สัพเพเหระ

คำเตือน กระทู้นี้มีเนื้อหากล่าวถึงความเชื่อ สิ่งที่มองไม่เห็น โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม จึงมาตั้งกระทู้ในหลุมดำ


“วิญญาณสูงสุดนั้น ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยความคิดนึกสามัญ เป็นปรมัตถ์ ไม่มีเกิด อยู่เหนือเหตุผล คิดคำนึงเอาไม่ได้”



โอม การัม พินทุสัมยุกตัม นิตยัม ธยายันติ โยคินา
กามะทัม โมกะสะทัม ไจวะ โอม การายะ นะโม นะมะ ฯ




แม่นสุดๆ เช้าวันนี้ (17/2/2558) เสด็จพ่อบอกว่า เตรียมตัวไว้นะจะให้เปิดกระทู้ตัวเอง ไม่คิดจะเป็นจริง
หลังจากที่บ่ายเบี่ยงมา 2 เดือนแล้ว ไม่อยากตั้งกระทู้ตัวเองเพราะต้องมาเฝ้า มาตอบคำถาม แค่ส่งจดหมายน้อยมาเราก็ตอบช้าไปหลายวันแล้ว (ขอโทษคนที่ตอบช้าด้วย)

เอาเป็นว่าสำหรับคนที่สงสัยว่าเรามีองค์ไหม จะบูชาเทพควรทำอย่างไร สงสัยในเรื่องสิ่งที่มองไม่เห็น มีกรรมอะไร หรือต้องการมาคุยสัพเพเหระ ขอเชิญได้
แต่งดรับตรวจบารมีองค์พระ เพราะเป็นการปรามาสนะจ๊ะ จะออกแนวนั่งคุยกันหรือเขียนทำนองไดอารี่เสียมากกว่า


ปล. คนที่โพสถามถือว่าคุณยอมรับข้อตกลงให้ตรวจดูได้ เราทำได้แค่แนะนำ คุณจะทำตามหรือไม่ก็สุดแล้วแต่คุณ
ส่วนกลุ่มโลกสวย ขอเชิญเว็บดูการ์ตูนดิสนีย์

บอกก่อนว่าเรามีสิทธิ์จะเป็นร่างทรง แต่เราปฏิเสธเพราะต้องการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร ขอไปนิพพาน นี่คือเหตุผลต้องมาช่วยคนอื่นแทนเปิดตำหนัก
หากมีเคสหนัก ใครอยู่ใกล้ก็ช่วยทำพิธีให้ได้ หรือจะขอน้ำมนต์ มีแจกจ๊ะ
เคยไปช่วยตำหนักนั่งดูดวง ได้วันละ 500+ แต่มันไม่ใช่ทางออก เพราะทำให้คนเชื่อแต่ดวง ไม่ลงมือทำจริงๆจังๆ แถมเจ้าของตำหนักไม่ชอบแย่งลูกค้าไปหมดอีก

เราปฏิเสธเทวนิยาย เพราะเป็นเพียงตำนานเล่าต่อกันมา เทพหลายๆองค์ เป็นมนุษย์ที่ทำคุณงามความดี จึงได้รับการแต่งตั้ง
หาใช่เกิดจากเทพองค์ใดองค์หนึ่งดลบันดาล รวมถึงความเข้าใจผิดในการบูชาต่างๆ เราระลึกถึงความดีที่ท่านทำจึงได้เป็นเทพ คือ เทวตานุสสติ

เราปฏิเสธคนทรงเจ้า เพราะไม่ใช่แนวทางหลุดพ้น เราบูชาเทพเพื่อขอบคุณที่ช่วยเหลือ ดูแล ไม่ใช่เพื่อขอให้ช่วยนั่นนี่แล้วจะถวายสิ่งของ
ไม่ต้องวิ่งไปหาร่างทรง เพราะถ้าร่างบารมีไม่ถึง เค้ามองไม่เห็นองค์คุณหรอก เค้าจะบอกยังไม่ถึงเวลา บุญยังไม่ถึง (ร่างนั่นล่ะบุญไม่ถึง ไม่ก็ของเก๊)
นายทหารจะมาสั่งผู้พันได้ยังไง จริงไหม แต่ถ้าคุณเจอของดีก็นับว่าโชคดีอย่างยิ่ง (ครูมนุษย์เรากลับสวรรค์ไปแล้ว น่าเสียดายมาก)

เราปฏิเสธการทำบ้านให้เป็นเทวสถาน การบูชาเทพไม่จำเป็นต้องอารตี สั่นกระดิ่ง ไกวบัณเฑาะว์ แต่งตัวเป็นเทพเสียเอง
เจอมาเคสนึง แต่งขาวห่มขาว ถือศีล 8 นั่งสวดมนต์สั่นระฆังอยู่บ้านขอให้ร่ำรวยเป็นปี ก็ไม่รวยสักทีตอนนี้ย้ายไปไหนแล้วไม่ทราบ
แต่เราส่งเสริมการสวดมนต์ ทำสมาธิ ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ทำบุญตามโอกาส

เมื่อเราบูชาปฏิบัติไปสักพัก จะต้องมีบางอย่างปรากฏเพื่อให้รู้เราทำถูกต้อง การบูชาเป็นปีๆแล้วไม่มีอะไร ควรพิจารณาทำสิ่งใดผิดไป
การบูชาเทพเสมือนญาติผู้ใหญ่ ไม่ต้องทำมากแต่สม่ำเสมอ ไม่ใช่นึกอยากทำวันนี้ก็ทำ วันนี้ขี้เกียจนะไม่ทำ อย่าบูชาดีกว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี


สงสัยหรือมีข้อสอบถามอะไร โพสไว้นะจะตอบกลับให้ เพราะเราดูแลกลุ่มบูชาองค์เทพใน facebook ด้วย อาจจะหายไปบ้างแต่จะพยายามตอบทุกคำถาม

เราถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ท่านประเสริฐสุดในจักรวาลแล้ว แล้วเทพยดาทุกองค์จะคุ้มครองเรา

นอกนั้นเราศรัทธาองค์ใดเป็นพิเศษก็บูชาได้เลย ถ้าท่านไม่มาบอกเองก็ไม่ต้องวิ่งหา มันจะเพี้ยนกันตอนหา ถ้าไปเจอผีจะยุ่งไปใหญ่

 

วิธีปฏิบัติสำหรับผู้ต้องการบูชาเทพ แต่ไม่ต้องการข้องเกี่ยวร่างทรง



ตัวอย่างการจัดบูชาแบบง่ายๆ จากประสบการณ์ข้าพเจ้าเองปฏิบัติแล้วได้ผลดี

ธูปเทียน ดอกไม้สวยๆ เช่น มะลิ กล้วยไม้ ดาวเรือง หากเป็นช่วงพิเศษอาจมีมะพร้าว ขนมไทยไม่ใส่ไข่ ถวายได้

เทพทั้งหมดทานอาหารทิพย์เป็นมังสวิรัติ ไม่รับของคาว หมั่นสวดมนต์ น้อมจิตเข้าหาท่านจะเป็นที่ทรงโปรด

ไม่แนะนำต้องมีอุปกรณ์เหมือนวัด เช่นพวกฆ้อง สังข์ต่างๆ จะกลายเป็นทำบ้านให้เป็นวัด

เทวรูปได้มาอย่างไรก็บูชาไปอย่างนั้น ไม่ต้องเพิ่มเติมประดิษฐ์ชุดใส่เหมือนตุ๊กตา รวบรวมเงินไปทำบุญที่วัดดีกว่า

ศรัทธาในองค์เทพองค์ใดก็บูชาได้เลย ไม่ยึดติดเทวนิยาย ส่วนตัวเองในช่วงแรกก็ไม่ได้บูชาพระคเณศก่อน ความรู้สึกส่วนตัวไม่เชื่อถือ ไม่นับถือ

จนท่านเสด็จมาช่วยทางธรรมถึงได้นำมาบูชาร่วมด้วยในภายหลัง (มาอ่านเจอบทความหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน)ภายหลัง

พระคเณศไม่มีจริงเป็นตำแหน่งเฉยๆ มีเทวดาท่านชื่อ ปิยสิกขะ เวลาเขาบูชาบนบานพระคเนศ ท่านปิยสิกขะจะรับสงเคราะห์

ท่านเป็นเทวดาอยู่ชั้นดาวดึงส์ รูปร่างกายทิพย์ท่านสวยงามมาก ไม่มีหัวเป็นช้าง)


ไม่จำเป็นว่าต้องได้มาจากวัด หากพบเห็นเทวรูปสวยๆ เราสามารถนำมาร่วมบูชาที่บ้านได้ สัก 7 วันท่านจะเปิดเนตรเอง

หากเกิดชำรุดไม่มากนักซ่อมแล้วสามารถนำมาบูชาต่อได้ แต่ถ้าเสียหายมากขออนุญาตินำฝังดิน

เมื่อบูชาไปสักระยะหากมีการสัมผัสสิ่งพิเศษได้ไม่ต้องตื่นตระหนก ให้ปฏิบัติเหมือนเดิมต่อไปไม่โอ้อวด

เป็นการยืนยันว่าบูชาแล้วได้ผลจริง หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นควรสำรวจตัวเองทำสิ่งใดผิดไป

หากผ่านเทวสถานหรือที่ตั้งเทวรูป กล่าวสวดบทบูชาสั้นๆ หรือกล่าว โอม ไม่ใช่ สาธุ นะจ๊ะ



ความเข้าใจผิด

พระแม่กาลี เป็นเทวีปราบอสูรท่านเมตตาใจดีมาก ไม่ใช่เทพดุร้ายหากบูชาแล้วจะมีเรื่อง ท่านจะไม่เข้าข้างการทำชั่ว ผู้บูชาหากทำผิดท่านจะลงโทษเอง

 

ความรู้ 1

หลายครั้งที่มีคนชอบมาถาม "ดูให้หน่อยเรามีองค์ไหม"
คำว่ามีองค์ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองไม่เหมือนกันนะ

องค์ คือ เทวดารักษาเราตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่มีการเปลี่ยน ไม่หมุน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง จะเปลี่ยนไปตามวาระ หรือบทสวด เช่น ช่วงนี้สวดองค์นี้บ่อย
คนอื่นจะมองเห็นว่ามีองค์นี้รักษา แต่จะไม่ประจำแค่แว๊บไปแว๊บมา


ใครบอกว่ามีองค์แล้วเหนือกว่าคนอื่น คิดผิดเลยนะ ด้อยกว่าคนอื่นมาก
เพราะต้องรักษาศีล หมั่นทำบุญ และช่วยเหลือสังคม จะขาดการปฏิบัติหรือทำเพื่อตนเองไม่ได้
ถ้าหากไม่เชื่อฟัง ขัดขืน ปฏิบัติตามใจตน จะมีการลงโทษตั้งแต่สถานเบาจนถึงสิ้นเนื้อประดาตัว เป็นบ้าไปเลยก็มี


สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง รวมถึงครูบาอาจารย์รักษา จะปรากฏตามวาระแห่งบุญหรือขณะที่เราเคร่งปฏิบัติ
ครูท่านเห็นกำลังใจจึงสงเคราะห์ให้ แต่ถ้ากำเริบท่านก็ทอดทึ้ง ปลอยให้บ้าไปคนเดียว


เมื่อเราปฏิบัติไปสักระยะ จะเริ่มเห็นผลแห่งการปฏิบัติ เป็นการประจักษ์ว่ามาถูกทาง
ชีวิตจะเริ่มดีขึ้น มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต ก็ขอให้หมั่นรักษาระดับไว้ ไม่ถึงกับต้องเคร่งตึงขึ้นไปอีก
เพราะเราต้องทำให้ชินสักระยะเสียก่อน ไม่งั้นตึงไปเรื่อยๆมันจะขาด แล้วจะเกิดอาการเพ้อเจ้อ
คิดว่าตัวเองสำเร็จแล้ว เหนือกว่าผู้อื่น ยังไม่นับรวมถึงการทดสอบที่ส่งมาเรื่อยๆ

เรื่องความสามารถพิเศษ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ
1. สำเร็จวิชาเอง อันนี้เสื่อมยาก ใช้ง่ายนึกเบาๆก็ได้ผล
2. ครูอาจารย์ช่วย อันนี้เสื่อมง่าย เพราะเกิดจากครูท่านช่วยเหลือทำให้สามารถใช้วิชาได้

ไม่ต้องเคร่งว่าต้องศีล 10 เอาศีล 5 ให้เป็นปรกติก่อน วันพระหมั่นเจริญสติ เพียงเท่านี้ก็จะก้าวหน้าไว

ว่ากันด้วยเรื่องร่างทรง จะมีหลายประเภท ตามความสามารถขององค์ที่มาประทับ (ส่งพลังผ่าน) ได้แก่ ทายทัก ดูดวง ทำพิธีต่างๆ
องค์ท่านจะไม่ลงร่างมนุษย์ง่ายๆ หากไม่มีสิ่งพิเศษจริงๆ เช่น วันรับขันธ์ ถวายตัวเป็นศิษย์ วันเทศกาล

 

ความรู้ 2

ร่างทรงต้องระวังคำพูดและความคิดมากกว่าคนปรกติ เพราะเราอาจเผลอสาปแช่งคนอื่นได้ง่าย
ควรมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตาและอุเบกขา ประจำใจ
ยกเว้นมีการลองของ ต้องถามครูท่านก่อน หากท่านอนุญาติถึงทำได้

ต้องขออภัยเรื่องร่างทรงผู้เขียนก็ไม่ทราบมากนัก คงต้องรอท่านอื่นมาเสริม
เพราะผู้เขียนเลือกที่จะเป็นลูกศิษย์ ไม่ต้องการเป็นร่างทรง จะทรงเฉพาะมีกรณีพิเศษ

การช่วยเหลือผู้อื่นของร่างทรง
ร่างทรงมักจะแบ่งเป็น 2 สาย คือ สายโปรด และสายปราบ
สายโปรดจะเน้นไปที่การปฏิบัติธรรม นำสวดมนต์ภาวนา รวมคนเพื่อสงเคราะห์ผู้อื่น
สายปราบ จะเก่งเรื่องวิชา คาถาอาคม ทำพิธีต่างๆ

การประทับทรง
มีทั้งแบบเต็มองค์ คือ ร่างทรงไม่รู้สึกตัวไม่มีสติ โดนควบคุมโดยสมบูรณ์
และกึ่งมีสติ รับรู้ทุกอย่างแต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ลืมตาได้
ดังนั้นที่มีคนบอกว่า ลองเอาบุหรี่หรือธูปจิ้ม ถ้าเป็นแบบกึ่งมีสติ ตกใจแน่นอน

ใน 1 ปีต้องมีการไหว้ครูอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อแสดงความกตัญญูที่องค์ท่านได้ช่วยเหลือมา


---------------------- จบส่วนของผู้เขียน -----------------------

 

บทความเสริมจากที่อื่น จำไม่ค่อยได้จากที่ไหน ของร่างทรงท่านหนึ่งได้เขียนเป็นหนังสือไว้
ข้าพเจ้าก็ได้อาศัยนำมาเป็นหลักในการปฏิบัติช่วงแรกๆ ยังหาทางเดินไม่เจอ



การที่องค์เทพจะมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นั้นก็ด้วยเหตุ 2 ประการ คือ

1. ญาณจุติ หมายถึงภาระหน้าที่ในการเกิดเป็นมนุษย์ตามวาระ และเป็นส่วนหนึ่งของเทพที่ลงมาจุติ เพื่อมารับกรรมบางอย่างและเพื่อทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำทางศาสนา เช่น พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นผู้นำทางฝ่ายสงฆ์หรือฆราวาสก็ตาม ที่เป็นผู้ใฝ่ในการปฏิบัติจนได้ญาณหรือฌาณ และมักจะลำบากในช่วงแรกแต่จะสบายในช่วงปลาย

2. ญาณแฝง หมายถึง องค์เทพในระดับต่าง ๆ ที่ยังไม่ถึงวาระการเกิดเป็นมนุษย์ แต่มีความเลื่อมใส ปรารถนาจะช่วยส่งเสริมและมีส่วนร่วมในการสืบพระศาสนาด้วย ครั้นจะลงมาเกิดใหม่เพื่อสร้างบุญ ก็จะต้องรอเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลานั้น ญาณนี้แหละทีมักถูกเรียกกันว่า “องค์” ซึ่งแยกตามภาระหน้าที่ได้ 2 ประการด้วยกัน

ความสัมพันธ์ในอดีต คือให้การอารักขาผู้ที่ได้มาจุติเป็นมนุษย์ เพราะเคยเกี่ยวสัมพันธ์กันมาแต่ชาติปางก่อน เมื่อร่างนี้ได้ทำบุญและแผ่เมตตาให้ ก็จะได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน ขณะเดียวกันก็จะคอยปกป้องคุ้มครอง ช่วยเหลือการทำมาหากิน ดลจิตดลใจ หรือเกิดเป็นลางสังหรณ์ในเรื่องราวต่าง ๆ จะพาสร้างบารมีทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา บางครั้งเวลาสวดมนต์นั่งกรรมฐานองค์เทพท่านจะพาสวดมนต์เป็นภาษาเบื้องบนหรือภาษาเทพไปเลยก็มี ความสัมพันธ์ดังกล่าวได้แก่

1. เคยมีบุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ หรือ ในอดีตชาติ (ช่วยเฉพาะเจ้าตัวและคนใกล้ชิด)

2.เคยติดหนี้บุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ หรือ ในอดีตชาติ (บังคับให้เปิดตำหนักเป็นร่างทรง)

3.เคยเป็นบุตรหลานหรือบริวารกันมาก่อน (บังคับให้เปิดตำหนักเป็นร่างทรง)

4.เกิดจาการสวดมนต์อ้อนวอนขอบารมีจากเทพเป็นประจำ จึงลงมาช่วย (นี่ล่ะที่มักจะนึกว่าตัวเองเป็นร่างทรงเพราะคนอื่นเห็นว่ามีองค์คุ้มครอง)

ทำหน้าที่เป็นม้าทรง หรือ ร่างทรง ในกรณีเช่นนี้ส่วนใหญ่จะตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ เนื่องจากองค์เทพที่มาจับร่างเห็นว่า เป็นคนดีและมีบารมีพอ บังเอิญมาหมดอายุขัยก่อน ท่านก็เลยต่ออายุให้ ดังนั้นร่างนี้จึงต้องสร้างบารมีชดใช้หนี้บุญคุณขององค์เทพ โดยเป็นร่างทรงหรือสื่อที่จะติดต่อมนุษย์เพื่อสร้างบารมีร่วมกัน ในการทำนายทายทัก รักษาโรค หรือ อื่น ๆ สุดแท้แต่องค์เทพท่านจะเห็นสมควร และเมื่อถืงเวลาหรือหมดหน้าที่ก็จะต้องตายจริง ๆ

 

ถ้าเลือกที่จะช่วยคนอื่นแล้ว ต้องอย่ารักแต่ชีวิตของตัวเอง ก่อนทำอะไรถามองค์ท่านก่อน


เสริมให้ว่า
1. ถ้าเจอวิญญาณให้กำหนดจิตบอกไป จะทำบุญไปให้ ขอเราทำธุระก่อน

2. ทานเนื้อสัตว์แล้วอย่าลืมแผ่เมตตาให้เค้าด้วย

3. จะทักใครว่ามีองค์ ถามองค์เค้าก่อนจะให้บอกหรือไม่

4. ดวงตก คือ ช่วงเสวยผลกรรมไม่ดี ต้องปฏิบัติให้มากชดใช้ไป

5. ใครพูดอะไรให้เชื่อ 50% ฟังหูไว้หูก่อน เราเองยังทดสอบองค์เป็นปีๆ ถึงจะเชื่อ กลัวเป็นวิญญาณแฝง

6. จะนั่งสมาธิกรรมฐาน ต้องสวดบทสมาทานพระกรรมฐานก่อน ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

7. ครอบครู ต้องดูเจ้าพิธีเป็นอย่างไร น่าเชื่อถือแค่ไหน ครอบแล้วชีวิตดีขึ้นหรือไม่

8. มังสวณิชชา เลิกได้ควรเลิก ถ้าเลิกไม่ได้ก็ต้องทำบุญใหญ่ทุกปี สนับสนุนคนให้บวช สร้างวัดสร้างวิหารหนีนรก

9. ในร้อยความดี กตัญญูมาเป็นที่ 1 ที่ 2 คือสัจจะ รักษาศีลข้อ 4 ได้ทำให้มีวาจาสิทธิ์


ตอนเริ่มเข้าทางจะเป็นร่างทรง เห็นอะไร ได้ยินอะไร เงียบไว้ เพราะเราไม่รู้ว่านั้นเป็นเทพหรือมารมาลวงให้หลง
ถ้าไปผิดทางแล้วจะเพี้ยน เสียผู้เสียคน เป็นบ้ากันไปหลายรายมาแล้ว
เราก็เคยวิ่งไปตามตำหนักหลายที่ สุดท้ายเหนื่อยนั่งสวดมนต์อยู่บ้าน ท่านก็ปรากฏให้เห็นเอง เอากะเค้าสิ

 

การบูชาพระแม่กาลี

บอกก่อนว่าไม่กล้าเขียนเพราะคนอื่นเขียนไว้เยอะแล้วไม่ตรงกับเรา แต่จะลงไว้เผื่อใครนับถือท่านอยู่จะได้อีกหนึ่งทาง สายขาว



เคยขอชมบารมีท่าน คล้ายในภาพเป็นสตรีอวบล่ำมาก ผิวดำสนิท มี 4 แขน
เปลือยกาย ไม่มีเครื่องนุ่งห่มหรือเครื่องประดับใดๆ ใช้ผมยาวถึงน่องคลุมกาย ดูดุร้ายแต่ใจดี มีเมตตามาก

บทสวด โอม กาลี มาฯ 108 จบ

(เคล็ดลับขอพร ยืนสวดขาเดียว 1000 จบ)

ถวายดอกดาวเรือง ชบาแดง เครื่องหอมกลิ่นไม้กฤษณา มะพร้าวทั้งลูกเฉาะฝา เผือกมันนึ่ง
เคยถามท่านรับเลือดหรือเนื้อสัตว์ไหม ท่านไม่รับ

 

สวัสดีค่ะ ถ้าจะสอบถามบ้างว่า ตัวเองมีองค์ไหม และควรบูชาเทพองค์ใด อย่างไร จะต้องทำอย่างไรคะ ถูกกติการึเปล่า...

 

พี่เขยผมก็นับถือและบูชา พระแม่กาลี และผมก็พูดจาไม่ค่อยดี
ออกแนวท้าทาย หลังจากนั้นก็รู้สึกถึงพลังงานอันใหญ่ที่ทำให้รู้สึก
ว่าผมดูตัวกระจิ๋วหลิ๋วไปเลย หายซ่าอหังการไปเลยทีเดียว และผมก็ได้กราบ
ขอขมาไปแล้ว เรื่องเทพที่ดูแลคนที่ดูให้ทักมาไม่เหมือนกัน หากท่าน naitiw ว่าง
จะกรุณาส่องมาดูให้หน่อยก็ดีครับ ผมสงสัยหนะว่าเทพที่ดูแลหนะท่านเป็นใคร
ชื่ออะไร (sing)

 

ตอบทั้ง 2 คนพร้อมเลยละกัน บูชาพระพุทธเจ้า ท่านประเสริฐสุดในจักรวาลแล้ว แล้วเทพยดาทุกองค์จะคุ้มครองเรา

นอกนั้นเราศรัทธาองค์ใดเป็นพิเศษก็บูชาได้เลย ถ้าท่านไม่มาบอกเองก็ไม่ต้องวิ่งหา มันจะเพี้ยนกันตอนหา ถ้าไปเจอผีจะยุ่งไปใหญ่

แต่ก่อนลายเซ็นต์เราก็เป็นบทสวดบูชาเทพ ภายหลังถามพระแม่อุมาท่านใครใหญ่สุดในจักรวาล ใช่พระแม่เจ้าหรือไม่ ท่านให้ไปถามพระศิวะ

ท่านพ่อก็ไม่ตอบให้ไปถามแม่ใหญ่(เราเรียกแบบนี้ จริงๆท่านเพศชาย) ก็ไปถามพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านก็นั่งยิ้มไม่ตอบแต่เอามือแบไปที่ศีรษะ

นั่นคือรูปพระพุทธเจ้าที่ประทับบนศีรษะท่าน ก็เข้าใจเลยที่นี้ พระพุทธเจ้าสูงสุดแล้ว แล้วเราจะยังไปหาผู้ใดอีก

 

แบบบูชาสวดมนต์นั่งสมาธิถวายกุศลให้ นับถือในใจไม่ถวายดอกไม้ ผลไม้น้ำ ไม่จุดธูป ไม่มีรูปบูชาได้เปล่าครับท่าน

 

<a href="http://www.veethi.com/devi-idol-inside-fullara-temple-labhpur/PH11628"><img alt="Labhpur Photos" src="http://www.veethi.com/watermark.php?path=images/city-images/fullsize/Labhpur-11628.jpeg" alt="devi-idol-inside-fullara-temple-labhpur"/></a>


ได้ สภาวะเป็นทิพย์ของเทวดาเราบูชาท่านท่านรับรู้ได้

สมัยก่อนไม่เห็นจะต้องมีอะไร เอาดินมาปั้นเป็นทรงกลมๆก็บูชาได้แล้ว

ปฏิบัติบูชาได้ผลมากกว่า สวดบูชา 100 วันไม่เท่าทำสมาธิ 1 วัน

 

วันนี้ขอเสนอ เทพีเกิดจากวงการภาพยนตร์

เทวีซานโตชิ Santoshi Mata

เทพีองค์นี้ไม่มีตัวตนตามตำราหรือตำนานอะไร เกิดจากวงการภาพยนตร์สร้างหนังแล้วมีผู้นับถือกันต่อมา



ในปี 1975 มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "Jai Santoshi Ma" ทำให้เกิดกระแสการนับถือเทวีองค์นี้ขึ้นโดยเฉพาะทางอินเดียตอนเหนือ โดยให้เป็นบุตรีของพระคเณศ แต่ทางเทววิทยาถือว่าไม่มีเทวีองค์นี้จริง

 

แนะนำบทสวดเพื่อความสงบ เหมาะสำหรับทำสมาธิ



กายาตรีมนตรา Gayatri Mantra บทสวดสรรเสริญพระอาทิตย์ที่ศักดิ์สัทธิ์ มีอายุกว่า 4000 ปี จะใช้ในการสวดขอพลังจิตจากสุริยเทพ(savituḥ)
ทำให้มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด หลักแหลม มีความแจ่มใส คล่องแคล่ว มีปฏิภาณไหวพร้บ และมีความเร่งเร้าตื่นตัวในการเสาะแสวงหาความรู้
(แรกเริ่มนับถือไม่กี่องค์ พระอินทร์ พระพิรุณ พระยม พระอาทิตย์ ก่อนจะเกิดเทพตามมาอีกหลายองค์)

Oṃ bhūr bhuvaḥ svaḥ - โอม บูร์ บูวะ สวาห์
tát savitúr váreṇ(i )yaṃ - ตัส สะวิตุร วาเรนิยัม
bhárgo devásya dhīmahi - พาระโก เดวาสยะ ดีมาฮี
dhíyo yó naḥ pracodáyāt - ดีโย โย นะฮะ ประโช-ดยาธ์

“โอม ภูรโลก ภูวดล และ สวรรค์ ขอนบน้อมแด่องค์ พระสุริยเทพผู้ประเสริฐยิ่ง พระองค์ทรงประทานแสงสว่างไปทั่วสากลโลก ขอแสงสว่างนั้น จงส่องประทีปแห่งปัญญาให้กระจ่างสดใสด้วยเทอญ "

 

ผมนี่กำลังใจไม่ได้ถึงกับปลีกตัวออกจากกามครับ เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ชัดเจน
เวลาผมจะทำความเข้าใจธรรม ผมไม่ค่อยอ่านตามเว็บ แต่ผมจะเดินไปเดินมา
เหมือนจรงกลมหนะครับในบ้าน แล้วเวลาเดินจะรู้สึกเหมือนมีคนมาจ้องมองผมอยู่
เป็นเงาดำๆ ไม่ก็มาเป็นภาพต่างๆ ซึ่งผมรู้สึกว่าน่าจะออกแนวไปทางแขก
แต่ก็อย่างที่ท่านว่าหนะหละครับ หาว่าเป็นใครเดี๋ยวจะยิ่งเพี้ยน หากท่านจะบอก
ผมคงรู้ไปนานละ แล้วบางทีอาจจะแค่มาดูเฉยๆ ไม่ใช่เทพที่มารักษาผมก็เป็นได้
ขอบคุณในคำตอบครับ (kiss)

 

การคืนขันธ์



ไม่แนะนำให้รับขันธ์ ครอบครู เพราะเราไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมีอะไรแฝงมาด้วยเปล่า แล้วการครอบครูนั้นเป็นพิธีกรรมของบางอาชีพ ไม่ใช่ทำได้ทุกอาชีพ
ทางเค้าขอครูให้ช่วยดูแล หากรับมาแล้วรักษาไม่ได้ จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี หวังจะให้ดีขึ้นกลับแย่ลงไปก็มี

เมื่อตัดสินใจว่าจะเลิก ไม่นับถือให้นำไปลอยน้ำฝากแม่คงคาไป บอกกล่าวว่าเราจะขอกลับไปบูชาพระรัตนตรัย ขอหมดเวรหมดกรรมกับสิ่งที่อยู่ในขันธ์
เมื่อลอยเสร็จกลับมาบ้าน จุดธูปเทียนบูชาพระ กล่าวคำถวายตัวเป็นพุทธมามกะ สมาทานศีล 5


ยกเว้นกลุ่มผู้เรียนวิชา-อาชีพที่ต้องรับขันธ์ครู ครอบครู กลุ่มผู้เรียนคาถาอาคมพระเวท
กลุ่มนี้ต้องมีครูช่วยเหลือ ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นในการเรียน และเป็นการกำหราบไม่ให้ทำร้ายผู้อื่นโดยไม่สมควร ไม่งั้นจะกลายเป็นศิษย์ล้างครู

 

คุณ pongsanun เราตอบหลังไมค์นะ

 

ผู้ใดทำการทรงเจ้าใน โบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้า ผู้นั้นจะถูกพราหมณ์ขับไล่ให้ออกจากสถานที่
ผู้ใดทำการทรงเจ้าใน วัดแขกสีลม ผู้นั้นจะถูกตำรวจหิ้วปีกออกจากวัด
ผู้ใดทำการทรงเจ้าใน วัดเทพมณเฑียร ผู้นั้นจะถูกเจ้าหน้าที่เชิญออกจากโบสถ์ทันที
ผู้ใดทำการทรงเจ้าและหลอกลวงในวัดของประเทศอินเดีย ผู้นั้นจะถูกทุบตีจนเสียชีวิต


ในอินเดียจะมีการเชิญทรงเฉพาะเทศกาลงานประจำปี เป็นการเข้าทรงเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
โดยมีวัตถุประสงค์ในการประทับทรงที่ชัดเจน กระทำโดยพราหมณ์ชาวอินเดีย ซึ่งปฏิบัติตามคติการบูชาอย่างถูกต้อง
แตกต่างกับการทรงเจ้าตามตำหนักทรงต่างๆ ซึ่งเราขอยืนยันว่าส่วนใหญ่เป็นการจัดฉากเพื่อรีดไถกับผู้หลงเชื่อ
หรือหากไม่จัดฉาก ก็จะเป็นวิญญาณเร่ร่อนสถิต แล้วแอบอ้างว่าเป็นมหาเทพ มหาเทวี

จากเว็บ สยามคเณศ

 

พระตรีมูรติ

คำว่า ตรีมูรติ มาจากภาษาสันสกฤต ตรี หมายถึง สาม มูรติ หมายถึง รูปแบบ ตรีมูรติ หมายถึง รูปแบบทั้งสามหรือรูปแบบของพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามพระองค์ อันประกอบไปด้วย พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ เป็นหลักสำคัญในศาสนาฮินดู หากมองตามหลักปรัชญาสามารถหมายถึง พระผู้สร้าง พระผู้รักษา และพระผู้ทำลาย หรือสามารถเปรียบได้กับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้น คงอยู่ และ ดับไป



จะรวมหรือแยก เมื่อครบ 3 องค์จะเรียกว่า ตรีมูรติ

แต่ที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไม่ใช่เพราะมี 5 หน้า นั่นคือ พระปัญจมุขี พระศิวะ 5 หน้า
พระปัญจมุขี หรือพระสดาศิวะ ในศิลปะอินเดียสร้างให้มี 10 กร ในศิลปะขอม สร้างให้มี 8-10 กร
แต่ในศิลปะรัตนโกสินทร์นั้นย่อลงเหลือเพียง 4 กร โดยคงลักษณะไว้คือทรงมี 5 เศียร

 

คิดหลายรอบจะเขียนดีไหมแต่ข้างบนก็หนักหนาแล้วนะ ให้ความรู้ที่ถูกต้องก็ไม่ต้องกลัวละกัน

วัดแขกสีลม

หลายคนเข้าใจว่าวัดนี้เป็นวัดของพระแม่ศรีอุมาเทวีเจ้า แต่ลองอ่านป้ายดีๆจะเขียนว่า



วัด อรุลมิกุ ศรี มหามาริอัมมัน โกวิล (அருள்மிகு ஶ்ரீ மஹாமாரி அம்மன் கோவில்)
พระแม่มารีอัมมัน เป็นเทวีพื้นเมืองของทางอินเดียใต้ปรากฏใน Salem รัฐทมิฬนาฑู
เป็นเทพผู้รักษาให้ความอุดมสมบูรณ์ (มารี แปลว่า ฝน) ประชาชนจะขอพรให้ฝนตก
ไม่ให้เกิดความแห้งแล้งเพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการทำกสิกรรม การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
โดยเฉพาะโรคฝีดาษและไข้ทรพิษ การขจัดสิ่งชั่วร้ายโรคภัยคุณไสยมนต์ดำทุกชนิด
หลายคนเข้าใจผิดว่าพระแม่มารีอัมมันเป็นภาคหนึ่งของพระอุมา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ คนละองค์

หลังจากการรวมศาสนารวมเทพเข้าด้วยกันเพื่อง่ายในการบริหารการปกครอง ได้ยกให้เป็นภาคหนึ่งของพระแม่อุมา (ไม่ทำลายเทพที่เค้าศรัทธา แต่เทพคุณเป็นบริวารเทพเรา คุณต้องเชื่อฟังเรา)


Sri Kottai Mari Amman temple
District : Salem State : Tamil Nadu