สมเด็จไม่รุ้วัด

ครับท่านรัก..ก็คงแนวๆท่านรักเล่ามาอะครับ...

ไอ้คราบน้ำตาลเเป็นแบบนี้มั่ยน้อ

 

สวยครับเยียมจิงๆครับ..พระประเภทแก่มวลสารครับปูนน้อย..มวลประเภทที่ย่อยสลายง่ายมากไป เมื่อย่อยเร็วก้อเกิดการทรุดตัวของปูน เพื่อทำหน้าที่เป็นโคลงสร้างแทนมวลสารที่สลายไป รูปร่างองค์พระเลยเปลียนแปลงไรทิศทาง..บังเอิญผมก้อมีอยู่1องค์ครับ

 

ยุคแรกของช่างหลวงเต็มๆเลยละครับ..ทั้งเนื้อและพิมพ์ชัดเจนครับ..

 

เหมือนองค์ของพี่น้ำข้าวจริงๆครับ

 

การดูพระบางสิ่งบางอย่างต้องมีหลายองค์ประกอบเข้ามาตัดสินในองค์พระ..

พอดีมีรูปมาชม..น้องเขาชื้อหนังสือมาถ่ายมาให้ก็เลยเอามาดูพิมพ์ครับ

สมเด็จเอาแค่ชอบก็พอครับ..อย่าไปหวังอะไรกันมากครับ

แบบที่ท่านรัก ยกตัวอย่างอะครับหาสมเด็จทำไม่หาเจอแล้วจะขายา.30-40ล้านอะไรนั้น..ลมๆแล้งๆไปวันๆครับปลอบใจตัวเอง...ยกตัวอย่าง พระต้องมีต้นทุ่นใช่มั่ยครับ..พระที่เป็นองค์ครูดังๆทีเขาเปลื่ยนมือกันอะครับต้นทุนเขาสูงอยู่แล้วเพราะมีการเปลี่ยนมือกันเรื่อยๆ.พอเปลี่ยนมือไปอีกคนมาฟิตอย่างเช่าต่อ เจ้าของหรือเซียนก็บวกกำไรอีกต่อ..พระเลยแพง..แต่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนมือตั้งราคาใว้..พระก็ราคาเท่านั้น..ก็เหมือนเราๆท่านๆเล่นพรักันแหล่ะครับ..ธรรมชาติเดียวกัน

 

ลองเทียบพิมพ์กะองค์ครู.เพื่อการศึกษาครับ..

ขอขอบคุณภาพองค์ครู.ซ้าย.ขวา..ครับ(องค์กลาง.ไม่ใช่องค์ครูครับ.ของผมเอง อิอิ)

 

อยากอยู่ในทำเนียบบ้างจังเลยครับ

 

ลองเทียบพิมพ์เพื่อการศึกษาส่วนตัวกับองค์อธิบดีหน่อยครับ

ขอบคุณเจ้าของพระครับ

 

องค์พี่น้ำข้าวผมว่าถ้าจะเทียบพิมพ์จริงๆ ลองเทียบกับองค์เสี่ยดมพิมพ์ที่ 1 น่าจะใกล้เคียงกว่านะครับ เพราะเส้นซุ้มจะอวบหนากว่าพิมพ์ที่ 2-4 ตามที่ตำราเค้าว่ากันมา

 

5555+ ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจ เลยไม่ได้ลงละเอียดอะไรมากนักคับ ไช่คับ ตามท่านธนพล เข้าใจนั้นหละคับ เป๊ะเลย ผิวที่ขาวนวลลูบไปลูบมาจะเป็นสีน้ำตาลเงาเลย และก็จะเป็นอย่างนั้นตลอดไป (เจ้านายท่านเค้าว่าอย่างนั้นนะคับ) ผมลูบแค่บริเวณขอบ ไม่ได้ลูบในซุ้มคับ เดี๋ยวพระเป็นอะไรไปจะยุ่ง แฮะๆ.. บางองค์ที่เห็นก็เป็นแบบด้านหลังที่องค์ที่ท่านธนพลลงไว้นั้นหละคับ... ทีนี้เราลองๆวาดภาพนึกดูกันดีมั้ย ว่าสมมุติว่าพระที่มีลักษณะแบบนี้เป็นวัดระฆัง และสมมุติว่า คราบนั้นคือตังอิ๋วก่อนก็แล้วกันนะ แล้วตอนสร้างท่านสมเด็จท่านจะทำยังงัย จะจุ่มลงในตังอิ๋ว เลยเหรอ??? แล้วปล่อยให้แห้ง เพื่อช่วยให้พระมีความแข็งแกร่งขึ้น อีกอย่าง ในบางตำราถ้าหากใช้ตังอิ๋วแล้ว จะเป็นพระที่ทำออกมาในพิมพ์ของหลวงวิจารณ์ หรือว่า มีสารประกอบอื่นๆอีกที่เราไม่รู้และไม่มีปรากฎในตำรา 55555+ ผมก็ลองคิดเล่นๆนะคับ เพราะเกิดไม่ทัน ก็มโนไปเรื่อยเปื่อยคับ เหงาๆหาคนคุยคับ

 

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดต้องขออภัย
ผมว่าคราบสีน้ำตาลที่ว่านี้ไม่น่าใช่น้ำมันตังอิ๋วหรอกครับ
เพราะผมคิดว่ามโนเอาว่าน้ำมันตังอิ๋วนั้นใช้เป็นส่วนผสมกับมวลสารต่างๆในการกดพิมพ์พระครับ
นับแต่สมเด็จโตมรณะภาพถึงปัจจุบันนับได้ 143 ปี ถ้าเป็นพระสมเด็จยุคต้นก็น่าจะมีอายุการสร้างมากกว่านั้น แล้วนำ้มันตังอิ๋วทีผสมลงไปกับมวลสารหรือชุบตามที่ท่านได้กล่าวมา แล้วระยะเวลาขนาดนี้มันไม่ระเหย หรือแห้งไปตามการเวลาหรือครับ สีผิวของพระที่แตกต่างกัน บ้างก็ขาวนวล บ้างก็ออกน้ำตาลนั้นมาจากผสมน้ำมันตังอิ๋วมากหรือน้อยว่ากันไปครับ
ตามความคิดผม ผมว่าคราบที่ว่านั้นก็คือ รักจีน ครับ
ผิดพลาดขออภัยผมมโนเอาครับ ไม่ได้เห็นองค์จริง ฮาๆ

 

พอดีไปเปิดเจอ..จากหนังสือพระสมเด็จ.ของไทยพระ..ลองหสซื้อมาดูกันนะครับภาพพระสมเด็จเยอะครับ


สีน้ำตาลที่ว่าน่าจะแบบนี้

 

5555+ ผิดถูกไม่ว่ากันคับ คุยหนุกๆ เอ.. เจ้าของกระทู้ไปไหนหว่า เงียบเชียบ ถ้าไม่โดนเมียด่าว่าเอาแต่เช่าพระก็คงไปหาสมเด็จมาให้ชมกัน 555+ คุยรอท่านน้ำข้าวดีกว่า.. ผมว่าท่านขุนส่อง น่าจะอายุอานามก็คงจะใกล้เกินครึ่งร้อย เพราะว่าถ้าหากสงสัยว่าเป็นรักจีน ละก็ เพราะหากจะดูพระว่าเก่าแล้ว ถ้ามีรักจีนเพิ่มเติมให้เห็นเข้าไปอีก ก็พอจะมั่นใจได้ว่าเก่าจริงๆ แหม.. พูดถึงเรื่องรักจีนแล้ว คิดถึงท่านHiddenbhumeนะเมื่อก่อนท่านภูมิเค้าเอาข้อมูลเรื่อง"รัก"ต่างๆมาให้เราได้ศึกษา เดี๋ยวนี้หายหน้าหายตา หากท่านใดมีอะไรเพิ่มเติมก็มาคุยมาถามได้คับ จขกท ไม่อยู่ลุยเลย 5555+

 

เห็นพี่รักพูดถึงเรื่องจุ่มลงในตังอิ๋ว เลยทำให้ผมคิดถึงแป้งโรตีเลยครับก่อนที่จะนำมาทำขายผมเห็นอาบังขายโรตี เค้าแบ่งแป้งเป็นก้อนๆแช่อยู่ในน้ำมันไว้เลย ไม่รู้ว่าเพื่อการใดเหมือนกันนะครับ แต่พระสมเด็จความคิดส่วนตัวว่าคงไม่ได้แช่หรือจุ่มไว้หลอกนะครับ เพราะถ้าทำแบบนั้นพระทั้งสามวัดหลักก็ต้องมีความมันในเนื้อพระที่ใกล้เคียงกันมากกว่านี้เป็นแน่ นะครับพี่

 

ผมว่าจะไปหาสมเด็จ องค์ล่ะ 5-600 บาทสวยๆจักองค์
ยังไม่เจอเนื้อคู่เลยครับ ในเฟชเยอะมาก อิอิ

 

555555...เมียคุมจิงๆ ท่านรักกล่าว.เหมือนตาเห็น...ส่วนหาพระเน้นองค์ที่ชอบเอามาดูเล่นศึกษาครับ...

ขนาดพระองค์เดียวกัน อ่าน.เห็นเถียงกันแบ่งเป็นกลุ่มเป็นก้อน.ฝ่ายหนึ่งว่าแท้.อีกฝ่ายว่าเก้มีถมไป..ส่วน..ไอ้ที่แท้จริงๆก็ต้องเน้นองค์ที่ดูง่ายๆมาครบครับ...และก็อีกนั้ยแหล่ะว่าคนที่ดูรุ้จิงปะ..เวลาส่งพระให้เขาดู..เฮ้ย..คิดแล้วปวดหัวครับ..แอบกอดเมียเอาใจต่อดีกว่าครับท่านรัก...อือิ

 

โปรดอย่าถามเรื่องอายุ เพราะผมลำบากใจที่จะตอบ 5555 เรื่องรักจีน ผมก็อ่านเจอบทความในเนตบ้าง โน้นนี่บ้าง ประกอบกันไปครับ จริงผมยังมือใหม่มากๆ เพราะเริ่มศึกษามาได้ไม่กี่เดือนเองครับ ผมยังจับใจความไม่ได้ว่าท่านสมาชิกทั้งหลายเล่นพระสมเด็จกันแนวไหน แนวเนื้อมาก่อนพิมพ์ หรือพิมพ์มาก่อนเนื้อ เล่นกันยุคต้นหรือยุคปลาย ผมยังอ่อนหัดครับ 5555

ปล.ผมว่าท่านกับผมน่าจะรุ่นใกล้กันนะครับดูจากรายเซ็น
You'll never walk alone
ปล. วันอาทิตย์ที่ผ่านมาถ้าบักเจิด ไม่โดนแดงรับรองมันแน่ๆ เห็นบักเจิดลงดีใจที่ได้ 5555:'''''(

 

5555+ ในเวปนี้ ก็มีหลายแนว หลายความคิด คับก็สุดแล้วแต่ท่านจะคิดว่าอันไหนมันเหมาะสมสำหรับท่าน เราไม่มีสิทธิไปตัดสินว่าความคิดของแต่ละท่านสมาชิกนั้นๆจะผิดหรือถูก เวปนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคนคับ แต่ต้องขอบอกก่อนว่าถ้าจะคิดจะศึกษาในแนวของสมเด็จวัดหลักในเวปแล้วละก็ ต้องศึกษาข้อมูลเป็นต้นทุนมาก่อน หากมาแบบผ้าขาวมาละก้อมีสิทธิจะเป๋ ได้ง่ายๆคับ 5555+ แต่ถ้าถามผมละก็ ต้อง "พิมพ์ เนื้อหา อายุ" 3 อย่างนี้เท่านั้นคับ. และถ้าท่านยึดหลักนี้ คำว่า"ยุคต้น ยุคปลาย"ท่านจะค่อยลืมไปเลย การพิจารณาในเรื่องของสมเด็จคือ "simply the best" "สูงสุดคืนสู่สามัญ" ต้องพิจารณารอบด้านคับ อย่าไปมองว่าต้องมีอย่างงั้น อย่างงี้ ต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ มันเหมือนขีดขอบกั้นตัวเองจนเกินไป แต่ถ้าเราไปมองว่าทุกอย่างเป็นไปได้หมด นอกเหนือจากพิมพ์นี้ ก็ต้องมีพิมพ์นั้นอีก พิมพ์นั้นแยกออกไปเป็นร้อยเป็นพันพิมพ์ ทำไมต้องยึดติดเพียงไม่กี่พิมพ์ ในหนังสือ อันนี้ก็ต้องบอกว่า"กว้าง"เกินไป หาทางลงไม่ได้ สุดท้ายก็เพ้อเจ้อ ไปคุยกับฤาษีในป่าหรือไม่ก็กับฉลามในทะเลไป ขาดหางเสือหาฝั่งไม่เจอ 5555+

ค่อยๆศึกษาไปคับ มีอะไรก็คุยกันหนุกๆ ทุกท่านไม่เฉพาะในกระทู้นี้ ทั้งเวปนี้มีคนเก่งๆมากมาย หลากหลายด้าน พิจารณาเอาเองว่าใครเก่งด้านไหนบ้าง ซึ่งถ้าคิดว่าเป็นเรื่องสนุกแล้วเราจะเข้าใจและจำง่ายๆคับ 5555+

 

นี้หละ ความอัศจรรย์ ของพระสมเด็จ ครับ

 

ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ..

การดูพระสมเด็จ..ส่วนตัวก็พยามยามตีวงให้แคบที่สุด..คือดูพิมพ์ตามองค์ครูที่ยอมรับกันทั่วไป..ที่เห็น..แล้วก็ดูความเก่าของเนื้อพระธรรมชาติพระหรือรักที่ติดมาผิวพระแล้วประกอบอยู่ในองค์เดียว..ค่อยๆพิจารณากันไป

ส่วนเรื่อง..ยุคต้นยุคปลายอะไรนั้นอะผมไม่เคยคิดเลย..เพราะส่วนตัวผมแยกแย่ะไม่เป็น...ไม่รุ้จะแยกอย่างไร..แค่ดูเก้แท้ก็แย่แล้วมายุคต้นยุคปลายอีก.ผมว่าผมเหนื่อยคนับเอสแค่ที่พอจะเดาๆได้ก็พอส่วนอื่นก็ตัดทิ้งไป..เพราะสมเด็จท่านสร้างไปแจกไปไม่รุ้จำนวนไม่ได้บันทึกใว้ว่าส่วนไหนยุคต้นยุคปลายถ่ายรูปกำกับใวีชะที่ไหน..ไม่เหมือนจิตรลดา..ทีกำกับองค์พระปีที่สร้างใว้..แต่ก็ห้ามใครจะมองทางนั้นไม่ได้แบบท่านรักว่า

บางที่เราก็ต้องใช้หลักเหตุและผลประกอบบ้างนะครับ..อย่าเชื่อใครชะทั้งหมด..ลองพิจารณาหาข้อเท็จจิงเอาครับ..

ส่วนตัวผมเองเริ่มเบื่อๆแล้ว..เมียบ่น..เอาเวลาไปดูแลลูกเมียน่าจะดีกว่า..อิอิ