ติดตามสถานะการณ์

เก็บตก “สุริยุปราคา” โซนขั้วโลกเหนือที่ไทยไม่ได้เห็น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2558 18:24 น. (แก้ไขล่าสุด 20 มีนาคม 2558 19:06 น.)



เก็บตก “สุริยุปราคา” โซนขั้วโลกเหนือที่ไทยไม่ได้เห็น คราสเต็มดวงพาดผ่านตอนเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอาร์กติก ผ่านหมู่เกาะแฟโรของเดนมาร์ก และหมู่เกาะสฟาลบาร์ของนอร์เวย์ ตอนสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ไทยส่งทีมไปเกาะติดปรากฏการณ์ที่นอร์เวย์

วันที่ 20 มี.ค.2015 มีปรากฏการณ์ “สุริยุปราคาเต็มดวง” เวลาประมาณ 17:10-17:13 น. ตามเวลาในประเทศไทย แต่ไม่สามารถสังเกตปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ในไทย ซึ่งแนวการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงได้พาดผ่านทางตอนเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอาร์กติก ผ่านหมู่เกาะแฟโรของเดนมาร์ก และหมู่เกาะสฟาลบาร์ของนอร์เวย์ ส่วนบริเวณที่สามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วน ได้แก่ ทวีปยุโรป ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ตอนเหนือของทวีปแอฟริกา และด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย

เนื่องจากไม่สามารถสังเกตปรากฏการณ์ดังกล่าวได้จากเมืองไทย สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาาติ (สดร.) จึงส่งทีมไปศึกษาและเก็บข้อมูลปรากฏการณ์ ณ หมู่เกาะสฟาลบาร์ เมืองลองเยียร์เบียน ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการสังเกตสุริยุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ สามารถสังเกตคราสเต็มดวงได้นานถึง 2 นาที 28 วินาที พร้อมบันทึกภาพปรากฏการณ์กลับมาฝากคนไทย

พร้อมกันนี้ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้รวบรวมภาพปรากฏการณ์และบรรยากาศบางส่วนในพื้นที่ที่สังเกตเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงและบางส่วนจากสำนักข่าวต่างประเทศมานำเสนอ

http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032873

 

กรมวิทย์ฯ ระวังโรคลิชมาเนีย โรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย
Written by: กอง บก.ข่าวสังคม2015/03/19 4:16 PM



กรุงเทพฯ 19 มี.ค.- กรมวิทย์ฯ เผยโรคลิชมาเนีย เกิดจากโดนริ้นฝอยทราย (sand fly) กัด ซึ่งในประเทศไทยพบว่าเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่างจากในประเทศอื่นๆ โดยสายพันธุ์ไทยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Leishmania siamensis แนะประชาชนสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดเมื่อเข้าไปในสถานที่ที่คาดว่ามีริ้นฝอยทราย และดูแลบ้านให้เรียบร้อยปลอดจากสัตว์ฟันแทะ

นพ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า โรคลิชมาเนียเกิดจากการกัดของริ้นฝอยทราย (Sand fly) เพศเมียที่มีเชื้อลิชมาเนีย ทั้งนี้เชื้อก่อโรคลิชมาเนียเป็นโปรโตซัวในตระกูลลิชมาเนีย (Leishmania) ก่อโรคได้ทั้งในคนและสัตว์อีกหลายชนิด เช่น หนู สุนัข แมว ม้า วัว กระรอกและกระแต เป็นต้น ซึ่งลิชมาเนียมีมากกว่า 20 ชนิดที่สามารถทำให้เกิดโรคในคนได้ ทั้งนี้ ถือว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย เนื่องจากมีสารพันธุกรรมแตกต่างจากเชื้อลิชมาเนียในประเทศอื่นที่มีรายงานมาก่อน ทำให้เชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ หรือสายพันธุ์ไทยซึ่งให้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Leishmania siamensis โดยอาการแสดงของโรคลิชมาเนียสายพันธุ์ใหม่นี้มีทั้งอาการที่แสดงออกทางอวัยวะภายใน (Visceral leishmaniasis) แสดงอาการทางผิวหนัง (Cutaneous leishmaniasis) และแสดงอาการทั้งอวัยวะภายในร่วมกับอาการทางผิวหนัง เช่น มีไข้เรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ท้องอืด ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนังคล้ำและเกิดรอยโรคที่ผิวหนัง จากข้อมูลล่าสุดพบว่ามีเชื้อลิชมาเนีย 2 ชนิด ระบาดในประเทศไทย คือ ลิชมาเนียสายพันธุ์ไทย (L. siamensis) และลิชมาเนียที่พบในผู้ป่วยในเกาะมาร์ตินีก (Martinique Island) ซึ่งมีชื่อว่า L. martiniquensis และยังมีรายงานว่าพบการติดเชื้อในวัวและม้าในประเทศเยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกา โดยแสดงอาการที่ผิวหนังในสัตว์ด้วย

นพ.อภิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรคลิชมาเนียมีการระบาดในประเทศต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 74 ประเทศ เช่น ประเทศแถบตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา อเมริกากลาง และตอนเหนือของอเมริกาใต้ สำหรับประเทศไทยมีรายงานการพบโรคลิชมาเนีย 2 ช่วงคือ ในช่วงปี 2503-2529 เป็นการรายงานโรคในผู้ป่วยไทยที่เดินทางเข้าไปในแหล่งระบาดของโรคโดยเฉพาะผู้ที่ไปทำงานในประเทศ แถบตะวันออกกลาง และช่วงที่ 2 ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันมีรายงานโรคลิชมาเนียที่เกิดกับผู้ป่วยใน
ประเทศไทยที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศมาก่อน โดยพบทั้งในผู้ป่วยที่มีระดับภูมิคุ้มกันปกติ และผู้ป่วยที่มีระดับภูมิคุ้มกันบกพร่องโดยเฉพาะผู้ป่วยเอดส์ และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาสเตียรอยด์ ซึ่งสามารถพบผู้ป่วยได้ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ และพบผู้ป่วยชาวพม่าเดินทางมารับการรักษาในประเทศไทยอีกด้วย

สำหรับการป้องกันนั้น 1.ควรสวมใส่เสื้อผ้ารัดกุมมิดชิดขณะเข้าไปทำงานหรือพักค้างคืนในพื้นที่ที่คาดว่ามีริ้นฝอยทรายอาศัยอยู่ 2.ทายากันยุงในบริเวณผิวหนังที่อยู่นอกร่มผ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาและแขน 3.นอนกางมุ้งที่ชุบด้วยสารกำจัดแมลง 4.ฉีดพ่นสเปรย์กำจัดยุงและแมลงภายในบ้าน 5.ปรับปรุงดูแลบริเวณบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและทำให้ปลอดจากสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต ซึ่งเป็นเป็นแหล่งรังโรคที่สำคัญ 6.หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณที่พักอาศัยและให้สารกำจัดแมลงบนตัวสัตว์ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์.-สำนักข่าวไทย

กรมวิทย์ฯ ระวังโรคลิชมาเนีย โรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

กรีซรับปากยื่นแผนปฏิรูปให้เจ้าหนี้ยุโรป
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/03/20 11:18 AM



บรัสเซลส์ 20 มี.ค. – ทางการกรีซตกลงว่าจะส่งมอบแผนปฏิรูปชุดใหม่เพื่อให้ได้รับการจัดสรรเงินช่วยเหลือตามเป้าหมาย ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสของกรีซหารืออย่างเคร่งเครียดกับผู้นำประเทศยุโรป

แถลงการณ์ระบุว่า ผู้นำในการประชุมต่างเห็นพ้องที่จะผลักดันโครงการความช่วยเหลือทางการเงินอียู-ไอเอ็มเอฟที่มีให้กับกรีซให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อจัดสรรเงินทุนช่วยเหลือกรีซให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายและการเข้าสู่หายนะเมื่อต้องออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ผู้นำรัฐบาลพรรคฝ่ายซ้ายกรีซเข้าหารือเป็นเวลา 3 ชั่วโมงกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์แห่งฝรั่งเศส และผู้นำประเทศสหภาพยุโรป(อียู) ในการหารือนอกรอบการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในฐานะประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจรายใหญ่ที่สุดของยุโรปกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกรีซประกาศว่าจะนำเสนอแผนการปฏิรูปทางการเงินโดยเร็ว ก่อนหน้านี้ กลุ่มเจ้าหนี้กรีซตกลงกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่าจะขยายเวลาโครงการเงินกู้ 240,000 ล้านยูโรเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลกรีซจะต้องดำเนินมาตรการปฏิรูปทางการเงินอย่างเคร่งครัดตามสัญญา .- สำนักข่าวไทย

กรีซรับปากยื่นแผนปฏิรูปให้เจ้าหนี้ยุโรป | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

ไต้หวันงดจ่ายน้ำจากภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ
Written by: กอง บก.ข่าวต่างประเทศ2015/03/20 7:02 PM



ไทเป 20 มี.ค. – เจ้าหน้าที่ไต้หวันกล่าวว่า ไต้หวันกำลังเผชิญกับภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 10 ปีภายหลังจากปริมาณฝนตกน้อยที่สุดในรอบเกือบ 70 ปี ทำให้เมืองใหญ่บางแห่งต้องงดจ่ายน้ำ ขณะทางการต้องใช้มาตรการปันส่วนน้ำเป็นการฉุกเฉิน

รัฐบาลไต้หวันแถลงว่า จะลดการจ่ายน้ำยังครัวเรือนและภาคธุรกิจในเมืองไท่หยวนทางภาคเหนือและพื้นที่ส่วนใหญ่ในกรุงไทเปเป็นเวลา 2 วันต่อสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป กระทรวงเศรษฐกิจรายงานว่า สถานการณ์น้ำในไต้หวันถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในช่วงที่มีปริมาณฝนตกน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2490 และคาดว่าจะเผชิญภัยแล้งต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยร่วมมือกัน .-สำนักข่าวไทย

ไต้หวันงดจ่ายน้ำจากภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ | เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

 

'ไอเอส' ปักธงเอเชียอาคเนย์ มาเลย์-อินโดฯ จ่อลาม 'ไทย' : โดย...ทีมข่าวความมั่นคง วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2558



การรุกคืบขยายเขตปฏิบัติการ และลัทธิความเชื่อแบบ "สุดโต่ง" ของกลุ่ม Islamic State in Iraq and Syria (ISIS) หรือ "ไอซิส" หรือ "ไอเอส" สร้างความวิตกกังวลไปทั่วโลก เพราะในปัจจุบันนอกจากการพยายามปลูกฝังแนวความคิดสุดโต่งให้แก่แนวร่วมในตะวันออกกลาง และเอเชียกลางแล้ว

รายงานการข่าวของฝ่ายความมั่นคงในหลายประเทศยังระบุตรงกันว่า กลุ่มไอเอสมีความพยายามที่จะ "ปักธง" ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งเคยเป็นทั้งพื้นที่เคลื่อนไหว และพื้นที่เป้าหมายของกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือกลุ่ม "เจไอ"

ทั้งนี้ แต่เดิมกลุ่มไอเอสมุ่งมั่นที่จะปลูกฝังแนวความคิดแบบสุดโต่งให้กลุ่มเยาวชนในตะวันออกกลาง และเอเชียกลางเป็นหลัก โดยมีหลักฐานเชิงประจักษ์มากมาย เช่น การเผยแพร่ภาพการฝึกเด็กอายุประมาณ 10-13 ปี ที่มีการฝึกการป้องกันตัว และฝึกอาวุธในเขตอิทธิพลของกลุ่มไอเอสในพื้นประเทศซีเรีย

อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มไอเอสถูกสหรัฐอเมริกา และชาติพันธมิตรโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อสกัดการขยายอิทธิพลของกลุ่มไอเอส ดังนั้น กลุ่มไอเอสจึงพยายามที่จะขยายแนวร่วมไปยังภูมิภาคอื่นๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เคยมีกระแสข่าวว่า มีแนวร่วมบางส่วนเข้ามาร่วมรบกับกลุ่มไอเอสในซีเรียมาแล้ว

จากการข่าวดังกล่าวทำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสอย่างใกล้ชิดมากขึ้น หลังจากกลุ่มไอเอสเริ่มเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเป็นภาษามาเลเซีย และอินโดนีเซียมากขึ้น

ล่าสุด กลุ่มไอเอสเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มีเด็ก และเยาวชนอย่างน้อย 20 คนทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น เรียนหนังสือ สวดมนต์ กินอาหาร และฝึกอาวุธกับการป้องกันตัวในเขตที่ไอเอสยึดครองอยู่ โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวมีชื่อว่า "การศึกษาในคาลิฟะห์" โพสต์โดยฝ่ายสื่อภาษามาเลย์ของทางกลุ่ม ทั้งยังระบุด้วยว่า เป็นแค่วิดีโอตัวอย่าง ส่วนวิดีโอตัวยาวจะตามมาในภายหลัง

นอกจากนี้ ยังมีภาพชุดพิเศษที่ระบุว่า เป็นนักเรียนสถาบันอับดุลลาห์ อัซซัม อะคาเดมี ซึ่งใช้ภาษามาเลย์ในการเรียนการสอน และตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งบ่มเพาะของลูกหลานนักรบไอเอสจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง อับดุลลาห์ อัซซัม เป็นแกนนำทางความคิดที่ได้รับอิทธิพลมาจาก โอซามา บิน ลาเดน อดีตผู้นำอัลกออิดะห์ โดยสถาบันนี้ตั้งขึ้นเมื่อปีกลาย และเติบโตอย่างรวดเร็ว

ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยจึงจับตาความเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นพิเศษ เนื่องจากพื้นที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้กับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของไทยรายหนึ่งยอมรับว่า เมื่อกลุ่มไอเอสเปลี่ยนเป้าหมายมาในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงของไทยตื่นตัวกันมากขึ้น เพราะมีโอกาสที่กลุ่มไอเอสจะขยายฐานเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาหน่วยข่าวได้เกาะติดการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสมาตั้งแต่เคลื่อนไหวในตะวันออกกลาง และยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นหลังจากเริ่มปฏิบัติการอย่างโหดเหี้ยมมากขึ้นในระยะหลัง

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการรายงานข่าวว่า เด็ก และเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสที่มีการเผยแพร่เป็นคลิปวิดีโอภาษามาเลเซีย และอินโดนีเซีย

เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงคนเดิมย้ำว่า หน่วยข่าวความมั่นคงพยายามติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสอย่างใกล้ชิด ว่าจะเผยแพร่แนวความคิดเข้ามาในกลุ่มประเทศอาเซียน หรือในประเทศไทยหรือไม่ มีการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในเรื่องนี้มาตามขั้นตอนตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้องให้เกาะติดความเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

สำหรับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส ส่วนในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ค่อนข้างระวังเป็นอย่างมาก โดยมีการขอความร่วมมือมายังประเทศไทยให้ช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าจะมีการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเข้าไปยังมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งฝ่ายไทยพยายามที่จะตรวจสอบอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่พบการเคลื่อนไหว

“ทุกประเทศในอาเซียนประสานการข่าวอย่างใกล้ชิด โดยที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุด คือ การเผยแพร่ความคิดในโลกออนไลน์ ซึ่งยังมีอยู่ไม่มาก มีเพียงการโพสต์ข้อมูลที่ยังไม่เป็นเชิงอุดมการณ์ แต่มีการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนปฏิบัติการของกลุ่มไอเอส โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น แต่จากการตรวจสอบลึกลงไปยังไม่มีการชักชวนหรือปลุกระดมอะไรกัน”

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงของไทยแสดงความวิตกกังวลต่อการรุกคืบของกลุ่มไอเอสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะหาก "จุดติด" ขึ้นมาจะเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก จึงต้องตรวจสอบรายละเอียดในด้านต่างๆ อย่างเข้มข้น ทั้งในเรื่องการเผยแพร่แนวความคิด และการให้ทุนสนับสนุน หรือกลุ่มแนวร่วมต่างๆ แต่ยังไม่พบข้อมูลที่เชื่อมโยงโดยตรงกับกลุ่มไอเอส

------------------------

('ไอเอส' ปักธงเอเชียอาคเนย์ มาเลย์-อินโดฯ จ่อลาม 'ไทย' : โดย...ทีมข่าวความมั่นคง)

'

 

เหตุใดจึงไม่มีใครพูดถึงอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอล??
เรื่องเด่นประเด็นร้อนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - มี.ค. 16, 2015 960
เนทันยาฮูต้องการจะพูดถึงความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ทำไมไม่มีใครพูดถึงคลังแสงที่ไม่เป็นความลับของอิสราเอลเลย?



---
@(ภาพ) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แสดงภาพประกอบขณะที่เขาบรรยายถึงความกังวลต่อความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ระหว่างการกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติครั้งที่ 67 ที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็น
---

เมื่อเร็วๆนี้ นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้ไปที่วอชิงตันดีซี และปรากฏตัวต่อที่ประชุมร่วมของสภาคองเกรส –ไม่ใช่สภาเนสเซ็ท (Knesset)- เพื่อกล่าวปราศรัยถึงอันตรายจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน

เนทันยาฮูประกาศว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านก่อให้เกิดอันตรายอย่างชัดเจน และไม่ใช่แค่ต่อรัฐยิวที่เขาเป็นผู้นำเท่านั้น แต่เป็นอันตรายต่อภูมิภาคนี้ทั้งหมด รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วย

“วุฒิสมาชิกจากเทลาวีฟ” โดยนัยผู้นี้ ได้เตือนสภาคองเกรสด้วยน้ำเสียงดุดันว่า ข้อตกลงด้านนิวเคลียร์ที่วอชิงตันและเตหะรานกำลังแก้ไขร่วมกันเพื่อปัดเป่าสงครามระหว่างกันนั้นเป็นข้อตกลงที่เลวร้าย อันจะปล่อยให้อิหร่านเข้าใกล้การครอบครองระเบิดนิวเคลียร์อย่างไม่อาจยอมรับได้

จากการคิดคำนวณของเขา ด้วยโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการผลิตนิวเคลียร์ที่ข้อตกลงของวอชิงตันน่าจะยอมให้อิหร่านเก็บไว้นั้น เนทันยาฮูคาดว่าอิหร่านจะสามารถสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้ภายในหนึ่งปีหรือน้อยกว่านั้น

“นี่เป็นข้อตกลงที่เลวร้าย เลวร้ายมากๆ” เนทันยาฮูขึ้นเสียงสูง “เราไม่มีมันเสียจะดีกว่า”

ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครคือ “เรา” ที่เนทันยาฮูอ้างถึง เมื่อเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันระดับหนึ่งระหว่างผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และอิสราเอล แต่ถึงกระนั้น สารที่นายกรัฐมนตรีพยายามจะสื่อออกไปนั้นจะง่ายต่อการทำความเข้าใจ : อิหร่านเป็นชาติที่ขี้โกงและโกหกจนไม่สามารถเชื่อถือได้เลยไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ”



ปัญหาสำคัญคาตา ที่ทุกฝ่ายเลี่ยงทำทีไม่รู้ไม่เห็น

-----
@NAHOST ATOM(ภาพ) ศูนย์เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โซเรคของอิสราเอล ใกล้ศูนย์กลางเมืองยาฟเน่ของอิสราเอล
-----
เนทันยาฮูไม่ได้กล่าวถึงเลย และในสื่อสหรัฐฯ ที่พูดถึงคำปราศรัยนี้เกือบทั้งหมดก็ไม่ได้ระบุถึงโครงการนิวเคลียร์ของอิสราเอลเองเลย ที่จริงแล้ว ถึงแม้ว่าอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอลจะไม่ได้ถูกเปิดเผย และรัฐนี้ไม่ได้เป็นผู้ลงนามในสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ แต่การครอบครองอาวุธเหล่านี้ของอิสราเอลก็เป็นความลับที่ “โจ่งแจ้ง” มาตั้งปี 1980 แล้ว เมื่อช่างเทคนิคนิวเคลียร์ระดับล่างของอิสราเอลที่ชื่อ มร์เดชัย วานูนู ได้ให้รายละเอียดของโครงการนี้แก่หนังสือพิมพ์อังกฤษฉบับหนึ่ง วานูนูถูกจับกุม ถูกพิจารณาคดีในศาลลับ และถูกตัดสินว่ากระทำความผิด เขาต้องถูกจำคุก 18 ปี โดยถูกขังเดี่ยว 11 ปี

สิ่งที่วานูนูเปิดเผยต่อสาธารณะเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางในวงการเจ้าหน้าที่มานานหลายปีและในปี 1987 กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ระบุว่า “ในเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีนิวเคลียร์ อิสราเอลเป็นที่ที่สหรัฐฯ เข้าไปเกี่ยวข้องในด้านอาวุธนิวเคลียร์ฟิชชั่นประมาณปี 1955-1960” กระทรวงกลาโหมยังกล่าวต่อไปว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เชื่อว่าอิสราเอลกำลังดำเนินการเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็นเพื่อผลิตระเบิดไฮโดรเจน ซึ่งปัจจุบันเชื่อกันว่ามีอยู่ในคลังแสงของอิสราเอล ถึงแม้ว่าการประมาณขนาดของรายการอาวุธของอิสราเอลจะมีหลากหลาย การคำนวณที่น้อยที่สุดอยู่ที่ 75 ชิ้น และสูงสุด 400 ชิ้น โดยที่ส่วนใหญ่แล้วระบุว่าอยู่ระหว่าง 100-200 หัวรบ

สถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสต๊อกโฮล์ม ให้ตัวเลขประมาณการที่อาจจะดีที่สุด ซึ่งระบุว่าอิสราเอลมีอาวุธนิวเคลียร์ 80 ลูก และวัตถุดิบเพียงพอที่จะผลิตเพิ่มอีกมากมาย โดย 50 ลูกจาก 80 ลูกนั้น ถูกปรับใช้กับขีปนาวุธพิสัยกลาง Jericho II และอีก 30 ลูกที่เหลือคือระเบิดแรงโน้มถ่วงที่ขนส่งโดยเครื่องบิน ยังมีการคาดเดาว่าอาวุธบางส่วนของอิสราเอลอยู่ในทะเลบนเรือดำน้ำดอลฟินลำใหม่ของมัน ซึ่งหมายความว่า อิสราเอลไม่เพียงแค่มีอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังมีขีปนาวุธ เครื่องบินทิ้งระเบิด และเรือดำนำที่ใช้การอย่างเต็มที่ทั้งสามเหล่าทัพ กล่าวได้ว่า อิสราเอลไม่เพียงแต่มีกำลังรบนิวเคลียร์ที่ใหญ่เท่าหรือใหญ่กว่าของเกาหลีเหนือ ปากีสถาน หรืออินเดีย แต่เป็นกำลังรบที่อาจจะใกล้เคียงกับของสหราชอาจักร ในด้านของขนาดและความช่ำชอง



ประวัติเกี่ยวกับระเบิดของอิสราเอล

ขณะที่มีการถกเถียงกันในเรื่องขนาดของคลังแสงของอิสราเอลนั้น วิธีการที่อิสราเอลได้ระเบิดนี้มาในครั้งแรกเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว มันเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังจากเกิดรัฐอิสราเอล เดวิด เบน-กูเรียน ได้กำหนดภารกิจทางวิทยาศาสตร์ให้แก่ประเทศของเขาด้วยการสร้างสิ่งที่เรียกว่า “ระเบิดในห้องใต้ดิน” ทางเลือกสุดท้ายที่จะช่วยป้องกันความพ่ายแพ้ต่อกองทัพอาหรับ เงินทุนที่รวบรวมจากต่างประเทศ รวมทั้งเงินช่วยเหลือจากชาวยิวที่มอบให้แก่รัฐอิสราเอล ถูกส่งให้แก่โครงการนี้ และนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของอิสราเอลได้รับคำสั่งให้หาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างชาติเกี่ยวกับวิธีการผลิตระเบิด

ความพยายามที่ดีที่สุดในเรื่องนี้เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ด้วยความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างกระทรวงกลาโหมของอิสราเอลและฝรั่งเศส ทำให้นักวิทยาศาสตร์อิสราเอลสามารถเข้าถึงสถานที่ค้นคว้าวิจัยนิวเคลียร์ของฝรั่งเศสได้ ความสัมพันธ์นี้ยังนำไปสู่การซื้ออาคารเตาปฏิกรณ์ไดโมนา อันที่จริง ในช่วงปลายสมัย 1950s ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคชาวฝรั่งเศสมากกว่า 2,500 คน ได้มาอยู่ที่ที่ตั้งเตาปฏิกรณ์แห่งนี้ และปฏิบัติงานอยู่หลังผ้าคลุมความลับที่แน่นหนาจนคนงานถูกห้ามไม่ให้เขียนจดหมายถึงญาติพี่น้องเพื่อไม่ให้บอกตำแหน่งที่อยู่ของพวกเขาออกไป เมื่อถูกตั้งคำถามจากอังกฤษและอเมริกา อิสราเอลอ้างว่าไดโมนาเป็นสถาบันค้นคว้าวิจัยทุ่งหญ้า หรือโรงงานแปรรูปแร่แมงกานีส อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ชาร์ลส์ เดอ โกลล์ เข้ารับตำแหน่งในปี 1959 ความเป็นพันธมิตรด้านนิวเคลียร์ระหว่างฝรั่งเศสกับอิสราเอลเกิดเย็นชาลง แต่ไม่ก่อนที่อิสราเอลจะสามารถได้รับวัตถุดิบและความชำนาญอย่างเพียงพอในการเริ่มโครงการอาวุธของตัวเองได้อย่างอิสระเต็มที่

เพื่อประสบความสำเร็จ อิสราเอลจะต้องเอาชนะสิ่งที่อาจจะเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดในการได้มาซึ่งอาวุธนิวเคลียร์ นั่นก็คือ สหรัฐฯ ต้องไม่ลืมว่าในปีแรกๆ ของสงครามเย็น อิสราเอลและสหรัฐฯ ไม่ได้มีความใกล้ชิดกันเหมือนที่เป็นอยู่ปัจจุบัน อิสราเอลถูกมองอย่างดีที่สุดก็ในฐานะเป็นตัวก่อความรำคาญ และเป็นตัวสนับสนุนทางการเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครท อย่างแฮร์รี่ ทรูแมน และในสมัยของดไวท์ ดี ไอเซ่นฮาวร์ สหรัฐฯ มักจะมีท่าทีเป็นปฏิปักษ์ ที่จริงแล้วไอเซ่นฮาวร์ไม่เพียงแต่คัดค้านการเข้าร่วมของอิสราเอลในวิกฤตกาลสุเอซปี 1956 แต่ยังบังคับให้อิสราเอล รวมทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส ถอยออกไปจากการรุกรานอียิปต์

แม้จะไม่เคลือบแคลงสงสัยในประโยชน์ที่จะได้รับจากการเป็นพันธมิตรของอิสราเอลเท่าไอเซ่นฮาวร์ แต่จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ก็ยังเข้มงวดกวดขันกับอิสราเอลในเรื่องความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์เนื่องจากประสบการณ์ที่เขาได้รับในช่วงวิกฤตกาลขีปนาวุธของคิวบา เมื่อเห็นความจำเป็นที่จะต้องผลักดันเรื่องภัยคุกคามจากสงครามนิวเคลียร์หลังจากเกือบจะเรียกเช่นนั้นกับวิกฤตคิวบา เคนเนดี้ได้เสนอสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นแก่โลก และผลักดันให้ประเทศต่างๆ ลงนาม จากข้อบังคับต่างๆ ในสนธิสัญญาฉบับนี้ มีการตรวจตราอย่างจริงจังเพื่อให้แน่ใจว่า โรงงานนิวเคลียร์ที่มีอยู่ในประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์จะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอาวุธ

ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะรับรู้เกี่ยวกับโรงปฏิกรณ์ไดโมนาของอิสราเอลในปี 1958 เมื่อเที่ยวบิน U2 และการประเมินในพื้นที่สังเกตเห็นว่าอิสราเอลกำลังทำอะไรอยู่ การตรวจตราที่เคนเนดี้ถนัดได้เปิดเผยว่าอิสราเอลกำลังทำอะไรอยู่ ในที่สุดอิสราเอลยอมให้ผู้สังเกตการณ์เข้ามา แต่ปรากฏว่าการที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของสหรัฐฯ ได้เข้าไปสัมผัสและทดสอบโรงปฏิกรณ์ไดโมนาเป็นเรื่องละครตบตา ทีมของอเมริกาเป็นผู้นำหน้าในเกือบจะทุกด้านโดยการใช้กลเม็ดที่ผู้ตรวจสอบอาวุธของยูเย็นในขณะนั้นต้องยอมรับเป็นความพยายามที่ทำให้มึนงง รบกวนใจ และฉ้อโกง



การยอมรับระเบิดของอิสราเอล

เนื้อร้องและจังหวะเต้นนี้ดำเนินต่อไปกับคณะบริหารที่เหลือของเคนเนดี้ จนกระทั่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของลินดอน จอห์นสัน ผู้สนับสนุนอิสราเอลตัวยง เขาก็เหมือนกับทรูแมน ที่ใช้การสนับสนุนอิสราเอลมาเป็นเครื่องค้ำจุนทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมอสโครุกล้ำเข้ามาในอียิปต์และซีเรีย และมีท่าทีว่าจะเกิดสงครามระหว่างอาหรับกับอิสราเอลมากยิ่งขึ้น สหรัฐฯ และประเทศตะวันตกอื่นๆ ตัดสินใจที่จะมองไปอีกด้านหนึ่ง และยินยอมให้อิสราเอลสร้างระเบิดของตนขึ้นมา เมื่อถึงปี 1967 ก่อนจะเริ่มต้นสงครามหกวัน มีความเชื่อกันว่าการยินยอมให้อิสราเอลสะสมวัสดุฟิซไซล์อย่างลับๆ จนเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ดิบขึ้นมาก่อนที่จะเกิดสงครามในวันที่ 5 มิถุนายนปีนั้น

ถึงแม้ว่าชัยชนะของอิสราเอลในสงครามครั้งนั้นจะรับประกันว่าระเบิดของมันจะไม่ถูกนำมาใช้ แต่ความกลัวว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากับอีกระหว่างอิสราเอลกับศัตรู ทำให้อิสราเอลเดินหน้าโครงการเพื่อผลิตอาวุธนิวเคลียร์จำนวนมากให้เร็วที่สุด อุปสรรคใหญ่ที่สุดในการเพิ่มขนาดคลังแสงของอิสราเอลได้ผ่านพ้นไปในปี 1968 โดยผ่านปฏิบัติการที่กล้าหาญในการขโมยยูเรเนียมเข้มข้น (เค้กเหลือง) มากถึง 200 ตัน จากบริษัทเหมืองแร่เบลเยี่ยมแห่งหนึ่ง ที่มอสสาดใช้ปฏิบัติการที่ซับซ้อน ส่งมาจากเมืองแอนท์เวิร์ปไปยังเจนัว แล้วส่งต่อไปยังอิสราเอล

อันที่จริงแล้ว ชาวเบลเยียมไม่ใช่ผู้เดียวที่ถูกขโมย ในบันทึกเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของอิสราเอลที่เฮนรี่ คิสซิงเจอร์จัดเตรียมให้แก่ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน คิสซิงเจอร์ระบุว่า โครงการนิวเคลียร์ของอิสราเอล “เป็นโครงการที่อิสราเอลหลอกลวงมาโดยตลอด และอาจจะขโมยไปจากเรา” ในปี 1976 คาร์ล ดักเก็ตต์ รองผู้อำนวยการซีไอเอ แจ้งต่อคณะกรรมการควบคุมนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ว่า ซีไอเอสงสัยว่ายูเรเนียมเสริมสมรรถนะสูงประมาณ 200-600 ปอนด์ ถูกอิสราเอลขโมยไปจากโรงงานแปรรูปของบริษัทนิวเคลียร์ แมทีเรียลส์ แอนด์ อีควิปเมนท์ คอร์โปเรชั่น ในเพนซิลวาเนีย

ในที่สุด ด้วยการยอมรับความล้มเหลวของตัวเอง ทำเนียบขาวภายใต้การนำของจอห์นสัน และต่อมานิกสัน ได้สร้างระบอบการปกครองแห่งการโกหกอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิสราเอลด้วยการทำให้อิสราเอลสัญญาว่าจะเป็นชาติแรกที่ “ไม่นำเข้า” อาวุธนิวเคลียร์มาในตะวันออกกลาง ซึ่งอิสราเอลตกลงว่าจะไม่ทดสอบอาวุธอย่างเป็นทางการ และไม่ระบุอย่างเป็นทางการว่ามีอาวุธเหล่านั้นไว้ในครอบครอง ความปรองดองกันครั้งนี้เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิสราเอล เมื่อนิกสันได้พบกับโกลดา เมอีร์ หลังการแทรกแซงของสหรัฐฯ ในสงครามโยม คิปปูร์ ซึ่งมันอาจถูกบีบด้วยสถานการณ์ล่อแหลมของอิสราเอล และคำขู่ของอิสราเอลว่าจะใช้ระเบิดเพื่อป้องกันความพ่ายแพ้ในสมรภูมิ

คนขี้โกงก็คือคนขี้โกงอยู่วันยังค่ำ

“ในบริบทของสงครามเย็น ที่ซึ่งการกระทำของอิสราเอลต่อบริวารของโซเวียต อาจบีบให้มอสโคโต้ตอบกลับด้วยนิวเคลียร์ -อันเป็นการโต้ตอบที่จะนำไปสู่การปะทะกับสหรัฐฯ และพันธมิตรอื่นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้- ด้วยเหุตนี้เอง ทำให้อเมริกาลุกขึ้นปกป้องอิสราเอลอย่างเป็นที่สังเกตได้ เพื่อไม่ให้อิสราเอลถูกบีบให้ใช้อาวุธที่มีอยู่ อันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ลูกโซ่ขึ้น ซึ่งก็เกือบจะเกิดขึ้นจริงๆ ในปี 1973 สหรัฐฯอาจจะให้เอกสิทธิ์แก่ผลประโยชน์ของอิสราเอลอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในตะวันออกกลาง ที่แม้จะเป็นเช่นนี้แล้ว สหรัฐฯก็ยังไม่วายปล่อยให้ความไม่มั่นคงมีอยู่ต่อไปในภูมิภาคนี้พร้อมกับนิวเคลียร์ที่เก็บเป็นความลับตลอดระยะเวลาของความขัดแย้งระหว่างอเมริกากับสหภาพโซเวียต

แต่ตรรกะเดียวกันนี้ยังมีอำนาจอยู่ไหมในปัจจุบันนี้? ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ ยังคงเย็นชา แต่ระดับความผูกมัดที่ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของอเมริกาและรัสเซียมีต่อชะตากรรมของรัฐบริวารในตะวันออกกลางของตนนั้นมีน้อยกว่าที่เคยเป็นอยู่มาก นอกจากนั้น คำรับรองความมั่นคงของอเมริกาก็ให้ประโยชน์กับอเมริกาน้อยมาก การให้ความคุ้มครองต่ออิสราเอลเพื่อแลกเปลี่ยนกับการนิ่งเงียบเกี่ยวกับนิวเคลียร์ สหรัฐฯ ได้รับน้อยมาก แต่ความหัวแข็งของอิสราเอลในประเด็นที่เกี่ยวกับปาเลสไตน์ และแทบจะไม่ช่วยอะไรกับประเด็นสำคัญอื่นๆ ในภูมิภาคเลย ที่จริงแล้ว การปกป้องอิสราเอลอย่างมากของอเมริกาทำให้สหรัฐฯ เป็นที่เกลียดชังอย่างกว้างขวางในภูมิภาคนี้ ดังนั้น สัมพันธมิตรของสหรัฐฯ กับอิสราเอลจึงเป็นเหมือนถนนทางเดียวที่อเมริกาได้รับผลประโยชน์น้อยมาก

ดังนั้น เมื่อคุณเปิดข่าวมาเห็นเนทันยาฮูพูดถึงอันตรายของข้อตกลงที่เลวร้าย และภัยคุกคามจากรัฐนิวเคลียร์ที่ขี้โกง ก็ขอให้เข้าใจว่าเขารู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร ท้ายที่สุด ประเทศของเขามีประสบการณ์ในการหลอกลวงผู้สังเกตการณ์ และการโกหกต่ออเมริกาเกี่ยวกับเจตนารมณ์ด้านนิวเคลียร์ และอิสราเอลยังได้ขโมยวัสดุนิวเคลียร์และฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศมากมายเพื่อสร้างห้องทดลองและคลังแสงเก็บอาวุธนิวเคลียร์ลับขึ้น ถ้าเรื่องที่ปรากฏออกมาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1973 เป็นสิ่งที่ถูกต้อง อิสราเอลถึงกับขู่ว่าจะใช้นิวเคลียร์เพื่อให้ได้ตามใจ ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ บางคนอาจจะสงสัยว่า อิสราเอลจะไม่สอนบทเรียนแก่อิหร่านเกี่ยวกับศิลปะการปกครองประเทศในด้านนี้โดยเฉพาะสักบทสองบทหรือ!!



———

By Jeffrey Cavanaugh
Source Why Isn't Anyone Talking About Israel's Nukes?
แปล/เรียบเรียง กองบก.เอบีนิวส์ทูเดย์

TWITTER FACEBOOK

 

คุณสมบัติของโดรนอเมริกา ที่ถูกกองทัพซีเรียสอยร่วง
เกาะติดสถานการณ์ซีเรียตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - มี.ค. 18, 2015



นักท่องโลกออนไลน์ในซีเรีย มีการเผยแพร่คุณสมบัติของโดรนอเมริกา ที่ถูกกองทัพซีเรียสอยร่วง

อัลอาลัม – โดรนของสหรัฐอเมริกาที่ถูกสอยร่วง เป็นโดรนรุ่นที่สอง ชื่อ “Pradtvr ” โดรนดังกล่าวสร้างขึ้นโดยบริษัท Aeronautical Systems ของอเมริกา

จากชิ้นส่วนของโดรนดังกล่าว มันเป็นเครื่องยนต์ ชนิด Rotax สร้างขึ้นมาจากบริษัทแห่งหนึ่งของอเมริกา

ลักษณะของหางของโดรนดังกล่าวบ่งชี้ว่า เป็นโดรนรุ่น MQ-١B. ซึ่งมีความแตกต่างกับโดรนรุ่นก่อน คือ MQ-١A.
โดรนลำนี้สามารถบินอย่างต่อเนื่องได้ถึง 40 ชั่วโมง

มี ความเร็วเฉลี่ย 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและความเร็วสูงสุด 217 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดรนรุ่นนี้สามารถติดตั้งขีปนาวุธ Hellfire ได้สองลูก เพื่อใช้โจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินที่เคลื่อนไหวและชนิดยานเกราะต่างๆ

โดรนรุ่นนี้ โดยใช้งบประมาณในการสร้างประมาณลำละ 20 ล้านดอลลาร์

อเมริกานำโดรนรุ่นนี้มาใช้เมื่อปี 2005 ในการโจมตีปฏิบัติการ ในอัฟกานิสถาน อิรัก ซีเรียและเยเมน
โดรนรุ่นนี้ถือเป็นโดรนรุ่นแรกที่ถูกสอยร่วง

อนึ่ง เมื่อวันที่18 มี.ค.ว่า กองทัพซีเรียได้ยิงโดรน อากาศยานไร้คนขับของสหรัฐตกที่บริเวณลาตาเกียจังหวัดแถบชายฝั่งซึ่งเป็นฐานที่มั่นของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ส่วนสำนักข่าวซานาในซีเรียรายงานเกี่ยวกับโดรนสหรัฐถูกยิงตกด้วยฝีมือของกองกำลังป้องกันทางอากาศซีเรีย

คุณสมบัติของโดรนอเมริกา ที่ถูกกองทัพซีเรียสอยร่วง | abnewstoday

 

Kaokala Fc
19 มี.ค. ญี่ปุ่นทำสำเร็จ ส่งพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สายด้วย 'คลื่นไมโครเวฟ'



สำนักงานเพื่อการสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น (แจ๊กซา) เปิดเผยว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการส่งผ่านพลังงานแบบไร้สายโดยอาศัยคลื่นไมโครเวฟ ด้วยการส่งพลังงานไฟฟ้าขนาด 1.8 กิโลวัตต์ ผ่านอากาศโดยอาศัยคลื่นไมโครเวฟไปยังอุปกรณ์รับพลังงานที่อยู่ห่างออกไป 52 เมตร ได้สำเร็จ

แม้ระยะห่างเพียง 52 เมตรไม่ถือว่ามากมาย แต่ความสำเร็จในการส่งพลังงานไฟฟ้าครั้งนี้ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาระบบผลิตกระแสไฟฟ้าในห้วงอวกาศด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ แล้วส่งกลับมาสู่อุปกรณ์จัดเก็บพลังงานไฟฟ้าที่อยู่บนพื้นผิวโลก ขั้นตอนการส่งกลับมาดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคสำคัญในเรื่องนี้ หลังจากที่ดาวเทียมและยานอวกาศทั้งหลายสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้มากมายมานานแล้ว ขาดแต่วิธีการจัดส่งพลังงานเหล่านั้นกลับมาสู่โลกเท่านั้นเอง

แจ๊กซามุ่งเน้นศึกษาวิจัยทางด้านนี้อย่างต่อเนื่องมานานหลายปี โดยหวังว่าจะสามารถสร้าง "โซลาร์ฟาร์ม" ขึ้นในห้วงอวกาศ ที่สามารถผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ตลอดเวลาเพราะไม่มีอะไรปิดบัง จากนั้นก็ส่งกลับมายังโลก อย่างไรก็ตามแจ๊กซายอมรับว่ากว่าจะเปลี่ยนความสำเร็จในการทดลองครั้งนี้ให้ใช้งานได้จริงคงต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี

ญี่ปุ่นทำสำเร็จ ส่งพลังไฟฟ้าด้วยไมโครเวฟ : มติชนออนไลน์

 

ลอร์ด เซย์เรน
ดวงอาทิตย์เข้าสู่ช่วงเสี่ยงก่อพายุสุริยะรุนแรงที่สุด (จริงๆ) ประจำวัฎจักรแล้ว ...!!?



*ลงเมื่อ 18 มีนาคม พ.ศ.2558

......กราฟสถิติ Ap-index หรือ กำลังของลมสุริยะ (หมายถึงพายุสุริยะด้วย) แสดงค่าเฉลี่ยที่มักจะสูงขึ้นหลัง Solar maximum ประมาณ 1-4 ปี (แล้วแต่วัฎจักร จะคลาดเคลื่อนบ้าง) ซึ่งวัฎจักร 24 หลังความผิดปกติของ polar field (สนามแม่เหล็กบริเวณขั้วดาว) มีกำลังอ่อน และ ทวีกำลังไม่เป็นระลอกคงที่ดังวัฎจักรที่ผ่านมา ทำให้คาดการณ์โดยวิธีเก่ายากขึ้น (วิธีของ Dr.david hathaway ที่มักประเมินจาก คลื่นวิทยุ)

แต่ปัจจุบัน ได้ผ่านเลยเวลาของ solar maximum ไปแล้วตามข้อมูลที่ปรากฎ ณ เวลา ปัจจุบัน เนื่องจากพบแถบพื้นที่สนามแม่เหล็กใต้ ในขั้วดวงอาทิตย์ด้านใต้ เริ่มส่งอิทธิพลต่อ สนามแม่เหล็กใน heliosphere จากการสังเกตุ โคโรน่าของดวงอาทิตย์ โดยเหตุการณ์นี้ถูกจับตามาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2558 โดยดูพฤติกรรมการขยับตัวของโพรงโคโรน่า (corona hole) ที่มีสนามแม่เหล็กขั้วใต้ เริ่มเคลื่อนไปรวมตัวกันที่ขั้วใต้ของดวงอาทิตย์

** การคาดการณ์ตามกราฟ Ap-index นั้นไม่ได้บอกได้แน่นอนว่าพายุสุริยะจะเกิดวันไหน แต่รู้แค่ เกิดในช่วง 1-4 ปี หลัง solar maximum ทุกๆวัฎจักรแน่นอน ในวัฎจักร 24 นี้คือ ปี พ.ศ.2557 ปลายปี ไปจนถึง พ.ศ 2560 โดยประมาณ

heliosphere = อาณาบริเวณของสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์ที่กินพื้นที่ไปถึงรอบนอกระบบสุริยะ ซึ่งเป็นขอบสนามแม่เหล็กดวงอาทิตย์)

credit ข้อมูล : http://users.telenet.be/j.janssens/SC24web/SC24.html…

 

ปอกเปลือก ทรราช
นาวิกโยธินสหรัฐฯปลดผู้บัญชาการด้านการสื่อสารยุทธศาสตร์ทางอากาศปีก1หลังสืบสวนลับ (กับข่าวลือเพราะฝ่าฝืนคำสั่งโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธนิวเคลียร์)



---------------
สื่อฯฝั่งรัสเซียและสื่อฯอื่นๆพาดหัวข่าวตามที่แปลให้ดูด้านบนนั่นแหละครับ ข่าวนี้มีความสำคัญหรือน่าสนใจอย่างไรถึงเอามานำเสนอให้อ่านกัน ก็เมื่อวันสองวันนี้มีข่าวปรากฎตามหน้าสื่อฯต่างประเทศและในอินเตอร์เน็ทลือสะพัดว่า สาเหตุที่กองทัพสหรัฐฯสั่งปลดนายทหารระดับสูงในครั้งนี้ซึ่งก็คือกัปตัน Heather E. Cole มันเกี่ยวกับเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ อันนี้ก็ไม่เชิงว่าเกี่ยวจริงๆ หรือโดยตรง แต่ที่ลือหนักไปกว่านั้นก็คือลือว่าเพราะกัปตัน Heather Cole ฝ่าฝืนคำสั่งของโอบามาให้ยิงอาวุธนิวเคลียร์ถล่มรัสเซียในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ อันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ในยูเครนตะวันออก ข่าวลือนี่มันน่ากลัวจริงๆนะ
มาดูความจริงเท่าที่เปิดเผยต่อสาธารณชนบ้างว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่นะครับ เริ่มที่ตัวบุคคลก่อนนะ กัปตันฮีตเธอร์ โคล (เป็นผู้หญิง) ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการด้านการสื่อสารทางยุทธศาสตร์ปีก1 ของกองทัพนาวิกโยธินของสหรัฐฯ (Navy's Strategic Communications Wing 1) มีศูนย์บัญชาการอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Tinker ในโอคลาฮามา (Oklahoma) ประเทศสหรัฐฯอเมริกา
เธอถูกตรวจสอบในทางลับ และถูกเรียกสอบสวนโดยกองทัพจากนั้นก็มีคำสั่งปลดเธอออกจากตำแหน่งด้วยข้อหา "ไม่ดำเนินการตามมาตรฐานระดับสูงตามที่ได้รับคำจากผู้บังคับบัญชา" แปลเป็นภาษาชาวบ้านตามที่สื่อฯเขาลงมานั้นก็คือหย่อนยาน (ระเบียบวินัย) ในการปฏิบัติหน้าที่ ตอนนี้ถูกย้ายไปทำหน้าที่ชั่วคราวที่สถานีแห่งหนึ่งของนาวิกโยธินในซานดิเอโก เพื่อรอผลของการสอบสวน ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากกัปตัน Heather Cole เกี่ยวกับกรณีนี้
สาเหตุและเงื่อนงำที่แท้จริงของการปลดเธอในครั้งนี้ก็ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าเธอกระทำความผิดอะไรกันแน่ ถ้าให้สันนิษฐานในการเอาผิดในครั้งนี้ก็จะคล้ายๆกับกรณีของจีนที่พอปลดนายทหารระดับสูงในกองทัพก็จะบอกแต่เพียงว่าฝ่าฝืนวินัยของพรรค ซึ่งจริงๆแล้วเหตุผลในการปลดนั้นก็มีหลายอย่าง อาจจะเป็นการขัดขืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยตรงก็ได้ แต่ที่รู้กันโดยทั่วไปก็คือมีความเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตคอรัปชั่น นี่คือในกรณีของจีนนะครับ แต่ในกรณีของกัปตันโคลนี้คงไม่ใช่เรื่องคอรัปชั่น แต่มันเป็นเรื่องภายในของกองทัพเรือสหรัฐฯนั่นแหละ
คราวนี้มาดูความเป็นไปได้ว่า ด้วยตำแหน่งผู้บัญชาการด้านการสื่อสารของเธอนี่สามารถออกคำสั่งยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ถล่มรัสเซียหรือประเทศอื่นหรือยิงทดลองเล่นๆได้ด้วยหรือ?
หน่วยที่เธอสังกัดอยู่นี่มีความรับผิดชอบอยู่ 2 ภารกิจใหญ่ๆด้วยกันคือ 1.) เกี่ยวกับการสื่อสารด้านยุทธศาสตร์ที่รายงานต่อหน่วย AIRFOR ในด้านแมนนิ่งและฝึกอบรมให้กับหน่วยอากาศยาน E-6B Mercury ซึ่งมีหน้าที่ประสานงานระหว่าง "อำนาจบัญชาการแห่งชาติ" (national command authority) กับหน่วยขีปนาวุธนิวเคลียร์ของนาวิโยธินสหรัฐฯ กล่าวคือทำหน้าที่สนับสนุนด้านการสื่อสารระหว่างประธานาธิบดีกับหน่วยอาวุธนิวเคลียร์ ในกรณีนี้ทางกองทัพสหรัฐฯบอกว่ากัปตันโคลไม่ได้มีบทบาทอะไรในเกี่ยวกับเรื่องอาวุธนิวเคลียร์เลย เป็นเพียงผู่ส่งข่าวจากหน่วยงานหนึ่งไปยังอีกหน่วยงานหนึ่งเพียงเท่านั้น เป็นเมสเซนเจอร์ว่างั้นเถอะ
ส่วนภาระกิจที่ 2.) ก็คือ SCW 1 (Strategic Communications Wing 1) เป็นหน่วยบัญชาการด้านการบริหาร ตอบสนองต่อผู้บัญชาการด้านทัพอากาศของนาวิกโยธิน (Commander Naval Air Forces) ในด้านแมนนิ่ง (manning) ฝึกอบรมเสริมให้กับนาวิกโยธินที่รับผิดชอบต่อคำสั่งนิวเคลียร์และควบคุมด้านการสื่อสารสามฝ่ายเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศ (Task Force 124)
เท่าที่ลองเช็คดูก็มีประมาณนี้แหละครับ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรัสเซียด้วย? ดูจากที่ว่ามาข้างบนนี้ก็ไม่เห็นว่าตำแหน่งหรืออำนาจของกัปตันโคลจะเกี่ยวกับการยิงนิวเคลียร์ใส่รัสเซียตรงไหนเลย แต่ที่มีคนกำลังจะทำให้มันเกี่ยวนี่ก็เขาเอาเขียนเป็นตุเป็นตะ ใส่ไข่ซะมันหยดติ๋งเลยหละ ลองตามเข้าไปอ่านแล้ว ยอมรับเลยว่าฝีมือการเขียนและการมโนของคนๆนี้นี่ชั้นยอด ไม่ธรรมดาครับ เป็นผู้หญิง (Sorcha Faal) มีเว็บไซต์ชื่อ "whatdoesitmean" ตามลิงค์ที่ให้ไว้ข้างล่างบทความนี้ ลักษณะการเขียนการวิเคราะห์ของเธอจะคล้ายๆกับสื่อฯของไทยเราบางคนที่สื่อฯไทยมักจะเรียกว่า "นักข่าวสายทหาร" นั่นแหละ ออกแนวเดียวกันมโนใส่ไข่ได้สุดติ่งจริงๆ นำหน้าของไทยเลยหละ
เธอเขียนหลายเรื่องและเกี่ยวกับหลายประเทศ คิดว่าน่าจะมีทีมงานหลายคนอยู่นะ เท่าที่กวาดตาดูคร่าวๆจะออกแนว... ประมาณว่าจะเกิดเรื่องร้าย สงครามโลกครั้งที่3 หายนะครั้งยิ่งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้แล้ว ก็ไม่ได้บอกว่าเขาโกหกนะ มันเป็นแบบเรื่องจริงปนมโนอ่ะ เอาข่าวมาขยายต่อให้ดูน่าสะพึงกลัวมากขึ้น สำหรับผู้ที่ชอบแนวนี้ก็เชิญที่เว็บของเธอได้เลย
ตอนแรกก็นึกว่าเป็นสงครามข่าวจากสื่อฯฝั่งรัสเซียเพื่อเอาคืนฝั่งตะวันตก แต่ดูแล้วสื่อฯรัสเซียเขาไม่ได้เน้นว่าจะถล่มรัสเซียนะ อ่านดูแล้วไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ปรากฎในเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นเลย จึงมองว่าเรื่องนี้ (สหรัฐฯเตรียมยิงนิวเคลียร์ใส่รัสเซีย) เป็นเพียงข่าวลือปั้นข่าว ส่วนข่าวจริงๆนั้นก็คือปลดกัปตันด้านการสื่อสารของนาวิกโยธินของสหรัฐฯ
The Eyes
21/03/2558
-------------
Navy Fires Commander of Strategic Air Wing After Secret Investigation / Sputnik International
http://www.navytimes.com/…/navy-tacamo-co-cole-fi…/24915989/
http://abcnews.go.com/…/navy-strategic-air-wing-commander-f…
http://www.military.com/…/navy-strategic-air-wing-commander…
Top US Commander Under Arrest For Refusing To Fire Nukes At Russia
E-6 Mercury | Military.com

 

ปอกเปลือก ทรราช

สำรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้านหลังสงครามในยูเครนตะวันออก
------------------
อาสาสมัครชาวรัสเซียนำทีวีเยอรมันลงสำรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้านกลางสนามรบในหมู่บ้านกระสุนตก "Chernukhino" เขต Debaltsevo สาธารณรัฐโดเนทส์ก ยูเครนตะวันออก ที่ซึ่งเป็นสนามรบครั้งสุดท้ายก่อนบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่กรุงมินส์ก ที่ๆกองทัพฝ่ายยูเครนถูกล้อมกรอบไว้ ตอนนี้ถูกทางกองกำลังติดอาวุธนิยมรัสเซีย ที่พวกเขาเรียกตัวเองว่า "NAF" (Novorossiya Armed Forces) ทีวีเมื่อทีวีเยอรมันลงไปถึงพื้นที่แล้วถึงกับช็อคเลย บ้านทุกหลังถูกยิงถล่มพังเสียหายยับเยิน ไม่ใช่ที่ๆมนุษย์คนใดจะเข้าไปอยู่อาศัยได้ แต่ชาวยูเครนตะวันออกก็ต้องอยู่ เพราะเขาถือว่านั่นคือบ้านและที่ดินของเขา ในช่วงที่เกิดสงครามสู้รบกันอย่างหนักในหมู่บ้านนี้ ชาวบ้านบางส่วนได้รับความช่วยเหลือจากทหารฝั่ง NAF พาไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนที่ไม่ไปก็หลบซ่อนอยู่ในบังเกอร์ชั้นใต้ดินของบ้านตน ไม่มีไฟฟ้าใช้เพราะสถานีจ่ายไฟถูกถล่มซะยับจนไม่สามารถใช้การได้ ชาวบ้านต้องจุดเทียนในเวลากลางคืน ในการลงสำรวจสถานที่จริงในครั้งนี้ทางทีวีเยอรมันมีขบวนรถขนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไปแจกชาวบ้านในย่านนั้นด้วย แต่เมื่อไปได้ครึ่งทางก็ต้องแวะร้านขายของซื้อข้าวปลาอาหารแห้งแบบเหมาร้านหลายแห่งแพ็คใส่ถึงรวมกันไปแจกจ่ายชาวบ้านด้วย

ป.ล. ความยาว : 16.29 นาที ยาวนิดหนึ่งแต่ก็ควรดูครับผม
The Eyes
20/03/2558
---------------
Source :

<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/5U-3IUczNf0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://www.youtube.com/watch?v=5U-3IUczNf0

 

Jeerachart Jongsomchai



... "ประชุมอียู : กรีซขู่ถ้าไม่ได้เงินกู้ อาจจะประชามติออกจากเงินยูโรโซน"
.
... การประชุมครั้งชี้ให้เห็นว่าอียูไม่มีความสามัคคีกัน ในหลายประเด็นของเรื่องหลักๆ เช่นบางประเทศเอียงตามอเมริกาต้องการให้แซงชั่น "รัสเซีย" หนักขึ้น แต่อีกบางประเทศอยากให้ผ่อนปรนลง
... ขณะที่เรื่อง "กรีซ" เป็นเรื่องใหญ่ก็มีการประชุมนอกรอบ ก่อนหน้าที่จะมาประชุม กรีซเองก็มีการเล่นเกมจิตวิทยาว่าอาจจะไปกู้ยืมเงิน "รัสเซีย" ก็ได้เพราะเพิ่งแวะไปหาปูตินถ้าอียูเงื่อนไขรัดเข็มขัดตึงหรือมากเกินจะรับไหว เพราะตอนนี้กรีซร้อนเงินแล้ว เงินจะจ่ายเงินเดือนข้าราชการจะหมดในเร็วๆนี้แล้ว
... ขณะที่อียูก็ยืนยันคำเดิมว่าให้กรีซเร่งทำแผนการปฎิรูปการเงินว่าจะมีแผนอย่างไรในการจะใช้หนี้ที่มหาศาลอยู่แล้วทั้งหนี้เก่าทั้งจะกู้เพิ่มอีก ให้เร็วที่สุด ตามแผนกำหนดคือสิ้นเดือนเมษายนนี้ ( ซึ่งหลักๆอียูนั้นเจตนาของเจ้าหนี้ทายไม่ยากเลย คือให้กรีซเสนอแผนที่มีการแก้กฎหมายเพื่อการขายรัฐวิสาหกิจต่างๆนั่นเอง แบบที่เราเคยเจอ กฎหมายขายชาติ 11 ฉบับมาแล้ว หนึ่งในนั้นคือ พรบ. แปรรูปรัฐวิสาหกิจ คำดูหรูหรา แท้จริงคือการขายสมบัติชาติให้เจ้าหนี้นั่นเอง )
... แต่ "กรีซ" ก็ยืนยันคำเดิมเหมือนภาษากายที่แสดงออกโดยการไม่ใส่เน็คไทเหมือนเดิม แปลว่าข้าก็ยืนยันจุดเดิม ว่าไม่รัดเข็มขัดหนักเหมือนเดิม ไม่เพิ่มภาษีหนัก ไม่ไล่ข้าราชการออกมาก ไม่ขายสมบัติแบบถูกๆง่ายๆ คงจะยืดระยะเวลาจ่ายหนี้ออกไปนานๆมากกว่า ผ่อนหนี้นานๆ ซึ่งแบบนั้นไม่ตรงใจเจ้าหนี้แน่นอน
... และที่สำคัญนอกจากจะแวะไปหาพี่ปูตินก่อนมาเป็นการ เล่นเกมจิตวิทยากับอียูแล้ว กรีซยังบอกอีกว่า ถ้าไม่ได้เงินกู้ตามเงื่อนไขที่ไม่รัดเข็ดขัดตามที่ต้องการ กรีซจะทำ "ประชามติว่าจะเลิกใช้เงินยูโรหรือไม่ " กับประชาชน ซึ่งถ้าไม่ได้เงินจริงๆ โอกาศที่ประชาชนกรีกจะเห็นด้วยกับการออกจากยูโรโซนมีสูงมากทีเดียว
... และถ้าหนักกว่านั้น อียู หรือยูโรโซนอาจจะสั่นครอน มีอีกหลายประเทศออกตามมา เป็นโดมิโน งานนี้จึงต้องจับตากันอย่างดีกับหมากตัวน้อยแต่แสบอย่างกรีซและถ้า "รัสเซีย" มาเสียบเป็นเจ้าหนี้รายใหม่แทน งานนี้สงครามยูเครนคงจะยากกว่าเดิม กรีซ อาจจะยอมให้รัสเซียมาใช้ฐานทัพ และเปิดทะเลให้ออกจากทะเลดำมาเมดิเตอร์เรเนียนอย่างง่ายๆ รวมทั้งโครงการท่อแก๊สที่จะข้ามไปอิตาลีด้วย
.
http://www.presstv.ir/…/Russia-Greece-talks-reveal-EU-cracks
http://www.theguardian.com/…/eu-leaders-summit-greek-bailou…

 

Jeerachart Jongsomchai

... "พระสันตะปาปาฟรานซิส : ข้างในคริสเตียนทุกคนมีคนยิวอยู่ในนั้น"



.
... องค์ "พระสันตะปาปาฟรานซิส" เคยกล่าวเอาไว้ โดยสะท้อนถึงความคิดของท่านที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "ศาสนาคริสต์โนมันคาทอลิค" กับ "ศาสนายูดาย" ของยิว โดยบอกว่า "ข้างในคริสเตียนทุกคนมีคนยิวอยู่ในนั้น"
... "ข้าพเจ้าเชื่อว่า การสนทนาทางศาสนาจะต้องสืบค้นลงไปถึงรากเหง้าความเป็นยิวของ คริสเตียน และ การเบ่งบานออกมาจากศาสนายูดายของคริสเตียน ... ข้าพเจ้าเข้าใจว่ามันเป็นความท้าทายดั่งมันร้อนที่พูดเช่นนั้น แต่มันเป็นไปได้ที่จะอยู่รวมกันดั่งพี่น้อง ( ระหว่างสองศาสนา )"
... "สันตะปาปาฟรานซิส" เป็นโป๊ปพระองค์แรกในประวัติศาสตร์ศาสนจักรคาทอลิก ที่เป็นสาย "คณะสงฆ์เยซูอิต" อะไรคือ เยซูอิต ?
... "คณะเยซูอิต" ทางการเรียกคณะสงฆ์กลุ่มนี้ว่า ”สมาคมของพระเยซู” เป็นคณะนักบวชเดียวที่ใหญ่ที่สุดในศาสนจักรคาทอลิก สมาคมนี้ก่อตั้งขึ้นที่ปารีส ในปี 1534 โดยนักบุญ Ignatius Loyola "ทหารชาวบาสก์ในสเปน" ซึ่งพบความเชื่อของเขาขณะพักฟื้นจากบาดแผลกระสุนปืนใหญ่ เขาและเพื่อนนักศึกษาอีกหกคนที่ University of Paris รวมทั้งนักบุญ Francis Xavier ได้อุทิศตนรับใช้สันตะปาปาในฐานะ "ทหารมิชชันนารี" ของพระคริสตเจ้า
... ตอนเริ่มแรก คณะนักบวชนี้ก่อตั้งขึ้นตามแบบกองทหาร ภายใต้การนำของ “ คุณพ่ออธิการใหญ่ “ สมาชิกเริ่มแรกเรียกตนเองว่า ”กองทหารของพระเยซู”และมีฉายาว่า “ทหารนาวิกโยธินของพระเจ้า” ( คล้ายๆเป็น "สายเหยี่ยว" ของโรมันคาทอลิค )
... เพราะ ความประสงค์ของพวกเขาคือไปทุกแห่งในโลกตามคำสั่งของพระสันตะปาปา พระสันตะปาปา Paul III ยอมอนุญาตให้พวกเขาเป็นคณะนักบวชในปี 1514 จนถึงปัจจุบัน มีเยซูอิต 20,000 องค์ รวมทั้งมิชชันนารีผู้เผยแพร่ศาสนา ครูอาจารย์ และนักปราชญ์สาขาต่างๆ
... ช่วงแรกนั้นมีการเผยแพร่ศาสนาเพื่อคานอำนาจการเผยแพร่ของนิกาย "โปรเตสแตนท์" ที่กำลังได้รับความศรัทธาโดยเฉพาะในเกาะอังกฤษ
... "คณะเยซูอิต" เป็นที่รู้จักเพราะความกระตือรือร้นในการประกาศเผยแพร่ศาสนาและความรักในการศึกษาหาความรู้ อาศัยการตั้ง "โรงเรียนคาทอลิก" ความสำเร็จมหาศาลอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมือง Messina เกาะ Sicily –ของอิตาลี ทำให้ท่านส่งสมาชิกของคณะออกไปทั่วยุโรป และ ทั่วโลกในเวลาต่อมา ( โดยเฉพาะสมัย บริษัท East India ของทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลันดา ที่ส่วนใหญ่เจ้าของหุ้นใหญ่ๆ จะเป็น "คนยิว" ) เช่นเราจะเห็นโบสถ์เซนต์ Francis Xavier ในย่านเอเชียมากมาย เช่นในมะละกา มาเลเซีย
... "สันตะปาปาฟรานซิส" กล่าวเมื่อตอนรับตำแหน่งว่าท่านจะมีนโยบายที่ต่างออกไปจากเดิม เช่น ล่าสุดกรณีของ ISIL "วาติกัน" ในยุคของพระองค์ ออกมาบอกว่า จะหนุนกองกำลังทหารที่ต่อต้านการฆ่าหมู่คนของคนกลุ่มนี้ เป็นการออกมาแสดงตัวทาง "การเมือง" ของวาติกันอย่างชัดเจน ( ศาสนาเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง )
... "เราต้องหยุดยั้งการกระทำฆ่าล้างเผ่าพันธุ์แบบนี้" อาร์คบิชอบ Silvano Tomasi ชาวอิตาเลี่ยนเคยบอกไว้
... "ไม่อย่างนั้น ในอนาคตเราจะต้องมาร้องไห้คร่ำครวญว่า แล้วตอนนั้นเราทำไมไม่ทำอะไรบางอย่าง เราปล่อยให้สิ่งที่น่าเศร้าอย่างสุดซึ้งเกิดขึ้นได้อย่างไร" โดยบอกว่ารัฐทุกรัฐต้องช่วยกันรวมทั้งรัฐอิสลามในย่านนั้นด้วย ภายใต้การนำของ UN
... นั่นคือเราเริ่มเห็นจุดยืนของ "ศาสนจักรคาโรมันทอลิก" ( วาติกัน ) แล้วว่าจะมีการสานสัมพันธ์เป็นพันธมิตรกับ "ศาสนายูดายของยิว" และเริ่มออกตัวในการเกี่ยวข้องกับสังคมทางการเมืองมากขึ้น อย่างไร และ ฝ่ายไหน
... "Sheikh Imran Hosein" นักวิชาการทางศาสนาของอิสลามเคยบอกว่า ในสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่จะถึงนี้ ชาว "คริสต์ออร์โธดอกซ์" ( ในยุโรปตะวันออก ส่วนใหญ่ ) จะร่วมกันกับชาว "มุสลิม" ในการรบกับฝั่ง "อเมริกา" ( ซึ่งก็น่าจะรวมยิว อิราเอล ด้วย ) เพราะในประวัติศาสตร์นั้น "คริสต์คาโรมันทอลิก" และ "คริสต์ออร์โธดอกซ์" ไม่ลงรอยกันมานานและมีสงครามรบกันอยู่เสมอ เช่นในปี 1941 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กลุ่ม Ustaše ที่เป็นชาวโครแอต "คาทอลิก" ได้ฆ่าหมู่ชาว "คริสต์ออร์โธดอกซ์" ชาวเซิร์บ, และชาว "ยิว" ประมาณ 300,000 - 500,000 คน และใช้กำลังบีบบังคับให้เข้ารีตเปลี่ยนนิกายเป็น "คาทอลิค" อีกกว่า 200,000 คน
... ไม่ได้มีแค่ "อิสลาม" ที่มีความขัดแย้งระหว่าง "นิกายซุนหนี่" และ "นิกายชีอะห์" หรือแม้แต่ "วาฮิบี้" เท่านั้น แต่ศาสนาคริสต์ก็มีรอยร้าวลึกที่ซ่อนตัวอยู่ในสังคมมานานเช่นกัน
... เซนต์ Malachy นักบุญชาวไอริช, ที่มีชีวิตอยุู่ช่วงระหว่าง ปี คศ. 1094 – 1148 เคยพยายากรเกี่ยวกับเรื่องกับการสืบทอดตำแหน่งของประมุขแห่งโรมันคาทอลิกว่า สันตะปาปาองค์สุดท้ายจะเป็นลำดับที่ 112 ต่อจากโป๊ป Celestine II "ก่อนวันสิ้นโลก" หรือ "การพิพากษาครั้งสุดท้าย ... ซึ่งก็ตรงกับสมัยของท่าน "สันตะปาปาฟรานซิส" องค์ปัจจุบันพอดี
.
Religion News Service - Coverage of religion, ethics and spirituality from around the globe
http://www.cruxnow.com/…/vatican-backs-military-force-to-s…/
https://www.youtube.com/watch?v=0WjeFkGxchQ
Tradition wars: The Roman Catholic and Orthodox churches make the identical claim of apostolic succession, yet are so different they are not even in communion!
http://en.wikipedia.org/w…/World_War_II_persecution_of_Serbs
สงฆ์เยซูอิต ‘นาวิกโยธินของพระเจ้า’ The Jesuits: 'God's marines'
https://www.youtube.com/watch?v=wguFLavCsnU

 

Chalee Na Roied



รัสเซียมีการแจ้งเตือนพลเมือง ให้เตรียมรับมือสงครามนิวเคลียร์นะครับ จากรายงานของกลาโหมรัสเซีย ซึ่งทางรัฐมนตรี รับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และบรรเทาภัยพิบัติของรัสเซีย ได้ลงนามในคำสั่งให้ บรรดานายจ้างจัดหาอุปกรณ์ ในการป้องกันก๊าซพิษ และกัมมันตภาพรังสีเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อแจกจ่ายให้กับ ลูกจ้างในเมือง เซ็นปีเตอร์สเบิร์ก และคาลินนิกราดของรัสเซีย
และสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านั้น ที่ทางหน่วยข่าวของรัสเซีย มีการแจ้งเตือนทางรัฐบาลและผู้นำรัสเซีย ถึงแผนการโจมตีรัสเซียด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ของอังกฤษและสหรัฐในห้วงวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่เกิดการล้มเหลวตามรายงานก่อนหน้านั้น จนเป็นที่มาขิงการจับกุม และสอบสวนนายทหารระดับสูงประจำ "Stratcomm wing 1" เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Top US Commander Under Arrest For Refusing To Fire Nukes At Russia | EUTimes.net
ตอนนี้ทางสายลับของรัสเซีย คือ ผู้อำนวยการFSB ของรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ บอร์นิคอฟ ยังไม่สามารถติดต่อกับ ปธน.บารัค โอบามาได้ ทำใหัสถานการณ์ เริ่มตึงเครียดมากขึ้นไปอีก เพราะบารัค โอบามา น่าจะหมดอำนาจในทำเนียบขาว ในการหยุดยั้งสงครามไปเรียบร้อยแล้ว และท่ามกลางการซ้อมรบของรัสเซียทั่วประเทศทั้ง ทาง รมต.กลาโหมรัสเซีย ยังมีคำสั่งให้กำลังทหารอีก 80,000 นาย เตรียมการซ้อมรบ ในทวีปอาร์คติก TASS: Russia - Arctic snap check involves 80,000 servicemen — Russia's General Staff
นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนย้ายเครื่องบินทิ้งระเบิด โจมตีทางยุทธศาสตร์และขีปนาวุธพิสัยไกล ไปเพิ่มเติมในแคว้นไครเมีย และคาลินนินกราดของรัสเซีย เพื่อตอบโต้การเสริมทหาร ลาดตระเวนของกองทัพสหรัฐ และนาโตในยุโรปตะวันออก ซึ่งปัจจุบันยานพาหนะทั้งรถถัง และยานลำเลียงของสหรัฐ ที่ประจำการในยุโรปตะวันออก น่ามากกว่า 1,400 คันแล้ว จากการทยอยเสริมกำลังในรอบปีที่ผ่านมา US Armored Columns March Through Six Eastern European Countries / Sputnik International
สหรัฐได้วางแผน เตรียมการในการทำสงคราม และเวลานี้ทุกอย่างแทบจะพร้อมหมด เหลือเพียงการสร้างสถานการณ์"false flag" เพื่อจุดชนวนสงครามเท่านั้น ซึ่งไม่แน่ว่าเป้าหมายจะเป็นสถานที่ใด? และอาจจะมีผู้บริสุทธิ์ จะต้องสังเวยชีวิตอีกครั้งเพื่อ ความชอบธรรมในการจุดชนวนสงคราม...

 

Thanong Fanclub



19. ยุคสุดท้าย (End Time)
วิกฤติการเงิน&เศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทุกๆ7ปี พร้อมกับการเกิดขึ้นของสงคราม ให้พิจารณาดูเหตุการณ์ข้อที่ผ่านมา แล้วตั้งคำถามตัวเองว่าวิกฤติการเงิน&เศรษฐกิจเกิดขึ้นเองตามวงจรของมัน และสงครามเกิดขึ้นเองโดยเงื่อนไขจำเป็นตามสภาวะของมัน หรือว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะการวางแผนเตรียมการให้มันเกิดเช่นนั้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเข้าสู่ยุคสุดท้าย
ปี1966: ตลาดหุ้นพัง สงครามเวียดนาม การประท้วง
ปี1973: วิกฤติน้ำมัน สงครามYom Kippur ตลาดหุ้นพัง เศรษฐกิจถดถอย
ปี1980: เงินเฟ้อ สงครามอิรัก/อิหร่าน ตลาดเงิน(silver)ป่วนInflation หุ้นตกและเศรษฐกิจซบเซา
ปี1987: ตลาดหุ้นวันจันทร์ทมิฬ Black Monday ตกหนักมากที่สุดในวันเดียว
ปี1994: ตลาดบอนด์พัง ตลาดดาวโจนส์เข้าสู่ภาวะซบเซา สงคราม
ปี2001: ตลาดหุ้นพัง เกิดเหตุการณ์ 911 (กันยายน) เศรษฐกิจซบเซา
ปี2008: ตลาดหุ้นพัง 9/29 (กันยายน), Lehman Brothersล้มละลาย เศรษฐกิจซบเซา
ปี2015: จะเกิดอะไรขึ้นในปีนี้???
ในวิกฤติการเงิน2008 Lehman Brothersถูกปล่อยให้ล้ม ทั้งๆที่บริษัทวานิชธนกิจนี้เป็นผู้ถือหุ้นของUS Federal Reserve รวมกันบรรดาผู้ถือหุ้นอื่นๆ ซึ่งส่วนมากแล้วจะเป็นยิวในยุโรปที่สามารถยึดระบบการเงินสหรัฐฯได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปีคศ. 1913 ผู้ถือหุ้นใหญ่10อันดับแรกของเฟดคือ
1) The Rothschild Family - London
2) The Rothschild Family - Berlin
3) The Lazard Brothers - Paris
4) Israel Seiff - Italy
5) Kuhn-Loeb Company - Germany
6) The Warburgs - Amsterdam
7) The Warburgs - Hamburg
8) Lehman Brothers - New York
9) Goldman & Sachs - New York
10) The Rockefeller Family - New York
ในระหว่างปี2008-2010ที่เกิดวิกฤติการเงินหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เฟดเดอรัล รีเชิร์ฟแอบพิมพ์เงิน$16ล้านล้านโดยไม่บอกใครเพื่ออุ้มแบงค์และสถาบันการเงินในเครือของพวกอิลิททั้งในสหรัฐฯและยุโรป ส่วนที่เหลือปล่อยให้ล้มหายตายจากไป
แต่ที่น่าสนใจวิกฤติ2008ขยายวงเอาไม่อยู่เพราะว่าLehman Brothersถูกปล่อยให้ล้ม ทั้งๆที่ได้เงินช่วยเหลือสภาพคล่อง$183,000ล้านจากเฟด เท่ากับว่าเฟดทำเลยเถิดไปกว่าอับราฮัมที่พร้อมฆ่าลูกชายไอแซคเพื่อบูชาพระเจ้าหรือ? การปล่อยให้Lehman Brothersล้มเท่ากัดเฟดยอมฆ่าลูกตัวเองเพื่อจุดประสงค์ที่ใหญ่กว่า
วิกฤติLehman Brothersทำให้ยุโรปเข้าสู่ภาวะวิกฤติไปด้วยในปี2009 และทุกวันนี้ก็ยังไม่ฟื้น แต่เป็นข้ออ้างให้เฟดพิมพ์เงินเพื่อช่วยอุ้มสถาบันการเงินในเครือและสร้างฟองสบู่การเงินทั้งในหุ้น บอนด์และอนุพันธ์ที่ลูกใหญ่กว่าเดิมอีกไม่รู้กี่เท่า และเป็นข้ออ้างให้European Central Bankมีอำนาจมากขึ้นในการพิมพ์เงินและกวาดต้อนฝูงประเทศในเขตยูโรเข้าคอกโดยไม่มีทางเลือก และเมื่อประเทศใดทนไม่ไหวแหกคอกออกมาจะเป็นจุดเริ่มของจุดจบของยูโร
จะก่อสงครามโลกครั้งที่3ได้ ต้องสร้างวิกฤติการเงินที่ใหญ่มากจากกระทั่งไม่มีใครมีทางออกทั้งระบบดอลล่าร์และระบบยูโร และเวลาเหตุการณ์วิกฤติที่ไม่มีใครคาดBlack Swanเกิดขึ้นมาเหมือน Lehman Brothersพัง ระบบการเงินทั้งโลกจะพังลงมา เกิดเศรษฐกิจซบเซาอย่างรุนแรงอันนำไปสู่การสงครามอย่างเลี่ยงไม่ได้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรกันเพื่อความอยู่รอด
ในยุคสุดท้ายเราจะต้องได้เห็นวิกฤติการเงินพังอีกรอบ Lehman Brothersถูกจับสังเวยไปแล้ว คราวนี้ต้องรอดูว่าใครจะเป็นผู้ถูกจับสังเวยในยุคสุดท้าย
thanong
21/3/2015
Mis-typed address or a page does not exist.
Who Controls The Federal Reserve System?

 

Thanong Fanclub



20. ยุคสุดท้าย (End Time)
นาโต้และกองทัพสหรัฐฯกำลังซ้อมรบและสร้างแนวทหารในยุโรปตะวันออกเพื่อปิดล้อมรัสเซีย สงครามในยุคสุดท้ายกำลังก่อตัวขึ้นมาอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ในระยะ2เดือนที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯนับพันนายทหารและรถถังนับ100คนได้หลั่งไหลเข้าไปในกลุ่มประเทศบอลติก คือเอสโตเนีย ลัตเวียและลิธัวเสียที่มีชายแดนติดกับรัสเซียในปฎิบัติการเรียกว่า Atlantic Resolve ในเดือนกุมภาพันธ์ รถถังและรถหุ้มเกราะนาโต้140คัน รวมทั้งทหาร1,400นายเดินทางผ่านNarva ซึ่งอยู่ห่างชายแดนรัสเซียเพียง300เมตรเท่านั้น เพื่อเป็นการยั่วยวนและท้าทาย
ผู้พัน Michael Fosterแห่ง 173rd Airborne Brigade ของกองทัพสหรัฐฯบอกว่า พอเราเอาประเทศเหล่านี้มาต่อจุดกัน จะเห็นแนวทหารของสหรัฐฯอย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้ทหารสหรัฐฯเข้าร่วมวอร์เกมกับกลุ่มประเทศบอลติกให้ชื่อว่า “Saber Strike,” “Spring Storm” และ “Flaming Sword.”
ด้วยเหตุนี้ผู้นำรัสเซียปูตินถึงได้สั่งทหารรัสเซียทำการซ้อมรบทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมศึกหนักระดับอภิมหากาพย์เพื่อปิดเกมในยุคสุดท้าย
thanong
21/3/2015
http://rt.com/news/242777-nato-russia-military-drills/

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current

คราสสารจากพระเจ้าเพื่อโลกทั้งหมดและวันแห่งการพิพากษา ...



Coming solar eclipse seen as ‘judgment’

ศุกร์ 20 มีนาฯ ทุกคนที่แม้ไม่เห็นด้วยตาแต่จากติดตามรับรู้ข่าวสารของเหตุการณที่เกิดขึ้นเป็นพยานในเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สำคัญ..

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ไบเบิลที่ยังเตือนเกี่ยวกับสิ่งนี้เป็น "สิ่งนี้คือสัญญาณแน่แท้ของการตัดสินที่อาจ ชี้นิ้วโดยมือของพระเจ้า" วันนี้ยังเป็นวันที่ 1 ของฤดูใบไม้ผลิและวันที่ 1 ของปฏิทินทางศาสนาของชาวยิวที่เชื่อว่าเป็นครั้งที่ 1 นี้ได้เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ สุริยุปราคาในความคิดของชาวยิวหมายถึงสิ่งที่ไม่ดีที่จะเกิดขึ้นกับโลก ประเพณีราบชาวยิวกล่าวว่าเมื่อคราสเกิดขึ้นในยามเช้าซึ่งเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่ขั้วโลกเหนือแล้วเป็นจะมีภัยพิบัติ

สองวิดีโอด้านล่างสองเนื้อเรื่อง โจนาธานคาห์นผู้เขียน "ความลึกลับของ Shemitah" กับเกร็กฮันเตอร์ ให้ความเห็นของเขาว่าเราอยู่บนปากเหวของการล่มสลาย..

มีเรื่องเล่ามากมายในสายทำนายกับคลาสและเหตุการณ์จริงบนโลกของเราทั้งตะวันออกกลางและชายแดนรัสเซีย ที่ผ่านมาช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงของการบูชายัญมนุษย์ลึกลับและเมื่อวันที่สงครามได้เริ่มต้น
- สงครามกับอิรักที่มีการประกาศเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2003
- กองกำลังตะวันตกโจมตีลิเบียเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2011

และอื่นๆอีกจำนวนมากของทำนายที่เกี่ยวข้องกับยิว..

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events​



19 มีนาคม 15 ในกลุ่มภัยพิบัติ ก่อนวันสิ้นยุค : อนดล แซ่เล้า โพส: หลวงพ่อเพชร พระประธานภายในโบสถ์วัดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนคร ศรีอยุธยา สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา อายุกว่า 400 ปี เกิดรอยแตกร้าวบริเวณเศียรด้านหลัง
- ข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php…
- ASTVhttp://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031863
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx…
พระพุทธรูป มีรอยคล้ายคราบเลือดไหลออกจากดวงตาทั้งสอง หลังเช็ดคราบเลือดออกเผยให้เห็นรอยคราบเหมือนน้ำตาไหลลงมาถึงคาง
โพสเมื่อ 17 ธันวาคม 2014 https://www.facebook.com/5995048135...0.1426906378./635440543245980/?type=3&theater
รัสเซียกำลังถูกเกี่ยวเบ็ดสำหรับทำลายอเมริกาสำหรับสงครามสุดท้ายก่อนนิบิรุ..
ในจำนวนมากของคำเตือนที่ออกโดยสายทำนายกลุ่มคริสเตียน พวกเขาแนะเตรียม
.." Preparing Our Households for the "...
Tribulationhttp://www.worldeventsandthebible.com/2015/03/preparing-our-households-for-tribulation.html
ภัยพิบัติเรื่องของส่วนรวม พลังมืดเรื่องของคนๆหนึ่งและของแต่ละกลุ่ม จากน้อยไปมาก จนเมื่อรวมกันมากเข้าก็กลายเป็นพลังมืดที่มีขนาดใหญ่ เป็นอาหารชั้นเลิศของปีศาจซาตานผู้มาเปลี่ยนแปลง..
กรรมฐานของพลังบวกในประเทศจะค้ำจุนช่วยให้รอดได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายอย่างร่วม..

 

Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ เตือนภัย พิบัติ

21/3/2015 อุโมงค์ลับทำร้ายภูเขาน้ำแข็งขั้วโลก



ความลับของธรรมชาติยังมีอีกมากมายที่มนุษย์ค้นไม่พบ เนื่องด้วยความรู้ เทคโนโลยีของเหล่ามนุษยชาติยังห่างชั้นกับธรรมชาติของโลกใบนี้ที่ก่อกำเนิดมานานนับหมื่นล้านปีมากนัก ดังนั้นสิ่งที่มนุษย์ยังไม่รู้จึงกลายเป็นเรื่องลับๆ ของธรรมชาติที่จุดประกายการค้นหากันต่อไป

อย่างเช่นกรณีที่นักวิทยาศาสตร์ค้นหาและค้นพบว่าสาเหตุของการเกิดน้ำแข็งขั้วโลกละลายนั้น ไม่ได้มาจากปัจจัยของการเกิดสภาวะโลกร้อนเพียงประการเดียว แต่ยังมีปัจจัยทางธรรมชาติที่ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายได้อีกทาง

นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบว่าภูเขาน้ำแข็งแข็งทอทเทนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอนตาร์ติกาตะวันออก (ขั้วโลกใต้) ที่มีความกว้างถึง 30 กิโลเมตร ยาว 120 กิโลเมตร (ราวกรุงเทพถึงมวกเหล็ก) นั้นมีช่องทางลับที่ซ่อนอยู่ และเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสน้่ำอุ่นจากภายนอกไหลผ่านเข้าไปข้างในภูเขาน้ำแข็งมหึมาก้อนนี้ ก่อให้เกิดการละลายอย่างรวดเร็วเกินคาด

ช่องทางลับที่ว่านั้นมีความกว้างถึง 5 กิโลเมตร และลอดผ่านภูเขาน้ำแข็งก้อนนี้ไปทั่ว แถมยังเจาะช่องทางเป็นอุโมงค์ให้กระแสน้ำอุ่นไหลผ่านได้อีกหลายทาง

ผู้ที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของภูเขาน้ำแข็ง อย่างนายเจสัน โรเบิร์ตส์ นักภูเขาน้ำแข็งวิทยา แห่งสำนักงานแอนตาร์กติกแห่งออสเตรเลีย อธิบายว่า ที่น่าแปลกใจคือ ภูเขาน้ำแข็งยักษ์แห่งนี้ละลายเร็วที่สุดในเขตแอนตาร์ติกาตะวันออก และเป็นระดับการละลายที่มากกว่าอัตราการละลายเฉลี่ยจากผลกระทบของภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งเมื่อศึกษาลึกลงไปก็พบสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากอุโมงค์ใต้ก้อนน้ำแข็งนี่เอง

นอกจากนั้นยังพบด้วยว่าตัวการที่ทำลายก้อนน้ำแข็งก้อนนี้ คือ น้ำทะเลที่อยู่โดยรอบทอทแทม กลาเซียร์นั้น อุ่นกว่าน้ำทะเลในบริเวณอื่นถึง 1.5 องศาเซลเซียส นั่นหมายความว่าส่วนต่างอุณหภูมิที่เกิดขึ้นนั้น สามารถละลายน้ำแข็งออกไปได้เป็นจำนวนมหาศาล

ที่น่ากลัวก็คือ ถ้าก้อนน้ำแข็งทอทเทนละลายหมดเพียงก้อนเดียว จะทำให้ระดับน้ำทะเลบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ยกระดับสูงขึ้นถึง 3.5 เมตรเป็นอย่างน้อย แต่ข่าวดีก็คือ ทอทเทน กลาเซียร์ จะละลายจนหมดในอีกหลายศตวรรษ โดยเป็นการยืนยันจากยามิน กรีนเบาว์ม นักศึกษาดุษฎีบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยเทกซัส ที่ทำการศึกษาในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามกรีนเบว์ม บอกว่าถ้ากระบวนการละลายนั้นเกิดขึ้นแล้ว ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งได้

พูดง่ายๆ ก็คือ เราไม่สามารถทำให้ก้อนน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลายแล้ว ก่อตัวเป็นก้อนน้ำแข็งได้อีกครั้ง และหากก้อนน้ำแข็งเริ่มละลายอย่างรวดเร็วในศตวรรษนี้ ลูกหลานของเราในอีกหลายศตวรรษหน้าก็จะได้รับความเดือดร้อนนั่นเอง

 

Pst Nong ได้แชร์อัลบั้มของ Elzindu Constantine