โดนขังวิญญาณ

วันๆทำอะไรได้ไม่เต็มที่ เดี๋ยวเสียงนู่เดี๋ยวเสียงนี่ เหมือนได้ยินคนั้นคนนี้พูดแบบนี้แบบนั้นสารพัดสารเพ เด๊่ยวแกล้งเราแบบนี้เดี๋ยวแกล้งเราแบบนั้น ขนาดเสียงเฮียขุนยังมีเลย มหกรรมหลอน...ทั้งวันทั้งคืน ที่สำคัญคือเดี๋ยวเทพนั่นเดี๋ยวเทพธิเดานี่ ใหนจะเสพกามในทิพย์อีก เจี้ยวฟ่อหมดแล้วพี่....

 

พี่จิ-โป รบกวนสอบถามเรื่อง ชวนจิต หน่อยครับ

1.ชวนจิต ที่ 1 จับที่ลมหายใจ มันก็จะเกิด ชวนจิตที่ 2
2.ก็เลยกำหนดให้มันภาวนา มันก็ก็จะเกิด ชวนจิตที่3
3. พอเรากำหนดให้มันรู้ว่าเรากำลังนั่ง มันก็จะเกิด ชวนจิตที่4 คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปเรื่อย ๆ

อยากรู้ว่าจะทำอย่างไรให้มัน รวมเป็นอันเดียวกัน ไม่เกิดขึ้นหลาย ๆ ชวนจิต

 

สอนมันครับ เสียงไหนมันคิดไม่ดีให้สอนมวยมันซะ พูด(ในใจ)ถึงเรื่องปลง
ปล่อยวาง สอนมันเลย ส่วนเสียงไหนมันดี พูดจาไพเราะเสนาะหูชื่นชมคนทำดี
ไม่พูดชวนเราไปลงข้างทางให้ชมเชยมัน อนุโมทนามัน(ในใจ)จร้า
ไม่ได้คุยกันนานเลยนะน้องเปิ้ล เอาๆ เอาใจช่วยนะ สอนมวยมันเลย

 

แหม ปัญหากล้วยๆแบบนี้ก็เอามาถามได้ คุณเพ่เรียนมากก็คิดมาก รู้มากก็ยากนาน

ถามมาซะหลายชวนจิตเป็นข้อๆยังกะไส้กรอกโคราชเชียว
คุณเพ่.อยากรวมเป็นอันเดียวกัน ก็กำหนดรวมจุดเดียวเท่าปลายเข็ม ทั้งทักษะ
การมอง การดู การฟัง การจดจ่อสนใจ ให้รวมลงที่จุดเล็กนิดเดียวเท่าปลายเข็ม
แค่นี้เอง ชวนจิตทั้งหลายก็มีจุดเกิดจุดดับที่เดียวกันนั้นแล

เฮ้อออ

 

มันไม่ได้หลอนธรรมดาพี่ หลอนแบบหฤโหด คือ ถ้าได้ยินเสียงพวกเขาเมื่อไหร่ มันจะมีอาการหนักหัวมึนหัว เสียงที่ได้ยินส่วนมากจะเป็นคนที่เรารู้จัก หรือเคยได้ยินชื่อเขาแต่อาการเวทนามันมีจริง เช่น การเสพกามในภาวะทิพย์มีผลต่อกายจริง ผมยังหาคำตอบที่ชัดเจนในหลายๆเรื่องไม่ได้ แม้แต่การสนทนาโต้ตอบกันกับพระโครตมะก็ยังมี อาการที่หนักและน่ากลัวที่สุดคือหลอกด้วยเสียงของคนที่เรารู้จักนี่แหล่ะ ถ้าพี่จำได้ ตอนที่ผมขึ้นไปอีสานเมื่อก่อน ผมโทร.ไปหาพี่เพื่อที่จะขอที่พักและปรึกษาเรื่องนี้ แต่พวกเขาบอกว่าถ้าไปหาพี่ เขาจะฆ่าพี่กับครอบครัวของพี่ด้วย ผมก็เลยไม่ได้แวะไปบ้านพี่ และต้องไปรอนแรมข้างทางถนนเหมือนคนบ้าอยู่เกือบอาทิตย์เลย แถมยังโดนไล่ยิง ดีนะ ที่ไม่ตายที่อุดร ไม่งั้นลำบากปอเต็กตึ๊งอีก ผมจะยกตัวอย่างกรณีอาการบางตัวอย่างนะครับ
1.เสพกามในทิพย์มี มีผลต่อกายสังขาร คือ อสุจิหลั่งได้
2.ได้ยินเสียงเหมือนผ้นั้นผู้นี้คุยกับเรา เย่อะแย่ะมากมาย แม้กระทั่งเสียงพี่ เสียงนุ่น
เสียงพี่ผึ้ง เสียงท่านอู๊ด เสียงจารย์โก้ ฯลฯ
3.มีการทำร้ายด้วยการอ๊วกลม(แบบทรมานเลยนะพี่)
4.มีการเทียบกายลงไปในที่ต่างๆ มันจะมีอาการร้อนจริงๆนะ ถ้าเทียบกายลงนรก
5.มีการบังคับทุกขเวทนาในทิพย์ กับผมหลายอาการ

 

น่าเห็นใจครับ วันนั้นถ้ามาหาผมก็หายแล้ว โดนผีหลอกซ้ำอีกไม่ให้มาเจอผม
ซะนี่ ไม่งั้นก็กินหมูกะทะสบายไปแล้ว คราหน้ามาใหม่ถ้าไม่ยุ่งมากจะไปรับ

1.การเสพกามทางทิพย์รึทางไหนๆถ้าเป็นคนมีศิลธรรม เกิดภาพเองทำๆไปแล้ว
ก็แล้วกันไป ไม่ผิดไม่อาบัติเพราะไม่ใช่พระ อันนี้คือคนมีศิลนะ อ้าวว ถามว่าถ้า
คนไม่มีศิลล่ะ? มันยังไง? ผมก็จะตอบว่าคนไม่มีศิลธรรมแต่เสพกามทางทิพย์ก็
เห็นมาเยอะ พวกที่เข้าสมาธิไปแล้ว รึว่ารู้ตัวในความฝัน รู้ว่านี่ฝันนะ นี่ทิพย์นะ
ก็เที่ยวไปไล่ปล้ำนางฟ้ามั่ง ผีตานีมั่ง บางทีโดนหลอกว่าเคยเป็นผัวมันเมื่อชาติที่
แล้ว ตอนนี้น้องนางตามหาเสด็จพี่เจอแล้วนะเจ้าคะ มาเป็นสามีน้องเถิด แล้วปล้ำ
กันน่ะ เห็นมาเยอะ พวกนี้คือไม่มีศิลแต่เข้าไปทางทิพย์ได้ เลยกล้าทำผิดเพราะรู้
ว่าในโลกมนุษย์นั้นไม่มีใครรู้ใครเห็น นี่ตัวอย่างไม่ดีนะ อย่าเอาอย่าง ไม่งั้นท่าน
เข้าไปในโลกทิพย์คราหน้า เค้าจะมาชี้หน้าท่านว่า"ดูนั่น ..นั่น..คนเป็น."

ต้องดูสถานะของตัวเองนะ อย่าเห็นช้างขี้แล้วขี้ตามช้าง สถานะของเราคือตรงนี้
จะไปทำตามสถานะของพระอรหันต์ที่ปราศจากกิเลสเห็นเรื่องกามเป็นสิ่งโสโครก
แบบนี้ยังไม่จัดในหมวดที่ดีนัก รังแต่จะตัดรอนกำลังใจในการปฏิบัติตนของเรา
ไม่ให้ก้าวหน้า เพราะเมื่อเราสงบลงเรื่อยๆ กามมันจะบางเบาลงเรื่อยๆเองไปจน
ถึงขั้นสูงนั้น ท่านกฌไม่ได้รังเกียจกามนะ ท่านไม่ได้รังเกียจว่ามันโสโครก มันสกปรก
เลยนะ แต่ขั้นนั้นท่านบอกว่า ท่านลืม ลืมไปเลยว่ากามคืออะไร กามเขียนยังไง
รศชาดกามมันเป็นยังไง ท่าน"ลืม" ท่านไม่ได้รังเกียจ

อ่ะลงไปก่อน ค่อยต่อข้อใหม่

 

ข้อ 2.3.5 รวมลงในหมวดเดียวกัน นั่นคืออาหารของจิต อาหารของกิเลส
ส่วนที่เกิดอ้วก ได้ยินเสียงต่างๆ ร่างกายเป็นยังงั้นยังงี้ นี่คือรสชาดของอาหาร
ที่รับประทานหรือกินลงไปนั่นเองนะ
เพราะฉะนั้นแล้วเราไม่อยากเกิดเวทนาใดๆ ก็ต้องทบทวนตรึกตรองว่า อาหารใด
ทำใหเกิดโรคเช่นนี้ ยาพิษใดทำให้เป็นยังงี้ กิเลสใดทำให้เกิดความร้อนยังงี้ๆนะ

ตัวอย่างว่าได้ยินเสียงหลอนต่างๆ ลองจับย้อนมันเข้าไปนะ ภาพที่เห็นเจ้าของเสียง
-เสียงที่ได้ยินทางใจ-ผัสสะที่รับรู้อารมณ์เกิด-ขันธ์มารที่เกิดก่อนผัสสะ-กลุ่มสนามพลัง
ที่ทำให้เกิดขันธ์มาร-บุคคลที่นั้งข้างๆกลุ่มพลังที่เห็นทางมโนจิต-อารมณ์ที่เกิดเมื่อเห็น
บุคคลนั้น(พอใจ/ไม่พอใจ หงุดหงิดเกลียด/รักชอบพอเป็นต้น)
จับใบหน้าบุคคลๆนี้มา ภาพวิมานของเค้าเกิดปรากฏที่ใจเรา(นี่รู้ล่ะว่าเจ้านี่มาจากไหน
เทพองค์ไหนคุ้มกะลาหัว) - ภาพเหตุการณ์ที่เค้าทำอะไรเราจะปรากฏขึ้นมาตอนนี้เองว่า
เค้าทำยังงี้ๆ เราถึงเป็นยังงี้ๆ ก็ร้องอ๋อ..เป็นเช่นนี้เองน้อ..ก็เอามาทำไง? ไม่ใช่เอามา
คิดแก้แค้นนะว่า มรึงงง ทีเอ็งข้าไม่ว่าทีข้ามรึงอย่าโวย แบบนี้ใช้ไม่ได้นะ มันต้องรวม
ลงไตรลักษณ์ เกิดแก่เจ็บตายหนอ วัฏฏะหนอ เวียนว่ายหนอ เพื่อนทุกเกิดแก่เจ็บตาย
เป็นเช่นนี้เอง ต้องเบียดเบียนกันกระทบกระทั่งกันจนได้ในซักภพชาติหนอ แบบนี้นะ

อ้าวว ถามว่า ถ้าพ้มยังไม่มีตาทิพย์จะมองย้อนเข้าไปหาต้นตอของโรคที่เกิดจาก
กิเลสมารยังงี้ได้ไง ตอบว่า ย้อนได้แค่ไหน สุดแค่ไหน เอาไตรลักษณ์รวมลงตรงนั้น
ผมเองย้งย้อนไปได้เล็กน้อยก็แนะนำได้แค่นี้ ผมก็รวมแค่นี้เหมือนกัน ถ้าพระท่านที่
ท่านกิเลสเบาบางมากๆท่านก็ย้อนไปไกลมากหลายภพชาติจนเห็นเหตุจริงๆว่ากรรมตัว
ไหนกันแน่ๆ เอากันแบบสมุทเฉทประหารกันเลยว่าทีเดียวจบ นั่นช้างตัวไหนน๊า ใหญ่ม๊าก
ขี้กองใหญ่ด้วยนา เราเห็นแค่ไหนเอาแค่นั้นนะ แนวทางท่านแนะแบบนี้ล่ะ

 

ในส่วนข้อ4 ก็เป็นเรื่องปกติครับ เทียบกายไปตรงไหนก็สัมผัสตรงนั้น มันรับรู้ด้วยใจ
ว่าร้อนเย็นหอมเหม็น แล้วเกิดอาการทางกายขึ้นมาทีหลัง เป็นเรื่องปกติ วิธีการในแนว
ทางการใช้ฤทธิ์ท่านแนะนำว่าให้เกิดก่อนตาย ไม่ใช่ตายก่อนเกิด กล่าวคือ ให้รีบกำหนด
จิตเกิดการรับรู้ใหม่ก่อนที่จิตจะดับ หมายถึงจิตการรับรู้ นี่เป็นขั้นละเอียดนะ ท่านสอน
ละเอียดมาก ไม่ใช่สอนแบบลวกๆว่าก็อธิฐานจิตว่าลงนรกไม่ร้อนสิ เข้าห้องขังนรกแล้ว
อธิฐานปิดจมูกไม่เหม็นสิ แบบนี้ลวกๆเกินไป คนส่วนมากเค้าจะบอกว่า เค้ารู้กันชาตินึง
แล้วโย๊ม มาสอนอีแบบเนี๊ย

กล่าวต่อนะน้องเปิ้ล ท่านบอกว่าเกิดก่อนตายคือแนวทางซึ่งใช้ได้ในทุกกรณีของการ
ใช้ฤทธิ์ แล้วแต่ความฉลาดของคนในการใช้จิต ยกตัวอย่างนะ
เรากำหนดไปนรกภูมิ แผ่นดินแยกออกปั๊ป (เอ นรกเนี่ยตกลงอยู่ใต้ดินที่เราเหยียบไหม
เนี่ย กำหนดทีไรอยู่ใต้ดินทุกที 55) จิตไปโผล่รู้สึกเหมือนเห็นรูปกายตัวเรายืนทำหน้า
เจี๊ยมเจี้ยมอยู่ในหลังลูกกรงห้องขัง อ้าว...ซวยแล้วไง ดันมาโผล่ตรงนี้
ตานี้นะ กลื่นอับก็โชยมา ทั้งบรรยากาศอึมครึม ควันก็ลอยมาบางๆ วิเวกวังเวง จะมอง
หานักโทษซักคนก็ไม่มี เอ๊ รึว่าเราโดนขังคนเดียว55 อ้อ..เราดันกำหนดแค่ลงมาห้อง
ขัง ไม่ได้กำหนดมองเห็นนักโทษอื่น เฮ้ออ กลุ้มใจกับโลกทิพย์ ซื่อเหลือเกิน กำหนด
แค่ไหนได้แค่นั้น
ต่อๆ ตานี้เราได้กลิ่นไม่ดีโชยมานะ นี่ยังไม่นับจิตอาฆาตรุนแรง ทั้งเสียงเอะอะทั้งหลาย
ที่ประดังกันเข้ามา ทั้งเสียงเหมือนระเบิดดังมาจากที่ไกลๆเป็นระยะๆ เอาแค่กลิ่นก็แทบ
สลบ จมูกแสบเหมือนจะหลุดออกมา เอาละหว่า เกิดก่อนตายกำหนดไงเนี่ย มันตรงนี้
เองนะ วิญญาณจิตเรารับรู้จากมโนจิตว่านี่เหม็นแล้วส่งต่อมาที่ปลายประสาทรับรู้จริงว่า
นี่เหม็น อ้าวเกิดก่อนตายตรงนี้เอง ชวนะจิตที่รับรู้คือ"เกิดเก็บเกี่ยว-ตายส่งต่อ"ให้ปลาย
ประสาทรับรู้ เราก็กำหนดแต่ตรงเกิด จับจิตกำหนดใว้ตรงชวนะจิตที่เกิด แค่นี้เองก็
อยู่ในสถานะที่ไม่แพ้ จิตรับรู้ตายไม่ส่งต่อที่อื่นเพราะการเกิดยังไม่สิ้นสุดจะตายเพื่อส่ง
ต่อยังไงล่ะใช่ใหม
ถามเล่นโก้ๆว่า โห คุณเพ่ท่านเนี๊ย ท่านที่พิมพ์อยู่นี่โม้รึเปล่า จิตมันไวมาก เกิดดับ
เร็วจนวัดไม่ได้จะจับแต่ตอนเกิดทันรื๊อ ก็ตอบว่า "แหม๊ มันเร็วเร๊อะ เวลามันมีอยู่
จริงรื๊อ เร็วน่ะเร็วของใคร ช้าน่ะช้ายังไง ก็นั่งสมาธิทีไรสองสามนาทีเอง ลืมตาขึ้นมา
มันปาเข้าไปชั่วโมงกว่าตลอด ก็คุณพี่ยืนนับจิตเกิดดับที่ปลายสุดของจักรวาล แต่กระ
พ้มยืนตรงกลางวงของจิตเลย แล้วจิตมันจะเร็วจะช้ายังไงน๊อ ก็ผมไปมากับมันตลอด

ทำความเข้าใจตามช้าๆนะน้องเปิ้ลความรู้ขั้นสูงอ่านเล่นๆผ่านๆเสียดายของ

 

สวัสดีค่ะพี่จิโป
หนูขอรบกวนพี่จิโปช่วยดูให้ว่ามือขวาหนูนอกจากเป็นตามที่คุณหมอบอกแล้ว ยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้มีอาการปวดและยังไม่หายหรือเปล่าค่ะ แล้วต้องทำยังไงถึงหายค่ะ
ปกติทำงานเอกสาร แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำงานแล้วค่ะ คือมือขวาใช้ทำงานพิมพ์งาน เขียนหนังสือ หรืออื่นๆที่ใช้มือจะปวด เจ็บมากค่ะ ถ้าฝืนๆใช้จะทำให้ปวดมากและบวมค่ะ เคยหาหมอที่ร.พ.ว่าเป็นเส้นเอ็นอักเสบ รักษาไม่หาย อาการจะเป็นมากน้อยขึ้นอยู่กับการใช้งานค่ะ ลองหาหมอหลายที่แล้วค่ะไม่หาย ก็เลยเลิกไปหาแล้วค่ะ เลยปล่อยๆทำใจบ้างค่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ ตอนนี้ที่พิมพ์ข้อความมาก็ปวดมากค่ะ

ขอแสดงความนับถือ
มะเหมี่ยว

 

น่าเห็นใจครับ แบบนี้มือจะชาด้วยนะเนี่ย เกิดจากเลือดวิ่งไปที่มือแล้วไม่วิ่งกลับ
ชีพจรทำงานปั๊มเลือดกลับมาไม่ทำงาน เป็นโรคเวรกรรม ไม่มีใครทำอะไรหรอก
อยากหายก็ไม่ยากนะ ถ้ามีประดงเลือดแป๊ปเดียวหาย แต่ต้องดูโรคอื่นประกอบ
เพราะโรคบางอย่างห้ามใช้ประดงเลือด

แต่ว่าปู่ท่านเมตตาบอกมาว่าให้กินรากบัว แล้วก็เอารากบัวมาต้มใส่กับใบมะตูม
กรองเอากากออก แล้วเป่าๆให้เย็นลงแล้วกินเหมือนน้ำชา รากบัวมีสรรพคุณเด่น
กว่าประดงเลือดตรงต้านมะเร็งด้วย เพราะฉะนั้นพวกพังผืดที่เป็นแล้วมากดชีพจร
อีกทั้งอาการอื่นก็จะแก้ได้ เช่นว่าขาดเกล็ดเลือด เส้นโลหิตเปราะเพราะกินยา
มากเกินไป บำรุงหลอดเลือดและเดี่ยวกับเลือดเหมือนประดงนั่นแหละ

หารากบัวกินซะ ถ้ามีเยอะก็กินเยอะ มีน้อยก็ต้มเอา ไม่มีใบมะตูมก็ต้มเอาแต่
รากบัวนั่นล่ะ ไปสั่งแม่ค้าในตลาด หาไม่ยากหรอก เค้าเอามาตำกินเหมือนส้มตำ
ก็มี รากบัวหลวงธรรมดานี่ล่ะไม่ใช่บัวหิมะพันปี หาไม่ยากถ้าอยากจะหาย
ผมก็ไม่รู้นะไม่ใช่หมอยาแต่คงหายเพราะใครป่วยเป็นอะไรถามปู่ท่านก็ตอบบอก
ยาตลอดก็เห็นหายกันทั้งนั้นแถมยาที่ท่านบอกส่วนมากจะหาง่ายไม่มีส่วนผสมเยอะ

 

อ้อ มีเรื่องขำๆเล่าให้ฟังเกี่ยวกับปู่ท่านนี้
มีคนที่ผมรู้จัก เก่งมาก เยี่ยมเรื่องติดต่อวิญญาณ มีตาทิพย์ใช้ได้ เค้ามีคนป่วย
มารักษากับเค้า รักษายังไงก็ไม่หาย เลยถามปู่ชีวกท่าน ท่านก็บอกสูตรยา
อันนึงไปเอาที่เกาะช้างนู่น ข้ามระยองไปโน่น แสดงสูตร รูปของต้นไม้ บอกทางไป
ตัดอีกต่างหาก อีกตัวอยู่จังหวัดชุมพร อีกตัวอยู่แถวน้ำหนาว เป็นต้นไม้ข้างถนน
อีกตัวขึ้นอยู่ข้างถ้ำวัวแดงชัยภูมิ และบางส่วนแกมีอยู่แล้วเพราะเป็นหมอยารักษา
คนด้วย

ตานี้คนป่วยรวยมากและออกเงินให้หมดและให้ลูกคนป่วยนั่นล่ะขับรถตระเวนพาไปหา
พอได้ยามาตามสูตรปู่ชีวก ก็ต้มกินธรรมดา 3-4วันหายจากเดินไม่ได้ก็เดินขโยกขเยก
แต่ต้องมีคนประคอง แล้วราวๆอาทิตย์นึงก็เดินเองมีไม้เท้าอันนึงพยุงไว้ เพราะแกแก่มาก

แหม๊ ใครๆยกย่องแกมากว่าแกเยี่ยมยอด ป่วยขนาดนี้ยังรักษาได้ ตานี้ปู่ชีวกท่านไม่
ยิ้ม ท่านเฉยสนิท เราก็แปลกใจว่า เอ๊ ทำไมหนอท่านดูไม่ค่อยดีใจ เลยถามท่าน
ท่านก็พูดว่า แค่อยากหายมันไม่ยาก ต้นไม้ข้างถนน(พลางกำหนดรูปให้ดู)ต้นนี้ต้น
เดียวก็หายแล้ว (ต้นนี้อยู่ใกล้มากที่สุด ระยะทางราวๆ10กิโลจากบ้านหมอยา!!!)

ผมเลยถามว่าปู่แกล้งเค้าเหรอ แกล้งให้เค้าไปหายายากๆไกลๆ ปู่บอกว่าไม่ได้แกล้ง
ก็ยาแก้ได้จริงๆนี่นา มาหาว่าแกล้ง ผมเลยว่าเอ้า แกล้งให้ไปหาไกลๆนี่ ใกล้ๆทำไมไม่
บอกเลย ท่านก็ตอบว่า" มันไม่ได้ถามนี่นาว่ารักษาอย่างง่ายทำยังไง...." (ปั๊ดโธ่)

ผมสรุปเอาเองว่าหมอก็อยากได้เงิน คนป่วยก็กรรมเยอะแถมงกอีก เลยโดนข้อหา
หมั่นไส้ เพราะผมบอกคนฟรีๆไม่เคยคิดตังค์ปู่บอกตัวยาทีไรไม่1ก็แค่2ตัวเท่านั้นเอง
หาง่ายมากๆแต่รักษาหายได้ แต่อย่าใช้บริการปู่เลยครับรบกวนท่าน นานๆทีพอไหว
เพราะถามมากๆเข้าท่านก็แอบซ่อนจิตใว้หาท่านไม่เจอ

 

ขอบคุณพี่จิโปมากๆค่ะ
จะทำตามที่แนะนำมาค่ะ เป็นความหวังเดียวในตอนนี้เลยค่ะ

ขอแสดงความนับถือ
มะเหมี่ยว

 

ขอรบกวนท่านจิโป คือตอนนี้อรัญญา เป็นโรคความดันโลหิตสูง มียาอะไรที่จะสามารถรักษาโรคนี้ได้แบบหายขาดไหมค่ะ ขอรบกวนท่านจิโป ถามท่านปู่ให้หน่อยค่ะ เอาแบบตัวยาหาได้ง่าย ๆ นะค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

(^)

 

แวะมาทักทายค่ะ ไม่ได้เข้ากระทู้นี้ซะนานเลย

 

สวัสดีครับสบายดีไหมครับ

 

สบายดี เรื่อยๆ มาเรียงๆ ค่ะ อิอิ

 

เขากวางหดและของดีที่เกิดตามธรรมชาติหลายอย่างเลยครับเจอเลยถ่ายมาให้ชมครับ

 

มี2ขั้นตอนครับ
1.เอาใบขนุนหนังราวๆ10ใบมาต้มนาน20นาทีใส่น้ำพอประมาณ แล้วกินดูว่าอาการ
ดีขึ้นไหม ผิดปกติไหม แพ้ไหม ผื่นขึ้นไหม
ถ้าแพ้ก็ไม่ต้องทำขั้นที่2ให้เลิกยาขนานนี้ครับ แต่ถ้าไม่แพ้ให้ทำข้อ2
2.ตานี้เมื่อไม่แพ้ แต่ดีขึ้น ให้ลงทุนหาแก่นขนุนหนัง ต้องขนุนหนังนะครับ
ขนุนพันธ์อื่นๆไม่ค่อยมีตัวยา เอาแก่นขนุนมาต้มกินเรื่อยๆ ไม่นานความดันเลือด
ก็จะเย็นลงมาอยู่ระดับปกติครับ

 

พี่คมเนี่ยถ้าใส่ชุดฤาษีเข้าไปดูน่าศรัทธากว่าฤาษีที่นั่งข้างๆอีกนะเนี่ย