อยากรู้เรื่องแบ่งภาคมาเกิดของเทวดา

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย kornselo, 28 มกราคม 2008.

  1. kornselo

    kornselo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +62
    1.การแบ่งภาคของเทวดาที่มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสะสมความดีเพื่อที่จะไม่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ใช่ไม่ครับ ส่วนเทวดาที่แบ่งภาคไม่ได้ก็ต้องซวยไปใช่บุญหมดเมื่อไหร่ก็ต้องเกิดมาเป็นมนุษย์ อย่างนี้ถูกต้องไม่ครับ ?

    2.อยากรู้ว่าดินแดนนิพานเทวดาที่อยู่ในนั้นเขาทำอะไรกันหรือครับมีบอกไว้บ้างหรือป่าว แล้วความสุขที่ว่าแตกต่างจากสวรรค์ตรงไหนครับ

    3.ทำไมเทวดาทั้งหลายไม่มาปรากฎตัวให้คนเห็นละครับ ไปเทศนาโจรใต้ซะบ้าง แล้วทำไมแต่ก่อนพระพุธเจ้ายังทรงเทศนาองคุลีมารได้เลยครับ คือสงสัยว่าคนโบรานเห็นได้แต่คนปัจจุบันไม่เห็นละสงสัยจัง

    4.คือสงสัยเรื่องพญานาคครับ พญานาคเนี่ยเวลาอยู่ในเมืองบาดาลจะเป็นในรูปแบบนาค(งู) หรือแบบคนสวยๆๆหล่อๆ แบบมนุษย์ละครับ

    5.แล้วพญานาคเนี่ยรูปร่าง ที่เป็นร่างมนุษย์เป็นร่างจริงๆ ของเขาเลยหรือป่าวครับ หรือเป็นร่างที่เนรมิตรขึ้นมา

    6.เทาวดาเนี่ย จะมาเดินแถวพารากอนมีบ้างหรือป่าวครับ แบบว่าแปลงมาเป็นมนุษย์เพื่อมาเที่ยวอะครับ

    7.แล้วพวกยมทูตหรือยมบาลเนี่ยเขาเป็นเทวดาหรือป่าวครับ เขามีความสุขหรือป่าว แล้วเขาสวยหล่อเหมือนเทวดาบนสวรรค์หรือป่าวครับ แล้วเขาทำบุญหรือทำกรรมละครับถึงได้เป็นยมทูต

    **พอแค่นี้ก่อนนะครับ ผุ้รู้ตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ยากซะหน่อยนะ ก็มันสงสัยจริงๆ
     
  2. อินเดียร็อก

    อินเดียร็อก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +164
    ไม่มีการแบ่งภาคครับ จิตมีหนึ่งเดียว
     
  3. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    เรียกว่าการแบ่งภาคลงมาโปรดสัตว์และบำเพ็ญเพียร
    แห่งองค์พระโพธิสัตว์ ดีกว่านะ
    เมื่อลงมาเป็นมนุษย์ ก็ต้องมีกายเนื้อ
    เมื่ออยู่บนสวรรค์ ก็มีกายทิพย์
    ไม่ใช่บำเพ็ญเพื่อไม่ต้องเกิดเป็นมนุษย์
    แต่บำเพ็ญเพื่อสำเร็จโพธิญาณ
    พุทธทางเถรวาท ไม่ค่อยได้สอนมากในด้านนี้
    หาอ่านคำสอนของหลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก อยุธยา
    ในเวปนี้ ห้องพุทธภูมิ พอมีให้ศึกษา
    อย่าสงสัยมากไป ถึงเวลาจะรู้เองในข้อสงสัยนั้นๆ
    เมื่อจิตได้ถูกยกขึ้นไปแล้ว ณ.จุดๆหนึ่งแล้ว
    แต่อย่าด่วนปรามาสในสิ่งที่ยังไม่รู้ล่ะ
    บางอย่างเดี๋ยวปิดขวางทางธรรม
    ขอให้ธรรมะรักษาครับ
     
  4. kornselo

    kornselo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +62
    โห..สงสัยตั้งเยอะแยะช่วยตอบให้หมดสิครับ
     
  5. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    หลวมตัวตอบ...อย่ายาวนะ

    2.อยากรู้ว่าดินแดนนิพานเทวดาที่อยู่ในนั้นเขาทำอะไรกันหรือครับมีบอกไว้บ้างหรือป่าว แล้วความสุขที่ว่าแตกต่างจากสวรรค์ตรงไหนครับ
    ตอบ. ข้อนี้เอาไงถามถึงที่นิพพานหรือเทวดา 6ชั้น ถ้านิพพานก็ไม่เคยอยู่แต่อนุมานเอาตามทฤษฏี เมื่อจิตละเอียดหมดอุปาทานสุขก็ละเอียดตามเวลาก็ไม่รู้จักสิ้นสุดคือเป็นอมตะ ถ้าเทวดาก็ตายจากคนก็อยู่อย่างคนแต่สุขนั้นปราณีตไม่มีฝุ่นไม่หิวยังปิ้งปั้งกันได้บ้าง

    3.ทำไมเทวดาทั้งหลายไม่มาปรากฎตัวให้คนเห็นละครับ ไปเทศนาโจรใต้ซะบ้าง แล้วทำไมแต่ก่อนพระพุธเจ้ายังทรงเทศนาองคุลีมารได้เลยครับ คือสงสัยว่าคนโบรานเห็นได้แต่คนปัจจุบันไม่เห็นละสงสัยจัง
    ตอบ.หากทุกอย่างเป็นได้อย่างใจคุณคุณคงเหาะไปหาท่านแล้วท่านก็เช่นกัน

    4.คือสงสัยเรื่องพญานาคครับ พญานาคเนี่ยเวลาอยู่ในเมืองบาดาลจะเป็นในรูปแบบนาค(งู) หรือแบบคนสวยๆๆหล่อๆ แบบมนุษย์ละครับ
    ตอบ.นาคมี 3ตระกูล 1 เกิดจากใข่ อยู่ในน้ำ 2. เกิดแบบผุดขึ้นด้วยอำนาจฤทธิ์แปลงกายบวชได้ 3.เป็นเทวดาเรียกนาคะบริวารท้าวมหาราช นามท่านปู่วิรูปักษ์

    5.แล้วพญานาคเนี่ยรูปร่าง ที่เป็นร่างมนุษย์เป็นร่างจริงๆ ของเขาเลยหรือป่าวครับ หรือเป็นร่างที่เนรมิตรขึ้นมา
    ตอบ.เป็นตอนอยู่ในภพแปลงร่างได้ จะคืนร่างเป็นนาคเฉพาะตอนหลับและกุ๊กกิ้กภรรยา

    6.เทาวดาเนี่ย จะมาเดินแถวพารากอนมีบ้างหรือป่าวครับ แบบว่าแปลงมาเป็นมนุษย์เพื่อมาเที่ยวอะครับ
    ตอบ.ไปทำไมเหม็นสาบไปวัดหอมบุญทานกว่า

    7.แล้วพวกยมทูตหรือยมบาลเนี่ยเขาเป็นเทวดาหรือป่าวครับ เขามีความสุขหรือป่าว แล้วเขาสวยหล่อเหมือนเทวดาบนสวรรค์หรือป่าวครับ แล้วเขาทำบุญหรือทำกรรมละครับถึงได้เป็นยมทูต
    ตอบ.เป็น ถ้าไม่เป็นเทวดาเขาเรียกสัตว์นรก กรรมคือยินดีที่คนอื่นเขาทำบาป เลยทำงานหนัก การแต่งตัวกำลังทิ่มแทงสัตว์นรก แต่งหล่อทำไม และสัตว์นรกใช้กรรมอยู่แต่งผ้าแดงผืนเดียวสะดวกดี

    **พอแค่นี้ก่อนนะครับ ผุ้รู้ตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ยากซะหน่อยนะ ก็มันสงสัยจริงๆ<!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2008
  6. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    **ผ่านมาครับ เลยอยากลองตอบ คำตอบนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งสิ้น อาจจะถูกหรือจะผิด ก็สิทธิ์ของผมพิจารณากันเอาเอง**

    1.การแบ่งภาคของเทวดาที่มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสะสมความดีเพื่อที่จะไม่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ใช่ไม่ครับ ส่วนเทวดาที่แบ่งภาคไม่ได้ก็ต้องซวยไปใช่บุญหมดเมื่อไหร่ก็ต้องเกิดมาเป็นมนุษย์ อย่างนี้ถูกต้องไม่ครับ ?

    ตอบ ไม่ได้แบ่งภาคลงมาเกิดครับ เทวดามาช่วยเหลือในด้านคุณงามความดี ดลบันดาลให้คนทำดี อำนวยความสะดวกให้คนทำดี ก็จะบังเกิดผลบุญกุศลด้วย เช่น เมื่อจะไปทำบุญที่วัด หารถยาก ก็ดลจิตดลใจให้มีคนขับรถผ่านและรับไปด้วย หรือว่า จะพายเรือไปเก็บดอกบัว เรือเกิดล่มขึ้นมาหากยังไม่ถึงฆาต เทวดาที่อยากบำเพ็ญบารมีท่านก็รีบลงมาช่วยไม่ให้จมน้ำตาย อาจจะดลบันดาลให้มีขอนไม้ลอยมาให้เราเกาะ อย่างนี้ครับ ส่วนที่ถามว่า เทวดาที่แบ่งภาคไม่ได้ ก็ต้องซวยไปใช้บุญหมดเมื่อไหร่ ก็ต้องเกิดเป็นมนุษย์ อย่างนั้นไม่ถูกครับ ไม่ได้ซวยนะครับ บุญหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์เสมอไป อาจจะตกนรกอเวจี มหานรกเลยก็ได้ครับ เพราะ ต้องเวียนว่ายในทุกขติภูมิ จนกว่าจะสำเร็จมรรคผล / อย่าโยงเรื่องเทพทางฮินดู ที่แบ่งภาคอวตารอะไรนั่นนะครับ คืออันนี้อยากตอบในแนวพุทธศาสตร์มากกว่า

    2.อยากรู้ว่าดินแดนนิพานเทวดาที่อยู่ในนั้นเขาทำอะไรกันหรือครับมีบอกไว้บ้างหรือป่าว แล้วความสุขที่ว่าแตกต่างจากสวรรค์ตรงไหนครับ

    ตอบ เท่าที่ทราบมา ในแดนนิพพานไม่มีเทวดานะครับ มีแต่พระอรหันต์ พระพุทธเจ้า ที่สำเร็จมรรคผลแล้ว ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่ตาย ไม่เกิด แต่ไม่ขอตอบดีกว่าครับ ข้อนี้ผ่าน

    3.ทำไมเทวดาทั้งหลายไม่มาปรากฎตัวให้คนเห็นละครับ ไปเทศนาโจรใต้ซะบ้าง แล้วทำไมแต่ก่อนพระพุทธเจ้ายังทรงเทศนาองคุลีมารได้เลยครับ คือสงสัยว่าคนโบรานเห็นได้แต่คนปัจจุบันไม่เห็นละสงสัยจัง

    ตอบ เทวดาทั้งหลายที่ไม่ปรากฏตัวให้คนเห็น เพราะเนื่องด้วย กรรม และบุพเพนิวาส เจอะเจอเนื่องด้วยกรรมเกี่ยวพันกันทั้งหลาย หากไม่เกี่ยวกรรมกัน หรือ คนคนนั้นปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนสำเร็จอิทธิฤทธิ์ก็ยากจะได้เห็น ในกรณีพระพุทธเจ้ากับองคุลีมารนั้น พระพุทธเจ้าท่านทรงสำเร็จแล้วจริงแต่ยังอยู่โปรดสรรพสัตว์อยู่ ไม่ได้สละกายเนื้อ และยังต้องปฏิบัติหน้าที่เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ องคุลีมารก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ ฉะนั้นจึงมีสิทธิ์เจอะเจอกันเหมือนมนุษย์เจอกัน ในประเด็นที่คนโบราณเห็นได้แต่คนปัจจุบันไม่เห็นนั้นเพราะว่า คนเชื่อในเรื่องเวียนว่ายตายเกิด เมื่อคนเกิดมากขึ้น กรรมที่ทำไว้สั่งสม ลบคุณงามความดีที่ควรจะมี ทำให้จิตใจต่ำเสื่อมลงไปเป็นอันมาก ทำให้ไม่สามารถมองเห็นกายทิพย์ต่าง ๆ ที่อยู่ในอีกมิติหนึ่งปะปนกับเราได้

    4.คือสงสัยเรื่องพญานาคครับ พญานาคเนี่ยเวลาอยู่ในเมืองบาดาลจะเป็นในรูปแบบนาค(งู) หรือแบบคนสวยๆๆหล่อๆ แบบมนุษย์ละครับ

    ตอบ เท่าที่ทราบ พญานาค เวลาอยู่ในเมืองบาดาล จะเนรมิตตนเป็น มนุษย์ เนรมิต วังบาดาล หรือในบางตำนาน ก็จำศีลเป็นพญานาค ไม่มีวัง อยู่ใต้สะดือทะเลที่มืด อันนี้ก็แล้วแต่เพราะผมเองไม่เคยเห็นครับ

    5.แล้วพญานาคเนี่ยรูปร่าง ที่เป็นร่างมนุษย์เป็นร่างจริงๆ ของเขาเลยหรือป่าวครับ หรือเป็นร่างที่เนรมิตรขึ้นมา

    ตอบ ผมคิดว่าเป็นดวงจิตหนึ่งนะครับ แต่ว่ามีบารมี มีอิทธิฤทธิ์เพราะได้บำเพ็ญเพียรมา จึงได้เนรมิตร่างของตนขึ้นมาเพื่อไม่ให้คืนสัญชาติเดิม ทำให้ผู้ที่ได้พบเจอ กลัว อาจจะเห็นพวกนาคแปลงเป็นมนุษย์มาทำบุญ มาเวียนเทียน มาใส่บาตรได้บ่อย ๆ แต่ต้องไปวัดที่เป็นดงพญานาคครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้ จำไม่ได้ครับ หุหุ

    6.เทวดาเนี่ย จะมาเดินแถวพารากอนมีบ้างหรือป่าวครับ แบบว่าแปลงมาเป็นมนุษย์เพื่อมาเที่ยวอะครับ

    ตอบ อาจจะเดินมาเที่ยว มาชมเมืองมนุษย์บ้าง แต่พวกเราคงไม่เห็นกันมั๊งครับ ผมก็ไม่รู้เลยตอบไม่ได้ครับ หุหุ

    7.แล้วพวกยมทูตหรือยมบาลเนี่ยเขาเป็นเทวดาหรือป่าวครับ เขามีความสุขหรือป่าว แล้วเขาสวยหล่อเหมือนเทวดาบนสวรรค์หรือป่าวครับ แล้วเขาทำบุญหรือทำกรรมละครับถึงได้เป็นยมทูต

    ตอบ ผมคิดว่า(คิดว่าอีกแล้ว) ท่านเป็น เทวดาครับ และมีหน้าที่ที่ต้องทำในตรงนั้น และมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามวาระ ของตน เคยอ่านหนังสือตอนเด็ก ๆ เค้าว่า ผู้ที่ไปรับหน้าที่เป็นพวกยมฑูต หรือ ยมบาลอะไรนี่ ทำทั้งเวร และกรรมอย่างละครึ่ง ๆ คือไม่บาปมาก และไม่ดีมาก มีความยุติธรรมในชีวิตของมนุษย์ เป็นกลาง มีสติดี มีปัญญาดี เคร่งขรึม ถือศีล หรืออาจจะไม่ใช่ก็ให้ผู้รู้เค้ามาตอบนะครับ

    **พอแค่นี้ก่อนนะครับ ผุ้รู้ตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ยากซะหน่อยนะ ก็มันสงสัยจริงๆ

    ตอบ ผมไม่ใช่ผู้รู้ครับ แต่ผมอยากตอบ ฮ่า ๆ ๆ ๆ จะถูกจะผิดอีกเรื่องนึง ไปหาข้อมูลเพิ่มเอานะครับ
     
  7. kornselo

    kornselo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +62
    เย้ๆๆ ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ
    อยากถามอีกครับว่า
    มีวิธีใดบ้างที่ทำให้วิญญานเราแตกสลายครับ แบบทำร้าย ทำลาย หรืออะไรก็ได้ที่จะทำให้วิญญานแตกสลายอะครับ เป็นไปได้ไหม
    แล้วมันจะเป็นยังไงครับ ผลของมัน ความรู้สึกนึกคิดความสุขความทุกข์ไปจะหายไปหมดหรือป่าวครับ
    *เพื่อนเคยส่งสัยกันบ้างไหมครับ
     
  8. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    อยากรู้อยู่เหมือนกัน

    ขออนุโมทนาสำหรับธรรมทานของทุกๆท่านครับ
    สาธุ
     
  9. ปุณกะ

    ปุณกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +5,058
    "รู้ได้เฉพาะตน แท้ๆ "
     
  10. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    มีวิธีใดบ้างที่ทำให้วิญญานเราแตกสลายครับ
    ตอบ ไม่มีแม้อเวจีมหานรกไฟร้อนขนาดอาทิตย์พันดวง พระเทวทัตยังอยู่ได้

    ไม่มีแบบทำร้าย ทำลาย หรืออะไรก็ได้ที่จะทำให้วิญญานแตกสลายอะครับ เป็นไปได้ไหม
    ตอบ. มีแต่หนังผีจีนเท่านั้นที่ผีโดนแดดไม่ได้ วิญญาณจะแตกสลายเหมือนคนตากแดดแล้วเป็นลมสักพักก็ฟื้น แต่ความเป็นจริงวิญญาณหรือ(ธาตุรู้)เป็นอมตะธาตุเช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ แม้เทพเจ้าองค์ใดก็ไม่สามารถกำจัดหรือทำลายได้ เพราะตางก็พัฒนาตนมาจากธาตุรู้ทั้งสิ้น
     
  11. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    1.การแบ่งภาคของเทวดาที่มาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสะสมความดีเพื่อที่จะไม่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ใช่ไม่ครับ ส่วนเทวดาที่แบ่งภาคไม่ได้ก็ต้องซวยไปใช่บุญหมดเมื่อไหร่ก็ต้องเกิดมาเป็นมนุษย์ อย่างนี้ถูกต้องไม่ครับ ?
    - ไม่มีแบ่งภาค เทวดาบุญหมดก็ไปนรกต่อ เทวดาที่อธิษฐานลงมาเกิดก็เพื่อสะสมบุญหนีนรก ส่วนเทวดาที่อธิษฐานลงมาเกิดแบบต้องการความมั่นใจว่าจะไม่พลาดไปนรกก็จะขอให้เทวดาองค์อื่นช่วยคุมขณะที่มาเป็นมนุษย์ เรียกกันภาษาชาวบ้านว่าคนมีองค์
    2.อยากรู้ว่าดินแดนนิพานเทวดาที่อยู่ในนั้นเขาทำอะไรกันหรือครับมีบอกไว้บ้างหรือป่าว แล้วความสุขที่ว่าแตกต่างจากสวรรค์ตรงไหนครับ
    - ที่อยู่ในแดนพระนิพพานคือพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตสาวก สุขต่างจากสวรรค์ตรงที่หมดกิเลสโดยชิ้นเชิง
    3.ทำไมเทวดาทั้งหลายไม่มาปรากฎตัวให้คนเห็นละครับ ไปเทศนาโจรใต้ซะบ้าง แล้วทำไมแต่ก่อนพระพุธเจ้ายังทรงเทศนาองคุลีมารได้เลยครับ คือสงสัยว่าคนโบรานเห็นได้แต่คนปัจจุบันไม่เห็นละสงสัยจัง
    - คนปัจจุบันกำลังสมาธิอ่อนกว่าคนโบราณ จะเห็นว่าคนโบราณฟังเทศน์แป๊บเดียวก็บรรลุธรรม แต่คนปัจจุบันต้องฟังไปฝึกไป เลยยังมองไม่เห็นเทวดา ส่วนเรื่องเทศน์ เทวดาไม่ค่อยเทศน์ เพราะเทวดาไม่ใช่พระพุทธเจ้า เทวดาฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า
    4.คือสงสัยเรื่องพญานาคครับ พญานาคเนี่ยเวลาอยู่ในเมืองบาดาลจะเป็นในรูปแบบนาค(งู) หรือแบบคนสวยๆๆหล่อๆ แบบมนุษย์ละครับ
    - อยากเป็นยังไงก็เป็น มีฤทธิ์ซะอย่าง
    5.แล้วพญานาคเนี่ยรูปร่าง ที่เป็นร่างมนุษย์เป็นร่างจริงๆ ของเขาเลยหรือป่าวครับ หรือเป็นร่างที่เนรมิตรขึ้นมา
    - เป็นร่างที่แปลงเอา
    6.เทวดาเนี่ย จะมาเดินแถวพารากอนมีบ้างหรือป่าวครับ แบบว่าแปลงมาเป็นมนุษย์เพื่อมาเที่ยวอะครับ
    - มีเดิน แต่ไม่ได้มาเที่ยว เที่ยวบนสวรรค์สวยกว่า
    7.แล้วพวกยมทูตหรือยมบาลเนี่ยเขาเป็นเทวดาหรือป่าวครับ เขามีความสุขหรือป่าว แล้วเขาสวยหล่อเหมือนเทวดาบนสวรรค์หรือป่าวครับ แล้วเขาทำบุญหรือทำกรรมละครับถึงได้เป็นยมทูต
    - เป็นเทวดา มีความสุข หล่อ ทำบุญมั่งบาปมั่ง
     
  12. อสุรสนธยา

    อสุรสนธยา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    เทวดามาเกิด

    ดิฉันนับถือศาสนาคริสต์ ดิฉันเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งมาเกิด(ไม่ได้หมดบุญหรือขอลงมาเกิดสร้างบารมีและมาใช้กรรม)มาใช้ชีวิตบนโลกแบบคนธรรมดาเหมือนพระเยซู แบบนี้ก็ถือว่าเป็นเทวดามาเกิดเหมือนกันนะคะ แต่เทวดาบนสวรรค์ที่นี่แตกต่างจากเทวดาบนสวรรค์ในทางพุทธศาสนา ที่นี่ทุกองค์ไม่ได้สวมเครื่องทรงสวยงามเท่าที่ทราบทุกองค์สวมชุดแขนยาวสีขาวและสวมรองเท้าหนังสานเท่านั้น ไม่สวมมงกุฏหรือชฎาและเครื่องประดับเลย เหมือนชุดโรมันน่ะค่ะ ดิฉันมาจากที่นั่นค่ะ มาเป็นผู้ให้และผู้รับใช้ตามพระบัญชาของพระเจ้า ซึ่งปกติมักจะไม่ส่งใครลงมาเกิดหรอกนะคะ แต่ที่รู้ว่าตนเองเป็นผู้ที่พระเจ้าส่งมาเพราะ พ่อฝันเห็นแค่พระเจ้าและพระเยซูค่ะยื่นดอกกุหลาบสีบานเย็นมาให้พ่อความฝันนี้เกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีก่อน เมื่อ 46 ปีก่อนแม่ก็เคยฝันเห็นพระเจ้า พระเยซูและผู้หญิงผมยาวสีทองหยิกเป็นลอนสวยมากค่ะคนหนึ่งสวมชุดเหมือนกันทั้งสามองค์ แต่พระเจ้าไม่ได้แนะนำว่าเธอเป็นใคร คงจะเป็นดิฉันเมื่อยังอยู่บนสวรรค์ เพราะพ่อฝันเห็นพระเจ้ากับพระเยซูเท่านั้น แม่เล่าให้ฟังแต่ดิฉันก็ไม่เชื่อก็เลยไปดูดวงพบว่าเป็นดวงของเทวดาลงมาเกิดจริงๆ ปีนี้จะอายุ 25 ปีแล้วค่ะ รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ดิฉันเป็นตัวแทนของพระองค์เหมือนที่พระองค์เคยส่งพระเยซูมาเกิดเมื่อ 2 พันปีก่อน
    และที่มาแสดงความคิดเห็นในบอร์ดนี้อยากให้ทราบว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหนก็ขอให้ทำเพื่อผู้อื่น จะเป็นเทวดามาจากที่ใดก็ขอให้ทำความดีไว้มากๆนะคะ นรกและสวรรค์มีจริงค่ะ ไม่ว่าทุกท่านจะนับถือศาสนาใดขอให้ยึดมั่นในความดีไว้และปฏิบัติตนให้ดีที่สุดค่ะ
     
  13. pandablahblah

    pandablahblah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +71
    อื้ม เท่าที่ทราบมา เทวดาท่านเป็นกายที่ละเอียดค่ะ จิตมนุษย์ที่ยังไม่ถูกฝึกดีก็จะมองไม่เห็น เพราะเป็นกายหยาบค่ะ ไม่ใช่ว่าท่าไม่ให้เราเห็น แต่เรามองไม่เห็นท่านเอง และบนสวรรค์มีอะไรสุขสวยงามกว่าโลกมุษย์มาก ดังั้นพวกเขาก็คงไม่ค่อยลงมา นอกจากมีงาบุญกุศล หรือมาอนุโมทนาบุญล่ะมั้งคะ เพราะเทวดาเขาชอบทำบุญ อีกอย่าง เมื่อมนุษย์คนใดไม่มีศีล เทวดาจะไม่เข้าใกล้ค่ะ เพราะว่ามีกลิ่นเหม็น เทวดาเขาชอบคนมีศีลค่ะ รู้แค่นี้อ้า ^^
     
  14. pandablahblah

    pandablahblah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +71

    อื้ม ดังคำว่า ความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละศาสนา แต่ความดี ความรักใครกลมเกลียวกันั้นไม่มีแบ่งแยกใช่ไหมคะ ^^ นี่คือคำกล่าวของคุณพ่อ ฌอน อุลิมาณา บาทหลวง ท่านกล่าวไว้ น่ะค่ะ ส่วนแฮปปี้ก็มีเพื่อนต่างศาสนาเยอะมากเลยค่ะ ทุกศาสนาเลย และพวกเราต่างก็ให้เกียรติกันดี รักกันมากเลยค่ะ อิอิ
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อิอิ^^
     
  15. 5314786

    5314786 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,800
    โอกาสของทุกคน มีเหมือนกัน

    อยู่ที่ว่าจะเลือกทางเดินชีวิตแบบไหน

    เลือกทางเดินของมนุษย์ เทวดา หรือลงนรก อยู่ที่เราเป็นผู้กำหนด

    การกระทำของเราจะกำหนดชะตาเราเอง
     
  16. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    หลายคนสับสนกับคำว่า แบ่งภาค
    การที่เราเห็นพระหรือเทพ ในสถานที่ต่างๆกันในเวลาเดียวกันนั้น ไม่ใช่เพราะพระหรือเทพท่านแบ่งภาคมาจุติ แต่เป็นด้วยพลังอำนาจที่ท่านสามารถกระทำได้ เหมือน เราแยกอาทิสมานกายออก เราต้องอาศัยกำลังจิต ถึงจะสามารถแยกอาทิสมานกายได้ หรือถ้าเราจะให้คนอื่นเห็นว่าเรามีมากกว่าหนึ่ง เราก็ต้องใช้พลังงานของจิต ทำให้คนอื่นเห็นภาพเราแบ่งออกเป็นหลายภาพ อิอิ หรือกรณีเราคิดถึงเพื่อนๆในกลุ่ม เพื่อนๆทุกคนเห็นเราพร้อมๆกัน ด้วยจิตที่สัมผัสกันได้ ดังนั้น ถ้าพระพุทธเจ้าท่านจะมาปรากฎให้เราเห็น โดยเป็นในรูปลักษณ์มนุษย์ ท่านย่อมทำได้ แต่ต้องมีกรรมสัมพันธ์กันมา ท่านถึงจะมาสงเคราะห์ อย่างพระเจ้าตากสินทรงพบบรมครูโลกอุดร
     
  17. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    1การแบ่งภาค ไม่ใช่ความเชื่อทางพราหมณ์หรือพุทธ มันเป็นความจริงที่คนเราสัมผัสกับเทพภาวะ แต่คนเราเห็นไม่ตลอด จึงเข้าใจผิดได้ กลายเป็นความเชื่อที่ผิดของคนเรา จริงๆ มหาเทพมีภาวะเทพที่สามารถมาจุติได้และกลับไปเป็นมหาเทพดั่งเดิม ฤษีที่ได้ญาณหยั่งรู้ จึงเรียกว่าแบ่งภาคหรืออวตารเพราะฤษีเห็นว่าเทพภาวะยังสถิตย์แม้จุติมาเป็นคน เทพภาวะนั้นดูที่จิตที่บำเพ็ญกิจเพื่อสัตว์โลก ดูภารกิจเป็นหลัก เทพที่แบ่งภาคมาเกิดไม่ได้ อยู่บารมีของจิต ถ้าจิตกอปรด้วยบารมีกุศลสามารถอธิษฐานมาเกิดและกลับคืนสภาวะเทพได้ ก็เรียกว่าอวตารหรือแบ่งภาคได้ ทั้งนี้ เทวดาทั่วไปถ้าจะทำความดีก็ทำได้ และสามารถใช้อิทธิฤทธิลงมาที่โลกได้หลายร่าง แต่ยังไงมหาเทพหรือเทพอายุไม่นิรันดร์ อยู่ใต้กฎไตรลักษณ์ ทำดีแค่ไหนก็อยู่คงถาวรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องว่ายวนไปภพอื่นอยู่ดี
    2 แดนเทวดานี่สุขดังใจนึก มีแต่สิ่งน่ายินดี แดนรูปพรหมมีแต่สงบ มั่นคง แดนอรูปพรหม มีแต่จิตอันกว้างมหาศาลแต่ไร้ลักษณ์ นิพพานท่านว่าพ้นจากรรูปและอรูป นั่นหมายถึงสภาวะที่ไม่ยึดอารมณ์ใดๆ ดังนั้น ไม่อาจนำสามภพมาเปรียบเปรยได้ นิพพานจึงเป็นแดนที่ไม่อาจจินตนาการได้ เพราะจินตนาการของเราไม่มีทางไปถึง เพราะเรามีอารมณ์ให้จิตยึดตลอด ไม่ว่ากามารมณ์ รูปารมณ์ หรืออรูปารมณ์ (สร้างศัพท์มั่วมาก ขออภัยครับ)
    3 และ6 เทวดาประจำประตู หน้าต่างก็มี ประจำบ้าน ต้นไม้ ประจำศาลเจ้า เทวดาอยู่ทุกที่แต่ท่านผู้ถามไม่เห็นอ่ะ เทวดาที่อยู่ในวิมานเหนืออากาศก็มี สวดมนตร์มากๆ จะสัมผัสได้นะครับ อย่าลืมแผ่เมตตาให้เทวดาด้วยนะครับ ท่านเทวดาก็จะแผ่ให้เรา ในเมื่อมีตาทิพย์หูทิพย์ไม่รู้จะลงมาไหม ก็เห็นได้หมดรอบทิศที่ปรารถนาจะเห็น จะมาแปลงร่างก็ไม่มีประโยชน์เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าไม่ใช่มหาเทพหรือมหาพรหม คงโปรดคนลำบาก ถ้าจะโปรดจะช่วยก็ใช้วิธีดลใจจะง่ายกว่า ถ้าดลใจแล้วไม่ฟัง จะไห้ลงมาโปรดคนมันก็ไม่ฟังหรอก สมัยก่อน พระพุทธองค์โปรดสัตว์ คนบางคนยังไม่ฟังเลย
    4 และ 5 นาคหรือครุฑ มีอัตภาพแท้คือ นาคหรือครุฑนั้นแหละครับ แต่เค้ามีฤทธิ์เพราะกึ่งเทพ ดังนั้น จึงเนรมิตกายมนุษย์ได้ครับ
    7 ยมฑูตหรือยมบาล เป็นสัตว์นรกนะครับ ก็อยู่ในนรกนิครับ แต่ว่า มีภาวะเป็นผู้ลงโทษ แต่เมื่อถึงวารก็ต้องอยู่ในภาวะถูกลงโทษ คือเป็นสัตว์นรกด้วย
     
  18. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    เพราะหน้าที่เป็นเหตุ...เป็นข้อผูกพัน
    ทำให้คน..เป็นคน ทำให้เทพ..เป็นเทพ
    ทำให้พรหม..เป็นพรหม ทำให้พระโพธิสัตว์..ตรัสรู้
    "พระธรรมกว้างใหญ่ไพศาล เกินจะรู้ทั่ว"
     
  19. pukub

    pukub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +219

    ตอบแบบพุทธนะงับ

    1. ไม่ใช่งับ
    แบ่งภาคไม่ได้นะฮะ ไม่เคยได้ยินเลยฮะ หมดบุญก็ลงมาเกิดเลยงับ

    2. นิพพาน ไม่ใช่ดินแดนนะฮะ เป็นสภาวะที่ปราศจากทุกข์และสุข
    เพราะดับซึ่งกิเลสทั้งปวง เนื่องจากสวรรค์มีความสุขก็จริง
    แต่ก็เป็นของไม่เที่ยง พอหมดบุญ ยังไงก็ต้องลงมาเกิดอยู่ดี
    ดังนั้น การไม่เกิดในที่ใด ๆ จึงมีความสุขกว่า ถือว่าเป็นบรมสุขงับ

    ถามว่าแล้วนิพพานอยู่ไหน? ตอบว่า เวลาไฟดับ ไฟนั้นอยู่ไหน?
    ก็มิรู้ ชิมิงิ?

    3. เทวดาไม่มาฮะ เพราะเขาเสวยสุขอยู่
    ลองจิตนการนะฮะ สมมุติวันนี้โลกร้อนมากเลย
    เราอยู่ในคฤหาส มีแอร์ มีโฮมเทียเต้อ มีอาหาร มีบริวาร หนุ่ม ๆ สาว ๆ
    รับใช้ มีสวน มีสระว่ายน้ำ มีทุกอย่าง

    เราจะอยากย้ายสังขารมาอยู่ที่ในลิฟ์แคบๆ ที่แออัดไปด้วยผู้คนไหมฮะ?
    ไม่ ชิมิงิ
    เหมือนกัน โลกมนุษย์ สำหรับเทวดา ก็เหมือนลิฟ์แคบ ๆ
    ไม่น่าอยู่ ไม่มีสาระอะไรเลย ไม่มีความสุข ร้อน เหม็น ฯลฯ
    เพราะว่าแค่กลิ่นตัวมนุษย์ก็เหม็นไปไกลละงับ เทวดาทนไม่ไหว
    จะมาเฉพาะกาลเฉย ๆ เช่น มาฟังธรรม มาทำนู้น นั้น นี้ แล้วก็รีบฟิ้วกลับ

    เทวดาบางตนก็ไม่ได้เก่งในธรรมงับ เทศนาไม่ได้ฮะ บางตนก็อาจทำได้ฮะ
    เหมือนคนเรานี้แหละ แต่โจรใต้นั้นจิตหยาบเกินงับ คงต้องปล่อยไปตามเวร ตามกรรมก่อน
    เพราะแม้พระพุทธเจ้าเองก็ไม่ได้โปรดทุกคนนะฮะ จะโปรดเฉพาะคนที่พร้อมเฉย ๆ
    ไม่งั้นคงไปนิพพานกันหมดแล้ว แต่เพราะมนุษย์นั้นมีหลากหลายไงฮะ


    ส่วนองคุลีมาร เขามีความพร้อม แต่เชื่อผิดคนเฉย ๆ งับ
    แต่คนเรา ถ้ากลับใจ ก็สามารถพบทางออกของชีวิตได้งับ
    เหมือนพระเทวทัต ที่จ้องล้างจองพลาญพระพุทธเจ้ามาทุกยุค ทุคสมัย
    สุดท้ายก็ยังกลับใจได้เลยงับ

    กลับใจในที่นี้คือเลิกทำชั่ว แล้วมาทำความดี
    การทำร้ายผู้อื่นนั้นคือการสร้างความทุกข์ให้กับตัวเอง
    เพราะจะมีผลของวิบากกรรมทั้งในชาตินี้ และชาติหน้ารออยู่
    แต่เขาไม่เข้าใจตรงนี้ไงฮะ เพราะคงฟังมาผิด ๆ
    ก็เหมือนองคุลีมาล นั้นแหละ
    แต่เขาไม่ได้โชคดีเหมือนองคุลีมาล เพราะไม่มีใครสามารถจะชี้ทางสว่างได้จริง ๆ เท่านั้นเอง

    แต่อย่างไรก็ตาม พวกโจรใต้ ก็เหมือนกันฮะ
    เขามีโอกาสที่จะกลับใจได้ในวันข้างหน้า แต่คงต้องใช้เวลา และปัจจัยอย่างอื่นด้วย

    4. พญานาค มิรู้เหมือนกันฮะ ว่าอยู่ในเมืองบาดาลจะใช้รูปไหน
    เพราะเขาไม่ได้บอกไว้เหมือนกัน

    5. อันนี้ก็มิรู้ฮะ

    6. เทวดาคงไม่มาฮะ สวรรค์สวยกว่าเยอะงับ พารากอนก็คงเหมือนอยู่ในลิฟนั้นแหละงับ
    ไม่ต้องเทวดาหรอกฮะั คนธรรมดาอย่างเรา ๆ บางคนยังไม่อยากไปพาราก้อนเลยชิมิฮะ

    7. มิรู้เหมือนกันฮะ ส่วนใหญ่ยมฑูต เขาเปรียบเทียบถึงความตายฮะ
    เป็นตัว เป็นตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นยังไง

    ตอบเท่าที่ตอบได้นะงับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2015
  20. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    1เรื่องแบ่งภาค หรืออวตาร ดั้งเดิม คือพราหมณ์หรือฤษีที่ได้ญาณหยั่งรู้เกี่ยวกับภพสวรรค์ และทราบว่ามหาเทพ พระศิวะและพระนารายณ์ ได้ลงมาเกิดเป็นคนเราด้วยและรู้ด้วยว่าจะกลับไปเป็นมหาเทพดั้งเดิม พราหมณ์หรือฤษีเป็นผู้หยั่งรู้เพียงไม่กี่ภพชาติ จึงสรุปผิดว่า มหาเทพนี่นิรันดร์แถมมาเกิดเป็นคนและกลับไปเป็นมหาเทพอีก นอกจากนี้ได้เพ่งจิตดูมหาเทพที่วิมานก็พบว่ามหาเทพก็ยังอยู่ นอกจากนี้มาให้พรได้อีก ในช่วงที่มาเป็นคน ทั้งนี้ เพราะฤทธิ์ของเทพกับมิติเวลาระหว่างโลกกับสวรรค์มันต่างกัน ฤษีจึงเข้าใจว่าแบ่งภาคได้ อวตารได้ มันไม่ผิดที่เค้าจะเข้าใจอย่างนั้น เพราะเค้าเห็นแค่นั้น และเพราะเราไม่เข้าใจศักยภาพของเทพ หรือมหาเทพก็เลยคิดว่าทำไม่ได้ ความจริงคือทำได้และไม่ผิดหลักอภิธรรม เพราะเรื่องมิติเวลากับอานุภาพของจิต(โดยเฉพาะจิตในสภาวะเทพ มีกำลังมาก) และจิตมันเร็วกว่าแสงมาก และกายทิพย์ของเทวดามันละเอียดและมีพลังมากกว่าแสง (ตำราชาดกบอกว่าเทพมีแสงออกจากร่าง ดังนั้นเทพมีร่างทิพย์เป็นแสงละเอียด) ดังนั้น จิตและร่างเทพจึงสามารถทำสิ่งที่คนเราทำไม่ได้ครับ ตามหลักฟิสิกส์สามารถไปอดีตและอนาคตได้ การที่เมื่อมหาเทพจุติมาเป็นพระราม เพื่อบำเพ็ญบารมีไม่ว่าเพื่อรักษาสภาวะเทพเรียกว่าต่อบุญหรือเพื่อเป็นพุทธองค์หนึ่งในอนาคต ท่านจึงทำกิจที่ควรทำคือโปรดคนที่ควรโปรดก่อนจุติ ไปในช่วงเวลาที่ท่านจะเกิดเป็นคน เช่น ให้พรคนในโลกที่ฝึกตบะ ในช่วงที่เป็นคน เพราะว่าท่านหวงตำแหน่งมหาเทพหรือไม่มีคนอื่นมีบุญเป็นมหาเทพก็แล้วแต่ ทำให้ช่วงที่อวตารไม่มีมหาเทพมาให้พรคนฝึกตบะหรือทำความดี ก็เป็นหน้าที่ของท่านต้องทำ(ท่านย่อมรู้ว่าเมื่อจุติมหาเทพที่จะคอยช่วยเหลือคนไม่มี คนดีจะขาดกำลังใจ เพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่องจึงต้องโปรดก่อน) สำหรับคนเราก็มองว่าเป็นไปไม่ได้ คิดว่าผิดหลักอภิธรรม จริงๆไม่ผิดครับ ถ้าเข้าใจศักยภาพของเทพและเรื่องมิติเวลา สำหรับเรื่องที่ฤษีเห็นว่ามหาเทพยังอยู่บนสวรรค์ในขณะที่มาอวตารอยู่ในเวลาเดียวกัน ก็เพราะฤษีมีญาณไม่ละเอียดพอครับ จึงเห็นรูปขันธ์มหาเทพตั้งอยู่ก็คิดว่าจิตมหาเทพก็อยู่ที่นั้นแล้วไม มาอวตารได้อีก ก็เพราะฤษีไม่เข้าใจขันธ์5ครับ ขันธ์5เป็นที่รองรับของจิตที่ไม่หลุดพ้น ขันธ์5จัดเป็นวิบากกรรมนะครับ แปลว่าขันธ์5มีเหตุมาจากการกระทำกรรมของจิตครับ แต่จิตไม่ใช่พระเจ้านะครับ จิตกลับถูกวิบากกรรมดึงมาให้เสวยวิบากกรรมเสียเอง และเนื่องจากขันธ์5ของเทวดาเป็นโอปปาติกะ ครับคือเกิดทันที และเป็นไปตามกำลังของจิตได้ง่ายกว่า เช่น ถ้าเทวดามีโทสะเทวดาไม่มีสติยั้งก็ตายทันทีครับ ดังนั้น กรณีมหาเทพท่านสะสมบุญบารมีมากและจิตก็มีพลัง เมื่อปรารถนาอวตารก็ปรารถนากลับมาเป็นมหาเทพดั้งเดิมเมื่อจบอวตารด้วย จิตนั้นเป็นอธิษฐานจิตส่งออกไปแล้ว ก่อวิบากกรรมทันทีครับก็เป็นโอปปาติกะ ผลคือท้านจุติลงมาเป็นพระราม และด้วยกำลังของจิตที่ส่งผลเป็นวิบากกรรมแล้ว ร่างมหาเทพที่ดับไปก็เกิดซ้อนรอเลยครับ คือขันธ์5อันเป็นวิบากกรรมเกิดรอและถูกวิบากกรรมคือผลจากกำลังจิตให้ตั้งรออยู่ก่อน จิตที่เกิดนี้เป็นวิบากกรรมก็จัดเป็นจิตบางส่วนที่ยังให้ผลเดิม ส่วนจิตที่จุติก็จิตครับ แต่จิตที่ขันธฺ5มหาเทพจัดเป็นวิบากกรรม ส่วนจิตที่จุติเป็นจิตปัจจุบัน แรงจิตที่ค้างอยู่จะสิ้นผลเมื่อหมดช่วงเวลาอธิษฐานครับ แต่จิตคนที่ฝึกมาดียังไงก็ควบคุมกลับมาอยู่ที่เดิมได้ครับ ชาดกกล่าวว่าพุุทธองค์เคยเป็นเทพ อธิษฐานหรือตั้งจิตเป็นเทวดาได้นานที่สุดครับ คือดับจากเทวดาก็เป็นเทวดาต่อไปอีก คือเกิดดับเป็นเทวดา ท่านยังบอกว่าไม่จิตดวงใดสามารถอย่างท่านเพราะ ท่านมีจาคะ ทมะ ไม่มีใครสู้ท่านได้ มหาเทพอาศัยธรรมอย่างเดียวกันครับแต่ที่จุติเพื่อเสริมจิต เสริมบารมี ดังนั้น อวตารต้องทำเรื่องใหญ่ครับ คือโปรดสัตว์มาก หรือแสดงธรรมให้โลกรู้ครับ เช่น พระกฤษณะกล่าวว่าถ้าไม่ลงมาช่วยคนดีคือ ฝ่ายอรชุนซึ่งมีจิตใจที่รักความเป็นธรรมมากกว่าจะแพ้คนชั่วไงครับ ท่านต้องการรักษาสิ่งที่เรียกว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ก่อนเข้ากลียุค ซึ่งคนชั่วจะได้ดีมากกว่าเพื่อเตือนสติคนเราให้ทำดี ช่วยคนดีให้มีอำนาจครับ
    2 วิญญาณขันธ์อย่างหนึ่ง จิตอย่างหนึ่ง มันเกิดดับตลอดเวลานะครับ จะทำลายไปใย มันดับไปดับไปอยู่แล้วครับ จิตที่เกิดและดับ ในระหว่างที่ตั้งอยู่มันมีพลังมันเลยระลึกอดีตได้ แล้วสัญญาก็ไปจำหมายแล้วปรุงแต่งจิตว่าเราอมตะ สิ่งที่จิตเห็นคือมายาครับ ถ้าจะทำลายตัวตนปลอมๆ คือ หลุดพ้นครับ ทำลายอวิชชาครับถึงจะถูกจุดกว่า จิตมันอนัตตาอยู่แล้ว มันไม่มีหรอกที่ท่านว่าวิญญาณทำลายไม่ได้น่ะครับ ก็มันเกิดดับตลอดเวลา ท่านจะทำลายอันไหนในเมื่อเวลาท่านคิดเสร็จดวงจิตหรือวิญญาณขันธ์ที่จะทำลายมันดับไปหลายแล้วมันเกิดไหม่ก็ไม่ใช่อันเดิม
     

แชร์หน้านี้

Loading...