เห็นมีสมาชิกบางท่านส่วนนึง อ้างว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ไม่ใช่พุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Saber, 20 เมษายน 2015.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    [FONT=&quot]มาน37สาย สายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    เป็นอันว่าวันนี้จะขอย้ำเรื่อง เวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน
    สักนึดหนึ่งคือในเรื่อง เวทนานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน นี่เป็นเรื่อง
    ของจิตโดยตรง การเจริญพระกรรมฐาน เราฝึกกันที่จิต
    ฉะนั้นสำนักของเรานี่ย่อมเป็นที่รังเกียจของสำนักบางสำนัก
    ที่สำนักนั้นชอบฝึกกาย ใช่ไหม แล้วเวลาจะทำก็ต้องทำเครียด
    ต้องทำกันนับชั่วโมง แต่ทว่าขอพวกเราอย่าไปติสำนักนั้นๆ ว่า

    ท่านทำไม่ถูกการฝึกอารมณ์ของจิตก็สุดแล้วแต่กำลังใจของคน
    อย่างหนึ่ง หรือว่าจริยาตามปกติตามภาคพื้น โดยเฉพาะอย่าง
    ยิ่ง อาตมาถือกลุ่มเดินเป็นสำคัญ คำว่ากลุ่มเดิมนี่ก็หมายความ
    ว่า เป็นคนที่บำเพ็ญบารมีร่วมกันมาตั้งแต่อดีตชาติ ถ้าจะนับเป็น
    ชาติๆ นี่นับไม่ถ้วน เอ พวกที่นั่งป๋อหลออยู่นี่ 99 เปอร์เซ็นต์นี่
    ทีนี้อีกเปอร์เซ็นต์ไม่แน่ ใช่ไหม แล้วทำไมเป็นอย่างนั้น เอาอย่างนี้ไหม พูดกันตรงๆ ดีกว่าไหม พูดกันแบบตรงไปตรงมา
    ถ้าเราได้ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ เรา ก็จะรู้ว่าตัวเราเองเกิดมากี่

    ชาติ ระยำมาเท่าไร ดีมาเท่าไร ฉันนี่ระยำมาก แล้วคนเรากว่าจะ
    เดินเข้าไปหาความดีได้ มันต้องคบกับความชั่วก่อน ใช่ไหม

    กว่าจะรู้ความดี รู้ผลของความดีก็ต้องแวะเข้าไปคุยกับความชั่ว
    ก่อน แล้วจนกว่าจะเข้าเขตพระพุทธพยากรณ์ กว่าจะเข้าเขต


    พระพุทธพยากรณ์ได้ก็ไม่รู้ว่าผ่านมาเท่าไร พอหลังจากได้รับ

    เขตพุทธพยากรณ์แล้ว ก็ผ่าน 16 อสงไขยกันแสนกัป เล่นนับกัน
    เป็นอสงไขยกันนะ อสงไขยแปลว่านับไม่ได้ แล้วก็เอาหน่วย
    สิบ ร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน แล้วก็เติมศูนย์ท่านเรียกว่าโกฏิ เติม
    ไปอีกสามศูนย์ เรียกว่า อสงไขยกับแสนกัป นับ ชาติชาติซิพวก
    คุณ ตั้งแต่รัตน์โกสินทร์นี้ ฉันตะบันเกิดมาแล้วตั้งสี่หนนะ นี่ชาติ

    นี่ นี่พระพุทธกาลนี่ แค่หลังๆ นี่ สมัยพุทธกาลตั้งแต่สมัยเชียง
    แสน สุโขทัย อยุธยา แล้ว รัตนโกสินทร์นี่สี่ครั้ง นี่มันยังไม่ถึงอีก
    เขตหนึ่งของกัป มันไม่ใช่ในสิบของกัป เพราะเกิดขึ้นขึ้นมาตั้ง

    สิบกว่าครั้ง นี่ถ้ากัปหนึ่งเราเกิดเท่าไร เรานับเป็นอสงไขยกัป

    มันเกิดกันเท่าไรไหวไหมช่วยคิดที ไม่คิดดีกว่าปวดหัว

    เป็น อันว่า คณะของเราก็ตามกันมาเป็นระยะ ไอ้ที่หนีไปนิพพาน

    นับไม่ถ้วนแล้ว พวกนั้นขี้ขลาด สู้พวกเราไม่ได้ มีตัวอย่างที่ไหน
    วิ่งกันพรึ่บๆๆ ไอ้เรานี้ต้องมาตกระกำลำบาก มาช่วยคนโน้น
    ช่วยนี่ วิ่งนี่วิ่งนั้น เราจะกินยังเข้าไปก็ไม่ค่อยจะมี แต่ก็ยัง
    พยายามหาเลี้ยงคนอื่นใช่ไหม พวกนั้นไม่ได้ความ สู้เรา
    ไม่ได้นะ ไอ้เรามายกย่องตัวเองนะ เขารอให้ชาวบ้านเขายกเมื่อ
    ไรจะได้ยกย่องได้ยก ใช่ไหม ไม่ชมตัวเองรอชาวบ้านชม
    เมื่อ
    ไรจะได้ยกย่อง ใช่ไหม ไม่ชมตัวเองรอชาวบ้านชม เมื่อไรจะได้
    ชมก็ชมมันซะเองก็หมดเรื่อง นี่เจ้าบ้านบอกไอ้หมาขี้ ไม่มีใคร

    ไปยกหาง ไม่ตรง เวลานี้จะขี้มันบอกอะไร เหอะ ยกหางดีไม่ดีก็
    เปื้อน นี่เป็นอันว่า ท่านที่ไปนิพพานนับไม่ถ้วน

    ตอนนี้ลองสอบดูนิดหนึ่ง นี่เวลาถามว่า

    คณะ สายของข้าพระ
    พุทธเจ้ามันนี่มีกี่สายนี่ ข้างหลังบ้านออกไปนี่ ท่านบอกว่ามี 37
    สาย ถามสายหนึ่งระยะยาวเท่าไร ท่านก็บอกสองแสนโยชน์
    หรือสี่แสนโยนช์ สายน่ะมันมี 37 สาย แล้วก็ไปดูวิมานไอ้นี่สาย

    พระนิพพาน แล้วไปนี่เขาตั้งเต็มไปหมด แล้วพวกนี้จะไปอยู่ไหน
    ไม่รู้ ไม่มีที่ซิ นี้ใครอยากไปอยู่ก็มาจองไว้ จัดสรร คิดไร่ละ
    เท่าไรก็ว่ากันไป ใช่ไหม

    เป็น อันว่า 37 สายนี่ วิมานเต็มไปหมด ไม่มีพร่อง สายหนึ่ง

    ประมาณสองแสนโยชน์ ว่าจะย่องดูมานิดหนึ่ง คือว่าเรื่องของ

    เรื่องมันก็มีเด็กเขาสงสัยว่า สายมันมีกี่สาย หัวหน้าทีมสร้างบ้าน
    ใหญ่อยู่ด้านหน้า ต่อมาก็มีถนนซอยเข้าไป ที่ทางด้านของพระ
    นิพพานนี่เขาอยู่กันเป็นกลุ่มของ
    พระพุทธกัสสป อย่างพระพระ
    อะไร กกุสันโธ ท่านอยู่กลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มจัดเป็นสายข้างหลังพระ
    โกนาคมโน ท่านก็อยู่กลุ่มหนึ่ง วิมานของพระพุทธเจ้าตั้งข้าง
    หน้า บริวารก็เป็น สายอยู่ข้างหลัง พระพุทธกัสสป ท่านก็ตั้งจุด
    หนึ่งของ สมเด็จพระมหาสมณโคดม( องค์ปัจจุบัน) ก็ตั้งจุดหนึ่ง ตอนนี้ของ
    อาตมามันก็เป็นจุดแปลก จุดที่แปลกไอ้วิมานมาตั้งอยู่ในเกณฑ์
    เรียงของพระพุทธเจ้า ใหญ่ คล้ายคลึงกัน แต่สวยสู้ท่านไม่ได้


    เพราะเราไม่ใช่พระพุทธเจ้า เพราะ ฐานะที่ปรารถนาพุทธภูมิมา
    สิ้นระยะเวลา 16 อสงไขยกับแสนกัปพอดี แต่ว่าแสนกัปนี่ถ้าทน

    ไม่ไหวเลยเลยไม่เกิด เอามันแค่นี้พอ ใช่ไหม ถ้ารออีกอีก 7 ครั้ง
    ในกัปนี้แหละ ไม่ต้องรอ แล้วก็ต้องรอเป็นองค์ที่ 22 หลังจากพระ
    ศรีอริย์ โฮ้ ไปนั่งบี้ตะโพนอยู่นั้น ไม่เอาเปิดดีกว่า อีโธ่ ถ้าไม่ไหว


    กลืนไม่ลงนะ ถามเท่าไหร่ ยี่สิบสอง เฮอะ ยี่สิบสองไปนั่งเป่าปี่อยู่

    โน้น ชั้นดุสิต ตั้งยี่สิบสององค์ เมื่อไรไม่รู้ ไอ้ที่เขาคอยตั้งนาน

    บอกฉันหลีกทางให้เปิดดีกว่า เป็นอันว่าหาจุดพร่องไม่ได้ ตาม

    สายของพวกเรา แต่ว่าหาจุดพร่องไม่มี แต่ ความจริงวิมานสวย
    ไม่เต็มที่มีอยู่มากพอสำควรแต่ก็ไม่เต็มสาย ที่วิมานไม่สวยมาก
    เพราะจิตของบุคคลใดถ้ารักนิพพานวิมานจะปรากฏที่นั้น แต่
    ทว่าจิตใจของท่านผู้นั่นยังไม่ถึงอรหัตผลเพียงใดวิมานจะไม่

    สวยเต็มที่ ไอ้จิตกะวิมานมันสวยเท่ากัน ใช่ไหม เดินไปนี่จะรู้

    เป็นอันว่า วิมานนั่งคอยอยู่เพราะอะไร เพราะว่าอาตมาปรารถนา

    พุทธภูมิ อันนี้คณะที่ร่วมปฏิบัติกันมาในกาลก่อนร่วมกันมา
    ปรารถนาที่จะเป็นสาวกในสมัย นั้นในเมื่อหัวเรือใหญ่เลี้ยวเข้า
    ตามตรอกไปเสียแล้วเข้าคลองเล็ก บรรดาเรือทั้งหลายมันก็ต้อง
    เลี้ยวตาม ถ้าขืนวิ่งไปคนเดียวหลงแน่ เป็นอันว่า ฉะนั้นวิมานมัน
    ตั้งอยู่เต็ม เป็นอันว่าคนที่ติดตามมาไม่พลาดพระนิพพานนะ
    แต่ว่าพลาดในชาตินี้ ชาตินี้พลาดก็ไปจั้งโน้นศาสนา
    พระศรีอาริย์ นะไม่เหลือ เพราะโยมท่านคอยอยู่ โยมท่านดัก
    ไม่ยอมให้ไปไหนแน่
    เป็น อันว่าระหว่างนี้ใครปฏิบัติดีบ้าง ปฏิบัติชั่วบ้าง ก็เป็นของกฎ

    ของกรรมขณะใดที่กรรมที่เป็นกุศลให้ผล ขณะนั้นจิตเราก็จะ

    เป็นสุข บางครั้งกรรมที่เป็นอกุศลมันตามมาให้ผล มันก็มีความ
    วุ่นวาย

    แต่เรื่องนี้ เราจะแพ้มันในระยะเวลาตายไม่มี ไม่มีทาง




    เรา จะให้มันเฉพาะในระหว่างที่มีชีวิตมันจะทรงอยู่เท่านั้น





    ถ้าใกล้จะตายจริงๆ อาตมารับรองว่าทุกคนไม่ไร้สติ แล้วก็ไม่ไร้

    ความดีที่ปฏิบัติ เพราะอะไร ไปตรวจบ้านหมดแล้ว วันนี้ สบาย

    กลับมาตีหุ่ย เลยไม่กลับเลย ดีใจ กลับขึ้นไปนอน ความจริงนอน
    ไม่ได้ มีงานทำต่อ เพราะอะไรเพราะว่าเริ่มจะพักเลยไม่ได้พัก

    อาบน้ำเสร็จ ฉันยาเสร็จ นึกว่าจะพักสักหน่อยพอนั่ง นอนปุ๊บลง
    ไป ก็เจอะพระ แฮะ

    คัดมาบางส่วน
    หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ ของพระราชพรหมยานเล่ม 8
    หน้าที่ 170-172





    [/FONT]


     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กินยาหรือยัง ?
    อยากรู้ไปหาเอง ปล. กระทู้บินไปแล้ว หึๆ
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พุทธภูมิและพระโพธิสัตว์
    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (ยกมาจาก"พ่อสอนลูก")

    [​IMG]

    ปรารถนา พุทธภูมินี่เหนื่อย ฉันเคยเป็นพุทธภูมิมาก่อน ฉันรู้ว่าพุทธภูมิสู้ทุกอย่าง งานทุกอย่าง ถ้าลาพุทธภูมิปั๊บอารมณ์ตัด ถ้าตัดก็ไม่ได้ทิ้งงานนะ แต่อารมณ์ต่างกันแต่เสริมขึ้น อารมณ์มุ่งเข้าตัดกิเลสตรง เพราะพุทธภูมิไม่ตัดกิเลส พุทธภูมิทรงฌานมากกว่า หนักไปในเรื่องฌาน พอใช้วิปัสสนาญาณมากเข้าอารมณ์มันเบาลง มันต่างกัน

    พระโพธิสัตว์นี่ พระอรหันต์ไม่ยอมนั่งหน้านะถ้ารู้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์จริงๆ ถ้าอารมณ์เข้มปั๊บพระอรหันต์ไม่นั่งหน้า แม้พวกนั้นบวชหนึ่งวัน พระอรหันต์บวช ๑๐๐ วัน เขาไม่นั่งหน้าพระโพธิสัตว์ เขารู้ค่า

    คนที่ จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ต้องปฏิบัติเลยอรหันต์ พระสาวกปกติบำเพ็ญบารมี ๑ อสงไขยกับแสนกัปเท่านั้น พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ถ้าจิตของเขาถึงปรมัตถบารมี เขาเลยอสงไขยสองอสงไขยมาแล้วต้องเป็นอสงไขยที่ ๔ จึงจะเป็นปรมัตถบารมี

    พระโพธิสัตว์เหมือนพวกเรียนวิชาครู เรียนมาเพื่อเป็นครู จะต้องเข้มแข็ง ถ้าไปโดนศรัทธาธิกะ ต้องหวด ๘ อสงไขย ถ้าวิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขย

    ฉัน นี่วิริยาธิกะ ทำงานทุกอย่าง สบายไม่มี สาวกภูมิก็พุ่งจริตอย่างเดียว แต่สาวกภูมิสำหรับพวกฉันนี่ เป็นวิริยาธิกะหมด พวกตามเป็นวิริยาธิกะ เฉพาะลูก ๘๐,๐๐๐ กว่าแล้ว พวกไม่คิด เป็นกองทัพใหญ่เลย ถ้ายกมารวมกันนี่หลายแสน กองทัพนะ ลูกฉันน่ะมีบ้าทุกคน ตีฉิบหายหมด บ้าเหมือนพ่อมัน

    เมื่อกี้นั่งคุยกับแม่ศรี อยู่พักหนึ่ง เขาทำภาพเก่าๆคือว่า คนนี้เขาต้องดึงภาพเก่ามาให้เห็นนะเพื่อเป็นการสั่งสอนแนะนำคน โยมท่านพูด บอก

    "เออ...ลูกคุณ ลูกกับพ่อก็เหมือนกัน แม่พ่อก็แบบเดียวกัน ลูกก็แบบพ่อกับแม่"

    เราก็ไม่รู้ว่าท่านพูดว่ายังไง แม่ศรีก็ทำตาม บอก

    "ดูซิ ลูกผู้หญิง ลูกผู้ชายมันบ้าเหมือนพ่อ มันบ้าเหมือนแม่หมด"

    พ่อ แม่มันชอบรบใช่ไหม พ่อแม่คว้าดาบเข้าไป ลูกจะคว้าอีโต้ได้ไง ก็ไปตามเข้าป่าไป ก็รบกันแหลกมานาน พวกนี้จึงต้องใช้พวกวิริยาธิกะ นี่ต้องผ่านหนักทุกอย่างหมด ไม่มีอะไรเบา งานทุกอย่างเต็มไปด้วยความลำบาก

    พวก เราที่นั่งๆอยู่ที่นี่ทั้งหมด ท่านถึงพูดได้ว่าไปหมด เพราะกำลังเลย กำลังนี่เลยแล้ว แต่ว่าจุดใดจุดหนึ่งที่จะเข้าถึงมันยังขาดอยู่นิดเดียวเพราะอารมณ์ไม่ถึง ทุกอย่างมันเลยหมด มันเต็มหมด อย่างพวกเรานี่ขาดอันเดียว คือ ขาดอารมณ์ตัดสิน ทำไมจึงขาดอารมณ์ตัดสิน ขาดเพราะว่าอารมณ์เวลานั้นมันยังไม่ถึง เพราะที่ผ่านมานี่ การรบก็ดี การบริหารก็ดี มันมีกรรมบังอยู่หนุนอยู่ พอถึงจุดนั้นปั๊บตัด ๒ เดือนมันหลุดเลย ง่ายนิดเดียว ฉันรู้แล้วว่ามันง่าย

    พระโพธิสัตว์ จริงๆ เวลานี้มีเกือบแสนที่เต็มอัตรา เต็มอย่างพระศรีอาริย์น่ะ เต็มคอยคิว นั่งยิ้มอยู่ชั้นดุสิต ปรารถนาพุทธภูมิ ยังไม่พบพระพุทธเจ้าพยากรณ์ ยังไม่ถือว่ามีคติแน่นอน ต้องพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์น่ะ มีคติแน่นอน ถ้าเป็นปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีต่อไป ๔ อสงไขยกับแสนกัป ศรัทธาธิกะ ๘ อสงไขยกับแสนกัป วิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป สบายมาก อยากเป็นไหมเป็นสาวกภูมิก็พอแล้ว รีบไปดีกว่า แต่อย่าไปขัดคอกันนะ ถ้าคนที่เขามีวิสัยพุทธภูมิอยู่ก็พูดกันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

    ผู้ ปรารถนาพุทธภูมิไม่มีความเป็นพระอริยะ มีแต่ฌานโลกีย์เพื่อคุ้มครอง จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องพิสูจน์ทุกอย่าง ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาต้องรู้หมด

    หมาย ความว่า ถ้าบารมียังต่ำขั้นฌานโลกีย์ ยังคุมไม่ถึงฌานขั้นต้น ฌานก็ไม่มั่นคง ยังมีโอกาสพลาดลงอบายภูมิ ถ้ามีบารมีเป็นอุปบารมี ก็ปลอดบ้างไม่ปลอดบ้าง ถ้าเป็นปรมัตถบารมีนี่ปลอดหมด กว่าจะเลื้อยแต่ละบารมีนี่ โอ้โฮ ฉันลองดูแล้ว

    สำหรับท่านที่บำเพ็ญ ตนปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล การปรารถนาพุทธภูมิเป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการซื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้ - See more at: พุทธภูมิและพระโพธิสัตว์ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    พุทธภูมิและพระโพธิสัตว์
    โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    (ยกมาจาก"พ่อสอนลูก")

    [​IMG]

    ปรารถนา พุทธภูมินี่เหนื่อย ฉันเคยเป็นพุทธภูมิมาก่อน ฉันรู้ว่าพุทธภูมิสู้ทุกอย่าง งานทุกอย่าง ถ้าลาพุทธภูมิปั๊บอารมณ์ตัด ถ้าตัดก็ไม่ได้ทิ้งงานนะ แต่อารมณ์ต่างกันแต่เสริมขึ้น อารมณ์มุ่งเข้าตัดกิเลสตรง เพราะพุทธภูมิไม่ตัดกิเลส พุทธภูมิทรงฌานมากกว่า หนักไปในเรื่องฌาน พอใช้วิปัสสนาญาณมากเข้าอารมณ์มันเบาลง มันต่างกัน

    พระโพธิสัตว์นี่ พระอรหันต์ไม่ยอมนั่งหน้านะถ้ารู้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์จริงๆ ถ้าอารมณ์เข้มปั๊บพระอรหันต์ไม่นั่งหน้า แม้พวกนั้นบวชหนึ่งวัน พระอรหันต์บวช ๑๐๐ วัน เขาไม่นั่งหน้าพระโพธิสัตว์ เขารู้ค่า

    คนที่ จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ต้องปฏิบัติเลยอรหันต์ พระสาวกปกติบำเพ็ญบารมี ๑ อสงไขยกับแสนกัปเท่านั้น พระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ๔ อสงไขยกับแสนกัป ถ้าจิตของเขาถึงปรมัตถบารมี เขาเลยอสงไขยสองอสงไขยมาแล้วต้องเป็นอสงไขยที่ ๔ จึงจะเป็นปรมัตถบารมี

    พระโพธิสัตว์เหมือนพวกเรียนวิชาครู เรียนมาเพื่อเป็นครู จะต้องเข้มแข็ง ถ้าไปโดนศรัทธาธิกะ ต้องหวด ๘ อสงไขย ถ้าวิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขย

    ฉัน นี่วิริยาธิกะ ทำงานทุกอย่าง สบายไม่มี สาวกภูมิก็พุ่งจริตอย่างเดียว แต่สาวกภูมิสำหรับพวกฉันนี่ เป็นวิริยาธิกะหมด พวกตามเป็นวิริยาธิกะ เฉพาะลูก ๘๐,๐๐๐ กว่าแล้ว พวกไม่คิด เป็นกองทัพใหญ่เลย ถ้ายกมารวมกันนี่หลายแสน กองทัพนะ ลูกฉันน่ะมีบ้าทุกคน ตีฉิบหายหมด บ้าเหมือนพ่อมัน

    เมื่อกี้นั่งคุยกับแม่ศรี อยู่พักหนึ่ง เขาทำภาพเก่าๆคือว่า คนนี้เขาต้องดึงภาพเก่ามาให้เห็นนะเพื่อเป็นการสั่งสอนแนะนำคน โยมท่านพูด บอก

    "เออ...ลูกคุณ ลูกกับพ่อก็เหมือนกัน แม่พ่อก็แบบเดียวกัน ลูกก็แบบพ่อกับแม่"

    เราก็ไม่รู้ว่าท่านพูดว่ายังไง แม่ศรีก็ทำตาม บอก

    "ดูซิ ลูกผู้หญิง ลูกผู้ชายมันบ้าเหมือนพ่อ มันบ้าเหมือนแม่หมด"

    พ่อ แม่มันชอบรบใช่ไหม พ่อแม่คว้าดาบเข้าไป ลูกจะคว้าอีโต้ได้ไง ก็ไปตามเข้าป่าไป ก็รบกันแหลกมานาน พวกนี้จึงต้องใช้พวกวิริยาธิกะ นี่ต้องผ่านหนักทุกอย่างหมด ไม่มีอะไรเบา งานทุกอย่างเต็มไปด้วยความลำบาก

    พวก เราที่นั่งๆอยู่ที่นี่ทั้งหมด ท่านถึงพูดได้ว่าไปหมด เพราะกำลังเลย กำลังนี่เลยแล้ว แต่ว่าจุดใดจุดหนึ่งที่จะเข้าถึงมันยังขาดอยู่นิดเดียวเพราะอารมณ์ไม่ถึง ทุกอย่างมันเลยหมด มันเต็มหมด อย่างพวกเรานี่ขาดอันเดียว คือ ขาดอารมณ์ตัดสิน ทำไมจึงขาดอารมณ์ตัดสิน ขาดเพราะว่าอารมณ์เวลานั้นมันยังไม่ถึง เพราะที่ผ่านมานี่ การรบก็ดี การบริหารก็ดี มันมีกรรมบังอยู่หนุนอยู่ พอถึงจุดนั้นปั๊บตัด ๒ เดือนมันหลุดเลย ง่ายนิดเดียว ฉันรู้แล้วว่ามันง่าย

    พระโพธิสัตว์ จริงๆ เวลานี้มีเกือบแสนที่เต็มอัตรา เต็มอย่างพระศรีอาริย์น่ะ เต็มคอยคิว นั่งยิ้มอยู่ชั้นดุสิต ปรารถนาพุทธภูมิ ยังไม่พบพระพุทธเจ้าพยากรณ์ ยังไม่ถือว่ามีคติแน่นอน ต้องพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์น่ะ มีคติแน่นอน ถ้าเป็นปัญญาธิกะ ต้องบำเพ็ญบารมีต่อไป ๔ อสงไขยกับแสนกัป ศรัทธาธิกะ ๘ อสงไขยกับแสนกัป วิริยาธิกะ ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป สบายมาก อยากเป็นไหมเป็นสาวกภูมิก็พอแล้ว รีบไปดีกว่า แต่อย่าไปขัดคอกันนะ ถ้าคนที่เขามีวิสัยพุทธภูมิอยู่ก็พูดกันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

    ผู้ ปรารถนาพุทธภูมิไม่มีความเป็นพระอริยะ มีแต่ฌานโลกีย์เพื่อคุ้มครอง จะเป็นพระพุทธเจ้าต้องพิสูจน์ทุกอย่าง ตั้งแต่อเวจีขึ้นมาต้องรู้หมด

    หมาย ความว่า ถ้าบารมียังต่ำขั้นฌานโลกีย์ ยังคุมไม่ถึงฌานขั้นต้น ฌานก็ไม่มั่นคง ยังมีโอกาสพลาดลงอบายภูมิ ถ้ามีบารมีเป็นอุปบารมี ก็ปลอดบ้างไม่ปลอดบ้าง ถ้าเป็นปรมัตถบารมีนี่ปลอดหมด กว่าจะเลื้อยแต่ละบารมีนี่ โอ้โฮ ฉันลองดูแล้ว

    สำหรับท่านที่บำเพ็ญ ตนปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ ปรารถนาพุทธภูมิ ต้องสร้างกำลังใจให้ถูกต้อง มิฉะนั้นการก้าวเข้าสู่ฐานะพุทธภูมิจะไม่มีผล การปรารถนาพุทธภูมิเป็นของดี แต่จะต้องทำความรู้สึกไว้เสมอว่า เราปฏิบัตินี้เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เราต้องการซื้อสัตว์ขนสัตว์ที่มีความทุกข์ให้มีความสุข จิตจะต้องคิดอยู่เสมอว่า ทุกข์ของตนไม่มีความหมาย แต่ทุกข์ของชาวประชาทั้งหลายเป็นภาระของเรา เขาทำกำลังใจกันแบบนี้ - See more at: พุทธภูมิและพระโพธิสัตว์ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    หมาย ความว่า เราจะทุกข์แค่ไหนนั้นมันเป็นเรื่องของเรา ไม่มีความสำคัญ จิตใจของเรานั้น เราคิดว่าเราจะพ้นทุกข์ได้ เพราะว่าเราช่วยเหลือความสุขแก่บรรดาประชาชนที่มีความทุกข์ ถ้าเราเปลื้องทุกข์เขาได้ เราก็เป็นคนหมดทุกข์ เราสร้างให้เขาเป็นคนมีความสุขได้เราก็เป็นคนมีความสุข จิตใจของพระโพธิสัตว์มีอารมณ์อย่างนี้ แต่ทว่าให้เป็นไปตามบารมี

    บารมี ของพระโพธิสัตว์นั้น แม้จะเป็นการเริ่มต้นแห่งการปรารถนาพุทธภูมิ กำลังใจเต็มเปี่ยมด้วยเมตตาปรานี ก็จะมีบริษัทมาก จะมีบริวารมาก เป็นการฝึกกำลังใจของนักปฏิบัติเพื่อจะได้ซ้อมกำลังใจของเราว่ามีความหนัก แน่นเพียงใด
    นักปรารถนาพุทธภูมิจะต้องมีทั้งขันติและโสรัจจะ ขันติ อดทนต่อความยากลำบากทุกประการ เพื่อความสุขของปวงชน โสรัจจะ แม้จะกระทบกระทั่งทำให้ใจตนไม่สบายเพียงใดก็ตาม ก็ทำหน้าแช่มชื้นไว้เสมอ นี่ก้าวแรกสำหรับพุทธภูมิ และกำลังใจอีกส่วนหนึ่งที่จะเว้นไม่ได้นั่นคือ พระนิพพาน จงอย่าคิดว่าถ้าจิตเราเกาะพระนิพพานแล้วความเป็นพุทธภูมิจะหายไป ถ้ามีอารมณ์อย่างนี้ต้องถือว่า เป็นผู้มีกำลังใจต่ำ ก้าวไม่ถึงก้าวสำคัญของพุทธภูมิ

    พุทธภูมิจะต้องมีความรู้สึกอยู่เสมอ ว่าเราเป็นผู้ที่ต้องการพระนิพพาน อารมณ์ใดที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงแนะนำในด้านวิปัสสนาญาณ ต้องเกาะให้ติด และมีกำลังจิตใช้ปัญญาพิจารณาไว้เสมอ

    เพื่อความสุขของจิต เพื่อปัญญาเลิศแล้ว ก็มีจิตตั้งไว้เสมอว่า ถ้าหากจิตของเราบริสุทธิ์ผุดผ่องเมื่อไหร่ เมื่อนั้นบารมีของเรานั้นไซร้ จะเข้าเต็มเปี่ยมในขั้น พุทธวิสัย ชื่อว่า การที่เราจะเข้าพระนิพพานคนเดียว เราไม่เข้าใจ มองไว้เข้าใจว่า บุคคลใดที่มีความทุกข์ในโลกที่ยังมีความฉลาดไม่พอ บุคคลนั้นเราเองจะเป็นผู้อุ้มเขาไปสู่แดนเอกันตบรมสุขคือพระนิพพาน

    อันนี้ เป็นกำลังใจของท่านที่ปรารถนาพระโพธิญาณ. . .

    พุทธ ภูมิมีจุดดึงมาก เพราะเกี่ยวกับครู มีหน้าที่ในการเป็นครู การที่จะเป็นครูเขานี่ จะต้องลำบาก ทุกอย่างจะต้องผ่านหมด พวกพุทธภูมินี่ถ้าไม่จบกรรมฐาน ๔๐ กอง ยังไม่ไปหรอก ต้องล่อกันมาเป็นแสนชาติเลย ไม่ใช่ชาติเดียวนะ ไม่ใช่ชาติสุดท้ายก็ได้ ๔๐ ไม่ใช่ ต้องว่ากันมาเป็นแสนชาติ สังเกตดูพระพุทธเจ้า ท่านได้อภิญญามาตลอด ท่านเหาะตลอด

    เมื่อสัก ๒ - ๓ เดือนที่ผ่านมา ฉันป่วยหนัก งานของฉันก็หนักขึ้นมา จะเร่งให้มันเสร็จ ค่าใช้จ่ายสูงมาก วันนั้นก็วิตกว่า ถ้าอาการอย่างนี้ก็ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ แต่ว่างานจะคั่งค้างหรือไม่มันไม่เกี่ยวกับเรา เราอยู่เราทำ ตายก็ตายไป หมดเรื่องหมดราว ก็ปรากฏว่าวันนั้นพระท่านมา ท่านเรียกประชุมพระโพธิสัตว์ทั้งหมด แล้วท่านก็บอกว่า พระโพธิสัตว์ทุกองค์ก็ขอให้ช่วย ก็เป็นอันว่าพระศรีอาริย์ท่านร่วมด้วย

    พระ โพธิสัตว์มีเยอะนะ พระโพธิสัตว์จริงๆ เวลานี้มีเกือบแสนที่ยังติดแอ้เต็มอัตราอยู่เยอะแยะ เต็มอย่างพระศรีอาริย์น่ะ เต็มคอยคิด นั่งยิ้มอยู่ชั้นดุสิต วันที่ท่านเรียกประชุม พระโพธิสัตว์ไม่น้อยเลยนะ ขนาดเต็มที่แล้วนี่สวยจริงๆ แพรวพราวเป็นระยับ ทั้งเต็มและไม่เต็มท่านเรียกมาหมด ท่านบอก

    "ให้ช่วยกันนะ งานของฉันเอง"
    ทุกองค์ก็เลยรับ (ถ้าลูกหลานระลึกถึงและขอให้ท่านสงเคราะห์) ก็ทำได้เลย

    Credot : http://bodhisattva.name/Bodhiyana/Buddhabhumi.html - See more at: พุทธภูมิและพระโพธิสัตว์ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
     
  5. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    โพสไว้เป็นข้อมูล เพื่อจะ ตาสว่าง สำหรับบางคนที่อ้างว่า หลวงพ่อไม่ใช่พุทธภูมิ

    ^^
     
  6. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814


    :cool:({) สวัสดีครับคุณ เมื่อก่อน น่ะใช่ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ท่านลาพุทธภูมิมาเป็นสาวก ของพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านสอนคนให้ไปพระนิพพาน เหมือนท่านแล้ว ท่านมาสืบสานพระศาสนา เหมือนที่คุณ เอาคำสอนท่านมาบอกนั่นแหละครับ :cool:
     
  7. wayokasin

    wayokasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +277
    ไม่ เอา ไม่เอา...ไปดูท่านทำไม ครับ ท่านเป็นครูบาอาจารย์ ครับ... เน้นเรื่องตัวเอง นี่ จะ ขัด เกลา กิเลสให้หมด... หรือจะโปรดสอน เวไนยสัตว์ ก็ให้มันชัดที่ตนเอง อัดลงไปเลยเอาให้ชัด ๆ จะเอาทางไหนแน่ วัดใจไปเลย ครับ... ถ้า ทนไหว ก็ไป ถึง ถ้าไม่ไหว ก็ ให้หลุดพ้น เฉพาะตน ก็แค่นั้น:cool:
     
  8. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    คนเราถ้าถึงเวลา อะไรก็คงยั้งไม่อยู่ครับ แต่ถ้า ยังไม่ถึงเวลา สละ ตัวตนอย่างไร ก็ ไม่ได้อะไรเช่นกัน ผมเองไม่คิดจะสอนผู้ใดหรอกครับ แต่ว่า จะเอาประสบการมาเล่าและแลกเปลี่ยนกันเท่านั้นครับ เพราะว่า ผมเอง ยังสอนตัวเองไม่ได้ จะไปสอนคนอื่นได้อย่างไรกันเล่าท่าน
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    รู้คับ ว่าลาแล้วครับ อ่านคำเทศน์สอนท่านนี่ ถ้าไม่รู้ก็คงผิดปรกติละครับ ^^

    แต่... มีบางคน มาตั้งกระทู้ บอกว่าหลวงพ่อไม่ใช่พุทธภูมิ นะ แต่กระทู้ปลิวไปละ ไม่งั้นจะ คอมเม้นมาให้เห็นชัด ว่าเรื่องอะไรกันแน่ อิอิ ไม่ใช่เรื่องที่ท่านเข้าใจว่า เกี่ยวกับ ลาพุทธภูมิ ครับ

    ถ้าไม่ทันบางคนที่อ้างนั้น ก็จะเล่าคร่าวๆ ว่า เค้าว่าเรื่องขึ้นมาว่า หลวงพ่อบอกเค้าเอง ละก็หยิบคำเทศน์อ้างว่าเป็นของหลวงพ่อ บอกว่าหลวงพ่อเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ไม่ใช่พุทธภูมิ บล้าๆๆๆๆ โน้นนี่ อะไรแบบนี้เหมือนตัวเค้า ยกโน้นนี่มาโชว์ภูมิตัวเอง บลาๆๆโพสหลายหน้าเลยทีเดียว ละก็อ้างว่ารับรองตัวเค้าอย่างโน้นนี้ โพส ในห้อง สมาธิ โน้นนะ แต่กระทู้บินไปละครับ ^^ เสียดายไม่ได้เซฟไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 เมษายน 2015
  10. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สวัสดีครับคุณ ครับอนุโมทนาสาธุด้วยครับ สิ่งใดดี ประเสริฐ ทำไปเถอะครับ ถึงคนไม่เห็น พระผี เทวดา พรหม ท่านเล็งเห็นอยู่แล้วครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมธามิ
     
  11. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    เคยอ่านว่าท่านลา แต่ก็เห็นท่านอยู่นิพพานนะ ตอนทำพิธีเป่ายันต์เกาะเพชร
     
  12. sio191

    sio191 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +601
    ผมเองก็สงสัยครับ ผมเคยอ่านเจอนานละ สาวกบางคนบอกว่าหลวงพ่อฤาษีท่านเป็น
    นิยตโพธิสัตว์บ้าง อีกสองสามชาติจะเป็นพระพุทธเจ้าแล้วบ้าง

    ผมอยากรู้ว่าพวกนี้ไปเอาความมั่วๆนี้มาจากไหน ถ้าบำเพ็ญจนถึงขั้น นิยตโพธิสัตว์ คือโพธิสัตว์ที่ได้รับคำทำนายว่าเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่นอนแล้ว จะเปลี่ยนแปลงหรือลา ไม่ได้เด็ดขาด ญาณของพระพุทธเจ้าคือความรู้จริง จะนานกี่กัป ก็ไม่มีทางคลาดเคลื่อน
    พระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์แล้วเป็นหนึ่งไม่มีสอง (ไม่งั้นก็ถือว่าพระพุทธเจ้า ทำนายเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นจริง ทำนายไม่ถูกสิ ?)

    แต่เรื่องท่านเคยเป็นพุทธภูมินั้นผมไม่สงสัยครับ เพราะถ้าเป็นโพธิสัตว์ที่ไม่ได้รับพยากรณ์ถือว่าลาได้ไม่แปลก โมทนาครับ
     
  13. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) ถ้าสงสัย ก็ทำให้มันถึง สิออย่ามัว แต่อ้างนั่น อ้างนี่ ใครๆก็ปราถนาได้ พระโพธิสัตว์น่ะ คนที่ทำความปรานาเท่าขนโค แต่ทำให้ถึง เท่าเขาโคเท่านั้น ผมพูดอยู่บ่อยๆนะเรื่องนี้ ไปหาอ่านเอาเองไป ในพลังจิตนี่ เขาอธิบายไว้เยอะ ในเมื่อท่าน อยากจะลา พุทธภูมิ มันไปเกี่ยวอะไรคำพยากร ศึกษา หมดแล้วหรือ คำสอน ของพระพุทธเจ้าน่ะ ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันต์ แค่หัวข้อเดียว ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า มันแตกแขนงปลีกย่อย ไปอีก นับเป็นแสนๆอย่าง



    และอีกอย่าง พุทธภูมิ ถ้าบารมีไม่ใกล้เต็ม ไม่มีใครเขาลาพุทธภูมิกันหรอก เมื่อลพุทธภูมิก็ส่วนใหญ ก็จบกิจกันเป็นแถว เอาแค่ฌาณโลกีย์ ถ้ายังไม่ได้ อย่าไปพูดถึงเลย มันเป็นเรื่อง ที่ละเอียดอ่อน แม้พุทธภูมิด้วยกัน ที่กำลังใจ ไม่ใกล้เคียงกัน ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลย บารมีต้น มันก็มี หยาบ กลาง ละเอียด บารมีกลาง มันก็มี หยาบ กลาง ละเอียด บารมีปลาย ก็มีหยาบ กลาง ละเอียด ขนาด พระพุทธเจ้า ทรงพระชนอยู่ ก็มีลากัน เช่น พระมหากัจายนะ นี่แค่องค์เดียวนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...