โพธิสัตว์..ทั้งหลายมาตั้ง..ปณิธานกันเถอะ

จะก้าว..เดินต่อไปแม้หนทางไกล..จะทนระทมทุกข์..เพื่อดับไฟกิเลส..จะสร้างบารมี..แม้นานกาลบ่บนท้อ..จะสานต่อแนวทางพระโพธิ..../ขอทุกท่านจงปราถนาตามใจที่ตั้งไว้..และขอให้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาน..ทุกท่านครับ/อนุโมทนาสาธุ..

 

ท่าน samaisuwanyut นี้ปราถนายังไงบ้างเหรอครับ
มีลงลายละเอียดอะไรเป็นพิเศษใหมครับหรือมีอะไรจะทำแปลกๆเพิ่มไปบ้างใหมครับ
ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่นี้กะจะทำอะไรเป็นพิเศษบ้างครับ

 

ก็ใช้ชีวิตตามปกติครับ...เวลาทำความดี..หรือทำบุญ..ก็อฐิษฐานให้สำเร็จตามความปราถนาที่เราตั้งไว้แค่นี้เองครับ..ไม่ได้มีอะไรพิเศษครับ...

 

_/\_ _/\_ _/\_
อนุโมทนามหาบุญด้วยนะครับ
ก็อปมาให้อ่านครับ

ธรรมของพระโพธิสัตว์ ( ประจำใจพระโพธิสัตว์อยู่เสมอทุกชาติ )
ธรรมเหล่านี้สัมพันธ์กันตลอดเวลาไม่สามารถแยกออกจากกันได้เลย เพราะธรรมแต่ละข้อนั้นต่างอาศัยกันและกันเกิดขึ้น.....
เมื่อพระโพธิสัตว์ให้ ทาน จุดมุ่งหมายในการให้ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ผู้รับไม่มีคิดที่จะเป็นเหตุให้เกิดการเบียดเบียนผู้อื่น
การไม่มีความคิดที่จะเบียดเบียนผู้อื่นทั้งกาย วาจา ใจ นี้จัดเป็น ศีล
เมื่อเกิดความคิดในการให้ทาน จิตใจย่อมผ่องใสปราศจากนิวรณ์
การที่จิตปราศจากนิวรณ์ จัดเป็น เนกขัมมะ
แน่นอน ในการบำเพ็ญทานนั้น ย่อมตั้งใจใช้การพินิจพิจารณาเหตุผล เพื่อให้ทานเกิดประโยชน์มากที่สุด
การพินิจพิจารณาเช่นนี้ จัดเป็น ปัญญา
ความตระหนี่เป็นอุปสรรคสำคัญในการบำเพ็ญทาน พระโพธิสัตว์จำต้องพยายามละความตระหนี่ที่เกิดขึ้นขัดจังหวะอยู่ตลอดเวลา
การพยายามละความตระหนี่เช่นนี้ จัดเป็น วิริยะ
นอกจากพยายามละความตระหนี่ซึ่งเป็นบาปที่คอยขัดขวางไม่ให้การทำความดีก้าวหน้าแล้ว พระโพธิสัตว์จะต้องยอมทนทุกข์ทรมานจากการเสยสละ
เพราะในบางครั้งสิ่งที่สละนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากหรือเสมอด้วยชีวิต แต่เมื่อเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้รับ ถึงตนเองจะต้องลำบากท่านก็ยอมสละให้ได้
การยอมทุกข์ทรมานเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุขเช่นนี้ จัดเป็น ขันติ
พระโพธิสัตว์ เมื่อตัดสินใจให้ทานแล้วก็ย่อมทำตามการตัดสินใจ หรือเมื่อพูดว่าจะให้อะไรแก่ใครแล้ว ท่านก็พร้อมจะให้เสมอ ไม่เคยกลับคำ
การพูดหรือทำตรงตามการตัดสินใจนั้น จัดเป็น สัจจะ
การทำอย่างที่พูดหรือตัดสินใจไปแล้วนั้น บางครั้งทำไปแล้ว อาจจะมีอุปสรรคเกิดขึ้นขัดขวางซึ่งทำใหเกิดความท้อถอยแต่พระโพธิสัตว์จะยึดมั่นอยู่ในสัจจะนั้น พยายามฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้ได้
ความมั่นคงแน่วแน่เช่นนี้ จัดเป็น อธิฐาน
การให้ของพระโพธิสัตว์ย่อมตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปรารถนาดี และเป็นความปรารถนาดีชนิดที่เป็นอัปปมัญญา ไม่มีขอบเขตจำกัดไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นความปรารถนาดีที่แผ่ไปให้แม้กระทั้งศัตรู
ความรักความปรารถนาดีอย่างกว้างขวางนี้ จัดเป็น เมตตา
แน่นอนว่า ในการให้นั้น พระโพธิสัตว์ย่อมมิได้มุ่งหวังผลตอบแทนหรือเพื่อเกียรติยศชื่อเสียง ท่านสามารถบังคับใจให้อยุ่เหนือสิ่งตอบแทนทางวัตถุเหล่านี้ ทั้งนี้เป็นเพราะท่านรู้จักปล่อยวางประคับประคองใจให้เป็นกลาง
การวางใจให้เป็นกลางได้เช่นนี้ จัดเป็น อุเบกขา
จากเหตุผลดังกล่าวนี้ แสดงให้เห็นว่า ธรรมะเหล่านี้ย่อมสัมพันธ์กันอยู่เสมอ เพื่อเกื้อหนุนให้พระโพธิสัตว์ได้บรรลุถึงพระนิพพานอันเป็นจุดหมายปลายทาง ฉะนั้น จึงเรียกว่า " บารมี " แปลว่า " คุณธรรมเครื่องช่วยให้ถึงฝั่งคือพระนิพพาน

จะแบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ บารมีธรรมดา อุปรมารมีและปรมัตถบารมี รวมเป็น ๓๐ ทัศน์



​

 

ชาดกพระพุทธเจ้าของเราๆทั้งหลาย และพระทีปังกรพระพุทธเจ้า

ตั้งใจฟังให้จบ นะครับ

https://www.youtube.com/watch?v=Tck-4EEr5Lo

 

ขอบคุณครับ..คุณj47

 

​

​

​

ขอฝากกลอนไว้สักหน่อยครับ,,...ดีชั่วผิดพลาดบ้างโพธิสัตว์เอย..ปณิธานตั้งมั่นไว้มิเสื่อมสลาย...ทุกสัพพสัตว์จักพาข้ามพ้นวัฏฏะได้...80อสงไขจักผ่านได้ด้วย..บารมี,,

 

ใครมีกลอนหรือจะแนะนำอะไรได้นะครับยินดีครับ

 

_/\_ _/\_ _/\_
อนุโทนามหาบุญครับ ขอให้สำเร็จนะครับ

 

ภิกษุทั้งหลาย ! ความคิดได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ผลวิบากแห่งกรรมอะไรของเราหนอ ที่ทำให้เราเป็นผู้มีฤทธิ์มากถึงอย่างนี้ มีอานุภาพมากถึงอย่างนี้ ในครั้งนั้น ๆ.
ภิกษุทั้งหลาย ! ความรู้สึกได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ผลวิบากแห่งกรรม ๓ อย่างนี้แล ที่ทำให้เรามีฤทธิ์มากถึงอย่างนี้ มีอานุภาพมากถึงอย่างนี้,
วิบากแห่งกรรม ๓ อย่าง ในครั้งนั้น คือ :-
(๑) ผลวิบากแห่งทาน การให้
(๒) ผลวิบากแห่งทมะ การบีบบังคับใจ
(๓) ผลวิบากแห่งสัญญมะ การสำรวมระวัง ดังนี้.

 

คำอธิฐาน..........เสี่ยงสัตย์อธิฐาน...................


(?.....?......?.............................)


นับแต่นี้ไป. ข้า.....ขอตั้งสัจจาธิฐาน เปลี่ยนแนวทางในการดำเนินชีวิตเสียใหม่.......




........ข้ารู้ว่าเจ้า.....เป็นคนละเอียดอ่อน. เป็นพิเศษ........
'นอกเหนือไปจากความฉลาดลึก'
(ไม่ได้หมายถึงฉลาดไปด้วยเล่ห์)


.....เอาเป็นว่ามีดีอยู่ในตัว.?..
เป็นศิษย์มีอาจารย์
มีอำนาจจิตสูง
ถ้าไม่ท้อแท้ สิ้นหวัง.......จะไปไกล

เข้มแข็งเอาไว้
อดทนเอาไว้
โอกาสจะได้พบกัน......ย่อมมีสักวัน


อย่าปล่อยวัน/เวลาให้สูญเปล่า
อย่าปล่อยให้อดีต มาครอบงำ
อย่าหลงทาง.......
อย่า.......ท้อ

?...?.......


.....

บุญบารมี เสมอฟ้า
ข้าไม่เชื่อ ว่าจะไม่มีวิธี.............



.และแล้ว. กงล้อแห่งชะตากรรม. ระหว่างข้า กับ เจ้า. ซึ่งเคยหยุด เดินไปแล้ว.
ก็กลับมาเคลื่อนอีกครั้ง.......


เป็นเพราะกรรมเก่า ในหลายชาติ หลายบรรพ.
มาแล้ว.......กระมัง
ทำให้้ชาติปัจจุบันเป็นดังนี้.......

แต่ถ้าหากว่า........เรา.......ยังยึดถือสัจจะ
มั่นคงต่อคำสัญญา........

ข้าเชื่อว่า เราก็จะได้พบกันแน่นอน
ในเวลาที่ใช่.........
ในโลกนี้
หรือโลกหน้า.........



หรือจนกว่า

จะได้ชดใช้เวรกรรม ที่ต่างคนต่างก่อเอาไว้
แต่ชาติปางก่อน
ชดใช้ให้หมดสิ้นเสียก่อน

ถ้าไม่หมดชาตินี้.......ก็ต้องไปชดใช้ต่อในชาติหน้า........



นี่คือความจริงที่ข้ายอมรับ
และจะไม่หลีกหนี...............



ดั่งคำที่เคยบอกเอาไว้ว่า.........

ตอนนี้เวลาทางโลกได้หมดลงแล้ว......

 

ปราถณาโพธิญานเหมือนกันรึป่าวครับ....มีความเกี่ยวเนื่องกับผมหรือป่าวคับ

 

ของข้าน้อย... ขอ ศรัทธาธิกะ สัก 40 อสงไขย แสน กัป กำลังดี.... อยู่ตรงกลาง ...ไม่มากไป ไม่น้อยไป ........เกิดบ่อย ๆเดี๋ยวมันจะ ทุกข์ หนัก....

ขอให้ความปรารถนาของทุกท่าน....สัมฤธิ์ผล ไม่เสี่ยถอยจาก พระโพธิญาณ ตลอดไป....

และอยู่ช่วยเหลือ สัตว์โลก ด้วยกัน ก่อน เถิด....

 

อนุโมทนาสาธุครับเพื่อน(good)(good)

 

ในเวลาที่พระพุทธเจ้าผู้พิชิตมารพระนามว่าทีปังกร ทรงพยากรณ์
สุเมธดาบสว่า

ในกัปจากกัปนี้ไปนับไม่ถ้วน ดาบสนี้จักเป็นพระพุทธเจ้า
พระมารดาบังเกิดเกล้าของดาบสนี้จักทรงพระนามว่ามายา
พระบิดาจักทรงพระนามว่าสุทโธทนะ ดาบสนี้จักชื่อว่าโคดม
ดาบสนี้จักเริ่มตั้งความเพียรทำทุกกรกิริยาแล้ว จักเป็นพระสัมพุทธเจ้า
ผู้มียศใหญ่ ตรัสรู้ที่ควงไม้อัสสัตถพฤกษ์ พระอุปติสสะและพระ
โกลิตะจักเป็นพระอัครสาวก ภิกษุอุปัฏฐากชื่อว่าอานนท์ จักบำรุง
ดาบสนี้ ผู้เป็นพระพิชิตมาร นางภิกษุณีชื่อว่าเขมาและอุบลวรรณา
จักเป็นอัครสาวิกา จิตตคฤหบดีและเศรษฐีชาวเมืองอาฬวี จักเป็น
อัครอุบาสิกา ไม้โพธิ์ของนักปราชญ์ผู้นี้เรียกว่าอัสสัตถพฤกษ์
มนุษย์และเทวดาได้สดับพระดำรัสของพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอัน
ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะหาใครเสมอเหมือนมิได้ ต่างก็เป็นผู้เบิกบาน
ประนมอัญชลีถวายนมัสการ

 

....ผมจะเล่าความฝันผมให้ฟังนะครับวันหนึ่งผมได้ฝันไปว่ามีพระองค์หนึ่งพูดกับผมว่า,,สิ่งที่ตั้งใจไว้ได้ปราถนาไว้จะได้...สำเร็จแน่นอน...ผมได้ยินเช่นนั้น...ขนาดในฝัน..ผมยังร่าเริ่ง..มีกำลังปิติ..ยินดี.....ถ้าเป็นจริงจะขนาดไหนน้อ
มีกำลังใจอีกเยอะเลยครับ....ผมจะรอวันนั้น..ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน..แต่ก็จะทำจะสร้างบารมี..ไปเรื่อยๆ..แล้วแต่วาสนาครับ..O O O

 

สาธุครับ

 

ผมขอไห้ความปราถนาทุกท่านจงสำเร็จและถึงฝั่งกันทุกคนครับ