เหลือเชื่อ...ต้องอ่าน เราอยู่ในโลกพระศรีอาริย์แล้ว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NARKA, 31 มกราคม 2008.

  1. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    การพบต้นไม้สวรรค์ ขออะไรก็ได้
    เรามีตู้ผลไม้ หยอดเหรียญ เราก็ได้น้ำผลไม้ น้ำอัดลมแล้ว
    เราอยากกินอาหาร ก็ยกหูโทรศัพท์ส่งพิสซ่าจานด่วน ก็ได้กินแล้ว
    การมีหูทิพย์ ตาทิพย์ ไม่ยาก
    เราก็ไปซื้อโทรศัพท์มือถือมาใช้ เราก็มีหูทิพย์ได้ยินเสียงไกลๆแล้ว
    เราซื้อโทรทัศน์ถ่ายทอดสดจากครึ่งโลก นั่น เรามีตาทิพย์แล้ว
    ฤทธิ์ทางอภืญญาหกทั้งหลายบังเกิดแก่เราหลายอย่างแล้ว
    โดยเรามิต้องนั่งสมาธิปฏิบัติตนขจัดกิเลศใดๆให้เหนื่อยกายและใจ
    เทคโนโลยี่ปัจจุบัน สามารถเนรมิตรสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายทั้งปวงให้มนุษย์ได้มีอยู่มากมาย
    นี่แสดงว่า เราอยู่บนสวรรค์แล้ว มีฤทธิ์แล้วหลายอย่าง
    จะย้อนอดีต เราก็เอาวิดิโอเก่าๆที่บันทึกไว้ออกมาดู เราก็สามารถย้อนอดีตได้แล้ว
    อยากเหาะเหิรเดินอากาศได้ ก็ไม่ยาก ซื้อตั๋วเครื่องบิน เราก็ได้เหาะเหิรเดินอากาศได้แล้ว
    จะไปอนาคตก็ได้ โดยเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะเวลาบนโลกเรานี่ก็ต่างกันในแต่ละทวีป ถ้าจะไปอนาคต เราอยู่ปัจจุบัน ก็นั่งเครื่องบินย้อนแสงตะวันไป เราก็ได้ไปอยู่ ณ เวลาอนาคตได้แล้ว จะกลับจากอนาคตมาอดีตก็ได้โดยการบินย้อนกลับทางเสีย
    เราสามารถมุดน้ำดำดินได้ โดยนั่งรถไฟสายใต้ดิน นั่งเรือดำน้ำ ได้
    เราสามารถชี้นิ้วให้คนตายได้ โดยใช้นิ้วชี้กระดิกไกปืน สายฟ้าก็คำรามขึ้น คนโดนสายฟ้าก็ตายหรือบาดเจ็บไป
    ถ้าเราลองเปรียบเทียบฤทธิ์ทางศาสนาต่างๆที่ระบุไว้ เราจะงงว่า นี่เรามีฤทธิ์ตั้งมากมายชนิดเคยชินไม่รู้ตัวมานานพอประมาณแล้ว
     
  2. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ถึงจะเป็นฤทธิก็ฤทธิ์มีโทษละครับ
    สิ้นเปลืองมากด้วย
     
  3. เศษธุลีในจักวาล

    เศษธุลีในจักวาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +150
    ทำลายธรรมชาติคือทำลาย ตัวเราเอง ต้นไม้ แม่น้ำ ป่า ดิน หิน ทุกวันนี้เปลี่ยนไปหมด มาร่วมกัน รักษาธรรมชาติเริ่มจาก ประหยัดพลังงานกันเถอะ โลกใบนี้จะได้อยู่ถึงลูกหลาน แต่ ทำไมวัตถุเจริญขึ้นจิตใจกลับต่ำลง ศีลธรรมไม่กลับมา โลกา วินาศ
     
  4. vnoen

    vnoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +827
    ระวังจะเป็น อวิชชา มิชฉาทิฐฐิ นะ..เดี๋ยวคนที่เขาเพิ่งเริ่มศึกษาพุทธจะสับสน
     
  5. naiman3000

    naiman3000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2008
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +106
    พวกนอกรีด

    บ้าๆๆๆๆๆมันจะเทียบกับของศาสนาพุทธได้อย่างไร
    สิ่งที่มีอยู่ต้อนนี้มันเกิดจากพวกมารนอกศาสนาที่จะกระทำทุกอย่างให้เทียบเท่ากับของศาสนาพุทธ ยังงัยล่ะ
    ...
    ไอคนที่ตั้งกระทู้มันมีความคิดที่มืดมั่วสิ้นดี
     
  6. kittipongc

    kittipongc เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +3,648
    ตัวใคร ตัวมัน ..........
     
  7. meekung555

    meekung555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +18
    เป็น มุมมอง ของความคิด อีกมุมหนึ่งที่ดี น่ะค่ะ

    อ่าน เพื่อเพิ่ม มุมมองค่ะ
     
  8. zcracher

    zcracher เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +267
    แต่เขาก็พูดถูกของเขา แถมมีปัญญาทิพย์ อยากรู้อะไรก็ได้รู้ เพียงแค่เข้าไป google

    เราอยู่ศาสนาพุทธ ใครจะเชื่อหรือไม่อย่างไรก็ช่างเขา ศาสนาเราไม่ใช่ศาสนาที่ต้องไปจูงจมูกให้เขาเชื่อให้เขาศรัทธานะ
     
  9. neomagic

    neomagic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +217
    แต่เราต้องแก่ ถ้าเป็นสวรรค์จริงเราจะเป็นหนุ่มสาวตลอดไปทุกคน
    และอยากได้อะไรเราก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาซื้อ สิ่งที่อยากได้ไม่ได้เนรมิตได้อย่างใจหวังเหมือนสวรรค์นี่ครับ คนจนไม่มีสิทธิแต่คนรวย คนที่โกง ไม่ซื่อสัตย์กลับมีรถเบนซ์ขับ ส่วนคนดีกลับถูกรังแก เอารัดเอาเปรียบ อย่างนี้มันนรกสำหรับคนดีมีศีลธรรมชัดๆ

    ที่จขกท.เล่ามา มันเป็นสิ่งที่เปรียบเทียบกับสวรรค์ แต่ไม่ใช่สวรรค์หรอกครับ เพราะคนเลวกลับได้ใช้สวรรค์ คนดีกลับไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้สวรรค์ เพราะไม่มีเงิน ไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเส้นสาย.
     
  10. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    อิอิ พิมท์ ไปตั้งเยอะกดส่งข้อความไม่ได้อีกแล้วเป็นทุกทีที่เขียนแนวคิดของตัวเองไม่รู้เป็นอะไรสงกะใสยังไม่ถึงเวลา ฮาๆ - -*
     
  11. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    คนตั้งกระทู้ ดูโรคจิตยังไงก็ไม่รู้ อิอิ ^^
     
  12. อาหลี_99

    อาหลี_99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +2,992
    เมื่อเริ่มยุคจะมีพระอรหันต์มารวมกันนะที่.......??
     
  13. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    บางคนปัญญาน้อย มองไม่เห็นโลกในมุมกว้าง ยังติดสมมติบัญญัติอยู่มาก ก็มักจะคิดว่า ผู้อื่นไม่รู้เหมือนตน แล้วก็ไปกล่าวหาเค้าว่า โรคจิตบ้าง นอกรีตบ้าง

    คุณ นาคา เป็นผู้ที่มีปัญญาดี เป็นสัมมาทิฏฐิ ท่านหนึ่ง ผู้ที่เข้าใจในวิธีแห่งพุทธะ และติดตามข้อความคุณนาคา พึ่งทราบได้...
     
  14. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,099
    ค่าพลัง:
    +2,696
    เยี่ยมเลย หลงนึกว่าเราเป็นคนธรรมดาตั้งนาน
     
  15. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    แวะมาดู ก็ต้องอนุโมทนาจิต ที่ดีต่อท่านวิมุตติ ด้วย
    มีคำกล่าวว่าองค์พระปฏิมากร ยังถูกตำหนิได้ นับประสาอะไรกับคนเรา
    ส่วนใหญ่คนจะมองแต่สมมุติ แบบหยาบๆ ไม่ค่อยพินิจพิเคราะห์ในหลักเพื่อให้รู้ ซึ่งมาจากผลการวิเคราะห์และสังเคราะห์
    เมื่อเราเป็นพุทธศาสนิกชน ส่วนใหญ่ก็เป็นๆตามกันมา บวชตามประเพณี แต่ไม่ค่อยได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ไม่ต่อยอดของวิชาพระพุทธศาสนา จึงมีความรู้ความเข้าใจที่ยังไม่เต็มภูมิ
    โลกมนุษย์ถ้าเปรียบเทียบในเวลานี้ ก็เสมือนมีนรกอยู่ในหลายๆประเทศ ที่มีศึกสงคราม
    แต่ก็มีอีกหลายประเทศ ที่ไม่มีสงครามเปรียบได้เหมือนอยู่ในเมืองสวรรค์บางส่วน
    จริงอยู่ ในการเข้าถึงสวรรค์บนโลกนั้นมีความแตกต่างกันทางสังคมชนชั้น คือชั้นสูงชั้นกลางมีโอกาสมากกว่า แต่ชั้นล่างหรือรากหญ้า ค่อนข้างมีโอกาสน้อย
    ความเสมอภาค คือ โอกาสในการเข้าถึงสวรรค์บนดิน แม้มิใช่สวรรค์จริง แต่ถ้าเรามามองความสงบสุขความเจริญของประเทศเราแล้วเปรียบเทียบกับประเทศที่มีปัญหาต่างๆ เราจะต้องรู้ว่านั่นคือบุญกุศลที่เราได้สร้างมา จึงดลบันดาลให้เรามาได้เกิดในสยามประเทศ มีศาสนาพุทธเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว และมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม
    ดังนั้นจึงสามารถสรุปการเปรียบเทียบกับยุคพระศรีอริย์ว่า เสมือนว่าเราได้เกิดในยุคนั้นที่ยังมาไม่ถึงก็ให้เร่งมีสติไคร่ครวญอย่าหลงไปในทางต่ำ
    คล้ายใครดูแบ๊ก ทู เดอะฟิวเจอร์มั่ง นั่นแหละเขาเรียกกันว่า "จินตนาการ"
    และไอน์สไตน์ก็กล่าวว่า"จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้"
     
  16. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    จิตปรุงแต่ง อยากให้เป็นอย่างโน้น อยากให้เป็นอย่างนี้
     
  17. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่าน นาคา กล่าวได้ถูกต้องดีแล้วในเรื่องของการเปรียบเทียบกับยุคพระศรีอาริย์ แต่ในฐานะสหายธรรม ผมขอแนะนิดหนึ่ง ตรงที่ "จิตนาการ สำคัญกว่าความรู้" นี่คือ ทางโลก ต้องมีการคิดเพื่อสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นเรื่องดีในทางวิทยาศาตร์ แต่ ทางธรรม นับว่า เป็นการปรุงแต่งสังขารให้เกิด มันกลับสวนทางกับการปฏิบัติ ที่ต้องการทิ้งสังขารให้ได้ ก็ขอฝากไว้พิจารณานะครับ...
     
  18. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ขอขอบคุณท่านวิมุตติ
    ในส่วนตัวของความเห็นแล้ว
    ผมว่าไอน์สไตน์ฯรู้ดีว่า ศาสนาพุทธ เป็นวิทยาศาสตร์ที่สุด และสิ่งที่ไอน์สไตน์ฯค้นคว้าทดลองทฤษฎีนั้น ท่านก็ต้องรู้ว่า กำลัง"ตามหลัง"พระะพุทธองค์และสาวก" ที่ไปถึงจุดหมายปลายทางได้แล้วด้วยพลังงานทางจิต
    แต่เนื่องจากไอน์สไตน์เป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงต้อง"หาหนทาง"ไปโดยวิทยาศาสตร์
    กายภาพทางฟิสิกส์ของไอน์สไตน์ คิดออกมาเป็นทฤษฎีสัมพัธภาพได้แล้ว
    ถ้าสร้าง"เครื่องมือ"ทางวิทยาศาสตร์ได้ตามทฤษฎี ท่านก็คงได้พบกับ"พระเจ้า" ตามที่ท่านเรียกขาน
    แต่พระเจ้าของไอน์สไตน์นั้น ผมตีความหมายได้ว่าคือ พระนิพพานนั่นเอง
    ตัวพระนิพพานนี้ น่าจะเป็นเป้าหมายทางวิทยาศาสตร์ของไอน์สไตน์ แต่ไปโดยทางวิทยาศาสตร์ทางฟิสิกส์ คือถ้ามนุษย์สามารถสร้างเครื่องมือให้สามารถเปลี่ยนสถานะจากสสารเป็นพลังงานได้เมื่อใดและเดินทางด้วยความเร็วแสง เมื่อนั้นมนุษย์ก็น่าจะสามารถไปถึง นิพพานได้โดยไม่ต้องปฏิบัติแบบพระ
    การไปนิพพาน เป็น "วิธีการ"ของพระปฏิบัติตาม"มรรค"ของพระพุทธองค์
    การไปนิพพาน ก็เป็น"วิธีการ"ของวิทยาศาสตร์
    เพราะเป็นเป้าหมายเดียวกัน
    ผมคิดว่า เมื่อใดก็ตาม ถ้ามนุษย์คิดเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ได้
    มนุษย์มีสิทธิ์สูญหายไปจากโลกทั้งหมด แต่ไปอยู่อีกมิติหนึ่ง คือ มิตินิพพาน
    ซึ่งในทางทฤษฎีซูเปอร์สตริงเทียรี ก็มีการกล่าวถึงมิติต่างๆประมาณ10มิติ
    การไปสู่มิติ ที่พระพุทธองค์ ค้นพบ วิธีการ หรือ เครื่องมือ การปฏิบัติทางจิตไว้แล้วและไปได้แล้ว
    กับการไปสู่มิติที่มนุษย์กำลังหาเครื่องมืออยู่ อาจจะดูสวนทางกัน ขัดกัน แต่มันคล้ายคู่ขนานกันไป
    แต่สักวันในอนาคต มันอาจไปบรรจบกันที่จุดหมายปลายทางได้แน่นอนตามทฤษฎีของไอน์สไตน์
    ผิดถูกอย่างไร ในแนวคิดรวบยอดต้องขออภัยด้วย
     
  19. TripleXNeo

    TripleXNeo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +99
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=j>[SIZE=-1]ขอบคุณ จขกท แต่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยครับ เรื่องที่ว่าเรากำลังอยุ่ใน ยุคพระศรีอริยเมตไตย[/SIZE]
    [SIZE=-1]ถ้ายุคนี้นี่เรียกว่า สวรรค์[/SIZE][SIZE=-1]สงสัยมนุษย์ คงเป็นเทวดา [/SIZE]และถ้าเป็นเทวดาจริง ก็ต้องมี [SIZE=-1]หิริโอตัปปะ ความละอายและความเกรงกลัวต่อบาป ซึ่งยังมีคนกำลังหลงผิด ดังเช่น ข่าว อาชญากรรม ที่เกิดขึ้นมากมาย และสงครามที่กำลังจะเกิด ผมว่า[/SIZE]เรากำลังอยู่ในช่วงเดินทางไปสู่ ยุคพระศรีอริยเมตไตย ซึ่งตามความเข้าใจผม ก็ต้องอีกหลาย พันปี หรือมากกว่านั้นครับ





    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. amakig

    amakig Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +69
    ถูก
     

แชร์หน้านี้

Loading...