เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. penicillin2

    penicillin2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +898
    พี่ๆครับผมมีคำถามมาถามหน่อยครับว่า ในตำนานที่4 (ขันธะปะริตตัง) ต้องเริ่มจาก วิรูปักเขหิ หรือว่า อัปปะมาโณครับ ผมไปอ่านเจอว่าถ้าเริ่มจาก วิรูปักเขหิ จะทำให้ภูตผี ออกอาละวาดแทน รบกวนชี้แนะผมด้วยครับ
     
  2. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ตำราถูกหวยในโหราศาสตร์มันไม่มีนะ ถ้ามีจริงคนเป็นโหรไม่มาเสียเวลาดูให้คนอื่น เล่นซะเองดีกว่า

    แต่ถ้าจะดูโชคใหญ่ก็พอมี อย่างดวงนี้ดาว๑จะย้ายราศีไปทับ๕ในวันที่15มีนาคม จะลองเสี่ยงโชคดูบ้างก็ได้ครับ พอหอมปากหอมคอ

    แม่เป็นคนขยัน ให้อยู่เฉยๆคงจะป่วย พอเที่ยวบ้างก็ดี พออายุใกล้60แล้วก็อาจจะเบาลง แต่ระหว่างนี้ต้องระวังร่างกาย อย่าไปใช้งานมันหนักนัก รวมทั้งระวังอุบัติเหตุด้วย

    ขอให้แม่หายไวๆนะครับ
     
  3. chatchai_/\_

    chatchai_/\_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +1,104
    28/02/58 17:59 บ/ช XXX247006X เงินออก 999.99 บาท
    วันนี้ผมโอนเงินร่วมบุญสร้างพระกับพี่ธวัชชัยเรียบร้อยแล้ว

    อนุโมทนา สาธุ
    Chatchai_/\_
     
  4. penicillin2

    penicillin2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +898

    ผมขอขอบพระคุณพี่ numtip มากครับ
     
  5. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,635
    ถ้าเวลามากพระมักจะสวดบทเต็มคือเริ่มจาก วิรูปักเขหิเม ฯปฯ
    แต่หากเวลาน้อยมักจะสวดย่อคือเริ่มจาก อัปปมาโณ พุทโธ ฯปฯ
    ไม่เกี่ยวกับสวดสั้นสวดยาวแล้วผีออกอาละวาดสักหน่อย
    นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด และอีกอย่างบทวิรูปักเข ก็เป็นบทเมตตาล้วน ๆ
    กรณียะ เมตตาให้ผี-เทวดา วิรูปักข์ เมตตาให้สัตว์เลื้อยคลานครับ
     
  6. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,151
    คุณทิพย์ วันนี้เวลา 19.20 น. ผมโอนเงิน 200.- บาทร่วมบุญสร้างพระกับพี่ธวัชชัยแล้วครับ
     
  7. little_duct

    little_duct เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +800
    สวัสดีครับพี่ทิพย์และสมาชิกทุกท่าน
    แจ้งข่าวครับ
    น้อมส่งหลวงปู่สู่พระนิพพานด้วยครับ

    วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เวลา 14:46 น.  ข่าวสดออนไลน์

    สิ้น ‘หลวงพ่อบุญมี’ เกจิดังอ่างทอง ศิษย์เอกหลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว

     เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ก.พ. พระครูสิริบุญเขต (หลวงพ่อบุญมี จิตฺตทโม) เจ้าอาวาสวัดม่วงคัน ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เกจิดังแห่งภาคกลาง ได้มรณภาพลงอย่างสงบที่โรงพยาบาลสระบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมา ด้วยโรงมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน โดยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสระบุรี จนกระทั่งมรณภาพลงอย่างสงบเมื่อเวลา 22.45 น. ของคืนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ด้วยอายุ 87 ปี 6 เดือน บวชมาแล้ว 67 พรรษา และขณะนี้ได้นำศพกลับมายังวัดแล้ว ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงวัดพบว่าภายในวัดมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก พระลูกวัดรวมทั้งชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้ช่วยกันเตรียมข้าวของและสถานที่สำหรับจัดพิธีศพให้กับหลวงพ่อ ส่วนศพของหลวงพ่อบุญมีนั้น ตั้งอยู่ภายในกุฎิและเตรียมการที่จะบรรลุใส่โลงเพื่อรอพิธีรดน้ำศพในวันที่ 1 มี.ค.

    สำหรับงานบำเพ็ญกุศลศพนั้น มีกำหนดการอาบน้ำศพในวันที่ 1 มี.ค. เวลา 16.00 น. และจะทำการสวดอภิธรรมศพเป็นระยะเวลา 15 คืน ก่อนที่จะทำการเก็บศพไว้ 100 วัน โดยหลังจากประชาชนทราบว่าหลวงพ่อบุญมีมรณภาพ ก็ต่างมาหาเช่าวัตถุมงคลกันเป็นจำนวนมาก ไม่ทันไรก็เกลี้ยงตู้ จนทางวัดต้องรีบเก็บแยกไว้จำนวนหนึ่ง
     
  8. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    น้อมส่งหลวงปู่สู่นิพพานครับผม ใจหายมากๆเลยครับ
     
  9. totto99

    totto99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,081
    ค่าพลัง:
    +59,620
    ผมขอร่วมบุญกับพี่ธวัชชัย 499.99บาท
    ได้โอนเงินให้แล้วครับ 499.99 บาท
    28/02/58
    20:49 น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143

    ตกใจ.....

    หลวงพ่อบุญมี เก่งมาก! เป็นหนึ่งในไม่กี่องค์ที่พี่นิ่มยิงไม่ออก

    น้อมส่งหลวงพ่อฯสู่พระนิพพาน กรรมใดที่ลูกเคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ขอหลวงพ่อฯงดโทษนั้นไว้ จนกว่าลูกจะถึงพระนิพพาน

    ใครไม่มีพระของหลวงพ่อฯ ใช้ของพี่นิ่มได้ ได้กระแสมาเหมือนกัน ผมเป็นคนนิมนต์เอง....
     
  11. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143

    อยากให้โล่ห์......

    พี่ไม่ต้องเช่าอะไรจากผมแล้วนะครับ อยากได้อะไรให้เอยปาก ไม่งั้นเดี๋ยวจะทำโล่ห์ให้...(เอาไว้บังเวลาโดนใครปาอะไรใส่555)
     
  12. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143

    อยากให้โล่ห์......

    พี่ไม่ต้องเช่าอะไรจากผมแล้วนะครับ อยากได้อะไรให้เอยปาก ไม่งั้นเดี๋ยวจะทำโล่ห์ให้...(เอาไว้บังเวลาโดนใครปาอะไรใส่555)
     
  13. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ems

    totto99 ek946122795th
    วิชาญ ek946122813th
    ขอฟรี ek946122800th
     
  14. sa_nakorn

    sa_nakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +1,102
    คุณทิพย์ครับ
    วันที่ 28/2/2015 17.33 น. ผมโอนเงินร่วมสร้างพระกับพี่ธวัชชัย 500.99 บาท แล้วนะครับอนุโมทนาด้วยนะครับ
    ขอบคุณมากครับ
     
  15. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    jumnien331
    knurack
    ช่วงนี้มีปัญหาเรื่องคู่ครองหรือหุ้นส่วนบ้างหรือเปล่าครับ

    nopsena
    one-zee
    คุณธรรมจักร

    5ท่านนี้มีปัญหาอะไรบ้างรึเปล่าครับ ขอสถิติหน่อย
     
  16. Funfun27

    Funfun27 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,319
    ค่าพลัง:
    +7,868
    อัพเดทตาราง 1 มี.ค. 58 (ร่วมบูชาวัตถุมงคล และ ร่วมสร้างพระฯ กับพี่ธวัชชัย)

    ขอบคุณครับ
    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2015
  17. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,151

    เรื่องงานครับหนักมากกก แต่ไม่ใช่ร้ายซะทีเดียว ประมาณว่างานทุกอย่างมันเทมาที่เราหมดเลย หัวหน้าไม่ต้องทำอะไรเพราะเราทำให้ซะหมดแล้ว แกแค่เซ็นท์เรื่องออกอย่างเดียว จนบางครั้งต้องมานั่งคิด นี่เราทำมากเกินไปหรือป่าว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาประมาณเดือนนึงแล้วครับ
     
  18. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เรื่องเล่า : เล่าเรื่องในทะเลเพื่อแบ่งปันให้คนไม่เคยรู้ได้รู้จัก จนนึกแล้วอาจจะเห็นได้ฯ

    ตอน : มันไม่เหมือนกัน แต่ก็เหมือนกัน อีกทีนะครับฯ(6)

    ตอนที่แล้วแนะนำ ไต้หวัน พอสังเขปไปแล้ว อยู่ที่อินโดนีเซีย เสื้อผ้าเข้าของหายเกือบหมดตัว พอถึง ไต้หวัน ก็จัดการซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ เพราะรู้อยู่

    แล้วว่าที่ ไต้หวัน มีของปลอมของเรียนแบบเยอะ จึงเลือกซื้อตามห้าง สมัยนั้นเสื้อยืดยี่ห้อ PUMA กำลังดังมากก็ซื้อเสียหลายตัว เพราะราคาถูก ผลที่ได้

    หลังการซักครั้งแรก มันยับยู่ยี่แบบชนิดที่เรียกว่ารีดอย่างไรก็ไม่กลับคืนสภาพเดิม...โดนจนได้...การที่เรือจะออกจากเมืองท่าหนึ่งไปยังจุดหมายปลาย

    ทาง ต้นหนจะเป็นคนกำหนดเส้นทางเรือเดินแล้วเสนอกัปตัน(ก็วางไว้ในห้องแผนที่นั่นแหละ)/กัปตันดูแล้วไม่ว่าอะไร ก็ถือว่า OK ตามนั้น และนายประจำ

    เรือส่วนใหญ่ก็จะเปิด Guide to port entry เพื่อดูว่าเมืองที่เราจะไปมีอะไรน่าสนใจ ส่วนผมมีหน้าที่เกี่ยวกับเอกสารเข้า-ออก เมืองท่า ก็จะดูว่าเขาใช้

    เอกสารอะไรบ้าง/จำนวนอย่างละเท่าไร/ต้อง Declare เงิน,ทรัพย์สิน,เข้าของ,เครื่องใช้ส่วนตัวอย่างไร? เป็นต้น ส่วนต้นเรือก็จะดูเรื่อง น้ำจืดเป็นอย่าง

    ไร/ราคา/คุณภาพน้ำ/เสบียงอาหาร/หาง่าย/หายาก/ถูกแพง/เจ้าหน้าที่เข้มงวดหรือไม่/กรรมกรทำงานแบบไหน/มีลักเล็กขโมยน้อยหรือไม่/มีการปล้นจี้

    หรือไม่/ขึ้นบกไปมีอันตรายอะไรให้ต้องระมัดระวังเป็นต้นฯลฯ ในหนังสือจะมีคำแนะนำไว้อย่างละเอียด ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะมีคนเรือหรือกัปตันเรือส่ง

    ไปให้กับสถาบันที่จัดทำหนังสือเหล่านี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลจัดทำ/แก้ไข ส่งให้กับเรือเดินทะเลทั่วโลก นี่ก็เป็นข้อได้เปรียบของคนเรือที่มีข้อมูลของประเทศ

    ต่างๆ ก่อนที่จะเดินทางไปอย่างดี ตามที่เคยเรียนไปแล้วว่าในเที่ยวเรือนี้เป็นช่วงเวลาที่ปกติแล้วจะไม่มีพายุ ผมชอบพูดเล่นๆ ว่า ทะเลเรียบเป็นกระดาษ

    เงียบเชียบพอที่จะเดี่ยวกลองได้ ถ้าผมพูดเล่นๆ แบบนี้ จะมีคนจัดโต๊ะที่ท้ายเรือ สุรา-อาหารพร้อม.....การเดินทางในเที่ยวนี้มีจุดหมายแรกคือ สิงคโปร์

    เพื่อรับน้ำจืดและน้ำมันเชื้อเพลิง(BUNKER)เต็มที่ เราจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ซื้ออาหารและน้ำที่ประเทศ บังคลาเทศ...................

    การจะเข้าประเทศสิงคโปร์ก็ต้องมีการรายงานเป็นระยะๆ ให้ทาง สิงคโปร์ทราบ(ขอเขียนง่ายๆ นะครับ) คือก่อนเรือถึง 7 วัน , 3 วัน ,2 วัน 1 วัน ,12

    ชั่วโมง 6 ชั่วโมง เมื่อเรือถึงแล้ว จัดการเรื่องเอกสารเข้าเมืองเรียบร้อย ก็รีบดำเนินเดินงานต่างๆ ตามแผนให้เรียบร้อย เสร็จธุระแล้วก็เดินทางต่อไป โดย

    เดินทางผ่านช่องแคบมะละกา ต้องทำความเข้าใจนิดหนึ่งคือ ชื่อมันเรียกว่า ช่องแคบมะละกา แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ มันกว้างหลายสิบไมล์ทะเล จุดที่

    แคบที่สุดใกล้ S'pore ประมาณ 1.5 ไมล์ทะเล ยาวประมาณ 600 ไมล์ทะเลจะใช้เวลาเดินทางในช่องนี้ประมาณ 2 วัน หรือเกือบ 2 วัน แล้วแต่ความ

    เร็วเรือ พอหลุดจากช่องแคบมะละกา ก็ตัดขึ้นผ่านทะเลอันดามัน ผ่านพม่า ไปเมืองท่า จิตตะกอง ประเทศบังคลาเทศ...............

    [​IMG]

    ขอหากินกับแผนที่อีกที เส้นทางเรือเดินคร่าวๆ คือ ออกจาก Kao-hsiung จะผ่านด้านใตของหมู่เกาะ Paracel Islands ในสมัยก่อนโน้น เอ่ยชื่อ

    Paracel แล้วเป็นที่น่ากลัว เพราะมีเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ไปเกยตื้นที่หมู่เกาะนี้เป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่เรือไทย เรือที่แล่นผ่านไป-มา ญี่ปุ่น ต้อง

    ผ่าน สาเหตุก็เกิดจากสภาพอากาศ หมอกจัด เมฆฝน ทัศนวิสัยเลว การหาที่เรือด้วยการวัดแดดวัดดาวทำไม่ได้ หรือได้ก็ขาดความแม่นยำ เพราะขอบ

    ฟ้าไม่เอื้ออำนวย ความสูงที่ได้จึงไม่แน่นอน ไม่ได้เกิดจากการคำนวนผิด แต่ความสูงที่ได้มามันผิด เพราะขอบฟ้ามันไม่คมชัด เวลาเรือแล่นผ่านใน

    เวลากลางวันก็จะมองเห็นเรือขนาดใหญ่เกยตื้นอยู่จำนวนมากหลายลำ เป็นเรือที่เกยตื้นแล้วไม่สามารถนำออกมาได้ ที่เอาออกไปได้ก็มีเยอะฯลฯ ก็เล่า

    ให้ทราบกันพอที่จะทำให้เรื่องมันยาว พ้น Paracel Islands แล้ก็ตัดไป S'pore ขึ้นบกมาเสียนาน เกล็ดเริ่มจะแห้ง เลยจำไม่ได้ว่าใช้เวลาเดินทางกี่

    วัน น่าจะประมาณ 8-10 วัน ขึ้นอยู่กับความเร็วเรือ และกระแสน้ำ แถมให้อีกนิด กระแสน้ำในทะเลจะมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล น้ำขึ้น-น้ำลง ขึ้นกับ

    ดวงจันทร์ กระแสน้ำเปลี่ยนไปตาม Declination ของดวงอาทิตย์ จะมี Current charts ให้ดู แต่พวกเขี้ยวลากดิน เพียงรู้ว่า Declination ดวง

    อาทิตย์เป็นอย่างไร ก็บอกได้ถูกต้องว่ากระแสน้ำในมหาสมุทรขณะนั้นมันหมุนทางไหน เส้นทางที่เรือเราผ่านมันตามกระแสน้ำหรือทวนกระแสน้ำ......


    [​IMG]

    ภาพด้านบนนี้ แสดงเส้นทางเข้า S'poer พื้นที่สีชมพูแสดงเส้นทางเรือเดิน ตั้งแต่ทางตะวันออกของ S'pore ผ่านไปทางตะวันตกเข้าช่องมะละกา จะ

    เห็นว่า เกาะ S'pore เล็กนิดเดียว มีเนื้อที่พอๆ กับจังหวัดนนทบุรี ของเราเท่านั้นเอง


    [​IMG]

    เอาภาพข้างบนนี้เอามาให้ดู เพราะมีบางคนแย้งว่า เหตุที่เรือเดินทะเล รับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ S'pore เพราะประเทศมาเลเซียอยู่ไกล ก็สองข้างทั้งขวา

    และซ้ายของ S'pore ก็เป็นมาเลเซียทั้งนั้น เรือที่เข้าส่งสินค้าให้กับประเทศมาเลเซียเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางกลับมารับน้ำมันเชื้อเพลิงที่ S'pore อยู่ดี

    ช่องแคบมะละกา อยู่ทางตะวันตกของ S'pore ย้อนขึ้นไปดูแผนที่แผ่นใหญ่ แล้วลองเปรียบเทียบดูระหว่าง ช่องแคบใมละกา กับคอคอดกระ ของไทย

    แล้วจะรู้ว่า มันแคบไหม???? ตรงบริเวณหัวเกาะสุมาตรา ที่เขียนว่า Banda Aceh และบริเวณที่เขียนว่า Geonge Town เขตนี้จะมีคำเตือนทั้งข่าว

    สาร และ ข่าวทางวิทยุ ให้เรือที่กำลังระมัดระวัง"โจรสลัด" มันชุกชุมจริงๆ

    [​IMG]


    เอาภาพนี้มาให้ดูเพื่อยืนยันว่า เรือแล่นผ่านช่องแคบมะละกา ผ่านเมืองใหญ่ๆ ของมาเลเซียตั้งหลายเมือง ทำไมไม่รับน้ำมันเชื้อเพลิงของมาเลเซีย

    หรือเป็นเพราะเจ้าของเรือ/บริษัทเรือฯ โง่ อยากซื้อของแพง ทั้งเกาะ ปีนัง, Port Kelang ,Port Dickson หรือฝั่งตรงข้ามกับ Sembawang ,


    Kuantun, Trengganu ประเทศมาเลเซีย ผมขนน้ำมันจาก S'pore ไปส่งให้มาแล้วทั้งนั้น ขนออกจากมาเลเซียก็มี เช่นขนจาก Port Dickson ไป

    ส่งพม่า เป็นน้ำมัน Diesel เป็นน้ำมันประเภท กำมะถันสูง บ้านเราไม่ใช้เพราะมีข้อตกลงรับพันธสัญญาตัวนี้อยู่(เขียนง่ายๆ จะได้พอเข้าใจ)

    [​IMG]

    พอหลุดพ้นช่องแคบมะละกา ก็เดินทางขึ้นเหนือผ่านหมู่เกาะอันดามัน ทำให้คิดถึงนิยายเรื่อง ห้วงรักเหวลึก ของหลวงวิจิตรฯมุ่งหน้าสู่อ่าวเบงกอล ผ่าน

    พม่า มุ่งไปยังเมืองท่า จิตตะกอง ประเทศบังคลาเทศ เป็นเมืองที่ไปบ่อย แต่เที่ยวเรือนี้ผมต้องตกระกำลำบากที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง ไม่ได้อยากจะเขียนให้

    เยิ่นเย้อนะครับ แต่เขียนไป

    นึกไปก็แบบนี้แหละ ต้องขออภัย พบกันใหม่ที่ บังคลาเทศ ขอขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2015
  19. penicillin2

    penicillin2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +898
    คุณพ่อประดู่ครับ เวลาเดินเรือ คุณพ่อประดู่รู้ได้ยังไงหรือครับว่า ตรงนี้ลึกเท่าไหร่ จะมีโขดหินหรือเปล่า แล้วถ้าเรือเกยตื้นจะทำยังไงถึงจะลากออกมาจากจุดนั้นได้ครับ และทำไมเราถึงจับโจรสลัดไม่ได้เหรอครับ พวกนั้นไม่ได้กลับขึ้นแผ่นดินใหญ่หรือครับ
     
  20. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378

    คุณเป็นคนหนึ่งที่ผมชอบหรือชอบมาก เพราะผมไม่ค่อยได้เห็นหรือได้อ่านของใครที่จะถามเรื่องบทสวดมนต์ บทสวดมนต์ทุกบทล้วนมีที่มาที่ไป ถ้าเรารู้

    ประวัติไว้บ้างก็จะทำให้เรามั่นใจ เช่นมั่นใจว่าเรารู้เรื่อง หรือ มั่นใจว่ามันต้องขลัง อย่างบทที่คุณเขียนถามมา ความจริงผมลองเขียนแหย่เล่นๆ ไปแล้ว

    ตั้งแต่ผมเข้ามาเขียนเรื่องแรก คือเรื่อง "เรื่องที่ปู่เล่าสู่กันฟัง หน้า 172 #3421 และเรื่องถัดๆ มา คือ"เรื่องขันธะปะริตคาถา" หน้า 182 # 3635 ซึ่ง

    เรื่องหลังนี้ เกิดกับตัวผมเอง และคุณหนุ่มทิพย์แอบเอาไปเรียกชื่อใหม่ว่า เรื่องคุณปู่ปราบงู อย่างที่เคยบอกไปหลายหนแล้วว่า ผมได้เรียนวิชาหน้าที่

    ศีลธรรมกับครูมหาเปรียญ 6 และเป็นมหาเปรียญในยุคโน้น ทำให้ได้ยินได้ฟังคุ้นหูอยู่ 6 ปี พอมาเป็นทหารก็ได้เรียนกับอนุศาสนาจารย์ซึ่งก็มาจากมหา

    เปรียญธรรม ลาสิกขา มารับราชการทหาร อีก 2 ปี มีทั้งเรื่องเล่าทั้งทางโลกทางธรรม โหราศาสตร์ และคำนวนหวย ซึ่งครูอนุศาสนาจารย์ คงเห็นนักเรียน

    ง่วง ก็เลยแทรกวิธีคิดหวย ซึ่งก็คละเคล้ากันไป แต่ส่วนใหญ่ผมจะได้จากการเล่าของคนเฒ่าคนแก่ อย่างความขลังของบทกรณีฯ เขียนไว้แล้วในเรื่อง

    เรื่องที่ปู่เล่าสู่กันฟัง ส่วนที่มาไม่ได้เขียนไว้ ก็จะขอเล่าย่อๆ นึกเสียว่าผมตามมารับผิดชอบที่เขียนไว้ไม่ละเอียดพอ..........

    ที่มาของ บทกะระณียะเมตตะสุตตัง ความว่า...ในสมัยพระพุทธองค์ มีภิกษุกลุ่มหนึ่งประมาณ 500 รูป ทูลลาพระพุทธองค์เพื่อไปเจริญธรรมในป่าแห่ง

    หนึ่ง ซึ่งในป่าแห่งนั้นมีรุกขเทวดาสิงสถิตย์อยู่ก่อนแล้ว พอพระไปอยู่ก็ทำให้รุกขเทวดาเดือดร้อน ต้องย้ายที่อยู่อาศัยโดยไม่ทำอะไรกับพระทั้งหลายเหล่า

    นั้น เนื่องจากเข้าใจว่าบรรดาพระทั้งหลายคงผ่านมาอยู่ชั่วคราว แต่ปรากฎว่าพระภิกษุเหล่านั้นอยู่นานเกินกว่าที่คิด บรรดาเทวดาทั้งหลายก็รู้สึกเกิดความ

    เดือดร้อน อยากให้พวกพระภิกษุย้ายออกไปเสีย ก็ทำการหลอกหลอนต่างๆ นาๆ ทำเสียงหลอนบ้าง ก่อกวนให้เจ็บไข้บ้างฯลฯ ทำให้พระอยู่อย่างไม่เป็น

    ปกติสุข จึงกลับมาเฝ้าพระพุทธองค์และกราบทูลให้ทรงทราบ พระพุทธองค์จึงทรงแนะนำให้พระภิกษุเหล่านั้น เจริญเมตตา คือ สวดกะระณีสูตร เมื่อพระ

    ภิกษุเหล่านั้นกลับไปยังป่าดังกล่าวอีกครั้ง ก็เจริญกะระณียะเมตตะสูตร เทวดาทั้งหลายได้ฟังก็เกิดเมตตาจิต ช่วยเหลือเกื้อกูล จนพระภิกษุเหล่านั้นบรรลุ

    อรหัตสำเร็จเป็นพระอรหันต์โดยทั่วกัน อย่างที่เคยบอกไปนานแล้วตอนที่เข้ามาเขียนใหม่ๆ ว่า ปู่บอกว่า เวลาผ่านศาลเจ้าหรือศาลเทพารักษ์ ให้สวดบทกะ

    ระณีฯ หรือตัดท้าย กะระณีฯ ก็ได้ เทวดา/เทพารักษ์/เจ้าพ่อ/เจ้าแม่ ที่ศาลนั้น เขาจะไปส่งเราจนสุดเขตแดนของเขา...เราจะปลอดภัยฯ............

    ที่มาของ บทขันธะปะริตคาถา...ความว่า ในสมัยที่พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ที่ เชตวัน อาราม ของท่าน อนาถบิณฑิกเศณษฐี มีภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัด ถึง

    กาละดับขันธ์ จึงมีพระภิกษุไปทูลพระพุทธองค์ให้ทรงทราบ พระพุทธองค์จึงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า เป็นเพราะพระภิกษุรูปนั้น ไม่ได้แผ่เมตตาให้กับพญา

    สกุลงูทั้งสี่เป็นแน่แท้ ตระกูลงูทั้ง 4 ได้แก่ 1.พญาวิรูปักขะ 2. พญาเอราปะถะ 3. พญาฉัพยาปุตตะ 4. พญากัณหาโคตมกะ ชื่อพญางูทั้งสี่ท่านตามที่

    กล่าวมีอยู่ในบทสวดมนต์ทั้งหมด ผมก็ไม่รู้ว่า งู ทั้งสี่ มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร มีความแตกต่างตรงไหน ถ้ามีเวลาจะลองเปิดพระไตรปิฎกดู หนังสือพระ

    ไตรปิฎกที่บ้านผม ผมถนอมมาก ไม่ช้ำเลย สมัยที่ผมเป็นเด็กๆ บ้านนอกยุคโน้นไม่มีรถราให้เดินทาง ถ้ามีลิเก ดังๆ หรือหนังดีๆ ฉายกลางแปลงหรือแสดง

    ไม่เก็บเงิน เส้นทางเดินต้องลัดทุ่งนาหรือป่าไผ่ฯ ที่รกร้าง คนรอบๆ บ้านผมจะมาขยั้นขยอ ให้ปู่ไปด้วย เขาเชื่อกันว่า ใครไปกับปู่ งูกลัวจนหัวหด ปู่พูด

    เสมอๆ ว่า ในคาถาไม่ใช่แค่งู มันแปลว่า โคตรแห่งงู...............

    จะเห็นว่า บทกะระณีฯ ที่ใช้ไล่ผี แต่ไม่ได้ทำร้ายผี ต้องทำความเข้าใจ มันเป็นการ"ปรองดอง" ถ้อยทีถ้อยอาศัย เป็นมิตรกัน มีความยินยอมหรือยินดีใน

    ธรรม/ในศีล.......ขันธะปะริต....เรียกว่าคาถาปราบงู แต่จริงๆ แล้ว ก็เป็นการแผ่เมตตาปรองดองกันอีกน่ะแหละ.........

    เพิ่งมีคำถามจากแม่บ้านว่า.....เช้าๆ เห็นพ่อท่องอะไร....ตอนจะเปิดร้านขายของ....ก็บอกว่า....สวดอุเทตะยัญจักขุมา..... แล้วตอนปิดร้านล่ะท่อง

    อะไร...ก็ตอบว่า ....อเปตะยัญจักขุมา......แล้วก็ต้องเล่าชาดก ในสมัยพระพุทธองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นนกยูงทอง.....ผิดถูกอย่างไรผมขอรับไว้เอง

    ทั้งหมด ผมมีความตั้งใจเพียงเพื่อให้คนที่ท่องบ่นบทสวดมนต์มีความเชื่อมั่น เพราะเป็นบทที่พระพุทธองค์ให้มาทั้งนั้น ส่วนของเกจิ...ผมไม่มี...ถึงมีก็ไม่

    ให้........ถ้าคุณพบหรือเจอะเจองู...หยุดทำใจให้นิ่ง...แล้วคุณท่องบท...วิรูปักเข....งูจะค่อยๆ หมอบหัวลง....แล้วเลื้อยหนีไป....หมั่นสวดบ่อยๆนะ

    ครับ ........เพราะว่าไม่ใช่เฉพาะงูเท่านั้นที่ได้รับอานิสงส์ มันเป็นการแผ่เมตตาให้ทั้งสัตว์ที่เท้ามาก/มีเท้าน้อย/และไม่มีเท้าด้วยกันฯ

    บทสวดมนต์ที่ผมใช้ ส่วนใหญ่ล้วนเอามาจากพระพุทธองค์ ... ไม่เอาแบบ กิร..ดั่งได้ยินมาว่า......มีเหมือนกันแต่นั่นต้องมีเวลามากพอ เดี๋ยวนี้หรือเดี๋ยว

    ไหน พระท่านก็ตัดตอนท้ายกันจนชิน ชอบอ้างเวลา......ผมสวด กะระณีฯ และ วิรูปักเขฯ ทุกวัน 2 บทรวมกันไม่เคยเกิน 3 นาที ผมพยายามสวดช้าๆ ก็

    ไม่เกิน 3 นาที หลวงพี่หลวงตา...ท่านก็อ้างเวลากันเรื่อยเปื่อยไป การอ่านบทสวดมนต์ผิด แก้ไขได้ ก็แก้ไข อย่ากังวลมากนัก ผมเคยเขียนเรื่องลุงแหร่ม

    ท่องอิติปิโส เป็น อิติปิโฉ แกรักษาควายเป็นปราบ คือขี้ไม่ออกท้องขึ้น แกเป่าทีเดียว ขี้ควายพุ่งออกไปไกลเป็นวา หายเป็นปลิดทิ้ง คุณศนิวาร กล่าวไว้

    ชอบแล้ว ขอให้เอาใจที่มีศรัทธาเป็นที่ตั้ง ขอขอบคุณ ....และขอบคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2015
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...