ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    8. จักรวรรดิโรมันคืนชีพ
    ไฟแนนซ์ไปตั้งเยอะในการสร้างรัฐยิว พวกRothschildเลยได้ถนนสายหนึ่งในเทล อาวิฟเป็นชื่อของตัวเอง
    thanong
    26/2/2015
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    9. จักรวรรดิโรมันคืนชีพ
    เราจะไม่เข้าใจสงครามศาสนาในปัจจุบัน ถ้าหากละเลยความขัดแย้งระหว่างชาวคริสต์และชาวมุสลิมที่มีมานาน1,300กว่าปีบนเนินเขาพระวิหาร (Temple Mount)อันศักดิ์สิทธิ์ในนครเยรูซาเลม ซึ่งขณะนี้เป็นที่ตั้งของDome on the Rock หรือสุเหร่าบนเนินของศาสนามุสลิม
    บางคนมองว่าDome on the Rock ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของโลกมุสลิมรองมาจากเมกกะอาจจะเป็นจุดปะทุของสงครามโลกครั้งที่3
    ในสมัยพระคัมภีร์เก่า บนยอดเขาแห่งนี้เคยมีสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นศูนย์รวมทางด้านจิตใจของชาวยิวโบราณคือมหาวิหารของกษัตริย์โซโลมอน กษัตริย์เดวิดต้องการสร้างมหาวิหารเพื่อเก็บหีบศักดิ์สิทธิ์ (Ark of Covenant) ที่บรรจุแผ่นดินเหนี่ยวที่บันทึกบรรญัติ10ประการที่พระเจ้าได้ทรงมอบให้กับโมเสสบนยอดเขา ซึ่งเป็นรากฐานคำสอนของศาสนาจูดาห์
    แต่กษัตริย์เดวิดไม่สามารถจะสร้างมหาวิหารนี้ได้ เพราะว่าพระเจ้าบอกกับกษัตริย์เดวิดว่า "เจ้าต้องไม่สร้างวิหารภายใต้ชื่อของฉัน เพราะว่าเจ้าเป็นพวกนักรบทำสงครามที่ได้หลั่งเลือด"
    กษัตริย์โซโลมอน บุตรของกษัตริย์เดวิดจึงรับหน้าที่เป็นผู้สร้างมหาวิหาร โดยชื้อไม้เซดาจำนวนมากมายจากกษัตริย์ฮีรามแห่งไทร์ (Hiram of Tyre)และมีการลำเลี่ยงเอาหินก้อนใหญ่ที่ได้รับการคัดเลือกอย่างดีมาวางเป็นพื้นฐานและโครงสร้างของมหาวิหาร ประชาชนชาวยิวถูกเกณฑ์ให้ช่วยกันสร้างมหาวิหาร โดยมีเจ้าหน้าที่ถึง3,300คนดูแลกำกับการก่อสร้าง
    เมื่อมหาวิหารโซโลมอนสร้างเสร็จแล้ว กษัตริย์โซโลมอนติดหนี้กษัตริย์ฮิรามจำนวนมาก จนจำต้องยก20เมืองในGalileeให้กษัตริย์ฮิรามไป การเฉลิมฉลองมหาวิหารโวโลมอนเริ่มด้วยการสวดมนต์ให้พระเจ้าและการบูชายันต์ และกษัตริย์โซโลมอนได้ทรงอนุญาตให้คนที่ไม่ใช่ยิวเข้าไปสวดมนต์ได้ด้วย ถือว่าเป็นมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่สุดที่ชาวยิวได้สร้างเพื่อบูชาพระเจ้า
    ในปี586ก่อนศริสตกาล หรือประมาณ400กว่าปีหลังการสร้างมหาวิหารโซโลมอน พวกบาบิโลนยกทัพเข้ามาโจมตีเยรูซาเลม และได้ทำลายมหาวิหารโซโลมอนจนย่อยยับ แต่อีก70มีต่อมาชาวยิวรวมตัวกันสร้างมหาวิหารแห่งที่2ขึ้นมาในบริเวณยอดเขาเดียวกันเพื่อทดแทนมหาวิหารโวโลมอนที่ถูกทำลาย ช่วงศตวรรษแรกก่อนคริสตกาล กษัตริย์แฮร็อดที่พวกโรมันแต่งตั้งให้ดูแลอาณาจักรจูดาห์ได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์มหาวิหารแห่งใหม่ให้สวยงามอร่ามตามากขึ้น โดยได้ขยับขยายขนาดของมหาวิหารให้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม แต่จูดาห์กระด้างกระเดื่องต่อโรมัน ต้องการมีอิสระภาพและหล่อเงินจูดาห์เองแทนที่จะใช้เหรียญเงินของโรมัน ถึงถูกกองทัพโรมันส่งมาทำลาย มหาวิหารโวโลมอนแห่งที่2จึงถูกทำลายอีกครั้งในปีคศ. 70
    thanong
    26/2/2015
    http://www.jewishvirtuallibrary.org/…/Judai…/The_Temple.html
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    10. จักรวรรดิโรมันคืนชีพ
    ในหลายศตวรรษต่อมา พวกมุสลิมทำสงครามและสามารถยึดเยรูซาเลมได้ และได้สร้างสุเหร่าขึ้นมา2แห่งแทนมหาวิหารโซโลมอน 1และ2 บนบริเวณยอดเขาเดียวกันในปีคศ. 691 สุเหร่านี้เรียกว่าDome on the Rock ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามมากและเก่าแก่ที่สุดของมุสลิม ในบริเวณเดียวกัน ก็มีที่สำคัญกว่า นั้นคือ Al-Aqsa Mosque ซึ่งเป็นกิบลัต (ทิศที่ใช้ในการหันสู่การละหมาดเป็นที่แรก ก่อนจะหันไปสู่เมืองเมกกะ) เป็นมัสยิดที่สำคัญลำดับที่ 3 ของมุสลิม รองจากมัสยิดฮารอม ที่นครเมกกะ และมัสยิดอัลนาบาวีย์ ที่เมืองเมดินะ
    Umayyad Cali[h Abd al-Malikเป็นผู้สร้างDome on the Rock โดยอาจจะได้รับอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมจากโบสถ์ไบเซนไตน์ของเซ็นท์ แมรี่ที่ตั้งอยู่ระหว่างเยรูซาเลมและเบธเลแฮม
    เขาพระวิหารของเยรูซาเลมเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าเป็นที่ตั้งของฐานศิลาของศาสนายิว คริสต์และมุสลิม
    สุเหร่าDome on the Rockนอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม แต่ยังกลายเป็นสัญญลักษณ์ของความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างชาวยิว ชาวคริสต์และชาวมุสลิม
    แม้กระทั่งชาวยิวสวดมนต์วันละ3ครั้ง เพื่อรอวันที่จะมีการสร้างมหาวิหารโซโลมอนแห่งที่3 แต่นั้นหมายความว่าสุเหร่าDome on the Rockต้องถูกรื้อถอน ถ้าDome on the Rockถูกรื้อถอนหรือทำลาย เราจะได้เห็นสงครามครูเสด หรือสงครามจีฮัดเกิดขึ้นมารอบใหม่ อันจะเป็นการจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่3
    อย่างที่ได้เขียนก่อนหน้านี้ โรมต้องการเยรูซาเลม และรอเวลามาพันกว่าปีแล้วที่จะได้นครอันศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของแคทอลิก
    แผนการของไซออนนิสท์ที่จะเอาชาวยิวพลัดถิ่นในยุโรปกลับมาตุภูมิเดิมอาจจะมองได้ว่าเป็นความพยายามของโรมที่จะชิงเยรูซาเลมกลับมาครอบครอง โดยอาศัยการทำงานของพันธมิตรของTriumvirateทั้งสองคืออังกฤษและต่อมาสหรัฐฯ โดยที่มีการสร้างสะตอเบอร์รี่ว่ายิวที่อยู่ในยุโรปคือลูกหลานของAbrahamที่พลัดถิ่นมากว่า2,000ปี และได้เวลาแล้วที่จะกลับคืนสู่ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์อันชอบธรรมของชาวยิว ทั้งๆที่ยิวพวกนี้คือยิวAshknenazi หรือยิวบุญธรรมที่สวมรอย
    คงจะไม่แปลกในแล้วว่าทำไม สหรัฐฯและอังกฤษถึงสนับสนุน และปกป้องยิวอย่างไม่ลืมหูลืมตาในเวทีระหว่างประเทศและในนโยบายต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายทางทหารและความมั่นคง พันธกิจหรือคำสาบานของTriumvirateยังคงเหนี่ยวแน่นมิเสื่อมคลาย
    สุเหร่าDome on the Rock จึงเป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุดในช่วงเวลาของการเผชิญหน้าของTriumvirate vs Triumvirateในยุคนี้ คือระหว่างโรม ลอนดอนและดีซีฝ่ายหนึ่งกับTriumvirateรัสเซีย จีนและอิหร่านอีกฝ่ายหนึ่ง
    thanong
    26/2/2015
    Dome of the Rock - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 25 ก.พ.58 ลูกเขยอดีตประธานาธิบดีคาซัคสถาน ตายปริศนา ??
    นายรากัต อาลีเยฟ อดีตเอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำกรุงเวียนนา ซึ่งเป็นลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีนูร์ซุลตาน นาซาร์บาเยฟ ผู้นำคาซัคสถาน ที่ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อปี 2550 เรื่องการปกครองรวบรวมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องบริวาร
    โดยนายอาลีเยฟ ถูกข้อหาว่าสังหารผู้จัดการธนาคารในคาซัคสถาน 2 คน ที่หายตัวไปในปี 2550 แต่เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนราว 4 ปี ก่อนที่ศาลคาซัคสถานจะตัดสินว่าเขาผิดในคดีฆาตรกรรม ให้ลงโทษจำคุก 40 ปี
    นายอาลิเยฟ จึงขอลี้ภัยมายังออสเตรีย ซึ่งทางการเวียนนาได้ปฏิเสธคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับคาซัคสถานถึง 2 ครั้ง นายอาลีเยฟถูกควบคุมตัวในออสเตรียเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว หลังเขาเดินทางเข้ามอบตัว ก่อนจะมีการจับกุมอย่างเป็นทางการในเดือน ธ.ค. โดยคาดว่าจะเริ่มมีการพิจารณาคดีในศาลภายในเดือน มี.ค. - เม.ย. นี้
    ล่าสุดเจ้าหน้าที่เรือนจำโจเซฟสตัดท์ ในกรุงเวียนนาของออสเตรีย พบศพนายรากัต อาลีเยฟ อดีตเอกอัครราชทูตคาซัคสถานประจำกรุงเวียนนา แขวนคอตายด้วยผ้าพันแผล กับตะขอแขวนผ้า ในบริเวณห้องน้ำของห้องขังเดี่ยว
    ทนายจำเลยตั้งข้อสงสัยว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่ลูกความของเขาจะฆ่าตัวตาย เพราะจากการพบกันเมื่อวันจันทร์ เพียงวันเดียวก่อนเกิดเหตุ นายอาลีเยฟ ไม่มีอาการใดที่แสดงสัญญาณของการฆ่าตัวตาย ส่วนผู้บัญชาการเรือนจำระบุว่า นายอาลีเยฟเคยร้องขอห้องขังเดียวในส่วนโรงพยาบาลของเรือนจำ เขาถูกจัดว่าเป็นนักโทษชั้นดี และไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย
    ----------------------------------------->
    แปลก..มีอะไรที่ผิดปกติ ที่เกี่ยวข้องกับ คาซัคสถาน เพราะนายอาลีเยฟ ถูกข้อหาว่าสังหารผู้จัดการธนาคารในคาซัคสถาน 2 คน และเขายังเป็นลูกเขยของอดีตประธานาธิบดี คาซัคสถาน ที่ถูกปลดจากตำแหน่ง..เรื่องนี้ลึกลับซับซ้อนกว่านี้แน่ๆ ??
    เขากำความลับอะไรของใครไว้ และเขาถูกใบสั่งตายจากใคร ??
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 25 ก.พ.58 ระทึก..โดรนลึกลับอย่างน้อย 5 เครื่อง บินว่อนเหนือน่านฟ้ากรุงปารีส ฝรั่งเศส
    .
    ปีที่แล้ว มีคนเห็นบินเหนือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งทั่วประเทศ ฝรั่งเศส และเดือนก่อนมีโดรนลำหนึ่งบินเหนือทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ล่าสุดช่วงกลางคืนถึงเช้าตรู่ มีคนเห็นโดรน (ยานบินไร้คนขับ) ลึกลับ 5 ลำ บินเหนือสถานที่สำคัญหลายแห่งในกรุงปารีส
    โดรนลำแรกบินเหนือสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปารีส ต่อมามีคนเห็นโดรนบินอยู่ใกล้หอไอเฟล จัตุรัสปลัสเดอลากงกอร์ด และพิพิธภัณฑ์ทหารอินวาลิเดส ตำรวจกำลังสอบสวนอย่างจริงจัง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนที่ทำการบินด้วยโดรนมาสอบปากคำได้แม้แต่รายเดียว
    โดรนขนาดเล็กๆ นั้น คนทั่วไปสามารถหาซื้อได้ง่าย ใช้บันทึกภาพทางอากาศที่มีคมชัดสูง แต่การเห็นโดรน บินเหนือบริเวณที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว สร้างความหวั่นวิตกให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส เนื่องจากยังไม่ทราบชัดเจนว่า ผู้ใช้โดรนมีเจตนาร้ายแอบแฝง หรือเพียงแต่มีใจรักอากาศยานขนาดเล็กเท่านั้น
    .
    องค์การตำรวจยุโรป (ยูโรโพล) ระบุว่า ยูโรโพลติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มรุนแรง การขนย้ายอาวุธและเงินทุนในการข้ามพรมแดน ขณะที่ประเทศสมาชิก EU ยกระดับปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย หลังเกิดเหตุโจมตีนองเลือดในกรุงปารีสของฝรั่งเศส และกรุงโคเปนเฮเกนของเดนมาร์ก
    ----------------------------------------->
    ล่าสุดมีการกราดยิงที่สาธารณรัฐเชค มีคนตายไป 8 คน และอิตาลี สั่งการตำรวจทั่วประเทศ 5 พันคน ยกระดับรับมือการก่อการร้าย เพราะมีการข่าวว่ามีกลุ่มก่อการร้าย เริ่มลักลอบเข้าเมืองแตกทัพหนีมาจากลิเบีย ซีเรีย และอิรัก
    ใครไปยุโรปช่วงนี้ ให้ระมัดระวังตัวอย่างมาก เพราะยูโรโพล รายงานออกมาแบบนี้ย่อมต้องได้กลิ่นไม่ดีบางอย่างมา และโดรนทันสมัยถ้ามีขนาดใหญ่ จะสามารถควบคุมระยะไกลๆ ได้ และสามารถติดตั้งระเบิดร้ายแรง เพื่อโจมตีเป้าหมายได้ง่ายมาก
    บางประเทศที่เขมร ได้ออกกฎหมาย ห้ามประชาชนทั่วไปใช้โดรนแล้ว เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ฝรั่งเศสส่งเรือรบร่วมปราบไอเอสในอีรัค - อีหร่านซ้อมรบโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ - อินเดียสั่งซื้อเรือรบรัสเซียเพิ่ม - ปูตินเยือนไซปรัสนำเครื่องบินรบและเรือรบเข้าไซปรัสได้
    -------------------
    มาติดตามดูการเคลื่อนไหวด้านกองทัพเรือของประเทศต่างๆ ในรอบ 2-3 วันนี้ดูบ้างนะครับ
    + ฝรั่งเศสส่งเรือรบบรรทุกเครื่องบินเข้าร่วมต่อต้านไอเอสในอีรัค
    -------------------
    เมื่อวันที่ 23 ก.พ.58 ฝรั่งเศสส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน Charles de Gaulle เข้าร่วมปฏิบัติการกวาดล้าง IS ในอีรัคร่วมกับพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ -- ยุทธวิธีในการบีบให้ฝรั่งเศสร่วมมือกับสหรัฐฯโดยการใช้ Charlie Hebdo โมเดลนี่มันได้ผลดีจริงๆ ถ้าไม่อยากให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นในฝรั่งเศสอีกก็ยอมไปบอมประเทศตะวันออกกลางตามคำสั่งของสหรัฐฯซะดีๆ ไม่งั้นจะมีผู้ก่อการร้าย IS ปลอมมาใช้โดรนบังคับระยะไกลไปหย่อนระเบิดลงใส่เตาปฏิกรโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เอานะ ช่วงนี้ทั่วทั้งอียูกำลังเร่งหามาตรการป้องกันการออกกฎหมายป้องกันการใช้โดรนในกรณีดังกล่าวอยู่ เพราะว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในยุโรปหย่อนยานมาตรการรักษาความปลอดภัยทางอากาศแบบนี้มาก ส่วนการที่ฝรั่งเศสเน้นส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปถล่มอีรัคโดยอ้างว่าไปปราบ IS นั้นก็เพราะไม่อยากให้ทหารของตนไปตายฟรี หากสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายบนพื้นดินแล้ว ฝ่ายสหรัฐฯและพันธมิตรจะเสียเปรียบและสูญเสียเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็นการโจมตีทางอากาศแทน และที่สำคัญมาสามารถสร้างความพินาศย่อยยับให้ประเทศที่ใช้เป็นสนามรบได้มากทีเดียว ซึ่งยากแก่การฟื้นฟูทั้งโครงสร้างพื้นฐานและด้านเศรษฐกิจมาแข่งกับประเทศมหาอำนาจอื่นๆได้
    + อีหร่านซ้อมรบในทะเลจำลองการโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ
    -------------------
    ทางอีหร่านก็ใช่ย่อยซะที่ไหนหละ เพราะเมื่อวันที่ 25 ก.พ.58 อีหร่านได้เปิดปฏิบัตการซ้อมรบทางทะเลขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ซึ่งปฏิบัตการครั้งนี้เรียกว่า "จมเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ" โดยทางอีหร่านได้ลงทุนสร้างเรือจำลองของเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ของสหรัฐฯขึ้นมา จากนั้นก็เปิดฉากโจมตีเรือจำลองลำดังกล่าวที่ทอดสมออยู่ในช่องแคบฮอร์มุซที่ใช้เป็นเส้นทางของเรือบรรทุกน้ำมันของนานาชาติ ในการโจมตีเรือรบสหรัฐฯ (จำลอง) ในครั้งนี้ปฏิบัติโดย "กองกำลังปฏิวัติ" (Revolutionary Guard) ซึ่งถูกตั้งชื่อให้ว่า "ศาสดาหมายเลข 9" (Prophet 9)
    ปฏิบัติการซ้อมรบในครั้งนี้มีทั้งทางเรือ ทางอากาศ และการโจมด้วยมิสไซล์จากบนบกด้วย โดยการโจมตีทางเรือนั้นกองทัพเรืออีหร่านใช้ยุทธวิธีกองทัพมดคือใช้เรือรบติดอาวุธปืนหลายสิบลำเข้าจู่โจมเรือจำลองขนาดใหญ่ ส่วนการโจมตีทางการอากาศนั้นก็ใช้เฮลิคอปเตอร์โจมตีด้วยมิสไซล์ ในขณะที่การโจมตีจากชายฝั่งหรือบนบกนั้นจะเน้นที่การใช้มิสไซล์ (ขีปนาวุธ) ทั้งแบบ cruise missiles (มิสไซล์ที่มีระบบนำวิถีสามารถควบคุมจากระยะไกลได้) และ ballistic missiles (มิสไซล์ที่มีระบบนำวิถีทางไกลไม่สามารถบังคับทิศทางหรือเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีได้) งานนี้ก็เป็นการประกาศศักดาของฝั่งอีหร่านเพื่อให้สหรัฐฯรู้ว่าอย่ามาแหยมกับอีหร่าน ไม่งั้นเรือบรรทุกเครื่องบินของคุณจะโดนจมไปอยู่ใต้ก้นมหาสมุทรในช่องแคบฮอร์มุซแน่ๆ
    + อินเดียกำลังจะให้รัสเซียต่อเรือรบเพิ่มให้อีก 4 ลำ
    -------------------
    เมื่อวานนี้ (25 ก.พ.58) ทางรัสเซียพึ่งจะประกาศข่าวว่าเย้ยสหรัฐฯกับฝรั่งเศสว่าทางอินเดียกำลังพิจารณาจะให้รัสเซียช่วยต่อเรือรบเพิ่มให้อีกซัก 4 ลำในเร็วๆ นี้โดยอู่ต่อเรือรบดังกล่าวของรัสเซียมีชื่อว่า "Yantar shipyard" อยูที่จังหวัด Kaliningrad Oblast (เขต Kaliningrad แห่งนี้ไม่ได้มีพื้นที่ติดกับแผ่นดินใหญ่ของรัสเซียในปัจจุบันนี้นะ อยู่ในคาบสมุทรบอลติค อยู่ติดกับโปแลนด์และลิธัวเนีย มีประเทศเบลารุส ลิธัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนียกั้นไว้ แต่ดินแดนแห่งนี้ก็เป็นของรัสเซียซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียตแล้ว เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็พึ่งจะรู้นะนี่ว่ารัสเซียก็มีที่ดินเป็นของตัวเองที่ไม่มีพรมแดนติดกับแผ่นดินใหญ่อยู่ด้วย ยกเว้นพื้นที่ที่เกาะนะ มิน่าหละพวกสามประเทศบอลติคถึงได้กลัวรัสเซียยิ่งนักและอยากให้นาโต้เข้ามายึดแทน)
    สำหรับเรือรบที่อินเดียจะให้รัสเซียต่อให้นั้นเป็นเรือประเภท "frigate" คือเป็นเรือรบขนาดกลางแต่ก็ติดตั้งขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพในการทำลายสูงมาก โดยก่อนหน้านี้ทางอินเดียได้สั่งให้รัสเซียต่อเรือรบดังกล่าวให้แล้วถึง 6 ลำและมีการส่งมอบเข้าประจำการในกองทัพเรือของอินเดียเรียบร้อยแล้วด้วย พร้อมกับติดตั้งระบบ BrahMos ซูปเปอร์โซนิคครูสมิสไซล์ไว้ลำละ 8 ลูกด้วยมีความเร็วที่ Mach 3 ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นครุสมิสไซล์ที่มีความเร็วทีสุดในโลก ซึ่งเป็นโครงการค้นคว้าและพัฒนาร่วมกันระหว่างอินเดียกับรัสเซีย และเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมานี้ทางรัสเซียพึ่งจะลงข่าวว่าตอนนี้ อินเดียกับรัสเซียกำลังพัฒนาครุสมิสไซล์รุ่นที่สองชื่อ "BrahMos-II" ซึ่งทำความเร็วได้ถึง Mach 5 (6,125 กม./ชม.) เรียกว่า "hypersonic" และกำลังพัฒนาเชื้อเพลิงรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างความเร็วให้กับมิสไซล์ที่เหนือกว่า Mach 5 หรือ hypersonic ขึ้นไปอีก ซึ่งจะประสบผลสำเร็จในเร็วๆนี้ รัสเซียบอกว่าทางสหรัฐฯและจีนเน้นพัฒนาด้านอากาศยานความเร็วเครื่องบินรบสูง แบบนั้นรัสเซียก็มีเหมือนกัน แต่ที่เหนือกว่าคือรัสเซียกับอินเดียมีครุสมิสไซล์ที่เร็วกว่าเครื่องบินรบพวกนั้นซะอีก ข้อดีของครุสมิสไซล์ก็คือสามารถบังคับด้วยระบบรีโมททางไกลผ่านดาวเทียมได้ และเขามั่นใจว่าระบบของเขาไม่มีใครสามารถแจมสัญญาณได้ สามารถบังคับให้หลบหลีกระบบต่อต้านมิสไซล์ของข้าศึกได้ และด้วยความเร็วที่เหนือกว่าใครนี่แหละจำทำให้ได้เปรียบกว่าคู่แข่ง
    + รัสเซียบรรลุข้อตกลงด้านเทคนิคทางการทหารกับไซปรัส
    -------------------
    เมื่อนาโต้ใช้ 3 ประเทศในคาบสมุทรบอลติค (ลิธัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย) และยูเครนที่เคยส่วนหนึ่งสหภาพโซเวียตมาก่อนหวังจะเจาะหลังบ้านของรัสเซีย มีหรือที่ปูตินจะนั่งดูเฉยๆ งานแรกสั่งสอนยูเครนไปแล้วที่บังอาจกระด้างกระเดื่องต่อพี่ใหญ่หันไปฝักใฝ่สหรัฐฯและอียูซะงั้น ส่วนอีก 3 ประเทศเล็กๆนี้เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวคงจะมีการสั่งสอนในภายหลังเร็วๆ นี้เป็นแน่ ตอนนี้ปล่อยให้ร่าเริงกับนาโต้ไปก่อน ล่าสุดปูตินก็เดินเกมเจาะหลังบ้านนาโต้กับอียูบ้าง ประเทศเรียกคือกรีซถูกปูตินดึงมาเป็นเพื่อนเรียบร้อยไปแล้ว ล่าสุดปูตินเดินเกมต่ออีกโดยไปเยี่ยมประเทศไซปรัส (Cyprus) เป็นเวลา 4 วัน (24-27) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของสหภาพยุโรป
    ไซปรัสเคยตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษมาก่อนได้รับเอกราชในปี 1960 (พ.ศ.2503) และเข้าเป็นสมาชิกของอียูในปี 2004 (พ.ศ.2547) งานนี้ทั้งรัสเซียและไซปรัสบรรลุข้อตกลงร่วมกันอนุญาตให้รัสเซียสามารถใช้สนามบินและท่าเรือของไซปรัสได้ โดยอนุญาตให้เครื่องบินรบและเรือรบของรัสเซียที่ปฏิบัติการด้านการให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมและกรณีฉุกเฉินสามารถลงจอดและเทียบท่าได้
    ไซปรัสและรัสเซียได้มีข้อตกลงปฏิบัติการทางทหารร่วมกันอยู่แล้ว และได้มีการกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯและอียูแซงชั่นรัสเซียนั้น ประธานาธิบดีของไซปรัสออกมาพูดว่าทำให้อียูได้รับผลกระทบในแง่ลบทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์กับรัสเซียเป็นอย่างมาก เพราะเจอมาตรการตอบโต้จากรัสเซียที่สั่งห้ามนำเข้าอาหารและสินค้าทางการเกษตรจากอียูเป็นเวลาหนึ่งปี ทำให้ไซปรัสได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และกล่าวปฏิเสธในการแซงชั่นครั้งนั้นด้วยว่า ในการแซงชั่นครั้งก่อนนี้ทั้งไซปรัสและกรีซไม่ได้มีความเห็นด้วยและไม่ได้ออกเสียงสนับสนุนการแซงชั่นรัสเซียด้วย เพราะตอนนั้นประธานาธิบดีของไซปรัสเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศจึงไม่ได้อ่านหนังสือแจ้งให้เข้าร่วมแซงชั่นรัสเซียจากอียู พอกลับมาถึงประเทศก็พบว่าทางอียูได้มีมติแซงชั่นรัสเซียไปแล้ว แหม… มุกนี้ได้ผลแฮะ มันก็จริงอ่ะนะ
    งานนี้ปูตินไม่โกรธไซปรัสแต่เมื่ออียูใช้ชื่อของไซปรัสมาทำร้ายรัสเซีย งั้นปูตินก็ต้องสั่งสอนอียูทั้งหมดให้ได้รับบทเรียนซะบ้าง แต่มิตรก็คือมิตร ทำไมจะต้องเอาความโกรธมาทำลายมิตรของตัวเองและผลักมิตรให้ไปเป็นศัตรูหมดด้วยเล่า ปูตินไม่ใช่คนไร้ความคิดอย่างนั้น งานนี้ก็เลยถือโอกาสมาปรอบใจไซปรัสและเดินเกมต่อซะเลย ไซปรัสเป็นเกาะเล็กๆ สายป่านไม่ยาวอย่างประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐอื่นๆในอียู การรู้จักรักษาตัวรอดเป็นยอดคน เรื่องอะไรจะสร้างศัตรูให้กับตัวเองโดยไม่จำเป็น สู้คบทั้งอียูและรัสเซียไว้ไม่ดีกว่าหรือ ใครจะทะเลาะกันก็ปล่อยเขาไป ไซปรัสไม่ขอทะเลาะด้วยแต่พร้อมจะเป็นมิตรกับทุกฝ่าย เป็นการถ่วงดุลอำนาจของประเทศมหาอำนาจว่างั้นเถอะ ถ้าวันหนึ่งถูกอียูและสหรัฐฯรังแกหรือเอาเปรียบอย่างกรีซก็ยังมีรัสเซียคอยช่วยยันไว้ให้ได้ แน่นอนว่าทางรัสเซียก็จะไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเพราะยังมีอียูและนาโต้คอยทานอำนาจกันไว้เช่นกัน
    The Eyes
    26/02/2558
    -----------
    France deploys aircraft carrier against ISIS in Iraq - ministry — RT News
    French Aircraft Carrier Arrives in Gulf to Take Part in Anti-ISIL Coalition / Sputnik International
    http://rt.com/news/235391-iran-navy-war-games/
    Iran Sinks USS Nimitz Life-Size Model in Strait of Hormuz Naval Exercise / Sputnik International
    India Considering Russian Shipyard for Construction of Advanced Warship / Sputnik International
    New Delhi Gets Full Access to Russian New Fighter Jet Technology / Sputnik International
    New Delhi Gets Full Access to Russian New Fighter Jet Technology / Sputnik International
    Yantar, Kaliningrad - Wikipedia, the free encyclopedia
    Top Secret Fuel Formula to Accelerate Russia's Hypersonic Missiles / Sputnik International
    TASS: Russia - Putin invites Cyprus president for Victory Day day celebrations in Moscow
    Russian, Cypriot Leaders Sign Cooperation Program for 2015-2017 / Sputnik International
    TASS: World - Russia, Cyprus to sign military-technical deal during President Anastasiades’ visit
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    ตอนนี้มีการเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลอิรักว่า กองทัพอิรักยิงเครื่องบินสัญชาติอังกฤษ 2 ลำตก ขณะที่ลำเลียงอาวุธไปให้เครือข่าย ISIL ที่เคลื่อนไหวในอิรักและซีเรีย และนอกจากนี้ ทางอิรักกำลังสอบถาม รัฐบาลอังกฤษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมานอกจากอังกฤษ แล้วเครื่องบินสหรัฐเคยทิ้งสัมภาระ ที่ประกอบไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ลงไปในพื้นของกลุ่มISIL ยังไม่นับนาโต อิสราเอล และพันธมิตรสหรัฐในตะวันออกกลาง ที่สนับสนุนเครือข่าย ISIL ที่เคลื่อนไหวในอิรักและซีเรียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Iraqi Army Downs Two British Planes Carrying Weapons for ISIL Terrorists | Global Research
    เพราะฉะนั้นเราจะได้เห็น ภาพสงครามในตะวันออกกลางเวลานี้ คือ สถานการณ์ความรุนแรง ที่บานปลายและขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ จากอิรัก ซีเรีย ลิเบีย และกำลังจะบั่นทอนเสถียรภาพ และความมั่นคงในตะวันออกกลาง และบรรดาคลิ๊ปที่เราเห็นเผยแพร่ออกมา เป็นว่าเล่นนั้น คงไม่ต้องไปจับผิดนะครับว่า จริงหรือไม่? เพราะทันทีที่มีการเผยแพร่คลิ๊ป ผลที่ตามมาก็คือ การส่งเครื่องบินรบเข้าไปโจมตี เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็น ปฏิบัติการจิตวิทยา(Psyop) เพื่อสร้างความชอบธรรมในการทำสงครามเท่านั้น
    ถ้าไม่มีเครือข่ายก่อการร้าย ก็ไม่มี"สงคราม"ต่อต้านการก่อการร้าย ถ้าไม่มีสงครามต่อต้านการก่อการร้าย แล้วอาวุธที่ผลิตจะเอาไปใช้ที่ไหน เงินดอลลาร์ที่พิมพ์ออกมา จะยังรักษา"มูลค่า" ได้หรือไม่? เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องถามนะครับว่า ใครได้ประโยชน์จากสงครามมากที่สุด พ่อค้าอาวุธ เจ้าของธนาคารกลางสหรัฐ หรือชาวมุสลิมในตะวันออกกลาง? Unlimited War! ISIS Psyop Theater Comes to Full Fruition | Global Research
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]
    @Antey-2500 anti-ballistic missile system (Photo from wikipedia.org)

    ต่างประเทศสถานการณ์ ก็ยังไม่นิ่งนะครับ ตอนนี้มหาอำนาจ กำลังเล่นเกมส์ซื้อเวลา และเจรจากันอยู่ รัสเซียบอกถ้าสหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตร รัสเซียระลอกใหม่ หรือโดดเดี่ยวรัสเซียมากขึ้น ตอนนี้กำลังเสนอขายขีปนาวุธรุ่นใหม่ให้อิหร่าน พิสัยทำการ 2,500 กม. สามารถจัดการ จรวดร่อนโทมาฮอร์ค เรือบรรทุกเครื่องบินในอ่าวเปอร์เซีย และอิสราเอลได้ การโจมตีอิหร่าน ของสหรัฐและอิสราเอล จะไม่ง่ายเหมือน อิรัก และลิเบียประมาณนั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนตัดสินใจประมาณนั้น

    http://rt.com/news/234855-russia-iran-missiles-deal/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันฟื้นแรงตามข้อมูลสหรัฐฯ หุ้นมะกันทรงตัว-ทองคำขึ้น
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กุมภาพันธ์ 2558 05:20 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันฟื้นตัวแรงเมื่อวันพุธ(25ก.พ.) รายงานสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ กระพือความเป็นไปได้ของอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวจากผลประกอบการที่ผสมผสาน ขณะที่ทองคำขยับขึ้นครั้งแรกรอบ 4 วัน หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯระบุในรายงานเมื่อวันพุธ(25ก.พ.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ มากกว่าที่คาดหมายไว้ 2 เท่า แตะระดับ 434.1 ล้านบาร์เรล

    อย่างไรก็ตามในส่วนของสต๊อกน้ำมันกลั่น ที่ประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน กลับพบว่าลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่ดีเซลก็ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล ในเรื่องนี้ จีน แม็คกิลเลียน จากเทรดิชัน เอเนอร์จี ให้ความเห็นว่า "ภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆและเบนซิน บ่งชี้ว่าการปรับลดของราคาน้ำมันที่เราเคยเห็น กำลังแปรเปลี่ยนสู่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น นั่นคือเหตุผลว่าทำไมตลาดน้ำมันจึงฟื้นตัว"

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(25ก.พ.) ปิดในกรอบแคบๆ ท่ามกลางรายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆที่ออกมาผสมผสาน ขณะที่นางเจเนต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาอเมริกา เป็นวันที่ 2

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 15.38 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,224.57 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.62 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,113.86 จุด แนสแดค ลดลง 0.98 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,967.14 จุด

    หุ้นของ TJX บริษัทแม่ของห้างค้าปลีก TJ Marmaxx และห้างขายสินค้าตกแต่งบ้านอื่นๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ตามหลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสอันแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามหุ้นของ ฮิวเลตต์-แพคการ์ด บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ร่วงลงถึงร้อยละ 9.9 หลังเตือนว่าดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทเป็นอย่างมาก

    นักลงทุนไม่สนใจต่อการเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาเป็นวันที่ 2 ของนางเยลเลน หลังจากความเห็นของเธอเมื่อวันอังคาร(24ก.พ.) ช่วยดันให้ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 ทุบสถิติตลอดกาลอีกครั้งในวันเดียวกัน

    ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(25ก.พ.) ขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและสัญญาณอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,201.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อตกลงหยุดยิงเห็นผล?ไม่มีคนตายในเหตุสู้รบยูเครนเป็นครั้งแรก
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กุมภาพันธ์ 2558 02:02 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - ในที่สุดข้อตกลงหยุดยิงทางภาคตะวันออกของยูเครนที่เฝ้ารอกันมานานก็ได้รับการยึดมั่นในวันพุธ(25ก.พ.) ด้วยกองทัพเผยไม่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตจากการสู้รบเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ แต่ข่าวนี้มิอาจยับยั้งการพังครืนของค่าเงิน จนธนาคารกลางของประเทศถึงขั้นต้องระงับการซื้อขาย

    กองทัพยูเครนเผยว่าช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือเป็นวันแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ โดยมีทหารได้รับบาดเจ็บแค่รายเดียว ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์

    ในดินแดนทางภาคตะวันออกที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายกบฏ พวกแบ่งแยกดินแดนกำลังถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้า ทว่าเคียฟชี้ยังเร็วเกินไปที่จะดำเนินการแบบเดียวกัน แต่ก็ยอมรับว่าสถานการณ์ในแนวหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบ บ่งชี้เช่นกันว่าอาจมีการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง หลังจากก่อนหน้านี้ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล เนื่องจากพวกกบฏลงมือจู่โจมครั้งสำคัญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ข่าวดีจากแนวหน้าที่ต้องระมัดระวังนี้เกิดขึ้นท่ามกลางผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอันเลวร้าย ที่ฉุดให้ยูเครนเดินโซเซสู่ขอบเหวแห่งการล้มละลาย ทั้งนี้ด้วยนักลงทุนแห่ทิ้งค่าเงินฮริฟเนียจนสกุลเงินของเคียฟดำดิ่งอย่างหนัก กดดันให้ธนาคารกลางของประเทศต้องสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์เข้าซื้อเงินตราต่างประเทศสำหรับลูกค้าไปตลอดทั้งสัปดาห์

    ค่าเงินฮริฟเนียของยูเครนดิ่งลงอย่างหนักในปีนี้ หลังจากทรุดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว เนื่องจากรัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของประเทศ และทำการปฏิรุปเศรษฐกิจที่ตกต่ำลงหลังจากเผชิญปัญหาคอร์รัปชั่นมานานหลายปี

    นายกรัฐมนตรีอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค บอกว่าคำสั่งห้ามดังกล่าวส่งผลกระทบในทางร้ายต่อเศรษฐกิจ โดยเขาทราบเรื่องดังกล่าวผ่านอินเตอร์เน็ตและจะขอคำอธิบายจากวาเลเรีย กอนตาเรวา ประธานธนาคารกลางต่อไป อย่างไรก็ตามทางธนาคารกลางยูเครนยืนยันว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินท่ามกลางกระแสความต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่ได้อยู่บนความเป็นจริง

    ข่าวคราวเกี่ยวกับการไม่มีทหารยูเครนเสียชีวิตในแนวหน้า ถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าข้อตกลงหยุดยิงที่มียุโรปเป็นคนกลางกำลังจะได้รับการยึดมั่น หลังจากเบื้องต้นฝ่ายกบฏเพิกเฉยต่อข้อตกลงนี้ โดยยืนกรานว่ามันไม่มีผลบังคับใช้ต่อเป้าหมายหลัก นั่นก็คือเมืองเดบัลต์เซเว ที่พวกเขาบุกจู่โจมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในชัยชนะครั้งสำคัญของพวกแย่งแยกดินแดน

    นับตั้งแต่นั้น เคียฟได้กล่าวหาพวกกบฏว่ากำลังระดมพลในความเป็นไปได้ว่าจะเดินหน้าจู่โจมรุกคืบเข้าสู่ดินแดนที่ทางเครมลินเรียกว่า "รัสเซียใหม่" แต่สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกนักรบจะมีความตั้งใจปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงแล้ว

    ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในดินแดนที่ยึดครองโดยฝ่ายกบฏ บอกว่าพบเห็นคาราวานปืนใหญ่ขับออกไปจากที่ตั้งต่างๆในแนวหน้าในวันพุธ(25ก.พ.) หลังจากมีการเคลื่อนย้ายเบื้องต้นไปก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(24ก.พ.)

    ขบวนปืนใหญ่ขนาด 122 มม. 14 กระบอก มุ่งหน้าออกจากแนวหน้าผ่านเมืองมาเคียฟกา ติดกับเมืองโดเนสตก์ ฐานที่มั่นหลักของฝ่ายกบฏ ส่วนขบวนปืนใหญ่อีก 5 กระบอกถูกพบเห็นกำลังเคล่อนตัวออกจากแนวหน้าใกล้เมืองเยนาคีฟเว ที่อยู่เหนือขึ้นไป

    ฝ่ายกบฏให้สัญญาว่าจะเปิดทางให้ องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ซึ่งรับหน้าที่ตรวจสอบการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง เข้าตรวจสอบการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักของพวกเขาเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามทาง OSCE บอกว่ายังไม่สามารถตรวจสอบการถอนอาวุธหนักได้ เพราะว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้ให้ข้อมูลว่าพวกเขามีปืนใหญ่มากน้อยแค่ไหนก่อนมีข้อตกลงหยุดยิง

    OSCE เผยได้รับรายงานว่ามีเหตุยิงปืนใหญ่และยิงปะทะกันในหลายจุด ในนั้นรวมถึงใกล้ๆเมืองชีโรคีเน กระนั้นทางกองทัพยูเครนยอมรับว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุละเมิดข้อตกลงหยุดยิงลดลงอย่างมาก 2 คืนติดแล้ว โดยไม่มีรายงานการปะทะทั้งในพื้นที่โดเนตสก์ ลูฮานสก์และมารีอูโพล ขณะที่ภาพรวมของช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ฝ่ายกบฏได้ยิงปืนใหญ่และปืนครก 15 ครั้งและยิงด้วยอาวุธขนาดเล็ก 4 ครั้ง

    กระนั้น อันดรีย์ ลีเซนโก โฆษกของกองทัพบอกว่า "ณ ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งถอนอาวุธ เนื่องจากพวกนักรบยังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขแรกของข้อตกลงหยุดยิงมินสก์"

    ยูเครนอ้างวิตกว่าพวกกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังรัสเซีย อาจกำลังวางแผนรุกคืบเข้ายึดมารีอูโพล เมืองท่าที่มีประชากร 500,000 คน แต่ด้วยที่พวกแบ่งแยกดินแดนบรรลุวัตถุประสงค์หลักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ด้วยการยึดเมืองเดบัลต์เซเว บางทีพวกเขาอาจพร้อมหยุดยิงจริงๆ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เม็กซิโกปิดสนามบิน หลังภูเขาไฟปะทุพ่นเถ้าถ่านปกคลุมรันเวย์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กุมภาพันธ์ 2558 03:10 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - เถ้าภูเขาไฟปลิวเข้าปกคลุมรันเวย์ของท่าอากาศยานปวยบลา ทางภาคกลางของเม็กซิโก ส่งผลให้ต้องปิดสนามบินในวันพุธ(25ก.พ.) และก่อความยุ่งเหยิงแก่เที่ยวบินภายในและมุ่งหน้าสู่สหรัฐฯบางเที่ยว

    ศูนย์ป้องกันภัยพิบัติแห่งชาติเม็กซิโกเผยว่าภูเขาไฟโพโพคาเทพีเทล เริ่มสั่นไหวและปะทุเมื่อวันอังคาร(24ก.พ.) ปล่อยเถ้าถ่านและพ่นหินร้อนสีขาวพุ่งออกจากปล่องเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร "ชุมชนต่างๆยังอยู่ในความสงบ และภูเขาไฟโพโพคาเทพีเทลอยู่ภายใต้การจับตาตลอดเวลา" เจซุส โมราเลส ผู้อำนวยการหน่วยงานพิทักษ์พลเรือนของรัฐปวยปลาบอกกับเอเอฟพี

    มีผู้โดยสารราว 120 คนที่ได้รับผลกระทบจากการสนามบินเฮอร์มานอส เซอร์ดาน ซึ่งเป็นท่าอากาศยานขนาดเล็ก ขณะที่เจ้าหน้าที่หวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้งในช่วงค่ำวันพุธ(25ก.พ.) โดยเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกไปแล้วก็มีเที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่เมืองฮิวสตัส มลรัฐเทกซัส ของสหรัฐฯ และเที่ยวบินภายในสู่เมืองมอนเตร์เรย์และเมืองกัวดาลาจารา

    ภูเขาไฟลูกนี้ซึ่งมักพ่นเถ้าถ่านมหาศาลออกมาเป็นประจำ อยู่ห่างจากกรุงเม็กซิโกซิตี เมืองหลวงของเม็กซิโก แค่ 55 กิโลเมตร ขณะที่ภูเขาไฟอีกลูก ชื่อว่า "โคลิมา" ทางตะวันตกของประเทศ ก็เพิ่งปะทุรุนแรงและพ่นกลุ่มควัน เถ้าถ่านขึ้นสู่อากาศปกคลุมชุมชนใกล้ๆเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'ประธานเฟด'ระบุใกล้จะปรับขึ้น 'ดอกเบี้ย' อย่างเร็วสุดคือเดือนมิ.ย.นี้
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 23:03 น.

    [​IMG]

    เจเนต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

    เอเอฟพี - ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เจเนต เยลเลน ระบุในวันอังคาร (24 ก.พ.) ว่า เฟดยังคงสามารถอดทนรอคอยต่อไปอีกสักพัก ก่อนที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้ในเวลาเดียวกันนี้เธอก็ตระเตรียมอย่างแข็งขันเพื่อให้สามารถขยับขึ้นได้อย่างเร็วในเดือนมิถุนายนนี้

    ในขณะที่ตลาดการเงินกำลังเล่นเกมคาดเดากันอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายชั่วข้ามคืน “เฟเดอรัล ฟันด์ส เรต” กันเมื่อใดแน่ๆ เยลเลนก็ได้ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐฯว่า ธนาคารกลางกำลังอยู่ระหว่างการตระเตรียมอย่างเต็มที่สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าว หลังจากที่ได้ปล่อยให้ดอกเบี้ยสำคัญตัวนี้อยู่ในระดับใกล้ๆ 0% มาเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว

    ทว่าเธอก็กล่าวย้ำว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐฯยังคงแสดงให้เห็นภาวะอ่อนแอตามวงจรอยู่ รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อก็ยังคงลดต่ำลง

    นอกจากนั้นเธอชี้ว่า ความปวกเปียกของเศรษฐกิจจีนและยุโรป ก็ถือว่าสร้างความเสี่ยงให้แก่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เหล่านี้ต่างเป็นปัจจัยสนับสนุนความจำเป็นที่จะต้องรักษานโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเป็นพิเศษเอาไว้ต่อไปอีกสักนิด

    “การใช้นโยบายแบบเอื้ออำนวยในระดับสูง ยังคงเป็นสิ่งที่เหมาะสมอยู่ในตอนนี้” เยลเลนกล่าว

    ประธานเฟดชี้ว่า เวลานี้อัตราเงินเฟ้อยังคงตกลงไป และถึงแม้อัตราการว่างงานจะลดจนอยู่ในระดับ 5.7% แล้ว ทว่าการที่คนงานโดยเฉลี่ย ยังไม่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ คือเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังไม่แข็งแรง

    “ในตลาดแรงงานที่เข้มแข็งนั้น ค่าจ้างที่แท้จริงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้น ดิฉันจึงตีความส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า เป็นสัญญาณแสดงว่าตลาดแรงงานยังไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างเต็มที่” เธอบอก

    “เรายังจำเป็นที่จะต้องไปต่ออีก และเราต้องการที่จะส่งเสริมให้เกิดการฟื้นตัวอย่างเต็มที่”

    ดังนั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ยังคง “พิจารณาว่าตนเองยังไม่น่า” จำป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟเดอรัล ฟันด์ส เรต “อย่างน้อยก็ในการประชุมสองสามครั้งข้างหน้านี้”

    ตามตารางของเอฟโอเอ็มซี การประชุมครั้งต่อๆ ไปจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม และเดือนเมษายน ดังนั้นช่วงที่อาจจะมีการขึ้นดอกเบี้ยกันอย่างเร็วที่สุด จึงน่าจะเป็นในระหว่างการประชุมวันที่ 16-17 มิถุนายนนี้

    หลังจากให้ปากคำต่อวุฒิสภาแล้ว เยลเลนจะไปให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯต่อไปในวันพุธ (25)

    สำหรับปฏิกิริยาของตลาดต่อการแถลงของประธานเฟดคราวนี้ ปรากฏว่าหุ้นได้ไต่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีหุ้นอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันอังคาร ขึ้นไป 92.35 จุด หรือ 0.51% ยืนอยู่ในระดับ 18,209.19 ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ก็เพิ่ม 5.82 จุด หรือ 0.28% อยู่ที่ 2,115.48 ทั้งนี้ดัชนีทั้งสองตัวต่างยืนอยู่ในระดับราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์กันทั้งคู่

    '
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กบฏยูเครนโชว์ “ขบวนขนปืนใหญ่” อ้างกำลัง "ถอนอาวุธ" ตามข้อตกลงหยุดยิง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 19:22 น.

    [​IMG]

    @รถบรรทุกของกลุ่มที่ประกาศตนเป็นกองทัพสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ที่กำลังพ่วงลากปืนใหญ่เคลื่อนที่ ถูกพบเห็นขณะที่พวกเขากำลังถอนกำลังจากเมืองโดเนตสก์ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2015

    เอเอฟพี – กลุ่มกบฏนิยมรัสเซียพาบรรดาผู้สื่อข่าวไปดูทิวแถวขบวนปืนใหญ่ที่กำลังถูกขนย้าย โดยระบุว่าสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า กองกำลังของพวกเขากำลังถอนอาวุธหนักตามข้อตกลง หยุดยิง

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีหนทางพิสูจน์ยืนยันว่าปืนใหญ่ขนาด 122 มม. 14 กระบอกที่ถูกพ่วงลากไปตามถนนเส้นหนึ่งในภาคตะวันออกของยูเครนเหล่านี้กำลังถูกถอนออกจากแนวหน้าตามข้อกำหนดภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงฉบับใหม่ที่ถูกลงนามในกรุงมินสก์เมื่อต้นเดือนนี้จริงๆ หรือไม่ หรือเพียงแค่กำลังถูกสับเปลี่ยนเท่านั้น

    องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ซึ่งรับหน้าที่ตรวจสอบการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงดังกล่าว ระบุว่า พวกเขาไม่อาจยืนยันการถอนอาวุธใดๆ

    เออร์ทูกรูล อาปาคัน หัวหน้าของภารกิจนี้ของ OSCE ในยูเครน กล่าวในถ้อยแถลงว่า สองฝ่ายที่สู้รบกันอยู่ "ยังคงไม่ได้" ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการระบุว่า การถอนอาวุธได้เริ่มขึ้นแล้ว

    ข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วย “ประเภทอาวุธหนักที่พวกเขามี , สถานที่ที่อาวุธเหล่านั้นอยู่ในตอนนี้ , เส้นทางใดที่จะใช้ถอนอาวุธเหล่านั้นออกไป และอาวุธเหล่านั้นจะถูกนำไปไว้ที่ใดหลังจากถูกถอนออกไปแล้ว”

    “หากปราศจากข้อมูลดังกล่าวแล้ว SMM (OSCE Special Monitoring Mission หรือ ภารกิจสังเกตการณ์พิเศษของ OSCE) ก็ไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันการถอนอาวุธหนักดังกล่าวได้”

    กลุ่มกบฏนิยมรัสเซียพาบรรดาผู้สื่อข่าวไปยังหมู่บ้านโอบิลน์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ ที่มั่นสำคัญของพวกเขา 20 กิโลเมตร เพื่อเป็นพยานการเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ออกจากเมืองสตาโรบีชีฟ

    “เรากำลังทำตามข้อตกลงหยุดยิงกรุงมินสก์” ผู้บัญชาการฝ่าบกบฏคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันในชื่อเล่นว่า “โคโรชี” บอกกับเอเอฟพี

    “เมื่อวานนี้ (24) เราถอนเครื่องยิงจรวดแกรด (Grad) และเมื่อวานซืน (23) เป็นรถถัง” เขากล่าว และเสริมว่า “เรากำลังทำตามคำสั่งถอนอาวุธหนัก แต่ยูเครนไม่ได้ปฏิบัติ”

    ผู้บัญชาการรายนี้ปฏิเสธที่จะระบุว่า ตำแหน่งเดิมของอาวุธเหล่านี้อยู่ที่ไหน หรือมันกำลังจะถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ไหน โดยอ้างว่าเป็น “ความลับทางการทหาร” เขาบอกแต่เพียงว่า มันเคยอยู่ในแนวหน้าและกำลังถูกถอนออกไป

    OSCE ระบุว่า พวกเขาสังเกตการณ์การเคลื่อนย้ายอาวุธตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา แต่การเคลื่อนย้ายเหล่านั้นไม่ได้เป็นหลักฐานพิสูจน์ด้วยของมันเองว่า อาวุธเหล่านั้น “ถูกถอนออกไปแล้วจริงๆ และถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยและแน่นหนา”

    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงฉบับดังกล่าวที่ได้รับการลงนามในเดือนนี้ในกรุงมินสก์เมืองหลวงของเบลารุสโดยมียุโรปเป็นคนกลาง การหยุด “โดยสมบูรณ์” ถูกวางเป้าหมายไว้ให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเริ่มการถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้าในอีก 2 วันต่อมา

    การถอนอาวุธมีจุดประสงค์เพื่อสร้างเขตกันชนกว้าง 30 – 140 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพิสัยการยิงและประเภทของอาวุธ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลิธัวเนียเตรียมรื้อฟื้นระบบเกณฑ์ทหารหวั่น“ท่าทีรุกราน” ของรัสเซีย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 20:57 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ลิธัวเนียเตรียมรื้อฟื้นระบบการเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา หลังเกิดความหวั่นวิตกที่เพิ่มสูงขึ้นต่อ “ท่าทีรุกราน” ของรัสเซียต่อภูมิภาคบอลติก

    รายงานข่าวซึ่งอ้างคำแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีลิธัวเนียซึ่งมีการเผยแพร่ในวันพุธ (25 ก.พ.) ระบุว่า สถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์และภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศในเวลานี้ ส่งผลให้บรรดาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงสภากลาโหมของลิธัวเนียมีความเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการยกระดับขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ให้แข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งรวมถึงการรื้อฟื้นระบบการเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้ง

    รายงานข่าวระบุว่า การรื้อฟื้นระบบการเกณฑ์ทหารของลิธัวเนียจะถูกนำกลับมาบังคับใช้เป็นเวลา 5 ปี แต่ข้อเสนอที่เกิดจากฝ่ายบริหารนี้ยังจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายนิติบัญญัติ คือ รัฐสภาของลิธัวเนียเสียก่อน

    ทั้งนี้ ลิธัวเนีย รวมถึงลัตเวียและเอสโทเนีย ต่างตกอยู่ใต้การปกครองของสหภาพโซเวียตมายาวนาน จนกระทั่งถึงการแยกตัวเป็นเอกราชของรัฐแถบบอลติกทั้ง 3 แห่งเมื่อปี 1991 จากนั้นทั้งสามประเทศต่างเลือกโผเข้าหาสหภาพยุโรป (อียู) รวมถึงองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในฐานะที่พึ่งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงตลอดมา

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทางการลิธัวเนียมีขึ้นท่ามกลางความหวั่นวิตกว่ารัฐแถบทะเลบอลติก อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของการคุกคามจากรัสเซีย ต่อจากยูเครน และความหวาดกลัวนี้ยังถูกตอกย้ำจากการซ้อมรบของรัสเซียในเขตปกครอง “คาลินินกราด” ที่อยู่ประชิดภูมิภาคบอลติกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัสเซียส่งกำลังพลเข้าร่วมการซ้อมรบดังกล่าวกว่า 9,000 คนและเรือรบอีกมากกว่า 55 ลำ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูโรโซนไฟเขียวต่อเวลาให้เอเธนส์ แต่IMFกับECBมีท่าทียังไม่พอใจนัก
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 22:01 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - รัฐมนตรีคลังของยูโรโซน แสดงการสนับสนุนแทบจะในทันทีเมื่อวันอังคาร (24 ก.พ.) ต่อร่างพิมพ์เขียวการปฏิรูปของกรีซ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการขยายอายุแพกเกจเงินกู้ออกไปอีก 4 เดือน ทว่าเจ้าหนี้ใหญ่ร่วมอีก 2 รายดูเหมือนยังไม่พอใจนัก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) บอกเลยว่าข้อเสนอล่าสุดไม่มีส่วนใดทำให้แน่ใจได้ว่ากรีซจะยึดมั่นในมาตรการปฏิรูป ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พูดแบบอ้อมค้อมกว่า

    ระหว่างการประชุมทางไกลที่ใช้เวลาไม่นานเมื่อวันอังคาร รัฐมนตรีคลัง 19 ชาติซึ่งใช้เงินตาสกุลยูโรด้วยกัน ได้รับรองแผนการที่รัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซส่งให้แทบจะในนาทีสุดท้ายก่อนเที่ยงคืนวันจันทร์ (23) แต่ก็เป็นไปตามข้อเรียกร้องของคณะเจ้าหนี้ภายหลังการหารือมาราธอน 11 ชั่วโมงเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว

    ขั้นตอนต่อไปคือ รัฐสภาของชาติสมาชิกยูโรโซนเหล่านี้ยังจะต้องลงมติอนุมัติแผนการของกรีซ เพื่อขยายแพกเกจเงินกู้ปัจจุบันที่กำลังจะสิ้นสุดลงวันเสาร์นี้ (28) ออกไปอีก 4 เดือน และจากนั้นก็เริ่มต้นหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับแผนปฏิรูปด้านต่างๆ ซึ่งเอเธนส์เสนอออกมาในคราวนี้

    ปิแอร์ มอสโกวิชี กรรมาธิการกิจการเศรษฐกิจสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวว่า แม้ยูโรโซนสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตได้อีกครั้ง แต่ยังมีความท้าทายมากมายรออยู่

    ตลาดหุ้นเอเธนส์ทะยานขึ้นถึง 9.81% ในวันอังคาร ด้วยความมั่นใจว่า ข้อเสนอของกรีซจะผ่านฉลุย หลังการถกเถียงเผ็ดร้อนตลอดหลายสัปดาห์ทั้งในกรุงบรัสเซลส์ อันเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของอียู และอีกหลายเมืองหลวงทั่วยุโรป

    เช่นเดียวกัน ตลาดหุ้นลอนดอนทำสถิติอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังปิดเพิ่มขึ้น 0.54% อยู่ที่ 6,94963 จุด

    ท่ามกลางความดีใจและโล่งอกของหลายคน ทว่า คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ของไอเอ็มเอฟ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของคณะเจ้าหนี้ที่เรียกกันว่า “ทรอยกา” ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตในวันอังคารว่า ข้อเสนอของเอเธนส์ไม่มีการรับประกันอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส มีเจตนาจะผูกมัดตัวเองกับมาตรการปฏิรูปซึ่งได้รับการคาดหมายแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีการให้คำมั่นชัดเจนในการพัฒนาและดำเนินการปฏิรูประบบบำนาญและภาษีการขาย หรือการดำเนินการเพื่อสานต่อนโยบายที่ตกลงก่อนหน้านี้ในการเปิดตลาดภาคอุตสาหกรรมที่ยังได้รับการปกป้องคุ้มครอง การปฏิรูประบบราชการ การแปรรูปกิจการ และการปฏิรูปตลาดแรงงาน

    ขณะที่มาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ออกมาแถลงตั้งข้อสังเกตว่า แผนการปฏิรูปบางข้อของกรีซต่างจากแผนการเดิมที่ใช้อยู่ และมาตรการใหม่ใดๆ ก็ตามที จะต้องเท่าเทียมหรือกระทั่งมีคุณภาพมากขึ้นในการตัดลดหนี้สินของกรีซ

    กรีซนั้นต้องขอรับความช่วยเหลือแพกเกจเงินกู้ถึง 2 ระบอกในปี 2010 และ 2012 รวมมูลค่า 240,000 ล้านยูโร ซึ่งทำให้หนี้สาธารณะของประเทศพุ่งเป็น 175% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

    ซีปราส ผู้นำพรรคซีริซาที่ชนะการเลือกตั้งถล่มทลายเมื่อเดือนที่แล้ว เรียกร้องให้เจ้าหนี้ใหญ่อย่าง อียู ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และไอเอ็มเอฟ ยุติโครงการความช่วยเหลือชนิดที่ตั้งเงื่อนไขให้กรีซใช้มาตรการรัดเข็มขัด จนประชาชนเดือดร้อนกลายเป็น “วิกฤตการณ์มนุษยธรรม”

    หากข้อตกลงนี้ได้รับการรับรองจากรัฐสภาของชาติสมาชิกยูโรโซน ทุกฝ่ายจะกลับมาหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงฉบับเต็มภายในสิ้นเดือนเมษายน เพื่อให้กรีซมีเงินชำระหนี้ส่วนซึ่งจะถึงกำหนดในเดือนมิถุนายน

    นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี ผู้สนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดและชาติเศรษฐกิจใหญ่สุดในยุโรป ขอให้พรรคอนุรักษนิยมของตนสนับสนุนการขยายข้อตกลงเงินกู้กรีซในระหว่างการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรวันศุกร์นี้ (27) แต่สำทับว่า ภารกิจนี้ยังไม่เสร็จสิ้น

    ทั้งนี้ แผนการปฏิรูปที่เอเธนส์เสนอครอบคลุมขั้นตอนในการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีและการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะภาคบริการประชาชนและบำเหน็จบำนาญ และการปราบปรามการทุจริต

    นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากจากนโยบายรัดเข็มขัด เช่น การจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ผู้ยากไร้ 300,000 ครอบครัวฟรี คูปองอาหารและระบบขนส่งสาธารณะฟรี และการรักษาพยาบาลฟรี รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้มีบำเหน็จบำนาญต่ำ

    เจ้าหน้าที่กระทรวงคลังกรีซคนหนึ่งเผยว่า เอเธนส์จะเริ่มหารือกับอียูและไอเอ็มเอฟทันที รวมถึงการเปิดทางให้กรีซออกตั๋วเงินคลังระยะสั้นเพิ่ม และนำกำไรที่อีซีบีได้จากพันธบัตรกรีซมาใช้

    ด้านเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานของยูโรกรุ๊ป หรือกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน ได้เรียกร้องให้กรีซเดินหน้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากกรีซจะต้องปรับปรุงและเสนอแผนปฏิรูปอย่างละเอียดภายใน 4 เดือน

    นักการทูตหลายคนในบรัสเซลส์สงวนท่าทีที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงล่าสุด แต่ทุกคนยอมรับว่า เป็นเรื่องที่ดีในการมีข้อตกลงเบื้องต้นกันได้เช่นนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเลวร้ายหากกรีซไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้

    ทว่า ในสายตานักวิเคราะห์เอกชนอย่างเจนนิเฟอร์ แมกคีโอน จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ กลับมองว่า นี่เป็นเพียงข้อตกลงชั่วคราว ขณะที่สถานการณ์หนี้สินที่ไม่ยั่งยืนของกรีซยังไม่ได้รับการแก้ไข เท่ากับว่า ยังมีความเป็นไปได้อย่างชัดเจนที่เอเธนส์จะต้องออกจากยูโรโซนซึ่งจะสร้างความโกลาหลใหญ่หลวง

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หิมะถล่ม สังเวยมากกว่า 100 ศพในอัฟกานิสถาน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 22:25 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-เกิดเหตุหิมะถล่มในพื้นที่จังหวัดปันจ์ชีร์และพื้นที่ใกล้เคียงของอัฟกานิสถานในวันพุธ(25) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน ทางการคาด ยอดตายอาจพุ่งสูงยิ่งขึ้น

    รายงานข่าวระบุว่าหิมะที่ตกต่อเนื่องนานหลายวันเป็นสาเหตุสำคัญของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว เป็นผู้เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดปันจ์ชีร์สูงที่สุดถึง 95 คน

    นอกเหนือจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีรายงานว่าเหตุหิมะถล่มยังสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนมากกว่า 100 หลัง และตัดขาดถนนสำคัญอีกหลายเส้นทาง

    ทั้งนี้ อัฟกานิสถานต้องเผชิญกับเหตุหิมะถล่มบ่อยครั้งในช่วงฤดูหนาว และเมื่อปี 2012 เพิ่งเกิดเหตุหิมะถล่มทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 145 คน

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝรั่งเศสขู่คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม หากเมืองท่า “มาริอูโปล” ถูกโจมตี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 16:37 น. (แก้ไขล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2558 17:16 น.)

    [​IMG]
    ---
    @โลรองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสกำลังกล่าวสรุปภายหลังการประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย , ยูเครน และเยรมนี ที่กระทรวงการต่างประเทศในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
    ---
    รอยเตอร์ – มอสโกจะเผชิญกับการคว่ำบาตรจากสหยุโรป (อียู) มากกว่านี้ หากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียโจมตีเมืองท่ามาริอูโปลที่รัฐบาลยูเครนยึดครองอยู่ โลรองต์ ฟาบิอุส รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส ระบุวันนี้ (25)

    “ปัญหาในวันนี้เกี่ยวข้องกับมาริอูโปลอย่างเจาะจง เราได้บอกกับทางรัสเซียอย่างชัดเจนแล้วว่า หากมีการโจมตีของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนต่อเมืองมาริอูโพลเกิดขึ้น หลายสิ่งๆ จะถูกปรับเปลี่ยนขนานใหญ่ รวมถึงขอบเขตการคว่ำบาตรด้วย” ฟาบิอุส บอกกับสถานีวิทยุ ฟรานซ์ อินโฟ

    “ในระดับของยุโรป จะมีการหยิบยกคำถามเรื่องการคว่ำบาตรขึ้นมาอีกครั้ง” ฟาบิอุส ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเมื่อวานนี้ (24) กับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย , ยูเครน และเยอรมนี กล่าว และในการพบปะครั้งนี้พวกเขาเรียกร้องอีกครั้งให้เคารพต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ถูกละเมิดอยู่เป็นประจำ

    ผู้นำอียูเห็นพ้องที่จะไม่เพิ่มหรือลดมาตรการคว่ำบาตร หลังนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี และประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลลองด์ ช่วยเป็นคนกลางในข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 2 กุมพาพันธ์ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม ภายหลังการละเมิดข้อตกลงดังกล่าวหลายต่อหลายครั้ง โดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ว่า กลุ่มผู้นำกำลังหารือกันเรื่องมาตรการคว่ำบาตรที่อาจจะใช้ลงโทษรัสเซียเพิ่มเติม

    ถึงกระนั้นแหล่งข่าวทางการทูตของแดนน้ำหอมก็ไม่ให้น้ำหนักกับโอกาสที่จะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติม โดยระบุว่า มันไม่ใช่ประเด็นที่ปารีสสนับสนุน ณ ขณะนี้ เนื่องจากมันจะส่งสาสน์ที่ไม่ถูกต้องออกไป

    เคียฟหวั่นเกรงว่าเมืองมาริอูโปล ซึ่งมีประชากรยูเครนอยู่ 500,000 คน อาจเป็นเป้าหมายหลักต่อไปของพวกกบฏ หลังจากพวกเขาเข้ายึดเมืองยุทธศาสตร์เดบัลต์เซเว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางรถไฟ ปาฟโว คลิมคิน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวภายหลังการประชุมดังกล่าวในกรุงปารีส

    การเข้ายึดเมืองท่าแห่งนี้ได้สามารถเปิดเส้นทางสู่ตอนใต้ ซึ่งมีแหลมไครเมียที่ถูกรัสเซียควบรวมไปแล้วรวมอยู่ด้วย

    คลิมคิน บอกกับผู้สื่อข่าวในกรุงปารีสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (24) ว่า “เมืองมาริอูโปลตกอยู่ในความเสี่ยง การโจมตีลักษณะใดๆ ก็ตามต่อมาริอูโปลจะเปลี่ยนแปลงหลายสิ่ง การยึดเมืองเดบัลต์เซเวคือตาหมากพลิกระดาน เพราะว่ามันให้เจตนารมณ์ของข้อตกลงกรุงมินสก์เสียกระบวน”

    “การโจมตีใดๆ เพิ่มเติมจะทำให้เกิดการโจมตีสวนกลับ” เขากล่าว

    เอดูอาร์ด บาซูริน ผู้บัญชาการฝ่ายกบฏ กล่าวเมื่อวานนี้ (24) ว่า กลุ่มกบฏยังคงพุ่งเป้าเข้าควบคุมดินแดนทั้งหมดของ 2 แคว้นทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งมีเมืองท่ามาริอูโปลรวมอยู่ด้วย แต่จะหาทางได้เมืองนี้มาด้วย “การเจรจาต่อรองกับฝ่ายยูเครน”

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิจัยชี้ “โสมแดง” อาจผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ “100 ลูก” ภายใน 5 ปี
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 15:56 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือกำลังก่อความกังวลอย่างยิ่งยวดต่อรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากสถาบันวิจัยของอเมริกาออกมาทำนายว่า เปียงยางอาจผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้มากถึง “100 ลูก” ภายในระยะเวลา 5 ปี เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ เผยวานนี้ (24 ก.พ.)

    ซุง คิม ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ด้านนโยบายเกาหลีเหนือ กล่าวในเวทีเสวนาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า ตนยังไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสหรัฐฯ-เกาหลี มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ เนื่องจากยังไม่ได้เห็นตัวรายงาน และการประเมินของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ถือเป็นความลับ

    “แต่แน่นอนว่า เรารู้สึกกังวลอย่างยิ่งที่เกาหลีเหนือไม่หยุดพัฒนาขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ เราทราบดีว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขายังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง” คิม กล่าว

    นักวิจัยจากสถาบันสหรัฐฯ-เกาหลีเชื่อว่าโสมแดงน่าจะมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่เพียงราวๆ 10-16 ลูกในปัจจุบัน แต่ได้ประเมินอนาคตของคลังอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือเอาไว้ 3 แนวทาง

    แนวทางแรก หากเทคโนโลยีของโสมแดงก้าวหน้าไปเพียงเล็กน้อย พวกเขาจะครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ได้ราวๆ 20 ลูกภายในปี 2020 แต่หากก้าวหน้าไปมากกว่านั้น ปริมาณอาจจะเพิ่มเป็น 50 ลูก และอาจจะถึงขั้นสามารถย่อส่วนระเบิดนิวเคลียร์เพื่อติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยใกล้และกลางได้

    โจเอล วิต หนึ่งในผู้เรียบเรียงรายงาน ยังเตือนถึงสถานการณ์ขั้นเลวร้าย (worst-case scenario) ซึ่งเกาหลีเหนือจะครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ถึง 100 ลูกภายในปี 2020 และอาจมีเทคโนโลยีที่รุดหน้าจนถึงขั้นสามารถนำมาใช้ในสนามรบ หรือใช้เป็นอาวุธทางยุทธวิธี หากว่าผู้นำโสมแดงต้องการ

    “มันเป็นสถานการณ์ที่น่ากลัวทีเดียว” วิต กล่าว พร้อมเตือนว่า ยิ่งเกาหลีเหนือมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นการยากที่จะโน้มน้าวให้เปียงยางยอมลดอาวุธ

    “ผมว่ามันเป็นเรื่องเสี่ยงพอสมควรที่จะลงโทษประเทศใดประเทศหนึ่งที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์มากมาย”

    รายงานชิ้นนี้ยังเผยด้วยว่า ระบบขีปนาวุธที่เกาหลีเหนือใช้อยู่ในปัจจุบันมีพิสัยครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด โดยเฉพาะคู่อริอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่ในอนาคตเปียงยางอาจจะสามารถพัฒนาขีปนาวุธแตโปดองให้เดินทางไปได้ไกลถึงแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ

    คิม ชี้ว่า ความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ของโสมแดงทำให้นักการทูตนานาชาติต้องหาวิธีที่จะ “เจรจาอย่างได้ผล เพื่อยับยั้งไม่ให้เกาหลีเหนือเดินหน้าไปมากกว่านี้”

    เขาบอกด้วยว่า วอชิงตัน “ไม่ประมาท” ท่าทีเต็มใจลดอาวุธของเกาหลีเหนือ และจะยังใช้ทั้งมาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวและร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อบีบให้เปียงยางเป็นฝ่ายสูญเสียมากขึ้นหากไม่ทำตามที่ตกลงไว้

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Focus : สื่อนอกรายงาน “วิกฤตธรรมกาย” ยันสงฆ์นอกรีตทำ “เถรสมาคม” สุดเสื่อม ชาวพุทธหมดศรัทธา ถึงเวลาต้องปฎิรูป โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    25 กุมภาพันธ์ 2558 18:34 น. (แก้ไขล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2558 19:32 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - มหาเถรสมาคม (Sangha Supreme Council of Thailand ) หรือ มส.ตกเป็นข่าวฉาวล่าสุด หลังจากเกิดวิกฤตวัดธรรมกาย ที่เกี่ยวข้องกับพระธัมมชโยว่าต้องปาราชิกหรือไม่ รวมไปถึงเหตุการณ์อื่นอีกจำนวนมาก ที่พบว่าทางมส.ไม่ตรวจตรากวดขันพระที่อยู่ภายใต้การปกครอง เป็นผลทำให้มีข่าวฉาวถึงพระผิดพระธรรมวินัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาหนักในหมู่ชาวพุทธ และตั้งคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ควรปฎิรูปมหาเถรสมาคม

    สื่อนอก เช่น เดอะนิวเอจ สื่อแอฟริกาใต้ และ ดาลเจ สื่อโครเอเชีย รวมไปถึง บางกอกโพสต์ สื่อไทยภาคภาษาอังกฤษ รายงานในวันอังคาร(24)ล่าสุด ถึงปัญหาการปกครองของคณะสงฆ์ของมหาเถรสมาคม (Sangha Supreme Council of Thailand ) หรือ มส. ที่ตกต่ำจนถึงขั้นทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อชาวพุทธ หลังจากเกิดคดีวัดธรรมกาย ที่ฮัฟฟิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯได้วิจารณ์วัดแห่งนี้เมื่อ 23 มิถุนายน 2014ว่า อาจกล่าวได้ว่าวัดธรรมกายเป็นวัดที่มีอาณาบริเวณใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีพื้นที่เพียงพอรับรองสาวกได้ถึง 1 ล้านคน

    โดยผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนา รองศาสตราจารย์ ราเชล เอ็ม สก็อตต์ แห่งมหาวิทยาลัยเทนเนสซี เจ้าของผลงาน “Nirvana For Sale” ตีแผ่ปัญหาพุทธศาสนาในไทย โดยเฉพาะกรณีวัดธรรมกายที่ใช้กรอบแนวความคิดสมัยนิยมใหม่ แทนความเชื่อดั้งเดิมตามแบบพุทธนิกายเถรวาท ที่แพร่หลายในศรีลังกา ไทย กัมพูชา ลาว และพม่า ที่ว่าด้วยการทำบุญอย่างเรียบง่ายและการนั่งสมาธิ มาเป็นการใช้นิพพานเป็นเป้าหมายหลอกล่อเพื่อให้ชาวพุทธที่มีจิตศรัทธาติดกับในลัทธิบริโภคนิยม ตามนโยบายจ่ายมากได้บุญมากเพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งและสมบูรณ์พูนสุขต่อตนเอง โดยสก็อตต์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ Religion & Ethics Newsweekly's Lucky Severson ว่า “คนพวกนั้นเชื่อว่า จุดมุ่งหมายหลักของศาสนาคือ การเรียไรเงินบริจาคเพื่อความยิ่งใหญ่ และเพื่อนำไปสู่ความเป็นสากลนานาชาติ”

    และล่าสุด วัดธรรมกายต้องตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้ง เมื่อลูกศิษท์คนสนิท ศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ได้ยักยอกทรัพย์จากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และนำเงินส่วนหนึ่งไปบริจาคให้กับทางวัด และมีข่าวพาดพิงไปถึงพระธัมมชโย เจ้าอาวาส ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยสื่อไทย อิสรานิวส์เสนอข่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2015 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. พบว่า มีการสั่งจ่ายเช็คให้กับพระธัมมชโยและวัดธรรมกายและเครือข่ายจริงรวมกัน 11 ใบ แต่ทว่าทางปปง.ไม่สามารถอายัดทรัพย์ได้ เพราะมีกฎหมายที่ชัดเจนว่า ห้ามยึดที่ธรณีและทรัพย์สินของสงฆ์ เพราะถือเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินอยู่แล้ว โดยในเช็คทั้งหมด 11 ใบนั้นมีจำนวน 4 ใบวงเงินกว่า 310 ล้านสั่งจ่ายให้กับพระธัมมชโยและวัดธรรมกาย

    และมีกระแสข่าวตามมาว่ามส.ได้ลงมติตัดสินว่า พระธัมมชโยไม่ต้องปาราชิก ซึ่งดาลเจ สื่อโครเอเชียรายงานในวันอังคาร(24)ว่า มหาเถรสมาคมได้ออกมาปฎิเสธในเรื่องนี้ ว่าไม่เคยมีมติให้พระธัมมชโยพ้นผิดในเรื่องยักยอกทรัพย์และบิดเบือนพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด

    ด้าน พนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า ยังไม่มีมติตัดสินความผิดพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกายแต่อย่างใด เพราะยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยก่อนหน้านี้พนมได้ปฎิเสธรายงานข่าวที่อ้างว่า พระธัมมชโยถูกตัดสินพ้นผิดจากการนำเงินที่ได้จากการยักยอกทรัพย์ของ ศุภชัย ศรีศุภอักษร และไม่คืนเงินบริจาค

    และสื่อโครเอเชียยังรายงานเพิ่มเติมว่า พระธัมมชโยยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของหน่วยงานดูแลพุทธศาสนาที่กล่าวหาว่า เจ้าอาวาสวัดธรรมกายบิดเบือนคำสอนตามหลักศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ว่า ลัทธิธรรมกายได้ขึ้นชื่อในเรื่องความใหญ่โต ฟุ้งเฟ้อ และมีพิธีกรรมที่หรูหราโอ่อ่า และยังรวมไปถึงสถาปัตยกรรมของวัดที่ผิดแปลกไปจากพุทธสถานทั่วไป ซึ่งพุทธสถานศูนย์กลางของวัดมีลักษณะคล้ายกับรูปร่างยานอวกาศ UFO เมื่อมองจากด้านบน และยังมีคำสอนเกี่ยวกับเรื่องชีวิตหลังความตาย เช่น ครั้งหนึ่ง เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเคยเอ่ยอ้างกับสาวกว่า ได้พบกับสตีฟ จ็อบ เจ้าพ่อบริษัทแอปเปิล หลังจากที่จ็อบได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยพบกันในสรวงสวรรค์ในขณะที่จ็อบกำลังนั่งกรรมฐาน

    และจากเหตุการณ์วิกฤตวัดธรรมกายที่ทำให้มหาเถรสมาคมนั่งไม่ติด ยังไปรวมไปถึงเหตุอื่นปลีกย่อยที่พบบ่อยครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ถึงพระทำผิดพระวินัย ซึ่งเดอะ นิวเอจ สื่อแอฟริกาใต้ได้รายงานในวันอังคาร(24)ถึง วิกฤตศรัทธาของชาวพุทธต่อมหาเถรสมาคมว่า หนึ่งในชาวพุทธที่ตั้งคำถามคือ ชาลิตา ชินวันโณ(Chalita Chinwanno)วัย 30ปี ได้เล่าถึงความทรงจำว่า เธอได้เข้าวัดพร้อมกับครอบครัวอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งเพื่อนั่งสมาธิและสวดมนต์ ซึ่งกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นการปักธูปเทียน สวดมนต์บูชาพระรัตนไตร การนั่งสมาธิ หรือการร่วมประกอบกิจทางศาสนาล้วนแต่นำความสงบมาสู่เธอท่ามกลางชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ แต่ทว่าศรัทธาของชาลิตาต้องถูกทดสอบจากข่าวฉาวของพระในพุทธศาสนาที่พบบ่อยครั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ “ดิฉันพยายามจะมองข้ามสิ่งที่เลวร้าย แต่จะสนใจต่อสิ่งที่ดีเท่านั้น” ชาลิตากล่าว แต่กระนั้นพุทธมามกะวัย 30 ปียอมรับว่า ข่าวฉาวในวงการสงฆ์ทำให้เกิดความเสื่อมต่อพุทธศาสนาในไทย

    สื่อแอฟริกาใต้รายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนล่าสุด มส.ซึ่งเป็นเสมือนรัฐบาลฝ่ายศาสนาจักรในไทยถูกสั่นคลอนเสถียรภาพจากข่าวพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย และส่งผลทำให้รัฐบาลรักษาการของไทยที่มาจากการยึดอำนาจสั่งการให้คดีวัดธรรมกายเป็นคดีที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ

    ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พระพรหมสุธี เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ของไทยและเป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ถูกสั่งปลดออกจากกรรมการเถรสมาคม หลัง สตง. พบการทุจริตงบพระราชทานเพลิงศพจำนวน 67 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในพิธีพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช พร้อมกันนี้พระผู้ใหญ่รูปนี้ถูกสั่งพักงานตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ

    และ 2 เดือนก่อนหน้านั้น เจ้าอาวาสอีกองค์ประจำวัดแห่งหนึ่งในอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร ถูกปลดหลังจากนำเงินบริจาคร่วม 1.2 ล้านดอลลาร์ไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ และคดีมะโนสาเร่อื่นๆ เป็นต้นว่า จับสงฆ์พร้อมยาบ้าร่วม 120,000 เม็ด หรือ ถูกจับในขณะดื่มสุราและขับขี่ หรือหลบหนีการจับกุมข้อหาลักลอบค้าสัตว์ป่าเป็นต้น ทำให้ผู้เป็นชาวพุทธต้องอิดหนาระอาใจ

    “ดิฉันคิดว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสมควรต้องแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมนี้” พลอยพรรณ สิรินทิพ (Ployphan Sirinthip) เพื่อนของชาลิตาและพุทธมามกะตัวยงกล่าวให้ความเห็นกับเดอะ นิวเอจ และเสริมต่อว่า “หรือไม่เช่นนั้น จะเกิดความคิดที่ว่า มส.นั้นฉ้อฉล และเป็นปรปักษ์ต่อทุกสิ่งที่เป็นแก่นของพุทธศาสนา”

    โดยเดอะ นิวเอจชี้ว่า สำนักงานพุทธศาสนาที่เป็นหน่วยงานรัฐดูแลกิจการด้านพุทธศาสนาได้ออกมาปกป้องมหาเถรสมาคมว่า “เรามีระบบที่ชัดเจน ในแต่ละวัดที่มีทั้งหมด 30,000 แห่งในไทยขึ้นตรงกับเจ้าอาวาสซึ่งปกครองดูแลพระลูกวัด ซึ่งในท้ายที่สุดต้องรายงานต่อมหาเถรสมาคม” สมชาย สุรชาตรี โฆษกประจำสำนักงานพุทธศาสนาให้ความเห็น

    และนอกจากนี้ เสียงความเห็นถึง “มหาเถรสมาคม” และปัญหาพุทธศาสนา ยังปรากฎในสื่อภาคภาษาอังกฤษของไทย หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ในวันนี้(25)รายงานว่า วัดธรรมกายเป็นเพียงแค่ระเบิดเวลา หรืออาการของโรคร้ายที่เกิดขึ้นให้เห็น พร้อมกับชี้ว่า มส.ต้องจ่ายราคาแพงในการปกป้องพระธัมมชโย และอาณาจักรของเจ้าอาวาสรูปนี้ ซึ่งข่าวฉาวอื้ออึงไม่ใช่เรื่องใหม่ต่อมหาเถรสมาคม แต่องค์คณะมหาเถระที่สูงด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิที่ผ่านมากลับปกป้องแต่สถานภาพ ซึ่งถึงแม้ว่าสังคมชาวพุทธจะตั้งคำถามและโจมตีต่อพระที่ประพฤติผิดพระวินัย แต่ยังไม่เคยมีใครก้าวล่วงตำหนิมหาเถรสมาคมโดยตรง แต่เวลานั้นสิ่งนี้ได้ผ่านไปแล้ว ซึ่งความอดทนของสังคมพุทธได้สิ้นสุดหลังข่าวมติมหาเถรสมาคมเลือกที่จะเข้าข้างพระธัมมชโยในคดียักยอกทรัพย์ล่าสุด ถือเสมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายในสายตาคนทั่วไป ซึ่งถึงแม้จะมีการแก้ข่าวออกมาภายหลังว่า ข่าวมติที่ออกมานั้นไม่เป็นจริง แต่ทว่าจากสิ่งปรากฎเกี่ยวกับวัดธรรมกายซึ่งใช้หลักทุนนิยม บริจาคมากได้บุญมาก ทำบุญแบบผ่อนชำระ เข้าถึงนิพพานตามกำลังทรัพย์ รวมไปถึงการบิดเบือนคำสอนจากที่ไม่ให้ยึดถือตัวตนกลับกลายเป็นตรงข้าม และวัดธรรมกายยังมีเรื่องแปลกประหลาดที่ถูกเปิดเผยจากสาวกข้างใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหรูหราฟุ้งเฟ้อ ธุรกิจสีเทา ข่าวเรื่องโลกีย์ทางเพศ และความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง

    นอกจากนี้บางกอกโพสต์รายงานเพิ่มเติมว่า มหาเถรสมาคมไม่เคยปฎิบัติตามพระสังฆราชพระองค์ก่อน ซึ่งพระองค์ท่านได้เคยตัดสินว่า คำสอนของธรรมกายนั้นบิดเบือนพุทธศาสนา และทำให้เกิดความแตกแยก แต่กระนั้นทางมส.กลับตัดสินใจส่งตัวแทนไปยังวัดธรรมกาย และกลับมาพร้อมกับข้อสรุปว่า ไม่มีคำสอนใดที่บิดเบือนไปจากคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า ซึ่งสื่อบางกอกโพสต์รายงานว่า มีแนวคิดในสังคมเกิดขึ้นเสนอให้มีการปฎิรูปองค์กรมหาเถรสมาคมเพื่อตามเป้าวัตถุประสงค์ 3 ประการ (1) กำจัดการคอรัปชันในวัดให้หมดไป เพื่อให้สถานภาพการเงินของวัดนั้นโปร่งใสและน่าเชื่อถือ (2) ทำให้มหาเถรสมาคมปลอดจากอิทธิพลของวัดธรรมกาย จากการที่พระรักษาการสมเด็จพระสังฆราชและพระผู้ใหญ่ชั้นยศในมส.ต่างถูกมองว่าเป็นผู้สนับสนุนวัดนี้ทั้งสิ้น และ (3) ทำลายวัดพระธรรมกาย ก่อนที่ความเชื่อตามคำสอนของวัดนี้จะเข้าครอบงำวัด 30,000 แห่งทั่วไทย

    ซึ่งในงานเขียน Nirvana For Sale ของสก็อตต์ แบ่งเป็น 5 หัวข้อคือ (1) พุทธศาสนา การปฎิเสธ และความมั่งคั่ง (2)สมัยนิยม ความมั่งคั่ง และวัดธรรมกาย (3) มหาธรรมกายเจดีย์ และการทำบุญในรูปแบบโพสต์โมเดิร์น (4)ข่าวอื้อฉาวของวัดธรรมกาย : ความศรัทธา ความมั่งคั่ง และอำนาจ (authority) และ (5) บริโภคนิยมและพาณิชยกรรมทางการค้าของพุทธศาสนา ซึ่งหนังสือเล่มนี้ถูกนำมาวิเคราะห์โดย จอร์แดน จอห์นสัน จากมหาวิทยาลัยแอริโซนา สเตท และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร buddhistethics เล่มที่ 20 ปี 2013 จอห์นสันกล่าวว่า สก็อตต์สนใจต่อการถือกำเนิดและการเคลื่อนไหวของลัทธิธรรมกายในไทยเป็นพิเศษ ซึ่งวัดธรรมกายถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการอธิบายใน "มิติทุนนิยมและความศรัทธาทางศาสนา" ร่วมกันเหมือนครั้งหนึ่งในยุคกลางที่มีความเกี่ยวเนื่องระหว่างอำนาจ เงินทอง และวาติกัน โดยเธอได้มองความเคลื่อนไหวของลัทธิธรรมกายเป็นเสมือนการเปลี่ยนแปลงพุทธศาสนจักรในไทยที่ไม่ได้หยุดนิ่ง แต่ยังคงเคลื่อนที่ไปตลอดเวลา

    และทั้งนี้ถึงแม้ว่า สานิตสุดา เอกชัย ( Sanitsuda Ekachai) นักข่าวบางกอกโพสต์ผู้เขียนบทความชิ้นนี้จะชี้ว่า ถึงเธอจะไม่เห็นด้วยในหลักคำสอนของวัดธรรมกาย และไม่ชอบใจในวิธีการเรี่ยไรที่คล้ายกับการขายประกัน หรือรถยนต์มือสอง แต่เธอเชื่อว่า คนอื่นไม่ควรทำลายเสรีภาพความเชื่อของผู้อื่น และวัดธรรมกายเป็นเพียงแค่ระเบิดเวลา หรือ อาการของโรคร้ายที่ปรากฎขึ้นให้สังคมไทยรับรู้ ซึ่งปัญหาที่แท้จริงคือระบบยศและการปกครองที่มอบอำนาจสูงสุดให้แก่กลุ่มคณะสงฆ์ที่สูงด้วยยศศักดิ์ และชราภาพ จำนวนเพียงแค่หยิบมือ ให้ตัดสินทุกปัญหาภายใต้พุทธศาสนจักรของไทย และตราบใดที่ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข ในที่สุดปัญหาธรรมกายจะลุกลามกลายเป็นโศกนาฎกรรมขั้นร้ายแรง หรือโรคร้ายที่แพร่ระบาดคล้ายกับอีโบลาในที่สุด

    In Focus :
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,303
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตื้อไม่เลิก! ออสเตรเลียวอน “ผู้นำแดนอิเหนา” เมตตา 2 พลเมืองออสซี่ ชี้เป็นนักโทษประพฤติดี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2558 14:53 น. (แก้ไขล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2558 14:55 น.)

    [​IMG]

    แอนดรูว์ ชาน (ซ้าย) และ มูราน สุขุมาราน (ขวา) สองหัวหน้าแก๊งค้าเฮโรอีน “บาหลี ไนน์”

    รอยเตอร์ – รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียร้องขอในวันนี้ (25) ให้ประธานาธิบดีอินโดนีเซียแสดงความเมตตาปราณีต่อนักโทษคดีค้ายาเสพติดชาวออสเตรเลีย 2 คนที่กำลังจะถูกประหารชีวิตในแดนอิเหนา และชี้ว่านักโทษทั้งสองมีส่วนเหลือระบบเรือนจำแดนอิเหนา

    ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ปฏิเสธลดหย่อนผ่อนโทษให้กับนักโทษประหาร 11 ราย ซึ่งรวมถึงพลเมืองออสซี่ 2 คน ส่งผลให้ความตึเครียดทางการทูตของทั้งสองประเทศยิ่งพุ่งสูงขึ้นขณะที่มีการร้องขอความเมตตาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    อัยการสูงสุดของอินโดนีเซีย กล่าวในวันนี้ (25) ว่า การประหารดังกล่าว ซึ่งจะกระทำโดยการยิงเป้า จะไม่ถูกเลื่อนเวลาออกไปหรือถูกยกเลิกในเวลาที่เผชิญกับแรงกดดันทางการทูตนี้ แต่ปฏิเสธที่จะระบุวันเวลาที่แน่ชัด

    “ไม่สำคัญว่าแรงกดดันที่เรากำลังเผชิญจะมากมายขนาดไหน เราจะเดินหน้าต่อไป ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้แล้ว นี่เป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างคงเส้นคงวา” เอช.เอ็ม. ปราเซตโย อัยการสูงสุดบอกกับรอยเตอร์

    การเตรียมการสำหรับการประหารชีวิตลุล่วงไปแล้วราว 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงแต่คณะเจ้าหน้าที่ต้องประสานงานเคลื่อนย้ายนักโทษและเตรียมการยิงเป้าเท่านั้น ปราเซตโย กล่าว และเสริมว่า การประหารชีวิตจะมีขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    วิโดโด ซึ่งรับสายโทรศัพท์ในสัปดาห์นี้จากบราซิล , ฝรั่งเศส และเนเธอแลนด์ ที่ต่างมีพลเมืองต้องโทษประหารในแดนอิเหนา ได้เตือนให้ชาติเหล่านี้อย่าแทรกแซงเรื่องอำนาจอธิปไตยของอินโดนีเซีย

    จูลี บิชอป รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียบอกกับสำนักข่าว สกาย นิวส์ ว่า ออสเตรเลียเคารพอำนาจอธิปไตยและระบบกฎหมายของอินโดนีเซีย

    “สิ่งที่เรากำลังร้องขอคือให้ประธานาธิบดี วิโดโด แสดงความเมตตากรุณาต่อคนหนุ่มชาวออสเตรเลียทั้งสอง” เธอกล่าว และเสริมว่า “ท่านเป็นคนใจกว้างและเมตตา”

    อินโดนีเซียมีบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับการค้ายาเสพติดและได้รื้อฟื้นโทษประหารกับมาใช้อีกครั้งในปี 2013 หลังจากระงับไป 5 ปี

    เมื่อวานนี้ (24) ศาลในกรุงจาการ์ตาได้ปัดตกคำร้องที่สองนักโทษชาวออสซี่ คือ มายุราน สุขุมาราน วัย 33 ปี และ แอนดรูว์ ชาน วัย 31 ปี ยื่นคัดค้านต่อการที่ วิโดโด ปฏิเสธคำขอการลดหย่อนผ่อนโทษจากประธานาธิบดีของพวกเขา

    ทนายความของสมาชิกกลุ่ม “บาหลี ไนน์” 2 รายนี้ ซึ่งถูกตัดสินในปี 2005 ว่าความผิดในฐานะเป็นหัวหน้าแก๊งวางแผนลักลอบขนเฮโรอีนออกจากแดนอิเหนา ได้ระบุว่า พวกเขากำลังเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ โดยพวกเขามีเวลา 2 สัปดาห์ที่จะยื่นอุทธรณ์

    รัฐบาลแดนจิงโจ้ เน้นย้ำว่า สุขุมาราน และ ชาน ได้รับการฟื้นฟูในเรือนจำ ที่ซึ่งพวกเขาเป็นที่ปรึกษาให้กับบรรดานักโทษที่อ่อนวัยกว่า

    “พวกเขามีส่วนช่วยเหลือระบบเรือนจำของอินโดนีเซีย และในความจริงเรื่องที่พวกเขาได้รับการฟื้นฟูถือเป็นสิ่งที่อินโดนีเซียสามารถภาคภูมิใจได้เลย” บิชอบ กล่าว

    “เราเชื่อว่าชีวิตของพวกเขาสมควรได้รับการละเว้น และพวกเขาสมควรได้รับโอกาสที่สอง”

    บิชอบ ซึ่งก่อนหน้าที่ระบุว่า ออสเตรเลียจะพิจารณาเรื่องการตัวเอกอัครราชทูตประจำอินโดนีเซียกลับเพื่อเป็นการประท้วง หากการประหารชีวิตดังกล่าวมีขึ้น

    บราซิลและเนเธอแลนด์ได้ถอนเอกอัครราชทูตของพวกเขากลับแล้ว หลังจากอินโดนีเซียประหารชีวิตพลเมืองของพวกเขาในคดียาเสพติดเมื่อเดือนที่แล้ว

     

แชร์หน้านี้

Loading...