ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

หลังจากเขียนกระทู้นี้ เราก็พบเรื่องราวแปลกๆมากมาย
ผู้คน มิตร ในฝัน นอกฝัน ขออนุญาตทุกท่านที่รับรู้ได้
เล่าเรื่อง วัดป่าอ่างแก้ว

 

วัดป่าอ่างแก้ว ตามคำเชิญของเพื่อนธรรม ที่รู้จักกันในกระทู้นี้ ในเวปนี้
ขอน้อมนำบุญ กับท่านผู้สร้างและดูแล ที่ทำให้แสงแห่งธรรม ได้มารวมตัวกันอีกครา

 

เพื่อนธรรมท่านนี้ เชิญชวนให้เราไป ที่วัดแห่งนี้ เผื่อจะเห็นอะไรดีๆ

เราก็ลังเลอยู่ เพราะอยู่ไกล เพื่อนคนนี้ จึงพาเพื่อนๆ มาพบเราที่บุรีรัมย์

มาพบพระอาจารย์ของเรา และมาให้เราได้สัมผัสจิตใจ ก็น่าแปลกใจ

ที่ทั้งสี่กับเรา รู้สึกสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ...เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน

 

และเราได้เห็นรูปหลวงพ่อ ที่เพื่อนนำมาให้ดู และรู้สึกถึงกระแสเย็น
ของหลวงพ่อ ยิ้มนั้นติดตาเรามาก และเมื่อได้พบตัวจริงท่าน ก็เลยเข้าใจ
จิตใจท่านเบิกบานมาก เหมือนฝนอันชุ่มฉ่ำ ละอองฝน ค่อยๆโปรยลงมา

 

ที่เราไปวัดแห่งนี้นั้น นอกจากคำเชิญของเพื่อนแล้ว
เรายังไปเพราะความฝัน ถึงพญานาคสีขาว ห้าเศียรตนหนึ่ง

เราก็ยังสับสน แต่เมื่อเพื่อนเล่าว่า ที่วัดกำลังสร้างพระไกล้เสร็จแล้ว
เราก็เลย ขอดูรูปพระ เค้าก็ส่งมาให้ดู เราก็ฝันกลางวันไปว่า

ภาพพระนั้น มีพญานาค แผ่เศียร ห้าเศียร ปกคลุมพระอยู่
พญานาคนั้นกล่าวกับเราด้วยความเคารพ และมีมารยาท
ว่า เชิญมาที่นี่ มีเรื่องราวมากมายรอท่านอยู่

แล้วขณะที่เราจ้องพระอยู่ เราก็เห็นภาพทวยเทพมาอวยพร อำนวยพร
มาทั้งเสียง และกลิ่น หอมดอกไม้ มากมาย ในหูราวกลับได้ยินดนตรีอันรื่นหู

 

และที่มันช่าง มหัศจรรบ์ในจิตนั้น ณ จุดอุณาโลมของพระพุทธรูป
ของพระพุทธรูป เปล่งแสง เป็นลำยาว เหมือนแสงที่ผ่านจากปริซึม
ฉัพรังสี ฉายแสงมาที่ จุดอุณาโลมของเรา

พลันจิตเรา ถูกกระแส ดึงดูด ไปนั่งสมาธิเพชร
ตรงข้ามกับพระพุทธเมตตามหาไชยมงคลบรมชินสีห์

แล้วองค์ท่านก็ขยายขึ้นทีละชั้น (เหมือนรูปที่พระธาตุผาซ่อนแก้ว)

เหมือนองค์ท่านซ้อนกันไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีประมาณ ค่อยๆ
มีองค์ท่าน หมุนตามเข็มนาฬิกา เรานั่งอยู่จุดศูนย์กลาง
ของวงกลม ที่มีพระพุทธรูป วนซ้อนกัน ......

เราไม่รู้จิตเราหายไปห้วงหนึ่ง ในอวกาศอันกว้างใหญ่

แล้วเราก็ตื่นจากฝัน พระทุกองค์ไม่ใช่สีทอง เป็นสีขาว

และก่อนจะตื่นจากฝัน เราเห็นภาพนิมิตตนเอง นั่งบนดอกบัว
(ไม่ได้อวดอุตริ แค่ฝัน เราเห็นภาพเป็นบัวหลวงชัดเจน
เกสรบัวที่เรานั่งอยู่ มันอ่อนนุ่ม ลื่น แต่ไม่มีกลิ่น ในฝันนี้
อาจเป็นบัวทิพย์จากชาตินาคีก็เป็นได้ เดาไปเรื่อยๆ
เพราะบัวนั้นไม่ใช่บัวหลวงสีขาวแบบที่บูชาพระ แต่เป็นสีชมพูอ่อน
และก่อนตื่นจากฝัน บัวนั้นก็ค่อยๆ หุบ ห่อหุ้มเราไว้
ความรู้สึกเราบรมสุข จนไม่อยากตื่นจากฝัน
มันนุ่ม มันอุ่น มันเบา สบาย เหมือนลอยได้แต่ไม่ลอย)

 

เราคิดนาน ที่จะเขียนเรื่องนี้ ดูมันเกินตัวไป แต่เราก็คิดว่า

ฝันจ๊ะฝัน

 

เราไม่ได้บอกสหายธรรมทั้งสี่ ว่าเราได้ฝันเห็นอันใดบ้าง

และหลังจากได้พบตัวตนจริงของทั้งสี่ จึงขออนุโมทนาบุญกับทั้งสี่
ที่เป็นคณะผู้ร่วมสร้างและดูแลการหล่อพระ ทั้งที่อายุก็ไม่มากกันนัก

จนได้ฤกษ์ดี วันที 14 มีนาคม 2558 เราก็เดินทางไปโดยสวัสดิภาพ ถึงวัด

 

เราขับรถไป เห็นเนินเขา อยู่ห่างๆ สองข้างทาง เป็นป่าอ้อยบ้าง
สมกับที่ชื่อว่า สูงเนิน คือเป็นเนินเตี้ยๆ เป็นที่ราบทำเกษตรเป็นส่วนใหญ่
สองข้างทาง เป็นนาบ้าง คือเป็นโล่งๆ

จนเราได้เห็นทางเข้าวัด เป็นทางแคบๆ ปลูกมันสำปะหลัง โล่งไปหมด
มีรั้วลวดหนาม กันไว้ หนทางเข้าวัด ก็ทางโรยหิน ธรรมดา
สมเป็น วัดป่า ทุกประการ

 

ก่อนถึงทางเข้าวัด เราก็รู้สึกอึดอัด ราวกลับมีพลังงาน กดทับ
เหมือนทะลุกำแพง เวทย์โบราณ ??? เรารู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง
เช่นวิญญาน อยู่รอบๆวัด เมื่อผ่านประตูเข้าไป ก็พบสิ่งแปลกตา

ก้อนหิน ขนาดยักษ์ ผุดขึ้นมา เฉพาะดินแดนแห่งนั้น วัดป่าอ่างแก้ว

ทั้งที่รอบๆ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม โล่งไปหมด แต่วัดแห่งนี้ กลับมีหินยักษ์

คล้ายๆวัดถ้ำกลองเพล เราก็มองไป แล้วก็พบ เสาคู่หนึ่ง ตั้งไว้เหมือนเป็นประตู
ที่หัวเสา เป็นพญานาคสีทอง แบบขอม เราก็แอบคิด หลวงพ่อคงรู้ว่าดินแดนแห่งนี้
เคยเป็นอณาจักรขอม ถึงทำพญานาคเป็นรูปเช่นนี้ เราก็ยืนมองอยู่ หลังเสาคู่นั้น
เป็นเนินขึ้นไป สู่หอฉัน มองไปเห็น รถจอดอยู่หลายคัน เราเลยจอดรถ ด้านล่าง
แล้วเดินเท้าขึ้นไป

 

พระท่านกำลังจะฉันพอดี มีคนชุดขาว นั่งอยู่หลายคน
บางคนก็จิตใจสว่างไสวมาก โดยเฉพาะแม่ชีองค์หนึ่ง

เราก็นั่งไปตามพิธีการ แอบมองหลวงพ่อ(แอบส่อง)

หลวงพ่อท่านก็สำรวม เราก็ รอไปจน ท่านเริ่มให้พร เราก็หลับตา

เพื่อสำรวมจิต รับพร ระหว่างนั้น ร่างกายเราคันยุบยิบ เหมือนมีลมออกมาจากทุกขุมขน โดยเฉพาะบริเวณกระหม่อม เป็นพลังงานดีเย็นสบาย

เมื่อจิตเราน้อมลง เป็นสมาธิ(ส่องไม่เห็นหลวงพ่อ 555)

 

เราก็รู้สึกถึงแสงสีเขียวแว๊บที่หางตา เราก็สำรวมจิตต่อ ตัดความรู้ตัวออก

พลันเสียงหลวงพ่อให้พร ปรากฏนาคราชห้าเศียร สีเขียว ลำตัวใหญ่ยาวมาก
ลำตัวพันรอบอาคารหอฉัน ส่วนเศียรนั้น แผ่อยู่ด้านหลังหลวงพ่อ

เรากำหนดจิตเป็นสมาธิ สีเขียวเข้ม สดใส ราวมรกตน้ำงาม เคราและหงอนเป็นสีทอง
มีเครื่องทรง รัดตามลำตัว และบริเวณคอ ไม่ใช่นาคแบบขอม แบบไทย

แสงที่ฉายจากนาคานั้น สุกสว่างเป็นสีนวล เราก็กำหนดจิตไปว่า เรารับรู้ถึงการมาของท่าน ไม่มีข้อสงสัย ว่าที่นี่ไม่มีธารน้ำ แต่มีพญานาคอยู่ แล้วเราก็กำหนดจิต
ไปที่พระพุทธรูป ให้พระพุทธรูป เป็นประธานในจิต (กลัวนาคราช)

 

คิดไปว่า เจอของจริงแล้วตรู ไม่ใช่นาคธรรมดา ฤทธิ์แบบจ้ามาก
แถมเนรมิตกายให้รู้กันไป ว่าทรงอำนาจมาก..ณจุดนั้น เหงื่อเริ่มตก

พลันลืมตา มีหลายคนจ้องมาที่เรา งานงอกอีก ลูกสิทธิ์หลวงพ่อมีแต่คนตาดี
โดยเฉพาะแม่ชี กับอีกหลายท่าน กำลังจ้อง(ส่องเราทีเดียว)

เราก็เลยไม่ทานข้าว(แอบแวะทานมาแล้ว) ก็เลยขอตัวไปเดินสำรวจแถววัด
ว่าจะไปเงียบๆ ทำเนียนๆ ไม่รู้จักใคร แต่เหมือนเค้ารู้ถึงการมาของเรา
ทุกภูมิในวัด จับจ้องเราตาเขม็ง เหงื่อเริ่มไหลย้อยย มา

 

เป็นทางเดินแยกไป ด้านซ้ายของหอฉัน ที่พื้นแทบไม่ได้เหยียบดิน
เป็นหินก้อนขนาดยักษ์ เส้นผ่าศูนย์กลาง สองเมตรขี้น
พื้นดิน ก็เป็นคล้ายทราย เราเดินผ่านไปปุ๊บ จากเดินผ่านอากาศ ฝันกลางวันปั๊บ
เหมือนเดินอยู่ก้นมหาสมุทร รอบตัวเรากลายเป็นน้ำ พื้นหินที่เหยียบกลายเป็นทราย
เผลอกลั้นหายใจ แบบออโต้ แล้วพลันภาพก็เปลี่ยนไป เราเห็นภาพ
กระแสน้ำปั่นป่วน แผ่นดิน แยก และยก การระเบิดใต้น้ำ
คำตอบว่า ทำไมมีหินก้อนใหญ่ มากมาย แค่เฉพาะบริเวณนั้น

 

มองไปเบื้องหน้า เห็นหินสองก้อน มีช่องตรงกลาง มีบันไดปีนไปหินก้อนที่ใหญ่กว่า
ด้านบนหินก้อนใหญ่ มีพระพุทธรูป สามองค์ เรียงซ้อนกันอยู่ และที่จุดอุณาโลม
ประดบกระจกสีสวยงาม ด้านข้างเป็นต้นไผ่ เราก็ขึ้นไปไหว้พระสวดมนต์ พร้อมพี่ๆที่
เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ขณะกำลังไหว้พระ สวดมนต์ ท่านพญานาคราช ก็มาอีก
พันรอบหินก้อนนั้น และแผ่เศียร หลังพระพุทธรูป แล้วกลายร่างเป็นหนุ่มรูปงาน
และมีพระขรรค์คู่กาย ฝันตอนสวดมนต์นะจ๊ะ แล้วยิ้มให้เรา เหตุผล เราคิดว่า
พญานาคตนนี้ อยู่มานานก่อนอารยธรรมขอม น่าจะแก่งั่กแล้ว เลยเนรมิต
กลายเป็นหนุ่มรูปงาม ทรงเครื่องกษัตริย์ แต่ไม่ใช่ชุดสีเขียวนะ เป็นสีขาวทอง อย่างเทวดา เราก็เลย คารวะในจิต
แล้วกล่าวว่า ท่านรูปงามมาก และท่านเป็นเทพนาคาซินะ (นาคาที่มีวิมานในสวรรค์) ท่านยิ้มให้ แบบบาดจิต หล่อเกิน หล่อบาดตา

แล้วเราก็ลงจากหินยักษ์ เพื่อสำรวจต่อไป

ตอนที่ไหว้พระอยู่นั้น เราเห็นเทพเทวา เทพารักษ์ ยักษ์ บังบด จ้องเราใหญ่
แต่พวกเขา อยู่รอบๆหินก้อนนั้น ไม่ได้ลงมายืนตรงหน้าเรา เช่นนาคราช
เราจึงรู้ว่า ผู้ปกครองที่นี่ คือ นาคราชท่านนี้นี่เอง หากจะทำการใด ต้องได้รับอนุญาตจากท่านก่อน
และอย่าทำเป็นเมินเฉย ไม่เห็นท่าน เพราะจิตท่าน จับจิตเราจูนเข้าหาเลย
ประมาณ ตัดสัญญาน เหลือช่องเดี่ยว แถมโยนรีโมทเราทิ้ง ห้ามเปลี่ยนช่อง

สงสัยเสวยทิพย์ เป็นเทพนานเกิน ติดนิสัยเทพมาเยอะ

 

เราเดินลงมา สำรวจก้อนหินนั้น พลันปวดฉี่มาก แทบจะราด
เราก็ อะไรว้า วิ่งวนหาห้องน้ำ ตอนนั้นก็ไม่เห็นอะไร มองไปด้านล่างขวา
เห็นห้องน้ำ อยู่สองหรือสามห้อง
เข้าไป เปิดน้ำไม่มี มีแต่คุ ตั้งน้ำไว้ น้ำก็ขุ่น เราก็คิด กรรม เคยเป็นทะเล
เป็นธารน้ำ แต่ปัจจุบัน แห้งผาก

พอทำธุระเสร็จ สติสตังกลับมา เดินไปหน้าห้องน้ำ ไม่เกิน สามเมตร
พบหินก้อนหนึ่ง มีต้นไม้ขึ้นบนก้อนหิน ข้างๆ เป็นต้นไม้ใหญ่ พอเงยหน้าไป
เป็นรังผู้ง ขนาดใหญ่ ดูจากภาพที่ลงให้นะจ๊ะ และเราก็ฝันกลางวันอีก

ป.ล.รังผึ้งใหญ่มาก ความยาวประมาณเกือบเมตร เราไม่เคยเห็นที่ไม่อยู่ในป่า
เถาวัลย์แถวนั้นก็ใหย่มาก ระโยงระยาง โยงยาวถึงพื้นเลยทีเดียว

ฤาษี เลยจ๊ะ มาแบบนั่งสมาธิ บนหินก้อนนั้น
พวกมนุษย์ มาสร้างห้องน้ำ ไกล้กับที่ข้าบำเพ็ญ
ขนาดมันเห็นรังผึ้งใหญ่เช่นนี้ มีตาหามีแวว
เจ้าล่ะ มีตา แล้วรู้จักมองหรือไม่
เราก็คิด อุ้ย ภพภูมิที่นี่ ทำไม แรงงงงงงงงงง เช่นนี้
แถมฤาษี ยังว่า ข้าอยากปล่อยผึ้งไปต่อยมันนัก
แต่เกรงใจผู้ทรงศีล(หลวงพ่อ) และท่าน....(ชื่อพญานาค)

 

งานเข้าจารุอีก ถ้าทำเป็นมองไม่เห็น จะโดนผึ้งต่อยมั้ยน้อ
เลยตอบว่า เดี๋ยวจะบอกให้นะเจ้าคะ ที่แท้สาเหตุที่ปวดฉี่ จะราด
อยู่นี่เอง แล้วก็หายเข้าต้นไม้ไป เหอๆ แดดเปรี้ยงเลย

ตื่นจากฝัน กำลังจะไปสำรวจต่อ เพื่อนธรรมผู้หวังดี มาชวนไปกินข้าว

ก่อนไป เราก็มองไปเห็นทางเดิน แต่ใบไม้ทับถม เพื่อนบอก เป็นทางเดินโบราณ
ไปสู่ อ่างแก้ว เราเห็นชาวบังบด หญิงสาว กวักมือเรียกเรา

กำลังลังเล ตูฝันตลอดเล้ย ตั้งแต่เข้าวัดมา เห็นภาพ มีคนขนศพผ่านทางเกวียนเก่านั้น ตามทางยังมีผี ที่ยังไม่ไปเกิดอีกมาก
ที่ปากทาง นั้น มีต้นไม้ที่มีหนามแหลมทั้งต้น เป็นที่พำนักของยักษ์ เฝ้าทางเส้นนี้

และเป็นทางไปอ่างแก้ว อ่างหินขนาดยักษ์

เราตัดสินใจว่า สงสัยต้องมาใหม่ มีหลายแดนเกิน

ไปกราบหลวงพ่อก่อน งานนี้ ต้องไปถามหลวงพ่อให้รู้เรื่อง...

 

ขออภัย ต่อภาคสองพรุ่งนี้ นี่ขนาดไม่ได้ไปตรงอ่างแก้ว ตรงจุดศูนย์กลางพลังงาน
ยังเยอะ แต่ก่อนไป ต้องไปขอบารมีหลวงพ่อก่อน

ฝันเป็นตุเป็นตะ 555

 

วันนั้นรีบต้องไปผ้าป่าอีกวัดต่อ เลยลืมบอกไปว่ามีอีกภูมิรอให้แม่ช่วยอยู่ เป็นพวกผีอสูรกาย ด้านล่าง ตรงประตูทางเข้าจุดแรก(ประตูแรกก่อนขึ้นไม่ใช่ประตูพญานาค) ถ้าถามว่าทำไมไม่ช่วยเอง ก็ขอบอกว่าแบบว่าไม่ใช่หน้าที่ผม และอีกอย่างไม่ใช่คนตาดีด้วย 555+
มารอบหลังก็อย่าลืมนะแม่พวกเขารออยู่

 

อ่านมาเกินครึ่งแล้ว เข้ามาทักทายเสียหน่อย
แอบกลัวแต่ก็ชอบอ่านค่ะ