ทำอย่างไรถึงได้แก่

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ยากูซ่าา, 16 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. ยากูซ่าา

    ยากูซ่าา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +808
    อิอิ
    ตามหัวข้อเลยค่ะ
    ว่าทำอย่างไรถึงแก่

    และทำอย่างไรถึงจะอ่อน
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ในทางพระพุทธศาสนา การแก่ มีเหตุมาจาก การมี ภพ


    การมีภพ คือ การที่จิตไหลไปคิด ไหลไปรู้ ไหลไปกระทบผัสสะ โดยขาดการกำหนดรู้ทุกขสัจจ

    เมื่อ ภพมี หรือ ภพเกิด ความชรา ย่อมมีมาก


    เช่น คนเราวันทั้งวัน เอาแต่นั่งคิด คิดๆๆๆๆๆ สัก 3 วัน หน้าก็ ย่นแล้ว ตาดำแล้ว

    เว้นไว้แต่จะคิดให้ถูกวิธี คือ จิตไหลไปคิดก็กำหนดรู้ว่ากำลังคิด เหมือนเราดูคนอื่น
    คิด เหมือนเรากำหนดแยกออกจาก ตัวเราที่กำลังคิด ออกไปดูห่างๆ ....เรียกในเบื้อง
    ต้นว่า ฝึกแยกธาตุแยกขันธ์ โดยไม่ปฏิเสธ หรือ ชอบใจ อาการที่ แยกออกมาได้
    คือ กำหนดรู้ความยินดี ยินร้าย เอาไว้ด้วย

    เมื่อ จิตไหลไปคิดก็รู้ และตามดู ความยินดี ยินร้ายด้วยที่ปรากฏด้วย นี่คือ การคิดที่ถูกวิธี
    ยิ่งคิด ยิ่งสละออก ยิ่งเห็นอุบายนำออกจากความคิด ยิ่งคิดยิ่งตามรู้ตามดู กำหนดรู้ทุกขสัจจ
    จิตจะเบิกบานเพราะ เป็น อิสระจากการ ก่อภพ ก่อชาติ สิ้น ชรา มรณะ เป็น อมตะ ได้
     
  3. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +919
    ทำไมถึงแก่ ทำไมถึงหนุ่มหรือสาว และทำไมถึงเด็ก ก็เพราะว่าสังขารนั้นไม่เที่ยงยังไงล่ะครับ ประกอบด้วย ธาตุทั้ง 4 และเป็นแค่วัตถุหรือภาชนะเอาไว้ห่อหุ้มจิตก็แค่นั้น ^-^
     
  4. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    อยู่เฉยๆมันก็แก่ของมันเองแล้วหละ เวลากลืนกินไปเรื่อยๆ

    ทำยังไงให้อ่อน อายุยืน ผิวพรรณดี
    กินให้น้อยพอดีๆ ออกกำลัง
    อย่าโกรธมาก โกรธบ่อย โกรธนาน
    เว้นจากปาณาติบาต
     
  5. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ถ้าอยากแก่เร็วๆ ก็....
    สร้างหนี้ให้มากๆ สร้างปัญหาให้ชีวิตเยอะๆ เครียดมากๆ โกรธบ่อยๆ หงุดหงิดง่ายๆ
    ทำบาปให้มาก ศีลห้าไม่ต้องถือ บุญไม่ต้องทำ
    สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟ ทานอาหารพวกเนื้อสัตว์ สารปรุงแต่ง โภชนาการน้อย



    แก่เร็วแน่นอน ชัวร์จ๊ะ :'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2015
  6. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ว่าแต่ เจ้าของกระทู้ จะรีบแก่ไปไหน?
     
  7. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    คนที่อยู่นานเป็น100ปีหากยังไม่เห็นไตรลักษณ์และอริยสัจจ์4 ก็ถือว่าเป็นคนอ่อนปัญญาเหมือนทารก หายใจทิ้งไปเสียเปล่า
    เด็กที่มีอายุไม่กี่ปีหากเห็นไตรลักษณ์และอริยสัจจ์4ก็ถือว่าเป็นคนแก่ เป็นบัณทิตย์ ไม่เสียชาติเกิด
     
  8. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +3,876
    สหัสสวรรค
    หมวดหนึ่งในร้อยในพัน
    ในวรรคนี้ ทรงสอนให้เราทราบว่า อะไรคือสาระของชีวิต อะไรคือความไร้สาระของชีวิต การกระทำอย่างไรมีสาระ อย่างไรไร้สาระ ทรงเปรียบเทียบชีวิตหรือการกระทำที่มีสาระจำนวน ๑ ว่ามีคุณค่ามากว่าชีวิตหรือการกระทำที่ไร้สาระจำนวน ๑,๐๐๐
    มีเรื่องเล่าว่า ชายคนหนึ่งรับหน้าที่เป็นเพชฌฆาต ฉายา “เพชฌฆาตเคราแดง” เขาทำหน้าที่ตัดหัวโจรและคนทำผิดเป็นจำนวนมาก นานถึง ๕๕ ปี ต่อมา ในวัยแก่ เขาหมดแรง ไม่สามารถตัดหัวให้ขาดได้ภายในดาบเดียว ต้องตัดถึง ๒-๓ครั้ง ทำให้คนที่ถูกตัดหัวทรมานมาก จึงถูกปลดออกจากตำแหน่ง วันที่ถูกปลดมีการฉลอง มีการเตรียมอาหารอย่างดีให้เขาขณะที่เขาจะลงมือรับประทาน สายตาก็เหลือบไปเห็นท่านพระสารีบุตรเดินบิณฑบาตมาพอดี จึงเกิดความเลื่อมใสนำอาหารมาตักบาตรท่าน พระเถระก็อนุโมทนา แต่เขาไม่เข้าใจเพราะมัวแต่นึกถึงบาปกรรมที่ทำไว้ พระเถระจึงพูดให้เขาเข้าใจว่า การกระทำตามหน้าที่ไม่มีบาป เขาก็นึกว่าจริง พอได้ฟังธรรมอีกนิดหน่อยก็เข้าใจธรรม หลังจากพระเถระกลับไปไม่นาน เขาถูกวัวขวิดตาย ได้ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต
    ภิกษุหลายรูปทราบเรื่องนี้จากพระพุทธองค์ ต่างก็เกิดความสงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร ที่คนทำชั่วมานานป่านนี้กลับได้ดี พระพุทธองค์จึงตรัสธรรมบทว่า

    คำพูดที่มีประโยชน์คำเดียว
    ที่คนฟังแล้วสงบระงับได้
    ย่อมดีกว่าคำพูดที่ไร้ประโยชน์ตั้ง ๑,๐๐๐ คำ
    อีกบทหนึ่ง ทรงสอนเรื่องการชนะที่แท้จริงว่า

    ผู้ชนะข้าศึกจำนวนพันคูณด้วยพัน ในสงคราม
    หาชื่อว่าผู้ชนะที่ยอดเยี่ยมไม่
    แต่ผู้ชนะตนได้ จึงชื่อว่า ผู้ชนะที่ยอดเยี่ยมในเรื่องคุณค่าของชีวิต ทรงสอนไว้ในวรรคนี้ว่า ผู้มีศีล มีปัญญา มีความเพียร เห็นความเกิดดับ(ของขันธ์ ๕) เห็นทางอมตะ เห็นธรรมขั้นสูงสุด แม้มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ก็ประเสริฐกว่าผู้ไม่มีศีล เป็นต้น ที่มีชีวิตอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี
     

แชร์หน้านี้

Loading...