เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาสาธุครับขอบคุณมากครับที่ชี้แนะแล้วจะไปยังไงจนปานนี้ยังไม่หายเลย คือปกติเป็นคนไม่ชอบยุ่งเกียวกับใครไม่ชอบรู้เรื่องคนอื่นถ้าไม่เหมาะสมจะชี้แนะถ้าไม่ฟังกันจะปล่อยวางไม่ยุ่งกับใครอยู่แล้วครับอยากแนะสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อคนอื่นแต่ไม่ค่อยมีใครยอมฟังหรือเค้าฟังไม่รู้เรื่องรึเปล่าก็ไม่รู้ แล้วผมอยู่ขี้นไหนจะไปยังไงรู้แต่จิตมันไม่ไปไหนมันเริ่มเฉยๆไม่ยินดียินร้ายอะไรรอบข้างวุ่นวายแต่ผมกลับเห็นแล้วเฉยๆไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับเค้า เบื่อคนรอบข้างที่วุ่นเพื่อตนทั้งนั้นมีแต่ผลประโยชน์ส่วนตน. วันนี้อยากอยู่คนเดียวเงียบๆแปลกมาก อ้อเพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อกี้ทำสมาธิเหมือนตัวเองลอยอยู่นอกโลกแล้วมีเสียงบอกให้อยู่เฉยๆแล้วเหมือนใครจะให้เป็นอะไรก็แล้วแต่แต่ตัวรู้ว่าไม่เป็นอะไรมันว่างเหมือนไม่มีอะไรแม้แต่ตัวเองก็ไม่มีมีแต่รู้แค่นั้นเพิ่งเกิดเลยทำจิตถอยออกแล้วเลิกทำสมาธิก่อนแต่ความรู้สึกนั้นยังอยู่จนเดียวนี้ ช่วยแนะนำหน่อยครับ. สาธุ
     
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    การคุยกับบุคคลรอบข้างไม่ว่าสูงต่ำดำขาว เราต้องรู้จิตเขาก่อน รู้แล้วก็จะรู้ว่าจะคุยกับเขาแบบไหนอย่างไร หรือไม่จำเป็นต้องคุย ดังนั้น การเผยแผ่ธรรมะ เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย

    ทำไมคุณไม่ลองมองดูว่า มีใครบ้างที่คุยกับคุณได้ หรือในทางกลับกัน คุณสามารถคุยกับใครได้บ้าง เพราะอะไร

    สิ่งเหล่านี้จึงต้องเรียนรู้ แต่ถ้าปราถนาเป็นพระอรหันต์สาวก หรือพระปัจเจก ก็แล้วแต่เพราะวาสนาบารมีฝึกฝนไม่เหมือนกันครับ

    อยู่ที่ความตั้งใจของเราและเรียนรู้วิธีการ กลยุทํธ หรือกระบวนการเหล่านี้ เมื่อเข้าใจรู้แจ้งชำนาญ ก็สามารถทำได้ตามที่ปราถนาครับ สาธุ

    อย่าไปกังวลเลยครับ ทำได้เราก็ทำ ทำไม่ได้เขาไม่เปิดรับ เราก็ไม่ต้องทำครับ สาธุ
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    เพราะเรายังอยู่ในโลกแห่งมายา เราหนีไม่พ้นโลกธรรม8
    ขอให้มีสัมมาทิฏฐิ ชอบด้วยกายวาจาจิต แม้กระทั้งว่า อันความคิดว่าคนอื่นจะคิดไม่ดีกับเราก็ไม่ควรมี เพราะ มันเป็นเรื่องของเขา เราสนใจในสิ่งที่เรา คิด พูด ทำ ก็เท่านั้นเอง จึงมีสติปัญญาอยู่กับจิตของตนเท่านั้น
    เพราะเราปฏิบัติธรรมมาต่างกัน มากน้อยไม่เท่ากัน กิเลสชำระได้มากน้อยไม่เท่ากัน บุคคลผู้มีปัญญาดีงามย่อมไม่คิดชั่วหรือคิดร้ายใดๆกับใคร เพราะแม้แต่ตนเองเขาก็ไม่เคยคิดร้าย เบียดเบียนตนเอง นั่นเอง หากท่านยังทำส่วนนี้ไม่ได้ แสดงว่า กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ของท่าน ความดีของท่านยังไม่ดีพอ แก่การนำตนให้เป็นที่พึ่งของตน ได้แล้วนั่นเอง
    บางครั้งเรามักจะมองว่าสิ่งเหล่านั้นผิดหรือไม่ผิด ยึดกับตำราหรือความถูกต้องมากเกินไป แต่ทำไมราไม่มองว่า มันดีหรือไม่ดี มันเกิดประโยชน์อย่างไรดีงามอย่างไร มากกว่าผิดหรือถูก เพราะผิดหรือถูก ใครเป็นคนบัญญัติ หรือมองในแง่มุมไหน มองให้ครบทั้งหกด้านหรือเปล่า หรือมองแค่มุมของตนเองแล้วสรุปว่าผิด ทั้งๆที่ความจริงคือต้องดูว่า สิ่งเหล่านั้นได้ประโยชน์อย่างไร ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่นครับ
     
  4. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ครับผม ผมไม่ใส่ใจกับคนรอบข้างอยู่แล้วครับกับลูกตัวเองยังเฉยๆเลยครับบอกแต่เค้ามีกรรมเป็นของเค้าเค้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราก็ใช้หนี้เค้าไปเลี้ยงดูตามหน้าที่ ส่วนคนอื่นผมพูดเป็นธรรมเท่านั้น ถ้าจะมีคนฟังรู้เรื่องแล้วคุยได้มีพระเพียง2-3องค์เท่านั้นที่คุยกันปุ๊บรู้ความหมายกันและกันไม่ต้องคุยมากเลยนอกนั้นจบครับคุยยังไงยังไงก็ไม่รู้เรื่องก็ปล่อยวางไม่คุยแค่นั้น
    จะถามว่าผมควรทำอย่างใดต่อไป ผมเคยมีฤทธิ์แล้วทิ้งมาแล้วคือไม่เอาฤทธิ์นี่กลับมาอีกแล้วเดียวจะทิ้งอีกผมกลัวเรื่องนี้ไม่สนใจและไม่ใสใจที่ตั้งจิตแต่เดิมคือแค่รู้แจ้งเห็นจริงช่วยตนให้ขึ้นจากหลุมที่อยู่ก็พอไม่ต้องการอย่างอื่น แล้วอีกข้อคือจะทำให้ได้เพื่อพิสูตรว่าสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอนนั้นมนุษย์ทุกคนทำได้เหตุเพราะเมื่อก่อนใครๆชอบพูดว่ายากๆต้องมีบารมียังงั้นยังงี้ถึงทำได้ ผมเลยลงมือทำแล้วตั้งจิตแน่วแน่ว่าจะต้องทำให้สำเร็จก็แค่นั้น เพื่ิอพิสูตรว่าพระองค์ทรงตรัสไว้ถูกต้องแล้ว คนเราคิดกันไปเองแล้วไม่มีความเพียรด้วยเหตุแห่งกรรมที่ต้องชดใช้และอวิชชาที่นอนเนืองในจิตจึงขาดความมุ่งมั่นในการปฏิบัติ ไม่ใช่บารมีหรือทำยากนั้นคือข้ออ้างให้ไม่มีความเพียรในการทำมากกว่า แค่นี่เองครับที่ตั้งจิตไว้ไม่เปลี่ยนแปลงครับ แล้วผมต้องทำยังไงต่อครับยังงงอยู่ไปไม่เป็นเลยจะทำสมาธิก็จะอยู่ในที่ๆไปเมื่อกี้แล้วไม่อยากกลับมันสบายเบามองทุกอย่างเหมือนดูหนังรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้ยังสองจิตสองใจว่าจะทำยังไงครับ ช่วยแนะนำหน่อยครับ. สาธุ

    ล.เรื่องผิด-ถูกผมทิ้งมานานแล้วครับ คน2คนทะเลาะกันเหตุเพราะต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนถูกทั้งนั้นและเห็นแก่ประโยชน์ตนเป็นที่ตั้งและความมีมานะทิฏฐิไม่ยอมแพ้ก็แค่นั้น ผมไม่เถียงกับใครแต่จะยกสิ่งที่ถูกที่ควรขึ้นกล่าวถ้าผมกล่าวไม่ถูกไม่ควรให้เค้ายกสิ่งที่ดีกว่าขึ้นกล่าวครับผมจะยอมรับแต่ส่วนใหญ่ยอมทุกรายครับเลยไม่มีถูกมีผิดมานานแล้วครับ มีแต่สิ่งที่ถูกที่ควร และยกขึ้นกล่าวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2015
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    เข้าใจถูกต้องแล้ว ดีแล้วครับ ขออนุโมทนาครับ

    ส่วนที่เหลือ ขอเป็นพรุ่งนี้จะตอบให้ครับ เพื่อจะได้ เดินมรรค ส่วนของโสดาปฏิมรรคให้ถูกต้องเต็มกำลังต่อไปครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2015
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =============

    โคตรภูญาณเกิดแล้ว ส่วนที่เหลือคือการสร้างสติปัญญาในธรรม อันต้องสร้างให้เกิดปเป็นปัญญาบารมี ส่วนเรื่องศีลเรารู้แจ้งแล้ว เป็นธรรมดาปกติของกายใจแล้ว ไม่ต้องไปกังวลตรงนี้

    การสร้างปัญญาบารมีในธรรม นั่นคือการเพิ่มความเพียรในการสวดมนต์ภาวนา โดย
    1 การฝึกสมาธิฝ่ายปัญญา หรือวิปัสสนา คือสติปัฏฐานสี่ให้มากร่วมกับ ทบทวนอิทัปปัจจยตาสมุปบาท จนเข้าใจแจ่มชัดขึ้นใจเห็นธรรมดาในทุกข์ ธรรมดาในการเวียนว่ายตายเกิด ธรรมดาในโลกธรรม เพื่อความรู้แจ้ง มีสติปัญญาเข้าถึงไตรลักษณ์ ยกจิตให้สูงขึ้น ชำระกิเลสมากขึ้น
    2 การฝึกสมาธิฝ่ายสมถะ เพื่อฝึกสมาธิให้แน่วแน่มั่นคง เพื่อให้จิตทรงฌาณ

    มหาสติปัฏฐาน4
    เป็นการเจริญสติ สมาธิ ปัญญา ที่เป็นแก่น สำคัญ เพื่อความเข้าถึง ความหลุดพ้นทุกข์
    อันประกอบด้วย
    กายานุปัสสติ นำสติตามรู้ พิจารณา กายในกาย
    เวทนานุปัสสติ นำสติตามรู้ พิจารณา เวทนาในเวทนา
    จิตตานุปัสสติ นำสติตามรู้ พิจารณา จิตในจิต
    ธรรมานุปัสติ นำสติตามรู้ พิจารณา ธรรมในธรรม
    กายนอก คือ มหาภูติรูปทั้ง ๔ ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นรูปหยาบ
    กายใน คือ ขันธ์ ๕ เกิด-ดับ เป็นรูปละเอียด ซ้อนอยู่ในกายอีกที ขณะเคลื่อนไหวร่างกาย หงายมือจะมีความรู้สึก วุ้บๆ อุ่นๆ ร้อนๆ เป็นสภาวธรรมเกิด-ดับ อยู่ภายใน
    เวทนานอก เกิดจากการกระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อรับรู้ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ทางกาย และความคิดนึก จะเกิดความรู้สึกพอใจบ้าง ไม่พอใจบ้าง เฉยๆบ้าง
    เวทนาใน คือ เห็นขันธ์ ๕ เกิด-ดับ ในความรู้สึกนั้นขณะกระทบ
    จิตนอก คือ จิตที่ประกอบด้วยอารมณ์ราคะ โทสะ โมหะ หรืออื่นๆ
    จิตใน คือ วิญญาณ เกิด-ดับ รับรู้อารมณ์อยู่ทุกขณะ
    ธรรมนอก คือ ธรรมทั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ หรือแม้แต่ความคิดที่พิจารณาธรรม เป็นธรรมสมมุติ
    ธรรมใน สภาวธรรมที่เกิดจากการที่เราดูจิต
    และขั้นถัดไปตามวิธีการของครูอาจารย์ของกระผม ท่านให้ฝึกสติพิจารณาขั้นสุดท้ายเพื่อสลัดทุกอย่างออกจากจิตให้หมด เข้าถึงกฏไตรลักษณ์อย่างแท้จริงในความไม่เที่ยง ความไม่ยึดมั่นถือมั่น เพื่อชำระจิตให้สะอาด
    บริสุทธิ์คือการ นำสติตามรู้สภาพของจิต เริ่มตั้งแต่
    จิตทีสัมพันธ์ กับกายทั้งกายใน กายนอก
    จิตทีสัมพันธ์ กับเวทนาทั้งเวทนาภายในและเวทนาภายนอก
    จิตทีสัมพันธ์ กับจิต ทั้งจิตในก จิตนอก
    จิตทีสัมพันธ์ กับธรรม ทั้งธรรมภายใน และธรรมภายนอก
    เมื่อเห็นธรรมดาของจิต ที่ทำงานที่เกี่ยวพันธ์ เข้าใจรู้แจ้งธรรมดาธรรมชาติของจิตแล้ว เมื่อนั้นก็ย่อมสามารถชำระจิตได้ การละปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นทั้งปวงย่อมทำได้ การชำระรักษาจิตเป็นเอกคตาจิต ย่อมทำได้ทุกขณะจิต อันเป็นจิตที่สะอาดไม่แปดเปื้อนด้วยกิเลสเครื่องปรุงแต่งใดๆได้ครับ ส่วนกิเลสที่ละเอียดมาก ที่ตกตะตอน ส่วนนี้ต้องใช้เวลาและความเพียรฝึกฝนไปในที่สุดก็จะขุดริ้อค้นถอดถอนได้หมดสิ้นในที่สุดครับ สาธุ
     
  7. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ขอกราบขอบพระคุณที่ช่วยชี้แนะครับจะนำไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดครับขออนุโมทนาในกุศลจิตที่แนะนำด้วยเมตตาธรรมขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ ขอผลบุญกุศลนี้จงนำความสุขสงบร่มเย็นมาสู่ท่านและครองครัวท่านให้พบแต่ความสุข สงบ ยิ่งๆขึ้นไปครับ. อนุโมทนาสาธุครับ
     
  8. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    ท่านนิพานสุขครับในเว็ปนี้มีสิ่งดีๆเยอะนะครับ ท่านลองพืจารณาดูนะครับการที่เราถูกผู้อื่นกล่าวร้ายจิตเราเป็นยังไงเป็นการฝึกดับความโกรธพยาบาทข้อ5ในสังโยชน์10 ครับได้มองดูความหลงในคนที่เค้าแสดงออกด้วยเจตนาอวดตัวอวดตนส่วนน้อยนะครับให้เราได้เห็น. เราจะได้ฝึกวางอุเบกขาสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม จะได้ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเราต้องถูกได้ศึกษาธรรมมะดีๆเช่นที่คุณtjs นำขึ้นกล่าวอยู่ที่เรามีจิตนิ่งแค่ไหนในการดู อย่าให้จิตส่งออกด้วยอวิชชาสามารถฝึกจิตให้อยู่เฉยๆกับคำนินทาและสรรเสริญ มองด้วยความว่างเปล่าแสดงสิ่งที่เรารู้ตามสามารถช่วยผู้อื่นเป็นการเผยแพร่ธรรมอันเป็นกุศลครับ มีอีกนะครับท่านลองทำจิตนิ่งๆแล้วพิจารณาดูครับ แล้วท่านจะเข้าใจธรรมมากขึ้นเลยครับ ผมเองมั่นใจว่าเหลืออีกด่านเดียวก็สามารถผ่านแล้ว แล้วมาเก็บสิ่งละเอียดเพื่อจะได้จบกันครับ สาธุ
     
  9. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    วันนี้ขอถามเรื่องรูปนาม และอรูปนามจะดับด้วยกุศโลบายอะไรข้อที่6-7ในสังโยชน์10ครับ5ข้อแรกเข้าใจแล้วครับจบแล้วจะต่ออีก2ข้อนี้ครับ สาธุ
    ขอโทษครับ ขอเพิ่มอีกนิดนะครับ. เออเอาเป็นว่ามีความรู้สึกหรืออะไรไม่รู้คือผมทำสมาธิแล้วพิจารณาธรรมแล้วรู้สึกหรืออะไรไม่รู้ ว่าให้หยุดคิด หยุดการปรุงแต่งทั้งหมด. จิตแท้เดิมจะปรากฏเอง รู้เเล้วเฉยนั้นคือธรรมทั้งหมดทั้งปวงมันมีของมันอยู่ยังงั้น หยุดคิดหยุดปรุงแต่งพิจารณาตามความว่างนี้ แล้วจิตก็ถอยกลับทันทีทำสมาธิอึกก็เข้าไม่ได้แล้วเลยหยุดก่อน อยากถามท่านว่าคืออะไรครับ ผมตีปริศนาไม่ออกครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2015
  10. มหาเมตตา

    มหาเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +283
    คำถามที่ผมปรารถนาจะถามท่าน tjs ในลำดับต่อมา มีดังนี้ครับ

    1. ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคืนหนึ่ง ผมนิมิตฝันว่า ตนเองนอนอยู่บนเตียงในอีกมิติหนึ่ง แต่กายทิพย์ขยับออกจากร่างกายไม่ได้ สายตาได้แต่มองไปมองมารอบๆ ห้อง แล้วต่อมาก็มีความรู้สึกว่า มีใครมากดไหล่ทั้ง 2 ข้างของผม แต่ผมไม่เห็นใครเลยในห้องนอนที่มืดมิดในมิตินั้น ผมจึงพูดออกไปว่า “ท่านเป็นใคร? ทำไมมากดไหล่เรา? ...เงียบ ! ...ท่านต้องการอะไร?” ...จากนั้น ก็มีเสียงพูดมาจากเงามืดด้านบนว่า “เราต้องการให้ท่านช่วยรักษาคน” พอผมได้ยินดังนั้น ผมก็ใช้จิตพิจารณาดู และผมก็ตอบไปว่า “..............................” จากนั้นผมก็ตื่น !

    คำถาม

    1. ท่านนั้นเป็นใคร?

    2. แท้จริงมาเพื่อสิ่งใด?

    3. สรุปแล้วผมตอบท่านนั้นไปว่าอย่างไร?

    4. การรักษาคนเป็นทางของผมจริงหรือไม่? ขอให้ท่าน tjs ช่วยชี้แนะผมด้วยครับว่า ผมควรเดินไปทางใด? ช่วยเหลือคนในรูปแบบใด? เพราะตอนนี้ผมดูแล้วตนเองยังไม่เห็นมีคุณวิเศษอะไรที่ชัดเจนที่ใช้งานได้สำหรับจะช่วยเหลือคนอื่นได้เลย

    5. แล้วผมจะช่วยเหลือผู้คนได้จริงเหรอ? แล้วอีกนานเป็นเดือนเป็นปีไหมครับ? ที่ผมจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้?

    6. และถ้าเริ่มช่วยเหลือคนได้จริงๆ แล้ว(ถ้าไม่ใช่คิดไปเอง) แล้วผมจำเป็นจะต้องออกจากงานที่ทำปัจจุบันหรือไม่ครับ? หรืออนาคตถ้าลาออกจากงาน ผมจะมีรายได้จากทางใดมาช่วยเลี้ยงชีพตนเอง,เลี้ยงพ่อแม่?

    ------------------------------

    2. ช่วงหลังๆ นี้เวลาผมดูละคร มันเหมือนเกิดตัวรู้ขึ้นมา คือ รู้ในคำพูด,เหตุการณ์และสิ่งที่ตัวละครเหล่านั้น จะแสดงออกมาในไม่กี่วินาทีนั้น หรือรู้ความเป็นไปคราวๆ ว่า ตัวละครตัวนี้โกหกหรือสร้างเหตุการณ์เพื่อหลอกลวงพระเอกและนางเอก ประมาณนี้ แต่ช่วงหลังมานี้ จะรู้ถี่ขึ้นมามากขึ้น แต่อย่างว่า มันก็รู้ถูกต้องบ้างผิดบ้าง เพราะผมเองก็รู้ตัวว่า ตนเองยังมีนิวรณ์อยู่

    คำถาม

    1. การรู้แบบนี้ เราเรียกว่าอะไรครับ? เรียกว่า “ญาณ” หรือเปล่า? เป็นอนาคตังสญาณหรือเปล่า? หรือเป็นญานผสมปนๆ กันไป หรือว่า เป็นเพียงอุปทานครับ?

    2. ถ้าเป็นตัวญาณจริงๆ ไม่ใช่อุปทาน แล้วอนาคตผมจะต้องไปเป็นหมอดูหรือไปเป็นอะไรครับ? และอนาคตผมมีหน้าที่ที่สำคัญอะไรในทางพระพุทธศาสนาบ้างครับ?

    วิทยาทาน แบ่งปันกัน.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2015
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    ขออนุโมทนาครับ

    ผมเข้าใจและคิดว่า เราทุกคนย่อมมีเหตุผล แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หนทางที่เราเลือกและปฏิบัติ ไม่มีใครจะสามารถรู้ดีเท่าตัวเราเอง วันนี้เรามีเหตุผลของเราเช่นนี้ และในอนาคตอาจมีเหตุผลใหม่ๆที่ดีเข้ามา การที่เราจะต้องทำอะไรใหม่ๆให้กับชีวิตไม่หยุดนิ่ง ย่อมให้ผลและประโยชน์ที่ดีงามแก่เราเสมอครับ

    พี่ขออวยพรให้น้องจงประสพแต่ความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมครับ ขอให้มีบารมีงอกงามยิ่งๆขึ้นไปมีที่สุดคือพระนิพพานโดยเร็วพลันในปัจจุบัชาตินี้สำเร็จสมปราถนา และจงยังประโยชน์แก่ผู้อื่นตามสมควรแก่ธรรม แก่กาละ แก่เทศะ แก่บุคคลต่อไปด้วยครับ สาธุ
     
  12. ่NewBoRn

    ่NewBoRn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    เรียนพี่ก้อง

    กระผมเป็นคนหนึ่งที่ทุกวันนี้ก็เบื่อหนทางทางโลกและเจอปัญหาต่างๆมาพอสมควรแต่ด้วยที่อาศัยทำบุญและไหว้พระสวดมนต์เจริญสมาธิตามโอกาสก็ยังผ่านพ้นมาได้ แต่ช่วง1-2ปีที่ผ่านมา การไหว้พระสวดมนต์-เจริญสมาธิก็น้อยลงเป็นลำดับแต่ก็ได้อาศัยที่ได้อ่านข้อความของพี่จากกระทู้นี้จึงทำให้มีกำลังใจในการกลับมาปฏิบัติอีกครั้ง ผมจึงอยากรบกวนสอบถามถึงบุคคลรอบตัวดังนี้ครับ

    1.แฟนที่อยู่ด้วยกันปัจจุบัน เรามีบุญหรือกรรมอะไรร่วมกันมาครับ เพราะส่วนใหญ่เค้าจะทำให้ผมทุกข์ใจอยูบ่อยๆ เป็นเรื่องทางวาจา (ผมเกิดวันอังคาร 6เม.ย2525)

    2.ปัจจุบันผมมีลูกชายอยู่1คน อายุประมาณ4ขวบเศษ เด็กคนนี้เป็นอย่างไรบ้างคับ

    3.วันก่อนผมฝันว่า พี่เขยที่เป็นตำรวจที่เสียชีวิตไปเมื่อปลายปี57ที่ผ่านมา มาเข้าฝันบอกว่า เค้าจะกลับมาเกิดแล้วนะ พอตื่นมาแฟนผมก็ไม่รู้คิดไงไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ปรากฏว่าตั้งท้อง ไม่แน่ใจว่าที่แฟนตั้งท้องนี้เกี่ยวข้องกับที่ผมฝันไหมครับ หรือพี่เขยผมปัจจุบันเค้าเป็นอย่างไรบ้างครับ

    4.ชีวิตผมช่วงปีที่ผ่านมาจะมีผู้หญิงผิวขาวตัวเล็กคนหนึ่ง เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอยู่ช่วงหนึ่ง โดยส่วนตัวเค้ามักชอบทำบุญและคุยกันเข้าใจในหลายๆเรื่อง และปัจจุบันเค้าก็ยังโทรติดต่ออยู่บ้าง เลยสงสัยว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องยังไงกันมาบ้างครับ

    สุดท้ายนี้ก็ขออำนาจบารมีคุณพระศรีรัตนตรัย อำนาจบารมีของครูบาอาจารย์ โปรดจงดลบันดาลให้พี่ก้องและครอบครัว มีความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม มีดวงตาเห็นธรรมเพื่อหลุดพ้นจากสังสารวัฏด้วยเทอญ
     
  13. natthakornpray

    natthakornpray สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +17
    สวัสดีครับพี่

    ผมชื่อ ณัฐกร เจ้ยงาน ครับ ชื่อ เล่น เปร เกิด วันที่ 22 ตุลาคม 2530 อาชีพ เปิดบริษัททําเกี่ยวกับ ค้าขาย อุปกรณ์วิศวกรรมครับ ผมขออนุญาติให้พี่ช่วยดูเรื่องตามรายละเอียดด้านล่างให้หน่อยครับ

    1.เรื่อง พ่อ ผมครับ พ่อ ผมชื่อ จ.ส.อ.อภิชาติ เจ้ยงาน ชาตะ 22 มีนาคม 2505 , มรณ 7 มกราคม 2556 รบกวนพี่ช่วยตรวจสอบให้หน่อยครับ ว่าพ่อของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ ????
    2.รบกวนพี่ช่วยตรวจสอบดวงชะตา ของผมหน่อยครับ ว่าธุรกิจที่ผมดําเนินอยู่เป็นอย่างไรบ้าง ,ผมต้องทําอะไรเพิ่มเติมอีกไหมครับ????
    3.ทุกๆวันของ ผมจะสวดมนต์ทุกวันครับ จะสอบถามพี่ว่าที่ผมได้สวดมนต์แผ่เมตตาอยู่นั้น ผลบุญอันนี้ไปถึงเจ้าที่เจ้าทาง พระภูมิ ของบ้านกระผม เจ้ากรรมนายเวร, บิดา,บรพพบุรุษ ของผมรึปล่าวครับ


    รบกวนพี่ด้วยนะครับผม ขอบพระคุณพี่ครับ
     
  14. natthakornpray

    natthakornpray สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +17
    รบกวนพี่ช่วยตรวจสอบตอบคําถามตามรายละเอียดในข้อความให้กระผมหน่อยครับ

    สวัสดีครับพี่

    ผมชื่อ ณัฐกร เจ้ยงาน ครับ ชื่อ เล่น เปร เกิด วันที่ 22 ตุลาคม 2530 อาชีพ เปิดบริษัททําเกี่ยวกับ ค้าขาย อุปกรณ์วิศวกรรมครับ ผมขออนุญาติให้พี่ช่วยดูเรื่องตามรายละเอียดด้านล่างให้หน่อยครับ

    1.เรื่อง พ่อ ผมครับ พ่อ ผมชื่อ จ.ส.อ.อภิชาติ เจ้ยงาน ชาตะ 22 มีนาคม 2505 , มรณ 7 มกราคม 2556 รบกวนพี่ช่วยตรวจสอบให้หน่อยครับ ว่าพ่อของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ ????
    2.รบกวนพี่ช่วยตรวจสอบดวงชะตา ของผมหน่อยครับ ว่าธุรกิจที่ผมดําเนินอยู่เป็นอย่างไรบ้าง ,ผมต้องทําอะไรเพิ่มเติมอีกไหมครับ????
    3.ทุกๆวันของ ผมจะสวดมนต์ทุกวันครับ จะสอบถามพี่ว่าที่ผมได้สวดมนต์แผ่เมตตาอยู่นั้น ผลบุญอันนี้ไปถึงเจ้าที่เจ้าทาง พระภูมิ ของบ้านกระผม เจ้ากรรมนายเวร, บิดา,บรพพบุรุษ ของผมรึปล่าวครับ


    รบกวนพี่ด้วยนะครับผม ขอบพระคุณพี่ครับ
     
  15. จวนเพ็ญ

    จวนเพ็ญ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +65
    รบกวนคุณ tjs อีกหนึ่งเรื่องคะ ช่วยดูดวงบุคคลนี้ให้ด้วยคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทำไมดวงเขาไม่ไปไม่มา ทำการงานอะไรก็ไม่สำเร็จ ช่วงนี้ก็ตกงานอยู่ ไม่ทราบว่าได้ทำกรรมหนักอะไรไว้บ้างและต้องแก้ไขอย่างไรชีวิตถึงจะประสบความสำเร็จบ้าง และเขามีสิ่งศักดิ์ท่านใดปกปักรักษาอยู่หรือเปล่าคะ เขาเกิดวันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม 2514 ปีกุนคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ==================

    คุณมีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ผมจะสอนแบบทางลัดคือ

    รูปนาม ถ้ารูปดับนามส่วนหนึ่งก็ดับ
    การดับรูป ต้องเห็นทุกข์ในรูป เห็นธรรมดาในรูปและวัตถุธาตุ ทั้งปวง กายดับ เวทนาก็ดับ ปัญหาคือดับอย่างไร รูป เราพิจารณากาย ของเรา มีอสุภะกรรมฐาน จบด้วยมรณานุสติ จบด้วย อนิจจาวัฏฏะสังขาระไมม่เที่ยงเป็นทุกข์ ไม่เห็นหรือยินดีในกายในรูป กามราคะก็ดับลง เมื่อดับกายดับรูปของตนได้ รูปภายนอกอื่นๆก็เหมือนกันก็ดับได้ จบด้วยการปลงอนิจจังทั้งสิ้น

    การดับนาม นามในที่นี้ ต้องไล่ให้ครบทุกตัวคือ

    เวทนา ดับสนิทหรือยัง กายดับเวทนามันก็ดับสนิท

    สัญญา ปรุงแต่ง เห็นสัญญาที่ไม่เที่ยงเกิดดับ สัญญาในอดีตแก้ไขไม่ได้ปรุงแต่งให้เกิดทุกข์ หรือสัญญามีนเกิดดับเป็นธรรมดาของมัน มันผุดขึ้นได้เสมอ มันไม่เที่ยง ถ้าเราปล่อยวางก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อนรนเบาสบาย

    สังขาร และวิญญาละมันเกิดอย่างไร ความรู้สึกพอใจไม่พอใจ ความรู้สึกทั้งหลายที่ปรากฏ มันมีกระบวนการอย่างไร มันเกิดแล้วปรุงแต่งอย่างไร ความไม่เที่ยงเกิดแล้วปรุงแต่งให้จิตไหลตามเป็นทุกข์อย่างไร เราเห็นธรรมดาในความไม่เที่ยง เรามีสติตามทันหรือไม่ในสังขาร วิญญาณเจตสิก ที่ปรุงแต่ง ถ้าเรามีสติตามทันปัญญาเราเห็นในความไม่เที่ยงเราปล่อยวางไม่ยึดติดยึดมั่น นั่นแหละความดับก็เกิด เราก็พ้นทุกข์จากสิ่งปรุงแต่งเหล่านี้

    ให้ดับขันธ์5 ให้เอามหาสติปัฏฐานสี่ เป็นเครื่องควบคุมกำกับ ก็จะดับได้ ขอให้ทำไปเรื่อยๆทำให้สม่ำเสมอมากขึ้น ในที่สุดก็จะดับได้ทั้งหมดขอให้มีขันติและอิทธิบาทสี่นะครับ สาธุ
     
  17. shamankings

    shamankings เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +543
    สวัสดีอาจารย์ก้องครับ ผมมีเรื่องจะรบกวนถามครับ ขอถามเป็นข้อๆ นะครับ

    1.กิเลสที่ประกอบด้วย รัก โลภ โกรธ หลง นั้น 3 อย่างหลังผมพอจะเข้าใจครับ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ "รัก" ครับ อยากให้อาจารย์ก้องช่วยอธิบายให้หน่อยครับ ว่าความรักแบบไหนที่ถือเป็นกิเลสของคนเราครับ

    2.ถ้ามีคนมาทำกรรมไม่ดีกับเราไว้ ยกตัวอย่างเช่น เค้าโกงเงินเราไปจำนวนหนึ่ง แต่แล้วพอเรารู้หรือจับได้ เค้าก็เลยหาเงินมาคืนให้แก่เราทั้งหมด อย่างนี้ตัวเค้าเองจะบาปหรือมีกรรมหรือเปล่าครับ

    3.เราสามารถอุทิศบุญกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของคนอื่นได้มั้ยครับ แล้วเขาจะได้รับบุญเท่ากับที่เจ้าของ ของเขาทำให้เองมั้ยครับ

    ขอบคุณมากครับ
     
  18. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    อนุโมทนาสาธุครับ ขอบพระคุณมากครับเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วครับ วางอุเบกขา พระอาทิตย์ต้องขึ้นทุกเช้า ตกตอนเย็นทุกครั้ง ขึ้น-ลงเกิด-ดับ ปล่อยให้มันเป็นไป หน้าที่เราคือร้อนหาที่หลบแดด หาได้ก็ได้ไม่ได้ก็อดทนเอาเดียวก็เย็นแล้ว. มันเกิดก็เกิด เดียวมันก็ดับ เมื่อรู้ก็ไม่เกิด แค่รู้ ก็ไม่ต้องดับ เห็นนะเห็นจริงแต่สิ่งที่เห็นมันไม่จริง ได้ยินนะได้ยินจริงแต่สิ่งที่ฟังมันสมมุติมันไม่จริง ทุกสิ่งมีของมันอยู่ก่อนแล้วเป็นของมันแบบนี้แล้วจะเป็นไปตามธรรมของมัน เราผ่านมาถ้ายึดก็ติดถ้าปล่อยก็ผ่านเฉยๆถูกใหมครับ นี่อย่างหยาบจะทำต่อให้ละเอียดลึกกว่านี้ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2015
  19. พูลปิติ

    พูลปิติ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    สวัสดีครับพี่ผมมานั่งคิดแล้วผมกะจะฝึกเพื่อเข้านิพพานครับผมคิดไว้ว่าชาตินี้จะต้องสำเร็จให้ได้อย่างน้อยโสดาบันครับผมอยากรู้วิธีการฝึกนะครับว่าควรจะฝึกอย่างไรดีเพราะตอนนี้ก็ฝึกกำกับผมหายใจ พุท โธ แต่บางครั้งวันฟุ้งมากเลยครับ เวลาจิตมันฟุ้งนี่ควรจะทำอย่างไรดีครับ
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ===============

    เข้าใจถูต้องแล้วครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...