ติดตามสถานะการณ์

Ammy Chumnankit ผ่าน Siripol Pong


@Pedestrians brace against blowing snow in Copley Square in Boston. Photograph: Michael Dwyer/AP

ขณะที่อียิปต์และจอร์แดน -5C - 0C เกิดหิมะตกทั่วพื้นที่
ที่อเมริกา โดยเฉพาะรัฐมิชิแกน -51F (-41C) เนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์ Polar vortex หนาวขั้วโลกไปทั่วรัฐส่วนใหญ่ทางฝั่งเหนือของประเทศ ส่งผลให้ปีนี้ กลายเป็นปีที่หนาวเย็นที่สุดในรอบสิบปี

Polar vortex to bring coldest weather in decades to the US | US news | The Guardian

 

Ammy Chumnankit



อียิปต์ เกิดหิมะตกปกคลุมทั่วทะเลทรายที่อียิปต์ เนื่องจากอุณหภูมิลดลงเหลือ 0C ที่กรุงไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ และ -5C ในคาบสมุทรไซนาย ส่วนที่เมืองอเล็กซานเดรียเหลือ 1C
อีก 3 ภาพสุดท้าย จากท่าอากาศยานอัมมัน ของประเทศจอร์แดน ที่พบว่ามีหิมะตกทั่วพื้นที่เช่นกัน
Yasser Mohammed we already get used to it Debra Shaub .The temperatures are really something unreal to happen in Egypt . Its Zero C in Cairo and -5 C In Sinai while here in Alexandria is only 1 C

 

เคล็ดลับจับ‘5กลโกงแท็กซี่.’ : ปฏิญญา เอี่ยมตาล ทีมข่าวรายงานพิเศษ



ทุกวันนี้มี "แท็กซี่" วิ่งบนถนนกว่า 110,000 คัน ซึ่งกว่า 7 หมื่นคันนั้นผ่านการรับรองตรวจสภาพและปรับจูนมิเตอร์ "ราคาใหม่" จากกรมการขนส่งทางบกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมล็อก "ซีลตะกั่ว" อย่างแน่นหนา ติด "สติกเกอร์" หน้ากระจกซ้ายเป็นหลักฐานยืนยันการตรวจอย่างถูกต้อง

แม้ว่า กรมการขนส่งฯ ยืนยันรถที่ผ่านการตรวจสภาพแล้วทุกคัน ไม่สามารถโกงมิเตอร์ได้นั้น แต่ก็ยังมี "โชเฟอร์แท็กซี่" หัวหมอบางราย ฉวยโอกาสโกงราคาค่าโดยสารประชาชน จนคนนั่งหลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกัน บางครั้งราคาแพงกว่าเก่าถึง 2 เท่าตัว เช่น เคยนั่งราคา 120 บาท กลับกลายเป็น 250-300 บาท ทั้งที่ระยะทางเท่ากัน แต่ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายยอมจำนนควักเงินจ่ายโดยดี

"สมชาย" หนึ่งในคนขับแท็กซี่ เปิดใจต่อ "ทีมข่าวคม ชัด ลึก" ถึง กลโกงแท็กซี่รูปแบบต่างๆ ซึ่งทำกันอย่างกว้างขวางเป็นที่รู้กันในหมู่แท็กซี่ว่า มีวิธีการโกงอย่างแยบยล หลากหลายวิธีการด้วยกัน เริ่มต้นจากวิธีง่ายๆ แต่ต้องใช้เงินเยอะหน่อย คือ 1.การเปลี่ยนยางล้อรถ ให้มีขนาดแก้มยางเล็กลงผิดไปจากสเปกหน้ายางเดิมที่ได้มาตรฐานติดมากับตัวรถ

"เรื่องเปลี่ยนยางนี้ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ทำกันเกร่อมาก ไม่มีใครที่ไม่รู้ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำหรือไม่ เพราะถ้าลงทุนซื้อยางใหม่ 4 เส้นต้องใช้เงินเยอะ แต่หากเอายางเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีราคาถูกมาใช้ก็กลัวอันตราย วิธีนี้ทำกันได้ไม่ยากเลย เพียงแค่ถอดเปลี่ยนยางที่ติดมากับตัวรถออก แล้วใส่ยางแก้มเตี้ย หน้ายางแคบเข้าไปแทน เพื่อให้รอบวิ่งจัดขึ้น วิ่งเร็วขึ้น เลขมิเตอร์ขึ้นเร็วมากกว่าปกติเมื่อขับเร็วในระยะทางไกล เมื่อถึงเวลาตรวจสภาพก็เอายางเก่ามาใส่ตามเดิม"

การเปลี่ยนยางนี้ ประชาชนที่ใช้บริการแท็กซี่ต้องดูให้ดี ถ้าแท็กซี่คันไหนล้อเล็กมากก็อย่าไปนั่ง เพราะมันมีผลต่อค่าโดยสารแพงขึ้น จุดสังเกตง่ายๆก่อนโบกเรียกแท็กซี่ให้ดูที่ซุ้มล้อยาง เพราะปกติรถแท็กซี่ส่วนใหญ่จะเป็นโตโยต้า อัลติส ล้อที่มากับรถเดิมๆ จะเต็มซุ้มอยู่แล้ว ถ้าคันไหนไปดัดแปลงหรือใส่ล้อแม็กใหม่ที่เล็กกว่าเดิม อย่าได้โบก ให้เรียกคันอื่นแทน

เคล็ดลับ "จับกลโกงแท็กซี่" ข้อ 2.ตรงนี้ดูยากหน่อย แต่ก็มีจุดสังเกตที่คนนั่งต้องคอยจับตาดูให้ดี ในหมู่แท็กซี่เรียกวิธีการนี้ว่า "แท็กซี่โบ" หรือ "แท็กซี่เทอร์โบ" เป็นการดัดแปลงแก้ไขสายไฟวงจรรอบเครื่องที่ต่อเชื่อมตรงกับมิเตอร์ ให้มีรอบจัดขึ้น ตัวเลขวิ่งเร็วขึ้น โดยตัดวงจรระบบแตรออกแล้วต่อสายตรงเชื่อมกัน ติดสวิตช์ปุ่มลับไว้กด ซึ่งปุ่มนี้จะซุกซ่อนอยู่ใต้คอนโซลหน้ารถ หรือใต้พวงมาลัยคนขับ ผู้โดยสารไม่สามารถรู้ได้เลย จะรู้เฉพาะคนขับคนเดียวเท่านั้น

มีวิธีที่สังเกตง่ายๆ คนขับจะเอามือจับที่แตรไว้ตลอดเวลา บางครั้งก็กดแตรแช่ไว้ ถ้ายิ่งกดแช่นานเท่าไหร่ รอบก็จะวิ่งขึ้นเร็วเท่านั้น ราคาที่ขึ้นหน้าจอก็จะขยับตามไปด้วย เขาสามารถกดเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบตามที่ต้องการอยากได้เงินเท่าไหร่ก็กดเท่านั้น เพราะเสียงแตรจะไม่ดัง เขาสามารถกำหนดราคาได้เลยว่าต้องการเท่าไหร่ ยิ่งวิ่งระยะทางไกลมากๆ ยิ่งดี มันจะขยับราคาขึ้นเร็วมาก พวกที่ชอบโกงวิธีนี้ส่วนใหญ่จะเลือกเหยื่อที่เป็นคนต่างชาติและคนไทยที่ไม่ค่อยสนใจเส้นทาง แต่บางคนก็จะไม่ทำกับคนไทยเลย เพราะคนไทยจะรู้ราคาค่าโดยสารดีว่า เคยขึ้นเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้นเท่านี้

นอกจากวิธีการต่อสายตรงระบบไฟ วงจรรอบเครื่องยนต์รวมถึงการเปลี่ยนยางให้เป็นขนาดเล็กลงแล้ว ยังมีกลโกงที่แยบยลคือ การสลับตัวมิเตอร์ ซึ่งเป็น วิธีโกงแบบที่ 3.การโกงแบบนี้เป็นการโกงแบบดื้อๆ คือ มีมิเตอร์ 2 ตัว เป็นมิเตอร์ตัวจริงที่ผ่านการตรวจอย่างถูกต้อง เอาไว้สำหรับใช้ช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนจะสลับสับเปลี่ยนมาใช้มิเตอร์อีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นมิเตอร์ที่ตั้งระบบกลโกงไว้แล้ว หรือเรียกว่า มิเตอร์ปลอมนั่นเอง จะใช้เฉพาะช่วงกลางคืน

วิธีการนี้ผู้โดยสารสังเกตไม่ยาก ให้ดูที่ช่องตัวเลขบอกระยะทาง ช่องนี้จะจอมืดไม่มีเลขขึ้น รวมถึงช่องบอกเวลาด้วยจะดับ ซึ่งคนขับจะบอกกับผู้โดยสารที่สงสัยและสอบถามว่า 2 ช่องนั้นเสีย ใช้ได้เพียงช่องบอกจำนวนเงินเท่านั้น วิธีการโกงข้อที่ 4.เป็นวิธีที่ง่ายไม่ต้องลงทุนใดๆ เพียงแค่บอกผู้โดยสารไปตรงๆ ว่า เหมาจ่ายไม่กดมิเตอร์ เพราะถ้ากดแล้วไม่คุ้ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเฉพาะต่างชาติ

กลโกงแท็กซี่วิธีการที่ 5.หลายคนคงเจอกับตัวเองมาแล้วเพราะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อแท็กซี่เปลี่ยนเส้นทางวิ่งโดยอ้างว่า หนีรถติด พาไปทางลัด พาไปในเส้นทางที่อ้อมกว่า หรือไปในเส้นทางที่รถติดหนักมากกว่าเดิม เพื่อต้องการให้ระยทางไกลมากขึ้น รอบวิ่งเครื่องยนต์ทำงานนานขึ้นหมุนเร็วมากขึ้น และบางครั้งก็เบิ้ลเครื่องยนต์ทั้งๆ ที่รถจอดติดอยู่กับที่ ตรงนี้เป็นกลโกงที่ทำให้ราคามิเตอร์พุ่งเร็วขึ้น

แม้ว่ามาตรการปราบกลโกงแท็กซี่ของ "กรมการขนส่วงทางบก" จะเข้มข้นมากขึ้น ด้วยการเรียกตรวจ "แท็กซี่" ทุก 6 เดือนหลังจากปรับจูนมิเตอร์ใหม่และติดซีลตะกั่วป้องกันการดัดแปลง แก้ไขวงจรสายไฟรอบเครื่องยนต์ เลขราคาค่ามิเตอร์ก็ตาม แต่ยังมีแท็กซี่อีกหลายรายที่ใช้วิธีการหลบหลีก หลีกเลี่ยง โดยอาศัยช่างผู้ชำนาญการในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยปรับแก้ไขเปลี่ยนใหม่ให้ได้เงินมากขึ้น

ทั้งนี้ การตรวจสอบตรวจจับการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างเดียวคงไม่พอ จะต้องอาศัยสายตาประชาชนผู้บริโภคที่ใช้บริการแท็กซี่ สอดส่องดูแลด้วย หากพบรถคันไหน ผู้ขับขี่คนใดมีท่าทีผิดสังเกตเข้าข่ายเคล็ดลับ 5 กลโกงที่กล่าวมา ให้ใช้มือถือที่พกพาแอบถ่ายภาพนิ่งหรือคลิปวิดีโอไว้เป็นหลักฐานแล้วโพสต์ผ่านเน็ตหรือแชร์ต่อในโซเชียลมีเดีย เตือนระวังภัยใกล้ตัวในสังคมทั่วกัน

5 เคล็ดลับจับกลโกงมิเตอร์...
เปลี่ยนยางล้อเล็ก
ต่อวงจรไฟ (มิเตอร์เทอร์โบ)
สลับมิเตอร์ 2 ตัว
เหมาจ่ายไม่กดมิเตอร์
ใช้ทางลัด,พาอ้อม,ไปในที่รถติด

 

Kaokala Fc

20 ก.พ. เปิดตัว ‘ซุปเปอร์คาร์’ พลังน้ำเกลือปลอดมลพิษ



นาโนโฟลวเซลล์ ผู้ผลิตรถสปอร์ตแห่งลิกเตนสไตน์ ประกาศการเปิดตัวรถสปอร์ตลีมูซีนพลังงานไฟฟ้า ที่มีความแรงถึง 1,090 แรงม้าจากมอเตอร์ขับเคลื่อน และแบตเตอรี่แบบเติมน้ำเกลือเป็นแหล่งพลังงาน ทำให้รถคันนี้ไม่ปล่อยไอเสียออกสุ่สิ่งแวดล้อมแม้แต่นิดเดียว

ผู้ผลิตเปิดเผยว่าการเปิดตัวครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดตัวรถต้นแบบแต่เป็นรถที่พร้อมผลิตออกจำหน่ายจริง เนื่องจากมีการเปิดตัวต้นแบบไปแล้วในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ เมื่อปี 2557

รถคันนี้ใช้แบตเตอรี่แบบไอโอนิค ที่ใช้น้ำเกลือเป็นสื่อนำไฟฟ้า โดยจะแยกเก็บน้ำเกลือที่มีประจุและไม่มีประจุไฟฟ้าแยกออกจากกัน เมื่อต้องการพลังงานไฟฟ้าระบบควบคุมจะนำน้ำเกลือทั้งสองแบบผ่านเข้าไปในเซลล์กลางของแบตเตอรี่ที่มีชุดเมมเบรน หรือ แผ่นกั้นขนาดบางที่สามารถปล่อยให้ประจุไฟฟ้าผ่านเข้าไปได้ เพื่อกำเนิดพลังงานไฟฟ้า ก่อนที่จะนำพลังงานไฟฟ้าที่ได้ส่งเข้าสู่คาปาซิเตอร์ หรือ ชุดเก็บประจุขนาดใหญ่ 2 ชุดก่อนที่จะป้อนเข้าสู่มอเตอร์ทั้งสี่ ที่ขับเคลื่อนล้อแต่ละชุดต่อไป

แหล่งพลังงานของรถคันนี้เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า โฟลว เซลล์ (Flow Cell) ที่อาศัยการไหลของของเหลวที่มีความต่างศักย์สูง เพื่อก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประจุระหว่างกัน ประสิทธิภาพของโฟลว เซลล์จะขึ้นอยู่กับขนาดของถังบรรจุของเหลวว่ามีขนาดเท่าใด ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดระยะทาง และ ความเร็วของการหมุนของมอเตอร์ที่ใช้ขับเคลื่อน

อย่างไรก็ตามแบตเตอรี่ประเภทนี้ต้องการการเปลี่ยนของเหลวชุดใหม่เมื่อของเหลวชุดเก่าถูกนำไปใช้จนหมด คล้ายกับการเติมน้ำมันในรถที่ใช้เครื่องยนต์

ทั้งนี้นาโนโฟลวเซลล์ ระบุว่าควอนท์ เอฟ มีศักยภาพในการเดินทางไกลถึง 800 กิโลเมตร และมีความเร็วสูงสุด 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากการติดตั้งถังบรรจุน้ำเกลือขนาดใหญ่ถึง 250 ลิตร และแบตเตอรี่โฟลว เซลล์ ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแรงถึง 20 แอมป์

 

ปริศนาแฮ็กเกอร์ขโมยเงินออนไลน์3หมื่นล้าน
เวิลด์วาไรตี้ : ปริศนาแฮ็กเกอร์ ขโมยเงินออนไลน์ 3 หมื่นล้าน



อาชญากรมักจะก้าวทันเทคโนโลยีอยู่เสมอ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงแทบทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก ยิ่งทำให้อาชญากรมีช่องทางในการปฏิบัติการด้านมืดได้มากยิ่งขึ้น หลายครั้งที่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อยังไม่รู้ตัว

อย่างกรณีที่แฮ็กเกอร์ด้านมืดที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า คาร์บานัค ใช้กลวิธีที่ซับซ้อนและแยบยล ขโมยเงินออกจากระบบธนาคารกว่า 100 แห่งใน 25 ประเทศได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทางแคสเปอร์สกี้ แล็บ ห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัยเครือข่าย ที่เป็นผู้ออกมาเปิดโปงปฏิบัติการด้านมืดของแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ระบุว่า ธนาคารที่เป็นเหยื่อสูญเสียเงินไปรวมกันราว 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท

แคสเปอร์สกี้ ติดตามการปฏิบัติการด้านมืดตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 เมื่อมีผู้พบว่าตู้เอทีเอ็มในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เกิดปล่อยเงินออกมาจากตู้โดยที่ไม่มีใครไปแตะต้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากสำหรับระบบธนาคารที่มีความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งเมื่อตามติดย้อนรอยกลับไป ก็พบว่ามีกลุ่มแฮ็กเกอร์ใช้มัลแวร์ชื่อว่า คาร์บานัค ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับกลุ่มแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม

มัลแวร์ คาร์บานัค ที่ถูกฝังไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ของธนาคารจะทำหน้าที่ราวกับพ่อบ้านคอยเก็บกวาดรายละเอียดด้วยการเก็บภาพหน้าจอของพนักงานธนาคารที่รับผิดชอบด้านการโอนเงิน ทุกๆ 20 วินาที และเรียนรู้การทำงานของพนักงานคนนั้น ก่อนที่จะส่งภาพหน้าจอและข้อมูลที่ได้มากลับไปยังผู้สร้างมัลแวร์ตัวนี้

เมื่อแฮ็กเกอร์รู้ว่าขั้นตอนการทำงานของพนักงานธนาคารเป็นเช่นใด ก็ทำการเจาะระบบเข้าไปและเลียนแบบขั้นตอนการทำงานของพนักงานธนาคาร โอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มที่เปิดไว้ในอีกธนาคารหนึ่ง และสั่งให้สมาชิกของกลุ่มคอยอยู่หน้าตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินสดๆ ออกมา ทีละเล็กทีละน้อย โดยธนาคารแห่งหนึ่งๆ ที่ตกเป็นเหยื่อจะถูกขโมยเงินจำนวนไม่มากราว 2.5-10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อรวมๆ แล้วยอดเงินที่แฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ได้ไปกลับมีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้น เงินที่โอนจะถูกนำเข้าบัญชีในสหรัฐอเมริกา และจีน

การทำเช่นนั้นก็เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจจับโดยระบบที่มีการกำหนดเพดานการโอนเงินไว้ตามกฎหมาย และเลี่ยงการถูกตรวจจับโดยฝ่ายไอทีของธนาคาร ซึ่งทำให้แฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ปฏิบัติการอย่างเงียบๆ ได้นานราว 2 ปี กว่าที่แคสเปอร์สกี้จะตรวจพบความผิดปกติ

แก๊งอาชญากรกลุ่มนี้เริ่มต้นเจาะระบบด้วยการใช้ ฟิชชิ่ง เมล หรือ อีเมลล่อลวงให้ผู้ใช้คลิกเข้าไปชม ซึ่งในอีเมลนี้จะแฝงไว้ด้วยมัลแวร์ และเนื้อหาที่ดูเหมาะสมกับพนักงานธนาคารที่เป็นเป้าหมาย ส่งไปยังพนักงานคนดังกล่าว เป็นขั้นตอนแรกในการเข้าถึงระบบเครือข่ายของธนาคาร

เมื่อมัลแวร์ได้เข้าไปในระบบของธนาคารแล้ว มันก็ทำหน้าที่เจาะไปยังระบบธนาคาร และวางระบบที่เรียกว่า เครื่องมือควบคุมระยะไกล (อาร์เอที) เปิดช่องให้กับแฮ็กเกอร์ดึงข้อมูลและบริหารจัดการคอมพิวเตอร์ของธนาคารผ่านช่องทางนี้ โดยมัลแวร์ คาร์บานัค จะเป็นตัวส่งสัญญาณว่ามีการทำธุรกรรมการโอนเงิน แล้วตัวมันเองจะเก็บภาพหน้าจอ บันทึกการกดปุ่มคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์เป้าหมาย นอกจากนั้นแฮ็กเกอร์ยังเจาะเข้าระบบกล้องตรวจการณ์ของธนาคารที่เก็บภาพของเป้าหมายในการตรวจสอบการใช้ชื่อบัญชีและรหัสผ่านของพนักงานเป้าหมาย

ด้วยวิธีเช่นนี้ทำให้แฮ็กเกอร์เรียนรู้การทำงานของพนักงานเป้าหมายได้ครบถ้วน และสามารถนำข้อมูลที่ได้มาทำการเลียนแบบการทำงานของพนักงานเป้าหมายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการโอนเงิน ซึ่งเป็นการปกปิดร่องรอยการปฏิบัติการด้านมืดได้เป็นอย่างดี

แต่ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่ามัลแวร์ตัวนี้ มีพฤติกรรมที่เหมือนกับพฤติกรรมของมัลแวร์ที่มีการใช้มาแล้วในอดีต นายอังตวน ชินากาเรฟ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของแคสเปอร์สกี้ อธิบายว่า ความซับซ้อนของมัลแวร์ที่ถูกใช้ในการโกงธนาคารครั้งประวัติศาสตร์นี้ และขั้นตอนการปฏิบัติการนั้น เหมือนกับที่รัฐบาลหลายประเทศเคยใช้ในการล้วงข้อมูลเป้าหมาย โดยการทำงานของรัฐบาลต่อเป้าหมายในแต่ละครั้งจะกินเวลาเพียง 2 เดือนและใช้แฮ็กเกอร์ราว 10 คนคอยจับตาดูพฤติกรรมของเป้าหมายในแต่ละด้านในแต่ละวัน

แต่ในครั้งนี้เป้าหมายคือธนาคาร 25 แห่ง ที่ส่วนใหญ่อยู่ในรัสเซีย สหรัฐอเมริกา เยอรมนี จีน และ ยูเครน

คำถามที่ตามมาก็คือ แฮ็กเกอร์ คาร์บานัค เป็นตัวจริงหรือ นอมินีที่ทำงานให้แก่รัฐบาลประเทศใดประเทศหนึ่งหรือไม่ และ อย่างไร แต่ที่แน่ๆ การลงมือของกลุ่มคาร์บานัค สร้างแรงสะเทือนไปทั่ววงการธนาคาร และผูผลิตระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายได้ดีทีเดียว

 

สปช.เชิญ "ปปง.-ดีเอสไอ" ชี้แจงเงินบริจาควัดพระธรรมกาย 23 ก.พ.นี้ Fri, 20/02/2015 - 20:02

สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เตรียมเชิญตัวแทนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเงินบริจาควัดพระธรรมกายกว่า 700 ล้านบาท ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

<iframe width="615" height="346" src="https://www.youtube.com/embed/WIFD3dzNdWU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.เปิดเผยถึงการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากเช็คที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ คลองจั่น ที่มีการสั่งจ่ายเงินออกไป 878 ฉบับ มูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นการสั่งจ่ายให้วัดพระธรรมกายกว่า 700 ล้านบาท ว่า ในส่วนของ ปปง.ถือว่าการตรวจสอบธุรกรรมเช็คสั่งจ่ายวัดพระธรรมกายเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งพบว่ามีการสั่งจ่ายเช็คโดยนายศุภชัยออกไปจริงหลายครั้ง ครั้งละกว่า 100 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ ได้เชิญตัวแทนวัดพระธรรมกายมาให้ปากคำแล้ว ซึ่งพบเงินทั้งหมดถูกนำไปสร้างศาสนสถาน โดยวัดพระธรรมกายได้นำเอกสารใบเสร็จต่างๆ มายืนยัน ขณะที่ ปปง.ขอดูเอกสารความเคลื่อนไหวทางการเงิน (สเตทเม้นท์) จากธนาคารเพื่อตรวจสอบ พบว่าเส้นทางการเงินถูกนำออกไปใช้ก่อสร้างดังกล่าวจริง ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าที่ธรณีสงฆ์เป็นที่ต้องห้ามยึด จึงทำให้ ปปง.ไม่สามารถยึดได้ ทั้งนี้ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 ทางกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้เชิญตัวแทนของ ปปง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษไปชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเงินกว่า 700 ล้านบาทนี้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
สปช.เชิญ "ปปง.-ดีเอสไอ" ชี้แจงเงินบริจาควัดพระธรรมกาย 23 ก.พ...

 

สหรัฐฯเผชิญอากาศหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุดในรอบ 20 ปี Fri, 20/02/2015 - 07:39

สหัรัฐฯเผชิญอากาศหนาวจัดเป็นประประวัติการณ์ หลังมวลอากาศเย็นจากขั้วโลกเหนือที่แผ่ปกคลุมพื้นที่แถบมิดเวสต์รวมทั้งชายฝั่งตะวันออกและตอนใต้ อากาศที่เย็นจัดแบบสุดขั้วทำให้อาคารบ้านเรือนรถยนต์และน้ำตกกลายสภาพเป็นน้ำแข็ง ในขณะที่โรงเรียนและสถานที่ราชการต้องสั่งปิด

<iframe width="615" height="346" src="https://www.youtube.com/embed/aTouNuT_lpc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

หลายพื้นที่ในสหัรัฐอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ผลจากมวลอากาศเย็นจากขั้วโลกเหนือแผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคตะวันออกของสหรัฐ โดยรัฐเคนตั๊กกี้อุณหภูมิดิ่งทำลายสถิติลงไปติดลบถึง 22 องศาเซลเซียส จากภาพอากาศที่หนาวเย็นแบบสุดขั้วทำให้อาคารบ้านเรือน รถยนต์ เย็นจัดจนกลายสภาพเป็นน้ำแข็งขณะที่น้ำตกไนแองการาซึ่งอยู่ระหว่างพรมแดนของสหรัฐกับแคนาดาก็เย็นจัดจนเป็นน้ำแข็งเช่นกัน และยังก่อให้เกิดทัศนียภาพที่สวยงาม

จากสภาพอากาศที่หนาวจัดยังส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกตั้งแต่เมืองบอสตันจนถึงเมืองริชมอนด์ในรัฐเวอร์จิเนียขณะที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อุณหภูมิดิ่งลงไปติดลบถึง 19 องศาเซลเซียสต่ำสุดในรอบ 20 ปี โรงเรียนและสถานที่ราชการต้องปิดทำการส่วนรัฐฟลอริด้าก็ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวจัดเช่นกันและคาดว่าอุณหภูมิในเมืองโอแลนโดของรัฐฟลอริด้าจะลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

ส่วนที่เมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนีย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมฉีดน้ำดับไฟที่ลุกไหม้อาคารหลังหนึ่ง แต่สภาพอากาศที่เย็นจัดทำให้น้ำที่ฉีดดับไฟกลายเป็นน้ำแข็งปกคลุมอาคารหลังดังกล่าวและอาคารที่อยู่ใกล้เคียง

สหรัฐฯเผชิญอากาศหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุดในรอบ 20 ปี - ข่าวไทยพีบีเอส - Th...

 

พระพุทธะอิสระคว่ำบาตรมติมหาเถรสมาคม
21 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 14:26 น.



+ พุทธอิสระ ถึงวัดปากน้ำ ถวายสังฆทาน ดอกไม้จันทน์-รองเท้า ลั่นชวนคว่ำบาตรมหาเถรสมาคม อ้างดัดสันดานกรณีมติธัมมชโย แนะตั้งชุดใหม่ทำหน้าที่แทน

เวลา 13.00 น. วันที่ 21 กพ. พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ได้เดินทางมาถึงวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พร้อมด้วยมวลชนจำนวนราว 200 คน ที่ประกาศจะมาทำบุญ พร้อมทวงถามถึงมติของมหาเถรสมาคม กรณีมีมติไม่ให้พระธัมมชโย วัดพระธรรมกาย ปาราชิก โดยมีกำลังตำรวจและทหารจำนวน 40 นายดูแลความเรียบร้อย

โดยเมื่อมาถึงพระพุทธอิสระได้นำตระกร้าขนาดใหญ่ บรรจุกางเกงขาสั้น กางเกงใน ปลากระป๋อง ที่นอน รองเท้า สากกระเบือ ดอกไม้จันทน์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเงิน 1000 บาท โดยเตรียมมอบให้กับมหาเถรสมาคม ซึ่งพระพุทธอิสระบอกแต่เพียงว่าตระกร้านี้มีความเหมาะสมที่จะให้มหาเถรสมาคมได้ใช้ นอกจากนี้ยังมีกระเช้าผลไม้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่วัดปากน้ำ ได้ปิดประตูกระจกบริเวณพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ไม่ให้พระพุทธอิสระเข้าไปทำบุญดังที่ตั้งใจไว้ โดยปล่อยให้คณะพระพุทธอิสระยืนอยูกลางแดดราว 20 นาที ทั้งนี้ พระพุทธอิสระถึงกับตัดพ้อว่า พระต้องการมาทำบุญ แต่กลับได้รับการต้อนรับอย่างไม่ให้เกียรติ

อย่างไรก็ตาม จากนั้นตำรวจที่มาดูแลความเรียบร้อยได้นิมนต์พระพุทธอิสระ ไปที่ศาลาสด ซึ่งมีพระพรหมโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ รอต้อนรับ และเตรียมตอบข้อซักถามต่างๆ ซึ่งจากนั้นพระพุทธอิสระได้เข้าไปภายในศาลา เพื่อซักถามกรณีอาบัติปาราชิกของพระธัมชโย โดยตำรวจและทหารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมรับฟัง

โดยใจความขณะมีการสนทนา พระพุทธอิสระได้ซักถามพระพรหมโมลีที่เป็นคณะกรรมการเถรสมาคมว่า การกระทำของพระธัมชโยที่ยักยอกทรัพย์ของประชาชน ทำไมจึงไม่มีความผิด หากเป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อพระเอาทรัพย์สินของประชาชนมาโดยที่ประชาชนไม่เต็มใจให้ และพระได้คืนทรัพย์นั้นไม่มีความผิดใช่หรือไม่ ตนจะได้ไปทำบ้าง

หลังจากใช้เวลาสนทนาราว 30 นาที พระพุทธอิสระ ได้ออกมากล่าวว่า กรรมการเถรสมาคมถือนิกายเป็นใหญ่ ไม่สนใจพระธรรมวินัย ดั่งกรณีของพระธัมชโย ที่ลิขิตพระสมเด็จพระสังฆราชเมื่อปี 2549 ให้ปาราชิกก็ไม่ได้สนใจปฏิบัติตาม ทั้งที่บทบัญญัติระบุชัดเจนว่าลิขิตสมเด็จพระสังฆราชถือเป็นกฎหมาย ดังนั้น จึงเป็นการชัดเจนแล้วว่ามหาเถรสมาคมในยุคนี้ไม่ได้ทำงานเพื่อทำนุบำรุงพุทธธศาสนา แต่เป็นเครื่องมือของการเมืองในศาสนาพุทธเท่านั้น

"ขอให้ช่วยกันคว่ำบาตรมหาเถรสมาคม อย่านิมนต์ อย่าใส่บาตร อย่าให้กินให้ใช้ เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมหาเถรสมาคม และการคว่ำบาตรพระก็ถือว่าไม่ผิด เพราะพระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าเป็นการดัดสันดานพระสงฆ์ แต่หากเขาไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมที่ยึดถือพวกพ้อง ไม่สนใจพระธรรมวินัย ก็ปล่อยให้ตายไปเอง" พระพุทธอิสระกล่าว

เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย กล่าวอีกว่า ในส่วนพระธัมชโยนั้น ได้สอบถามมหาเถรสมาคม ก็ทราบว่าก่อนจจะมีมติไม่ได้เรียกตัวพระธัมชโยมาสอบถามใดๆ ทั้งสิ้น และตัดสินจากรายงานของเจ้าคณะตำบลเท่านั้น จึงน่าแปลกที่สามารถตัดสินลงมติว่าไม่ปาราชิกได้ เพราะไม่มีศาลที่ไหนที่ตัดสินจำเลยโดยไม่ได้ซักถาม

อย่างไรก็ตาม การมาครั้งนี้ไม่ใช่การชุมนุม ขอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติโปรดเข้าใจ เพียงแต่ประชาชนติดตามมาทำบุญเท่านั้น

"เห็นได้ชัดว่าพุทธศาสนาไม่สามารถพึ่งพิงมหาเถรสมาคมได้แล้ว ควรจะมีคณะทำงานชุดใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทน" พระพุทธอิสระ ย้ำ

พระพุทธะอิสระคว่ำบาตรมติมหาเถรสมาคม - โพสต์ทูเดย์ ข่าวสังคม

 

อุตรดิตถ์ เปิดปาก 'ถ้ำลับแล' พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ก.พ. 2558 22:47



นายอำเภอลับแล ตั้งพิธีบวงสรวงเปิดปากถ้ำเมืองลับแล ‘ตำนานแห่งเมืองแม่ม่าย’อายุกว่า1,000 ปี เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ ชาวบ้านบางคนเจอเรื่องประหลาดระหว่างทำพิธีรู้สึกขนลุกซู่ทั้งตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันที่ 21ก.พ. นายธาตรี บุญมาก นายอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ และ ร.ต.สุบรรณ ชัยบู่ รองนายกเทศมนตรีตำบลศรีพนมมาศ ร่วมกับ ต.ฝายหลวง และทหารจากค่ายพระศรีพนมมาศ (ป.20) พร้อมประชาชนกว่า 200 คน ร่วมกันพัฒนาที่บริเวณม่อนจำศีล ม.6 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เส้นทางสู่เมืองถ้ำลับแล โดยหลังทำพิธีบวงสรวงเปิดปากถ้ำ ทางจังหวัดจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอเร็วๆ นี้

"ถ้ำดังกล่าวมีชาวบ้านเล่าขานว่าเมืองลับแล เมืองแห่งความลี้ลับที่มีทางออกทางเดียว คือประตูถ้ำเมืองลับแล นอกจากนี้ คนรุ่นก่อนยังบอกด้วยว่า เวลาในถ้ำนั้นแตกต่างจากเวลาข้างนอก ภายในมีทรัพย์สมบัติมากมาย พร้อมกันนั้น ยังมีสาวงามที่เป็นม่ายอาศัยอยู่มากมาย และอยู่มานับ 1,000 ปีแล้ว" นายอำเภอลับแล กล่าว

นายธาตรี กล่าวต่อว่า ได้นำบายศรี 1 ชุด ขนมต้มแดงและขาว ทองหยิบทองหยอด กล้วยและผลไม้ต่างๆ ใส่โตกโบราณของชาวลับแล นำขึ้นบวงสรวง โดยหลังจากทำพิธีเสร็จ ใช้จอบเคาะที่บริเวณปากถ้ำ ปรากฏว่ามีเสียงก้องกังวาน เป็นที่ประหลาดใจของผู้ร่วมงาน บางคนออกปากว่าขนลุกไปทั้งตัวขณะทำพิธีบวงสรวง

ด้านนายแก้ว ทาทิพย์ อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 ต.12 ต.ฝายหลวง กล่าวว่า สมัยตนเป็นหนุ่มตนเคยมายังถ้ำแห่งนี้ โดยปากถ้ำนั้นกว้างคูณยาว ประมาณ 12 เมตร เมื่อหลายปีก่อนปากถ้ำไม่ถูกหินปิด สามารถเข้าออกได้ เมื่อเดินเข้าไปจะไปเจอทางสามแพร่ง ตรงไปสามารถเดินทะลุสู่ ต.ทุ่งยั้ง เมืองเจ้าเงาะในตำนาน ส่วนอีกทางสามารถเดินทะลุไปโผล่ที่เมืองเก่าสุโขทัยได้

นายแก้ว กล่าวต่อว่า เรื่องเล่าปากต่อปากบอกกันมาว่า จะมีผู้หญิงลับแล ผิวอร่ามดั่งทองคำ และสวยราวกับนางฟ้า สวมผ้าซิ่นใส่เสื้อแขนกระบอก มีสไบพาดบ่า ซึ่งเป็นผ้าทอลับแล ออกจากถ้ำนำขมิ้นมาแลกเครื่องทอผ้า ซึ่งภายหลังขมิ้นที่นำมาแลกได้กลายเป็นทองคำ

"ยังมีเรื่องน่าแปลก ที่ทุกวันพระขึ้น 15 ค่ำ จะมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้น โดยชาวบ้านมักเห็นลูกแก้วแสงพุ่งสู่ท้องฟ้าตลอดจนถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังเคยมีพระธุดงค์มาขอปักกลดเพื่อปฏิบัติธรรม แต่ก็ไม่สามารถอยู่ได้ เพราะมีสิ่งเร้นลับมาขอส่วนบุญอยู่ตลอด" ชาวบ้าน ต.ฝายหลวง กล่าว


อุตรดิตถ์ เปิดปาก 'ถ้ำลับแล' พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

วิกฤติปลาร้า! วัตถุดิบน้อยลง ผลิตลดกว่า 20 ตัน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ก.พ. 2558 08:37



คนทำปลาร้าที่ อ.สร้างคอม อุดรธานี ถึงกับบ่นออกมาดังๆ หลังประสบปัญหาจากปริมาณปลาที่ลดลง จนผลิตออกมาได้น้อย ชาวบ้านไม่มีรายได้ ต้องไปหางานในเมือง เผยจากที่เคยทำได้ปีละ 30 ตัน ปีนี้เหลือแค่ 7-8 ตันเท่านั้น...

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 4 ต.โพนฆ้อง อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุนันทา คำสร้าง อายุ 63 ปี และนางศรีนวล คำสร้าง อายุ 61 ปี สองสามีภรรยาที่ยึดอาชีพทำปลาร้าขายสืบทอดมานานนับ 50 ปี โดยได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นพ่ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านรู้ดีว่า ผัวเมียคู่นี้มีความขยันขันแข็งในการทำมาหากินอย่างมาก

จากการที่ได้พูดคุยกัน นายสุนันทา บอกว่า ตนและครอบครัวยึดอาชีพการทำปลาร้าขายมานาน มีชาวบ้านใกล้ไกลมาซื้อปลาร้าที่ตนทำเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีนั้นต้องทำปลาร้าไว้จำหน่ายประมาณปีละ 30 ตัน ทำให้ตนและเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่มาช่วยกันทำปลาร้ามีรายได้พอเลี้ยงชีพ

อย่างไรก็ตาม พอมาถึงปีนี้ ปรากฏว่ามีปลาน้อยมาก นำมาทำปลาร้าได้ประมาณ 7-8 ตันเท่านั้น ปัญหาที่ตามมาคือชาวบ้านที่ตนเคยจ้างมาช่วยทำปลาร้า ไม่มีงานทำ บางคนก็ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ส่วนตนก็ประสบปัญหารายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย เงินที่ไม่เคยขาดมือก็ขาดมือ จะหันไปทำอาชีพอื่นก็ลำบาก ประกอบกับอายุมากแล้วต้องทำกันต่อไป

"สาเหตุที่วัตถุดิบคือปลาจะนำมาทำปลาร้ามีจำนวนน้อยลงทุกปี อาจมาจากปัญหาความแห้งแล้ง ปัญหาหนึ่งคืออำเภอสร้างคอมเป็นอำเภอสุดท้ายที่น้ำไหลมาจากเขื่อนห้วยหลวง ถือว่าเป็นประตูน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโขง และอีกอย่างคือ 2-3 ปีมานี้ ปลาในแม่น้ำโขงไม่สามารถขึ้นมาวางไข่ได้ เนื่องจากในช่วงฤดูปลาวางไข่ประตูน้ำก็จะถูกปิด พอหมดฤดูวางไข่ประตูน้ำก็ถูกเปิด และอีกอย่างที่มีผลกระทบกับอาชีพของชาวบ้านอำเภอสร้างคอมที่ทำปลาร้าขายก็คือแหล่งน้ำต่างๆ น้ำน้อยมาก เช่น อ่างเก็บน้ำพาน การหาปลาของชาวบ้านก็เลยได้น้อย" นายสุนันทา คนทำปลาร้ากล่าว

ทั้งนี้ อำเภอสร้างคอมถือว่าเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงในการทำปลาร้า และอาหารจากปลา มีตลาดปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่ผู้คนที่ผ่านไปมาต้องแวะซื้อหา.

วิกฤติปลาร้า! วัตถุดิบน้อยลง ผลิตลดกว่า 20 ตัน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

มะกันหนาวมาก! สัปดาห์เดียวคร่าแล้ว 23 ศพ จ่อเย็นขึ้นอีก
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ก.พ. 2558 15:35


(ภาพ: AFP PHOTO/NASA)

สภาพอากาศหนาวจัด ที่กำลังเล่นงานภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 23 คน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐเทนเนสซีเป็นรัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ที่ 18 ราย...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินรัฐเทนเนสซี ว่า ผู้เสียชีวิต 3 จาก 18 ราย ประกอบด้วย ชาย หญิง และลูกชายของพวกเขา เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านหลังหนึ่งในนอกซ์ เคาน์ตี โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาได้ทันเวลา เพราะว่าชั้น 2 ของตัวบ้านพังถล่มลงมา

ส่วนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ในรัฐเทนเนสซี เสียชีวิตจากภาวะอุณหภูมิในร่างกายลดต่ำเกินไป รวมถึงอุบัติเหตุรถยนต์และมีคนไข้ ซึ่งต้องเข้ารับการฟอกไตคนหนึ่งเสียชีวิต เพราะติดหิมะ ไม่สามารถเดินทางไปรับการรักษาได้

ในขณะเดียวกัน ประชาชนมากกว่า 2,700 คน ในรัฐเทนเนสซี กำลังประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้ ในขณะที่พยากรณ์อากาศ ระบุว่า ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า อากาศจะหนาวเย็นขึ้นอีกและมีฝนเยือกแข็งและหิมะตกลงมาซ้ำเติมสถานการณ์


ทั้งนี้ นักอุตุนิยมวิทยาของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุว่า สภาวะอากาศหนาวอันตราย จะยังคงเกาะกุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ต่อไป โดยมีชาวอเมริกันอย่างน้อย 125 ล้านคน ได้รับคำเตือน หรือคำแนะนำให้ระวังปรากฏการณ์ ลมหนาว (Wind chill) ซึ่งเป็นสภาวะที่กระแสลม ทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นกว่าอุณหภูมิที่แท้จริงของอากาศ

นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนว่า จะเกิดหิมะ, ฝนลูกเห็บ และฝนเยือกแข็ง ตกทั่วไปในภูมิภาค มิด-เซาท์ และภูมิภาค มิด-แอตแลนติก ของสหรัฐฯ ในอีก 2 วันข้างหน้า มีคำเตือนพายุน้ำแข็งที่เมืองแนชวิลล์ ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างอีกครั้ง และมีคำเตือนพายุฤดูหนาวครั้งใหม่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเคนทักกี และจะกระจายไปยังชายฝั่งตะวันออกในสุดสัปดาห์นี้

มะกันหนาวมาก! สัปดาห์เดียวคร่าแล้ว 23 ศพ จ่อเย็นขึ้นอีก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ฝนหนักส่งผลดี เขื่อน'ลำตะคอง'เก็บน้ำอุปโภคบริโภคได้เพิ่ม
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 22 ก.พ. 2558 07:12



ชาวโคราชเฮ หลังฝนตกหนักแทบทุกพื้นที่ ส่งผลดีเขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำเพิ่ม สามารถส่งน้ำทำประปาให้ประชาชนอุปโภค บริโภค ได้มากยิ่งขึ้น

วันที่ 21 ก.พ. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบจากคลื่นลมตะวันตกจากประเทศพม่าเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรก

ล่าสุด ช่วงสายวันนี้ (21 ก.พ. 58) นายสุทธิโรจน์ กองแก้ว ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า หลังจากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบดังกล่าว ส่งผลให้ในหลายพื้นที่มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลที่ดี เนื่องจากทำให้ปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำตะคองที่จากเดิมมีปริมาณน้ำที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลำตะคอง เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 3-4 แสน ลบ.ม. ทำให้เขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่ที่ 138.40 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 43% ของความจุกักเก็บซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามาสามารถช่วยชดเชยกับปริมาณน้ำที่ทางเขื่อนลำตะคองต้องมีการจัดส่งออกไปในการอุปโภคบริโภคและจัดส่งไปยังโรงผลิตน้ำประปาในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 5 แสน ถึง 7 แสน ลบ.ม.

นายสุทธิโรจน์ เผยอีกว่า การที่เขื่อนลำตะคองได้มีการจัดส่งน้ำออกไปนั้น ก็จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน และปริมาณน้ำกินน้ำใช้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ก็จะทำให้มีการใช้ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นทางเขื่อนลำตะคองจำเป็นต้องมีการเพิ่มจำนวนปริมาณน้ำที่จัดส่งออกไป หากพบว่าในทุกพื้นที่มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงตามลำคลอง ทางเขื่อนลำตะคองก็จะลดปริมาณน้ำที่จัดส่งออกไป เพื่อให้มีความสมดุลกัน

นายสุทธิโรจน์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ได้จัดงาน "รวมคนลำตะคองรำลึก 50 ปี" ในการก่อสร้างเขื่อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุครบ 60 พรรษา เพื่อเป็นสิริมงคลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล เป็นขวัญและกำลังใจกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่เพื่อจะให้เขื่อนลำตะคองมีน้ำอุดมสมบูรณ์ตลอดไป และยังเป็นการทำบุญในรอบหลายสิบปี โดยได้จัดพิธีสักการะศาลปู่มงคลหรือศาลสถิตประจำเขื่อน ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเขื่อนลำตะคอง มีการนำพานบายศรี และพิธีบนบานขอฝนจากศาลเพียงตา ซึ่งเป็นรูปปั้นพญานาคชูหัวและประกอบพิธีทำบุญตามศาสนา มีการปล่อยนกปล่อยปลา บริเวณสันเขื่อน

"การทำบุญใหญ่ครบรอบก่อสร้างเขื่อน 50 ปี ในครั้งนี้ถือเป็นการสักการะศาลปู่มงคล ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเขื่อนลำตะคอง รวมทั้งการขอให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ขอให้เขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำอุดมสมบูรณ์ตลอดไป เพื่อพี่น้องประชาชนท้ายเขื่อนได้มีน้ำใช้อย่างยั่งยืนตลอดไป ซึ่งเรามีการบวงสรวงเจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ดูแลปกปักรักษาเขื่อนลำตะคองมากว่า 50 ปี และเพื่ออุทิศบุญกุศลให้กับเจ้าหน้าที่ชลประทาน และพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ที่ล่วงลับไปแล้วในระหว่างที่มีการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้" นายสุทธิโรจน์กล่าว

ฝนหนักส่งผลดี เขื่อน'ลำตะคอง'เก็บน้ำอุปโภคบริโภคได้เพิ่ม - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 ก.พ.58 อังกฤษ คือ ต้นแบบของการค้ามนุษย์ ใช้แรงงานทาสระดับโลก
แรงงานต่างชาติ จำนวนมากต้องการเข้ามาทำงานบนเรือประมงแถบคอร์นวอลล์ ในประเทศอังกฤษ โดยให้นายหน้าจัดหางานให้และชำระค่านายหน้ากว่า 100,000 บาท พร้อมลงนามในสัญญาตกลงว่า จะทำงานลงเรือออกหากุ้งเป็นเวลา 48 ชม.ต่อสัปดาห์
แต่เมื่อเดินทางมาถึง พวกเขาต้องผิดหวัง นอกจากจะไม่ได้ทำงานที่บริเวณที่เขาถูกหลอกต้มไว้แล้ว พวกเขายังถูกส่งไปออกเรือในน่านน้ำที่ไกลออกไปแถบไอร์แลนด์เหนือ รวมทั้งไม่ได้รับการอบรมเรื่องการทำงานหาปลาหากุ้งบนเรือประมง และไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาที่ว่าด้วยการทำงานอีกด้วย
โดยพวกเขาทำงานวันละ 20 ชม. ติดต่อกันไม่ได้มีเวลาพักทุกวัน นอกจากนั้นไต้ก๋งเรือยังปฏิบัติกับพวกคนงานราวกับพวกเขาไม่ได้เป็นมนุษย์ แต่คนงานเหล่านี้ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เนื่องจากประเภทของวีซ่าที่พวกเขาได้รับก่อนเข้ามาทำงาน คือวีซ่าประเภทขอเดินทางผ่าน ที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติ
ที่ไม่ใช่คนที่มาจากสหภาพยุโรป อยู่บนเรือที่อยู่นอกน่านน้ำอังกฤษได้ วีซ่าประเภทนี้อนุญาตให้ผู้ถือวีซ่า พำนักระหว่างการรอเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางสุดท้าย นั่นหมายความว่า หากคนงานที่ถือวีซ่าประเภทขอเดินทางผ่าน ออกจากเรือประมงเมื่อใด พวกเขาจะถือว่าทำผิดกฎหมายเข้าเมืองของอังกฤษทันที
ดังนั้นพวกแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานบนเรือประมง จึงต้องติดอยู่บนเรือประมงของอังกฤษไปเรื่อย ๆ สภาพความเป็นอยู่ของแรงงานเหล่านี้ถือว่าย่ำแย่มาก เช่น ที่พักคับแคบ ไม่มีการอบรมเรื่องความปลอดภัยก่อนการเข้าทำงาน และยังไม่ได้รับค่าแรงใด ๆ ด้วย
ทั้งนี้เรือประมงใช้วิธีนี้ ที่ใช้แรงงานชาวต่างชาติเนื่องมาจากหลายเหตุผล เช่น งานลักษณะนี้ไม่เป็นที่ต้องการของคนท้องถิ่น และยังสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจให้แก่เจ้าของเรืออีกด้วย เพราะแรงงานเหล่านี้จะพัฒนาฝีมือของตนขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ปฏิบัติงานบนเรือประมง
เหตุการณ์เหล่านี้จัดได้ว่าเป็นการ "ค้ามนุษย์ และใช้แรงงานทาสยุคใหม่ " ซึ่งทางรัฐบาลอังกฤษทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ทำเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ยังไม่มีแผนการใดที่จะออกมาช่วยอุดช่องโหว่ของกฎหมายคนเข้าเมืองดังกล่าว
------------------------------->
อังกฤษเคยกล่าวหาไทยว่า ใช้แรงงานพม่า ในการทำประมงในลักษณะค้ามนุษย์ แล้วแบบนี้ทางอเมริกาและอังกฤษเรียกว่าอะไร อยากให้ชาติตะวันตก ช่วยอธิบายการค้ามนุษย์แบบนี้ด้วย
@ เสธ น้ำเงิน3 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 ก.พ.58 ยูเครนโจมตีท่อส่งแก๊สประชาชน และเมื่อทหารถูกจับจะเกิดอะไรขึ้น ??
แม้ว่าจะมีการเจรจา 4 ฝ่าย และตกลงหยุดยิงในยูเครนไปแล้ว แต่สถานการณ์สู้รบก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะเป้นไปตามข้อตกลง เพราะรัฐบาลยูเครน สั่งทหารไม่ให้ยอมแพ้ ให้สู้จนตัวตายไปแม้จะตกอยุ่ในวงล้อมของนักรบนิยมรัสเซีย นักรบพวกนี้บางส่วนเป็นพวกนักรบรับจ้างอาร์ชอพหัวรุนแรง ดังนั้นพวกนี้จึงมุ่งทำลายสาธารณูปโภค ท่อแก๊ส และบ้านเรือนประชาชนในเมือง
ส่งผลให้รัฐบาลยูเครนอ้างว่า ยังมีการสู้รบกันอยู่จึงจะงดส่งส่งแก๊สให้ประชาชนในเขตสู้รบ ส่งผลให้ชาวเมืองใน 2 แคว้นคือโดเน็ท และลูฮันส์ เกลียดชังรัฐบาลยูเครนอย่างมาก ในขณะเดียวกันเมื่อรัสเซียทราบข่าว ปูตินเร่งขนส่งขบวนรถคอนวอยแก๊ส และสิ่งของช่วยเหลือกับประชาชนที่ทุกยากทันที
โดยไร้ความช่วยเหลือใดๆ จากชาติตะวันตกและ UN ส่วนทหารยูเครนที่ยอมแพ้เป็นเชลย ที่ถูกนักรบนิยมรัสเซียควบคุมตัวได้ ก็มีที่พักอาศัยเป็นสัดส่วน มีหนังสือให้อ่าน และทำโทษเพียงเล็กน้อยโดยการ "ให้ความสะอาดถนน " ที่มีเศษซากปรักหักพังจากระเบิดที่พวกเขายิงใส่ชาวเมืองเท่านั้น
เรื่องคุณธรรม และมนุษยธรรมนั้น ห่างชั้นกันเทียบไม่ติดฝุ่น ระหว่างรัฐบาลยูเครน อเมริกา กับ นักรบนิยมรัสเซีย กับทางหมีขาว ยิ่งตอนนี้เยอรมัน และฝรั่งเศส ขู่จะคว่ำบาตร รัสเซียรอบใหม่ จึงมองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ การยุติสงครามในสงครามยุโรปในรอบปีนี้
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 ก.พ.58 กลยุทธก่อการร้าย ขู่เมื่อชาติพันธมิตรคิดแตกแถว
เกิดเหตุไฟไหม้ตึกสูงระฟ้า Marina torch tower สูง 79 ชั้น ซึ่งมีความสูงประมาณ 336 เมตร ตั้งอยู่ในเขตดูไบ มาริน่า ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต้นเพลิงเกิดจากชั้นที่ 50 มีคนสำลักควันหลายคน หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทยอยอพยพผู้คนนับร้อยบนตึกแห่งนี้ รวมถึงอพยพคนบริเวณอาคารใกล้เคียงด้วย
มีเปลวเพลิงออกมาจากด้านข้างของตึกสองด้าน มีกระจกและโลหะปลิวตกลงมาจากตัวอาคารใกล้ยอดตึก ไฟเริ่มลุกลามไปหลายชั้น มีประชาชนพักอาศัยอยู่ในตึกราวๆ 1 พันคน ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
----------------------------------->
ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรต (UAE) คิดจะถอนตัวจากการใช้กำลังทางอากาศโจมตีกลุ่มรุกรานดินแดน ซีเรีย และอิรัก ที่กระทำโดยเจ้าของประเทศไม่ยินยอม และ UN ไม่มีมติรองรับ มีเฉพาะชาติตะวันตกที่นำโดยอเมริกา รับรองเท่านั้น
ถ้า UAE ถอนตัวได้ ประเทศอื่นๆ ก็จะเอาอย่างบ้าง อเมริกา ก็ขาดลูกน้องที่จะให้ชาวมุสลิมฆ่าฟันกันเอง ดังนั้นไฟไหม้ใหญ่ ที่ตึกสูงระฟ้าของ UAE จึงเกิดขึ้นทันที คล้ายๆ ฝรั่งเศส , เดนมาร์ก , ญี่ปุ่น , จอร์แดน , อียิปต์ โดนนั่นแหละ เพื่อปรามว่า "อย่าแตกแถว" ??
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
https://www.facebook.com/thailandcoup

 

ปอกเปลือก ทรราช
ประท้วง 3 ที่ใน 3 ประเทศ รัสเซีย-ยูเครน-ฝรั่งเศส



----------------
เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 58) มีการเดินประท้วงอย่างน้อย 3 แห่งใน 3 ประเทศด้วยกันคือที่รัสเซีย ยูเครน และฝรั่งเศส ที่รัสเซียนั้นมีประชาชนประมาณ 40,000 คนร่วมขบวนประท้วงเป็นการเดินประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจในยูเครนที่เรียกว่า "Anti-Maidan" เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝูงนักข่าวนำหน้าขบวบมีแตรวงและมโหรีนำหน้า ไม่มีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นการประท้วงเป็นไปด้วยความสนุกสนานไร้เหตุรุนแรง โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นคนวัยกลางคนขึ้นไป พูดง่ายๆก็คือเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะและเป็นผู้ใหญ่แล้วนั่นเอง 2-3 วันก่อนหน้านั้นพรรคฝ่ายค้านของรัสเซียที่นิยมอเมริกันมายึ่นเรื่องต่อทางการว่าจะเดินขบวนประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย วันต่อมาเจอตำรวจรัสเซียจับยัดซังเตเป็นแล้วเป็นเวลา 15 วันโทษฐานทำให้ประชาชนแตกแยกและเป็นภัยต่อบ้านเมือง เพราะรัฐบาลนี้ก็มาจากการเลือกตั้งอย่างที่อารยะประเทศเขาทำเช่นกัน
ส่วนที่ยูเครนก็มีการเดินประท้วงเช่นกัน ส่วนมากจะเป็นเด็กวัยรุ่นนักศึกษาที่สมองยังต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก พวกนี้ออกมาประท้วงเรียกร้องผู้กระทำการสังหารหมู่การจลาจลเผาบ้านเผาเมืองที่จตุรัสไมดานเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว งานนี้ไม่มีเหตุรุนแรงเช่นกัน นักศึกษาพวกนี้ถูกตะวันตกปั่นหัวให้ออกมาเรียกร้องให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกอียู ส่วนพวกมือที่สามที่มีสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังก็เตรียมพวกกองกำลังติดอาวุธอิสระทำการสังหารผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจุดไฟเผาบ้านเผาเมืองตัวเองจนเหตุการณ์ลุกลามไม่สามารถควบคุมได้ ต่อมากลุ่มติดอาวุธดังกล่าวก็กล่าวหาว่ารัฐบาลชุดที่แล้วฆ่าประชาชน ก็ทำการยึดอำนาจทำให้อดีตผู้นำของยูเครนต้องหนีไปพึ่งปูตินที่รัสเซีย จากนั้นสหรัฐฯก่อส่งตัวแทนมาเป็นโปรเกอร์จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาแทนผ่านกระบวนการเลือกตั้งบังหน้า
จากรายงานพบว่าพวกผู้ชายที่ร่วมเดินประท้วงที่จุตรัสไมดานเมื่อปีที่แล้วได้พากันหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศและประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เพราะหลีกเลี่ยงการถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารให้ไปสู้รบเข่นฆ่าพี่น้องชาติเดียวกันที่ยูเครนตะวันออก พวกที่หลบหนีไปได้ส่วนมากจะเป็นผู้ที่ค่อนข้างมีฐานะเป็นนักศึกษาและมีญาตอาศัยอยู่ต่างประเทศ ส่วนพวกที่ไม่ได้หลบหนีและเข้าร่วมการประท้วงในครั้งนี้ก็จะเป็นพวกอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ทหาร และเป็นพวกวัยรุ่นผู้หญิงเป็นส่วนมาก ในสมองของพวกนี้ยังไม่มีอะไรนอกจากคำว่า "ประชาธิปไตย" และคำว่า "เลือกตั้ง" แบบอเมริกาเท่านั้น
ส่วนการประท้วงที่ฝรั่งเศสที่ถนน Nantes และ Toulouse ทางตะวันตของเมือง Nantes เป็นการประท้วงการใช้ความรุนแรงของตำรวจในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง มีผู้เข้าร่วมประท้วงประมาณ 800 คน งานนี้มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าที่ตำรวจด้วย ตรวจก็ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาเข้าสลายผู้ชุมนุม ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย มีผู้ประท้วงจำนวน 25 รายถูกจับกุม
The Eyes
22/02/2558
--------------
http://rt.com/politics/234375-moscow-anti-maidan-demo/
Around 40,000 Muscovites March Against 2014 Deadly Ukraine Uprising / Sputnik International
Anti-Maidan Protesters Rally in Moscow / Sputnik International
Bonfire of Illusions: Rally in Kiev on Maidan Anniversary / Sputnik International
http://rt.com/in-motion/234415-moscow-anti-maidan-rally/
http://rt.com/in-…/234071-ukraine-lvov-maidan-commemoration/
25 Protestors Arrested Demonstrating Against Police Violence in France / Sputnik International
Brief History of Maidan Protests / Sputnik International
http://www.reuters.com/…/us-france-shooting-idUSKBN0KK05S20…
http://rt.com/news/234439-nantes-toulouse-protests-violent/

 

ปอกเปลือก ทรราช



นักโทษในคุกเท็กซัส 2,800 คนอัพไรซิ่งก่อการจลาจลเผาคุกประท้วงการดูแลทางการแพทย์ห่วย
----------------
ผู้ต้องขังจำนวน 2,800 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพทำการยึดคุกเท็กซัสก่อการจลาจลเผาคุกประท้วงการให้บริการด้านการแพทย์ที่แย่มากๆของรัฐแก่นักโทษ การจลาจลดังกล่าวเกิดขึ้นที่เรือนจำ Willacy County Correctional Center ในรัฐเท็กซัดเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมาเมื่อเหล่านักโทษปฏิเสธอาหารเช้า และการเข้ารายงานตัวเพื่อเข้าทำงาน การต่อรองกันระหว่างเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายของรัฐกับนักโทษดำเนินการมาจนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อพยายามเข้าควบคุมสถานการณ์ภายในคุก เจ้าหน้ากล่าวว่าสถาการณ์ในช่วงเย็นวันเสาร์ยังไม่ได้รับการแก้ไข แปลกไม่เห็น CNN กับ BBC ลงข่าวนี้เลย
The Eyes
22/02/2558
-----------
http://rt.com/usa/234471-texas-uninhabitable-prison-riot/
2,800 Inmates Seize Texas Prison in ‘Uprising’ Against Bad Medical Care / Sputnik International
http://www.reuters.com/…/us-usa-texas-prison-idUSKBN0LP0TK2…

 

ปอกเปลือก ทรราช
เศรษฐกิจรัสเซีย-จีน และการก่อตั้งธนาคารของกลุ่ม BRICS



--------------
หันมาดูสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศมหาอำนาจคู่แข่งอเมริกาบ้างครับ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศ (RT News) รายงานว่ารัสเซียกับจีนจับมือกันเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจมีแผนจะขยายการค้าการลงทุนร่วมกันระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นอีก โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้จะรวมถึงด้านการเงิน การบิน และอวกาศ เพื่อพัฒนาด้านการค้าและเศรษฐกิจร่วมกัน โดยในปี 2014 ทั้งสองประเทศมีการค้าระหว่างกันที่มีมูลค่าถึง $95.3 billion (ประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท) รัสเซียกับจีนหวังว่าภายในปี 2020 (อีก 5 ปีข้างหน้า) จะสามารถขยายการลงทุนร่วมกันได้ถึง $200 billion (ประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท) โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศได้ลงนามร่วมกันแล้วว่าจีนจะรับซื้อแก๊สจากรัสเซียที่มีมูลค่าถึง $400 billion (ประมาณ 13.1 ล้านล้านบาท) งานนี้ไม่เกี่ยวกับอเมริกาและอียูเลย นี่แหละที่ทำให้อเมริกาต้องรีบหาทางสกัดรัสเซียทุกวิถีทาง ด้วยการ proxy war ขึ้นในยูเครนอยู่ตอนนี้ไง
และเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 58 ที่ผ่านมานี้ก็พึ่งจะมีข่าวออกมาว่า สภาดูม่าของรัสเซียได้อนุมัติโครงการเงินกองทุนร่วมธนาคารสากลของกลุ่ม BRICS ที่มีเงินสำรองถึง $100 billion (ประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท) (BRICS = Brazil, Russia, India, China และ South Africa) ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนี้ใช้สำหรับพัฒนาโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่ของแต่ละประเทศสมาชิก (infrastructure projects) ธนาคาร BRICS นี้จะกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ World Bank และ IMF ที่นำโดยตะวันตก ธนาคารด้านการพัฒนาแห่งใหม่นี้จะสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ภายในสิ้นปี 2015 นี้ แนวความคิดในการริเริ่มก่อตั้งธนาคาร BRICS นี้เกิดขึ้นโดยความคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำคนปัจจุบันของจีนในช่วงเดือน กรกฎาคม 2014 โดยจะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ของจีน โดยจะให้อินเดียดำรงตำแหน่งประธานของธนาคารเป็นคนแรกซึ่งจะหมุนเวียนกันไปทุก 5 ปี และให้บราซิลเป็นประธานกรรรมการผู้จัดการคนแรกของธนาคาร
ไทยจะไปขอเข้าร่วมทีหลังอีกซักประเทศหนึ่ง เป็น BRICS+1 จะได้หรือเปล่าหนอนี่ งานนี้ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ถูกอเมริกาเขม่นไว้ไม่ให้เข้าร่วมกับกลุ่มนี้ก็เลยชวดซะ ส่วนอินโดนีเซียกับบราซิลนี่ก็ระหองระแหงกันอยู่เรื่องที่อินโดสั่งประหารนักโทษค้ายาเสพติดชาวบราซิล ทำให้ผู้นำคนปัจจุบันของบราซิลไม่ยอมเซ็นชื่อรับรองตำแหน่งทูตคนใหม่ของอินโดที่ส่งไปประจำประเทศบราซิลประมาณว่างอนว่างั้นเถอะ ทางรัฐบาลอินโดนีเซียก็ชักจะไม่ชอบใจท่าทีแบบนี้ของบราซิลเช่นกัน ก็เลยมีสั่งเรียกทูตของอินโดกลับจากบราซิลทันที อินโดคงนึกในใจว่ารู้งี้ไปเข้ากับจีนดีกว่า ส่วนอีกคดีหนึ่งที่กำลังจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอินโดกับออสเตรเลียเช่นกันก็คือคดียาเสพติดที่รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังจะสั่งลงโทษประหารชีวิตนักโทษค้ายาเสพติดชาวออสเตรเลียอีกเช่นกัน ทางออสเตรเลียพยายามอย่างหนักที่จะหาทางช่วยเหลือชีวิตนักโทษของตัวเองให้ลอดพ้นจากความตายในต่างแดนเพราะไปทำผิดกฎหมายร้ายแรงของประเทศอื่น แต่อินโดนีเซียก็ไม่ยอม โดยบอกว่ากฎหมายก็คือกฎหมาย ไม่ต้องเอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาขู่กันเมื่อทำผิดก็ต้องได้รับการลงโทษอย่ามาอ้างเรื่องปรองดองกันมันไม่เกี่ยวกัน เท่าที่ติดตามข่าวนี้มาพบว่าระบบประชาธิปไตยแบบออสเตรเลียจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการเคารพกฎหมายของประเทศอื่น เลือกที่จะช่วยเหลือคนของตัวเองอย่างเดียวแม้จะกระทำผิดกฎหมายร้ายแรงของประเทศนั้นๆ งานนี้คงคิดว่าจะใช้วิธีบังคับให้ต่างชาติยอมปล่อยตัวนักโทษของตัวเองเหมือนที่พึ่งทำสำเร็จในกรณีช่วยเหลือนักข่าวอัลจาซีราในอียิปต์ที่ต้องโทษสนับสนุนการก่อการร้ายได้อีกนะสิ ดูต่อไปว่าออสเตรีเลียจะยื่นผลประโยชน์อะไรให้ทางอินโดนีเซียเพื่อแลกกับการช่วยเหลือคนของตัวเองในครั้งนี้
The Eyes
22/02/2558
--------------
http://rt.com/busine…/233051-russia-china-boost-partnership/
http://rt.com/business/234027-russia-ratifies-brics-bank/
ผู้นำบราซิลเคืองเชิดใส่สาส์นตราตั้งทูตอินโดฯ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
อินโดนีเซียเรียกทูตประจำบราซิลกลับประเทศ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ปอกเปลือก ทรราช

สื่อฯรัสเซียลงสำรวจความเป็นอยู่ของชาวบ้านหลังสงคราม
---------------
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เขต Debaltseve พากันออกมาจากที่หลบภัยหลังจากกองทัพยูเครนถอนกำลังออกจากพื้นที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยชาวบ้านเหล่านี้ออกมาดูความย่อยยับของบ้านเรือนของพวกเขาและกล่าวกับสื่อฯว่า พวกเขาอยากกล่าวขอบคุณพวกยูเครนที่ทำลายที่อยู่อาศัยของพวกเขาและทำให้พวกเขาไร้พักอาศัย ชาวบ้านเหล่านี้พากันออกมาเก็บสิ่งของอาหารที่พวกทหารยูเครนทิ้งเอาไว้หลังสงคราม
ป.ล. ดูคลิปที่ :

<iframe width="487" height="274" src="https://www.youtube.com/embed/nFNSuVBgtAs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
The Eyes
21/02/2558
--------------
http://rt.com/news/234323-ukraine-troops-pullout-civilians/

 

ทึ่ง แพทย์เชียงใหม่-รามใช้ ‘ขิง พุทราจีน เห็ดหูหนู’ ช่วยรักษาเส้นเลือดสมองตีบได้ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558



ที่คลินิคโรคทางสมองและประสาท ห้อง 4 ชั้น 4 โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นพ.ประชา กัญญาประสิทธิ์ หรือ หมอเบิร์ด ประสาทและศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม อายุ 39 ปี เปิดเผยว่า จากการรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบมาเป็นเวลานานพบว่า โรคนี้เป็นโรคที่ติดอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิต โดยปี 2557 เส้นเลือดในสมองตีบทำให้คนเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 และก่อให้เกิดความพิการเป็นอันดับ 1 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูงมาก ทั้งการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันเฉลี่ยครั้ง 15,000 บาทต่อครั้ง และการใส่สายสวนเพื่อขยายหลอดเลือดแดงเฉลี่ย 200,000 บาทต่อครั้ง
“สาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบมี 3 ประการ ด้วยกันคือ 1.หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือลิ้นหัวใจมีปัญหา 2.เส้นเลือดที่บริเวณลำคอตีบทำให้ส่งเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ และ 3.สมองตันจากไขมันหรือหินปูนเกาะ ซึ่งคนทั่วไปที่หากมีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีโอกาสที่จะเส้นเลือดในสมองตีบได้ โดยเปรียบเทียบจากท่อน้ำที่มีอายุ มองภายนอกอาจไม่ทราบเพราะน้ำยังไหลอยู่ ไม่มีอาการ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ตีบหรือตัน ภายในย่อมเกิดสนิมเกาะและในที่สุดก็จะอุดตันได้ หรือคนที่มีโรคความดัน ไขมัน เบาหวาน และสูบบุหรี่ มีโอกาสที่เส้นเลือดจะขรุขระหรืออุดตันได้ง่าย และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ รักษาทันก็ดีไป แต่หากไม่ทันมีโอกาสพิการ เรียกว่า ครึ่งต่อครึ่งพิการหากเป็น หรือเป็นอัมพาตได้ จึงคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้”

นพ.ประชา กล่าวว่า ที่ผ่านมาโรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม มีคนไข้ในความดูแลหลายรายที่มารักษาด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งเรามีนวัตกรรมใหม่ในการรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ใช้ใส่สายสวนลงไปที่เส้นเลือดแดงผ่านไปยังเส้นเลือดแดงใหญ่ที่หน้าอก คอ สมอง ขยายหลอดเลือดแดงที่สมอง แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีคนไข้รายหนึ่งเป็นชายมีอาการหลอดเลือดที่คอตีบเข้ามารับการรักษาเลือดไม่สามารถส่งผ่านไปเลี้ยงสมองทำให้เกล็ดเลือดอุดเป็นก้อน มีอาการอ่อนแรงและอัมพาตชั่วคราว ทางเราใช้ยารักษาและป้องกันจนอาการดีขึ้น แต่ต่อมาเกิดอาการซ้ำ มีการใช้ยาเพิ่ม 2 ตัว แต่เอาไม่อยู่ต้องผ่าตัดเพื่อทำบอลลูนขยายเส้นเลือด

“คนไข้รายนี้กลัวการผ่าตัดมาก จึงตัดสินไม่ผ่าตัด และขอไปรักษากินยาสมุนไพร ซึ่งหมอเตือนไปว่าอาจเกิดอาการอุดตันซ้ำ ขอให้กินยาแผนปัจจุบันที่หมอให้ควบคู่ไปด้วย 6 เดือนผ่านไปปรากฎว่าว่ามีเรื่องน่าสนใจและไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น หลังจากหมอเอกซ์เรย์และฉีดสีดูเส้นเลือดที่ตีบเส้นเดิมนั้น เส้นเลือดที่เคยตีบ หรือขรุขระ กลับเรียบสวย ไม่ต้องผ่าตัดแล้ว เป็นเรื่องที่หมอไม่เชื่อแต่น่าสนใจจึงสอบถามว่าไปทำอย่างไรมา คนไข้อธิบายได้ความว่าได้นำขิง พุทราจีนแห้ง และเห็ดหูหนูดำ มาตุ๋นรวมกัน ดื่มเช้า-เย็น กินแทนน้ำ ปัจจุบันหยุดยาแผนปัจจุบันไปเลย”

นพ.ประชา กล่าวว่า รายที่ 2 มีอาการหนักมาก เพราะเส้นเลือดในสมองตีบ และเลือดออกในกระเพาะ อายุ 70 ปี ต้องให้ยารักษาประคองอาการ เพราะจะให้ยาละลายลิ่มเลือดในสมองไม่ได้ เพราะต้องรอแผลในกระเพาะหายก่อน จึงลองเล่าให้ลูกสาวฟังถึงอาการของคนไข้รายแรกว่าหายได้ด้วยสมุนไพร 3 อย่างที่กล่าวมา ซึ่งแพทย์เองก็ไม่ได้เชื่อ แต่ไม่อันตรายเลยอยากให้ลองดู เพราะยาแผนปัจจุบันใช้ไม่ได้ ปรากฎว่า 2 เดือนกลับมาตรวจใหม่เส้นเลือดเรียบดีขึ้น และได้ลองบอกคนไข้รายต่อไปที่สนิทกันว่าให้ลองนำสมุนไพรมาตุ๋นดื่ม อาจมีประโยชน์จริง ปรากฎว่าดีขึ้นทุกราย เพราะเส้นเลือดที่เคยขรุขระเรียบสวยขึ้น
mr (4)“ผมก็เกรงว่าจะเป็นดาบสองคม จึงบอกเฉพาะคนไข้ที่สนิทกัน แต่ทั้ง 16 ราย ดีขึ้นหมด เพราะเหมือนเราล้างท่อทุกวัน จึงไม่มีทางตัน คนไข้รายที่ 2 กินแทนน้ำไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย ที่สำคัญไตยังทำงานได้ดีขึ้น เพราะพุทราจีนบำรุงไต ส่วนผสมที่เหมาะสมคือ น้ำ 1 ลิตร พุทราจีนแห้ง 20-30 ผล เห็ดหูหนูดำ 10 ช่อใหญ่ หรือ 20 ช่อเล็ก ขิง 1 ขีดใหญ่ ตุ๋นประมาณ 2-4 ชั่วโมง ได้น้ำ 50-60% กินแต่น้ำ”

นพ.ประชา กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้มีการพัฒนาต่อยอดในโรงพยาบาลของรัฐบาล เพราะเราไม่มีปริมาณคนไข้มากพอที่จะทำงานวิจัย แต่เมื่อรู้ว่าดีก็บอกต่อ ขณะนี้ยังไม่ได้ทำการพัฒนาและวิจัยว่าจริงหรือไม่จริง 100% แต่เห็นว่าเป็นประโยชน์ และยืนยันว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อน หากโรงพยาบาลรัฐจะทำการวิจัยโดยคนไข้จำนวนมากเพื่อดูผลก่อนและหลังว่าได้ผลกี่เปอร์เซนต์น่าจะดีและมีประโยชน์ในอนาคตในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมองตีบ แต่ในแง่ของการรักษาเบื้องต้นสามารถมารับการรักษาและรับคำแนะนำได้ที่คลินิคโรคหลอดเลือดทางสมองและประสาท โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม ซึ่งทางโรงพยาบาลมีระบบช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก

อาการคือ อ่อนแรง หรือชาแขนขาซีกใดซีกหนึ่งทันทีทันใดพูดไม่ชัด ไม่เป็นคำ หรือพูดไม่ได้ทันทีทันใด ปากเบี้ยว ตามืดมองไม่เห็นทันทีทันใดข้างใดข้างหนึ่ง หากมีอาการดังกล่าวให้รีบไปโรงพยาบาลทันที หากช้ากว่า 4 ชั่วโมงครึ่งอาจรักษาไม่ทันและทำให้เกิดความพิการตามมา

“ปัจจุบันหมอก็กินน้ำตุ๋นจากสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด เพราะเชื่อว่าแก้เส้นเลือดอุดตันทั่วร่างกาย ลดไขมัน ทุกคนในครอบครัวกินหมด โดยเฉพาะพี่ชายหมอ ซึ่งก็เป็นหมอเช่นกัน หลังลองกินแล้วไปเล่นกีฬาหนักๆ ไม่มีอาการปวดขาจากกล้ามเนื้อขาดเลือดอย่างที่เคยเป็นเลย ซึ่งหมอดีใจเพราะไม่อยากรักษาคนในครอบครัวที่เป็นโรคหลอดเลือดในสมองตีบเช่นกัน ส่วนตัวไม่อยากให้คนไทยเป็นโรคนี้เพราะเป็นแล้วจะพิการ โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวที่เป็นแล้วทำให้ครอบครัวล่มสลาย จึงมีความหวังดีมาบอกต่อ โดยไม่หวังผลด้านธุรกิจ”
สำนักข่าวเห็ดลม รายงาน

ทึ่ง แพทย์เชียงใหม่-รามใช้ ‘ขิง พุทราจีน เห็ดหูหนู’ ช่วยรักษาเส้นเลือดสมองตีบได้ | สำนักข