เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ผมอมยิ้มทุกครั้งกับคำถามคุณบี เป็นคำถามน่าตอบ ตอบได้ตอบ ตอบไม่ได้ค้างไว้แล้วจะหามาตอบ

1.เลข3แทนไตรลักษณ์ก็ได้ แทนมะ-อะ-อุ ก็ได้
แต่ในหุ่นจะไม่มีเลข3ครับ พี่ธวัชชัยให้ช่างฯซ่อนเอาไว้
2.ตัวมะไม่หายครับ พี่ธวัชชัยให้ช่างซ่อนไว้อีก ถ้าคุณบีได้ไป หาให้เจอนะครับ มีอยู่ที่ตัวหุ่น
3.แบบหุ่นถ้าช่างไม่ลืมจะติดมาให้ พร้อมกับพิมพ์ที่เสียที่เกินที่ชดเชย(ไม่รู้กี่องค์)

ผมกับครูศนิวารคบกันมา10กว่าปีได้แล้วมั้ง... ถนัดคนละอย่าง ผมให้ความนับถืออยู่หลายส่วน และเรารู้ทันกันในบางเรื่อง(อย่างการเรื่องการเมือง) เป็นสหมิกธรรมต่อกัน

คุณบีฝึกสมถกรรมฐานดี จะติดต่อพ่อแก่ฯได้ง่าย ท่านฯเอ็นดูอยู่ สามารถฝึกควบไปกับวิปัสสนาได้(ถ้าแยกออก) จะได้ไม่หลง
หรือเล่นแต่พื้นฐานเลยก็ได้ คืออานาปานสติ เป็นได้ทั้งสองอย่างพร้อมกัน อาจช้าแต่ชัวร์

 

เห็นแก่ คุณหนุ่มทิพย์ เค้า
ผมตัดสินใจ จะสอน
ดวงยาม สิงห์นภดล เลขเจ็ดตัวหกฐาน ขับดาวขึ้นฟ้า
ให้แก่ คุณบี สนใจก็โทรมา
เบอร์โทรผม ขอได้ที่ คุณซุ่มโป่ง ครับผม
(ขอแค่สามารถอ่านพื้นดวงของเลขเจ็ดตัวและจักรราศีได้ก็พอครับ)

 

รับรองว่า คุณบี ต้องไม่เคยเห็น เจ็ดตัวหกฐานนภดล มาก่อน
เจ็ดตัวหกฐานนภดล เป็นวิชาโบราณ
ในอดีต ถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค เนื่องจากกลัวศิษย์เนรทั้งหลาย
บนดิน ( เลขเจ็ดตัวหกฐาน ) เรียกว่า ภูวดล
บนฟ้า (จักรราศี ) เรียกว่า นภดล
จารย์เชียร ใช้เวลาหลายปีกว่าจะเจอ ทายาทบนฟ้านภดล
ได้กราบขอเรียน นภดลบนฟ้า จึงรวมดินฟ้าเป็นหนึ่งเดียวได้สำเร็จ

 

ขอบคุณท่านครูพิมานที่่เมตตา ช่วงนี้หนูขอปรับพี้นฐาน เกี่ยวกับดาวเคราะห์ทั้ง 7 รวมถึงการนับทักษาจรใหม่ เพื่อทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อน ที่จริงหนูชอบโหราศาสตร์เลข 7 ตัว เพราะการคำนวณไม่ซับซ้อน เคยศึกษาการผูกดวงแบบจักราศรี แล้วสมองหนูไปไม่ถึง เลยเน้นเลข 7 ตัว เรียนรู้ไว้เพื่อเอาไว้ปรับดวงชะตาตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ (มีเพื่อนสมาชิกหลายท่าน PM เข้ามาบอกว่า โชคดีมากที่ท่านครูพิมานจะสอน เพราะท่านไม่ค่อยสอนใครเลย บางท่านบอกว่าขอสำเนาตำราที่ท่านครูให้) สำหรับหนูแล้วแค่ท่านครูเอ่ยปากรับเป็นศิษย์ ก็ถือเป็นมงคลแล้วสำหรับหนู อยากจะบอกทุกท่านที่ PM มาว่า จังหวะและโอกาสในชีวิตของเราทุกคนไม่เหมือนกันแน่นอนค่ะ สวดมนต์ดีสุด...คุณหน่มทิพย์ย้ำเสมอ

 

มีอยู่ช่วงหนึ่ง สมุดจดดวง ในเวปพยากรณ์ เป็นช่วงตกต่ำ
คือ ไม่มีทั้งคนมาตั้งดวงชะตาให้ทายกัน
และทั้งไม่มีคนมาทายดวงชะตาที่ตั้งถาม
เลยต้องเอาวิชาก้นหีบ ดวงยามสิงห์นภดล มาเรียกแขก
จนเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าพ้องเพื่อน
เลยไปบรรยายวิชานี้ ที่วัดดอน ยานนาวา ของท่านดาบส
ประมาณสองสามครั้งเห็นจะได้ แต่ละครั้งมีคนมาฟังประมาณ 10 กว่าท่าน
ทุกครั้ง ผมจะเพิ่มหลักการอ่านไปเรื่อยๆ
เช่น การใช้ดาวจรมาอ่านร่วมได้
การใช้ทักษามาอ่านร่วมได้
การใช้ดาวจรกระทบดาวในนภดลมาอ่านร่วมได้
การใช้แสงและรังสีดาวมาอ่านขยายได้ เป็นต้น
แต่ไม่เคยสอน การโยงดาวของนภดลแท้ๆสักครั้งหนึ่ง แฮะๆ

 

ผมยังได้มีวาสนา ได้ครูนิรนาม
มาสอน วิชา สัตตะสุริยะ (เลขเจ็ดตัวประสานดวงจักรราศี)
ให้แก่ผมอีกด้วย ทั้งที่ผมก็ไม่ทราบว่า ท่านชื่ออะไร
ทราบแค่ว่าท่านเป็นครูสอนหนังสือบ้านนอกคนหนึ่ง
ทราบแค่ว่าท่านอยู่จังหวัดลำพูน
ท่านกล่าวว่า
มีวาสนาแม้ไกลพันลี้ ยังได้พานพบ
ไร้วาสนาแม้ไขว้คว้า หาเจอไม่

 

ยืนยันมอบส่วนเกิน3:1เข้าส่วนกลางครับ

 

วิชา สัตตะสุริยะ
ปิดช่องโหว่ รหัสที่ซ้ำๆกันของเลขเจ็ดตัวได้เป็นอย่างดี
ซึ่งผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
ถึงบอกว่า โลกของโหราศาสตร์ ช่างกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนัก
ดั่งคำที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า จริงๆ

 

อ้อ สำเนาวิชานภดล ไม่มีนะครับ
ตอนเรียนกะจารย์เชียร
เรียนด้วยปากเปล่าๆนี่แระ
ไม่มีตำราให้ผมมานิ

 

พระปิดตาในครรภ์ (หมดแล้ว & งดสำรอง)

รบกวนคุณFunfun27. แก้ไขตามลำดับ ดังนี้


8 ศนิวาร 200 --> 164

22 ครึ่งชีวิต 100 --> 99* (อ้างอิง#16079)

40 NEWESTTSEWEN 100 --> 99*

52 นายน้ำ5 50 --> 48*

รวม 4001 --> 3997

พี่ศนิวาร มอบให้ทั้ง 4ท่านที่สำรองท่านละ 9 องค์

57 nookylaw 9
58 nuttalin 9
59 dacha7979 9
60 chatchai_/\_ 9

ขอบคุณสมาชิกใจดีทุกท่านนะครับ

 

สนับสนุนให้คุณหนุ่มทิพย์เก็บรวบรวมความรู้เรื่องเหล็กไหลจากอาจารย์พิจารณ์มารวบรวมใว้ เพราะหาข้อมูลได้ยากมากผู้รู้จริงก็ไม่เขียนใว้ นานไปความรู้หายหมด เป็นโอกาสแล้วเพราะมีทั้งรูปภาพและผู้รู้พร้อมมูล

 

บางทีพี่ไพรัชสวดมนต์อยู่ ก็มีเสียงคนคุยกัน ต้องดุให้เงียบเสียบ้าง
บางครั้งสวดมนต์สายผิดเวลา ก็มีคนมาออกันหน้าบ้านเต็มไปหมด รอของแจก

พี่ไพรัชบอก ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้สวดมนต์ไม่เคยขาด ถึงตายตอนนี้ก็ไม่มีเรื่องให้ต้องเสียดายแล้ว

ไปไหนต่างถิ่น ก็มีเทวดาประจำพื้นที่มาคอยดูแล บางทีถึงกับมาตามไปทานข้าวที่เจ้าบ้านเตรียมไว้ให้แล้ว เจ้าบ้านเองยังไม่เคยเห็นก็มี

อันนี้เป็นเพราะสวดมนต์เพียงอย่างเดียว

 

ส่วนต่างเพื่อเพื่อนสมาชิกครับ

 

โลกของเลขเจ็ดตัว ยังมีอีกหลายสายที่สามารถขับดาวขึ้นเป็นจักรราศีได้
เช่น เลขเจ็ดตัวนวหรคุณ
กุงกะชัมพ์ หรือ บัวน้อยใต้น้ำ ของท่านมหาบรรเทา เป็นต้น

 

วันที่ไปกราบหลวงปู่เสงี่ยม
เพื่อขอให้ท่านจารยันต์
ในผ้ารอยมือรอยเท้าแม่
ท่านถามว่ามาคนเดียวหรือ
ผมตอบว่า ครับ
แล้วท่านก็หยิบพระมาให้สององค์
แต่ไม่ได้ให้คนอื่นๆ
มีคนอื่นๆอีกสองกลุ่ม
ก็แปลกดี
ส่วนพี่ที่ตู้เช่าวัตถุมงคลของวัด
ให้พระผงปริวาสกรรม ปี 56 และผ้ายันต์สิวลีผืนเล็กๆมาให้ผืนหนึ่ง
ผมเลยถามว่า ค่าเช่าบูชาเท่าไร่
พี่เค้าบอกว่า สิบบาท ให้ผมเอาเงินไปยอดในตู้ชำระหนี้สงฆ์แทน
ผมเลยเช่าเหรียญปาดตาลของหลวงปู่มา 4 เหรียญซะเลย

 

ขอบคุณเพื่อนสมาชิคที่ใจดีทุกท่านครับ ขอรับยอด 9 องค์ที่แบ่งให้ครับ

 

ก่อนจะไปกราบหลวงปู่เสงี่ยม
เอาผ้ารอยมือรอยเท้าแม่
ไปให้พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน
ท่านจารยันต์ให้ เพราะวัดท่านอยู่ใกล้บ้าน
วัดเงินอยู่ซอยจรัล 35 ส่วนบ้านผมอยู่ซอยจรัล 13 ไม่ไกลกันเท่าไร่
หลังท่านจารยันต์เสร็จได้แนะให้ผมไปกราบหลวงปู่สององค์
องค์หนึ่งคือ หลวงปู่บุญธรรม วัดสามารถคียาราม ปทุมธานี เป็นพระสายมอญ
อีกองค์คือ หลวงปู่เสงี่ยม ซึ่งยังความแปลกใจให้แก่ตัวผมเป็นอย่างมาก
เพราะตั้งใจว่า หลังเสร็จจากวัดเงิน จะไปมหาราช กราบหลวงปู่เสงี่ยมท่าน

 

หลวงปู่บาง วัดสโมสร เจ้าของวิชา ผ้าขอดแดง อันเลื่องชื่อ
และหลวงปู่แย้ม วัดตะเคียน เจ้าของวิชา ตะกรุดคอหมา
เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงคู่คี่กันมานานกว่าสามสิบปี
หลวงปู่บาง ผมไปกราบท่าน บางที ท่านก็ใบ้หวยให้เหมือนกัน
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะกำลังคุยกะท่านอยู่
อยู่ๆท่านก็พูดขึ้นมาว่า หลักลัก
ผมก็งงซิ จนพี่ที่วัดต้องบอกผมว่า
ท่านให้ หกหก
หลักลัก ภาษาแต้จิ๋ว แปลว่า หกหก นะครับ
หวยงวดนั้นออก 26 อื่ม...หกหก คือ. หกสองตัวหรือสองหก...นั่นเอง

 

สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ไปบ้านมาเพิ่งกลับมาครับ
เมื่อวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๘ เวลาประมาณ ๐๗:๒๔ น ผมโอนเงินค่า พระขุนแผนฯ เข้าบัญชีพี่หนุ่มทิพย์แล้วครับ ๓,๒๐๐.๕๖ บาทครับ
ขอบคุณครับ

 

บทนิยายโหร บทนี้ เป็น
บทพิเศษ ตอน เพชรนาคา เหล็กไหลนาคี
น้องเจี๊ยบ ไปเรียนที่ บอสตั้น นานหลายเดือนแล้ว
ผมเลยค่อนข้างเหงานิดหนึ่ง ดีที่ เทคโนโลยีสมัยนี้
ทำให้ เราคุยกันแบบเห็นหน้าเห็นตาของกันและกันได้
จนเมื่อวานนี้ น้องเจี๊ยบ สไกป์ มาบอกว่า เพื่อนที่เมกา
อยากมาเที่ยวเมืองไทย ให้ผมช่วยเทคแคร์เธอหน่อย
พร้อมทั้งบอกเที่ยวบินที่เธอจะมาในคืนนี้ ผมจึงต้องไป
รับเธอที่ สุวรรณภูมิ ก็ไปยืนถือป้ายชื่อของเธอแระครับ
จนกระทั้ง มีหญิงสาวคนหนึ่ง เดินมาที่ผม แล้วชี้ที่ป้าย
ผมจีง เซย์ ฮาโล ไป good evening miss cristin
พร้อมทั้งยืนมือจะไป เช็คแฮนด์เธอ แต่เธอกลับยกมือไหว้ผมแทน
ทำให้ผมเเทบยกมือรับไหว้ไม่ทัน สวัสดีค่ะ เฮียหนา
ผมฟังไม่ผิดแน่ เธอพูดไทย ได้ชัดเจนมากๆ
ผมจึงรีบกล่าว สวัสดีครับ คุณ คริสติน
เรียกดิฉันว่า วนิศา ก็ได้ค่ะ แม่ดิฉัน เป็น คนไทยค่ะ
ผมจึงได้ มองเธออย่างพิจารณา เธอไม่มีเค้าของคนไทยเลย
ไว้ผมยาว ใบหน้าสวยแบบฝรั่ง หุ่นเพียวบาง สูงราวๆสัก 165 ซม
มีเพียงผิว ที่ละเอียดแบบคนไทย สีน้ำผึ้ง ไม่ขาวแบบตกกระอย่างฝรั่ง
และนัยตา สีเขียวมรกต ที่ดูสวยแบบประหลาด ดูลึกลับอย่างบอกไม่ถูก
และที่สะดุดตาที่สุด คือ จี้ที่ห้อยคอเธอ เป็นก้อนยาวรี สีดำเงา ส่องประกาย
ผมว่า ลักษณะเหมือน เหล็กไหล ที่ล่ำลือกัน ผมไปส่งเธอเข้าพักที่ โรงแรมเชอราตั้น แล้ว ก็นัดว่า จะมารับเธอตอนเช้า เพื่อที่จะเดินทางต่อไปยัง สกลนครกัน
ผมกลับถึงห้องแล้ว จึงสไกป์ หาน้องเจี๊ยบ ทันที บอกว่า รับเพื่อนของเธอ
และส่งเข้าพักโรงแรมเรียบร้อยแล้ว น้องเจี๊ยบ เล่าให้ฟังว่า พ่อของคริสติน
เป็น นักโบราณคดี เคยเดินทางมาสำรวจทางอีสาน และได้พบรักและแต่งงาน
กับแม่ของคริสติน คริสตินเกิดและโตที่เมืองไทยจนอายุ 11 ปี จึงเดินทางไปอยู่เมกากับพ่อ น้องเจี๊ยบบอกอีกว่า เพื่อนเธอมีอะไรพิเศษๆ เดี๋ยว เฮียหนา ก็รู้เอง
แต่ห้าม วอกแวกกับเธออย่างเด็ดขาด เพราะเพื่อนของเธอ มีนิสัยแบบฝรั่ง
ไม่ค่อยแคร์ เรื่องมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย ช่วงเช้า ผมมารับ วนิศา ที่โรงแรม
เธอจัดแจงกระเป๋ารอผมอยู่แล้ว เธอบอกว่า อยากไปกราบ หลวงปู่องค์หนึ่งก่อน
ท่านอยู่ที่ วัดสะพานศรี จังหวัด สกลนคร ผมเลือกใช้ เส้นทาง ภูพาน-สกลนคร
โดยผ่าน วัดพระพุทธบาทน้ำพุ ที่วัดนี้ มีพระธาตุให้กราบไหว้อยู่มากมาย
มาถึงตัวเมืองสกลแล้ว จึงพาเธอไปไหว้วัดพระธาตุเชิงชุมก่อน จากนั้นจึง
ไปต่อที่วัดป่าสุทธาวาส ไปกราบพระธาตุหลวงตามหาบัวท่าน ดูเหมือนพระธาตุ
ที่นี่ จะเสด็จมาเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นจึงเข้าพักที่ โรงแรมดุสิตกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกกันแต่เช้า เพื่อที่จะไป วัดสะพานศรี ตามที่เธอต้องการ
ระหว่างทาง วนิศา เกิดอยากจะเข้าห้องน้ำกระทันหัน ผมมองรอบๆแล้ว
ไม่มีบ้านสักหลังหนึ่ง จึงหลบรถเข้าข้างทาง เดินลงไปสำรวจต้นไม้ใหญ่ข้างทาง
ทันใดนั้น ผมก็ผงะ กับ ของสิ่งหนึ่ง บอก วนิศา ที่ยืนอยู่ข้างๆว่า อยู่นิ่งๆ อย่าขยับนะ
งูตัวขนาดใหญ่มาก สีดำทะมึน กำลัง ผงกหัว แผ่แม่เบี้ย เสียงดัง ซู่ๆๆ
ผมค่อยๆล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง เพื่อที่จะหยิบ ปลัดขิก ของ หลวงปู่เมฆ ออกมา
ปลัดขิกหลวงปู่เมฆนี้ ผมเคยเอาโยนลงไปในบ่องู ที่ สถานเสาวภา
ปรากฏว่า งูกระเจิงเลย ต้องจ้าง เจ้าหน้าที่ ให้ลงไปเก็บขึ้นมา
ทดลองโยนลงไปอีกสองครั้ง ตรงที่งูจับกลุ่มกันอยู่
ผลงูกระเจิงทุกครั้ง ไม่มีงูตัวไหน กล้าอยู่ใกล้ปลัดขิกสักตัว
เรื่องกันงูเงี้ยวเขี้ยวหนอน เชื่อขนมกินได้ ว่าเด็ดขาดนัก
แต่ เสียง วนิศา ตวาดว่า ไปซะ ผมเห็นเธอเอามือกุมจี้ที่คอ ดูเหมือนจะเห็นแสง
แว๊บออกจากมือเธอว๊าบหนึ่ง งูใหญ่ตัวนั้น ค่อยๆลดแม่เบี้ยลง และกลับหลัง เลื้อยจากไป
ผมมองเธอด้วยสีหน้าสงสัยสุดๆ ดูเหมือนเธอจะรู้ว่าผมจะถามอะไร
ไปพบหลวงปู่ก่อน แล้วจะเล่าให้ฟัง เรื่อง เหล็กไหลนาคี ที่ห้อยคอเธออยู่
เธอทำธุระเสร็จแล้ว เราขับรถต่อไปถึงวัดกัน ผมไปถาม พระองค์หนึ่ง ว่า
จะมากราบ หลวงปู่อนันต์ ท่านบอกว่า อาตมา เองแระ
ทำให้ผมสงสัยมาก ก็พระที่ผมถาม ยังไม่แก่ซะหน่อย ทำไมถึงเรียก หลวงปู่
มาทราบภายหลังว่า คนแถวนั้น เรียกท่านว่า หลวงปู่ กัน
ท่านเป็น หลาน หลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย นครพนม เห็นว่า สืบเชื้อสายมาจาก พญานาค นะครับ
วนิศา ก้มลงกราบท่าน แล้วบอกท่านว่า พ่อให้มากราบท่าน ให้มารับของสิ่งหนึ่งคืน
หลวงปู่อนันต์ เพ่งเธอ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบ กระดาษทิชชู่ คายชานหมากลง
ในกระดาษทิชชู่นั้น ยืนส่งให้เธอ คำหมากที่หลวงปู่คายให้นั้น คำใหญ่มาก
ทันใดนั้น สิ่งมหัศจรรย์ ก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผมและวนิศา เศษชานหมาก
ค่อยๆรวมตัวเป็น ก้อนแก้วใส สีส้มทอง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางสักนิ้วครึ่งเห็นจะได้
อาตมา คืน เพชรนาคา ให้แล้วนะ
เพชรนาคา เป็น ของคู่กันกับ เหล็กไหลนาคี ของโยม
ท่านมองไปที่จี้ที่ห้อยคอ วนิศา อยู่
ผมว่า ตาผมไม่ฝาดนิ จี้เหล็กไหลและเพชรนาคา เรืองแสง ขึ้นพร้อมกันครู่หนึ่ง
อยู่ๆ หลวงปู่ก็หันมาทางผม แล้วบอกว่า ขอให้โยม รักษาศีลข้อสาม ให้ดี
ครับ หลวงปู่ ผมกล่าวตอบท่านไป วนิศา อยู่คุยกับท่านสักพัก ก็กราบลา
ก่อนไป ได้ถวาย ปัจจัย ให้ท่านไว้จำนวนหนึ่ง พวกเรากลับมาที่โรงแรมดุสิตกัน
เธอขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ตอนเย็นมาพบกันที่ ห้องอาหารของโรงแรม
แล้วจะเล่า เรื่องราวต่างๆของ เหล็กไหลนาคี ให้ผมฟัง
ตกเย็น เราเจอกัน ที่ห้องอาหาร ของโรงแรม วนิศา อยากทาน
ต้มยำกุ้งรสจัดๆ ผมจึงสั่งอาหารไทยให้เธออีกสองสามอย่าง
เธอเริ่มเล่าว่า เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน พ่อของเธอได้ว่าจ้างพรานป่า
ให้นำทางเข้าสำรวจในถ้ำแห่งหนึ่ง แต่พรานป่า บอกว่า ถ้ำแห่งนี้
มีพญางูสีทองเฝ้าถ้ำอยู่ ไม่มีใครกล้าเข้าไป แต่พ่อของเธอยอมจ่ายเงิน
ให้อย่างงาม พรานป่าเห็นแก่เงินจำนวนมาก จึงยอมนำทางให้
พ่อเล่าว่า ถ้ำแห่งนี้ มีทางแยกมากมายเชื่อมถึงกัน เดินสำรวจอยู่ค่อนวัน
จึงบอกพรานป่า ให้กลับกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาสำรวจใหม่
แต่จนแล้วจนรอด ก็เดินวนเวียนกลับมาที่เดิม หาทางออกไม่เจอ
จนเสบียงและน้ำดื่มที่เตรียมไปหมดลงในที่สุด จนคืนสุดท้าย
พ่อฝันไปว่า มีชายหนุ่มรูปงาม สวมมงกุฏที่ศีรษะ กายมีแสงเรืองรอง
มาบอกว่า หากเจ้ารับปาก จะดูแลนางอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
เราจะนำพาพวกเจ้าออกจากถ้ำไป ด้วยความหิวและกลัว
พ่อรีบรับปาก หนุ่มรูปงามนั้นไป พลันก็ถูกพรานป่าปลุกให้ตื่น
นายๆๆๆ ผมว่าจะจุดธูปบอกกล่าว เจ้าที่เจ้าทาง ให้เราสามารถออกจากที่นี่ไปได้
ผมจะเลิกเป็น พรานตลอดชีวิตเลย ว่าแล้วพรานป่าก็หยิบธูปออกจากย่าม
มาจุด แล้วสาบานว่า หากลูกช้าง ออกจากถ้ำไปได้ จะเลิกล่าสัตว์ เลิกเป็นพราน แล้วเอาธูปปักดิน ทันใดนั้น มีงูตัวใหญ่สีทอง เลื้อยออกมาจากทางแยก
แห่งหนึ่งในถ้ำ มาผงกหัว แล้วหันหลังเลื้อยกลับอย่างช้าๆไปยังทางแยกอีกแยกหนึ่ง
นายๆๆๆ พญางู มาช่วยเราแล้ว เดินตามพญางู ออกไปเลย นาย พรานป่าส่งเสียงร้องอย่างยินดี
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็สามารถออกมาปากถ้ำได้ งูตัวนั้นได้คายของสิ่งหนึ่ง
ทิ้งเอาไว้ที่ปากถ้ำ ก่อนจะหันหลัง เลื้อยกลับเข้าถ้ำไป
พ่อของเธอจึงเดินไปหยิบมาดู มันเป็น แท่งแก้ว ยาวรี่
สีดำเงา มีประกาย หลังจากนั้นไม่กี่วัน แม่ของเธอ ก็ตั้งครรภ์เธอ
หลังเรากินอาหารกันเสร็จแล้ว เธอชวนผมไปต่อที่บาร์
วนิศา สั่ง ค็อกเทล sidecar แก้วหนึ่ง แล้วหันมาถามผมว่าจะดื่มอะไรดี
ผมเลยบอกเธอไปว่า ผมรับปาก น้องเจี๊ยบ ไว้ว่าจะไม่ดื่ม
ขอกาแฟถ้วยหนึ่งหละกัน วนิศา หัวเราะชอบใจ
กลัว จีน่า ซะขนาดนี้ เธอเห็นผมทำหน้างงๆ
เลยบอกผมว่า พวกเรา เรียกเจี๊ยบ ว่า จีน่า นะค่ะ
บ๋อย เอา sidecar มาเสริฟ วนิศา ดื่มรวดเดียวหมดแก้วเลย
แล้วสั่งบ๋อยให้ไปเอามาอีกแก้วหนึ่ง
ดื่มเบาๆหน่อยซิครับ นั่นมันมีส่วนผสมของบรั่นดีคอนยัคชนิด v.s.o.p นะ
เป็นห่วง วนิศา ด้วยหรือ เฮียหนา เธอส่งสายตาหยาดเยิ้มมาที่ผม
พร้อมกับเอามือกุมจี้เหล็กไหลนาคีไปด้วย
นัยตาสีเขียวมรกตของเธอส่องประกายแสงวูบหนึ่ง แล้วก็....
น้องเจี๊ยบ น้องเจี๊ยบจริงๆด้วย กลับมาตั้งแต่เมื่อไร่ พี่คิดถึงจัง
ผมโผเข้าไปกอดเธออย่างดีใจ ริมฝีปากผม ใกล้เข้าไปๆ
ขณะจะจุมพิศเธอ ข้างหู แววเสียง หลวงปู่อนันต์
โยม ศีลข้อสาม อย่าลืม อุ๊บ
สติของผมกลับคืนมา หญิงสาวที่ผมกำลังจะจูบเธอ ไม่ใช่น้องเจี๊ยบ
หากแต่เป็น วนิศา เธอกำลังเผยอริมฝีปากรอรับการจูบจากผมอยู่
ผมรีบปล่อยตัวเธอ แล้วกล่าวคำขอโทษ
ขอโทษครับ สงสัยผมคงเบลอ คิดถึงน้องเจี๊ยบ มากไปหน่อย
ไม่เป็นไรค่ะ เฮียหนา แต่แววตาเธอฉายแววฉงนสนเท่ห์ออกมาแว๊บหนึ่ง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผมโดนพลังด้าน มหาเสน่ห์ ของ เครื่องรางของขลัง
จำได้ว่า ครั้งหนึ่ง ในงานปลุกเสกพระเครื่องของทางวัดระฆัง
ผมนั่งติดกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเป็น คน นครศรีธรรมราช
เธอมักชวนผมคุย เรื่องงานปลุกเสก ของ วัดต่างๆ
แล้วเธอก็หยิบสร้อยคอ จากอกเสื้อออกมาโชว์ให้ผมดู
เธอแขวนเดี่ยว เป็น พระกรุ นางตรา อันเลื่องชื่อ ของ นครศรีธรรมราช
ผมมองพระของเธอ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ
มันทำให้ผมเห็นภาพซ้อนว่า ทำไมเธอจึงสวยขึ้นมาก
พอตั้งสติได้ ภาพซ้อนก็หายไป กลับมาเป็น ใบหน้าของเธออย่างเดิม
เธอก็เหมือนคนปักษ์ใต้ทั่วไป ที่ผิวดำ แต่รูปร่างเล็กและผอมบาง
แต่เหล็กไหลของ วนิศา มีพลังอำนาจที่รุนแรงกว่ามาก
ผมเห็นเธอ กลายเป็น น้องเจี๊ยบ ไปจริงๆ ไม่ใช่ ภาพซ้อน
เออ...นี่ก็ดึกมากแล้ว เราแยกย้ายกันกลับห้อง พักผ่อนดีกว่า
พรุ่งนี้ จะได้ออกเดินทางไปเที่ยวที่อื่นแต่เช้า
ผมชิงตัดบท ไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้เธอนัก
มาถึงห้องพัก ผมรีบ สไกป์ หาน้องเจี๊ยบ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง
น้องเจี๊ยบ จึงบอกว่า วนิศา มีเสน่ห์มาก คนมาหลงชอบเธอมากมาย
เหมือนเธอมีอำนาจ ดึงดูดผู้คนได้ เจี๊ยบจึง ขอ วันเดือนปีเกิดของเธอมา
วนิศา ลัคนา ราศี กันย์
ดาว 1 4 6 สถิต ราศี กันย์
ดาว 7 0 สถิต ราศี ธนู
ดาว 8 สถิต ราศี มังกร
ดาว 9 สถิต ราศี มีน
ดาว 3 สถิต ราศี พฤษภ
ดาว 2 สถิต ราศี เมถุน
ดาว 5 สถิต ราศี กรกฏ
น้องเจี๊ยบ บอกว่า คู่ควงของ วนิศา แต่ละคนล้วนแต่เป็น คนเด่นคนดัง ในรั้วมหาลัย
ผมมามอง ดาว 5 ปัตนิ เป็น อุจ สถิตในเรือนลาภ ของทั้งลัคนาและตนุลัคน์
สถิตในเรือนดาวจันทร์ เป็น คู่ชู้ อื่ม...เห็นจะจริง
มิน่า ถึงกำชับผม ไม่ให้ วอกแวก กับ วนิศา เกือบไปแล้วเรา
ดีที่ หลวงปู่ มาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นมีหวัง โดน น้องเจี๊ยบ เอาตายแน่
ผมพาเธอเที่ยว อีกสองสามวัน ก็พาเธอกลับมาส่ง ที่ สุวรรณภูมิ
ผม น้องเจี๊ยบ วนิศา และ นงนุช ( เพื่อนข้างบ้านในวัยเด็ก )
ยังคงมีเรื่องราวต้องมาเกี่ยวพันกันอีก
คงเป็น ผลการกระทำของเราทั้งสี่ ใน อดีตชาติภพ
จบตอน