ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

เพื่อนๆพี่ๆ ญาติธรรม ที่ต้องการทำบุญ พิมพ์หนังสือสวดมนต์ รบกวนโอนยอด
ก่อน 31/03/2558 โรงพิมพ์โทรมาบอกว่า เกรงว่าจะไม่ทันกำหนด 12/4/2558
เพราะติดสงกรานต์ค่ะ งานเยอะ ขนส่งก็เต็ม ขอบพระคุณ และอนุโมทนาอีกครั้งค่ะ

 

ทั้งสองอิ่มหมีพีมัน ดีแล้ว เข้มก็นำขันน้ำขึ้นมาดื่มและล้างมือในถ้วยข้าวนั่นเอง
สิงห์แอบชำเลืองมองเข้ม แล้วครุ่นคิดหลายอย่าง

ข้าช่างต่างกับพี่เข้มนัก ข้านั้นหยิ่งทรนง หลงตนเอง
หากข้าไม่เจอขรัวอินทร์ ไม่เจอพ่อครูเอก ไม่เจอพี่เข้ม
ข้าคงไม่เข้าใจคำว่า ลูกผู้ชาย

 

ลานฝึกดาบ

ที่ลานฝึกดาบ เป็นลานกว้างเช่นเดียวกับลานฝึกมวย
แต่แยกกันอยู่คนละด้านกับลานฝึกมวย
สิงห์ให้ฉงนใจนัก ทำไมตอนนั้นขรัวอินทร์ให้ข้าเรียนแต่เพลงมวย
ใยไม่ให้ข้าเรียนฝึกดาบ ควบคู่ไปด้วย
ถึงแม้ข้าจักเคยเรียนดาบกับท่านขุนมาแล้ว

ลานฝึกดาบนั้น น่าจะเรียกว่าลานฝึกอาวุธมากกว่า
แต่ดาบที่ทุกคนฝึกเป็นดาบจริง มีทั้งทวน
ทั้งหอกซัด ทุกคนแต่งตัวคล้ายกับการฝึกมวย
มีการไหว้ครู รำดาบ เช่นกัน

พี่เข้มขอรับ ใครเป็นครูดาบของที่นี่ขอรับ
เข้มทำหน้าฉงนเล็กน้อย ก็พ่อครูเอกไงเล่า
เจ้ามิเคยรู้มาก่อนเลยหรือ สิงห์
พี่ก็เรียนดาบมาจากพ่อครู
แต่ลูกศิษย์ทุกคน ต้องเรียนมวยมาก่อนเรียนดาบ
ตอนที่พ่อครูสอนมวยเอ็ง ข้าเป็นคนฝึกดาบแทน
เอ็งคงไม่รู้จริงๆ ซินะ

 

สิงห์ให้ฉงนยิ่งกว่าเดิม ขรัวอินทร์สอนข้าตั้งมากมาย
ใยถึง ละเลยเพลงดาบ อันเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึก

ยังไม่ทัน จะคิดการอันใดต่อ เข้มก็โยนดาบให้สิงห์รับ
เป็นการโยนแบบแกล้ง คือโยนโดยให้ปลายแหลมของดาบ หันเข้าหาผู้รับ
แต่สิงห์ที่มีสติดี กระโดดออกข้างแล้วใช้มือจับด้ามดาบ ที่กำลังตกลงสู่พื้นดิน
เข้มยิ้มยิงฟันให้ แล้วตะโกน หยุดดดดดดดดด

ทุกคน ทุกกิจกรรมที่ทุกคนทำในลานฝึกดาบหยุด

แล้วทุกคนก็มานั่งเรียงแถวหน้ากระดาน แถวละ สี่คน
ประมาณ 50 คน นั่งเป็นกลุ่มใหญ่ ทุกคนมองมาที่เข้ม
สายตาที่มองมาทั้งมั่นใจ และภักดี

วันนี้ ข้าจักให้พวกเอ็งทุกคน เรียนเพลงดาบเพลงใหม่ จากข้ากับสิงห์

 

แล้วเข้มก็ยกดาบขึ้นพนมเหนือหัว เริ่มรำมวย
การรำดาบ ในการประลอง คือการเคารพ ครูดาบ
คือการตั้งสมาธิ คือการวอร์มร่างกาย เป็นมากกว่าแค่การรำ

สิงห์นั้นเมื่อเห็นเข้มรำดาบไหว้ครู ก็ไม่รอช้า ตั้งสมาธิ แล้วรำดาบคู่

 

หาภาพประกอบ และวีดีโอเหมือนในฝันไม่ได้เลย
ในฝันมันโหดกว่าเยอะเลย เร็วด้วย

อย่ากระนั้นเลย อู้แล้ว ไปนอนฝันก่อน เผื่อจะบรรยายได้ดีขึ้น
เขียนเรื่องหมัด เรื่องมวย เรืองดาบ ขอบอกภาพกระตุกมาก
คงต้องจุดธูป จุดเทียน เปิดทิศ เปิดทาง ไม่งั้นโดนบังตลอด

ป.ล.พรุ่งนี้วันพระพอดี ฤกษ์งามยามปลอด

 

เร็ว+โหด พอมั้ย

 

อันนี้ก็เทพเกิน เพลงดาบไทยจ๊ะ พ่อคุณ

 

วันนี้จารุสบายดีแล้วค่ะ จะเขียนยาวหน่อยคืนนี้ หลังสามทุ่มครึ่งนะจ๊ะ

สวดมนต์ ไหว้พระเสร็จ เกิดอาการง่วงอย่างรุนแรง
ขอหลับก่อนนะคะ

ขออภัยทุกท่าน

 

get well soon ka

 

ในที่สุดก็ได้แก้สงสัย อีกหนึ่งข้อ ว่าทำไมตอนประสบอุบัติเหติแล้วชอบเห็นภาพสโลว์
บางครั้งก็เหมือนจิตหลุดไป จิตมันรวม เป็นข้อยืนยัน ว่า ต่อให้ตายโหง ตายสภาพไม่ดี
เช่น อุบัติเหตุรถพัง ศพไม่สวย แต่จิตก็ไปภพภูมิที่ดีได้

 

ผีแม่ม่ายขาวโกหก ไหนว่าจะเล่าเมื่อคืน ไม่เห็นมี อะไรเลย

 

ประตูไปสู่ วังครุฑ ที่จารุจุณเคยพบ และไม่ใช่ในขณะหลับ

วัดถ้ำเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

เมื่อปีที่แล้ว ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่กับครอบครัว มีรถไปด้วยกัน สองคัน
แต่บุพกรรมตัดรอน รถของเราเกิดเบรคชำรุด ต้องเข้าศูนย์ วันนั้น ต้องไปเที่ยว
วัดถ้ำเชียงดาว รถอีกคันนึงเลยล่วงหน้าไปเที่ยวรอ ส่วนรถเราก็ซ่อมอยู่
จนบ่ายคล้อย เมื่อไปถึงกลุ่มแรกก็เที่ยวกันหมดแล้ว และคนในรถเรา
มีเราคนเดียวที่ไม่เคยลงถ้ำ และถ้ำเชียงดาว ต้องใช้เวลาเกือบ ชม.
ระหว่างรอ กลุ่มแรกกำลังขึ้นจากถ้ำ เราก็สำรวจเดินเล่นรอบๆ วัด

สิ่งที่สัมผัสได้ ภพภูมิที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น เทพาอารักษ์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
อยู่มานานมาก และมีพลังงานที่รุนแรง พลังงานแสงสว่างสีขาว
เราก็เดินไป จนถึงกุฎิครูบา เมื่อมองไปด้านหลัง เป็นเนินเขาหิน สูงขึ้นไป
มีพระพุทธรูป อยู่บนด้านหลัง แวบนั้น จิตเราหลุดไป ทะลุประตูมิติ

ด้านหลังที่เราเห็นพระพุทธรูป พระท่านคงสร้างไว้ปิดประตูมิติ
ประตูมิติ ไปสู่ วังพญาครุฑในประเทศไทย
เป็นบันไดสีขาว สวยงามมาก ทอดยาวไปบนยอดเขา สูง
ไม่รู้บันไดกี่พันขั้น สูงลิบไป วังนั้นเป็นสีขาว ประดับเพชร
รอบๆทางขึ้น ตามบันไดที่ทอดยาว ประดับไว้ด้วยตุง
บรรยากาศด้านนั้น แสงสว่างเหมือนกลางวัน แต่เย็นสบาย
เรารู้สึกเหมือนตอนเปิดตู้เย็น แต่กลิ่นหอมของป่าลอยมา
ทางขึ้นวัง ด้านข้าง เป็นสวนป่า สีเขียว ทุกพื้นที่หินเต็มไปด้วยสีเขียว
เหมือนหญ้ามอส เหมือนเฟิร์น กล้วยไม้
มันสดชื่น งดงาม บางส่วนเป็นคล้ายกุฏิพระด้านล่าง ศิลปะแบบล้านนา งดงาม เป็นช่วงๆ ลดหลั่นไปตามไหล่เขา
แต่ทุกหลัง เป็นสีขาว งดงาม สว่างไสว ที่สุดกว่านั้น เมื่อมองท้องฟ้า ด้านบน
เต็มไปด้วย ครุฑ ทั้ง ครุฑชาย และหญิง ..............
เราได้แต่อึ้งกับภาพนั้น

แล้วเสียงพี่สาว ก็เรียกชื่อเรา ภาพนั้นหายไป
แต่ก่อนจะหายไป เราเห็นหัวหน้าครุฑ ผมลากไทร รูปหน้ายาว
บนหัวเค้าประดับมงกุฏ แบบแปลกๆ เป็นเหมือนแค่มงกุฏทอง แต่ไม่มียอดด้านบน
เค้าบอกว่า เชิญ

ก็เลยคิดว่า ซักวันต้องไปอีก และต้องกราบหลวงพ่อที่นั่นให้ได้

ป.ล.ในถ้ำเชียงดาว มีพญานาคอยู่ อยู่มานานแล้ว ไม่ได้ลง แต่รู้สึกได้รุนแรงมาก

ป.ล.ฝันจ๊ะฝัน ฝันขณะยืน

 

ไม่สบายค่ะ เหนื่อยกายใน เคยเป็นไหม

 

ไม่เคย แต่เป็นอยู่ คือ หมดเรี่ยวแรง เหนื่อยง่าย หน้ามืดจะเป็นลม ตาสู้แสงไม่ได้ มันขาวพร่า ไปหมด เหมือนมันอยากนอนอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำอะไรเลย

อากาศก็ร้อน ไม่ค่อยชอบ เท่าไหร่ กินก็ ไม่อยากกิน ปวดสมองทั้งสมองเลย ปวดแกนสมองด้วย แบบชัดเจนเลย เฉพาะสมอง

 

สงสัยจะเป็นหนอนต่างดาว ไชสองมากกว่านะอันนี้

 

ฮ่วย คือเว้าเป็นตาย่านแทะล่ะ บัดนิ

เบิ่งใหม่ดุ๊ เบิ่งดีดี .....ชัวร์ ข้อยย่านเด๊ะ บักเทวบุตรแดง มันมีพวกเป็นต่างดาวด้วยเด๊ะ

 

ตอนนี้ ได้ แนวทางระบายพลังงาน ทั้งหลายจากคุณ นพการ ละ ให้มันดูดลมจากฝ่าเท้า ไหลขึ้นผ่านกระดูกสันหลังผ่านจักระ ไปพวยพุ่งขึ้นฟ้าละ ขึ้นสู่ ครูอาจารย์เบื้องบนให้ท่าน จัดการกับพวก เกรียนๆ ทั้งหลายได้ โดยที่เราไม่ต้องจัดการอะไร

คุณจารุ ลองทำตามดิ เอาเท้าเหยียบดิน ในท่ายืน นะ เผื่อดีขึ้น

 

เวลานั้นเพลาเลยตะวันตรงหัวแล้ว แต่แสงแดดแผดกล้า เหงื่อที่หน้าและลำตัว
เริ่มไหล แต่ทั้งคู่ยังรำดาบด้วยจิตอันเป็นสมาธิ

เข้มจบท่ารำอันสวยงาม ด้วยการควงดาบ สามรอบ
แสดงถึงความชำนาญ และสมาธิอันมั่นคง
ควงดาบโดยไม่มอง รับได้แล้วกระชับมั่น มือข้างขวาอยู่ระดับหน้า หันปลายดาบไปฝั่งตรงข้าง มือข้างซ้ายอยู่ข้างลำตัวต่ำกว่าอกเล็กน้อย
ดาบขนานข้างลำตัว ตั้งฉากกับพื้น เท้าขวาย่อเล็กน้อย
เท้าซ้ายวาดไปด้านหลัง เป็นมุม หกสิบองศา และนิ่งไว้ท่านั้น

 

ส่วนสิงห์ นั้นไม่น้อยหน้า รำดาบได้สวยงาม มีท่ากระโดดไปด้านข้าง
แสดงความแข็งแกร่ง ของช่วงล่าง สิงห์จบด้วท่าตีลังกากลับหลัง
ลงมายืน กำดาบแน่น แต่ท่าดาบจบกลับแปลกในสายตาของทุกคน
สิงห์กำดาบแยกจากลำตัวเล็กน้อย แต่ปลายดาบทิ่มลงไปด้านข้าง
สิงห์ยืนแยกขา เท้าตรงกับมือทั้งสองข้าง
ราวกลับเปิดโอกาสให้โจมตีเต็มที่ ....
เข้มขมวดคิ้ว กลับท่าเปิดเพลง(ดาบ)ของสิงห์
เหล่านักรบที่ดูอยู่ก็เช่นกัน