ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

จัดไป เบาๆ

<iframe width="220" height="115" src="https://www.youtube.com/embed/2j72aAoL0GM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

ไม่ต้องจัดมาให้ข้อย...ข้อยจัดเองได้..ไม่ต้องยุ่งน่า...แม้ในฝันก็ไม่ต้องจุ้น...อิอิ

 

ก็ใครว่าเล่า ว่าเจ้าของกระทู้ใจดี...ใจเหี้ยมสุดๆเรย...อิอิ

 

บ้าสังขาร

 

ก็มีเพียงสังขาร ไม่บ้าสังขาร จะให้บ้าอะไรล่ะ.....บ้าอำนาจก็ไม่ได้ บ้าเงินก็ไม่มี บ้าสังขารแหล่ะ...เจ๋งโคตร

 

อ้าว..ลืมแล้วดิ ว่าบันลุ แว้วว

สังขารความปรุง ยังต้มตุ๋น อีกหรือ :'(

 

พยายามปรุงสังขารอยู่...บอกแล้วว่า อย่าจุ้น น่ะ.....

 

ไม่ต้มไม่ตุ๋นแล้ว ตอนนี้ลาบเลือด..... สั่งแต่ลาบ เลือดน่ะของแก...อิอิ..ยิ่งเลือดชั่วๆ นี่ ชอบนัก

 

สิงห์นั้นพยายามจะลืมตา แต่ลืมไม่ขึ้น

"ราตรีนี้ ลูกจงอดทน จงมีสมาธิ หากได้ยินเสียงหรือเห็นภาพใด
จงหลับตา สำเนียก รับรู้ แต่ไม่หวาดกลัว
จงนึกหน้าพ่อไว้ จนกว่าพ่อจะบอกให้ลืมตา"

แล้วสิงห์ก็รับรู้ด้วยความรู้สึกว่าขรัวอินทร์โน้มตัวลงมาตรงหน้า
จากบนศรีษะ แล้วรับรู้ถึงวัตถุเย็น ซึ่งเป็นเหล็กที่ขรัวอินทร์
นำจุ่มน้ำมันว่าน 108 แล้วลงยันต์ให้สิงห์ ยันต์นั้นสักบริเวณ
คิ้ว ไล่ยาวไปตลอดคิ้วสองข้าง แล้วสักเป็นรูปตามเปลือกตาที่ปิด
เสียงบริกรมคาถานั้นเย็นและเบาเปี่ยมด้วยเมตตา
สิงห์นั้นเห็นแสงสีทอง สีขาว ลอยไปมาในนิมิต
รู้สึกราวกับจิตใจเบิกบาน แจ่มใส

พลันขรัวอินทร์ก็หยุดบริกรรม แล้วได้ยินเสียงท่านสูดลมหายใจเฮือกใหญ่
แล้วถอนหายใจเป็นสายยาว จากนั้นท่วงทำนองการบริกรรมคาถาที่
ไม่เคยได้ยินที่ใดมาก่อนก็เริ่ม เสียงสวดนั้น สูงต่ำ แหลม ราวกับพิธีสะกดวิญญาน
ท่านขรัวอินทร์นำเหล็กแหลมนั้นมาเสกยันต์ทิ่มลงไปบริเวณหว่างคิ้ว แล้วเขียนยันต์แหลมขึ้นไปบริเวณกลางหน้าผาก แต่ละเข็มที่ทิ่มแทงลงมาของการสัก
สิงห์รู้สึกเสียวเจ็บแปลบทรมาน ราวกับมีเข็มเย็บผ้านับร้อยเล่มทิ่มแทง
สิงห์นั้นบังคับร่างกายตนเองไม่ได้ ตัวกระตุก เกร็ง มือสองข้างนั้นพยายามจะแยก
ออกจากกัน แต่ติดที่ด้ายตราสังข์ ขาก็เกร็ง ราวกับจะพยายามลุกขึ้นนั่ง
แต่ติดที่ศรีษะ ที่ขรัวอินทร์บริกรรมคาถา ราวกับสิงห์จะทำสะพานโค้ง
จากนั้นท่านก็นำเข็มนั้นมาลงยันต์ที่เปลือกตาสิงห์อีกครั้ง มันทั้งแสบทั้งปวด ทั้งร้อน
แต่ท่านลงบริเวณที่เป็นตาดำอยู่ด้านในเท่านั้น คราวนี้สิงห์เห็นแสงสีแดง สีดำ วูบวาบในตา แล้วพลันหูก็ได้ยินเสียงหวีดแหลม เสียงกรีดร้องที่ไม่อาจระบุเพศ
เสียงโหยหวน หวีดหวิว
ในเวลานั้นทั้งค่ายทหารราวกับเกิดลมพายุ ฟ้าคะนอง สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมา หลายครั้ง ฝุ่นดินแลใบไม้พลัดปลิวทั้งค่าย ม้าศีกนั้นคึกร้องราวกับอยากหนีหาย
ผู้คนทั้งค่ายรู้ด้วยสัญชาตญาน ต่างปิดประตู หนีเข้าที่กำบัง ปิดหน้าตา แล้วนอนภาวนา
เรือนทำพิธี ราวกับอยู่กลางพายุ หน้าต่างเปิดโล่ง ลมพัดแรงจนข้าวของปลิวกระจาย เรือนนั้นสั่นไหวราวกลับไม่สามารถทานพายุได้
แล้วสิงห์ก็เห็นภาพสยองในนิมิต ภูติ ผี โหงพราย หูได้ยินเสียงบริกรรมคาถาเร็วรัวราวกลับไม่ใช่เสียงขรัวอินทร์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา ที่สิงห์รู้สึกกลัว
โหงพรายเหล่านั้น บ้างก็นุ่งผ้าแดง บ้างก็ไม่นุ่งผ้า ตาแดงกล่ำ บางตนก็อาบเลือดอาบหนอง แยกเขี้ยวยิงฟัน หวีดร้อง ราวกับจะตรงมาทำร้ายสิงห์ แต่สิงห์แม้กลัว
ก็นึกภาพหลวงพ่อ ในนิมิต ท่านมายืนบังหน้าสิงห์กับผีเหล่านั้น
เพียงครู่เดียว แล้วคาถาก็หยุดลง ลมหยุดพัด ท้องฟ้ากลับปลอดโปร่ง ทำให้เห็นจันทร์เต็มดวงอีกครั้ง คืนนั้นเป็นคืนวันพระ แล้วสิงห์ก็หมดสติไปอีกครั้ง

 

คุณสุรินทร์ คุณขจรศักดิ์ ช่วยอ่านกฏกระทู้ด้วย

กรุณาไป PM ด่ากันนะ โตแล้ว ต่อยกันเลยก็ได้ ไกลๆแถวนี้หน่อยนะ

 

คืนนี้พอก่อน มีคนตีกันกลางกระทู้ จิตเราเปิดอยู่ รับคลื่นไปเต็มๆ
ขนาดนี้เนี่ย ตามกันมากี่ชาติฮะ

ป.ล.พรุ่งนี้จะมาเล่าเรื่องคืนที่สาม สักยันตร์ นะจ๊ะผู้อ่านทุกคน

รู้มั้ยเขียนเรื่องสามคืนนี้ ใช้พลังใจเยอะมาก ขนหัวลุกหมดแล้ว

ประหนึ่งว่า ขรัวอินทร์ในนิทานมาเบิกเนตรให้จริงเลย

 

ขอโทษๆ อิอิ...แมวกัดต้องกัดตอบ....สัญชาติดาน น่ะ

 

"ราตรีนี้ ลูกจงอดทน จงมีสมาธิ หากได้ยินเสียงหรือเห็นภาพใด
จงหลับตา สำเนียก รับรู้ แต่ไม่หวาดกลัว
จงนึกหน้าพ่อไว้ จนกว่าพ่อจะบอกให้ลืมตา"

 

ก็คู่กัดน่ะ...ไอ้เทพบุตรดำแดง..มันกัดไม่เลิก อิอิ

 

ทุกวิชา...ที่ฟังคุณเล่า เจตนาคือ รักษาตน ทำร้ายคนอื่น
เกราะก็เหมือนกำแพง ไม่กั้นเขา ก็ขังเรา.....ผูกตนเอง

 

ตอนที่แกลงนะหน้าทองให้สาวๆ ก็พูดแบบนี้ สินะ...อิอิ...

 

ยังไม่ทันจะเขียนถึงเรื่องราชาทั้งสองประเทศรบกัน เรื่องหญิงสูงศักดิ์ไปอยู่พม่า

ก็จะทำให้กระทู้กลายเป็นสนามรบแล้ว แค่นี้ไฟก็ลุกกระทู้ ใครที่จิตรับเร็วคงเข้าใจนะ

เดี๋ยวปล่อยไฟเผากระทู้ซะเลย จะโหดไปไหนเนี่ยเรา

 

ป.ล.center-in-center สงสัยไรถามได้นะจ๊ะ ยินดีตอบเสมอ
ทักทายกันบ้างก็ได้ เดี๋ยวเค้าบอกให้นะ

ป.ล. เฉลยนิด ต่อไปสิงห์จะมีกองทัพเกรียงไกรมาก ชื่อกองทัพ "สิงห์ดำ"

และหลายๆคน ที่เคยอยู่ในกองทัพนี้แล้วมาเกิด เมื่อจิตหลุดลอยไป

ในฝัน จะเห็นตัวเองเป็นสิงห์ดำ

พอดีนึกถึงแมวดำขึ้นมา

เคยเห็นกองทัพสิงห์ดำ กองทัพแมวดำไม่เคยเห็น