ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



9. เตรียมบอมบ์อิหร่าน
หลังจากอิยิปต์ยอมเป็นแกนนำร่วมกับซาอุดิฯในการถล่มเยเมน โอบามายกเลิกการคว่ำบาตรอาวุธอิยิปต์ทันที ด้วยการประเคนส่งอาวุธให้อิยิปต์มีมูลค่ารวม$1.3พันล้าน
สหรัฐฯแบนการส่งอาวุธให้อิยิปต์หลังจากที่ทหารอิยิปต์ล้มรัฐบาลของพวกมุสลิมบราเธอร์ฮู๊ดนำโดยนายMohamed Morsiในเดือนตุลาคม 2013 โดยที่สหรัฐฯให้ท้ายการรัฐประหารครั้งนี้ ทั้งๆที่ปากอ้างประชาธิปไตย
สหรัฐฯไม่เอาพวกมุสลิมบราเธอร์ฮู๊ด แต่หนุนพวกอาหรับปริงค์ให้ก่อหวอดในตะวันออกกลาง
อิยิปต์ตอนนี้รบทั้งในลิเบียและเยเมนเพื่อสร้างฐานอำนาจ เพราะว่าทั้งสองประเทศเละเป็นโจ๊กอยู่
อาวุธที่สหรัฐฯจะส่งมอบให้กองทัพอิยิปต์คือเครื่องบินรบF-16จำนวน12ลำ ขีปนาวุธต้านเรือรบ Harpoon และรถถังM1A1 Abramsจำนวน125คันที่เพิ่งจะอับเกรดเทคโนโลยี่
สหรัฐฯประเคนอาวุธให้อิยิปต์เพื่อว่าตะวันออกกลางจะได้ลุกเป็นไฟเร็วๆ
thanong
1/4/2015
http://rt.com/usa/245737-us-lifts-egypt-embargo/

 

Thanong Fanclub



10. เตรียมบอมบ์อิหร่าน
Julius CaesarเตรียมตัวยกทัพไปรับกับอาณาจักรParthia ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์หนึ่งของอิหร่านโบราณในวันที่18 มีนาคม ปี44ก่อนคริสตกาล แต่พวกวุฒิสมาชิกหัวอนุรักษ์นิยมขุ่นเคืองอำนาจเผด็จการของซีซ่าร์ ต้องการฆ่าซีซ่าร์เพื่อฟื้นฟูระบบสาธารณรัฐ แต่ความจริงต้องการปกป้องอำนาจและอิทธิพลของตัวเองที่ถูกซีซ่าร์ปล้นเอาไป พวกวุฒิสมาชิกจึงวางแผนฆ่าซีซ่าร์ในวันที่15 มีนาคม หรือ3วันก่อนที่ซีซ่าร์จะยกทัพไปรบกับพวกParthia ซีซ่าร์โดนรุมแทงตายในสภาเซเนทกลางกรุงโรม
ย้อนมายุคนี้ ถ้าจะเปรียบโอบามาเป็นซีซ่าร์ก็ได้ เพราะว่าโอบามากำลังออกexecutive orders หรือคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีเป็นว่าเล่น กลายเป็นเผด็จการทำเนียบขาวขึ้นทุกวัน พวกวุฒิสมาชิกรีพับรีกันที่คุมสภาได้ตั้งป้อมที่จะถล่มโอบามาทุกโอกาส พวกสว. รีพับรีกันต้องการโชว์พาวเออร์ว่ามีอำนาจ และสามารถกำหนดนโยบายและทิศทางการเมืองสหรัฐฯได้ โดยทำตัวเหมือนพวกสมาชิกวุฒิสภาของโรมสมัยซีซ่าร์มิผิดเพี้ยน
โอบามามีแผนการของตัวเองในการเจรจาหรือจัดการกับอิหร่าน (Parthia) แต่พวกวุฒิสมาชิกรีพับรีกันมีความเห็นในนโยบายกับอิหร่านอีกอย่างหนึ่ง คือต้องการบอมบ์อิหร่าน เพื่อหักหน้าโอบามา สภาคอนเกรซได้เชิญนายเบนจามิน เนธันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มาแถลงในสภาสหรัฐฯเพื่อประนามอิหร่านและประกาศสงครามกับอิหร่าน ทั้งๆที่โอบามาเตือนเนธันยาฮูว่าอย่าได้มาดีซีเป็นอันขาด เพราะว่าทั้งคู่มีความเห็นแนวทางจัดการกับอิหร่านไม่เหมือนกัน แต่เนธันยาฮูมาซะอย่างเพื่อโชว์ว่าใครแน่กว่ากัน และเรียกร้องให้สหรัฐฯถล่มอิหร่าน ก่อนที่อิหร่านจะสามารถสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้
ถือว่าสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯได้รุมแทงโอบามาที่สภาคอนเกรซ เหมือนกับที่ซีซ่าร์โดนรุมแทงเมื่อ2059ปีมาแล้ว
ต่อไปนี้คือรายชื่อวุฒิสมาชิกสหรัฐฯที่ลงนามในจดหมายถึงผู้นำอิหร่านว่าจะขัดขวางนโยบายทุกอย่างที่โอบามาทำกับอิหร่านในเรื่องนิวเคลียร์
ร่วมเซ็นชื่อ
Richard Shelby (Ala.)
Jeff Sessions (Ala.)
Dan Sullivan (Alaska)
John McCain (Ariz.)
John Boozman (Ark.)
Tom Cotton (Ark.)
Cory Gardner (Colo.)
Marco Rubio (Fla.)
Johnny Isakson (Ga.)
David Perdue (Ga.)
Mike Crapo (Idaho)
Jim Risch (Idaho)
Mark Kirk (Ill.)
Chuck Grassley (Iowa)
Joni Ernst (Iowa)
Pat Roberts (Kansas)
Jerry Moran (Kansas)
Mitch McConnell (Ky.)
Rand Paul (Ky.)
David Vitter (La.)
Bill Cassidy (La.)
Roger Wicker (Miss.)
Roy Blunt (Mo.)
Steve Daines (Mont.)
Deb Fischer (Neb.)
Ben Sasse (Neb.)
Dean Heller (Nev.)
Kelly Ayotte (N.H.)
Richard Burr (N.C.)
Thom Tillis (N.C.)
John Hoeven (N.D.)
Rob Portman (Ohio)
Jim Inhofe (Okla.)
James Lankford (Okla.)
Pat Toomey (Pa.)
Lindsey Graham (S.C.)
Tim Scott (S.C.)
John Thune (S.D.)
Mike Rounds (S.D.)
John Cornyn (Texas)
Ted Cruz (Texas)
Orin Hatch (Utah)
Mike Lee (Utah)
Shelley Moore Capito (W.V.)
Ron Johnson (Wis.)
Mike Enzi (Wyo.)
John Barrasso (Wyo.)
ไม่ร่วมเซ็นชื่อ
Lisa Murkowski (Alaska)
Jeff Flake (Ariz.)
Daniel Coats (Ind.)
Susan Collins (Maine)
Thad Cochran (Miss.)
Lamar Alexander (Tenn.)
Bob Corker (Tenn.)
จะเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์ย้อนรอยอย่างไม่น่าเชื่อ และตัวละครหลักก็เป็นตัวเล่นเดิมๆ โลกนี้ไม่เปลี่ยนอะไรมาก วนไปวนมาเป็นวัฏฏะอย่างนี้
thanong
1/4/2015
http://www.washingtonpost.com/…/heres-a-list-of-the-gop-se…/

 

Thanong Fanclub



11. เตรียมบอมบ์อิหร่าน
การเจรจานิวเคลียร์อิหร่านจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยๆจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 2 วันหลังจากเส้นตายเดิมผ่านพ้น ด้วยนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ปักหลักในสวิตเซอร์แลนด์เพื่อพูดคุยหารือต่อ แม้รัฐมนตรีต่างประเทศบางชาติเดินทางกลับกันบ้างแล้ว
การเจรจาระหว่างมหาอำนาจ 6 ชาติที่เรียกว่ากลุ่ม P5+1 อันประกอบด้วยสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย บวกกับอีกมหาอำนาจคือเยอรมนี กับอิหร่าน ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยังดำเนินต่อไปในวันพุธ(1เม.ย.) แม้จะผ่านเส้นตายต้องบรรลุข้อตกลงที่กำหนดไว้เองในวันที่ 31 มีนาคมมาแล้วก็ตาม
ในช่วงค่ำวันพุธ(1เม.ย.) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเผยว่า "เราพยายามสร้างความคืบหน้า แต่ยังไม่บรรลุความเข้าใจทางการเมือง เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีเคร์รี จึงจะอยู่ในโลซานน์ต่อไปจนถึงอย่างน้อยเช้าวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) เพื่อเจรจากันต่อ"
รอยเตอร์เผยในเวลาไล่เลี่ยกันว่านายเคร์รีและแฟรงค์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ แจ้งว่าจะอยู่ต่อจนถึงวันพฤหัสบดี(2เม.ย.) ขณะที่โลรองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ก็เดินทางกลับมายังโลซานน์อีกรอบ หลังหนึ่งวันก่อนหน้านี้ได้บินกลับประเทศเนื่องจากการเจรจามีความคืบหน้าน้อยมาก
กลุ่ม P5+1 ต้องการหยุดยั้งไม่ให้อิหร่านสามารถพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ได้ แลกเปลี่ยนกับการผ่อนคลายมาตรการลงโทษของนานาชาติที่กัดกินเศรษฐกิจอิหร่านอย่างรุนแรง ถึงแม้เตหะรานนั้นยืนกรานว่า โครงการนิวเคลียร์ของตนมีจุดประสงค์เพื่อสันติก็ตาม
ข้อตกลงเบื้องต้นจะถือเป็นหลักชัยสำคัญที่นำไปสู่ข้อตกลงขั้นสุดท้ายที่มีเส้นตายสิ้นเดือนมิถุนายนที่จะถึง ซึ่งจะเป็นการยุติการเผชิญหน้ายาวนาน 12 ปี และลดความเสี่ยงในการเกิดสงครามตะวันออกกลางครั้งใหม่
ก่อนหน้านี้นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ บอกกับบีบีซีว่า "ผมคิดว่าเราได้กรอบความเข้าใจอย่างกว้างๆแล้ว แต่ยังคงมีประเด็นสำคัญๆบางอย่างที่จำเป็นต้องฝ่าฟันไปให้ได้ บางประเด็นในนั้นมีรายละเอียดมากและเป็นเรื่องทางเทคนิค ดังนั้นจึงมีการบ้านให้ทำอีกมาก แต่เรากำลังทำงานกันและจะเดินหน้าต่อไป" อย่างไรก็ตามเขาย้ำว่าจะไม่ลงนามใน "ข้อตกลงแย่ๆ"อย่างแน่นอน
เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียซึ่งแม้เดินทางกลับสู่มอสโกแล้ว แถลงว่า คณะเจรจาสามารถบรรลุข้อตกลงทั่วไปในประเด็นสำคัญทั้งหมด และบอกว่า ข้อตกลงที่เป็นไปได้นี้จะครอบคลุมการตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านโดยทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) และขั้นตอนการยกเลิกการคว่ำบาตรเตหะราน
ด้านนายโมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ซึ่งได้หารือแบบทวิภาคีกับนายเคร์รีในวันพุธ(1เม.ย.) บอกว่าการเจรจาประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ แต่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงของเขายอมรับว่าปัญหาต่างๆยังคงมีอยู่และบอกว่าคงไม่อาจบรรลุข้อตกลงกันได้หากปราศจากกรอบการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด
ทางฝ่ายรัฐมนตรีต่างประเทศ หวัง อี้ ของจีนซึ่งเดินทางออกจากโลซานน์แล้วเช่นกัน กล่าวเตือนว่า หากการเจรจาคราวนี้ชะงักงัน จะเท่ากับความพยายามในการแก้ไขวิกฤตนิวเคลียร์อิหร่านที่ผ่านมาทั้งหมดสูญเปล่า และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพบกันครึ่งทาง หวังยังบอกว่า มีความคืบหน้าชัดเจนในประเด็นหลักหลายข้อ และทุกฝ่ายเริ่มผ่อนคลายจุดยืนเข้าหากันมากขึ้น
2/4/2015
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037928

 

น้ำมันขึ้นแรง ทองทะยาน-หุ้นสหรัฐฯ ปิดลบแคบจากข้อมูล ศก.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2558 05:14 น. (แก้ไขล่าสุด 2 เมษายน 2558 10:51 น.)



@เหตุระเบิดและไฟไหม้ที่แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งในอ่าวเม็กซิโก ของบริษัทพีเม็กซ์

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรงในวันพุธ (1 เม.ย.) จากข้อมูลการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐฯ และเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะในอ่าวเม็กซิโก ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ผลักให้ทองคำทะยานขึ้นถึง 25 ดอลลาร์

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด เพิ่มขึ้น 2.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยแพร่ในวันพุธ (1 เม.ย.) พบว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นตามความคาดหมาย แตะ 471.4 ล้านบาร์เรล ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ แต่ขณะเดียวกันมันก็เผยให้เห็นถึงการผลิตน้ำมันดิบที่ลดลงเล็กน้อยราว 36,000 บาร์เรลต่อวัน หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์มายาวนาน ซึ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมภาวะอุปทานล้นตลาด

นอกจากนี้แล้ว ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวคราวเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งในอ่าวเม็กซิโก ของบริษัท พีเม็กซ์ คร่าชีวิตคนงาน 4 ศพ ได้รับบาดเจ็บ 16 คนและต้องอพยพพนักงาน 300 คน

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (1 เม.ย.) ปิดลบพอสมควร หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ กัดเซาะความหวังต่อข้อมูลภาคแรงงานที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เช่นเดียวกับผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆ

ดาวโจนส์ ลดลง 77.94 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,698.18 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 8.20 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,059.69 จุด แนสแดค ลดลง 20.66 จุด (0.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,880.23 จุด

ภาคประกันสุขภาพในดัชนีเอสแอนด์พีคือผู้นำการปิดลบของวอลล์สตรีทวันที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ขยับลงเช่นกันตามหลังรายงานยอดขายอันซบเซาในเดือนมีนาคม โดยหุ้นของจีเอ็มลดลงร้อยละ 2 ปิดที่ 36.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนฟอร์ด ลดลงร้อยละ 1.4 ปิดที่ 15.91 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ขณะเดียวกัน ในส่วนของข้อมูลการจ้างงาน พบว่านายจ้างเอกชนมีการจ้างงานในเดือนมีนาคมปีนี้ น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนกิจกรรมภาคของโรงงาน ก็ซบเซาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ส่งสัญญาณว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศช่วงไตรมาสแรกชะลอตัวอย่างมาก

ในส่วนข้อมูลภาคแรงงานที่สำคัญกว่าซึ่งถูกมองในฐานะเครื่องมือบ่งชี้ทางเศรษฐกิจในรอบสัปดาห์ มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ (3 เม.ย.) แม้ว่าตลาดจะปิดทำการ เนื่องในวันกู้ดฟรายเดย์ก็ตาม

นักลงทุนยังเฝ้ารออย่างกังวลต่อรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่างๆที่มีกำหนดเผยแพร่ออกมาเร็วๆ นี้ ที่เหล่านักกลยุทธ์มองว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบทางลบแก่พวกบริษัทข้ามชาติ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ประกอบกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงในวันพุธ (1 เม.ย.) กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และผลักให้ทองคำพุ่งขึ้นอย่างแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 25 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037934

 

อิรักประกาศก้องทวงคืนทั้งแผ่นดิน หลังยึดคืนติกริตสำเร็จ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2558 03:15 น.


@นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อาบาดี ลงพื้นที่เมืองติกริต หลังจากกองทัพยึดคืนมาจากไอเอสได้สำเร็จ


เอเอฟพี - อิรักประกาศก้องในวันพุธ(1เม.ย.) จะทวงดินแดนทั้งประเทศคืนจากพวกญิฮัด หลังยืดเมืองติกริตคืนมาได้แล้ว นับเป็นความสำคัญครั้งใหญ่ที่สุดในการสู้รบกับกลุ่มรัฐอิสลาม อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าปฏิบัติการนี้จะเจองานที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่าในเป้าหมายหลักคือเมืองโมซุล เนื่องจากมีพลเมืองพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อาบาดี กล่าวจากใจกลางเมืองติกริต ดินแดนที่เพิ่งยึดคืนมาได้หมาดๆ ตามหลังปฏิบัติการจู่โจมครั้งใหญ่ที่ใช้เวลายาวนาน 1 เดือน ว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะปลดปล่อยทุกตารางนิ้วของผืนแผ่นดินอิรัก

อย่างไรก็ตามสำหรับเมืองติกริต ยังห่างไกลคำว่าปลอดภัย ด้วยเจ้าหน้าที่หลายคนยอมรับว่าพวกนักรบไอเอสยังคงปรากฎตัวอยู่ในเมือง ขณะที่ระเบิดที่ลอบวางไว้ตามบ้านเรือนและอาคารต่างๆก็ถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงเช่นกัน

โมฮัมเมด อัล-กาบาน รัฐมนตรีมหาดไทยอิรักบอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังมีแหล่งซ่อมสุมของพวกนักรบรัฐอิสลามในบางย่าน และมีนักรบไอเอสบางส่วนพยายามหลบหนี ด้วยการข้ามแม่น้ำไทกริส ทางตะวันออกของเมือง ส่วนผู้บัญชาการรายหนึ่งจากนักรบเคตาเอบ อิมาม อาลี หนึ่งในกองกำลังอาสมัครที่ร่วมรบเคียงข้างตำรวจและทหาร รายงานว่ามีเหตุปะทะกับพวกไอเอสบริเวณทางเหนือของเมืองในตอนเช้า และคิดว่ามีพวกไอเอสไม่ถึง 30 คนที่ยังคงอยู่ในเขตกาดิซิยา

ความเห็นที่สนับสนุนคำอ้างดังกล่าว ผู้บัญชาการของกองกำลังอาสาสมัครอีกคนในวันพุธ(1เม.ย.) บอกว่าพวกนักรบญิฮัดลงมือโจมตีจากที่ซ่อนตัวบนภูเขาลูกหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของติกริต ในความพยายามเปิดทางสำหรับหลบหนี

อย่างไรก็ตามมีความกังวลว่าอิรักไม่มีคณะผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดชนวนระเบิดเพียงพอต่อการรับมือกับดักจำนวนมากที่พวกนักรบไอเอสทิ้งไว้ โดยทางกาบาน เผยว่าจนถึงตอนนี้กองกำลังความมั่นคงพบระเบิดขึงตามอาคารบ้านเรือน 185 แห่งและพบระเบิดอื่นๆอีกราว 900 ลูก

ในวันพุธ(1เม.ย.) ได้ยินเสียงระเบิดดังเป็นช่วงๆส่งกลุ่มควันพวงพุ่งขึ้นเหนือเมืองติกริต ขณะที่ทหารปฏิบัติการทำลายระเบิดเพื่อเคลียร์เมือง

คาเลด อัล-โอเบดี รัฐมนตรีกลาโหม ประกาศในวันพุธ(1เม.ย.) จะเดินหน้าปฏิบัติการรุกคืบต่อไป "เรากำลังมาแล้ว อันบาร์ เรากำลังมาแล้วนิเนเวห์" เขาอ้างถึง 2 จังหวัดซึ่งส่วนใหญ่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของไอเอส

ปฏิบัติการจู่โจมเมืองติกริต มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในแผนปฏิบัติการยึดโมซุล เมืองใหญ่สุดอันดับสองของอิรักกลับคืนจากกลุ่มไอเอส เนื่องจากเมืองติกริตตั้งอยู่บนถนนที่มุ่งหน้าสู่เมืองโมซุล

อย่างไรก็ตามซาอิด อัล-อาลี ผู้เขียนหนังสือ "The Struggle For Iraq's Future" มองว่าการสู้รบในติกริตนั้นง่ายกว่าโมซุล เนื่องจากติกริตแทบจะไม่มีพลเรือนพักอาศัยอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะเริ่มปฏิบัติการจู่โจมเมื่อวันที่ 2 มีนาคมเสียอีก "โมซัล ยังมีพลเรือนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้หลายๆอย่างยุ่งยากซับซ้อนอย่างยิ่ง"

รัฐบาลไม่ได้ให้ข้อมูลว่ามีนักรบเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บหรือถูกจับกุมมากน้อยแค่ไหน แต่กองทัพของแบกแดดเชื่อว่าพวกไอเอสสูญเสียชีวิตไปจำนวนมากระหว่างการสู้รบครั้งนี้

ตำรวจ ทหารอิรักและกองกำลังอาสามัคร "หน่วยปลุกระดมประชาชน" ที่นำโดยนักรบชีอะห์ ปฏิบัติการครั้งใหญ่ยึดคืนเมืองติกริตจากนักรบรัฐอิสลามเมื่อวันที่ 2 มีนาคม โดยพวกเขาประสบความสำเร็จในการยืดคืนเมืองต่างๆที่มุ่งสู่ติกริตและปิดล้อมเมืองแห่งหนี้ ทว่าก็เผชิญกับความยากลำบากในการรุกคืบเข้าสู่ตัวเมือง จนปฏิบัติการต้องหยุดชะงักลง ส่งผลให้ท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลอิรักต้องร้องขอพันธมิตรนานาชาติต่อต้านไอเอสที่นำโดยสหรัฐฯช่วยฝ่าทางตันดังกล่าว

แม้ถูกคัดค้านจากกองกำลังติดอาวุธ แต่พันธมิตรต่อต้านไอเอสที่นำโดยสหรัฐฯก็ได้เริ่มโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการเป็นครั้งแรกตครั้งแรกเมื่อวันพุธ(25มี.ค.) กระตุ้นให้กลุ่มติดอาวุธบางส่วนประกาศระงับเข้าร่วมปฏิบัติการชั่วคราว ท่ามกลางข้อครหาว่าวอชิงตันโผล่เข้ามาแย่งชัยชนะ หลังจากก่อนหน้านี้อิหร่านคือผู้สนับสนุนหลักของภารกิจมาโดยตลอดในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่าน

อย่างไรก็ตามที่สุดแล้ว สหรัฐฯก็ยังเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางกาศต่อไป และพวกกองกำลังติดอาวุธก็ยังคงเข้าร่วมสู้รบเมื่อเร็วๆนี้แม้วอชิงตันได้เข้ามามีบทบาทแล้วก็ตาม

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037925

 

ไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ตาย 4 อพยพจ้าละหวั่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2558 00:01 น. (แก้ไขล่าสุด 2 เมษายน 2558 10:49 น.)



รอยเตอร์/เอเอฟพี - พีเม็กซ์ รัฐวิสาหกิจพลังงานของเม็กซิโกเผยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 รายและบาดเจ็บ 16 คน จากเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งของบริษัทในอ่าวเม็กซิโกในวันพุธ (1 เม.ย.) จนต้องอพยพพนักงานราวๆ 300 คนออกมา

ในส่วนของตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นยังคงสับสน หลังหน่วยฉุกเฉินท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 45 ราย ในเหตุไฟลุกไหม้ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ช่วงคืนวันอังคาร (31 มี.ค.) ณ แท่นขุดเจาะน้ำมันอับคาตัน เพอร์มาเนนเต ในอ่าวอ่าวแคมเปเช

พีเม็กซ์ระบุว่าจนถึงตอนเช้าวันพุธ (1 เม.ย.) เรือดับเพลิง 8 ลำยังต่อสู้กับเปลวไฟ และพนักงานสัญญาจ้างจาก Cotemar บริษัทผู้ให้บริการน้ำมันของเม็กซิโกเสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม่ครั้งนี้ นอกจากนี้แล้วยังมีอีก 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ถ้อยแถลงของพีเม็กซ์ระบุว่า เหตุไฟไหม้เกิดขึ้นในพื้นที่ปั๊มและถังพักน้ำมันดิบชั่วคราวบนแท่นขุดเจาะ ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งรัฐกัมเปเช และเบื้องต้นระบุว่ามีคนงานรายหนึ่งของบริษัท Cotemar เสียชีวิต และมีคนงานอย่างน้อยๆ 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาพีเม็กซ์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทวิตเตอร์ว่า “น่าเศร้าใจอย่างมากที่เราต้องยืนยันว่ามีคนงานเสียชีวิต 4 คน ในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ณ แท่นขุดเจาะน้ำมันอับคาตัน เอ-เพอร์มาเนนเต”

ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าอะไรคือต้นตอของเหตุไฟไหม้บนแท่นขุดเจาะน้ำมันดังกล่าว ขณะที่บริษัท Cotemar มีสำนักงานใหญ่ที่อยู่ชิวดัด เดล คาร์เมน เมืองในรัฐกัมเปเช ที่ให้บริการด้านนอกชายฝั่งแก่พีเม็กซ์ ในนั้นรวมถึงปรับปรุง ซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะและขนส่งทางทะเล

พีเม็กซ์ ประสบอุบัติเหตุหลายต่อหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 รายในเหตุระเบิด ณ สำนักงานของบริษัทในกรุงเม็กซิโกซิตี เมื่อปี 2013 หลังจากก่อนหน้านั้นในเดือนกันยายน 2012 ได้เกิดไฟไหม้ที่โรงงานก๊าซธรรมชาติแห่งหนึ่งของพีเม็กซ์ คร่าชีวิตคนงานไป 26 ราย


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037904

 

แผนไปดาวอังคารหลายชั้นหลายเชิง
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 1 เม.ย. 2558 10:01



องค์การอวกาศสหรัฐฯได้มีโครงการโลดโผน ที่จะควักเอาก้อนหินก้อนโตออกจากดาวเคราะห์น้อย แล้วจะดีดให้มันเหวี่ยงอ้อมดวงจันทร์ ห่างออกไป เพื่อที่จะใช้มันเป็นเป้าหมายกับการเตรียมการไปสู่การเดินทางของมนุษย์ไปยังดาวอังคารในอนาคตข้างหน้า

ก่อนหน้านี้ทางองค์การก็เคยคิดที่จะเก็บตกดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็ก แล้วจับให้มันเปลี่ยนมาโคจรอยู่รอบๆดวงจันทร์ แต่หลังจากการพิจารณาโดยถี่ถ้วนแล้ว องค์การตัดสินใจว่าจะทำโครงการเคลื่อนย้ายก้อนหินขนาดยักษ์จากดาวเคราะห์น้อยดีกว่า เจ้าหน้าที่บริหารขององค์การกล่าวว่า “โครงการนี้มันจะถูกต้องตามความต้องการของเรา ในการเดินทางไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่นมากกว่า”

องค์การอวกาศสหรัฐฯยังได้ศึกษาดาวเคราะห์น้อยดวงต่างๆมาเป็นเวลาปีหนึ่งแล้ว ทั้งยังได้ทดสอบวิธีการดันให้มันหันเหเปลี่ยนวิถีโคจรออกไปด้วย เป็นเทคนิคที่จำเป็นในการที่จะช่วยพิทักษ์โลกให้รอดจากการถูกดาวดวงอื่นมาชนเข้า เพราะโลกสมัยดึกดำบรรพ์เคยถูกดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางชน เมื่อยุค 65 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทำให้ไดโนเสาร์ซึ่งเป็นเจ้าโลกอยู่ในตอนนั้น พากันเสียชีวิตลงหมดสิ้น.

แผนไปดาวอังคารหลายชั้นหลายเชิง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แคลิฟอร์เนียจำกัดใช้น้ำบรรเทาภัยแล้ง

ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียบังคับใช้มาตรการควบคุมการใช้น้ำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐ หวังช่วยบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้งที่รุมเร้ามานานหลายปี



วันพฤหัสบดี 2 เมษายน 2558 เวลา 09:14 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่านายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศคำสั่งควบคุมการใช้น้ำเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐ โดยมีผลครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ และหน่วยงานทุกแห่งทั้งของรัฐและเอกชน รวมถึงบ้านเรือนประชาชน เพื่อเป้าหมายการลดปริมาณการใช้น้ำให้ได้สูงสุดร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับสถิติของปี 2555 และปลูกฝังค่านิยมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าให้แก่ประชาชน ขณะที่ทางการจะลงทุนในด้านเทคโนโลยีเพื่อบรรเทาภัยแล้งในพื้นที่

ทั้งนี้ การบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังการประกาศสถานการณืฉุกเฉินภัยแล้งในพื้นที่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมาตรการรวมถึงการที่บ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ที่ได้รับการก่อสร้างหรือพัฒนาพื้นที่ใหม่ จะไม่สามารถใช้เครื่องฉีดน้ำได้ ยกเว้นกรณีที่ท้ายที่สุดแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถจัดการะบบอื่นมาทดแทนได้

รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มีพื้นที่การเกษตรกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และประสบกับปัญหาภัยแล้งเรื้อรังมานานถึง 4 ปีแล้ว แม้มาตรการดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนส่วนใหญ่ แต่นักวิจารณ์บางกลุ่มยังตั้งข้อสงสัยว่า มาตรการดังกล่าวจะได้ผลเพียงใดในระยะยาว

แคลิฟอร์เนียจำกัดใช้น้ำบรรเทาภัยแล้ง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เหมืองหยกเมียนมาร์ถล่มฝังคนงานหลายสิบราย



เหมืองหยกในรัฐกะฉิ่นทางตอนเหนือของเมียนมาร์ถล่ม พบศพคนงานแล้ว 9 ราย ขณะที่อีกกว่า 20 คนยังสูญหาย

วันพุธ 1 เมษายน 2558 เวลา 19:45 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่า หน่วยกู้ภัยเมียนมาร์เมืองผากั้น ในรัฐกะฉิ่นทางตอนเหนือของประเทศ เร่งค้นหาและช่วยเหลือคนงานอีกกว่า 20 คน ที่ติดอยู่ในหลุมขุดเหมืองหยกที่พังถล่มลงมาบางส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเมียนมา อาลินน์ หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีคนงานราว 30 คนติดอยู่ในเหมืองที่ทำมีลักษณะคล้ายผาสูง 300 ฟุต เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 9 ราย ขณะที่การค้นหาและช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป

ราวร้อยละ 90 ของหยกประเภทเจไดต์มาจากเมืองผากั้น ซึ่งถือเป็นแหล่งหยกที่ใหญ่ที่สุดของเมียนมาร์ที่สร้างรายได้สูงถึง 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 110,504 ล้านบาท) จากงานประมูลขายอัญมณีประจำปีเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนมูลค่าที่แท้จริงจะสูงกว่านั้นมาก โดยรายงานจากสถาบันฮาร์วาร์ดแอชเซนเตอร์เมื่อเดือน ก.ค. 2556 ระบุว่า มูลค่าการซื้อขายเมื่อปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 260,010 ล้านบาท) ซึ่งหยกส่วนใหญ่ถูกลักลอบนำออกไปผ่านทางพรมแดนที่ติดกับจีน.

เหมืองหยกเมียนมาร์ถล่มฝังคนงานหลายสิบราย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

กว่า 30 กลุ่มหัวรุนแรงทั่วโลกสนับสนุนไอเอส



ศูนย์สังเกตการณ์กลุ่มหัวรุนแรงเผย มีนักรบสงครามศักดิ์สิทธิ์กว่า 30 กลุ่มทั่วโลก ประกาศสวามิภักดิ์และให้การสนับสนุนกลุ่มไอเอส

วันพฤหัสบดี 2 เมษายน 2558 เวลา 01:32 น.
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ว่า นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปีที่แล้วจนถึงขณะนี้ มีกลุ่มติดอาวุธนักรบสงครามศักดิ์สิทธิ์กว่า 20 กลุ่ม ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอเอส และอีก 10 กลุ่มประกาศให้การสนับสนุน โดยรายงานของศูนย์สังเกตุการณ์กลุ่มหัวรุนแรงแห่งสหรัฐอเมริกา "อินเทล เซนเตอร์" ระบุว่า รายชื่อ 31 กลุ่มดังกล่าวนี้ กระจายอยู่ในจุดต่างๆ ทั่วโลก ไล่ตั้งแต่แอลจีเรียทางตะวันตก ไปจนถึงอินโดนีเซียทางตะวันออก

นายอาบู บาการ์ อัล-แบกดาดี หัวหน้าใหญ่กลุ่มไอเอส ที่ยึดครองพื้นที่กว้างขวางทางภาคตะวันตกของอิรัก และภาคตะวันออกของซีเรีย ได้ประกาศสถาปนารัฐแห่งใหม่ โดยตัวเขาเองเป็นเจ้าผู้ปกครอง หรือกาหลิบ เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว หลังจากนักรบในสังกัดของเขาบุกโจมตี และยึดครองเมืองโมซุล ทางภาคเหนือของอิรักได้สำเร็จ พร้อมกันนี้ อัล-แบกดาดี ยังได้เรียกร้องต่อบรรดาผู้ร่วมอุดมการณ์ทางศาสนาทั่วโลก ให้สาบานตนจงรักภักดีต่อตัวเขา

หลังการประกาศของ อัล-แบกดาดี กลุ่มนักรบศักดิ์สิทธิ์ 1 กลุ่มในแอลจีเรีย อีกกลุ่มในคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ และอีกกลุ่มในเลบานอน เป็นชุดแรกที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มไอเอสในทันที และในช่วงไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น มีอีก 18 กลุ่มรวมถึงกลุ่มโบโก ฮาราม ในไนจีเรีย ได้ประกาศตาม ทำให้จำนวนกลุ่มที่ประกาศสวามิภักดิ์มีทั้งสิ้นจนถึงขณะนี้ 21 กลุ่ม ส่วนอีก 10 กลุ่มประกาศให้การสนับสนุนไอเอส โดยไม่ประกาศสวามิภักดิ์อย่างเป็นทางการ

รายงานของ อินเทล เซนเตอร์ ระบุอีกว่า ในจำนวน 31 กลุ่มแนวร่วมของไอเอสเหล่านี้ มีขนาดและความสำคัญแตกต่างกันมาก บางกลุ่มมีนักรบในสังกัดหลายร้อยคน บางกลุ่มมีหลายพันคน หลายกลุ่มเป็นกลุ่มขนาดเล็กมาก หรือแยกตัวออกจากกลุ่มหลักที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว.

กว่า 30 กลุ่มหัวรุนแรงทั่วโลกสนับสนุนไอเอส | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

Pst Nong



เศรษฐกิจไทยส่อเค้าพัง “ยอดว่างงาน-ปิดกิจการ” พุ่ง
ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะการเมืองที่ไม่ปกติจากสถานการณ์การเมืองภายใน อีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้สถานการณ์การเมืองและประชาธิปไตยของไทยก็คือ “เศรษฐกิจ” ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่มีการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมาสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยก็ประสบปัญหามาโดยตลอด
มองโดยภาพรวมอาจแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ รัฐบาลทหารของไทยประสบปัญหาในการเจรจาด้านการค้ากับต่างประเทศเนื่องจากต่างชาติไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ อีกสาเหตุสำคัญก็คือความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากยอดการปิดกิจการของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานในรายงาน “สถานการณ์การว่างงาน การเลิกจ้างและความต้องการแรงงาน (มีนาคม 2558)” พบว่าสถิติผู้ประกันตนที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 54,081 คน
ในจำนวนผู้ว่างงานดังกล่าวมีถึง 6,279 คน ที่ว่างงานเพราะถูกเลิกจ้าง โดยในจำนวนนี้มีถึง 49.83% ที่ถูกเลิกจ้างเพราะนายจ้างปิดกิจการ อีก 30.28% ถูกเลิกจ้างเพราะนายจ้างต้องการลดจำนวนพนักงาน สอดคล้องกับรายงาน “ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรม” ประจำเดือนมกราคม 2558 ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ระบุว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมกราคม 2558 เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือน ธันวาคม 2557 และติดลบ 1.3% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2557
นอกจากนี้ยังพบว่ามีโรงงานที่ปิดกิจการในเดือนมกราคม 2558 ถึง 107 แห่ง พุ่งสูงขึ้นกว่าเดือนธันวาคม 2557 ถึง 109.8% และมียอดการปิดกิจการมากกว่าช่วงเดือนมกราคม 2557 ถึง 25.9% ในส่วนของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมไทยเมื่อพิจารณาจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index : MPI) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ก็ติดลบที่ 1.3% และหากเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียกับอินโดนีเซียก็ถือว่ามีความแตกต่างอย่างมาก เพราะมาเลเซียกับอินโดนีเซียมีดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ขยายตัวเพิ่มขึ้นที่อัตรา 7.9% และ 5.2%
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะภาคอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนจากต่างชาติกำลังมีการย้ายฐานการผลิตออกไปจากประเทศไทย ตรงกับประกาศของบริษัทอุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่อย่างบริษัท เชฟโรเล็ด เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เจนเนอรัล มอเตตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เพาเวอร์เทรน (ประเทศไทย) จำกัด (รวมเรียก “จีเอ็ม ประเทศไทย” ) ที่ได้จัดทำโครงการสมัครใจลาออก เพื่อ ปรับ ลด จำนวนพนักงานส่วนต่างๆ ในองค์กรของแต่ละบริษัทในทุกฝ่าย ทุกระดับประมาณ 30% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด หรือราวๆ 3,200 คน โดยเปิดให้พนักงานแจ้งความจำนงได้ในช่วงวันที่ 2 มีนาคม 2558 -12 มีนาคม 2558
นี่คือผลสะท้อนสำคัญที่ตรงกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่ระบุว่าผู้ว่างงานประมาณ 404,000 คนทั่วประเทศ โดยในจำนวนผู้ว่างงานนี้เป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อนประมาณ 164,000 คน และอีก 240,000 คนเป็นผู้ที่เคยทำงานมาก่อนแล้ว โดยในจำนวนผู้ที่เคยทำงานมาก่อนแล้ว 240,000 คน ประเมินว่า 119,000 คนเป็นผู้ว่างงานในภาคการบริการและการค้า 78,000 คนอยู่ในภาคการผลิต และอีก 43,000 คนอยู่ในภาคเกษตรกรรม ซึ่งในจำนวนผู้ว่างงานตามรายงานดังกล่าวพบว่า ผู้ว่างงานเป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษามากที่สุด 144,000 คน
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัญหาเศรษฐกิจที่เริ่มส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของไทยอย่างมาก ไม่นับรวมปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้าว และยางพารา น่าสนใจว่ารัฐบาล คสช. ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเหล่านี้อย่างไร เพราะรัฐประหารมาจะครบปีอยู่แล้วปัญหาเหล่านี้ก็ยังคงอยู่และทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ในวันที่ประเทศอยู่ในภาวะที่ประชาชนไม่มีสิทธิ์มีเสียงเช่นนี้ ก็คงได้แต่ปล่อยให้ผู้มีอำนาจดำเนินการไปตามยถากรรม และสุดท้ายหากเศรษฐกิจของประเทศพังจริงๆ ผู้ที่ต้องรับผลกรรมที่ตนเองไม่ได้ก่อก็คือประชาชนทุกคนนั่นเอง!!!!
http://www.ispacethailand.com/เศ%…/5453.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
Guardians of the Galaxy รัสเซียตั้งกองทัพผู้พิทักษ์จักรวาล



-----------
คุ้นๆว่าก่อนหน้านี้เคยลงข่าวมาแล้วหนหนึ่งว่ารัสเซียบอกว่าจะจัดตั้งกองกำลังพิเศษ นักรบอวกาศขึ้นมาหน่วยหนึ่ง ไม่ได้พูดเล่นนะนั่นหนะ ปูตินเอาจริงด้วยอ่ะ... เมื่อวันที่ 1 เม.ย.58 ที่ผ่านมา รมว.กลาโหมของรัสเซียได้ก่อตั้ง "กองกำลังตรวจสอบการบินและอวกาศ" ขึ้นมา (Aerospace Monitoring Forces (AMF)) โดยมีภารกิจด้านให้การรักษาความปลอดภัยกับยานอวกาศและสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) และการบังคับใช้กฎระเบียบระหว่างประเทศในการดำเนินการด้านอวกาศ
สื่อฯรัสเซียตั้งชื่อให้กองกำลังทหารหน่วยนี้ว่า "หน่วยลาดตระเวนอวกาศ" (Space Patrol) จะมีภารกิจร่วมกันกับกองกำลังอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายกันซึ่งกำลังมีการก่อตั้งในประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งสหรัฐฯ จีน และเยอรมัน (สหรัฐฯอีกแหละ!) สหประชาชาติยินดีต้อนรับการริเริ่มของรัสเซีย โดยกล่าวเพิ่มเติมว่าสามารถที่จะนำไปสู่ข้อตกลงระหว่างประเทศได้
กองทัพ AMF จะใช้เครือข่ายที่กว้างขวางทางดาวเทียมและสถานีภาคพื้นดินในการติดตามผู้กระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎจราจรในอวกาศ หน่วยงานนี้จะปฏิบัติภารกิจในอวกาศเป็นเวลา 3 เดือนในสถานีอวกาศและจะบินลาดตระเวนในวงโคจร (รอบโลก) ทุกวัน
การลาดตระเวนอากาศของรัสเซียจะใช้ยานอวกาศ Soyuz ที่นำมาปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ในปฏิบัติการเที่ยวบินสังเกตการณ์ ไล่ล่าผู้ที่กระทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และทำหน้าที่เก็บขยะอวกาศด้วย
รมว.กลาโหมของรัสเซียยังมีแผนที่จะมีปฏิบัติการลึกเข้าไปในอวกาศเพื่อให้การรักษาความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ห่างไกลของพื้นที่รอบนอกอวกาศอีกด้วย ซึ่งมักจะใช้สำหรับประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมายจนร่ำรวย รวมถึงอาวุธต่างดาว การค้ายาเสพติด และการฟอกเงินด้วย
ว้าว! นี่มันยิ่งกว่าหนังไซไฟวิทยาศาสตร์-อวกาศอีกนะนี่ ไอ้เรื่องอาวุธต่างดาว การค้ายาเสพติด และการฟอกเงินในอวกาศนี่คงจะยังอีกไกลอยู่ แต่ที่เป็นห่วงแทนบางประเทศก็คือว่า พักนี้มีเครื่องบินตกบ่อยเหลือเกิน รวมทั้งกิจกรรมแปลกๆของสหรัฐฯในอวกาศด้วยซึ่งน่าสงสัยยิ่งนัก อเมริกาทำตัวเป็นตัวรวจโลก รัสเซียบอกว่าจะเป็นตำรวจอวกาศเอง จะคอยจับตาพวกที่ชอบแอบรุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศอื่นอย่างผิดกฎหมาย และหาสาเหตุของเครื่องบินตกที่น่าสงสัย รัสเซียจึงอยากจะจับตาพฤติกรรมของอเมริกาหรือชาติอื่นๆในอวกาศอย่างใกล้ชิด งานนี้ปูตินเดินเกมนำหน้าอีกแล้ว
The Eyes
03/04/2558
-----------
Guardians of the Galaxy: Russia Creates International Space Patrol / Sputnik International
http://en.wikipedia.org/wi…/Russian_Aerospace_Defence_Forces

 

ปอกเปลือก ทรราช
อิรัคยึดเมืองติกริตได้… สหรัฐฯบอกระวัง booby traps (จากใคร? ไอซิสหรือว่ายูเอสเอ?)



-----------
ในขณะที่ชาวอิรัคและกองกำลังผสมกำลังยินดีกับความสำเร็จที่กองกำลังผสมของอิรัคสามารถขับไล่พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสออกจากเมืองติกริตได้ ฝั่งสหรัฐฯก็เล่นข่าวนี้ผ่านสื่อฯหลักของตนเหมือนกัน แต่เล่นในอีกแง่หนึ่ง โดยบอกว่าระวังอาจจะเป็น "กับดัก" หลอกให้หลงกลก็ได้ (booby traps) โดยสื่อฯสหรัฐฯบอกว่าหลังจากที่กองกำลังผสมของอิรัคเข้ายึดเมืองติกริตได้แล้ว ได้พบสายไฟอุปกรณ์ต่อวงจรระเบิดในรถยนต์ และในตัวอาคารอาจจะมีการวางระเบิดเอาไว้ด้วยก็ได้ (เหมือนในหนังเลย)
อ่านข่าวนี้เพียงผิวเผินก็จะมองว่า booby traps ที่สื่อฯฝั่งสหรัฐฯพูดถึงนั้นก็คือระเบิดที่รถยนต์กับในตัวอาคาร นั่นคือระดับที่หนึ่ง แต่อีกระดับหนึ่งก็คืออาจจะเป็นการวางหมากให้ไอซิสถอยไปก่อนแล้วค่อยตีตลบหลังกองกำลังผสมของอิรัคหรือแทรกซึมเข้ามาก่อเหตุในเมืองติกริตในภายหลังก็ได้ นี่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนบางอย่างไปยังรัฐบาลอิรัคโดยตรงจากสหรัฐฯโดยซ่อนความหมายบางอย่างไว้ในข่าวให้รู้เป็นนัยๆกันเองว่าอย่าได้ชะล่าใจให้มากนัก เดี๋ยวอเมริกาอดหมั่นไส้ไม่ไหวขึ้นมาก็จะ...เอานา
The Eyes
03/04/2558
-----------
http://edition.cnn.com/…/middle…/iraq-isis-tikrit/index.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
อิหร่านบรรลุข้อตกลงปัญหานิวเคลียร์ร่วมกับ6ประเทศมหาอำนาจ (P5+1)



-----------
มีรายงานล่าสุดจากเมืองโลซาน (Lausanne) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาว่า การเจรจาเรื่องปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านกับกลุ่มประเทศมหาอำนาจ P5+1 (สหรัฐฯ, อังกฤษ, รัสเซีย, จีน, ฝรั่งเศส และเยอรมันนี) ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่ทำให้ทุกฝ่ายยอมรับเงื่อนไขของแต่ละฝ่ายได้ นี่ไงครับข่าวดี... อย่างน้อยโลกนี้ก็ยังสามารถให้การเจรจาในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งกันได้บ้าง แทนการใช้กำลังและอาวุธเข้าห้ำหั่นกัน ส่วนเอกสารข้อตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการนั้นตอนนี้กำลังจัดทำอยู่
ประธานาธิบดี Hassan Rouhani ผู้นำของอิหร่านทวิตข้อความว่า "ทางออกในการแก้ไขปัญหาประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกรณีนิวเคลียร์ของอิหร่านบรรลุผลแล้ว การร่างข้อตกลง (ร่วมกัน) จะเริ่มต้นขึ้นทันที เพื่อให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 มิถุนายนนี้"
นายจอห์น เคอร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯส่งทวิตเตอร์ว่า "วันที่ยิ่งใหญ่ : ตอนนี้ อียู, P5+1 และอิหร่านสามารถแก้ไขประเด็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับโปรแกรมนิวเคลียร์ได้แล้ว จะกลับไปทำงานเกี่ยวกับขั้นตอนสุดท้ายในเร็วๆนี้"
ในขณะที่เขากำลังมีการเจรจาเพื่อยุติปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทางอิสราเอลก็มีการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง อ้างว่าป้องกันภัยทางอากาศของประเทศ การทดสอบขีปนาวุธในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จและจะผลักดันให้มีการพัฒนาขึ้นมาใช้งานจริงๆในปี 2559 นี้ (นั่นแหละอิสราเอล)
The Eyes
03/04/2558
-----------
Breakthrough Deal Reached at Iran Nuclear Talks in Lausanne / Sputnik International
Israel Tests David's Sling Missile System Amid Iran Nuclear Talks / Sputnik International
P5+1, Tehran Finalize Draft Statement on Iran Nuclear Issue - Source / Sputnik International

 

>>> โรคคอตีบ พบการระบาดมากขึ้น เหตุภูมิคุ้มกันต่ำลง
ฉีดวัคซีนโรคคอตีบฟรี โรงพยาบาลสังกัดสาธารณสุขทั่วประเทศ
เหมาะ ผู้ที่เกิด ม.ค. 2508 - ธ.ค. 2538
ก่อนฉีดควรสอบถามแพทย์ก่อนว่ามีผลต่อโรคประจำตัวท่านหรือไม่
หมดเขต 30 เม.ย.58 <<<

ปล.จะมีวัคซีนบาดทะยักผสมมาด้วย แต่ถ้าจะให้กันบาดทะยักได้ดี ต้องฉีดซ้ำอีกครั้งตามกำหนด

 

ปอกเปลือก ทรราช
อ่ะฮิ้ว! เมกาอีกแล้ว... เอเยนต์ค้ายาจัดปาร์ตี้โสเภณี เจ้าหน้าที่รัฐของอเมริการ่วมด้วย



-----------
มาดูข่าวนี้ของสหรัฐฯบ้างดีกว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียลงข่าวว่า กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯได้ดำเนินคดีกับหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (US federal agency) ในข้อหาลักลอบขนยาเสพติดและใช้ยาเสพติดผิดกฎหมาย (combating drug smuggling and the use of illegal drugs)
ตามรายงานของสำนักงานฝ่ายตรวจสอบทั่วไปกระทรวงยุติธรรม (Justice Department’s Inspector General’s office) พบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามยาเสพติด (DEA) ของสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการจัดปาร์ตี้ยามั่วเซ็กซ์ในทุกพื้นที่โดยพ่อค้ายาในโคลอมเบีย (Colombia) และเจ้าหน้าที่ตำรวจของโคลอมเบียกำลังจับตาเกี่ยวกับอาวุธและทรัพย์สินอื่นๆของเจ้าหน้าที่ DEA ของสหรัฐฯในช่วงที่มีการจัดปาร์ตี้
รายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ DEA ของสหรัฐฯจำนวน 10 คนยอมรับว่าได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้มั่วยามั่วเซ็กซ์อย่างนั้นจริง แต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ถูกลงโทษสถานเบาด้วยการพักงานประมาณ 2-10 วัน (พอเป็นพิธี)
รายงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบโดยกระทรวงยุติธรรม ข้อกล่าวหามีพฤติกรรมมิชอบ (misconduct) รวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศด้วย (sexual harassment) ซึ่งไม่ใช่มีเพียงเจ้าหน้าที่ DEA เท่านั้นแต่ยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมายหน่วยงานอื่นๆจากรัฐบาลกลางด้วย รวมถึง FBI, กรมการแอลกอฮอล์ (Bureau of Alcohol), ยาสูบ, อาวุธปืนและระเบิด และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วย US Marshals Service ของรัฐบาลกลางสหรัฐอีกด้วย
การตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสืบราชการลับได้จ้างโสเภณีในประเทศโคลอมเบียในขณะที่มีการเดินทางล่วงหน้าของทำเนียบขาว และไม่พบว่าฝ่ายสืบราชการลับหรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมีการทำรายงานการสอบสวนอย่างเปิดเผย
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯรายงานว่า การจัดปาร์ตี้โสเภณีในประเทศโคลอมเบีย (หนึ่งในประเทศกลุ่มลาตินอเมริกาอยู่ระหว่างเอกวาดอร์-เวเนซูเอลา-บราซิล) มีมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2548 แต่พึ่งจะมีการตรวจสอบพบในปี 2553 ผ่านการเดินทางนิรนาม
ฝ่ายกำกับดูแลกิจการภายในและคณะกรรมาธิการปฏิรูปรัฐบาลซึ่งจับตาดูพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐบาลกลางกล่าวว่าจะต้องมีการดำเนินการพิจารณาโดยเร็วที่สุดซึ่งน่าจะเป็นช่วงกลางเดือนเมษายนนี้
Jason Chaffetz ประธานคณะกรรมาธิการกล่าวกับสื่อฯว่า "คุณไม่สามารถละเว้นคดีนี้ได้ นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุด และโดยพื้นฐานแล้วมันไม่ถูกต้อง" (พึ่งรู้หรือไงว่าไม่ถูกต้องอ่ะ?)
"เราต้องเข้าใจว่าคนเหล่านี้จะถูกนำมาแสดงความรับผิดชอบ (ต่อการกระทำของพวกเขา) อย่างไร ไม่ควรมีคำถามเกี่ยวกับความรุนแรงของการลงโทษ ผมไม่สนใจว่าคนพวกนี้จะใหญ่มาจากไหน พวกเขากำลังจะปล่อยคนเหล่านี้ไป" นาย Jason Chaffetz ส.ส.พรรครีพับลิกันจากรัฐยูทาห์กล่าว (ยูทาห์เป็นรัฐที่ยังมีลงโทษนักโทษประหารด้วยการยิงเป้า)
ว่าจะไม่เล่นข่าวนี้แล้วนะนี่ แต่เห็นสื่อฯตะวันตกเล่นงานไทยบ่อยจังเลย สื่อฯไทยก็บ้าจี้ตามไปด้วย ก็เลยจัดให้เบาๆ ข่าวแบบนี้จากฝั่งรัสเซียมีเยอะ แต่จะไม่เจอจากสื่อฯหลักของตะวันตก
The Eyes
03/04/2558
-----------
War on Drugs? Cartels Hired Prostitutes for Parties with US Federal Agents / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



นั่นไง! ไฟไหมแท่นขุดเจาะน้ำมันของเม็กซิโกปุ๊บ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพึ่งขึ้นปั๊บทันทีเลย ขึ้นทั้ง 3 แหล่งเลย WTI, Brent และ Dubai (ข่าวไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก https://www.facebook.com/fisont/posts/1650155238537943) มันรับกันเป็นทอดๆอย่างนี้แหละ
The Eyes
02/04/2558
-----------
http://www.bbc.com/…/market_d…/commodities/28696/default.stm
http://www.bbc.com/…/market_…/commodities/143910/default.stm
DME - DME Data
http://rt.com/news/245961-mexico-oil-platform-fire/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ข่าวดีหรือข่าวร้าย อิสราเอลขอแจม AIIB ด้วย?



---------------
จะเริ่มต้นยังไงดีหละนี่? เจอข่าวนี้เข้า ไปไม่ถูกเหมือนกันนะนี่...ฮ่าๆๆ ขอเล่าข่าวก่อนละกันน้อ คืองี้ครับ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.58 ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายที่จีนเปิดโอกาสให้ประเทศต่างๆทั่วโลกเข้ายื่นใบสมัครร่วมเป็น "สัดส่วนสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง" (Perspective Founding Members) ใน "ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเอเซีย" (Asian Infrastructure Investment Bank) ซึ่งเรียกชื่อย่อว่า "AIIB" ตอนนี้มีประเทศต่างๆทั้่งที่เข้าร่วมเป็นสมาชิก PFM และที่ยื่นใบสมัครแล้วทั้งหมดมีจำนวน 53 ประเทศ โดยมีประเทศที่มีสถานะเป็น PFM จำนวน 33 ประเทศ และที่พึ่งยื่นใบสมัครรอการพิจารณาอีก 22 ประเทศ (ข้อมูลจาก wiki) ในขณะที่ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ aiibank นั้นบอกว่ามีสมาชิก PFM จำนวน 31 ประเทศ (ข้อมูลอาจจะยังไม่ได้อัพเดท) (ไทยแลนด์ก็เป็นสมาชิกในกลุ่ม PFM ด้วย ตั้งแต่ปี 2557 แล้วนะครับ)
ในวันสุดท้ายของการรับสมัครสมาชิกเพิ่มนั้น มี 8 ประเทศเข้ายื่นใบสมัครเข้าร่วมกับธนาคาร AIIB ซึ่งประกอบด้วย ฮังการี, ไอซ์แลนด์, คีร์กิสถาน, นอร์เวย์, โปรตุเกต, สวีเดน, จีนไต้หวัน และ อิสราเอล ฮ๊ะ! อิสราเอลก็มาด้วย! ผู้ที่ไม่ค่อยจะชอบ ย. สักเท่าไรนักอาจจะเกิดอาการเซ็งนิดๆถึงปานกลางก็ได้ แต่ทำไงได้อ่ะเขามาแล้วนี่นา ในรอบวินาทีสุดท้ายบีบี้นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลออกมากล่าวว่าเขาตัดสินใจเข้าร่วมหุ้นในธนาคาร AIIB ร่วมกับประเทศอื่นๆที่นำโดยจีนด้วย รัฐบาลของเนทันยาฮู (บีบี้) กำลังมองหาช่องทางในการส่งออกสินค้า เพื่อลดความเสี่ยงให้กับประเทศอิสราเอลอันเนื่องมาจากกระแสต่อต้านยิว (anti-Semitism) เริ่มมีมากขึ้นในยุโรป ซึ่งอาจจะเผชิญกับการแซงชั่นที่อาจจะเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในอนาคตก็ได้
การเมืองอีกหละ เขาพูดเรื่องการค้าการลงทุนกัน หมอนี่มาชูกระแสต่อต้านยิวในยุโรปขึ้นมาในเวทีเอเซียซะนี่ ยุโรปหนะเขาไม่ได้ต่อต้านยิวอย่างรุนแรงอะไรเลยนะ เขาออกมาเรียกร้องให้หยุดการล้อเลียนศาสนาอื่น เขาเรียกร้องให้อยู่ร่วมกันโดยสันติ แต่คุณบีบี้เอาการเมืองมาเล่นและส่งเสริมสื่อฯฝ่ายตนให้สนับสนุนการล้อเลียนศาสนาอื่นอ้างว่าเป็นเสรีภาพในการพูดและการแสดงออก ในขณะที่สหรัฐฯไฟเขียวให้กลุ่มอดีตทหารนาซีออกมาเดินขบวนกันพรึบในกลุ่มประเทศบอลติกชาติสมาชิกนาโต้ได้ แต่บีบี้ไม่เห็นออกมาประท้วงอดีตนาซีพวกนั้นเลย ขี้เกียจจะพูดกับหมอนี่หละ ไปวิเคราะห์การเดินเกมนี้ดีกว่า
เดิมทีสหรัฐฯ พยายามดึง รั้ง พันธมิตรของตนไม่ให้มาร่วมมือกับจีนในโครงการก่อตั้งธนาคาร AIIB นี้ทั้งใส่ร้าย ดูถูก ว่าไม่ได้มาตรฐานอย่างนั้นอย่างนี้ รวมทั้งการคุกคามเพื่อนตัวเองสารพัดรูปแบบทั้งโดยตรงและโดยอ้อมแบบจับมือดมไม่ได้ว่าเป็นฝีมือของสหรัฐฯ แต่พันธมิตรเหล่านั้นก็ไม่สนใจ ยิ่งสหรัฐฯเล่นงานพันธมิตรของตนเองแรงขึ้นเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งจะถอยห่างออกจากสหรัฐฯเร็วขึ้นเท่านั้น และแล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯต่างก็ทะยอยเดินมาร่วมทุนในธนาคาร AIIB กับจีนทีละรายสองราย เหลือแต่อเมริกากับญี่ปุ่นเท่านั้น นักวิเคราะห์มองว่างานนี้อเมริกาพลาดอย่างแรงในการป้องกันไม่ให้พันธมิตรของตนหันมาร่วมมือกับจีน เพราะมันกำลังจะหมายถึงจุดจบของจักรวรรดิอเมริกาในอนาคต
ต่อกรณีที่อิสราเอลเข้าร่วมใน AIIB ด้วยนี้มองได้เป็นสองอย่าง ถ้าในแง่ดีก็มองว่ามนต์ขลังของอเมริกาเริ่มเสื่อมแล้ว ห้ามยังไงก็ไม่มีใครฟัง ขนาดอิสราเอลพันธมิตรฝั่งรีพับลิกันของสหรัฐฯยังแอบนิยมจีนเลย ยอมทุ่มเงินเข้าสู่เอเซียด้วยแสดงว่าในไม่กี่ปีข้างหน้านี้การค้าการลงทุนในเอเซียจะเติบโตและคึกคักมากขึ้นกว่าเดิม ความเจริญจะหลั่งไหลจากตะวันตกเข้าสู่เอเซียอย่างถล่มทะลาย ส่วนอีกแง่หนึ่งก็คือสหรัฐฯไม่กล้าเข้าร่วมกับ AIIB โดยตรง แม้ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วจะส่งประธาน IMF มาอ้อนจีนของมีหุ้น AIIB ด้วยแต่จีนก็ยังไม่ตอบรับ จึงส่งอิสราเอลมาลงเรือสำเภาทองของจีนแทนไม่รู้ว่าจะส่งมาเพื่อเจาะรูเรือสำเภาให้ล่มหรือเปล่า จีนกับอียูและรัสเซียเขาคงไม่ปล่อยให้ผู้ไม่หวังดีมาจมเรือสำเภาทองลำนี้ของจีนได้ง่ายๆนักหรอกนะ
ฝ่ายธนาคารโลก (World Bank) ที่นำโดยสหรัฐฯรีบออกมาแถลงเตรียมแผนรับมือโครงการก่อตั้งธนาคาร AIIB ของจีนทันทีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เวิร์ลด์แบงค์จะต้องมีการปฏิรูปโดยด่วนเกี่ยวกับกระแสเงินลงทุนจากทั่วโลกกำลังเทไปที่เอเซียในตอนนี้ และบอกว่าการปฏิรูปของเวิร์ลดแบงค์จะไม่ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นมาระหว่างจีนกับประเทศอื่นๆ ที่ออกมาพูดแบบนี้แสดงว่าขู่อีกรอบใช่ไหม? ไม่มีใครออกมาพูดเลยว่าจะเกิดความตึงเครียดนอกจากฝ่ายสหรัฐฯเอง และอะไรที่อเมริกาบอกพูดออกมา มันมักจะตรงกันข้ามเสมอ มุกนี้ก็รู้ๆกันอยู่น่า การเมืองมันก็เป็นอย่างนี้แหละ
The Eyes
02/04/2558
-----------
Et Tu, Brute? Israel Latest US Ally to Join Chinese AIIB / Sputnik International
China's AIIB Boom Shows US Influence Over Allies Has Limits / Sputnik International
China-Led Development Bank: Challenge America Failed to Notice / Sputnik International
http://en.wikipedia.org/…/Asian_Infrastructure_Investment_B…
AIIB
World Bank Feels Push to Reform in Response to New Chinese Rival / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช

อังกฤษเสนองดใช้กฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนในสงคราม



---------------
ในขณะที่ตะวันตกกำลังโหมข่าวเรื่องสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับกฎอัยการศึก ต่อมาก็เล่นเรื่องม.44 ของไทยอีกอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งยูเอ็นและพวกฮิวแมนไรท์ทั้งหลายต่างตบแถวเดินขบวนออกมาอย่างพร้อมเพียงกันเชียว บอกว่าอเมริกาและยูเอ็นรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับ ม.44 ของรัฐธรรมนูญไทยในช่วงนี้ ทั้งๆที่กฎหมายนี้ออกมาเกือบจะครบปีอยู่แล้วก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นบอกว่าเป็นห่วงเป็นกังวลอะไร วันนี้รีบออกมาบอกว่าเป็นห่วงมาก แต่คนไทยร้อยละ 97 บอกว่าไม่ห่วงเลย (แอ็ดมิน) สบายดีมีความสุข ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร ก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร ยังทำมาหากินได้ตามปรกติ ยกเว้นพวกรับจ้างจัดม็อบเท่านั้นที่ตกงาน
ทั้งซาอุดิฯและอียิปต์พันธมิตรของสหรัฐฯแท้ๆต่างก็ถูกสหรัฐฯและยูเอ็นใช้เรื่องสิทธิมนุษยชนนี้เล่นงานด้วยกันทั้งนั้น แต่กรณีของยูเครนสหรัฐฯกลับหนุนส่งอาวุธหนักให้กองทัพยูเครนไปถล่มชาวยูเครนตะวันออกได้ไม่อั้น ประชาชนเสียชีวิตไป 6,000 กว่าราย ยูเอ็นไม่เห็นจะออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนจากโปโรเชนโก้เลย
สำนักข่าวของรัสเซียหรือของยูเครนที่ไม่เขียนข่าวช่วยรัฐบาลยูเครนโกหก หรือเขียนข่าวนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นในยูเครนตะวันออกก็จะถูกมองว่าเป็นพวกฝักใฝ่กลุ่มกบฎและรัสเซีย ถูกรัฐบาลยูเครนโดยมีอเมริกาและยูเอ็นไฟเขียวให้แบนสื่อฯเหล่านั้นหมด สำนักข่าวและสื่อฯรัสเซียถูกแบนห้ามเข้ายูเครน 10 กว่าราย ยูเอ็นก็ยังเฉยๆ แต่ถ้าเป็นที่ประเทศไทยพวกนี้ร้องจะเป็นจะตายให้ได้อ้างเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของสื่อฯเพื่อเปิดทางให้ม็อบบางพวกออกมาเผาบ้านเผาเมืองก่อสงครามกลางเมืองอีก ลูกไม้นี้อาจจะได้ผลในเยเมนและยูเครนที่สหรัฐฯปั่นหัวเด็กรุ่นใหม่ออกมาบ่อนทำลายประเทศตัวเองจนพินาศไปแล้ว แต่ไม่ใช่ที่เมืองไทยแน่
มาดูเรื่องสิทธิมนุษยชนในอังกฤษกันบ้าง ว่าเขามีท่าทีอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องสิทธิในการก่อสงครามและสิทธิในการสร้างความชอบธรรมในการฆ่าล้างมวลมนุษยชาติโดยฝีมือของพวกเขาเอง เมื่อวันก่อนพวกตะวันตกเลี่ยงที่จะให้หน่วยงานของรัฐบาลออกมาพูดเองแต่เป็นการฝากคำพูดผ่านองค์กรเอกชนที่มีอิทธิต่อการกำหนดนโยบายสำคัญของรัฐบาลซึ่งรู้กันในนาม "Think Tank" ว่าอังกฤษจะต้องได้รับการยกเว้นเรื่องสิทธิ์มนุษยชนภายใต้อนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนในยุโรป European Convention on Human Rights (ECHR) ในช่วงสงคราม เพราะว่าทหารอังกฤษไม่สามารถต่อสู้ภายใต้ข้อจำกัด "ลัทธิจักรวรรดินิยมด้านยุติธรรม" ได้ (judicial imperialism) พูดง่ายๆ อังกฤษกำลังกลัวระบบกระบวนการยุติธรรมของอียู
ในรายงานของ Policy Exchange ซึ่งเป็นพวกนักคิดระดับนโยบายฝ่ายขาวแต่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายสำคัญๆของรัฐบาลอังกฤษมาโดยตลอดกล่าวไว้ว่า การเสนอให้ฝ่ายข้าศึกมีสิทธิ์ฟ้องร้องรัฐบาลอังกฤษและการคาดหวังให้ทหารในสนามรบให้มีความระมัดระวังในการปฏิบัติการในระดับเดียวกันกับตำรวจสายตรวจ (ลาดตระเวน) ตามท้องถนนในลอนดอนนั้นจะทำให้ปฏิบัติการสู้รบในต่างประเทศในอนาคตไม่อาจกระทำได้ ดังนั้นอังกฤษจึงอยากจะถอนตัวออกจากศาลยุโรปด้านสิทธิมนุษยชนในเมืองสทราซบูร์ (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เพราะอังกฤษมองว่ากฎหมาย European Convention on Human Rights เป็นตัวขัดขวางเสรีภาพของอังกฤษในการสร้างสงครามและการทำลายสิทธิมนุษยชนของชาติอื่น และกฎหมายดังกล่าวไม่สนับสนุนระบบล่าอาณานิคมยุคใหม่ของอังกฤษ อังกฤษต้องการจะออกกฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนฉบับอังกฤษเอง (British Bill of Rights) ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับของอเมริกาที่มีสิทธิ์จะชี้ผิดชี้ถูกให้ใครก็ได้ตามอำเภอใจตนเอง ภายใต้กฎหมายดังกล่าวศาลยุติธรรมของยุโรปจะไม่มีอำนาจในอังกฤษ และอำนาจตุลาการขั้นสุดท้ายจะไม่ขึ้นอยู่กับศาลฎีกาอีกต่อไป
รายงานของกลุ่ม Policy Exchange (Think Tanks) บอกว่ากระบวนการ "ตุลาการภิวัฒน์สงคราม" (Judicialization of War) ได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่พรรคแรงงานของนายโทนี่ แบลร์ (อดีตนายกฯอังกฤษ) ได้นำเสนอกฎหมาย Human Rights Act ในปี 2541
ที่ยกกรณีเหล่านี้มาเปรียบเทียบให้ดูนั้นก็เพื่อให้เห็นว่ามาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนของชาติตะวันตกเป็นอย่างนี้แหละ อังกฤษพยายามหาทางยกเว้นการเอาผิดด้านสิทธิมนุษยชนให้กับตัวเอง เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาหรือฟ้องร้องว่าเป็นอาชญากรสงครามได้ในอนาคต จะได้ร่วมมือกันกับสหรัฐฯเริ่มต้นออกล่าอาณานิคมอีกครั้ง ประเทศไหนก็เอาผิดอังกฤษไม่ได้แน่ถ้าอังกฤษสามารถออกกฎหมายดังกล่าวออกมาเพราะอังกฤษจะบอกว่ากฎหมายของอังกฤษอนุญาตให้ทำได้ แต่ถ้าประเทศอื่นทำอย่างนั้นบ้างอังกฤษก็จะโวยวายทันทีว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เอากะเขาดิ ตอนนี้ทั้งบีบีซีและซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯ ไม่ว่างเล่นข่าวนี้เพราะกำลังกระหน่ำไทยด้วยเรื่อง ม.44 อยู่
The Eyes
02/04/2558
-----------
http://rt.com/uk/245297-human-rights-exclude-battlefield/

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 2 เม.ย.58 มะกันร้องแม่จ๋า ใครๆ เขาทิ้งอเมริกากันไปหาจีนหมดแล้ว
เป็นที่จับตามองกันว่า ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย (AIIB) ที่นำโดยจีน จะเป็นคู่แข่งของธนาคารโลก และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB) และกองทุน IMF ซึ่งอเมริกา มีอิทธิพลในองค์กรทั้ง 3 แห่ง ในฐานะอิลลูมินาติใหญ่
กระทรวงการคลังจีน เพิ่งแถลงเยาะเย้ยว่า โปรตุเกสแห่งยุโรป อ้อนวอน ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย (AIIB) ที่มีจีนเป็นหัวเรือใหญ่ โดยที่ผ่านมามีกว่า 40 ประเทศที่ขอสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก
ในขณะที่อเมริกา และญี่ปุ่น จีนยังไม่แสดงความเห็นอย่างชัดเจนในการยอมเข้าร่วม ซึ่งคาดว่าจีนคงจะทำมึนๆ ไปเรื่อยๆ และปล่อยให้เรื่องเงียบไป จนอเมริกา และ ญี่ปุ่นฝันเปียก มโนไปกันเอง
ยิ่งอเมริกา เผือกมายุ่งกับกิจการภายในของไทย จะยิ่งแฉความจน และขี้โกหกพลเมืองตนเอง และสร้างภาพชาวโลก ให้ได้อับอายทุกวัน เคยมีรายงานหน่วยความมั่นคง FSB ของรัสเซีย แฉออกมาว่า จริงๆ แล้วอเมริกา โจรใส่สูท แต่ข้างในเน่าเฟะ และแสนจะยากจน
เมื่อนายดอมินิก เสตาท์คาน อดีตประธาน IMF ตรวจพบว่าทองคำสำรองของอเมริกา ที่ศูนย์รับฝากทองคำแท่งฟอร์ดน็อกซ์ สูญหายไปจากบัญชีไม่เหลือหรอ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจ ก็ต้องตกตะลึงซ้ำ เมื่อทองคำแท่งทั้งหมดดูเผินๆ มีค่าเหมือนของจริง
แต่เมื่อตรวจพิสูจน์แล้วมีแกนทังเสตนอยู่ข้างใน แล้วเอาทองคำบางๆ หุ้มเอาไว้ตบตา และรันซีเรียลนัมเบอร์หน้าตาเฉยถึงราว 5,700 แท่งๆ ละ 400 ออนซ์ คนอเมริกัน จะรู้บ้างไหมว่ารัฐบาลตนเอง โกหกมานานหลายปี
เอาฟอร์ดน็อกมาเก็บแท่งทังเสตนไว้หน้าตาเฉย ส่วนทองคำสำรองของชาติไม่มีเหลือแล้ว ถ้ามีเหลือสักแท่ง รัฐบาลมะกันจะทำ QE ทางเศรษฐกิจตั้ง 3-4 รอบปั้มเงินกระดาษมาใช้ตบตาทำไม ??
จะแฉ จะเปิดโปง จะประจาน จะเปิดตูดอเมริกา ให้หมด เผือกมายุ่งกับไทยดีนัก ดูซิจะหน้าด้านไปได้สักแค่ไหน ?
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup