ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ong Solfeggio

    ภาพวิดิโอล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อ 1-2 ชม. มานี้เองของวันที่ 22/04/2015 (เวลาท้องถิ่นชิลี เวลาไทย 23/04/58) - - - ภูเขาไฟ Calbuco ประเทศชิลี เกิดการปะทุและระเบิดอีกครั้งในรอบกว่า 50 ปี ภูเขาไฟลูกนี้ถือเป็น หนึ่งในสามลูก ของภูเขาไฟในประเทศชิลี ที่อยุ่ในเกณฑ์ "อันตรายและต้องเฝ้าระวัง" มากที่สุด เคยปะทุหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1972 - - -
    <iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/ofUnsIlHw4A" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://www.youtube.com/watch?v=ofUnsIlHw4A
    - - เพื่อนๆที่ติดตามโพสท์ของผม จะเห็นเหมือนผมบ้างหรือเปล่านะ ? ที่ผมเคยแสดงความคิดเห็นไว้ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับ ภาพจากกล้องเว็บแคม 24 ชม. ที่ Neumayer Station III Sout Pole บันทึก "ความผิดปกติแปลกประหลาด" ที่เกิดขึ้นอย่างเห็นชัดและรุนแรง มากกว่าช่วงเวลาก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 20-21 เม.ย. 58 (ตามที่ผม Capture และทำเป็นวิดิโออัพฯไว้ใน Link ด้านล่าง) และถ้าใครติดตามช่วงเวลาถัดไปของวันที่ 21-22 เม.ย 58 ก็จะยังปรากฎชัดเจน และเกือบๆในช่วงเวลาเดียวกัน(ผม Capture หน้าจอเก็บไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาอัพฯ เพราะที่ผ่านมามีการ "ลบ-ตัด-เปลี่ยน" หลักฐานภาพจากกล้องเว็บแคมนี้อยู่เป็นประจำ) ...ถ้า..ถ้าภาพที่เห็นมันเป็นจริง ??? มันใหญ่โตมาก มากกว่าที่เราๆท่านๆ คาดคิดไว้แต่เดิมมากทีเดียว.... ความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ 5 ถึง 6 โมงเช้า ที่ขั้วโลกใต้ สงบลง เมื่ออังคาร 21 เม.ย. ถัดจากนั้นอีกไม่ถึง 5-6 ชั่วโมง ก็มีรายงานข่าวด่วน พายุลูกใหญ่มากๆพัดเข้าชายฝั่ง นิวเซาท์เวลล์ ของออสเตรเลีย ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านแถบตะวันออกเฉียงใต้ ประสบภัยพิบัติกันทั่วถ้วน มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก และมากกว่า 2 แสนหลังคา ไม่มีไฟฟ้าใช้.... ถัดมาเวลานี้ ล่าสุดคือ ภูเขาไฟ Calbuco ประเทศชิลี หนึ่งในสามลูกของชิลี ที่อยู่ในเกณฑ์"อันตราย" เกิดระเบิดขึ้น ??? - - -
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียแป๊ก-ขีปนาวุธเสื่อม! บินต่ำกว่าบั้งไฟพญานาคซะงั้น !
    วันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 12:05:13 น.

    [​IMG]

    จากรายงานของเดลี่เมล วิดีโอแสดงภาพอันน่าขายหน้าจากการทดสอบยิงขีปนาวุธของรัสเซีย ในคลิปความยาวราวหนึ่งนาที แสดงเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ทดสอบยิงขีปนาวุธชนิด S300 ซึ่งทะยานขึ้นฟ้าไปได้ไม่กี่เมตรก็ตกลงมาอย่างน่าอนาถ

    <iframe width="540" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/-RJQ47s_rwA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://youtu.be/-RJQ47s_rwA

    จากภาพขณะที่ขีปนาวุธพุ่งขึ้นจากฐานปล่อยไม่นานก็หยุดทำงานโดยมีเสียงปะทุดังขึ้นและมีสะเก็ดจากชิ้นส่วนของจรวดแตกกระจายออก เดลีเมลอ้างว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในฐานทัพแห่งหนึ่งของรัสเซียซึ่งรายงานมิได้ระบุแน่ชัดว่าเกิดขึ้นที่ใด

    หลังจากนั้นผู้บันทึกภาพพยายามหาที่กำบังทำให้ไม่สามารถจับภาพขณะที่จรวดปะทะกับพื้นดินไว้ได้แต่สามารถได้ยินเสียงระเบิดที่ดังอย่างรุนแรงจากบันทึกนี้ ไม่กี่วินาทีต่อมาเมื่อผู้บันทึกสามารถกลับมาจับภาพได้อย่างมั่นคงอีกครั้งภาพที่ถูกบันทึกไว้ได้ก็เป็นภาพของกลุ่มควันขนาดใหญ่ซึ่งน่าจะเกิดจากการระเบิดของจรวดหลังตกกระทบกับพื้นดิน

    ภาพวิดีโอที่หลุดออกมานี้น่าจะสร้างความอับอายให้กับรัฐบาลรัสเซียไม่น้อยที่เพิ่มงบประมาณด้านการทหารกว่า33 เปอร์เซนต์ แต่คุณภาพของอาวุธไม่ได้สะท้อนมูลค่าที่ใช้ในการผลิต

    ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะใกล้เคียงกันเมื่อมีการยิงขีปนาวุธของรัสเซียรุ่น OTR-21 ในเมืองโดเนตสก์ซึ่งคาดว่าจะเป็นการยิงเพื่อโจมตีรัฐบาลยูเครนโดยกลุ่มกบฏที่ตะวันอ้างว่ารัฐบาลรัสเซียให้การหนุนหลังแต่ขีปนาวุธดังกล่าวไม่ได้พุ่งไปไกลจากฐานปล่อยจรวด และได้เกิดการระเบิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย และมีผู้นำคลิปวิดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าวมาเผยแพร่บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก แม้เจ้าหน้าที่จะปิดปากเงียบก็ตาม

    รัสเซียแป๊ก-ขีปนาวุธเสื่อม! บินต่ำกว่าบั้งไฟพญานาคซะงั้น ! (ชมคลิป) : มติชนออนไลน์
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    21 เม.ย. ไฟปริศนาลุกไหม้ข้าวของในบ้านกว่า 112 ครั้ง ในรอบ 1 เดือน เจ้าของบ้านวิงวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเข้าตรวจสอบหาสาเหตุด้วย

    [​IMG]

    วันที่ 20 เมษายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ของนายล้อม ศักดิ์หวาน อายุ 63 ปี ได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นภายในบ้านกว่า 112 ครั้ง ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า ภายในบ้านดังกล่าว ทั้งเสื้อผ้า ที่นอน เครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในห้องนอน ห้องครัว และโซฟา ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนที่เหลือญาติและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันขนย้ายมาเก็บไว้หน้าบ้าน

    จากการสอบถาม นายล้อม เจ้าของบ้านดังกล่าว เล่าทั้งน้ำตาว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ปริศนานี้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งแรกไฟได้ลุกไหม้โรงเก็บของใช้หลังบ้าน จนได้รับความเสียหาย ต่อมาก็ได้ลุกไหม้ภายในบ้านทุกวัน ตั้งแต่ที่นอน เสื้อผ้า ผ้าห่มรวมถึงกระดาษถุงพลาสติกที่อยู่ภายในบ้าน จู่ ๆ ไฟก็ลุกไหม้ แม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าไฟก็ยังไหม้ทุกวัน มาจนถึงวันนี้ แทบจะไม่มีเสื้อผ้าหรือของใช้ให้เหลือไว้ใช้แล้ว

    ทั้งนี้ ทางญาติพี่น้องจะมาช่วยเฝ้าดูสถานการณ์ให้ โดยใช้น้ำพรมเข้าไปในบ้านให้ชื้นและเตรียมถังน้ำไว้เพื่อป้องกัน เมื่อเกิดไฟไหม้อีกจะได้ช่วยดับไฟทัน แต่ก็ไม่เป็นผล ไฟก็ยังไหม้อยู่ตลอด นอกจากนี้ญาติที่มาช่วยเฝ้าเสื้อผ้าบางครั้งก็ถูกไฟไหม้บริเวณร่างกายได้รับบาดเจ็บบ้าง ซึ่งตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ตนและครอบครัวทุกข์ใจอย่างหนัก ไม่สามารถออกไปทำมาหากินได้ตามปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร้องขอหน่วยงานทางจังหวัดที่เกี่ยวข้องช่วยเข้าตรวจสอบด้วย แต่จนถึงบัดนี้ ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลหรือตรวจสอบเลย

    ในขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า ขณะที่กำลังเก็บภาพถ่ายในบ้านแค่เพียง 15 นาที ได้เกิดไฟไหม้ผ้าขนหนูที่เปียกน้ำ ถุงพลาสติก กล่องยาสามัญประจำบ้านถึง 3 ครั้ง ทั้งที่อุณหภูมิภายในบ้านวัดได้ 33 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่น่าจะเกิดไฟไหม้ขึ้นได้

    ไฟปริศนาลุกไหม้ข้าวของในบ้านกว่า 112 ครั้ง ในรอบ 1 เดือน
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปิ๊งๆๆๆ... รัสเซีย + อาร์เจนติน่า ยกเลิกใช้เงินดอลล่าร์ในการซื้อขายระหว่างสองประเทศ (ยาวนิดนึง... แต่สนุก)

    [​IMG]

    -------------
    ปิ๊งๆๆๆ.... มาอีกหละ... เป็นไรครับมิน? เสียงใครทำเหรียญตกพื้นหรือไร? มะช่ายยยย เสียงสบตาระหว่างปูตินกับกริสติน่า แห่งอาร์เจนติน่าตะหาก ไม่ได้ยินรึ? กระชุ่มกระชวยเชียวนะเฮียปูติน เล่นเอาเหล่าแม่ยกแฟนคลับเมืองไทยอุณภูมิขึ้นที่ดวงตากันหลายคนเลยนะนั่นหนะ ดูดิ… อะไรจะสวีทหวานแว๋วกันขนาดน้านนน อายุเป็นเพียงตัวเลข ฮ่าๆๆ ไปโน่นเลยนะมิน พูดเล่นครับผม เขาประสบความสำเร็จในเจรจาทางงานบ้านการเมืองกัน เราก็ยินดีด้วย ครั้นจะไม่พูดถึงปูตินเลยก็จะรู้สึกว่าเพจนี้ดูแปลกๆไปใช่ป๊ะ? คนนี้ขาดไม่ได้เลยหละ แฟนเพจเขาขอไว้ครับ อ๊ะ… มาดูข่าวกันดีกว่าว่าเขาพูดเรื่องอะไรกันบ้าง
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ปธน. Cristina Fernandez de Kirchner ของอาร์เจนตินา เดินทางมาพบปธน. Vladimir Putin ที่กรุงมอสโคว์ประเทศรัสเซีย เพื่อลงนามความร่วมมือด้านต่างๆระหว่างทั่งสองประเทศ ผู้นำทั้งสองประเทศลงนาม MOU (memorandum of understanding) ร่วมกันถึง 20 ฉบับ ว่าด้วยความร่วมมือด้านกองทัพการป้องกันประเทศ (นี่แหละที่สำคัญและทำให้อเมริกาควันออกหู) ระหว่างอาร์เจนติน่ากับรัสเซีย ความร่วมมือในการปราบปราบการลักลอบค้ายาเสพติด (แปลก… สหรัฐฯชูเรื่องการปราบปรามยาเสพติดในลาตินอเมริกามาโดยตลอดแต่ไม่เคยเห็นทำได้สักที คราวนี้อาร์เจนติน่ามาขอให้รัสเซียเข้าร่วมปราบปรามยาเสพติดแทนอเมริกาซักงั้น ตายหละหว่าไม่อยากจะพูดต่ออ่ะ) นอกจากนี้ยังมีการลงนามความร่วมมือด้าน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม พลังงาน วัฒนธรรม งานวิจัยด้านอวกาศ การลงทุน และการธนาคารด้วย
    ที่สำคัญและเห็นได้ชัดก็คือการลงทุนร่วมกันด้านพลังงาน รัสเซียลงนามกับอาร์เจนตินาในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ (เขื่อน?) สองแห่งซึ่งมูลค่าถึง $2 billion (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) (สงสารธรรมชาติจังเลย แต่เขาตัดสินใจไปแล้วนี่) ในโครงการนี้ทางธนาคาร VEB ของรัสเซียจะสนับสนุนเงินลงทุนจำนวน $1.2 billion ซึ่งจะมีบริษัทผู้รับเหมาจากอาร์เจนตินาจะได้รับส่วนแบ่งไป 35%
    ในด้านพลังงานนั้น อาร์เจนตินากับรัสเซียบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 6 แห่ง นี่ก็สำคัญสำหรับประเทศเล็กๆที่กำลังถูกมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและอังกฤษเอาเปรียบอยู่ในตอนนี้ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนนะ มันเป็นช่องทางหนึ่งในการได้มาซึ่งยูเรเนียม และพลูโตเนียม เพื่อใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ วันหนึ่งข้างหน้าอาร์เจนตินาอาจจะออกมาประกาศว่าตอนนี้มีหัวรบนิวเคลียร์หรือระเบิดนิวเคลียร์ 50-100 หัวรบก็ได้
    ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับพลังงานด้วยเช่นกันก็คือ บริษัท Gazprom ของรัสเซียได้ลงนามร่วมกับบริษัท YPF ของอาร์เจนตินาในการสำรวจและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแก๊สในอาร์เจนตินาซึ่งมีมูลค่าถึง $1 billion (ประมาณ 3.25 หมื่นล้านบาท) และ Uralmash ของรัสเซียยังจะไปลงทุนในการผลิตอุปกรณ์ในการขุดเจาะน้ำมันซึ่งมีมูลค่าในการลงทุนถึง $1.9 billion ในอาร์เจนตินาด้วย
    ปูตินกล่าวว่ารัสเซียกับอาร์เจนตินาจะมีความร่วมมือกันในทางเทคนิคด้านกองทัพด้วย โดยรัสเซียจะจะก่อสร้างระบบนำทางด้วยดาวเทียม GLONASS ในอาร์เจนตินา ปูตินกล่าวเพิ่มอีกว่า รัสเซียจะสนับสนุนอาร์เจนตินาในข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะ Malvinas (Falkland) Islands อีกด้วย (นี่ถือว่าปูตินฝากคำพูดไปถึงอังกฤษโดยตรงเลยนะ) ปูตินพูดว่า "รัสเซียขอสนับสนุนความมุ่งมั่นของอาร์เจนตินาสำหรับการเจรจาโดยตรงกับสหราชอาณาจักรเพื่อให้บรรลุข้อยุติจากความขัดแย้งเกี่ยวกับหมู่เกาะ Malvinas" (อาร์เจนตินาจะเรียกหมู่เกาะนี้ว่า "Islas Malvinas" ในขณะที่อังกฤษจะเรียกว่า "Falkland Islands" การที่ปูตินเลือกที่จะเรียกชื่อตามอาร์เจนตินานั้นแสดงให้เห็นชัดเลยว่ารัสเซียสนับสนุนอาร์เจนตินาเต็มที่) นี่แหละคือปัญหาใหญ่ที่กริสติน่า ผู้นำของอาร์เจนตินาต้องบินตรงมาหาปูติน เรื่องอื่นนั้นถือว่าเป็นผลพลอยได้และเป็นเรื่องประกอบ
    คำถามเกี่ยวกับเรื่องดาวเทียมทางกองทัพของรัสเซียที่ร่วมมันกับอาร์เจนติน่าอาจจะเกิดขึ้นว่าทำไมต้องมีเรื่องของดาวเทียมมาเกี่ยวข้องด้วย? นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้กริสตินาปวดอกมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่รู้จะหันไปหาใคร สหรัฐฯหนะหรือก็เข้าข้างอังกฤษแน่นอน และจ้องจะงาบอาร์เจนตินาอยู่มะลำมะล่ออยู่แล้ว กริสตินาจึงต้องหันมาหาปูตินนี่แหละ ปัญหาก็ว่าอาร์เจนตินาจับได้ว่ากองทัพอังกฤษในอาร์เจนตินาแอบล้วงตับรัฐบาลอาร์เจนตินานะสิ มีการดักฟังข้อมูลลับของทางการอาร์เจนตินา ทางอาร์เจนติน่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่อังกฤษก็ออกมาปฏิเสธทุกครั้ง แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ไปหาพี่ปูตินให้ช่วยสั่งสอนอังกฤษดีกว่า
    ในการพบกันของผู้นำทั้งสองประเทศในครั้งนี้ มีการลงนามร่วมกันที่มีมูลค่าในการลงทุนทั้งสิ้น $5 billion (ประมาณ 1.62 แสนล้านบาท ครึ่งหนึ่งของการลงทุนระหว่างไทย-รัสเซียที่พึ่งลงนามไปวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง) ในการเดินทางมารัสเซียในครั้งนี้ ปธน.กริสตินาฯ ให้สำภาษณ์กับ RT News ของรัสเซียว่า "การที่มีคนออกมากล่าวหารัสเซียว่าเป็นภัยคุกคามนั้น ดิฉันมองว่ามันเป็นเรื่องได้สาระ! ค่ะ" อันนี้ยิงตรงไปที่ไข่เยี่ยวม้าเลยหละ สะดุ้งหรือจามแน่ๆ
    เกือบลืมพูดถึงเรื่องการยกเลิกใช้เงินดอลลาร์ของสหรัฐฯเลย ในการลงนาม MOU ร่วมกันระหว่างผู้นำของรัสเซียกับอาร์เจนติน่านั้น มีข้อหนึ่งที่อเมริกาได้ยินแล้วต้องมีอาการนั่งไม่ติดแน่ๆ ก็คือรัสเซียกับอาร์เจนติน่าตกลงที่จะใช้สกุลเงินของทั้งสองประเทศในซื้อขายระหว่างกัน โดยไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางหรือมือที่สามซึ่งก็คือดอลลาร์ของสหรัฐฯอีกต่อไป เจ๋งเป้งเลย! ยุทธวิธียึดป่าล้อมเมือง โดดเดี่ยวดอลลาร์ฯกำลังรุกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว สหรัฐฯอยากจะเล่นสงครามเงินตรากับรัสเซียก่อนใช่ไหม? ได้… ปูตินจัดให้ตามคำขอ แล้วอย่ามางอแงทีหลังก็แล้วกัน
    มาพูดถึงเรื่องข้อพิพาทในหมู่เกาะ Malvinas/Falkland ระหว่างอาร์เจนตินากับอังกฤษซะหน่อย ปัญหานี้มีมายาวนานมาก เดิมทีนั้นอาร์เจนตินาเป็นเมืองขึ้นของสเปน หลังจากที่ได้รับเอกราชจากสเปนแบบเบ็ดเสร็จในปี 1880 (อันที่จริงมีสงครามยาวนานมาก่อนหน้านั้นอยู่หลายสิบปี เหมือนกับประเทศอื่นๆในลาตินอเมริกา) ในปี 1982 อังกฤษก็เข้ายึดหมู่เกาะ Malvinas/Falkland ต่อจากสเปน และประกาศว่าเกาะนี้เป็นดินแดนภายใต้การปกครองของอังกฤษ และอังกฤษถือว่าเป็นดินแดนนอกราชอาณาจักรของอังกฤษ อังกฤษก็ขนคนของตนและกองทัพเข้ามาประจำการอยู่บนเกาะนั้น ในปีเดียวกันนี้ทางรัฐบาลของอาร์เจนตินาก็ไม่ยอมจึงทำสงครามแย่งหมู่เกาะ Malvinas/Falkland กับอังกฤษ ผลปรากฎว่าอาร์เจนตินาแพ้สงคราม เกาะแห่งนี้จึงถูกอังกฤษยึดไปโดยปริยาย
    ต่อมาทางอาร์เจนตินาพยายามรื้อฟื้นเรื่องหมู่เกาะแห่งขึ้นมาอีก ยังไงก็ต้องเอาคืนมาเป็นของอาร์เจนตินาให้ได้ มีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสหประชาชาติ เสียงส่วนใหญ่เหมือนจะเข้าข้างอาร์เจนตินา แต่ด้วยอิทธิพลทางการเมืองของอังกฤษยูเอ็นจึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าเจรจากัน เสร็จเลย อังกฤษนั้นหัวหมอบอกว่าเอางี้สิ ให้ทำประชามติเลยดีไหม? แต่ให้ทำเฉพาะประชาชนที่อยู่บนเกาะ Malvinas/Falkland เท่านั้นนะ ไม่ใช่ทำทั้งประเทศอาร์เจนตินา ถ้าทำทั้งประเทศอังกฤษก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องแพ้แน่ๆ จึงเสนอให้ทำประชามติเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะก็พอ ซึ่งจากตัวเลขในปี 2012 พบว่าทั้งเกาะนั้นมีประชากรเพียง 2,932 คนเท่านั้น และแน่นอนทั้งเกาะเป็นของอังกฤษอยู่แล้วนี่เมื่อทำการลงประชามติในวันที่ 10-11 มี.ค. 2013 ผลปรากฎว่า 99.8% บอกว่าดินแดนแห่งนี้เป็นของอังกฤษ มันก็แหงแซะอยู่แล้ว อังกฤษจึงบอกว่ามีความชอบธรรมที่จะครอบครองเกาะแห่งนี้
    ช่วงที่มีความขัดแย้งกันนั้นทางอาร์เจนตินาบอกว่าจะซื้อเครื่องบินรบของรัสเซียไปเปิดสงครามที่เกาะแห่งนี้ และอังกฤษก็ออกมาบอกว่างั้นอังกฤษก็จะติดตั้งขีปนาวุธไว้ต่อต้านอากาศยานสอยเครื่องบินของอาร์เจนตินาเอง เรื่องนี้ก็เลยเงียบไป เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางปธน.กริสตินาของอาร์เจนตินาได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายรื้อเอกสารเก่าที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 1982 ขึ้นมาดูใหม่ให้หมดเพื่อหาทางเอาหมู่เกาะแห่งนี้กลับคืนมาให้ได้ จึงนำมาสู่การพบกับผู้นำรัสเซียในที่สุด
    ปัญหามันไม่ได้อยู่เพียงแค่เรื่องที่ดิน ที่อังกฤษจะใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาเท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆนี้บริษัทสำรวจน้ำมันของอังกฤษได้ค้นพบบ่อน้ำมันในทะเลใกล้หมู่เกาะ Malvinas/Falkland แห่งนี้ด้วย ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล คุ้มที่อังกฤษจะก่อสงครามเพื่อรักษาผลประโยชน์ตรงนั้นไว้ เรื่องโดยย่อก็เป็นมาอย่างนี้ การเจรจากับอังกฤษจะลงเอยอย่างไรนั้นก็อยู่ที่ปูตินแห่งรัสเซียแล้วหละ
    ที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งก็คือเรื่องการทำประชามติบนเกาะ Malvinas/Falkland เทียบกับกรณีของแหลมไคร์เมียนี่แหละ อังกฤษเสนอให้ทำประชามติบนเกาะที่อังกฤษยึดมาจากชาวบ้าน แล้วชนะด้วยเสียงข้างมากว่าให้หมู่เกาะแห่งนี้ตกเป็นของอังกฤษ อังกฤษบอกว่าถูกต้องและชอบธรรม แต่พอชาวไคร์เมียทำประชามติให้ว่าจะรวมไคร์เมียเข้ากับรัสเซียหรือไม่ เมื่อเสียงฝั่งที่ต้องการให้รวมไคร์เมียเข้ากับรัสเซียชนะถึง 96% ทางสหรัฐฯ อียูซึ่งก็รวมทั้งอังกฤษด้วยบอกว่าไม่ถูกต้อง ไม่ยอมรับ และไม่ชอบธรรมซะงั้น ตอนที่อังกฤษชนะประชามติในเกาะ Malvinas/Falkland อังกฤษก็ยกทัพเข้าไปอยู่บนเกาะแห่งนั้น
    พอฝ่ายที่นิยมรัสเซียชนะด้วยเสียงข้างมากในไคร์เมีย รัสเซียก็นำกองกำลังทหารเข้าประจำการในไคร์เมียทันทีป้องกันสหรัฐฯและอียูเข้ายึดแทน ฝ่ายสหรัฐฯและอียูกลับบอกว่ารัสเซียไปยึดไคร์เมียเฉยเลย แล้่วก็นำมาสู่การรวมหัวกันแซงชั่นรัสเซียในที่สุด นี่แหละคือมาตรฐานของสหรัฐฯและอียู เรื่องตลกฝืดสองมาตรฐานแบบนี้มีปรากฎให้เห็นอยู่เรื่อยๆ รอดูว่าถ้าอังกฤษยังดื้นอยู่อย่างนี้ ยูเครนจะเสียโดเนทส์กกับลูฮานส์กและเมืองอื่นๆในยูเครนที่นิยมรัสเซียให้รัสเซียหรือแยกเป็นอิสระจากยูเครนในไม่ช้า และในอังกฤษเองก็เริ่มจะมีกลิ่นตุๆว่าพวกสก็อตแลนด์กำลังปลุกกระแสแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรขึ้นมาอีกรอบแล้ว
    The Eyes
    24/04/2558
    ----------
    TASS: Russia - Putin, de Kirchner to sign statement on comprehensive strategic partnership
    http://rt.com/bus…/252417-russia-argentina-local-currencies/
    Russia and Argentina Sign Energy Deals Worth Billions / Sputnik International
    Kirchner Says Seeing Russia as Threat to Global Security ‘Absurd’ / Sputnik International
    Argentina Opens New Chapter in Relationship With Russia / Sputnik International
    London Confident Falkland Islands Belong to UK – Foreign Office / Sputnik International
    http://en.wikipedia.org/…/Falkland_Islands_sovereignty_refe…
    Falkland Islands - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "บิ๊กตู่"เล็งถกฝ่าย กม.จัดหนัก ขรก.ทุจริต หมวด: การเมือง

    [​IMG]

    นายกฯ แจงใช้ ม.44 ลุยลงโทษ ขรก.ทุจริตไม่ได้ แค่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจค้น-สืบสวน แล้วนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เล็งถก ครม.-ฝ่าย กม.พิจารณาโทษคนโกง ด้าน "วิษณุ"ย้ำเปิดตำแหน่งใหม่รองรับระดับบิ๊กแน่ จ่อลากระดับ "นาย"ร่วมรับโทษ วันพฤหัสที่ 23 เมษายน 2558 เวลา 16:38 น.
    คำสำคัญ: บิ๊กตู่ เล็งถก ฝ่าย กม. จัดหนัก ขรก.ทุจริต
    เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า ตนได้อ่านหนังสือพิมพ์บางฉบับ ระบุว่านายกฯใช้มาตรา 44 ลุยลงโทษเรื่องทุจริต ซึ่งไม่ถูกต้อง ตนจะไปใช้มาตรา 44 ลุยลงโทษไม่ได้ แต่มาตรา 44 คือให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตรวจค้น จับกุม สืบสวน ในกรณีที่เป็นความผิด ซึ่งที่ผ่านมานั้นเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าที่จะทำ หรือทำแล้วหยุดชะงัก เพราะอาจไปเจอใคร หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่วันนี้ตนสั่งให้ทำให้เรียบร้อย และนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เรื่องของความผิดที่ให้ความสนใจกันว่าจะต้องไล่ออกเท่าไหร่นั้น ตนคิดว่ามันไม่สร้างสรรค์เท่าไหร่ แต่ต้องการสรุปว่า ก่อน 22 พ.ค. 2557 มีคดีสำคัญกี่คดี และอยู่ในขั้นตอนไหน ตนจะนำมาดูและพิจารณากับ ครม.หรือฝ่ายกฎหมาย ว่ารายไหนที่มันหนัก แล้วจะทำอย่างไร ถ้าอยู่ในหน้าที่แล้วจะมีผลต่อการสืบสวนหรือไม่ ถ้าไม่มี กระทรวงก็ตั้งกรรมการสอบสวนไป ซึ่งเท่าที่ได้ดูทุกกระทรวงนั้นมีรายชื่ออยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาทำได้ช้า จึงได้เร่งรัดไป
    ทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รายชื่อข้าราชการใน 100 คนที่พัวพันการทุจริต ที่ส่งให้นายกฯ นั้น บางรายยังไม่มีความชัดเจนในความผิดตามที่เสนอ จึงได้ส่งให้เลขาธิการ ป.ป.ท.ไปตรวจสอบเพิ่มเติม เพราะคนเหล่านี้บางทีทำผิดมาตั้งแต่ต้น พอผ่านมาหลายปีก็ต้องมาดูกันใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่มีการดำเนินการ อาจจะเป็นเพราะคนเป็นนายไม่ได้ดูแล ดังนั้นก็ต้องเล่นงานนายด้วย เท่าที่เจอกรณีแบบนี้มีไม่มาก แต่ก็ต้องดูต่อไปอีก อาจจะมีมากขึ้นก็ได้ ที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้มีการดำเนินการจริง แต่อาจล่าช้า ถ้าช้าโดยมีคนทำให้ช้า ก็ต้องเล่นงานคนที่ทำให้ช้าด้วย สำหรับตำแหน่งใหม่ที่จะต้องเปิดรองรับการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงนั้น ยืนยันว่าต้องมีเปิดตำแหน่งใหม่แน่นอน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดกี่ตำแหน่ง ตนให้แนวทางไปแล้วว่าถ้ารายเล็ก รายน้อยคงไม่ต้องไปเปิดตำแหน่งใหม่ เพราะสามารถโยกย้ายสลับกันในกระทรวงได้ แต่ถ้าเป็นข้าราชการระดับอาวุโส เช่น ซี 10 หรือ 11 คงหมุนในกระทรวงไม่ได้ ต้องเอาออกไปที่อื่น ในลักษณะไปช่วยราชการเหมือนกระทรวงสาธารณสุข และให้คนอื่นรักษาการแทน หรือจะให้ย้ายขาดเลย เรื่องนี้ต้องมาคิดอีกที.
    "บิ๊กตู่"เล็งถกฝ่าย กม.จัดหนัก ขรก.ทุจริต | เดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลากไส้คนมท.โกงกิน
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 24 เม.ย. 2558 06:05

    [​IMG]

    เป็นอดีตผวจ.4ราย ฝ่ายปกครองอีก111 ทุจริตช่วยภัยพิบัติ
    เผยผู้อยู่ในข่ายถูกนายกฯลงดาบฟันเรื่อง “ทุจริต” ในส่วนกระทรวงมหาดไทย มีอดีต ผวจ. 4 จังหวัด ส่วนใน 115 ราย พัวพันเกี่ยวข้องกับการทุจริต งบฉุกเฉินช่วยเหลือภัยพิบัติ และภัยการแพร่ระบาดของศัตรูพืช ช่วงปี 2554-2555 มีทั้ง ผวจ. รอง ผวจ. ปลัดจังหวัด นายอำเภอเอี่ยวด้วย ด้าน ป.ป.ช.รับลูกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชแพงเกินจริง
    รัฐบาลเดินหน้าเอาจริงผู้ทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เข้าพบที่ทำเนียบฯเมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย. ว่า เป็นการเข้ามาชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ที่ก่อนหน้านี้ให้เลขาธิการ ป.ป.ท.กลับไปหาข้อมูลมาเพิ่ม เนื่องจากเห็นว่ามีข้าราชการบางคน ใน 100 รายชื่อพัวพันการทุจริตที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีมานั้น ยังไม่มีความชัดเจนในความผิดตามที่เสนอมา ตนได้ส่งรายชื่อข้าราชการใน 100 คนชุดใหม่ ให้เลขาธิการ ป.ป.ท.กลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาชี้แจงใหม่อีก เพราะคนเหล่านี้บางทีต้องมาดูว่าผ่านมาหลายปีเกิดอะไรขึ้น ทำไมที่ผ่านมาไม่มีการดำเนินการ อาจจะเป็นที่นายของเขาที่ไม่ดูแล ถ้าเป็นอย่างนี้ ต้องเล่นงานนายด้วย ไม่ใช่คนที่ถูกร้องเท่านั้น แต่กรณีแบบนี้ขณะนี้มีไม่มาก แต่เมื่อดูต่อไปอีกอาจจะมีมากขึ้นก็ได้
    “เราต้องเอาคนเหล่านี้ออกมา เพราะถ้าช้าเพราะมีคนทำให้ช้าหรือช้าเพราะนายช่วยลูกน้อง ก็ต้องเล่นงานนายคนที่ทำให้ช้าด้วย ไม่ใช่มาเล่นงานคนที่ถูกร้อง มันจะเป็นการย้ายที่ไม่เป็นธรรม เพราะบางทีเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลย หรือบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำตัวเองถูกสอบ” นายวิษณุกล่าวและว่า สำหรับตำแหน่งใหม่ที่จะต้องเปิดรองรับการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง จากการตรวจสอบการทุจริตที่จะมีใหม่อีก ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดกี่ตำแหน่ง แต่เปิดแน่ ข้าราชการระดับอาวุโส ผู้ใหญ่มากๆ ซี 10 ซี 11 มันหมุนไม่ได้แล้วในกระทรวง ต้องเอาออกมาที่อื่น โดยจะเป็นลักษณะเอาออกมาช่วยราชการ เหมือนกระทรวงสาธารณสุข และให้คนอื่นรักษาการแทน หรือจะให้ออกมาขาดเลย แล้วตัวจริงจะได้ขึ้นก็ต้องมาคิดหน่อย เรื่องนี้คงไม่ยุ่ง แต่มันเยอะ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายชื่อข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 115 รายที่มีพฤติกรรมทุจริต จากนายกรัฐมนตรี โดยมีข้าราชการระดับ 10 จำนวน 4 รายนั้น ประกอบด้วย 1.อดีต ผวจ.ชัยภูมิ และอุบลราชธานี 2.อดีต ผวจ.อำนาจเจริญและอุดรธานี 3.อดีต ผวจ.เลยและชัยภูมิ 4.อดีต ผวจ.บึงกาฬและเลย ทั้งนี้ 3 ใน 4 ราย ปัจจุบันเป็นผู้บริหารในส่วนกลางกระทรวงมหาดไทย และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย อีก 1 ราย เกษียณอายุราชการไปแล้ว ขณะที่ทั้ง 115 ราย เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบฉุกเฉินช่วยเหลือภัยพิบัติ และภัยการแพร่ระบาดของศัตรูพืช ในช่วงปี 2554-2555 ที่พบว่าประกาศภัยพิบัติโดยไม่มีภัยพิบัติเกิดขึ้นจริง มีการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืชราคาแพงเกินจริง กระบวนการเปิดและประกาศภัยรวมถึงจัดซื้อ เป็นอำนาจของคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับจังหวัด (กชพ.จ.) และคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับอำเภอ (กชพ.อ.) ดังนั้น ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย จึงมีผู้ติดร่างแหเป็นจำนวนมากกว่า 100 คน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ซึ่งเป็นเลขานุการ กชพ.อ.ด้วย และพัฒนาการจังหวัด
    ด้านนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการจัดซื้อปุ๋ยและยาปราบศัตรูพืชราคาแพงเกินจริงในหลายจังหวัดว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการไต่สวนอยู่ โดยผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นระดับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ป.ป.ช.กำลังขอข้อมูลจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกระทรวงมหาดไทยเพิ่มเติม โดยจะเร่งดำเนินการหากมีข้อมูลชัดเจน อาจจะส่งรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาต่อไป
    สายวันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ สอบถามความคืบหน้าการตรวจสอบคดีที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอและ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยา บุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติโฮมสเตย์ฟิออเร่ ปาร์ก ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
    ขณะที่นางสุวณาเปิดเผยว่า การตรวจสอบกรณีการบุกรุกที่ดินของอดีตอธิบดีดีเอสไอและครอบครัวนั้น ดีเอสไอได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลควบคุมหรือรับผิดชอบพื้นที่เพื่อให้ตรวจสอบแล้ว ส่วนจะรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น เนื่องจากความผิดนี้ไม่ได้อยู่ในบัญชีแนบท้ายการสอบสวนคดีพิเศษ จะต้องนำเสนอคณะอนุกรรมการคดีพิเศษ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พิจารณา
    ลากไส้คนมท.โกงกิน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'วิษณุ' เตรียมหวด ขรก.ทุจริตลากโยงถึงนายที่ให้ท้าย
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 23 เม.ย. 2558 17:59

    [​IMG]

    "วิษณุ" ขู่เล่นงาน ขรก.พัวพันการทุจริต ยันอาจต้องเปิดตำแหน่งใหม่รองรับ พร้อมเผยส่งชื่อกลับไปให้เลขาฯ ป.ป.ท.หาหลักฐานเพิ่ม หลังพบความผิดยังไม่ชัดตามความผิดที่เสนอมา ลั่นงานนี้หากสาวถึงนาย โดนด้วย ไม่ใช่แค่ ขรก.ที่ถูกร้องเท่านั้น...
    เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เข้าพบที่ทำเนียบฯ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า เป็นการเข้ามาชี้แจงหลักฐานพยานเพิ่มเติม ที่ก่อนหน้านี้ตนได้ให้เลขาธิการ ป.ป.ท. กลับไปหาข้อมูลมาเพิ่ม เนื่องจากเห็นว่า มีข้าราชการบางคนใน 100 รายชื่อพัวพันการทุจริตที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีความชัดเจนในความผิดตามที่เสนอมา เป็นการกลับมาชี้แจงใหม่ และตนก็ได้ส่งรายชื่อข้าราชการใน 100 คน ให้เลขาธิการ ป.ป.ท. กลับไปตรวจสอบเพิ่มเติมอีกชุดอีก เพราะคนเหล่านี้บางทีทำผิดมาตั้งแต่ต้น พอผ่านมาหลายปีก็ต้องมาดูกันใหม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมที่ผ่านมาจึงไม่มีการดำเนินการ อาจเป็นเพราะว่านายเขาอาจไม่ได้ดูแล อาจเป็นที่นาย ดังนั้น ก็ต้องเล่นงานนายด้วย ซึ่งเท่าที่เจอกรณีแบบนี้มีไม่มาก แต่ก็ต้องดูต่อไปอีก อาจจะมีมากขึ้นก็ได้
    "ที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้มีการดำเนินการจริง แต่อาจมีความล่าช้า และนี่คือเหตุผลที่เราต้องเอาคนเหล่านี้ออกมา บางทีถ้าช้าโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ผิด อยู่ดีๆ จะไปย้ายเขา มันจะไม่เป็นธรรม แต่ถ้าช้าโดยมีคนทำให้ช้า ก็ต้องเล่นงานคนที่ทำให้ช้าด้วย ถ้าช้าเพราะนายมาช่วยลูกน้อง จนทำให้ช้า ก็ต้องเล่นงานนาย ไม่ใช่มาเล่นงานคนที่ถูกร้อง นี่คือส่ิงที่ผมให้ไปตรวจสอบว่ามันช้าเพราะอะไร ซึ่งก็พบว่าบางรายช้าเพราะเจ้าตัวไปนั่งทับอยู่ แต่บางรายเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลย บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกสอบ ที่มันเป็นปัญหาว่าช้าหรือไม่ช้าก็เพราะหลายเรื่อง เราไม่รู้ว่ามันเกิดมาตั้งแต่เมื่อไร" นายวิษณุ กล่าว
    รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับตำแหน่งใหม่ที่จะต้องเปิดรองรับการโยกย้ายข้าราชการระดับสูง จากการตรวจสอบการทุจริตที่จะมีใหม่อีก ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปิดกี่ตำแหน่ง แต่เปิดแน่ และให้แนวทางไปแล้วว่า ถ้ารายเล็กรายน้อยไม่ต้องไปเปิด เพราะสามารถสลับกันในกระทรวงได้ เป็นข้าราชการเด็กๆ ซีน้อยๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นข้าราชการระดับอาวุโส ผู้ใหญ่มากๆ ซี 10 ซี 11 มันหมุนไม่ได้แล้วในกระทรวง ก็ต้องเอาออกมาที่อื่น โดยจะเป็นลักษณะเอาออกมาช่วยราชการ เหมือนกระทรวงสาธารณสุข และให้คนอื่นรักษาการแทน หรือจะให้ออกมาขาดเลย แล้วตัวจริงจะได้ขึ้นก็ต้องมาคิดหน่อย เรื่องนี้คงไม่ยุ่ง แต่ว่ามันเยอะ.
    'วิษณุ' เตรียมหวด ขรก.ทุจริตลากโยงถึงนายที่ให้ท้าย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปิ๊งๆๆๆ... รัสเซีย + อาร์เจนติน่า ยกเลิกใช้เงินดอลล่าร์ในการซื้อขายระหว่างสองประเทศ (ยาวนิดนึง... แต่สนุก)

    [​IMG]

    -------------
    ปิ๊งๆๆๆ.... มาอีกหละ... เป็นไรครับมิน? เสียงใครทำเหรียญตกพื้นหรือไร? มะช่ายยยย เสียงสบตาระหว่างปูตินกับกริสติน่า แห่งอาร์เจนติน่าตะหาก ไม่ได้ยินรึ? กระชุ่มกระชวยเชียวนะเฮียปูติน เล่นเอาเหล่าแม่ยกแฟนคลับเมืองไทยอุณภูมิขึ้นที่ดวงตากันหลายคนเลยนะนั่นหนะ ดูดิ… อะไรจะสวีทหวานแว๋วกันขนาดน้านนน อายุเป็นเพียงตัวเลข ฮ่าๆๆ ไปโน่นเลยนะมิน พูดเล่นครับผม เขาประสบความสำเร็จในเจรจาทางงานบ้านการเมืองกัน เราก็ยินดีด้วย ครั้นจะไม่พูดถึงปูตินเลยก็จะรู้สึกว่าเพจนี้ดูแปลกๆไปใช่ป๊ะ? คนนี้ขาดไม่ได้เลยหละ แฟนเพจเขาขอไว้ครับ อ๊ะ… มาดูข่าวกันดีกว่าว่าเขาพูดเรื่องอะไรกันบ้าง
    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ปธน. Cristina Fernandez de Kirchner ของอาร์เจนตินา เดินทางมาพบปธน. Vladimir Putin ที่กรุงมอสโคว์ประเทศรัสเซีย เพื่อลงนามความร่วมมือด้านต่างๆระหว่างทั่งสองประเทศ ผู้นำทั้งสองประเทศลงนาม MOU (memorandum of understanding) ร่วมกันถึง 20 ฉบับ ว่าด้วยความร่วมมือด้านกองทัพการป้องกันประเทศ (นี่แหละที่สำคัญและทำให้อเมริกาควันออกหู) ระหว่างอาร์เจนติน่ากับรัสเซีย ความร่วมมือในการปราบปราบการลักลอบค้ายาเสพติด (แปลก… สหรัฐฯชูเรื่องการปราบปรามยาเสพติดในลาตินอเมริกามาโดยตลอดแต่ไม่เคยเห็นทำได้สักที คราวนี้อาร์เจนติน่ามาขอให้รัสเซียเข้าร่วมปราบปรามยาเสพติดแทนอเมริกาซักงั้น ตายหละหว่าไม่อยากจะพูดต่ออ่ะ) นอกจากนี้ยังมีการลงนามความร่วมมือด้าน อุตสาหกรรม เกษตรกรรม พลังงาน วัฒนธรรม งานวิจัยด้านอวกาศ การลงทุน และการธนาคารด้วย
    ที่สำคัญและเห็นได้ชัดก็คือการลงทุนร่วมกันด้านพลังงาน รัสเซียลงนามกับอาร์เจนตินาในการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ (เขื่อน?) สองแห่งซึ่งมูลค่าถึง $2 billion (ประมาณ 6.5 หมื่นล้านบาท) (สงสารธรรมชาติจังเลย แต่เขาตัดสินใจไปแล้วนี่) ในโครงการนี้ทางธนาคาร VEB ของรัสเซียจะสนับสนุนเงินลงทุนจำนวน $1.2 billion ซึ่งจะมีบริษัทผู้รับเหมาจากอาร์เจนตินาจะได้รับส่วนแบ่งไป 35%
    ในด้านพลังงานนั้น อาร์เจนตินากับรัสเซียบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ 6 แห่ง นี่ก็สำคัญสำหรับประเทศเล็กๆที่กำลังถูกมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและอังกฤษเอาเปรียบอยู่ในตอนนี้ อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนนะ มันเป็นช่องทางหนึ่งในการได้มาซึ่งยูเรเนียม และพลูโตเนียม เพื่อใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ วันหนึ่งข้างหน้าอาร์เจนตินาอาจจะออกมาประกาศว่าตอนนี้มีหัวรบนิวเคลียร์หรือระเบิดนิวเคลียร์ 50-100 หัวรบก็ได้
    ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับพลังงานด้วยเช่นกันก็คือ บริษัท Gazprom ของรัสเซียได้ลงนามร่วมกับบริษัท YPF ของอาร์เจนตินาในการสำรวจและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมแก๊สในอาร์เจนตินาซึ่งมีมูลค่าถึง $1 billion (ประมาณ 3.25 หมื่นล้านบาท) และ Uralmash ของรัสเซียยังจะไปลงทุนในการผลิตอุปกรณ์ในการขุดเจาะน้ำมันซึ่งมีมูลค่าในการลงทุนถึง $1.9 billion ในอาร์เจนตินาด้วย
    ปูตินกล่าวว่ารัสเซียกับอาร์เจนตินาจะมีความร่วมมือกันในทางเทคนิคด้านกองทัพด้วย โดยรัสเซียจะจะก่อสร้างระบบนำทางด้วยดาวเทียม GLONASS ในอาร์เจนตินา ปูตินกล่าวเพิ่มอีกว่า รัสเซียจะสนับสนุนอาร์เจนตินาในข้อพิพาทเกี่ยวกับหมู่เกาะ Malvinas (Falkland) Islands อีกด้วย (นี่ถือว่าปูตินฝากคำพูดไปถึงอังกฤษโดยตรงเลยนะ) ปูตินพูดว่า "รัสเซียขอสนับสนุนความมุ่งมั่นของอาร์เจนตินาสำหรับการเจรจาโดยตรงกับสหราชอาณาจักรเพื่อให้บรรลุข้อยุติจากความขัดแย้งเกี่ยวกับหมู่เกาะ Malvinas" (อาร์เจนตินาจะเรียกหมู่เกาะนี้ว่า "Islas Malvinas" ในขณะที่อังกฤษจะเรียกว่า "Falkland Islands" การที่ปูตินเลือกที่จะเรียกชื่อตามอาร์เจนตินานั้นแสดงให้เห็นชัดเลยว่ารัสเซียสนับสนุนอาร์เจนตินาเต็มที่) นี่แหละคือปัญหาใหญ่ที่กริสติน่า ผู้นำของอาร์เจนตินาต้องบินตรงมาหาปูติน เรื่องอื่นนั้นถือว่าเป็นผลพลอยได้และเป็นเรื่องประกอบ
    คำถามเกี่ยวกับเรื่องดาวเทียมทางกองทัพของรัสเซียที่ร่วมมันกับอาร์เจนติน่าอาจจะเกิดขึ้นว่าทำไมต้องมีเรื่องของดาวเทียมมาเกี่ยวข้องด้วย? นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้กริสตินาปวดอกมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่รู้จะหันไปหาใคร สหรัฐฯหนะหรือก็เข้าข้างอังกฤษแน่นอน และจ้องจะงาบอาร์เจนตินาอยู่มะลำมะล่ออยู่แล้ว กริสตินาจึงต้องหันมาหาปูตินนี่แหละ ปัญหาก็ว่าอาร์เจนตินาจับได้ว่ากองทัพอังกฤษในอาร์เจนตินาแอบล้วงตับรัฐบาลอาร์เจนตินานะสิ มีการดักฟังข้อมูลลับของทางการอาร์เจนตินา ทางอาร์เจนติน่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่อังกฤษก็ออกมาปฏิเสธทุกครั้ง แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ไปหาพี่ปูตินให้ช่วยสั่งสอนอังกฤษดีกว่า
    ในการพบกันของผู้นำทั้งสองประเทศในครั้งนี้ มีการลงนามร่วมกันที่มีมูลค่าในการลงทุนทั้งสิ้น $5 billion (ประมาณ 1.62 แสนล้านบาท ครึ่งหนึ่งของการลงทุนระหว่างไทย-รัสเซียที่พึ่งลงนามไปวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง) ในการเดินทางมารัสเซียในครั้งนี้ ปธน.กริสตินาฯ ให้สำภาษณ์กับ RT News ของรัสเซียว่า "การที่มีคนออกมากล่าวหารัสเซียว่าเป็นภัยคุกคามนั้น ดิฉันมองว่ามันเป็นเรื่องได้สาระ! ค่ะ" อันนี้ยิงตรงไปที่ไข่เยี่ยวม้าเลยหละ สะดุ้งหรือจามแน่ๆ
    เกือบลืมพูดถึงเรื่องการยกเลิกใช้เงินดอลลาร์ของสหรัฐฯเลย ในการลงนาม MOU ร่วมกันระหว่างผู้นำของรัสเซียกับอาร์เจนติน่านั้น มีข้อหนึ่งที่อเมริกาได้ยินแล้วต้องมีอาการนั่งไม่ติดแน่ๆ ก็คือรัสเซียกับอาร์เจนติน่าตกลงที่จะใช้สกุลเงินของทั้งสองประเทศในซื้อขายระหว่างกัน โดยไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลางหรือมือที่สามซึ่งก็คือดอลลาร์ของสหรัฐฯอีกต่อไป เจ๋งเป้งเลย! ยุทธวิธียึดป่าล้อมเมือง โดดเดี่ยวดอลลาร์ฯกำลังรุกหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว สหรัฐฯอยากจะเล่นสงครามเงินตรากับรัสเซียก่อนใช่ไหม? ได้… ปูตินจัดให้ตามคำขอ แล้วอย่ามางอแงทีหลังก็แล้วกัน
    มาพูดถึงเรื่องข้อพิพาทในหมู่เกาะ Malvinas/Falkland ระหว่างอาร์เจนตินากับอังกฤษซะหน่อย ปัญหานี้มีมายาวนานมาก เดิมทีนั้นอาร์เจนตินาเป็นเมืองขึ้นของสเปน หลังจากที่ได้รับเอกราชจากสเปนแบบเบ็ดเสร็จในปี 1880 (อันที่จริงมีสงครามยาวนานมาก่อนหน้านั้นอยู่หลายสิบปี เหมือนกับประเทศอื่นๆในลาตินอเมริกา) ในปี 1982 อังกฤษก็เข้ายึดหมู่เกาะ Malvinas/Falkland ต่อจากสเปน และประกาศว่าเกาะนี้เป็นดินแดนภายใต้การปกครองของอังกฤษ และอังกฤษถือว่าเป็นดินแดนนอกราชอาณาจักรของอังกฤษ อังกฤษก็ขนคนของตนและกองทัพเข้ามาประจำการอยู่บนเกาะนั้น ในปีเดียวกันนี้ทางรัฐบาลของอาร์เจนตินาก็ไม่ยอมจึงทำสงครามแย่งหมู่เกาะ Malvinas/Falkland กับอังกฤษ ผลปรากฎว่าอาร์เจนตินาแพ้สงคราม เกาะแห่งนี้จึงถูกอังกฤษยึดไปโดยปริยาย
    ต่อมาทางอาร์เจนตินาพยายามรื้อฟื้นเรื่องหมู่เกาะแห่งขึ้นมาอีก ยังไงก็ต้องเอาคืนมาเป็นของอาร์เจนตินาให้ได้ มีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสหประชาชาติ เสียงส่วนใหญ่เหมือนจะเข้าข้างอาร์เจนตินา แต่ด้วยอิทธิพลทางการเมืองของอังกฤษยูเอ็นจึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าเจรจากัน เสร็จเลย อังกฤษนั้นหัวหมอบอกว่าเอางี้สิ ให้ทำประชามติเลยดีไหม? แต่ให้ทำเฉพาะประชาชนที่อยู่บนเกาะ Malvinas/Falkland เท่านั้นนะ ไม่ใช่ทำทั้งประเทศอาร์เจนตินา ถ้าทำทั้งประเทศอังกฤษก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองจะต้องแพ้แน่ๆ จึงเสนอให้ทำประชามติเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่บนเกาะก็พอ ซึ่งจากตัวเลขในปี 2012 พบว่าทั้งเกาะนั้นมีประชากรเพียง 2,932 คนเท่านั้น และแน่นอนทั้งเกาะเป็นของอังกฤษอยู่แล้วนี่เมื่อทำการลงประชามติในวันที่ 10-11 มี.ค. 2013 ผลปรากฎว่า 99.8% บอกว่าดินแดนแห่งนี้เป็นของอังกฤษ มันก็แหงแซะอยู่แล้ว อังกฤษจึงบอกว่ามีความชอบธรรมที่จะครอบครองเกาะแห่งนี้
    ช่วงที่มีความขัดแย้งกันนั้นทางอาร์เจนตินาบอกว่าจะซื้อเครื่องบินรบของรัสเซียไปเปิดสงครามที่เกาะแห่งนี้ และอังกฤษก็ออกมาบอกว่างั้นอังกฤษก็จะติดตั้งขีปนาวุธไว้ต่อต้านอากาศยานสอยเครื่องบินของอาร์เจนตินาเอง เรื่องนี้ก็เลยเงียบไป เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางปธน.กริสตินาของอาร์เจนตินาได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายรื้อเอกสารเก่าที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 1982 ขึ้นมาดูใหม่ให้หมดเพื่อหาทางเอาหมู่เกาะแห่งนี้กลับคืนมาให้ได้ จึงนำมาสู่การพบกับผู้นำรัสเซียในที่สุด
    ปัญหามันไม่ได้อยู่เพียงแค่เรื่องที่ดิน ที่อังกฤษจะใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาเท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆนี้บริษัทสำรวจน้ำมันของอังกฤษได้ค้นพบบ่อน้ำมันในทะเลใกล้หมู่เกาะ Malvinas/Falkland แห่งนี้ด้วย ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล คุ้มที่อังกฤษจะก่อสงครามเพื่อรักษาผลประโยชน์ตรงนั้นไว้ เรื่องโดยย่อก็เป็นมาอย่างนี้ การเจรจากับอังกฤษจะลงเอยอย่างไรนั้นก็อยู่ที่ปูตินแห่งรัสเซียแล้วหละ
    ที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งก็คือเรื่องการทำประชามติบนเกาะ Malvinas/Falkland เทียบกับกรณีของแหลมไคร์เมียนี่แหละ อังกฤษเสนอให้ทำประชามติบนเกาะที่อังกฤษยึดมาจากชาวบ้าน แล้วชนะด้วยเสียงข้างมากว่าให้หมู่เกาะแห่งนี้ตกเป็นของอังกฤษ อังกฤษบอกว่าถูกต้องและชอบธรรม แต่พอชาวไคร์เมียทำประชามติให้ว่าจะรวมไคร์เมียเข้ากับรัสเซียหรือไม่ เมื่อเสียงฝั่งที่ต้องการให้รวมไคร์เมียเข้ากับรัสเซียชนะถึง 96% ทางสหรัฐฯ อียูซึ่งก็รวมทั้งอังกฤษด้วยบอกว่าไม่ถูกต้อง ไม่ยอมรับ และไม่ชอบธรรมซะงั้น ตอนที่อังกฤษชนะประชามติในเกาะ Malvinas/Falkland อังกฤษก็ยกทัพเข้าไปอยู่บนเกาะแห่งนั้น
    พอฝ่ายที่นิยมรัสเซียชนะด้วยเสียงข้างมากในไคร์เมีย รัสเซียก็นำกองกำลังทหารเข้าประจำการในไคร์เมียทันทีป้องกันสหรัฐฯและอียูเข้ายึดแทน ฝ่ายสหรัฐฯและอียูกลับบอกว่ารัสเซียไปยึดไคร์เมียเฉยเลย แล้่วก็นำมาสู่การรวมหัวกันแซงชั่นรัสเซียในที่สุด นี่แหละคือมาตรฐานของสหรัฐฯและอียู เรื่องตลกฝืดสองมาตรฐานแบบนี้มีปรากฎให้เห็นอยู่เรื่อยๆ รอดูว่าถ้าอังกฤษยังดื้นอยู่อย่างนี้ ยูเครนจะเสียโดเนทส์กกับลูฮานส์กและเมืองอื่นๆในยูเครนที่นิยมรัสเซียให้รัสเซียหรือแยกเป็นอิสระจากยูเครนในไม่ช้า และในอังกฤษเองก็เริ่มจะมีกลิ่นตุๆว่าพวกสก็อตแลนด์กำลังปลุกกระแสแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรขึ้นมาอีกรอบแล้ว
    The Eyes
    24/04/2558
    ----------
    TASS: Russia - Putin, de Kirchner to sign statement on comprehensive strategic partnership
    http://rt.com/bus…/252417-russia-argentina-local-currencies/
    Russia and Argentina Sign Energy Deals Worth Billions / Sputnik International
    Kirchner Says Seeing Russia as Threat to Global Security ‘Absurd’ / Sputnik International
    Argentina Opens New Chapter in Relationship With Russia / Sputnik International
    London Confident Falkland Islands Belong to UK – Foreign Office / Sputnik International
    http://en.wikipedia.org/…/Falkland_Islands_sovereignty_refe…
    Falkland Islands - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จับตาทะเลจีนใต้สนามรบอีกแห่ง : ญี่ปุ่นเตรียมหนุนด้านกำลังทหารให้กับสหรัฐฯในพื้นที่พาททะเลจีนใต้

    [​IMG]

    -------------
    สงครามซีเรียกำลังเงียบ สงครามอิรัคเริ่มสงบหลังจากที่อิหร่านกับฮิชบอลเลาะห์เข้าร่วมปราบปรามไอซิสแทนสหรัฐฯ ต่อมาก็สงครามยูเครนตะวันออกลง ตามด้วยเกิดสงครามเยเมน และก็จบลงแล้วแต่ยังไม่สงบร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วสหรัฐฯจะก่อสงครามที่ไหนต่ออีกเพื่อขายอาวุธสงครามค่อไป ตอนแรกเล็งที่เวเนซูเอล่า แต่โดนลาตินอเมริกาขวางซะก่อน คราวนี้ก็ยุให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต้ให้ได้อีก และล่าสุดก็พยายามดึงญี่ปุ่นและฟิลิปินส์ให้มีความขัดแย้งกับจีนมากขึ้นในพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ ทายซิว่าระหว่างสนามรบสองแห่งนี้ ที่ไหนจะเกิดก่อนกัน... ถ้าไม่เกิดได้หนะดี สาธุ อย่าได้เกิดสงครามกันอีกเลย แต่จะห้ามอเมริกาได้รึ?
    วันนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ของญี่ปุ่นกำลังจะเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาของญี่ปุ่นเพื่ออนุญาตให้ญี่ปุ่นสามารถขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองได้มากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าญี่ปุ่นกำลังจะถลำลึกเข้าสู่ความขัดแย้งกับจีนในพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้มากขึ้นเรื่อยๆ
    หากกฎหมายดังกล่าวผ่านสภาของญี่ปุ่น อาจจะทำให้กรุงโตเกียวให้การสนับสนุนสหรัฐฯในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้แต่เป็นด้านโลจิกสติกแทนในพื้นที่พิพาทเหนือพื้นที่โดยรอบญี่ปุ่น ซึ่งจะรวมถึงการสนับสนุนด้านเชื้อเพลิงและกระสุนให้แก่เรือรบของอเมริกาที่ไหนก็ได้ หากญี่ปุ่นเห็นความเสี่ยงเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเอง
    นักวิเคราะห์บางคนมองว่าไม่ว่าสหรัฐฯหรือญี่ปุ่นต่างก็ไม่สามารถอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ที่มีการแก่งแย่งกันสูงนั้นได้ แต่ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ (เช่นกัน) ถูกล็อกไว้ในพื้นที่พิพาทกับจีน หมายความว่าฟิลิปปินส์จะเรียกร้องให้สหรัฐฯเข้ามาปกป้องกรุงมะนิลาในกรณีที่เกิดการโจมตี
    เจ้าหน้าที่ทหารของฟิลิปินส์ให้สำภาษณ์กับรอยเตอร์สว่าฟิลิปินส์ให้การสนับสนุนความพยายามของญี่ปุ่นในการขยายปฏิบัติการในพื้นพิพาทภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ (เอาหละสิ... ปินส์หนอปินส์ ชอบจริงจริ๊งความขัดแย้งกันนี่) พื้นที่พิพาทกันนี้คาดว่าเต็มไปด้วยพลังงานและมีมูลค่าทางยุทธศาสตร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าราว $5 trillion จากการค้าขายทางเรือที่แล่นผ่านน่านน้ำนี้ในแต่ละปี
    ฝ่ายนักวิเคราะห์จากญี่ปุ่นมองว่า หากจีนกับฟิลิปส์เกิดกระทบกระทั่งกันขึ้นมาในพื้นที่พิพาทกัน แน่นอนว่าฟิลิปปินส์จะต้องส่งสัญญาณของความช่วยเหลือจากพันธมิตรของตอนคือสหรัฐฯทันที (ก็แน่หละ สหรัฐฯวางแผนไว้อย่างนั้นอยู่แล้วนี่) และถ้าสหรัฐฯออกมาขอความช่วยเหลือทางด้านทหารจากญี่ปุ่น ถึงตอนนั้นญี่ปุ่นจะทำอย่างไร? ทางกองทัพของญี่ปุ่นบอกแต่เพียงว่าไม่สามารถถกเถียงล่วงหน้าถึงสถานการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ (ตายหละจะรอให้มันเกิดขึ้นซะก่อนใช่ไหมถึงจะมาอภิปรายกัน?)
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน กับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นเข้าหารือกันระดับทวิภาคีนอกรอบในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-แอฟริกา ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย การพูดคุยกันดังกล่าวใช้เวลาประมาณ 30 นาทีต่อมานายกฯญี่ปุ่นบอกกับนักข่าวว่าเป็นการพบปะกันที่สร้างสรรค์ ไม่มีรายละเอียดอะไรมากไปกว่านี้ ไม่รู้ว่าได้มีการคุยถึงเรื่องข้อขัดแย้งกันในทะเลจีนใต้กับเรื่องดึงญี่ปุ่นมาร่วมในธนาคาร AIIB กับจีนด้วยหรือไม่
    ก่อนที่อาเบะจะเข้าร่วมประชุมที่อินโดฯนั้น ก็ได้ส่งเครื่องสักการะดวงวิญญาณทหารไปที่ศาลเจ้ายาสุคุนิ ใจกลางกรุงโตเกียวด้วย และในวันเดียวกันที่ผู้ทั้งสองกำลังปรึกษาหารือกันพวกส.ว.ของญี่ปุ่นจำนวน 106 คนร่วมกันเดินทางไปยังศาลเจ้าดังกล่าวอ้างว่าเพื่อไปสักการะดวงวิญญาณเหล่าทหารกล้าของญี่ปุ่น ในวันเดียวกันนี้เอง นางเอริโกะ ยามาทานิ รมว.กระทรวงบริหารและจัดการภัยพิบัติของญี่ปุ่น ก็เดินทางไปที่ศาลเจ้าแห่งนั้นด้วยเหตุผลเดียวกันอีก เอาเข้าไปญี่ปุ่น มันจะอะไรกันนักหนา
    การที่นักการเมืองญี่ปุ่นพากันเล่นเรื่องไปสักการะศาลเจ้ายาสุคุนินี้ ทำให้จีนกับเกาหลีใต้แสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะจีนและเกาหลีใต้มองว่านั่นคือสัญลักาณ์ของลัทธินิยมทหารของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง (เรืื่องนี้รู้สึกจะเคยเล่าให้ฟังแล้วรอบหนึ่งนะ)
    ปรกติแล้วผู้ที่รักสันตินั้นจะแสวงหาทางออกของความขัดแย้งระหว่างกันด้วยการเจรจา แทนการใช้กำลัง แต่ในสมัยนี้วิธีการของสหรัฐฯที่เน้นใช้กำลังเป็นหลักนั้นช่างแตกต่างจากรัสเซียกับจีนโดยสิ้นเชิง ใครที่คบกับสหรัฐฯก็มักจะได้รับอิทธิพลนั้นไปด้วยเสมอ และสุดท้ายแล้ว ก็พบว่าตัวเองเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของสหรัฐฯเท่านั้นเอง
    ลองดู 2 ภาพสุดท้ายดูว่าตอนนี้สหรัฐฯมีฐานทัพอยู่นอกประเทศตนเองมากขนาดไหน อันแรกสหรัฐฯและอังกฤษมีฐานทัพอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลกมากที่สุด ส่วนภาพที่สองแสดงให้เห็นถึงฐานทัพและสถานที่ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯในเอเซียที่พยายามปิดล้อมจีน อย่างที่กำลังพยายามปิดล้อมรัสเซียจากทางยุโรปตะวันอออกอยู่ในขณะนี้ นอกจากพื้นที่ทางทะเลแล้ว ถ้าเป็นบนบกที่ไม่ติดทะเล และถือว่าเป็นภัยคุกคามจีนได้มากที่สุดก็คือ "ธิเบต" เป็นพื้นที่ๆกว้างใหญ่กว่าเนปลา ภูฏานและบังคลาเทศซะอีก ถ้าสหรัฐฯสามารถทำให้ธิเบตเป็นอิสระจากจีนได้เมื่อไร นั่นหมายความว่าสหรัฐฯจะสามารถเข้าไปตั้งฐานทัพของตัวเองในธิเบตได้ทันที คราวนี้แหละสหรัฐฯสามารถจะหันหัวรบไปทั้งทางจีนและอีเดียได้ในเวลาเดียวกัน
    The Eyes
    24/04/2558
    ----------
    Japan Plans to Aid US Military in Disputed South China Sea / Sputnik International
    Abe Pays Tribute to War Dead Ahead of Asia Summit / Sputnik International
    Military Maps | Mother Jones
    http://www.motherjones.com/…/america-still-has-hundreds-mil…
    http://en.wikipedia.org/…/List_of_United_States_military_ba…
    https://www.google.com/maps/d/viewer…
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2015
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ยุทธการยั่วยุรัสเซียร่วมก่อสงครามในยูเครนกำลงจะเริ่มอีกรอบ

    [​IMG]

    -------------
    รัฐบาลยูเครนภายใต้การชักใยของสหรัฐฯยังไม่ละความพยายามที่จะดึงยูเครนเข้าร่วมนาโต้ให้ได้ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.58) ปธน.เปโตร โปโรเชนโก (Petro Poroshenko) ของยูเครนออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศสช่อง iTele ว่า "ผมคิดว่ามันอยู่ที่ประชาชนชาวยูเครนที่จะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับนาโต้หรือไม่ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาพื้นฐานเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยของประเทศ ผมเชื่อว่าผมจะจัดให้มีการลงประชามติในประเทศของผม และประชาชนของผมก็จะได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้"
    เมื่อปลายปีที่แล้ว ยูเครนได้ยกเลิกสถานะที่ไม่สอดคล้องของประเทศ (หมายถึงพยายามแก้กฎหมายบางอย่่างที่เอื้อต่อการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต้) ยูเครนยืนยันเจตนาที่จะเข้าร่วมกับนาโต้ให้ได้ ตามคำพูดของโปโรเชนโก้ (ก่อหน้านี้) นั้น การทำประชามติเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกของนาโต้จะจัดให้มีขึ้นภายใน 6 ปี ก่อนหน้านี้โปโรเชนโก้ออกมาสร้างกระแสเข้าร่วมนาโต้หลังจากการเจรจาที่กรุงมินส์ก ประเทศเบลารุส ทางรัสเซียได้ออกมาคัดค้านแนวความคิดดังกล่าวอย่างหนักแน่น ต่อมามหาอำนาจในอียูอย่างฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมันก็ออกมากล่าวว่าไม่เห็นด้วยที่จะให้ยูเครนเข้าร่วมกับนาโต้
    เพราะอะไร? นั่นหมายถึงชนวนสงครามในยุโรปตะวันออกแน่ๆ อียูก็รู้ว่าสหรัฐฯพยายามสร้างสงครามกับรัสเซียขึ้นในยุโรป โดยให้ยุโรปกับรัสเซียถล่มกันเองสหรัฐฯก็คอยแจม และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในภายหลัง ถ้ายูเครนเข้าร่วมกับนาโต้ สหรัฐฯก็สามารถเข้าไปตั้งฐานทัพของตนโดยใช้ยี่ห้อนาโต้บังหน้าในยูเครนได้สบาย การทำอย่างนั้นยิ่งจะทำให้ฝ่ายรัสเซียมองว่ากำลังถูกคุกคามด้านความมั่นคง เพราะสหรัฐฯสามารถนำกองทัพของตัวเองเข้าประชิดชายแดนของรัสเซียได้มากขึ้นเรื่อยๆ นี่เท่ากับเป็นการปิดประตูตีแมวชัดๆ ดังนั้นรัสเซียจึงคัดค้านแผนนี้ของยูเครน (และสหรัฐฯ)
    นี่ถือว่าเป็นการหยั่งเสียงของประชาชนชาวยูเครนและดูท่าทีของรัสเซียอีกรอบ เพื่อดูซิว่ารัสเซียจะมีปฏิกิริยาทางกองทัพต่อกรณีนี้อย่างไรบ้าง ถ้ารัสเซียขยับกองทัพเข้าใกล้ชายแดนยูเครนเมื่อไร สหรัฐฯก็มีข้ออ้างว่ารัสเซียกำลังคุกคามยูเครนอย่างที่เคยกล่าวหามาแล้ว และก็จะใช้เป็นเหตุผลในการทำให้อียูลงมติแซงชั่นรัสเซียต่อไปได้อีกรอบ เท่าที่ติดตามข่าวจากฝั่งยูเครนมานี่ยังไม่เห็นโปโรเชนให้สัมภาษณ์กับสื่อฯว่าจะพัฒนาหรือปฏิรูปประเทศยูเครนอย่างไรบ้าง หรือจะลดความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านได้อย่างไรบ้างเลยนะ มุ่งแต่จะสร้างสงครามท่าเดียว อุตสาหกรรมสงครามนี่มันมีผลดีต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจริงๆนะ ถ้ามีสงครามราคาน้ำมันก็จะขึ้น ถ้าสงครามยุติราคาน้ำมันก็จะลงอย่างตอนนี้พอซาอุดิฯประกาศเลิกโจมตีเยเมนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับร่วงซะงั้น แบบนี้ไม่ดีกับสหรัฐฯแน่ๆ มีหรือที่สหรัฐฯจะยอมให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป ต้องหาเรื่องให้เกิดสงครามขึ้นมาอีกให้ได้
    แล้วฝรั่งเศสหละว่าไง... ต่อกรณีนี้? นักการเมืองฝรั่งเศสออกมาแสดงความเสียใจ (regret) ที่โปโรเชนโกพยายามจะซื้ออาวุธจากยุโรป อ้าว! ไง๋เป็นงั้นอ่ะ? ไม่ดีรึที่จะขายอาวุธสงครามได้? จะดีได้อย่างไรหละก็รัสเซียฮึ่มๆใส่อยู่นั่นหนะ รัสเซียอุตส่าห์ยื่นมือให้อียูจับมือกันเพื่อทำการค้าขายร่วมกัน แต่อียูจะยื่นอาวุธให้ยูเครนมาถล่มรัสเซีย และสร้างสงครามหน้าบ้านอียูนี่นะ ขืนทำอย่างนั้นตามที่ยูเครนต้องการก็นับว่าความฉลาดของอียูถอยหลังลงคลองเข้าไปทุกวันหละ
    เมื่อวานนี้ Anastasia Levchenko นักการเมืองของฝรั่งเศสออกมากล่าวกับสื่อฯว่า "ฝรั่งเศสรู้สึกหดหู่ใจเหลือเกินที่กรุงเคียฟกำลังหาทางซื้ออาวุธจากยุโรปในขณะที่ยังพัวพันอยู่ในความขัดแย้งด้านอาวุธกับผู้ให้การสนับสนุนอิสระในตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ"
    Aymeric Chauprade สมาชิกรัฐสภาของยุโรปกล่าวว่า "เราหวังว่าฝรั่งเศสจะรักษาทัศนคติที่สมดุลกันของตัวเองไว้ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ และเราพยามมองหาข้อตกลงที่ดีและสมเหตุผลกับนายโปโรเชนโก แม้ว่าเราจะรู้สึกผิดหวังว่านายโปโรเชนโกยังพยายามที่จะซื้ออาวุธจากยุโรป"
    การแถลงข่าวเหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างที่โปโรเชนโกเดินทางไปพบกับผู้นำของฝรั่งเศสที่ประเทศฝรั่ง โดยทางโปโรเชนโกบอกว่ายูเครนจะไม่ร้องขอการสนับสนุนอาวุธร้ายแรงจากฝรั่งเศสในช่วงนี้และอนาคตอันใกล้ นี่มาขู่ฝรั่งเศสถึงที่เป็นนัยๆว่างั้นเถอะ แต่ก็พยายามยั่วน้ำลายชาติอียูประเทศอื่นๆให้รีบคว้าโอกาสทองในการทำกำไรจากการขายอาวุธให้ยูเครนเอาไว้ มันต้องดูที่ท่าทีของฝรั่งเศส เยอรมัน และอังกฤษด้วยว่าจะไฟเขียวหรือไฟแดง แผนเอาขนมหวานหลอกเด็กแบบนี้ไม่ได้ผลกับฝรั่งเศสหรอก แต่ประเทศอื่นที่กำลังหิวเงินอยู่อาจจะไม่แน่ อียูอาจจะเสียงแตกก็ได้
    ที่บอกว่าสหรัฐฯกำลังจะก่อชนวนสงครามให้เกิดขึ้นในยูเครนนั้นไม่ใช่เฉพาะเรื่องดึงยูเครนเข้านาโต้เพียงอย่างเดียวนะ ตอนนี้ทั้งสหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ ต่างก็ส่งกองทัพของตนเข้าฝึกทหารนีโอนาซียูเครนเป็นอย่างมาก เพราะยกแรกแพ้นักรบ NAF ราบคาบอย่างไม่เป็นท่า (NAF : Novorossiya Armed Forces ชื่อเต็มก็คือ "United Armed Forces of Novorossiya" หมายถึงกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในโดเนทส์กและลูฮานส์กในยูเครนตะวันออกนิยมรัสเซีย ที่ทางยูเครนและสื่อฯตะวันตกเรียกว่ากบฎนั่นแหละ)
    แถมให้อีกนิด... ในการพบกันระหว่างโปโรเชนโกกับออลลองด์ (Francois Hollande) ที่ฝรั่งเศสในครั้งนี้ทางผู้นำฝรั่งเศสออกมากล่าวว่า ฝรั่งเศสจะให้สัตยาบันข้อตกลงสมาคมสหภาพยุโรปกับยูเครนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การตัดสินใจไม่เห็นด้วยกับการลงนามข้อตกลงการเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2013 โดยประธานาธิบดี Viktor Yanukovych ของยูเครนในสมัยนั้นนำมาซึ่งการประท้วงเผาบ้านเผาเมืองที่ไมดานในกรุงเคียฟและมีการปฏิวัติยึดอำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ปี2014 ปธน. Viktor Yanukovych ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่รัสเซีย ต่อมาสหรัฐฯและอียูก็จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ขึ้นมาในยูเครน และได้โปโรเชนโกเป็นปธน.คนปัจจุบัน
    ก่อนหน้านี้หลังจากที่ถูกรัสเซียคัดค้านอย่างหนักเกี่ยวกับการเข้าร่วมอียูของยูเครน ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ของยูเครนจะเข้าร่วมกับอียูให้ได้ ฝ่ายที่นิยมรัสเซียนั้นไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วมกับอียู (หมายถึงโดเนทส์กกับลูฮานส์ก) จึงขอแยกตัวออกมาปกครองตนเองต่างหาก ทางรัฐบาลกลางยูเครนนิยมตะวันตกภายใต้การชักใยของสหรัฐฯไม่ยอมให้แยก จึงเกิดสงครามขึ้นที่ยูเครนตะวันออก เมื่อสถานการณ์บานปลายไปมาก ทางอียูเห็นว่าท่าจะไม่ดีซะแล้วจึงพักแผนนี้ไว้ก่อน คราวนี้มาอีกแล้ว ฝรั่งเศสเริ่มสะกิดแผลเก่าขึ้นมาอีกแล้ว ต่อกรณีนี้ทางรัสเซียยังเงียบๆอยู่ ต้องจับตาดูกันต่อไป ถ้าอียูกับยูเครนยังดื้อ อย่าหวังว่าจะใช้การแซงชั่นบีบรัสเซียได้อีก เพราะตอนนี้เศรษฐกิจรัสเซียกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ มีมิตรเพิ่มมากขึ้น แม้จะอยู่ภายใต้การแซงชั่นจากสหรัฐและอียูก็ตาม
    ว่าจะเล่าการเคลื่อนไหวในทะเลจีนใต้ให้ฟังซะหน่อย หมดเนื้อที่ซะแล้ว ขอยกไปไว้ในโพสต์หน้าละกันน้อ จะได้มองภาพออกว่าสหรัฐฯ กำลังก่อสงครามไปทั่วโลกอย่างไรบ้าง
    The Eyes
    23/04/2558
    ----------
    France Regrets Poroshenko Attempts to Buy European Weapons – Politician / Sputnik International
    Poroshenko Set to Hold Referendum on Joining NATO / Sputnik International
    Japan Plans to Aid US Military in Disputed South China Sea / Sputnik International
    http://en.wikipedia.org/…/United_Armed_Forces_of_Novorossiya
    France to Ratify Association Agreement With Ukraine in Few Months / Sputnik International
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ซาอุดิฯ ส่งพาหนะทางทหารให้กองทัพเลบานอน 98 คัน
    -------------
    เริ่มมีกลิ่นแปลกๆโชยมาอีกแล้ว เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาฝรั่งเศสพึ่งจะส่งอาวุธล็อตใหญ่ให้เลบานอน เมื่อวานนี้ก็มีข่าวอย่างเป็นทางการรายงานมาอีกว่าทางซาอุดิฯส่งพาหนะทางทหารให้กลาโหมของเลบานหลังจากที่ซาอุดิฯประกาศหยุดโจมตีเยเมน รมว.กลาโหมของเลบานอนออกมากล่าวกับสื่อฯว่า "ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของให้สนับสนุนด้านกองทัพจากซาอุดิฯ อุปกรณ์ทางทหารรุ่นใหม่ได้ส่งมาให้เลบานอนที่ท่าเรือ Beirut ราชอาณาจักร (ซาอุดิฯ) ได้ส่งรถ Land Rover Defender (pickup) สำหรับใช้ต่อสู้จำนวน 98 คันมาให้กองทัพเลบานอน" รายงานข่าวจากสำนักข่าว RIA Novosti ของรัสเซีย (เจ้าของ sputnik news ภาคภาษาอังกฤษ) ซาอุดิฯ ทุ่มเงิน $3 billion (ประมาณ 9.7 หมื่นล้านบาท) ในการซื้ออาวุธจากฝรั่งเศสให้กับเลบานอน
    ปัดโธ่ก็นึกว่า รถถัง รถหุ้มเกราะ Stryker หรืออย่างน้อยก็ ฮัมวี่ติดปืนกลซะอีก ที่แท้ก็ปิ๊กอัพแลนด์โรเวอร์ตกรุ่นตั้งแต่ยุค 90 นี่นะ มาตรฐานใกล้เคียงกับรถปิ๊กอัพญี่ปุ่นที่พวกไอซิสใช้เลยนะนี่นั่นหนะ แลนด์โรลเวอร์นี่ซาอุดิฯก็ซื้อมาจากสหรัฐฯพอเบื่อใช้งานหรือตกรุ่นแล้วก็ส่งไปเลบานอนต่อ จุดนี้มองให้ดี มองให้ลึก ไม่น่าจะใช่ซาอุดิฯ หันมาตีซี้กับกองทัพเลบานอนหรอกนะ ภายนอกอาจจะดูว่าเป็นอย่างนั้น แต่ซาอุดิฯเกรงกลัวนั้นไม่กองทัพของรัฐบาลกลางเลบานอนแน่ๆ แต่เป็นกลุ่มฮิชบอลเลาะห์ ที่ตอนนี้มีเก้าอี้อยู่ในฝรั่งรัฐบาลผสมของเลบานอนด้วย กองกำลังของฮิชบอลเลาะห์นั้นไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาลกลาง และมีประสิทธิภาพทั้งด้านอาวุธและกำลังพลในการรบด้วย
    เมื่อเร็วๆนี้ทางฮิชบอลเลาะห์ก็พึ่งออกมาบอกเองว่าจะส่งกองทัพเข้าช่วยเยเมนขับไล่ผู้รุกราน หมายถึงกองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯ แม้ว่าสหรัฐฯจะให้ UNSC ออกคำสั่งห้ามสนับสนุนอาวุธให้เยเมน แต่ถ้าฮิชบอลเลาะห์จะเข้าไปช่วยเยเมน (ฮูติ) ซะอย่างใครจะห้ามได้ ฮิชบอลเลาะห์อาจจะใช้ข้ออ้างว่าเข้าไปปราบปรามพวกผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าในเยเมนก็ได้ ซึ่งสหรัฐฯเถียงไม่ออกแน่ แผนการสร้างความแตกแยกภายในเลบานอนระหว่างกองทัพของรัฐบาลกลางกับกลุ่มฮิชบอลเลาะห์โดยซาอุดิฯ นั้นก็น่าจับตาเหมือนกัน วันใดที่สหรัฐฯและซาอุดิฯมีความมั่นใจว่ากองทัพของรัฐบาลกลางของเลบานอนเริ่มจะมีศักยภาพเหนือกว่ากลุ่มฮิชบอลเลาะห์ สหรัฐฯอาจจะบอกว่าฮิชบอลเลาะห์คือผู้ก่อการร้ายขึ้นมาดื้อเลย แล้วก็ประกาศสงครามถล่มเลบานอนตัดเสี้ยนหนามของอิสราเอลอ้างว่าเพื่อปราบปรามฮิชบอลเลาะห์ก็ได้
    เพราะตอนนี้สถานการณ์ทางการเมืองภายในเลบานอนเองก็ไม่นิ่ง มีปัญหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งปธน.เมื่อปีที่แล้ว มีผ่ายที่แพ้ออกมาประท้วงให้จัดการเลือกตั้งใหม่อีก ซึ่งรัฐบาลก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีกมายี่สิบกว่าครั้งแล้ว เห็นว่าจะจัดอีกครั้งก็ราวปี 2017 โน่น จุดมุ่งหมายก็เพื่อจะโค่นอำนาจของปธน.คนปัจจุบันที่ครองตำแหน่งมาถึง 6 ปีแล้ว แต่จากการเลือกตั้งปีที่แล้ว พรรคของปธน.คนปัจจุบันก็ชนะได้เสียงส่วนมากอีก แต่ไม่ใช่แบบถล่มทะลาย ยังต้องอาศัยพรรคอื่นในการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกันอยู่ดี ก็คล้ายกับที่เกิดขึ้นในอิสราเอลนั่นเอง
    The Eyes
    23/04/2558
    ----------
    Lebanese Army Receives 98 Military Vehicles From Saudi Arabia / Sputnik International
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 23 เม.ย.58 ซาอุฯ ขอเยเมนอย่ารุกราน มาเจรจากันเถอะนะ พลีส
    หลังจากประกาศยุติการโจมตีทางอากาศต่อเยเมน ที่มีมา 1 เดือน นายอเดล อัล-จูเบอีร์ เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า หากรัฐบาลฮูธี แห่งเยเมน หรือแนวร่วมมีความเคลื่อนไหวเพื่อรุกรานดินแดนซาอุฯ อีก
    จะถูกตอบโต้ด้วยการใช้กำลังเข้าสกัดกั้น และหวังว่ากลุ่มฮูธีจะยอมเข้าสู่การเจรจาในเยเมน ซาอุดีอาระเบีย ยืนกรานว่า ความขัดแย้งในเยเมน ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการทางทหาร และต้องหาทางออกด้วยกระบวนการทางการเมือง
    ---------------------------->
    อ้าว..งงไหมนั่น ?? ไอ้ที่ใช้กำลังทหารโจมตีมาแรมเดือนนั่นซาอุฯ กระทำรุกรานต่อเยเมนนะ โดยส่งเครื่องบินข้ามแดนไปทิ้งระเบิดตูมๆ และยิงปืนใหญ่จากเรือ ใส่เมืองท่าของเยเมน โดยพุ่งเป้าไปที่สาธารณูปโภค ตามคำสั่งชี้เป้าของอเมริกา
    เมื่อทำลายของดีๆ จนหมด ก็เพื่อให้อเมริกามาต่อรอง ขอปันอำนาจ เป็นรัฐบาลผสม แล้วให้ IMF มาบังคับปล่อยกู้เยเมน เพื่อให้บริษัทอิลลูมินาติของอเมริกามารับงานก่อสร้างใหญ่ๆ เอาเงินไปอีกต่อ
    ซาอุฯ ก็เสียหายเพราะเจ้าชายซาอุฯ โดนปืน ค.เข้าไปจนตาย ในประเทศซาอุฯ เอง ก็เตรียมการรัฐประหารมา 2 แล้ว เกิดระส่ำระสายในการคุมอำนาจทางทหาร และทำท่าสงครามกับเยเมนจะยืดเยื้อยาวนาน
    การรบภาคพื้นดิน เยเมน ก็บุกข้ามแดนมาไกลกว่า 25 กม.แล้ว ทีนี้ซาอุฯ จะมาขอเจรจา เพราะเห็นว่าโดนทั้งศึกนอก และศึกใน ถ้ารัฐประหารสำเร็จ ที่นี้ละป่วนแน่...เฮ้อ..ปากแข็งแท้
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    jeerachart Jongsomchai

    ... "ลาว - จีน : แนบแน่นกันเพราะโซเวียตรัสเซียล่มสลาย"
    ... ช่วงสงครามเย็นนั้น ลาวและเวียตนามเป็นคอมมิวนิสต์ที่อิงแอบกับ "โซเวียตรัสเซีย" ได้รับความช่วยเหลือมาเรื่อยๆ แต่ช่วงปี 1980 ลงมา โซเวียตเริ่มย่ำแย่ออกอาการไปไม่ไหว ก็ได้หยุดการช่วยเหลือประเทศทั้งสอง จุดนี้เองที่ลาวขาดประเทศพึ่งพิงเลยเริ่มเปลี่ยนแนวทางไปอิงแอบจีนแทนในที่สุด
    ... ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ทั้งลาวและเวียตนามอยู่ข้างเดียวกันมาตลอด แม้แต่ "สงครามสั่งสอน" ที่จีนรบกับเวียตนาม ลาวก็ยังเข้าข้างเวียตนามอยู่เลย เพราะตอนนั้นโซเวียตบอกว่า "จีน" เป็นพวก "ลัทธิแก้" (หรือคอมมิวนิสต์ของปลอม ไม่เหมือนตนที่เป็นของแท้ ) ยิ่งรัสเซียล่มสลายในช่วงปี 1990 ยิ่งมีผลเป็นแรงผลักดันขนาดใหญ่ให้ลาวรีบอิงแอบจีนมากขึ้น , เมื่อปี 1997 ทั้งสองได้มีการลงนามร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ, จนในช่วงปี 2008 จีนก็เริ่มมีเงินช่วยเหลือทั้งแบบให้เปล่าและให้กู้ยืมแก่ลาวมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้จีนเป็นประเทศที่ลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับสองในลาวรองจาก เวียตนามแล้ว
    ... และถ้าจะมีสงครามอะไรเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า จะไม่แปลกใจเลยถ้าลาวจะเข้าข้างจีนอย่างชัดเจน แม้จะไม่ออกสื่อตอนนี้มากนักก็ตาม
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    24. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
    CERNยังไม่ได้เปิดเผยความจริงว่า ตัวเร่งอนุภาคจะเป็นไทม์มาชีนหรือไม่อย่างไร แต่ในหนังซีรี่ส์Star Trek มีการใช้เครื่องส่งผ่านมิติ เรียกว่าteleportation machineเพื่อส่งลูกเรือของยานอวกาศEnterpriseไปตามที่ต่างๆ
    หลักการทำงานของเครื่องส่งผ่านมิติคือจะเปลี่ยนมนุษย์หรือวัตถุเป็นรูปแบบพลังงาน หรือเปลี่ยนจากกายหยาบไปเป็นกายละเอียด เรียกว่าdematerialization แล้วก็ส่งรูปแบบพลังงานนั้นเป็นแสงพุ่งไปยังจุดเป้าหมาย ซึ่งจะทำการเปลี่ยนรูปแบบพลังงานกลับมาเป็นคนหรือสิ่งของอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่าrematerialization
    ในหนังซีรี่ส์Star Trek ตัวเครื่องส่งผ่านมิติบางทีก็ไว้ใจไม่ได้บางทีก็ส่งผิดที่ผิดทาง บางทีก็เครื่องขัดข้องส่งไม่ไป หรือดึงตัวคนกลับมาไม่ได้ ทำให้คนดูได้เสียว
    กลับมาตำนานบ้านเราอีกครั้ง นอกจากพระพุทธเจ้าจะแสดงอิทธิฤทธิ์เปิดโลกทั้ง3หรือทุกภพภูมิให้คน สัตว์เหล่าทวยเทพ พรหมได้เห็นซึ่งกันและกันแล้วหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศนาโปรดพระมารดา ยังมีตำนานของพระมาลัยผู้มากด้วยฤทธิ์อีกองค์ สามารถเหาะเหินเดินอากาศไปนรกและสวรรค์ได้ เรื่องเล่ากันว่า:
    "พระมาลัยเป็นพระอรหันต์จากลังกา เป็นพระที่ได้บรรลุอิทธิวิธี คือสามารถแสดงฤทธิ์ได้ ด้วยอานิสงส์จากการถวายทานและปฏิบัติฌานสมาบัติ พระมาลัยได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีฤทธิ์รองลงมาจากพระมหาโมคคัลลานะ ซึ่งได้รับยกย่องในเอตทัคคะในด้านผู้มีฤทธิ์มาก เรื่องพระมาลัยเป็นตำนานเล่าขานในประเทศที่นับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาททั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยและในประเทศลาว ในเรื่องเล่าว่าพระมาลัยได้ลงไปในนรกและได้ไปสอนธรรมโปรดชาวนรก ท่านได้ไปรู้ไปเห็นว่าสัตว์นรกถูกลงโทษตามผลกรรมตามนรกขุมต่างๆอย่างไรบ้าง
    "หลังจากกลับคืนสู่โลกมนุษย์แล้ว พระมาลัยได้รับดอกบัวจากชายยากจนผู้หนึ่ง ซึ่งได้อธิษฐานในขณะถวายดอกบัวว่าขออานิสงส์ของทานนี้จงเป็นปัจจัยให้ตนได้พ้นจากความยากจน จากนั้นพระมาลัยได้ขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้วได้นำดอกบัวที่รับจากชายยากจนผู้นั้นขึ้นไปบูชาพระสถูปจุฬามณี ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศโมฬีของพระโพธิสัตว์ที่พระองค์ตัดมอบให้แก่ท้าวมหาพรหมเมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จออกผนวช
    เมื่อตอนที่อยู่บนสวรรค์ พระมาลัยและพระอินทร์เจ้าแห่งสวรรค์ขั้นดาวดึงส์ได้สนทนากันในเรื่องการสร้างบุญกุศลเป็นอเนกประการ และในที่สุดพระมาลัยได้พบกับพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งจะลงมาตรัสรู้ในโลกนี้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป พระศรีอริยเมตไตรยได้ฝากคำของท่านมาถึงชาวโลกมนุษย์ว่าให้สร้างบุญกุศล ทำแต่คุณงามความดีไว้ก็จะได้รับผลจากคำสอนของท่านเมื่อท่านมาสู่โลกนี้ในอนาคต พระมาลัยเมื่อกลับคืนสู่โลกมนุษย์แล้ว ก็ได้นำเรื่องที่ท่านได้พบเห็นในนรกและในสวรรค์ และรวมทั้งคำสอนของพระศรีอริยเมตไตรยมาบอกกล่าวแก่ชาวโลก"
    จะเห็นได้ว่าโลกตะวันตกพึ่งพาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ในความพยายามที่จะเดินทางข้ามมิติ แต่บ้านเราพระอริยะที่มีอภิญญาสามารถเหาะเหินเดินอากาศเป็นเรื่องธรรมดามาก เพียงใช้จิตที่ทรงพลังอานุภาพ
    thanong
    23/4/2015
    พระมาลัยโปรดสัตว์นรกและเทวดาในสวรรค์
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    25. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
    นักดาราศาสตร์ของวาติกันกำลังง่วนอยู่กับการหาสิ่งมีชีวิตนอกพิภพ หรือมนุษย์ต่างดาว เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับอะไร และนักดาราศาสตร์ของวาติกันใช้LUCIFERเพื่อทำงานนี้ แม้ว่าคำว่าLuciferจะแสดงนัยถึงเทวดาตกสวรรค์ หรือบางคนเชื่อว่าเป็นซาตาน
    แท้ที่จริงแล้วLUCIFERเป็นอุปกรณ์ที่ติดกับกล้องดูดาวของมหาวิทยาลัยอริโซนา ที่ตั้งอยู่บนเขาเกรแฮม LUCIFERเป็นคำย่อของ
    Large Binocular Telescope Near-infrared Utility with Camera and Integral Field Unit for Extragalactic Research ยาวดีแท้
    ส่วนกล้องดูดาวของวาติกัน เรียกว่าThe Vatican Advanced Technology Telescope (VATT) ตั้งอยู่ใกล้กันเลย กับกล้องดูดาวของมหาวิทยาลัยอริโซนา
    มีการอ้างแหล่งข่าวจากEcumenicalNews.com ว่านักดาราศาสตร์ของวาติกันใช้VATT และLUCIFERเพื่อที่จะเสาะหามนุษย์ต่างดาว
    Tom Horn และ Chris Putnam ผู้แต่งหนังสือ Exo-Vaticana: Petrus Romanus บอกว่าวาติกันเชื่อว่าไม่ช้าจะมีผู้ที่จะกอบกู้โลกมาจากต่างดาว (alien saviour) ทั้งคู่ได้เดินทางไปเยี่ยมหอดูดาวแห่งนี้และได้พูดคุยกับ
    Guy Consolmagno บาทหลวงของคณะเยซูอิท Guy Consolmagnoเล่าให้บุคคลทั้งสองว่า วาติกันเชื่อว่าในไม่ช้าโลกเราจะถูกเยี่ยมเยือนโดยผู้กอบกู้จากต่างดาว
    Guy Consolmagno สร้างความฮือฮาในปี2010เมื่อให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์The Guardianว่า: "สิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะมีขนาดหรืออวัยวะอย่างไร ต่างก็มีวิญญานทั้งนั้น และถ้ามนุษย์ต่างดาวต้องการเข้ารีต ก็พร้อมที่จะทำพิธีให้
    Guy Consolmagno กล่าวเพิ่มเติมว่าโป๊ปและวาติกันมีความสนใจในวิทยาศาสตร์มาก และได้รับรายงานเกี่ยวกับพัฒนาการของวิทยาศาสตร์ล่าสุดตลอดโดยสาถบันวิทยาศาสตร์ของวิติกันคือthe Pontifical Academy of Sciences
    โรมกำลังเตรียมการต้อนรับมนุษย์ต่างดาวที่จะนำพามนุษย์โลกสู่ยุคใหม่
    thanong
    23/4/2015
    LUCIFER is helping Vatican astronomers look for extraterrestrials? | Openminds.tv
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    26. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก (จบบริบูรณ์)
    จากยุคเก่าเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคใหม่ โรมจะสร้างศาสนาโลกเดียว (One World Religion) โดยไม่ปิดบังความจริงแล้วว่าพระเจ้าของโรมที่แท้จริงคือลูซิเฟอร์
    นอกจากจะมีรัฐบาลโลกรัฐบาลเดียว (One World Government) ซึ่งอาจจะเป็นยูเอ็นที่จะพัฒนาขึ้นไป; เงินโลกสกุลเดียว (One World Currency) ซึ่งอาจจะเป็นเงินSDRของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ; ธนาคารกลางโลก (One World Central Bank) ซึ่งอาจจะเป็นIMFหรือBank for International Settlements และที่สำคัญที่สุดคือศาสนาโลกเดียว (One World Religion)
    มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่4กันยายน2014 ว่าShimon Peresอดีตประธานาธิบดีของอิสราเอลได้พบกับโป๊ปฟราสซิสที่กรุงวาติกัน และได้เสนอความคิดให้มีการจัดตั้งองค์การสหประชาชาติเพื่อศาสนา (United Nations of Religions) เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในโลกนี้ ที่โดยที่มองกันว่าเนื้อแท้ของความขัดแย้งของโลกเป็นความขัดแย้งทางศาสนา มากกว่าเรื่องชาตินิยม
    สำนักวาติกันรายงานว่าPeresได้นำเสนอความคิดนี้ในระหว่างการพบปะกับโป๊ปเป็นเวลา45นาที ครั้งสุดท้ายที่มีการพบกันระหว่างบุคคลทั้ง2เกิดขึ้นในวันที่8 มิถุนายน โดยมีผู้นำปาเลสไตน์นายMahmoud Abbasอยู่ด้วย และมีการสวดมนต์พร้อมกันในสวนวาติกัน
    อีกไม่กี่อาทิตย์ต่อมาสงครามในฉนวนกาซ่าก็เกิดขึ้น
    Peres ให้สัมภาษณ์กับสื่อแคทอลิคFamiglia Cristianaว่าองค์การสหประชาชาติไม่เหมาะสมที่จะจัดการกับปัฐหาความขัดแย้งของโลกทุกวันนี้ และการจัดตั้งองค์การสหประชาชาติเพื่อศาสนาน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการฆ่าเพื่อพระเจ้า
    โป๊ปรับปากว่าจะขอพิจารณาข้อเสนอนี้
    โครงการของCERNเข้าไปเชื่อมกับเรื่องนี้ได้อย่างไร? บางคนมองว่าCERNต้องการเปิดประตูมิติเวลาเพื่อตอ้นรับการกลับมาของพวกAnunnakiที่ครั้งหนึ่งเมื่อ400,000ปีมาแล้วเคยปกครองโลก เรื่องเอเลี่ยนอยู่ในความหมกหมุ่นของโรมมาตลอด มีอีกทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อว่าเมื่อได้เวลา มนุษย์ต่างดาวจะมาปรากฎตัว อาจจะเป็นลูซิเฟอร์ก็ได้ เมื่อนั้นศาสนาของโลกทุกศาสนาจะถึงจุดจบ จะมีการรวมตัวทุกศาสนาเป็นศาสนาโลกเดียว ชาวโลกจะหันมาบูชาพระเจ้าองค์ใหม่
    โลกใหม่กำลังจะมาในไม่ช้า พวกเราคอยต้อนรับมนุษย์ต่างดาวกันดีๆ
    thanong
    23/4/2015
    http://www.foxnews.com/…/israel-shimon-peres-proposes-new-…
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จัดทัพขรก.-ล้างโกง แผนกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
    23 เมษายน 2558 เวลา 13:05 น. |โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

    [​IMG]

    การประกาศใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพื่อโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวพันกับการทุจริต กว่า 100 คนนั้น มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการจัดทัพข้าราชการระดับใหม่ หลัง 7 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลโชว์ผลงานไม่ออก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลพยายามเร่งล้างท่อให้มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณก็ไม่เป็นผล

    ทั้งนี้ เนื่องจากข้าราชการไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมือง เกรงหากมีการเลือกตั้งจะมีการเปลี่ยนขั้วทางเมือง ตัวเองจะมีผลกระทบ จึงเกิดการเกียร์ว่างขึ้น

    ขณะเดียวกัน นโยบายการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้า ที่สำคัญมีการพูดกันปากต่อปากในวงการผู้ประกอบการทุกวงการ ว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ หรือเงินใต้โต๊ะ ไม่ต่างจากยุคนักการเมืองเรืองอำนาจ

    หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปแบบนี้ โดยไม่มีการผ่าตัดปรับปรุงสร้างภาพลักษณ์ใหม่ จะส่งผลให้การยึดอำนาจครั้งนี้ มีหวังเสียของสูง ยิ่งใกล้สู่โรดแมป การเลือกตั้ง ยิ่งทำให้ของอำนาจ คสช.สั่นคลอนมากขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่รีรอที่จะนำมาตรา 44 มาใช้

    เพื่อให้การแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว ข้าราชการจึงตกเป็นเป้าหมายแรกในการจัดระเบียบ เพราะถือเป็นกลไกใหญ่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน หากควบคุมไม่ได้ การบริหารประเทศย่อมล้มเหลวสิ้นเชิง

    อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดโยกย้ายข้าราชการสีเทาครั้งใหญ่ของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ในทางการเมืองถือว่าได้ถึง 3 ต่อ คือ 1.ล้างคนระบบเก่าออกดันคนใกล้ชิดของตัวเองขึ้นกุมตำแหน่งสำคัญไว้ 2.ทำให้ข้าราชการเกรงกลัวเลิกเกียร์ว่าง และ 3.สร้างภาพลักษณ์เรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น

    ความจริงการโยกย้ายข้าราชการล็อตใหญ่ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรัฐบาล คสช. หากจำกันได้เมื่อครั้งยึดอำนาจใหม่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ ออกประกาศ คสช.ย้ายล้างบางข้าราชการขั้วอำนาจเก่ามาแล้วครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะข้าราชการระดับบิ๊กที่เป็นมือไม้สำคัญของฝ่ายการเมืองกลุ่มอำนาจเก่ากว่า 30 ตำแหน่ง อาทิ ธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. หรือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภายใต้

    เป็นการเด้งมาแขวนไว้ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำนั่งตบยุงไปวันๆ รอวันเกษียณอายุราชการ ที่ตึกเก่าของสำนักงานพัฒนาข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลหรือที่ข้าราชการการระดับสูงเหล่านี้ขนานนามว่า “ตึกกรุ” เพราะเป็นตึกเก่าร้างไม่มีที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีคนใดเข้ามานั่งทำงาน มีเพียงป้ายชื่อแปะจองความเป็นเจ้าของหน้าห้องไว้ภายในห้องว่างเปล่าวังเวง

    น่าติดตามนับแต่นี้ไปว่าการทำงานของราชการจะไหลลื่นสนองต่อนโยบายรัฐบาลได้ดีเพียงใด รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างทางราชการในโครงการขนาดใหญ่ ทุกระดับตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับสูง หรือตั้งแต่หลักล้านบาท ไปจนถึงหมื่นล้านบาทจะป้องกันทุจริตได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลได้ตั้งกลไกการตรวจสอบ โดยให้ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ถือเป็นการเพิ่มดาบป้องกันการโกงสายตรงรัฐบาล

    ขณะนี้มีการนำร่อง 5 โปรเจกต์ยักษ์ ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ด้วยการจับข้าราชการระดับสูงกับภาคธุรกิจร่วมสาบานต่อหน้าฟ้าดินว่าจะไม่ฮั้วประมูล ผ่านการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม คือ 1.โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 3.โครงการเปลี่ยนผ่านระบบทีวีอะนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทัลระยะที่ 2 ของกรมประชาสัมพันธ์มูลค่า 1,000 ล้านบาท 4.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมด้วยเครื่องเอกซเรย์ ทั้งสินค้าและหีบห่อของการเดินทางของกรมศุลกากรมูลค่า 1,300 ล้านบาท และ 5.โครงการซื้อเครื่องจักรของโรงงานยาสูบแห่งใหม่มูลค่า 7,400 ล้านบาท

    นี่เป็นผลงานส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ต้องการโชว์การป้องกันการทุจริตในทุกขั้นตอน และแน่นอนสาเหตุของการทุจริตคอร์รัปชั่น ฝ่ายข้าราชการถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบอุปถัมภ์ ที่ไม่สามารถจะดำเนินการโกงกินได้เพียงลำพังได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายนโยบาย หรือฝ่ายการเมือง หรือบริษัทเอกชนผู้ประมูลเอื้อประโยชน์สินบน หรือเงินใต้โต๊ะ พร้อมๆ กับใช้อำนาจ เงินทุนและความหละหลวมของระบบการตรวจสอบร่วมกันทุจริตคอร์รัปชั่น

    ดังนั้น การแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่กว่า 100 ตำแหน่งในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงแสนยานุภาพทางอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องการโชว์พาวความเอาจริงเอาจังในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมๆ กับต้องการข่มขู่ทางอ้อมต่อกลุ่มข้าราชการที่ใส่เกียร์ว่างไม่สนองนโยบายได้ยำเกรง

    ทั้งหมดจะได้ผลหรือไม่ กาลเวลาตามโรดแมปเท่านั้นจะเป็นบทพิสูจน์

    จัดทัพขรก.-ล้างโกง แผนกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ - โพสต์ทูเดย์ ข่าววิเคราะห์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ จ่อประเคนสุดยอดเครื่องบินรบ F-35 ให้ "ยิว" เบ่งได้ชาติเดียวในตะวันออกกลาง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2558 10:44 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – สหรัฐฯ ให้สัญญาวานนี้ (23 เม.ย.) ว่าจะจัดส่งสุดยอดเครื่องบินขับไล่ F-35 แก่อิสราเอลเพื่อดำรงแสนยานุภาพที่เหนือกว่าของรัฐยิวในตะวันออกกลาง และยืนยันว่าข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำกับอิหร่านจะคำนึงถึงความมั่นคงของอิสราเอลเป็นสำคัญ

    รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ประกาศกลางพิธีรำลึกวันเอกราชอิสราเอลซึ่งจัดโดยสถานทูตยิวว่า สหรัฐฯ จะปกป้องแสนยานุภาพทางทหารที่เหนือชั้นของอิสราเอล (qualitative edge) และเตรียมส่งฝูงบินขับไล่ F-35 ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรยอดมงกุฎในบรรดาอาวุธที่อเมริกาพัฒนาขึ้นให้แก่อิสราเอลในปีหน้า

    “ปีหน้าเราจะส่งเครื่องบินขับไล่ F-35 ซึ่งเป็นรุ่นที่ดีเยี่ยมที่สุดของเราไป ซึ่งจะทำให้อิสราเอลเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางที่ครอบครองอากาศยานทางทหารชนิดนี้”

    การปรากฏตัวของ ไบเดน ในงานนี้ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของทำเนียบขาวที่จะลดความขุ่นเคืองใจระหว่างประธานาธิบดี บารัค โอบามา กับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ในเรื่องนโยบายการทูตตะวันออกกลาง

    ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและเทลอาวีฟเริ่มตึงเครียด หลังจากที่ เนทันยาฮู เดินทางไปปราศรัยต่อสภาคองเกรสตามคำเชิญของพรรครีพับลิกันเมื่อเดือนที่แล้ว และได้วิจารณ์ความพยายามของ โอบามา ที่จะบรรลุข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์กับอิหร่าน

    ไบเดน ย้ำชัดเจนว่า “จะไม่มีข้อตกลงใดๆ เกิดขึ้น” ถ้าอิหร่านไม่ยอมรับการตรวจสอบจากนานาชาติ และหากเตหะราน “เล่นตุกติก” สหรัฐฯ ก็พร้อมที่พิจารณาแนวทางตอบโต้ทุกอย่าง

    รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับว่า แม้จะมีความเห็นต่างกันอยู่บ้าง แต่วอชิงตันและยิวยังคง “ปกป้องซึ่งกันและกัน” เสมอ

    อิสราเอลได้สั่งซื้อฝูงบินขับไล่ F-35 จำนวน 19 ลำในปี 2010 เป็นมูลค่า 2,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ก็ได้ลงนามในสัญญาสั่งผลิตอากาศยานจากค่ายล็อกฮีดมาร์ตินเพิ่มอีก 14 ลำ คิดเป็นมูลค่าราว 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

    กระทรวงกลาโหมอิสราเอลแถลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เครื่องบินขับไล่ F-35 สองลำแรกจะถูกส่งมอบแก่รัฐยิวในช่วงปลายปี 2016 และจะได้รับครบจำนวนที่สั่งซื้อภายในปี 2021

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046863
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'ยุคเทคโนโลยีเฟื่องฟู'แนสแดคทุบสถิติเมื่อ15ปีก่อน!น้ำมันพุ่ง-ทองขึ้น
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2558 05:33 น. (แก้ไขล่าสุด 24 เมษายน 2558 05:35 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - ดัชนีแนสแดค ในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทุบสถิติปิดสูงสุดตลอดกาลในวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) จากของเดิมที่เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2000 ตั้งแต่ช่วงก่อนกิจการไอทีโลกฟองสบู่แตก ส่วนน้ำมันพุ่งแรงหลังซาอุดีอาระเบียกลับมาโจมตีทางอากาศในเยเมน ขณะที่ทองคำก็ขึ้น ตามความคาดหมายว่าเฟดจะยังไม่เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ย

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 20.42 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,058.69 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.97 จุด (0.24 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,112.93 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 20.89 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,056.06 จุด

    การทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 5,056.06 จุด จากของเดิม 5,048.62 จุด ที่ทำเอาไว้เมื่อเดือนมีนาคมปี 2000 ถือเป็นการไต่ขึ้นแบบผันผวน จากระดับต่ำสุด 1,114.11 จุดของเมื่อปี 2002 ช่วงเวลาที่ภาวะถดถอยแผ่ลาม โดยได้แรงหนุนจากความเฟื่องฟูของกิจการไบโอเทคและสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่การขยายตัวแบบพลุแตกของโทรศัพท์มือถือ ช่วยดันให้ แอปเปิล เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐฯ

    ในส่วนของการขยับขึ้นของแนสแดคในวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) ก็ยังนำโดยแอปเปิล บริษัทที่มีอิทธิพลทางบวกมากที่สุดของดัชนีนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยหุ้นของแอปเปิล เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 ปิดที่ 129.67 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนกูเกิล เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ปิดที่ 557.46 ดอลลาร์ต่อหุ้น และไบโอเกน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6

    อย่างไรก็ตามหุ้นของเฟซบุ๊ค ลดลงถึงร้อยละ 2.6 หลังรายได้สุทธิในช่วงไตรมาสแรกดิ่งลงถึงร้อยละ 20 เหลือ 509 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและการชดเชยตามหุ้น

    การเติบโตอย่างรวดเร็วของเหล่าบริษัทโบโอเทคโนโลยี อย่างเช่นกิลีดและสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ค ก็เป็นตัวขับเคลื่อนให้แนสแดคก้าวมาเตะระดับปัจจุบันเช่นกัน ขณะที่นักยุทธศาสตร์มองว่ายังมีโอกาสที่แนสแดคจะพุ่งทะยานไปมากกว่านี้

    ด้านราคาน้ำมันโลกในวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) ปิดบวกแรง หลังพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย กลับมาโจมตีทางอากาศในเยเมนอีกรอบ กระพือความกังวลหนใหม่ต่ออุปทานเชื้อเพลิงในตะวันออกกลาง

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    เครื่องบินรบของพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย กลับเปิดการโจมตีครั้งใหม่ในเยเมนเมื่อวันพุธ (22 เม.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก ริยาด ประกาศยุติการปฏิบัติการทางอากาศของพวกตนที่ดำเนินมาได้ 4 สัปดาห์ ท่ามกลางการสู้รบภาคพื้นดินซึ่งปะทุรุนแรงขึ้น

    แม้ เยเมน จะไม่ใช่ชาติผู้ผลิตน้ำมันที่สำคัญ แต่ชายฝั่งของพวกเขาเป็นที่ตั้งของช่องแคบบับ เอล-มันเดบ เส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญในการเข้าสู่ทะเลแดง ประมาณการว่ามีการขนส่งน้ำมันดิบโดยเรือทั้งมุ่งหน้าสู่และออกจากคลองสุเอซ ผ่านช่องแคบนี้วันละ 4.7 ล้านบาร์เรล

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) ขยับขึ้น หลังข้อมูลที่อ่อนแอเกี่ยวกับผู้รับสิทธิประโยชน์คนว่างงานสหรัฐฯ กระตุ้นให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปอีกพักใหญ่ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,194.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    '
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดนีเซียสั่งเตรียมพร้อม ใกล้ประหารนักโทษต่างชาติคดียาเสพติด
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2558 02:16 น.

    [​IMG]

    @แอนดรูว์ ชาน และ มยุราน สุกุมาราน 2 นักโทษชาวออสเตรเลีย ที่กำลังถูกประหารในอินโดนีเซีย

    เอเอฟพี - รัฐบาลอินโดนีเซียเผยในวันพฤหัสบดี(23เม.ย.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมประหารกลุ่มนักโทษคดียาเสพติด ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ในนั้นรวมถึง 2 ผู้ต้องขังชาวออสเตรเลีย ที่กระพือข้อพิพาทระหว่างสองชาติ แม้ต้องเผชิญเสียงประณามจากนานาชาติอย่างหนักหน่วง

    สำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยด้วยว่าผู้ต้องขังชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งจะถูกนำตัวไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงบนเกาะนูซากัมบังงัน ดินแดนประหารในวันศุกร์(24เม.ย.) รวมกับนักโทษประหารคนอื่นๆที่ถูกพาตัวไปที่นั่นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม

    นักโทษ 10 คน มีทั้งชาวออสเตรเลีย ฝรั่งเศส บราซิล ฟิลิปปินส์ ไนจีเรีย กานาและอินโดนีเซีย จะถูกยิงเป้าพร้อมกัน หลังโดนปะธานาธิบดีแดนอิเหนาปฏิเสธคำร้องขออภัยโทษ ซึ่งตามปกติถือว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่พวกเขาอาจจะรอดพ้นการถูกประหารชีวิต

    โทนี สปอนทานา โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดบอกกับเอเอฟพีว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงาน ได้สั่งการให้เหล่าเจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่เพชฌฆาตเตรียมพร้อมสำหรับการประหาร "มีคำสั่งออกมาแล้ว ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงกำลังเตรียมพร้อมตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง" เขากล่าวโดยไม่ให้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม

    จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดวันประหาร แต่การลงทัณฑ์ใดๆจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อน 72 ชั่วโมง และแม้มีความคืบหน้าล่าสุด แต่ สปอนทานา ยืนยันว่ายังไม่มีการแจ้งกำหนดวันประหารต่อนักโทษ เนื่องจากต้องรอจนกว่ากระบวนการอุทธรณ์ของหนึ่งในผู้ต้องขังจะถึงที่สุด

    นักโทษรายดังกล่าวได้ยืนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาเป็นครั้งสุดท้าย และคาดหมายว่าศาลจะมีคำพิพากษาออกมาเร็วๆนี้ หลังจากเมื่อวันอังคาร(21เม.ย.) นายแซร์จ อัตลาอุย ชาวฝรั่งเศสและมาร์ติน อันเดอร์สัน จากกานา เพิ่งถูกปฏิเสธคำอุทธรณ์ไป

    ผู้ถูกตัดสินประหารชีวิตสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอื่นๆและหลายคนในกลุ่มที่กำลังถูกลงทัณฑ์ก็ดำเนินการเช่นนั้น อย่างไรก็ตามมีโอกาสน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จ ขณะที่เจ้าหน้าที่ประณามนักโทษเหล่านั้นว่าเป็นแค่พยายามซื้อเวลา

    นานาชาติเพิ่มแรงกดดันต่ออินโดนีเซียให้ยกเลิกโทษประหาร โดยออสเตรเลีย ดำเนินการทางการทูตในความพยายามปกป้องชีวิตผู้ต้องหาชาวออสเตรเลีย 2 คน หัวหน้าแก๊งขนยาเสพติด "บาหลีไนน์"

    ประเด็นการประหารชีวิตนักโทษยาเสพติดพลเมืองออสเตรเลียของอินโดนีเซียนี้ ได้ลุกลามบานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองชาติ หลังจากนายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย ออกมาทวงบุญคุณต่อกรณีเคยบริจาคเงินช่วยเหลือนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามหลังเกิดเกิดภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 220,000 คน

    คำพูดของเขามีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้จาการ์ตายุติการประหารชีวิต แอนดรูว์ ชาน และ มยุราน สุกุมาราน แต่ความพยายามดังกล่าวกลับส่งผลตรงกันข้าม และเป็นเหตุให้เกิดกระแสความขุ่นเคืองอย่างมโหฬารขึ้นในแดนอิเหนา ที่ซึ่งผู้ประท้วงหลายกลุ่มเริ่มการรณรงค์รวบรวมเหรียญเพื่อจ่ายคืนแคนเบอร์รา โดยช่วงกลางเดือนมีนาคม มีกลุ่มผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซียได้ส่งถุงบรรจุเหรียญให้แก่สถานทูตออสเตรเลีย ระบุว่าเป็นการคืนเงินช่วยเหลือในช่วงเผชิญมหันตภัยร้ายแรง

    ในส่วนของฝรั่งเศสนั้น ก็ได้เพิ่มแรงกดดันต่ออินโดนีเซียอย่างทันทีทันใด หลังการยื่นอุทธรณ์ของนายแซร์จ อัตลาอุย ถูกปฏิเสธ โดยประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ เตือนว่าการประหารนักโทษแดนน้ำหอมอาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ความสัมพันธ์ทวิภาคี

    อย่างไรก็ตามแม้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ยืนกรานว่าการประหารชีวิตจะเดินหน้าต่อไป โดยชี้ว่าอินโดนีเซียกำลังเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉินสืบเนื่องมีการใช้ยาเสพติดมากขึ้นเรื่อยๆ


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046787
     

แชร์หน้านี้

Loading...