ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เกษม · 18 มีนาคม 2015

แผ่นดินไหว 6.6 แมกนิจูด ใต้ทะเลเขย่าอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียเผชิญแผ่นดินไหวใต้ทะเล นอกชายฝั่งจังหวัดนอร์ท มาลูกู แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือคนเจ็บ ตลอดจนไม่มีคำเตือนคลื่นยักษ์สึนามิ

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงจาการ์ต้าประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่า เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลอย่างรุนแรง ที่บริเวณนอกชายฝั่งตะวันออกของอินโดนีเซียเมื่อวันพุธ แต่เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายหรือบาดเจ็บ รวมทั้งไม่มีคำเตือนถึงคลื่นยักษ์สึนามิ

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่ที่ระดับ 6.6 แมกนิจูด ห่างจากเมืองเทอร์เนต ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดนอร์ทมาลูกู ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 136 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปในทะเล 41 กิโลเมตร ด้าน นายเจอริสมาน ปูร์บา เจ้าหน้าที่สำนักงานธรณีฟิสิกส์ อุตุนิยม และภูมิอากาศวิทยาเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวไม่ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ และเท่าที่ผ่านมา แผ่นดินไหวเขย่าเมืองเทอร์เนต แต่ไม่มีความเสียหาย

อินโดนีเซียประเทศหมู่เกาะที่มีขนาดใหญ่สุดของโลก เผชิญแผ่นดินไหวบ่อยครั้งเนื่องจากตั้งอยู่บนวงแหวนไฟแปซิฟิก ซึ่งเป็นจุดรอยเลื่อนของเปลือกโลก และเมื่อเดือน ธ.ค.ปี 2547 อินโดนีเซียเผชิญแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ระดับ 9.1 แมกนิจูด นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งนับสิบประเทศ คร่าชีวิตผู้คน 230,000 ศพ

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 08:33 น.

วานูอาตูขาดแคลน ต้องดื่มน้ำเค็มหลังพายุถล่ม

วานูอาตู เดือดร้อนหนักหลังพายุถล่ม ประชาชนขาดแคลนน้ำดื่ม จนต้องดื่มน้ำเค็มแล้ว ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ขณะที่ความช่วยเหลือในบางพื้นที่ยังไปไม่ถึง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพอร์ต วิลาประเทศวานูอาตู เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ว่าประชาชนที่อาศัยอยู่บนเกาะห่างไกล ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของวานูดาตู ประสบชะตากรรมขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก ถึงกับต้องดื่มน้ำเค็มที่เต็มไปด้วยอันตรายกันแล้ว หลังจากพายุไซโคลนกำลังแรง “ปาม” พัดกระหน่ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยประชาชนบนเกาะโมโซ กล่าวว่าพวกเขากำลังรอความช่วยเหลือจากภายนอกเดินทางมาถึง โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์ต่างๆ ได้พยายามที่จะเข้าไปให้ถึงเกาะเล็กๆ ห่างไกลของวานูอาตูแล้วแต่สภาพภูมิประเทศที่ถูกน้ำท่วม ทำให้เครื่องบินขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ไม่มีที่จอดในหลายพื้นที่

นอกจากการขาดแคลนน้ำดื่มแล้ว เจ้าหน้าที่กล่าวว่าก็มีความต้องการอาหารและที่พักอาศัยชั่วคราวด้วย เนื่องจากยังมีประชาชนอีกหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัยในขณะนี้ ด้านสหประชาชาติหรือยูเอ็นได้ทบทวนตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการลดลงมาเหยืออยู่ที่ 11 คน จากตัวเลขก่อนหน้านี้ซึ่งอยู่ที่ 24 คน ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลง ก็เป็นผลเนื่องมาจากทางการประกาศคำเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับภัยของไซโคลนลูกนี้

4 วัน หลังจากไซโคลนพัดถล่มสำนักงานบรรเทาทุกข์ กล่าวว่าพื้นที่รอบนอกของวานูอาตูที่ถูกพายุถล่ม ได้รับความเสียหายหนักกว่ากรุงพอร์ตวิลา เมืองหลวงของวานูอาตู

เดลินิวส์ วันอังคาร 17 มีนาคม 2558 เวลา 22:11 น.

ทหารซีเรียโจมตีด้วยก๊าซพิษ

มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วย 3 คน จากเหตุโจมตีด้วยก๊าซพิษฝีมือทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงเบรุตประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่ากลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียแถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 6 ศพ เป็นสมาชิกในครอบครัวประกอบด้วยลูก 3 คน พ่อ แม่และปู่ ทั้งหมดเสียชีวิตเพราะขาดอากาศ หลังทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรียโจมตีด้วยระเบิดถังน้ำมัน ที่หมู่บ้านซาร์มินในจังหวัดอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา

แพทย์ที่หมู่บ้านซาร์มิน ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอิดลิบ ได้ตรวจวินิจฉัยแล้ว สรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นเพราะก๊าซ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นคลอรีนที่ระเหยออกมาจากถังน้ำมัน นักเคลื่อนไหวที่หมู่บ้านซาร์มินกล่าวว่า มีการใช้ก๊าซคลอรีนในการโจมตี และเผยแพร่คลิปวิดีโอความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลสนาม ซึ่งมีการรักษาเหยื่อที่มีอาการไอและมีการสวมหน้ากากป้องกัน นอกจากนั้นในคลิปยังมีความพยายามที่จะช่วยเด็ก 3 คน ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง และเจ้าหน้าที่การแพทย์ยอมรับว่าเป็นครั้งแรก ที่เห็นการโจมตีด้วยก๊าซพิษ

นักเคลื่อนไหวเคยกล่าวหาฝ่ายรัฐบาลซีเรียว่า ใช้ก๊าซคลอรีนซึ่งเป็นก๊าซอันตราย จนถูกจำแนกให้เป็นอาวุธเคมี โจมตีพื้นที่พลเรือนในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาองค์การห้ามอาวุธเคมี แถลงว่ามีการใช้ก๊าซคลอรีน ในการโจมตี 3 หมู่บ้านในซีเรีย เมื่อปี 2557 มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 13 ศพ

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 05:57 น.

รัสเซียซ้อมรบ ส่งขีปนาวุธประชิดบอลติก

รัสเซียมีแผนส่งขีปนาวุธเข้ามาในภูมิภาคคาลินนินกราด ที่ล้อมรอบด้วยกลุ่มประเทศแถบทะเลบอลติก รวมทั้งจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เข้าไปในไครเมีย เป็นส่วนส่วนหนึ่งของแผนซ้อมรบ ท่ามกลางความตึงเครียดกับกลุ่มประเทศตะวันตกจากวิกฤตการณ์ยูเครน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซีย มีถ้อยแถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า กองทัพรัสเซียจะทำการซ้อมรบในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการซ้อมรบตั้งแต่มหาสมุทรอาร์ติก ไปจนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก รวมกำลังพลเข้าร่วมหลายหมื่นนาย

นอกจากนี้แหล่งข่าวภายในกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้เปิดเผยว่า รัสเซียจะจัดส่งขีปนาวุธอิสคานเดอร์พิสัยยิงไกลกว่า 500 กม. มีความแม่นยำสูง สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์และหัวรบปกติได้ ไปติดตั้งในภูมิภาคคาลินนินกราด ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของประเทศติดกับชายแดนโปแลนด์และลิทัวเนีย ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนซ้อมรบ รวมทั้งจะเคลื่อนกำลังพลจัดส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-22M3 ที่สามารถลำเลียงระเบิดนิวเคลียร์ได้ มาไว้ที่คาบสมุทรไครเมียในทะเลดำ หลังประกาศแยกตัวออกจากยูเครนเมื่อปีที่แล้ว

ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมระบุว่า กองทัพในทะเลบอลติก กองทัพในภูมิภาคทางตอนใต้ และกองทัพอากาศจะถูกเตรียมพร้อมรบ และได้เริ่มเคลื่อนพลไปยังสนามฝึกซ้อมแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา หลังนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย สั่งการให้กองกำลังฝ่ายเหนือและกองทัพอื่นเตรียมสรรพกำลังให้พร้อม ในการฝึกซ้อมรบในมหาสมุทรอาร์ติก มหาสมุทรแปซิฟิก เขตตอนใต้ของไซบีเรีย และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

ด้านนนายอีวา โกปาคซ์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์วิเคราะห์ว่า การเคลื่อนพลของกองทัพรัสเซียนี้มีขึ้นเพื่อกดดันสหภาพยุโรป (อียู) ที่อาจจะพิจารณาคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มจากวิกฤติยูเครน โดยเป็นการส่งสัญญาณก่อนถึงกำหนดการประชุมคณะมนตรียุโรป ทั้งนี้เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว รัสเซียเคยส่งขีปนาวุธอิสคานเดอร์เข้ามาติดตั้งในคาลินนินกราดมาแล้วเป็นระยะเวลาสั้นๆจากการซ้อมรบ ก่อนจะถอนการติดตั้งออกไป

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 02:46 น.

รัสเซียลั่นไม่คืนไครเมียแก่ยูเครน

ทางการรัสเซียประกาศไม่คืนภูมิภาคไครเมียให้แก่ยูเครน แม้สหรัฐกับสหภาพยุโรปขู่จะคว่ำบาตรไม่เลิกก็ตาม

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ว่า นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคารว่า รัสเซียจะไม่คืนภูมิภาคไครเมียให้แก่ยูเครน แม้มีเสียงเตือนจากสหรัฐกับสหภาพยุโรป(อียู)ว่า จะไม่ยุติการคว่ำบาตรกรณีที่รัสเซียผนวกดินแดนไครเมียเมื่อปีก่อน นายเปสคอฟ บอกว่าเราไม่ได้บุกยึดไครเมีย แต่ไครเมียเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ทั้งนี้ รัฐสภารัสเซียอนุมัติการผนวกไครเมียเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ปีที่แล้ว หลังประชาชนบนคาบสมุทรไครเมียจัดลงประชามติสนับสนุนการแยกตัวจากยูเครน

ทุกวันนี้กองทัพรัสเซีย ได้เข้าประจำการในไครเมียหลังอดีตประธานาธิบดีวิคเตอร์ยานูโควิช แห่งยูเครนที่ฝักใฝ่รัสเซียถูกโค่นอำนาจเมื่อต้นปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม น.ส.เจนซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่าอเมริกาจะคงมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อไปตราบใดที่ไครเมียยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลมอสโก เช่นเดียวกับนางเฟเดอริกา โมเกรินี หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรปบอกว่า อียูยังคงยึดมั่นต่อนโยบายไม่ยอมรับการผนวกดินแดนไครเมียของรัสเซีย รวมทั้งจะคงมาตรการคว่ำบาตรต่อไป

เดลินิวส์ วันอังคาร 17 มีนาคม 2558 เวลา 19:13 น.

เวียดนาม-ออสเตรเลีย เรียกร้องให้อดกลั้นกรณีพิพาททะเลจีนใต้

เวียดนามและออสเตรเลีย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกรณีพิพาททะเลจีนใต้มีความอดกลั้น และไม่ควรใช้กำลังแก้ปัญหา

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงแคนเบอร์ราประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่า เวียดนามกับออสเตรเลีย เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความอดทนอดกลั้น จากข้อพิพาทในทะเลจีนใต้และเตือนว่า ไม่ควรใช้กำลังแก้ปัญหา นายกรัฐมนตรีเหงียน ทัน ดุง แห่งเวียดนาม ได้พบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีโทนีแอ็บบอตต์ ในกรุงแคนเบอร์ราซึ่งนอกจากผู้นำทั้งสองเรียกร้องให้หลายฝายอดกลั้น ในกรณีพิพาทหมู่เกาะทะเลจีนใต้แล้ว ยังจะลงนามในข้อตกลงหลายประเด็น รวมทั้งความมั่นคงและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

นายกฯเวียดนามยังแถลงต่อรัฐสภาออสเตรเลียว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จำเป็นต้องร่างกฎข้อบังคับสำหรับทะเลจีนใต้ และยังเห็นด้วยว่า ควรอดทนอดกลั้น ต่อการกระทำใดๆก็ตาม ที่อาจทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค รวมทั้งการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทั้งนี้จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้ถึงร้อยละ 90 โดยร่างแผนที่อย่างเป็นทางการ ซึ่งเรียกกันว่า เส้นประ 9 เส้น ที่ครอบคลุมเข้ามาถึงใจกลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไนและไต้หวัน อ้างกรรมสิทธิ์ในบางส่วนของทะเลจีนใต้ ที่ว่ากันว่าอุดมไปด้วยพลังงาน และยังเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญของโลก

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 11:14 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

เกษม · 18 มีนาคม 2015

ฝูงลิงเขาโต๊ะแซะนับพันเริ่มอดอยาก

ฝูงลิงกว่า 2,000 ตัว ที่อาศัยอยู่บนเขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เริ่มขาดแคลนอาหาร จากสภาพอากาศที่แห้งแล้งจัด จนต้องรออาหารจากประชาชนที่จะนำมาเลี้ยง ขณะที่หลายฝ่ายหวั่นหากภัยแล้งมีระยะเวลายาวนาน อาจส่งผลให้ลิงลงมาหากินตามบ้านเรือนประชาชน

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดชมวิวเขาโต๊ะแซะ ถนนนริศร อ.เมือง จ.ภูเก็ต ฝูงลิงกว่า 2,000 ตัว ที่อาศัยอยู่บนเขาโต๊ะแซะขณะนี้เริ่มขาดแคลนอาหารตามธรรมชาติ เนื่องจากอากาศแห้งแล้ง กิ่งไม้ใบหญ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และทิ้งใบจนเหลือแต่กิ่งก้าน พ่อแม่ลิงจึงต้องพาลูกเล็กหลบแดดที่ร้อนจัดใต้อยู่ต้นไม้ใหญ่และตามโขดหิน เพื่อรออาหารและน้ำที่ประชาชนจะนำมาให้ โดยตลอดทั้งวันมีผู้นำอาหาร อาทิ กล้วย ถั่วลิสง ข้าวโพด และน้ำมาให้ลิงในจุดที่ให้อาหาร ซึ่งทันทีที่มีรถมาจอด ฝูงลิงต่างวิ่งกรูเข้าหาและยื้อแย่งอาหารด้วยความหิวโหย แต่ก็ไม่ได้มีท่าที่ดุร้ายแต่อย่างใด มีเพียงบางส่วนที่ยื้อแย่งอาหารกันจนถึงขั้นทำร้ายตัวอื่นๆ

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้มีการนำอ่างซีเมนต์มาวางเพื่อใส่น้ำให้ลิงดื่มและลงเล่น โดยเจ้าหน้าที่จะนำน้ำมาเติมให้วันละครั้ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับจำนวนลิงที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเริ่มมีความกังวลว่า จำนวนลิงที่เพิ่มขึ้นมากจากปีที่ผ่านมา และภัยแล้งมีระยะเวลาที่ยาวนาน อาจทำให้อาหารไม่เพียงพอ จนลิงต้องลงไปหากินตามบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งอากาศที่ร้อนก็มีความเสี่ยงอาจทำให้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นได้.

เดลินิวส์ วันอังคาร 17 มีนาคม 2558 เวลา 21:05 น.

สกลนครแล้งรีบเก็บมะเขือเทศหนี

แล้งร้อน สกลนคร น้ำแห้ง เกษตรกรรีบเก็บมะเขือเทศหนี ด้านอุตุ ฯ เตือน 20-25 มี.ค.ระวังฝนฟ้าคะนองลูกเห็บตก

เมื่อวันที่18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานีอุตุนิยมวิทยา สกลนคร พยากรณ์อากาศประจำวันระบุว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยลักษณะ เช่นนี้ท่าให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางแห่ง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 20-25 มี.ค.บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนประกอบกับมี คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศพม่าเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือลักษณะเช่นนี้ท่าให้บริเวณ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดย มีลักษณะของลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ด้าน นายวัชระ อนุญาหงษ์ เกษตรกรผู้ปลูกมะเขือเทศบ้านนาเพียงใหม่ ต.นาเพียง อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร เปิดเผยว่า ช่วงนี้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆลดลงอย่างรวดเร็วที่กักตุนไว้เริ่มหมดต้องขุดน้ำใต้ดินมาใช้ และเริ่มลดลง ตนปลูกมะเขือเทศทั้งจำหน่ายเมล็ดและรับซื้อแบบไปทำซ็อดมะเขือเทศ ซึ่งตนปลูกจำนวน 2 ไร่ ต้องรีบเก็บมะเขือเทศส่งขายแม้จะได้ราคาน้อยก็ตาม เนื่องจากน้ำที่เก็บกักไว้อาจไม่เพียงพอต่อฤดูการเพาะปลูกแม้จะราคาต่ำก็ตาม ซึ่งปัจจุบันตลาดรับซื้อมะเขือเทศจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 2 บาทและมะเขือเทศแบจำหน่ายเมล็ดกิโลกรัมละ 5 พันบาท.

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 10:02 น.

18 อำเภอเชียงใหม่วิกฤติแล้งหนัก

เชียงใหม่แล้งหนัก ล่าสุดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง 18 อำเภอ ด้าน ปภ.เขต 10 ลำปางเข้าช่วยเหลือพื้นที่เชียงใหม่อย่างเร่งด่วน ตานโยบายของ มท.1 เพื่อให้เชียงใหม่พ้นวิกฤติภัยแล้ง

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 10 ลำปาง เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ขณะนี้ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 18 อำเภอจากทั้งหมด 25 อำเภอ คือ เชียงดาว หางดง ฮอด ดอยเต่าสันกำแพง สะเมิง ดอยหล่อ ดอยสะเก็ด จอมทอง สันป่าตอง สันทราย พร้าว แม่ออนเวียงแหง ไชยปราการ แม่แจ่ม สารภี และกัลยาณิวัฒนา นอกจากนี้จากการเดินทางไปตรวจสอบติดตามความคืบหน้าโครงการขุดลอกลำน้ำแม่แตง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ปรากฏว่ามีความคืบหน้ากว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งราษฎรในพื้นที่มีความพึงพอใจมากเพราะนอกจากจะได้รับประโยชน์จากระดับของการขุดลอกทั้งความกว้าง และความลึกสามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูแล้งแล้วคันดินที่สูงจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูฝนได้อีกด้วย

นายคมสัน กล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งจังหวัดเชียงใหม่ตามภารกิจที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดส่งรถสูบส่งน้ำระยะไกล จาก 4 ศูนย์ ปภ.เขต 8,9,10 และ 15 เข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง 8 อำเภอของ จ.เชียงใหม่ นอกจากนี้ก็ได้นำรถน้ำ 6,000 ลิตร 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ 2 นาย ของศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลกออกเดินทางไปช่วยราษฎรประสบภัยแล้งน้ำอุปโภค บริโภค ตามหนังสือร้องขอของ อ.กัลยาณิวัฒนา เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีรถบรรทุกน้ำอยู่เลย

ทั้งนี้ ในช่วงอากาศที่แห้งแล้ง ทางกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและระงับอัคคีภัยให้เตรียมโดยซักซ้อมการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุการป้องกันและระงับอัคคีภัยของจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยในช่วงฤดูแล้งทั้งนี้ให้เน้นการประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงช่องทางการแจ้งเหตุโดยเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินต่างๆในพื้นที่จังหวัดเพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้อย่างรวดเร็วและกำชับให้ทุกหน่วย โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมอุปกรณ์ยานพาหนะและเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 14:09 น.

แล้งหนัก! ชาวบ้านร่วมใจหาปลาก่อนน้ำในคลองแห้ง

แล้งหนัก! ชาวบ้านร่วมใจหาปลาก่อนน้ำในคลองแห้ง

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงทั่วทั้ง 9 อำเภอ จังหวัดพิษณุโลก ส่งผลให้แม่น้ำ ลำคลองหลายสายแห้งขอด โดยที่คลองแม่เทียบ หมู่ 1 บ้านแม่เทียบ ต.บางกระทุ่ม อ.บางกระทุ่ม ระดับน้ำได้ลดลงกว่าทุกปี จนชาวบ้านรวมตัวกันกั้นน้ำ พร้อมใจลงข่ายหว่านแห ลากอวน ดักปลา และได้ปลาไปจำนวนมาก โดยเฉพาะปลาสร้อย ปลากะดี่ ปลาแขยง ปลาฉลาด และปลาชะโด ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ตัวใหญ่ น้ำหนักหลายกิโลกรัม

นางสุวรรณ แสนสุข อายุ 63 ปี ชาวบ้านได้กล่าวว่า ปีนี้แล้งหนัก ตนและเพื่อนบ้านจึงรวมตัวกันลงข่ายดักปลา ลากอวน เพื่อนำปลาในคลองน้ำที่เหลือมาแบ่งกันกิน ก่อนที่น้ำจะแห้งหมด โดยในปีนี้ได้ปลาค่อนข้างมาก และแบ่งกันครอบครัวละเกือบ 10 กิโลกรัมทีเดียว

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 16:59 น.

มะนาวแพง เป็นภัยกับสุนัขเฝ้าสวน

โจรขโมยมะนาววางยาเบื่อสุนัขเฝ้าสวนนับ 10 ตัว

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายสุรชาติ กันทวิชยานนท์ อายุ 64ปี อยู่บ้านเลขที่ 252 หมู่ 8 บ้านเลิง ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น อดีตเกษตรและสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด เจ้าของสวนมะนาวพันธุ์แป้นพิจิตร1 เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ปราโมทย์ วิชัยวงษ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมืองขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่หน.สภ.ย่อยโคกสี ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน เข้ามาวางยาเบื่อสุนัข 2 ตัว ที่เฝ้าสวนก่อนขโมยลูกมะนาวไปจำนวนมาก

นายสุรชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงที่จังหวัดขอนแก่นประสบภัยแล้ง ทำให้ราคามะนาวแพงขึ้นมาก ขณะนี้ราคาส่งอยู่ที่ลูกละ 6–7 บาท ถ้านำไปขายในท้องตลาดจะตกลูกละ 10–12 บาท ช่วงนี้จึงมีคนร้ายเข้ามาขโมยมะนาวเป็นประจำ โดยมีการตัดกิ่ง เด็ดลูกมะนาวออกจากต้นใส่ถุงปุ๋ยสีขาวไปทีละ 200–300 ลูกโดยคนร้ายจะมีการใช้ยาเบื่อหมาทุกครั้ง จนหมาที่เลี้ยงไว้เฝ้าสวนตายไปแล้วประมาณ 10ตัว และมีร่องรอยการเก็บให้เห็นชัดเจนตนขอเรียกขานโจรเหล่านี้ว่า “เพลี้ยกระสอบ” เพราะมีพฤติกรรมจะมาเพียงลำพัง โดยนำถุงกระสอบมาลักลอบบรรจุผลมะนาวเที่ยวหนึ่งได้ไปไม่ต่ำกว่า 1 พันลูก คนร้ายที่คาดว่าเป็นชาวบ้านในละแวกใกล้สวนมะนาวของตนก็คงเข้ามาลักขโมยมะนาว เพื่อเอาไปขายในตลาดตนไม่ว่าอะไร ถือว่ามาขอกันกินได้แต่อย่ามาฆ่าสุนัขเฝ้าสวน

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะให้ชุดสืบสวนออกหาข่าว ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 19:36 น.

เตือนร้านสะดวกซื้อระวังลักฝาขวดน้ำส่งชิงเบนซ์

ผกก.ทุ่งสง เมืองคอน ตรวจเยี่ยมร้านสะดวกกว่า 20 แห่ง พร้อมฝากเตือนเฝ้าระวังโจรในคราบลูกค้า ลักขโมยฝาขวดน้ำดื่มยี่ห้อดังส่งรหัสชิงรถเบนซ์

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. พ.ต.อ.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผกก.สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังจำนวนหนึ่งออกตรวจเยี่ยมและแจ้งเตือนร้านสะดวกซื้อต่างๆ ภายในตัวเมืองทุ่งสงและชานเมือง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20 กว่าร้าน เพื่อให้พนักงานขายภายในร้านเฝ้าระวังคนร้าย ที่แอบแฝงทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสิ่งของภายในร้าน แล้วฉวยโอกาสขโมยฝาเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งไปเพื่อร่วมชิงโชคเป็นรางวัลรถเบนซ์

พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงนี้มีเครื่องดื่มยี่ห้อดังประกาศแจกรถยนต์เบนซ์แก่ลูกค้า โดยให้ร่วมชิงโชคด้วยการให้ซื้อเครื่องดื่มยี่ห้อดังกล่าวแล้วส่งเลขรหัสที่อยู่ใต้ฝาขวดทางเอสเอ็มเอสไปร่วมชิงรางวัล ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่มีการโฆษณาแล้ว ประชาชนต่างให้ความสนใจซื้อเครื่องดื่มยี่ห้อดังกล่าวไปดื่มเพื่อเอาฝาขวดมาร่วมชิงโชคเป็นจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกัน ปรากฏว่าได้มีคนร้ายแฝงกายทำทีเป็นลูกค้า เข้ามาเลือกซื้อสินค้า ก่อนจะไปยืนหน้าตู้แช่ที่มีเครื่องดื่มยี่ห้อดังกล่าวแช่อยู่ แล้วแอบขโมยเอาเฉพาะฝาเครื่องดื่มไปครั้งละจำนวนหลายขวด ส่วนขวดน้ำจะวางไว้ในตู้แช่ตามเดิม จึงฝากเตือนให้ทางพนักงานในร้านได้รับทราบพฤกติกรรมของคนร้าย และคอยจับตาดูลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ แต่แอบแฝงขโมยฝาเครื่องดื่มดังกล่าวด้วย.

เดลินิวส์ วันพุธ 18 มีนาคม 2558 เวลา 21:17 น.

เตือนภัยจากโรคหน้าร้อน

กรมควบคุมโรค เตือนโรคหน้าร้อน ส่วนใหญ่เป็นโรคทางเดินอาหาร โรคลมแดด พิษสุนัขบ้า และเด็กจมน้ำ พร้อมห่วง แนะปรับสิ่งแวดล้อม ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูร้อนถือเป็นช่วงที่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจทำให้มีโอกาสเกิดการระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง 5 โรคสำคัญ คือ อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษบิด อหิวาตกโรค ไข้รากสาดน้อยหรือไข้ไทฟอยด์ นอกจากนี้ยังมีโรคพิษสุนัขบ้า โรคลมแดดและการป้องกันเด็กจมน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยาพบว่า ตั้งแต่ต้นปี 2558 มีรายงานผู้ป่วยจาก 5 โรค รวมกันอยู่ที่ 197,504 ราย เสียชีวิต 2 ราย โรคที่พบมากอันดับ 1 ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง 175,270 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ร้อยละ 11.48 และอายุ 15.24 ปี ร้อยละ 11.15 รองลงมา คือ โรคอาหารเป็นพิษ 21,682 ราย โรคบิด 334 ราย ไข้รากสาดน้อยหรือไข้ไทฟอยด์ 217 ราย และอหิวาตกโรค1 ราย ตามลำดับ

ส่วนโรคที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ โรคพิษสุนัขบ้า โรคลมแดด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ต้องระวังอย่าให้ขาดยาและหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดจัดเป็นเวลานาน และการป้องกันเด็กจมน้ำ ซึ่งจากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในปี 2557 มีผู้เสียชีวิต6 ราย และการป้องกันเด็กจมน้ำเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องช่วยกันในช่วงฤดูร้อน เพราะตรงกับช่วงปิดเทอมของเด็กโดยพบว่า ในกลุ่มเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปีการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ในทุกสาเหตุทั้งโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ซึ่งตลอดปี 2557 มีเด็กเสียชีวิต 807 คนหรือ 7.1 คนต่อประชากรเด็กแสนคนดังนั้นต้องสำรวจแหล่งน้ำรอบชุมชน ปิดประกาศเตือนจุดอันตรายและเตรียมอุปกรณ์สำหรับการช่วยเหลือชีวิตเอาไว้ใกล้ๆ ด้วย

ด้านนพ.ธนรักษ์ ผลิผล ผอ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า นอกจากนี้ยังต้องระวังกลุ่มโรคทางเดินหายใจหรือ หวัด เพราะอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสถานการณ์เริ่มดีขึ้นโรคมือเท้าปาก ก็พบว่าสถานการณ์เริ่มสงบลง และ 3 โรคไข้เลือดออก ที่ปีนี้ถือว่าต้องจับตาเป็นพิเศษจะมีการระบาดในช่วงฤดูฝน ฤดูร้อนจึงถือเป็นช่วงวางไข่ทั้งนี้ จากสถิติช่วงต้นปีพบว่าอัตราการป่วยสูงกว่าปกติเมื่อเทียบกับปีเดียวกันและสูงกว่าค่ามาตรฐาน ทำให้พยากรณ์ว่าในฤดูฝนที่จะถึงอาจจะมีการแพร่ระบาดของโรคสูงจึงต้องเร่งรณรงค์ให้กำจัดยุงซึ่งเป็นพาหะนำโรค โดยการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมและการใช้สารเคมี แต่วิธีที่ได้ผลดีที่สุด คือ การปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะในบ้านเรือนประชาชนต้องคอยดูแลอย่าให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุง.

เดลินิวส์ วันอังคาร 17 มีนาคม 2558 เวลา 15:52 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/