ติดตามสถานะการณ์

TETRAD สุริยุปราคาและจุดสิ้นสุดของโลกมาครั้งแรก 'เลือดดวงจันทร์'

กรุงโรม - "ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืดและดวงจันทร์เข้าสู่กระแสเลือดก่อนวันที่ดีและน่ากลัวของพระเจ้า."

ในคืนวันที่ 8 เมษายนที่เขาจะได้เห็นการเรืองแสงสีส้มส่องแสงที่ผิดปกติในท้องฟ้า
ที่จุดสว่างเป็นดาวอังคารซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 778 วันก็สอดคล้องกับโลกและดวงอาทิตย์ในสิ่งที่เรียกว่า "ความขัดแย้งของดาวเคราะห์."
กรณีที่หายากมันเป็นที่น่าสนใจนำอีกปรากฏการณ์จักรวาลมากที่รอคอยโดยนักดาราศาสตร์: tetrad
จาก 15 เมษายนต่อไปจะเริ่มต้นรอบสี่จันทรุปราคาที่ดวงจันทร์จะปรากฏสีแดง

จันทรุปราคาบางครั้งเรียกว่า "ดวงจันทร์เลือด" เพราะแสงที่ตีบนดวงจันทร์จะหักเหผ่านชั้นบรรยากาศของโลกโดยให้เป็นสีทองแดง (เป็นกลไกเดียวที่ทำให้พระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้นในเฉดสีสีแดง)
วงจรของจันทรุปราคานี้จะสิ้นสุด 28 กันยายน 2015
แต่สำหรับหลาย ๆ คนมาถึงของ tertrade จุดเริ่มต้นของคัมภีร์ของศาสนาคริสต์

ในฐานะที่เป็นฮิสทีเรียที่ล้อมรอบคำทำนายของชาวมายันที่ควรในปี 2012 และการมาถึงของดาวหาง ISON ปีที่ผ่านมาแม้ tetrad เป็นไปได้ยังสัญญาณอื่นที่สิ้นสุดของโลกอยู่ใกล้

หนังสือของโจเอลที่มีอยู่ในพระคัมภีร์ฮิบรู (Tanakh) และในพันธสัญญาเดิมของคริสเตียนเป็นคำทำนายเกี่ยวกับดวงจันทร์ของเลือดและการสิ้นสุดของโลก
"ดวงอาทิตย์จะกลายเป็นความมืดและดวงจันทร์เป็นเลือดก่อนการมาถึงของวันที่ดีและน่ากลัวของพระเจ้า"

นอกจากนี้ไม่กี่ครั้งเมื่อมันถูกนำเสนอในเวลาใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่สำคัญทางศาสนา

ใน 1493, การขับไล่ของชาวยิวโดยสอบสวน
ในปี 1949 ก็ avventua ทันทีหลังจากการก่อตั้งรัฐอิสราเอลและในปี 1967 ในช่วง "สงครามหกวัน" ระหว่างอาหรับและอิสราเอล

ดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของเลือด 15 เมษายน 2014 จะตกอยู่ในใจกลางของงานฉลองของเทศกาลปัสกา
ครั้งที่สองเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2014, เกิดขึ้นในระหว่างงานเลี้ยงของพระ
สามจะเป็น 4 เมษายน 2015 แม้ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์
ครั้งสุดท้ายที่ 28 กันยายน 2015 นอกจากนี้ในระหว่างงานเลี้ยงของพระ & nbsp.

ที่จริง Tetrad ไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่หายากดังนั้น
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุที่เราอาศัยอยู่ที่ดวงจันทร์ tetrad (สี่จันทรุปราคาทั้งหมดในแถวเว้นระยะหกเดือนจันทรคติ) สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยมากพอหรือทั้งหมด

ยกตัวอย่างเช่นในศตวรรษที่ 21 (2001-2100) มีทั้งหมด 8 tetrads แต่ในวันที่ 17, 18 และศตวรรษที่ 19 มีไม่มีเลย
ถ้าเรารวมถึงศตวรรษทั้งหมดจากศตวรรษแรก (AD 1-100) ในศตวรรษที่ 21 รวม (2001-2100) มีทั้งหมด 62 tetrads
ล่าสุดที่เกิดขึ้นในปี 2003-2004 และว่าหลังจากที่ 2014-2015 จะเกิดขึ้นใน 2032-2033

ถ้าเราต้องการที่จะทราบว่าหลาย tetrads เป็นพิเศษตรงกับงานเลี้ยงปัสกาและพระที่มี 8 เหล่านี้ในศตวรรษที่ 21 และไม่ทั้งหมดได้รับมาโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางศาสนา

เรื่องเต็ม: Tetrade, eclissi e fine del mondo: arriva la prima 'Luna di Sangue' | DIREGIOVANI.it
- See more at: Tetrad สุริยุปราคาและจุดสิ้นสุดของโลกมาครั้งแรก 'เลือดดวงจันทร์'

Tetrad สุริยุปราคาและจุดสิ้นสุดของโลกมาครั้งแรก 'เลือดดวงจันทร์'

 

Pst Nong ผ่าน เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก



ทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษเผยกับสื่ออังกฤษชื่อดังระบุว่า รัฐบาลเปียงยางมีขีดความสามารถที่จะยิงขีปนาวุธได้ทุกเวลาหากถูกโจมตีเมื่อไหร่ก็ตาม
วันนี้(21มี.ค.) เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ "สกาย นิวส์" ของอังกฤษ ระบุว่า เกาหลีเหนือมีขีดความสามารถที่จะยิงขีปนาวุธได้ทุกเวลาหากถูกโจมตี
สำหรับนายฮยุน ฮัค-บอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษได้กล่าวว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางมีขีดความสามารถที่จะยิงขีปนาวุธได้ทุกเมื่อหากถูกโจมตี โดยชี้ว่าไม่ได้มีแต่สหรัฐเท่านั้นที่สามารถผูกขาดการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ได้ยืนยันว่าเกาหลีเหนือมีการเตรียมพร้อมสงครามการสู้รบและหากเกิดการโจมตีบนคาบสมุทรเกาหลีก็อาจนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์

 

Pst Nong ผ่าน Voice TV

รายงานประจำปีด้านการพัฒนาน้ำระดับโลกของสหประชาชาติระบุว่า หากทั่วโลกยังไม่ร่วมมือกันอย่างจริงจังในการบริหารจัดการน้ำที่เป็นระบบ เพื่อการใช้งานอย่างยั่งยืน ภายในปี 2030 ประชากรโลกกว่าร้อยละ 40 อาจจะเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนน้ำ
สหประชาชาติเปิดเผยรายงานประจำปีด้านการพัฒนาน้ำระดับโลก ซึ่งเนื้อหาหลักของรายงานประจำปีนี้ ระบุว่า หากยังไม่มีการปฏิรูประบบบริหารจัดการน้ำ ในอนาคต โลกจะเผชิญกับความแห้งแล้ง ซึ่งภายในปี 2030 ประชากรโลกกว่าร้อยละ 40 จะพบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำ
ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบัน ปริมาณน้ำที่ใช้อยู่บนโลก จะเพียงพอกับความต้องการของประชากรส่วนใหญ่ แต่สิ่งที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่งก็คือ น้ำที่ใช้อยู่เหล่านี้ ขาดการบริหารจัดการที่ดี โดยรัฐบาลทั่วโลก ควรร่วมมือกันอย่างเร่งด่วน ในการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการใช้งานอย่างยั่งยืน
อีกปัจจัยหนึ่งที่เป็นตัวเร่งให้ปัญหาการขาดแคลนน้ำตกอยู่ในภาวะวิกฤตในอนาคต ก็คือจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันประชากรโลกมีทั้งหมดประมาณ 7,300 ล้านคน และเพิ่มขึ้นกว่า 80 ล้านคนต่อปี ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ภายในปี 2050 ประชากรโลกจะเพิ่มเป็น 9,100 ล้านคน
โดยภาคการเกษตร ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใช้น้ำมากที่สุดกว่าร้อยละ 70 ของปริมาณการใช้น้ำทั่วโลก จะต้องปรับตัวอย่างหนัก เพื่อลดการใช้น้ำลงให้เหลือร้อยละ 60 ให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนน้ำ
นอกจากนี้ ในรายงานดังกล่าวยังมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2050 ความต้องการใช้น้ำทั่วโลกจะเพิ่มเป็นร้อยละ 55 เพื่อตอบสนองกับการขยายความเจริญไปสู่ชนบท ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ในหลายเมืองใหญ่ จะมีการขุดหาแหล่งน้ำใต้ดินกันมากขึ้น หรือมิเช่นนั้น ก็คงมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ เพื่อให้ปริมาณน้ำเพียงพอกับความต้องการของประชาชนมากที่สุด
ในรายงานฉบับนี้ ยังกล่าวถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับน้ำอีกหลายประเด็น ตั้งแต่เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ไปจนถึงการปนเปื้อนของน้ำ โดยเฉพาะจากแหล่งน้ำใต้ดิน ที่ถูกสูบขึ้นมาใช้เพื่อการบริโภค ซึ่งพบว่า กว่าร้อยละ 20 ของน้ำจากใต้ดินที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกนั้น มีสารปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ด้วย

<iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=182181" ></iframe>

ปี 2030 ปชก.โลก 40% จะเผชิญวิกฤตขาดน้ำ - VoiceTV

 

ปอกเปลือก ทรราช



ปธน.เอกวาดอร์ โวยซีไอเอมีเอี่ยวการประท้วงที่พรรคฝ่ายค้านจัดขึ้นในประเทศ
--------------
ได้ยินชื่อประเทศนี้ทีไรก็อดยิ้มไม่ได้ซักกะที ภาษาอังกฤษเขาเขียนอย่างนี้ครับ "Ecuador" บางคนก็มักจะออกเสียงเป็น "เอกัวดอร์" (จะกลัวทำไมอ่ะ? ฮ่าๆๆ พูดเล่นนะครับ) เข้าเรื่องดีกว่า เมื่อวันก่อนลงข่าวว่ากลุ่มประเทศลาตินอเมริกา 11 ประเทศแท็กทีมกันฉะสหรัฐฯกรณีจัดให้เวเนซูเอล่าเป็นภัยคุกคามของสหรัฐฯ วันนี้ (22 มี.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียลงข่าวอีกว่า ปธน. Rafael Correa ผู้นำของประเทศเอกวาดอร์ได้ออกมาแฉต่อสื่อฯว่าซีไอเอของสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังการจัดชุมนุมประท้วงใน 10 แห่งทั่วประเทศรวมทั้งที่เมือง Quito ซึ่งเป็นเมืองหลวงด้วยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาซึ่งนำโดยพรรคฝ่ายค้านของเอกวาดอร์ โดยหวังจะโค่นรัฐบาลปัจจุบันให้ได้
ตามประวัติศาสตร์นั้น เมื่อปี 1963 รายงานข่าวบอกว่า ซีไอเอก็อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาลในเอกวาดอร์มาแล้วหนหนึ่ง และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รมว.ต่างประเทศของเอกวาดอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว sputniknews ของรัสเซียว่า สหรัฐฯเป็นภัยคุกคามต่อกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา โดยทางกรุงวอร์ชิงตันมีประเพณีอันยาวนานในการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นๆ (มาโดยตลอด-ผู้เขียน)
เนื่องจากใกล้จะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในเอกวาดอร์แล้ว และกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาก็สามัคคีไม่ปลื้มพฤติกรรมของสหรัฐฯเอามากๆ กลัวว่าสหรัฐฯจะมาทำให้ประเทศของพวกตนกลายเป็นอย่างเวเนซูเอล่าหรือแม้กระทั่งยูเครน จึงได้รวมตัวกันต่อต้านสหรัฐฯ ในทางการเมืองนั้นสหรัฐฯก็พยายามทุกช่องทางในการที่จะทำลายความสามัคคีของกลุ่มประเทศเหล่านี้ให้ได้ จึงปลุกม็อบฝ่ายค้านให้ออกมาประท้วงในหลายสิบเมืองซะเลย เพื่อให้ดูสมเหตุสมผลว่าเป็นเรื่องการเมืองภายในที่ใกล้จะถึงฤดูการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในเร็วๆนี้ ถ้ามองเป็นเกมการเมืองก็อาจจะมองได้ว่าฝ่ายรัฐบาลใช้โอกาสที่ชาวลาตินอเมริกากำลังไม่ปลื้มสหรัฐฯนี่แหละมาเล่นงานพรรคฝ่ายค้านว่าสมคบคิดกับสหรัฐฯเพื่อทำลายรัฐบาลและประเทศเอกวาดอร์ซะเลย เกมการเมืองนี่มันเผลอไม่ได้จริงๆเลยอ่ะ
The Eyes
22/03/2558
-----------
Ecuador’s President Accuses CIA of Involvement in Opposition Protests / Sputnik International
EXCLUSIVE: If There’s a Threat On This Continent, It’s the US - Ecuador FM / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียจะพิจารณานำเข้าอาหารจากประเทศที่คัดค้านการแซงชั่นรัสเซียในอียูเป็นอันดับแรก เงินรูเบิลเริ่มแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ



------------
ลองย้อนกลับไปดูในเพจว่าตัวเองโพสต์อะไรไปบ้างในรอบ 2-3 มานี้ โอ้!… มีแต่เรื่องแรงๆเกี่ยวกับอาวุธและสงครามเป็นส่วนมากทั้งนั้นเลย งั้นหันมาดูเรื่องเกมทางเศรษฐของรัสเซียดูบ้างครับ การสู้กันระหว่างรัสเซีย-สหรัฐฯ-ยุโรป นี่เขาสู้กันทุกด้านจริงๆนะครับ ทั้งอาวุธ การเมือง พลังงาน การเงิน เศรษฐกิจ คอเกมการเมืองระหว่างประเทศก็ต้องเอาให้ครบชุดสิถึงจะอ่านเกมเขาออก แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร? เอ๋า... อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ และมีตัวอย่างให้เห็นจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน และเราก็จะได้คิดหาทางป้องกันหรือแก้ไขในอนาคตได้ไง
เริ่มต้นที่ข่าวแรกเลยนะ... ฝ่ายสังเกตการณ์ (watchdog) ด้านการเกษตรของรัสเซียได้ออกมาแถลงกับสื่อฯว่า จะเริ่มเข้าไปตรวจสอบผลิตผล/สินค้าทางการเกษตรในกรีซ ไซปรัส และฮังการีในวันที่ 6 เมษายนนี้ โดยจะให้สามประเทศนี้ได้รับสิทธิ์ในการส่งออกสินค้าทางการเกษตรมาที่รัสเซียเป็นอันดับแรกหลังจากที่รัสเซียยกเลิกมาตรการสั่งห้ามนำเข้าสินค้าเหล่านั้นจากกลุ่มประเทศอียูแล้ว
นาย Aleksey Alekseyenko ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบสินค้าการเกษตรต่างประเทศของรัสเซียกล่าวตอนหนึ่งว่า "พวกเรา (รัสเซีย) พร้อมที่จะทำการตรวจสอบผู้ประกอบการทุกเจ้าที่มีความสนใจในการกลับมาส่งออกสินค้าหลังจากที่การห้ามนำเข้าได้รับการยกเลิกแล้ว โดยจะพิจารณาสินค้าในกลุ่มประเภทปศุสัตว์ทั้งหมดและในกลุ่มพืชผลทางการเกษตรเป็นอันดับแรก เรากำลังรอทำข้อตกลงกับเพื่อนๆในขั้นตอนเกี่ยวกับสหภาพกงศุล" (ตามรายงานของ RIA Novosti ซึ่งเป็นสำนักข่าวภาคภาษรัสเซีย เจ้าเดียวกันกับ sputniknews ที่เป็นภาคภาษาอังกฤษ)
รายงานข่าวบอกว่าการตรวจสอบนี้จะเป็นไปภายใต้กฎใหม่ของสหภาพยูเรเซีย และจะรวมถึงผู้ประกอบการรายใหม่ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบก่อนหน้านี้ ในขณะเดียวกันทางด้านโปแลนด์ เยอรมัน ฝรั่งเศส ก็แสดงความจำนงค์ว่าอยากจะให้ทางรัสเซียไปตรวจสอบสินค้าและผู้ประกอบการของพวกเขาด้วย แต่ผู้ตรวจสอบของรัสเซียบอกว่า เฮ้อ… ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ไปตรวจสอบขาใหญ่ที่สนับสนุนให้แซงชั่นรัสเซียหรอกนะ รอพี่ปูตินอารมณ์ดีก่อนละกัน ช่วงนี้ขอช่วยเหลือน้องๆในอียูที่เป็นโปรรัสเซียก่อน เพราะประเทศเหล่านี้ อันที่จริงตอนนี้มี 7 ประเทศที่คัดค้านการแซงชั่นรัสเซีย ดังนั้นรัสเซียก็ต้องให้ความสำคัญกับประเทศเหล่านี้ก่อนอยู่แล้ว
ถ้าโควต้าเหลือจาก 7 ประเทศเหล่านี้เมื่อไร ขาใหญ่อย่างโปแลนด์และเยอรมันนีที่ยกมือให้แซงชั่นรัสเซียค่อยมาคุยกันอีกรอบนะ ส่วนฝรั่งเศสนั้นเรื่องเรือบรรทุกเครื่องบิน Mistral ก็ยังไม่จบนะ ตกลงเรื่องการส่งมอบเรือรบให้รัสเซียได้แล้วค่อยมาคุยกันจะดีกว่าไหม พอรัสเซียพูดแบบนี้ ทั้งกรีซ ไซปรัส และฮังการีก็ยิ้มสิครับ โปแลนด์เหรอ? ปล่อยให้ชาวบ้านขับรถไถไปปิดถนนในเมืองหลวงต่อไป ส่วนนักการเมืองของโปแลนด์ก็ออกมารณรงค์กินแอปเปิลตัวเองภายในประเทศเนื่องจากไม่สามารถส่งออกมาที่รัสเซียได้ว่า "กินแอปเปิลระบายความแค้นรัสเซีย" กันต่อไปเถอะ
คราวนี้มาดูเรื่องการเงินของรัสเซียต่ออีกซักหน่อยนะครับ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสื่อฯรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รูเบิลแข็ง : ต่อจากนี้ไปสกุลเงินของรัสเซียจะไม่ทำปฏิกิริยากับราคาน้ำมันและหนี้ต่างประเทศอีกแล้ว" โย่! ทำได้ไงอ่ะ? สหรัฐฯและอียูทุ่มสุดตัวเพื่อที่จะฆ่ารูเบิลของรัสเซียให้ได้ หมายมั่นปั้นมือเอาไว้ว่างานนี้จะต้องถล่มค่าเงินรูเบิลของรัสเซียให้กลายเป็นกระดาษชำระให้ได้ เศรษฐกิจของรัสเซียจะต้องพังแน่ๆ ประเทศรัสเซียจะต้องล่มสลายอีกรอบเหมือนกับสหภาพโซเวียตในอดีต มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกมั๊ง ยุคนี้ยุคปูตินนะครับ (หมายถึงที่รัสเซียนะ)
ช่วงปี 2014 หนักมากๆเลยสำหรับรัสเซีย แต่พอเข้าสู่ปี 2015 มาปรากฏว่าค่าเงินรูเบิลของรัสเซียเริ่มปรับตัวได้ ค่อยๆแข็งค่าขึ้นมาเรื่อยๆ อัตราเงินเฟ้อในประเทศค่อยๆลดลง ค่อยๆหายไปกับหน้าหนาว เหมือนหิมะในปลายฤดูหนาวย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิที่ค่อยๆละลายไปอย่างนั้นเลย
รมว.คลังของรัสเซียกล่าวว่าตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมาเงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นมา 13% และได้พบจุดสมดุลใหม่ที่ไม่ต้องแกว่งตามราคาน้ำมันหรือการชำระหนี้ต่างประเทศอีกต่อไป
"เมื่อไม่กี่วันมานี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดิ่งลงอีกครั้ง (พึ่งค่อยๆไต่ระดับขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดีนี้เอง) แต่ปรากฏว่าอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย นั่นหมายความว่าอย่างไร? นั่นก็คือว่า อัตราแลกเปลี่ยนได้พบจุดใหม่ภายใต้เงื่อนไขใหม่ของการปรับราคาน้ำมันครั้งใหม่ (และ) ความสมดุลใหม่ของการชำระเงิน" รมว.คลังกล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของรัสเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
เจอแบบนี้เข้าไปกลุ่มประเทศที่ต้องการจะแซงชั่นรัสเซียนำโดยสหรัฐฯ ก็เซ็งสุดๆสิครับ เพราะเมื่อสหรัฐฯและอียูแซงชั่นรัสเซียได้ แล้วทำไมรัสเซียจะแซงชั่นสหรัฐฯกับอียูคืนเพื่อเป็นการตอบโต้บ้างไม่ได้หละ ก็ดาบสองคมอ่ะ และตอนนี้ก็ปรากฎว่ารัสเซียเริ่มปรับตัวได้แล้วด้วย คนที่จะเจ็บก็คืออียูรายใหญ่ๆนั่นแหละ
The Eyes
22/03/2558
--------------
Greece, Cyprus, Hungary Get Priority When Russia Lifts Agricultural Embargo / Sputnik International
Ruble Strong: Russian Currency No Longer Reacts to Oil Prices, Foreign Debt / Sputnik International
Russian Ruble | 1993-2015 | Data | Chart | Calendar | Forecast | News

 

ปอกเปลือก ทรราช
กองทัพยูเครนระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำ Seversky Donets ตัดขาดการเชื่อมต่อลูฮานส์กกับยูเครน



------------
ผู้ช่วยรมต.กระทรวงมหาดไทยของยูเครนออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง (Sviatohirsk Seversky Donets River Bridge) ในเมือง Stanitsa ที่อยู่ในแคว้นลูฮานส์กในเขตปกครองของ LPR นั้นเป็นฝีมือของกองกำลังยูเครนเอง โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย (LPR) ใช้สะพานดังกล่าวข้ามมาโจมตีกองทัพของยูเครนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำได้เมื่อวันที่ 19 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพูดผ่านโทรทัศน์ช่อง 5 Channel TV ในยูเครน สะพานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสองแห่งที่เหลือซึ่งเชื่อมต่อ LPR เข้ากับยูเครน เมื่อถูกทำลายไปแล้วก็จะเหลือเพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ฝ่ายผู้นำกลุ่ม LPR แถลงผ่านสื่อเมื่อวานนี้ว่าจะไม่หลงกลยั่วยุให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้ทางกรุงเคียฟเพื่อให้กรุงเคียฟใช้เป็นข้ออ้างว่าฝ่าย LPR เป็นผู้ละเมิดข้อตกลงสันติภาพกรุงมินส์กก่อนเด็ดขาด เย็นไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเอาคืนทีหลังก็ยังไม่สาย ตอนนี้ต้องทำให้รัสเซียถูกยกเลิกแซงชั่นให้ได้ก่อน จะเศรษฐกิจจะได้ดีขึ้นและจะได้มีทุนมาสนับสนุนด้านนี้ จากนั้นค่อยสั่งสอนกลับด้วยมาตรการอื่นก็ได้
พฤติกรรมของทหารฝั่งยูเครนก็คือทำลายถาวรวัตถุทุกอย่างที่อยู่ในยูเครนตะวันออกเมื่อมีโอกาส เหมือนกับว่าแผนดินตรงนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของยูเครนอย่างนั้นแหละ หลงเชื่อสหรัฐฯกับอียูที่ปลูกฝังความเกลียดชังต่อรัสเซียหรือฝ่ายที่นิยมรัสเซียแม้จะเป็นชาวยูเครนด้วยกัน ทั้งๆที่รัสเซียกับยูเครนก็เป็นบ้านพี่เมืองน้องกันมาก่อน แม้จะแยกตัวออกมาจากรัสเซียหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายแล้ว ก็ยังคบค้าสมาคมไปมาหาสู่กันโดยราบรื่น มีโครงการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี อวกาศ อาวุธ และวิทยาศาสตร์ร่วมกันอยู่มากมาย ก็ไม่เห็นว่ารัสเซียจะเอารัดเอาเปรียบตรงไหน
แต่พอมีอียูที่อยากจะขยายอำนาจของตัวเองแข่งกับอเมริกาและต้องการจะเข้ามาหากินในยูเครน โดยหาชาติสมาชิกใหม่มาร่วมกับอียูเพิ่มขึ้น แล้วก็ปลุกกระแสนิยมคลั่งอียูขึ้นมา เรียกร้องจะร่วมเป็นสมาชิกของอียูให้เกิดขึ้นในคนรุ่นใหม่ พอฝั่งรัสเซียไม่เห็นด้วยรวมทั้งอดีตปธน.คนก่อนก็ไม่ผ่านกฎหมายดังกล่าว ก็พากันก่อการณ์เผาบ้านเผาเมืองตัวเองเพราะคลั่งอียู แล้วก็ถูกปลุกปั่นให้หันมาเกลียดรัสเซียซะงั้น ทั้งๆที่เมื่อเปรียบเทียบส่วนได้ส่วนเสียระหว่างที่ได้จากรัสเซียกับอียูมาตั้งแต่อดีตแล้ว ยูเครนได้รับผลประโยชน์จากรัสเซียมากกว่าฝั่งอียูหลายเท่านัก
พอขับไล่ปธน.คนก่อนออกไปได้แล้ว มีรัฐบาลใหม่โดยมีสหรัฐฯเป็นผู้ตั้งให้ สิ่งที่อียูกับสหรัฐฯนำมาให้ชาวยูเครนก็คือหนี้สินก้อนโตจาก IMF และสงครามกลางเมืองของตัวเอง แล้วกองทัพของยูเครนก็ยังเข่นฆ่าประชาชนของตัวเองที่อยู่ในยูเครนตะวันออกไปตั้ง 5,000 - 6,000 คนเพียงเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการเข้าเป็นสมาชิกอียูและเขาขอแยกตัวออกมาปกครองตัวเองต่างหาก หากรัฐบาลกลางของยูเครนยังยืนยันจะเป็นสมาชิกของอียูให้ได้
ตอนนี้พวกคนรุ่นใหม่ที่เมื่อปีที่แล้วได้ออกมาประท้วงเรียกร้องที่ไมดานต้องการให้รวมยูเครนเข้ากับอียูในสมัยก่อนนั้น พอถูกรัฐบาลยูเครนสั่งเกณฑ์ทหารเพื่อไปสู่สงครามในยูเครนตะวันออก กลับพากันหนีออกนอกประเทศไปอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบซะงั้น เหลือทิ้งไว้แต่พวกผู้หญิงกับเด็กผู้ชายที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทหาร ส่วนพวกที่ยังอยู่ก็เป็นพวกทหารรับจ้างสังกัดกองกำลังอิสระ เป็นพวกหัวรุนแรง ไม่ขึ้นตรงต่อกองทัพของยูเครน มีความสุขกับการทำลายถาวรวัตถุในยูเครนตะวันออก (ดูในคลิปได้จากลิงค์ข้างล่างที่แนบมาให้นะครับ)
The Eyes
21/03/2558
--------------
TASS: World - Ukraine's Luhansk republic says it won't give in to Kiev’s provocations
TASS: World - Kiev forces claim responsibility for blowing up bridge on disengagement line with LPR
https://www.youtube.com/watch?v=X67QGARC980

 

ปอกเปลือก ทรราช

ลอนดอนกำลังส่งสัญญาณบางอย่างไปถึงสหรัฐฯและอียู



------------
ในวันเสาร์ที่21 มี.ค.58 นี้ถือว่าเป็น "วันขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติของสหประชาชาติ" (UN International Day for Elimination of Racial Discrimination) ที่กรุงลอนดอนจะมีการจัดเดินขบวนประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวและต่อต้านลัทธินาซีฟาสซิสม์ โดยผู้ประท้วงหลายพันคนจากหลายประเทศจะรวมตัวกันที่หน้าอาคารของสถานีโทรทัศน์ BBC ใน Portand Place จากนั้นก็จะเดินขบวนไปที่จตุรัส Trafalgar
ปีที่แล้วมีผู้มาร่วมเดินขบวนต่อต้านพวกฟาสซิสม์ (นาซี) ประมาณหมื่นกว่าคน การเดินขบวนในครั้งนี้เกิดจากกระแสการเหยียดผิวที่มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐอเมริกาที่ชูประเด็น "Black Lives Matter" (ชีวิตคนผิวดำก็สำคัญ) อันเนื่องมาจากตำรวจผิวขาววิสามัญคนผิวสีที่ไม่มีอาวุธในอเมริกาหลายครั้งในปีที่ผ่านมาจนถึงต้นปีนี้จนก่อให้เกิดเหตุการประท้วงก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมืองที่เฟอร์กูสันมาแล้ว
นอกจากนี้แล้วยังมีกรณีปลุกผีนีโอนาซี ฟาสซิสม์ และการรังเกียจคนต่างศาสนา รวมถึงการสร้างความเกลียดชังทางศาสนาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรปหลายแห่งในช่วงนี้ด้วย ที่หนักสุดก็คือที่ยูเครนที่มีพวกนีโอนาซีสุดโต่งอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง
ต่อกรณีของนาซีในกลุ่มประเทศบอลติกและในยูเครนนั้นทั้งสหรัฐฯและกลุ่มประเทศมหาอำนาจในอียูไม่กล้าที่จะพูดถึงหรือตำหนิการกระทำของกลุ่มเหล่านั้นเลย มันก็พิลึกอยู่เหมือนกัน หรือว่าเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนพวกฟาสซิสและการเหยียดผิว ทางอังกฤษก็เล่นสองบทซะเลย โดยในตอนแรกก็สนับสนุนยูเครนตามสหรัฐฯ คราวนี้ก็ออกมาชิงความได้เปรียบในตอนนี้ซะก่อนโดยการประท้วงการเหยียดผิวและต่อต้านนาซีด้วย แผนนี้อาจจะทำให้อังกฤษลอดพ้นจากคำครหาว่าสนับสนุนการเหยียดผิวและนาซีได้ ปล่อยให้อเมริกากับบางประเทศในอียูรับคำตำหนินั้นไปก็แล้วกัน
The Eyes
21/03/2558
--------------
London to Host National Demonstration Against Racism, Fascism / Sputnik International

 

“เมียวดี” ขาดน้ำมันอย่างหนัก ผู้ว่าฯ ตากเร่งเคลียร์ส่งออก หลัง ปนม.กักไว้กว่า 2 ล้านลิตร โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2558 09:44 น. (แก้ไขล่าสุด 22 มีนาคม 2558 11:31 น.)











ตาก - น้ำมันเชื้อเพลิงตกค้างชายแดนแม่สอดร่วม 2 ล้านลิตร หลัง ปนม.ตรวจสอบ ขณะที่เมียวดีเจอปัญหาขาดแคลนหนัก ราคาพุ่งจากปกติไม่ต่ำกว่าลิตรละ 10 บาท จนคนพม่าแห่นำรถยนต์ข้ามฝั่งมาเติมในไทย ขณะที่พ่อเมืองตากทำหนังสือหารือกรมธุรกิจพลังงาน ขอผ่อนผันขนส่งน้ำมันแบบเดิมชั่วคราว คาดพรุ่งนี้ (23 มี.ค.)ได้คำตอบ

วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่ฝั่งเมียวดี ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งดีเซล เบนซิน มีเพียงปั้มเล็กๆไม่กี่แห่งที่ยังพอมีขาย แต่ราคาแพงจากปกติไม่ต่ำกว่าลิตรละ 10 บาทขึ้นไป ทำให้ชาวพม่าพากันนำรถเก๋งและรถบรรทุกขนาดเล็กข้ามฝั่งมาเติมน้ำมันในฝั่งไทยกันเป็นจำนวนมาก

สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ ปนม. ได้เข้าตรวจสอบ-สกัดรถบรรทุกที่ขนน้ำมันส่งออกทางชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด ไปยัง จ.เมียวดี บริเวณท่าเรือริมน้ำเมย ท่าที่ 10 บ้านท่าอาจ หมู่ 3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด กว่า 20 คัน และท่าอื่นที่กำลังจะถ่ายน้ำมันลงท่อ ส่งข้ามแม่น้ำเมยไปเมียวดี รวมกว่า 40 คัน ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นการส่งออกผิดช่องทาง ทั้งที่มีการปฏิบัติกันมานาน เนื่องจากสะพานมิตรภาพไทย-พม่าไม่สามารถรองรับน้ำหนักรถถบรรทุกขนาดใหญ่ได้

ที่ผ่านมาการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งเบนซิน-ดีเซลไปยัง จ.เมียวดี วันละ 600,000-800,000 ลิตร รถส่วนใหญ่จะเป็นรถบรรทุกพ่วง แต่ละคันบรรทุกน้ำมันประมาณ 45,000 ลิตร ขณะนี้มีรถน้ำมันถูกกักกันที่ชายแดนกว่า 40 คัน น้ำมันกว่า 2 ล้านลิตร

ขณะที่นักธุรกิจ พ่อค้า ผู้ประกอบการได้ทำหนังสือถึงนายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เพื่อขอให้หาทางออกในเรื่องดังกล่าวซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้ทำหนังสือหารือกรมธุรกิจพลังงานเพื่อขอผ่อนผันการขนส่งน้ำมันแบบเดิมชั่วคราวไปก่อนเพราะขณะนี้ผลกระทบในวงกว้างทำให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลง และอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่จะมาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ล่าสุดนายสมชัยฐ์ ละผู้บริหารเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก (แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด) ได้ประสานกับนายอูหล่วย กั่วอู ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี เป็นการส่วนตัว เพื่อเจรจาปรับความเข้าใจร่วมกันว่า วันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) ทุกอย่างน่าจะชัดเจนขึ้น อาจจะมีการให้ระบายสินค้าน้ำมันออกไป เพื่อลดผลกระทบ จากนั้นให้เริ่มต้นดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องชัดเจน และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนตามแนวชายแดน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก ตามนโยบายของรัฐบาลด้วย

 

ขาดแคลนหนัก ชาวพม่าแห่เติมน้ำมันฝั่งไทย
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 มี.ค. 2558 14:28



จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ เริ่มขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ชาวพม่าแห่ขับรถข้ามฝั่งเข้ามาไทยเพื่อเติมน้ำมัน ด้าน ผวจ.ตาก ทำหนังสือหารือกรมธุรกิจพลังงาน ขอผ่อนผันขนส่งน้ำมันแบบเดิมชั่วคราว เนื่องจากเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ...

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่หน่วยงานปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ ปนม. ได้เข้าตรวจสอบการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังประเทศเมียนมาร์ ทาง อ.แม่สอด จ.ตาก และมีการสกัดรถบรรทุกน้ำมันที่บริเวณท่าเรือ ท่าที่ 10 บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด และท่าอื่นๆ ที่กำลังจะถ่ายน้ำมันลงท่อ เพื่อส่งข้ามแม่น้ำเมยไปยังจังหวัดเมียวดี จำนวนกว่า 40 คัน โดยเหตุการณ์ผ่านมากว่า 1 อาทิตย์ ส่งผลให้ขณะนี้ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ เริ่มขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะพื้นที่ด้านนี้ต้องอาศัยน้ำมันจากประเทศไทยทั้งสิ้น

สินค้าถูกส่งจากฝั่งไทยไปกองอยู่ตามท่าเรือฝั่งเมียวดี แต่รถขาดแคลนน้ำมันไม่มารับสินค้าส่งเข้าเมืองชั้นใน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณชายแดน ด้านบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด มีรถจากจังหวัดเมียวดีเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ เข้ามาใน อ.แม่สอด มากกว่าปกติ โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถเก๋งและรถบรรทุกขนาดเล็ก เพื่อเข้ามาเติมน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะฝั่งเมียวดีน้ำมันแทบไม่มีจำหน่าย หรือราคาแพงเกือบเท่าตัว

ในขณะที่ทางการเมียนมาร์ ด้านเมียวดี ได้ทำหนังสือประท้วงมายังฝั่งไทย เกี่ยวกับการระงับส่งน้ำมันไปเมียวดี ทำให้การค้าชายแดนชะงัก อาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีปัญหาได้ หลังนายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้โทรศัพท์สื่อสารกับ นายอูหล่วย กั่วอู ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี เป็นการส่วนตัว พร้อมเจรจาปรับความเข้าใจร่วมกันว่า ในวันจันทร์ทุกอย่างจะชัดเจนขึ้น ขอให้ใจเย็นไว้ก่อน

นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผู้ว่าฯ ตาก ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ขอผ่อนผันมาตรการเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนฝั่งเมียวดี
ขณะเดียวกัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้ทำหนังสือหารือร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อขอผ่อนผันการขนส่งน้ำมันแบบเดิมชั่วคราวไปพลางก่อน เพราะขณะนี้ผลกระทบในวงกว้าง ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนลดลง และอาจส่งผลร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตลอดทั้งยังส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ที่จะมาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในฝั่งเมียวดีขาดแคลนน้ำมันในการขนส่งสินค้า จากแนวชายแดนเข้าไปสู่ภายในสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนตามแนวชายแดน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อำเภอแม่สอด ที่เปิดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล จังหวัดตากจึงใคร่ขอความอนุเคราะห์แนวทางปฏิบัติชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการทั้งหมดที่รถขนส่งน้ำมันกว่า 40 คัน ยังตกค้างอยู่ตามแนวชายแดนเพราะส่งน้ำมันไม่ได้

อย่างไรก็ตาม บรรยายกาศการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบัน ทั้งเบนซินและดีเซล ไปยังจังหวัดเมียวดี ในแต่ละวัน จะมีการส่งออกประมาณ 6-8 แสนลิตร โดยรถส่วนใหญ่จะเป็นรถพ่วง แต่ละคันจะบรรทุกน้ำมัน ประมาณ 4.5 หมื่นลิตร ขณะนี้มีรถน้ำมันถูกกักกันที่ชายแดน จำนวนกว่า 40 รถพ่วง เฉลี่ยมีน้ำมันประมาณกว่า 2 ล้านลิตร

ขาดแคลนหนัก ชาวพม่าแห่เติมน้ำมันฝั่งไทย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Chalee Na Roied ผ่าน Occupy Wall St.



ตอนนี้ทั้งเวเนซุเอลา โบลิเวีย ต่างเตรียมพร้อมสำหรับ สงครามแล้วนะครับ ถ้าสหรัฐสนับสนุนนาโต ในยุโรปตะวันออก รัสเซียก็จะสนับสนุนอาวุธ ให้กับละตินอเมริกา ในการรับมือการบุกของสหรัฐ

Bolivia Ready for War with US - Banoosh

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 มี.ค.58 มะกัน และ UN คือ จอมเสี้ยมแห่งโลก
รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ , จีน และญี่ปุ่น ประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก ในรอบเกือบ 3 ปี ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นความพยายามที่จะสยบความตึงเครียดในภูมิภาค ซึ่งเกิดจากปัญหาการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดน และข้อพิพาทประวัติศาสตร์ ให้กลับมาสงบอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เคยมีการประชุมทวิภาคีกันหลายครั้ง ซึ่งรวมทั้งการหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง 3 ชาตินี้ จนในที่สุดรัฐมนตรีต่างประเทศของ 3 ชาติก็มีโอกาสนั่งโต๊ะเจรจากันอย่างเป็นทางการครั้งแรกตั้งแต่เดือนเม.ย.2555
แม้ว่าบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน ในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือมีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่แนบแน่นแต่ความสัมพันธ์โดยรวมกลับสั่นคลอนจากปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่ ซึ่งย้อนกลับไปตั้งแต่ปัญหาการยึดครองคาบสมุทรเกาหลี และพื้นที่บางส่วนในจีนของญี่ปุ่นทั้งก่อน และระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
ความเกลียดชังที่ยืดเยื้ออยู่นี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหาพิพาทเรื่องอธิปไตยเหนือดินแดนหมู่เกาะหลายแห่ง ทำให้จีนและเกาหลีใต้ ห่างเหินจากญี่ปุ่น ในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศสำคัญนี้ในเอเชียที่มีขนาดของเศรษฐกิจรวมกันคิดเป็นประมาณร้อยละ 20 ของ GDP โลก
นายบันคีมูน เลขาธิการ UN ระบุว่าการขาดความปรองดองของทั้ง 3 ประเทศนี้ทำให้ขาดตอนสำหรับการสร้างสันติภาพ และเสถียรภาพในเอเชียตะวันออก ในขณะที่สหรัฐ ต้องรับผิดชอบด้านยุทธศาสตร์ ที่เกิดจากความบาดหมางระหว่างเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น
ที่เป็นประเทศพันธมิตรทางทหารที่สำคัญในเอเชีย และต้องการให้ทั้ง 2 ประเทศเป็นแนวหน้าที่มีความเป็นปึกแผ่นเพื่อต่อต้านจีนที่แผ่อิทธิพลมากขึ้น...ขณะเดียวกันนายฮุน ฮัค บองเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอังกฤษออกมากล่าวว่าเกาหลีเหนือประจำการขีปนาวุธนิวเคลียร์และพร้อมที่จะใช้ทุกเวลา รัฐบาลจะใช้ขีปนาวุธในการตอบโต้การโจมตีด้วยนิวเคลียร์จากสหรัฐ
------------------------------>
สรุป อเมริกา กับ UN ก็ยังเป็นตัวสอดแทรก ขัดขวาง 3 ประเทศเอเซียนี้รวมกันติด เพื่อต่อต้านจีนไม่ให้แผ่อิทธิพลเกินหน้าตนเอง โดยการยุแหย่ญี่ปุ่น กับเกาหลีใต้ทั้ง 2 ฝาก ให้หวาดระแวงกัน และอเมริกา ยังใช้ประโยชน์จากความหวาดระแวงของเกาหลีเหนืออีกด้วย..เสี้ยมให้แตกแยกเข้าไว้ คือ งานของมะกัน และ UN
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Thanong Fanclub



21. ยุคสุดท้าย (End Time)
นักรบISISหัวรุนแรงที่มีอุดมการณ์ต้องการสร้างรัฐอิสลามขึ้นของจริงหรือสิ่งเทียม? จะเป็นของจริงหรือสิ่งเทียมดูได้ง่ายๆคือเป้าหมายที่สูงสุดของการยึดครองดินแดน
ตามชื่อISISก็บอกแล้วว่าย่อมากIslamic State of Iraq and Syria หมายความว่าพวกISISต้องการได้ดินแดนของอิรักและซีเรียเป็นฐานของรัฐอิสลามใหม่ที่จะถูกรื้อฟื้นขึ้นมา แต่เราทราบกันดีว่ามงกุฎประดับเพชรของตะวันออกกลางคือนครเยรูซาเลม ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นบ่อเกิดของ3ศาสนาคือจูดาห์ คริสต์และอิสลาม ทำไม่ISISไม่ต้องการเยรูซาเลม หรือไม่ได้สร้างภัยคุกคามอะไรต่ออิสราเอลเลย แต่กลับว่ามีข่าวรบพุ่งอย่างรุนแรงในอิรักและซีเรีย และมีการก่อการร้ายไปทั่วในโลกอาหรับ โดยที่ล่าสุดตูนีเซียเป็นเหยื่อของการก่อการร้ายที่รุนแรง
เพียงเท่านี้ก็พอจะดูออกว่าISISเป็นสิ่งเทียมที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยตะวันตกเพื่อก่อสงครามในตะวันออกกลางรอบใหม่ เพื่อยึดครองซีเรีย อิรักและอิหร่านที่เป็นเป้าใหญ่สุด และในแง่ศาสนาการก่อตัวของISISทำให้เป็นข้ออ้างเพื่อที่จะรื้อฟื้นสงครามครูเสด ซึ่งเป็นการรบระหว่างพวกคริสต์จากยุโรปกับพวกอิสลามในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือถึง8-9ครั้งระหว่างคศ.1096ถึงศตรรษที่13ก่อนที่สงครามครูเสดจะหมดเชื้อจริงๆในศตวรรษที่16 ซึ่งเป็นช่วงของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการของยุโรป
พวกISISไม่เพียงแต่ฆ่ามุสลิมด้วยกัน แต่มีการทำลายโบสถ์คริสเตียนและฆ่าคนคริสเตียนในซีเรียและอิรักอีกด้วย ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ทำให้วาติกันออกมาเรียกร้องให้นานาชาติช่วยกันทำสงครามเพื่อจัดการกับISIS และสร้างกลิ่นไอของสงครามครูเสดรอบใหม่
อาร์คบิชอปSilvano Tomasiของอิตาลีได้ยื่นเอกสารให้สภาสิทธิมนุษชนของยูเอ็น โดยเรียกร้องให้นานาประเทศให้การสนับสนุนทางมนุษยธรรมให้กับชาวคริสเตียนที่ถูกISISกวาดล้าง นอกจากนี้อาร์คบิชอปSilvano Tomasiมีความเห็นว่าวิกฤตินี้จำต้องได้รับความร่วมมือจากนานาชาติที่จะใช้กำลังทหารเพื่อหยุดการรุกรานของพวกISIS
ปีที่แล้วโป๊ปฟรานซิสกล่าวประนามพวกISISที่ก่อความรุนแรงกับชุมชนคริสเตียนในอิรัก ทั้งเผาโบถ์ ฆ่าและลักพาตัวชาวคริสเตียนไป และโป๊ปฟรานซิสสนับสนุนกองทัพพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯในการใช้กำลังในการจัดการกับพวกISIS นอกจากนี้โป๊ปบอกว่าโดยบอกว่าส่วนตัวแล้วอยากจะเดินทางไปอิรัก แต่ทางวาติกันห้าม เพราะเกรงในเรื่องความปลอดภัย
หลังเหตุการณ์911 บุชผู้ลูกประกาศว่าสหรัฐฯจำต้องก่อสงครามในตะวันออกกลางเพื่อที่จะกวาดล้างพวกก่อการร้ายอัล เคด้าที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการถล่มตึกWorld Tradeที่นิวยอร์ค บุชบอกว่าสงครามที่สหรัฐฯกำลังก่อนี้สามารถเทียบได้กับสงครามครูเสด
Albert Pikeสมาชิกที่สำคัญของกลุ่มฟรีเมสันได้ทำนายในศตวรรษที่19แล้วว่าจะเกิดสงครามโลก3ครั้ง โดยที่2ครั้งเกิดขึ้นจริงตามคำทำนายแล้ว เหลือแต่สงครามโลกครั้งที่3 ซึ่งAlbert Pikeบอกว่าจะเป็นการรบระหว่างพวกไซออนนิสท์และมุสลิม
ในยุคสุดท้ายนี้ISISไม่ได้เป็นภัยกับพวกไซออนนิสท์หรืออิสราเอลเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำลายมุสลิมด้วยกันมากกว่า และมีการทำลายคริสเตียนไปด้วย ถึงแม้ว่าจะทำลายพวกคริสเตียนไม่มาก แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะให้โรมประกาศสงครามครูเสดรอบใหม่ในตะวันออกกลางเพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองนครเยรูซาเลม รวมทั้งDome on the Rockบนเขาพระวิหารของเยรูซาเลม และเพื่อที่จะสร้างวิหารโซโลมอนแห่งที่3สำหรับโลกใหม่ที่จะมีเพียงศาสนาโลกเพียงศาสนาเดียว
thanong
22/3/2015
http://www.the-american-interest.com/…/vatican-calls-for-u…/
http://www.theguardian.com/…/pope-francis-iraq-isis-islamic…

 

Thanong Fanclub



22. ยุคสุดท้าย (End Time)
ในเดือนกันยายนปี2014 โป๊ปฟรานซิสบอกว่าความขัดแย้งตามที่ต่างๆบนโลกนี้ชี้ให้เห็นว่าสงครามโลกครั้งที่3เกิดขึ้นแล้ว แต่เกิดขึ้นเป็นส่วนๆ
โป๊ปกล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่3ในขณะที่เข้าร่วมไว้อาลัยผู้ที่เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่1 ทางตอนเหนือของอิตาลี
"สงครามเป็นความบ้าคลั่ง แม้ว่าทุกวันนี้ หลังจากความล้มเหลวของสงสงครามโลกครั้งที่2 บางทีเราอาจกล่าวถึงสงครามโลกครั้งที่3 ซึ่งเป็นสงครามที่รบเป็นส่วนๆ ด้วยอาชญากรรม การฆาตกรรมหมู่ และการทำลาย" โป๊ปกล่าว
ก่อนหน้านี้ โป๊ปฟรานซิสออกมาพูดว่าได้เวลาแล้วที่ประชาคมโลกต้องร่วมมือกันจัดการกับพวกISISที่ทำการเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอื่น รวมทั้งศาสนาคริสต์ ปรากฎว่าพวกISISทำลายสุเหร่าของพวกซีอะห์ด้วย และมีการกระทำที่ทารุณโหดร้ายกับชนพื้นเมืองที่เป็นชนกลุ่มน้อยต่างๆด้วย
โป๊ปตรัสว่าประชาคมโลกต้องตัดสินใจร่วมกันว่าจะแทรกแซงในเรื่องนี้อย่างไร ไม่ใช้ให้ประเทศเดียวดัดสินใจ ถึงแม้ว่าไม่ได้ระบุ"ประเทศเดียว"นั้นเป็นประเทศอะไร เราก็พอจะรู้ว่าโป๊ปน่าจะหมายถึงสหรัฐอเมริกา ตอนนั้นโป๊ปต้องการเดินทางไปทางตอนเหนือของอิรัคเพื่อที่จะให้กำลังใจกับชนกลุ่มน้อยและชาวคริสเตียนที่โดนISISทำร้าย แต่ที่ปรึกษาน่้าจะทัดทานเอาไว้เนื่องจากว่ามันไม่ปลอดภัย
สงครามครูเสดได้รับการประกาศขึ้นครั้งแรกเกิดในปีคศ 1095 และครั้งสุดท้ายที่Levantในปี1271-72 Levantหมายถึงดินแดนในปัจจุบันที่ประกอบด้วยไซปรัส อิสราเอล จอร์แดน เลบานอน ซีเรีย ปาเลสไตน์และส่วนหนึ่งของทางตอนใต้ของตุรกี หลังจากที่พวกครูเสดจากยุโรปพ่ายแพ้สงครามหลายครั้งด้วยกันในปาเลสไตน์ ทำให้หมดกำลังในที่จะรบต่อในปาเลสไตน์
ในปี1287 พวกครูเสดโจมตีชาวมุสลิมที่Acreซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล ทำให้ผู้นำมุสลิมถือโอกาสโจมตีเมืองนั้นด้วย พวกมุสลิมได้ชันชนะในครั้งนั้น และทำให้พวกคริสเตียนไม่ได้ครอบครองเมืองใดเลยในตะวันออกกลาง พวกอัศวินครูเสดถอยร่นไปตั้งหลักที่เกาะRhodes อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าพวกมุสลิมจะครอบครองตะวันออกกลางทั้งหมด แต่ยังคงให้ชาวคริสต์และพวกยิวอาศัยอยู่ต่อไป
พวกก่อการร้ายISISเดิมเรียกตัวเองว่า Islamic State of Iraq and Levant หรือISIL หมายถึงอุดมการณ์ที่จะสร้างรัฐอิสลามบนดอนแดนอิรัคและLevantหรือประเทศ ไซปรัส อิสราเอล จอร์แดน เลบานอน ซีเรีย ปาเลสไตน์และส่วนหนึ่งของทางตอนใต้ของตุรกีดังกล่าวมาแล้ว ต่อมาพวกนี้เรียกตัวเองย่อลงมาอีกเหลือIS หรือIslamic State
แต่สงครามของพวก ISISดูเหมือนว่าจะเป็นภาพลวงตาของสงครามที่ใหญ่กว่าระหว่างไซออนนิสท์และอิสลาม ก่อนเลือกตั้งในวันที่17 มีนาคม 2015 ประธานาธิบดีเบนจาบิน เนธันยาฮูของอิสราเอลได้ได้เดินทางไปดีซีเพื่อใช้รัฐสภาของสหรัฐฯเพื่อประกาศสงครามกับอิหร่าน โดยที่สมาชิกสภาของสหรัฐฯลุกขึ้นปรบมือให้ถึง26ครั้ง
ไซออนนิสท์ยิวได้รับการสนับสนุนจากลอนดอน โรมและดีซีตั้งแต่ตอนต้นกำลังเตรียมตัวก่อสงครามใหญ่เพื่อปิดเกมตะวันออกกลาง โดยให้ISISกรุยทางให้มุลิมตะวันออกลางแตกแยกและอ่อนกำลังไปก่อน เพื่อว่าสงครามครูเสดครั้งสุดท้ายเริ่มต้นปี2015นี้จะได้สอดคล้องกับคำทำนายของAlbert Pikeว่าสงครามโลกครั้งที่ 3จะเป็นการรบพุ่งกันระหว่างไซออนนิสท์และมุสลลิมในตะวันออกกลางเพื่อปิดฉากยุคสุดท้ายเพื่อให้โลกเข้าสู่ยุคใหม่ โดยที่เป้าหมายเพื่อสยบอิหร่าน และยึดครองเมืองโบราณที่สำคัญของบาบิโลนคือเยรูซาเลมของอิสราเอล ดามัสกัสของซีเรียและแบกแดดขออิรัก
thanong
22/3/2015
http://www.zerohedge.com/…/pope-francis-gets-involved-geopo…
Pope Francis warns 'piecemeal' World War III has begun

 

ทางการรัสเซีย ปลิดชีพสมาชิกกลุ่มแยกดินแดน 6 รายใน “ดาเกสถาน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2558 23:00 น.



เอพี/เอเจนซีส์-ทางการรัสเซียยืนยันในวันเสาร์ (21 มี.ค.) สามารถสังหารผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มนักรบแบ่งแยกดินแดนได้ 6 รายในเขตสาธารณรัฐดาเกสถาน

รายงานข่าวในเบื้องต้นซึ่งอ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ระบุ มีผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มนักรบแบ่งแยกดินแดน 2 รายถูกสังหารในวันเสาร์ (21) จากปฏิบัติการของกองกำลังความมั่นคงรัสเซียที่อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งในกรุงมาคัชคาลา ที่เป็นเมืองเอกของสาธารณรัฐดาเกสถาน

อย่างไรก็ดี คำแถลงของคณะกรรมาธิการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซียซึ่งถูกเผยแพร่ออกมาในภายหลัง ระบุว่า เจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงสามารถสังหารสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้อีก 4 คน ภายในพื้นที่ของอพาร์ทเมนท์หลังเดียวกัน

จนถึงขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงสาเหตุของการกวาดล้างสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในสาธารณรัฐดาเกสถานครั้งนี้ มีเพียงการเปิดเผยว่า กลุ่มผู้เสียชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย รวมถึง การก่อเหตุโจมตีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตกเป็นเป้าหมาย

ทั้งนี้ พื้นที่ของสาธารณรัฐดาเกสถานตกอยู่ภายใต้เมฆหมอกแห่งความรุนแรงมานานเกินกว่าทศวรรษ โดยเหตุโจมตีด้วยระเบิดและการลักพาตัวส่วนใหญ่ถูกระบุว่า เป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อแบ่งแยกดินแดนออกจากการปกครองของรัสเซีย

 

UN เตือน โลกจะขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรงใน 15 ปี หากผู้คนทั่วโลกยังไม่เปลี่ยน “พฤติกรรมการใช้น้ำ” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2558 04:03 น.



เอเจนซีส์-สหประชาชาติออกโรงเตือนผ่านรายงานฉบับล่าสุดซึ่งมีการเผยแพร่ที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย โดยระบุ พื้นที่กว่าร้อยละ 40 ของโลกจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำภายในปี 2030 หรือ 15 ปีข้างหน้า หากผู้คนในประเทศต่างๆยังไม่รู้จักปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างสำคัญ

รายงานฉบับล่าสุดของยูเอ็นระบุว่า ขณะนี้ปริมาณของแหล่งน้ำใต้ดินทั่วโลกได้ลดต่ำลงและเหลือน้อย ขณะที่หลายพื้นที่ของโลกต่างประสบปัญหาฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลจากผลพวงของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ล้านคนภายในปี 2050 ซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรงทั้งในแง่ของการใช้น้ำเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม และการใช้น้ำในชีวิตประจำวันตามบ้านเรือน

รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 55 ภายในปี 2050 แต่หากพฤติกรรมการใช้น้ำของผู้คนทั่วโลกยังดำเนินต่อไปเช่นทุกวันนี้ โลกของเราก็จะเหลือน้ำเพียงพอใช้เพียงร้อยละ 60 ของความต้องการใช้น้ำทั้งหมดภายใน 15 ปีจากนี้ หรือในปี 2030

ทั้งนี้ รายงานระบุด้วยว่า การเร่งพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานของความไม่ยั่งยืน ตลอดจนความไร้จิตสำนึกในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า จะยิ่งส่งผลให้ปัญหาขาดแคลนน้ำของโลกเลวร้ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มที่สะอาดที่กำลังคุกคามความเป็นอยู่ของผู้คนกว่า 748 ล้านคนในเวลานี้

UN

 

ไครเมียเดินหน้าเปิดสายการบินใหม่ “หวังเชื่อมรัสเซีย-กระตุ้นท่องเที่ยว”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มีนาคม 2558 13:19 น.



เอเอฟพี – ไครเมียวางแผนที่จะเปิดสายการบินของตัวเองขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของระบบการขนส่งสาธารณะที่จะเชื่อมระหว่างรัสเซียและไครเมียเพื่อให้มีการเดินทางที่สะดวกมากขึ้น และหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ผู้คนเดินทางมาเยือนคาบสมุทรไครเมียในทะเลดำมากขึ้น 1 ปีหลังจากถูกรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐ

ทั้งนี้ในแผนการตั้งสายการบินใหม่นี้ ไครเมียต้องการฝูงเครื่องบินที่มีจำนวน 6 เครื่อง รวมไปถึงนักบินอีก 40 คนเพื่อบินในเส้นทางการบินราว 14 เส้นทาง และภายหลังจะขยายไปจนครบ 36 เส้นทางในอนาคต รายงานจากเว็บไซต์ของรัฐบาลไครเมีย

“ในโปรเจกต์เปิดสายการบินไครเมียนี้ เราต้องการเม็ดเงินร่วม 1.45 ล้านรูเบิล หรือ 24 ดอลลาร์” เซอร์เก โตอูริก (Sergei Tourik) เจ้าหน้าที่จากบริษัทผลิตอากาศยานสัญชาติรัสเซีย United Aircraft กล่าวในการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีไครเมีย เซอร์เก อักซ์โยนอฟ (Sergei Aksyonov)

แต่อย่างไรก็ตาม โตอูริกเตือนว่า “สายการบินใหม่นี้จะยังไม่ทำกำไรจนกระทั่ง 3 ปีไปแล้ว”

เอเอฟพีรายงานว่า เครื่องบินประจำฝูงสายการบินไครเมียคาดว่าจะเป็น Superjet 100 ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ประกอบโดย United Aircraft และมีหลายส่วนมาจากบริษัทชาติตะวันตก

ทั้งนี้ไครเมียนั้นแยกออกจากรัสเซียแผ่นดินหลัก ซึ่งหากต้องการเดินทางไปยังไครเมียนั้นทำได้เพียงทางเรือและทางอากาศเท่านั้น และมีการสร้างสะพานเชื่อมรัสเซียและไครเมียที่ยังค้างคาอยู่ โดยสะพานนี้จะข้ามช่องแคบเคียร์ชระหว่างทะเลดำและทะเลอาซอฟ

บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติได้ถอนทุนออกจากไครเมียหมดหลังจากอียูและสหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรลงโทษรัสเซีย และในขณะนี้สนามบินซิมเฟโรโปล ( Simferopol) นั้นเชื่อมแค่ระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งการเปิดสายการบินไครเมียจะทำให้มีเที่ยวบินจากภูมิภาคต่างๆของรัสเซียเชื่อมกับสนามบินแห่งนี้มากขึ้น รวมไปถึงเมืองอื่นๆที่อยู่ในต่างชาติทั้งใกล้และไกล ซึ่งก่อนที่จะถูกผนวก ไครเมียซึ่งถือเป็นแหล่งตากอากาศชั้นยอดมีนักท่องเที่ยวมาเยือนในปี 2013 ราว 5.9 ล้านคน ลดเหลือแค่ 3.8 ล้านคน ในปี 2014 ถึงแม้ว่ารัสเซียพยายามที่จะป้อนแพคเกจทัวร์เข้ามาก็ตาม

โดยอักซ์โยนอฟชี้ว่า จะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและการค้าให้มากขึ้นในไครเมีย

 

“ปูติน” ชวนพันธมิตรในสหภาพยูเรเชียร่วมใช้ “สกุลเงินเดียว”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2558 16:06 น.


---
@ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย (ขวา) ถ่ายภาพร่วมกับประธานาธิบดี นูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ แห่งคาซักสถาน (กลาง) และประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส ระหว่างการประชุมที่กรุงอัสตานาของคาซักสถาน วานนี้ (20 มี.ค.)
---
เอเอฟพี – ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เชิญชวนชาติพันธมิตรซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตมาร่วมใช้สกุลเงินตราเดียวกันวานนี้ (20 มี.ค.) หลังจากที่มอสโกเผชิญพิษเศรษฐกิจจนสายสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านในภูมิภาคเริ่มสั่นคลอน

ผู้นำรัสเซียซึ่งพยายามดิ้นรนต่อสู้กับมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก และปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ เรียกร้องให้สภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Union) ซึ่งประกอบด้วย รัสเซีย, เบลารุส, คาซักสถาน และอาร์เมเนีย กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

“เราคิดว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะหารือความเป็นไปได้ในการใช้สกุลเงินร่วมกัน” ปูติน กล่าวระหว่างการประชุมซัมมิตร่วมกับผู้นำคาซักสถานและเบลารุส ที่กรุงอัสตานา เมืองหลวงของคาซักสถาน

“การเดินเคียงบ่าเคียงไหล่จะช่วยให้เราตอบสนองภัยคุกคามทางการเงินและเศรษฐกิจจากภายนอกได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการปกป้องตลาดของเราเองด้วย”

มาตรการคว่ำบาตรที่บั่นทอนเศรษฐกิจ ตลอดจนความไม่พอใจที่เห็นรัสเซียส่งทหารเข้าไปแทรกแซงความขัดแย้งในยูเครน ส่งผลให้ความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างมอสโกกับ 2 ชาติผู้ร่วมก่อตั้งสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย เริ่มส่อแววไม่ราบรื่น

สหภาพยูเรเชียซึ่งเกิดจากความคิดริเริ่มของ ปูติน ที่จะส่งเสริมการค้าเสรีและสร้าง “ระบบการเงิน” ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในภูมิภาค ถูกตะวันตกวิจารณ์ว่าเป็นความพยายามสร้างอาณาจักรโซเวียตที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาใหม่

วิกฤตการเมืองที่ยูเครนกำลังประสบอยู่มีประเด็นสำคัญอยู่ที่กรุงเคียฟจะเลือกเอียงข้างสหภาพยุโรป หรือจะยอมรวมกลุ่มกับสหภาพเศรษฐกิจที่รัสเซียบุกเบิก

ประธานาธิบดี นูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ แห่งคาซักสถาน กล่าวสรุปการประชุมวานนี้(20)ว่า คาซักสถาน, รัสเซีย และเบลารุส “ปรารถนาที่จะเห็นยูเครนเป็นรัฐที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และคงบูรณภาพแห่งดินแดนเอาไว้ได้”

การประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้เดิมทีจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. แต่ต้องถูกเลื่อนออกมา เนื่องจาก ปูติน หายหน้าไปจากสื่อนานถึง 10 วัน จนเกิดกระแสข่าวลือร้ายๆ เกี่ยวกับสุขภาพของเขา

 

น้ำมัน-ทองคำพุ่งหลังดอลล์ร่วงหนัก หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2558 05:14 น. (แก้ไขล่าสุด 22 มีนาคม 2558 10:27 น.)



รอยเตอร์/เอเอฟพี - ดอลลาร์ร่วงลงหนักเมื่อวันศุกร์ (20 มี.ค.) ผลักให้ราคาน้ำมันและทองคำพุ่งแรง ปัจจัยนี้รวมกับผลประกอบการอันสดใสของไนกี้ ก็เป็นตัวสนับสนุนให้วอลล์สตรีทขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 89 เซ็นต์ ปิดที่ 55.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นอกเหนือจากความจำเป็นที่นักลงทุนต้องตัดลดการขาดทุนในวันสุดท้ายของอายุสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเดือนเมษายน ทิศทางในด้านบวกของน้ำมันยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า

นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ที่ราคาน้ำมันรวมกันตลอดทั้ง 5 วันของการซื้อขายสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ยูโรทุบสถิติเป็นสัปดาห์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ มากที่สุดในรอบกว่า 3 ปี ส่วนดัชนีดอลลาร์ก็ทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่ดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2011 เช่นกัน

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าขึ้นอย่างมาก กระทบต่ออุปสงค์ของนักลงทุนในตลาดทองคำ ส่งผลให้โลหะมีค่าสีเหลืองชนิดนี้เมื่อวันศุกร์ (20 มี.ค.) ปิดบวกแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,184.60 ต่อออนซ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (20 มี.ค.) โดยแนสแดคแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี จากการอ่อนค่าของดอลลาร์และรายงานผลประกอบการอันสดใสของไนกี

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 168.62 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,127.65 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 18.79 จุด (0.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,108.06 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 34.04 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,026.42 จุด

การแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อไม่นานมานี้ ก่อความกังวลว่ามันจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของเหล่าบริษัทข้ามชาติสหรัฐฯ และความเคลื่อนไหวในค่าเงินอเมริกาในวันศุกร์ (20 มี.ค.) ช่วยผ่อนคลายความวิตกไปพอสมควร

ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้แรงหนุนจากหุ้นของไนกี้ ที่พุ่งขึ้นร้อยละ 3.7 ปิดที่ 101.98 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสแข็งแกร่งเกินคาดหมายจากยอดจำหน่ายรองเท้าที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้ผลิตเครื่องกีฬาแห่งนี้เตือนว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อาจกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสปัจจุบัน

 

“สวิตเซอร์แลนด์-ลักเซมเบิร์ก” จ่อเข้าร่วมธนาคารเพื่อการลงทุนของจีน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 มีนาคม 2558 13:19 น.


---
@โหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน (กลาง) อยู่ที่พิธีลงนามของธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ปี 2014
---
เอเอฟพี – สวิตเซอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กเตรียมที่จะเข้าร่วมธนาคารเพื่อการลงทุน AIIB ที่มีจีนเป็นตัวตั้งตัวตี กระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุ โดยนับเป็นชาติยุโรป 2 ชาติล่าสุดที่จะลงชื่อเข้าร่วมสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งนี้ ซึ่งสหรัฐฯ ยังคงมีความกังขาในเรื่องของมาตรฐานอยู่

อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีได้ประกาศเจตนารมณ์ของพวกเขาที่จะเข้าร่วมธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) แล้ว ธนาคารแห่งนี้ถูกบางคนมองว่าเป็นคู่แข่งของธนาคารโลกและธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย ซึ่งมีฐานอยู่ที่กรุงมานิลา

สวิตเซอร์แลนด์จะเข้ามาเป็นสมาชิกของธนาคารนี้อย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือน หากได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกรายอื่นๆ กระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุในถ้อยแถลงเมื่อค่ำวันศุกร์ (20) ขณะที่อีกถ้อยแถลงหนึ่งของกระทรวง ระบุว่า ลักเซมเบิร์กก็ได้ยื่นความจำนงขอเข้าร่วมแล้วด้วยเช่นกัน

โหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีน กล่าวเมื่อวานนี้ (20) ว่า ธนาคารแห่งนี้มีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง “ตามที่คาดหวัง” 27 ชาติแล้ว และเสริมว่าเส้นตายการขอสมัครเข้าร่วมคือวันที่ 31 มีนาคม สำนักข่าว ซินหวา ของทางการจีน รายงาน

ธนาคารแห่งนี้ ซึ่งจะสนับสนุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในเอเชีย คาดว่าจะถูกก่อตั้งขึ้นก่อนสิ้นปีนี้ ซินหวา รายงาน

เมื่อวานนี้ (20) แอนเจิล เกอร์เรีย เลขาธิการขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ได้แสดงความเห็นชอบกับการที่ชาติยุโรปต่างๆ ตบเท้าเข้าร่วมกับธนาคารแห่งนี้

“ความเป็นจริงที่ชาติยุโรปบางประเทศกำลังเข้าร่วมกับโครงการดังกล่าวในตอนนี้ ทำให้ผมถึงกับแน่ใจมากขึ้นว่า โครงการนี้จะดำเนินไปอย่างมืออาชีพและโปร่งใสมาก” เขากล่าวในกรุงปักกิ่ง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายคนได้กล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วงว่า สถาบันทางการเงินแห่งนี้อาจบ่อนทำลายธนาคารโลก

เจคอบ ลิว รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ความกังวลหลักๆ ของวงชิงตันคือ ธนาคารแห่งนี้จะ “ยึดมั่นต่อมาตรฐานขั้นสูงที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศริเริ่มไว้หรือไม่”

“สถาบันแห่งนี้จะปกป้องสิทธิของแรงงานและสิ่งแวดล้อมหรือไม่ จะจัดการจับปัญหาคอร์รัปชันอย่างเหมาะสมหรือไม่” เขาตั้งข้อสงสัย

 

“อังกฤษ” เริ่มต้นฝึกให้กองทัพยูเครน “สหรัฐฯ” ยืนยันส่งทหารพลร่มเกือบ 300 เตรียมฝึกเดือนหน้า โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2558 16:19 น.



เอเจนซีส์ – ทหารอังกฤษเดินทางมาถึงยูเครนแล้ว และจะเริ่มต้นฝึกให้กับกองทัพยูเครนตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ในขณะที่สหรัฐฯยืนยันที่จะส่งทหารพลร่มเกือบ 300 นายในเดือนหน้าเพื่อเริ่มต้นฝึกให้ทหารแนชันแนลการ์ดยูเครนเช่นกัน

กองกำลังต่างชาติเริ่มภารกิจในยูเครนท่ามกลางสัญญาหยุดยิงที่แทบจะใช้ไม่ได้ผลในภาคตะวันออกของยูเครน

อังกฤษมีเป้าหมายเพื่อเสริมสมรรถนะให้กับกองทัพยูเครนเพื่อสามารถสู้กับกองกำลังต่อต้านรัฐบาลเคียฟได้ กระทรวงกลาโหมอังกฤษแถลง ซึ่งทางอังกฤษชี้ว่า ภารกิจการฝึกของอังกฤษเกิดขึ้นบนแผ่นดินยูเครนที่ใช้นายทหารอังกฤษจำนวนหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับกำหนดการ

“การฝึกชุดแรกเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม …..เรามีกองกำลังทหารพร้อมที่จะฝึกฝนให้ที่นั่น” โฆษกหญิงจากกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์เอพี รายงานจากบีบีซี “ซึ่งในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารอังกฤษราว 35 นายอยู่ที่ทางใต้ของยูเครน โดยการประจำของทหารเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจฝึกอาวุธ 2 เดือน” โฆษกหญิงแถลงเพิ่มเติม

ในเดือนที่ผ่านมารัฐมนตรีอังกฤษได้ประกาศว่าจจะส่งทหารจำนวนมากถึง 75 นายต่อครั้งในภารกิจการฝึก 6 เดือน “เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการป้องกันการรุกรานให้กับกองกำลังกองทัพยูเครน และเพิ่มการปรับตัวของทหารเคียฟให้ตามความจำเป็น” RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(20)

นอกเหนือไปจากนี้ อังกฤษประกาศที่จะให้ “ของขวัญ” ซึ่งเป็นยุทธปัจจัยที่ไม่ใช่อาวุธแก่เคียฟด้วย เพื่อเสริมกำลังพลของประธานาธิบดียูเครน เปโตร โปโรเชนโก แต่ทางอังกฤษปฎิเสธช่องทางที่จะเสนอการสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครน ด้านรัสเซีย ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงกองกำลังต่างชาติทำการฝึกให้กับกองทัพยูเครน โดยกล่าวว่าการเคลื่อนไหวนี้ไม่สนับสนุนการยุติข้อขัดแย้งในยูเครนตะวันออก

“การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่การช่วยหรือส่งเสริมความเชื่อมั่น และยังไม่ใช่การลดระดับความตรึงเครียดในความขัดแย้ง” ดมิตรี เพสคอฟ (Dmitry Peskov) โฆษกประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าว RIA สื่อรัสเซียรายงาน

และนอกจากอังกฤษแล้ว เพนตากอน สหรัฐฯ ยังคงยืนยันแผนการส่งทาหรร่วมฝึกในยูเครนด้วยเช่นกัน โดยจะเริ่มทำการฝึกได้ในปลายเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้โทรศัพท์ไปหารือกับโปโรเชนโกเพื่อยืนยันในภารกิจการฝึกของทหารสหรัฐฯที่จะเริ่มต้นในอนาคตอันใกล้ สำนักงานประธานาธิบดียูเครนแถลง โดยจากเนื้อหาของแถลงการ์ ไบเดนได้แจ้งให้โปโรเชนโกรับทราบถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ที่จะฝึกทหารยูเครนจำนวน 780 นายด้วยกองกำลังพิเศษสหรัฐฯ

ในขณะที่ ไอลีน ไลเนซ (Eileen Lainez)โฆษกเพนตากอนได้ยืนยันเรื่องนี้ในวันพฤหัสบดี(19)ล่าสุดว่า นายทหารจากหน่วยพลร่มที่173rd ซึ่งประจำในอิตาลี จะเดินทางไปยังภาคตะวันตกของยูเครนในช่วงปลาเดือนเมษายน “การช่วยเหลือนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์ที่จะช่วยให้ยูเครนสามารถป้องกันตัวเองทางทหารได้อย่างยั่งยืน รวมไปถึงปฏิบัติการภายในทางความมั่นคง แต่อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯยังหาข้อสรุปในวันที่แน่นอนในการฝึกครั้งนี้ไม่ได้

หลังจากที่มีการประเมินอย่างถี่ถ้วนถึงภารกิจครั้งนี้แล้ว สหรัฐฯจะส่งทหารราว 290 คนเพื่อฝึกให้กับกองทัพยูเครน ไลเนซแถลง ซึ่งสถานที่ฝึกจะอยู่ที่เมืองยาวอริฟ( Yavoriv) ติดพรมแดนโปแลนด์

การฝึกฝนครั้งนี้จะทำการฝึกให้กับหน่วยทหารแนชันแนลการ์ดของยูเครนจำนวน 6 หน่วย ซึ่งจะครอยคลุมในส่วนการป้องกันภายในและการปกป้องดินแดนเป็นหลัก” ไลเนซเสริม เอเอฟพีรายงาน

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯประกาศเพิ่มความช่วยเหลือมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์ที่ไม่เกี่ยวกับอาวุธให้กับกองทัพยูเครน ซึ่งรวมไปถึงรถหุ้มเกราะ และรถฮัมวี โดรนไม่ติดอาวุธ (Raven drone) เรดาร์ป้องกันปืนใหญ่ และกล้องดูเวลากลางคืน เป็นต้น