ติดตามสถานะการณ์

ดูชัดๆ!อุกกาบาตระเบิดขณะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2558 03:01 น.



เดลิสตาร์ - สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวินาทีน่าขนลุก อุกกาบาตลูกหนึ่งระเบิดเหนือท้องฟ้าระหว่างที่มันเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก เหตุการณ์ที่มองเห็นได้ทั่วยุโรปตะวันออก

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/7dlaGiqfLi4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ประชาชนหลายแสนคนทั่วยุโรปตะวันออกได้เป็นสักขีพยานของเหตุการณ์อุกกาบาตขนาดใหญ่ระเบิดและแตกเป็นเสี่ยงๆเหนือท้องฟ้า ขณะที่ภาพของเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ถูกถ่ายไว้ได้โดยนายนิโคลัส เวกาส ชายชาวสโลวาเกีย

นายเวกาส เล่าให้ฟังว่าในตอนนั้นเขารู้สึกกังวลว่าการระเบิดจะทำให้อุกกาบาตแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยและไปตกในละแวกใกล้เคียง "ผมกำลังขับรถอยู่ ตอนที่เห็นอะไรบางอย่างที่น่าอัศจรรย์บนท้องฟ้า ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ผมก็ได้โพสต์วิดีโอบนโลกออนไลน์แบ่งปันกับคนอื่น ผมวิตกเล็กน้อยว่าบางชิ้นส่วนอาจไปตกที่สนามบินในโคซิเช"

นอกจากนายเวกาสแล้ว ยังมีคนอื่นๆสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้งนักได้เช่นกัน โดยคลิปหนึ่งถูกถ่ายในเมืองราโคสปาโลตา ของฮังการี ส่วนอีกคลิปถ่ายในเมืองโคซิเช เมืองเดียวกับที่นายเวกาสบันทึกภาพไว้ได้

แยน สโวเรน นักดาราศาสตร์เชื่อว่าเหตุการณ์นี้คือปรากฏการณ์ระเบิดของลูกไฟหรือโบไลด์ (bolide)ที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างชั้นบรรยากาศกับวัตถุอวกาศขนาดเล็ก โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่น้อยครั้งมากที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่า

เมื่อ 5 ปีก่อน อุกกาบาติลูกหนึ่งระเบิดในตำแหน่งใกล้ๆกันและพบเศษของมัน 64 ชิ้นกระจัดกระจายทั่วเเมือง โดยกรณีนั้นเชื่อว่าอุกกาบาตแตกเป็นเสี่ยงๆก่อนตกกระทบพื้น

ขณะที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013 อุกกาบาตลูกหนึ่งเคลื่อนผ่านท้องฟ้าเหนือเมืองเยกาเตรินเบิร์กและเทือกเขาอูราลในแคว้นเชลยาบินสก์ของรัสเซีย ก่อนเกิดระเบิดและมีชิ้นส่วนตกลงในทะเลสาบเมืองเชบากูล แรงสั่นสะเทือนทำให้กระจกอาคารแตก มีรายงานจากหน่วยงานฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บราว 500 คน ส่วนใหญ่เกิดจากการโดนเศษกระจก โดยมี 3 รายอาการสาหัส มีสิ่งก่อสร้างราว 297 แห่งได้รับความเสียหาย ในนั้นเป็นโรงพยาบาล 6 แห่ง โรงเรียนอีก 12 แห่ง

 

สหรัฐเรียกร้องจีน-เกาหลีใต้เลิกกดค่าเงิน



รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องรัฐบาลจีนและเกาหลีใต้ให้ยกเลิกมาตรการแทรกแซงค่าเงินของตัวเอง ที่ส่งผลให้ค่าเงินต่ำกว่าความเป็นจริงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

วันเสาร์ 11 เมษายน 2558 เวลา 14:20 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ว่การะทรวงการคลังสหรัฐออกรายงานเมื่อวันศุกร์ เกี่ยวกับสถานการณ์การปั่นค่าเงินในตลาดโลก โดยรัฐบาลวอชิงตันมองว่า สกุลเงินหยวนของจีนยังคงมีค่าต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างไม่สมเหตุสมผล แม้รัฐบาลปักกิ่งจะให้คำมั่นลดระดับมาตรการแทรกแซงค่าเงินและปล่อยให้ค่าเงินผันแปรได้อย่างเสรี ซึ่งส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนกับเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ในรอบ 6 เดือน แต่สหรัฐยังคงเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับจีนจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ รายงานมีเนื้อหาวิจารณ์นโยบายแทรกแซงค่าเงินวอนของรัฐบาลเกาหลีใต้ด้วย ว่าส่งผลให้ค่าเงินเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ในระดับต่ำกว่าความเป็นจริงถึงร้อยละ 9 ระหว่างเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ถึงเดือนก.พ.ปีนี้ ทั้งสองประเทศจึงควรถ่วงดุลค่าเงินของตัวเอง ผ่านนโยบายปฏิรูปอัตราการบริโภคภายในครัวเรือน เพื่อเศรษฐกิจของประเทศที่ยั่งยืนต่อไป

สหรัฐเรียกร้องจีน-เกาหลีใต้เลิกกดค่าเงิน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

รัสเซียโวยยูเครนผ่านร่างกม.แบน 'ความเป็นโซเวียต'



รัฐบาลรัสเซียแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังสภายูเครนเห็นชอบร่างกฎหมายต่อต้านสิ่งที่สื่อถึงสหภาพโซเวียต ว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยเตือนว่ารัฐบาลเคียฟกำลังเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็น 'เผด็จการ'

วันเสาร์ 11 เมษายน 2558 เวลา 11:11 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ว่ากระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ ประณามรัฐบาลยูเครนต้องการ "รวบอำนาจเบ็ดเสร็จ" และลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน หลังสภาผู้แทนราษฎรยูเครนมีมติเสียงข้างมากเมื่อวันพฤหัสบดี ผ่านร่างกฎหมายประกาศให้สัญลักษณ์ทุกประเภทที่สื่อถึงความเป็นคอมมิวนิสต์และลัทธินาซี ซึ่งรวมถึงธงชาติสหภาพโซเวียต และสิ่งที่สื่อถึงการยกย่องนายวลาดิเมียร์ เลนิน ผู้นำการปฏิวัติมาร์กซิส เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศ

นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งเป็นการปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกในประเทศ และปลูกฝัง "อุดมการณ์ชาตินิยม" ให้กับประชาชน รวมถึงยังเป็นการหักหลังทหารผ่านศึกชาวยูเครน ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้าร่วมการสู้รบในนามของกองทัพสหภาพโซเวียต เพื่อต่อสู้กับการรุกรานของกองทัพนาซีด้วย

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์สหภาพโซเวียตมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป โดยบางส่วนวิเคราะห์เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ และบางส่วนมองเป็นการสนองต่อความเชื่อของประชาชนจำนวนมาก ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในภูมิภาคดอนบาสส์ ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ยังอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน

รัสเซียโวยยูเครนผ่านร่างกม.แบน 'ความเป็นโซเวียต' | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

มะกันอ่วม ทอร์นาโดถล่มมิดเวสต์ ดับแล้ว 2 (ชมคลิป)
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 เม.ย. 2558 02:56


---
@ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นเมืองแฟร์เดล ในรัฐอิลลินอยส์ ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุทอร์นาโด (ภาพ: AP Photo)
---
พายุทอร์นาโดหลายลูกพัดถล่มภูมิภาคมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกาตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย…

<iframe width="570" height="351" src="https://www.youtube.com/embed/didkQXhjeVQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดพายุทอร์นาโดหลายลูกพัดถล่มพื้นที่ชายขอบของภูมิภาคตะวันตกกลาง (มิดเวสต์) ของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนเสียหายหลายสิบหลัง เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

เมื่อวันศุกร์ เกิดพายุทอร์นาโดหลายลูกสร้างความเสียหายอย่างหนักในรัฐอิลลินอย โดยมีบ้านเรือนถูกทำลาย 49 หลังใน โอเกิล เคาน์ตี ในจำนวนนี้กว่า 30 หลังอยู่่ที่เมืองรอคเชล ขณะที่เดียวกันที่มีผู้เสียชีวิต 2 รายในเหตุพายุทอร์นาโดที่เมือง แฟร์เดล ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ โอเกิล เคาน์ตี

ส่วนที่เมืองเคิร์คแลนด์ ใน ดีคาล์บ เคาน์ตี ซึ่งอยู่ไม่ใกล้จากเมืองรอคเชล ได้รับความเสียหายจากทอร์นาโดไม่แพ้กัน ซากความเสียหายกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถเข้าไปค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังได้

ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์พายุของสหรัฐฯ รายงานว่า ในวันพฤหัสบดีเพียงวันเดียว ภูมิภาคมิดเวสต์ต้องเผชิญพายุทอร์นาโดถึง 14 ลูก พายุหมุนลูกใหญ่ลูกหนึ่งพัดทำลายเรือกสวนไร่นาในรัฐไอโอวา นอกจากนี้ยังเกิดทอร์นาโดในรัฐโอกลาโฮมา, แคนซัส และมิสซูรี และเกิดฝนลูกเห็บขนาดเท่าลูกเทนนิส ตกที่เมืองแอชตัน รัฐอิลลินอยส์ด้วย

มะกันอ่วม ทอร์นาโดถล่มมิดเวสต์ ดับแล้ว 2 (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ชาวญี่ปุ่นใจเสีย เห็นวาฬเกยตื้นนับร้อย กลัวซ้ำรอยมหันตภัยสึนามิปี 54
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 15:57 น.



วันที่ 11 เม.ย. เอเอฟพีรายงานว่า วาฬหัวแตงโม หรือ เมลอนเฮด 156 ตัวเกยตื้นที่ชายฝั่งของญี่ปุ่น สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนที่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นลางบอกเหตุว่ากำลังจะเกิดภัยพิบัติขึ้นอีกครั้ง หลังเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันไม่กี่วันก่อนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใต้ทะเลก่อคลื่นสึนามิ กวาดซัดบ้านเรือนทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 19,000 ราย เมื่อวันที่ 11 มี.ค 2554 แม้ว่าไม่มีข้อมูลเชื่อมโยงทางวิทยาศาสตร์ในสองเหตุการณ์นี้

ด้านนักวิทยาศาสตร์ชำแหละและตรวจสอบวาฬหัวแตงโมที่เกยตื้นที่ชายหาด 2 แห่งของญี่ปุ่น แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้วาฬตายและไม่พบร่องรอยของโรค เช่น มะเร็ง ที่อาจเป็นสาเหตุการตาย ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวเพราะมีกระแสในโลกออนไลน์ที่ชี้ว่าเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อมีผู้พบวาฬหัวแตงโมเกยตื้นกว่า 50 ตัว ที่ชายหาดก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 2554 เพียง 6 วัน เจ้าหน้าที่ของทางการญี่ปุ่นพยายามคลายความวิตกของประชาชน และยืนยันว่าไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ใดที่สามารถพิสูจน์ความเชื่อมโยงดังกล่าวได้
เหตุการณ์วาฬเกยตื้นก่อนเกิดเหตุภัยพิบัติไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกกับกรณีแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในปี 2554 แต่มีรายงานว่ามีวาฬนำร่องกว่า 100 ตัว เกยตื้นและตายบนชายฝั่งที่ห่างไกลของประเทศนิวซีแลนด์ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อเดือนก.พ. 2554

ชาวญี่ปุ่นใจเสีย เห็นวาฬเกยตื้นนับร้อย กลัวซ้ำรอยมหันตภัยสึนามิปี 54 : ข่าวสดออนไลน์

 

พ้นคุกแล้ว"เณรแอ"จอมขมังเวทย์ย่างศพทารก
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 18:11 น.



วันนี้ 10 เม.ย. นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เปิดเผย ภายหลังมีประกาศพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 30 มี.ค. เรื่องพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2558 ซึ่งเรือนจำกลางบางขวางมีผู้ต้องขังที่เข้าหลักเกณฑ์ได้รับการอภัยโทษ และถูกปล่อยตัวในวันนี้จำนวน 98 ราย โดยหนึ่งในนั้น มีนายหาญ รักษาจิตร์ หรือเณรแอ หมอไสยศาสตร์ชื่อดัง ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนเมื่อปี 2549 ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำบางขวางด้วย

สำหรับประวัติของนายหาญ เคยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดหนองระกำ จ.สระบุรี กระทั่งอายุถึงวัยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ แต่นายหาญก็ไม่อุปสมบท และเลือกเรียนไสยศาสตร์มนต์ดำจากอาจารย์ชาวเขมร จนทำให้มีชื่อเสียง ทั้งนี้ จากการปลุกเสกกุมารทอง มีการย่างศพเด็กทารก ซึ่งหนังสือพิมพ์ข่าวสดนำมาเปิดโปงจนกลายเป็นข่าวครึกโครม ทำให้เณรแอถูกจับดำเนินดี ติดคุกกว่า 1 ปี ภายหลังพ้นโทษ แม้จะไม่ได้ครองผ้าเหลือง แต่นายหาญก็ยังประกอบอาชีพเป็นหมอไสยศาสตร์

ต่อมาเมื่อปี 2548 อดีตภรรยาของนายหาญ ได้เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล โดยกล่าวหานายหาญว่ามีพฤติการณ์ต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน โดยอ้างพิธีทางไสยศาสตร์หลอกกระทำชำเราหญิงสาว พร้อมแอบถ่ายวิดีโอไว้แบล็กเมล์เหยื่อ จากนั้นนางปวีณาจึงประสานไปยัง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส. (ตำแหน่งในขณะนั้น) ให้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีนายหาญในข้อหาฉ้อโกงประชาชน

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นบ้านพักของนายหาญ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2548 พบนายหาญนอนอยู่ในห้องพักกับหญิงสาววัย 19 ปี รายหนึ่ง โดยหญิงสาวยอมรับว่า เดินทางมาพบนายหาญ เพื่อให้ทำเสน่ห์ยาแฝดให้ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าพิธี จึงยอมร่วมหลับนอนแทน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบเครื่องรางของขลังและอุปกรณ์การทำพิธีไสยศาสตร์เต็มบ้าน และมียาไวอากร้า ยากล่อมประสาท ซุกซ่อนอยู่ใต้ฐานพระภายในห้องทำพิธี

ทั้งนี้ นายหาญปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเฉพาะประเด็นการกระทำชำเราหญิงสาว โดยอ้างว่าหญิงสาวที่มาทำไสยศาสตร์ยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับเขาเอง ต่อมาพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายหาญ ต่อศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อเอาผิดนายหาญฐานฉ้อโกงประชาชน

ศาลได้พิพากษาจำคุกนายหาญเป็น เวลา 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้เหลือจำคุก 75 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อลงโทษจำคุกจำเลยทุกกระทงความผิดแล้ว จำคุกได้ ไม่เกิน 20 ปี โดยนายหาญถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี ก่อนได้รับพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว


พ้นคุกแล้ว"เณรแอ"จอมขมังเวทย์ย่างศพทารก : ข่าวสดออนไลน์

 

ความช่วยเหลือจากกาชาดเข้าถึงเยเมน



วันเสาร์ 11 เมษายน 2558 เวลา 08:30 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ว่าคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ( ไอซีอาร์ซี ) รายงานเรื่องเครื่องบินลำเลียงสิ่งของบรรเทาทุกข์น้ำหนักรวม 16 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยารักษาโรค อาหาร น้ำสะอาดและเครื่องนุ่งห่ม เดินทางออกจากจิบูตีไปลงจอดที่สนามบินในกรุงซานาเมื่อวันศุกร์ ถือเป็นครั้งแรกที่ภารกิจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของไอซีอาร์ซีเพื่อชาวเยเมน สามารถเข้าถึงพื้นที่สงครามได้สำเร็จ

ขณะที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ( เอ็มเอสเอฟ ) รายงานเรื่องการส่งแพทย์ในสังกัดของหน่วยงาน 5 คน ร่วมเดินทางไปกับเครื่องบินของไอซีอาร์ซีด้วย ด้านกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) ส่งเครื่องลำเลียงสิ่งของจำเป็นสำหรับการอุปโภคและบริโภครวม 16 ตันไปยังเยเมนได้แล้วเช่นกัน เบื้องต้นสิ่งของจำเป็นเหล่านี้เพียงพอสำหรับการดูแลผู้ใหญ่ราว 80,000 คน และเด็กอีก 20,000 คน

อย่างไรก็ตาม ฝูงเครื่องบินรบของกองทัพพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดีอาระเบียยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง เพื่อสนับสนุนกองทัพเยเมน ในการปราบปรามกลุ่มกบฏฮูซีในเมืองเอเดน ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งชาวบ้านที่อาซัยอยู่ในแถบนั้นเผยว่า ระดับของการโจมตีครั้งนี้มีความรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ปฏิบัติการ "พายุมหาประลัย" เปิดฉากเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ด้านแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพสหรัฐ เผยเรื่องการเพิ่มความสนับสนุนด้านข่าวกรองในเยเมนให้แก่กองทัพซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรด้วย

ความช่วยเหลือจากกาชาดเข้าถึงเยเมน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

In & Outside World



YellowStone
....ก๊าซมีเทน ประหลาดเพิ่มขึ้นสูง
การวิจัยล่าสุด 4 รัฐของสหรัฐ ตรวจพบ “hot spot” โดยดาวเทียมยุโรป ซึ่ง 4 รัฐ ประกอบด้วย รัฐแอริโซนา โคโลราโดนิวเม็กซิโกและยูทาห์ มีความเข้มข้นสูงสุดของก๊าซมีเทน ซึ่ง 4 รัฐดังกล่าว ก็ YellowStone นี่เอง
...นักวิจัยจาก CIRES (NOAA) และ The JPL participants ...17-24 เมษายน นำเครื่องมือทางอากาศและภาคพื้นดินในการตรวจสอบแหล่งที่มาของก๊าซมีเทน “hot spot”
....และอีก 1 ข่าว...ภาวะโลกร้อนเป็น 1 ตัวเร่งให้บริเวณ รอบๆ YellowStone มีไฟป่าเพิ่มมากขึ้น ป่าไม้ใกล้บริเวณถูกเผาไหม้ เหลือน้อยลง และหิมะก็น้อยกว่าหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา
............
....แล้วก๊าซมีเทน มันไปเกี่ยวอะไรกับ ภูเขาไฟ YellowStone ""
ก็ ก๊าซมีเทน เป็นการสะสมของซากพืช แลซากสิ่งมีชีวิต (เช่นล่าสุดที่ตรวจพบ ก๊าซมีเทน บนดาวอังคาร ก็อาจอนุมานได้ว่า ณ อังคาร เคยมีสิ่งมีชีวิต)
...
ก๊าซมีเทน สามารถก่อให้เกิดความร้อนใต้ดิน ชั้นหินลึกลงไปได้ และหากมีมาก ๆ ก็เกิด “hot spot” แล้วไอ้เจ้า “hot spot” ก็สามารถเร่งปฏิกิริยา โดยความร้อนจาก ภูเขาไฟ อีกที่...และ “hot spot” เพิ่มมากขึ้น เหมือน 4 รัฐ บริเวณใกล้เคียงและมีภูเขาไฟ ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องเร่งตรวจสอบ...

............
((ติดตามตอนต่อไป YellowStone กับ ปอมเปอีย์(2) ของนอสตราดามุส จุดไหนจะระเบิดก่อน และจะระเบิดในช่วงชีวิต ของเราหรือไม่))

...........

Got methane? Four Corners air quality forum set to update public on latest research on fracking emissions | Summit County Citizens Voice

มีเทน - วิกิพีเดีย

 

In & Outside World



9 คำทำนาย นอสตราดามุส ที่จะเกิดปี 2015
(ทดไว้ก่อน แล้วให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์)
....1 สหรัฐจะเจอแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
....2 ผู้นำมหาอำนาจโลก 4 ประเทศ จะถูกลอบสังหาร
....3 นักวิทย์จะค้นพบยาอายุวัฒนะ
....4 พลังงานแสงอาทิตย์ จะถูกนำมาใช้เพื่อสมดุลโลก
....5 ความเป็นอยู่ชาวโลกจะดีขึ้น แต่ สหรัฐพบวิกฤต
....6 ภูเขาไฟ ปอมเปแีย์ จะระเบิดอีกครั้งช่วงปลายปี
....7 พระเจ้าองค์ใหม่ถือกำเนิด
....8 ศาสนาใหม่จะเถิดกำเนิดที่รัสเซีย และปี 2040จะเป็นศาสนาเดียวโลก
....9 เกิดความรุนแรงในอาหรับ เกือบกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
..............................................................................................
...โดยส่วนตัวไม่เชื่อ มานานแล้ว
..............................................................................................
...ติดตามสิ จะเข้ากี่ข้อ..
แชร์สนั่น!! เผย 9 คำทำนายของ นอสตราดามุส ที่จะเกิดขึ้นในปี 2015 - ข่าววันนี้ คำทำนายนอสตราดามุ

 

"หลุมลึกลับ"โผล่ที่ซินเจียงอุยกูร์ มีเปลวความร้อนพวยพุ่งออกมาตลอด
วันที่ 09 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 20:28 น.



เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์รายงานว่า หลุมลึกประหลาดถูกค้นพบโดยหยาง ชี่หยิน คนงานก่อสร้างในเมืองอุรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ขณะกำลังเดินไปทำงานที่เขตก่อสร้าง โดยลักษณะหลุมนั้นกว้างประมาณ 20 ซม. มีแสงส่องแวบๆเป็นสีส้มเข้มผสมเหลืองเพราะความร้อน แต่ไม่มีเสียงหรือเปลวไฟแต่อย่างใด

เมื่อ ชี่หยิน เห็นหลุมนี้แล้ว ก็เกิดทั้งความแปลกใจและสนใจ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ก็ต้องแสบๆคันๆตา เพราะหลุมนี้มีอุณหภูมิสูงมากถึง 792 องศาเซลเซียส

จนเมื่อ ชี่หยิน กลับไปที่หอพัก และคุยกับเพื่อนๆ จึงได้รู้ว่า เพื่อนๆเขารู้เรื่องเกี่ยวกับหลุมนี้มาตั้งนานแล้ว มีความร้อนแผดเผาและพวยพุ่งอยู่มาหลายปี แต่ไม่มีใครทราบสาเหตุ

เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นโต้เถียงกันชุลมุนพอสมควร ชาวเน็ตส่วนหนึ่งเชื่อว่าหลุมนี้เป็นโพรงไปสู่อาณาจักรใต้พิภพ ในขณะที่หน่วยดับเพลิงท้องถิ่นอธิบายว่า เป็นแค่การยุบตัวของแผ่นดินเนื่องมาจากความร้อนของชั้นหินถ่ายที่ใต้พื้นดินเท่านั้นเอง

"หลุมลึกลับ"โผล่ที่ซินเจียงอุยกูร์ มีเปลวความร้อนพวยพุ่งออกมาตลอด : ข่าวสดออนไลน์

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯกล่าวหาจีนว่าใช้อิทธิพลกับประเทศเล็กในคาบสมุทรทะเลจีนใต้ ส่วนจีนตอบโต้ทันทีว่า "ใครที่ไม่เกี่ยว อย่าเ_ือก!"



---------------
เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมานายบารัคโอบามาออกแถลงการณ์ต่อกรณีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ว่า "รัฐบาลปักกิ่งกำลังใช้อิทธิพลกดขี่ให้บรรดาประเทศคู่กรณีตกอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะกับเวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวเป็นนัยว่า การที่ทั้งสองประเทศมีขนาดเล็กกว่า และไม่มีศักยภาพในหลายด้านทัดเทียมจีน ไม่ได้หมายความว่า ประเทศขนาดเล็กเหล่านี้จะไม่สามารถตอบโต้ได้"
ซึ่งก่อนหน้านี้ทางจีนได้พยายามแสวงหาความร่วมมือในการเจรจากับกลุ่มประเทศคู่ขัดแย้งในทะเลจีนใต้ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเวียตนามมาเป็นอย่างดี โดยจีนเลือกที่จะใช้สันติวิธีคือการทูตและการเมืองแทนการใช้กำลังทางกองทัพ กลุ่มประเทศคู่กรณีเหล่านี้ก็ตอบรับเข้าร่วมเจรจากับจีนเพื่อลดปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างกัน เพราะก่อนหน้านี้ต่างฝ่ายต่างก็ออกมาอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ในทะเลว่าเป็นของตน ในขณะที่กำลังเกิดความร่วมมือกันในทิศทางที่ดี กลับกลายเป็นว่าสหรัฐฯรู้สึกจะไม่ชอบใจซะอย่างนั้น อเมริกาไม่ชอบที่จะเห็นประเทศเหล่านี้สามัคคีกัน ไม่ทะเลาะกัน จับมือร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ จึงใช้ลูกไม้เดิมออกมาเสี้ยมฝั่งเวียตนามกับฟิลิปปินส์ให้เกิดความขัดแย้งกับจีนขึ้นมาอีกรอบ ส.ด.เก่ามันฆ่าไม่ตายจริงๆ พับผ่าสิ คำพูดดังกล่าวนั้นไม่มองดูตัวเองบ้างเลยกับกรณีตะวันออกกลางอย่างอิรัค ซีเรีย และเยเมน กรณีทะเลจีนใต้สหรัฐฯกล่าวหาว่าใจใช้อำนาจรังแกประเทศที่เล็กกว่า แต่กรณีของตะวันออกกลางนั้นอเมริกาจะว่าอย่างไร? นี่แหละอเมริกา
มีหรือที่จีนจะยอมให้โอบามาออกมาฝายลมทางปากอยู่ฝ่ายเดียว จีนส่งตัวแทน ก.ต่างประเทศออกมาสั่งสอนโอบามาทันทีเลยว่า "ไม่ใช่เรื่องของคุณ" (None of Your Concern) แปลเป็นภาษาไทยแบบชัดๆว่า "อย่าแส่/อย่าเ_ือก/ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป" โดยทางจีนบอกว่า จีนกำลังแสวงหาสันติวิธีและความมีเสถียรภาพและพร้อมที่เข้าร่วมในการเจรจาต่อรองเพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่ลง โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนพูดตอนหนึ่งว่า "สหรัฐฯควรจะช่วยสนับสนุนเรื่องเสถียรภาพและสันติภาพในพื้นที่ (ทะเลจีนใต้) ประเทศใดๆที่ไม่มีสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวควรจะถอยออกไป" อย่าเสนอหน้าเข้ามายุ่งว่างั้นเถอะ
เฮ้อ… ไม่รู้ว่าทีมที่ปรึกษาของโอบามาเป็นงานหรือเปล่านะ ก่อนจะปล่อยให้ลูกพี่ตัวเองออกมาพูดอย่างนี้ไม่ดูสถานการณ์บ้างเลยหรือว่าตอนนี้โลกเขาไปถึงไหนแล้ว พี่แกยังหลงยุคคิดว่าแกยังเป็นจ้าวโลกอยู่อีกหรือไง เมื่อสหรัฐฯไม่ไว้หน้าจีนแล้วทำไมจีนจะต้องเกรงในด้วยเล่า โอบาม่าเป็นถึงระดับผู้นำประเทศ แต่จีนส่งตัวแทนของรมว.ต่างประเทศออกมาตอบโต้แทนนี่ ถือว่าดูถูกสหรัฐฯมากๆเลยนะ ไม่จำเป็นที่จีนจะต้องให้ผู้นำสูงสุดของจีนตอบโต้เองก็ได้ แสดงว่าจีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดลักษณะนั้นของสหรัฐฯอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าทั้งเวียตนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน ต่างก็เข้าร่วมใน AIIB กับจีนหมดแล้ว ยกเว้นสหรัฐฯกับญี่ปุ่นเท่านั้นเอง เมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้วเขาจะมาทะเลาะกันทำไมอีกหละ?
The Eyes
12/04/2558
----------
None of Your Concern: China Slams US for Meddling in Asian Affairs / Sputnik International
China Eyes Historic Shift in Vietnam Relations / Sputnik International
China Urges US to Refrain From Belligerent Rhetoric, Actions in Asia / Sputnik International
US is Losing Its Status of World Power – German Media / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



อินเดียเปิดตัวเรือดำน้ำสเตลธ์รุ่มใหม่ 6 ลำพร้อมตัดสินใจซื้อเครื่องบินรบ Rafale จากฝรั่งเศส 63 ลำเพียงครึ่งเดียวจากที่ตกลงกันในตอนแรก, เยอรมันขายเรือดำน้ำสามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ได้ให้อิสราเอล, และรัสเซียสั่งซื้อเรือรบรุ่นใหม่เพื่อประจำฐานทัพทั่วโลก, ผลสำรวจจาก Times บอกว่าปูตินเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิที่สุดในโลก โอบาม่าได้ที่ 11
---------------
+ อินเดียเปิดตัวเรือดำน้ำล่องหนรุ่น Scorpénes 6 ลำ
---------------
หันมาด้านอาวุธกันบ้าง บินจากรัสเซียไปฝรั่งเศสแล้วต่อไปที่อินเดียซะหน่อยจะเป็นไรไป เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียรายงานว่า อินเดียเปิดตัวเรือดำน้ำรุ่นใหม่ล่าสุดใช้เทคโนโลยีล่องหน (stealth) รุ่น Scorpéne-class จำนวน 6 ลำเป็นครั้งแรกโดยปล่อยลงสู่ทะเลที่ท่าเรือของบริษัท Mazagon Dock Limited (MDL)เมืองมุมไบ ประเทศอินเดียเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เรือดำน้ำ Scorpénes ของอินเดียนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างฝรั่งเศสกับอินเดียภายใต้โครงการสร้างเรือดำน้ำของกองทัพเรืออินเดีย (Project 75 submarine program) ซึ่งกองทัพนาวิกโยธินของอินเดียกับบริษัท DCNS ของฝรั่งเศสชนะการประมูลที่ราคา $4.6 billion (ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2005 (เมื่อ 10 ปีที่แล้ว)
ช่วงนี้ทางอินเดียจะนำเรือดำน้ำ Scorpénes รุ่นใหม่นี้ไปทดสอบการใช้อาวุธและความสามารถในการยิงไปพลางๆก่อนโดยจะให้เข้าประจำการในกองทัพอย่างเป็นทางการในปี 2016 ส่วนอีก 5 ลำนั้นจะเข้าประจำการได้ภายในปี 2020 (อีก 5 ปีข้างหน้า) รุ่นนี้ถือว่าเป็นเรือดำน้ำลึกรุ่นแรกของอินเดีย โดยสามารถดำน้ำลึกได้ประมาณ 1,000 ฟุต (ประมาณ 300 เมตร) มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (noise-cancelling technique) เพื่อป้องกันแรงสั่นสะเทือนเสียงดังจากการเดินเรือภายนอก รูปทรงของเรือดำน้ำรุ่น Scorpéne นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ยากต่อการดักจับด้วยระบบโซน่า เรือดำน้ำรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์แบบ diesel-electric ในต่างประเทศนั้นนอกจากอินเดียแล้วยังมีประเทศอื่นที่ใช้เรือดำน้ำเทคโนโลยีของฝรั่งเศสรุ่นนี้อีกด้วยคือ Chile (2 ลำ), Malaysia (2 ลำ), และ Brazil (4 ลำ) ตอนแรกทางโปแลนด์ก็ว่าจะเอาเรือดำน้ำ Scorpéne ของฝรั่งเศสมาโมดิฟายใหม่แต่ถูกเยอรมันแซงหน้าไปก่อนด้วยรุ่น Type 214 ฝรั่งเศสก็เลยอด
+ อินเดียตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องบินรบรุ่น Rafale ของฝรั่งเศสจำนวน 63 ลำจากทั้งหมด 126 ลำ
---------------
หลังจากที่เจรจากต่อรองกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2012 โดยตอนแรกอินเดียบอกกับทางฝรั่งเศสว่าจะซื้อเครื่องบินรบแบบ multirole รุ่น Rafale จากฝรั่งเศสจำนวน 126 ลำ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวออกมาว่าทางอินเดียจะยกเลิกออร์เดอร์ดังกล่าวจากฝรั่งเศสแล้วเปลี่ยนมาซื้อ SU-30 ของรัสเซียแทน รัสเซียก็ปรบมือเชียร์ใหญ่เลยมาทางนี้อินเดียมาทางนี้ ของรัสเซียเจ๋งกว่าอยู่แล้ว ว่างั้นนะ เพราะอะไร? ก็เพราะว่ารัสเซียหมั่นไส้ที่ฝรั่งเศสเดินตามก้นอเมริกามาแซงชั่นรัสเซียนะสิ ก็เลยยุให้อินบอกยกเลิกสัญญากับฝรั่งเศสไปซะเลย แล้วรัสเซียยังชี้ให้อินเดียดูด้วยว่าเห็นไหมนั่นหนะ ขนาดรัสเซียจ่ายเงินค่าต่อเรือบรรทุกเครื่องบิน Mistral ให้ฝรั่งเศสไปแล้วเรือก็ต่อเสร็จแล้วแต่พออเมริกาห้ามไม่ให้ฝรั่งเศสส่องมอบเรือ Mistral ให้รัสเซียเนื่องจากปัญหายูเครนเท่านั้นแหละ จนป่านี้รัสเซียก็ยังไม่ได้รับมอบเรือจากฝรั่งเศสเลย ถ้าอินเดียคิดจะซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศสก็คิดดูให้ดีๆนะ อินเดียก็หยุดดิ ขืนให้เงินไปมีหวังฝรั่งเศสเชิดเงินแล้วเบี้ยวส่งมอบเครื่องบินรบให้อินเดียแน่ๆ ก็เลยขู่ว่าจะยกเลิกสัญญากันเอาดื้อๆอย่างนั้นแหละ
อันที่จริงก็ไม่มีอะไรมากหรอกเกมนี้ปูตินแนะนำอินเดียเองหละ รู้ได้ไง? ก็ดูจากพฤติกรรมพักหลังของฝรั่งเศสสิ เข้าข้างรัสเซียสุดๆ ทุกเรื่องรัสเซียว่าไงฝรั่งเศสเห็นด้วยตลอด ทั้งเรื่องซ้อมรบทางอากาศที่แหลมไคร์เมียร่วมกับรัสเซีย เรื่องฟื้นฟูระบบธนาคารในโดเน็ทส์กกับลูฮานส์กตะวันออกของยูเครน ทั้งๆที่ยังเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งตามกฎหมายของยูเครนอยู่นะ แต่ฝรั่งเศสไปขอจองโครงการนี้จากฝั่งรัสเซียซะงั้น และล่าสุดก็ให้หน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศสออกมาฉีกหน้านาโต้แทนรัสเซียซะงั้น ฝรั่งเศสพึ่งรู้ตัวในภายหลังว่าถูกอเมริกาหลอกใช้ซะแล้ว "อัยหยา....เดินหมากผิดแล้ว" จึงหันมาทำดีกับรัสเซีย รัสเซียก็เลยบอกว่าเอาหละเห็นแก่ความจริงใจครึ่งหนึ่งของฝรั่งเศส รัสเซียจึงไปกระซิบกับทางนายกฯอินเดียว่า เอางี้นะคุณ Narendra Modi รับช่วยซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศสซักครึ่งหนึ่งก็พอหละ เห็นใจเขาเพราะว่าตอนนี้เศรษฐกิจในฝรั่งเศสกำลังแย่สุดๆ ประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดกันทั่วบ้านทั่วเมืองจนปั่นป่วนไปหมดแล้ว อินเดียก็เลยทำตามที่ปูตินแนะนำ เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจกันไว้ด้วย แต่อินเดียก็กำชับกับทางฝรั่งเศสอีกว่าต้องรีบส่งมอบเครื่องบินรบดังกล่าวให้ทางอินเดียโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วนะ แล้ว 63 ลำนี่มันเป็นเงินงบประมาณเท่าไรหละ? ไม่มากมายอะไรหรอกแค่ $7.7 billion เอง (ก็ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท) ใครว่าอินเดียยากจนหละนี่?
+ เยอรมันขายเรือดำน้ำสามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ได้ให้อิสราเอล
---------------
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.58 ที่ผ่านมา sputnik ของรัสเซียลงข่าวว่าเยอรมันขายเรือดำน้ำรุ่น Dolphin Class ให้กับอิสราเอลเป็นลำที่ 5 แล้ว ข้อมูลจากบทความของ Anthony Bellchambers ที่ทำงานให้กับ Global Research บอกว่าเรือดำน้ำรุ่นนี้เป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ แต่จากที่เช็คดูข้อมูลเบื้องต้นในอินเตอร์เน็ทแล้วพบว่าเรือดำน้ำ Dolphin Class ของเยอรมันเป็นประเภทใช้พลังงานดีเซล-ไฟฟ้า (diesel-electric) ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นพลังงานนิวเคลียร์หรือว่าเป็นดีเซล-ไฟฟ้า หรืออาจจะนำมาดัดแปลงเป็นพลังงานนิวเคลียร์ตามที่อิสราเอลต้องก็ได้ แต่ที่แน่ๆเรือดำน้ำรุ่นนี้มีระบบการขับเคลื่อนอากาศโดยอิสระ (air-independent propulsion (AIP)) ด้วย เช่นเดียวกับเรือดำน้ำ Scorpénes ของอินเดียที่ต่อร่วมกันกับฝรั่งเศส และที่สำคัญเรือดำน้ำที่เยอรมันขายให้อิสราเอลนี้สามารถติดตั้งขีปนาวุปติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย ตอนนี้หลายฝ่ายออกมายืนยันว่าทางอิสราเอลยังไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่ทางอิสราเคยกล่าวไว้ว่าต้องการที่จะมีอาวุธนิวเคลียร์ไว้ในครอบครองเช่นกัน
+ รัสเซียสั่งซื้อเรือรบรุ่นใหม่เพื่อประจำฐานทัพทั่วโลก
---------------
พูดถึงเรื่องอาวุธโดยไม่พูดถึงฝั่งรัสเซียเลยก็จะยังไงอยู่นะ เดี๋ยวแฟนคลับปูตินจะงอนเอาได้สิ ที่รัสเซียก็มีข่าวความคืบหน้าด้านกองทัพเช่นกันครับ ทางนาวิกโยธินของรัสเซียได้สั่งซื้อเรือรบรุ่นใหม่เพื่อสร้างความเข้มแข็งในตำแหน่งต่างๆในมหาสมุทรทั่วโลก นั่นไง! มีหรือที่รัสเซีย (และจีน) จะปล่อยให้อเมริกาขยายอำนาจกดขี่ประเทศต่างๆทั่วโลกอยู่ฝ่ายเดียว มันก็ต้องมีการถ่วงดุลอำนาจกันบ้าง พลเรือเอก Viktor Chirkov (Admiral) ผู้บัญชาการกองทัพเรือของรัสเซียกล่าวว่า เรือรบชุดใหม่นี้จะติดตั้งอาวุธและยุทโธปกรณ์เช่นเดียวกับเรือมิสไซล์ขนาดเล็กตามปรกติ แต่เรือรบเหล่านนี้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันเล็กน้อยในทางมหาสมุทรและในการนำทางในทะเล เรือรบดังกล่าวเป็นเรือลาดตระเวนในมหาสมุทรขนาดเล็กจำนวน 2 ลำ
+ ปูตินเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดนำหน้าผู้นำโลกคนอื่นๆจากโพลล์ของผู้อ่านนิตยสาร Times
---------------
นี่ของดีต้องมาทีหลังนี่ ระหว่างวันศุกร์ถึงวันเสาร์ที่ผ่านมานิตยสาร Times ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากผู้อ่านนิตยสารฯเกี่ยวกับผู้นำโลกที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในตอนนี้ ผลปรากฏว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำของรัสเซียครองแชมป์อันดับ 1 ในบรรดาผู้นำโลกทั้งหลาย ผลโพลล์ชี้ว่าปูตินได้คะแนน 6.9% ของการโหวต โป๊ปฟรานซิสได้คะแนน 1.5% (อันดับที่ 10) ในขณะที่ปธน.บารัค โอบามา รั้งที่ 11 ได้ 1.4% ผู้นำของจีนและเยอรมันไม่ติด 20 อันดับแรก จากทั้งหมด 100 คน ว้า…. งานนี้โปรอเมริกาผิดหวังอีกแล้วอ่ะ เสียใจด้วยนะครับผม...
The Eyes
12/04/2558
----------
India Launches First of Six New Stealth Submarines / Sputnik International
India Confirms Purchasing Half of Original Number of Rafale Fighter Jets / Sputnik International
Indian PM Modi Requests Urgent Delivery of 36 Rafale Jets From France / Sputnik International
Anger as Merkel Sells German Sub to Israel Without Consulting EU / Sputnik International
Russian Navy to Order New Warships to Strengthen Positions in Global Ocean / Sputnik International
Dolphin-class submarine - Wikipedia, the free encyclopedia
http://time.com/…/vladimir-putin-k-pop-star-cl-time-100-po…/
TIME 100 2015: Reader Poll Winner

 

ปอกเปลือก ทรราช
หน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศสกล่าวว่าไม่พบสัญญาณการรุกรานยูเครนจากรัสเซียเลย ตรงข้ามกับข่าวกรองฝั่งนาโต้ เพ้ง!



---------------
ฮู่ๆๆ!… เมื่อวันก่อนมีการเดินประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดกันยกใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส ทำให้สายการบินหลายสายต้องหลีกเลี่ยงการบินผ่านฝรั่งเศส ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกันเลย แต่มันก็เป็นไปแล้ว จู่ๆวันนี้บิ๊กบอสต้านหน่วยข่าวกรองสืบราชการลับของฝรั่งก็ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการกล่าวอ้างของนาโต้ที่ว่ารัสเซียเตรียมกันรุกรานและโจมตียูเครนมาเสมอนั้นว่า ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศสอาจจะล้มเหลวในการจับตาพฤติกรรมที่ว่าของรัสเซียก็ได้ ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการร์ในยูเครนตะวันออก นี่เขาพูดแบบรักษาหน้านาโต้นะ ฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศสบอกว่าหลังจากที่ฝรั่งเศสตรวจสอบและจับตาพฤติกรรมทางการทหารของรัสเซียอย่างใกล้ชิดแล้วไม่พบว่ามีการเตรียมการรุกรานยูเครนอย่างที่นาโต้กล่าวอ้างเลย การไม่พบสัญญาณการรุกรานนี้อาจจะเป็นความล้มเหลวของหน่วยข่าวกรองฝรั่งเศสก็ได้ (เออ… หรือว่าสหรัฐฯกับนาโต้จะเต้าข่าวขึ้นมาเองหว่า? อิๆ… มันเจ็บจี๊ดดดไปถึงก้นบึ้งหัวใจของนาโต้เลยดิ) ข่าวนี้ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับการประท้วงที่ฝรั่งเศสนะ แต่ทำไมฝรั่งเศสซึ่งเป็นสมาชิกนาโต้แท้ๆ ถึงออกมาพูดเร็วขนาดนั้นอ่ะ (ไอ้ที่หลายคนมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันนั่นแหละคือเกี่ยวตรงๆเลย การเมืองระหว่างประเทศก็เป็นอย่างนี้แหละ)
นายพล Christophe Gomart หัวหน้าหน่วยกรองทางด้านทหารของฝรั่งเศสตีพิมพ์ ผลการตรวจสอบและแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเป็นภาษาฝรั่งเศสลงในเว็บไซต์สมัชชาแห่งชาติ (National Assembly) ของฝรั่งเศส (ยาวมากกกก) โดยมีข้อความตอนหนึ่งว่า "นาโต้ประกาศว่ารัสเซียกำลังเตรียมจะรุกรานยูเครน แต่จากฝ่ายข่าวกรองของฝรั่งเศสแล้ว ไม่พบว่ามีอะไรที่จะยืนยันสมมุติฐานดังกล่าวได้เลย (เพ้งงงง!) เราพิจารณาเห็นว่ารัสเซียไม่ได้มีการออกคำสั่งหรือปฏิบัติการทางโลจิสติกใดๆ รวมถึงอุปกรณ์พยาบาลภาคสนามที่จำเป็นสำหรับการ (ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากการ) โจมตีทางการทหารด้วย"
ต่ออีกหน่อยนะ นายพล Gomart ของฝรั่งเศสยังกล่าวต่ออีกว่า "ในที่สุดข้อพิสูจน์ของเราก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าถูกต้อง เพราะว่าแม้จะพบว่ามีทหารรัสเซียไปเดินเล่นอยู่แถวชายแดนรัสเซีย-ยูเครนก็จริง แต่นั่นเป็นเพียงวิธีการอย่าหนึ่งที่จะนำไปสู่การกดดันปธน.โปโรเชนโกของยูเครน มากกว่าจะเป็นการรุกรานยูเครน"
อีกนิดนึง... ชอบตรงนี้อ่ะ... นาย Philippe Migault ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากฝั่งยูเครนจากมหาวิทยาลัย University of International and Strategic Relations ของยูเครนกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik ว่า "ฝรั่งเศสไม่ได้โง่ให้ใครมาหลอกได้ (France will not be fooled) ฝรั่งเศสมีแหล่งข่าวและข้อมูลเป็นของตัวเอง และเราก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าจริงๆแล้วมันคืออะไรกันแน่นะที่เป็นคำอธิบายสำหรับวิกฤตยูเครนหนะ" (นี่ขนาดชาวยูเครนเองก็ยังเริ่มสงสัยนาโต้กับสหรัฐฯแล้วนะนี่ เพียงแต่ไม่พูดตรงๆเท่านั้นเอง)
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประเทศที่ไม่ได้สมาชิกนาโต้ในยุโรปทางตอนเหนืออย่างฟินแลนด์และสวีเดนก็ลงนามร่วมกับนาโต้ในการขยายความร่วมมือทางการทหารเพื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่สหรัฐนและนาโต้เรียกว่า "การรุกรานยูเครนจากรัสเซีย" สองชาตินี้ก็ช่างไม่ดูทิศทางลมเอาซะเล้ยยยย เมื่อสหรัฐฯมีนาโต้ จะแง้มๆให้นะ... รัสเซียก็กำลังรวมประเทศต่างๆในย่านนั้นก่อตั้งกองทัพยูเรเซียนมาเบียดนาโต้เช่นกัน มีแนวโน้มว่าจีนจะเข้าร่วมด้วยนะ เพียงแต่ปูตินกำลังเดินแผนนี้แบบเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากมากนัก เอาไว้เป็นรูปเป็นร่างหรือแข็งแกร่งขึ้นมาเมื่อไรก็ค่อยเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการก็ได้ ตอนนี้ก็เดินเกมหาพันธมิตรฆ่าดอลล่าร์ของสหรัฐฯไปพลางๆก่อน จากนั้นค่อยเชิญหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในกลุ่ม BRICS และลาตินอเมริกาและเอเซียมาจัดตัั้งกองทัพยูเรียเซียร่วมกันก็ยังไม่สาย เกมนี้ยังต้องดูกันอีกยาวครับท่าน
The Eyes
12/04/2558
----------
http://rt.com/news/248877-france-ukraine-russian-military/
http://www.assemblee-nationale.fr/…/cr-c…/14-15/c1415049.asp

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯส่งเครื่องบินสอดแนมแถวทะเลบอลติก รัสเซียส่งเครื่องบินรบ Sukhoi Su-27 บินเฉียดสั่งสอน



---------------
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.58 ที่ผ่านมา สหรัฐฯส่งเครื่องบินสอดแนมลาดตระเวนรุ่น RC-135U ของตนไปบินอยู่แถวทะเลบอลติก เพื่อจับตาดูกิจกรรมทางทหารของรัสเซียในทะเลบอลติกและในเขต Kaliningrad Oblas ของรัสเซีย เครื่องบินลำดังกล่าวของสหรัฐฯไม่ใช่เครื่องบินรบไม่ได้ติดตั้งอาวุธ แต่อาจจะติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีการสอดแนมชั้นสูงเอาไว้ด้วย
ทางรัสเซียเห็นเข้าอย่างนั้นมีหรือจะปล่อยให้สหรัฐฯมาหยามถึงถิ่นได้อย่างนี้ รัสเซียก็ส่งเครื่องบินรบ Sukhoi Su-27 ขึ้นไปบินบาดโผนเฉียดไปเฉียดมาใกล้กับเครื่องบินสอดแนม RC-135U ของสหรัฐฯซะเลย โดยมีระยะห่างจากปีกของเครื่องบิน Sukhoi Su-27 กับเครื่องบิน RC-135U ของสหรัฐฯเพียง 14.7 เมตรเท่านั้น (ข้อมูลจากเพนตาก้อน) หลังจากที่ Sukhoi Su-27 บินวนเฉียดไปเฉียดมารอบเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯอยู่หลายรอบ ฝั่งสหรัฐฯทนแรงกดดันจากเครื่องบินรบของรัสเซียไม่ไหว อ้างว่ากลัวว่าจะเกิดการชนกันกลางอากาศจึงสั่งให้เครื่องบินสอดแนมของตัวเองล่าถอยออกไป ฮิ้วววว! ปิ้วๆ!… วี้ดๆ...
จากนั้นกรุงวอชิงตันก็ชิงออกมาโวยวายฝั่งรัสเซียว่า รัสเซียส่งเครื่องบินรบ Sukhoi Su-27 Flanker เข้ารบกวนเครื่องบินลาดตระเวนของตนในน่านฟ้าสากล อย่างไม่ปลอดภัยและไม่เป็นอาชีพ
แหม… พูดออกมาได้ "unprofessional" ถ้าไม่เก๋าจริงรัสเซียไม่ทำหรอก และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย เพจนี้เคยนำเสนอให้อ่านแล้ว ไอ้ที่ไม่เป็นมืออาชีพหนะคือของสหรัฐฯต่างหากเล่า รัสเซียก็บอกว่านั่นเป็นน่านฟ้าสากล ทุกคนมีสิทธิ์ที่บินได้ด้วยกันทั้งนั้นตราบเท่าที่ไม่กระทำผิดระเบียบกติกาสากล ทางรัสเซียนั้นยึดมั่นตามกฎระเบียบการบินระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดในน่านฟ้าสากล และเหนือพื้นน้ำส่วนรวมโดยไม่ได้เป็นอันตรายต่อชายแดนของประเทศใดๆทั้งสิ้น
หนึ่งในนโยบายของปูตินเกี่ยวกับการฝึกนักบินรบของรัสเซียนั้นก็คือต้องการฝึกให้นักบินของตัวเองได้เรียนรู้ในสนามจริงและจากศัตรูจริงๆ เพื่อฝึกฝนเทคนิคในการบินและการรบของตัวเอง ที่ทะเลดำก็เคยส่งฝูงบินไปลุยมาแล้วเล่นเอานาโต้ต้องหัวหมุนระแวงเครื่องบินรบของรัสเซียจะมาป่วนการซ้อมรบของนาโต้ในทะเลดำถิ่นรัสเซียไปเลย ทั้งนี้ก็เพื่อดูซิว่านักบินของรัสเซียนั้นมีศักยภาพและฝีมือขนาดไหนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจริงๆ นี่เป็นเทคนิคในการฝึกนักบินของปูตินหละ
The Eyes
12/04/2558
----------
http://rt.com/…/248837-us-reconnaissance-aircraft-intercep…/
Su-27 Intercepts US Spy Plane Heading Into Russian Airspace / Sputnik International
Russian SU-27 Nearly Collides With US Spy Plane Over Baltic Sea - Pentagon / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
นักการเมืองสาวใหญ่ของอังกฤษปลื้มปูตินชมว่าเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งทำเพื่อประเทศของเขาก่อน



---------------
จัดข่าวเบาๆให้กับแฟนเพจและโปรรัสเซียแฟนคลับปูตินซักหน่อยก่อนนะครับ จากนั้นค่อยลุยข่าวมันๆอีกหลายข่าวต่อไปน่าอ่านทั้งนั้น อย่าพลาดกันหละครับ... ประเดิมข่าวแรกของวันนี้ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ทางอังกฤษได้จัดดีเบทนักการเมืองหญิงหลายพรรคเตรียมเลือกตั้งในอังกฤษที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 7 เดือนหน้านี้ มีคำถามเกี่ยวกับปูตินและรัสเซียในมุมมองของนักการเมืองหญิงชาวอังกฤษในการดีเบทผ่านทางสถานีวิทยุ LBC Radio ของอังกฤษ Diane James (ไม่ทราบสถานะการแต่งงาน จากข้อมูลที่ค้นหาจากอินเตอร์เน็ทบอกเพียงว่าไม่มีบุตร แต่มีสัตว์เลี้ยงคือสุนัขสองตัว อื่ม… แสดงว่าเป็นสาวใหญ่) ได้พูดถึงปูตินว่า "[ปูติน] เป็นผู้นำที่เข้มแข็งมาก เขาเลือกรัสเซียก่อน ดิฉันชื่นชมเขาจากมุมมองที่ว่าเขาลุกขึ้นเพื่อประเทศของเขา" นี่คือทัศนคติของนักการเมืองชาวอังกฤษบางคนที่มีต่อปูตินเกี่ยวกับการประคับประคองและปกป้องประเทศรัสเซียทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง
แล้วต่อกรณีของยูเครนหละ เธอคิดอย่างไรกับท่าทีของปูติน Diane James พูดอย่างนี้ครับ "ปธน.ของรัสเซียมีปัญหากับวิธีที่อียูสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยูเครน ซึ่งเขา (ปูติน) รู้สึกว่าทำให้ประชาชนชาวรัสเซียในประเทศของเขาตกอยู่ในความเสี่ยงและเป็นอันตราย" นั่นไง นิสัยนักการเมืองยุโรปก็เป็นอย่างนี้แหละ จากคำพูดนี้ทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นไปอีกว่า อังกฤษยอมรับว่าอียูแทรกแซงกิจการภายในของยูเครน เพราะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ไมดานแล้วก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยูเครนในเวลาต่อมาที่สหรัฐฯและอียูเป็นผู้กำหนดเอง นักการเมืองอังกฤษคนนี้เลี่ยงที่จะไม่ใช้คำว่า "แทรกแซง" แต่เลือกใช้คำว่า "สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลยูเครน" แทน เธอเอาความรู้สึกของตัวเองไปบอกว่าเป็นความรู้สึกของปูตินว่าทำให้ประชาชนชาวรัสเซียตกอยู่ในอันตรายซะงั้น แต่ไม่มองที่การกระทำของสหรัฐฯและนาโต้ที่พยายามล้อมกรอบรัสเซียจากด้านยุโรปตะวันออกโดยใช้กองทัพนำหน้าว่านั่นคือการทำให้ประชาชนชาวรัสเซียตกอยู่ในอันตรายอย่างที่เกิดขึ้นในยูเครนและในเยเมนหรือเซียเรียอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้หรือไม่
ในแง่ของปูตินนั้น เมื่อประเทศของตนถูกคุกคามรอบด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ และค่าเงินรูเบิลถูกสหรัฐฯจับมือกับอียูกลั่นแกล้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอดแต่ก็ยังยืนอยู่ได้ ถูกกลั่นแกล้งด้วยการแซงชั่นสารพัด ด้านความมั่นคงนั้นสหรัฐฯกับนาโต้ก็ฮึ่มๆยั่วยุทำสงครามกับรัสเซียตลอดเวลา เพื่อให้รัสเซียเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทางสหรัฐฯและอียูจะได้หาข้ออ้างว่ามีความชอบธรรมที่จะถล่มรัสเซียได้ การลุกขึ้นมาปกป้องประเทศชาติและประชาชนรวมทั้งผลประโยชน์ของรัสเซียแบบนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรและจำเป็นต้องกระทำโดยด่วน ก่อนที่รัสเซียจะล่มสลายเพราะฝีมือของสหรัฐฯและอียู
เมื่อว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ผู้ที่ทำให้ประชาชนชาวรัสเซียตกอยู่ในอันตรายนั้นไม่ใช่ปูตินแน่นอน แต่คือสหรัฐฯและอียูนั่นแหละ แต่ที่นักการเมืองชาวอังกฤษออกมาพูดอย่างนี้ไปถามประชาชนชาวรัสเซียเขาหรือยังว่าเขามีความรู้สึกอย่างที่ตะวันตกพูดหรือเปล่า? ถ้าหล่อนจะพูดชมแต่ปูตินอย่างเดียว เชื่อเหอะว่าคะแนนเสียงของพรรค UKIP ของหล่อนจะตกฮวบยิ่งกว่าเดิมแน่ แต่สไตล์นักการเมืองก็รู้ๆกันอยู่ ก็มีทั้งชมและติ แต่ส่วนที่ตินี่มันจับพิรุธกันได้ เพราะเป็นคำพูดที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความข้อเท็จจริงและไม่รอบด้านด้วย เป็นการพูดแบบเอาแต่ได้ ใส่ร้ายผู้อื่น คนที่มีมุมองและพฤติกรรมแบบนี้อนาคตคงไปได้ไม่ไกลเท่าไรนัก
The Eyes
12/04/2558
----------
Senior UKIP Politician Calls Putin 'Very Strong Leader' / Sputnik International

 

อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนที่แท้จริงในการโจมตีเยเมนโดยการนำของซาอุดี้ฯ?
เรื่องเด่นประเด็นร้อนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 12, 2015



เยเมนกำลังออกมาจากใต้อำนาจควบคุมของอัล-ซาอูด ชาวเยเมนกำลังทวงคืนอนาคตของพวกเขา กษัตริย์ซัลมานจึงสู้ยิบตาและตัดสินใจว่าจะทำลายความหวังของเยเมนที่จะมีอนาคตแห่งประชาธิปไตย เขาตัดสินใจฝ่ายเดียวว่าเขาจะลบล้างเยเมนและกำจัดคู่ต่อสู้ที่อันตรายในภูมิภาคนี้ออกไปจากตัวเขา ขณะที่จะรักษาอำนาจควบคุมเส้นทางน้ำมันของโลกเอาไว้


(ภาพ) ประธานาธิบดีอาเบด รอบบู มันซูร ฮาดี(ซ้าย) เดินพร้อมกับรัฐมนตรีกลาโหมซาอุดี้ฯ มุฮัมเมด บิน ซัลมาน ขณะที่เขาเดินทางมาถึงกรุงริยาด ซาอุดิอารเบีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม 2015



เมื่อวันที่ 25 มีนาคม กษัตริย์ซัลมานตัดสินใจที่จะให้กำลังทหารของซาอุดี้ฯ เข้าไปจัดการกับกลุ่มเฮาซีของเยเมน หลังจากที่กลุ่มเฮาซีรุกเข้าสู่เอเดน เมืองหลวงของอดีตเยเมนใต้ ที่อดีตประธานาธิบดีอาเบด รอบบู มันซูร ฮาดี ได้ลี้ภัยอยู่หลังจากหลบหนีจากการกักบริเวณภายในบ้านเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

การเข้าแทรกแซงในเยเมนของซาอุดี้ฯ ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรอาหรับโดยกว้างขวาง เช่นกาตาร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต อียิปต์ ซูดาน บาห์เรน โมรอกโก จอร์แดน และอียิปต์ รวมทั้งปากีสถาน และมหาอำนาจต่างชาติที่ประกอบด้วยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เป้าหมายที่กำหนดคือเพื่อสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคขึ้นมาใหม่ และระบุถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่กลุ่มเฮาซีเป็นตัวแทนนำมา

ซัลมานได้ประกาศท่าทีของเขาอย่างชัดเจนเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ตามที่รายงานโดย ดิ อินดิเพนเดนท์ ว่า “พันธมิตรที่นำโดยซาอุดิอารเบียมีความตั้งใจที่จะดำเนินการทางทหารกับกลุ่มกบฏเฮาซีในเยเมนเป็นเวลานานเท่าที่จำเป็นเพื่อเอาชนะกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านกลุ่มนี้ ที่ได้บีบให้ประธานาธิบดีของประเทศต้องหนีไป”

เอกอัครราชทูตซาอุดี้ฯ ประจำสหรัฐฯ อาเดล อัล-จูบีรฺ ได้กล่าวในการแถลงข่าวโดยยืนยันว่า ซาอุดิอารเบีย พร้อมกับอีกสิบประเทศ ได้เปิดปฏิบัติการทางทหารในเยเมนเพื่อต่อสู้กับกลุ่มเฮาซี ฝ่ายชนเผ่ากบฏที่จัดตั้งขึ้นภายใต้การนำของอับดุล-มาลิก อัล-เฮาซี

“พร้อมกันนั้น ทูตอัล-จูบีรฺ ได้เตือนแล้วว่า การโจมตีทางอากาศที่กำลังดำเนินอยู่จะมีการใช้อุปกรณ์ในทางทหารอื่นๆ ด้วย เพื่อเปิดทางไปสู่ความเป็นไปได้ที่จะรุกทางภาคพื้นดิน” อาลี อัล-อามัด บุคคลสำคัญของอันซอรุลลอฮ์ ปีกทางการเมืองของกลุ่มเฮาซี กล่าว

“ซาอุดิอารเบียทำตามใจตัวเองในการประกาศสงครามกับเยเมน โดยอ้างถึงเสถียรภาพของชาติ อ้างว่าต้องการจะคืนตำแหน่งประธานาธิบดีที่ชอบธรรมของเยเมนให้แค่ฮาดี เพื่อปกป้องการเปลี่ยนผ่านตามระบอบประชาธิปไตยของเยเมน ในขณะที่จริงๆ แล้วซาอุต้องการเพียงแค่รักษาความทะเยอทะยานในการแผ่อิทธิพลของตนเหนือคาบสมุทรอาหรับเท่านั้น” เขากล่าวเสริม

เชคมับคูต นาห์ชาล ผู้นำเผ่าคนหนึ่งจากจังหวัดฮัจญะห์ทางภาคเหนือของเยเมน ผู้ที่ได้เห็นประเทศของเขาซวนเซอยู่บนขอบสงครามกลางเมืองมาหลายต่อหลายครั้งในระยะเวลาสี่ปีนี้ ได้บอกกับมินท์เพรสส์ว่า “สงครามที่ริยาดกำลังทำกับเฮาซี และกับเยเมน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฮาดี ประชาธิปไตย หรือเสถียรภาพแห่งชาติของเยเมนเลย มันเกี่ยวกับน้ำมัน และการแทรกแซงทางภูมิศาสตร์การเมือง”

“ตระกูลอัล-ซาอูดมองว่าเยเมนเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นประมุขของพวกเขาเสมอ ทั้งในทางการทหารและทางภูมิยุทธศาสตร์ อิบนฺ ซาอูด บอกกับลูกชายของเขาว่า การที่อัล-ซาอูดจะอยู่รอดในภูมิภาคนี้ได้นั้น เยเมนจะต้องถูกทำให้เชื่อง” นาห์ชาลกล่าว “สงครามครั้งนี้เป็นการกอบกู้อำนาจเหนือเมืองขึ้นของซาอุดี้ฯ สงครามครั้งนี้เป็นการเก็บเสรีภาพของเยเมนไว้ในห้องขัง”

“เรื่องอื่นๆ ทั้งหมดที่พูดคุยกันอยู่นี้ เกี่ยวกับการแบ่งแยกนิกายและประชาธิปไตย ความชอบธรรมและเสถียรภาพแห่งชาติ ล้วนเป็นเรื่องโกหกแจ่มแจ้งที่ถูกโยนออกมาสู่สาธารณะเพื่อปิดซ่อนความจริงเอาไว้”

ที่จริงแล้ว ไม่มีอะไรเป็นเหมือนที่มันดูเหมือนจะเป็นจริงๆ ในเยเมน ประเทศนี้เป็นเขาวงกตที่ซับซ้อนของผลประโยชน์ทางการเมืองที่ผสมปนเปกันอยู่ ทั้งความทะเยอทะยานแบ่งแยกนิกาย และความเป็นจริงทางภูมิยุทธศาสตร์ ที่ซึ่งมหาอำนาจของโลกกำลังเข้ามาเกี่ยวข้องในการต่อสู้อันหนักหน่วงเพื่อคุมอำนาจเหนือช่องทางเข้าถึงน้ำมันและทรัพยากร

“สมรภูมิใหม่ของเกมที่ยิ่งใหญ่ที่มหาอำนาจของโลกไม่เคยหยุด(เล่น) เยเมนได้กลายเป็นเนวรบใหม่ของภูมิภาคนี้ สิ่งที่เราเห็นว่ากำลังเกิดขึ้นอยู่ในเยเมนก็คือการแย่งชิงน้ำมันครั้งใหม่ เป็นการต่อสู้อย่างหนักหน่วงเพื่อควบคุมเส้นทางน้ำมันของโลกที่บาบุล-มันดับ ข้อเท็จจริงที่ว่าชนชาติหนึ่งที่พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางความทะเยอทะยานเช่นนั้นไม่ได้มีความสำคัญใดๆ เลยต่ออัล-ซาอูด” อาห์เมด มุฮัมมัด นัสเซอร์ อาห์เมด นักวิเคราะห์การเมืองชาวเยเมนและอดีตสมาชิกกลุ่มทำงานของสภาสานเสวนาแห่งชาติ (National Dialogue Conference – NDC) บอกกับมินท์เพรสส์

NDC เป็นกระบวนการสนทนาเพื่อการเปลี่ยนผ่านที่จัดตั้งขึ้นในซานาอฺ ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2013 ถึงวันที่ 24 มกราคม 2014 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่สภาความร่วมมืออ่าวเป็นผู้ดำเนินการในปี 2011 มันได้สร้างพื้นที่สำหรับคณะผู้แทนทุกฝ่ายของเยเมนเพื่อทำการเจรจา และจัดการการเปลี่ยนผ่านอำนาจ และกำหนดสมัยในการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญของเยเมน

ขณะที่เยเมนหยุดชะงักภายใต้การระดมทิ้งระเบิดนั้น มุฮัมมัด อับดุล-ซาลาม โฆษกอาวุโสของเฮาซี ได้เปิดเผยกับมินท์เพรสส์ถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่า สงครามนี้จะเป็นตัวกำหนดภูมิภาคนี้ไปอีกหลายสิบปีข้างหน้า

แต่ทว่า เพื่อทำความเข้าใจว่า เยเมนตกเป็นเป้าการรุกรานของซาอุดิอารเบียได้อย่างไร และทำไมฮาดี ประธานาธิบดีของเยเมนที่ลาออกไปในเดือนมกราคมและหลบหนีไปถึงสองครั้ง จึงเรียกร้องให้มหาอำนาจต่างชาติเข้ามาโจมตีนั้น เราจะต้องชำแหละนิยายปรัมปราทางการเมืองที่เยเมนกำลังต่อสู้ดิ้นรนอยู่ภายใต้การโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก และเรื่องราวของการแบ่งแยกนิกายที่ถูกเติมเชื้อไฟโดยซาอุดี้ฯ

ในที่ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับที่อียิปต์เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ฮาดีได้ปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของจามาล เบโนมาร์ ทูตพิเศษของยูเอ็นประจำเยเมน แล้วแทนที่ด้วยการทำให้มีการบุกรุกทางทหารในเยเมนอย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น จนกระทั่ง “พวกเฮาซียอมแพ้ ถอยออกไปจากสถาบันต่างๆ ของรัฐบาล และยอมวางอาวุธ” ตามที่เขากำหนดไว้



เยเมน 101 : แนวปะทะในการเมืองของเยเมน

ในขณะที่มีความยากลำบากเสมอในการย่อประวัติศาสตร์และความทะเยอทะยานทางการเมืองของประเทศหนึ่งให้อยู่ภายในไม่กี่เรื่อง โดยเฉพาะในประเทศที่สลับซับซ้อนอย่างเยเมน ที่เหตุการณ์ปัจจุบันกำลังกลายเป็นการปะทะกันระหว่างกลุ่มเฮาซีกับฮาดี เบื้องหลังของทั้งสองฝ่ายนี้คืออาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของผลประโยชน์ที่ซ้ำซ้อนกัน ฝ่ายต่างๆ ที่ขัดแย้งกันทางการเมือง แนวที่ไม่ถูกต้องของภูมิภาค และความทะเยอทะยานส่วนตัว

ตั้งแต่ปี 1994 จนถึงปี 2011 เยเมนถูกปกครองโดยสองสถาบันหลัก นั่นก็คือ สภาประชาชนทั่วไป ที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลอฮ์ ซาเลห์ กับอิสลาห์ พรรคการเมืองที่ทำตัวเป็นที่พึ่งพิงสำหรับกลุ่มซุนนีหัวรุนแรงหลายกลุ่ม รวมทั้งภราดรภาพมุสลิม

ขณะที่ซาเลห์ปกครองเยเมนโดยไม่มีข้อโต้แย้งหลังจากการลงนามข้อตกลงรวมชาติกันในปี 1990 และขบวนการแบ่งแยกดินแดนทางภาคใต้ที่ล้มเหลว หรืออิสลาห์ ทำตัวเป็นกันชนและต้านทานน้ำหนักของสภาประชาชนทั่วไป ซึ่งดำเนินงานภายใต้การอุปถัมภ์อย่างจริงจังของซาอุดิอารเบีย

อาห์เมด นักวิเคราะห์การเมืองชาวเยเมนอธิบายว่า “ริยาดใช้อัล-อิสลาห์เพื่อควบคุมซาเลห์และรักษาอำนาจในเยเมนของเขาไว้ให้อยู่ในการควบคุม จุดประสงค์ทั้งหมดของอัล-อิสลาห์คือเพื่อทำให้เยเมนคงสภาพเป็นรัฐกึ่งควบคุมกึ่งเอกราช อัล-อิสลาห์เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบสำหรับสิ่งนั้น พวกวะฮาบีและซาลาฟีของอัล-ซาอูดใช้อัล-อิสลาห์เพื่อเผยแพร่อิทธิพลของพวกตนไปทั่วเยเมน เป็นการกำหนดลักษณะใหม่ทั้งในด้านแผนที่ทางการเมืองและด้านประชากรทางศาสนาของมันอย่างช้าๆ”

“ภายใต้อิทธิพลของอัล-อิสลาห์ แนวคิดซัยดีกลายเป็นเป้า นักการศาสนาเริ่มผลักดันเรื่องการแบ่งแยกนิกาย และตั้งแต่นั้นมาเยเมนที่มีลับลมคมในก็เริ่มถูกกำหนดไปตามแนวของการแบ่งแยกนิกาย ศาสนาได้กลายมาเป็นเรื่องทางการเมือง และเมล็ดพันธุ์แห่งสงครามถูกเพาะปลูกลง” เขากล่าวต่อ

แนวคิดซัยดีเป็นสาขาเก่าแก่ที่สุดของอิสลามนิกายชีอะฮ์ ชาวเยเมนประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์เป็นมุสลิมซัยดี “เป็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธหรือไม่ยอมรับได้” อับดุล-ซาลาม โฆษกของเฮาซีกล่าว

ระเบียบทางการเมืองและการอุปถัมภ์ทางการเมืองที่ซาอุดิอารเบียจัดการรักษาความควบคุมเยเมนเอาไว้นี้ถูกรบกวนโดยการปฏิวัติอาหรับสปริงเมื่อปี 2011 เมื่อชาวเยเมนลุกขึ้นประณามการปกครองของซาเลห์ อิสลาห์เริ่มอ้างตนว่าเป็นผู้คุมอำนาจทางการเมือง เผ่าพันธุ์ ศาสนาและการเงินของประเทศ ทั้งซาอุดิอารเบียและพันธมิตรของมัน ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ ไม่ค่อยเต็มใจที่ยอมให้กลุ่มภราดรภาพมุสลิมขึ้นสู่ตำแหน่งสูงส่งทางการเมืองเช่นนั้นในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการทดลองในอียิปต์

ด้วยเหตุนี้ แผนเพื่อการกำจัดอิสลาห์จึงเริ่มต้นขึ้น มัรวา อุสมาน อาจารย์บรรยายที่มหาวิทยาลัยนานาชาติเลบานอนในเบรุต อธิบายว่า การจะทำลายพรรคที่ตนได้ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนมาเป็นเวลาสามทศวรรษนั้น ซาอุดิอารเบียต้องคิดแผนที่จะใช้ความตึงเครียดทางการเมืองภายในและระหว่างเผ่าพันธุ์ เพื่อทำให้อัล-ซาอูดสามารถแสดงตัวในประเทศที่ย่ำแย่ลงนี้ได้

“อัล-ซาอูดเล่นเกมการต่อสู้ระหว่างเฮาซีกับอัล-อิสลาห์ ด้วยความหวังว่ากลุ่มเฮาซี ที่ได้รับการหนุนหลังโดยอดีตประธานาธิบดีซาเลห์ จะทำการลบล้างกลุ่มภราดรภาพมุสลิมได้อย่างแท้จริง และในการทำเช่นนั้นก็จะทำให้เรี่ยวแรงทางการเมืองในประเทศของตนเองอ่อนแอลงด้วย” มัรวาบอกกับมินท์เพรสส์

“ฝ่ายที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกลุ่มเผ่าพันธุ์ที่มืดมนจากเมืองซาอฺดาทางภาคเหนือ ถูกปล่อยให้รุกเข้าไปต่อกรกับอำนาจของอัล-อิสลาห์โดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะมันเป็นไปตามแผนระยะสั้นของอัล-ซาอูดในภูมิภาคนี้และในเยเมน นั่นก็คือ การทำลายกลุ่มภราดรภาพมุสลิม อัล-ซาอูดไม่เคยคาดคิดว่ากลุ่มเฮาซีจะมีความแข็งแกร่งและได้รับความนิยมเหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้ บทบาทของพวกเขาที่กระทำต่อฮาดีอย่างไม่คาดคิดและการขึ้นสู่อำนาจในประเทศอย่างรวดเร็วของพวกเขานี้เองที่ได้นำไปสู่สงครามครั้งนี้ และแน่นอนว่า ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า เฮาซีบังเอิญเป็นทั้งชีอะฮ์และทั้งมีสัมพันธ์ที่ดีกับอิหร่านด้วย” เธอกล่าวต่อไป


ความเกี่ยวข้องกับเฮาซี


กลุ่มกบฏที่ได้ต่อสู้ทำสงครามกับรัฐบาลซาเลห์มาแล้วห้าครั้งตั้งแต่ปี 2004 ถึง 2009 นี้ ได้เข้ามาสู่ฉากทางการเมืองของเยเมนในปี 2014 เมื่ออับดุลมาลิก อัล-เฮาซี ผู้นำของกลุ่ม ตัดสินใจว่ากลุ่มนี้จะมาเป็นตัวแทนความไม่พอใจของเยเมน และเป็นเรือนำทัพของอำนาจประชาชน

ขณะที่เยเมนเริ่มจะหันกลับไปสู่ความเซื่องซึมเหมือนก่อนหน้าการปฏิวัติ เจ้าพนักงานทั้งหลายก็อยากที่จะรักษาที่นั่งของตัวเองรอบโต๊ะอำนาจใหม่ของเยเมน กลุ่มเฮาซีลงมาจากพื้นที่ราบสูงของบรรพบุรุษของพวกเขาเพื่อเรียกร้องว่า ความปรารถนาและข้อเรียกร้องของประชาชนที่จะให้การปฏิรูปประชาธิปไตยเกิดขึ้นอย่างจริงจัง โดยมติต่างๆ ของสภาสานเสวนาแห่งชาติ (NDC)

“กลุ่มเฮาซีเข้ามาแทรกในเยเมนไม่ใช่ในนามของเฮาซี แต่เป็นในนามของประชาชน เราประกาศชัดมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่าวาระของเราคือวาระของประชาชน เราออกมากดดันฮาดีก็เพราะฮาดีหยุดการรับฟังประชาชน เราออกมาก็เพราะเราจะไม่ยอมปล่อยให้ประชาชนชาวเยเมนต้องทนทุกข์กับชะตากรรมที่เราอดทนมาหลายสิบปีภายใต้การเหยียบย่ำของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมและผู้ช่วยของมัน” อับดุล-ซาลาม กล่าว

“ประชาชนชาวเยเมนออกมาบนท้องถนนกันเป็นแสนๆ ในปี 2014 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจาเรื่องตารางเวลาทางการเมืองที่ยอมรับได้ และนำพาประเทศเข้าสู่แนวทางที่ถูกต้องทางสถาบันและทางการเมือง เราเล่นไปตามกฎของประชาธิปไตย ส่วนฮาดีเลือกที่จะเล่นเกมของอัล-ซาอูด ฮาดีเลือกที่จะให้ผลประโยชน์ของซาอุดิอารเบียมาอยู่เหนือผลประโยชน์ของประชาชนของเขา นั่นคือทางเลือกที่เขาจะต้องอยู่กับมัน” เขากล่าวเสริม

เนื่องจากกลุ่มเฮาซีเป็นส่วนเสริมของอิสลามสายซัยดี พวกเขาจึงถูกตราหน้าโดยอัตโนมัติว่าเป็นกลุ่มสนับสนุนอิหร่าน หรือที่ฮาดีเรียกพวกเขาเมื่อเดือนที่แล้วว่าเป็น “ลูกกะโล่ของอิหร่าน” ถึงแม้ว่าจะไม่มีการปฏิเสธว่ากลุ่มเฮาซีเป็นพันธมิตรของอิหร่าน แต่ก็ใช่จะกล่าวได้ว่าเฮาซีเป็นตัวแทนของเตหะรานในคาบสมุทรแห่งนี้ มัรวาเตือนว่า การกล่าวว่ากลุ่มเฮาซีเป็นหุ่นเชิดนั้นเป็นการลดทอนที่อันตรายและมองด้วยสายตาสั้น

“กลุ่มเฮาซีหันไปหาอิหร่านเพื่อการสนับสนุนมาตั้งแต่ปี 1994 แล้ว เพราะอิหร่านเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคที่เต็มใจจะให้การสนับสนุน มันเป็นเรื่องง่ายๆ แค่นั้น” มัรวากล่าว “เมื่อมองไปที่คลังแสงของกลุ่มเฮาซี คุณจะพบว่าอาวุธของพวกเขาไม่ได้มาจากอิหร่าน แต่มาจากตลาดมืดของเยเมน ที่ท่วมท้นไปด้วยอาวุธของสหรัฐฯ”



กษัตริย์ซัลมานสู้ยิบตา : ช่องแคบมันเดบ (บาบุล-มันดิบ)

ขณะที่กลุ่มเฮาซีรักษาฐานที่มั่นของพวกเขาในกรุงซานาอฺเมืองหลวงของเยเมนไว้ได้ เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อฮาดีมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ทำการปฏิรูปอย่างที่พวกเขาอยากจะเห็น เช่นการปฏิรูปการอุดหนุนราคาน้ำมัน และองค์ประกอบของส่วนกลางใหม่ ความไม่พอใจต่อการเปิดเกมรุกเต็มตัวของเฮาซีได้รับแรงดึงทั้งภายในบ้านและที่อื่นๆ บนคาบสมุทรแห่งนี้
เมื่อปรากฏว่าฮาดีเป็นแค่เปลือกของประธานาธิบดีมากยิ่งขึ้น เป็นชายคนหนึ่งที่ปราศจากอำนาจและปราศจากพรรคตั้งแต่ที่ซาเลห์บีบให้เขาออกมาจากสภาประชาชนทั่วไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ซาอุดิอารเบียได้เริ่มวางแผนที่จะนำเยเมนกลับมาอยู่ในการครอบงำของริยาด

“เยเมนกำลังออกมาจากใต้อำนาจควบคุมของอัล-ซาอูด ชาวเยเมนกำลังทวงคืนอนาคตของพวกเขา กษัตริย์ซัลมานจึงสู้ยิบตาและตัดสินใจว่าจะทำลายความหวังของเยเมนที่จะมีอนาคตแห่งประชาธิปไตย เขาตัดสินใจฝ่ายเดียวว่าเขาจะลบล้างเยเมนและกำจัดคู่ต่อสู้ที่อันตรายในภูมิภาคนี้ออกไปจากตัวเขา ขณะที่จะรักษาอำนาจควบคุมเส้นทางน้ำมันของโลกเอาไว้” มุจตาบา มูซาวี อธิบาย เขาเป็นนักวิเคราะห์การเมืองและบรรณาธิการอิหร่านวิว

“ซาอุดี้ฯ ด้วยความเห็นชอบของสหรัฐฯ ได้รุกเข้าหาเยเมนเพื่อทวงคืนอำนาจควบคุมเหนือช่องแคบมันเดบที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง หากว่าเฮาซีซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ได้ควบคุมช่องแคบนี้ คาบสมุทรแห่งนี้ก็จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสาธารณรัฐอิสลาม และนี่เป็นสิ่งที่ซาอุดี้ฯ ไม่มีทางยอมรับได้ อย่างน้อยก็รับไม่ได้โดยไม่มีการต่อสู้” เขากล่าวต่อไป

ช่องแคบมันเดบเป็นหนึ่งในเจ็ด “จุดแออัด” ในการส่งน้ำมันทั่วโลก ช่องแคบมันเดบแยกคาบสมุทรอาหรับออกจากแอฟริกาตะวันออกและเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดนและมหาสมุทรอินเดีย เรือส่วนใหญ่ใช้เส้นทางน้ำนี้เพื่อเดินทางไปไปจากคลองสุเอซของอียิปต์ ซึ่งเชื่อมทะเลแดงกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เส้นทางนี้ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของอียิปต์ได้ปีละประมาณ 5 พันล้านดอลล่าร์ต่อปี และทำให้ประเทศมีอำนาจควบคุมเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญของโลกอย่างยิ่ง
ที่จริงแล้ว ช่องแคบมันเดบมีความสำคัญอย่างแท้จริงเมื่อมันหมายถึงเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก และริยาดมุ่งมั่นที่จะใช้อำนาจควบคุมมัน หรืออย่างน้อยก็ควบคุมรัฐบาลที่ดูแลมันอยู่ เพราะฉะนั้นมันจึงปรารถนาที่จะได้เห็นฮาดีกลับคืนสู่ตำแหน่งในเยเมน

“เมื่อพิจารณาดูขนาดของแนวร่วมชาติอาหรับที่เข้าปะทะกับหนึ่งประเทศในคาบสมุทรนี้ ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเยเมนเป็นตัวแทนของภัยคุกคามต่อซาอุดิอารเบียมากกว่าที่ไอซิซเป็น เครื่องบินหลายร้อยลำถูกนำมาใช้ในสงครามกับเยเมนครั้งนี้ ถามตัวเองดูว่ามีกี่ลำที่ถูกส่งไปรบกับพวกสุดโต่งไอซิซในซีเรียและอิรัก แล้วคุณก็จะเข้าใจว่าเรื่องอะไรที่ไม่ได้ถูกบอกเล่าต่อสาธารณชน” มูซาวีกล่าว

ขณะที่เยเมนกระเสือกกระสนอยู่ภายใต้การละเมิดและการรุกรานอธิปไตยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยการอ้างเหตุผลสนับสนุนที่แม้แต่สหประชาชาติก็ยากที่จะมีปากเสียง ซาอุดิอารเบียเองก็กำลังทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย

นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวในที่ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับที่เมืองชาร์มิล-ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม โดยได้เรียกร้องให้แนวร่วมที่นำโดยซาอุดี้ฯ ใช้ความอดกลั้นต่อเยเมน และหันกลับมาสู่โต๊ะเจรจา “การเจรจา ซึ่งอำนวยความสะดวกโดยจามาล เบนูมาร์ ทูตพิเศษของข้าพเจ้า และให้การรับรองโดยคณะมนตรีความมั่นคง ยังคงเป็นเพียงโอกาศเดียวที่จะป้องกันการปะทะกันอย่างยาวนานและยืดเยื้อ” เขายืนยัน

แต่ทว่าการเรียกร้องเพื่อบรรเทาสถานการณ์ของเขาถูกตอบรับด้วยการทิ้งระเบิดใส่เมืองต่างๆ ของเยเมนอีกหลายระลอก

เคนเน็ธ เอ็ม. พอลแล้ค ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและการทหารของตะวันออกกลาง ได้เตือนไว้ในบทวิเคราะห์ที่เขียนให้กับสถาบันบรู้กกิ้งส์ ว่า

“ซาอุดิอารเบียยังคงเป็นผู้นำโลกอาหรับ เป็นพันธมิตรสำคัญของอเมริกา และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันที่สำคัญที่สุดในโลก แต่มันยังเป็นประเทศที่มีความเปลี่ยนแปลงภายในครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกด้วย มีปัญหาทางการเงิน และตอนนี้ก็มีการโยกย้ายอย่างรวดเร็วในรัฐบาล เนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ และการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์ซัลมาน ราชอาณาจักรนี้ขาดความสามารถในทางทหารที่จะเข้าแทรกอย่างเด็ดขาดในเยเมน และถ้าซาอุพยายามที่จะส่งกองทหารภาคพื้นดินเข้าไปเป็นจำนวนมาก ผลที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือภาวะชะงักงันที่จะทำให้ซาอุดี้ฯ สิ้นเปลืองทรัพยากรทางทหาร ทุนสำรองทางการเงิน และเจตนารมณ์ทางการเมือง ทั้งยังอาจจะทำให้ประชาชนจำนวนมากเกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง บางส่วนอาจจะโกรธที่ใช้เงินไปมากมายขนาดนั้นแต่ประเทศก็ยังมีความสามารถเพียงน้อยนิด และบางส่วนอาจจะเดือดดาลที่เอาเงินมากมายขนาดนั้นไปสิ้นเปลืองกับเรื่องไม่เป็นเรื่องในเยเมน แทนที่จะเอามาใช้เพื่อแก้ปัญหาที่สำคัญภายในประเทศ”



“อย่าเพิ่งคัดชื่อเยเมนออกไป”

ที่จริงแล้ว ขณะที่กลุ่มเฮาซีและพันธมิตรในเยเมนยังคงได้รับการจัดหาเครื่องมืออย่างขนานใหญ่เพื่อต่อสู้กับกำลังผสมที่นำโดยซาอุดี้ฯ นั้น ประวัติศาสตร์ของเยเมนก็เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่เข้ามาเพื่อซมซานกลับไปบนเทือกเขาของชาติเอกราชที่ดุร้ายนี้ อาณาจักรออตโตมานเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยวิธีที่ยากลำบากว่า เยเมนนั้น ไม่ว่าจะยากจนหรือแตกเป็นเสี่ยงอย่างไร ก็ใช่ว่าจะถูกปราบพยศได้ง่ายๆ

“ขณะที่ซาอุดิอารเบียรวบรวมประเทศราชาธิปไตยและผู้นำเผด็จการณ์ในอาหรับไว้ด้วยอำนาจและเงินหลายพันล้านเปโตรดอลล่าร์ของตนเพื่อต่อสู้กับกลุ่มเฮาซีของเยเมนนั้น การดำเนินการเช่นนั้นอาจเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการรวมตัวกันได้อย่างแท้จริง แม้จะไม่เห็นด้วยในทางการเมืองและไม่พอใจในความแบ่งแยกทางนิกายต่อกลุ่มเฮาซี แต่ชาวเยเมนได้เริ่มรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนกบฏกลุ่มนี้แล้ว ด้วยความร้อนรนที่จะรักษาแผ่นดินที่พวกเรียกว่าบ้านจากกองทัพชาวต่างชาติ” มูซาวีกล่าว

เชคนาห์ชาล หัวหน้าเผ่า ได้เตือนว่า นิสัยของชาวโลกที่ชอบประเมินความสามารถในการตอบโต้ทางการทหารของเยเมนต่ำไป และบรรดาผู้นำอาหรับที่มุ่งเป้าโจมตีไปที่พลเรือนเพราะต้องการจะให้กลุ่มเฮาซียอมแพ้นั้น จะยิ่งเพิ่มความเดือดดาลให้แก่ประชาชนชาวเยเมนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

“ขณะนี้ฮาดีคือคนที่ถูกเกลียดชังมากที่สุดในเยเมน แม้จะเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ ผู้ชายคนนี้จะไม่มีทางได้ปกครองเยเมน เขาเรียกร้องให้มหาอำนาจต่างชาติเข้ามาฆ่าประชาชนในประเทศของเขา” นาห์ชาลกล่าว “ชาวเยเมนจะลืมและให้อภัยได้หรือ? ผมคิดว่าไม่ เท่าที่อัล-ซาอูดทำลงไปนั้น พวกเขากำลังปลุกมังกรของเยเมนให้ตื่นขึ้นด้วยการฆ่าเด็กๆ ของเรา มีการพูดคุยกันถึงการเข้าต่อสู้กับอัล-ซาอูดแล้ว”

เขากล่าวต่อไปว่า “ใครจะรู้ ศัตรูทั้งหลายของอัล-ซาอูดในภูมิภาคนี้อาจจะรวมตัวกันเพื่อทำสงครามกับริยาดก็ได้ อย่าเพิ่งคัดชื่อเยเมนออกไป เราคือนักรบแห่งอารเบีย”

อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนที่แท้จริงในการโจมตีเยเมนโดยการนำของซาอุดี้ฯ? | abnewstoday

 

ทัศนะของเลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กรณี “ผลสำเร็จการเจรจานิวเคลียร์ P 5 +1”
ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 8, 2015



alalam – เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ ให้สัมภาษณ์กรณี การบรรลุการเจรจานิวเคลียร์ P 5 +1 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น จะทำให้ภูมิภาคในตะวันออกกลางห่างไกลจากเงาสงคราม

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ ขบวนการต่อสู้แห่งเลบานอน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว อัล อัคบารียะห์ ซีเรีย ว่า การบรรลุการเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งสำหรับภูมิภาค

“ผลสำเร็จการเจรจานิวเคลียร์ จะทำให้ภูมิภาคห่างไกลจากเงาสงคราม และผลสำฤทธิ์ของมันนั้น สำหรับกลุ่มบุคคลที่เฝ้ารอให้การเจรจาล้มเหลวนั้น ก็จะยังคงพยายามให้ล้มเหลวให้ได้ก่อนเดือนมิถุนายนนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความอ่อนแอ ปิดล้อม และคว่ำบาตรอิหร่านต่อไป” ฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ กล่าว

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการเจรจาครั้งนี้คือ เมื่ออิหร่านเข้าสู่โต๊ะเจรจา อิหร่านจะไม่มีการพูดในประเด็นอื่นยกเว้นประเด็นนิวเคลียร์เท่านั้น ในขณะที่อเมริกามีความพยายามที่จะแทรกประเด็นอื่นๆเข้าในการเจรจาอีกด้วย

เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ ระบุว่า อำนาจของอิหร่านเป็นปัจจัยแรกที่สำคัญในการเจรจาครั้งนี้ และกล่าวเสริมว่า ในครั้งนี้อิหร่านไม่มีการพูดคุยในประเด็นอื่นๆแต่อย่างใด เนื่องจากอิหร่านไม่มีวันร่วมเจรจากับอเมริกาในประเด็นอื่นๆ นอกเหนือจากประเด็นนิวเคลียร์เท่านั้น

จากนั้น ซัยยิด ฮะซันนัศรุลลอฮ์ กล่าวย้ำว่า การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้อิหร่านมีอำนาจและมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในภูมิภาค และจะไม่ก่อให้เกิดแรงกดดันจากอิหร่านต่อพันธมิตรในภูมิภาคอย่างแน่นอน

เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ ย้ำว่า ยิวอิสราเอลผู้เป็นศัตรู ยังคงมีการขู่อิหร่านอยู่เสมอที่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน และหากมันเกิดเช่นนั้นจริง สงครามก็จะเกิดขึ้นในภูมิภาคอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากผลสำเร็จของการเจรจา ทำให้เงาสงครามได้ถอดหายจากภูมิภาค

ทัศนะของเลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ กรณี “ผลสำเร็จการเจรจานิวเคลียร์ P 5 +1” | abnewstoday

 

อเมริกา หวั่น “โดรนกามิกาเซ่” ของอิหร่าน
ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 9, 2015



Jamnews/Washingtontimes – กองทัพอเมริกา เผย อิหร่านมีการพัฒนาและผลิตโดรนพลีชีพมากขึ้น ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลและเรืออเมริกาในอ่าวเปอร์เซีย

รายงาน กรณีที่กองทัพอเมริกาออกมาแสดงความกังวล ที่อิหร่านผลิต โดรนพลีชีพ “โดรน กามิกาเซ่” โดยเขียนว่า ผลการวิเคราะห์ของกองทัพอเมริกา ได้ข้อสรุปว่า อิหร่านมุ่งเน้นการผลิต โดรนกามิกาเซ่ โดรนข้อมูล เพิ่มมากขึ้น สิ่งนี้เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลและเรือของอเมริกาในอ่าวเปอร์เซีย

รายงานระบุว่า อิหร่านมีการทดสอบโดรน กามิกาเซ่ ในช่วงเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ในช่องแคบเฮอร์มุช โดยมีเป้าหมายเพื่อทดสอบอาวุธดังกล่าวในการแสดงศักยภาพของอิหร่านว่า สามารถปิดช่องแคบเฮอร์มุช ได้

หนังสือพิมพ์ Washingtontimes ยังรายงานอีกว่า นอกเหนือจากที่อิหร่านได้ครอบครองโดรนรุ่นนี้แล้ว ก็ยังมอบโดรนชนิดต่างๆให้กับฮิซบุลลอฮ์และฮามาส อีกด้วย

เจ้าหน้าที่ทหารของอเมริกาบางคน เชื่อว่าแม้นว่าในความเป็นความจริงแล้วระหว่างกองทัพอเมริกากับอิหร่านจะมีความแตกต่างกันมาก แต่อิหร่านก็มีการพัฒนาในการผลิตโดรนรุ่นใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถเป็นภัยคุกคามแก่อเมริกาได้ อีกทั้งกองกำลังของฮิซบุลลอฮ์และฮามาสก็ยังใช้โดรนเหล่านี้หลายครั้งในการโจมตีอิสราเอล และเข้าไปถึงยังดินแดนของอิสราเอล

อเมริกา หวั่น “โดรนกามิกาเซ่” ของอิหร่าน | abnewstoday

 

ผู้นำสูงสุดอิหร่านชี้ ทางแก้วิกฤตเยเมน คือยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 9, 2015



presstv – อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ระบุ แนวทางในการแก้ไขวิกฤตเยเมนก็คือ ยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติต่อประชาชนของประเทศนี้

ในช่วงบ่ายวันอังคารที่ผ่านมา (7 เมษายน 2558 ) รอญับ ต็อยยิบ อุรดุฆอน ประธานาธิบดีตุรกี ได้เข้าพบอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ซึ่ง อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า วิกฤติในเยเมนคือ อีกตัวอย่างหนึ่งจากปัญหาใหม่ของโลกอิสลาม และกล่าวในโอกาสนี้ว่า “จุดยืนของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเกี่ยวกับทุกประเทศรวมทั้งเยเมนนั้น คือการต่อต้านการแทรกแซงจากต่างประเทศ ดังนั้นเราเชื่อว่าแนวทางในการแก้ไขวิกฤตเยเมนก็คือการยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติต่อประชาชนของประเทศนี้”

ซาอุดิอาระเบีย ได้โจมตีเยเมน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม โดยอ้างเพื่อให้มันศูร ฮาดีย์ อดีตประธานาธิบดีเยเมน กลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง ซึ่งฮาดีย์ เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับริยาด

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า ชาวเยเมนจะต้องตัดสินใจสำหรับอนาคตของประเทศของพวกเขาเอง และเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ “การตื่นตัวของอิสลามโดยรวม” คือสาเหตุหลักของความวิตกกังวลของบรรดาศัตรู

ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของ “การตื่นตัวของอิสลามโดยรวม” และความกระหายของประชาชาติทั้งหลายต่ออิสลามนั้น คือสาเหตุหลักของความวิตกกังวลของบรรดาศัตรู และกล่าวว่า “ในการเผชิญหน้ากับการตื่นตัวนี้ บรรดาศัตรูของอิสลามได้เริ่มต้นการต้านทานการโจมตีตนเองมาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว ความจริงที่น่าเศร้าใจก็คือว่า รัฐบาลอิสลามบางประเทศได้ทรยศ ได้มอบเงินและปัจจัยจำเป็นต่างๆ ของตนให้แก่ศัตรู”

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึง แผนการต่างๆของศัตรูในการเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ว่า “วันนี้อเมริกาและไซออนิสต์ รู้สึกปิติยินดีและมีความสุขต่อความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้นกับประเทศอิสลาม และแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือ ความร่วมมือกันระหว่างประเทศอิสลามและการดำเนินการภาคปฏิบัติต่างๆที่สร้างสรรค์และเหมาะสม”



เหตุการณ์ในอิรักและซีเรีย

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวย้ำว่า “เราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิสลามจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดในการมอบความไว้วางใจต่อตะวันตกและอเมริกา ซึ่งวันนี้เราทั้งหมดล้วนได้ประจักษ์เห็นแล้วว่า ผลของการดำเนินการต่างๆของตะวันตกในภูมิภาคนั้น มันได้สร้างความเสียหายต่ออิสลามและภูมิภาคอย่างใหญ่หลวง”

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบางประเทศในภูมิภาค และการกระทำต่างๆที่ป่าเถื่อนโหดร้ายของกลุ่มก่อการร้ายในอิรักและซีเรีย ว่า “หากผู้ใดไม่เห็นมือที่ซ่อนเร้นที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว แน่นอนยิ่งพวกเขากำลังหลอกตัวเอง”

ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้ชี้ ถึงการปฏิบัติการของกลุ่มก่อการ้ายในภูมิภาค ยิวไซอนิสต์ และตะวันตกบางชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา ดีใจอย่างมากต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ และพวกเขาไม่มีการตัดสินใจอย่างจริงจังเลยในการปราบปรามทำลายไอซิสให้สิ้นซาก

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้พูดถึงตัวอย่างบางส่วนของความโหดร้ายป่าเถื่อนที่ไม่มีใครเหมือนของกลุ่มไอซิส

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงเป้าหมายหลักของกลุ่มก่อการร้ายนี้ในการพิชิตกรุงแบกแดด พร้อมกับนำเสนอคำถามหลักที่ว่า “ใครบ้างที่ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์แก่คนกลุ่มเหล่านี้?!”

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า แน่นอนยิ่งชาวต่างชาติไม่ต้องการให้ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไข ดังนั้นบรรดาประเทศอิสลามจำเป็นจะต้องตัดสินใจในการแก้ไขปัญหานี้เอง แต่เป็นที่น่าเสียใจที่การตัดสินใจร่วมกันที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ยังไม่เกิดขึ้น

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงสถานการณ์ในอิรัก พร้อมกับการชี้ถึงความช่วยเหลือของอิหร่านต่อประชาชนอิรักในการยับยั้งการพิชิตของกลุ่มก่อการร้าย โดยกล่าวเสริมว่า อิหร่านไม่ได้เข้าร่วมทางทหารในอิรัก แต่ทั้งสองประเทศนี้มีความสัมพันธ์อันเป็นประวัติศาสตร์ที่ใกล้ชิดและหยั่งรากฝังลึกต่อกัน

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม แสดงความหวังในการเพิ่มขึ้นของพลังอำนาจและเกียรติศักดิ์ศรีของโลกอิสลาม พร้อมกับย้ำถึงความพร้อมของอิหร่านในการแลกเปลี่ยนทัศนะ การเจรจาและการปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของภูมิภาค
การเสริมสร้างและกระชับมิตรระหว่างเตหะรานและอังการ่า

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ชี้ถึงผลประโยชน์ร่วมระหว่างอิหร่านกับตุรกี ในการเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ ว่า อำนาจและความแข็งแกร่งของประเทศมุสลิมในโลกอิสลามนั้น ในความเป็นจริงแล้วคืออำนาจและความแข็งแกร่งของประชาชาติอิสลาม และนโยบายทั่วไปของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน คือการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศอิสลามซึ่งกันและกัน อีกทั้งหลีกเลี่ยงการสร้างความอ่อนแอต่อกันและการเสริมสร้างความเข้มแข็งของความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและตุรกีนั้น จะสามารถช่วยตอบสนองวัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้ให้สัมฤทธิ์ผลเช่นเดียวกัน

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวย้ำว่า เราได้เน้นย้ำอยู่เสมอว่า ประเทศอิสลามจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดในการมอบความไว้วางใจต่อตะวันตกและอเมริกา ซึ่งวันนี้เราทั้งหมดล้วนได้ประจักษ์เห็นแล้วว่า ผลของการดำเนินการต่างๆ ของตะวันตกในภูมิภาคนั้น มันได้สร้างความเสียหายต่ออิสลามและภูมิภาคอย่างใหญ่หลวง

นายรอญับ ต็อยยิบ อุรดูฆอน ประธานาธิบดีตุรกี ได้ชี้ถึงการเจรจาของตนในเตหะราน โดยกล่าวว่า ในการเดินทางครั้งนี้เราได้มีการพิจารณาปัญหาต่างๆ ร่วมกัน และเราได้ทำการเจรจากันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ รวมทั้งปัญหาต่างๆ ของภูมิภาค

เขาได้ชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเตหะรานและอังการ่าในด้านพลังงาน พร้อมกับกล่าวว่า สภาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างอิหร่านและตุรกีได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว และเราได้ออกคำสั่งแก่บรรดารัฐมนตรีของเราให้ติดตามงานต่างๆ

ประธานาธิบดีตุรกี ย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของตะวันออกกลางภายในหมู่พวกเขากันเอง โดยปราศจากการแทรกแซงของตะวันตก โดยกล่าวว่า มีปัญหามากมายในภูมิภาคที่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจะต้องไม่รอคอยให้ตะวันตกมาแก้ไขปัญหาเหล่านี้

ประธานาธิบดีตุรกี ยังได้อธิบายอีกว่า ขอประณามอาชญากรรมต่างๆ ของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส พร้อมกับย้ำว่า ข้าพเจ้าไม่นับว่ากลุ่มไอซิส นั้นเป็นมุสลิม และข้าพเจ้าก็ได้แสดงจุดยืนต่อต้านกลุ่มนี้ไปแล้ว

อุรดุฆอน พร้อมคณะ ได้มาเยือนกรุงเตหะราน เมื่อวันเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ( 7 เมษายน) ตามคำเชิญของประธานาธิบดีอิหร่าน

TWITTER FACEBOOK GOOGLE +

ผู้นำสูงสุดอิหร่านชี้ ทางแก้วิกฤตเยเมน คือยุติการโจมตีและการแทรกแซงของต่างชาติ | abnewstoday

 

ความสำเร็จของซาอุฯ “ในการทำลายตะวันออกกลาง”
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 8, 2015



Alalam – นักข่าวและนักเขียนชาวอังกฤษ ย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันของความขัดแย้งและสงครามในตะวันออกกลางที่ยังคงอยู่นั้น มันเอื้อผลประโยชน์ให้กับบางฝ่าย เช่นบางชาติอาหรับในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย

แพทริค เบิร์น เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Independent ว่า สิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดต่อประเด็นการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในตะวันออกกลาง ส่อให้เห็นในความพยายามของซาอุฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลเชิงรากฐานในภูมิภาคโดยใช้อำนาจทางทหารเป็นที่ตั้ง ซึ่งประเทศที่แสดงบทบาทในการสร้างความขัดแย้งต่างๆในปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าชาติใดอยู่เบื้องหลัง

เขากล่าวเสริมว่า ซาอุฯได้เริ่มโจมตีทำลายเยเมนทางอากาศ และในซีเรีย ก็ได้ร่วมมือกับตุรกีในการสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มสุดโต่ง อัลนุศราห์ ฟรอน์ ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของอัลกออิดะห์ที่อยู่ในซีเรีย ซึ่งวันนี้ กลุ่มก่อการร้าย อัลนุศราห์ ฟรอน์ ก็ได้ยึดเมือง อะดะเลบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย

เขากล่าวเสริมว่า ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรรู้ว่า การโจมตีทางอากาศโดยปราศจากพันธมิตรทางทหาร จะทำให้พวกเขาไม่สามารถบรรลุไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ควรคำนึงว่า หากซาอุฯส่งกองกำลังภาคพื้นดินสู่เยเมนแล้ว มันจะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบละความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาแล้วในอัฟกานิสถานและอิรักอย่างแน่นอน

เขาได้ชี้ถึงเหตุผลของซาอุฯ ในการโจมตีเยเมน ว่า เหตุผลหลักคือ มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเมืองภายในของซาอุดีอาระเบีย “มุฏอวีย์ อัลรอชีด” อาจารย์ชาวซาอุฯ ประจำมหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน “มุฮัมมัด บิน ซัลมาน” รัฐมนตรีกลาโหมของซาอุฯ และโอรสของกษัตริย์ ซัลมาน คนปัจจุบัน มีความพยายามที่จะทำให้ซาอุฯ กลายเป็นมหาอำนาจทางทหารในคาบสมุทรอาหรับอย่างเบ็ดเสร็จ และใช้วิธีการปฏิบัติการทางทหารในเยเมน บุกโจมตีเยเมนนั้น เพื่อ “ทำลายชาวชีอะห์และผู้สนับสนุนอิหร่านในเยเมน”

เขาได้ชี้ถึง การขยายบทบาทของซาอุดีอาระเบียในการสนับสนุนสาขาของอัลกออิดะห์ในซีเรีย ว่า ญามาล คอชักญี นักข่าวซาอุฯและที่ปรึกษาของรัฐบาล ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ นิวยอรก์ไทมส์ ว่า ซาอุฯและตุรกี ให้การสนับสนุน กลุ่ม อันนุศรา ฟรอน และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ เพื่อสามารถยึดเมือง อะดะเลบ ในซีเรีย ซึ่งมีการประสานงานที่ดีในด้านข้อมูลระหว่างซาอุฯ กับตุรกีอย่างไม่เคยมีปรากฏมาก่อน

นักข่าวอังกฤษ ผู้นี้ ยังกล่าวเสริมว่า ประเด็นที่น่าแปลกคือ ซาอุฯไม่เคยออกมายอมรับอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้เลย

เขากล่าวเสริมว่า ซาอุฯ ซึ่งปกครองระบอบกษัตริย์ ไม่ใช่ชาติเดียวในโลกนี้ ที่คิดว่า การสร้างสงครามภายนอกระยะสั้นๆ จะสามารถประสบชัยชนะได้ เนื่องจาก ในปี 1914 กษัตริย์เยอรมนี รัสเซีย ออสเตรีย ฮังการี ก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน แต่ในที่สุดแล้วความหวังของพวกเขาก็เป็นอันล้มเหลว

เขากล่าวเสริมว่า บางครั้ง สามารถกล่าวได้ว่า บางที่ ซาอุฯ อาจจะตระหนักได้ว่า การทำลายและการสร้างความเสียหายประเทศชาติในตะวันออกกลางนั้น เป็นการปฏิบัติการที่ดีกว่าด้านอื่นๆของซาอุด้วยซ้ำไป

ความสำเร็จของซาอุฯ “ในการทำลายตะวันออกกลาง” | abnewstoday