ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



17. ยุคสุดท้าย (End Time)
สำหรับคนที่สนใจในทฤษฎีมืด ชื่อของAlbert Pike (คศ. 1809-1891)จะคุ้นหู เพราะว่าเขาเป็นสมาชิกในองค์กรลับระดับสูงสุดคือ33rd Degree Scottish Rite Mason ใครก็ตามที่มาถึงระดับ33 ถือว่าเป็นคนวงในสุดๆ หรือสมาชิกของพวกIlluminatiที่ต้องการครอบครองโลก หรือจัดตั้งรัฐบาลโลกเดียว พวกนี้อยู่เบื้องหลังโรม ลอนดอน และดีซีอีกทีหนึ่ง
Albert Pikeเป็นนายทหารยศพลโทในกองทัพฝ่ายใต้ในสงครามกลางเมืองสหรัฐฯในศตวรรษที่19ที่ทำการรบพุ่งกันกับฝ่ายเหนือ ปรากฎว่าฝ่ายใต้เป็นผู้ปราชัยให้กับฝ่ายเหนือในสมัยประธานาธิบดีลินคอล์น
พวกอิลิทยุโรปต้องการตั้งธนาคารกลางในสหรัฐฯเพื่อยึดครองอเมริกาแต่ยังทำไม่ได้ โดนทั้งประธานาธิบดีAndrew Jackson และลินคอล์นขวาง จึงวางแผนก่อสงครามกลางเมืองเพื่อทำให้สหรัฐฯล้มละลายทางการเงิน เพราะว่าพวกอิลิทจะได้ให้กู้ดอกเบี้ยมหาโหดในการทำสงคราม ลินคอล์นให้กระทรวงการคลังพิมพ์เงินเองออกมาเพื่อไฟแนนซ์สงครามทำให้พวกอิลิทไม่พอใจมาก ลินคอล์นถูกฆ่าตายเพราะสาเหตุนี้
ต่อมาในศตวรรษที่20 ประธานาธิบดีเคเนดี้ถูกฆ่าตายเหมือนกันเพราะว่าต้องการล้มอำนาจมืดของรัฐบาลเงา ด้วยการให้กระทรวงการคลังพิมพ์เงินดอลล่าร์ที่เป็น Treasury Noteแทนเงินดอลล่าร์ที่เรียกว่าFederal Reserve NoteของUS Federal Reserveที่พวกอิลิทจากยุโรปคือพวกเมสัน ลอนดอนและโรมเป็นเจ้าของ
Albert Pikeเขียนจดหมายถึงเพื่อนสมาชิกเมสันลับด้วยกันชาวอิตาลี่
ชื่อว่าGiuseppe Mazzini โดยบอกว่าจะมีความขัดแย้งระดับโลกเกิดขึ้น3ครั้งในระยะ150ปีข้างหน้า เพื่อที่จะนำไปสู่การตั้งรัฐบาลโลก World Government ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกเมสัน
ในความขัดแย้งครั้งแรก สงครามโลกจะจะมีเป้าหมายเพื่อที่จะทำลายราชวงศ์ของเยอรมัน ออสเตรีย และรัสเซีย นำไปสู่การเกิดของลัทธิคอมมิวนิสต์
สงครามโลกครั้งที่ 2 จะได้เห็นพวกชาตินิยมต่อต้านพวกไซออนนิสท์ นำไปสู่การจัดตั้งรัฐยิวในปาเลสไตน์
และสงครามโลกครั้งสุดท้าย หรือครั้งที่3 จะป็นสงครามระหว่างพวกไซออนนิสท์และโลกอิสลาม และจะนำไปสู่รัฐบาลโลก (World Government)เพียงรัฐบาลเดียว โดยประเทศต่างๆจะหมดสิ้นความเป็นชาติ ความเป็นประเทศ
Albert Pike ผู้มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่19ไม่ได้เป็นหมอดูที่ทำนายแม่นยำ แต่ เขาเพียงพูดตามแผนการใหญ่ที่จะครอบครองโลกที่มีการตระเตรียมล่วงหน้ามาแล้ว
และเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นจริงตามที่เขาพูด สงครามโลกครั้งที่1นำไปสู่การทำลายและรวมตัวกันเพื่อก่อตั้งLeague of Nations หรือสันนิบาตชาติ สงครามโลกครั้งที่สองนำไปสู่การทำลายและรวมตัวกันเพื่อก่อตั้งสหประชาชาติ และสงครามโลกครั้งที่สามจะนำไปสู่อภิมหาการทำลายเพื่อนำไปสู่การก่อตั้งรัฐบาลโลกเดียวOne World Government, เงินสกุลโลกเดียว One World Currency หรือธนาคารกลางโลกเดียว World Central Bank ศาสนาโลกเดียว One World Religion โดยจะมีผู้ปกครองเผด็จการโลก (Tyrant)
ซีซ่าร์เคยก่อสงครามทั่วทั้งยุโรปและแอฟริกาเหนือ รวมทั้งได้เครองส่วนหนึ่งของเอเซียกลายเป็นTyrantในโรมทำมาแล้ว และจะดูเหมือนว่าเขากลับมาเกิดใหม่เป็นเผด็จการโลกหลังยุคสุดท้ายของศตวรรษนี้
ตอนนี้เรามาถึงยุคสุดท้ายก่อนที่จะเก้าเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่3 ตามแผนการใหญ่ของกลุ่มเมสัน เพื่อว่าโลกใหม่จะเป็นโลกเดียว ทุกอย่างเป็นการตระเตรียมวางแผนมาเป็นอย่างดี ใครที่โลกสวย สักวันตื่นขึ้นมาจะเป็นฝันร้าย
thanong
20/3/2015
http://rt.com/op…/177764-israel-palestine-tragedy-argentina/

 

Thanong Fanclub



18. ยุคสุดท้าย (End Time)
เมื่อคราวที่จีฮาดี้ จอห์น (Jihadi John) ตัวแทนของพวกISIS ถือมีดส่งสำเนียงภาษาอังกฤษสำเนียงลอนดอนประกาศว่าจะปาดคอเชลยชาวตะวันตก เพื่อส่งสัญญานว่าISISกำลังก่อสงครามศาสนากับพวกตะวันตก ความจริงแล้วเขากำลังทำพิธีบูชายัญเพื่อบวงสรวงพระเจ้า โดยที่เชลยที่ถูกปาดคอเป็นสัญยลักษณ์ของมนุษย์ที่เหลือบนโลกว่าให้เตรียมตัวรับเคราะห์ได้แล้ว
ในยุคสุดท้ายที่เราทุกคนกำลังมีลมหายใจทุกวันนี้ จะต้องมีการบูชายัญครั้งใหญ่เพื่อบวงสรวงการมาถึงของTyrantหรือเผด็จการโลก
การบูชาลูกแกะเพื่อบูชายัญให้พระเจ้าเป็นความเชื่อของพวกยิวโบราณ ในพระคำภีร์เก่า อับราฮัมยอมที่จะจับลูกชายชื่อว่าไอแซคมัดไว้บนแท่นบูชาเพื่อบูชายัญให้พระเจ้า เดชะบุญที่มีเทวดามาห้าม เพราะว่าอับราฮัมพิสูจน์แล้วว่าเชื่อในพระเจ้าจริง แม้ลูกชายสุดที่รักยังยอมสละให้ตายได้
เหตุการณ์ที่ไอแซคจะถูกจับฆ่าบูชายันนี้เกิดที่ภูเขาในนครเยรูซาเลมที่กษัตริย์โซโลมอนต่อมาได้สร้างวิหารขึ้นมา เรียกว่าTemple Mount วิหารนี้ต่อมาถูกกษัตริย์ Nebushadnezzar II ของบาบิโลนทำลายใช่ยุค500กว่าปีก่อนคริสตกาล พวกยิวได้ทำการฟื้นฟูสร้างวิหารโซโลมอนขึ้นมาใหม่ แต่ก็โดนทำลายอีกในปีคศ. 79โดยนายพลTitus ซึ่งต่อมาได้เป็นจักรพรรดิของโรม
ต่อมาพวกมุสลิมสามารถตีกรุงเยรูซาเลมได้และมีการสร้างสุเหร่าของมุสลิมและDome on the Rockขึ้นมาในปีคศ. 691บนบริเวณเดียวกันกับที่วิหารโวโลมอนเคยตั้งอยู่ และDome on the Rockยังคงดำรงมาถึงทุกวันนี้
การดำรงอยู่ หรือการไม่ดำรงอยู่อีกต่อไปของDome on the Rock จะเป็นเครื่องหมาย หรือสัญยลักษณ์ที่สำคัญในยุคสุดท้ายนี้ ที่จำต้องมีสงครามครูเสดเพื่อตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองเนินเขาที่ครั้งหนึ่งอับราฮัมเคยจับไอแซคเตรียมบูชายัญให้พระเจ้า และเป็นเวลา2ครั้งด้วยกันเคยเป็นที่ตั้งของวิหารโวโลมอน1 และวิหารโซโลมอน2ที่ชาวยิวเคารพบูชา
คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมีสงครามครูเสดรอบใหม่ระหว่างคริสเตียนและอิสลามตามที่Albert Pikeได้ทำนายเอาไว้เพื่อที่จะตัดสินว่า ผู้ใดจะได้ครอบครองTemple Mountในนครเยรูซาเลม เพราะว่ามีการเตรียมการเรียบร้อยแล้วที่จะสร้างวิหารโวโลมอน 3เพื่อเฉลิมฉลองการมาถึงของโลกใหม่
การบูชายัญแกะมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนาของชาวยิว ในสมัยโบราณ ทุกๆวันจะมีการบูชายัญแกะให้พระเจ้าในตอนเช้าและตอนเย็นเพื่อล้างบาปให้มนุษย์ ในช่วงPassover ชาวยิวมีการบูชายัญแกะเพื่อรำลึกถึงอิสระภาพที่ได้รับจากการปลดปล่อยของพระเจ้า และจากการที่โมเสสช่วยชาวยิวให้พ้นจากความเป็นทาสของอิยิปต์
John the Baptistเรียกพระเยซูว่าLamb of Godหรือ "แกะของพระเจ้า" เพราะว่าพระเยซูยอมพลีชีพของพระองค์เพื่อไถ่บาปให่มนุษย์ นี้คือหัวใจของศาสนาคริสต์ ที่พระเจ้าให้พระเยซูมาเกิด เพื่อที่ยอมพลีชีพบนไม่กางเขน เพื่อที่จะไถ่บาปให้มนุษย์
ในอิสยาห์ 9:6ของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลมีบันทึกเอาไว้ว่า: "ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า "ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช"
George F. Handel นำเอาบทอิสยาห์ 9:6นี้มาแต่งบทเพลงชื่อ Messiah เพื่อนำออกแสดงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ถือว่าเป็นบทเพลงทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบทหนึ่งเลยทีเดียว

<iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/AZTZRtRFkvk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://www.youtube.com/watch?v=AZTZRtRFkvk
ในยุคสุดท้าย จะเกิดมหาสงครามอาร์มาเกดดอน และพระเจ้าจะกลับมาในวันพิพากษา (Judgement Day) คนที่เชื่อในพระเจ้าจะได้ไปอยู่กับพระเจ้า คนที่ไม่เชื่อในพระเจ้าและคนบาปจะตกนรก หรือทะเลสาปแห่งกองเพลิง
แต่พวกอิลิทก็เตรียมสงครามโลกครั้งที่3ที่ดำเนินคู่ขนานไปกลับการทำนายในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเหมือนกัน เพื่อคัดเลือกพวกตัวเองที่ยอมเป็นทาสรับใช้ให้มีชีวิตอยู่ได้ในสังคมนายกับทาส เหมือนกับที่นิตซ์เช่ได้ทำนายเอาไว้ในศตวรรษที่19 ส่วนคนอื่นๆจะถูกทำลายหมf ไม่ด้วยการถูกจับฆ่าบูชายัญให้เผด็จการโลก (World Tyrant)ที่จะมาปกครองโลกใหม่ ก็ด้วยการถูกเผาผลาญให้ตายในทะเลสาปกองเพลิงตามคำศัพท์ของพระคำภีร์ไบเบิ้ล
thanong
20/3/2015

 

พู่กัน ทอง ผ่าน Thairath​

2 ราศีสยอง หมอช้างเตือน ราหูอมอาทิตย์ - อมจันทร์แบบเต็มดวงระวังอันตราย
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 มี.ค. 2558 06:05



กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกครั้ง เพราะตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึง วันที่ 4 เมษายน จะเกิดปรากฏการณ์สำคัญบนท้องฟ้าทั้งราหูอมอาทิตย์แบบเต็มดวง และราหูอมจันทร์อมแบบเต็มดวงในรอบ2สัปดาห์ นอกจากปรากฏการณ์ทางดารา ศาสตร์แล้ว ในทางโหราศาสตร์มีผลกระทบอะไรหรือไม่?

เรื่องนี้ หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูชื่อดัง ฉายาจอมเก็บสถิติออกมากล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า วันที่ 20 มีนาคมนี้ จะมีปรากฏการณ์ดาราศาสตร์เกิดขึ้นบนท้องฟ้า ซึ่งปีหนึ่งจะมีปรากฏการณ์แบบนี้ 4 ครั้ง โดยครั้งแรกของปีคือวันพรุ่งนี้ เรียกว่า 'สุริยุปราคา' หรือราหูอมอาทิตย์แบบเต็มดวง และถัดไปไม่กี่สัปดาห์ วันที่ 4 เมษายน จะเกิดปรากฏการณ์ ราหูอมจันทร์อมแบบเต็มดวงเช่นกัน เป็นปรากฏการณ์ที่นักโหราศาสตร์ให้ความสนใจ ซึ่งส่งผลกระทบหลายอย่าง โดยเฉพาะดวงชะตาราศีที่ได้รับผลจากดาวราหู ในช่วงกลางปีที่แล้ว 2 ราศีได้แก่ ราศีและลัคนามีน กับราศีและลัคนากันย์

"หลายคนจะสงสัยว่าทำไมเป็นกันย์กับมีน จริงๆ ราศีอื่นก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่ว่าคนที่แรงกว่าเพื่อนคือคนที่ได้รับผลกระทบจากพระราหูอยู่ตอนนี้ 2 ราศีนี้เป็นผลจากพระราหู ซึ่งสิ่งที่ต้องเข้าใจกันเลยคือ พระราหูอยู่กับดวงเราปีครึ่ง และมันไม่ได้แย่ไปตลอดปีครึ่ง แค่มีความแรงในช่วงนี้เท่านั้นเอง คือระหว่างวันที่ 20 มีนาคมถึงวันที่ 4 เมษายน หรือราว 14 วัน เป็นช่วงที่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากเรื่องปรากฏการณ์บนท้องฟ้าต่างๆ ที่มีโลกมีพระจันทร์อะไรเกี่ยวข้องจะส่งผลในเรื่องอารมณ์แปรปรวน เรื่องการตัดสินใจ ความผิดพลาดในทำงาน ชีวิตมีความสับสนวุ่นวาย ขาดสติได้ง่าย ไม่ใช่แค่เรื่องการทำงานอย่างเดียว เรื่องการเดินทางด้วย ต้องใช้ความระมัดระวัง ทั้งหมดนี้เป็นในส่วนของบุคคล แต่ถ้าเป็นเชิงของภาพใหญ่ ก็อาจจะเรื่องภัยธรรมชาติ ความแรงก็จะเริ่มมีเข้ามามากขึ้น เป็น 2 อาทิตย์ที่ต้องระมัดระวังตัวให้ดีๆ"


หมอช้างบอกว่า นอกจาก 2 ราศีที่ว่านี้ คนที่เกิดวันอาทิตย์ วันจันทร์ วันพุธกลางคืนก็ต้องระวังตัวให้มากด้วยเช่นกัน

"สำหรับวิธีแก้ไขย้ำว่า นี่ไม่ใช่อีเวนต์ในการไหว้ราหู อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นการไหว้ราหู มันเป็นเรื่องของผลของพระราหูที่แรงขึ้น หรือเพิ่มพลังความแรง มากขึ้นกว่าปกติ วิธีแก้ไขคือ การสวดมนต์ มันมีคาถาที่ป้องกันจากสุริยุปราคาอยู่แล้ว คือพระคาถาสุริยประภากับคาถาจันทรประภา ป้องกันภัยจากพระอาทิตย์ พระจันทร์ แล้วมีเครื่องประดับด้วย เครื่องประดับที่มีสีเงิน มันเรื่องของการสะท้อน สีเงินมันเกี่ยวข้องกับพระราหูด้วย เป็นการแก้ดวงดาวพระราหูที่เข้ามา ปัจจุบันแฟชั่นเรื่องหินมงคลมีเยอะนะ เอามาใช้ได้ ป้องกันได้ อันที่มีความใส เงาๆ ก็ใช้ได้"


หมอช้างหมอดูจอมพิธีชื่อดัง
หมอดูชื่อดังย้ำด้วยว่า อย่างไรก็ดีมันไม่ได้หมายถึงว่าดวงจะแย่ ดวงจะซวย บางคนคิดไปไกล แต่ทว่าหมายถึงว่าเราต้องมีสติมากขึ้น ใช้ชีวิตให้มีสติมากขึ้น เรื่องร้ายๆ บางทีมันไม่เกิด ถ้าเราระมัดระวังตัว ช่วงเวลาแบบนี้เป็นช่วงพลังของเงามืดมีเข้ามากขึ้น

"ฉะนั้นถ้าเราใช้ชีวิตในทางสว่าง ในสิ่งที่ถูก สวดมนต์ ทำสมาธิ ทำจิตใจให้เกิดความแจ่มใส แล้วก็การตั้งใจทำความดีก็เป็นสิ่งที่คุ้มครองเราอยู่แล้ว ย้ำอีกทีครั้งนี้ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องไปร่วมพิธีกรรมอะไรทั้งสิ้น" หมอดูจอมพิธีกล่าวสรุป


การเคลื่อนทับ
*รู้ไว้ใช่ว่า*

ขั้นตอนในการไหว้

หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจุดธูปเทียนแล้วเริ่มด้วยบทสวดพระราหู

(ตั้งนะโม 3 จบ) บทสวดบูชาพระราหู

กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ


ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
พระคาถาสุริยะบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ


บรรยากาศความน่ากลัวของท้องฟ้าใกล้ดับ

พระคาถาจันทบัพพา
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ

2 ราศีสยอง หมอช้างเตือน ราหูอมอาทิตย์ - อมจันทร์แบบเต็มดวงระวังอันตราย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แผ่นน้ำแข็ง 'อาร์กติก' ลดขนาดมากสุดรอบ 36 ปี by Sutthiporn Bunchuay 20 มีนาคม 2558 เวลา 11:18 น.



แผ่นน้ำแข็งที่ปกคลุมมหาสมุทรอาร์กติก ลดขนาดลงมากที่สุดในรอบ 36 ปี แม้จะอยู่ในช่วงฤดูหนาว ที่ตามปกติแล้ว แผ่นน้ำแข็งจะขยายใหญ่ขึ้นก็ตาม

ศูนย์ข้อมูลด้านน้ำแข็งและหิมะแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NSIDC ที่อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยแห่งโคโลราโด วิทยาเขตโบลเดอร์ เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับขนาดแผ่นน้ำแข็งในมหาสทุทรอาร์กติก ตลอดช่วงฤดูหนาว โดยพบว่า ขนาดของแผ่นน้ำแข็งในมหาสทุทรอาร์กติกในช่วงที่ขยายตัวมากที่สุด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เหลืออยู่ 14 ล้าน 5 แสนตางรางกิโลเมตร ซึ่งถือเป็นขนาดที่ลดลงต่ำที่สุด นับตั้งแต่ปี 1979

โดยหลังจากวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกก็เริ่มละลาย เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลอีกครั้ง เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมพบว่า แผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติก เหลืออยู่เพียงแค่ 130,000 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น

นักวิทยาศาสตร์จาก NSIDC เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่อบอุ่นมากกว่าปกติ ในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของโลก เช่น ในมลรัฐอลาสกาของสหรัฐฯ และบางส่วนของรัสเซีย ได้ทำให้แผ่นน้ำแข็งแถบนั้นละลาย และส่งผลกระทบต่อแผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกด้วย

ซึ่งในช่วงเวลาที่แผ่นน้ำแข็งขยายตัวมากที่สุดในฤดูหนาว แต่กลับมีขนาดที่ลดลงมากสุดในรอบ 36 ปี คือตัวบ่งชี้สำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศของโลก และยังสะท้อนถึงความแปรปรวนที่เกิดขึ้นกับสภาพอากาศโดยรอบมหาสมุทรอาร์กติกอีกด้วย

โดยตลอดทั้งเดือนนี้ นักวิทยาศาสตร์จาก NSIDC จะเก็บข้อมูลการละลายของแผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกเพิ่มเติม และคาดว่าจะนำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่ได้ในเดือนเมษายน ซึ่งเชื่อว่า จะช่วยยืนยันเรื่องผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่มีต่อการละลายของแผ่นน้ำแข็งได้ชัดเจนมากขึ้น

แผ่นน้ำแข็ง 'อาร์กติก' ลดขนาดมากสุดรอบ 36 ปี - VoiceTV

 

"เซียร์ราลีโอน" ล็อคดาวน์3วัน คุม"อีโบลา"
วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558 เวลา 10:50:59 น.



สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลเซียร์รา ลีโอน ออกมาตรการล็อกดาวน์ (ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน) เป็นเวลา 3 วัน และกักบริเวณประชาชนอย่างน้อย 2,500,000 คน จาก 3 เมือง คือ กรุงฟรีทาวน์ เมืองบอมบาลี และพอร์ตโลโก ให้อยู่แต่ในบ้านพักตั้งแต่วันที่ 27 - 29 มีนาคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา

โดยในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 55 คน ในประเทศเซียร์รา ลีโอน และอีก 90 คน ในกินี ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน

ขณะที่ทีมแพทย์จะใช้มาตรการลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านทีละหลัง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการฝังศพผู้ติดเชื้ออย่างถูกวิธีซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงตรวจสอบจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตด้วย

เจ้าหน้าที่การแพทย์คนหนึ่งเปิดเผยว่า เรากำลังเร่งแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศให้หมดไปภายในระยะเวลาที่รับบาลเคยกำหนดเอาไว้คือวันที่ 15 เมษายน 2558

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่เชื้อไวรัสอีโบลาเริ่มระบาดตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมปีก่อน มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,200 ราย และมีผู้ติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก


"เซียร์ราลีโอน" ล็อคดาวน์3วัน คุม"อีโบลา" : มติชนออนไลน์

 

Pst Nong



โรคลิชมาเนีย แพทย์เตือนระวัง ริ้นฝอยทรายกัด ทำให้เกิดโรค เผย ที่พบในไทยเป็นสายพันธุ์ใหม่ ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ แนะสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด ทายากันยุง
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่าขณะนี้ โรคลิชมาเนีย (Leishmania) ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย เพราะพันธุ์ที่พบในประเทศไทยครั้งนี้มีสารพันธุกรรมแตกต่างจากเชื้อลิชมาเนียในประเทศอื่นที่มีรายงานมาก่อน จึงเชื่อได้ว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ให้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Leishmania siamensis
สำหรับโรคลิชมาเนียนี้ เกิดจากการกัดของริ้นฝอยทราย (Sand fly) เพศเมียที่มีเชื้อลิชมาเนียและทำให้เกิดโรคได้ทั้งในคนและสัตว์อีกหลายชนิด เช่น หนู สุนัข แมว ม้า วัว กระรอก และกระแต เป็นต้น โดยมีมากกว่า 20 ชนิดที่สามารถทำให้เกิดโรคในคนได้ ซึ่งจะแสดงอาการออกทางอวัยวะภายใน แสดงอาการทางผิวหนัง หรือแสดงอาการออกทางอวัยวะภายในและผิวหนังร่วมกัน สังเกตอาการได้จากการเริ่มมีไข้เรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ท้องอืด ตับม้ามโต ต่อมน้ำเหลืองโต ผิวหนังคล้ำและเกิดรอยโรคที่ผิวหนัง
นายแพทย์อภิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเชื้อลิชมาเนียที่ระบาดในไทยนั้นมี 2 ชนิด คือ ลิชมาเนียสายพันธุ์ไทย (L. siamensis) และลิชมาเนียที่พบในผู้ป่วยในเกาะมาร์ตินีก (Martinique Island) ชื่อว่า L. martiniquensis ก่อนหน้านี้มีรายงานการระบาดของเชื้อดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 74 ประเทศ ทั้งในแถบตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา อเมริกากลาง และตอนเหนือของอเมริกาใต้
สำหรับในประเทศไทยนั้น เคยมีรายงาน พบโรคนี้ 2 ช่วง คือในปี 2503-2529 ที่พบในคนที่เดินทางเข้าไปทำงานในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแหล่งระบาดของโรค และช่วงที่ 2 คือตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพบโรคนี้ในคนที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศมาก่อน และผู้ป่วยมีทั้งคนที่มีระดับภูมิคุ้มกันปกติ และภูมิคุ้มกันบกพร่อง พบทั้งในภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ รวมทั้งชาวพม่าที่เข้ามารักษาตัวในประเทศไทยอีกด้วย
อย่างไรก็ดี นายแพทย์อภิชัย ก็ชี้แจงว่าโรคลิชมาเนียสามารถป้องกันได้ดังนี้
1. สวมใส่เสื้อผ้ารัดกุมมิดชิด เมื่อต้องเข้าไปทำงานหรือพักค้างคืนในพื้นที่ที่คาดว่ามีริ้นฝอยทรายอาศัยอยู่
2. ทายากันยุงให้ทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาและแขน
3. นอนในมุ้งที่ชุบด้วยสารกำจัดแมลง
4. ฉีดพ่นสเปรย์กำจัดยุงและแมลงภายในบ้าน
5. ดูแลบริเวณบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต เพราะเป็นแหล่งรังโรคที่สำคัญ
6. หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณที่พักอาศัย และให้สารกำจัดแมลงบนตัวสัตว์ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

 

ดวงอุปราคา’ต้นปี [1]‘อาทิตย์ดับ จับตา‘อะไรจะเกิด



ทั้งนี้ ทางนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ได้ให้ข้อมูลผ่านทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า...สุริยุปราคานั้นให้ผลรุนแรงกว่าจันทรุปราคา

วันพฤหัสบดี 19 มีนาคม 2558 เวลา 06:00 น.
ตามการคำนวณทางดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ มีข้อมูลตรงกันว่าในปี 2558 นี้จะเกิด “อุปราคา” รูปแบบต่าง ๆรวม 4 ครั้ง โดยเกิดขึ้นในช่วงต้นปี-ครึ่งปีแรก 2 ครั้งคือ...สุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 20 มี.ค. กับจันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 4 เม.ย. และในช่วงปลายปี-ครึ่งปีหลัง 2 ครั้งคือ...สุริยุปราคาบางส่วน วันที่ 13 ก.ย. กับจันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 28 ก.ย. ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ใกล้จะเกิด ’อุปราคาครั้งแรกของปี“ นี้...

’สุริยุปราคาเต็มดวง“ ในไทยจะไม่ได้เห็น

แต่โหราศาสตร์ก็ชี้ว่า ’มีผลต่อเมืองไทย“

ทั้งนี้ ทางนายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ ได้ให้ข้อมูลผ่านทาง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า...สุริยุปราคานั้นให้ผลรุนแรงกว่าจันทรุปราคา โดยหลักโหราศาสตร์ถือว่า ’สุริยุปราคา“ จะยังผลหลัก ๆ เกี่ยวกับการเมืองการปกครอง ผู้ปกครอง การใช้อำนาจ ปกครอง การบริหารประเทศ ซึ่งการมืดมิดดวงเป็นสรรพคราส ย่อมให้ผลรุนแรงกว่าอุปราคาชนิดมืดบางส่วน และแม้ว่าพื้นที่การมองเห็น-มองไม่เห็นอุปราคาจะเกี่ยวกับระดับการยังผลมาก-น้อย แต่ประเทศ ไทยก็ย่อมจะได้รับผลกระทบจากอุปราคาด้วย

อ.ภิญโญ ชี้ว่า...สุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 20 มี.ค. 2558 จะเกิดในเวลา 16.38 น. ศูนย์กลางของคราสจะอยู่ในราศีมีน (ปลาคู่) อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ) ชั้น 3 ในระยะ 5 องศา 23 ลิปดา รัศมีสรรพคราสพาดผ่านทุติยนวางศ์ 1 ปฐมตรียางศ์ 5 (พิษนาค) เสวยอุตรภัทรบทนักษัตรฤกษ์ที่ 26 ในอาณาเขตของราชาแห่งฤกษ์

กับการยังผลในครั้งนี้ ก็มีคำทำนายทางโหราศาสตร์ไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยสังเขปคือ...สุริยุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นในราศีมีนอาโปธาตุ เป็นราศีธาตุน้ำชั้นที่ 3 ชนิดทวิภาวะราศี หรือสามัญราศีก็เรียก หรือจะเรียกว่าอุภยราศีก็ได้ อาจก่อเกิดเรื่องไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ส่งผลยุ่งยากสลับซับซ้อนยากแก่การสืบสวน อาจเกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องการชุมนุมประท้วงทางการเมือง หรือการชุมนุมของแรงงาน

และ เป็นห้วงเวลาที่อาจเกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น มีความยุ่งยากในวงการศาสนา วัดวาอาราม การศึกษา สถาบันการศึกษา กฎหมาย การแพทย์ การสาธารณสุข รวมถึงอาจเกิดโรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดอย่างหนัก และมีผลตามหลังอุปราคาด้วยอุบัติเหตุที่เกิดเพิ่มขึ้น ทั้งทางทะเล พื้นดิน อากาศ

อุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในราศีมีนซึ่งเป็นอาโปธาตุ ธาตุน้ำ จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ของเหลว น่านน้ำอาณาเขต ชนชั้นรากหญ้า ชนชั้นกรรมาชีพ เกษตรกร อาจเดือดร้อน เกิดความไม่พอใจ การบริหารประเทศอาจประสบปัญหารุนแรงเรื่องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับน้ำ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับคนหมู่มากต้องสะสาง อาชญากรรมลึกลับอาจเกิดขึ้นและยุ่งยากแก่การสืบสวน อาจเกิดอันตรายจากฝน ลูกเห็บ พายุฤดูร้อน เกิดปัญหาวาตภัยที่รุนแรง เกิดพายุหมุนและฝนฟ้าคะนองรุนแรง บางพื้นที่เกิดความเสียหายวงกว้าง อาจมีภัยจากการจมน้ำ อุบัติภัยในแม่น้ำลำคลองทะเลมหาสมุทร อาจเกิดความยุ่งยากในแวดวงเกี่ยวกับน้ำหรือของเหลว น้ำอุปโภคบริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม อาจมีปัญหา การค้า เกษตร เสียหาย อาจมีบุคคลสำคัญถึงแก่กรรม

...นี่เป็นโดยสังเขปจากคำทำนายอุปราคาครั้งนี้ ซึ่งจริง ๆ ยังมีคำทำนายที่ยึดโยงกับเรื่องเรือนชะตาหรือภพที่ได้รับผลจากอุปราคา เรื่องนักษัตรฤกษ์ หมวดฤกษ์ ตรียางศ์และนวางศ์ที่แนวอุปราคาอุบัติ และยังมีในส่วน “ดวงดาวที่เข้าสมาคมกับแนวอุปราคา” ด้วย ซึ่งส่วนหลังนี้ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ชี้ว่า...

ในวันเวลาที่เกิดอุปราคาครั้งนี้ จะมีดวงดาวที่เข้ามาสมาคม คือ ในราศีมีน มีดาวอาทิตย์ ดาวจันทร์ ที่เป็นปัจจัยเกิดอุปราคา และยังมีดาวอังคาร มฤตยู ส่วนราศีกันย์ มีราหูสถิตอยู่ ซึ่งการที่มีดาวมฤตยูจร และดาวอังคารจร อยู่ในราศีที่เกิดอุปราคา ในทางโหราศาสตร์ทำนายไว้ โดยสังเขปคือ...อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงหรือวางกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับโรงพยาบาล องค์กรการกุศล อาจเกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้น อาชญากรรมบางกรณีจะลึกลับจนยากแก่การสืบสวนค้นหาเพื่อคลี่ คลายคดี อาจเกิดการปองร้าย ฆาตกรรม วินาศกรรม วางเพลิง อาจเกิดความยุ่งยากในโรงงาน หรือเรือนจำ อาจมีการแหกคุกครั้งสำคัญเกิดขึ้น มีการตายเป็นจำนวนมากเกิดขึ้น มีการใช้กองกำลัง รวมถึงประเทศ อาจมีภัยจากศัตรูลึกลับ หรือก่อการร้ายจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ ในอนาคตดาวใดบ้างจะโคจรมาสัมพันธ์กับรอยประทับของแนวอุปราคา และอย่างไร ในทางโหรก็ถือว่าสำคัญ และรวมถึงกรณี “อุปราคาสัมพันธ์กับจุดตั้งรับในดวงชะตาเมือง” ที่ อ.ภิญโญ ก็ระบุว่า...เป็นเรื่องสำคัญมาก!! พร้อมมีคำทำนาย สุริยุปราคาเต็มดวง 20 มี.ค. เพิ่มเติมกับกรณีนี้ไว้ บางช่วงบางตอน ว่า...

’อาจเกิดเรื่องเสื่อมเสียขึ้นตามความหมายดาวพุธ ประเทศอาจจะเสียหายด้านเอกสารสัญญาข่าวสาร จากศัตรูลึกลับจากต่างประเทศ แผนใต้ดินจากต่างแดน“...อ.ภิญโญ ระบุไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

เน้นว่านี่เป็น ’คำทำนาย“ ตามหลักโหราศาสตร์

กับ ’สุริยุปราคาเต็มดวง“ อุปราคาแรกของปีนี้

ว่ากันตามหลักโหร...มิได้ชี้เฉพาะถึงใคร?!?!?.

‘ดวงอุปราคา’ต้นปี(1) ‘อาทิตย์ดับ!!’ จับตา‘อะไรจะเกิด?’ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ดวงอุปราคา’ต้นปี [1] ราหูอมจันทร์’+ลุ้นกัน‘จะเกิดอะไร



ทั้งนี้ จันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 4 เม.ย. หรืออีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า ในประเทศไทยมีโอกาสเห็นได้ในช่วงหัวค่ำ ซึ่งทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

วันศุกร์ 20 มีนาคม 2558 เวลา 06:01 น.
เมื่อเกิดอุปราคาครั้งแรกของปี 2558 นี้ คือ...สุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 20 มี.ค. ซึ่งไม่เห็นในไทย พอให้หลังไปอีก 15 วัน ในวันที่ 4 เม.ย. ก็จะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง เป็น ’อุปราคาครั้งที่ 2“ ที่เกิดในช่วงต้นปี-ครึ่งปีแรก ก่อนจะไปเกิดอีก 2 ครั้ง ช่วงปลายปี-ครึ่งปีหลัง คือ... สุริยุปราคาบางส่วน วันที่ 13 ก.ย. กับจันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 28 ก.ย. ซึ่งจันทรุปราคาเต็มดวง 4 เม.ย. ทางโหราศาสตร์ก็มีคำทำนายไว้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว...

จันทรุปราคาปกติยังผลน้อยกว่าสุริยุปราคา

แต่ ’จันทรุปราคาเต็มดวง 4 เม.ย.“ ก็น่าคิด...

ทั้งนี้ จันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 4 เม.ย. หรืออีกราว 2 สัปดาห์ข้างหน้า ในประเทศไทยมีโอกาสเห็นได้ในช่วงหัวค่ำ ซึ่งทาง อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้ให้ข้อมูลผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า...การที่มองเห็นได้ในไทย จึงมีอิทธิพลรุนแรงอย่างเต็มที่ต่อไทย โดยที่ ’จันทรุปราคา“ ยังผลเกี่ยวกับเรื่องของสังคม จิตวิทยาสังคม อารมณ์สาธารณะ เรื่องของประชาชนคนหมู่มาก เป็นสำคัญ

จันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 4 เม.ย. 2558 จะเกิดในเวลา 19.07 น. ศูนย์กลางคราสอยู่ในราศีกันย์ ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) ชั้น 3 สมผุสราศีกันย์ ในระยะ 22 องศา 39 ลิปดา รัศมีคราสพาดผ่านสัตตมนวางศ์ 2 ตติยตรียางศ์ 6 เสวยหัสตะนักษัตรฤกษ์ที่ 13 ในอาณาเขตภูมิปาโลแห่งฤกษ์ สามารถเห็นได้ที่ไทยตั้งแต่เวลา 18.53 น.

กล่าวสำหรับการยังผลของอุปราคาครั้งนี้ ก็มีคำทำนายทายทักในทางโหราศาสตร์ โดยสังเขปคือ... จันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นในราศีกันย์ ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) เป็นราศีชั้นที่ 3 ชนิดทวิภาวะราศี หรือสามัญราศีก็เรียก หรืออุภยราศีก็เรียก ซึ่งก็อาจจะเกิดเหตุเหมือนกรณีสุริยุปราคาเต็มดวง วันที่ 20 มี.ค. คือ...อาจก่อเกิดเรื่องไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง ที่ส่งผลสลับซับซ้อนยากแก่การสืบสวน อาจเกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับเรื่องของการชุมนุมประท้วง ทางการเมือง หรือเกี่ยวกับแรงงาน การนัดหยุดงาน เป็นห้วงเวลาที่อาจเกิดคดีอาชญากรรมมากขึ้น โรคภัยไข้เจ็บในคนและสัตว์ระบาดหนัก มีความยุ่งยากในวงการศาสนา การศึกษา กฎหมาย การแพทย์ และมีผลตามหลังอุปราคาด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมากทั้งทางพื้นดิน ทะเล อากาศ โดยเฉพาะการเดินทางไกล ๆ

ราศีที่ได้บังเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงขึ้นคือราศีกันย์ ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) ต้องระวังเรื่องดิน สิ่งก่อสร้าง ความเสียหายเกี่ยวกับแผ่นดิน แผ่นดินทรุด แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม อาคารตึกรามบ้านช่องสิ่งก่อสร้างพังทลาย การพังทลายของดิน การสูญเสียที่ดิน ดินแดนอาณาเขตอาจมีปัญหา เกษตรกรรมอาจมีปัญหา เกษตรกรรม พืชผลการเกษตร การค้าขาย อาจเสียหาย อาจมีปัญหามากเรื่องที่ดินทำกิน การบุกรุกที่ดิน ขณะที่เรื่องน้ำอุปโภคบริโภค น้ำใช้ในการเกษตร และอุตสาหกรรมการเกษตร ก็ยังเป็นปัญหาหลักที่ต้องแก้ไข

อ.ภิญโญ ระบุถึงคำทำนายในทางโหร กับอุปราคาครั้งที่ 2 ของปีนี้ ที่จะเกิดในราว 2 สัปดาห์จากนี้ อีกว่า...อาจมีปัญหาดินฟ้าอากาศแปรปรวนติดตามมาจากอุปราคา โลกธุรกิจอาจถูกก่อกวนหรือกระทบกระเทือน การบริหารประเทศอาจมีคะแนนนิยมตกต่ำลงเพราะปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง และการคอร์รัปชั่น การฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นทั่วไป จนอาจทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างชนชั้นมากขึ้น

“ธุรกิจอาจประสบปัญหาขาดทุนมาก งานบริการที่เคยโดดเด่นอาจทรุดลงเห็นได้ชัด สุขภาพประชาชนและโครงการเกี่ยวกับสุขภาพประชาชนอาจกระทบกระเทือน อาจอำนวยความอับโชคให้กับการบริหารประเทศ ผู้นำในระดับสูง ๆ”...นายกสมาคมโหรา ศาสตร์นานาชาติ ทายทักตามหลักโหราศาสตร์

ทั้งนี้ กับ “ดวงดาวที่เข้าสมาคมกับอุปราคา” ก็มีราหู กุมจันทร์อยู่ในราศีกันย์ ส่วนราศีมีนมีดาวอาทิตย์กุมพุธ และมฤตยู ซึ่งดาวพุธจรอยู่ในราศีตรงข้ามราศีที่อุปราคาอุบัติ ก็อาจจะเกิดปัญหา การเสื่อมเสีย ตามความหมายดาวพุธ เกี่ยวกับเอกสาร-ข่าวสาร ประเทศอาจได้รับความเสียหายด้านเอกสาร-ข่าวสารจากศัตรูลึกลับจากต่างประเทศ จากแผนใต้ดินจากต่างแดน เช่นเดียวกับกรณีสุริยุปราคาเต็มดวง 20 มี.ค. ส่วนดาวมฤตยูจรในราศีมีนก็เล็งกับราศีที่อุปราคาอุบัติ อาจจะเกิดความยุ่งยาก ความไม่พอใจ อาจมีกองกำลังลึกลับเกิดขึ้น อาจมีคดีอาชญากรรมลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้นในโรงในศาล อาจมีการเปลี่ยนกฎระเบียบในสถานที่กักกัน

อ.ภิญโญ ยังทำนายกรณี “อุปราคาสัมพันธ์กับจุดตั้งรับในดวงชะตาเมือง” เอาไว้ด้วย โดยสังเขปคือ...ประเทศอาจเสียหายด้านการสื่อสาร รวมถึงสิ่งที่เป็นความหมายของดาวศุกร์ เกี่ยวกับเศรษฐกิจ เศรษฐกิจตกต่ำ

’แนวอุปราคาสัมพันธ์กับราหูเดิม ราหูเป็นเจ้าเรือนที่ 11 หมายถึงการนิติบัญญัติ...ย่อมให้โทษตามความหมาย เช่น การออกกฎหมาย การเสนอร่างกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย อาจเกิดปัญหายุ่งยาก คนสำคัญในวงการดังกล่าวนี้มีการสูญเสีย“...นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ทำนายไว้

ก็เน้นไว้อีกเช่นกันว่านี่เป็นแค่ ’คำทำนาย“

ทำนาย ’อุปราคา“ ตามเกณฑ์โหราศาสตร์

จะเชื่อ-จะไม่เชื่อ...ก็ย่อมสุดแท้แต่?!?!?.

.......................................

‘ดวงอุปราคา’ต้นปี(2) ‘ราหูอมจันทร์’ ลุ้นกัน‘จะเกิดอะไร?’ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

น้ำมันและหุ้นสหรัฐฯ ร่วงกลับ ทองคำปิดสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2558 05:14 น. (แก้ไขล่าสุด 20 มีนาคม 2558 10:20 น.)



เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทกลับมาปรับลงอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) จากแรงขายตามหลังการพุ่งขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้าและดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ทองคำยังได้กำลังหนุนจากคำแถลงเฟด ทะยานปิดในระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 0.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เมื่อวันพุธ (18 มี.ค.) ราคาน้ำมันดีดขึ้นอย่างแรง หลังเฟดแสดงท่าทีผ่อนคลายอย่างไม่คาดหมายต่อประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) กลับมาปิดลบพอสมควร หลังดอลลาร์ฟื้นตัว ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด จากข้อมูลที่พบว่าสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ ท่ามกลางกำลังผลิตของประเทศที่แตะระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ขยับลงแรง จากการขายทำกำไรหลังพุ่งขึ้นอย่างมากหนึ่งวันก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ซึ่งปิดลบตามราคาน้ำมัน

ดาวโจนส์ ลดลง 117.16 จุด (0.65 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,959.03 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.23 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,089.27 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 9.55 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,992.38 จุด

เกรก ปีเตอร์สัน กรรมการผู้จัดการของบัลเลนไทน์ พาร์ตเนอร์ส บอกว่า การซื้อขายในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ถือเป็นความผันผวนปกติของตลาด หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพุธ (18 มี.ค.) จากถ้อยแถลงที่ผ่อนคลายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ในการซื้อขายวานนี้ (19 มี.ค.) เอ็กซอนโมบิล และเชฟรอน สองบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ปิดลบหนักที่สุดของดาวโจนส์ โดยร่วงลงร้อยละ 1.9 และ 1.8 ตามลำดับ อันเป็นผลจากความเคลื่อนไหวในด้านลบของราคาน้ำมันดิบ

กระนั้นก็ดีราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่งและแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลงของเฟดที่บอกว่าจะระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 17.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,169.00 ต่อออนซ์


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032543

 

คูเวตย้ำโอเปกต้องคงระดับการผลิตน้ำมันอย่างไม่มีทางเลือก แม้ราคาร่วงหนัก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 20:17 น. (แก้ไขล่าสุด 20 มีนาคม 2558 10:14 น.)



เอเอฟพี - รัฐมนตรีน้ำมันของคูเวตระบุในวันนี้ (19 มี.ค.) ว่าชาติสมาชิกของโอเปกต้องคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ในระดับเดิมอย่างไม่มีทางเลือก แม้ว่าราคาน้ำมันจะตกต่ำลง เนื่องจากต้องรักษาไว้ซึ่งส่วนแบ่งทางการตลาด

“สำหรับในกลุ่มโอเปก เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ในระดับสูงสุดอย่างที่เคยเป็น เพราะเราไม่ต้องการสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด” อาลี อัล-โอมาอีร์ บอกกับรอยเตอร์

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีผู้นี้ก็บอกว่ายินดีมากหากมีการดำเนินการใดๆ จากชาติผู้ค้าน้ำมันนอกโอเปก เพื่อทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงหนักเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว

“หากมีการดำเนินการใดๆ จากชาติที่อยู่นอกโอเปก เราคงจะมีความสุขมากๆ” โอมาอีร์ กล่าวหลังการลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านน้ำมันและการลงทุนกับรัสเซีย

องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่มีสมาชิก 12 ชาติ ได้ตัดสินใจเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า จะรักษาระดับการผลิตน้ำมันเอาไว้อย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ราคาน้ำมันตกต่ำอย่างต่อเนื่อง

นอกจากเรื่องที่ต้องรักษาส่วนแบ่งการตลาด โอมาอีร์ยังบอกอีกด้วยว่า โอเปกยังไม่มีแผนจะจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อศึกษาราคาน้ำมัน

“เรายังไม่ได้รับการเรียกร้องอย่างจริงจังจากสมาชิกรายใด ให้มีการจัดประชุมฉุกเฉิน ดังนั้นการประชุมครั้งหน้าของโอเปกก็จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนตามปกติ” รัฐมนตรีของคูเวตกล่าว

ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียตกต่ำลงในวันนี้ หลังจากที่เด้งขึ้นมาช่วงสั้นๆ ในวันก่อน จากข่าวที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยในช่วงหน้าร้อน

สำหรับราคาน้ำมันเวสต์เทกซัส งวดส่งมอบเดือนเมษายน ตกลงไป 1.11 ดอลลาร์ ทำให้ราคาอยู่ที่ 43.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ตกลงไป 78 เซ็นต์ ทำให้ราคาอยู่ที่ 55.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รัฐมนตรีคูเวตผู้นี้ยังบอกอีกว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่แย่ลง รวมถึงปัจจัยทางการเมืองและการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันร่วงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032448

 

เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุด มิ.ย.นี้ ตั้งท่าขยับแน่ๆ-แต่ก็มอง ศก.โตช้าลง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2558 20:57 น. (แก้ไขล่าสุด 20 มีนาคม 2558 10:15 น.)



@นักลงทุนในวอลล์สตรีท จับจ้องคำแถลงของเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบาย

เอเจนซีส์ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันพุธ (18 มี.ค.) ทิ้งคำรับรองที่จะใช้ “ความอดทน” ในเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน ก็ระบุว่าภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกาแผ่วไปจากเมื่อสามเดือนที่แล้ว และหากจะถอนตัวจากมาตรการต้านวิกฤตก็จะต้องระมัดระวังอย่างมาก งานนี้เลยมีการตีความกันว่า เฟดจะเริ่มต้นมาตรการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ยืนอยู่ใกล้ 0% มากว่า 6 ปีแล้ว อย่างเร็วที่สุดคือในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เดือนมิถุนายนนี้ แต่ที่มีแนวโน้มมากที่สุดคือในเดือนกันยายน อีกทั้งหลังจากนั้นก็จะขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วันเมื่อวันพุธ (18) เอฟโอเอ็มซีออกคำแถลงโดยคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ว่า อัตราเติบโตจะอยู่ที่ 2.3-2.7% และปรับลดแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อลงอยู่ที่ 0.6-0.8% พร้อมระบุว่า การเติบโตอยู่ในระดับพอประมาณ ส่วนหนึ่งเนื่องจากภาคครัวเรือนชะลอการใช้จ่าย ซึ่งเป็นการใช้ถ้อยคำที่มองการณ์ในทางแย่ลง เมื่อเปรียบเทียบกับคำแถลงหลังการประชุมเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมาที่ระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัวอย่างมั่นคง

ในคำแถลงที่ออกมาหลังประชุมวันพุธคราวนี้ เฟดยังตัดวลีที่ว่า “สามารถที่จะใช้ความอดทน” ในเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งปรากฏอยู่ในคำแถลงครั้งก่อนๆ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมแถลงข่าวถัดจากการออกคำแถลง เจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ชี้แจงว่า การตัดวลีดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่า เอฟโอเอ็มซีจะรีบร้อนดำเนินการใดๆ หรือมีการตัดสินใจกำหนดเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว

เยลเลนยังตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้ตลาดแรงงานเข้มแข็งขึ้นและอัตราว่างงานลดลงอยู่ที่ 5.5% แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคกลับลดลง และภาคที่อยู่อาศัยอยู่ในภาวะซบเซา ขณะที่เงินเฟ้อทำท่าลดลงมากกว่าขยับขึ้น อันเนื่องมาจากราคาพลังงานที่ดิ่งลง ด้านค่าแรงก็หยุดนิ่ง ส่วนดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก็กำลังทำร้ายภาคส่งออกของสหรัฐฯ

เธอระบุว่า มุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดหลายๆ คน คือ ผลตกค้างจากวิกฤตการเงินปี 2008 ยังคงมีแนวโน้มบีบคั้นการใช้จ่าย ตลอดจนยังคงสร้างความลำบากให้แก่การหาสินเชื่อ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

จากการที่เฟดออกมาเน้นย้ำความระมัดระวัง ทั้งที่ยิ่งขยับเข้าใกล้การเริ่มต้นนโยบายขึ้นดอกเบี้ยเช่นนี้ ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดทั่วโลกที่คาดหมายดว่า ธนาคารสหรัฐฯจะยืนกรานใช้จุดยืนอันแข็งกร้าวกว่านี้

สัปดาห์นี้ ทั้งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และองค์การเพื่อการร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ต่างเตือนว่า หากเฟดลุกขึ้นมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินอย่างแข็งขันแล้ว ก็อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกอ่อนเปลี้ยลง

ทั้งนี้ มีการคาดหมายกันอย่างกว้างขวางว่า เอฟโอเอ็มซีจะตัดวลี “สามารถที่จะใช้ความอดทน” ออกจากคำแถลง เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยแล้ว

ก่อนหน้านี้ เยลเลนก็ได้เคยย้ำหลายครั้งว่า การยกเลิกวลีดังกล่าวจะเป็นการส่งสัญญาณความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยภายในการประชุมเอฟโอเอ็มซีอย่างน้อยสองครั้งถัดไป ด้วยเหตุนี้เอง คำแถลงฉบับล่าสุดนี้จึงตีความได้ว่า ฤกษ์งามอย่างดีอย่างเร็วที่สุดที่เฟดจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นเดือนมิถุนายน

คำแถลงล่าสุดนี้ยังตอกย้ำสัญญาณดังกล่าว ด้วยการระบุว่าจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเอฟโอเอ็มซีครั้งต่อไปในเดือนหน้าอย่างแน่นอน แต่ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประชุมนัดถัดจากนั้น และเยลเลนบอกเพียงว่า กำหนดเวลาในการขึ้นดอกเบี้ยจะต้องขึ้นอยู่กับการประเมินข้อมูลในอนาคต

ทางด้าน คริส โลว์ แห่ง เอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล ให้ความเห็นว่า เยลเลนตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นถ้ามีการปรับใช้นโยบายคุมเข้มช้าเกินไป โดยเฉพาะในแง่การควบคุมเงินเฟ้อ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก่อนที่จะขึ้นดอกเบี้ย เอฟโอเอ็มซีก็ต้องการเห็นตลาดแรงงานอยู่ในสภาพซึ่งปรับตัวดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รวมทั้งอยากจะได้รับความมั่นใจก่อนว่า เงินเฟ้อจะกลับขยับขึ้นสู่เป้าหมายที่ 2% ในระยะกลาง

ขณะที่ แจน แฮตเซียส นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ตีความคำแถลงของเฟดว่า การขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเกิดขึ้นในการประชุมเอฟโอเอ็มซีเดือนกันยายน มากกว่าในเดือนมิถุนายน

ส่วน เคร็ก ดิสมิวค์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของไวนิง สปาร์กส์ ขานรับว่า เดือนกันยายนมีแนวโน้มสูงสุดสำหรับการเริ่มต้นขึ้นดอกเบี้ย และตลอดปีนี้น่าจะขึ้นเพียงครั้งเดียวหรือไม่เกิน 2 ครั้ง

เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย “เฟด ฟันด์ส เรต” อยู่ใกล้ๆ 0% มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008 ส่วนการขยับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายนั้น เฟดกระทำเมื่อเดือนมิถุนายน 2006 ตอนที่ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟูฟ่องและเศรษฐกิจเติบโตเข้มแข็ง กระทั่งเฟดมั่นใจประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยที่ 5.25%

จากแนวโน้มที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นนี้ กลายเป็นแรงหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ในวันพุธ ให้พุ่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับดัชนีราคาของตลาดหุ้น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง


࿴

 

รัสเซียยึดดินแดนเพิ่ม
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 20 มี.ค. 2558 06:00


(ภาพ: AP Photo)

ประธานาธิบดี จอร์จี มาร์กเวลาชวิลิ แห่งจอร์เจีย รวมทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประณามการลงนามสนธิสัญญาระหว่างรัสเซียกับเซาท์ ออสเซเทีย ซึ่งแยกจากจอร์เจียตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 ไปเข้ากับรัสเซียเมื่อ 18 มี.ค. ส่งผลให้รัสเซียรุกยึดอำนาจในจอร์เจียเพิ่มอีกเป็นดินแดนที่ 2 ตามหลังแคว้นอับคาเซีย

การลงนามมีขึ้นในวันครบรอบ 1 ปี การผนวกรวมแคว้นไครเมียของยูเครนเข้ากับรัสเซีย ขณะที่ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน ลงนามกฎหมายใหม่ 2 ฉบับให้พื้นที่ภาคตะวันออกที่กบฏฝักใฝ่รัสเซียยึดครองมีสถานะพิเศษปกครองตนเองแบบจำกัด.

รัสเซียยึดดินแดนเพิ่ม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

อุทาหรณ์!! เก็บแบตมือถือเก่าไว้ บึมสนั่น ไฟไหม้ตึกเมืองเพชรบูรณ์
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 มี.ค. 2558 22:45



อุทาหรณ์เตือนภัย แบตมือถือเก่าไร้คุณภาพระเบิด ไฟลุกไหม้อาคารเสี่ยหนุ่ม ทำธุรกิจรับส่งสินค้าวอด กลางเมืองมะขามหวาน เหตุพนักงานรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซุกแบตมือถือเก่าในกล่องเก็บเสื้อผ้าจนเกิดระเบิด...

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงแจ้ง ร.ต.ท.นพดล ม่วงน้อย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ก่อนนำรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ซึ่งทำธุรกิจรับส่งสินค้า ภายในหมู่บ้านการเคหะเพชรบูรณ์ ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ บริเวณชั้นล่างพบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้กองสินค้า จึงใช้น้ำฉีดกว่า 15 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้

ซากแบตเตอรี่มือถือต้นเหตุของเพลิงไหม้

นายศุภสร รักษะวรรณพันธ์ อายุ 29 ปี เจ้าของอาคาร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุปิดประตูบ้านไว้เพื่อออกมาไหว้ศาลพระภูมิ ที่อยู่ในหมู่บ้าน กระทั่งได้ยินเสียงชาวบ้านร้องตะโกนเสียงดัง โดยมีเสียงระเบิดภายในบ้านและมีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากบ้าน จึงรีบกลับมาใช้สายยางฉีดน้ำ และประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยระงับเหตุ


ไฟไหม้ข้าวของเสียหายมูลค่านับแสนบาท

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเพลิงสงบพบถังบรรจุทินเนอร์ระเบิดนับสิบถัง ตรวจสอบพบสินค้าที่รอส่งมอบลูกค้าเสียหายมูลค่าหลายแสนบาท และพบชั้นพลาสติกที่ใส่เสื้อผ้าของพนักงานมีร่องรอยการไหม้ผิดปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบพบต้นเพลิงเกิดจากแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือคุณภาพต่ำที่หมดสภาพเก็บไว้ภายใน และเกิดระเบิดก่อให้เกิดประกายไฟลุกไหม้เสื้อผ้าที่เก็บไว้ ก่อนลุกลามไปติดกองสินค้าและถังบรรจุทินเนอร์จนทำให้เกิดระเบิดเสียงดัง

จนท.ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ

นายศุภสร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นอุทาหรณ์ เตือนภัยให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ได้ระมัดระวังไม่ใช้แบตเตอรี่ของเทียมคุณภาพต่ำ หรือเก็บไว้ภายในที่พักอาศัยเพราะอาจเกิดเหตุการณ์คาดไม่ถึงเช่นนี้ พนักงานสอบสวนจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

อุทาหรณ์!! เก็บแบตมือถือเก่าไว้ บึมสนั่น ไฟไหม้ตึกเมืองเพชรบูรณ์ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

หมอกควันภาคเหนือยังวิกฤติ เชียงรายแตะ 333 ไมโครกรัม
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 19 มี.ค. 2558 12:50



มลพิษเกินมาตรฐานทั้งภาคเหนือ เชียงรายยังสูง 333 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามด้วยแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ผู้ป่วยยอดพุ่งกว่า 2,000 รายต่อวัน ระดมแจกหน้ากากอนามัย ขณะที่พะเยาหมอกควันพ่นพิษ ติดอันดับเช่นกัน

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศประจำวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 58 ในภาคเหนือพบว่า 8 จังหวัด ยังมีปริมาณฝุ่นละอองเกินกว่าค่ามาตรฐานกำหนดไว้ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

โดยสูงสุดอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย 333 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 166 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อ.เมือง จ.พะเยา 197 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อ.เมือง จ.ลำปาง 143 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อ.เมือง จ.น่าน 158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, อ.เมือง จ.แพร่ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.แม่สอด จ.ตาก 158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ส่วนสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงรุนแรง หมอกควันปกคลุมอย่างหนาทึบทั่วทั้งจังหวัด โดยเช้าวันนี้ อ.เมือง สามารถตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ 333 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ อ.แม่สาย ตรวจวัดได้ 280 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ประชาชนที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ต่างต้องสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกาย พบยอดผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มียอดต่อวัน กว่า 2,000 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่แพ้หมอกควันจะมีอาการแสบตา น้ำตาไหล เจ็บคอ หายใจลำบาก รวมถึงผิวหนังเกิดผื่นคัน ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หมอกควันจะมีส่วนกระตุ้นให้มีอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น


หน้ากากอนามัย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวเหนือ ในสภาวะค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
สำหรับที่ จ.พะเยา หมอกควันพ่นพิษอย่างต่อเนื่อง ส่วนการวัดค่าคุณภาพอากาศในวันนี้ บริเวณ อ.เมืองพะเยา พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 197 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ และยังคงติดอยู่ในอันดับที่ 3 ของภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากหมอกควันส่งกลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งไปทั่วจังหวัด ทำให้แสบตาแสบจมูก คอ หายใจติดขัด จนต้องสวมหน้ากากอนามัยกันหมอกควันพิษ ขณะทางเทศบาลเมืองพะเยาได้นำรถฉีดน้ำพ่นกลางอากาศ เพื่อเป็นช่วยลดภาวะหมอกควันที่แผ่ปกคลุมทั่วเมืองพะเยา

ทั้งนี้ นายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวขอความร่วมมือประชาชนอย่าได้เผาขยะ หรือวัสดุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดควันไฟในระยะนี้ เพราะหมอกควันได้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง จึงอยากขอความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อช่วยดูแลเรื่องงดการจุดไฟเผาทุกชนิดด้วย

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลประจำตำบลหลายแห่งในภาคเหนือ ได้ตั้งจุดแจกหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนอีกด้วย.

หมอกควันภาคเหนือยังวิกฤติ เชียงรายแตะ 333 ไมโครกรัม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ปอกเปลือก ทรราช
จริงอ่ะ!? สหรัฐฯต้องการให้รัสเซียเปลี่ยนสถานที่จัดงานวัน Victory Day จากมอสโคว์มาที่กรุงเคียฟแทน



-----------------
อ่านข่าวนี้แล้วก็ไม่รู้จะขำกับสหรัฐฯยังไงดีนะครับ นับวันยิ่งอาการหนักขึ้นทุกวัน เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พลตรี Robert Scales อดีตนายพลระดับสูงในกองทัพสหรัฐฯออกมาพูดผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง Fox News (รีพับริกัน) เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสหรัฐฯกับยูเครนตอนหนึ่งว่า "มันเป็นแค่เกมที่จะต้องแข่งขันกัน วิธีเดียวที่สหรัฐฯจะก่อให้เกิดผลใดๆในภูมิภาคนี้ได้ก็เริ่มต้นด้วยการฆ่าชาวรัสเซีย!" ถามจริง ถ้าสมมุติว่าคนรัสเซียหรือชาติอื่นพูดว่าอย่างนั้นบ้างแต่เปลี่ยนจากคำว่า "ชาวรัสเซีย" เป็น "ชาวอเมริกัน" แทน รัฐบาลของนายโอบาม่าจะว่าอย่างไรหละนี่? ไม่รู้จะพูดกับพวกนี้ยังไงดีอ่ะ กรรม!
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มี.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียรายงานว่า อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศยูเครน 3 คน (Steven Pifer, John Herbst และ William Taylor)ได้ออกมาเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times เกี่ยวกับสถานที่การจัดงานวันแห่งชัยชนะ (Victory Day) ของรัสเซียที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 นี้ว่าทางรัสเซียควรจะเปลี่ยนสถานที่จัดงานดังกล่าวมาเป็นที่กรุงเคียฟประเทศยูเครนแทน เอ้า... ก็งานนี้มันเป็นของรัสเซียจะไปจัดที่ยูเครนทำไมเล่า เป็นไรมากหรือเปล่านี่ ถ้าบอกกให้โอบาม่าไปจัดงานวันชาติที่เวเนซูเอล่าแทนในสหรัฐนจะเอาหรือเปล่าเล่า อันที่จริงฝ่ายรัสเซียก็คงจะชอบไอเดียนี้อยู่เหมือนกันนะ จัดมันสองที่เลยทั้งที่รัสเซียและที่กรุงเคียฟด้วย ขนอาวุธหนักเข้าไปในเมืองหลวงของยูเครนเต็มๆเลย กำลังทหารสวนสนามอีกซักแสนนาย พร้อมเครื่องบินรบอีกไม่อั้น พอเสร็จพิธีก็ไม่ต้องขนกลับอ่ะ อเมริกากับนาโต้จะรับได้หรือ?
สำหรับเหตุผลที่อดีตทูตสหรัฐฯทั้ง 3 คนออกมาเสนอไอเดียนี้นั้นเขาบอกว่า "เคียฟขอเสนอทางเลือกที่สมเหตุสมผลสำหรับการจัดงานวัน V-E Day ให้กับทางกรุงมอสโคว์ เนื่องจากนักการทูตตะวันตกและรัฐบาลยูเครนอาจจะจัดงานฉลองโดยไม่ต้องมีขบวนพาเรดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม (เพราะว่าประชาชนชาวยูเครนดูเหมือนว่าจะไม่ชอบใจเท่าไรนักที่ได้เห็นรถถังและจรวดมากมาย)" นี่หละหนาเขาเรียกคนประเภทนี้ว่าเป็นพวก "ลิ้นไม่มีกระดูก" ปลิ้นปล่อนพลิกลิ้นไปมา เจ้าเล่ห์เพทุบายสุดๆ หาใครเกินนักการเมืองพวกนี้ไม่มีอีกแล้ว ขนาดศรีธนญชัยยังอายว่างั้นเถอะ
เดี๋ยวจะหาว่าใส่ร้ายเขา มาดูเหตุการณ์ในอดีตเมื่อเร็วๆนี้กันบ้างซิ อ้อ… งานนี้สื่อฯฝั่งรัสเซียเขาสอนมวยนักการทูตชาวอเมริกันทั้งสามคนนี้ว่า "พวกอดีตนักการเมืองระดับสูง (ของสหรัฐฯ) ควรจะรู้จักประเทศที่พวกเขาเคยทำงานมาก่อนให้ดีกว่านี้หน่อยนะ" ยังไง? อ่านต่อนะครับ
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 รัฐบาลใหม่ของยูเครนที่มีสหรัฐฯเป็นโป๊กเกอร์ใหญ่ให้ ได้จัดแสดงการเดินพาเรดของกองทัพยูเครนขึ้นที่ถนน Khreshchatyk ในกรุงเคียฟประเทศยูเครนถ่ายทอดทีวีออกข่าวทั่วประเทศและทั่วโลก (ด้านล่างบทความนี้มีลิงค์วีดีโอให้ดูด้วย) ขบวนพาเรดแสดงแสนยานุภาพทางกองทัพของยูเครนแบบอลังการงานสร้างเดินฮึ่มๆอยู่ในเมืองหลวงของยูเครนที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลของยูเครนชุดปัจจุบันนี้มีประชาชนชาวยูเครนและต่างชาติออกมาชมมากมาย มีทั้งรถถัง จรวด ขีปนาวุธสารพัดรูปแบบ ก็ไม่เห็นว่าประชาชนชาวยูเครนจะบอกว่าไม่ชอบใจรถถังและจรวดอย่างที่อดีตทูตของสหรัฐฯพูดเลยนี่นา และอาวุธที่นำมาแสดงนั้นส่วนมากเป็นของอดีตสหภาพโซเวียตทั้งนั้น รุ่นใหม่หน่อยก็เป็นของรัสเซีย
ไหนจะรถถังและจรวดเป็นจำนวนมากที่รัฐบาลยูเครนส่งไปเข่นฆ่าประชาชนชาวยูเครนด้วยกันเองในสงครามยูเครนตะวันออกอีกละ ไม่เห็นจะพูดอย่างนี้บ้างเลย มิหนำซ้ำรัฐบาลยูเครนก็เรียกร้องให้ทั้งสหรัฐฯและอียูสนับสนุนอาวุธหนักให้กับยูเครนเพื่อไปต่อสู้กับกลุ่ม DPR/LPR ในยูเครนตะวันออกอีก สหรัฐฯเองก็พยายามจะขายอาวุธหนักเหล่านั้นให้ยูเครนอยู่เรื่อยๆ กรณีเหล่านี้ทำไมถึงไม่พูดแบบเดียวกันกับที่เสนอต่อกรุงมอสโคว์ นี่… นักการเมืองอเมริกันเขาก็เป็นกันแบบนี้แหละ
The Eyes
20/03/2558
--------------
'Start Killing Russians': Outrageous Outburst by Fox News Military Analyst / Sputnik International
Moscow Wants to Try US General Who Rallied to ‘Kill More Russians’ / Sputnik International
Seriously? US Now Wants Kiev to Host Moscow's Victory Day Parade / Sputnik International
https://www.youtube.com/watch?v=rZJW0c_gvuI

 

ปอกเปลือก ทรราช
อเมริกาห้ามไม่ให้รัฐบาลซีเรียเข้ามายุ่มย่ามกับปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯในน่านฟ้าซีเรียหลังจากโดรนถูกสอย



-----------------
มาดูอีกมาตรฐานแบบ American Exceptionalism บ้าง เมื่อวันอังคารที่ 17 มี.ค.58 ที่ผ่านมาสื่อฯต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่าโดรน (drone) หรือที่เรียกชื่อเป็นทางการว่า "Unmanned Aerial Vehicl" (UAV) ที่แปลว่า "อากาศยานไร้คนขับ" ของสหรัฐฯ รุ่น "MQ-1 Predator" ที่ส่งเข้าไปสอดแนมทางตะวันตกเฉียงเหนือในจังหวัดลาตาเกีย (Latakia) ของประเทศซีเรีย ถูกกองทัพของซีเรียใช้อาวุธปริศนาสอยซะล่วงไม่เป็นท่า
ตอนแรกมีข่าวมาว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นบ้านพักของประธานาธิบดีบัชชาร์ อัลอัสซัด (Bashar al-Assad) และโดรนของสหรัฐฯได้รุกล้ำเข้าไปในน่่านฟ้าของประเทศซีเรียโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลซีเรียเพื่อสอดแนมหรือลอบสังหารผู้นำของซีเรีย ต่อมามีรายงานว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นฐานทัพหรือฐานปฏิบัติการทางทหารแห่งหนึ่งของกองทัพซีเรีย โดรนของอเมริกาเข้ามาทางทะเลใกล้กับชายแดนตุรกี เพื่อมาแอบส่องกิจกรรมทางการทหารของซีเรีย เมื่อกองทัพของซีเรียพบเข้าก็สอยให้ร่วงในบัดดล เพื่อเป็นการสั่งสอน เท่านั้นยังไม่พอ มีการถ่ายรูปเศษซากเครื่องบินเล็กไร้คนขับเมดอินอเมริกามาเย้ยรัฐบาลสหรัฐฯและชาติพันธมิตรนาโต้ในอินเตอร์เน็ทด้วย หลักฐานเต็มๆ อเมริกาปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่ของตน
โดยในตอนแรกบอกเพียงว่า ขาดการติดต่อกับโดรนลำนั้นโดยไม่ทราบสาเหตุ อ้าว! ทางซีเรียเขาก็บอกแล้วไงว่าสาเหตุก็เพราะคุณรุกล้ำน่านฟ้าเขาแล้วก็เลยถูกสอยนะสิ ต่อจากนั้นนาง Jen Psaki โฆษกทำเนียบขาวก็ออกมาพูดว่า "แน่นอน! เราขอย้ำเตือนระบอบอัสซาดว่าอย่าเข้ามาข้องเกี่ยวยุ่มย่ามกับทรัพย์สินทางอากาศของสหรัฐฯ" แม่เจ้า!... นางเป็นไปได้ถึงเพียงนี้เลยหรือนี่? ต่อไปถ้าสมมุติว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียรุ่น "Tupolev Tu-95" บินไปโผล่เหนือทำเนียบขาวแล้วปูตินพูดแบบเดียวกันนี้โอบามาจะว่าอย่างไรหนอ? โถๆ… รุกล้ำเข้าไปในบ้านเขาแล้วยังกล้ามาบอกอีกว่า ห้ามมายุ่งกับอาวุธของตัวเอง กรรม!
เจ้าโดรน "MQ-1 Predator" ไม่ใช่แค่ติดกล้องคุณภาพสูงเท่านั่นนะ มันยังสามารถติดจรวดมิสไซล์ทำลายล้างรุ่น "AGM-114 Hellfire missiles" เอาไว้ได้ด้วยนะ เกิดวันดีคืนดีทางสหรัฐฯรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของปธน.ของซีเรียและปล่อยจรวดโจมตีผ่านโดรน แล้วก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หรืออาจจะบอกว่าเป็นฝีมือของพวกไอซิสหรือกลุ่มกบฎที่อเมริกาหนุนหลังอยู่จะว่าอย่างไรหละ
มีอีกข่าวหนึ่ง อันนี้สหรัฐฯเขาภูมิใจมาก คือเมื่อประมาณวันที่ 17-18 มี.ค.58 ที่ผ่านมาทางกองทัพสหรัฐฯได้รายงานว่าเครื่องบินรบของสหรัฐฯเปิดการโจมตีทางอากาศประมาณ 11 ครั้ง ในเมือง Falljah ของอิรัคเพื่อโจมตี "โดรน" ของไอซิส และประสบผลสำเร็จ โอ้ย... ดีใจนักหนา นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินรบราคาหลายพันล้านของสหรัฐฯสามารถสอยโดรนของไอซิสได้ ต้องประกาศให้โลกรับรู้ แล้วโดรนที่อ้างว่าเป็นของพวกไอซิสที่ว่านี้มันเป็นอย่างไรรึ? มันราคาแพงหรือเจ๋งพอๆกับของสหรัฐฯหรือเหนือกว่าของสหรัฐฯกันแน่?
อื่ม!… น่าสนใจ ทาง CENTCOM บอกกับสื่อฯว่า "โดรนที่ว่านี้เป็นโดรนขนาดเล็ก ไม่ติดอาวุธ สามารถถือไปไหนมาไหนติดตัวได้ เป็นประเภทที่หาซื้อได้ (จากร้านขายของเล่น) ทั่วไป" "ของเล่นโลเทค" ว่างั้นเถอะ แต่สหรัฐฯใช้เครื่องบินรบสุดไอเทคปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตั้ง 11 ครั้งกับโดรนอันเล็กๆไม่กี่หมื่นบาทนี่นะ คงกลัวว่ามันจะแขวนลูกระเบิดไปด้วยหละสิ
นาย Daniel McAdams จากสถาบัน Ron Paul Institute ของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับสื่อฯของรัสเซียว่า "แน่นอนพวกเขา (ไอซิส-ผู้เขียน) จะมีอาวุธเพิ่มขึ้น จะมีอาวุธที่ทันสมัยมากขึ้น (ใครหาให้เขาหละ?-ผู้เขียน) คนเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความสามารถในการทำเงินที่เก่งมากอย่างเหลือเชื่อ (อเมริกาชอบหละสิ-ผู้เขียน) ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นพวกทุนนิยม (capitalists) ในพื้นที่ พวกเขาขายน้ำมัน พวกเขาขายเฮโรอิน พวกเขาขายทุกอย่าง พวกเขาทำเงินได้เป็นตันๆ ผมคิดว่าพวกเขากำลังสร้างอาวุธที่ทันสมัยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" (นี่เขาพูดถึงกรณีโดรนตก) ที่พูดมานี้มันเหมือนพฤติกรรมของอเมริกาทั้งนั้นเลยนะ
ส่วนนาย Christopher Harmer นักวิเคราะห์อาวุโสด้านนาวิกโยธินเกี่ยวกับโครงการความมั่นคงในตะวันออกกลางประจำกรุงวอร์ชิงตันได้กล่าวถึงกรณีโดรนโลเทคของไอซิสถูกสอยร่วงว่า "พวกเขาไม่มีโดรนจู่โจมที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (กระจอกกว่าของสหรัฐฯว่างั้นเถอะ นั่นแหละที่อยากจะสื่อฯในประโยคนี้อ่ะ)... โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาอาจจะเปลี่ยนเป็นโดรนกามิกาเซ่ (kamikaze) ขนาดเล็กก็ได้"
ป.ล. ทางซีเรียไม่ได้เปิดเผยว่าใช้อาวุธอะไรในการสอยโดรนของกองทัพสหรัฐฯในครั้งนี้ได้ พูดแต่ว่าเป็นความลับมีแต่ผู้บัญชาการระดับสูงในกองทัพซีเรียเท่่านั้นที่รู้ นี่แหละที่ทำให้สหรัฐฯกำลังกลุ่มสุดๆอยู่ในตอนนี้อ่ะ
The Eyes
20/03/2558
--------------
Syria Knocks Down US Spy Drone in Latakia / Sputnik International
US Drone Downed in Latakia Spied on Syrian Army for ISIL: Analyst / Sputnik International
http://rt.com/news/242437-us-bombs-isis-drone/
Syrian air defenses bring down US surveillance drone – reports — RT News
http://rt.com/n…/242053-pentagon-drone-al-shabaab-operative/
http://rt.com/…/241701-pentagon-lost-millions-weapons-yemen/

 

Jaroen Compeerapap



เตือนความจำเพื่อน ๆ ในหน้า FB นี้ วันนี้ 20 มีนาคม 2515 จะมาปรากฎการณ์สำคัญคือ จะเกิด Solar Eclipse บ้านเราเรียกสุริยปราคา (เงาพระจันทร์ บังพระอาทิตย์) ซึ่งจะเกิดบริเวณแถวขั้วโลกเหนือ ซึ่งเกิดได้ยากมากกว่าจะเกิดต้องใช้เวลาหลาย ๆ ปี ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่า จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกและมนุษย์ในโลกอย่างไร ทั้งนี้เนื่องจากประวัติศาสตร์ของโลกในอดีตที่ผ่านมา บันทึกไว้ว่า เมื่อมี สุริยปราคาในเดือน มีนาคม และต่อด้วย จันทรุปราคา ต่อกันจะเกิดเรื่องใหญ่ตามมาเช่น ในอิสราเอล เป็นต้น การเกิดสุริยปราคาในวันนี้ เดือนมีนาคม ในกี่ไม่นาทีต่อจากนี้จะเห็นได้ชัดในยุโรปและขั้วโลกทางเหนือ ต่อมาในวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๑๕ ก็จะตามด้วยจันทรุปราคา อีก เราจึงต้องรอดูว่าอะรไจะเกิด ในซีกโลกต่าง ๆ จาก ไม่กี่นาทีนี้เป็นต้นไปครับ ติดตามนะครับน่าสนใจ

 

Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์






ภาพปรากฏการณ์สุริยคราสเต็มดวง วันนี้ ที่หมู่เกาะฟาโร ภาพจาก BBC

 

มูลนิธิสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระสังฆราชูปถัมภ์







วันนี้ (20 มี.ค. 2558) จะมีปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้น ในเวลา 16:36 น. ตามปฏิทินโหราศาสตร์โดยใช้เวลามาตรฐานประเทศไทย แต่คนในประเทศไทยจะมองไม่เห็นปรากฏการณ์นี้ บริเวณที่มองเห็นคราสเต็มดวงครั้งนี้คือตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอาร์กติก โดยผ่านหมู่เกาะแฟโรของเดนมาร์กและหมู่เกาะสฟาลบาร์ของนอร์เวย์ บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาบางส่วน ได้แก่ ทวีปยุโรป ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ตอนเหนือของแอฟริกา และด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเอเชีย
ในทางดาราศาสตร์ สุริยุปราคาเริ่มขึ้นเมื่อเงามัวแตะผิวโลกในเวลา 14:41 น. จากนั้นเงามืดเริ่มแตะผิวโลกในเวลา 16:10 น. ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก เงามืดเคลื่อนไปทางทิศตะวันออก และวกขึ้นเหนือ ผ่านทะเลที่อยู่ระหว่างไอซ์แลนด์กับสหราชอาณาจักร บริเวณนี้มีแผ่นดินของหมู่เกาะแฟโร (เขตปกครองตนเองของเดนมาร์ก) อยู่ในแนวคราส ที่นั่นเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงนานราว 2 นาทีเศษ ดวงอาทิตย์มีมุมเงย 20° กึ่งกลางคราส (Greatest eclipse) ซึ่งเป็นเวลาที่ศูนย์กลางเงาดวงจันทร์ผ่านใกล้ศูนย์กลางโลกมากที่สุด เกิดขึ้นเวลา 16:45:39 น. ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับทะเลนอร์เวย์ เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่กึ่งกลางนาน 2 นาที 47 วินาที เงามืดเคลื่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านหมู่เกาะสฟาลบาร์ของนอร์เวย์ ที่นั่นเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงที่กลางคราสนาน 2 นาทีครึ่ง ดวงอาทิตย์มีมุมเงย 10°-11° จากนั้น เงามืดเข้าสู่มหาสมุทรอาร์กติก แล้วออกจากผิวโลกบริเวณขั้วโลกที่เวลา 17:21 น. สุริยุปราคาครั้งนี้สิ้นสุดลงเมื่อเงามัวของดวงจันทร์ออกจากผิวโลกในเวลา 18:50 น.
ในทางโหราศาสตร์สากล คราสครั้งนี้เกิดขึ้นที่ 29 องศา 27 ลิบดา ราศีมีน ซึ่งเกิดก่อนปรากฏการณ์อาทิตย์ยกเข้าราศีเมษเพียง 8 ชั่วโมง จึงกล่าวได้ว่าเกิดที่จุดเมษพอดี ถือว่าเป็นคราสที่ส่งผลแรงต่อเหตุการณ์บนโลก
เครดิตข้อมูลจาก สมาคมดาราศาสตร์ไทย http://thaiastro.nectec.or.th/sk…/eclipses/2015eclipses.html

 

Pst Nong ผ่าน ASTV Manager Fan Club

21 มี.ค. “วันวสันตวิษุวัต” กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2558 14:38 น.



สถาบันวิจัยดาราศาสตร์เผย วันที่ 21 มี.ค.นี้เป็น “วันวสันตวิษุวัต” เวลากลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เป็นผลจากแกนโลกเอียง 23.5 องศา

รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่า ในแต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฎในตำแหน่งต่างๆ กัน ประมาณวันละ 1 องศา ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออก และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกพอดี ทำให้เป็นวันที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ภาษาสันสกฤตเรียกว่า “วันวสันตวิษุวัต” (Vernal Equinox) อ่านว่า วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ- วัด ประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนประเทศในซีกโลกใต้นับเป็นวันย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง

“สำหรับประเทศไทยในวันที่ 21 มี.ค. ดวงอาทิตย์ขึ้น เวลาประมาณ 6:22 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18:29 น. หลังจากนี้ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนที่เฉียงไปทางเหนือเรื่อยๆ และหยุดที่จุดเหนือสุดในวันที่ 21 มิ.ย. หรือที่เรียกว่าวันครีษมายัน (Summer Solstice) อ่านว่า ครี-สะ-มา-ยัน หลังจากนั้นจะค่อยๆ เคลื่อนที่เฉียงลงมาทางใต้อีกครั้งหนึ่ง” รศ.บุญรักษากล่าว


ผอ.สดร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นรูปวงรี ทำให้โลกมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ไม่เท่ากันตลอดปี ช่วงที่ใกล้ที่สุดประมาณต้นเดือน ม.ค. 147 ล้านกิโลเมตร ส่วนช่วงที่ไกลที่สุดประมาณต้นเดือนก.ค. 152 ล้านกิโลเมตร) การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ที่มีระยะใกล้บ้างไกลบ้างนั้น เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของใกล้-ไกล ถือเป็นอัตราส่วนที่น้อยมากจึงไม่ได้มีผลต่อการเกิดฤดูกาลแต่อย่างใด แต่การที่แกนของโลกเอียง 23.5 องศา เมื่อโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ตำแหน่งขั้วโลกเหนือหรือขั้วโลกใต้หันเข้าหาดวงอาทิตย์ส่วนต่างๆ ของโลกจึงได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ใน 1 ปี เกิดฤดูกาลต่างๆ

เนื่องจากแกนโลกไม่ได้ตั้งตรงแต่เอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของดวงอาทิตย์ ทำให้ระยะเวลา 1 ปี ที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ ดังนี้

1. วันวสันตวิษุวัต (วะ-สัน-ตะ-วิ-สุ- วัด) (Vernal Equinox) ตรงกับวันที่ 21 มี.ค. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนพอดี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือเข้าย่างสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง


2. วันครีษมายัน (ครี-สะ- มา-ยัน) (Summer Solstice) ตรงกับวันที่ 21 มิ.ย.หรือ 22 มิ.ย. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปี สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือ นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้ช่วงกลางวันจะสั้นที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว

3. วันศารทวิษุวัต (สาด-ทะ-วิ-สุ-วัด) (Autumnal Equinox) ตรงกับวันที่ 23 ก.ย. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนพอดี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือเข้าย่างสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ

4. วันเหมายัน (เห-มา-ยัน) (Winter Solstice) ตรงกับวันที่ 21 ธ.ค.หรือ 22 ธ.ค. เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางใต้มากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันสั้นที่สุดและกลางคืนยาวที่สุดในรอบปี หรือที่คนไทยเรียกว่า“ตะวันอ้อมข้าว” สำหรับประเทศทางซีกโลกเหนือนับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนประเทศทางซีกโลกใต้ ช่วงกลางวันจะยาวที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน

http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032725