึกยินดีเลยที่รัฐบาลของกลุ่มประเทศในยุโรปเชื่อมโยงความสัมพันธ์ขั้นปรกติกับรัสเซียเข้ากับกรณีไคร์เมีย Verheugen กล่าวต่ออีกว่า "บางที พวกนักการเมืองตะวันตกอาจจะไม่บีบบังคับกรุงมอสโคว์ให้คืนไคร์เมีย (ให้กับยูเครน) ก็ได้ เพราะว่าเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า มีเพียงหนทางเดียวที่จะเป็นไปได้ (ในการแย่งไคร์เมียมาจากรัสเซีย) ก็คือด้วยการใช้กำลังทหาร และเนื่องจากไม่มีใครต้องการให้มีการแทรกแซงทางการทหาร สถานการณ์นี้ชัดเจนอยู่แล้ว" พูดไว้เชิงตัวเองเพื่อรักษาหน้าของอียูก็ต้องพูดอย่างนี้แหละ ("มีวิธีเดียวคือใช้กำลังทหาร") ก่อนจะพูดอย่างนั้นออกมาน่าจะขยี้ตาแล้วมองไปที่การซ้อมรบของรัสเซียทั่วประเทศให้ดีซะก่อน หรือไม่ก็รอดูการสวนสนามของกองทัพรัสเซียพร้อมแสนยานุภาพทางอาวุธใหม่ๆที่จะขนมาโชว์ในวัน Victory Day ที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ด้วย
นักการเมืองอียูนี่มักจะออกตัวแรงในตอนแรก แต่ตอนท้ายนี่เสียงจะแผ่วลง Verheugen กล่าวกับสื่อฯอีกว่า "รัสเซียเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญและเข้มแข็ง รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของยุโรป (รัสเซียเป็นส่วนเติมเต็มของยุโรป) (Russia is an important and strong partner. Russia is an integral part of Europe) พวกเราต้องการรัสเซียในฐานะเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ในฐานะเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรในการแก้ไขปัญหาท้าทายระดับโลก ใช่เราต้องการรัสเซีย แต่ว่ารัสเซียเองก็ต้องการเราเช่นกัน"
ฮ่าๆๆ!.... โถๆ… ตอนเริ่มต้นกับตอนลงท้ายนี่มันเหมือนเขียนมาคนละบทเลยนะนี่ เหมือนยิ่งคุยนานยิ่งได้สติมากขึ้นสงสัยจะหมดฤทธิ์เบียร์ซะหละมั๊ง พูดอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย เมื่อเร็วๆนี้ทางปธน.เช็กกล่าวว่าเขามีความฝันว่ารัสเซียจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับอียู ว้าว! นี่ต้องกลายเป็นฝันร้ายของสหรัฐฯแน่ๆ คริๆ ไม่อยากจะคิดต่อ... ให้สหรัฐฯไปคิดเองละกัน
The Eyes
26/04/2558
----------
West Not Planning to Force Russia to Return Crimea – European Politician / Sputnik International
Czech President ‘Dreams’ of Russia Joining EU / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯอ้อนขอจับมือกับรัสเซียเป็นพันธมิตรร่วมรักษาสันติภาพโลก



------------
ก่อนหน้านี้ท่าทีของสหรัฐฯที่มีต่อรัสเซียนั้นดูแข็งกร้าว โดยพยายามจะหาแนวร่วมเพื่อถล่มรัสเซียให้ได้ กล่าวโจมรัสเซียสารพัดอย่าง บีบรัสเซียทุกด้าน ทั้งด้านการเงิน เศรษฐกิจ และกองทัพ อย่างที่เคยเล่าให้ฟังในหลายๆโพสต์ที่ผ่านมา แต่รัสเซียก็แข็ง ไม่ยอมก้มหัวให้สหรัฐฯง่ายๆ รัสเซียพยายามประคับประคองเศรษฐกิจของตนให้รอดพ้นวิกฤตจากการกลั่นแกล้งของสหรัฐฯและอียูมาได้ ในขณะเดียวกันรัสเซียก็แสวงหาพันธมิตรภายนอกเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปูตินพร้อมด้วยผู้นำหลายประเทศเข้าร่วมงานไว้อาลัยรำลึกการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนียโดยจักรวรรดิอ็อตโตมันในปี 1915 ครบรอบ 100 ปี (the 100th anniversary of the 1915 Armenian genocide by the Ottoman Empire) ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งมีชาวอาร์เมเนียถูกสังหารไปไม่ต่ำกว่า 1.5 - 2 ล้านคน ที่อนุสรณ์สถาน Tsitsernakaberd Memorial Complex ในกรุง Yerevan เมืองหลวงประเทศอาร์เมเนีย ผู้นำตุรกีก็เข้าร่วมด้วยแต่ไม่พอใจที่ปูตินและชาติอื่นๆกล่าวว่าเหตุการณ์ในอดีตเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ สหรัฐฯเองก็เลี่ยงจะใช้คำดังกล่าว การกระทำของจักรวรรดิอ็อตโตมันในอดีตไม่ได้ต่างจากฝีมือของนาซีฮิตเลอร์เลย แต่สหรัฐฯบอกว่ากรณีของนาซีนั้นถือว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์
ในขณะที่หลายประเทศได้แสดงเจตจำนงค์ที่จะเข้าร่วมงานวัน V-Day ที่กรุงมอสโคว์ในวันที่ 9 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ แม้ก่อนหน้านี้โอบาม่าประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมงานดังกล่าว แต่ก็มีนายพลระดับสูงในกองทัพสหรัฐฯบอกว่าจะเข้าร่วมงานที่กรุงมอสโคว์ด้วย ในวันเดียวกันนี้ (24 เม.ย.58) ผู้ช่วยเลขาฯก.ต่างประเทศของสหรัฐฯก็ออกมาแสดงท่าทีที่อยากจะเป็นมิตรกับรัสเซียโดยชูเรื่องความร่วมมือกันปราบปรามนาซีที่กองทัพโซเวียตกับสหรัฐฯพบกันเป็นครั้งแรกที่ฝั่งเหนือของแม่น้ำ Elbe ในเยอรมัน ในปี 1945 ขึ้นมาเป็นข้ออ้าง
ทางสหรัฐฯให้ความคิดเห็นว่าสหรัฐฯกับรัสเซียไม่ควรลืมความร่วมือกันระหว่างสองชาติที่นำความปลอดภัยมาให้กับโลกได้ ในขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังร่วมมือกันเพื่อให้ผ่านพ้นความขัดแย้งกันในปัจจุบัน Victoria Nuland เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐฯประจำสหภาพยุโรปได้กล่าวว่า "มันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเราทุกคน ชาวอเมริกันและชาวรัสเซีย ที่จะรำลึกถึงสิ่งที่รวมพวกเราเข้าด้วยกันในที่พิธีเฉลิมฉลองอนุสรณ์สถาน 'Spirit of the Elbe' (จิตวิญญาณแห่งแม่น้ำเอลบ์) ที่สุสานแห่งขาติอาร์ลิงตัน"
Spirit of the Elbe คืออนุสรณ์สถานตั้งอยู่ที่เมือง Torgau ในประเทศเยอรมันนี สร้างขึ้นในปี 1995 ครบรอบ 50ปี แห่งวันที่กองทัพโซเวียตและกองทัพสหรัฐฯเข้ามาพบกันและร่วมมือกันโจมตีกองทัพนาซีในเยอรมันเป็นครั้งแรกในวันที่ 25 เมษายน 1945
ทูตสหรัฐฯเน้นย้ำว่าทั้งสหรัฐฯและรัสเซียนั้นต่างก็ยึดถือในสันติภาพและกล่าวว่า "วันนี้เป็นวันที่สำคัญอีกวันหนึ่งที่จะรำลึกถึงการเสียสละและจดจำความพยายามในการร่วมมือกันของพวกเราในการปกป้องสันติภาพของโลกให้มากขึ้น ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาอยู่ที่นี่ในวันนี้ร่วมกันกับท่าน Sergey Kislyak เอกอัครราชทูตรัสเซียเพื่อนของดิฉัน ในฐานะที่พวกเราให้ความเคารพต่อการเสียสละของประชาชนชาวอเมริกันที่ยังหนุ่มและ และคนหนุ่มสาวทั่วทั้งสหภาพโซเวียต ซึ่งรวมทั้งรัสเซีย ยูเครน และเบลารุสด้วย"
วันนี้สหรัฐฯมาแปลกแฮะ... ไง๋จู่ๆถึงอยากจะเป็นเพื่อนกับรัสเซียขึ้นมาในตอนนี้ซะหละ ภาษาสไตล์หนังกำลังภายในของจีนก็จะบอกว่า เมื่อปลายกระบี่ของคู่ต่อสู้สั่นไหวย่อมแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มจะเพลี่ยงพล้ำแล้ว มือเท้าเริ่มสั่นเหงื่อเริ่มไหลซึม จิตใจไม่มีสมาธิ มองซ้ายแลขวาเตรียมหาทางถอยหรือขอเจรจาก่อนจะรู้ผลแพ้ชนะ
การเป็นมิตรกับสหรัฐฯนั้นมีสถานะที่ไม่ค่อยจะต่างจากการไม่เป็นมิตรสักเท่าไรนัก เพราะทำให้เหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯต่างก็นอนไม่หลับเต็มตื่นกันซักราย ไม่รู้ว่าพี่แกจะแทงข้างหลังกันตอนไหน อย่าให้สหรัฐฯรู้ว่าเพื่อนมีสมบัติดีๆมีค่าอะไรซ่อนไว้ก็แล้วกัน ตื่นขึ้้นมาสมบัติของเพื่อนอาจจะไม่เหลืออยู่แล้วก็ได้
+ ประวัติศาสตร์ WW II ศึกชิงเยอรมันระหว่างพันธมิตรตะวันตกกับโซเวียต
------------
ไหนๆก็พูดถึงเรื่อง WW II (1939–1945) กันแล้วขอเล่าเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เสริมให้ซักหน่อยละกัน เมื่อดูจากไทม์ไลน์ในประวัติศาสตร์ช่วงนี้แล้ว สหรัฐฯยังไม่ได้เข้าสู่สงครามโลกตั้งแต่แรกนะ ตามประวัติศาสตร์นั้นฮิตเลอร์ยาตราทัพนาซีเข้ารุกรานโปแลนด์ในวันที่ 1 กันยายน 1939 สองวันต่อมาก็สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสก็ประกาศทำสงครามกับเยอรมันนี เอาย่อๆเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับโซเวียต (รัสเซีย) ก็พอนะ ในปี 1941 ฮิตเลอร์เริ่มปฏิบัติการ Operation Barbarossa เพื่อรุกรานโซเวียต สู้กันอยู่นานทั้่งทหารและพลเรือนต่างก็บาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก แต่กองทัพนาซีเยอรมันก็ไม่สามารถเข้ายึดกรุงมอสโคว์ของรัสเซียได้ การสู้รบยาวนานมาอย่างต่อเนื่อง นาซีตกเป็นฝ่ายรับในขณะที่โซเวียตเป็นฝ่ายรุกไล่ได้ชัยขึ้นเรื่อยๆ ในปลายปี 1942 สหรัฐฯนำกองทัพของตนเข้าร่วมกับอังกฤษและฝรั่งเศสเพื่อต่อต้านนาซีเยอรมันในฝรั่งเศส
ตอนแรกนั้นสหรัฐฯยังไม่อยากเข้าร่วมทำสงครามในยุโรปสักเท่าไร จนกว่าจะแน่ใจว่าฝ่ายไหนเร่ิมจะมีชัยถึงตัดสินใจเข้าร่วมกับฝ่ายนั้น (อีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าสหรัฐฯยังติดพันสงครามอยู่กับญี่ปุ่นอยู่ในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้) เมื่อฝ่ายโซเวียตเร่ิมได้ชัยเหนือนาซีมากขึ้นเรื่อยๆโดยรุกมาจากฝั่งตะวันออกซึ่งรุกไล่มาจากชายแดนของประเทศที่อยู่ติดกับชายแดนของรัสเซียในปัจจุบัน ฝ่ายพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯและอังกฤษก็โจมตีกองทัพนาซีจากตะวันตกของเยอรมัน แล้วกองทัพของทั้งสองฝ่ายก็มาจ๊ะเอ๋กันที่แม่น้ำ Elbe ในเยอรมันเมื่อวันที่ 25 เมษายน 1945 โดยทหารสหรัฐฯเป็นฝ่ายร่องเรือข้ามแม่น้ำไปขอเจรจาความร่วมมือกับฝั่งโซเวียตก่อน ช่วงเดือนเมษายนปี 1945 นี้กองทัพโซเวียตล้อมกรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมันนีได้แล้ว 30 เม.ย. 1945 ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย
7 พ.ค. 1945 เยอรมัน (ตะวันตก) ประกาศยอมแพ้ให้พันธมิตรตะวันตก และ 9 พ.ค.1945 เยอรมัน (ตะวันออก - กรุงเบอร์ลิน) ก็ประกาศยอมแพ้ให้กับโซเวียตอีก หลังจากกองทัพนาซีพ่ายแพ้และถูกสลายไปแล้ว คราวนี้ฝ่ายที่ร่วมมือกันปราบนาซีก็หันมาซัดกันเองสิ เพราะฝ่ายพันธมิตรตะวันตกก็ไม่ยอมถอยทัพของตนกลับประเทศจากเยอรมันตะวันตก และฝ่ายโซเวียตก็ไม่ยอมถอยออกจากกรุงเบอร์ลินในตะวันออก ตอนแรกก็ฝ่ายนิยมประชาธิปไตยร่วมมือกับฝ่ายนิยมคอมมิวนิสต์โซเวียตต่อสู้กับลัทธิทหารนาซีเยอรมันกับของญี่ปุ่น
พอปราบญี่ปุ่นกับเยอรมันได้แล้ว ก็เหลือ 2 เสือ 2 ค่ายเท่านั้น คือค่ายประชาธิปไตยและค่ายสังคมนิยม ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน หลังสงครามปราบนาซีในเยอรมันแล้วก็เกิดสงครามเย็นระหว่างมหาอำนาจสหรัฐฯกับโซเวียตขึ้นมาอีก ในกรณีของเยอรมันนั้นเมื่อตกลงกันไม่ได้ก็แยกประเทศเป็นเยอรมันตะวันตกกับเยอรมันตะวันออกในปี 1949 ซะเลย เยอรมันตะวันตกนั้นพูดให้ชัดก็คือเป็นเมืองขึ้นของสหรัฐฯอังกฤษและฝรั่งเศสไปโดยปริยายนี่คือพวกนิยมประชาธิปไตย ส่วนเยอรมันตะวันออกนั้นอยู่ในการควบคุมของกองทัพโซเวียต ความขัดแย้งระหว่างสองค่ายยังมีมาอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่การสร้างกำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) ขึ้นในปี 1961 เพื่อแยกเยอรมันตะวันออกกับตะวันตกออกจากกัน (เหมือนเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ในปัจจุบัน ตอนนี้ยูเครนก็จะเอาอย่างบ้าง พวกนี้น่าจะเรียนแบบจิ๋นซีฮ่องเต้ที่สร้างกำแพงเมืองจีนในสมัยโบราณมานะ)
ในปี 1989 เมื่อมีการเจรจารวมเยอรมันทั้งสองฝั่งเข้าด้วยกันได้สำเร็จก็ทุบกำแพงเหล็กเบอร์ลินลง ประชาชนทั้งสองฝั่งก็ไปมาหาสู่กันได้ปรกติ ปี 1992 กองทัพรัสเซียและพันธมิตรของรัสเซียทั้งหมดถอนทัพออกจากกรุงเบอร์ลินลง (สหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 1991) แต่จวบจนทุกวันนี้สหรัฐฯก็ยังไม่ถอนฐานทัพและกองกำลังของตัวเองออกจากเยอรมันนีเลย อ้างว่าเป็นกองทัพนาโต้ต้องรักษาความปลอดภัยในยุโรปต่อไป พวกตะวันตกก็เชื่อ ถึงในใจจะไม่ค่อยเชื่อแต่ถึงขับไล่สหรัฐฯ สหรัฐฯก็คงจะไม่ถอยออกไปง่ายๆแน่ มีแต่จะขยายอำนาจทางกองทัพของตัวเองไปทั่วโลกมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกก็บอกว่าเพื่อป้องกันภัยจากพวกสังคมนิยมคอมมิวนิสต์โซเวียต ตอนนี้โซเวียตล่มสลายไปแล้ว เปลี่ยนมาเป็นประชาธิปไตยรัสเซียแทนอย่างที่สหรัฐฯและตะวันตกต้องการ แต่ก็บอกอีกว่าพวกกลัวประชาธิปไตยรัสเซียจะมารุกรานอียู ซะงั้น ดังนั้นจึงต้องคงกองทัพของตนไว้ในอียูอย่างนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนด เมื่อสหรัฐฯเริ่มเห็นว่ารัสเซียแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และมีเพื่อนมากขึ้น ประจวบกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯนั้นไม่เอื้อต่อการทำสงครามใหญ่แน่ ท่าทีของสหรัฐฯจึงเริ่มมีเสียงอ่อยๆลง อยากจะเป็นมิตรกับรัสเซียอย่างที่ส่งผู้ช่วยทูตออกมาพูดนั่นแหละ
The Eyes
26/04/2558
----------
US, Russia Should Remember What Unites Two Nations - Nuland / Sputnik International
Turkey Condemns Russia’s Recognition of Armenian Genocide / Sputnik International
Moscow-Ankara Ties Unaffected by Armenian Genocide Recognition / Sputnik International
Elbe Day - Wikipedia, the free encyclopedia
Germany profile - Timeline - BBC News
Soviet Union Timeline | Real USSR
World War II: Timeline
http://en.wikipedia.org/…/Timeline_of_World_War_II_(1945%…
http://www.nationalgeographic.com/…/hist…/wwii_timeline.html
http://www.bbc.co.uk/histo…/worldwars/…/ww2_summary_01.shtml
Germany profile - Timeline - BBC News

 

Thanong Fanclub



5. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
ในวันที่ 25 เมษายน 2015 เพียงวันเดียว ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวระนาวทั่วโลกไล่จากนิวซีแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เนปาล รัฐไอดาโฮ แต่หนักที่สุดคือที่เนปาลเพราะว่าทำให้คนตายไปแล้ว1,500คน มรดกโลกได้รับความเสียหายยับเยิน
ไม่นับภูเขาไฟที่กำลังปะทุออกมาอย่างน่าหวาดเสียวที่ชิลี มีคนเห็นยูเอฟโอบินว่อนมาสำรวจภูเขาไฟด้วย
เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น มีดินงอกขึ้นมาจากทะเลความสูง50ฟุต ยาว1,000ฟุต
สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมากก็บอกว่ามันเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่บังเอิญประจวบเหมาะมาเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน พวกที่เคร่งศาสนาหน่อยบอกว่าฟ้าหรือพระเจ้าพิโรธทำให้เกิดภัยภิพัติแผ่นดินไหวเพื่อทำลายโลก
แต่มีหลายคนสงสัยเหมือนกันว่า นักฟิสิกส์ของCERNที่เสแสร้งที่สวิตเซอร์แลนด์เป็นต้นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหว เพราะว่าเพิ่งจะเริ่มเดินเครื่องการยิงอนุภาคในวันที่8เมษายนที่ผ่านมา ก็ได้เรื่องเลย
มีการคาดการว่า พลังจากกระแสแม่เหล็กของLarge Hadron Colliderไปรบกวนพลังแม่เหล็กของแมกม่าที่อยู่ใจกลางโลกหรือไม่ แล้วทำให้เกิดแผ่นดินไหว
ลองดูสถิติว่าในศตวรรษที่แล้วมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว3,542ครั้งบนโลกใบนี้ หรือเฉลี่ย35ครั้งต่อปี ดูเหมือนว่าจะเกิดแผ่นดินไหวมาก แต่ไม่มากเท่าในตอนนี้ที่มีเหตุการณ์ปะทุของภูเขาไป36แห่งทั่วโลก มากกว่าเฉลี่ยทั้งปีในศตวรรษที่แล้ว
ถ้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวยังคงดำเนินไปในระดับปัจจุบัน ดูท่าแล้วไทยเราต้องโดนหนักขึ้นไปเรื่อยๆด้วย
สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหวมีการติดตามแผ่นดินไหวในไทยและประเทศข้างเคียงอย่างละเอียดในช่วงที่ผ่านมา โดยล่าสุดเกิดแผ่นดินไหวที่เชียงราย พม่า น่านและแพร่ในระดับต่ำอยู่ เข้าไปดูได้ที่ รายงานแผ่นดินไหว - สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา
ต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าCERNเป็นต้นเหตุให้เกิดแผ่นดินไหวทั่วโลกหรือไม่ เพราะว่ามันดูผิดปกติมาก อาจจะเป็นอาวุธร้ายของCERNก็ได้ และเรื่องนี้สอดคล้องกับการเข้าสู่ยุคของการทำลาย
จับตาดูฟ้าพิโรธที่Dome on the Rockให้ดีๆ เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่นั่นเมื่อใดก็โป๊ะเช๊ะ
thanong
26/4/2015
http://rt.com/news/252585-earthquake-new-zealand-kaikoura/
http://endtimeheadlines.org/…/5-5-quake-strikes-off-northe…/
http://rt.com/news/252965-earthquake-nepal-india-damage/
Two earthquakes rock North Idaho | North Idaho - KXLY.com
http://mysteriousuniverse.org/…/could-cerns-large-hadron-c…/
http://endtimeheadlines.org/…/the-number-of-volcanoes-erup…/
http://www.tatoott1009.com/…/land-rising-out-of-the-sea-in…/

 

Thanong Fanclub



6. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี2015นี้ หรืออาจจะในราวเดือนตุลาคม จีนจะหงายไพ่ที่สำคัญ คือจะแจ้งให้ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศทราบว่าตัวเองมีทองคำสำรองอยู่เท่าใด เมื่อตัวเลขที่แท้จริงของทองคำจีนถูกเปิดเผยออกมา อาจจะช๊อคโลกก็ได้
จีนต้องการเพิ่มบทบาทของหยวนในเวทีการเงินโลก ด้วยการเข้าไปเหยียบถ้ำเสือ ในตระกร้าเงิน (basket of currencies)ที่หนุนเงินSpecial Drawing Rights (SDR)ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศมีเงินดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ เยนและทองคำ เมื่อเงินหยวนได้เข้าไปอยู่ในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ จะเพิ่มเครดิตหรือความน่าเชื่อถือของเงินหยวนว่าได้ก้าวมาเทียบเคียงเงินสกุลหลักของโลกในพรีเมียร์ ลีค
Christine Lagardeเล่นบทเสแสร้ง รีบกุลีกุจอที่จะส่งเทียบเชิญให้เงินหยวนเข้าไปอยู่ในSDR เพื่อที่จะเอาจีนเข้ามาเป็นพวกของแก๊งพิมพ์เงิน เมื่อ5ปีที่แล้ว หยวนยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าพรีเมียร์ลีคนี้ แต่ณ บัดนาวขนาดของเศรษฐกิจจีนใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มูลค้าการค้าและการนำเข้าน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก ทางไอเอ็มเอฟไม่มีเหตุผลจะบล๊อคไม่ให้จีนเข้าไปอยู่ในตระกร้าเงินของSDRได้
กองทุนการเงินระหว่างประเทศมีเงื่อนไขต้องการให้ทุกประเทศเปิดเสรีทางการเงินเพื่อว่าแก๊งพิมพ์เงินจะได้คุมได้ เมื่อจีนเอาหยวนเข้าSDR จำต้องเปิดเสรีการเงินมากยิ่งขึ้น และอาจจะหมายถึงการลอยค่าของหยวนก็เป็นไปได้
สหรัฐฯพยายามบล๊อคไม่ให้จีนมีบทบาทมากในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ตัวเองถือหุ้นอยู่17% สามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ แต่ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป สหรัฐฯไม่ยอมจ่ายเงินเพิ่มทุน หรือลดสัดส่วนหุ้นของตัวเองเพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศเกิดใหม่อย่างจีนเข้าไปมีบทบาทมากขึ้น แต่ก็เบรคจีนไม่ไหว
ความจริงกองทุนการเงินระหว่างประเทศก็รู้ตัวดีว่า ตัวเองจะไม่มีความหมายต่อไปถ้าหากBRICSรวมตัวกันติด ด้วยการสร้างสถาบันการเงินที่ทำหน้าที่คล้ายกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก และส่วนนี้BRICSได้ทำไปแล้ว ขนาดเศรษฐกิจของBRICSและประเทศกำลังพัฒนารวมกันตอนนี้ใหญ่พอๆกับขนาดเศรษฐกิจของประเทศพัฒนารวมกันแล้ว ไม่จำเป็นที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องง้อประเทศพัฒนาเหมือนในอดีต ต่างคนต่างอยู่ก็ได้ ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น สหรัฐฯและยุโรปจะฉิบหาย
เพราะฉะนั้นกองทุนการเงินระหว่างประเทศต้องเกี่ยวจีนเอาไว้ก่อน จีนเลยเล่นสองบท โดยจะเป็นผู้นำในกลุ่มBRICS หรือประเทศกำลังพัฒนาและจะขอยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกจี7จี8ทั้งหลาย
การที่หยวนจะได้เข้าร่วมSDRจึงเป็นก้าวที่สำคัญ มีเงื่อนไขจากทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศว่าจีนต้องประกาศว่ามีทองคำสำรองเท่าใด
จีนไม่เคยปรับตัวเลขทองคำสำรองที่ตัวเองที่ประกาศไว้1,054กว่าตันตั้งแต่ปี2009 แต่เอาเข้าจริงอาจจะมีสูงถึง16,000ตันแล้วตามที่Bullionstar.comได้เปิดเผย หมายความว่าจีนมีทองคำมากกว่าสหรัฐฯหนึ่งเท่าตัว เพราะว่าสหรัฐฯประกาศตัวเลขทองคำสำรองที่8,110ตัน วงการทองส่วนมากเชื่อว่าสหรัฐฯอาจจะไม่มีทองคำเหลืออยู่ เพราะว่าโดนแก๊งพิมพ์เงินค่อยๆปล้นเอาไปหมดแล้วเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว
จีนเสแสร้งว่าไม่มีทองคำมาก แต่ความจริงตะลุยเก็บทองเป็นกอบเป็นกำมาตลอด เพราะว่าจีนรู้ดีว่าถ้าจะให้หยวนมีความน่าเชื่อถือในอนาคต จีนต้องมีทองคำหนุนหลังในปริมาณที่มากที่สุดในโลก เรื่องอะไรที่จีนจะถือดอลล่าร์ หรือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯตลอดไป เพราะว่าเป็นการไฟแนนซ์หนี้รัฐบาลสหรัฐฯที่สร้างหนี้เพื่อพัฒนาและสะสมอาวุธเพื่อขู่จีนในการสงครามในอนาคต
เงินหยวนจะมั่นคงถ้าหากจะเลิกผูกกับดอลล่าร์ โดยจะไปผูกกับทองแทน โดยมีทองสำรองของจีนหนุน ถ้าจีนเล่นเกมนี้ ดอลล่าร์หรือเงินกระดาษทั่วโลกเหนื่อยแน่ เพราะว่าไม่ได้มีหลักทรัพย์อะไรหรือทองหนุนหลัง เป็นกระดาษเฉยๆที่สร้างภาพให้คนเชื่อถือ
เมื่อหยวนอิงทอง มีทองเป็นรีเชิร์ฟ จีนจะเปลี่ยนนโยบายการบริหารเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการส่งออก เป็นการไล่เซิ้งซื้อกิจการแทน เพราะว่าสามารถพิมพ์เงินหยวนไม่อั้นเหมือนอย่างที่แก๊งพิมพ์เงินทำมาแล้ว หนามยอกต้องหนามบ่ง ในเฟสใหม่ของการโต จีนจะโตจากการซื้อกิจการและการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะเสริมความต้องการของจีนในการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ฝรั่งไม่ชอบเกมนี้ของจีนแน่ๆ แต่เสแสร้งทำเป็นอ้าแขนต้อนรับจีนเข้าไปในกองทุนการเงินระหว่างประเทศก่อน เพื่อหวังว่าให้จีนร่วมวงSDR ถ้าดอลล่าร์และยูโรพัง จะใช้SDRเป็นเงินสกุลหลักของโลกแทน เพื่อว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศจะได้เป็นธนาคารกลางของโลก และแก็งพิมพ์เงินหวังว่าจะคุมระบบการเงินโลกดิจิตัลต่อไป
thanong
26/4/2015

 

Thanong Fanclub



7. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
เงินดิจิตัลกำลังจะมาแทนเงินสดหรือเงินกระดาษ เพราะว่าจะทำให้แก๊งพิมพ์เงินสามารถมีอำนาจเหนือระบบการเงินโลกได้อีกต่อไป ในกรณีที่มีการรีเซ็ทระบบการเงิน
เหมือนอย่างที่Martin Armstrongได้เขียนเอาไว้ว่าเงินยูโรและเงินเยนอาการน่าเป็นห่วง ทำให้นักลงทุนหันเข้าหาดอลล่าร์ แต่ท้ายที่สุดดอลล่าร์ก็ไปไม่รอดเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯต้องจ่ายหนี้มากกว่างบประมาณทางทหารในปี2020 จึงจำเป็นต้องเตรียมการรับมือ มิฉะนั้นแล้วจีนจะพิมพ์หยวน อิงทองมาเทคโอเวอร์ทรัพย์สินต่างๆของโลกตะวันตกหมดที่จะเสื่อมค่าลงตามค่าเงินที่ตกแบบไม่มีหูรูดเพราะว่าระบบแบงค์เจ๊งไปแล้ว
มีความเป็นไปได้ที่เกมของแก๊งพิมพ์เงินจะเดินไปในทางนี้คือให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศเป็นธนาคารกลางของโลก คือเป็นผู้พิมพ์เงินSDRที่อยู่ในรูปของดิจิตัลเพื่อมาเพิ่มทุนแบงค์ของยุโรปและสหรัฐฯ หรืออุ้มระบบการเงินโลก SDRจะทำหน้าที่แทนดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์และเยน การเอาหยวนเข้ามาในSDRเพื่อที่จะหลอกให้จีนเข้าร่วมแก๊ง
ต่อไปเวลาเกิดรัฐบาลโลกเดียว จะได้เลิกใช้เงินทุกสกุลให้ใช้SDRในรูปดิจิตัลแทน
เฟสบุ๊คของ Market Anywareรายงานล่าสุดเกี่ยวกับอวสานเงินสดดังนี้:
"มาร์ติน อาร์มสตรอง นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง เขียนในบล็อกของเขาเกี่ยวกับเรื่อง “สงครามเงินสด” ได้เกิดขึ้นแล้ว
ที่รัฐหลุยเซียน่า สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศกฏหมายว่าด้วยการห้ามใช้เงินสดในการซื้อสินค้ามือสอง (ด้วยข้ออ้างที่ว่าเป็นการป้องกันการรับซื้อของโจร) ส่วนที่ฝรั่งเศสกฏหมายแปลกกว่านั้นคือห้ามซื้อสินค้าใดๆ ที่มีมูลค่าเกิน €1,000 (~35,000 บาท) ด้วยเงินสด..!! และคุณจะไม่สามารถกดเงินสดจาก ATM ได้เกิน €200 (~7,000 บาท) JP Morgan ประกาศกฏห้ามฝากเงินสดไว้ในตู้เซฟธนาคาร
นักวิเคราะห์จำนวนมากเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า จุบจบของเงินสด และโลกเรากำลังก้าวไปสู่ยุคเงินอิเลคโทรนิคอย่างเต็มรูปแบบ
รัฐบาลจะได้รับประโยชน์จากการเก็บภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยหากธุรกรรมการเงินทั้งหมดวิ่งทางอิเลคโทรนิค ธนาคารก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องความปลอดภัยจากปัญหา bank run (ประชาชนตื่นตระหนกแห่ถอนเงิน จนเงินหมดธนาคาร) อีกเหตุผลหนึ่งที่ชาติตะวันตกพยายามจะหยุดการใช้เงินสด และย้ายเป็นเงินอิเลคโทรนิคก็เพราะพวกผู้นำเชื่อว่าการควบคุมเงินโดยใช้ระบบอิเลคโทรนิคของรัฐบาลจะช่วยหยุดหรือลดความรุนแรงของวิกฤติการณ์การเงินที่ยุโรปกำลังจะเผชิญเร็วๆ นี้ได้ (ในความเห็นของมาร์ติน)
อันที่จริงมาร์ตินเชื่อว่ารัฐบาลชาติตะวันตกกำลังพยายามยกเลิกสกุลเงินทั้งหมด และย้ายไปสู่ระบบเงินอิเลคโทรนิค ซึ่งมันน่าจะมาเร็วกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้"
***********************************************************************
เข้าไปอยู่ในเงินดิจิตัลเมื่อใด ไทยเราจะเป็นทาสแก๊งพิมพ์เงินแบบไม่มีวันได้ผุดได้เกิด เพราะว่าพวกนี้เริ่มต้นจะเสแสร้งทำดี อ้างโน่นอ้างนี้ แต่เอาเข้าจริงแก๊งพิมพ์เงินจะพิมพ์แค่ไหนก็ได้ ไม่มีการตรวจสอบ ระบบเทคโนโลยี่ก็คุมกันเองไม่ให้ใครรู้ ถึงเวลาจะลงโทษเราอย่างไรก็ได้เหมือนที่กรีซ หรืออิหร่านกำลังโดน จะมีข้ออ้างสาระพัด เหมือนบริการเฟสบุ๊คที่จะมีเงื่อนไขแปลกๆออกมา หลังจากที่เสแสร้งหลอกให้ทุกคนเข้ามาเล่นจนติด หลังจากนั้นจะควบคุม
thanong
26/4/2015
https://www.facebook.com/MarketAnyWare

 

Thanong Fanclub



8. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
ข่าวโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวที่เนปาลทำให้มีผู้เสียชีวิต1,500คนเมื่อวานนี้ ทำให้ผมนึกถึงการเยือนกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาลเมื่อประมาณ27ปีมาแล้ว ทุกวันนี้ยังอยู่ในความทรงจำ
เนปาลเปรียบเหมือนประเทศยุคกลางที่ไม่มีความเปลี่ยนแปลง ไร้เดียงสาและไม่เสแสร้ง กาฐมัณฑุลอยอยู่บนหลังคาของโลกท่ามกลางก้อนเมฆ มีกลิ่นไอของเทพเจ้าต่างๆโชยในทุกอณูของอากาศ ผมได้มีโอกาสขึ้นเครื่องบินDCเก่าๆวนรอบเทือกเขาหิมาลัย มองลงไว้เวิ้งว้างและไร้สิ่งชีวิตใดๆ ประสบการณ์ในครั้งนั้นทำให้ได้เขียน Poetic Nepalตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์The Nationในวันที่8ตุลาคม 1988
ลองอ่านดู
KATHMANDU
I fall into a dreamless sleep
And wake up
To a medieval world
Crowded with deities.
Having no knowledge
Of the present,
Nor any anticipation
Of the future,
I walk into the past
And seek shelter
From divinities.
MY WATCH
My Seiko quartz
Fails to tell
The exact time
In Kathmandu
RISING NEPAL
I rise to the Rising Nepal
And digest its news
As dry as a piece
Of dayold bread.
MOUNTAINS
Mountains
Surrounding the Kathmandu valley,
Appear for a few moments
Before vanishing
Behind the dark cloud.
ASAN SQUARE
The market
Springs to life,
From dawn 'til dusk,
Carrying the last flag
Of medieval bustle.
A NEWARI WOMAN
She peers down
From her secondfloor window,
And yawns
At the long afternoon.
TOURISTS
Without tourists,
Many will go hungry;
With tourists,
Many will become decadent.
PUBLIC BATH
It is too cold
In the morning
Or evening,
But just right in the afternoon
To bathe
In Himalayan water.
HINDU STUDENTS
I search for you
Among the Nepalese girls,
Hoping you are disguised
As a Hindu student.
A GIRL
That girl
Embodying your smile
And dimple,
Gives me a nod that reddens
Her forehead dot.
I want to pursue
Her footsteps
In search of
Your identity.
MACHCHHENDRA NATH TEMPLE
She disappears into the shrine;
But as I enter,
All that greet me
Are frightening statues.
NEPAL
How can Nepal rise further
When it already stands
On top of the world?
With both feet
Resting on the threshold,
Nepal is suspicious
Of the outside world.
TIKA
A twoyearold boy
Slips into Ganesh shrine
And attaches a tika to his forehead
Before his mother drags him away.
With a tika
On my forehead,
I feel at ease
As a Nepalese.
I am a Nepalese,
In a frame of thought.
A BUDDHA IMAGE
Adorned with fresh flowers
In his ears,
A Buddha image
Reveals a feminine smile.
A DREAM
Your image
Appears blurred
As I try to reach
Into a dream.
PANTHEISM
With so many gods to please,
The Nepalese find ample time
To worship each one.
MT EVEREST
I conquer Mt Everest
With an eye wink
From the aircraft window.
From its peak,
Mt Everest utters
An eternal monologue
With heaven.
THE GOLDEN PAGODA OF LOKESHWAR
Tibetan monks,
Chanting Buddhist scriptures
With fervour,
Try to read enlightenment
Between the lines.
A worshipper spins
The prayer wheels
Along the monastery aisle,
Reciting Om mani padme hum,
Om mani padme hum,
Om mani padme hum…
A SIDEWALK VENDOR
She does not spare one guava
On her manual scale,
Yet gives them away
To a friend
Going to pray
At a nearby shrine.
SACRIFICE
A black goat is beheaded
At one stoke,
Its blood cleansing
The evil spirits.
KUMARI (Virgin)
I long to see
The living goddess
From the balcony window,
And seek blessings
From her divine grace.
Yet no one would be allowed
A sight of the Kumari,
Who recedes
For a praying session.
THE STUPA OF SWAYAMBHUNATH
The 300 steep steps
To reach the Buddhist stupa
Are the first test
Of a devoted pilgrim.
With the eyes of the Buddha
On four sides of the stupa,
Atop stands an umbrella,
One may climb to nirvana.
THE FLIGHT
I fly back home
With a memory,
Fulfilled.
Unconsciously,
I chant
Om mani padme hum,
Om mani padme hum,
Om mani padme hum…
by Thanong Khanthong
**********************************************************************
นานมาแล้วมีคนเห็นงานเขียนเชิงไฮกุนี้ของผมตัดใส่กรอบในสถานทูตเนปาลในกรุงเทพ ตอนที่เขียนเรื่องนี้ อายุยังไม่ถึง30ปี ยังสามารถปรับอารมณ์เสแสร้งให้มีความสุนทรีย์เต็มเปี่ยม ตอนนี้แก่แล้วปรับอารมณ์เสแสร้งไม่ไหว
thanong
26/4/2015

 

กมธ.ปฏิรูป กม.ถกปรับโครงสร้าง สตช. 28 เม.ย.
"กมธ.ปฏิรูปกฎหมายฯ สปช.เล็งถกปรับโครงสร้าง สตช.28 เม.ย.นี้ แนะตำรวจเตรียมตัว แยกพนักงานสอบสวนเป็นอิสระ วันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2558 เวลา 16:56 น.



เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ คณะ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายฯ จะประชุมเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) โดยจะพิจารณาถึงความคืบหน้าแนวทางการปฏิรูปว่าจะเป็นไปในแนวทางใด ทั้งเรื่องอำนาจหน้าที่ และภารกิจ ของ สตช. อะไรที่ไม่ใช่ภารกิจหลัก ก็จะโอนถ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องดูว่าจะเป็นหน่วยงานใดบ้าง หรือให้คงภารกิจใดไว้ที่ สตช.บ้าง และต้องป้องกันไม่ให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เช่น การแต่งตั้ง ผบ.ตร. การโยกย้ายใน สตช. นอกจากนี้จะมีการพิจารณาถึงการกระจายอำนาจการบริหารงานของตำรวจ สู่ระดับจังหวัดตามที่คณะอนุกรรมาธิการ ชุดที่เกี่ยวข้องเสนอมา คาดว่าจะใช้เวลา 30-60 วัน จากนั้นจะส่งเข้าที่ประชุม สปช.ต่อไป

นายวันชัย กล่าวถึงระบบการสอบสวนว่า ตอนนี้แน่ชัดแล้วว่าจะให้เป็นอิสระ แม้จะมีข้อถกเถียงว่าให้แยกออกมาจาก สตช.หรือไม่ เชื่อว่าที่ประชุมจะเสนอความเห็นอย่างหลากหลาย อาจมีคณะกรรมาธิการชุดอื่นเข้ามาร่วมด้วย เช่น กมธ.ปฏิรูปการเมือง, กมธ.ปฏิรูปบริหารราชการแผ่นดิน, กมธ.ปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น,กมธ.ปฏิรูปการปราบปรามทุจริต โดย กมธ.ทั้ง 5 คณะ จะช่วยกันพิจารณาให้การปฏิรูปเป็นไปอย่างรอบคอบ และเป็นแนวทางของ สปช. ถ้าความเห็นส่วนใหญ่ต้องการให้การสอบสวนเป็นอิสระ ก็ขอให้ สตช. เตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ และสนับสนุนอุปกรณ์ งบประมาณ สร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงานสอบสวนและขออย่าแทรกแซง ล้วงลูกการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน เมื่อถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยนจะได้มีความพร้อมทันที.

กมธ.ปฏิรูป กม.ถกปรับโครงสร้าง สตช. 28 เม.ย. | เดลินิวส์

 

เหยื่อดินไหวเนปาลพุ่งอย่างน้อย 1,130 ศพ คาดยอดตายอาจเพิ่มสูงต่อเนื่อง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 เมษายน 2558 23:45 น. (แก้ไขล่าสุด 26 เมษายน 2558 10:07 น.)



รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวระดับ 7.9 แมกนิจูด ในวันเสาร์ (25 เม.ย.) ที่เนปาลได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,130 ราย

รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างการแถลงของโฆษกตำรวจเนปาล ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งมีความรุนแรงที่สุดในรอบ 81 ปีของเนปาล ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,130 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตในเขต “กาฐมาณฑุ แวลลีย์” อย่างน้อย 634 ราย โดยมีความเป็นไปได้ที่ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ อาจพุ่งสูงขึ้นอีกท่ามกลางรายงานข่าวที่ยังไม่มีการยืนยันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 1,341 รายแล้ว

นอกเหนือจากผู้เสียชีวิตในเนปาลที่เป็นศูนย์กลางของแผ่นดินไหวคราวนี้ ยังมีรายงานการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ราย ในพื้นที่ภาคเหนือของอินเดีย รวมถึงอีก 12 รายในเขตปกครองทิเบตของจีน และ อีก 4 รายในบังกลาเทศ

แผ่นดินไหวซึ่งมีศูนย์กลางห่างจากโพคารา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของเนปาล ไปทางตะวันออกราว 80 กิโลเมตรในครั้งนี้ ถือเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมใหญ่หลวง ซึ่งทำให้รัฐบาลเนปาลต้องร้องขอความช่วยเหลือเร่งด่วนจากต่างประเทศ โดยมีอินเดียตอบรับเป็นชาติแรก ด้วยการส่งเครื่องบินทหารมาพร้อมกับอุปกรณ์ทางการแพทย์และทีมกู้ภัย

ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า แผ่นดินไหวระดับ 7.9 แมกนิจูดนี้ ยังส่งผลต่อเนื่องให้เกิดเหตุหิมะถล่มซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวเนปาล 16 ราย

ก่อนหน้านี้ เนปาลเคยเผชิญกับแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปี 1934 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นมากกว่า 8,500 ราย

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047435

 

UN ตั้งนักการทูตชาวมอริเตเนีย นั่งเก้าอี้ทูตพิเศษดูแลปัญหาเยเมน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 00:35 น. (แก้ไขล่าสุด 26 เมษายน 2558 10:00 น.)



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - บัน คี-มุน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ แต่งตั้ง อิสมาอิล โอลด์ ชีคห์ อาเหม็ด นักการทูตชาวมอริเตเนียในวันเสาร์ (25 เม.ย.) ให้เข้ารับหน้าที่ทูตพิเศษของยูเอ็นด้านปัญหาเยเมน

อิสมาอิล โอลด์ ชีคห์ อาเหม็ด ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้วในวันเสาร์ (25)จะเข้ารับหน้าที่ทูตพิเศษด้านเยเมน ต่อจากญามาล เบโนมาร์ นักการทูตชาวโมร็อกโก ที่อยู่เบื้องหลังการคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองในเยเมนเมื่อปี 2011

อิสมาอิล โอลด์ ชีคห์ อาเหม็ดถือเป็นนักการทูตที่มีประสบการณ์การทำงานด้านการพัฒนาและการให้ความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมกับทางยูเอ็นมานานเกือบ 30 ปี และทำหน้าที่ล่าสุดในฐานะหัวหน้าทีมรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ทั้งนี้ เยเมน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นดินแดนที่ยากจนที่สุดในตะวันออกกลาง มีอันต้องเผชิญกับวิกฤตความขัดแย้งและการสู้รบตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่สถานการณ์ในเยเมนกลับเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมหลังกลุ่มกบฏฮูตีซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน สามารถบุกเข้ายึดกรุงซานาที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไว้ได้ ขณะที่ประธานาธิบดี อับด์ ราบบู มันซูร์ ฮาดีต้องเดินทางไปลี้ภัยในซาอุดีอาระเบีย

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047436

 

สหรัฐฯประกาศส่งทีมกู้ภัย พร้อมเงินช่วยเหลือ 1 ล้านดอลลาร์ให้เนปาล หลังเผชิญแผ่นดินไหวใหญ่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 04:29 น. (แก้ไขล่าสุด 26 เมษายน 2558 09:59 น.)



@จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ

รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯยืนยันในวันเสาร์ (25 เม.ย.) ว่า รัฐบาลวอชิงตันจะจัดส่งทีมช่วยเหลือและรับมือภัยพิบัติไปยังเนปาล พร้อมเงินช่วยเหลือเบื้องต้นอีก 1 ล้านดอลลาร์ หลังเนปาลเผชิญแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ซึ่งล่าสุดคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 1,300 ราย

คำแถลงของเคร์รีระบุ สหรัฐฯกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับทางการเนปาล เพื่อจัดหาความช่วยเหลือและการสนับสนุนที่จำเป็น ขณะที่สำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) เผยผ่านทวิตเตอร์โดยระบุกำลังประสานงานกับสำนักงานความช่วยเหลือด้านภัยพิบัติในต่างประเทศ (OFDA) เพื่อจัดส่งทีมช่วยเหลือและผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือภัยพิบัติไปยังเนปาล

โดยในเบื้องต้นมีการเปิดเผยว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองจากท้องที่ “แฟร์แฟ็กซ์ เคาน์ตี้”ในมลรัฐเวอร์จิเนียจะเป็นทีมแรกที่ถูกส่งเข้าสู่พื้นที่ภัยพิบัติในเนปาล ขณะที่ทีมของสำนักงานดับเพลิงเขต “ลอส แองเจลิส เคาน์ตี้” จะเป็นหน่วยงานที่รอรับคำสั่งเคลื่อนกำลังเป็นแห่งต่อไป

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯมีขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าเนปาลซึ่งเป็นบ้านของประชากรกว่า 28 ล้านคน จะเผชิญหายนะด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายจากผลของแผ่นดินไหวระดับ 7.9 ตามมาตราแมกนิจูดในครั้งนี้ ซึ่งล่าสุดคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,300 ราย


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047450

 

In Pics & Clips : แผ่นดินไหวเนปาลคร่าชีวิต “ผู้บริหารกูเกิล” บนยอดเขาเอเวอเรสต์ - จีนส่งทีมกู้ภัยร่วมหลังยอดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 1,800 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2558 11:21 น. (แก้ไขล่าสุด 26 เมษายน 2558 11:28 น.)



เอเจนซีส์/เอเอฟพี – โศกนาฎกรรมแผ่นดินไหวเนปาลขนาด 7.8 ทำให้ยอดเสียชีวิตทั่วเนปาลคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 1,800 คน และหนึ่งในนั้นคือแดน เฟรดินเบิร์ก ( Dan Fredinburg) วัย 33 ปี ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ที่ได้รับการยืนยันเสียชีวิตบนยอดเขาเอเวอเรสต์ในวันเสาร์(25) ในขณะที่หน่วยงานกู้ภัยทำงานแข่งเวลาเพื่อช่วยเหลือและค้นหาผู้ที่รอดชีวิต ด้านจีนส่งทีมค้นหากู้ภัยร่วม 62 ชีวิตมาเนปาลเพื่อร่วมค้นหา และล่าสุดวันนี้(26)เฮลิคอปเตอร์ 6 ลำลงจอดบนยอดภูเขาเอเวอร์เรสต์ช่วยชีวิตและค้นหานักปีนเขา

<iframe width="854" height="520" src="https://www.youtube.com/embed/qPcSZrdtLgQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="854" height="520" src="https://www.youtube.com/embed/dG9QfhXNvHA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(26)ว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดคร่าชีวิตคนทั่วประเทศเนปาลไปไม่ต่ำกว่า 1,800 คน ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 81 ปี ชาติต่างได้ส่งความช่วยเหลือมายังเนปาลอย่างเร่งด่วน โดยเอเอฟพีรายงานว่า ในวันนี้(26)รัฐบาลจีนส่งทีมกู้ภัยจำนวน 62 คนเดินทางไปเนปาลเพื่อร่วมทีมกู้ภัยนานาชาติออกค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และรวมไปถึงค้นหาร่างผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ในทีมกู้ภัยของจีนยังรวมไปถึงสุนัขค้นหาจำนวน 6 ตัว และอุปกรณ์กู้ภัยและเวชภัณฑ์ฉุกเฉิน ที่คาดว่าทีมงานจะเดินทางด้วยเครื่องเหมาลำมาถึงกรุงกาฐมาณฑุภายในเวลา 12.00 น.วันอาทิตย์(26) เพื่อเริ่มงานให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม สำนักข่าวซินหัวรายงาน

และสำนักข่าวจีนยังรายงานเพิ่มเติมว่า จากจำนวนเจ้าหน้าที่ทั้งหมด มีเจ้าหน้าที่ราว 42 คนเดินทางมาจากหน่วยที่ 38 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน

นอกจากนี้บีบีซียังรายงานเพิ่มเติมถึงสภาพทั่วไปหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่คาดว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลังจากนี้ โดยในคืนวันเสาร์(25) ประชาชนชาวเนปาลต้องนอนทนความหนาวเหน็บที่ข้างถนน หรือในที่โล่ง ในขณะที่ทางการเนปาลเกรงว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นในระหว่างการค้นหาที่ดำเนินมาถึงในวันนี้(26) ซึ่งแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูดนี้เกิดขึ้นในบริเวณเนปาลกลางระหว่างกรุงกาฐมาณฑุและโพคารา เมืองใหญ่อันดับ 2ที่อยูทางตะวันออกของประเทศ ห่างไปราว 80 กม.

บีบีซีรายงานต่อว่า ยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการประเมินล่าสุดจากกระทรวงมหาดไทยของเนปาลอยู่ที่ 1,805 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 4,718 คน

ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า ในวันนี้(26) เฮลิคอปเตอร์จำนวน 6 ลำลงจอดบริเวณเบสแคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์เพื่อค้นหาและช่วยเหลือนักปีนเขาที่ยังติดอยู่หลังเกิดหิมะถล่ม แอมมู คานนามพิลลี ( Ammu Kannampilly) หัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลเนปาลให้สัมภาษณ์พร้อมเสริมว่า สามารถทำได้หลังจากสภาพอากาศอำนวยหลังจากคืนที่ผ่านมา

"นักปีนเขากระจายตัวรออยู่เบื้องล่างในขณะที่ฮอ.ลงจอด ซึ่งมีสภาพท้องฟ้าโปร่ง หิมะตกเล็กน้อย" คานนามพิลลีแถลง

นอกจากนี้ยังมีรายงานเหยื่อของแผ่นดินไหวในอินเดีย บังกลาเทศ ทิเบต รวมไปถึงภูเขาเอเวอร์เรสต์ซึ่งทำให้เกิดหิมะถล่ม โดยพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 รายในพื้นที่ภาคเหนือของอินเดีย รวมถึงอีก 12 รายในเขตปกครองทิเบตของจีน และอีก 4 รายในบังกลาเทศ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 รายบนยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นชาวเนปาล 16 ราย รวมไปถึงแดน เฟรดินเบิร์ก ( Dan Fredinburg) วัย 33 ปี ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิล ที่ได้รับการยืนยันเสียชีวิตบนยอดเขาเอเวอเรสต์ในวันเสาร์(25)เช่นกัน

เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้(26)ถึงการเสียชีวิตของนักปีนเขา 18 คนและเชอร์ปาผู้นำทางชาวเนปาล ซึ่งรวมไปถึงเฟรดินเบิร์ก ที่เคยปีนยอดเขาเอเวอร์เรสต์เพื่อบันทึกภาพสำหรับกูเกิลแมพส์

นอกจากนี้ยังพบว่า ในขณะเกิดเหตุเฟรดินเบิร์กและผู้บริหาระดับสูงคนอื่นของกูเกิลที่ปีนเขาเอเวอร์เรสต์ร่วมกับทีม Jagged Globe ซึ่งพบว่านอกจากฟรีดินเบิร์กแล้ว คนอื่นในทีมไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิต

จากรายงานพบว่า ในบริษัทกูเกิล ตำแหน่งของเฟรดินเบิร์กคือ 'Google Adventurer' โดยเขาได้ทำหน้าที่ถ่ายภาพยอดเขาสูงทั่วโลกให้กับทางกูเกิล แมพส์ และฟรีดินเบิร์กยังเป็นผู้บริหารบริษัทส่วนตัว “Google X”อีกตำแหน่ง

ทั้งนี้ข่าวการเสียชีวิตของเฟรดินเบิร์กได้รับการเปิดเผยผ่านทางอินสตราแกรมของอดีตแฟนสาวนักแสดง โซเฟีย บูช( Sophia Bush) จากผลงาน One Tree Hill actress ที่จบความสัมพันธ์ 1 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งเธอได้กล่าวไว้อาลัยแดน เฟรดินเบิร์กว่า “ขอไว้อาลัยให้กับ 1 ในคนอันเป็นที่รักมากที่สุดของดิฉัน ซึ่งไม่มีใครเหมือน ทั้งนี้ไม่มีคำกล่าวใดที่จะสามารถสรรหามาแสดงความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ หลังจากที่ในวันนี้ ข่าวร้ายที่เกิดขึ้น ดิฉันต้องใช้ความพยายามในการเก็บซากหัวใจที่แตกสลายและหล่นบนพื้น ซึ่งดูเหมือนว่าจะหาไม่พบ”

และบูชยังกล่าวต่อผ่านโซเชียลมีเดียว่า “และในวันนี้ ดิฉัน และเพื่อน รวมไปถึงคนรู้จักของดิฉัน ได้สูญเสียเพื่อนที่น่ารักอย่างแดน เฟรดินตันไป “แดน” เพื่อนที่ไม่มีความกลัว ตลก และยังเป็นหุ่นยนต์นักเต้นรำบนฟลอร์ ที่ดูเหมือนว่าต้องการขี่ไดโนเสาร์เพื่อไล่ตามหาดวงอาทิตย์และโลกแห่งอนาคตที่ดีกว่าอยู่ตลอดเวลา”

เดลีเมลรายงานว่า คนทั้งคู่ได้แยกทางไปเมื่อกุมภาพันธ์ 2014 เนื่องมาจากระยะทางเป็นปัจจัยหลัก ถึงแม้ว่าเพื่อนของคนทั้งคู่ต่างเคยคิดว่า ในวันหนึ่งข้างหน้าทั้งเฟรดินเบิร์กและบูชจะร่วมเข้าหอลั่นระฆังวิวาห์ในอนาคต

ในเดือนเมษายน 2014 ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวประกาศการแยกทางอย่างเป็นทางการออกมา แดน เฟรดินเบิร์กเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดในเหตุการณ์หิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ที่คร่าชีวิตเชอร์ปาไป 16 คนในขณะนั้น และบูช แฟนสาวเป็นผู้ทวีตข่าวรายงานว่า แดน เฟรดินเบิร์กปลอดภัย

อย่างไรก็ตามการเสียชีวิตของเฟรดินเบิร์ก ผู้ที่แจ้งข่าวการเสียชีวิตคนแรกคือ น้องสาว เมแกน ที่ได้โพสต์ภาพแดน เฟรดินเบิร์กในขณะปีนเขา

และในวันเสาร์(25) ทีม Jagged Globe ที่เฟรดินเบิร์กได้ร่วมปีนเขาด้วยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียผู้บริหารกูเกิลรายนี้ รวมไปถึงยืนยันว่านักปีนเขาคนอื่นของทีมทั้งหมดไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บก็ตาม

“ทางทีมขอแสดงความเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทราบถึงข่าวการเสียชีวิตของ แดน เฟรดินเบิร์ก และมีสมาชิกอีก 2 คนของทีมปีนเขาเอเวอร์เรสต์ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่สาหัส จากการที่หิมะถล่มลงบริเวณเบสแคมป์ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว และตามด้วยอาฟเตอร์ช็อก แต่ทว่าเป็นที่น่าดีใจว่า เชอร์ปาและนักปีนเขาคนอื่นๆของทีมปลอดภัยอยู่ภายในเบสแคมป์ หรือใน Gorak Shep บริเวณชะง่อนเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านชาและที่พัก ซึ่งเป็นที่หลบภัยของเชอปาและนักปีนเขา ทั้งนี้ทางทีมขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของแดน เฟรดินเบิร์ก มาที่นี้”

ด้านโฆษกกองทัพเนปาลได้เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า สามารถพบร่างนักปีนเขาจำนวน 18 คนที่ถูกฝังใต้หิมะและก้อนหินในบริเวณเบส แคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์

นอกจากนี้ยังพบว่า แผ่นดินไหวทำให้เกิดหิมะถล่ม และคร่าชีวิต 8 คน และทำให้นักปีนเขาได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 30 คน และยังมีตัวเลขนักปีนเขาและเชอร์ปาที่สูญหายอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

รัฐบาลเนปาลแถลงว่ามีนักปีนเขาอยู่ที่เบสแคมป์บนเทือกเขาเอเวอร์เรสต์จำนวน 1,000 คนในขณะเกิดแผ่นดินไหว

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000047499

 

ตร.ยุ่นรวบหนุ่มใหญ่ ส่งโดรนขนกัมมันตรังสีจอดบนบ้านนายกฯ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 เม.ย. 2558 02:35


(ภาพ: AP)

เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมตัวชายผู้ก่อเหตุบังคับโดรนขนสารกัมมันตรังสี ไปจอดบนทำเนียบนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาะเบะ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว โดยเชื่อว่าเป็นการประท้วงเรื่องการเปิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นาย ยาสุโอะ ยามาโมโตะ ชาวญี่ปุ่นอายุ 40 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหลังเข้ามอบตัวเมื่อวันศุกร์ และรับสารภาพว่า เขาเป็นผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนขนาดเล็กขนสารกัมมันตรังสีปริมาณเล็กน้อย บินไปจอดบนดาดฟ้าอาคารทำเนียบนายกรัฐมนตรีในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นที่พักและที่ทำงานของนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ

ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวถูกพบเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (22 เม.ย.) โดยเป็นโดรน 4 ใบพัด ขนาดกว้างประมาณ 50 ซม. ติดตั้งกล้องขนาดเล็ก, พลุไฟ และขวดพลาสติกบรรจุผงทราย ซึ่งคาดว่าเป็นสารกัมมันตรังสี 'ซีเซียม' เอาไว้ แต่ตำรวจระบุว่า สารมีปริมาณน้อยเกินกว่าที่จะทำอันตรายต่อมนุษย์

มูลเหตุจูงใจของนายยามาโมโตะ คาดว่ามาจากการผลักดันให้เปิดโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ หลังจากญี่ปุ่นปิดโรงงานทั้งหมด 48 แห่งทั่วประเทศสืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิเมื่อปี 2011 ทำให้เกิดวิกฤติการณ์กัมมันตภาพรังสีรั่วไหล โดยนายยามาโมโตะเคลื่อนไหวเพื่อประท้วงต่อต้านนโยบายนิวเคลียร์ของรัฐบาลญี่ปุ่นมาตลอด

ตร.ยุ่นรวบหนุ่มใหญ่ ส่งโดรนขนกัมมันตรังสีจอดบนบ้านนายกฯ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เถ้าภูเขาไฟ 'คัลบูโก' ในชิลีลอยไกลถึงบราซิล ต้องยกเลิกเที่ยวบินเพิ่ม
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 26 เม.ย. 2558 04:28


ขี้เถ้าท่วมเมือง (ภาพ: REUTERS)

เถ้าถ่านจากภูเขาไฟคัลบูโก ในประเทศชิลี ลอยไปไกลจนถึงพื้นที่ทางใต้ของประเทศบราซิล ทำให้สายการบินต่างๆต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายเที่ยวบิน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เถ้าถ่านจากภูเขาไฟ 'คัลบูโก' ทางตอนใต้ของประเทศชิลี ซึ่งระเบิดอย่างรุนแรง 2 ครั้งภายในเวลา 24 ชั่วโมงเมื่อวันพุธและพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22-23 เม.ย.) ลอยไปไกลถึงพื้นที่ทางใต้ของประเทศบราซิลแล้วเมื่อวันเสาร์ (26 เม.ย.) ทำให้หลายสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินจากในบราซิลไปยังเมืองหลวงของประเทศชิลี, อาร์เจนตินาและอุรุกวัย

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้การบินของประเทศอาร์เจนตินาได้รับผลกระทบจากเถ้าถ่านของภูเขาไฟคัลบูโกมากที่สุด แต่โฆษกของสำนักงานอากาศยานพลเรือนแห่งชาติอาร์เจนตินาเผยว่า สถานการณ์กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ โดยสนามบินในกรุงบัวโนสไอเรสสามารถให้บริการได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ภูเขาไฟ คัลบูโก ในแคว้น ลอส ลากอส ถูกจัดเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่อันตรายที่สุดในหมู่ภูเขาไฟกว่า 2,000 ลูกของชิลี โดยการระเบิด 2 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งกลุ่มควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 17 กม. และทำให้เถ้าถ่านตกลงมาปกคลุมเมืองหลายแห่งที่อยู่ใกล้เคียงจนเมืองกลายเป็นสีเทา ทางการชิลีได้ปิดล้อมพื้นที่รัสมี 20 กม.รอบภูเขาไฟ และอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ปิดล้อมจำนวนกว่า 6,500 คน

เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่ชิลีอนุญาตให้ประชาชนที่ต้องอพยพหนีภัยภูเขาไฟ สามารถเดินทางกลับเข้าไปตรวจสอบบ้าน, สัตว์เลี้ยงและนำยารักษาโรคประจำตัวออกมาจากบ้านได้ เจ้าหน้าที่พบด้วยว่าบ้านเรือนและโรงเรียนจำนวนหนึ่งในเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟ คัลบูโก พังถล่ม เนื่องจากรับน้ำหนักของเถ้าถ่านไม่ไหว.

เถ้าภูเขาไฟ 'คัลบูโก' ในชิลีลอยไกลถึงบราซิล ต้องยกเลิกเที่ยวบินเพิ่ม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์